🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => ผู้ประพันธ์ในตำนานใต้ดิน => หัวข้อที่ตั้งโดย: err เมื่อ พฤศจิกายน 04, 2010, 10:56:10 ก่อนเที่ยง

ชื่อ: จอมไสยสาว ตอนที่ 4 (วิชาปรอท)
โดย: err เมื่อ พฤศจิกายน 04, 2010, 10:56:10 ก่อนเที่ยง
หลังจากได้ทำเสน่ห์ฝังรูปฝังรอยให้กับแก้วเรียบร้อย
ตอนตีสามพ่อมาปลุกให้ดิฉันเอาหุ่นทั้งคู่กับหัวใจที่ได้ทำพิธีไปฝังยังป่าช้าชานเมือง
พ่อกับเจ้าอาวาสชอบพอกันมาก เนื่องจากท่านก็เป็นวิชาสายเดียวกับพ่อ

กลับมาบ้านก็เกือบหกโมงเช้าแล้ว
ดิฉันอาบน้ำอาบท่าแล้วแต่งตัวไปเรียนหนังสือ
ก่อนไปดิฉันกำชับพ่อว่า
"พ่อ..เย็นนี้ลูกจะรีบกลับมาเรียนปรอทนะพ่อ เมื่อวานยุ่ง ๆ เลยไม่ได้เรียน"
พ่อพยักหน้าแล้วพูดว่า
"พ่อเตรียมปรอทเอาไว้แล้วลูก.. พ่อว่าลูกน่าจะเรียนพวกหนังสือขอมบ้างนะ
จะได้อ่านพวกใบลาน แล้วสำคัญคัมภีร์หนังมนุษย์"

ดิฉันจำได้ตอนเด็กพ่อเคยเอามาให้ดู
แปลกดีหนังหยุ่น ๆ นิ่มไม่บอกไม่มีทางรู้เด็ดขาดเป็นหนังมนุษย์
พ่อบอกดิฉันว่าคัมภีร์หนังมนุษย์ผืนนี้มีอายุนับเป็นร้อย ๆ ปี
สืบทอดกันหลายชั่วอายุคน

คุยกับพ่อเสร็จดิฉันก็มาขึ้นรถแล้วขับไปมหาลัย
ดิฉันก็ยังเป็นคนแรก ๆ ที่ไปถึงมหาลัยอยู่ดี
เลยไปหาอะไรมากินรองท้องตอนเช้าก่อน

ขณะนึกทบทวนอาคมที่ร่ำเรียนมาจากพ่อ
บทแล้วบทเล่าที่ดิฉันกำหนดบริกรรมด้วยจิต
จนจิตเข้าสู่สมาธิขั้นสูงสุดแน่วแน่
คนภายนอกจะเห็นเหมือนกับว่าดิฉันนั่งหลับตาพักเฉย ๆ เท่านั้น

ดิฉันนะรับรู้สภาพภายนอกได้ชัดเจนแจ่มใส
แต่ว่าจิตของดิฉันมันเพิกเฉยไม่ใยดี ปล่อยให้ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ไม่มีอะไรมากระทบจิตให้สับสนวุ่นวายแม้นิดเดียว

จากนั้นดิฉันถอนจิตมาอยู่ในภาวะปกติ
เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจเริ่มดังในประสาทสัมผัสมากขึ้น ๆ
ดิฉันเห็นแก้วเดินมาหาดิฉันจึงร้องทักไปว่า

"แก้ว..."
"อ๋อ..วิ.."
แล้วแก้วก็ล้วงเข้าไปในประเป๋าส่งแผ่นดีวีดีมาส่งให้ดิฉันแผ่นหนึ่ง
"อื้อ..เมื่อคืนวิ...มันมาก ๆ เลยวิ...นี่เอาไปดูซิ.."

ดิฉันรับแผ่นแล้ว พูดล้อ ๆ
"ก็เล่นเดินกันรอบห้องแบบนั้นนิ..อิอิอิ"
พูดแล้วค้อนให้แก้ววงหนึ่ง
"แม่หมอ..แม่หมอรู้ดีแล้วนิ..เออ..เธอทำพิธีให้เรายัง.."
ดิฉันพยักหน้า
"ทำเมื่อคืนนั่นแหละ..ต่อไปนี้รับรองอ๊อดจะไม่มีวันทิ้งเธอเด็ดขาด..ว่าแต่เธอเถอะอย่าไปทิ้งเค้าละ..."
"เรา..รักเค้านะ...จึงไม่อยากเสียเค้าไปไง.."

