🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => เรื่องเสียวซีรีย์ => หัวข้อที่ตั้งโดย: Monchai-S เมื่อ มิถุนายน 24, 2018, 07:19:17 หลังเที่ยง

ชื่อ: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: Monchai-S เมื่อ มิถุนายน 24, 2018, 07:19:17 หลังเที่ยง



มลทินดอกไม้-ตอนที่29



            กายนั้นมีภาษาเป็นของตนเอง บุคลิก ท่าทีของคนที่ใช้ภาษากายเป็นนั้น งดงาม ทรงความสง่า บางคนใช้อาภรณ์เป็นภาษาช่วย แต่กําบังใช้ภาษาของเขากับนายสาว ด้วยกายเปล่าๆ ไม่มีอาภรณ์ใดๆ นายสาวของเขาก็โต้ตอบด้วยภาษากาย ต่างฝ่ายคล้ายกับเล่าเรื่องกามด้วยกาย หรือนักกลอน ภาษากายตอบโต้แก้กันอย่างถึงพริกถึงขิง ในหัวข้อเรื่องกามที่กําหนดเอาไว้ให้
โอ...ธรรมชาติได้ให้สิ่งอันมีค่ามาแก่มนุษย์อย่างเหลือหลาย แต่มันเป็นสิ่งมีค่าที่ต้องค้นหาเอาด้วยตนเองและการให้ความร่วมมือแก่กัน
ดูเถอะ  เนื้อหนังมังสาอ่อนนุ่มเนียนละไมขาวอ่อนเป็นยองใยต้องมายอมให้เนื้อหยาบหนา กระแทกกระทั้นบดขยี้ น้ำเต้าขาวอมเหลืองซึ่งเริ่มซีด เพราะโดนน้ำจากฝักบัวรดรินไม่หยุด ถูกขม้ำ ถูกดึง ถูกทึ้งราวกับจะกระชากให้มันอ่อนเหลวแหลกไปกับมือ ซอกกลีบเนื้อขมวดเขม้งอัดแน่นกลายเป็นแยกปริเปิดทางสะดวก ให้เขาบวกจนเสียของ แต่ก็เป็นความยินยอมพร้อมใจ
เป็น โชคดีอย่างยิ่งที่ได้ผู้ร่วมงานที่ดีอย่างนี้... แวรรัตน์รัดร่างอ้วนหนาของกําบังไว้แน่นชนิดไม่เหลือแววของรัตน์อยู่กลางฝอยน้ำฝักบัว
อารมณ์เพริดจนสุดระงับเสียงของหล่อนออกมาเหมือนละล่ำละลัก
"ธะ...ธะ...ธะ...เธอ...เธอ..."
มันกระท่อนกระแท่น เพราะแรงกระแทก กระทั้น
เนื้อทองเหมือนผนังโดนบอลปาเข้าใส่แรงเท่าไรก็ชิ่งให้มันกระเด้งออกมาเท่านั้น
"อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊าววว์"
หล่อนร้องออกมาสุดเสียง แต่แล้วกลับใช้ปาก คว้าบ่าของขาเอาไว้แน่น ฟันของหล่อนเน้นเช่นเดียวกับเขา...ขย้ำต้นคอใกล้ไหปลาร้าของหล่อนติด
ต่างเผลอไผลใช้ฟันขบอย่างรุนแรง...ไม่ใช่เป็นการทําร้าย...แต่อารมณ์เริดสุดขีดกลายเป็นมอบให้กันและกัน...
