ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

รูปแบบรัก2

เริ่มโดย Jherhmoy, มิถุนายน 17, 2025, 11:14:25 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Jherhmoy


ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติในบ้านหลังเล็กๆ แถวเกษตรนวมินทร์ หมอกิ่งยังคงทำหน้าที่แม่และคุณหมอเด็กอย่างไม่บกพร่อง ส่วนก้านก็เป็นลูกชายที่น่ารักและอบอุ่นของเธอเสมอ พวกเขายังคงแบ่งปันเสียงหัวเราะบนโต๊ะอาหาร ช่วยกันล้างจาน ดูหนังสนุกๆ ด้วยกันในวันหยุด หรือแม้แต่การที่ก้านจะเข้ามาหอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมส่วนตัวในยามค่ำคืน แต่ในความปกติเหล่านั้น กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงัน...บางสิ่งที่ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า แต่รับรู้ได้ด้วยหัวใจที่เต้นระรัวและร่างกายที่ตอบสนองอย่างห้ามไม่ได้

ที่โรงพยาบาล หมอกิ่งยังคงทำงานอย่างขยันขันแข็งเช่นเคย เสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่มารอตรวจดังก้องไปทั่วบริเวณแผนก ลมหายใจของเธอติดขัดเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงความเหนื่อยล้า แต่เมื่อนึกถึงรอยยิ้มของลูกชายที่มักจะมารอรับเธอทุกเย็น เธอก็รู้สึกมีพลังขึ้นมาอย่างประหลาด
ช่วงบ่ายวันนั้น ขณะที่หมอกิ่งกำลังให้คำแนะนำกับคุณแม่คนหนึ่งเกี่ยวกับการดูแลลูกน้อยที่ป่วยเป็นไข้หวัด เสียงทุ้มแหบนิดๆ ของคุณพ่อเด็กคนไข้ก็เอ่ยขึ้นมา "คุณหมอกิ่งนี่ใจดีจังนะครับ อธิบายละเอียดจนผมเข้าใจแจ่มแจ้งเลย" คุณพ่อคนนั้นยิ้มกว้าง ส่งสายตาชื่นชมมาให้เธออย่างเปิดเผย หมอกิ่งยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร พลางเอ่ยขอบคุณตามมารยาท เธอไม่ทันสังเกตว่าที่ประตูห้องตรวจ มีร่างสูงโปร่งของลูกชายเธอกำลังยืนมองอยู่ด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย

อืม... คุณพ่อคนนี้คุยกับแม่เยอะจังแฮะ ก้านยืนรอแม่อยู่หน้าห้องตรวจ ดวงตาคมกริบของเขามองภาพแม่ที่กำลังยิ้มหวานให้กับผู้ชายคนอื่นอย่างไม่วางตา ความรู้สึกแปลกๆ ก่อตัวขึ้นในอก คล้ายความรู้สึก ไม่พอใจเล็กๆ ที่คุณพ่อคนนั้นดูจะเข้าใกล้แม่มากเกินไป ก้านรู้สึกอยากจะเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างทั้งคู่เสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็พยายามควบคุมตัวเองไว้ เขาคิดว่ามันคงเป็นเพราะเขาหวงแม่ในฐานะลูกชายก็เท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษกว่านั้น เขากัดริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบที่สุด

"คุณแม่น้องบิ๊กกี้ไม่ต้องกังวลนะคะ ให้ยาตามที่คุณหมอสั่ง แล้วเดี๋ยวอาการก็จะดีขึ้นค่ะ" หมอกิ่งเอ่ยสรุป ก่อนจะยิ้มส่งคุณพ่อและคุณแม่น้องบิ๊กกี้ที่กำลังเดินออกจากห้องตรวจไป ก้านรีบเดินเข้าไปหาแม่ทันทีที่ประตูถูกปิดลง หมอกิ่งหันมาเห็นลูกชายก็ยิ้มกว้างอย่างเคยชิน "มานานแล้วเหรอลูก" เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ก็สักพักครับ" ก้านตอบพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น เขากอดเอวแม่เข้ามาใกล้กว่าปกติเล็กน้อย สัมผัสถึงไออุ่นจากร่างกายของแม่ที่แผ่เข้ามาในอก มือของเขาโอบเอวเธอหลวมๆ อย่างเป็นธรรมชาติ หมอกิ่งไม่ได้คิดอะไรมากกับสัมผัสที่คุ้นเคยนี้ เพียงแต่รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาในใจ และปล่อยให้ลูกชายจูงมือเธอเดินออกจากโรงพยาบาลไป