"รักเค้า..ก็ดูแลเค้าให้ดีก็แล้วกันนะแก้ว..อย่าทำให้เค้าเสียใจละ.."
แก้วพยักหน้ารับ ในแววตาเหมือนจะมีหยาดน้ำแพรวพราว
"เออ..น่า..แก้ว..เรารับรองผล เป็นไงแล้วเธอคอยรายงานเราก็แล้วกัน"

"ยังอยากดูคลิ๊ปของเราอีกหรือเปล่า..."
"อยากซิ...ถ้าเธอถ่ายก็ให้เราดูบ้างแล้วกัน..เพื่อนเรามันเร่าร้อนเหลือเกินเวลาอยู่บนเตียง"
แก้วหัวเราะร่าเริงเหมือนมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา

พอดีขณะนั้นรุ่นพี่ชื่อ "อาจอง" เดินมาพอดี ดิฉันจึงส่งยิ้มให้
"อ๋อ..วิสาระนี่เอง..ไม่เจอกันหลายเดือนเป็นไงบ้าง"
"สบายดีคะรุ่นพี่..."
"อื้อพี่ไปธุรก่อนนะวิ.."
พูดจบก็โบกมือบ้ายบายก่อนสาวเท้าเดินออกไป
แต่พอเดินไปได้สัก 3-4 ก้าวกลับหันมามอง
อาจเป็นดิฉันตาฝาดหรือคิดมากไปก็ไม่รู้
ดิฉันรู้สึกว่าแววตานั้นไม่ปกติ แต่ก็ค้นหาความหมายไม่ได้ว่าคืออะไร

................

วันนั้นดิฉันเรียนหนังสือไปตามปกติ
ตอนเย็นรีบกลับบ้านโดยมีสุนทรีย์ขอติดรถไปลงกลางทางด้วย
ขณะนั่งในรถสุนทรีย์พูดกบดิฉันว่า

"วิ..วันนี้ไอ้อ๊อดมันเกาะยายแก้วแจเลยว๊ะ...เอาใจสารพัดสารเพ...อิจฉามันจริง ๆ เลยวิ.."
"อื้อ..ก็เค้ารักกันนิ คู่นี้รักกันนานแล้ว"
"ใครบอกเธอ..ฉันรู้มาว่าฝ่ายชายกะกินฟรีแล้วทิ้งเธอรู้เปล่า"
ดิฉันส่ายหน้าแล้วพูดว่า
"แต่ฉันรับรองสุนทรีย์ อ๊อดต้องรักยายแก้วเพื่อนเราไปจนวันตาย"
"จริงซิว๊ะ..วิ"
"อื้อ..เรารับรอง..."

ขับมาถึงจุดหมายที่สุนทรีย์จะขอลง
"วิ..จอดให้ลงตรงนี้แล้วกัน..."
ดิฉันเปิดไฟขอทางแล้วเลี้ยวเข้าชิดริมฟุตบาท
"ขอบคุณมากวิ...โชคดี.."
"เหมือนกันนะ..บาย"

สุนทรีย์ลงรถไปแล้ว ดิฉันนึงถึงคำพูดที่ว่าอ๊อดจะหลอกกินแก้วฟรี
งั้นคอยดูต่อไป..ดิฉันกำกับจิตของคนทั้งสองเอาไว้แล้ว
ไม่มีทางที่อ๊อดจะจะแปรเป็นอื่นไปได้
แก้วมากกว่าที่ดิฉันไม่รับประกัน

ดิฉันขับรถกลับมาถึงบ้าน
พอเดินเข้าบ้านดิฉันเป็นพ่อนุ่งขาวห่มขาวนั่งรอดิฉันอยู่แล้ว
"มาแล้วเหรอลูก ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดชาวก่อนลูก"

ดิฉันทำตามรีบเข้าห้อง อาบน้ำอาบท่าและแต่งชุดขาว
เป็นชุดผ้าถุงแล้วเสื้อแขนกระบอกสีขาว
แต่งตัวเรียบร้อยดิฉันรีบเดินมาหาพ่อที่เตรียมตัวเรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว

"อื้อ..ลูกมา ๆ ไปรอพ่อก่อนนะ เดี่ยวพอไปเอาปรอทออกมาก่อน"
ดิฉันเดินไปเข้าห้องพิธีของพ่อ
เข้าไปแล้วดิฉันกราบพระพุทธรูป กับรูปปั้นครูบาอาจารย์ของพ่อและก็ของดิฉันด้วย
กราบเสร็จดิฉันก็นั่งมองรูปปั้นท่านพ่อฤาษีใจเพชร
คราวนี้ดิฉันเห็นชัด ๆ กับตาอีกครั้ง
ท่านพ่อฤาษีใจเพชรกรอกตาได้ แต่ดิฉันไม่ได้บอกกับพ่อ
ได้แต่อัศจรรย์ใจเท่านั้นเอง

รอไม่นานพ่อเดินเข้ามาพร้อมกับขวดแก้วที่ใช้ในวงการแพทย์
ภายในมีน้ำข้น ๆ จนเกือบหนียว สีเงินแวววาวแล้วพูดว่า
"ก่อนเอาปรอทมาใช้เราทำให้เป็นกลางก่อน"
"เอ๊ะ..ทำไง..พ่อ..."
พ่อหันมามองดิฉันแล้วยิ้ม
"ใช้พลังจิตไงลูก..ทำได้ทุกอย่างแหละ ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิต แต่ต้องเป็นจิตที่ฝึกมาดีแล้วเท่านั้นแหละ"
"อึม...."
ดิฉันพยักหน้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนดิฉันคงจะเถียงหัวชนฝา
วิทยาศาสตร์เท่านั้นแหละก็ความจริง อย่างอื่นไม่ใช่ อย่างอื่นนะงมงาย
วิทยาศาสตร์บอกว่านี้คือความจริง ก็ต้องเป็นความจริง เพราะพิสูจน์มาแล้ว
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ สิ่งนั้นก็ต้องไม่มี ไม่ใช่ เช่น ผี

แต่พอดิฉันเริ่มเข้ามาฝึกไสยจากพ่อ
มากมายเหลือเกินที่ดิฉันทำได้ แต่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
หรือ..หรือ..วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วไปกันคนละเรื่องคนละทาง
สำหรับดิฉัน..ตอนนี้..นักวิทยาศาสตร์นะเด็ก ๆ เหลือเกิน เด็กเสียยิ่งกว่าทารกแรกเกิดเสียอีก

"เรากำกับพลังจิตด้วยคาถาบทหนึ่ง..บริกรรมให้แน่วแน่แล้วเป่าลงไปที่ปรอทแค่นั้นเอง"
แต่พอพ่อเป่าลมพรวดไปที่ขวด มีเรื่องแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งเกิดขึ้น

ปรอทที่อยู่ในขวดกลับเดือดปุด ๆ ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่เมื่อตะกี้สงบนิ่ง
พ่อเทปรอทออกมาจำนวนหนึ่งลงที่ใจกลางฝ่ามือแล้วชี้ให้ดิฉันดู

"นี่คือปรอทที่ถูกทำให้เป็นกลางแล้วลูก จะไม่มีพิษต่อตัวเรา"
ดิฉันมองดูน้ำปรอทที่เกาะกันเป็นเม็ดขนาดเท่าหัวแม่มือกลิ้งไปกลิ้งมากลางฝ่ามือ
"ต่อจากนี้สำคัญที่สุด เราจะบริกรรมเอาพลังอาคมเข้าไปกระจายเนื้อปรอทให้ออกจากกัน คอนดูนะ.."

พ่อเพ่งไปที่ปรอทกลางฝ่ามือแล้วท่อถาคมด้วยเสียงอันดัง
จากช้า ๆ พ่อท่องเร็วขึ้น ๆ ไปเรื่อย ๆ เร่งเร้าและกระชั่นจนถี่เร็วจนสุด ๆ
ปรอทที่กลางฝ่ามือพ่อมีอาการเดือดปุด ๆ พร้อมกับขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ใหญ่ขึ้น ๆ
จากนั้นก็ค่อย ๆ จางลง ๆ จนหายไปทั้งหมด

พ่อหันมามองดิฉันแล้วพูดว่า
"ตอนนี้ปรอทตะกี้พ่อทำให้ระเหยเป็นไอกระจายอยู่รอบ ๆ ตัวพ่อ ลูกต้องกำหนดจิตให้แน่วแน่ก่อน
แล้วท่องคาถา "มะ อะ มะ กะ" แล้วเอานิ้วปาดที่เปลือกตาแล้วจะเห็นเอง"

