🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => หัวข้อที่ตั้งโดย: ฟัก อยู่แม้น เมื่อ มีนาคม 04, 2023, 09:33:47 หลังเที่ยง

ชื่อ: ได้เสียวกับลีดเดอร์ copy
โดย: ฟัก อยู่แม้น เมื่อ มีนาคม 04, 2023, 09:33:47 หลังเที่ยง
(https://www.jpsex-xxx.com/image2/099aoi_tsukasa/07.jpg)


มไม่ใช่คนมีเสน่ห์อะไรมากมาย แล้วก็ไม่ได้เหลวไหลเหมือนพวกวัยรุ่นทั่วไปที่เป็นปัญหาของสังคมทุกวันนี้ ผมเคยเชื่อว่า ถ้าเราไม่ไปฝักใฝ่หมกมุ่นกับมันไอ้พวกเรื่องเซ็กซ์มันก็จะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรา แต่หลังจากวันนั้น ความคิดดังกล่าวก็เป็นอันต้องถูกลบล้างจาก สมองของผมไปจนได้

วันที่เธอคนนั้นก้าวเข้ามาในชีวิตของผม และทำให้ผมได้รู้ซึ่งถึงบทบาทใหม่ในสังคมที่ผมจะต้องเป็น นี่คือ เหตุการณ์ที่นำพาผมไปสู่สิ่งต่างๆข้างต้น

"เฮ้ย แกไม่ไปซ้อมเดี๋ยวก็โดนพี่เชอรี่ด่าตายหรอก"

เสียงเพื่อนๆของผมเรียกอีกแล้ว ได้เวลาไปซ้อมเต้นอีกจนได้ ผมเองไม่ได้เต็มใจที่จะมาทำอะไรอย่างนี้ด้วยซ้ำ

เป็นเพราะแรงยุจากพวกเพื่อนตัวซวยของผมแท้ๆที่ทำให้ผมต้องมาตกในที่นั่งลำบากเช่นนี้

เชียร์ลีดเดอร์เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าไม่มีผู้ชายปกติคนไหนอยากทำ แต่สุดท้ายผมก็หลวมตัวมาทำเข้าจนได้

เป็นเพราะไอเดียห่ามๆของคุณโต้งเพื่อนสนิทของผมที่วางแผนจะได้ไปเล็งสาวต่างโรงเรียน ผมเองเลยต้องโดนลากมาลงชื่อไปเป็นเพื่อนมันด้วย พร้อมกับเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมในกลุ่มอีกสองสามคน ที่พี่เชอรี่คัดมาแล้วว่าหน้าตาพอไปวัดไปวาได้

ผมเองเป็นเด็กกิจกรรมคนหนึ่งของรุ่น ทำงานใหญ่ๆของรุ่นมาแล้วหลายงาน แต่การเป็นเชียร์ลีดเดอร์นี่เป็นข้อยกเว้น เพราะเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องทำมาก่อน

ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองดูดีพอที่จะทำอะไรแบบนี้ ความจริงพี่เชอรี่มาทาบทามผมหลายหน ตั้งแต่กีฬาเยาวชนสองสามปีก่อน แต่ผมปฏิเสธ ไปเพราะไม่เซลฟ์พอ

"นี่นายเต้ เธอน่ะถล่มตัวไปแล้วนะยะหล่อน ดูรูปร่างเธอดิ๊ ออกจะสะม๊าดสะม้าด สูงก็ร้อยเจ็ดสิบแปดไหล่ยี่สิบห้า อกสี่สิบสอง เอวยี่สิบหก หน้าตาก็ละม้ายคล้ายคลึง..."

พี่แกพูดพลางทำหน้าชวนฝันๆ

"พอๆๆๆ พี่เชอรี่ ผมจะอ้วก ตกลงจะรับไม่รับ เสียเวลา"

"รับไว้ด้วยหัวใจเลยย่ะ พ่อหนุ่มนักรักของช้านนนนน"

ความจริงที่พี่เชอรี่พูดมาก็น่าคิด ผมเองไม่เคยพินิจพิเคราะห์ดูร่างกายของตัวเองด้วยความชื่นชมมาก่อนเลย

