🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => ผู้ประพันธ์ในตำนานใต้ดิน => หัวข้อที่ตั้งโดย: bananaa เมื่อ เมษายน 15, 2010, 11:35:31 ก่อนเที่ยง

ชื่อ: เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 5
โดย: bananaa เมื่อ เมษายน 15, 2010, 11:35:31 ก่อนเที่ยง
ความเดิมตอนที่แล้ว
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 1 http://xonly.net/main/thread-73194-1-5.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 2 http://xonly.net/main/thread-73467-1-4.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 3 http://xonly.net/main/thread-74734-1-1.html
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 4 http://xonly.net/main/thread-75011-1-1.html

เบื่อกันหรือยังครับพี่น้อง 555 มาติดตามตอนต่อไปกันเลยครับ

ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด

เสี่ยเซี้ยงกัดฟันอย่างหฤหรรษ์ กระทอกตัวสวนควยขึ้นไปเป็นจังหวะเพื่อรีดเค้นน้ำกามที่ยังคั่งค้างอยู่ในท่อเอ็นยักษ์นั้นให้หลั่งไหลเข้าไปรวมกับน้ำเมือกที่เจิ่งนองอยู่ภายในโพรงสวาทของสาวสวย

ก่อนที่ร่างใหญ่หนาของเสี่ยโฉดจะพลิกตัวกลับ มาทับร่างบางของคันธรสโดยที่ควยยักษ์ยังไม่หลุดจากโพรงสวาทของสาวสวยด้วยซ้ำ สะโพกหนาหยาบของเสี่ยโฉดก็เคลื่อนไหวกระทุ้งขึ้นอีกรอบหนึ่ง

คันธรสนอนขาถ่าง ไม่มีปัญญาขัดขืนอะไรได้ หนอกควยที่บดเบียดไปบนโคกอูมนั้น กระทอกเป็นจังหวะสั้นๆ ปั้ก ปั้ก ปั้ก ปั้ก ท่ามกลางความเจ็บแสบระบมตรงหว่างขา แต่ถึงกระนั้นเพลิงกระสันสวาทสายใหม่ก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แผ่ซ่านไปทั่วโพรงสวาท ทำให้หญิงสาวครางครวญออกมาอย่างรัญจวนใจ แล้วโอบแขนขาวบางของเธอไปยังแผ่นหลังหนาของเสี่ยเซี้ยง

"ซี๊ดดดดด ซี๊ดดดดดด...เสี่ยขา.....ซี๊ดดดดดดดด"

"ครับคนสวยของผม"

เสี่ยโฉดหัวเราะเส่า ตอบเสียงเคล้าหัวเราะ บดปากระดมจูบไปบนกลีบปากนุ่มของคันธรสอย่างกระหาย และเพลงกามบทใหม่ก็ได้เริ่มต้นอีกครั้ง

.............................................

รถยุโรปคันงามหรูพาฐิติพรรณพริตตี้สาวสวยกลับมาถึงกรุงเทพอย่างสวัสดิภาพ โดยเด็กสาวสวยผู้ทะนงในความงามตัวเองไม่รู้ตัวเลยว่าโชคดีเพียงใดที่โพรงสวาทสาวสดที่ยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอนั้นสามารถรอดพ้นจากเงื้อมควยอวบของศักดามาได้

ทั้งๆ ที่จิ้งจอกสวาท ชั่งใจและลังเลใจอยู่หลายช่วงหลายขณะ ที่เขามีโอกาสอันดีในการจัดการเหยื่อชิ้นงามที่อ้อนออเซาะอยู่ข้างกายเขาด้วยยาสวาท ความงามบาดตาบาดใจ ทีท่าเย้ายั่วของพริตตี้สาวคนสวยนั้นก่อกวนให้จิ้งจอกสวาทเต็มไปด้วยความกระหายหิว ตัดใจจะลงมือมอมสวาทหลายต่อหลายครั้ง แต่แล้วในที่สุดก็ไม่ได้ทำอย่างใจอยาก จนกระทั่งเมื่อศักดาขับรถเข้ามาถึงเขตเมือง จิ้งจอกสวาทก็ตัดใจปล่อยเหยื่อชิ้นงามให้รอดมือไปอย่างสุดเสียดาย