เย็นวันนั้น ณ บ้านหลังเล็กๆ ที่อบอุ่น กิจวัตรประจำวันหลังอาหารเย็นเริ่มต้นขึ้น หมอกิ่งและก้านนั่งอยู่บนโซฟายาวตัวโปรดในห้องนั่งเล่น กำลังดูหนังรักโรแมนติกที่หมอกิ่งเลือก ก้านกอดแม่จากด้านหลัง แขนแกร่งของเขาโอบรัดรอบเอวคอดของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาซบลงบนไหล่เล็กๆ ของแม่ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนผมของแม่ลอยมาแตะจมูก ทำให้หัวใจของก้านเต้นระรัว

ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาจากด้านหลัง ทำให้หมอกิ่งรู้สึกผ่อนคลาย ความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันมลายหายไปในพริบตา นี่คือช่วงเวลาแห่งความสุขที่สุดของเธอ การได้อยู่ใกล้ลูกชายแบบนี้มันเติมเต็มความว่างเปล่าในใจได้ดีที่สุด เธอสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของก้านที่รัดรอบเอว เธอรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดอยู่ข้างหู และรู้สึกถึงบางสิ่งที่กำลัง แข็งขึ้นมาอย่างช้าๆ ด้านหลังของเธอ...มันคืออะไรนะ? หัวใจของเธอเริ่มเต้นถี่ขึ้นเล็กน้อย ความรู้สึกสับสนแล่นวาบเข้ามาในความคิด แต่เธอก็พยายามปัดเป่ามันออกไป เธอไม่อยากคิดถึงมัน เธออยากจะซึมซับความสุขที่บริสุทธิ์นี้ไว้ให้นานที่สุด

ทุกสัมผัส ทุกอณูของร่างกายที่แนบชิดกับแม่ ส่งผลให้เลือดในกายของก้านสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง กลิ่นกายของแม่มันช่างหอมยั่วยวนจนเขาแทบจะคลั่งตาย ความนุ่มนิ่มของแผ่นหลังที่แนบชิดกับอกของเขายิ่งทำให้ความปรารถนาที่เก็บกดไว้พุ่งพล่านขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงลมหายใจของแม่ที่แผ่วเบาอยู่ข้างหู ทำให้เขาอยากจะก้มลงไปจูบเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก้านรู้สึกถึง ความแข็งขืนที่กำลังพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ภายใต้กางเกงนอนตัวบางที่สวมอยู่ มันใหญ่ขึ้น...แข็งขึ้น...และแข็งจนน่าตกใจ เขากำมือแน่นพยายามควบคุมตัวเอง แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ความรู้สึกร้อนรุ่มในตัวกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมร่างกายของเขาถึงได้ตอบสนองรุนแรงขนาดนี้เมื่ออยู่ใกล้แม่ หรือว่านี่คือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนรู้สึกเมื่ออยู่ใกล้ผู้หญิงที่สวยงามอย่างแม่? เขาได้แต่คิดในใจอย่างสับสนปนกระหาย
หนังยังคงฉายต่อไปบนจอโทรทัศน์ แต่ไม่มีใครใส่ใจเนื้อเรื่องอีกแล้ว ในห้องนั่งเล่นที่มืดสลัว มีเพียงแสงจากจอโทรทัศน์ที่สาดส่องเข้ามาเป็นระยะๆ และสองร่างที่แนบชิดกันบนโซฟา ความเงียบงันปกคลุมไปทั่ว แต่ในความเงียบนั้น มีเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นระรัวแข่งกัน และความปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นภายใน...กำลังรอคอยเวลาที่จะถูกปลดปล่อย

ความเงียบในห้องนั่งเล่นยังคงดำเนินไปอย่างเชื่องช้า มีเพียงเสียงกระซิบจากหนังรักที่ฉายอยู่บนจอโทรทัศน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งหมอกิ่งและก้านต่างก็ไม่ได้ยินอะไรเลย นอกจากเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นระรัวแข่งกัน ความร้อนจากแผ่นหลังของหมอกิ่งที่สัมผัสกับอกของก้านแผ่ซ่านไปทั่วร่างของทั้งคู่ ราวกับกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ที่กำลังเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หมอกิ่งรู้สึกถึงบางสิ่งที่กำลัง แข็งและตึงขึ้น อยู่ด้านหลังของเธออย่างชัดเจน มันใหญ่ขึ้นจนเธอไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไปว่านี่คือเรื่องบังเอิญหรือเพียงแค่มุมที่นั่ง ก้านขยับสะโพกเพียงเล็กน้อย ทำให้สิ่งที่แข็งขืนนั้นยิ่งเสียดสีกับบั้นท้ายของเธออย่างจงใจ