ดิฉันทำตามที่พ่อบอก พอดิฉันป้ายตาแล้วลืมตาเท่านั้น
ดิฉันเห็นละอองหมอกสีเงินแวววาวหมุนวนล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวพ่อ
"ที่คลุมตัวอยู่แบบนี้มีประโยชน์อะไรหรือพ่อ..."
"สภาวะเช่นนี้เราเอาไว้ป้องกันภัย ถ้ามีของอะไรจะเข้ามาทำทำร้ายเรา ไอปรอทจะเข้าสกัดและทำลายทันที"
"เหมือนยามเหรอ..."
พ่อพยักหน้ารับ

"เราสามารถคุมสภาพเช่นนี้เอาไว้ได้ตลอดเวลา..."
ดิฉันผงกศีรษะแสดงความเข้าใจ
"แล้วการทำคุณไสยละพ่อ.."
"เราก็คุมไอปรอทนี้แหละเข้าจู่โจมใช้งาน เออ..พ่อเตรียมของเอาไว้ทดลองให้ลูกได้เห็นกับตา"

พ่อลุกขึ้นแล้วจูงมือดิฉันเดินออกมาที่ด้านข้างบ้าน
พ่อชี้ให้ดิฉันดูข้างก๊อกน้ำมีกรงเล็ก ๆ กรงหนึ่ง มีหนูตัวขนาดไข่ไก่อยู่ภายใน
"ลูกคอยสังเกตเจ้าหนูนะ..."

ดิฉันก็เห็นว่าหนูมีอาการปกติ วิ่งไปวิ่งมา แล้วมันค่อย ๆ ทุรนทุรายขึ้นเรื่อย
ในที่สุดก็ล้มลงนอน ที่ปาก ตา จมูก มีเลือดออกไหลออกมา
"พ่อ...มันตายแล้ว..."
พ่อพยักหน้า
"พ่อคุมไอปรอทเข้าพุ่งเข้าหัวใจมัน เดี่ยวพ่อจะผ่าให้ดูว่าหัวใจมันมีอาการยังไงนะ..."

พ่อล้วงมือไปหยิบคัตเตอร์จากประเป๋ากางเกงออกมา
แล้วก้มลงไปเปิดกรงดึงซากหนูออกมาวางที่พื้น
ผ่าอกล้วงแล้วตัดหัวใจออกมา เปิดก๊อกเอาน้ำล้างคราบเลือด

จากนั้นพ่อก็ยื่นหัวใจให้ดิฉันดู
มันแปลกมากเหลือเกิน หัวใจหนูที่ดิฉันเห็นมันเป็นสีดำสนิท
"เห็นหรือเปล่าว่าหัวใจที่ลูกเห็นโดยทั่วไปไม่ว่าในคนหรือสัตว์จะเป็นสีแดง
แต่หัวใจที่ถูกไอปรอทเข้าทำร้ายเป็นสีดำสนิท"

ดิฉันพยักหน้า พ่อผ่าหัวใจหนูออกเป็น 2 ซีก
"ดูซิ....ไม่มีสีแดงแม้นิดเดียว"
ดิฉันพยักหน้า คุณไสยนี่น่ากลัวจริง ๆ มีทั้งช่วยคนและทำร้ายคน อยู่ที่คนใช้เท่านั้นแหละ

พ่อเปิดน้ำล้างทุกสิ่งทุกอย่างให้สะอาด เอาซากหนูใส่ถุงพลาสติกเอาไปทิ้งถังขยะ
ดิฉันกำหนดมองพ่อก็ยังเห็นไอปรอทที่เป็นละลองสีเงินแวววาวที่ต้องแสงแดดแพรวพราว
ตอนนี้ยังห้อมล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวพ่อ

พ่อพาดิฉันเข้ามานั่งในบ้านแล้วบอกว่า
"ที่พ่อสอนนี้เป็นปรอท เราทำด้วยอย่างอื่นก็ได้ เช่น หนังสัตว์ ไม้ อิฐ หิน เหล็ก
ทำได้ทุกอย่างแหละ เค้าทำกันเพื่อส่งเข้าไปทำร้ายคนอื่น มีเพียงปรอทเท่านั้น
ที่นอกจากทำร้ายคนอื่นได้แล้วยังป้องกันตัวเองได้..."

