โพล
คำถาม:
ถ้าคุณเป็นลุงพล คุณจะเลือกใคร 'พลอย' หรือ 'เบสท์'
ตัวเลือก 1: เลือกหมอพลอยเหมือนเดิม เธออุตส่าห์ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อลุงพลแล้วนะ หาทางลงตอนที่มีโอกาสจะดีกว่า
โหวต: 129
ตัวเลือก 2: เลือกครูเบสท์ดีกว่า เพราะเธอดีเกินกว่าจะต้องตาย และชะตากรรมได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ใครก็ขวางไม่ได้
โหวต: 55
พูดคุยก่อนอ่าน : กลับมาแล้วครับ สำหรับเกมรักปีสองตอนที่ 11 อย่างที่ผมได้บอกไปหลายครั้งละ ครูเบสท์จะมีบทบาทเด่นมากขึ้น และหมอพลอยจะต้องเป็นตัวร้าย ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในตอนนี้แล้วครับผม สำหรับตอนนี้ จะมีฉากเล่าย้อนอดีตด้วยนะครับ ค่อนข้างจะจักร ๆ วงศ์ ๆ ลิเก ๆ สักหน่อย 555 ตอนนี้ช่วงครึ่งแรกอาจน่าเบื่อสักหน่อย มันเกี่ยวกับการซ่อมรถนะครับ แต่ฉากนี้ ผมได้พยายามถ่ายทอดความเป็นครูเบสท์ให้ทุกคนได้เห็นกันมากขึ้น ว่าเธอเป็นคนที่มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร พวกคุณคิดว่าจะชนะหมอพลอยในบั้นปลายหรือไม่ ลองบอกผมมา
ขอโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกนิด ตอนนี้ 'ภารโรงเฟี้ยว...เกี้ยวเด็กพยาบาล' เล่ม 3 ได้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตามลิงค์ด้านล่าง(https://www.img.in.th/images/185ca921ae9be96e82035a7273300a1f.gif)
ลิงค์อยู่ด่านล่างนะครับ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiODU1MjYwIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTM5MjUzIjt9&page_no=1
สำหรับตอนหน้า 'เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 12 : เปิดหวอรอรัก' เห็นชื่อตอนก็น่าจะรู้นะครับว่าจะพบกับอะไร ฉากอีโรติกเน้น ๆ จัดเต็ม ๆ ครับผม แต่ผมไม่บอกหรอกนะว่าลุงพลจะได้ใคร 555555######################
ความเดิมจากตอนที่แล้วhttps://xonly8.com/index.php?topic=236496.0
อ้างถึงตัดมาทางฝั่งครูเบสท์ หลังจากเลิกงาน เธอก็แวะขับรถไปหายัยอิมเพื่อนรักเพื่อกินข้าวเย็นด้วยกัน พร้อมกับพูดคุยถึงการนัดมีทติ้งในกลุ่มคณะพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
"ทับทิมตอนนี้อยู่ไหน แล้วจะกลับไทยเมื่อไร?" ครูเบสท์เอ่ยปากถามยัยอิมเพื่อนรัก ที่ผันตัวไปเป็นดีไซนเนอร์และนักธุรกิจ
"มันบินอยู่กาตาร์ บ่นคิดถึงไทย อยากกลับมาทำงานที่ไทยใจจะขาด" ยัยอิมตอบ "เห็นว่ามันคบกับหนุ่มนักธุรกิจแขกที่นั่นด้วยนะเบสท์ โคตรรวย"
อัมพรเปิดอินสตาแกรมของยัยทับทิมเพื่อนร่วมคณะพยาบาลศาสตร์ให้เบสท์ดู อาจารย์สาวถึงกับร้องว้าวในชีวิตสุดหรูและสุดปังของยัยทับทิมเพื่อนรักที่เป็นแอร์โฮสเตสสายการบินระหว่างประเทศที่ตะวันออกกลาง ในกลุ่มสามใบเถาจากคณะพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ กล่าวได้ว่าทับทิม คือนัมเบอร์วันตัวจริงของกลุ่ม ที่แม้แต่อัมพรและภัคจิรายังต้องยอมรับ
"ชีวิตยัยทับทิมนีดี๊ดีเนอะ ว่าไหม?" ยัยอิมแสดงความคิดเห็น ขณะกำลังเลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟนดูชีวิตของทับทิม สาวไฮโซประจำกลุ่ม
"ใช่..." ครูเบสท์ยิ้ม "สงสัยอีกหน่อยคงได้เป็นเจ้าสาวแขกแล้วละเพื่อนเรา"
สองสาวอดีตนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์พูดคุยสนทนาในมื้อเย็นภายในร้านอาหารที่ดูเรียบง่ายแต่แอบแพงใจกลางเมือง ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านทางใครทางมัน
"อิม..." ภัคจิราเอ่ยชื่อเพื่อนรัก "ถ้านัดรวมเพื่อน ๆ ได้ครบทุกคนเมื่อไร ก็แท็คหรือไลน์มาบอกชั้นด้วยนะเว้ย"
"ได้จ้า!!!" ยัยอิมยิ้มหวาน "บางทีชั้นอาจจะลองหาหนุ่ม ๆ โปรไฟล์ดี ๆ แนะนำให้แกได้รู้จักนะ เปิดใจมองหาตัวผู้บ้างได้แล้วแก จะได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที ชั้นมีผัวมีลูกแล้วนะเว้ย สงสารชั้นบ้าง"
"ไม่เอาอ่ะ ชั้นอยากทรมานแกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ" ภัคจิรายิ้ม ก่อนโบกมือลาเพื่อนรักเพื่อกลับบ้านทางใครทางมัน อาจารย์สาวเดินมาที่โรงจอดรถหลังร้าน เพื่อขับรถ Honda Civic สีบลอนด์กลับบ้านแถวพัฒนาการ
ทุกอย่างดูปกติในช่วงค่ำคืนใจกลางมหานคร จนกระทั่งภัคจิราสัมผัสได้ถึงความปิดปกติของเครื่องยนต์ เมื่อควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากหน้ากระโปรงรถ พอเห็นท่าไม่ดี อาจารย์สาวเลยเลี้ยวรถจอดข้างทาง เพื่อตรวจสภาพรถ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลยแม้แต่น้อย
"โอ้ย!!! รถมาเสียอะไรตอนนี้เนี่ย!!!" ภัคจิราเปิดกระโปรงหน้ารถดู เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกเลยแม้แต่น้อย อาศัยว่าแต่ขับอย่างเดียว นาน ๆ ครั้งถึงจะพารถเข้าอู่ไปเช็คสภาพ "แล้วจะทำยังไงเนี่ย!!!"
นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว ภัคจิรารู้ดีว่าเธอเป็นผู้หญิง และมันไม่ปลอดภัยเอาซะเลยที่รถของเธอมาเสียใจกลางเมืองแบบนี้ จะไปตามช่างที่ไหนได้บ้างในเวลาตอนนี้? หรือจะทิ้งรถเอาไว้แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาวัดดวงกันว่ารถยังอยู่ที่เดิมหรือว่าอาจถูกตำรวจลากไปดี?
"แล้วจะทำยังไงเนี่ย!!!! โอ้ย!!!!" อาจารย์สาวจับโน่นจับนี่ จนคราบเขม่าติดมือ ภัคจิราทำหน้ามุ่ยด้วยความกังวล จนกระทั่งลุงพลที่บังเอิญขับรถมอเตอร์ไซค์ไปจ่ายตลาดแถวนั้นแวะมาเจอเข้าพอดี
"ครูเบสท์? ครูเบสท์ใช่ไหมครับ?" ลุงพลชะลอรถเพื่อถามอีกฝ่าย "รถเป็นอะไรครับครู?"
"รถเสีย สตาร์ทเครื่องไม่ได้เลยค่ะลุง" ภัคจิราดูใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นลุงพลปรากฏตัวต่อหน้า "ช่วยเบสท์หน่อยนะคะลุง เบสท์ไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลย"
ลุงพลยิ้มให้ครูเบสท์ ก่อนถอดหมวกกันน็อคแขวนไว้ที่ตะกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซค์ เพื่อช่วยดูอาการรถยนต์ Honda Civic ของครูเบสท์ให้
"โอ้ย!!! ควันโขมงเลยแหะ!!!" ลุงพลยืนตรวจเครื่องยนต์รถของครูเบสท์ "ไม่แน่ใจว่าน้ำกลั่นแห้งหรือรั่วนะครับครู แต่ต้องรอก่อน เปิดดูหม้อน้ำตอนนี้มีหวังมือพองแน่"
"ค่ะ รบกวนด้วยนะคะลุงพล" ภัคจิราดูกังวลใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มไลน์ระหว่างรอ
ลุงพลแอบชำเลืองมองครูเบสท์เป็นระยะ ระหว่างยืนอยู่หน้ากระโปรงรถครูเบสท์ จนกระทั่งไปเหลือบเห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นมาด้วยความเร็วจากด้านหลัง
"ครูเบสท์ ระวังรถครับ!!!!" ลุงพลเอ่ยปากเตือนครูเบสท์ที่ยืนพิมพ์ไลน์บนสมาร์ทโฟนอยู่ โดยไม่รู้ว่ามีคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นมาอย่างรวดเร็วจากด้านหลัง
"ปรี๊ด!!!!" เสียแตรรถมอเตอร์ไซด์ดังลั่น ครูเบสท์พอหันไปก็ร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่ลุงพลจะดึงร่างของเธอออกมาได้ทันควัน
"เป็นบ้าอะไรน่ะคนสวย!!! อยากตายเหรอ!!!" ขาซิ่งคนนั้นหันมาด่าครูเบสท์ด้วยความโกรธ ก่อนบีบคันเร่งหนีไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
"เอ่อ..." ครูเบสท์ตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของลุงพลที่เข้ามาช่วยด้วยการดึงร่างของเธอออกมา เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ลุงพลและครูเบสท์ได้มองตากันในระยะเผาขนแบบนี้
"ครูเบสท์..." ลุงพลมองอาจารย์สาวตาไม่กระพริบ งดงามเหลือเกิน ภัคจิราวดี ผู้มีศักดิ์ไม่แพ้พลอยพรรณรายผู้เป็นพี่สาวแห่งองค์ตุลาการสวรรค์
######################
เรียกว่าลุงพลได้ช่วยครูเบสท์จากนาทีวิกฤติ หญิงสาวผู้สูงศักดิ์และเพรียบพร้อมไม่แพ้หมอพลอยแห่งวิทยาลัยพยาบาลตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของสุภาพบุรุษสูงวัยอย่างลุงพล
"เอ่อ..." ภัคจิรามองหน้าลุงพลตาแป๋ว ราวกับว่าเธอกำลังต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่าง ทำไมเธอถึงรู้สึกผูกพันกับผู้ชายอายุหกสิบกว่า ๆ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นคนนี้เลยแม้แต่น้อยกันนะ
ในขณะที่ลุงพล ตาเฒ่ามองหญิงสาวตาไม่กระพริบ งดงาม น่ารัก เธอเพียบพร้อมไม่แพ้หมอพลอยเลยแม้แต่น้อย เมื่อมองลึกลงไป ลุงพลรู้สึกหลงใหลในความอ่อนหวานของดวงตาคู่นั้น
"ภัคจิราวดี..." ลุงพลเผลอเอ่ยปากชื่อจริงของครูเบสท์ด้วยชื่อเก่าเมื่ออดีตชาติ ทำเอาอาจารย์สาวถึงกับตื่นจากภวังค์ด้วยความตกใจ
"เอ่อ...ลุงพลคะ?" ครูเบสท์ที่ได้สติเอ่ยปากขึ้นมา "ปล่อยเบสท์ได้แล้วมั้งคะ?"
"อุ้ย!!! ขอโทษครับครู!!!" ลุงพลรีบปล่อยครูเบสท์ออกมา ฝ่ายหญิงสาวดูมีท่าทางเขอะเขินและประหม่าอย่างเห็นได้ชัด "ขอโทษนะครับครู ผมไม่ได้ตั้งใจ!!!"
"ไม่เป็นไรค่ะ..." ครูเบสท์เอามือเสยปอยผมแก้อาการประหม่า หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด เธอถึงได้มีอาการหวั่นไหวกับลุงพลมากถึงขนาดนี้
"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปดูรถให้ครูต่อนะครับ" คนขายน้ำเต้าหู้รีบเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ตาลุงเดินกลับไปดูที่หน้ากระโปรงรถของครูเบสท์เพื่อตรวจเช็คสภาพหม้อน้ำรถยนต์ของอาจารย์สาว ลุงพลลองเอามือจิ้มหม้อน้ำรถครูเบสท์ ก่อนที่จะรีบดึงมือออกเพราะหม้อน้ำรถยังร้อนฉ่าอยู่
(https://www.img.in.th/images/6f2a7b9809d20458225982fcf7ea9034.jpg)
(ครูเบสท์ - ภัคจิรา นฤนารถไมตรี (อาจารย์ประจำภาควิชาพยาบาลศาสตร์)
"เป็นยังไงบ้างคะลุง?" ภัคจิราถามด้วยความซื่อ เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์มากนัก
"ร้อนครับ!!!" ลุงพลหันไปตอบด้วยรอยยิ้ม "หม้อน้ำรถครูเบสท์ร้อนจี๋เลยครับ!!!"
"ทำไมต้องมาเสียตอนนี้ด้วยนะ!!" อาจารย์สาวบ่นกับตัวเอง ก่อนเหลือบไปเห็นร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ไม่ไกล "ลุงพลคะ? เดี๋ยวเบสท์แวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก่อนนะคะ"
"ครับ ได้ครับ" อดีตภารโรงเก่ายิ้มรับ ก่อนหันกลับมาตรวจสภาพเครื่องยนต์รถของครูเบสท์ในส่วนอื่น ๆ ต่อ แต่ก็ยังไม่วายแอบหันไปมองครูเบสท์เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ
ครูเบสท์ดูเป็นสาวเรียบร้อย แต่ความรู้สึกของลุงพลรู้สึกว่าอาจารย์สาวคนนี้แอบซ่อนรูป และมั่นใจได้ว่าภัคจิราคนสวยจะต้องเด็ดดวงไม่แพ้เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างพลอยพรรณแน่นอน
พอครูเบสท์หายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ลุงพลก็หยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาเปิดโหมดไฟฉายเครื่องยนต์กระโปรงหน้ารถของครูเบสท์ โดยเฉพาะตรงหม้อน้ำที่ยังมีควันลอยโขม่งอยู่ ทำให้ลุงพลคิดว่าบางทีหม้อน้ำอาจจะแห้งก็เป็นได้
"มาแล้วค่ะ!!" ครูเบสท์เดินกลับมาพร้อมถุงพลาสติก ภายในมีน้ำเปล่าและน้ำอัดลมที่อาจารย์สาวตั้งใจซื้อมาฝากให้ลุงพล พระเอกจำเป็นในค่ำคืนนี้ "เป็นยังไงบ้างคะลุง? มีความคืบหน้าบ้างไหม?"
"ผมคิดว่าหม้อน้ำแห้งแน่ ๆ ครับ" อดีตภารโรงตอบ "ต้องรอสักพักให้เครื่องยนต์มันเย็นก่อนละครับ"
"อีกนานไหมละคะลุง?" พอได้ยินแบบนี้ อาจารย์สาวก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะนี่ก็เริ่มดึกมากแล้ว เธออยากกลับบ้าน
"สักครึ่งชัวโมงน่ะครับครู" ลุงพลตอบ "ต้องรอให้เครื่องยนต์มันเย็นกว่านี้ แล้วเดี๋ยวผมถึงจะเปิดฝาหม้อน้ำเช็คได้ ว่าแต่ครูมีผ้าที่ไม่ใช้แล้ว หรือน้ำเปล่าสักขวดสองขวดไหมครับ?"
"ผ้ามีค่ะ แต่น้ำ อาจจะต้องกลับไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อแหะ" ภัคจิราหันกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ
"ไม่เป็นไรครับ!!!" ลุงพลเหลือบไปเห็นน้ำเปล่าที่ครูเบสท์ซื้อมาในถุง "น้ำเปล่าที่ครูเบสท์ซื้อมาก็น่าจะใช้ได้อยู่ เดี๋ยวผมขอผ้าขนหนูด้วยครับครู"
"ค่ะ ได้ค่ะ" สักพักครูเบสท์กดสวิตซ์ปลดล็อคประตูรถ แล้วเปิดประตูรถเบาะหน้าหยิบผ้าขนหนูเก่า ๆ มาให้ลุงพลเพื่อใช้ในการเปิดฝาหม้อน้ำ
ระหว่างที่รอให้เครื่องยนต์มันเย็นลงกว่านี้สักพัก ครูเบสท์ก็แกะฝาน้ำอัดลมใส่หลอดยื่นให้ลุงพลที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็คสภาพเครื่องยนต์
"ลุงพลคะ? ดื่มน้ำก่อนค่ะ" ครูเบสท์ถือขวดน้ำอัดลมที่เปิดฝาและใส่หลอดเตรียมไว้ให้ลุงพล
"ครับ ขอบคุณครับ" ลุงพลจะยื่นมือรับขวดน้ำอัดลม แต่ถูกครูเบสท์ปฏิเสธ
"ไม่คะ!!! ให้เบสท์ป้อนเนี่ยแหละ!!!" ภัคจิราค้อนใส่ "เบสท์ต้องรบกวนลุงมาก ๆ เลยอยากจะขอมีส่วนร่วมทำดีบ้างอะไรบ้างค่ะ"
"งั้นก็...ขอบคุณครับ" ลุงพลพยักหน้าขอบคุณ ก่อนดูดน้ำอัดลมที่ครูเบสท์ยื่นมาให้ ตาเฒ่าแอบชำเลืองมองอาจารย์สาวด้วยสายตาเจ้าชู้ อีกภัคจิรารู้สึกได้
"เอ่อ...มองเบสท์แบบนั้น?" อาจารย์สาวเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย "มีอะไรติดหน้าเบสท์เหรอคะ?"
"เปล่าครับ ไม่มีอะไร" พอดื่มน้ำอัดลมแก้กระหาย ลุงพลก็กลับไปหยิบผ้าขนหนูที่วางไว้ขอบกระโปรงรถเปิดฝาหม้อน้ำ "โอ้โห!!! แห้งสนิทเลยครับ!!!"
"งั้นต้องเติมน้ำใช่ไหมคะลุง?" ภัคจิราถามด้วยความไม่รู้
"ใช่ครับ" ลุงพลหันมายิ้มให้อาจารย์สาว "น้ำอาจจะไม่พอแหะ ผมอาจจะต้องการน้ำเพิ่มอีก ของสักสองลิตรน่ะครับครู"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวเบสท์ไปซื้อให้นะคะ" ภัคจิราเตรียมเดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบ
"เดี๋ยวผมไปเองก็ได้ครับ เกรงใจครู" ช่างซ่อมรถจำเป็นรู้สึกเกรงใจครูเบสท์ ก็เลยขอเสนอไปซื้อน้ำเอง แต่ว่า...
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะลุงพล!!" อาจารย์สาวปฏิเสธ "บอกแล้วไงว่าให้เบสท์มีส่วนร่วมบ้าง!!! ลุงพลอยู่ตรงนี้ดีแล้วค่ะ อยากกินอะไรเพิ่มไหมคะ? เดี๋ยวเบสท์ซื้อมาให้?"
"ไม่แล้วครับครู" ลุงพลตอบ "ขอบคุณมากครับ"
แล้วครูเบสท์ก็เดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อน้ำขวดใหญ่อีกสองลิตรกลับมา ตอนนี้ลุงพลก็เลยตรวจเช็คทั้งหม้อน้ำและถังพักน้ำ ก็พบว่ามันแห้งเหมือนกันหมด
"น้ำมาแล้วค่ะ!!!" ครูเบสท์เดินถือถุงพลาสติกใส่น้ำเปล่าสองขวดจำนวน 2 ลิตรกลับมา "โอ้ย!!!! ร้อน!!!!"
ลุงพลแอบยิ้มที่มุมปาก ครูเบสท์นี่ดูเป็นลูกคุณหนูไม่ต่างจากหมอพลอยเลยแม้แต่น้อย รออีกสักพัก ลุงพลเลยเติมน้ำใส่หม้อน้ำและถังพักน้ำ โดยขอให้ครูเบสท์กลับไปสตาร์ทรถอีกรอบ
ภัคจิราทำตามช่างยนต์อย่างเชื่อฟัง ระหว่างที่สตาร์ทรถ เธอเปิดกระเป๋าสะพายหยิบเอาพัดลมพกพากลับออกมาด้วย
"เป็นยังไงบ้างคะลุง?" ครูเบสท์เอ่ยปากถามลุงพลที่กำลังเติมน้ำใส่หม้อน้ำ
"หม้อน้ำกับถังพักน้ำมันแห้งครับครู ผมต้องค่อย ๆ เติมน้ำเข้าไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะคงที่ ไม่ระเหยออกมา" ลุงพลตอบ ก่อนที่ครูเบสท์จะถือพัดลมพกพาพัดความเย็นให้ลุงพล "ขอบคุณครับ แต่ผมไม่เป็นไรหรอก ผมว่าครูร้อนมากกว่าผมนะ?"
"แหมม...ลุงก็!!!" ภัคจิราแอบยิ้ม ใบหน้าของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ "งั้นเบสท์ไม่เกรงใจแล้วนะคะ"
ลุงพลหันกลับไปรินน้ำใส่หม้อน้ำรถของครูเบสท์ต่อ ลึก ๆ แกก็แอบขำในความไร้เดียงสาของครูเบสท์ พลางนึกถึงเหตุการณ์สมัยที่แกเคยล่อลวงโดนัท และนิมิตรภาพความฝันที่เป็นลางบอกเหตุว่าอีกไม่นานครูเบสท์จะต้องตาย แกเลยคิดว่าจะฉวยโอกาสนี้พิชิตความสาวของครูเบสท์ดีหรือไม่?
"ยังไม่ใช่ตอนนี้ ยังก่อน..." มนุษย์ลุงจอมเจ้าเล่ห์บอกกับตัวเอง แกจำเป็นต้องสร้างความใกล้ชิดและความไว้ใจให้ครูเบสท์ก่อน แล้วค่อย ๆ เขยิบเข้าไปให้ใกล้ตัวครูเบสท์มากขึ้นกว่านี้ ก่อนที่จะจัดการขั้นเด็ดขาด
เวลาผ่านไปเกือบสี่สิบนาที ในที่สุดรถของครูเบสท์ก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติสักที
"เฮ้อ!!! ได้กลับบ้านสักที!!!!" ครูเบสท์ปรบมือให้ลุงพลที่เปิดประตูเบาะหน้ารถออกมาหลังจากตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ครั้งสุดท้ายเสร็จแล้ว ก่อนที่จะหยิบแบงค์พันจำนวนสองใบให้ช่างซ่อมรถจำเป็นในค่ำคืนนี้ "นี่คะลุงพล สินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเบสท์นะคะ"
"โห!!! เยอะไปครับ!!! ผมคงรับไม่ได้หรอกครับครู รับไม่ได้จริง ๆ" ลุงพลปฏิเสธอย่างสุภาพ "เพราะผมได้รับน้ำใจจากน้ำดื่มที่ครูเบสท์ซื้อมาให้แล้วครับ"
"อย่าดื้อซิคะลุงพล!!!" ภัคจิราเห็นน่ารักแบบนี้ แต่เธอเองก็แอบตื้อไม่เลิก หญิงสาวถือวิสาสะจับมือลุงพลทีมีอายุมากกว่าพ่อของเธอหลายปีอย่างไม่รังเกียจ เพื่อวางเงินสองพันให้ลุงพลเป็นสินน้ำใจ "เบสท์บอกให้รับไปไงคะ!!!"
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับครู!!!" ลุงพลพยายามปฏิเสธ ก่อนพยายามคืนเงินกลับให้ครูเบสท์ที่ยังปฏิเสธ "ผมไหว้ละครับ!!!"
"ไม่ได้ค่ะ!!!" ครูเบสท์เริ่มทำหน้าดุ "ถ้าลุงพลคืน เบสท์จะไม่คุยกับลุงแล้วนะคะ!!"
...ตายแล้ว ชั้นพูดอะไรออกมา? ภัคจิราทำหน้าเหลอหลาด้วยความตกใจ ลุงพลเองก็ไม่ต่างกัน ตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์แปลกใจไม่น้อย ที่เห็นครูเบสท์ที่ปกติดูน่ารักอ่อนหวาน จะออกลูกดื้อได้ถึงขนาดนี้
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับครู" ลุงพลยังคงพยายามขอคืนเงินสองพันให้ครูเบสท์ "มันเยอะไปครับ ผมรับไม่ได้จริง ๆ ผมขอคืนนะครับ!!"