สองมือของหล่อนเกร็งแน่น เล็บจิกลงบนกลางหลังของเขา
แล้วมือขวาของเขาก็สอดเข้าใต้ขาพับที่หล่อนยันพื้นอยู่ข้างเดียวยกให้ลอยขึ้น มันสูงจนขึ้นไปพาดอยู่บนสองไหล่ของเขา พร้อมกันนั้นพลังในตัวช่วงสุดท้ายของเขาก็ปล่อยออกมาอย่างรุนแรง ปากของเขาและหล่อนต่างกัดติดเนื้อแน่นเหมือนปลากัดต่างกัดและบิดกัน โดยไม่ยอมปล่อย
เสียงครางของหล่อนและเขาเหมือนเสียงขู่คํารามของสัตว์
คมฟันของเขาและหล่อนต่างฝังลงไปในเนื้อของกันและกัน
หน่อเนื้อของเขาเคลื่อนเร่งแรงอยู่กับขนําเนื้อของหล่อน
แม้ภายนอกจะถูกชโลมด้วยสายน้ำจากฝักบัวจนชุ่มโชกเยือกเย็น
แต่ภายในของเขาและหล่อนกําลังร้อนและต่างดิ้นกันพล่าน
สายเลือดเส้นเอ็นในตัวของหล่อนราวกับม้วนตัวเข้ามาเป็นขด
เลือดเนื้อที่ถูกบวกจนรวมตัวเป็นก้อนแข็ง กําลังจะระเบิด
วูบวาบหวือหวิวอยู่ในช่องแคบๆ
ในที่สุด...เหมือนสุดที่จะกลั้น...เส้นเอ็นเลือดเนื้อที่รวมตัวแข็งก็พลันขาดผึง....หล่อนกรีดหวีดร้องราวกับเจ็บปวดเสียเต็มประดา... สิ่งที่อัดแน่นเอาไว้คลายตัวออก มันดิ้นพล่านเหมือนลวดสลิงที่ถูกกว้านขมวดเข้ามาแล้วเกิดขาด...มันดิ้นเหวี่ยงฟาด
เมื่อขาดหลุด..หล่อนให้...ให้เขาจนหมด...มีเท่าไร   ให้ไม่มีเหลือ...เสียงร้องเสียงครางของหล่อนดังออกมาไม่เป็นส่ำ... ไม่เป็นภาษา...
ช่วงนี้เอง...กําบังก็หมดความอดกลั้น...เขาถอยออกมาเล็กน้อย สองแขนที่สอดใต้ขาพับทั้งสอง จนร่างหล่อนลอยจับสองบ่าของหล่อนไว้แน่น... เขากระชากลงมาเต็มแรงและเสือกบั้นท้ายตนเองเข้าไปหา...เหมือนยิงลูกโทษสุดท้ายเข้าไปตุงในตาข่ายอย่างเด็ดขาด...ปากของเขาเน้นกัดลงไปแน่นหนักที่เนื้ออ่อนๆ ตรงซอกคอใกล้ไหปลาร้าของหล่อน...ทํานบที่กั้นเอาไว้พังทลาย...สายเลือด ข้นทะลักออกมาเป็นระลอก...
หล่อนรู้สึกเหมือนถูกฉีดด้วยน้ำจากปลายสายยางยาวอย่างแรง...
ร้อนวูบวาบอาบอิ่มอยู่ในช่องท้องก้อนเนื้อที่เป็นรังกําเนิดขยายตัวออกรับ ปีกของมันกางออก
ระลอกแล้วระลอกเล่าทะลักออกมาเรื่อยๆ
โอ...มันช่างมากมายอะไรเช่นนี้ แรงของมันราวกับจะผ่านช่องท้องขึ้นมาถึงหน้าอกหน้าใจ...
เวลายอมให้มันกินอยู่ครู่ใหญ่...