"โห..ใช้ได้ทุกอย่างเลยเหรอ..."
"ใช่...ครูของพ่อเล่าให้ฟังว่าครูของท่านสามารถที่กระจายภูเขาทั้งลูกก็ได้
มันอยู่ที่พลังจิตเท่านั้น ใครโดนเข้าไปรักษายังไงก็ไม่หาย หมอหาไม่เจอหรอก
มีแต่ตายกับตายอย่างเดียว"

"น่ากลัวจริง ๆ นะพ่อ..."
พ่อพยักหน้าแล้วพูดต่อว่า
"ลูกเอาปากกากับกระดาษมาจดคาถา แล้วค่อยบริกรรมนะ ก็บริกรรมเหมือนเดิมนั่นแหละ"
ดิฉันลุกขึ้นไปเอากระดาษกับปากกามา พ่อค่อย ๆ บอกทีละตัวให้จดจนเสร็จเรียบร้อย
จากนั้นพ่อก็ขอไปตรวจทานแล้วส่งให้ดิฉัน แล้วพูดว่า
"เออ..พ่ออยากให้ลูกเรียนภาษาขอมนะ ถ้าลูกอ่านเขียนภาษาขอมได้จะได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง
ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของลูกว่าจะสืบทอดวิชาของพ่อได้หรือเปล่า.."

"อื้อ...ดีเหมือนกัน ลูกจะได้อ่านพวกใบลานของพ่อได้ อยากอ่านมานานแล้ว"
"นอกจากใบลานแล้วยังมีคัมภีร์หนังมนุษย์ที่พ่อเก็บไว้ในเซฟใหญ่อีกนะลูก"
"อยากอ่านละซิ..."
ดิฉันพยักหน้าถี่ ๆ
"งั้นทุกวันเสาร์-อาทิตย์มาเรียนนะ พ่อจะสอนให้.."
"คะ..."

...............


ดิฉันใช้เวลากว่า 3 วันในการฝึกบริกรรมคาถาการทำปรอท
ภายในอาทิตย์เดียวดิฉันสามารถทำปรอทได้เหมือนพ่อ

ตอนนี้รอบ ๆ ตัวดิฉันมีไอปรอทคลุมอยู่แทบจะตลอดเวลา
แต่ก็ยังไม่เคยคุมปรอทเข้าทำอันตรายผู้อื่นแต่อย่างใด

มีอยู่วันหนึ่ง... ดิฉันออกจากมหาลัย
ได้ยินเสียงเปรี๊ยะ ๆ ชัดเจน
หันไปมองรอบ ๆ ตัวก็ไม่มีอะไร
ดิฉันจึงกำหนดจิตก็เห็นมีอะไรบางอย่างมาปะทะกับไอปรอท
มีเสียงเปรี๊ยะ ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่พักใหญ่จึงสงบ

ตอนเย็นดิฉันกลับมาถึงบ้านก็รีบไปหาพ่อ
เล่าเรื่องเหตุการณ์วันนี้ให้พ่อฟัง
"อ๋อ..อาจจะเป็นพวกลมเพลมพัดนะลูก..ดีแล้วละ...
เราเป็นคนมีอาคม คนอื่นที่เค้ามีอาคมเหมือนกัน อาจจะอยากลองของก็ได้
ลูกอย่าประมาทนะ ตัวลูกนะก้าวเข้ามาในเส้นทางไสยศาสตร์เต็มตัวแล้ว
ย่อมมีพวกอยากลองของ มาลองมาทดสอบอะไรบ่อย ๆ ก็ได้"

"เหรอพ่อ..."
พ่อพยักหน้า พร้อมกับบริกรรมปากขมุบขมิบแล้วเป่าพรวดมาศีรษะดิฉัน
ดิฉันรู้สึกเย็บวาบไปทั้งกาย แล้วรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก พ่อยิ้มให้ดิฉัน
"พ่อนะถูกมานักต่อนักแล้วจนชินแล้วละลูก จำไว้อย่างเดียวว่าอย่าประมาท"

"ลูกฝึกวิชาปรอทให้คล่องนะลูกนะ..."
ดิฉันพยักหน้า
"พ่อ..ลูกเรียนภาษาขอมไปได้เยอะแล้วนะ จำแม่อักษรได้หมดแล้ว แจกตามแม่อักษรก้คล่องแล้วคะ"
"ลูกเอาใบลานมามาฝึกอ่านนะ..มีอะไรสงสัยก็ค่อยถามพ่อ"