เหตุผลสำคัญที่ศักดาปล่อยพริตตี้แสนสวยให้รอดพ้นเงื้อมมือของเขาไปนั้น ก็เพราะจิ้งจอกสวาทยังไม่คิดยอมแพ้เรื่องคันธรสต่อเสี่ยเซี้ยงแต่โดยง่าย ความหวังของชายหนุ่มก็คือการที่เชื่อว่าตนเองนั้นสามารถสยบสาวสวยให้หลงใหลในเพลงกามที่เขามอบให้จนเชื่องแล้วนั่นเอง ถ้าเขาได้มีโอกาสเข้าถึงตัวของคันธรส จิ้งจอกสวาทเชื่อว่าจะสามารถหว่านล้อมให้คันธรสกลับมาเป็นของเขาได้ไม่ยาก ดังนั้นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จึงครุ่นคิดตกลงใจว่าจะไม่ผลีผลามอะไรลงไปในตัวของพริตตี้สาวยั่วสวาทนี้ ที่อาจจะเป็นเหตุให้การชิงตัวคันธรสกลับคืนมานั้นล้มเหลว

ศักดาที่เชื่อมันในเพลงสวาทและรูปลักษณ์ของตัวเองที่เป็นต่อเหนือเสี่ยเซี้ยงมากนัก ชายหนุ่มมั่นใจว่าผู้หญิงสวยอย่างคันธรสไม่มีทางจะเลือกเสี่ยเซี้ยงและมองข้ามเขาไปอย่างแน่นอน แต่จิ้งจอกสวาทหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ผูกมัดตัวของคันธรสหญิงสาวที่รักชื่อเสียงหน้าตาของตัวเองในวงสังคมชั้นสูงนั้นก็คือไฟล์วีดีโอสวาทที่เต็มไปด้วยภาพเปลือยของเธอต่างหาก

และยิ่งไปกว่านั้น ทุกๆ วินาทีที่ล่วงผ่านไปในช่วงเวลาอันยาวนานตามระยะทางที่เขาขับรถพาพริตตี้สาวสวยกลับกรุงเทพ เพลิงสวาทยังเร่าร้อนอยู่ในที่ลับอีกมุมหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดหัวหิน เพลิงกามอันบังเกิดจากควยยักษ์นั้นค่อยๆ เผาผลาญ ซึมแทรกเกาะกินเข้าไปในจิตวิญญาณความรู้สึกของสาวสวยที่ถูกศักดานั่นเอง เป็นคนสอนให้หลงใหลไปกับรสชาติของความรู้สึกกระสันต์สวาทในเพลงกามจนถอนตัวไม่ขึ้น

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พริตตี้สาวสวยมาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ นั่นเป็นเพราะหลังจากศักดามีโอกาสได้สนทนาอย่างใกล้ชิดกับเด็กสาวแสนสวยถึงสองวัน นับจากที่เจอกันที่โรงแรม จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ใช้คารมเหมือนกับถามไถ่ความเป็นอยู่และชีวิตประจำวันของฐิติพรรณแบบไม่เฉพาะเจาะจง แต่ก็สามารถจับใจความสำคัญๆ ได้เกือบหมด จากการประมวลนั้นก็ทำให้จิ้งจอกโหยสวาทตีค่าในตัวของเด็กสาวต่างกับคันธรส

ก็คือฐิติพรรณนั้นไม่ใช่คนที่เขาจะตักตวงเอาเงินทองได้ ตรงกันข้ามกลับเป็นเขาต่างหากที่ต้องปรนเปรอเด็กสาวด้วยของขวัญชิ้นงามราคาแพงเพื่อเป็นการผูกมัดใจ ต่างกับคันธรสที่เขาสามารถเคลมได้ทั้งรสสวาทและเงินทอง

ประการหลังนี้จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้จิ้งจอกสวาทที่ชั่งน้ำหนักแล้วจึงยอมตัดใจปล่อยเนื้ออ่อนๆ สุดงามนี้ให้รอดพ้นจากเงื้อมควยอวบของเขาไป

แม้ศักดาจะตัดใจไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นการที่ชายหนุ่มได้อยู่ใกล้ๆ การอ้อนออเซาะจากพริตตี้สาวที่สะพรั่งไปด้วยความสวยสดก็สร้างความพึงพอใจให้กับจิ้งจอกโหยสวาทในส่วนลึก ดังนั้นพอมาถึงกรุงเทพ ศักดาก็ยังไม่อยากส่งเด็กสาวกลับที่พัก แต่ชวนเธอเที่ยวต่อ ซึ่งฐิติพรรณก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด

ดังนั้นศักดาจึงเดินควงเด็กสาวแสนสวยที่โดดเด่นสะดุดตาเดินเที่ยวเล่นในห้างหรูใจกลางเมือง รับรู้การตกเป็นเป้าสายตาแห่งความอิจฉาของผู้ชายมากหลายด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ ถึงแม้ความอิ่มเอมนั้นจะต้องแลกมาซึ่งการที่เขาต้องรูดบัตรเครดิตของตัวเองไปอีกหลายครั้งก็ตามที

ส่วนฐิติพรรณนั้นเล่า เด็กสาวสวยไม่พรั่นอยู่แล้วในเรื่องที่จะมีคนพาเที่ยว พาช็อบปิ้งซื้อของหรูๆ อย่าว่าแต่การเดินเคียงคู่ไปกับชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างศักดา ที่คอยเอาใจรูดบัตรเครดิตให้โดยไม่ปริปากถามราคานั้น เด็กสาวก็รู้ดีว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาแห่งความอิจฉาของเด็กสาวๆ ที่นิยมเดินเที่ยวในห้างหรูนั้นแค่ไหน

บางทีนะ ถ้าใครที่รู้จักเธอเห็นแล้วนำไปพูดต่อๆ ที่คณะ ความเด่นดังของเธอในเรื่องของการมีผู้ชายรวยๆ หน้าตาดีๆ มาคอยบริการก็คงจะแพร่สะบัดไปมากยิ่งขึ้น

พริตตี้สาวสวยคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจ อันเกิดมาจากแรงขับจากภายในตัวเธอที่ต้องการเป็นจุดสนใจ เป็นจุดเด่นที่คนให้ความสนใจกล่าวขวัญถึงอยู่เสมอ ในขณะที่เธอกำลังนั่งคอยศักดาอยู่ในร้านไอสครีมชื่อดัง นั่งละเลียดรสชาติสตอเบอรรี่ที่หวานลิ้นอย่างอเร็ดอร่อย โดยที่ชายหนุ่มนั้นแยกไปซื้อตั๋วหนังรอบเย็น

ด้วยความที่ชอบให้เรือนร่างสุดงามของตัวเองตกเป็นสายตาของเพศตรงข้าม ชุดที่พริตตี้สาวเลือกใส่ไม่ว่าจะเป็นชุดนักศึกษาหรือชุดไปเที่ยว อาภรณ์เหล่านั้นจะต้องรัดรึงและเน้นให้เห็นความสมบูรณ์เปล่งปลั่งไปด้วยความสาวสะพรั่งของเธอ

ในตอนนี้ก็เช่นกันกระโปรงผ้าเนื้อนุ่มลายการ์ตูนน่ารักสีฟ้าอ่อนที่เธอใส่มันเลยเข่าขึ้นมาประมาณสี่นิ้วห้านิ้ว อวดเรียวขางามเป็นลำเทียนยาวสวยไม่มีที่ติไปจรดปลายเท้าที่ซ่อนอยู่ในรองเท้าแตะส้นหนาสีฟ้าเข้าชุดกับกระโปรงบานพลิ้วนั้น

อย่างที่ไม่จำเป็นต้องกวาดตามองไปรอบๆ ฐิติพรรณที่นั่งตักไอสครีมเข้าปากก็รู้ว่าตอนนี้เธอตกเป็นเป้าสายตาของคนหลายคน และทำเหมือนกับไม่ตั้งใจ พริตตี้สาวสวยก็ยกขาขึ้นไขว้ทับกัน เป็นการจงใจโชว์ท่อนขาอ่อนที่อวบงามนั้นให้ขาวเด่นขึ้นมาท้าทายสายตาของคนที่เด็กสาวมั่นใจว่าต้องมีมองมาแน่ๆ

