🧡 XONLY 🧡

LIGHT ZONE => ห้องนั่งเล่น => หัวข้อที่ตั้งโดย: alonefire1 เมื่อ มีนาคม 28, 2010, 08:47:34 หลังเที่ยง

ชื่อ: กรุงเทพประกันภัย กับ เคส FORTURNER (จาก ฟอฯเมล์)
โดย: alonefire1 เมื่อ มีนาคม 28, 2010, 08:47:34 หลังเที่ยง
กรุงเทพประกันภัย กับ เคส FORTURNER
 
ใครที่อ่านข้อความนี้แล้วขอให้ห่างไกลกับกรุงเทพประกันภัยเลยนะครับ
ผมซื้อรถ FORTURNER SPORTIVO II สีขาว ราคา 1409000 แต่งรถหมดไปอีก 4 หมื่นกว่าเมื่อปลายเดือนตุลาคม 52  และได้ทำประกันภัยกับกรุงเทพประกันภัย (รายละเอียดดูจากรูป) ผ่านมาได้ไม่ถึง 3 เดือน

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 53 ผมพาแฟนกับลูกชาย 3 ขวบเดินทางจากบ้านที่ชัยภูมิเข้ากรุงเทพ(เส้นมิตรภาพ)ผ่านทางลงแถวโรงปูนทีพีไอก่อน
ถึงพระใหญ่ซ้ายมือ 500 เมตร ผมถูกรถพ่วง 18 ล้อเบรคแตกพุ่งชนท้ายอย่างแรงแล้วก็ลากรถผมไปอีก

ประมาณ 300 เมตร สภาพรถเป็นอย่างที่เห็นตามรูป ผมกับแฟนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยทั่วตัว ส่วนลูกชายโชคดีมากไม่เป็นอะไร
หลังจากเกิดเหตุ ผมให้แฟนกับลูกไปรอผมอยู่ที่ รพ.มวกเหล็ก ส่วนผมก็ทนเจ็บรอดำเนินการเรื่องประกันให้เรียบร้อยก่อน

ประมาณ 1 ชั่วโมง พนักงานกรุงเทพประกันภัยก็มาถึง และพาผมไปโรงพักทำเรื่องบันทึกประจำวัน,เรื่องใบแจ้งความเสียหายรถและเรื่อง
การ ลากรถเข้าอู่กลาง(เสียค่ารถลาก 4000 พนักงานบอกว่าเดี๋ยวบริษัทคืนให้)  พนักงานคนนี้บอกกับผมว่า สภาพรถแบบนี้น่าจะทำเรื่องขอคืนทุนประกันได้ไม่ยาก อาทิตย์หน้าพี่ก็มาติดต่อทำเรื่องที่อู่กลางรังสิตได้เลย ผมก็ขอบคุณ และกลับมารับแฟนกับลูกไปพักรักษาตัวที่บ้าน 1 สัปดาห์
 
พอมาถึงวันจันทร์ที่ 25 มกราคม 53 ผมก็มาที่ อู่กลางรังสิตเพื่อเข้าไปติดต่อทำเรื่องขอคืนทุนประกันตามรายละเอียดในสัญญา คือประมาณ 80% ปรากฎว่าพนักงานที่นั่นไม่ทราบเรื่องและได้ติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่ และทาง
สำนัก งานใหญ่ก็ได้ติดต่อมาว่ายังไม่อนุมัติ พนักงานจึงให้ผมคุยกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ ชื่อ นาย "ชาญณรงค์" นายคนนี้แจ้งกับผมว่า
"รถของคุณไม่สมควรได้คืนทุนประกัน แค่ซ่อมก็พอแล้ว เพราะเขาเช็คราคาค่าซ่อมแค่ 4 แสนกว่าบาทเอง"
 