เนื้อตัวที่ต่างฝ่ายต่างรัดแน่นเริ่มคลายออก ความเปลี้ยล้าปรากฏ แต่มันเป็นความเปลี้ยล้าอันสุขสมของกันและกัน
ปากที่กัดกันเอาไว้คลายออกได้ยินลมหายใจ กันแรงขึ้น
ร่างใหญ่ของกําบังผ่อนคลายค่อยๆ พาร่างของแววรัตน์ทรุดลงกับพื้นหินอ่อนกลางละอองฟองฝอยจากฝักบัว เสียงหายใจของเขาดังครืดคราดๆเหมือนเสียงหายใจของสัตว์ขนาดใหญ่เคล้ากับ เสียงหายใจและเนื้อตัวอันอ่อนระโหยของแววรัตน์ แต่หล่อนยังพอมีแรงเหลือค่อยๆ ยกมือไปปิดฟองน้ำจากฝักบัวค่อยๆ หายไปจนหยดสุดท้าย
หล่อนเริ่มรู้สึกถึงอาการตึงและปวดสองหน้าขา เมื่อราคะถูกปล่อยออกมาจนหมดสิ้นก็ไม่มีสิ่งใด เหลือเพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บลึกเอาไว้ได้ หล่อนค่อยๆ ขยับตัวเหมือนกับจะสํารวจตัวเองว่าแข้งขายังดีเหมือนเดิมหรือเปล่า และดูเหมือนจะรู้สึกเบาใจที่ มันไม่หัก..ความเปรี้ยวถูกเคี้ยวออกไปแล้วจนจืด เหลือความจืดคล้ายอ้อยถูกกัดถูกเคี้ยวเอาน้ำหวานไปจนหมด เหลือแต่ชานที่มีรอยฟันขบฟันเคี้ยวจนยับยุ่ย
ยามเมฆฝนหล่นพรูพรายจนหายเหือด  ฟ้าก็เปลี่ยนสีแสงสว่างกระจ่างใส ลมเย็นโชยชายฉ่ำชื่นไปทุกหย่อมหญ้า
เมื่อราคะถูกปลดปล่อยออกไปจนหมด ความร้าวระบมก็เข้ามาเยี่ยมเยียนในความรู้สึก
เจ็บและร้อนร่องกลีบเนื้อ ลึกลงไปมีอาการปวดเล็กน้อย หน้าขาขัด หลังและสะโพกเจ็บและหน้าอกแสบ
หล่อนค่อยๆ ยันใบหน้าอันใหญ่หนาของเขาออกไปจากตัว กะโหลกศีรษะของเขาใหญ่ ดวงตาโตไม่ค่อยยอมขยับเขยื้อน แม้เขาจะปล่อยมันออก มาจนหมดเนื้อหมดตัวอย่างมากมายแล้วก็ตาม...แต่ ...เจ้าหน่อเนื้อของเขามันยังไม่หดหาย มันลดน้ำหนักตัวลงไปได้เพียงเล็กน้อย อาการของมันที่ค้างคาอยู่ในตัวของหล่อนยังเบียดแน่นทําท่าจะไม่ยอมจากเอาง่ายๆ และมันเริ่มส่อปฏิกิริยาทําท่าว่าจะเริ่มต้น นับหนึ่งต่อไปใหม่...
โอ...อะไรกันขนาดนี้...หล่อนเองก็เสร็จสมไปแล้วสามครั้งสามครา สามชั่วโมงกว่าๆ ที่โดนมันตะบี้ตะบันเข้ามายันลึกจนเดี๋ยวนี้เกิดความเจ็บ... แล้วมันจะเริ่มต้นอีกหรือ...
"พอ...พอเถอะ...พอแล้ว..."
แววรัตน์บอกเสียงอ่อนระโหย สองมือพยายามดันหน้าอกหนาด้วยไขมันของเขาเอาไว้
ไม่มีเสียงตอบออกมาจากปากของขา แต่กลายเป็นกลับใช้ปากของเขาส่งภาษามาบนปากของหล่อน
แววรัตน์ใช้สองมือยันใบหน้าของเขาออกไป ความหนาความหนักของกะโหลกศีรษะทับลงมา จนสองข้อมือของหล่อนอ่อนพับ ขณะเดียวกับที่ เจ้าหน่อเนื้อของเขาเริ่มเคลื่อนไหว... เดินหน้าเข้ามาและถอยหลังออกไป