เย็นนั้นเอาพ่อลูกทานอาหารด้วยกัน
แล้วพ่อให้ดิฉันทบทวนภาษาขอมให้พ่อฟังจนพ่อใจก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว
ดิฉันจึงขอตัวพ่อไปอาบน้ำ

ดิฉันอาบน้ำเสร็จแต่งชุดนอน
ไม่ลืมที่จะล็อคประตูห้องให้เรียบร้อย
เอาแผ่นดีวีดีที่แก้วให้มาเข้าเครื่องจัดการเปิด พร้อมกับเอาหูฟังไร้สายมาครอบหู

เปิดขึ้นมา...แก้วนอนกอดกับอ๊อดบนเตียง น่าจะในโรงแรมแห่งใดแห่งหนึ่ง
ทั้งสองคุยกันเบา ๆ เลยไม่มีเสียงอะไรให้ได้ยินนอกจากเสียงครางของแอร์
พักใหญ่ทั้งสองต่างขมีขมันถอดเสื้อผ้าของกันและกันจนเหลือแต่ร่างเปลือยเปล่า
เออ..หุ่นของแก้วนี่ก็ดีเหมือนกันนะ ดิฉันชมเพื่อนอยู่ในใจ
แล้วตระหนกกับท่อนเนื้อของอ๊อดที่ผงาดชูชัน
มันใหญ่และยาวจนน่าหวาดเสียว

อ๊อดนอนอยู่ข้างล่างส่วนแก้วอยู่ด้านบนระดมจูบแก้มจูบปากอ๊อดไม่หยุด
แล้วทั้งสองก็จูบดูดปากกันนิ่งและนาน
แก้วค่อย ๆ เลื่อนหน้าของตัวลงมาเรื่อย มาจูบไซ้ตรงหัวนมเม็ดนิดเดียวของอ๊อด
แก้วแลบลิ้นออกมาเลียบริเวณหัวนมที่มีขนขึ้นอยู่สองสามเส้นไปมา
อ๊อดถึงกับกัดฟันแน่น แอ่นอกหราขึ้นมา

แก้วเลื่อนลงมาอีก จากอกก็มาท้อง จากท้องก็ลงมาหน้าขา
แก้วใช้มือจับท่อนเนื้อของอ๊อดแล้วรูดขึ้นรูดลง
อ๊อดถึงกับห่อตัวครางซี้ดออกมาจนดิฉันได้ยินชัด

ดิฉันตกใจ...เพื่อน...ของดิฉัน...
โอวว..ทำไมแก้วถึงกล้าขนาดนั้นก็ไม่รู้
แก้วเพื่อนของดิฉันอ้าปากออกครอบลงบนส่วนหัวที่บานและแดงก่ำของอ๊อด
แล้วกดหัวลงให้ท่อนของอ๊อดค่อย ๆ ผลุบเข้าไปในปากทีละนิด ๆ

"โอวววว..."
ดิฉันครางขึ้นมาอย่างไม่อาจที่จะข่มกลั้นเอาไว้ได้
ยิ่งตอนที่แก้วขยับปากรูดแล้วกดให้ท่อนของอ๊อดจมหายเข้าไปในปาก
ประกอบด้วยเสียงครางด้วยความสยิวของอ๊อด
ดิฉันต้องระบายลมหายใจออกมาด้วยความอัดอั้น
"ถึงขนาดนี้เชียวหรือแก้ว....เฮ่ออออ..."

แก้วใช้ปากทำกับอ๊อดอยู่พักใหญ่จนอ๊อดเด้งหน้าเด้งหลัง
คงทนไม่ไหวอยากแสดงออกมั่ง
อ๊อดสะกิดแล้วบอกให้แก้วหันก้นมาหาเค้า
"อ๊ะ...ท่าเก้าหกแน่เลย..."
อ๊อดผงกหัวระดมจูบเนินน้องสาวของแก้วถี่ยิบ
เท่านั้นไม่พอยังขยี้หน้าอีก
ยังไม่พอ..ดิฉันรู้สึกว่าอ๊อดละเลงลิ้นลงไปอีกต่างหาก
มันช่างสุดเสียวจริง ๆ

"โอววว..."
ดิฉันครางขึ้นมาบ้าง ไม่รู้มือดิฉันยื่นลงไปลูบเนินน้องสาวของตัวเองเมื่อไหร่
แล้วก็สัมผัสกับความเปียกชื้นที่ซึมชุดนอนออกมา

