ทุกวันนี้พวกเราล้วนมีโทรศัพท์มือถือกันทุกคน และจะต้องชาร์จไฟให้แบตเตอรีโทรศัพท์
อย่างน้อยก็วันละ 1 ครั้ง จนหลายคนเกิดความเป็นห่วงว่าจะเป็นการสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้ามากหรือไม่?
บางสถานที่ก็ถึงกับไม่ยินยอมให้ชาร์จ หรือ อาจมีการเรียกเก็บค่าบริการ
เราลองคำนวณดูกันครับว่า การชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์มือถือในแต่ละครั้ง มันกินไฟเท่าไหร่กันแน่
::Horror:: ::Horror:: ::Horror::
ขอตั้งโจทย์โดยสมมติให้แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนมีขนาด 2,500 mAh 3.8V
2500 mAh หมายถึง ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่แบตก้อนนั้นจ่ายได้ 2500 มิลลิแอมป์ใน 1 ชั่วโมง
3.8 V หมายถึง คือ ค่าความต่างศักดิ์ไฟฟ้า เราจะเรียกว่าแรงดันไฟฟ้าก็ได้
ค่าไฟสำหรับบ้านพักอาศัย ที่การไฟฟ้าฯคิดเงินเรา อยู่ที่หน่วยละ 4 บาท
โดยมีหน่วยเป็น kwh (กิโลวัตต์ชั่วโมง)
ดังนั้นเราจะลองมาคิดูว่า เจ้าแบตโทรศัพท์ก้อนนี้กินไฟเท่าไหร่เวลาเราชาร์จ
สมมติว่าเราชาร์จสมาร์ทโฟนวันละครั้ง ครั้งละ 3 ชั่วโมง
สูตร kwh = hx1.25x(mAh x v)/(1000x1000)
แทนค่าตามสูตรจากรายละเอียดของแบตเตอรี ที่อยู่ด้านบน
mAh = 2500
v = 3.8
h = จำนวนชั่วโมงที่ชาร์จไฟ
(1.25 คือค่าความต้านทานแบตเตอรี ใช้ค่านี้ในการคำนวณตามสูตรคร่าวๆ)
ดังนั้น kwh = (3x1.25x2500x3.8)/(1000x1000)
= 0.036 kwh
คิดเป็นค่าไฟ (ค่าไฟหน่วยละ 4 บาท) = 0.036x4 = 0.144 บาท หรือ 14.4 สตางค์
ใน 1 เดือน เราจะจ่ายค่าไฟ = 0.144x30 = 4.32 บาท
ลองเอาไปคำนวณกันเล่นๆดูครับ แล้วปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของแต่ละคน
::Sweat:: ::Sweat:: ::Sweat::
E..E.. we actually just plug our charger anywhere...
Most places even have electrical plugs for customers to be able to use their electronics equipment ...!!!
As well as free WIFI...
I was soooooo surprised that when I went to BKK, I couldn't find any outlet in stores or restaurants!!!
E..E... that was a wake-up call for me for sure... I have to go get power bank, like everybody else!!! ::HoHo::
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ
อ้างจาก: P Eet เมื่อ ตุลาคม 29, 2017, 01:30:59 หลังเที่ยง
E..E.. we actually just plug our charger anywhere...
Most places even have electrical plugs for customers to be able to use their electronics equipment ...!!!
As well as free WIFI...
I was soooooo surprised that when I went to BKK, I couldn't find any outlet in stores or restaurants!!!
E..E... that was a wake-up call for me for sure... I have to go get power bank, like everybody else!!! ::HoHo::
เป็นอย่างนี้ล่ะครับ พวกเรา (ผมหมายถึงประเทศผมนะ และผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย) ก็มักจะเชื่อโดยไม่ศึกษา หรือไม่ก็มโนคิดกันไปเอง แล้วก็ทำตามๆกัน ทั้งๆที่เรื่องนี้หากต้องการทราบความจริงก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรเลย ข้อมูลมีอยู่เกลื่อนอินเตอร์เน็ต
ที่ผมต้องโพสเรื่องนี้ก็เพราะว่า เห็นสถานที่ให้บริการหลายแห่งติดป้ายห้ามไว้้ ผมจึงลองไปค้นหาดูก็พบความจริงตามที่เห็น
นี่แหละครับว่า มันไม่ได้ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงจนเกินกว่าที่จะรับได้ หากแลกกับภาพลักษณ์ที่เป็นสถานบริการความสะดวกแก่ประชาชน
ขอบคุณที่ หาสูตรคำนวณมาให้ ::Thankyou:: วิชาไฟฟ้า คืนท่านอาจารย์ไปหมดแล้ว ::Crying:: ตามความคิดผม....ที่สถานบริการบางแห่งคิดค่าชาร์จอุปกรณ์ IT คงเป็นเพราะ...สถานที่เค้ามีที่นั่งจำกัด ถ้าชาร์จอุปกรณ์ได้...เธอก็ติดลม นั่งแช่! ::Foo:: อัตราการหมุนเวียนต่อที่นั่งน้อยก็ย่อมหมายถึง รายได้เค้าน้อยตามไปด้วย (ไม่ได้มีร้านแบบนั้นกับเค้าครับ...แค่มองอีกมุม) สำหรับตามศูนย์การค้า....เท่าที่เคยเดินผ่านไปเห็น แต่ไม่ได้ใช้( เพราะไม่ได้ใช้ อุปกรณ์ IT ตลอดเวลา) ที่CENTRAL PLAZA WESTGATE ก็มี ที่ห้างROBINSONที่สร้างใหม่ใหม่ๆ...ก็เห็นมีอยู่ คุยกันเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้นะครับ ::Dribbling::
ขอบคุณในน้ำใจมากคับ ที่นำความรู้มาให้
ขอบคุณสำหรับความรู้เพิ่มเติมที่มีประโยชน์จริงๆ เอาไปลบความมโนที่มีมานานได้ แต่บางที่เขาคงมีความเห็นต่างหรือมีความจำเป็นไม่เหมือนกันเลยมีการจำกัดการจะให้ชาร์จฟรีๆ
2500mahในแบต น่าจะเป็นความจุไฟฟ้านะครับไม่ใช่การจ่ายไฟ
น่าจะดูที่ ตัวอแดปเตอร์นะครับ เช่น ตัวชาร์จ0.5A
เอาง่ายๆเลยถ้าทำงานเต็มที่ก็จะกินไป0.5หน่วยต่อชั่วโมงครับ ถ้าแบต2500 ใช้จนหมดจริงๆคือ0พอเอาไปชาร์จ์ก็5ชั่วโมงเต็มครับ กินไฟไป2.5หน่วยครับ