มันเริ่มบทเดิม แต่ซ้ำรอยแสบ
"พอ...ฉันบอกว่าพอแล้ว"
มันไม่พูด แต่คงเคลื่อนไหวเนื้อตัวไปเรื่อยๆ
"ฉันบอกว่าพอ....แกไม่ได้ยินเรอะ"
แววรัตน์ตวาดออกไปเท่าที่จะมีแรงส่งเสียงตวาด
แม้จะมีโอกาสขึ้นมาขี่ขย่มพลิกแพลงหลายบทบาทจนทุกส่วนในตัวของนายสาว เป็นของเขาไม่มีเหลือ แต่ความเป็นนายกับบ่าวยังมีอยู่ในความรู้สึก
ซุ่มเสียงและท่าที่ของแววรัตน์บอกว่าไม่ต้องการอีกอย่างเด็ดขาด ถ้าขัดขืนตะบี้ตะบันทําลงไปอีก ก็คงไม่ผิดอะไรกับนักมวยลงจากเวทีมาโดนซ้อมอีก ในยกที่หก ถ้าหากขืนดื้อรั้น เอาแต่ใจตนหนต่อๆ ไปมีหวังอด
ดังนั้น เมื่อถูกสองมือของแววรัตน์ดันเอาแรงๆ เท่าที่แรงของหล่อนพอจะมี...กําบังจึงถอนตัวออกจากร่างขาวพริ้มเพราด้วยความเสียดาย
พอกําบังหลุดออกไปจากตัว แววรัตน์ก็ขยับตัวจะลุกขึ้น แต่ความเจ็บในช่วงท้องและหน้าขา มันทําให้เธอลุกได้เพียงเล็กน้อยต้องกลับทรุดนั่งลงไปอีก แต่มือก็ยังดึงเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่บนราวทองเหลียงมาพันตัวเอาไว้ได้อย่างลวกๆ แล้วเอนหลังพิงฝาอย่างอ่อนระโหย หล่อนเบือนหน้าหลบสายตา โปนของกําบังและเจ้าหน่อเนื้อเสือร้ายของเขาที่โดนมันจวกเอาจนนับไม่ถ้วน ซึ่งยังโชนโชดจังก้า...เป็นมันวาว
แวรรัตน์เริ่มรู้สึกเจ็บที่ต้นคอด้านขวาใกล้ไหปลาร้า..ตรงนั้นเป็นรอยฟันของกําบัง...หล่อนค่อยๆ เอามือลูบตรงรอยเจ็บแสบผิดปรกติ...เมื่อเอามือมาดู...เลือดสีแดงสดๆ ติดมือสีขาวซีดออกมา...
แววรัตน์รู้สึกเสียววูบเมื่อนึกถึงรอยแผลตรงนี้จะต้องปรากฏออกมาให้คนอื่นเห็น... คนที่ผ่านกามทัณฑ์ในแบบนี้จะต้องรู้ว่ามันเกิดจากฟันของเพศตรงข้าม มันเป็นพยานของการถูกกระทําอันทารุณ คนอื่นไม่รู้อาจจะนึกว่ามันเป็นการขบกัดของนายกองทุนสามี แต่ถ้ากองทุนสามีของเธอเห็นเข้าล่ะ...
หล่อนมองดูเลือดในมือแล้วมองดูหน้าของ กําบัง...
แววตาโปนแดงของเขาลดลงเล็กน้อย กําบังทําท่าจะเอามือลูบตรงรอยแผลที่เกิดจากการขบกัดของตนบนต้นคอของหล่อน
แววรัตน์ปัดมือของเขาออกไปเต็มแรง
"ไม่...ไม่ต้อง "
เสียงของหล่อนฉุนเฉียว แน่นอน... ไม่เคยมีใคร ทํากับหล่อนเช่นนี้...แต่อารมณ์เกรี้ยวกราดที่ทําท่าจะเริ่มก่อหวอดกลับลดลงไป เมื่อสายตาของหล่อนเหลือบเห็นที่บ่าของเขาก็มีรอยฟันรอยเลือดอันเกิดจากการขบกัดของหล่อนเช่นเดียวกัน...นึกแล้ว เสียวสยอง...ปล่อยให้เขาทําอย่างนี้...และเราทํากับเขาเช่นเดียวกันได้อย่างไร...