"เบสท์เต็มใจค่ะลุง..." ภัคจิรายิ้ม "รับไปเถอะค่ะ ถ้าไม่รับเงินนี้ไป เบสท์จะไม่ไปอุดหนุนร้านน้ำเต้าหู้ของลุงอีกแล้วนะคะ!!!"
"อืม..." เห็นน่ารักแบบนี้ ดื้อเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย ครูเบสท์
"เอางี้ไหมครับ? ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยน" ลุงพลยื่นข้อเสนอ "ผมจะถือว่านี่เป็นค่าน้ำเต้าหู้ร้านผม ถ้าครูเบสท์มาอุดหนุนน้ำเต้าหู้ร้านผมวันหลัง ครูเบสท์ไม่ต้องจ่ายเงินอีก ตกลงไหมครับ?"
"อืม..." ภัคจิราครุ่นคิดอยู่สักพัก "ลุงพล ลุงนี่เป็นคนดีกว่าที่เบสท์คิดนะคะ เอางั้นก็ได้ ถือว่าแฟร์ ๆ กันทั้งสองฝ่าย ดีลค่ะ!!"
"เอ่อ? ดีลคืออะไรครับ?" คนขายน้ำเต้าหู้ถึงกับงงในงง มาดงมาดีลอะไร แกไม่รู้เรื่อง
"อ้อ!!! ภาษาอังกฤษน่ะคะลุง!!!" อาจารย์พยาบาลสาวใช้มือสางปอยผมที่พัดจากลม "ดีล (Deal) แปลว่าการทำข้อตกลงทางธุรกิจน่ะคะ อธิบายยาวไป เอาเป็นว่าตกลงค่ะลุง จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย ก็นับค่าน้ำเต้าหู้ที่เบสท์ไปอุดหนุนร้านลุงไว้แล้วกันนะคะ ถ้าครบสองพันเมื่อไร เบสท์จะจ่ายด้วยเงินปกติแทน"
"ครับ ได้ครับ" ลุงพลยิ้ม ก่อนที่ครูเบสท์จะขอตัวขับรถกลับบ้าน
ลุงพลยืนมองไฟท้ายรถยนต์ของครูเบสท์ที่แล่นออกไปพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก แกหยิบเงินสองพันที่ครูเบสท์ให้มา ด้วยความตั้งใจว่าจะใช้เงินนี้ไปทำบุญแทนที่จะเอามาใช้สอย เพราะแกไม่ได้เดือดร้อนอะไร
...ครูเบสท์นี่น่ารักทั้งกายและใจเลยนะ ลุงพลคิด พอคิดว่าเธอจะต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายแบบนั้น บางครั้งคนอย่างลุงพลก็อดสงสารไม่ได้เหมือนกัน หรือว่าพรุ่งนี้เช้าแกจะเดินเข้าไปหาครูเบสท์แล้วเตือนเจ้าตัวว่าอย่าเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาดี? ครูเบสท์จะฟังคนอย่างแกเหรอวะไอ้พล?
............................................
ในคืนนั้น หลังจากที่ลุงพลช่วยซ่อมรถให้ครูเบสท์ ลุงพลได้กลับไปที่บ้านอาบน้ำและเข้านอน แกได้ฝันเห็นอดีตชาติอีกครั้ง และคราวนี้ เป็นเรื่องราวของพลอยพรรณรายและภัคจิราวดี
"ท่านพี่พลอยพรรณราย!!! เหตุใดท่านถึงได้ไปกล่าวทำเท็จต่อท่านท้าวชุมพลศักดา!!!" ภัคจิราวดีผู้เป็นน้องเดินตามหลังพลอยพรรณรายผู้เป็นพี่เข้าไปในวิหารแห่งหนึ่ง
"มันเรื่องของข้า!!" พลอยพรรณรายตอบอย่างไม่ยีหระ "ท่านท้าวหน้าโง่อยากมาหลงใหลในเสน่ห์ของข้า ช่วยไม่ได้ดอกหนา"
ธิดาองค์โตแห่งเทพตุลาการสวรรค์ยิ้มอย่างพึงพอใจในความงดงามของตน พลอยพรรณรายคือเทพธิดาแห่งสรวลสวรรค์ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยสติปัญญา ความงาม รวมไปถึงความหยิ่งผยอง
"ท่านพี่?" ภัคจิราวดีร่นคิ้วราวกับไม่อยากเชื่อสายตา "ท่านรู้ฤาไม่ว่าการกระทำของท่าน อาจทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องเปิดฉากสงครามกับแดนปีศาจ"
"แล้วจะทำไม?" พลอยพรรณรายกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน "เดี๋ยวท่านท้าวชุมพลศักดาผู้เป็นจอมทัพสวรรค์ก็จักพิชิตศึกครานี้ได้ เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ภัคจิราวดี"
"แล้วท่านจะทำอย่างไรกับท่านท้าวชุมพลศักดา?" ภัคจิราวดีผู้เป็นน้องเอ่ยปากถาม "ท่านท้าวมีชื่อนั่งรออยู่นอกวิหารในสภาพอิดโรย ท่านจักใจไม้ไส้ระกำไม่ออกไปดูดำดูดีท่านท้าวหน่อยฤา?'
"บอกไปว่าข้าไม่อยู่" พลอยพรรณรายตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน "ข้าไปหาท่านพ่อ"
พอเอื้อนเอ่ยวาจาเสร็จ พลอยพรรณรายก็เดินจากไป ปล่อยให้ภัคจิราวดียืนนิ่งอยู่ภายในวิหารโบราณอยู่เพียงผู้เดียว ธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์รู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย กับการกระทำของพี่สาวของตน
"ท่านพี่? ท่านจักทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องลุกเป็นไฟเพราะสงคราม" ภัคจิราวดีส่ายหน้า ก่อนเดินจากไป
"สองพี่น้องคู่นี้ดูแล้วไม่ค่อยถูกกันเท่าไรนะ?" ลุงพลแสดงความคิดเห็น ในขณะที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่ภาพนิมิตแห่งความฝันจะถูกตัดไปเป็นภาพหน้าวิหารโบราณแห่งนั้น
ท่านท้าวชุมพลศักดานั่งพักในสภาพที่เต็มไปด้วยบาดแผล จากการตะลุยแดนปีศาจเพื่อนำหีบบรรจุสมบัติกลับคืนมา ระหว่างที่นั่งพักอยู่นั้น ภัคจิราวดี บุตรีคนรองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในชุดขอมโบราณ
"ภัคจิราวดี?" ท่านท้าวมีชื่อเอ่ยปากเรียกน้องสาวคนรองของพลอยพรรณราย "มีอะไรให้ข้ารับใช้ฤา?"
"ไม่มีดอกท่านท้าว" ภัคจิราวดียิ้ม ก่อนยื่นขันทองที่บรรจุน้ำทิพย์ช่วยสมานแผลให้ท่านท้าวมีชื่อได้ดื่ม "ท่านดื่มน้ำทิพย์นี่เถิด..."
"ขอบน้ำใจท่านมาก" ท่านท้าวชุมพลศักดารับขันทองจากมือของภัคจิราวดี ในจังหวะที่รับขัน มือของท่านท้าวมีชื่อก็สัมผัสกับมือของธิดาองค์ของแห่งองค์ตุลาการสวรรค์
ภัคจิราวดีแอบยิ้มที่มุมปาก ในขณะที่ท่านท้าวมีชื่อกำลังดื่มน้ำทิพย์จากสวรรค์อย่างเอร็ดอร่อย
"สดชื่นเหลือเกิน!!! พละกำลังของข้ากลับมาแล้ว!!! ข้าพร้อมแล้วที่จะออกรบกับกองทัพปีศาจอีกครา!!!" จอมทัพสวรรค์ดูสดชื่นมากขึ้น บาดแผลตามตัวเริ่มจางหายทีละนิด "ขอบน้ำใจท่านมาก ท่านหญิงภัคจิราวดี"
"ท่านท้าวชุมพลศักดา ท่านต้องขอบน้ำใจพี่สาวข้า มิใช่ข้าดอก..." ภัคจิราวดีตอบด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ
"ท่านหญิงพลอยพรรณราย!!!" ท่านท้าวมีชื่อยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อรู้ว่าน้ำทิพย์ที่ได้ดื่มสมานแผลและแก้กระหายถูกส่งมาโดยแม่หญิงพลอยพรรณรายผู้เป็นยอดดวงใจ
แน่นอน ลุงพลเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด น้ำทิพย์ที่ท่านท้าวมีชื่อ อดีตชาติของตนได้ดื่มนั้น เป็นน้ำทิพย์ที่ภัคจิราวดีนำมามอบให้ด้วยตัวเองต่างหาก แต่นางเลือกที่จะปิดบังความจริง
"ภัคจิราวดี ไม่ซิ ครูเบสท์..." ลุงพลเห็นภัคจิราวดีที่เหมือนจะทำหน้าเศร้าสร้อย กับการที่ตนเองไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงให้จอมทัพสวรรค์รับรู้ได้ ว่าตนเองก็มีใจรักท่านท้าวมีชื่อเช่นเดียวกัน
(https://www.img.in.th/images/907b5f49dd2786fb968de227ed593f93.jpg)
การที่ต้องแอบรักผู้ชายคนเดียวกับพี่สาว มันเป็นเรื่องที่ทรมานหัวใจเหลือเกิน? ท่านคิดเห็นเป็นเช่นไร? ท่านท้าวชุมพลศักดา
"เอ๋?" ลุงพลตกใจมาก เพราะอยู่ดี ๆ ภัคจิราวดีก็หันมามองลุงแกด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "ครูเบสท์เห็นผมด้วยเหรอ?"
"ท่านท้าว..." ภัคจิราวดีเอ่ยปากทั้งน้ำตา "ถ้าหากข้าจะขออะไรจากท่านสักอย่าง ท่านจักทำให้ข้าได้ฤาไม่?"
"ทำอะไรครับ? ครูเบสท์จะขอให้ผมทำอะไรให้ครับ?" ลุงพลถามภัคจิราวดี แต่แกก็ดันเรียกชื่อของธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยชื่อชาติภพปัจจุบัน
"ท่านจักหยุดทุกอย่างที่น้องสาวของข้าคนใดคนหนึ่ง หรืออาจจะเป็นท่านพี่พลอยพรรณรายในชาติภพปัจจุบันได้หรือไม่?" ภัคจิราวดียื่นข้อเสนอ "ข้าจักยอมเสียสละตัวเอง แบกรับกรรมของพี่น้องข้าทั้งหมด เพื่อให้พี่สาวของข้า และน้องสาวของข้าที่เหลือได้ใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ เพื่อสะสมบุญบารมีต่อไป จนกว่าจะถึงเวลาที่พวกนางจะสิ้นอายุขัย..."
"ทำไมครูเบสท์ถึงพูดแบบนี้ละครับ?" ลุงพลถาม "ผมรู้ว่าครูเบสท์คงอยากเสียสละ แต่การทำแบบนี้ ครูเบสท์จะต้องตายนะครับ"
"ท่านท้าว ท่านมิรู้ดอกว่าท่านจะต้องเจอกับอะไร หากท่านยังไม่หยุดกรรมนี้..." และแล้วน้ำตาของภัคจิราวดีก็กลายเป็นสายเลือด "ข้ารักท่าน ข้ามิอยากเห็นท่านต้องพบกับชะตากรรมที่แสนโหดร้าย..."
พอได้ยินในสิ่งที่ภัคจิราวดีพูด ลุงพลก็คิดได้ว่าองค์ตุลาการสวรรค์เคยให้ตนเองเห็นนิมิตรภาพความฝันถึงวาระสุดท้ายของตนเองมาแล้ว แต่แล้วยังไงละ คนอย่างแกทนไม่ได้ที่ต้องเห็นภัคจิราวดีหรือครูเบสท์ต้องมาเสียสละอยู่คนเดียว
(https://www.img.in.th/images/94c1a3bb0cea8c4f237e7f1fdc63138d.png)
(ลุงพล ชุมพล เทพเมืองแมน อาชีพ คนขายน้ำเต้าหู้)
"ครูเบสท์ครับ..." ลุงพลเดินเข้าไปหาภัคจิราวดี ในระหว่างที่เดินเข้าไป ชุดเครื่องแบบนักการภารโรงของแกก็เกิดประกายแสงอย่างน่าอัศจรรย์
"ท่านท้าว?" ภัคจิราวดีพยายามเอื้อนเอ่ยวาจาห้ามไม่ให้ลุงพลที่ตอนนี้สวมใสชุดนักรบโบราณเดินเข้ามา "อย่าเข้ามาใกล้ข้าโดยเด็ดขาด!!!"
"ทำไมเล่า ภัคจิราวดี?" ลุงพลที่ตอนนี้ได้กลายเป็นท่านท้าวชุมพลศักดา ได้เอื้อนเอ่ยวาจากถามธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "ข้ามิอาจปล่อยให้เจ้าต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายเช่นนั้นได้ ข้ายินยอมให้คนทั้งโลกมองข้าว่าเป็นคนมักมากในกาม มากรักหลายใจ แต่จักไม่มีวันย่อมปล่อยให้เจ้า ภัคจิราวดี ผู้มีใจรักในตัวข้ามาตั้งแต่อดีตชาติต้องพบกับชะตากรรมเช่นนั้น มาเถิด เข้ามาหาข้า..."
"ท่านท้าว..." ภัคจิราวดีเอ่ยปากทั้งน้ำตา "ข้ามิอาจผิดคำสัญญากับพี่สาวของข้าได้หรอกหนา...ท่านไม่รู้หรอกว่าพี่สาวของข้าเวลาโกรธเกรี้ยวนั้นน่ากลัวสักเพียงใด"
"ก็ช่างนางปะไร" ในที่สุด ท่านท้าวชุมพลศักดาก็ได้โอบกอดภัคจิราวดี "ข้าจักพูดกับนางเอง"
ภัคจิราวดีสงบนิ่งภายใต้อ้อมกอดของท่านท้าวชุมพลศักดา ในที่สุดความรักที่ต้องเก็บซ้อนไว้ก็ถูกเปิดเผยสักที เพียงแต่....
มันคือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ พลอยพรรณราย แม้นนางมิได้สนใจไยดีท่านท้าวมีชื่อนัก แต่นี่เรื่องของศักดิ์ศรีและเรื่องของหัวใจ สงครามระหว่างพี่น้องกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
............................................
ในวันรุ่งขึ้น ลุงพลกลับมาเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ตามปกติ ระหว่างที่นั่งว่าง แกก็นั่งคิดถึงภาพเหตุการณ์เมื่อวาน และภาพนิมิตความฝันที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าตัวแกเองคงหลีกหนีไม่พ้นชะตากรรมที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
"ลุงพลคะ?" ภัคจิราในชุดเดรส ปรากฏตัวขึ้นมาหน้าร้านของลุงพล "น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ชุดนึงค่ะ เบสท์จะไปกินที่ห้องทำงาน"
"ได้ครับ" ลุงพลยิ้มหวาน ก่อนหันกลับไปจัดน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้ลูกค้ากิตติมศักดิ์
"ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องเมื่อวาน" ภัคจิราเอ่ยปากขึ้นมา
"ไม่เป็นหรอกครับ" ลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้ยื่นถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้อาจารย์สาวคนสวย "นี่ครับ"
"สามสิบบาทใช่ไหมคะ?" ครูเบสท์ควักแบงค์ยี่สิบและเหรียญสิบให้ลุงพล "นี่ค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับครู!!!" ลุงพลรีบปฏิเสธ "ก็เราตกลงกันแล้วไง!!"
"ก็เบสท์เปลี่ยนใจแล้วนิคะ" ครูเบสท์ตอบอย่างไม่ยี่หระ "รับไปนะคะ!!"
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับ!!" ลุงพลพยายามปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ถูกครูเบสท์จับมือวางเงินเอาไว้บนมือของเจ้าของร้านจนได้
"ไม่ได้ค่ะ!!!" ภัคจิราทำหน้าดุ "ของซื้อของขาย..."
อะไรมันจะดื้อขนาดนี้เนี่ย ครูเบสท์ ลุงพลคิด แต่ว่า
"ลุงพล? เบสท์?" อยู่ดี ๆ พลอยพรรณก็ปรากฏตัวขึ้นมา ในมือของเจ้าหญิงน้ำแข็งถือถุงใส่ข้าวกล่องที่เธอตั้งใจทำมาให้ลุงพลได้กินในมื้อเที่ยง เธอเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ครูเบสท์และลุงพลจับมือถือแขนกัน "นี่มันอะไรกัน?"
(https://www.img.in.th/images/527c6a35497b64c7066d3d401451537d.jpg)
(หมอพลอย พลอยพรรณ จารุศิริการกุล (อาชีพ แพทย์หญิงประจำห้องพยาบาล)
"หมอพลอย!!!" ลุงพลและครูเบสท์หันไปมองหมอพลอยที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความตกใจ เรียกได้ว่าจังหวะนรกจริง ๆ เลยเชียว
พลอยพรรณดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นลุงพลที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะเลิกเจ้าชู้ มาจับมือถือแขนครูเบสท์ขนาดนั้น เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน จะเรียกได้ว่าเธอกำลังหึงตาเฒ่าก็ว่าได้
...เมื่อท้องนภามิอาจมีดวงจันทราถึงสองดวง สงครามระหว่างพลอยพรรณรายและภัคจิราวดีกำลังจะเริ่มต้นแล้ว ใครกัน จะเป็นที่สุดในหัวใจของท่านท้าวชุมพลศักดา หรือในชาติภพปัจจุบันก็คือลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้?โปรดติดตามตอนต่อไป...ตัวอย่างบางส่วนของตอนต่อไป เปิดหวอรอรัก ขอซ่อนนะ สำหรับคนที่อยากรู้สปอยด์หรือไม่ซีเรียสสปอยด์นะครับ ใครซีเรียส ปล่อยผ่านครับ 5555+ 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
โดนแน่ ๆ จัดเต็ม ครูเบสท์ เดอะ เบสท์
เดี๋ยวก็จะได้รู้แรงหึงขอหมอพลอยจะแรงขนาดไหนแล้วจะมีฉาก 2 -1กับลุงพลมั้ย
อยากเก็บเธอไว้ทั้ง 2 คน ลุงพลถูกใจสิ่งนี้ ::WooWoo:: ::WooWoo:: ::WooWoo::
ปกติผมเป็นfcหมอพลอยนะครับแต่ก็อยากให้มนุษย์ลุงจัดครูเบสเหมือนกัน มนุษย์ลุงจะแก้ปัญหายังไงเนี่ยปวดหัวแทนเลยครับ
บนท้องฟ้าไม่อาจมีดวงจันทร์สองดวง จัดไปเลยหมอพลอย
นั่งรอ นอนรอ ยืนรอสุดยอดนิยายแห่งปี
ไม่น่าเชื่อจะได้เห็นฉากหมอพลอยหึงลุงพล
หมอพลอยมาเจอจังหวะนี้ลุงพลจะแก้ตัวยังไงถึงจะไม่มีไรก็เหอะแต่ลุงพลสัญญากับหมอพลอยไว้แล้วนะว่าจะเลิกเจ้าชู้
งามไส้แล้วลุงจะแก้ไขสถานการณ์ยังไงล่ะที่นี้ตีโจทย์ไม่แตกอดแตกในนะลุง...หมอพลอยเวลาหึงนี่เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย
ขอบคุณมากครับ ถ้าให้เลือกผมคงเลือกใครไม่ได้ ที่เลือหมอพลอยเพราะได้อ่านลีลาหมอพลอยแล้วชอบ หยิ่งนิดๆ สเป็คเลยครับ
หมอพลอย ลงโทษลุงหนักหนักเลย เอาให้เดี้ยงไปเลยยยย
ทำอย่างไรดีครับ เพราะหากผมเป็นท้าวชุมพล ผมก็อยากจะเก็บไว้ทุกๆคนเลยน่ะครับ
จัดสามหนึ่งเลย หมอพลอย น้องแพรว ครธเบส ลุงพล
ใจนึงก็อยากจะเลือกหมอพลอยแต่ทำไงได้ ในเมื่อ เส้นทาง กามเทพ กำหนดไว้แล้วนิ....ยังไงๆก็ต้องเป็นไปตามฟ้ากำหนด ครูเบสท์ ยังไงก็ต้องตกเป็นของลุงพลอยู่วันยันค่ำนั้นหละ....เพียงแต่ว่า จะสามารถเบียดหมอพลอยตก
บรรลังก์เบอร์1 ได้รึไม่ ขึ้นอยู่ว่า ลุงจะมัดใจเธอได้ขนาดไหน.....แต่อย่าให้มันดูง่ายเกินไปนะครับ ไม่งั้นโปรไฟล์ของครูเบสท์ จะดร็อปลงทันทีเลย ตามความคิดผมนะ....แต่ก็อีกนั่นหละ มันขึ้นอยู่ว่า ไรท์ วางตัวละครตัวไหนเป็นตัวเด่น ตัวรอง เนื้อเรื่องมันจะพา คนอ่านไปตามแนวทางนั่นเอง ::Confident:: มีดราม่านิดๆ แล้วค่อยเก็บเควส ปราบบอส ปิดจ๊อบ ::DookDig:: ::Fighto:: หมอพลอย ต้องเหวี่ยงหน่อยนะครับช่วงนี้ ลุงพลต้องคิดหนักหน่อยนะ ::Horror::
อ้อ!?.....หนูทรายนี่ บทจะแรงก็ออกตัว จนลุงพลออกอาการไปไม่เป็นเหมือนกันนะคร้าบ.....อ่อยขนาดนี้ ไม่จับมาเบิร์นให้เข็ด แล้วค่อยเสียบพลน้อย ปลอยให้น้องๆวิ่งเล่นในมดลูกให้สนุก มันจะเสียเหลี่ยมลุงพลหมดน๊าาา.....คงถึงเวลาแล้วหละ....เนอะๆๆ ::WooWoo:: ::Shy::
ถ้า3Pหมอพลอยกับครูเบสส์ได้สวรรค์ของลุงพลเลยแหละคราวนี้
ตัวแม่มาแว้ว ป๋าพลสอยๆ
ลุงพลโดนหมอพลอยจัดการแน่
ถึงคิวครูเบสแล้วสินะ
ต้องตัดใจรวบทั้งสองเลย จะได้ปรองดองกันได้ซะที
จะได้เห็นหมอพลอยด้านมืด หึงแรงมาก
กระต่ายน้อยบนกำมือ
ถ้าให้เลือกผมก็หมอยพลอยรสแซ่บดี เย็นบ้างเข้มบ้าง หมอเบสนี่รอโดนทะลวงก่อนค่อยคิดอีกที แฮร่
หมอพลอยน่าจะมาแนว หึงโหดแน่นอน
ตอนต่อไปล่อซ่ะฮาเลย เปิดหวอรอรัก 5555
ชีวิตจริงมันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก
แบบนี้ลุงพลโดนเมียหยิกเนื้อเขียวแน่กล้าจับมือสาวอื่นต่อหน้าเมีย
สายจิ้น จินตนาการกว้างไกลอ่านยังไงเป็น ลุงพลเติมน้ำใส่หม้อครูเบสท์ 555
ตกลงจะเป็นเกมแย่งลุงของสองนางพญารึนี่
ถ้าเป็นผม จะเลือกหมอพลอยแค่นั้น
Boss 2 ภาค มาไฟต์กันแล้ว งานนี้ลุงพลเลือกใครนี่
มาต่อเนื่องเร็วๆดีมากครับ ไม่งั้นจะจำตอนเก่าไม่ได้
ช่วงนี้เชียร์ครูเบสคนเดียวเลยครับ
โดนจัดเต็มแน่ ๆ
ควบ2เลยค้าบลุง
เลือกยากมาก
ครูเบส เจอลุงพลเข้าไป สงสัยจะเปิดใจด้านมืดออกมาไม่แพ้ทุกคนแน่
อยากรู้จริงๆว่า หมอพลอย เวลาหึงจะโหดขนาดไหน
::Angry::อยากเห็นหมู่คับ
ลุงพลรับศึกหนักแน่ๆ
จัดหมอพบอยให้เชื่องก่อนลุง
ลุงพล มีทั้งหมอพลอยและครูเบสเลยนะ ไหวเหรอ สุขภาพไม่ดีนะ
ควบทั้ง2นาง ลุงรอดยาก ::DookDig::
ขนาดลุงพลยังเพ้อเลย
::HeyHey::ซวยแล้วลุงหมอพลอยระเบิดลงแน่
::Elder::ลุงจะโดนลวโทษจากหมพรอยมั่ยละนี้
เขียนชวนให้ติดตลอด ลุงคลำหม้อครู หม้อลวกมือลุง ลุงเอาน้ำรดหม้อ แถมมีฉากแสลงใจหมอพลอยด้วย คงต้องให้เอาน้ำเต้าหู้รกทั้งคู่ละหันนะครับ
ขอบคุณครับ
ก่อนได้น้ำเต้าหู้ สองสาวคงโดนสก๊อยปาดหน้าเค้กไปก่อนละครับ อิอิ
หรือว่าคนต่อไปจะเป็นครูเบสท์มาเร็วๆนะตอนต่อไปรอๆๆๆ
สงครามย่อมๆได้ก่อกำเนิดขึ้นแล้ว อยากรู้ว่าลุงพลจะผ่านสงสรามนี้ได้อย่างสะบักสะบอมแค่ไหนน๊าา
อยากเห็นช็อตครูเบสต่อจริงๆครับ
สุดยอดจินตนาการเลยครับท่านผู้แต่งสามารถให้ลุงพลกะหมอเบสมาสนิทสนมกันได้ FC พยามจะเดาแต่เดาไม่ตรงเลยแห่ะๆ
จังหวะนรกจริงๆครับ หมอพลอยหึงโหดแน่นอน
รอตอนสวิง หมอพลอย ครูเบส ลุงพล
อยากรู้เวลาหมอพลอยโกรธจะเป็นยังไง แล้วครูเบสจะรู้ไหมว่าหมอพลอยกับลุงพลเป็นอะไรกัน
งามไส้แล้วลุง รถไฟชนกัน
ยังไงก็ต้องจัดครูเบสก่อนครับ แล้วเรื่องอื่นๆค่อยหาทางแก้ไขทีหลัง 555
เอาจริงมันจะจบได้ Bad Endding ขนาดนั้นเลยเหรอรึมี True Endding ไหม
ตายแน่ไอ้ลุง ::Horror::
จัดครูเบสก์ไปเลยครับลุง...แต่จะต้องระวังหมอพลอยด้วยนะ...แรงหึงคงมากโขอยู่นะ
ลุงพลจะเลือกใครนะระหว่างหมอพลอยกับครูเบสท์หรือลุงพลจะเก็บไว้ทั้งสองคน
อยากเก็บเอาไว้ทุกคน
โอ้ว น่าอิจฉาลุงจริงๆ วาสนานำพา
น้องทรายแน่นวล ตอนหน้าเนี่ย จะได้เป็นคนแรกนอกรั้วมหาลัยสินะ ฮาๆ
เอาแล้วๆ มีคนหึง1อัตรา ไหนว่าอยู่ข้างนอกจะทำตัวปกติไงฮ่าบบ
เจ้าแม่มาแล้วมองตาเขียวเลย คงมีการประชดประชันกันแน่
หมอมาได้จังหวะทีเดียว..อารมย์หมอคงคุมยากแน่...แล้วลุงพลจะทำให้อารมย์หมอสงบลงได้อย่างไร...ทั้งๆที่เพิ่งรับปากหมอไปหยกๆแท้ๆ.ยังก่อเรื่องขึ้นมาอีก..หมอแกคงรู้ทันความในใจลุงพลด้วย..น่ห่วงลุงจังเลย ..