การอวดโชว์ความงามบนเรือนร่างของตัวเองแบบเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ ยั่วให้มองแต่ระมัดระวังไม่ให้เปิดเผยมากจนเกินไปนั้น เป็นสิ่งที่พริตตี้สาววัยระเริงรู้สึกสนุกที่จะได้ทำเสมอๆ ในที่สาธารณะ

และมันก็เป็นอย่างเช่นฐิติพรรณคิดคำนึงในใจของเธอ เพราะบริเวณหน้าร้านไอสครีมนั้นคนที่เดินผ่านไปโดยเฉพาะผู้ชาย แทบจะไม่มีใครไม่หันมามองความสวยอันน่าตื่นตาตื่นใจของพริตตี้สาวชื่อดัง

และในท่ามกลางสายตาหลายหลากคู่ที่จ้องไปยังเด็กสาวสวยนั้น ยังมีรวมไปถึงเด็กวัยรุ่นห้าคนที่นั่งอยู่ในซุ้มเบียร์สด มองมาแต่ไกลๆ ด้วย

"แม่งขาวชิบหาย เห็นแล้วกูเงี่ยนว่ะ"

คนพูดคือเด็กหน้าสิวเปรอะ ที่ดวงตาเหลือกลานเพ่งมองไปยังช่วงขาขาวนั้นแทบถลนออกมา

คำพูดของเด็กหนุ่มเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนในกลุ่มได้ครื้นเครง ต่างคนต่างมองไปเป้าอาหารตาที่จับมองได้ฟรีๆ อย่างอิ่มอกอิ่มใจ

สักพักหนึ่ง ทันใดนั้นเป้าสายตาสุดสวยของเด็กหนุ่มทั้งห้าก็ผุดลุกขึ้น จากที่เห็นเด็กสาวแสนสวยนั้นเดินออกมาจากร้านไอสครีม ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหู

"เฮ้ยตามไปดีกว่าว่ะ"

คนพูดเป็นวัยรุ่นหน้าเสี้ยมตอบ ทาครีมที่ผมจนมันปลาบ ซึ่งพรรคพวกในกลุ่มไม่มีใครปฏิเสธคำชวนนี้ ลุกตามขึ้นไปห่างๆ สายตาไม่คลาดจากเอวคอด สะโพกผายกลม และช่วงขาขาวงามนั้น ซึ่งเวลาที่ร่างงามเดินบิดสะโพกไหวน้อยๆ นั้นกระโปรงสั้นบานพลิ้วไปมาล้ออยู่บนท่อนขาอ่อนขาวสล้าง ยั่วยวนให้ดวงตาของทั้งห้านั้นเบิกพล่านอย่างตื่นตะลึงในความงามตรงหน้า

แต่สิ่งที่วัยรุ่นที่เพิ่งแตกพานทั้งหมด ไม่เห็นจากด้านหลังก็คือใบหน้างามของฐิติพรรณที่ขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าสวยเด่นสะดุดตานั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจนถึงอารมณ์ที่ฉุนเฉียว เสียงของสาวสวยห้วนสั้นเมื่อเอ่ยปากกับคนทางปลายสาย

"ฮื่อ โอเค ขอบใจแกมาก ที่โทรมาบอก"

"ไอซ์ เรื่องนี้แกน่าจะไปคุยตรงๆ กับเจ๊แต๋วนะ..ว่าแกมีอะไรที่สู้อีชะนีนุชนั่นไม่ได้.."

ฮึ จะต้องไปคุยทำไม

ฐิติพรรณอยากจะกรีดเสียงดังร้องตอบเพื่อนดังๆ

เด็กสาวรู้ดีว่าสิ่งเดียวที่เธอสู้อรนุชไม่ได้ก็คือฐานะทางครอบครัวเท่านั้น แค่ลูกสาวข้าราชการต่างจังหวัดตำแหน่งไม่ได้ใหญ่โตคนหนึ่ง จะเอาอะไรเปรียบเทียบกับน้องสาวเจ้าของโรงแรมใหญ่ได้ล่ะ