ผมเล่นกีฬาหลังเลิกเรียนกับเพื่อนบ้างก็เล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับเพาะกล้าม แต่รูปร่างใหญ่ลำสันเนี่ยเป็น มรดกตกทอดมาจากบิดามารดาอีกทีหนึ่ง นับว่าเป็นโชคดีของผม เพื่อนๆ ของผมหลายคนเคยบ่นอิจฉารูปร่างของผมเหมือนกันแต่ผมไม่เคยคิดอะไร

พอพี่เชอรี่พูดขึ้นมาผมถึงได้นึกเอะใจขึ้นมาได้ โดยปกติที่โรงเรียนมีผู้หญิงมาเลียบๆ เคียงๆ ผมก็บ่อย แต่ผมไม่เคยคิดอะไร แต่พอมาตอนนี้ผมชักเริ่มสงสัยในจุดประสงค์ของพวกเธอซะแล้ว ว่าไอ้การบ้านที่อุตส่าห์หอบหิ้วมาถามทุกกลางวันเนี่ย มันเป็นสาเหตุจริงๆ หรือเปล่า

"นี่ๆ ให้มันมีชีวิตชีวาหน่อยสิยะหล่อน พวกสาวๆนี่ลูกกระแดะแกไม่รู้จักเหรอ ยั่ว ยั่ว เข้าใจมั้ยเอ้านั่นแกก็ยั่วมากไป แม่แกทำงานอดิเรกแถวสุริวงศ์เหรอยะ...."

"ปากตะไกรชิบเป๋งยายพี่เชอรี่เนี่ย" คุณโต้งบ่นอุบอิบกะผม

"นี่ๆ หูชั้นไม่ได้หนวกนะยะ ประเดี๋ยวแม่ไล่เปิดเปิงไปซะเลยเนี่ย แกก็อย่าอู้ ลุกมาซ้อม พักพอแล้วกะจะไม่ทำมาหากินกันเลยรึไงยะ นั่งดูนมอีปิ๋วอยู่รึไง สะใจมั้ยล่ะอี ปิ๋วมีคนดูนมแกด้วย"

"นี่ๆ พี่เชอรี่โมโหแล้วก็อย่ามาพาลชั้น ไม่อยากมีเรื่องกะกระเทยจะบอกให้ มันเสียศักดิ์ศรี"

"อ๋อ หล่อนถือว่าเกิดมา มีอวัยวะเหรอยะจะทำเป็นใหญ่ เดี๋ยวเหอะแม่จะสั่งสอนซะให้ต้องไปตัดไอ้นมแบนๆของแกทิ้งเล้ย"

"นี่ๆ อย่ามาจี้จุดหนูนะพี่เชอรี่ หนูไม่ชอบ เข้าใจมั้ย"

"อย่างแกก็ดีแต่มีนมแบนๆ กะรูซกมกเท่านั้นแหละว้า จะมีอะไรดีไปกว่าชั้น เสียศักดิ์ศรีกะหมาน่ะสิเชอะ"

"อ๋อ ทำยังกะ รูพี่น่ะดีนักนี่ ไชไปก็เจอแต่ขี้....."

ไอ้คุณโต้งทนไม่ไหว ชวนผมออกไปสูดอากาศหน้าโรงเรียน ตั้งแต่ปิดเทอมมา ที่โรงเรียนดูเหงาๆชอบกล เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่ชอบมาโรงเรียนตอนปิดเทอม

"อีกสองอาทิตย์เท่านั้นเอง เดี๋ยวก็จะได้เจอพวกสาวๆ แล้วโว้ย ยิปปี้"

"แกมันก็ดี แต่ม่อไปวันๆ หาสาระอะไรไม่ได้เล้ย"

"ทำยังกะเอ็งดีนักแหละ ถ้าดีจริงทำไมตามข้ามาวะ ดีจริงมึงไปลาออกกะพี่เชอรรี่แล้วไปนั่งไชตูดตัวเองอยู่บ้านเลยดีกว่า ไม่ต้องไปดูของสวยๆ งามๆ กะข้า ข้าก็ไม่อยากมีก้างขวางคอหรอกวะ คนอย่างแกมัน.."

