🧡 XONLY 🧡

LIGHT ZONE => ห้องนั่งเล่น => หัวข้อที่ตั้งโดย: dengdee เมื่อ กันยายน 15, 2010, 07:56:35 ก่อนเที่ยง

ชื่อ: ประวัติ 3นักร้องดัง เสียชีวิตตอน อายุ 37ปีเท่ากัน.สรวง สันติ.สังทอง สีใส.ศรคีรี ศรีประจวบ
โดย: dengdee เมื่อ กันยายน 15, 2010, 07:56:35 ก่อนเที่ยง
แก้ไขล่าสุด dengdee เมื่อ 2010-9-15 08:54

สวัสดีครับ   สมาชิกชาว xonly ทุกท่าน  วันนี้ขอนำประวัติของนักร้องดังในอดีตมาแนะนำอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน  เนื่องจากในเดือนมกราคมนี้  มีนักร้องลูกทุ่งเสียชีวิตหลายท่านด้วยกัน แต่วันนี้ ขอกล่าวถึงเพียง  3 ท่าน ซึ่งเป็นนักร้องที่ขึ้นต้นด้วยอักษรเสียง ส. เสือด้วยกัน  คือ สรวง  สันติ,  สังข์ทอง  สีใส  และ ศรคีรี  ศรีประจวบ  เนื่องจากนักร้อง 3 ท่านนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของพี่น้องแฟนเพลง  เสียชีวิตขณะที่ยังหนุ่มแน่น  เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์  และเสียชีวิตในขณะที่มีอายุ    37 ปี เท่ากัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์  ขอเชิญสมาชิกไปทราบประวัติความเป็นมาของนักร้องดังทั้ง 3 ท่าน เพียงย่อ ๆ นะครับ

                                                                         สรวง   สันติ
                                       
                     สรวง  สันติ    ชื่อจริง  จำนงค์  เป็นสุข     เกิดเมื่อ  วันเสาร์ที่  5  มิ.ย. 2488   ที่บ้านเลขที่  8  หมู่ 5  ต.บ้านไร่  อ.ศรีสำโรง  จ.สุโขทัย  บิดาชื่อนายสุ่ม   มารดาชื่อนางจำรัส   เป็นสุข  เป็นลูกคนที่ 3  ในจำนวน  4 คน  จบการศึกษาชั้น ม.6 จากโรงเรียนการช่างสุโขทัย ก่อนเข้าสู่วงการเพลง เคยชกมวยมาก่อน โดยใช้ชื่อว่า เกรียงศักดิ์  เทพบดี  เมื่อปี 2505  ครูพิพัฒน์  บริบูรณ์  ได้นำวงไปทำการแสดงที่  จ.สุโขทัย  ก็ลองไปสมัครดู    ครูพิพัฒน์ได้ฟังเสียงก็รับเข้าอยู่ประจำวง และให้บันทึกเสียงเพลงชุดแรก คือ "มดแดงเฝ้ามะม่วง" และ  "ลุงฉิ่ง"  โดยตั้งชื่อให้ว่า  "ดาว  มรกต"   อยู่กับวงพิพัฒน์  บริบูรณ์ ได้  2 ปี  ก็ลาออก  พร้อมกับ น้ำผึ้ง  บริบูรณ์   นักร้องสาวประจำวง ซึ่งได้รู้จักชอบพอจนเป็นแฟนกัน  ต่อมาได้ไปสมัครอยู่กับวง  กระดิ่งทอง  ของ ศรีไพร  ใจพระ  โดยมีเพื่อนแท้อย่าง   แดนชัย  สนธยา  คอยให้ความช่วยเหลือ  อยู่กับศรีไพร  ใจพระ ได้ไม่นานก็ลาออก  ไปสมัครอยู่กับวงดนตรีจุฬารัตน์   ของครูมงคล อมาตยกุล  ครูมงคลรับไว้ในฐานะนักร้อง ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า  สรวง  สันติ  ออกร้องเพลงครั้งแรกที่  โรงภาพยนตร์ปัตตานี  มีผลงานเพลงทั้งร้องเองและแต่งให้นักร้องอื่นร้องมากมาย เช่น แฟนใครแฟนมัน ไม่ใกล้ไม่ไกล มันบ่แน่หรอกนาย  ร้องเอง  สุขีเถิดที่รัก แต่งให้ พนม  นพพร ร้อง  และแต่งให้นักร้องคนอื่นดังอีกมากมาย
                    อยู่กับวง "จุฬารัตน์"   6 ปี ก็ลาออกมาตั้งวงเอง แต่ตั้งอยู่ได้ประมาณ  3 ปี ก็เลิก หันมาแต่งเพลงอย่างเดียว เพลงที่ดังในยุคนี้  เช่น น้ำมันแพง, 1-2-3  ด่วน  2 แถว  แต่งเองร้องเอง สาว ต.จ.ว. ไพจิตร อักษรณรงค์ ร้อง  รักสิบล้อต้องรอสิบโมง  วงรอเยลสไปรท์ ร้อง   ส่วนเกิน  ดาวใจ  ไพจิตร ร้อง  และอีกมากมาย
                    เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2525 เวลา 23.00 น.โดยประมาณ ขณะเดินทางไปจังหวัดราจีนบุรี พร้อมกับหมอเอื้อ  อารีย์, ศักดิ์รินทร์  วัชระศักดิ์,  และมีผู้หญิงอีก 1 คน  เพื่อนำแผ่นของลูกศิษย์คนใหม่ คือ "ชิตณรงค์  ไผ่ทอง"  ไปโปรโมท  ระหว่างทางรถเก๋งที่ขับไปเกิดชนประสานงากับรถสิบล้อ  ทำให้ "เอื้อ  อารีย์"  ศักดิ์รินทร์  วัชรศักดิ์"  และผู้หญิงที่นั่งไปด้วย เสียชีวิตคาที่  ส่วน  "สรวง  สันติ"  ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในวันรุ่งขึ้น 23 ม.ค.2525 ท่ามกลางความเศร้าสลด เสียดาย และอาลัยอาวรของญาติพี่น้อง ตลอดทั้งแฟนเพลงทั่วประเทศ
                    สรวง  สันติ  เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 37 ปี มีบุตร 3 คน (เด็กหญิงแจ่มใส, เด็กชายอยู่ยง - คงกระพัน (คู่แฝด)