::HeyHey::ลุงพลจะโดนอะไรหรือว่าจะได้เมียเพิ่มอีก
เชื่อมั่นในลุงพลนะว่าแกน่าจะแถเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์นี้ได้ แต่อยากให้ลุงพลได้จัด 3P กับพลอยกับเบสท์
เปิดศึกแย่งคนแก่ซะแล้ว
รถไฟชนกันซะแล้วลุง ::DookDig::
ลุงพลจะตอบหมอพลอยยังไงละเนี่ย
จะได้ครูเบสท์หรือซำ้หมอพลอย
ผมขอเดาว่าคนต่อไปของลุงพลจอมหื่น คงไม่ใช่ครูเบสท์หรอกครับ แต่ที่ผมมั่นใจคือผมเริ่มหลงรักครูเบสท์เข้าแล้วสิครับ แฮ่
ที่จริงอยากให้ลุงพลหยุดที่หมอพลอยนะ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว...เอาให้สุดเลยลุงพล
งานนี้นางฟ้ามีตบกันแน่นอน
นางเอกคนที่สองมาแล้วครับ
ครูเบสท์ทำคะแนนตีตื้นได้ดีครับ กว่าจะถึงฉากบู๊อาจจะสูสีหมอพลอย
ระเบิดครับ 55 หมอพลอยระดบิดเลยต้าาา
เจอแบบนี้ แก้ตัวลำบากเลย
ครูเบสคนสวยจะต้องอยู่ในครอบครัวลุงนะครับ อย่าให้หลุดไปไหน
เอาแล้วลุงพล เมียหลวงปะทะว่าที่เมียในอนาคต
หมอพลอยสู้ๆ
จะมีฉากควบ 2 สาวอย่างหมอพลอยกับครูเบสพร้อมกันมั้ยน้า
ฉากหมอพลอยหึงแบบนี้ แต่ก่อนคงนึกไม่ถึง แต่จังหวะนี่ นรกจริงๆเลยลุง ::DookDig::
หมอพลอย นี้น่าจาหึงแรง ลุงพลนี้ โชคดี จริงๆมีแต่สาวๆมารุม
ไม่โหวตได้ไหม ชอบทั้งสองคนเลย ใจอยากจะสร้างโลกย่อยๆสองโลกให้แต่ละคนเป็นดวงตะวันเลยครับ ว่าแต่เปิดหวอนี่ใครนะ..
ซวยแล้วครับลุง
นี้สินะ ศึกนางฟ้า ของจริง
มาแล้วรถไฟชนกัน งานเข้าลุงพลแล้ว
จอมหื่นต้องเจอบทโหดของเจ้าหญิงน้ำแข็ง
ทำไมต้องเลือกอะ ระดับลุงพล 5p ยังมีมาแล้ว นี่หมอแค่ 2 คน จัดคู่เลย อ้อ เมื่อไหร่ โดนัทจะกลับมาส่งส่วยบ้าง คิดถึงๆๆ
ลุงพลตายๆๆๆๆ หมอพลอยก็มาจังหวะดีเหลือเกิน ลุงพลจะทำยัไงดี จุดเปลี่ยนของเรื่อง นางเอกกลายเป็นนางร้าย สุดยอดพร็อตเรื่องจริงๆ
หมอพลอยจากที่เคยหยิ่ง ตอนนี้กลายเป็นมาหึงซะงั้น ลุงพลน่าจะเจองานยากแล้วล่ะ
สาวๆต้องมีปัญหากันเพราะลุงอีกแล้วหรอ ::DookDig::
ลิ้มลองครูเบสท์ดีกว่าครับลุงพล หมอพลอยแกไปไหนไม่รอดหรอก
ลุงพลเก็บแต้มกับสาวๆได้หมดหรือยังงยังเหลือสาวๆอีกกี่คนเนี่ย
ครูเบสถ้าเจอของลุงพลเข้าไปจะเป็นยังไงนะ แล้วหมอพลอยรู้เรื่องเข้าจะเกิดอะไรขึ้น
เลือกคนใดคนหนึ่งก็เลือกยากควบทั้งหมอพลอยกับครูเบสที่เดียวไปเลยดีกว่า
ใจเย็นหมอพลอย
เงินก็อยู่ในมือ แถมยังอยุ่กลางโรงอาหารอีก คนก็เยอะ อย่าพึ่งเลือดขึ้นหน้า
ลุงพล เบส ทราย เรื่องราวดำเนินต่อไป
ศึกชิงลุงยกที่ 1 เริ่มได้
ลุงพลโว้ย...เมียมาหาที่หลบด่วน
อย่าทะเลาะกันเลยสามัคคีกันใว้แบ่งกันกินลุงพลโชสวิงสองนางเอกหน่อยครับเอาให้ทิชชูหมดไปสักสองม้วน
เปิดหวอรอรักน่าอ่านจัง
เก็บไว้ทั้งสองคนซ้าย ขวาแล้วก็ลดลำดับนางสนมต่อๆกันมา
งานเข้าแล้วลุงพลแบบนี้ต้องจับมาสั่งสอนให้ปรองดองกันเหมือนเด็กๆแล้วละ
โอ้วววว หมอพลอย dark side เริ่มเปิด
เดียวโดนจัดหนักจนได้ครูเบส
เปิดเคลียร์ใจไปเลยครับ...ความสมัครสมานมีอยูจริง หมอพลอยพี่ใหญ่ หมอเบส พี่รอง น้องๆที่เหลือก้อต้องปรับตัวเรียงลำดับให้ดี...มีใครฮึดฮัด ปล่อยหลุดวงโคจร
ระดับลุงพลแล้วนั้น ได้ควงสองเป็นแน่แท้
จะเกิดศึกชิงลุงพลหรือไม่
ลุงพลได้ใจครูเบสท์ไปเต็มๆเลย
รอๆครับมาเร็วๆนะครับ
ลุงพลหัวแตกแน่เลย สงสารลุงพลจัง เอ้หรือว่าสงสารตัวเองดีวะ มีเมียไม่เท่าลุงพล 555
งานเข้าลุงพลซะแล้ว จะมี2-1มั้ย ตอนง้อขอแตกในนะลุง555
เอาแล้วศึกนะหว่างพี่น้อง
ลุงพลเหมือนคนเมาปีนเสาโทรศัพท์ครับ พอหายเมาแล้วหาทางลงไม่เจอ ::HoHo::
อยากรุ้จังเบสสาวเหนือจะหวานเหมือนหมอพลอยไหม
สำหรับผม ยังไงหมอพลอยก็เป็นเบอร์1เสมอ ยังอยา่กอ่านที่ลุงพลได้ล่อหมอพลอยในเร็วนี้นะครับ ::Angry:: ::Angry:: ::Angry::
ตอนนี้ขอต่ออีกยาวๆเถอะครับท่านผู้ประพันธ์ ่อยากอ่านตอนที่หมอพลอยใช้วาจาเชือดเฉือนกับครูเบสเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของลุงพลจริงๆ จากนั้นค่อยให้ท่านท้าวลุงพลไปนั่งกลุ้มใจเอานิ้วกลางเขี่ยทรายเล่นก็ไม่สายนะครับ
หวังว่าจะลงเอยด้วยดีทั้งสามคน
ต้องทำบุญด้วยอะไรถึงจะได้อย่างลุงพลครับ ขอแบบไม่ต้องรอถึงตอนแก่ด้วยนะ ฮ่าๆๆๆๆ
ลุงพลโดนหึงระวังจะถูกเจี๋ยนโยนให้เป็ดกินนะ
หมอพลอยทำอาหารให้ลุงพล ถ้าครูเบสถามจะตอบยังไง
สงสารลุงพลจัง ต้องดูแลเมียๆ จนสาหัส
ทำบุญด้วยอะไรจึงจะได้อย่างลุงพลครับ
ถคงคราวครูเบสโดนเปิดหวอหรือเปล่านะ
ไปๆมาๆชักหลงรักครูซะเเล้ว
จะมีฉาก 3p ลุงพล หมอพลอย ครูเบสท์ไหมน่ะ
ลุงพล อย่าขืนใจครูเบสนะ ทำ่อย่างไรก็ได้ให้ครูเบสยอมโดยดี
ลุงพล จะทำยังไงต่อไป เมื่อ หมอพลอย เข้าใจผิดซะแล้ว
น้องทรายแน่นวล ตอนหน้าเนี่ย จะได้เป็นคนแรกนอกรั้วมหาลัยสินะ ฮาๆ
บทจัดครูเบสท์ต้องสร้างความมัน ไม่แพ้แพรวพรรณแน่ๆ ฮา ฮา
โอ้โห ท่านท้าว สองพี่น้องสุดสวยจะต้องมาห้ำหั่นกันเอง เพราะท่านท้าวเลยนะครับเนี่ย
นึกภาพหมอพลอยร้ายไม่ออกเลยยยย
หมอพลอยหึงลุงแล้วสิ
ลุงพลขะเเก้จัวยังไงล่ะทีนี้ ถ้าหมอพลอยมาเห็น
เส้นทางนี้ยากเกินที่จะรับ สุดท้ายก็อาจไปกันคนละทาง หมอพลอยฝากรอยเล็บไว้ข้างขวา ครูเบสท์ฝากรอบตบไว้ข้างซ้าย
ศึกสองนางพญาเริ่มขึ้นแล้ว ขุนแผนพลจะมีแผนเด็ดอะไร ที่จะได้ทั้งสองมาฟิทเจอริ่ง
เอาแล้วหมอพลอยมาเจอจนได้ อย่างงี้ลุงพลได้ปลอมใจหมอพลอยจนช่ำใจแน่ๆ
ยังยืนยันว่าหมอพลอยดีที่สุดจริงๆ
หมอพลอยจะหึงลุงพลไหมเนี่ย
ทั้งชาติก่อนและชาตินี้หมอพลอยก็ยังหึงเหมือนเดิม
สงครามพี่น้องเริ่มแล้ว หมอพลอยจะร้ายถึงขนาดไหนเนี่ย แล้วลุงพลจะทำยังไงต่อไป
หมอๆพลอยๆๆต้องที่1น่ะคุนลุง
เชียร์ครูเบสท์ แน่นอนที่สุด
ลุงพลจะต้านแรงหึงหมอพลอยไหวไหมนะ
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดท่านท้าวชุมพลจะเคลียร์ไหวไหม
หมอพลอยจะจัดการลุงพลยังไง ต้องลุ้นต่อ เอ๊ะหรือว่าลุงพลจะจัดการหมอพลอยแทน ::Oops::
โดนหมอพลอยหมั่นไส้ครูเบสแน่ๆ
ลุงพลคงไม่ปล่อยผ่านแต่จะเข้าหาแบบไหนกัน
ลุย 2 สาวพร้อมกันเลยลุงพล
ลุงพลระวังรถไฟขบวนด่วนพิเศษ 2 ขบวนชนกันนะครับ
สงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นแล้ว โชคดีนะลุง ขอบคุณครับ
สำหรับผม หมอพลอยเมียหลวง เด็ดสุดครับ
หมอพลอยมาเห็นจังหวะนรกจริงๆ ลุงพลตามง้อด่วนเลย
จังหวะดีสุดๆเลยลุง
ลุงพลจะจัดการยังไงให้ความรักลงตัวหละเนี่ย
อย่านะถ้าจะมีฉากตบตีกัน. สงสารหมอพลอยจะเอาหน้าไปไว้ใหนแย่งภารโรงแก่ๆคนหนึ่ง
ลุงก็ต้องเป็นของพลอบคนเดียว
ไม่งั้นจับเชือดนะคะ
ใครจะเป็นไรก็ช่าง ไม่สน
ศึกชิงลุงกำลังจะเกิด ได้แต่หวังว่าหลังจากห้ำหั่นกันแล้วสุดท้ายจะทำใจยอมอยู่ร่วมฮาเร็มเดียวกันได้นะ อิจฉาลุงพลจริงๆ
เมื่อไหร่ครูเบสท์จะเสร็จซักที่น้อ
แน่นอนยังไงครูเบสท์ก็เสร็จลุงสุดท้ายอยู่ดี แต่เนื่องจากเป็นลาสท์บอสดังนั้นการปราบจะต้องมีอุปสรรค เพื่อให้ลาสท์บอลดูมีอะไรบ้าง และดูจากการดำเนินเรื่องคู่ปรับที่น่าจะสมน้ำสมเนื้อน่าจะเป็นหมอพลอยของเราที่จะต้องรับบทเด่นในการช่วยให้ครูเบสท์มีคุณค่ามากขึ้น ดูจากผลโหวตแฟน ๆ ดูท่าจะชอบหมอหลอยมากกว่า เพราะครูเบสท์ยังไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร แต่ต่อไปครูเบสท์จะเริ่มมาเก็บคะแนนจากผู้อ่าน รัว รัว น่าจะทำคะแนนสู้หมอหลอยได้ไม่ยาก เช่นเคยความยากของสาว ๆ แต่ละคนจะทำให้พวกเธอมีคุณค่ามากขึ้น ...ยิ่งได้มายากเท่าไร ก็ยิ่งท้าทายลุงพลเท่านั้น...โดยเฉพาะคนสุดท้าย
รอ ครูเบสมานาน
หวังว่าจะเติมเต็มลุงได้นะ
โอยตายแล้ว ครูเบสท์วางงาน
ครูเบสท์ทำคะแนนตีตื้นได้ดีครับ
ขอบคุณครับสนุกมากครับ
ลุงพลจะเก็บไว้ท้ังสองคนเลย
เบสท์ vs หมอพลอย ว่ะฮู้
ใกล้ถึงคิว หมอเบสแล้วซินะ
เจอแบบนี้ แก้ตัวลำบาก
น้องพลครับพี่พลครับแบ่งๆให้น้องบ้างก็ได้นะครับ ::Me?:: ::Thankyou::
วันนี้ได้อ่าน 4 ตอนล่ะ หายคิดถึงเลยครับ
น้ำบานกันอีกแล้ว พี่น้อง
ครูเบสท์ก่อนเถอะลุงพล มาถึงขนาดนี้แล้ว ค่อยไปง้อหมอพลอยทีหลัง
ลำบากใจแย่ เลือกระหว่างหมอพลอยกับครูเบสท์
หมอยพลอยหึงลุงพลซะแล้ว ลุงพลคงคิดใจใจอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน555
หมอพลอย ลงโทษลุงให้หนักเลย
.
เพื่อนรักอย่ามาทะเลาะกันเพราะลุงพลเลย Swing กับลุงพลไปเลย
หมอพลอยหึงแล้ว แต่เอาจริงๆก็เลือกไม่ถูกนะครับ ส่วนมากก็คงเลือกเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
เมื่อไหร่หมอพลอยกับครูเบสท์จะเข้ากันได้นะ..อยากเห็นลุงพลโดนรุม อิอิ
หมอพบอยจะกลายเป็นตัวร้ายไปได้ยังไง ไม่จรืงใช่ไหม
ลุงพลนี่โชคดีจริง
ถ้าต้องเลือกสักคน เอาใครก็ได้ที่ไม่ใช่ เฟริน
จะได้เห็นศึกใหญ่ก็งานนี้เหระ
::Glad:: เสียว
เป็นลุงพลคงต้องทำตัวลำบากแล้ว
ใจนึงผมก็คลั่งใคล้บอสภาคสอง ใจนึงผมก็เสียดายความละมุนของหมอพลอยไม่ได้ ยิ่งหลังๆน้องอุ๊มาแรงมาก ถ้าต้องเลือกใครสักคนนี่คงลำบากใจเหมือนลุงแกว่าแหละครับ แจ่มๆทั้งนั้นเลย
ถึงเวลาหมอพลอยจะร้ายใส่ลุงพลแล้วใช่มั้ย
::Hungry:: โดนแน่ ๆ จัดเต็ม ครูเบสท์ จริงๆน่าจะทิ้งช่วงบ้างน่ะลุง
ลุงพลชมจันทร์ทั้ง2ดวงเลย
ยอดเยี่ยมจริงๆ
::Grimace::
เอาแล้วศึกชิงนาย อิอิ
สนุกครับ
::Ahoo:: ::Ahoo:: ::Ahoo:: ::Ahoo:: ::Ahoo::
ขอบคุณครับ
สงสัยลุงได้ทั้งสองแน่ๆ
ครูเบสท์ต้องโดนแล้วล่ะ รอบนี้
อ้างถึงถ้าคุณเป็นลุงพล คุณจะเลือกใคร 'พลอย' หรือ 'เบสท์'
เราขอให้ได้เจ๊สหมด ไม่ต้องเลือก
เหมือนกับดาวเคราะห์บางดวงที่ท้องฟ้ามีดวงจันทร์ได้หลายดวง
ไม่ต้องโลกก็ได้
สำหรับผมตอนนี้หมอพลอยก็ยังเป็นอันดับหนึ่ง
ครูเบสคนสวยจะต้องอยู่ในครอบครัวลุงนะครับ อย่าให้หลุดไปไหน
ยิ่งอ่านยิ่งเพลิน
สงสัย ลุงจะเก็บให้หมด
ลุงเก็บให้หมดน่ะถูกแล้ว แต่ผมก็ยังอยู่ทีมหมอพลอย
เมื่อไหร่ครูเบสท์จะโดนลุงนะ
ครูเบสต้องให้ลุงพลช่วยแล้วล่ะ
::Punch::
หมอพลอยเริ่มหึง แล้วนะลึง
หมอกับครู
จะปล่อยให้ตายได้ไงเสียดายของแย่ สวยๆ แบบนี้ต้องจัดการให้เข้ามาอยู่ในฮาเลม ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo::
จริงแท้แน่นอน
เดี๋ยวก็จะได้รู้แรงหึงขอหมอพลอยจะแรงขนาดไหนแล้วจะมีฉาก 2 -1กับลุงพลมั้ย
ระดับลุงพล คงต้องเหมาทั้งหมดแล้วล่ะ
ไม่ต้องทะเลาะกันนะครับ ลุงรับไหว 1-2
ฉากนี้ดูคุ้นๆ เดจาวู
น่าอิจฉาลุงพลจริงๆ
จัดเต็ม ครูเบสท์
รอให้จัดครูเบสมานานแล้ว
ขอบคุณครับ
ใจเย็นครับ
ลุงมันจะมีเป็นโหลแล้ว
มีดวงจันทร์สองดวงไม่ได้ครับ เดี๋ยวฟ้าเหลือง
จังหวะนรกของจริง โดนฮาคิหมอพลอยแน่
จังหวะ นรกชัดๆ เห้อ
ตามต่อครับ
เสน่ห์แรงจริง ๆ ลุงพลของเรา
ครูเบสท์ก่อนเถอะลุงพล มาถึงขนาดนี้แล้ว ค่อยไปง้อหมอพลอยทีหลัง
จิ้มให้หมดทั้ง มหาลัยพยาาบาลเลยฮะลุง
น่าอิจฉาลุงพลจริงๆ
กรหลอนเลย
ไม่น่ายากสำหรับพลพลังม้า
::YehYeh::
อ้างจาก: nato87 เมื่อ พฤศจิกายน 27, 2020, 04:56:39 หลังเที่ยง
พูดคุยก่อนอ่าน : กลับมาแล้วครับ สำหรับเกมรักปีสองตอนที่ 11 อย่างที่ผมได้บอกไปหลายครั้งละ ครูเบสท์จะมีบทบาทเด่นมากขึ้น และหมอพลอยจะต้องเป็นตัวร้าย ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในตอนนี้แล้วครับผม สำหรับตอนนี้ จะมีฉากเล่าย้อนอดีตด้วยนะครับ ค่อนข้างจะจักร ๆ วงศ์ ๆ ลิเก ๆ สักหน่อย 555 ตอนนี้ช่วงครึ่งแรกอาจน่าเบื่อสักหน่อย มันเกี่ยวกับการซ่อมรถนะครับ แต่ฉากนี้ ผมได้พยายามถ่ายทอดความเป็นครูเบสท์ให้ทุกคนได้เห็นกันมากขึ้น ว่าเธอเป็นคนที่มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร พวกคุณคิดว่าจะชนะหมอพลอยในบั้นปลายหรือไม่ ลองบอกผมมา
ขอโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกนิด ตอนนี้ 'ภารโรงเฟี้ยว...เกี้ยวเด็กพยาบาล' เล่ม 3 ได้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตามลิงค์ด้านล่าง
(https://www.img.in.th/images/185ca921ae9be96e82035a7273300a1f.gif)
ลิงค์อยู่ด่านล่างนะครับ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiODU1MjYwIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTM5MjUzIjt9&page_no=1
สำหรับตอนหน้า 'เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 12 : เปิดหวอรอรัก' เห็นชื่อตอนก็น่าจะรู้นะครับว่าจะพบกับอะไร ฉากอีโรติกเน้น ๆ จัดเต็ม ๆ ครับผม แต่ผมไม่บอกหรอกนะว่าลุงพลจะได้ใคร 555555
######################
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
https://xonly8.com/index.php?topic=236496.0
อ้างถึงตัดมาทางฝั่งครูเบสท์ หลังจากเลิกงาน เธอก็แวะขับรถไปหายัยอิมเพื่อนรักเพื่อกินข้าวเย็นด้วยกัน พร้อมกับพูดคุยถึงการนัดมีทติ้งในกลุ่มคณะพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
"ทับทิมตอนนี้อยู่ไหน แล้วจะกลับไทยเมื่อไร?" ครูเบสท์เอ่ยปากถามยัยอิมเพื่อนรัก ที่ผันตัวไปเป็นดีไซนเนอร์และนักธุรกิจ
"มันบินอยู่กาตาร์ บ่นคิดถึงไทย อยากกลับมาทำงานที่ไทยใจจะขาด" ยัยอิมตอบ "เห็นว่ามันคบกับหนุ่มนักธุรกิจแขกที่นั่นด้วยนะเบสท์ โคตรรวย"
อัมพรเปิดอินสตาแกรมของยัยทับทิมเพื่อนร่วมคณะพยาบาลศาสตร์ให้เบสท์ดู อาจารย์สาวถึงกับร้องว้าวในชีวิตสุดหรูและสุดปังของยัยทับทิมเพื่อนรักที่เป็นแอร์โฮสเตสสายการบินระหว่างประเทศที่ตะวันออกกลาง ในกลุ่มสามใบเถาจากคณะพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ กล่าวได้ว่าทับทิม คือนัมเบอร์วันตัวจริงของกลุ่ม ที่แม้แต่อัมพรและภัคจิรายังต้องยอมรับ
"ชีวิตยัยทับทิมนีดี๊ดีเนอะ ว่าไหม?" ยัยอิมแสดงความคิดเห็น ขณะกำลังเลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟนดูชีวิตของทับทิม สาวไฮโซประจำกลุ่ม
"ใช่..." ครูเบสท์ยิ้ม "สงสัยอีกหน่อยคงได้เป็นเจ้าสาวแขกแล้วละเพื่อนเรา"
สองสาวอดีตนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์พูดคุยสนทนาในมื้อเย็นภายในร้านอาหารที่ดูเรียบง่ายแต่แอบแพงใจกลางเมือง ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านทางใครทางมัน
"อิม..." ภัคจิราเอ่ยชื่อเพื่อนรัก "ถ้านัดรวมเพื่อน ๆ ได้ครบทุกคนเมื่อไร ก็แท็คหรือไลน์มาบอกชั้นด้วยนะเว้ย"
"ได้จ้า!!!" ยัยอิมยิ้มหวาน "บางทีชั้นอาจจะลองหาหนุ่ม ๆ โปรไฟล์ดี ๆ แนะนำให้แกได้รู้จักนะ เปิดใจมองหาตัวผู้บ้างได้แล้วแก จะได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที ชั้นมีผัวมีลูกแล้วนะเว้ย สงสารชั้นบ้าง"
"ไม่เอาอ่ะ ชั้นอยากทรมานแกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ" ภัคจิรายิ้ม ก่อนโบกมือลาเพื่อนรักเพื่อกลับบ้านทางใครทางมัน อาจารย์สาวเดินมาที่โรงจอดรถหลังร้าน เพื่อขับรถ Honda Civic สีบลอนด์กลับบ้านแถวพัฒนาการ
ทุกอย่างดูปกติในช่วงค่ำคืนใจกลางมหานคร จนกระทั่งภัคจิราสัมผัสได้ถึงความปิดปกติของเครื่องยนต์ เมื่อควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากหน้ากระโปรงรถ พอเห็นท่าไม่ดี อาจารย์สาวเลยเลี้ยวรถจอดข้างทาง เพื่อตรวจสภาพรถ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลยแม้แต่น้อย
"โอ้ย!!! รถมาเสียอะไรตอนนี้เนี่ย!!!" ภัคจิราเปิดกระโปรงหน้ารถดู เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกเลยแม้แต่น้อย อาศัยว่าแต่ขับอย่างเดียว นาน ๆ ครั้งถึงจะพารถเข้าอู่ไปเช็คสภาพ "แล้วจะทำยังไงเนี่ย!!!"
นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว ภัคจิรารู้ดีว่าเธอเป็นผู้หญิง และมันไม่ปลอดภัยเอาซะเลยที่รถของเธอมาเสียใจกลางเมืองแบบนี้ จะไปตามช่างที่ไหนได้บ้างในเวลาตอนนี้? หรือจะทิ้งรถเอาไว้แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาวัดดวงกันว่ารถยังอยู่ที่เดิมหรือว่าอาจถูกตำรวจลากไปดี?
"แล้วจะทำยังไงเนี่ย!!!! โอ้ย!!!!" อาจารย์สาวจับโน่นจับนี่ จนคราบเขม่าติดมือ ภัคจิราทำหน้ามุ่ยด้วยความกังวล จนกระทั่งลุงพลที่บังเอิญขับรถมอเตอร์ไซค์ไปจ่ายตลาดแถวนั้นแวะมาเจอเข้าพอดี
"ครูเบสท์? ครูเบสท์ใช่ไหมครับ?" ลุงพลชะลอรถเพื่อถามอีกฝ่าย "รถเป็นอะไรครับครู?"
"รถเสีย สตาร์ทเครื่องไม่ได้เลยค่ะลุง" ภัคจิราดูใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นลุงพลปรากฏตัวต่อหน้า "ช่วยเบสท์หน่อยนะคะลุง เบสท์ไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลย"
ลุงพลยิ้มให้ครูเบสท์ ก่อนถอดหมวกกันน็อคแขวนไว้ที่ตะกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซค์ เพื่อช่วยดูอาการรถยนต์ Honda Civic ของครูเบสท์ให้
"โอ้ย!!! ควันโขมงเลยแหะ!!!" ลุงพลยืนตรวจเครื่องยนต์รถของครูเบสท์ "ไม่แน่ใจว่าน้ำกลั่นแห้งหรือรั่วนะครับครู แต่ต้องรอก่อน เปิดดูหม้อน้ำตอนนี้มีหวังมือพองแน่"
"ค่ะ รบกวนด้วยนะคะลุงพล" ภัคจิราดูกังวลใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มไลน์ระหว่างรอ
ลุงพลแอบชำเลืองมองครูเบสท์เป็นระยะ ระหว่างยืนอยู่หน้ากระโปรงรถครูเบสท์ จนกระทั่งไปเหลือบเห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นมาด้วยความเร็วจากด้านหลัง
"ครูเบสท์ ระวังรถครับ!!!!" ลุงพลเอ่ยปากเตือนครูเบสท์ที่ยืนพิมพ์ไลน์บนสมาร์ทโฟนอยู่ โดยไม่รู้ว่ามีคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นมาอย่างรวดเร็วจากด้านหลัง
"ปรี๊ด!!!!" เสียแตรรถมอเตอร์ไซด์ดังลั่น ครูเบสท์พอหันไปก็ร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่ลุงพลจะดึงร่างของเธอออกมาได้ทันควัน
"เป็นบ้าอะไรน่ะคนสวย!!! อยากตายเหรอ!!!" ขาซิ่งคนนั้นหันมาด่าครูเบสท์ด้วยความโกรธ ก่อนบีบคันเร่งหนีไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
"เอ่อ..." ครูเบสท์ตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของลุงพลที่เข้ามาช่วยด้วยการดึงร่างของเธอออกมา เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ลุงพลและครูเบสท์ได้มองตากันในระยะเผาขนแบบนี้
"ครูเบสท์..." ลุงพลมองอาจารย์สาวตาไม่กระพริบ งดงามเหลือเกิน ภัคจิราวดี ผู้มีศักดิ์ไม่แพ้พลอยพรรณรายผู้เป็นพี่สาวแห่งองค์ตุลาการสวรรค์
######################
เรียกว่าลุงพลได้ช่วยครูเบสท์จากนาทีวิกฤติ หญิงสาวผู้สูงศักดิ์และเพรียบพร้อมไม่แพ้หมอพลอยแห่งวิทยาลัยพยาบาลตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของสุภาพบุรุษสูงวัยอย่างลุงพล
"เอ่อ..." ภัคจิรามองหน้าลุงพลตาแป๋ว ราวกับว่าเธอกำลังต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่าง ทำไมเธอถึงรู้สึกผูกพันกับผู้ชายอายุหกสิบกว่า ๆ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นคนนี้เลยแม้แต่น้อยกันนะ
ในขณะที่ลุงพล ตาเฒ่ามองหญิงสาวตาไม่กระพริบ งดงาม น่ารัก เธอเพียบพร้อมไม่แพ้หมอพลอยเลยแม้แต่น้อย เมื่อมองลึกลงไป ลุงพลรู้สึกหลงใหลในความอ่อนหวานของดวงตาคู่นั้น
"ภัคจิราวดี..." ลุงพลเผลอเอ่ยปากชื่อจริงของครูเบสท์ด้วยชื่อเก่าเมื่ออดีตชาติ ทำเอาอาจารย์สาวถึงกับตื่นจากภวังค์ด้วยความตกใจ
"เอ่อ...ลุงพลคะ?" ครูเบสท์ที่ได้สติเอ่ยปากขึ้นมา "ปล่อยเบสท์ได้แล้วมั้งคะ?"
"อุ้ย!!! ขอโทษครับครู!!!" ลุงพลรีบปล่อยครูเบสท์ออกมา ฝ่ายหญิงสาวดูมีท่าทางเขอะเขินและประหม่าอย่างเห็นได้ชัด "ขอโทษนะครับครู ผมไม่ได้ตั้งใจ!!!"
"ไม่เป็นไรค่ะ..." ครูเบสท์เอามือเสยปอยผมแก้อาการประหม่า หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด เธอถึงได้มีอาการหวั่นไหวกับลุงพลมากถึงขนาดนี้
"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปดูรถให้ครูต่อนะครับ" คนขายน้ำเต้าหู้รีบเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ตาลุงเดินกลับไปดูที่หน้ากระโปรงรถของครูเบสท์เพื่อตรวจเช็คสภาพหม้อน้ำรถยนต์ของอาจารย์สาว ลุงพลลองเอามือจิ้มหม้อน้ำรถครูเบสท์ ก่อนที่จะรีบดึงมือออกเพราะหม้อน้ำรถยังร้อนฉ่าอยู่
(https://www.img.in.th/images/6f2a7b9809d20458225982fcf7ea9034.jpg)
(ครูเบสท์ - ภัคจิรา นฤนารถไมตรี (อาจารย์ประจำภาควิชาพยาบาลศาสตร์)
"เป็นยังไงบ้างคะลุง?" ภัคจิราถามด้วยความซื่อ เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์มากนัก
"ร้อนครับ!!!" ลุงพลหันไปตอบด้วยรอยยิ้ม "หม้อน้ำรถครูเบสท์ร้อนจี๋เลยครับ!!!"
"ทำไมต้องมาเสียตอนนี้ด้วยนะ!!" อาจารย์สาวบ่นกับตัวเอง ก่อนเหลือบไปเห็นร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ไม่ไกล "ลุงพลคะ? เดี๋ยวเบสท์แวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก่อนนะคะ"
"ครับ ได้ครับ" อดีตภารโรงเก่ายิ้มรับ ก่อนหันกลับมาตรวจสภาพเครื่องยนต์รถของครูเบสท์ในส่วนอื่น ๆ ต่อ แต่ก็ยังไม่วายแอบหันไปมองครูเบสท์เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ
ครูเบสท์ดูเป็นสาวเรียบร้อย แต่ความรู้สึกของลุงพลรู้สึกว่าอาจารย์สาวคนนี้แอบซ่อนรูป และมั่นใจได้ว่าภัคจิราคนสวยจะต้องเด็ดดวงไม่แพ้เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างพลอยพรรณแน่นอน
พอครูเบสท์หายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ลุงพลก็หยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาเปิดโหมดไฟฉายเครื่องยนต์กระโปรงหน้ารถของครูเบสท์ โดยเฉพาะตรงหม้อน้ำที่ยังมีควันลอยโขม่งอยู่ ทำให้ลุงพลคิดว่าบางทีหม้อน้ำอาจจะแห้งก็เป็นได้
"มาแล้วค่ะ!!" ครูเบสท์เดินกลับมาพร้อมถุงพลาสติก ภายในมีน้ำเปล่าและน้ำอัดลมที่อาจารย์สาวตั้งใจซื้อมาฝากให้ลุงพล พระเอกจำเป็นในค่ำคืนนี้ "เป็นยังไงบ้างคะลุง? มีความคืบหน้าบ้างไหม?"
"ผมคิดว่าหม้อน้ำแห้งแน่ ๆ ครับ" อดีตภารโรงตอบ "ต้องรอสักพักให้เครื่องยนต์มันเย็นก่อนละครับ"
"อีกนานไหมละคะลุง?" พอได้ยินแบบนี้ อาจารย์สาวก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะนี่ก็เริ่มดึกมากแล้ว เธออยากกลับบ้าน
"สักครึ่งชัวโมงน่ะครับครู" ลุงพลตอบ "ต้องรอให้เครื่องยนต์มันเย็นกว่านี้ แล้วเดี๋ยวผมถึงจะเปิดฝาหม้อน้ำเช็คได้ ว่าแต่ครูมีผ้าที่ไม่ใช้แล้ว หรือน้ำเปล่าสักขวดสองขวดไหมครับ?"
"ผ้ามีค่ะ แต่น้ำ อาจจะต้องกลับไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อแหะ" ภัคจิราหันกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ
"ไม่เป็นไรครับ!!!" ลุงพลเหลือบไปเห็นน้ำเปล่าที่ครูเบสท์ซื้อมาในถุง "น้ำเปล่าที่ครูเบสท์ซื้อมาก็น่าจะใช้ได้อยู่ เดี๋ยวผมขอผ้าขนหนูด้วยครับครู"
"ค่ะ ได้ค่ะ" สักพักครูเบสท์กดสวิตซ์ปลดล็อคประตูรถ แล้วเปิดประตูรถเบาะหน้าหยิบผ้าขนหนูเก่า ๆ มาให้ลุงพลเพื่อใช้ในการเปิดฝาหม้อน้ำ
ระหว่างที่รอให้เครื่องยนต์มันเย็นลงกว่านี้สักพัก ครูเบสท์ก็แกะฝาน้ำอัดลมใส่หลอดยื่นให้ลุงพลที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็คสภาพเครื่องยนต์
"ลุงพลคะ? ดื่มน้ำก่อนค่ะ" ครูเบสท์ถือขวดน้ำอัดลมที่เปิดฝาและใส่หลอดเตรียมไว้ให้ลุงพล
"ครับ ขอบคุณครับ" ลุงพลจะยื่นมือรับขวดน้ำอัดลม แต่ถูกครูเบสท์ปฏิเสธ
"ไม่คะ!!! ให้เบสท์ป้อนเนี่ยแหละ!!!" ภัคจิราค้อนใส่ "เบสท์ต้องรบกวนลุงมาก ๆ เลยอยากจะขอมีส่วนร่วมทำดีบ้างอะไรบ้างค่ะ"
"งั้นก็...ขอบคุณครับ" ลุงพลพยักหน้าขอบคุณ ก่อนดูดน้ำอัดลมที่ครูเบสท์ยื่นมาให้ ตาเฒ่าแอบชำเลืองมองอาจารย์สาวด้วยสายตาเจ้าชู้ อีกภัคจิรารู้สึกได้
"เอ่อ...มองเบสท์แบบนั้น?" อาจารย์สาวเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย "มีอะไรติดหน้าเบสท์เหรอคะ?"
"เปล่าครับ ไม่มีอะไร" พอดื่มน้ำอัดลมแก้กระหาย ลุงพลก็กลับไปหยิบผ้าขนหนูที่วางไว้ขอบกระโปรงรถเปิดฝาหม้อน้ำ "โอ้โห!!! แห้งสนิทเลยครับ!!!"
"งั้นต้องเติมน้ำใช่ไหมคะลุง?" ภัคจิราถามด้วยความไม่รู้
"ใช่ครับ" ลุงพลหันมายิ้มให้อาจารย์สาว "น้ำอาจจะไม่พอแหะ ผมอาจจะต้องการน้ำเพิ่มอีก ของสักสองลิตรน่ะครับครู"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวเบสท์ไปซื้อให้นะคะ" ภัคจิราเตรียมเดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบ
"เดี๋ยวผมไปเองก็ได้ครับ เกรงใจครู" ช่างซ่อมรถจำเป็นรู้สึกเกรงใจครูเบสท์ ก็เลยขอเสนอไปซื้อน้ำเอง แต่ว่า...
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะลุงพล!!" อาจารย์สาวปฏิเสธ "บอกแล้วไงว่าให้เบสท์มีส่วนร่วมบ้าง!!! ลุงพลอยู่ตรงนี้ดีแล้วค่ะ อยากกินอะไรเพิ่มไหมคะ? เดี๋ยวเบสท์ซื้อมาให้?"
"ไม่แล้วครับครู" ลุงพลตอบ "ขอบคุณมากครับ"
แล้วครูเบสท์ก็เดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อน้ำขวดใหญ่อีกสองลิตรกลับมา ตอนนี้ลุงพลก็เลยตรวจเช็คทั้งหม้อน้ำและถังพักน้ำ ก็พบว่ามันแห้งเหมือนกันหมด
"น้ำมาแล้วค่ะ!!!" ครูเบสท์เดินถือถุงพลาสติกใส่น้ำเปล่าสองขวดจำนวน 2 ลิตรกลับมา "โอ้ย!!!! ร้อน!!!!"
ลุงพลแอบยิ้มที่มุมปาก ครูเบสท์นี่ดูเป็นลูกคุณหนูไม่ต่างจากหมอพลอยเลยแม้แต่น้อย รออีกสักพัก ลุงพลเลยเติมน้ำใส่หม้อน้ำและถังพักน้ำ โดยขอให้ครูเบสท์กลับไปสตาร์ทรถอีกรอบ
ภัคจิราทำตามช่างยนต์อย่างเชื่อฟัง ระหว่างที่สตาร์ทรถ เธอเปิดกระเป๋าสะพายหยิบเอาพัดลมพกพากลับออกมาด้วย
"เป็นยังไงบ้างคะลุง?" ครูเบสท์เอ่ยปากถามลุงพลที่กำลังเติมน้ำใส่หม้อน้ำ
"หม้อน้ำกับถังพักน้ำมันแห้งครับครู ผมต้องค่อย ๆ เติมน้ำเข้าไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะคงที่ ไม่ระเหยออกมา" ลุงพลตอบ ก่อนที่ครูเบสท์จะถือพัดลมพกพาพัดความเย็นให้ลุงพล "ขอบคุณครับ แต่ผมไม่เป็นไรหรอก ผมว่าครูร้อนมากกว่าผมนะ?"
"แหมม...ลุงก็!!!" ภัคจิราแอบยิ้ม ใบหน้าของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ "งั้นเบสท์ไม่เกรงใจแล้วนะคะ"
ลุงพลหันกลับไปรินน้ำใส่หม้อน้ำรถของครูเบสท์ต่อ ลึก ๆ แกก็แอบขำในความไร้เดียงสาของครูเบสท์ พลางนึกถึงเหตุการณ์สมัยที่แกเคยล่อลวงโดนัท และนิมิตรภาพความฝันที่เป็นลางบอกเหตุว่าอีกไม่นานครูเบสท์จะต้องตาย แกเลยคิดว่าจะฉวยโอกาสนี้พิชิตความสาวของครูเบสท์ดีหรือไม่?
"ยังไม่ใช่ตอนนี้ ยังก่อน..." มนุษย์ลุงจอมเจ้าเล่ห์บอกกับตัวเอง แกจำเป็นต้องสร้างความใกล้ชิดและความไว้ใจให้ครูเบสท์ก่อน แล้วค่อย ๆ เขยิบเข้าไปให้ใกล้ตัวครูเบสท์มากขึ้นกว่านี้ ก่อนที่จะจัดการขั้นเด็ดขาด
เวลาผ่านไปเกือบสี่สิบนาที ในที่สุดรถของครูเบสท์ก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติสักที
"เฮ้อ!!! ได้กลับบ้านสักที!!!!" ครูเบสท์ปรบมือให้ลุงพลที่เปิดประตูเบาะหน้ารถออกมาหลังจากตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ครั้งสุดท้ายเสร็จแล้ว ก่อนที่จะหยิบแบงค์พันจำนวนสองใบให้ช่างซ่อมรถจำเป็นในค่ำคืนนี้ "นี่คะลุงพล สินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเบสท์นะคะ"
"โห!!! เยอะไปครับ!!! ผมคงรับไม่ได้หรอกครับครู รับไม่ได้จริง ๆ" ลุงพลปฏิเสธอย่างสุภาพ "เพราะผมได้รับน้ำใจจากน้ำดื่มที่ครูเบสท์ซื้อมาให้แล้วครับ"
"อย่าดื้อซิคะลุงพล!!!" ภัคจิราเห็นน่ารักแบบนี้ แต่เธอเองก็แอบตื้อไม่เลิก หญิงสาวถือวิสาสะจับมือลุงพลทีมีอายุมากกว่าพ่อของเธอหลายปีอย่างไม่รังเกียจ เพื่อวางเงินสองพันให้ลุงพลเป็นสินน้ำใจ "เบสท์บอกให้รับไปไงคะ!!!"
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับครู!!!" ลุงพลพยายามปฏิเสธ ก่อนพยายามคืนเงินกลับให้ครูเบสท์ที่ยังปฏิเสธ "ผมไหว้ละครับ!!!"
"ไม่ได้ค่ะ!!!" ครูเบสท์เริ่มทำหน้าดุ "ถ้าลุงพลคืน เบสท์จะไม่คุยกับลุงแล้วนะคะ!!"
...ตายแล้ว ชั้นพูดอะไรออกมา? ภัคจิราทำหน้าเหลอหลาด้วยความตกใจ ลุงพลเองก็ไม่ต่างกัน ตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์แปลกใจไม่น้อย ที่เห็นครูเบสท์ที่ปกติดูน่ารักอ่อนหวาน จะออกลูกดื้อได้ถึงขนาดนี้
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับครู" ลุงพลยังคงพยายามขอคืนเงินสองพันให้ครูเบสท์ "มันเยอะไปครับ ผมรับไม่ได้จริง ๆ ผมขอคืนนะครับ!!"
"เบสท์เต็มใจค่ะลุง..." ภัคจิรายิ้ม "รับไปเถอะค่ะ ถ้าไม่รับเงินนี้ไป เบสท์จะไม่ไปอุดหนุนร้านน้ำเต้าหู้ของลุงอีกแล้วนะคะ!!!"
"อืม..." เห็นน่ารักแบบนี้ ดื้อเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย ครูเบสท์
"เอางี้ไหมครับ? ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยน" ลุงพลยื่นข้อเสนอ "ผมจะถือว่านี่เป็นค่าน้ำเต้าหู้ร้านผม ถ้าครูเบสท์มาอุดหนุนน้ำเต้าหู้ร้านผมวันหลัง ครูเบสท์ไม่ต้องจ่ายเงินอีก ตกลงไหมครับ?"
"อืม..." ภัคจิราครุ่นคิดอยู่สักพัก "ลุงพล ลุงนี่เป็นคนดีกว่าที่เบสท์คิดนะคะ เอางั้นก็ได้ ถือว่าแฟร์ ๆ กันทั้งสองฝ่าย ดีลค่ะ!!"
"เอ่อ? ดีลคืออะไรครับ?" คนขายน้ำเต้าหู้ถึงกับงงในงง มาดงมาดีลอะไร แกไม่รู้เรื่อง
"อ้อ!!! ภาษาอังกฤษน่ะคะลุง!!!" อาจารย์พยาบาลสาวใช้มือสางปอยผมที่พัดจากลม "ดีล (Deal) แปลว่าการทำข้อตกลงทางธุรกิจน่ะคะ อธิบายยาวไป เอาเป็นว่าตกลงค่ะลุง จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย ก็นับค่าน้ำเต้าหู้ที่เบสท์ไปอุดหนุนร้านลุงไว้แล้วกันนะคะ ถ้าครบสองพันเมื่อไร เบสท์จะจ่ายด้วยเงินปกติแทน"
"ครับ ได้ครับ" ลุงพลยิ้ม ก่อนที่ครูเบสท์จะขอตัวขับรถกลับบ้าน
ลุงพลยืนมองไฟท้ายรถยนต์ของครูเบสท์ที่แล่นออกไปพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก แกหยิบเงินสองพันที่ครูเบสท์ให้มา ด้วยความตั้งใจว่าจะใช้เงินนี้ไปทำบุญแทนที่จะเอามาใช้สอย เพราะแกไม่ได้เดือดร้อนอะไร
...ครูเบสท์นี่น่ารักทั้งกายและใจเลยนะ ลุงพลคิด พอคิดว่าเธอจะต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายแบบนั้น บางครั้งคนอย่างลุงพลก็อดสงสารไม่ได้เหมือนกัน หรือว่าพรุ่งนี้เช้าแกจะเดินเข้าไปหาครูเบสท์แล้วเตือนเจ้าตัวว่าอย่าเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาดี? ครูเบสท์จะฟังคนอย่างแกเหรอวะไอ้พล?
............................................