พริตตี้สาวคิดอย่างข่มขื่นในใจ ในขณะแรกที่เธอได้ยินข่าวว่าตัวแทนที่ทางคณะกรรมการได้คัดเลือกนักศึกษาสำหรับการไปประกวดมีสยูนิเวอร์ซิตี้นั้นเกิดประสบอุบัติเหตุกระทันหันทำให้ต้องถอนตัว หัวใจของเด็กสาวก็เต้นแรงคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นตัวเลือกอันดับถัดไป เพราะแม้กระทั่งตัวแทนที่ประสบอุบัติเหตุจนต้องถอนตัวนั้นฐิติพรรณก็คิดว่าตัวเองนั้นเหนือว่ามากนักทั้งรูปโฉมและความดังในหมู่เพื่อนนักศึกษา

เด็กสาวผู้มีความทะยานอยากที่จะถีบให้ตัวเองมีชื่อเสียงในวงสังคมชั้นสูง แน่ใจว่าการประกวดในเวทีที่ได้รับการยอมรับเหล่านั้นจะเป็นใบเบิกทางให้กับอนาคตของเธอได้เป็นอย่างดี

แต่ข่าวที่เพื่อนสนิทโทรมานั้น กลับแจ้งว่าเจ๊แต๋วซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกตัวแทนที่มีบทบาทมากและเสียงใหญ่พอสมควรที่จะชี้นำการตัดสินใจของคณะกรรมได้ กลับจะไปเลือกอรนุชผู้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนร่วมชั้นปีและทั้งเพื่อนร่วมคณะเดียวกัน แต่ทว่าสำหรับฐิติพรรณนั้น อรนุชคือคนที่เธอบอกกับตัวเองว่าเกลียดที่สุด

เกลียด เกลียด เกลียด จริงเชียว ไม่รู้จะเป็นตัวมารคอยขวางเราไปถึงไหน

ฐิติพรรณร่ำร้องในใจอย่างขุ่นแค้น ภาพของชายหนุ่มที่ตนเองพึงใจในรูปลักษณ์และรูปสมบัติของอีกฝ่ายลอยเข้ามาในห้วงคำนึง

หลังจากมีโอกาสได้รับงานเป็นพริตตี้ประจำบู๊ตสินค้าเปิดตัวใหม่ของหนึ่งในสายธุรกิจที่ธนาบุตรชายคนรองของครอบครัวธุรกิจชื่อดัง ผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลาและนิสัยร่าเริงนั้นเป็นคนดูแล ฐิติพรรณก็หลงใหลใฝ่ฝันในตัวของชายหนุ่ม ครุ่นคิดอย่างทะยานใจในการที่จะใช้เสน่ห์ตัวเองในการผูกมัดหัวใจของหนุ่มหล่อชื่อดังในวงสังคม

พริตตี้สาวไม่เคยรั้งรอที่จะแสดงออกเป็นนัยๆ ให้เห็นถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อธนา แต่ชายหนุ่มที่เธอพึงใจกลับคบหากับเธอแค่เพื่อนร่วมงาน โดยที่สายตาของเขานั้นมีเพียงเพื่อนร่วมคณะของเธอ คนที่มีเธอแม้จะบอกกับตัวเองว่าไม่ได้ด้อยกว่าในเรื่องรูปโฉม แต่ไม่มีทางเปรียบติดในเรื่องของฐานะทางครอบครัวและวงสังคม

อรนุชจึงเป็นศัตรูที่ฐิติพรรณแอบเฝ้าฝังใจปฏิญาณว่า เธอจะต้องพิสูจน์ตัวเอง ผลักดันให้ตัวเองประสบความสำเร็จและพิสูจน์ว่าเธอสามารถชนะอรนุชได้โดยไม่จำเป็นต้องมีฐานะครอบครัวที่ร่ำรวยเป็นเครื่องหนุนหลัง

และที่สำคัญที่สุด พริตตี้สาวสวยตั้งมั่นในใจ เธอจะต้องแย่งชิงตัวธนานั้นให้มาเป็นของๆ เธอแต่เพียงผู้เดียวให้จงได้ ไม่ว่าจะอรนุชหรือผู้หญิงอื่นหน้าไหนทั้งนั้น เธอจะไม่มีวันยอมแพ้