แต่ผู้ที่เสียเปรียบคือหล่อน...เพราะรอยแผล
เช่นนี้มันจะเป็นการประจานตนเอง ที่สําคัญก็คือ มันจะบอกกับนายกองทุนให้เขารู้ว่าเมียของตัวโดนใครซัดใครกัดเอาเข้าแล้ว เรื่องมันจะต้องไปกันใหญ่ มันจะกลายเป็นความแตกแยกของชีวิตครอบครัว...กองทุนจะต้องรู้ว่า เดี๋ยวนี้เมียของตนไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว จริงอยู่ก่อนนี้หล่อนก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นสาวพรหมจารีสําหรับเขา แต่บัดนี้เมื่อเป็นของเขาแล้ว ก็ควรจะเป็นของเขาแต่ผู้เดียว ไม่ควรจะแอบไปเปิดตูดเปิดก้นให้คนอื่นเข้ามามีเอี่ยว ของพรรณนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องคิดกันอย่างนี้
"ผม...ผมขอโทษ" กําบังพูดเสียงเบาๆ ก็รู้ตัวอยู่เหมือนกันว่าตอนนั้นมันรุนแรงเกินไปหน่อย แต่ทําอย่างไรได้ มันอดใจเอาไว้ไม่อยู่ เพราะเนื้อตัว เครื่องเคราของหล่อนมันยั่วยวนตลอดจนกิริยาการแสดงออกตอบรับมันชวนให้ขยําขย้ำเหลือหลาย แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้... กําบังเปลี่ยนสายตาจากรอยแผล มองเนื้อขาวๆ อวบๆ ที่ถูกผ้าเช็ดตัวคลุมเอาไว้ลวกๆ หน้าตาปากคอของหล่อนซีดขาวด้วยแรงบดและความเย็นของสายน้ำมองดูเหมือนคนเพิ่งฟื้นจากไข้ แต่ก็ยังชวนให้กลับเข้าไปซัดเอาเหมือนอย่างเดิมอีกสักหน...แต่แววตาของหล่อนคราวนี้ จิกมองมาที่เขาอย่างน่ากลัว เป็นแววตาของนายที่แผ่รังสีแห่งอำนาจ ความหยิ่งยโสและเหยียดหยาม
"ลงไปเถอะ"
หล่อนออกคําสั่ง
"ผม...ผมขอโทษ"
"ไปเถอะ"
แววเสียงของหล่อนน่าเกรงขามกว่าเดิม
"แต่ผม..."
"ฉัน...บอก...ว่า...ไปเถอะ"
หล่อนพูดเรียงถ้อยคําเป็นวรรคช้าๆ ชัดเจน และกระแทกประโยคสุดท้ายอย่างไม่พอใจ
"แล้วเมื่อไหร่" กําบังเอ่ยเป็นปริศนา
"ทําไม"
"เมื่อไหร่จะเรียกผมขึ้นมารับใช้"
"คืนนี้..ใครเป็นคนเรียกเธอมา"  หล่อนพูดเสียง ห้วนๆ
"โอกาส"
"โอกาส"   หล่อนทวนคําพูดของเขา
"ครับ โอกาส"  กําบังผงกศีรษะไม่ละสายตาไปจากเนื้อขาวๆ ซีดๆ ของหล่อน
เสียงไก่ขันยาวนานสอดรับกันเป็นทอดๆ บอกเวลาใกล้รุ่ง...แววรัตน์รู้ว่าถึงบทนี้ มันต้องใช้ น้ำเย็นเข้าลูบกันก่อน หากร้อนเกินไป เกิดสามีของตนตื่นขึ้นมาแล้วจะทํายังไง ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเขายังนอนหลับอยู่ข้างล่างหรือไปไหน
"เอาเถอะ"   เสียงของหล่อนอ่อนลง   "ถ้ามี โอกาส ฉันจะเรียก"
"พรุ่งนี้ได้ไหม"
"เอาเถอะน่า   ฉันกําหนดให้เธอไม่ได้หรอก เธอลงไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวผัวฉันตื่นขึ้นมาเห็น  เรื่องจะไปกันใหญ่"
"เขาคงยังไม่ตื่นหรอก"
"เธอรู้ได้ยังไง"  แววรัตน์จ้องหน้ากําบังคล้ายกับจะพบเงื่อนงําพิรุธ
แต่กําบังก็ไม่โง่จนกระทั่งบอกความจริงออกไป ว่าลายตองเป็นคนเอายานอนหลับใส่ลงไปให้นายกองทุนกิน
"คุณแกเมามาก คงไม่ตื่นง่ายๆ หรอก"
"ลงไปเถอะ"
"คุณคงไม่ลืมผม"
แววรัตน์ส่ายหน้าเล็กน้อย  มันเป็นความระอา มากกว่าจะบอกว่าไม่ลืม
กําบังไม่เข้าใจความหมายลึกซึ้ง นึกว่าหล่อนตอบรับจึงรั้งร่างของหล่อนเข้ามากอด
"อย่า..."