ในคืนนั้น หลังจากที่ลุงพลช่วยซ่อมรถให้ครูเบสท์ ลุงพลได้กลับไปที่บ้านอาบน้ำและเข้านอน แกได้ฝันเห็นอดีตชาติอีกครั้ง และคราวนี้ เป็นเรื่องราวของพลอยพรรณรายและภัคจิราวดี
"ท่านพี่พลอยพรรณราย!!! เหตุใดท่านถึงได้ไปกล่าวทำเท็จต่อท่านท้าวชุมพลศักดา!!!" ภัคจิราวดีผู้เป็นน้องเดินตามหลังพลอยพรรณรายผู้เป็นพี่เข้าไปในวิหารแห่งหนึ่ง
"มันเรื่องของข้า!!" พลอยพรรณรายตอบอย่างไม่ยีหระ "ท่านท้าวหน้าโง่อยากมาหลงใหลในเสน่ห์ของข้า ช่วยไม่ได้ดอกหนา"
ธิดาองค์โตแห่งเทพตุลาการสวรรค์ยิ้มอย่างพึงพอใจในความงดงามของตน พลอยพรรณรายคือเทพธิดาแห่งสรวลสวรรค์ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยสติปัญญา ความงาม รวมไปถึงความหยิ่งผยอง
"ท่านพี่?" ภัคจิราวดีร่นคิ้วราวกับไม่อยากเชื่อสายตา "ท่านรู้ฤาไม่ว่าการกระทำของท่าน อาจทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องเปิดฉากสงครามกับแดนปีศาจ"
"แล้วจะทำไม?" พลอยพรรณรายกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน "เดี๋ยวท่านท้าวชุมพลศักดาผู้เป็นจอมทัพสวรรค์ก็จักพิชิตศึกครานี้ได้ เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ภัคจิราวดี"
"แล้วท่านจะทำอย่างไรกับท่านท้าวชุมพลศักดา?" ภัคจิราวดีผู้เป็นน้องเอ่ยปากถาม "ท่านท้าวมีชื่อนั่งรออยู่นอกวิหารในสภาพอิดโรย ท่านจักใจไม้ไส้ระกำไม่ออกไปดูดำดูดีท่านท้าวหน่อยฤา?'
"บอกไปว่าข้าไม่อยู่" พลอยพรรณรายตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน "ข้าไปหาท่านพ่อ"
พอเอื้อนเอ่ยวาจาเสร็จ พลอยพรรณรายก็เดินจากไป ปล่อยให้ภัคจิราวดียืนนิ่งอยู่ภายในวิหารโบราณอยู่เพียงผู้เดียว ธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์รู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย กับการกระทำของพี่สาวของตน
"ท่านพี่? ท่านจักทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องลุกเป็นไฟเพราะสงคราม" ภัคจิราวดีส่ายหน้า ก่อนเดินจากไป
"สองพี่น้องคู่นี้ดูแล้วไม่ค่อยถูกกันเท่าไรนะ?" ลุงพลแสดงความคิดเห็น ในขณะที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่ภาพนิมิตแห่งความฝันจะถูกตัดไปเป็นภาพหน้าวิหารโบราณแห่งนั้น
ท่านท้าวชุมพลศักดานั่งพักในสภาพที่เต็มไปด้วยบาดแผล จากการตะลุยแดนปีศาจเพื่อนำหีบบรรจุสมบัติกลับคืนมา ระหว่างที่นั่งพักอยู่นั้น ภัคจิราวดี บุตรีคนรองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในชุดขอมโบราณ
"ภัคจิราวดี?" ท่านท้าวมีชื่อเอ่ยปากเรียกน้องสาวคนรองของพลอยพรรณราย "มีอะไรให้ข้ารับใช้ฤา?"
"ไม่มีดอกท่านท้าว" ภัคจิราวดียิ้ม ก่อนยื่นขันทองที่บรรจุน้ำทิพย์ช่วยสมานแผลให้ท่านท้าวมีชื่อได้ดื่ม "ท่านดื่มน้ำทิพย์นี่เถิด..."
"ขอบน้ำใจท่านมาก" ท่านท้าวชุมพลศักดารับขันทองจากมือของภัคจิราวดี ในจังหวะที่รับขัน มือของท่านท้าวมีชื่อก็สัมผัสกับมือของธิดาองค์ของแห่งองค์ตุลาการสวรรค์
ภัคจิราวดีแอบยิ้มที่มุมปาก ในขณะที่ท่านท้าวมีชื่อกำลังดื่มน้ำทิพย์จากสวรรค์อย่างเอร็ดอร่อย
"สดชื่นเหลือเกิน!!! พละกำลังของข้ากลับมาแล้ว!!! ข้าพร้อมแล้วที่จะออกรบกับกองทัพปีศาจอีกครา!!!" จอมทัพสวรรค์ดูสดชื่นมากขึ้น บาดแผลตามตัวเริ่มจางหายทีละนิด "ขอบน้ำใจท่านมาก ท่านหญิงภัคจิราวดี"
"ท่านท้าวชุมพลศักดา ท่านต้องขอบน้ำใจพี่สาวข้า มิใช่ข้าดอก..." ภัคจิราวดีตอบด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ
"ท่านหญิงพลอยพรรณราย!!!" ท่านท้าวมีชื่อยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อรู้ว่าน้ำทิพย์ที่ได้ดื่มสมานแผลและแก้กระหายถูกส่งมาโดยแม่หญิงพลอยพรรณรายผู้เป็นยอดดวงใจ
แน่นอน ลุงพลเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด น้ำทิพย์ที่ท่านท้าวมีชื่อ อดีตชาติของตนได้ดื่มนั้น เป็นน้ำทิพย์ที่ภัคจิราวดีนำมามอบให้ด้วยตัวเองต่างหาก แต่นางเลือกที่จะปิดบังความจริง
"ภัคจิราวดี ไม่ซิ ครูเบสท์..." ลุงพลเห็นภัคจิราวดีที่เหมือนจะทำหน้าเศร้าสร้อย กับการที่ตนเองไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงให้จอมทัพสวรรค์รับรู้ได้ ว่าตนเองก็มีใจรักท่านท้าวมีชื่อเช่นเดียวกัน
(https://www.img.in.th/images/907b5f49dd2786fb968de227ed593f93.jpg)
การที่ต้องแอบรักผู้ชายคนเดียวกับพี่สาว มันเป็นเรื่องที่ทรมานหัวใจเหลือเกิน? ท่านคิดเห็นเป็นเช่นไร? ท่านท้าวชุมพลศักดา
"เอ๋?" ลุงพลตกใจมาก เพราะอยู่ดี ๆ ภัคจิราวดีก็หันมามองลุงแกด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "ครูเบสท์เห็นผมด้วยเหรอ?"
"ท่านท้าว..." ภัคจิราวดีเอ่ยปากทั้งน้ำตา "ถ้าหากข้าจะขออะไรจากท่านสักอย่าง ท่านจักทำให้ข้าได้ฤาไม่?"
"ทำอะไรครับ? ครูเบสท์จะขอให้ผมทำอะไรให้ครับ?" ลุงพลถามภัคจิราวดี แต่แกก็ดันเรียกชื่อของธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยชื่อชาติภพปัจจุบัน
"ท่านจักหยุดทุกอย่างที่น้องสาวของข้าคนใดคนหนึ่ง หรืออาจจะเป็นท่านพี่พลอยพรรณรายในชาติภพปัจจุบันได้หรือไม่?" ภัคจิราวดียื่นข้อเสนอ "ข้าจักยอมเสียสละตัวเอง แบกรับกรรมของพี่น้องข้าทั้งหมด เพื่อให้พี่สาวของข้า และน้องสาวของข้าที่เหลือได้ใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ เพื่อสะสมบุญบารมีต่อไป จนกว่าจะถึงเวลาที่พวกนางจะสิ้นอายุขัย..."
"ทำไมครูเบสท์ถึงพูดแบบนี้ละครับ?" ลุงพลถาม "ผมรู้ว่าครูเบสท์คงอยากเสียสละ แต่การทำแบบนี้ ครูเบสท์จะต้องตายนะครับ"
"ท่านท้าว ท่านมิรู้ดอกว่าท่านจะต้องเจอกับอะไร หากท่านยังไม่หยุดกรรมนี้..." และแล้วน้ำตาของภัคจิราวดีก็กลายเป็นสายเลือด "ข้ารักท่าน ข้ามิอยากเห็นท่านต้องพบกับชะตากรรมที่แสนโหดร้าย..."
พอได้ยินในสิ่งที่ภัคจิราวดีพูด ลุงพลก็คิดได้ว่าองค์ตุลาการสวรรค์เคยให้ตนเองเห็นนิมิตรภาพความฝันถึงวาระสุดท้ายของตนเองมาแล้ว แต่แล้วยังไงละ คนอย่างแกทนไม่ได้ที่ต้องเห็นภัคจิราวดีหรือครูเบสท์ต้องมาเสียสละอยู่คนเดียว
(https://www.img.in.th/images/94c1a3bb0cea8c4f237e7f1fdc63138d.png)
(ลุงพล ชุมพล เทพเมืองแมน อาชีพ คนขายน้ำเต้าหู้)
"ครูเบสท์ครับ..." ลุงพลเดินเข้าไปหาภัคจิราวดี ในระหว่างที่เดินเข้าไป ชุดเครื่องแบบนักการภารโรงของแกก็เกิดประกายแสงอย่างน่าอัศจรรย์
"ท่านท้าว?" ภัคจิราวดีพยายามเอื้อนเอ่ยวาจาห้ามไม่ให้ลุงพลที่ตอนนี้สวมใสชุดนักรบโบราณเดินเข้ามา "อย่าเข้ามาใกล้ข้าโดยเด็ดขาด!!!"
"ทำไมเล่า ภัคจิราวดี?" ลุงพลที่ตอนนี้ได้กลายเป็นท่านท้าวชุมพลศักดา ได้เอื้อนเอ่ยวาจากถามธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "ข้ามิอาจปล่อยให้เจ้าต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายเช่นนั้นได้ ข้ายินยอมให้คนทั้งโลกมองข้าว่าเป็นคนมักมากในกาม มากรักหลายใจ แต่จักไม่มีวันย่อมปล่อยให้เจ้า ภัคจิราวดี ผู้มีใจรักในตัวข้ามาตั้งแต่อดีตชาติต้องพบกับชะตากรรมเช่นนั้น มาเถิด เข้ามาหาข้า..."
"ท่านท้าว..." ภัคจิราวดีเอ่ยปากทั้งน้ำตา "ข้ามิอาจผิดคำสัญญากับพี่สาวของข้าได้หรอกหนา...ท่านไม่รู้หรอกว่าพี่สาวของข้าเวลาโกรธเกรี้ยวนั้นน่ากลัวสักเพียงใด"
"ก็ช่างนางปะไร" ในที่สุด ท่านท้าวชุมพลศักดาก็ได้โอบกอดภัคจิราวดี "ข้าจักพูดกับนางเอง"
ภัคจิราวดีสงบนิ่งภายใต้อ้อมกอดของท่านท้าวชุมพลศักดา ในที่สุดความรักที่ต้องเก็บซ้อนไว้ก็ถูกเปิดเผยสักที เพียงแต่....
มันคือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ พลอยพรรณราย แม้นนางมิได้สนใจไยดีท่านท้าวมีชื่อนัก แต่นี่เรื่องของศักดิ์ศรีและเรื่องของหัวใจ สงครามระหว่างพี่น้องกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
............................................
ในวันรุ่งขึ้น ลุงพลกลับมาเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ตามปกติ ระหว่างที่นั่งว่าง แกก็นั่งคิดถึงภาพเหตุการณ์เมื่อวาน และภาพนิมิตความฝันที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าตัวแกเองคงหลีกหนีไม่พ้นชะตากรรมที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
"ลุงพลคะ?" ภัคจิราในชุดเดรส ปรากฏตัวขึ้นมาหน้าร้านของลุงพล "น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ชุดนึงค่ะ เบสท์จะไปกินที่ห้องทำงาน"
"ได้ครับ" ลุงพลยิ้มหวาน ก่อนหันกลับไปจัดน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้ลูกค้ากิตติมศักดิ์
"ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องเมื่อวาน" ภัคจิราเอ่ยปากขึ้นมา
"ไม่เป็นหรอกครับ" ลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้ยื่นถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้อาจารย์สาวคนสวย "นี่ครับ"
"สามสิบบาทใช่ไหมคะ?" ครูเบสท์ควักแบงค์ยี่สิบและเหรียญสิบให้ลุงพล "นี่ค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับครู!!!" ลุงพลรีบปฏิเสธ "ก็เราตกลงกันแล้วไง!!"
"ก็เบสท์เปลี่ยนใจแล้วนิคะ" ครูเบสท์ตอบอย่างไม่ยี่หระ "รับไปนะคะ!!"
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับ!!" ลุงพลพยายามปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ถูกครูเบสท์จับมือวางเงินเอาไว้บนมือของเจ้าของร้านจนได้
"ไม่ได้ค่ะ!!!" ภัคจิราทำหน้าดุ "ของซื้อของขาย..."
อะไรมันจะดื้อขนาดนี้เนี่ย ครูเบสท์ ลุงพลคิด แต่ว่า
"ลุงพล? เบสท์?" อยู่ดี ๆ พลอยพรรณก็ปรากฏตัวขึ้นมา ในมือของเจ้าหญิงน้ำแข็งถือถุงใส่ข้าวกล่องที่เธอตั้งใจทำมาให้ลุงพลได้กินในมื้อเที่ยง เธอเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ครูเบสท์และลุงพลจับมือถือแขนกัน "นี่มันอะไรกัน?"
(https://www.img.in.th/images/527c6a35497b64c7066d3d401451537d.jpg)
(หมอพลอย พลอยพรรณ จารุศิริการกุล (อาชีพ แพทย์หญิงประจำห้องพยาบาล)
"หมอพลอย!!!" ลุงพลและครูเบสท์หันไปมองหมอพลอยที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความตกใจ เรียกได้ว่าจังหวะนรกจริง ๆ เลยเชียว
พลอยพรรณดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นลุงพลที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะเลิกเจ้าชู้ มาจับมือถือแขนครูเบสท์ขนาดนั้น เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน จะเรียกได้ว่าเธอกำลังหึงตาเฒ่าก็ว่าได้
...เมื่อท้องนภามิอาจมีดวงจันทราถึงสองดวง สงครามระหว่างพลอยพรรณรายและภัคจิราวดีกำลังจะเริ่มต้นแล้ว ใครกัน จะเป็นที่สุดในหัวใจของท่านท้าวชุมพลศักดา หรือในชาติภพปัจจุบันก็คือลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้?
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ตัวอย่างบางส่วนของตอนต่อไป เปิดหวอรอรัก ขอซ่อนนะ สำหรับคนที่อยากรู้สปอยด์หรือไม่ซีเรียสสปอยด์นะครับ ใครซีเรียส ปล่อยผ่านครับ 5555+
::YehYeh::
อ้างจาก: nato87 เมื่อ พฤศจิกายน 27, 2020, 04:56:39 หลังเที่ยง
พูดคุยก่อนอ่าน : กลับมาแล้วครับ สำหรับเกมรักปีสองตอนที่ 11 อย่างที่ผมได้บอกไปหลายครั้งละ ครูเบสท์จะมีบทบาทเด่นมากขึ้น และหมอพลอยจะต้องเป็นตัวร้าย ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในตอนนี้แล้วครับผม สำหรับตอนนี้ จะมีฉากเล่าย้อนอดีตด้วยนะครับ ค่อนข้างจะจักร ๆ วงศ์ ๆ ลิเก ๆ สักหน่อย 555 ตอนนี้ช่วงครึ่งแรกอาจน่าเบื่อสักหน่อย มันเกี่ยวกับการซ่อมรถนะครับ แต่ฉากนี้ ผมได้พยายามถ่ายทอดความเป็นครูเบสท์ให้ทุกคนได้เห็นกันมากขึ้น ว่าเธอเป็นคนที่มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร พวกคุณคิดว่าจะชนะหมอพลอยในบั้นปลายหรือไม่ ลองบอกผมมา
ขอโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกนิด ตอนนี้ 'ภารโรงเฟี้ยว...เกี้ยวเด็กพยาบาล' เล่ม 3 ได้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตามลิงค์ด้านล่าง
(https://www.img.in.th/images/185ca921ae9be96e82035a7273300a1f.gif)
ลิงค์อยู่ด่านล่างนะครับ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiODU1MjYwIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTM5MjUzIjt9&page_no=1
สำหรับตอนหน้า 'เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 12 : เปิดหวอรอรัก' เห็นชื่อตอนก็น่าจะรู้นะครับว่าจะพบกับอะไร ฉากอีโรติกเน้น ๆ จัดเต็ม ๆ ครับผม แต่ผมไม่บอกหรอกนะว่าลุงพลจะได้ใคร 555555
######################
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
https://xonly8.com/index.php?topic=236496.0
อ้างถึงตัดมาทางฝั่งครูเบสท์ หลังจากเลิกงาน เธอก็แวะขับรถไปหายัยอิมเพื่อนรักเพื่อกินข้าวเย็นด้วยกัน พร้อมกับพูดคุยถึงการนัดมีทติ้งในกลุ่มคณะพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
"ทับทิมตอนนี้อยู่ไหน แล้วจะกลับไทยเมื่อไร?" ครูเบสท์เอ่ยปากถามยัยอิมเพื่อนรัก ที่ผันตัวไปเป็นดีไซนเนอร์และนักธุรกิจ
"มันบินอยู่กาตาร์ บ่นคิดถึงไทย อยากกลับมาทำงานที่ไทยใจจะขาด" ยัยอิมตอบ "เห็นว่ามันคบกับหนุ่มนักธุรกิจแขกที่นั่นด้วยนะเบสท์ โคตรรวย"
อัมพรเปิดอินสตาแกรมของยัยทับทิมเพื่อนร่วมคณะพยาบาลศาสตร์ให้เบสท์ดู อาจารย์สาวถึงกับร้องว้าวในชีวิตสุดหรูและสุดปังของยัยทับทิมเพื่อนรักที่เป็นแอร์โฮสเตสสายการบินระหว่างประเทศที่ตะวันออกกลาง ในกลุ่มสามใบเถาจากคณะพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ กล่าวได้ว่าทับทิม คือนัมเบอร์วันตัวจริงของกลุ่ม ที่แม้แต่อัมพรและภัคจิรายังต้องยอมรับ
"ชีวิตยัยทับทิมนีดี๊ดีเนอะ ว่าไหม?" ยัยอิมแสดงความคิดเห็น ขณะกำลังเลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟนดูชีวิตของทับทิม สาวไฮโซประจำกลุ่ม
"ใช่..." ครูเบสท์ยิ้ม "สงสัยอีกหน่อยคงได้เป็นเจ้าสาวแขกแล้วละเพื่อนเรา"
สองสาวอดีตนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์พูดคุยสนทนาในมื้อเย็นภายในร้านอาหารที่ดูเรียบง่ายแต่แอบแพงใจกลางเมือง ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านทางใครทางมัน
"อิม..." ภัคจิราเอ่ยชื่อเพื่อนรัก "ถ้านัดรวมเพื่อน ๆ ได้ครบทุกคนเมื่อไร ก็แท็คหรือไลน์มาบอกชั้นด้วยนะเว้ย"
"ได้จ้า!!!" ยัยอิมยิ้มหวาน "บางทีชั้นอาจจะลองหาหนุ่ม ๆ โปรไฟล์ดี ๆ แนะนำให้แกได้รู้จักนะ เปิดใจมองหาตัวผู้บ้างได้แล้วแก จะได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที ชั้นมีผัวมีลูกแล้วนะเว้ย สงสารชั้นบ้าง"
"ไม่เอาอ่ะ ชั้นอยากทรมานแกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ" ภัคจิรายิ้ม ก่อนโบกมือลาเพื่อนรักเพื่อกลับบ้านทางใครทางมัน อาจารย์สาวเดินมาที่โรงจอดรถหลังร้าน เพื่อขับรถ Honda Civic สีบลอนด์กลับบ้านแถวพัฒนาการ
ทุกอย่างดูปกติในช่วงค่ำคืนใจกลางมหานคร จนกระทั่งภัคจิราสัมผัสได้ถึงความปิดปกติของเครื่องยนต์ เมื่อควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากหน้ากระโปรงรถ พอเห็นท่าไม่ดี อาจารย์สาวเลยเลี้ยวรถจอดข้างทาง เพื่อตรวจสภาพรถ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลยแม้แต่น้อย
"โอ้ย!!! รถมาเสียอะไรตอนนี้เนี่ย!!!" ภัคจิราเปิดกระโปรงหน้ารถดู เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกเลยแม้แต่น้อย อาศัยว่าแต่ขับอย่างเดียว นาน ๆ ครั้งถึงจะพารถเข้าอู่ไปเช็คสภาพ "แล้วจะทำยังไงเนี่ย!!!"
นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว ภัคจิรารู้ดีว่าเธอเป็นผู้หญิง และมันไม่ปลอดภัยเอาซะเลยที่รถของเธอมาเสียใจกลางเมืองแบบนี้ จะไปตามช่างที่ไหนได้บ้างในเวลาตอนนี้? หรือจะทิ้งรถเอาไว้แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาวัดดวงกันว่ารถยังอยู่ที่เดิมหรือว่าอาจถูกตำรวจลากไปดี?
"แล้วจะทำยังไงเนี่ย!!!! โอ้ย!!!!" อาจารย์สาวจับโน่นจับนี่ จนคราบเขม่าติดมือ ภัคจิราทำหน้ามุ่ยด้วยความกังวล จนกระทั่งลุงพลที่บังเอิญขับรถมอเตอร์ไซค์ไปจ่ายตลาดแถวนั้นแวะมาเจอเข้าพอดี
"ครูเบสท์? ครูเบสท์ใช่ไหมครับ?" ลุงพลชะลอรถเพื่อถามอีกฝ่าย "รถเป็นอะไรครับครู?"
"รถเสีย สตาร์ทเครื่องไม่ได้เลยค่ะลุง" ภัคจิราดูใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นลุงพลปรากฏตัวต่อหน้า "ช่วยเบสท์หน่อยนะคะลุง เบสท์ไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลย"
ลุงพลยิ้มให้ครูเบสท์ ก่อนถอดหมวกกันน็อคแขวนไว้ที่ตะกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซค์ เพื่อช่วยดูอาการรถยนต์ Honda Civic ของครูเบสท์ให้
"โอ้ย!!! ควันโขมงเลยแหะ!!!" ลุงพลยืนตรวจเครื่องยนต์รถของครูเบสท์ "ไม่แน่ใจว่าน้ำกลั่นแห้งหรือรั่วนะครับครู แต่ต้องรอก่อน เปิดดูหม้อน้ำตอนนี้มีหวังมือพองแน่"
"ค่ะ รบกวนด้วยนะคะลุงพล" ภัคจิราดูกังวลใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มไลน์ระหว่างรอ
ลุงพลแอบชำเลืองมองครูเบสท์เป็นระยะ ระหว่างยืนอยู่หน้ากระโปรงรถครูเบสท์ จนกระทั่งไปเหลือบเห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นมาด้วยความเร็วจากด้านหลัง
"ครูเบสท์ ระวังรถครับ!!!!" ลุงพลเอ่ยปากเตือนครูเบสท์ที่ยืนพิมพ์ไลน์บนสมาร์ทโฟนอยู่ โดยไม่รู้ว่ามีคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นมาอย่างรวดเร็วจากด้านหลัง
"ปรี๊ด!!!!" เสียแตรรถมอเตอร์ไซด์ดังลั่น ครูเบสท์พอหันไปก็ร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่ลุงพลจะดึงร่างของเธอออกมาได้ทันควัน
"เป็นบ้าอะไรน่ะคนสวย!!! อยากตายเหรอ!!!" ขาซิ่งคนนั้นหันมาด่าครูเบสท์ด้วยความโกรธ ก่อนบีบคันเร่งหนีไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
"เอ่อ..." ครูเบสท์ตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของลุงพลที่เข้ามาช่วยด้วยการดึงร่างของเธอออกมา เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ลุงพลและครูเบสท์ได้มองตากันในระยะเผาขนแบบนี้
"ครูเบสท์..." ลุงพลมองอาจารย์สาวตาไม่กระพริบ งดงามเหลือเกิน ภัคจิราวดี ผู้มีศักดิ์ไม่แพ้พลอยพรรณรายผู้เป็นพี่สาวแห่งองค์ตุลาการสวรรค์
######################
เรียกว่าลุงพลได้ช่วยครูเบสท์จากนาทีวิกฤติ หญิงสาวผู้สูงศักดิ์และเพรียบพร้อมไม่แพ้หมอพลอยแห่งวิทยาลัยพยาบาลตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของสุภาพบุรุษสูงวัยอย่างลุงพล
"เอ่อ..." ภัคจิรามองหน้าลุงพลตาแป๋ว ราวกับว่าเธอกำลังต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่าง ทำไมเธอถึงรู้สึกผูกพันกับผู้ชายอายุหกสิบกว่า ๆ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นคนนี้เลยแม้แต่น้อยกันนะ
ในขณะที่ลุงพล ตาเฒ่ามองหญิงสาวตาไม่กระพริบ งดงาม น่ารัก เธอเพียบพร้อมไม่แพ้หมอพลอยเลยแม้แต่น้อย เมื่อมองลึกลงไป ลุงพลรู้สึกหลงใหลในความอ่อนหวานของดวงตาคู่นั้น
"ภัคจิราวดี..." ลุงพลเผลอเอ่ยปากชื่อจริงของครูเบสท์ด้วยชื่อเก่าเมื่ออดีตชาติ ทำเอาอาจารย์สาวถึงกับตื่นจากภวังค์ด้วยความตกใจ
"เอ่อ...ลุงพลคะ?" ครูเบสท์ที่ได้สติเอ่ยปากขึ้นมา "ปล่อยเบสท์ได้แล้วมั้งคะ?"