การตั้งใจมั่นในเรื่องสุดท้ายนั้น นอกเหนือไปจากความต้องการในการเอาชนะอรนุชศัตรูหมายเลขหนึ่งแล้วนั้น ก็เป็นเพราะพริตตี้สาวสวยนั้นตกหลุมรักในตัวของชายหนุ่มชื่อดังในวงสังคมจนหมดหัวใจแล้วจริงๆ

แต่ในเวลานี้ ข่าวคราวล่าสุดที่เธอเพิ่งได้รับ มันเสมือนมีดที่กรีดย้ำลงไปในบาดแผลแห่งความรู้สึกที่ฐิติพรรณคิดว่าไม่มีเป็นธรรม เพราะเธอไม่ได้มีชาติตระกูลในวงสังคมชั้นสูง จึงไม่ได้รับโอกาสเท่ากับอรนุช

ภายใต้ความรู้สึกกดดันที่ทับท่วมอยู่ภายในใจ ทันใดนั้นเองพริตตี้สาวก็ได้ยินเสียงร้องทักมาจากด้านหลัง

"ขาวอย่างกับไข่ปอกเชียวนะพี่สาว วู้วววว"

เด็กสาวหันขวับกลับไป ก็พบเห็นเด็กวัยรุ่นห้าคนกำลังเดินจับกลุ่มเข้ามา กระเซ้าเธอด้วยน้ำเสียงหยาบโลน ดวงตาเบิกพล่านนั้นกลุ่มนั้นกวาดโลมเลียไปตัวตัวเธออย่างหยาบคาย บางคนก็แลบลิ้นยิ้มหื่นๆ อย่างน่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง

ความหงุดหงิดที่พล่านอยู่ในใจ มันก็เร่าร้อนพออยู่แล้ว ยิ่งมาถูกใช้คำพูดและแววตาอันสุดหยาบจากกลุ่มคนตรงหน้า ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของพริตตี้สาวสวยระเบิดออกมา

"ไอ้บ้า..."

ฐิติพรรณตวาดเสียงแหลมเล็ก ร่างงามนั่นสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่านโกรธเคือง เธอรู้สึกโกรธไปหมด โกรธทุกคน โกรธความไม่เป็นธรรม โกรธนังอรนุช และโกรธไอ้เด็กบ้าพวกนี้ที่สุด...

เด็กวัยรุ่นทั้งห้ามองเห็นริมฝีปากบางจิ้มลิ้มนั้นขยับด่าตอบกลับมาอย่างเผ็ดร้อน ใบหน้างามนั้นบึ้งตึง ดวงตาเรียวสวยนั้นเบิกโพลงอย่างเกรี้ยวกราด แต่จะอย่างไรก็ความงดงามของเรือนกาย และวงหน้าที่สวยน่ารักบาดตาบาดใจอย่างยิ่งนั้นก็ยังสร้างความสนุกครึกครื้นให้กับเด็กกลุ่มนั้นจนหัวเราะเกรียว

"อ๊ะๆ ทำไมปากร้ายจัง พี่สาวคนสวย"

คนพูดเป็นเด็กหนุ่มผู้มีร่างอ้วนใหญ่ ท้องนูนกลมไปด้วยไขมันลอยหน้ายียวนถาม พรรคพวกที่เหลือหัวร่อครื้นเครง ฮ่า ฮ่า

"ไอซ์มีเรื่องอะไรเหรอ..."

เสียงเพื่อนถามมาจากอีกด้านหนึ่ง ฐิติพรรณพยายามสะกดอารมณ์ที่เร่าร้อนของตัวเองไม่ให้ระเบิดพล่านออกมามากไปกว่านี้ ด้วยความคิดว่าคนระดับเธอไม่ควรลดตัวไปยุ่งกับสวะกลุ่มนั้น ถึงแม้ใจร่ำๆ อยากจะระบายด่าให้สมใจ แต่ก็ฝืนกล้ำกลืนสะบัดหน้ากลับมา เร่งฝีเท้าเดินหนี แต่ก็ยังจงใจกรีดเสียงดังๆ ให้คนด้านหลังได้ยินว่า

"ไม่มีอะไร แค่หมามันเห่าน่ะ..."