แต่ช้าไปเสียแล้ว เขายังแข็งแรงกว่าหล่อนมาก จึงไม่อาจต้านทานได้...กําบังเอาปากของเขาบดลงบนปากของหล่อนราวกับเป็นครั้งสุดท้าย...พุ่ม เนื้อหน้าอกยุ่ยอยู่ในมือ...
"ไม่"
หล่อนตวาดเสียงดังและผลักเขาออกไปหลังจากดิ้นจนปากหลุดออกมาได้...
สายตาของหล่อนประสานกับสายตาของเขา มันกร้าวนิ่งจนกําบังต้องเป็นฝ่ายหลบและยิ้มอย่าง เจื่อนๆ
กําบังค่อยๆ ยันร่างอ้วนท้องพลุ้ยของเขาลุกขึ้นยืน โดยมีสายตาของแววรัตนในแววเดิมจับอยู่ตลอดเวลา เป็นแววที่บอกให้รู้ว่าเขาจะต้องปฏิบัติ ตามคําสั่งของหล่อน...
หล่อนมองจนกระทั่งร่างอ้วนใหญ่ของเขา ออกไปจากประตูห้องน้ำ...แววรัตน์หลับตาพิงฝาผนังเหยียดสองขาออก ผ้าเช็ดตัวเลื่อนไหล
ออกไปจากตัวหล่อนก็ไม่อินัง ฤทธิ์ของเหล้าจางหายไม่มีเหลือ ราคะถูกระบายออกไป สิ่งที่เข้ามาอยู่ในความคิดคือ การสูญเสีย เสียเนื้อเสียตัวให้กับเจ้ากําบัง ไพร่สถุลอย่างนึกไม่ถึง
มันจะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนหรือเปล่า แผลเจ็บจากคมฟันที่ต้นคอเป็นสักขีพยานเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดี
นึกไปถึงร่างอ้วนหนาเนื้อหนาตลอดจนหน่อเนื้อ ขนาดพระกาฬที่เข้ามาคว้านอยู่ในตัว และตอนนั้นหล่อนเผลอไผลกระทั่งใช้ปากทักทายส่งภาษากับมัน...
ในท้องของแววรัตน์ปั่นป่วน ลมไล่ขึ้นมาจนทําท่าจะขย้อน...เจ็บใจตนเองที่เผลอไผลปล่อยตัว ปล่อยใจ ปรีดาปราโมทย์ไปกับไอ้คนร่างอัปลักษณ์หยาบคาย ยิ่งนึกไปก็ยิ่งน่าขยะแขยง...ตนไปยอมให้มันทํากับตนเช่นนั้นได้อย่างไร...
สีฟ้าเริ่มขาวสลัวๆ เสียงนกร้องทักทายฟ้าที่หายหน้าไปตลอดคืนเพิ่งจะคืนสี
เป็นวันใหม่ ฟ้าใหม่อากาศเย็นเยือกใกล้จะมีฝน
แววรัตน์นั่งชันเข่ากางเกงขาสั้นสีขาวเบาบาง รัดสูงไปจนเกือบโคนขา เผยให้เห็นท่อนขาสองข้าง สีขาวเหลืองเหมือนสีจาวมะพร้าว เชิ้ตสีเทาแขนยาว ปกคอสูงปกปิดรอยเขี้ยวตรงต้นคอข้างไหปลาร้ามิดชิด
หล่อนนึกไปถึงชุดกี่เพ้าของคนจีน...มันมีสาเหตุมาจากเรื่องนี้หรือเปล่าหนอ จึงมีปกคอสูง แต่เปิดแหวกท่อนขา
ถึงอย่างไรเชิ้ตตัวนี้ก็คงจะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน มันจะช่วยปิดบังซ่อนเร้นความชอกช้ำของเนื้อตัวไปได้ตลอดวัน
พอแล้วคนอย่างนี้ อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย..มันหนักไม้หนักมือคลึงขยี้เอาเหมือนคลึงมะนาวผิวสีเขียวก่อนจะรีดเอาน้ำเปรี้ยวออกมาจากผล
ตอนนั้น หล่อนซึมซึ้งไปกับมัน เพราะฤทธิ์เหล้าเป็นเครื่องบ่ม มันเข้าไปกระตุ้นเสมอเมื่อยามที่เธอดื่ม และผ่อนคลายไปเมื่อสิ้นฤทธิ์ของมัน