"อุ้ย!!! ขอโทษครับครู!!!" ลุงพลรีบปล่อยครูเบสท์ออกมา ฝ่ายหญิงสาวดูมีท่าทางเขอะเขินและประหม่าอย่างเห็นได้ชัด "ขอโทษนะครับครู ผมไม่ได้ตั้งใจ!!!"
"ไม่เป็นไรค่ะ..." ครูเบสท์เอามือเสยปอยผมแก้อาการประหม่า หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด เธอถึงได้มีอาการหวั่นไหวกับลุงพลมากถึงขนาดนี้
"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปดูรถให้ครูต่อนะครับ" คนขายน้ำเต้าหู้รีบเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ตาลุงเดินกลับไปดูที่หน้ากระโปรงรถของครูเบสท์เพื่อตรวจเช็คสภาพหม้อน้ำรถยนต์ของอาจารย์สาว ลุงพลลองเอามือจิ้มหม้อน้ำรถครูเบสท์ ก่อนที่จะรีบดึงมือออกเพราะหม้อน้ำรถยังร้อนฉ่าอยู่
(https://www.img.in.th/images/6f2a7b9809d20458225982fcf7ea9034.jpg)
(ครูเบสท์ - ภัคจิรา นฤนารถไมตรี (อาจารย์ประจำภาควิชาพยาบาลศาสตร์)
"เป็นยังไงบ้างคะลุง?" ภัคจิราถามด้วยความซื่อ เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์มากนัก
"ร้อนครับ!!!" ลุงพลหันไปตอบด้วยรอยยิ้ม "หม้อน้ำรถครูเบสท์ร้อนจี๋เลยครับ!!!"
"ทำไมต้องมาเสียตอนนี้ด้วยนะ!!" อาจารย์สาวบ่นกับตัวเอง ก่อนเหลือบไปเห็นร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ไม่ไกล "ลุงพลคะ? เดี๋ยวเบสท์แวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก่อนนะคะ"
"ครับ ได้ครับ" อดีตภารโรงเก่ายิ้มรับ ก่อนหันกลับมาตรวจสภาพเครื่องยนต์รถของครูเบสท์ในส่วนอื่น ๆ ต่อ แต่ก็ยังไม่วายแอบหันไปมองครูเบสท์เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ
ครูเบสท์ดูเป็นสาวเรียบร้อย แต่ความรู้สึกของลุงพลรู้สึกว่าอาจารย์สาวคนนี้แอบซ่อนรูป และมั่นใจได้ว่าภัคจิราคนสวยจะต้องเด็ดดวงไม่แพ้เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างพลอยพรรณแน่นอน
พอครูเบสท์หายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ลุงพลก็หยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาเปิดโหมดไฟฉายเครื่องยนต์กระโปรงหน้ารถของครูเบสท์ โดยเฉพาะตรงหม้อน้ำที่ยังมีควันลอยโขม่งอยู่ ทำให้ลุงพลคิดว่าบางทีหม้อน้ำอาจจะแห้งก็เป็นได้
"มาแล้วค่ะ!!" ครูเบสท์เดินกลับมาพร้อมถุงพลาสติก ภายในมีน้ำเปล่าและน้ำอัดลมที่อาจารย์สาวตั้งใจซื้อมาฝากให้ลุงพล พระเอกจำเป็นในค่ำคืนนี้ "เป็นยังไงบ้างคะลุง? มีความคืบหน้าบ้างไหม?"
"ผมคิดว่าหม้อน้ำแห้งแน่ ๆ ครับ" อดีตภารโรงตอบ "ต้องรอสักพักให้เครื่องยนต์มันเย็นก่อนละครับ"
"อีกนานไหมละคะลุง?" พอได้ยินแบบนี้ อาจารย์สาวก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะนี่ก็เริ่มดึกมากแล้ว เธออยากกลับบ้าน
"สักครึ่งชัวโมงน่ะครับครู" ลุงพลตอบ "ต้องรอให้เครื่องยนต์มันเย็นกว่านี้ แล้วเดี๋ยวผมถึงจะเปิดฝาหม้อน้ำเช็คได้ ว่าแต่ครูมีผ้าที่ไม่ใช้แล้ว หรือน้ำเปล่าสักขวดสองขวดไหมครับ?"
"ผ้ามีค่ะ แต่น้ำ อาจจะต้องกลับไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อแหะ" ภัคจิราหันกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ
"ไม่เป็นไรครับ!!!" ลุงพลเหลือบไปเห็นน้ำเปล่าที่ครูเบสท์ซื้อมาในถุง "น้ำเปล่าที่ครูเบสท์ซื้อมาก็น่าจะใช้ได้อยู่ เดี๋ยวผมขอผ้าขนหนูด้วยครับครู"
"ค่ะ ได้ค่ะ" สักพักครูเบสท์กดสวิตซ์ปลดล็อคประตูรถ แล้วเปิดประตูรถเบาะหน้าหยิบผ้าขนหนูเก่า ๆ มาให้ลุงพลเพื่อใช้ในการเปิดฝาหม้อน้ำ
ระหว่างที่รอให้เครื่องยนต์มันเย็นลงกว่านี้สักพัก ครูเบสท์ก็แกะฝาน้ำอัดลมใส่หลอดยื่นให้ลุงพลที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็คสภาพเครื่องยนต์
"ลุงพลคะ? ดื่มน้ำก่อนค่ะ" ครูเบสท์ถือขวดน้ำอัดลมที่เปิดฝาและใส่หลอดเตรียมไว้ให้ลุงพล
"ครับ ขอบคุณครับ" ลุงพลจะยื่นมือรับขวดน้ำอัดลม แต่ถูกครูเบสท์ปฏิเสธ
"ไม่คะ!!! ให้เบสท์ป้อนเนี่ยแหละ!!!" ภัคจิราค้อนใส่ "เบสท์ต้องรบกวนลุงมาก ๆ เลยอยากจะขอมีส่วนร่วมทำดีบ้างอะไรบ้างค่ะ"
"งั้นก็...ขอบคุณครับ" ลุงพลพยักหน้าขอบคุณ ก่อนดูดน้ำอัดลมที่ครูเบสท์ยื่นมาให้ ตาเฒ่าแอบชำเลืองมองอาจารย์สาวด้วยสายตาเจ้าชู้ อีกภัคจิรารู้สึกได้
"เอ่อ...มองเบสท์แบบนั้น?" อาจารย์สาวเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย "มีอะไรติดหน้าเบสท์เหรอคะ?"
"เปล่าครับ ไม่มีอะไร" พอดื่มน้ำอัดลมแก้กระหาย ลุงพลก็กลับไปหยิบผ้าขนหนูที่วางไว้ขอบกระโปรงรถเปิดฝาหม้อน้ำ "โอ้โห!!! แห้งสนิทเลยครับ!!!"
"งั้นต้องเติมน้ำใช่ไหมคะลุง?" ภัคจิราถามด้วยความไม่รู้
"ใช่ครับ" ลุงพลหันมายิ้มให้อาจารย์สาว "น้ำอาจจะไม่พอแหะ ผมอาจจะต้องการน้ำเพิ่มอีก ของสักสองลิตรน่ะครับครู"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวเบสท์ไปซื้อให้นะคะ" ภัคจิราเตรียมเดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบ
"เดี๋ยวผมไปเองก็ได้ครับ เกรงใจครู" ช่างซ่อมรถจำเป็นรู้สึกเกรงใจครูเบสท์ ก็เลยขอเสนอไปซื้อน้ำเอง แต่ว่า...
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะลุงพล!!" อาจารย์สาวปฏิเสธ "บอกแล้วไงว่าให้เบสท์มีส่วนร่วมบ้าง!!! ลุงพลอยู่ตรงนี้ดีแล้วค่ะ อยากกินอะไรเพิ่มไหมคะ? เดี๋ยวเบสท์ซื้อมาให้?"
"ไม่แล้วครับครู" ลุงพลตอบ "ขอบคุณมากครับ"
แล้วครูเบสท์ก็เดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อน้ำขวดใหญ่อีกสองลิตรกลับมา ตอนนี้ลุงพลก็เลยตรวจเช็คทั้งหม้อน้ำและถังพักน้ำ ก็พบว่ามันแห้งเหมือนกันหมด
"น้ำมาแล้วค่ะ!!!" ครูเบสท์เดินถือถุงพลาสติกใส่น้ำเปล่าสองขวดจำนวน 2 ลิตรกลับมา "โอ้ย!!!! ร้อน!!!!"
ลุงพลแอบยิ้มที่มุมปาก ครูเบสท์นี่ดูเป็นลูกคุณหนูไม่ต่างจากหมอพลอยเลยแม้แต่น้อย รออีกสักพัก ลุงพลเลยเติมน้ำใส่หม้อน้ำและถังพักน้ำ โดยขอให้ครูเบสท์กลับไปสตาร์ทรถอีกรอบ
ภัคจิราทำตามช่างยนต์อย่างเชื่อฟัง ระหว่างที่สตาร์ทรถ เธอเปิดกระเป๋าสะพายหยิบเอาพัดลมพกพากลับออกมาด้วย
"เป็นยังไงบ้างคะลุง?" ครูเบสท์เอ่ยปากถามลุงพลที่กำลังเติมน้ำใส่หม้อน้ำ
"หม้อน้ำกับถังพักน้ำมันแห้งครับครู ผมต้องค่อย ๆ เติมน้ำเข้าไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะคงที่ ไม่ระเหยออกมา" ลุงพลตอบ ก่อนที่ครูเบสท์จะถือพัดลมพกพาพัดความเย็นให้ลุงพล "ขอบคุณครับ แต่ผมไม่เป็นไรหรอก ผมว่าครูร้อนมากกว่าผมนะ?"
"แหมม...ลุงก็!!!" ภัคจิราแอบยิ้ม ใบหน้าของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ "งั้นเบสท์ไม่เกรงใจแล้วนะคะ"
ลุงพลหันกลับไปรินน้ำใส่หม้อน้ำรถของครูเบสท์ต่อ ลึก ๆ แกก็แอบขำในความไร้เดียงสาของครูเบสท์ พลางนึกถึงเหตุการณ์สมัยที่แกเคยล่อลวงโดนัท และนิมิตรภาพความฝันที่เป็นลางบอกเหตุว่าอีกไม่นานครูเบสท์จะต้องตาย แกเลยคิดว่าจะฉวยโอกาสนี้พิชิตความสาวของครูเบสท์ดีหรือไม่?
"ยังไม่ใช่ตอนนี้ ยังก่อน..." มนุษย์ลุงจอมเจ้าเล่ห์บอกกับตัวเอง แกจำเป็นต้องสร้างความใกล้ชิดและความไว้ใจให้ครูเบสท์ก่อน แล้วค่อย ๆ เขยิบเข้าไปให้ใกล้ตัวครูเบสท์มากขึ้นกว่านี้ ก่อนที่จะจัดการขั้นเด็ดขาด
เวลาผ่านไปเกือบสี่สิบนาที ในที่สุดรถของครูเบสท์ก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติสักที
"เฮ้อ!!! ได้กลับบ้านสักที!!!!" ครูเบสท์ปรบมือให้ลุงพลที่เปิดประตูเบาะหน้ารถออกมาหลังจากตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ครั้งสุดท้ายเสร็จแล้ว ก่อนที่จะหยิบแบงค์พันจำนวนสองใบให้ช่างซ่อมรถจำเป็นในค่ำคืนนี้ "นี่คะลุงพล สินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเบสท์นะคะ"
"โห!!! เยอะไปครับ!!! ผมคงรับไม่ได้หรอกครับครู รับไม่ได้จริง ๆ" ลุงพลปฏิเสธอย่างสุภาพ "เพราะผมได้รับน้ำใจจากน้ำดื่มที่ครูเบสท์ซื้อมาให้แล้วครับ"
"อย่าดื้อซิคะลุงพล!!!" ภัคจิราเห็นน่ารักแบบนี้ แต่เธอเองก็แอบตื้อไม่เลิก หญิงสาวถือวิสาสะจับมือลุงพลทีมีอายุมากกว่าพ่อของเธอหลายปีอย่างไม่รังเกียจ เพื่อวางเงินสองพันให้ลุงพลเป็นสินน้ำใจ "เบสท์บอกให้รับไปไงคะ!!!"
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับครู!!!" ลุงพลพยายามปฏิเสธ ก่อนพยายามคืนเงินกลับให้ครูเบสท์ที่ยังปฏิเสธ "ผมไหว้ละครับ!!!"
"ไม่ได้ค่ะ!!!" ครูเบสท์เริ่มทำหน้าดุ "ถ้าลุงพลคืน เบสท์จะไม่คุยกับลุงแล้วนะคะ!!"
...ตายแล้ว ชั้นพูดอะไรออกมา? ภัคจิราทำหน้าเหลอหลาด้วยความตกใจ ลุงพลเองก็ไม่ต่างกัน ตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์แปลกใจไม่น้อย ที่เห็นครูเบสท์ที่ปกติดูน่ารักอ่อนหวาน จะออกลูกดื้อได้ถึงขนาดนี้
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับครู" ลุงพลยังคงพยายามขอคืนเงินสองพันให้ครูเบสท์ "มันเยอะไปครับ ผมรับไม่ได้จริง ๆ ผมขอคืนนะครับ!!"
"เบสท์เต็มใจค่ะลุง..." ภัคจิรายิ้ม "รับไปเถอะค่ะ ถ้าไม่รับเงินนี้ไป เบสท์จะไม่ไปอุดหนุนร้านน้ำเต้าหู้ของลุงอีกแล้วนะคะ!!!"
"อืม..." เห็นน่ารักแบบนี้ ดื้อเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย ครูเบสท์
"เอางี้ไหมครับ? ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยน" ลุงพลยื่นข้อเสนอ "ผมจะถือว่านี่เป็นค่าน้ำเต้าหู้ร้านผม ถ้าครูเบสท์มาอุดหนุนน้ำเต้าหู้ร้านผมวันหลัง ครูเบสท์ไม่ต้องจ่ายเงินอีก ตกลงไหมครับ?"
"อืม..." ภัคจิราครุ่นคิดอยู่สักพัก "ลุงพล ลุงนี่เป็นคนดีกว่าที่เบสท์คิดนะคะ เอางั้นก็ได้ ถือว่าแฟร์ ๆ กันทั้งสองฝ่าย ดีลค่ะ!!"
"เอ่อ? ดีลคืออะไรครับ?" คนขายน้ำเต้าหู้ถึงกับงงในงง มาดงมาดีลอะไร แกไม่รู้เรื่อง
"อ้อ!!! ภาษาอังกฤษน่ะคะลุง!!!" อาจารย์พยาบาลสาวใช้มือสางปอยผมที่พัดจากลม "ดีล (Deal) แปลว่าการทำข้อตกลงทางธุรกิจน่ะคะ อธิบายยาวไป เอาเป็นว่าตกลงค่ะลุง จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย ก็นับค่าน้ำเต้าหู้ที่เบสท์ไปอุดหนุนร้านลุงไว้แล้วกันนะคะ ถ้าครบสองพันเมื่อไร เบสท์จะจ่ายด้วยเงินปกติแทน"
"ครับ ได้ครับ" ลุงพลยิ้ม ก่อนที่ครูเบสท์จะขอตัวขับรถกลับบ้าน
ลุงพลยืนมองไฟท้ายรถยนต์ของครูเบสท์ที่แล่นออกไปพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก แกหยิบเงินสองพันที่ครูเบสท์ให้มา ด้วยความตั้งใจว่าจะใช้เงินนี้ไปทำบุญแทนที่จะเอามาใช้สอย เพราะแกไม่ได้เดือดร้อนอะไร
...ครูเบสท์นี่น่ารักทั้งกายและใจเลยนะ ลุงพลคิด พอคิดว่าเธอจะต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายแบบนั้น บางครั้งคนอย่างลุงพลก็อดสงสารไม่ได้เหมือนกัน หรือว่าพรุ่งนี้เช้าแกจะเดินเข้าไปหาครูเบสท์แล้วเตือนเจ้าตัวว่าอย่าเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาดี? ครูเบสท์จะฟังคนอย่างแกเหรอวะไอ้พล?
............................................
ในคืนนั้น หลังจากที่ลุงพลช่วยซ่อมรถให้ครูเบสท์ ลุงพลได้กลับไปที่บ้านอาบน้ำและเข้านอน แกได้ฝันเห็นอดีตชาติอีกครั้ง และคราวนี้ เป็นเรื่องราวของพลอยพรรณรายและภัคจิราวดี
"ท่านพี่พลอยพรรณราย!!! เหตุใดท่านถึงได้ไปกล่าวทำเท็จต่อท่านท้าวชุมพลศักดา!!!" ภัคจิราวดีผู้เป็นน้องเดินตามหลังพลอยพรรณรายผู้เป็นพี่เข้าไปในวิหารแห่งหนึ่ง
"มันเรื่องของข้า!!" พลอยพรรณรายตอบอย่างไม่ยีหระ "ท่านท้าวหน้าโง่อยากมาหลงใหลในเสน่ห์ของข้า ช่วยไม่ได้ดอกหนา"
ธิดาองค์โตแห่งเทพตุลาการสวรรค์ยิ้มอย่างพึงพอใจในความงดงามของตน พลอยพรรณรายคือเทพธิดาแห่งสรวลสวรรค์ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยสติปัญญา ความงาม รวมไปถึงความหยิ่งผยอง
"ท่านพี่?" ภัคจิราวดีร่นคิ้วราวกับไม่อยากเชื่อสายตา "ท่านรู้ฤาไม่ว่าการกระทำของท่าน อาจทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องเปิดฉากสงครามกับแดนปีศาจ"
"แล้วจะทำไม?" พลอยพรรณรายกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน "เดี๋ยวท่านท้าวชุมพลศักดาผู้เป็นจอมทัพสวรรค์ก็จักพิชิตศึกครานี้ได้ เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ภัคจิราวดี"
"แล้วท่านจะทำอย่างไรกับท่านท้าวชุมพลศักดา?" ภัคจิราวดีผู้เป็นน้องเอ่ยปากถาม "ท่านท้าวมีชื่อนั่งรออยู่นอกวิหารในสภาพอิดโรย ท่านจักใจไม้ไส้ระกำไม่ออกไปดูดำดูดีท่านท้าวหน่อยฤา?'
"บอกไปว่าข้าไม่อยู่" พลอยพรรณรายตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน "ข้าไปหาท่านพ่อ"
พอเอื้อนเอ่ยวาจาเสร็จ พลอยพรรณรายก็เดินจากไป ปล่อยให้ภัคจิราวดียืนนิ่งอยู่ภายในวิหารโบราณอยู่เพียงผู้เดียว ธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์รู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย กับการกระทำของพี่สาวของตน
"ท่านพี่? ท่านจักทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องลุกเป็นไฟเพราะสงคราม" ภัคจิราวดีส่ายหน้า ก่อนเดินจากไป
"สองพี่น้องคู่นี้ดูแล้วไม่ค่อยถูกกันเท่าไรนะ?" ลุงพลแสดงความคิดเห็น ในขณะที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่ภาพนิมิตแห่งความฝันจะถูกตัดไปเป็นภาพหน้าวิหารโบราณแห่งนั้น
ท่านท้าวชุมพลศักดานั่งพักในสภาพที่เต็มไปด้วยบาดแผล จากการตะลุยแดนปีศาจเพื่อนำหีบบรรจุสมบัติกลับคืนมา ระหว่างที่นั่งพักอยู่นั้น ภัคจิราวดี บุตรีคนรองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในชุดขอมโบราณ
"ภัคจิราวดี?" ท่านท้าวมีชื่อเอ่ยปากเรียกน้องสาวคนรองของพลอยพรรณราย "มีอะไรให้ข้ารับใช้ฤา?"
"ไม่มีดอกท่านท้าว" ภัคจิราวดียิ้ม ก่อนยื่นขันทองที่บรรจุน้ำทิพย์ช่วยสมานแผลให้ท่านท้าวมีชื่อได้ดื่ม "ท่านดื่มน้ำทิพย์นี่เถิด..."
"ขอบน้ำใจท่านมาก" ท่านท้าวชุมพลศักดารับขันทองจากมือของภัคจิราวดี ในจังหวะที่รับขัน มือของท่านท้าวมีชื่อก็สัมผัสกับมือของธิดาองค์ของแห่งองค์ตุลาการสวรรค์
ภัคจิราวดีแอบยิ้มที่มุมปาก ในขณะที่ท่านท้าวมีชื่อกำลังดื่มน้ำทิพย์จากสวรรค์อย่างเอร็ดอร่อย
"สดชื่นเหลือเกิน!!! พละกำลังของข้ากลับมาแล้ว!!! ข้าพร้อมแล้วที่จะออกรบกับกองทัพปีศาจอีกครา!!!" จอมทัพสวรรค์ดูสดชื่นมากขึ้น บาดแผลตามตัวเริ่มจางหายทีละนิด "ขอบน้ำใจท่านมาก ท่านหญิงภัคจิราวดี"
"ท่านท้าวชุมพลศักดา ท่านต้องขอบน้ำใจพี่สาวข้า มิใช่ข้าดอก..." ภัคจิราวดีตอบด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ
"ท่านหญิงพลอยพรรณราย!!!" ท่านท้าวมีชื่อยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อรู้ว่าน้ำทิพย์ที่ได้ดื่มสมานแผลและแก้กระหายถูกส่งมาโดยแม่หญิงพลอยพรรณรายผู้เป็นยอดดวงใจ
แน่นอน ลุงพลเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด น้ำทิพย์ที่ท่านท้าวมีชื่อ อดีตชาติของตนได้ดื่มนั้น เป็นน้ำทิพย์ที่ภัคจิราวดีนำมามอบให้ด้วยตัวเองต่างหาก แต่นางเลือกที่จะปิดบังความจริง
"ภัคจิราวดี ไม่ซิ ครูเบสท์..." ลุงพลเห็นภัคจิราวดีที่เหมือนจะทำหน้าเศร้าสร้อย กับการที่ตนเองไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงให้จอมทัพสวรรค์รับรู้ได้ ว่าตนเองก็มีใจรักท่านท้าวมีชื่อเช่นเดียวกัน
(https://www.img.in.th/images/907b5f49dd2786fb968de227ed593f93.jpg)
การที่ต้องแอบรักผู้ชายคนเดียวกับพี่สาว มันเป็นเรื่องที่ทรมานหัวใจเหลือเกิน? ท่านคิดเห็นเป็นเช่นไร? ท่านท้าวชุมพลศักดา
"เอ๋?" ลุงพลตกใจมาก เพราะอยู่ดี ๆ ภัคจิราวดีก็หันมามองลุงแกด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "ครูเบสท์เห็นผมด้วยเหรอ?"
"ท่านท้าว..." ภัคจิราวดีเอ่ยปากทั้งน้ำตา "ถ้าหากข้าจะขออะไรจากท่านสักอย่าง ท่านจักทำให้ข้าได้ฤาไม่?"
"ทำอะไรครับ? ครูเบสท์จะขอให้ผมทำอะไรให้ครับ?" ลุงพลถามภัคจิราวดี แต่แกก็ดันเรียกชื่อของธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยชื่อชาติภพปัจจุบัน
"ท่านจักหยุดทุกอย่างที่น้องสาวของข้าคนใดคนหนึ่ง หรืออาจจะเป็นท่านพี่พลอยพรรณรายในชาติภพปัจจุบันได้หรือไม่?" ภัคจิราวดียื่นข้อเสนอ "ข้าจักยอมเสียสละตัวเอง แบกรับกรรมของพี่น้องข้าทั้งหมด เพื่อให้พี่สาวของข้า และน้องสาวของข้าที่เหลือได้ใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ เพื่อสะสมบุญบารมีต่อไป จนกว่าจะถึงเวลาที่พวกนางจะสิ้นอายุขัย..."
"ทำไมครูเบสท์ถึงพูดแบบนี้ละครับ?" ลุงพลถาม "ผมรู้ว่าครูเบสท์คงอยากเสียสละ แต่การทำแบบนี้ ครูเบสท์จะต้องตายนะครับ"
"ท่านท้าว ท่านมิรู้ดอกว่าท่านจะต้องเจอกับอะไร หากท่านยังไม่หยุดกรรมนี้..." และแล้วน้ำตาของภัคจิราวดีก็กลายเป็นสายเลือด "ข้ารักท่าน ข้ามิอยากเห็นท่านต้องพบกับชะตากรรมที่แสนโหดร้าย..."