                                     

                                                    แผ่นเสียงผลงานเพลงยุคต่างๆ ของ สรวง สันติ

                             
                             
                             

                                                                        สังข์ทอง   สีใส
                                       
                                                                         
                    สังข์ทอง  สีใส  ชื่อจริง  เปี๊ยก  สีเหรา  เกิดวันที่  19 มี.ค.2490 ที่ ต.จระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี  บิดาชื่อ ทองคำ มารดาชื่อ เอื้อน  สีเหรา  เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 8 คน จบการศึกษา  ป.4 หลังออกจากโรงเรียนก็ตระเวณไปกับคณะหนังเร่ของบริการ "สองพี่น้องภาพยนตร์" เข้าสู่วงการเมื่ออายุได้ 17 ปี  เมื่อคราวที่วงดนตรี "จุฬารัตน์" ของครู มงคล  อมาตยกุล ไปแสดงที่ สถานนีวิทยุ ปชส.7 จากการแนะนำของครูปราณี  ซึ่งเป็นครูที่สอนเขามาตั้งแต่เด็ก โดยร้องเพลงของชาย  เมืองสิงห์ ครูมงคลรับเข้าอยู่ร่วมวงตั้งแต่บัดนั้น อยู่ประมาณ 1 ปี ก็ได้บันทึกเสียงเพลงแรก  คือเพลง  "อกอุ่น"  ผลงานการประพันธ์ของ ชาย  เมืองสิงห์  และครูตั้งชื่อให้ว่า "สังข์ทอง  สีใส" ต่อมาก็ให้บันทึกเสียงอีก  1 เพลง คือเพลง "นิ๊งหน่อง"  ของ "ป. เทียนสุวรรณ"  หรือ สุชาติ  เทียนทอง ชื่อเสียงของสังข์ทอง ก็ดังกระหึ่มไปทั่วยุทธจักรลูกทุ่ง อยู่กับวง"จุฬารัตน์"ได้ 4 ปี ก็ออกมาตั้งวงเอง เมื่อปี 2511  หลังจากนั้นก็เข้าสู่วงการภาพยนตร์ แสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง  เรื่องแรก "แม่นาคพระนคร" ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ แต่ที่สร้างชื่อเสียงมากก็คือเรื่อง  "โทน"  ของ "เปี๊ยก  โปสเตอร์"   ประกบกับ "ไชยา  สุริยัน"  ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ชื่อเสียงของ สังข์ทอง  สีใส  โด่งดังมากที่สุด  หลังจากหมดยุคภาพยนตร์เพลง  เขากลับมาตั้งวงอีกครั้งหนึ่ง แต่ด้วยที่เขาเป็นคนเลือดร้อน จึงมีเรื่องกับแฟนเพลงหน้าเวทีที่จังหวัดชัยภูมิ สังข์ทอง ชักปืนออกมายิง เลยเจอข้อหาพยามฆ่า ศาลสั่งจำคุก  10 ปี  แต่ลดเหลือ  4 ปี 7 เดือน  พอพ้นโทษออกมาก็ตั้งวงดนตรีเหมือนเดิม
                    เมื่อวันที่  25  มกราคม 2527  วงดนตรีของขาเปิดทำการแสดงที่ตลาดบางสะพาน  อำเภอกุยบุรี  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  แต่ในคืนนั้นเขาได้รับเชิญให้ไปร้องเพลงกล่อมขวัญทหาร  ที่ค่ายธนรัชต์  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เนื่องในวันกองทัพไทย    เมื่อจบจากการแสดงที่ค่ายธนะรัชต์  เขาก็ออกเดินทางเพื่อไปสมทบกับวงที่ตลาดบางสะพาน  ที่ทำการแสดงอยู่ตั้งแต่หัวค่ำแล้ว   โดยขับรถเก๋งยี่ห้อ บี.เอ็ม.ดับบลิวสีบรอนซ์เงิน หมายเลข 3 ง – 3783 กทม. ด้วยความเร็วสูง มาถึงทางโค้งถนนเพชรเกษม ระหว่างหลัก กม.ที่ 285 – 286 ตำบลสำโหรง อำเภอกุยบุรี ก่อนถึงงานเพียง 5 กม. ขณะนั้นเป็นเวลา 21.30 น. ของวันที่ 25 ม.ค.2527 รถของเขาเกิดเสียหลักชนกับป้ายห้ามขับรถด้วยความเร็วของจราจร ทำให้รถพลิกคว่ำร่างของสังข์ทองกระเด็นออกมานอกรถ  สภาพคอหักแขนหักเสียชีวิตคาที่  ญาตินำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดยางพรานนก
                    สังข์ทอง  สีใส  เสียชีวิตขณะอายุเพียง 37 ปี  ภรรยาชื่อ คุณจิตราภรณ์ ศรีท่าทราย หรือฉันทนา  สีใส   มีบุตร  1 คน ชื่อ สุรัตน์  สีใส  หรือ น้องป๊อบ