คราวนี้คำพูดของพริตตี้สาวทำให้เด็กหนุ่มหน้าเสี้ยมที่หวีผมเรียบแปล้ด้วยครีมที่กำลังหัวเราะอยู่ ถึงกับต้องหุบยิ้มลง เด็กหนุ่มเป็นคนที่รักหน้าและใจใหญ่จนทนไม่ได้กับการดูถูกของคนอื่นๆ อยู่เสมอ ทำให้ตอนนั้นสีหน้าของเขาไปด้วยความโกรธ คำรามในคอ

"อีห่ะนี่วอนซะแล้ว..."

เด็กหนุ่มหน้าเสี้ยมผมเรียบแสดงออกชัดเจนว่าเป็นผู้นำของกลุ่ม รีบชวนพรรคพวกเดินตามฐิติพรรณไปทันที สีหน้านั้นเครียด ดวงตาแข็งกระด้าง

ในความเป็นจริงวันนี้ ฐิติพรรณนั้นถือว่ามีโชคช่วยเป็นอย่างที่สุดแล้วที่ทำให้เธอรอดพ้นเงื้อมมือของจิ้งจอกสวาทอย่างศักดามาได้ แต่ด้วยอารมณ์ร้ายพล่านหงุดหงิดอันเกิดจากความเร่าร้อนริษยา บวกกับความถือตัวและปากกล้า ก็กลับกลายทำให้โชคดีมาแปรเปลี่ยนไปเป็นเคราะห์ร้ายอย่างแสนสาหัส

เป็นเพราะรูปร่างและหน้าตาที่โดดเด่นของฐิติพรรณ ทำให้ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พริตตี้สาวสวยถูกแซวจากวัยรุ่นคึกคะนองปาก และหลายๆ ครั้งเธอก็เคยสวนกลับไปแรงๆ ด้วยความโกรธมาแล้ว แต่คราวนี้เด็กวัยรุ่นทั้งห้าไม่ใช่วัยรุ่นปากเปราะธรรมดาที่เธอเคยพบ

"แก๊งเด็กนรก" ชิดกับพวกนั้นก็คือกลุ่มหัวโจกนักเรียนช่างกลแถวๆ ปทุมวัน ที่อาชีพหลักของพวกเขาคือการรวมตัวกันไปรุมกระทืบทำร้ายนักเรียนโรงเรียนคู่อริในเวลาที่พวกตนมีกำลังมากกว่า ส่วนอาชีพรองคือการรวมตัวกันไปเหล่สาวสวยในห้าง ส่วนเรื่องเรียนไม่เคยอยู่ในหัวของพวกนี้แม้แต่น้อย

ชิด อ้วน แจ็ค มืด และอ๋อง คือห้าหัวโจกตัวสำคัญของเด็กนรกกลุ่มนี้ โดยมีชิดเป็นหัวหน้าแก็งค์ใหญ่ ทั้งๆ ที่เด็กหนุ่มเพิ่งเป็นนักเรียนปีหนึ่งแท้ๆ เนื่องเพราะ "เชิด" พี่ชายของเขานั่นเองซึ่งเป็นอดีตนักเรียนเก่าที่มีอิทธิพลอย่างมากในกลุ่มของพวกนักเรียนช่างกล แม้ว่าตอนนี้จะเชิดจบมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังคงป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ไม่ไกล ยานรกของชายหนุ่มที่ส่งผ่านไปทางน้องชาย ทำให้เด็กช่างกลขี้ยาหลายสิบคนกลายเป็นลูกสมุนให้กับชิดไปโดยปริยาย

แจ็คเด็กหนุ่มที่ร่างผอมเกร็ง ดวงตาโหลลึก ที่ตามหลังฐิติพรรณไป สายตาไม่คลาดไปจากสะโพกผายละลานตา และช่วงขาขาวเรียวงามกลมกลึงนั้น แลบลิ้นอย่างหื่นกระหาย

"แม่งโคตรเงี่ยนเลยว่ะ ไอ้ห่ะเอ๊ย อยากจับแม่งกระเด้าให้ดิ้นเลย ขาวเป็นหยวก สวยสุดยอดอีกต่างหาก"

มืดคือเด็กหนุ่มที่หน้าปรุไปด้วยสิว เสริมอย่างคึกคะนอง

"เออว่ะ กูเองก็อยากเอาควยกระทุ้งปากฉอดๆ ของมันเหมือนกัน ปากดีนักเนี่ย"