พอได้ยินในสิ่งที่ภัคจิราวดีพูด ลุงพลก็คิดได้ว่าองค์ตุลาการสวรรค์เคยให้ตนเองเห็นนิมิตรภาพความฝันถึงวาระสุดท้ายของตนเองมาแล้ว แต่แล้วยังไงละ คนอย่างแกทนไม่ได้ที่ต้องเห็นภัคจิราวดีหรือครูเบสท์ต้องมาเสียสละอยู่คนเดียว
(https://www.img.in.th/images/94c1a3bb0cea8c4f237e7f1fdc63138d.png)
(ลุงพล ชุมพล เทพเมืองแมน อาชีพ คนขายน้ำเต้าหู้)
"ครูเบสท์ครับ..." ลุงพลเดินเข้าไปหาภัคจิราวดี ในระหว่างที่เดินเข้าไป ชุดเครื่องแบบนักการภารโรงของแกก็เกิดประกายแสงอย่างน่าอัศจรรย์
"ท่านท้าว?" ภัคจิราวดีพยายามเอื้อนเอ่ยวาจาห้ามไม่ให้ลุงพลที่ตอนนี้สวมใสชุดนักรบโบราณเดินเข้ามา "อย่าเข้ามาใกล้ข้าโดยเด็ดขาด!!!"
"ทำไมเล่า ภัคจิราวดี?" ลุงพลที่ตอนนี้ได้กลายเป็นท่านท้าวชุมพลศักดา ได้เอื้อนเอ่ยวาจากถามธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "ข้ามิอาจปล่อยให้เจ้าต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายเช่นนั้นได้ ข้ายินยอมให้คนทั้งโลกมองข้าว่าเป็นคนมักมากในกาม มากรักหลายใจ แต่จักไม่มีวันย่อมปล่อยให้เจ้า ภัคจิราวดี ผู้มีใจรักในตัวข้ามาตั้งแต่อดีตชาติต้องพบกับชะตากรรมเช่นนั้น มาเถิด เข้ามาหาข้า..."
"ท่านท้าว..." ภัคจิราวดีเอ่ยปากทั้งน้ำตา "ข้ามิอาจผิดคำสัญญากับพี่สาวของข้าได้หรอกหนา...ท่านไม่รู้หรอกว่าพี่สาวของข้าเวลาโกรธเกรี้ยวนั้นน่ากลัวสักเพียงใด"
"ก็ช่างนางปะไร" ในที่สุด ท่านท้าวชุมพลศักดาก็ได้โอบกอดภัคจิราวดี "ข้าจักพูดกับนางเอง"
ภัคจิราวดีสงบนิ่งภายใต้อ้อมกอดของท่านท้าวชุมพลศักดา ในที่สุดความรักที่ต้องเก็บซ้อนไว้ก็ถูกเปิดเผยสักที เพียงแต่....
มันคือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ พลอยพรรณราย แม้นนางมิได้สนใจไยดีท่านท้าวมีชื่อนัก แต่นี่เรื่องของศักดิ์ศรีและเรื่องของหัวใจ สงครามระหว่างพี่น้องกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
............................................
ในวันรุ่งขึ้น ลุงพลกลับมาเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ตามปกติ ระหว่างที่นั่งว่าง แกก็นั่งคิดถึงภาพเหตุการณ์เมื่อวาน และภาพนิมิตความฝันที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าตัวแกเองคงหลีกหนีไม่พ้นชะตากรรมที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
"ลุงพลคะ?" ภัคจิราในชุดเดรส ปรากฏตัวขึ้นมาหน้าร้านของลุงพล "น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ชุดนึงค่ะ เบสท์จะไปกินที่ห้องทำงาน"
"ได้ครับ" ลุงพลยิ้มหวาน ก่อนหันกลับไปจัดน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้ลูกค้ากิตติมศักดิ์
"ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องเมื่อวาน" ภัคจิราเอ่ยปากขึ้นมา
"ไม่เป็นหรอกครับ" ลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้ยื่นถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้อาจารย์สาวคนสวย "นี่ครับ"
"สามสิบบาทใช่ไหมคะ?" ครูเบสท์ควักแบงค์ยี่สิบและเหรียญสิบให้ลุงพล "นี่ค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับครู!!!" ลุงพลรีบปฏิเสธ "ก็เราตกลงกันแล้วไง!!"
"ก็เบสท์เปลี่ยนใจแล้วนิคะ" ครูเบสท์ตอบอย่างไม่ยี่หระ "รับไปนะคะ!!"
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับ!!" ลุงพลพยายามปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ถูกครูเบสท์จับมือวางเงินเอาไว้บนมือของเจ้าของร้านจนได้
"ไม่ได้ค่ะ!!!" ภัคจิราทำหน้าดุ "ของซื้อของขาย..."
อะไรมันจะดื้อขนาดนี้เนี่ย ครูเบสท์ ลุงพลคิด แต่ว่า
"ลุงพล? เบสท์?" อยู่ดี ๆ พลอยพรรณก็ปรากฏตัวขึ้นมา ในมือของเจ้าหญิงน้ำแข็งถือถุงใส่ข้าวกล่องที่เธอตั้งใจทำมาให้ลุงพลได้กินในมื้อเที่ยง เธอเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ครูเบสท์และลุงพลจับมือถือแขนกัน "นี่มันอะไรกัน?"
(https://www.img.in.th/images/527c6a35497b64c7066d3d401451537d.jpg)
(หมอพลอย พลอยพรรณ จารุศิริการกุล (อาชีพ แพทย์หญิงประจำห้องพยาบาล)
"หมอพลอย!!!" ลุงพลและครูเบสท์หันไปมองหมอพลอยที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความตกใจ เรียกได้ว่าจังหวะนรกจริง ๆ เลยเชียว
พลอยพรรณดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นลุงพลที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะเลิกเจ้าชู้ มาจับมือถือแขนครูเบสท์ขนาดนั้น เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน จะเรียกได้ว่าเธอกำลังหึงตาเฒ่าก็ว่าได้
...เมื่อท้องนภามิอาจมีดวงจันทราถึงสองดวง สงครามระหว่างพลอยพรรณรายและภัคจิราวดีกำลังจะเริ่มต้นแล้ว ใครกัน จะเป็นที่สุดในหัวใจของท่านท้าวชุมพลศักดา หรือในชาติภพปัจจุบันก็คือลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้?
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ตัวอย่างบางส่วนของตอนต่อไป เปิดหวอรอรัก ขอซ่อนนะ สำหรับคนที่อยากรู้สปอยด์หรือไม่ซีเรียสสปอยด์นะครับ ใครซีเรียส ปล่อยผ่านครับ 5555+
จัดสามหนึ่งเลย หมอพลอย น้องแพรว ครธเบส ลุงพล
ครูเบสกับนู๋ทรายคนไหนก่อน
อิจฉาลุงพล
หมอพลอยหึงลุงพลจนได้ ::Evil::
หมอพลอยหึงลุงแน่ๆ
อ้างจาก: nato87 เมื่อ พฤศจิกายน 27, 2020, 04:56:39 หลังเที่ยง
พูดคุยก่อนอ่าน : กลับมาแล้วครับ สำหรับเกมรักปีสองตอนที่ 11 อย่างที่ผมได้บอกไปหลายครั้งละ ครูเบสท์จะมีบทบาทเด่นมากขึ้น และหมอพลอยจะต้องเป็นตัวร้าย ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในตอนนี้แล้วครับผม สำหรับตอนนี้ จะมีฉากเล่าย้อนอดีตด้วยนะครับ ค่อนข้างจะจักร ๆ วงศ์ ๆ ลิเก ๆ สักหน่อย 555 ตอนนี้ช่วงครึ่งแรกอาจน่าเบื่อสักหน่อย มันเกี่ยวกับการซ่อมรถนะครับ แต่ฉากนี้ ผมได้พยายามถ่ายทอดความเป็นครูเบสท์ให้ทุกคนได้เห็นกันมากขึ้น ว่าเธอเป็นคนที่มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร พวกคุณคิดว่าจะชนะหมอพลอยในบั้นปลายหรือไม่ ลองบอกผมมา
ขอโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกนิด ตอนนี้ 'ภารโรงเฟี้ยว...เกี้ยวเด็กพยาบาล' เล่ม 3 ได้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตามลิงค์ด้านล่าง
(https://www.img.in.th/images/185ca921ae9be96e82035a7273300a1f.gif)
ลิงค์อยู่ด่านล่างนะครับ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiODU1MjYwIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTM5MjUzIjt9&page_no=1
สำหรับตอนหน้า 'เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 12 : เปิดหวอรอรัก' เห็นชื่อตอนก็น่าจะรู้นะครับว่าจะพบกับอะไร ฉากอีโรติกเน้น ๆ จัดเต็ม ๆ ครับผม แต่ผมไม่บอกหรอกนะว่าลุงพลจะได้ใคร 555555
######################
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
https://xonly8.com/index.php?topic=236496.0
อ้างถึงตัดมาทางฝั่งครูเบสท์ หลังจากเลิกงาน เธอก็แวะขับรถไปหายัยอิมเพื่อนรักเพื่อกินข้าวเย็นด้วยกัน พร้อมกับพูดคุยถึงการนัดมีทติ้งในกลุ่มคณะพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
"ทับทิมตอนนี้อยู่ไหน แล้วจะกลับไทยเมื่อไร?" ครูเบสท์เอ่ยปากถามยัยอิมเพื่อนรัก ที่ผันตัวไปเป็นดีไซนเนอร์และนักธุรกิจ
"มันบินอยู่กาตาร์ บ่นคิดถึงไทย อยากกลับมาทำงานที่ไทยใจจะขาด" ยัยอิมตอบ "เห็นว่ามันคบกับหนุ่มนักธุรกิจแขกที่นั่นด้วยนะเบสท์ โคตรรวย"
อัมพรเปิดอินสตาแกรมของยัยทับทิมเพื่อนร่วมคณะพยาบาลศาสตร์ให้เบสท์ดู อาจารย์สาวถึงกับร้องว้าวในชีวิตสุดหรูและสุดปังของยัยทับทิมเพื่อนรักที่เป็นแอร์โฮสเตสสายการบินระหว่างประเทศที่ตะวันออกกลาง ในกลุ่มสามใบเถาจากคณะพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์ กล่าวได้ว่าทับทิม คือนัมเบอร์วันตัวจริงของกลุ่ม ที่แม้แต่อัมพรและภัคจิรายังต้องยอมรับ
"ชีวิตยัยทับทิมนีดี๊ดีเนอะ ว่าไหม?" ยัยอิมแสดงความคิดเห็น ขณะกำลังเลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟนดูชีวิตของทับทิม สาวไฮโซประจำกลุ่ม
"ใช่..." ครูเบสท์ยิ้ม "สงสัยอีกหน่อยคงได้เป็นเจ้าสาวแขกแล้วละเพื่อนเรา"
สองสาวอดีตนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ภาคอินเตอร์พูดคุยสนทนาในมื้อเย็นภายในร้านอาหารที่ดูเรียบง่ายแต่แอบแพงใจกลางเมือง ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านทางใครทางมัน
"อิม..." ภัคจิราเอ่ยชื่อเพื่อนรัก "ถ้านัดรวมเพื่อน ๆ ได้ครบทุกคนเมื่อไร ก็แท็คหรือไลน์มาบอกชั้นด้วยนะเว้ย"
"ได้จ้า!!!" ยัยอิมยิ้มหวาน "บางทีชั้นอาจจะลองหาหนุ่ม ๆ โปรไฟล์ดี ๆ แนะนำให้แกได้รู้จักนะ เปิดใจมองหาตัวผู้บ้างได้แล้วแก จะได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที ชั้นมีผัวมีลูกแล้วนะเว้ย สงสารชั้นบ้าง"
"ไม่เอาอ่ะ ชั้นอยากทรมานแกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ" ภัคจิรายิ้ม ก่อนโบกมือลาเพื่อนรักเพื่อกลับบ้านทางใครทางมัน อาจารย์สาวเดินมาที่โรงจอดรถหลังร้าน เพื่อขับรถ Honda Civic สีบลอนด์กลับบ้านแถวพัฒนาการ
ทุกอย่างดูปกติในช่วงค่ำคืนใจกลางมหานคร จนกระทั่งภัคจิราสัมผัสได้ถึงความปิดปกติของเครื่องยนต์ เมื่อควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากหน้ากระโปรงรถ พอเห็นท่าไม่ดี อาจารย์สาวเลยเลี้ยวรถจอดข้างทาง เพื่อตรวจสภาพรถ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลยแม้แต่น้อย
"โอ้ย!!! รถมาเสียอะไรตอนนี้เนี่ย!!!" ภัคจิราเปิดกระโปรงหน้ารถดู เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกเลยแม้แต่น้อย อาศัยว่าแต่ขับอย่างเดียว นาน ๆ ครั้งถึงจะพารถเข้าอู่ไปเช็คสภาพ "แล้วจะทำยังไงเนี่ย!!!"
นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว ภัคจิรารู้ดีว่าเธอเป็นผู้หญิง และมันไม่ปลอดภัยเอาซะเลยที่รถของเธอมาเสียใจกลางเมืองแบบนี้ จะไปตามช่างที่ไหนได้บ้างในเวลาตอนนี้? หรือจะทิ้งรถเอาไว้แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาวัดดวงกันว่ารถยังอยู่ที่เดิมหรือว่าอาจถูกตำรวจลากไปดี?
"แล้วจะทำยังไงเนี่ย!!!! โอ้ย!!!!" อาจารย์สาวจับโน่นจับนี่ จนคราบเขม่าติดมือ ภัคจิราทำหน้ามุ่ยด้วยความกังวล จนกระทั่งลุงพลที่บังเอิญขับรถมอเตอร์ไซค์ไปจ่ายตลาดแถวนั้นแวะมาเจอเข้าพอดี
"ครูเบสท์? ครูเบสท์ใช่ไหมครับ?" ลุงพลชะลอรถเพื่อถามอีกฝ่าย "รถเป็นอะไรครับครู?"
"รถเสีย สตาร์ทเครื่องไม่ได้เลยค่ะลุง" ภัคจิราดูใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นลุงพลปรากฏตัวต่อหน้า "ช่วยเบสท์หน่อยนะคะลุง เบสท์ไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลย"
ลุงพลยิ้มให้ครูเบสท์ ก่อนถอดหมวกกันน็อคแขวนไว้ที่ตะกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซค์ เพื่อช่วยดูอาการรถยนต์ Honda Civic ของครูเบสท์ให้
"โอ้ย!!! ควันโขมงเลยแหะ!!!" ลุงพลยืนตรวจเครื่องยนต์รถของครูเบสท์ "ไม่แน่ใจว่าน้ำกลั่นแห้งหรือรั่วนะครับครู แต่ต้องรอก่อน เปิดดูหม้อน้ำตอนนี้มีหวังมือพองแน่"
"ค่ะ รบกวนด้วยนะคะลุงพล" ภัคจิราดูกังวลใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มไลน์ระหว่างรอ
ลุงพลแอบชำเลืองมองครูเบสท์เป็นระยะ ระหว่างยืนอยู่หน้ากระโปรงรถครูเบสท์ จนกระทั่งไปเหลือบเห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นมาด้วยความเร็วจากด้านหลัง
"ครูเบสท์ ระวังรถครับ!!!!" ลุงพลเอ่ยปากเตือนครูเบสท์ที่ยืนพิมพ์ไลน์บนสมาร์ทโฟนอยู่ โดยไม่รู้ว่ามีคนขับรถมอเตอร์ไซค์ที่แล่นมาอย่างรวดเร็วจากด้านหลัง
"ปรี๊ด!!!!" เสียแตรรถมอเตอร์ไซด์ดังลั่น ครูเบสท์พอหันไปก็ร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่ลุงพลจะดึงร่างของเธอออกมาได้ทันควัน
"เป็นบ้าอะไรน่ะคนสวย!!! อยากตายเหรอ!!!" ขาซิ่งคนนั้นหันมาด่าครูเบสท์ด้วยความโกรธ ก่อนบีบคันเร่งหนีไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
"เอ่อ..." ครูเบสท์ตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของลุงพลที่เข้ามาช่วยด้วยการดึงร่างของเธอออกมา เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ลุงพลและครูเบสท์ได้มองตากันในระยะเผาขนแบบนี้
"ครูเบสท์..." ลุงพลมองอาจารย์สาวตาไม่กระพริบ งดงามเหลือเกิน ภัคจิราวดี ผู้มีศักดิ์ไม่แพ้พลอยพรรณรายผู้เป็นพี่สาวแห่งองค์ตุลาการสวรรค์
######################
เรียกว่าลุงพลได้ช่วยครูเบสท์จากนาทีวิกฤติ หญิงสาวผู้สูงศักดิ์และเพรียบพร้อมไม่แพ้หมอพลอยแห่งวิทยาลัยพยาบาลตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของสุภาพบุรุษสูงวัยอย่างลุงพล
"เอ่อ..." ภัคจิรามองหน้าลุงพลตาแป๋ว ราวกับว่าเธอกำลังต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่าง ทำไมเธอถึงรู้สึกผูกพันกับผู้ชายอายุหกสิบกว่า ๆ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นคนนี้เลยแม้แต่น้อยกันนะ
ในขณะที่ลุงพล ตาเฒ่ามองหญิงสาวตาไม่กระพริบ งดงาม น่ารัก เธอเพียบพร้อมไม่แพ้หมอพลอยเลยแม้แต่น้อย เมื่อมองลึกลงไป ลุงพลรู้สึกหลงใหลในความอ่อนหวานของดวงตาคู่นั้น
"ภัคจิราวดี..." ลุงพลเผลอเอ่ยปากชื่อจริงของครูเบสท์ด้วยชื่อเก่าเมื่ออดีตชาติ ทำเอาอาจารย์สาวถึงกับตื่นจากภวังค์ด้วยความตกใจ
"เอ่อ...ลุงพลคะ?" ครูเบสท์ที่ได้สติเอ่ยปากขึ้นมา "ปล่อยเบสท์ได้แล้วมั้งคะ?"
"อุ้ย!!! ขอโทษครับครู!!!" ลุงพลรีบปล่อยครูเบสท์ออกมา ฝ่ายหญิงสาวดูมีท่าทางเขอะเขินและประหม่าอย่างเห็นได้ชัด "ขอโทษนะครับครู ผมไม่ได้ตั้งใจ!!!"
"ไม่เป็นไรค่ะ..." ครูเบสท์เอามือเสยปอยผมแก้อาการประหม่า หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด เธอถึงได้มีอาการหวั่นไหวกับลุงพลมากถึงขนาดนี้
"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปดูรถให้ครูต่อนะครับ" คนขายน้ำเต้าหู้รีบเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ตาลุงเดินกลับไปดูที่หน้ากระโปรงรถของครูเบสท์เพื่อตรวจเช็คสภาพหม้อน้ำรถยนต์ของอาจารย์สาว ลุงพลลองเอามือจิ้มหม้อน้ำรถครูเบสท์ ก่อนที่จะรีบดึงมือออกเพราะหม้อน้ำรถยังร้อนฉ่าอยู่
(https://www.img.in.th/images/6f2a7b9809d20458225982fcf7ea9034.jpg)
(ครูเบสท์ - ภัคจิรา นฤนารถไมตรี (อาจารย์ประจำภาควิชาพยาบาลศาสตร์)
"เป็นยังไงบ้างคะลุง?" ภัคจิราถามด้วยความซื่อ เธอไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์มากนัก
"ร้อนครับ!!!" ลุงพลหันไปตอบด้วยรอยยิ้ม "หม้อน้ำรถครูเบสท์ร้อนจี๋เลยครับ!!!"
"ทำไมต้องมาเสียตอนนี้ด้วยนะ!!" อาจารย์สาวบ่นกับตัวเอง ก่อนเหลือบไปเห็นร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ไม่ไกล "ลุงพลคะ? เดี๋ยวเบสท์แวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก่อนนะคะ"
"ครับ ได้ครับ" อดีตภารโรงเก่ายิ้มรับ ก่อนหันกลับมาตรวจสภาพเครื่องยนต์รถของครูเบสท์ในส่วนอื่น ๆ ต่อ แต่ก็ยังไม่วายแอบหันไปมองครูเบสท์เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ
ครูเบสท์ดูเป็นสาวเรียบร้อย แต่ความรู้สึกของลุงพลรู้สึกว่าอาจารย์สาวคนนี้แอบซ่อนรูป และมั่นใจได้ว่าภัคจิราคนสวยจะต้องเด็ดดวงไม่แพ้เจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างพลอยพรรณแน่นอน
พอครูเบสท์หายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ลุงพลก็หยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาเปิดโหมดไฟฉายเครื่องยนต์กระโปรงหน้ารถของครูเบสท์ โดยเฉพาะตรงหม้อน้ำที่ยังมีควันลอยโขม่งอยู่ ทำให้ลุงพลคิดว่าบางทีหม้อน้ำอาจจะแห้งก็เป็นได้
"มาแล้วค่ะ!!" ครูเบสท์เดินกลับมาพร้อมถุงพลาสติก ภายในมีน้ำเปล่าและน้ำอัดลมที่อาจารย์สาวตั้งใจซื้อมาฝากให้ลุงพล พระเอกจำเป็นในค่ำคืนนี้ "เป็นยังไงบ้างคะลุง? มีความคืบหน้าบ้างไหม?"
"ผมคิดว่าหม้อน้ำแห้งแน่ ๆ ครับ" อดีตภารโรงตอบ "ต้องรอสักพักให้เครื่องยนต์มันเย็นก่อนละครับ"
"อีกนานไหมละคะลุง?" พอได้ยินแบบนี้ อาจารย์สาวก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะนี่ก็เริ่มดึกมากแล้ว เธออยากกลับบ้าน
"สักครึ่งชัวโมงน่ะครับครู" ลุงพลตอบ "ต้องรอให้เครื่องยนต์มันเย็นกว่านี้ แล้วเดี๋ยวผมถึงจะเปิดฝาหม้อน้ำเช็คได้ ว่าแต่ครูมีผ้าที่ไม่ใช้แล้ว หรือน้ำเปล่าสักขวดสองขวดไหมครับ?"
"ผ้ามีค่ะ แต่น้ำ อาจจะต้องกลับไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อแหะ" ภัคจิราหันกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ
"ไม่เป็นไรครับ!!!" ลุงพลเหลือบไปเห็นน้ำเปล่าที่ครูเบสท์ซื้อมาในถุง "น้ำเปล่าที่ครูเบสท์ซื้อมาก็น่าจะใช้ได้อยู่ เดี๋ยวผมขอผ้าขนหนูด้วยครับครู"
"ค่ะ ได้ค่ะ" สักพักครูเบสท์กดสวิตซ์ปลดล็อคประตูรถ แล้วเปิดประตูรถเบาะหน้าหยิบผ้าขนหนูเก่า ๆ มาให้ลุงพลเพื่อใช้ในการเปิดฝาหม้อน้ำ
ระหว่างที่รอให้เครื่องยนต์มันเย็นลงกว่านี้สักพัก ครูเบสท์ก็แกะฝาน้ำอัดลมใส่หลอดยื่นให้ลุงพลที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็คสภาพเครื่องยนต์
"ลุงพลคะ? ดื่มน้ำก่อนค่ะ" ครูเบสท์ถือขวดน้ำอัดลมที่เปิดฝาและใส่หลอดเตรียมไว้ให้ลุงพล
"ครับ ขอบคุณครับ" ลุงพลจะยื่นมือรับขวดน้ำอัดลม แต่ถูกครูเบสท์ปฏิเสธ
"ไม่คะ!!! ให้เบสท์ป้อนเนี่ยแหละ!!!" ภัคจิราค้อนใส่ "เบสท์ต้องรบกวนลุงมาก ๆ เลยอยากจะขอมีส่วนร่วมทำดีบ้างอะไรบ้างค่ะ"
"งั้นก็...ขอบคุณครับ" ลุงพลพยักหน้าขอบคุณ ก่อนดูดน้ำอัดลมที่ครูเบสท์ยื่นมาให้ ตาเฒ่าแอบชำเลืองมองอาจารย์สาวด้วยสายตาเจ้าชู้ อีกภัคจิรารู้สึกได้
"เอ่อ...มองเบสท์แบบนั้น?" อาจารย์สาวเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย "มีอะไรติดหน้าเบสท์เหรอคะ?"
"เปล่าครับ ไม่มีอะไร" พอดื่มน้ำอัดลมแก้กระหาย ลุงพลก็กลับไปหยิบผ้าขนหนูที่วางไว้ขอบกระโปรงรถเปิดฝาหม้อน้ำ "โอ้โห!!! แห้งสนิทเลยครับ!!!"
"งั้นต้องเติมน้ำใช่ไหมคะลุง?" ภัคจิราถามด้วยความไม่รู้
"ใช่ครับ" ลุงพลหันมายิ้มให้อาจารย์สาว "น้ำอาจจะไม่พอแหะ ผมอาจจะต้องการน้ำเพิ่มอีก ของสักสองลิตรน่ะครับครู"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวเบสท์ไปซื้อให้นะคะ" ภัคจิราเตรียมเดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกรอบ
"เดี๋ยวผมไปเองก็ได้ครับ เกรงใจครู" ช่างซ่อมรถจำเป็นรู้สึกเกรงใจครูเบสท์ ก็เลยขอเสนอไปซื้อน้ำเอง แต่ว่า...