แม้ดิฉันจะเคยดูหนังเอ็กซ์มาบ้าง
แต่นี่เป็นคนที่ดิฉันรู้จัก
เป็นคู่รักของจริง ๆ
ดูแล้วมันต่างกันเหลือเกินกับหนังเอ็กซ์

ดูไปก็หน้านิ่วคิ้วขมวดไป
สิ่งที่ดิฉันเห็นในหนังทุกอย่าง แก้วกับอ๊อดทำมันทุกอย่างเลยแหละ
เมื่อก่อน..ดิฉันคิดว่านั่นเป็นเพียงการแสดง
คนจริง ๆ เค้าคงไม่ทำกันหรอก
แต่นั้น...มันเป็นความคิดและความเข้าใจผิดของดิฉันคนเดียวเท่านั้น

ทั้งสองคนต่างก็ทนไม่ไหว
อ๊อดดึงตัวออกมาแล้วผลักให้แก้วลงนอนหงาย
จากนั้นก็เข้าประกบกลางหว่างขา
ตอนนี้ตัวของอ๊อดบังทำให้ดิฉันไม่เห็นอะไร
นอกจากการขยับสะโพกโยกขึ้นลง

แต่แก้วนั้นแอ่นอกเป็นลอนเคลื่อนลงมาจนถึงก้น
ปากก็ครางซี้ด ๆ โอ๊ย ๆ เสียงดังทีเดียว
ไม่นานนักอ๊อดก็ชักของเค้าออก

ดิฉันเห็นชัดท่อนเนื้อของเค้าเปียกโชกทีเดียว
อ๊อดเดินลงจากเตียงแล้วส่งมือดึงแก้วให้ลุกขึ้นมา
อ๊อดพาแก้วไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ให้แก้วก้มตัวลงเอาหน้าวางบนโต๊ะ
จากนั้นอ๊อดจับขาของแก้วให้ขยับกางออกจับท่อนเนื้อของตัวใส่เข้าไปทันที

มุมนี้ชัดเจนมากเพราะอยู่ใกล้กล้อง
ดิฉันเห็นมือที่จับเอวของอ๊อดเกร็งจนเส้นโปน
อ๊อดผลักก้นของแก้วออกไปแล้วดึงกระชากกลับมาจนมีเสียงป๊าบ ๆ
โอ๊ยยยย...ดิฉันจะบ้าตาย...
มือบดบี้น้องสาวหนักมือขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วรู้สึกว่ามันชาเห่อไปหมดแล้ว

พักใหญ่ทั้งสองก็เปลี่ยนท่าเป็นท่าอุ้มแตงเหมือนที่ดิฉันดูจากหุ่น
พออ๊อดหันด้านหลังของแก้วมาที่กล้องดิฉันเห็นขาของแก้วที่แบะกว้างจนเป็นเหมือนปีกผีเสื้อ
อ๊อดสอดมือช้อนใต้ก้นกระชากเป็นจังหวะ ๆ เข้าหาตัว
เสียงของทั้งสองครางระงม
ดิฉันเองก็ชักจะครางระงมเหมือนกัน
สันมือกดที่เหนือเนินน้องสาวแรง ๆ ไม่หยุด

ทั้งแก้วกับอ๊อดคงสุดทน
อ๊อดพยายามประคองเดินด้วยขาที่ค่อนข้างโผเผพาแก้วไปวางที่เตียง
ปล่อยให้แก้วนอนแผ่ลงไปแล้วอ๊อดโน้มตัวลง
ใช้มือท้าวที่นอนขยับแอ่นก้นขึ้นซอยถี่ยิบ
เสียงแก้วประสานกับเสียงอ๊อดดังระงม

เฮ่อ...ดิฉันพานไปประสานเสียงกับเค้าด้วยเหมือนกัน
พวกเค้าเรียบร้อย
ดิฉันก็เรียบร้อยเหมือนกัน
เหนื่อยเลย...
----------------------------------------------------------------

ด้วยความขอบคุณ
kankan
ชื่อ: Re: จอมไสยสาว ตอนที่ 4 (วิชาปรอท)
โดย: manunited68 เมื่อ สิงหาคม 26, 2020, 02:11:39 หลังเที่ยง
เราควรจะเรียนวิทยาศาสตร์ หรือไสยศาสตร์ดี