คำพูดของพรรคพวกทำให้แววตาของชิดเป็นประกาย ที่จริงพวกเขาทั้งห้าเคยอาศัยยานรกเป็นสื่อ รุมเย็ดเด็กพาณิชย์ใจแตกที่ติดยาแต่ไม่มีเงินซื้อต้องใช้ตัวเข้าแลกบ่อยๆ แต่ยังไม่เคยสักครั้งที่จะมีโอกาสได้ลิ้มลองเด็กสาวที่อยู่ในสังคมอีกระดับแบบผู้ลากมากดีอย่างคนสวยปากจัดที่เขาพบวันนี้เลย มันคงเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าลิ้มลองและเย้ายวนใจเป็นที่สุดถ้าตนเองจะได้มีโอกาสกระทุ้งควยชำแรกโพรงหีของสาวสวยนี้ให้มันส์สะเด่า

ชิดกับพวกเดินตามพริตตี้สาวสวยไปจนกระทั่งแลเห็นเด็กสาวไปสมทบกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง แม้จะเห็นแต่ไกล แต่ชิดหัวโจกก็จำได้ดีว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร

"อีคนสวยปากหมา มากับแฟนว่ะ"

อ๋องผู้ที่วัยสูงกว่าเพื่อน เพราะเรียนซ้ำชั้นซ้ำซาก พูดพึมพำ มองไปยังศักดาด้วยแววตาอิจฉา

ชิดโบกมือให้สัญญาณเพื่อนสงบเสียง ส่วนตัวเองโทรศัพท์ไปหาพี่ชายและสอบถาม

"พี่เชิด ขอเบอร์พี่ศักหน่อยดิ..."

เคราะห์ร้ายของพริตตี้สาวสวยที่กระหน่ำเข้ามาแบบติดๆ กัน ราวกับบุญเก่าที่ช่วยให้เธอพ้นจากเงื้อมมือของศักดานั้นถูกใช้ไปจนหมด เชิดเอเยนต์ค้ายานรกพี่ชายของชิดก็คือเพื่อนสนิทผู้ขายยาสวาทให้กับศักดานั่นเอง

อีกไม่นานจิ้งจอกสวาทจึงได้รับโทรศัพท์ติดต่อมาอย่างกระทันหันจากเบอร์ที่เขาไม่ได้บันทึกเอาไว้ พอได้ยินเสียงทางปลายสาย ชายหนุ่มก็นิ่งอึ้งฟังไปชั่วครู่ ใบหน้ามีแววครุ่นคิดหนัก ก่อนจะปิดเครื่องโดยไม่กล่าวอะไร แต่โดยเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจยกมือขึ้นเป็นสัญญาณบอกกับชิดที่โทรมา และจิ้งจอกสวาทรู้ว่าเด็กหนุ่มแอบมองมาอยู่ห่างๆ ก่อนจะหันมากล่าวกับพริตตี้สาวสวย

"เอ่อ...ไอซ์จ๋า...พี่เผอิญมีธุระด่วนจ้ะ...ไอซ์เข้าไปในโรงก่อนได้ไหมจ๊ะ เดี๋ยวพี่ขอพูดธุระอีกหน่อยแล้วจะตามเข้าไป"

ขณะที่ฐิติพรรณผู้ซึ่งกำลังหงุดหงิดในใจอยู่ไม่คลาย ก็กำลังอยากจะใช้ความคิดเงียบๆ คนเดียวอยู่เหมือนกัน ในตอนนั้นจึงรับตั๋วหนังมาแต่โดยดีไม่พูดอะไรสักคำแล้วก็เดินเข้าไปในโรงหนังก่อน

คล้อยหลังไปไม่ทันไร ชิดกับพวกก็ทยอยกันเข้ามาหาศักดา ซึ่งหลังจากซุบซิบอะไรกันสองสามคำ จิ้งจอกสวาทก็หันซ้ายหันขวา ก่อนจะชักชวนคนทั้งหมดย้ายเข้าไปในร้านขายกาแฟที่ค่อนข้างมืดๆ สลัวๆ ร้านหนึ่ง และนั่งคุยกันตรงมุมห้อง สีหน้าซีเรียส

................................................