แต่ตอนนี้...แม้จะหมดฤทธิ์เหล้า หมดฤทธิ์ของราคะ แต่ก็ยังต้องนึก มันลืมยาก ไม่ใช่ติดใจในรสลึก แต่มันเป็นความเกลียดชังในเจ้ากําบังและเกลียดชังกระทั่งตัวเอง มันน่าขยะแขยง โสโครก โสมมสารพัด มันเจ็บปวดเหมือนโดนข่มขืน มันเขีดเขี้ยว เข็ดหลาบ
หล่อนมองไปที่ผ้าปูที่นอนอันขาวสะอาดถูก ดึงจนตึงเรียบสนิท ซึ่งหล่อนเป็นคนเปลี่ยนมันด้วยมือตนเอง เพราะผืนเดิมมันย่นยู่ยี่ มีกระทั่ง รอยเท้าของเจ้ากําบังและคราบเมือก
ความสกปรก ความยับย่นยู่ยี่ของผ้าปูที่นอน เปลี่ยนได้ซักได้ แต่ไอ้คราบสกปรกความยับเยินในตัวตนนี่สิ จะเปลี่ยนได้อย่างไร ไม่มีทางจะเปลี่ยนได้ หนําซ้ำมันยังฝังรอยเขี้ยวเอาไว้บอกกล่าวคนอื่น
ปัญหามีอยู่ว่าต่อไปนี้จะทําอย่างไร
มันเหมือนกับการเล่นการพนันจนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่ได้เล่นเพราะเสพติด แต่ถูกหลอก ถูกต้มขณะกําลังเมามัน มีความรู้สึกฮึกเหิมไปกับเกม การพนัน ครั้นสร่างเมา มารู้ว่าเสียทีเสียท่าจนไม่มีอะไรเหลือ ซ้ำยังเป็นหนี้ที่เจ้ากําบังจะต้องติดตามมาเรียกร้องทวงหนี้เอาจากตัวอีก
เป็นหนี้สินที่จะเปิดเผยให้คนอื่นรู้มิได้ ถ้าหากถึงเวลามันมาทวงก็จะต้องแอบใช้ให้มัน เป็นหนี้ราคาแพง อาจจะต้องใช้ให้กับมันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวันหมดสิ้น เป็นหนี้ที่กองทุนสามีของตนจะรู้ไม่ได้ล่ะสิ
ยิ่งนึกไปถึงบทบาทการทวงหนี้ของมันที่จะต้องมีแล้วสะอิดสะเอียนคลื่นไส้จะอาเจียนเสียให้ได้
เจ็บปวดในช่วงท้องร้าวลึกเมื่อคิดไปถึงเจ้าหน่อเนื้ออันกํายํายาวเหยียดของมัน มันช่างน่ากลัวอะไรเช่นนั้น
อะไรต่ออะไรที่เป็นสิ่งสกปรกในตัวของมันตามรบกวนอยู่ในความทรงจําไม่สิ้นสุด แม้กระทั่งปากและลมหายใจที่เหม็นตลอดจนขนแข็งหยาบ...
เอาล่ะ มันเป็นการเสียพนันที่เกิดจากการหลอกการโกงของมัน...เช่นนั้น...อย่าหวังเลยว่าจะใช้หนี้เมื่อมันแอบมาทวง
เรื่องของมันเอาไว้ก่อนเถอะ...เรื่องรอยเขี้ยวของมันที่ต้นคอข้างไหปลาร้านี่ก่อนเถอะ ทําอย่างไรจะไม่ให้กองทุนสามีของตัวรู้เห็น...
แววรัตน์พยายามทําใจให้สงบ ตัดความคิดอื่นๆ ออกไป รอให้สติปัญญามันเกิดเพื่อแก้ไขปัญหา
เมื่อสงบอยู่พักหนึ่ง...แล้วมันก็เกิด...แต่ไม่ใช่สติปัญญาของแววรัตน์เกิด...กลายเป็นเกิดเรื่องที่แววรัตน์เองก็คิดไม่ถึงเมื่อได้ยินเสียงป้านุ่นแกโวยวายร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างล่าง...
