แม้เขม่าควันจากภูเขาไฟจะไม่ส่งผลกระเทือนต่อการกลับสู่โลกของ "ดิสคัฟเวอรี" แต่เมฆหนาที่ปกคลุมฟลอริดาหลังฝนตกหนัก เป็นเหตุให้กระสวยอวกาศของนาซาต้องเลื่อนกำหนดลงจอดออกไปเกือบ 3 ชั่วโมง แต่ชาวสหรัฐฯ ยังจะได้เห็นการร่อนสู่ชั้นบรรยากาศในครั้งนี้ด้วย
เอพีระบุว่า กำหนดล่าสุดในการลงจอดของดิสคัฟเวอรี (Discovery) คือ 21.23 น. ของวันที่ 19 เม.ย.53 นี้ ตามเวลาประเทศไทย จากเดิมที่กำหนดไว้เวลา 19.48 น. ทั้งนี้เนื่องจากเมฆหนาที่ปกคลุม หลังฝนตกหนักที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี (Kennedy Space Center) ในรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ซึ่งเป็นปลายทางสำหรับกระสวยอวกาศขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) นี้
หากอากาศดีขึ้นในช่วงโอกาสของการบินครั้งที่สองนี้ ดิสคัฟเวอรีจะร่อนตัดผ่านน่านฟ้าสหรัฐฯ เพื่อกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) และประชาชนในสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ใต้เส้นทางกลับบ้านของกระสวยอวกาศนี้จะได้เห็นทางยาวที่เกิดจากปรากฏการณ์ซูเปอร์โซนิค (supersonic) ระหว่างการร่อนสู่ชั้นบรรยากาศ
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2007 ที่การกลับบ้านของกระสวยอวกาศ ซึ่งมีเส้นทางตัดผ่านอเมริกาเหนือจากตะวันตกเฉียงเหนือสู่ออกเฉียงใต้นั้น จะเผยให้ประชาชนที่อยู่ภาคพื้นมองเห็นวัตถุสีส้มแหวกอากาศบนท้องฟ้า พร้อมๆ กับได้ยินเสียงก้องของคลื่นเสียงโซนิคบูม (sonic boom) โดยดิสคัฟเวอรีจะร่อนผ่านรัฐวอชิงตันสเตท รัฐไอดาโฮ รัฐไวโอมิง รัฐโคโลราโด รัฐแคนซัส รัฐโอกลาโฮมา รัฐอาร์คันซัส รัฐมิสซิสซิปปี รัฐอลาบามา สู่ปลายทางคือรัฐฟลอริดา
ภารกิจ 2 สัปดาห์บนสถานีอวกาศนั้นดิสคัฟเวอรีได้ลำเลียงสัมภาระและเครื่องมือต่างๆ สำหรับสถานีอวกาศหนักราวๆ 8 ตัน ซึ่งในจำนวนสัมภาระทั้งหลายนั้นรวมถึงถังใบใหม่ที่บรรจุสารหล่อเย็นอย่างแอมโมเนียไว้เต็มถังด้วย
ด้าน อลัน พอยน์เดกซ์เตอร์ (Alan Poindexter) ผู้บังคับการประจำเที่ยวบินได้สื่อสารผ่านวิทยุจากกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรีลงมายังภาคพื้นว่า ลูกเรือตั้งตาคอยสภาพอากาศที่จะดีขึ้น ซึ่งอาจจะดีขึ้นภายในเวลาชั่วโมงครึ่ง หากกระสวยอวกาศไม่สามารถลงจอดภายในวันจันทร์นี้ได้ยังมีเวลาที่จะลงจอดในฟลอริดาอีกครั้งวันอังคารนี้ แต่ถ้าพลาดโอกาสดังกล่าว ยังมีแผนสำรองที่จะลงจอด ณ ฐานทัพอากาศเอดวาร์ดส์ (Edwards Air Force Base) ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