                                       

                                                    แผ่นเสียงผลงานเพลงยุคต่างๆ ของ สังข์ทอง สีใส

                             
                             
                             

                                                                      ศรคีรี   ศรีประจวบ

                                       
                                                                     
                       ศรคีรี  ศรีประจวบ   ชื่อจริง สงอบ  หรือ น้อย  ทองประสงค์  เกิดเมื่อ 4 มี.ค.2478 เลขที่ 13  บ้านหนองอ้อ ต.บางกระบือ อ.บางคณฑี จ.สมุทรสงคราม  บิดาชื่อมั่ง มารดาชื่อเชื้อ  ทองประสงค์  เป็นบุตรคนสุดท้ายในจำนวน 5 คน จบการศึกษา ป.4  ที่ รร.พรหมสวัสดิ์สาธร  ชีวิตในวัยรุ่นร้องเพลงประกวดได้รับรางวัลชนะเลิศอยู่เสมอ ส่วนมากจะใช้เพลงของ  "คำรณ  สัมบุณณานนท์" จนชาวบ้านแถวนั้นเรียกกันว่า "คำรณน้อย"  พอโตเป็นหนุ่มก็ไปอยู่กับญาติทำไร่สับปะรดอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์  ว่าง ๆ ก็ร้องเพลงประกวดไปด้วย  และด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักร้องกับเขาให้ได้  จึงได้ชักชวนหนุ่มสาวชาวไร่สับปะรดตั้งวงดนตรีขึ้น ใช้ชื่อว่า "รวมดาววัยรุ่น"  ต่อมาได้ปรับปรุงใหม่เปลี่ยนชื่อวงเป็น "รวมดาวปราณบุรี" โดยคุณวิจิตร  ฤกษ์ศิลปวิทยา  ช่วยลงทุนค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงวงใหม่ให้ยิ่งใหญ่และทันสมัยกว่าเดิม  ครั้งหนึ่งเมื่อยกวงไปทำการแสดงที่งานประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด "คุณประหยัด สมานมิตร"  ไปร่วมชมอยู่ด้วย  เกิดชอบใจ  เลยตั้งให้ใหม่ว่า  "ศรคีรี  ศรีประจวบ"  ต่อมา คุณวิจิตร  นำเข้ากรุงเทพฯ  เพื่อเช่าสถานีวิทยุยาเกราะจัดรายการ  และมีโอกาศได้รู้จักกับ เพลิน  พนาวัลย์  วันหนึ่ง เพลิน  พนาวัลย์  พาไปพบกับครูไพบูลย์ บุตรขัน  เพื่อขอเพลงจากครูไพบูลย์  หลังจากหมั่นไปพบครูไพบูลย์ถึง 2 ครั้ง  ครูก็มอบเพลงชุดแรกให้ร้องบันทึกแผ่นเสียง 5 เพลงด้วยกัน มีเพลง แม่ค้าตาคม,  บุพเพสันนิวาส,  น้ำท่วม,  ขี้เหร่ก็รัก,  วาสนาพี่น้อย  และศรคีรีขอให้บันทึกเพลงที่เขาแต่งเองด้วย 1 เพลง  คือเพลง "บางช้าง"  รวมเป็น 6 เพลง  หลังจากเพลงชุดนี้เปิดออกอากาศ  ชื่อเสียงของ ศรคีรี  ศรีประจวบ  ก็โด่งดังเป็นอมตะอยู่จนถึงทุกวันนี้
                    เมื่อวันที่   29 ม.ค.2515   วงดนตรีของเขาไปทำการแสดงที่วัดพระธาตุ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์  หลังจากดนตรีเลิก  เวลาประมาณ  03.00 น. ของคืนวันที่ 30 ม.ค. เขาเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยรถเก๋งส่วนตัว "โตโยต้าคราวน์" สีเทา พร้อมด้วย วิรัช หนูเมือง และ กำพร้า  เพชรภูธร ซึ่งเป็นคนขับ  พอถึงระหว่างหลัก กม.ที่ 344 – 345  หมู่บ้านคลองลาย  ต.ไตรตรึง  อ.พราณกระต่าย จ.กำแพงเพชร  ได้ประสบอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกไม้ซุง จนรถพริกคว่ำตกข้าทาง ทำให้ศรคีรีและเพื่อนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ   ศพของศรคีรี  ศรีประจวบ  ถูกนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดแคนางเลิ้ง   ศาลาเดียวกับที่เคยตั้งศพมิตร  ชัยบัญชา
                    ศรคีรี  ศรีประจวบ   เสียชีวิตเมื่ออายุได้  37  ปี เศษ    ภรรยาชื่อ บุญนาค  ทองประสงค์  มีบุตร  3 คน  คือ สมศักดิ์  ทองประสงค์  เพ็ญรุ่ง  ทองประสงค์  และ สันติ  ทองประสงค์