ผมไม่ได้สนใจสิ่งที่ไอ้ โต้งพูดตั้งแต่วินาทีนั้น เพราะผมสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างตรงหน้าผม

ห่างจากสนามฟุตบอลหน้าโรงเรียนที่ผมยืมอยู่ไปประมาณ 25 เมตร หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่ผมคิดว่าคงเป็นเพื่อนของเธอ

เธอช่างดูโดดเด่นเหลือเกินท่ามกลางกลุ่ม เด็กผู้หญิงเจนโลกเหล่านั้นอายุของเธอคงไล่เลี่ยกับผม แต่รูปร่างของเธอสวยอย่างสาวสะพรั่ง ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีครีมและกางเกงผ้า

ต่างจากบรรดาเพื่อนๆของเธอที่พากันโชว์ส่วนสัดภายใต้สายเดี่ยวที่บางเบา

เธอคนนั้นดูสวยอย่างพิเศษ ผมยาวสีน้ำตาลแก่กับรูปหน้าที่ได้สัดส่วนไม่แต่งเติมจนเกินงาม

ทรวดทรงที่ปลดปล่อยให้จินตนาการ ทำให้ผมรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูกเป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยมีกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน

ระหว่างนั้น ผมสังเกตบางสิ่ง ทำให้ผมรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว เธอก็กำลังมองผมอยู่เหมือนกัน!

"เฮ้ย มองอะไรวะ..... เฮ้ย นี่อะไรเนี่ย" ไอ้โต้งกลั้นหัวเราะ "ไอ้เต้ แก...โด่นี่หว่า ก๊ากๆๆๆ"

ผมก้มลงไปดู จริงอย่างที่มันพูด น่าอับอายมาก ผมรีบวิ่งหนีอย่างไม่ คิดชีวิต

"เฮ้ย ยิ่งใหญ่เชียวนะแก ว่างๆ เอามาแลกกันดูมั่งดิ ก๊ากๆๆๆๆ พี่เชอรี่เห็นมีหวังเป็นโลมมม..."

ผมหันไปมองแวบหนึ่ง เธอเองก็แอบหัวเราะเยาะผมอยู่เหมือนกัน แม้แต่หัวเราะเยาะก็ยังน่ารัก

เสียงไชโยดังลั่นหลังจากพิธีกรประกาศว่าโรงเรียนเราได้เป็นเจ้าเหรียญทองในปีนี้

หลังจากพิธีปิดจบลง ผมกับเพื่อนที่เป็นหลีดด้วยกันก็พากันไปขอถ่ายรูปกับโรงเรียนอื่นๆ ตามธรรมเนียม

"แหม ผึ้งเนี่ยก็ ผม เขินหมดเลย ชมกันซึ่งๆ หน้าอย่างนี้ก็อายแย่สิครับ" ไอ้โต้งม่ออีกแล้ว

"แหมโต้งก็ทำเป็นถล่มตัวไปได้ แต่แหมจะไม่แนะนำเพื่อนเลย เหรอคะ"

คนที่ชื่อผึ้งพูดพลางทำตาหวานใส่ผม ไอ้โต้งไม่ค่อยพอใจ

"ไอ้เนี่ยเหรอ มันเป็นกระเทย อย่าไปสนใจเลย"

"ตาย ไม่เชื่อหรอก โต้งเห็นเพื่อนหล่อกว่าเลยจะกันท่าใช่ม้า จริงไหมคะคุณ..."

"เต้ครับ" ผมบอก "ต๊ายยยย เต้...โต้ง ยังกะเป็นพี่น้องกัน"

เพื่อนของผึ้งอีก คนหนึ่งปรารภ "น้องคนละแม่แล้วล่ะ หล่อสู้เต้ไม่ได้เลย"

"แหะๆๆ" ผมยิ้มแห้งๆ วันนี้เหนื่อยมามากพอแล้ว ยังมาเจอมารยาหญิงอีก เซ็ง

"โธ่ผึ้ง อย่าด่วนตัดสินสิครับ ผมแม้จะไม่หล่อแต่ก็เป็นคนดีน้า ทั้งมีน้ำใจทั้ง....."