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะลุงพล!!" อาจารย์สาวปฏิเสธ "บอกแล้วไงว่าให้เบสท์มีส่วนร่วมบ้าง!!! ลุงพลอยู่ตรงนี้ดีแล้วค่ะ อยากกินอะไรเพิ่มไหมคะ? เดี๋ยวเบสท์ซื้อมาให้?"
"ไม่แล้วครับครู" ลุงพลตอบ "ขอบคุณมากครับ"
แล้วครูเบสท์ก็เดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อน้ำขวดใหญ่อีกสองลิตรกลับมา ตอนนี้ลุงพลก็เลยตรวจเช็คทั้งหม้อน้ำและถังพักน้ำ ก็พบว่ามันแห้งเหมือนกันหมด
"น้ำมาแล้วค่ะ!!!" ครูเบสท์เดินถือถุงพลาสติกใส่น้ำเปล่าสองขวดจำนวน 2 ลิตรกลับมา "โอ้ย!!!! ร้อน!!!!"
ลุงพลแอบยิ้มที่มุมปาก ครูเบสท์นี่ดูเป็นลูกคุณหนูไม่ต่างจากหมอพลอยเลยแม้แต่น้อย รออีกสักพัก ลุงพลเลยเติมน้ำใส่หม้อน้ำและถังพักน้ำ โดยขอให้ครูเบสท์กลับไปสตาร์ทรถอีกรอบ
ภัคจิราทำตามช่างยนต์อย่างเชื่อฟัง ระหว่างที่สตาร์ทรถ เธอเปิดกระเป๋าสะพายหยิบเอาพัดลมพกพากลับออกมาด้วย
"เป็นยังไงบ้างคะลุง?" ครูเบสท์เอ่ยปากถามลุงพลที่กำลังเติมน้ำใส่หม้อน้ำ
"หม้อน้ำกับถังพักน้ำมันแห้งครับครู ผมต้องค่อย ๆ เติมน้ำเข้าไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะคงที่ ไม่ระเหยออกมา" ลุงพลตอบ ก่อนที่ครูเบสท์จะถือพัดลมพกพาพัดความเย็นให้ลุงพล "ขอบคุณครับ แต่ผมไม่เป็นไรหรอก ผมว่าครูร้อนมากกว่าผมนะ?"
"แหมม...ลุงก็!!!" ภัคจิราแอบยิ้ม ใบหน้าของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ "งั้นเบสท์ไม่เกรงใจแล้วนะคะ"
ลุงพลหันกลับไปรินน้ำใส่หม้อน้ำรถของครูเบสท์ต่อ ลึก ๆ แกก็แอบขำในความไร้เดียงสาของครูเบสท์ พลางนึกถึงเหตุการณ์สมัยที่แกเคยล่อลวงโดนัท และนิมิตรภาพความฝันที่เป็นลางบอกเหตุว่าอีกไม่นานครูเบสท์จะต้องตาย แกเลยคิดว่าจะฉวยโอกาสนี้พิชิตความสาวของครูเบสท์ดีหรือไม่?
"ยังไม่ใช่ตอนนี้ ยังก่อน..." มนุษย์ลุงจอมเจ้าเล่ห์บอกกับตัวเอง แกจำเป็นต้องสร้างความใกล้ชิดและความไว้ใจให้ครูเบสท์ก่อน แล้วค่อย ๆ เขยิบเข้าไปให้ใกล้ตัวครูเบสท์มากขึ้นกว่านี้ ก่อนที่จะจัดการขั้นเด็ดขาด
เวลาผ่านไปเกือบสี่สิบนาที ในที่สุดรถของครูเบสท์ก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติสักที
"เฮ้อ!!! ได้กลับบ้านสักที!!!!" ครูเบสท์ปรบมือให้ลุงพลที่เปิดประตูเบาะหน้ารถออกมาหลังจากตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ครั้งสุดท้ายเสร็จแล้ว ก่อนที่จะหยิบแบงค์พันจำนวนสองใบให้ช่างซ่อมรถจำเป็นในค่ำคืนนี้ "นี่คะลุงพล สินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเบสท์นะคะ"
"โห!!! เยอะไปครับ!!! ผมคงรับไม่ได้หรอกครับครู รับไม่ได้จริง ๆ" ลุงพลปฏิเสธอย่างสุภาพ "เพราะผมได้รับน้ำใจจากน้ำดื่มที่ครูเบสท์ซื้อมาให้แล้วครับ"
"อย่าดื้อซิคะลุงพล!!!" ภัคจิราเห็นน่ารักแบบนี้ แต่เธอเองก็แอบตื้อไม่เลิก หญิงสาวถือวิสาสะจับมือลุงพลทีมีอายุมากกว่าพ่อของเธอหลายปีอย่างไม่รังเกียจ เพื่อวางเงินสองพันให้ลุงพลเป็นสินน้ำใจ "เบสท์บอกให้รับไปไงคะ!!!"
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับครู!!!" ลุงพลพยายามปฏิเสธ ก่อนพยายามคืนเงินกลับให้ครูเบสท์ที่ยังปฏิเสธ "ผมไหว้ละครับ!!!"
"ไม่ได้ค่ะ!!!" ครูเบสท์เริ่มทำหน้าดุ "ถ้าลุงพลคืน เบสท์จะไม่คุยกับลุงแล้วนะคะ!!"
...ตายแล้ว ชั้นพูดอะไรออกมา? ภัคจิราทำหน้าเหลอหลาด้วยความตกใจ ลุงพลเองก็ไม่ต่างกัน ตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์แปลกใจไม่น้อย ที่เห็นครูเบสท์ที่ปกติดูน่ารักอ่อนหวาน จะออกลูกดื้อได้ถึงขนาดนี้
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับครู" ลุงพลยังคงพยายามขอคืนเงินสองพันให้ครูเบสท์ "มันเยอะไปครับ ผมรับไม่ได้จริง ๆ ผมขอคืนนะครับ!!"
"เบสท์เต็มใจค่ะลุง..." ภัคจิรายิ้ม "รับไปเถอะค่ะ ถ้าไม่รับเงินนี้ไป เบสท์จะไม่ไปอุดหนุนร้านน้ำเต้าหู้ของลุงอีกแล้วนะคะ!!!"
"อืม..." เห็นน่ารักแบบนี้ ดื้อเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย ครูเบสท์
"เอางี้ไหมครับ? ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยน" ลุงพลยื่นข้อเสนอ "ผมจะถือว่านี่เป็นค่าน้ำเต้าหู้ร้านผม ถ้าครูเบสท์มาอุดหนุนน้ำเต้าหู้ร้านผมวันหลัง ครูเบสท์ไม่ต้องจ่ายเงินอีก ตกลงไหมครับ?"
"อืม..." ภัคจิราครุ่นคิดอยู่สักพัก "ลุงพล ลุงนี่เป็นคนดีกว่าที่เบสท์คิดนะคะ เอางั้นก็ได้ ถือว่าแฟร์ ๆ กันทั้งสองฝ่าย ดีลค่ะ!!"
"เอ่อ? ดีลคืออะไรครับ?" คนขายน้ำเต้าหู้ถึงกับงงในงง มาดงมาดีลอะไร แกไม่รู้เรื่อง
"อ้อ!!! ภาษาอังกฤษน่ะคะลุง!!!" อาจารย์พยาบาลสาวใช้มือสางปอยผมที่พัดจากลม "ดีล (Deal) แปลว่าการทำข้อตกลงทางธุรกิจน่ะคะ อธิบายยาวไป เอาเป็นว่าตกลงค่ะลุง จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย ก็นับค่าน้ำเต้าหู้ที่เบสท์ไปอุดหนุนร้านลุงไว้แล้วกันนะคะ ถ้าครบสองพันเมื่อไร เบสท์จะจ่ายด้วยเงินปกติแทน"
"ครับ ได้ครับ" ลุงพลยิ้ม ก่อนที่ครูเบสท์จะขอตัวขับรถกลับบ้าน
ลุงพลยืนมองไฟท้ายรถยนต์ของครูเบสท์ที่แล่นออกไปพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก แกหยิบเงินสองพันที่ครูเบสท์ให้มา ด้วยความตั้งใจว่าจะใช้เงินนี้ไปทำบุญแทนที่จะเอามาใช้สอย เพราะแกไม่ได้เดือดร้อนอะไร
...ครูเบสท์นี่น่ารักทั้งกายและใจเลยนะ ลุงพลคิด พอคิดว่าเธอจะต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายแบบนั้น บางครั้งคนอย่างลุงพลก็อดสงสารไม่ได้เหมือนกัน หรือว่าพรุ่งนี้เช้าแกจะเดินเข้าไปหาครูเบสท์แล้วเตือนเจ้าตัวว่าอย่าเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาดี? ครูเบสท์จะฟังคนอย่างแกเหรอวะไอ้พล?
............................................
ในคืนนั้น หลังจากที่ลุงพลช่วยซ่อมรถให้ครูเบสท์ ลุงพลได้กลับไปที่บ้านอาบน้ำและเข้านอน แกได้ฝันเห็นอดีตชาติอีกครั้ง และคราวนี้ เป็นเรื่องราวของพลอยพรรณรายและภัคจิราวดี
"ท่านพี่พลอยพรรณราย!!! เหตุใดท่านถึงได้ไปกล่าวทำเท็จต่อท่านท้าวชุมพลศักดา!!!" ภัคจิราวดีผู้เป็นน้องเดินตามหลังพลอยพรรณรายผู้เป็นพี่เข้าไปในวิหารแห่งหนึ่ง
"มันเรื่องของข้า!!" พลอยพรรณรายตอบอย่างไม่ยีหระ "ท่านท้าวหน้าโง่อยากมาหลงใหลในเสน่ห์ของข้า ช่วยไม่ได้ดอกหนา"
ธิดาองค์โตแห่งเทพตุลาการสวรรค์ยิ้มอย่างพึงพอใจในความงดงามของตน พลอยพรรณรายคือเทพธิดาแห่งสรวลสวรรค์ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยสติปัญญา ความงาม รวมไปถึงความหยิ่งผยอง
"ท่านพี่?" ภัคจิราวดีร่นคิ้วราวกับไม่อยากเชื่อสายตา "ท่านรู้ฤาไม่ว่าการกระทำของท่าน อาจทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องเปิดฉากสงครามกับแดนปีศาจ"
"แล้วจะทำไม?" พลอยพรรณรายกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน "เดี๋ยวท่านท้าวชุมพลศักดาผู้เป็นจอมทัพสวรรค์ก็จักพิชิตศึกครานี้ได้ เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ภัคจิราวดี"
"แล้วท่านจะทำอย่างไรกับท่านท้าวชุมพลศักดา?" ภัคจิราวดีผู้เป็นน้องเอ่ยปากถาม "ท่านท้าวมีชื่อนั่งรออยู่นอกวิหารในสภาพอิดโรย ท่านจักใจไม้ไส้ระกำไม่ออกไปดูดำดูดีท่านท้าวหน่อยฤา?'
"บอกไปว่าข้าไม่อยู่" พลอยพรรณรายตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน "ข้าไปหาท่านพ่อ"
พอเอื้อนเอ่ยวาจาเสร็จ พลอยพรรณรายก็เดินจากไป ปล่อยให้ภัคจิราวดียืนนิ่งอยู่ภายในวิหารโบราณอยู่เพียงผู้เดียว ธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์รู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย กับการกระทำของพี่สาวของตน
"ท่านพี่? ท่านจักทำให้แดนสวรรค์ของเราต้องลุกเป็นไฟเพราะสงคราม" ภัคจิราวดีส่ายหน้า ก่อนเดินจากไป
"สองพี่น้องคู่นี้ดูแล้วไม่ค่อยถูกกันเท่าไรนะ?" ลุงพลแสดงความคิดเห็น ในขณะที่กำลังยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่ภาพนิมิตแห่งความฝันจะถูกตัดไปเป็นภาพหน้าวิหารโบราณแห่งนั้น
ท่านท้าวชุมพลศักดานั่งพักในสภาพที่เต็มไปด้วยบาดแผล จากการตะลุยแดนปีศาจเพื่อนำหีบบรรจุสมบัติกลับคืนมา ระหว่างที่นั่งพักอยู่นั้น ภัคจิราวดี บุตรีคนรองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในชุดขอมโบราณ
"ภัคจิราวดี?" ท่านท้าวมีชื่อเอ่ยปากเรียกน้องสาวคนรองของพลอยพรรณราย "มีอะไรให้ข้ารับใช้ฤา?"
"ไม่มีดอกท่านท้าว" ภัคจิราวดียิ้ม ก่อนยื่นขันทองที่บรรจุน้ำทิพย์ช่วยสมานแผลให้ท่านท้าวมีชื่อได้ดื่ม "ท่านดื่มน้ำทิพย์นี่เถิด..."
"ขอบน้ำใจท่านมาก" ท่านท้าวชุมพลศักดารับขันทองจากมือของภัคจิราวดี ในจังหวะที่รับขัน มือของท่านท้าวมีชื่อก็สัมผัสกับมือของธิดาองค์ของแห่งองค์ตุลาการสวรรค์
ภัคจิราวดีแอบยิ้มที่มุมปาก ในขณะที่ท่านท้าวมีชื่อกำลังดื่มน้ำทิพย์จากสวรรค์อย่างเอร็ดอร่อย
"สดชื่นเหลือเกิน!!! พละกำลังของข้ากลับมาแล้ว!!! ข้าพร้อมแล้วที่จะออกรบกับกองทัพปีศาจอีกครา!!!" จอมทัพสวรรค์ดูสดชื่นมากขึ้น บาดแผลตามตัวเริ่มจางหายทีละนิด "ขอบน้ำใจท่านมาก ท่านหญิงภัคจิราวดี"
"ท่านท้าวชุมพลศักดา ท่านต้องขอบน้ำใจพี่สาวข้า มิใช่ข้าดอก..." ภัคจิราวดีตอบด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ
"ท่านหญิงพลอยพรรณราย!!!" ท่านท้าวมีชื่อยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อรู้ว่าน้ำทิพย์ที่ได้ดื่มสมานแผลและแก้กระหายถูกส่งมาโดยแม่หญิงพลอยพรรณรายผู้เป็นยอดดวงใจ
แน่นอน ลุงพลเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด น้ำทิพย์ที่ท่านท้าวมีชื่อ อดีตชาติของตนได้ดื่มนั้น เป็นน้ำทิพย์ที่ภัคจิราวดีนำมามอบให้ด้วยตัวเองต่างหาก แต่นางเลือกที่จะปิดบังความจริง
"ภัคจิราวดี ไม่ซิ ครูเบสท์..." ลุงพลเห็นภัคจิราวดีที่เหมือนจะทำหน้าเศร้าสร้อย กับการที่ตนเองไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงให้จอมทัพสวรรค์รับรู้ได้ ว่าตนเองก็มีใจรักท่านท้าวมีชื่อเช่นเดียวกัน
(https://www.img.in.th/images/907b5f49dd2786fb968de227ed593f93.jpg)
การที่ต้องแอบรักผู้ชายคนเดียวกับพี่สาว มันเป็นเรื่องที่ทรมานหัวใจเหลือเกิน? ท่านคิดเห็นเป็นเช่นไร? ท่านท้าวชุมพลศักดา
"เอ๋?" ลุงพลตกใจมาก เพราะอยู่ดี ๆ ภัคจิราวดีก็หันมามองลุงแกด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "ครูเบสท์เห็นผมด้วยเหรอ?"
"ท่านท้าว..." ภัคจิราวดีเอ่ยปากทั้งน้ำตา "ถ้าหากข้าจะขออะไรจากท่านสักอย่าง ท่านจักทำให้ข้าได้ฤาไม่?"
"ทำอะไรครับ? ครูเบสท์จะขอให้ผมทำอะไรให้ครับ?" ลุงพลถามภัคจิราวดี แต่แกก็ดันเรียกชื่อของธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยชื่อชาติภพปัจจุบัน
"ท่านจักหยุดทุกอย่างที่น้องสาวของข้าคนใดคนหนึ่ง หรืออาจจะเป็นท่านพี่พลอยพรรณรายในชาติภพปัจจุบันได้หรือไม่?" ภัคจิราวดียื่นข้อเสนอ "ข้าจักยอมเสียสละตัวเอง แบกรับกรรมของพี่น้องข้าทั้งหมด เพื่อให้พี่สาวของข้า และน้องสาวของข้าที่เหลือได้ใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ เพื่อสะสมบุญบารมีต่อไป จนกว่าจะถึงเวลาที่พวกนางจะสิ้นอายุขัย..."
"ทำไมครูเบสท์ถึงพูดแบบนี้ละครับ?" ลุงพลถาม "ผมรู้ว่าครูเบสท์คงอยากเสียสละ แต่การทำแบบนี้ ครูเบสท์จะต้องตายนะครับ"
"ท่านท้าว ท่านมิรู้ดอกว่าท่านจะต้องเจอกับอะไร หากท่านยังไม่หยุดกรรมนี้..." และแล้วน้ำตาของภัคจิราวดีก็กลายเป็นสายเลือด "ข้ารักท่าน ข้ามิอยากเห็นท่านต้องพบกับชะตากรรมที่แสนโหดร้าย..."
พอได้ยินในสิ่งที่ภัคจิราวดีพูด ลุงพลก็คิดได้ว่าองค์ตุลาการสวรรค์เคยให้ตนเองเห็นนิมิตรภาพความฝันถึงวาระสุดท้ายของตนเองมาแล้ว แต่แล้วยังไงละ คนอย่างแกทนไม่ได้ที่ต้องเห็นภัคจิราวดีหรือครูเบสท์ต้องมาเสียสละอยู่คนเดียว
(https://www.img.in.th/images/94c1a3bb0cea8c4f237e7f1fdc63138d.png)
(ลุงพล ชุมพล เทพเมืองแมน อาชีพ คนขายน้ำเต้าหู้)
"ครูเบสท์ครับ..." ลุงพลเดินเข้าไปหาภัคจิราวดี ในระหว่างที่เดินเข้าไป ชุดเครื่องแบบนักการภารโรงของแกก็เกิดประกายแสงอย่างน่าอัศจรรย์
"ท่านท้าว?" ภัคจิราวดีพยายามเอื้อนเอ่ยวาจาห้ามไม่ให้ลุงพลที่ตอนนี้สวมใสชุดนักรบโบราณเดินเข้ามา "อย่าเข้ามาใกล้ข้าโดยเด็ดขาด!!!"
"ทำไมเล่า ภัคจิราวดี?" ลุงพลที่ตอนนี้ได้กลายเป็นท่านท้าวชุมพลศักดา ได้เอื้อนเอ่ยวาจากถามธิดาองค์รองแห่งองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย "ข้ามิอาจปล่อยให้เจ้าต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้ายเช่นนั้นได้ ข้ายินยอมให้คนทั้งโลกมองข้าว่าเป็นคนมักมากในกาม มากรักหลายใจ แต่จักไม่มีวันย่อมปล่อยให้เจ้า ภัคจิราวดี ผู้มีใจรักในตัวข้ามาตั้งแต่อดีตชาติต้องพบกับชะตากรรมเช่นนั้น มาเถิด เข้ามาหาข้า..."
"ท่านท้าว..." ภัคจิราวดีเอ่ยปากทั้งน้ำตา "ข้ามิอาจผิดคำสัญญากับพี่สาวของข้าได้หรอกหนา...ท่านไม่รู้หรอกว่าพี่สาวของข้าเวลาโกรธเกรี้ยวนั้นน่ากลัวสักเพียงใด"
"ก็ช่างนางปะไร" ในที่สุด ท่านท้าวชุมพลศักดาก็ได้โอบกอดภัคจิราวดี "ข้าจักพูดกับนางเอง"
ภัคจิราวดีสงบนิ่งภายใต้อ้อมกอดของท่านท้าวชุมพลศักดา ในที่สุดความรักที่ต้องเก็บซ้อนไว้ก็ถูกเปิดเผยสักที เพียงแต่....
มันคือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ พลอยพรรณราย แม้นนางมิได้สนใจไยดีท่านท้าวมีชื่อนัก แต่นี่เรื่องของศักดิ์ศรีและเรื่องของหัวใจ สงครามระหว่างพี่น้องกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
............................................
ในวันรุ่งขึ้น ลุงพลกลับมาเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ตามปกติ ระหว่างที่นั่งว่าง แกก็นั่งคิดถึงภาพเหตุการณ์เมื่อวาน และภาพนิมิตความฝันที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าตัวแกเองคงหลีกหนีไม่พ้นชะตากรรมที่ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
"ลุงพลคะ?" ภัคจิราในชุดเดรส ปรากฏตัวขึ้นมาหน้าร้านของลุงพล "น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ชุดนึงค่ะ เบสท์จะไปกินที่ห้องทำงาน"
"ได้ครับ" ลุงพลยิ้มหวาน ก่อนหันกลับไปจัดน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้ลูกค้ากิตติมศักดิ์
"ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องเมื่อวาน" ภัคจิราเอ่ยปากขึ้นมา
"ไม่เป็นหรอกครับ" ลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้ยื่นถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ให้อาจารย์สาวคนสวย "นี่ครับ"
"สามสิบบาทใช่ไหมคะ?" ครูเบสท์ควักแบงค์ยี่สิบและเหรียญสิบให้ลุงพล "นี่ค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับครู!!!" ลุงพลรีบปฏิเสธ "ก็เราตกลงกันแล้วไง!!"
"ก็เบสท์เปลี่ยนใจแล้วนิคะ" ครูเบสท์ตอบอย่างไม่ยี่หระ "รับไปนะคะ!!"
"ผมรับไม่ได้จริง ๆ ครับ!!" ลุงพลพยายามปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ถูกครูเบสท์จับมือวางเงินเอาไว้บนมือของเจ้าของร้านจนได้
"ไม่ได้ค่ะ!!!" ภัคจิราทำหน้าดุ "ของซื้อของขาย..."
อะไรมันจะดื้อขนาดนี้เนี่ย ครูเบสท์ ลุงพลคิด แต่ว่า
"ลุงพล? เบสท์?" อยู่ดี ๆ พลอยพรรณก็ปรากฏตัวขึ้นมา ในมือของเจ้าหญิงน้ำแข็งถือถุงใส่ข้าวกล่องที่เธอตั้งใจทำมาให้ลุงพลได้กินในมื้อเที่ยง เธอเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ครูเบสท์และลุงพลจับมือถือแขนกัน "นี่มันอะไรกัน?"
(https://www.img.in.th/images/527c6a35497b64c7066d3d401451537d.jpg)
(หมอพลอย พลอยพรรณ จารุศิริการกุล (อาชีพ แพทย์หญิงประจำห้องพยาบาล)
"หมอพลอย!!!" ลุงพลและครูเบสท์หันไปมองหมอพลอยที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความตกใจ เรียกได้ว่าจังหวะนรกจริง ๆ เลยเชียว
พลอยพรรณดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นลุงพลที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะเลิกเจ้าชู้ มาจับมือถือแขนครูเบสท์ขนาดนั้น เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน จะเรียกได้ว่าเธอกำลังหึงตาเฒ่าก็ว่าได้
...เมื่อท้องนภามิอาจมีดวงจันทราถึงสองดวง สงครามระหว่างพลอยพรรณรายและภัคจิราวดีกำลังจะเริ่มต้นแล้ว ใครกัน จะเป็นที่สุดในหัวใจของท่านท้าวชุมพลศักดา หรือในชาติภพปัจจุบันก็คือลุงพลคนขายน้ำเต้าหู้?
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ตัวอย่างบางส่วนของตอนต่อไป เปิดหวอรอรัก ขอซ่อนนะ สำหรับคนที่อยากรู้สปอยด์หรือไม่ซีเรียสสปอยด์นะครับ ใครซีเรียส ปล่อยผ่านครับ 5555+
งานเข้าลุงพลแล้ว
เอาแล้วๆ
ช่วงนี้ลุงพลต้องคิดหนักแล้ว ว่าจะเลือกใครดี
อยากเก็บเอาไว้ทุกคน
ไม่น่าเชื่อจะได้เห็นฉากหมอพลอยหึงลุงพล
เอ่าแล้ว จะอธิบายกับหมอพลอยว่าไงละเนี่ยลุง ท่าทางจะงานหยาบแน่ๆ
มนุษย์ลุงจะแก้ปัญหายังไงเนี่ย เครียดแทน
โธ่หมอพลอยจะกลายเป็นตัวร้าย ไหงเป็นงั้นล่ะ เจ้าหญิงน้ำแข็งแท้ที่จริงแล้วเป็นตัวร้ายหรือนี่
ลมเพชรหึงของหมอพลอยงานนี้บอกได้คำเดียวว่าลุงพลตายแน่
เราอยู่ข้างหมอพลอย
งามไส้ละลุง