ผมอึ้งเลยครับ หลังจากตั้งสติได้ก็ ตอบกลับไปว่า ผมออกรถมาได้ไม่ถึง 3 เดือน รถคันนี้แทบจะเรียกว่าเป็นรถใหม่ก็ว่าได้ คุณกลับให้ผมจำยอมใช้รถสภาพเคยซ่อมมาเกือบทั้งคัน จะเป็นไปได้ไง คัสซีก็เบี้ยวคดงอทั้ง 2 ด้าน รถ 4 ปีแต่ไม่เคยชนหนักยังน่าใช้กว่าซะอีก ถ้าคุณซ่อมมาให้ผม ผมก็ไม่กล้าใช้ ผมก็ต้องขาย
ราคา มันก็ต้องถูกกดลงไปไม่ต่ำกว่า 3 แสนถ้าเทียบกับรถที่ไม่เคยชนอยู่แล้ว
 
มันเรื่องอะไร ผมผิดอะไร ที่สำคัญผมเป็นฝ่ายถูก เป็นฝ่ายถูกชน คุณไม่เห็นจะเสียประโยชน์อะไรเลย ทำไมไม่ช่วยเหลือลูกค้าบ้าง ไอ้ชาญณรงค์ก็ตอบมาว่า "มันเป็นหน้าที่ผม ผมทำตามหน้าที่ ไม่พอใจคุณก็ฟ้องร้องเอา เจอมาเยอะแล้วลูกค้าที่อยากได้รถใหม่ สุดท้ายฟ้องศาลก็สั่งซ่อมอยู่ดี"

และคำพูดอื่นๆ อีกแบบที่ว่าถ้ามันยืนต่อหน้าผมแล้วพูดแบบนี้คงจะอดชกหน้าไม่ได้แน่ แฟนผมซึ่งนั่งฟังการสนทนาอยู่ทนไม่ไหวก็เลยขอคุยบ้างเธอก็บอกมันไปว่าเราออก รถมาก็เลือกที่จะทำประกันกับบริษัทที่มีชื่อเสียง และไม่เอาเปรียบลูกค้า ซึ่งกรุงเทพประกันภัยมีสโลแกนว่าแคร์คุณทุกย่างก้าว
 
โดยที่จริงแล้วเราก็ไม่ได้อยากจะใช้บริการคุณเลย หวังว่าจะจ่ายเบี้ยทิ้งไปฟรีๆตลอดด้วยซ้ำ แต่คุณเข้าใจมั้ยว่าเมื่อเหตุเกิดขึ้นโดยเราไม่ใช่คนผิดเลยเป็นแค่คนโชค ร้ายกลับต้องมาโดนบริษัทประกันที่หวังให้คุ้มครองคุณรังแกคุณอีก เค้าตอบกลับมาว่าผมเข้าใจ ผมก็คนมีรถและรถผมก็ราคาไม่ใช่น้อย มันคนละเรื่องเลยนะ คุณเกิดเหตุต้องเจ็บตัว เสียขวัญ มันเอาคืนไม่ได้ แต่รถที่คุณยอมจ่ายเบี้ยประกันก่อนคุณก็ต้องหวังว่าจะได้คืนในแบบที่เหมาะสม กว่านี้ทำไมคุณไม่ค้มครองเรา แล้วไปไล่เอากับฝ่ายผิด
 
เค้าก็บอกว่าประกันคุยกันมันต้องมีหลักฐานไม่ใช่จะเรียกร้องได้หมด หมายความว่าทางกรุงเทพประกันภัยไม่คิดจะจ่ายเพิ่มเติมเลย จะกินเบี้ยลูกค้าฟรีทั้งของเราและลูกค้ารายอื่นๆอีกทั่วประเทศตอนนี้ผมกำลัง หาช่องทางร้องต่อ สคบ. กรมการประกันภัย และสื่อมวลชน มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
 
 
ตอนนี้ก็อยากให้คนที่ได้รับเมล์นี้ช่วยส่งต่อให้กับคนที่คุณหวังดีด้วยเถอะ ครับ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่ออย่างผม