ผมทนฟังคุณโต้งไม่ไหว ต้องออกไปก่อนแล้ว ไม่งั้นอ๊วกตาย พอดีพี่เชอรี่เรียก

"นี่ๆ เต้ น้องคนนี้เค้าบอกเคยเห็นแกแน่ะ"

ผมเดินไปหาพี่เชอรี่ท่ามกล่างกลุ่มคนที่หนาแน่น เมื่อได้เห็นคนที่อ้างว่าเคยเห็นผม

ผมแทบไม่เชื่อสายตา ถึงกับตะลึงด้วยความไม่คาดคิด เธอคนนั้นนั่นเอง

"น้องเค้ามาจากโรงเรียนใกล้ๆ นี่เอง รุ่นเดียว กะแกแหละ อุตส่าห์จำแกได้ รู้จักไว้ซะ น้องเค้าชื่อพิม ย่ะ"

"...สวัสดีค่ะ เต้..." ผมอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนยิ้มค้าง

"นี่ๆ ไม่ทักน้อง เค้าก็อย่ามาทำยืมยิ้ม เสียมารยาท นี่เอากุญแจไปเปิดห้องล็อกเกอร์ส่วนของเราซะ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนทุ่มครึ่ง เดี๋ยวพี่เลี้ยง ไปเร็ว บอกเพื่อนด้วย"

พี่เชอรี่ผลักผมออกไป ผมเองตอนนั้นไม่ได้สติสมประดีแล้ว ก็เดินอย่างล่องลอยออกจากกลุ่มคนไป

"แหม ไม่ไหว เลย วันนี้ หาเม็มไม่ได้เลย คิดผิดจริงๆ" โต้งบ่น

"ก็แกมันไม่หล่อ ต้องทำใจอ่ะนะไอ้โต้ง" ผมไม่ได้สนใจหัวข้อสนทนาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย

เพราะจิตใจตอนนี้รู้สึกผิดหวังและเสียดายมากที่ไม่ได้สนทนากับพิมเลย

"อ้าวหนุ่มๆ เสร็จกันรึยัง" พี่เชอรี่เดินเข้ามาถาม

"เรียบร้อยครับ มีแต่ไอ้เต้นั่งเซ่ออยู่ได้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย"

"อ้าวแก จะไปมั้ยยะ"

"ผมเหนื่อยอะพี่ ขอโทษจริงๆ"

"ว้า เลยอดควงแกเลย ไม่เป็นไร จะกลับก็ล็อกห้องด้วยแล้วกัน เอ้ากุญแจ"

พี่เชอรี่โยนกุญแจให้ ผมรับไว้ "เที่ยวเผื่อด้วยล่ะ" ผมตะโกนบอก

"คนไม่ไปกูไม่เผื่อว้อย" ไอ้โต้งตะโกนกลับมา ผมหัวเราะแค่นๆ  มุขของคุณโต้งไปค่อยขำเท่าไหร่สำหรับผมในตอนนี้

ผมนั่นอย่างนั้นอีกสักครู่หนึ่งก็นึกได้ว่าควร จะรีบๆ แต่งตัวให้เสร็จแล้วกลับบ้าน

ผมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวนอกออกแล้วโยนทิ้งไปที่พื้น แล้วก็เริ่มลงมือดึงชายเสื้อยืดซับเหงื่อตัวในออก ระหว่างนั้น ผมได้ยินเสียงรองเท้าคนกระทบพื้น

มีคนอยู่ที่นี่ ผมเดินไปทางซอกล็อกเกอร์ซึ่งเป็นทางเข้าออก เมื่อมองไปก็ยิ่งช็อกกว่าเก่า

พิม! เธอไม่ได้มาในสภาพปกติ แต่ว่าเธอไม่ได้ใส่อะไรเลย

นอกจากเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่โคร่มคร่ามที่คลุมลงมาถึงต้นขาขาวเนียนของเธอ เหมือนในหนังฝรั่งไม่มีผิด

"พิมแอบดูคุณมานานแล้วค่ะเต้" ผมพูดไม่ออก สมองตันไปหมด

เธอมาหาผมทำไมตามลำพังในชุดแบบนี้ หรือว่า..... เธอเริ่มเดินเข้ามาหาผม ผมเริ่มถอยหนีทีละก้าว

"พิมก็รู้ว่าคุณก็ชอบพิมเหมือนกัน เราเห็นกันและกันวันนั้นไงคะ จำได้ไหม"