                           dengdee   นำมาเรียงใหม่     ก็อปเขามาครับท่าน เห็นมีประโยชน์  เลยนำมาให้สมาชิก   xonly

                                         
                                                        แผ่นเสียงผลงานเพลงต่างๆ ของ ศรคีรี ศรีประจวบ
สวัสดีครับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมทุนท่าน
              ขอขอบคุณนะครับที่เข้ามาชมประวัติ 3 นักร้อง ขอขอบคุณ คุณ oldsong ที่ให้ข้อสังเกตอายุของศรคีรี  ว่าเสียชีวิตเมื่ออายุ 20 กว่าปี ไม่ใช่ 37 ปี ผมอยากจะเรียนให้ทราบ
ด้วยความเคารพว่า  มีผู้โพสต์ประวัติศรคีรีลงในเว็ปไซต์มากมาย  แต่ส่วนมากจะคัดลอกกันไปลง  ถ้าต้นฉบับคลาดเคลื่อนก็คลาดเคลื่อนตามกันไป  มีคนเขียนว่า ศรคีรีเกิดเมื่อ 4 มี.ค.2487  
ก็ใช่นะซิครับ ถ้าเกิดปี 2487 แล้วเสียชีวิตปี 2515  อายุก็จะ 28 ปีพอดี  แต่ความจริงแล้วศรคีรีเกิดปี พ.ศ.2478  ไม่ใช่ 2487  เขาเขียนเลข พ.ศ.กลับกัน ข้อมูลจึงสับสน  ยิ่งกว่านั้น
เขาเขียนว่า ศรคีรีเกิดปี พ.ศ.2487  เสียชีวิตปี พ.ศ.2515 ขณะอายุ 32 ปี  น่าขำไหมละครับท่าน เขาเอาเครื่องคิดเลขยี่ห้ออะไรบวกลบเลข 2515 ลบ 2487 ได้ผลลัพภ์ 32 (ชาวบ้านเขาคิดได้
28 กันทั้งนั้น)  ไม่เชื่อเพื่อนสมาชิกลองเข้าไปดูซิครับ เว็ปอะไรก็ได้ที่เขียนประวัติศรคีรี  เอาเป็นว่าศรคีรีเริ่มร้องเพลงบันทึกเสียงเมื่ออายุมากแล้ว  ดูเหมือนจะ 34 - 35 ปี แล้ว  เขาโลดแล่น
อยูในวงการเพลงได้ 2 ปีกว่า ๆ เท่านั้นก็เสียชีวิต  ขอขอบคุณคุณ oldsong อีกครั้งนะครับ  ที่กรุณาให้ข้อสังเกต เท่ากับเป็นการช่วยเหลือผมอีกแรงหนึ่ง ที่ช่วยกันดูแลข้อมูลเพลงลูกทุ่ง เพื่อให้
ข้อมูลทุกข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปจาก  xonly   เป็นข้อมูลที่มีส่วนผิดน้อยที่สุด  
                 ก็ขอให้มีความสุขกับการเยี่ยมชม xonly นะครับ  

                                                                dengdee