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: Suchart Thanee เมื่อ มิถุนายน 24, 2018, 07:55:20 หลังเที่ยง
คำสวยงามมาก แต่ก็แฝงด้วยจินตนาการ ขอบคุณครับ
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: sofee เมื่อ มิถุนายน 24, 2018, 10:43:00 หลังเที่ยง
สนุกมากครับ มีเรื่องราวพลิกผันตลอดจนเดาไม่ถูกว่าเนื้อเรื่องจะไปทิศทางไหน
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: cdx เมื่อ มิถุนายน 25, 2018, 07:16:25 ก่อนเที่ยง
เหมือนอ่านนิยายจีนกำลังภายในเลย ใช้คำได้ลึกซึ้งมาก 
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: kapook6336 เมื่อ มิถุนายน 25, 2018, 06:42:51 หลังเที่ยง
สนุกมาก ให้อารมณ์ร่วมในการอ่านได้ดี เนื่อเรื่องน่าสนใจ ขอให้เอามาลงต่อเนื่องนะครับ รออ่านอยู่
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: Somkiat Ruangsubvilai เมื่อ มิถุนายน 27, 2018, 11:27:01 หลังเที่ยง
เสร็จกำบังแน่ๆคราวนี้ จะปฎิเสธไม่ให้ ายุ่งก็ไม่ได้ อย่างงี้แววรัตน์จะทำยังไงอยากรู้จัง มาไว้นะครับอย่าให้รอนาน
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: pinmonkey เมื่อ มิถุนายน 28, 2018, 04:49:55 ก่อนเที่ยง
ยังมีสติอยู่บ้างทำให้แววรัตน์พอหาทางแก้ได้บ้างนะครับ ขอบคุณมากครับ
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: oit758 เมื่อ มิถุนายน 29, 2018, 08:29:10 หลังเที่ยง
เรื่องนี้เขียนดีมากมีการเปรียบเทียบการใช้คำที่คมมากๆ ในหลายตอนเหมือนนักเขียนมืออาชีพมาเขียนให้ได้อ่านกัน เขียนดีกว่านิยายที่ซื้อได้ทั่วไปอยู่มาก
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: Somkiat Ruangsubvilai เมื่อ กรกฎาคม 12, 2018, 11:32:26 หลังเที่ยง
รอมลทินดอกไม้ตอน30อยู่นะครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการแบ่งปัน
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: cdx เมื่อ กรกฎาคม 20, 2018, 10:45:40 หลังเที่ยง
รอตอนต่อ อยู่นะครับ
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: suriyamahajit เมื่อ กรกฎาคม 24, 2018, 01:48:46 ก่อนเที่ยง
จะมีต่อรึเปล่าน่ะครับกำลังสนุกมันๆเลยขอบคุณมาก
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: soulmate เมื่อ กรกฎาคม 30, 2018, 03:18:27 หลังเที่ยง
เสียดายเรื่องนี้ มลทินดอกไม้ เนื้อเรื่องกำลังสนุก ตื่นเต้นเลยครับ
เข้าใจว่า คงไม่มีต้นฉบับต่อแล้วมั้งครับ
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: dee464967 เมื่อ สิงหาคม 02, 2018, 12:58:49 ก่อนเที่ยง
อ่านไปอ่านมาอันนี้ออกแนวจีนหรอคับ ขอบคุงงับ
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: cdx เมื่อ สิงหาคม 07, 2018, 06:51:08 หลังเที่ยง
คนให้กำลังใจ น้อยไป คนลงคงน้อยใจ
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: chathixin เมื่อ เมษายน 27, 2020, 07:25:12 ก่อนเที่ยง
แววรัตน์ ต้องเรียกมารับใช้อีกเเน่
ชื่อ: Re: มลทินดอกไม้-ตอนที่29
โดย: suwit009 เมื่อ กันยายน 12, 2020, 09:20:38 หลังเที่ยง
สนุกมากๆน่าติดตามทุกตอน