ผมพยักหน้า "ผมก็ชอบพิม แต่....." เธอยังก้าวเข้ามาเรื่อยๆ

"อย่าเข้าใจพิมผิดนะ ปกติพิมไม่ใช้คนแบบนี้ พิมไม่เคยใกล้ชิดผู้ชาย แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่พิมชอบคุณจริงๆ และคุณก็ชอบพิมเหมือนกัน ถ้าเราต่างกีดกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเราก็จะไม่ได้ก้าวหน้า จริงไหมคะ"

เธอพูดพลางเดินเข้ามาหาผมเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมอยากปฏิเสธ แต่ก็พูดไม่ออก ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี

รู้ตัวอีกที ผมก็ถอยมาจนหลังกระแทกล็อกเกอร์แถวสุดกำแพงเสียแล้ว หมดทางหนีจนได้

เธอเดินเข้ามาชิดผม จนแผ่นอกของผมรู้สึก ได้ถึงยอดอกของเธอที่แข็งชูชัน ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว

"ให้พิมได้สัมผัสคุณนะคะ..."

เธอพูดด้วยเสียงที่แหบพร่าไปด้วนความร้อนแรง ผมอึ้ง ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ

ถึงอย่างไรก็ตาม ผมก็ยอมให้เธอถอดเสื้อของผมออก นิ้วเรียวของเธอลูบไล้บ่าของผมอย่างนุ่มนวล เรื่อยลงมาจนถึงแผ่นอกและหน้าท้องที่แกร่งด้วยกล้ามเนื้อ

ท่าทางเธอพอใจมาก จนต้องก้มลงไปจูบร่างกายส่วนบนของผมสะเปะสะปะไปทั่ว สัมผัสจากเธอทำให้ผมสั่นสะท้านจนต้องครางออกมาเบาๆ

มือของเธอกลับมาลูบไล้ใบหน้าของผมและสุดท้ายก็โน้มต้นคอของผมลงมาจูบ

ตอนแรกก็ยังเก้ๆ กังๆ แต่ลีลาของเราทั้งคู่ก็เริ่มเข้าที่ในไม่ช้า ไม่กี่อึดใจต่อมา จูบแบบเด็กๆนั้นก็กลายเป็นจูบที่เร่าร้อนรุนแรงไม่แพ้ฉากรักในหนัง ฝรั่งเลยทีเดียว

ระหว่างจูบนั้น ผมไม่ทันสังเกตว่ามือของหนึ่งของเธอไต่ลงไปที่กางเกงของผมแล้ว กว่าจะรู้ตัวอีกทีเธอก็ปลดกางเกงของ ผมลงไปกองกับพื้นแล้ว

มือของเธอข้างนั้นกำลังลูบไล้บริเวณเป้าของกางเกงชั้นในของผมอย่างเร่าร้อน สิ่งที่อยู่ภายใต้นั้น ก็เร่าร้อนพอๆ กัน จนแทบจะทะลุเนื้อผ้าออกมา

ผมต้องผละจากจูบนั้นเพียงเพื่อครางออกมา เพื่อปลดปล่อยอารมณ์อันเตลิดเปิดเปิงจากสัมผัสของพิม และยิ่งตะลึงมากขึ้นไปอีกเมื่อเธอเกี่ยวขอบกางเกงนั้นลงมา และใช้เท้าเหยียบให้หลุดจากตัวผมลงมากองบนพื้น

ผมแทบหยุดหายใจเมื่อเธอกำความเป็นชายของผมเอาไว้แน่น นิ้วมือและฝ่ามืออันนุ่มนวลของเธอบรรจงลูบไล้มันอย่างทะนุถนอม

ผมสะดุ้งเมื่อเธอสัมผัสไปโดน ส่วนที่ไวต่อความรู้สึกมากที่สุด เธอมองผมด้วยแววตาลึกลับ ผมไม่อาจคาดเดาได้ว่าเธอจะทำอะไรต่อไป

อึดใจต่อมาเธอก็ยิ้มให้ผม เหมือนกับว่าคิดอะไรออก เธอลดตัวต่ำลง และบรรจงจูบตามร่างกายของผมเรื่อยลงไป ในที่สุดสิ่งนี้ก็มาถึง

ผมไม่เคยนึกพิสมัยกับออรัลเซ็กซ์เลย และคิดมาเสมอว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ลีลาของเธอทำให้ความคิดดังกล่าวมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง

ปลายลิ้นเล็กๆที่แสนเร่าร้อนของเธอเล็มเลียผมไปทั่วจนชุ่มชื้นไปทั้งส่วน มือทั้งสองข้างของผมกุมท้ายทอยของเธอไว้แน่น พลางขยับสะโพกรับกับจังหวะของเธอ  เหมือนตั้งใจให้สัมผัสล้ำลึกกว่านี้

ผมรู้ตัวว่าคงจะทนไม่ได้นานกว่านี้แน่นอน ด้วยอารมณ์อันรุนแรง

ผมกระชากศีรษะของเธอขึ้นโดยแรงสีหน้าเธอไม่แสดงออกถึงความเจ็บปวด แต่กลับยิ้มน้อยๆ เหมือนสะใจพอใจในการกระทำที่ป่าเถื่อนของผม ผมจุมพิตเธออีกครั้ง นาน ดื่มด่ำ และรุนแรง

มือทั้งสองข้างลูบไล้ไปทั่วเรือนกายของเธอ พลางปลดกระชากเสื้อเชิ้ตตัวนั้นออก เธอไม่ได้สวมอะไรข้างในเลยจริงๆ ด้วยความที่ไม่อาจห้ามใจได้อีกต่อไป

ผมคลุกใบหน้าเข้าฟอนเฟ้นหน้าอกอันเต่งตึงขาวเนียนของเธอเล็มเลียยอดอกของเธออย่างหิวกระหาย เล็บของเธอจิกบนแผ่นหลังของผมแน่นจนรู้สึกได้

ผมซุกไซ้ผิวกายของเธอต่ำลงมาเรื่อยๆ ผ่านหน้าท้องอันราบ เรียบแข็งแกร่ง และเนินเนื้อที่อวบอิ่ม จนถึงจุดที่ผมเคยคิดว่าสกปรกนักสกปรกหนา

ผมเงยหน้าไปมองหน้าเธอ แววตาที่เร่าร้อนนั้น เหมือนสั่งผมได้ ผมรู้ตัวทันทีว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปผมซุกไซ้ปลายจมูกลงบนใจกลางเนินนั้นทันที

เธอตอบสนองการกระทำนั้นอย่าง รวดเร็วโดยใช้สองมือจิกศีรษะผมอย่างแรงจนเจ็บ ด้วยความรู้ที่เก็บสะสมมาจากแมททีเรียลต่างๆ ทำให้ผมรู้หน้าที่พอสมควร ว่าจะต้องเร่งเร้าตรงจุดใด ผมรู้สึกขอบใจคุณโต้งขึ้นมานิดๆ

ผมซอนไซ้ไปทั่วทุกจุด และเน้นย้ำที่จุดสำคัญอย่างต่อเนื่องและรุนแรงจนเธอชุ่มชื้น รุ่มร้อนไปทั่ว และเริ่มร้องครางออกมาดังๆ

"โอ.....พอเถอะค่ะ จะทำอะไรก็ทำเถอะ"

ในที่สุดก็ได้เวลาจนได้ ผมลุกขึ้นยืน ร่างกายของเรา ทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ผมจูงมือเธอมาที่ม้ายาวกลางห้องเธอลงนั่งบนม้าและเอนตัวลงนอน ขาเรียวงามของสองแยกออกจากกัน เท้าวางอยู่บนพื้นข้างๆม้านั่งนั้น เผยให้เห็นความชุ่มชื้นที่รอให้ผมเข้าไปสัมผัส

ผมนั่งลงที่ม้านั่งตรงหว่างขาเธอ พลิกตัวเอนลงทาบร่างกับเธอ ผิวกายอันเร่าร้อมสัมผัสกันแววตาของเธอเหมือนเร่งร้อนให้ผมจัดการโดยเร็ว

ผมเลื่อนมือไปจัดร่างกายให้เข้าที่ เมื่อส่วนปลายของความเป็นชายของผมสัมผัสเธอ เธอก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ยังยินยอมให้ผมกระทำการต่อไป

ผมเริ่มเคลื่อนร่างกายเข้าไปสู่เธอ

สัมผัสครั้งแรกนี้เจ็บปวดไม่น้อยสำหรับผม และก็คงเจ็บปวดไม่น้อยสำหรับเธอเช่นกัน เพราะสีหน้าของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด

ทุกครั้งที่ผมเคลื่อนไหวเข้าไปได้หน่อยหนึ่ง เธอก็แสดงสีหน้าเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเป็นสาวพรหมจรรย์จริงๆ เพราะผมรู้สึกได้ถึง ความสาวของเธอ

วินาทีที่ผมเคลื่อนที่ทะลุผ่านไปนั้น เธอเจ็บปวดมากจนน้ำตาไหลออกมา ผมรู้สึกสงสารเธอมากแต่ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรดี ได้แต่หวังว่าประสบการณ์นี่จะกลายเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับเธอเท่านั้นเอง

ผมยังคงขยับสะโพกเข้าออกอย่างต่อเนื่อง เป็น จังหวะ จนเธอคลายความเกร็งลงและเริ่มผ่อนคลายไม่นานเราก็รับจังหวะกันได้

เธอขยับร่างรับกับจังหวะกระแทกของผมอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนจังหวะหนึ่ง เธอหยุดเคลื่อนไหวมองตาผมอย่างมีเลศนัย แล้วก็ใช้แขนดันไหล่ข้างหนึ่งของผมขึ้น

รู้ตัวอีกที ธอก็ขึ้นมาอยู่บนตัวผมแล้ว เธอตัดสินใจขึ้นมาควบคุมเกมนี้เอง เธอควบขับอย่างชำนาญจนผมแปลกใจ ทุกจังหวะขึ้นลงทำให้ผมเสียวซ่านไปทั่วทุกขุมขน ผมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของพิม เธอหลับตาพริ้ม

สีหน้าของเธอไม่เหลือความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว คงเหลือเพียง ความเครียดน้อยๆ

ริมฝีปากล่างของเธอถูกขบแน่น หน้าอกอวบอิ่มของเธอเคลื่อนที่ขึ้นลงตามจังหวะแห่งการเคลื่อนไหวของเรา

ผมเอื้อมมือขึ้นไปเคล้าคลึงมันอย่างรักใคร่ ดูท่างทางเธอพอใจสัมผัสของผมอยู่ไม่ใช่น้อย

เสียงหายใจอย่างเร่าร้อนรุนแรงของเราทั้งสองดัง ก้องอยู่ในห้อง

ผมเพริดไปกับอารมณ์และความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ และเคลื่อนมือทั้งสองข้างไปจับสะโพกของเธอโดยไม่รู้ตัว เหมือนพยายามจะควบคุมจังหวะให้รุนแรงลึกซึ้งมากขึ้นตามที่ผมต้องการ

แต่เธอดูไม่พอใจ ใช้มืออันมีพลังของเธอจับแขนของผมออก และกดมันลงข้างตัวผม เหมือนจะบอกว่า นี่เป็นเกมของฉันคนเดียว ดี เธอชอบเล่นแรงๆ ชอบยึดอำนาจ ชอบใช้กำลัง ผมจึงตัดสินใจใช้ กำลังกับเธอบ้าง

ผมลุกขึ้นนั่งโดยเร็วสีหน้าเธอดูตกใจแต่ผมก็ไม่สนใจ ผมใช้มือทั้งสองข้างประคองสะโพกรับน้ำหนักเธอไว้ แล้วลุกขึ้นและโถมตัวเธอไปจนหลังเธอติดประตูล็อกเกอร์ที่เรียงเป็นแถวอย่างง่ายดาย

เสียงกระแทกดังสนั่นไปทั่วห้อง แรงกระแทกนั้นมากพอดู แต่เธอไม่แสดงอาการเจ็บปวด มีแต่แววแห่งความประหลาดใจฉายไปทั่วใบหน้าของเธอ

ผมก้มลงจุมพิตเธออีกครั้ง และเริ่มเคลื่อนไหวเข้าออกอย่างต่อเนื่องทั้งๆที่แขนทั้งสองข้างยังประคองสะโพกรับน้ำหนักของเธอเอาไว้

เธอร้องคราง มือทั้งสองข้างจิกแผ่นหลังผมแน่น ขาเรียวงามทั้งคู่รัดรึงผมให้เข้ามาใกล้ชิดเธอมากยิ่งขึ้น เพิ่มดีกรีความลึกซึ่งของเราให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก

ผมไม่สามารถควบคุมจังหวะได้ อีกต่อไป กระแทกสะโพกเข้าหาเธออย่างรุนแรงจนเสียงดังก้องไปทั่วห้อง

เธอร้องครางออกมาดังลั่นด้วยความเจ็บปวดและพอใจ ทุกความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในขณะนั้นปราศจากความปราณีและความยั้งคิด แต่เป็นสันดานดิบของการสืบพันธ์แห่งสัตว์โลกล้วนๆโดยแท้

เสียงร้องของเราทั้งสองดังก้องไปทั่วโดยที่เราไม่สนใจว่าจะมีคนมาได้ยินหรือไม่

พิมครางดังขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้ตามสัญชาตญานว่าเธอ กำลังจะทนไม่ไหวอีกต่อไป

เหงื่ออาบร่างของเธอจนเปียกชุ่มขาทั้งสองข้างกระกวัดกันแน่นขึ้น จนเธอโน้มคอผมลงมาจูบอย่างรุนแรงและยกสะโพกขึ้นประสานงากับผมอย่างแรงจนผมเกือบเสียหลักล้มลง

ผมรู้สึกถึงแรงบีบเค้นภายในที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง เธอหวีดร้องขึ้นสุดเสียง

"อ๊าาาาาาาา.................."

เล็บของเธอจิกผมแน่นแต่ผมไม่รู้สึกอะไร เพราะผมก็กำลังจะถึงที่สุดเหมือนกัน

ผมเร่งจังหวะขึ้นทันที เพื่อให้ทันกับเธอ

วินาทีต่อมาผมก็โหมพลังสุดท้ายเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงจนถึงที่สุด  จนผมต้องร้องออกมาบ้าง  "โอออออวววว............"

เสียงร้องของเราทั้งสองประสานกันดังไปทั่วสนามกีฬาที่ว่างเปล่า

เธอแหงนใบหน้าหย่งตัวขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อผมปลดปล่อยความขึ้งเครียดที่สะสมมาตลอดวัยหนุ่มให้หลั่งไหลทะลักสู่ความชุ่มชื้นของเธอระลอกแล้วระลอกเล่าจนดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้น

ผมหมดแรง ทรุดตัวลงช้าๆ มือทั้งสองข้างยังประคองเธอไว้

น้ำรักของผมออกมามากมายจนไหลล้นออกมาจากอู่ของเธอึ่งบัดนี้ยังร้อนรุ่มอยู่

เหงื่อกาฬไหล อาบร่างของเราทั้งสองจนชุ่ม เราไม่ได้พูดอะไรกัน แต่จูงมือกันไปอาบน้ำชำระร่างกายในห้องน้ำของสนาม

เราาผลัดกันขัดสีฉวีวรรณให้ กัน แต่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น คืนนี้มากเกินพอสำหรับเราแล้ว ก่อนจากกันเราแลกเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่กันไว้เพื่อการติดต่อในภายหลัง

สองสามวันต่อมาเธอเป็นคนโทรมาหาผมก่อนด้วยซ้ำ หลังจากวันนั้น เรานัดพบกันอีกหลายครั้ง และได้มีสัมพันธ์ในสถานที่และรูปแบบที่แปลกใหม่หลายๆแบบขณะนี้เราทั้งคู่ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนและก็ยังติดต่อกันอยู่เสมอๆ

เราทั้งคู่พอใจที่จะคงความสัมพันธ์ในแบบนี้ ไปก่อนที่จะตัดสินใจอะไร สรุปแล้ว เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผมต้องการที่จะสื่อให้เห็นว่า เซ็กซ์ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาแต่อย่างใดถ้าเรารู้จักแบ่งเวลาให้ดี

ขณะนี้ผมยังมีผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ละก็ยังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างขะมักเขม้นบางรั้งเรานัดกันออกไปดูหนังสือ แล้วก็ตบท้ยด้วยสุขศึกษาบทเพศศึกษาเล็กน้อย

ก็ไม่เคยมีปัญหา เพื่อนๆ คนไหนอยากทำตาม ก็ขอเชิญนะ ครับ รับผิดชอบเอาเองก็แล้วกัน ชีวิตใครชีวิตมัน