นี่มันอะไรกัน? หมอกิ่งตัวเกร็งไปหมด เธอสัมผัสได้ถึงความร้อนและความแข็งที่ทิ่มแทงอยู่ด้านหลังอย่างชัดเจน มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกเล็กน้อยอีกต่อไป แต่มันคือ ความจริง ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำจนเจ็บซี่โครง ความคิดสับสนวุ่นวายอยู่ในหัว "นี่ก้าน...นี่ลูกชายของฉันกำลัง...?" เธอพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ แต่กลับยิ่งรู้สึกถึงแรงกดดันจากด้านหลังที่เพิ่มขึ้น มือของเธอจิกเข้าที่หมอนโซฟาอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกผิดและตื่นตระหนกแล่นวาบเข้ามาในความคิด แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความรู้สึกบางอย่างที่แปลกประหลาด...มันคืออะไรกันแน่? ความตื่นเต้น? ความอยากรู้อยากเห็น? เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ความปรารถนาที่ถูกเก็บงำมานานในฐานะผู้หญิงที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาสามปี กำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยสัมผัสจากลูกชายของตัวเอง หมอกิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่บนหน้าผาสูงชัน และพร้อมที่จะทิ้งตัวลงไปสู่ความมืดมิดเบื้องล่าง

ก้านเองก็รับรู้ได้ถึงปฏิกิริยาของแม่ เขารู้ว่าแม่ต้องสัมผัสได้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ความปรารถนาที่พุ่งพล่านในตัวเขามันรุนแรงเกินกว่าจะเก็บซ่อนไว้ได้อีกต่อไป ก้านขยับตัวเข้ามาชิดแม่มากยิ่งขึ้น แขนแกร่งที่โอบรัดเอวแม่ค่อยๆ เคลื่อนลงต่ำไปเล็กน้อยจนปลายนิ้วเกือบจะสัมผัสกับหน้าท้องของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาที่ซบอยู่บนไหล่แม่ค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปใกล้ใบหูของเธอ แล้วกระซิบเสียงแหบพร่า "แม่ครับ...ผม...ผมอยากกอดแม่แน่นๆ กว่านี้อีกหน่อย"
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่กระซิบอยู่ข้างหูทำให้หมอกิ่งสะท้านไปทั้งร่าง เธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ ที่รินรดอยู่บนต้นคอ ขนอ่อนลุกซู่ไปหมด ใบหน้าของเธอเห่อร้อนขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ หมอกิ่งหลับตาลงแน่น พยายามรวบรวมสติทั้งหมดเพื่อตอบลูกชาย "ก้าน...ลูกกอดแม่แน่นพอแล้วนะจ๊ะ" เธอพูดเสียงแผ่วเบา พยายามไม่ให้เสียงสั่นเครือ แต่ดูเหมือนก้านจะไม่สนใจคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย
ก้านไม่ตอบ เขาเพียงแค่ขยับตัวให้สิ่งที่แข็งขืนนั้นแนบชิดกับบั้นท้ายของแม่มากขึ้นอีก แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นทำให้หมอกิ่งสะดุ้งเล็กน้อย เธอรับรู้ได้ถึงขนาดและความร้อนที่แผ่เข้ามาจากสิ่งที่แนบชิดกับเธอ ก้านเริ่มขยับสะโพกเบาๆ เหมือนจะเสียดสีเบาๆ กับร่างกายของแม่ การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยนั้นกลับสร้างความรู้สึกวาบหวามที่หมอกิ่งไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันแปลกใหม่...น่ากลัว...แต่ก็น่าตื่นเต้นอย่างประหลาด

แม่ต้องรู้สึกแล้วแน่ๆ ก้านรู้สึกถึงความตึงเครียดจากแม่ที่อยู่ในอ้อมกอด เขารู้ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันเกินกว่าความเป็นแม่ลูก แต่ความปรารถนาในตัวมันรุนแรงเกินจะควบคุมได้ เขาอยากให้แม่รับรู้ถึงความต้องการของเขา อยากให้แม่รู้ว่าร่างกายของเขาตอบสนองต่อแม่มากแค่ไหน ก้านก้มลงจูบที่ไหล่ของแม่เบาๆ สูดดมกลิ่นหอมหวานจากผิวเนียนนุ่ม ปลายจมูกของเขาลากไล้ไปตามซอกคอขาวผ่อง แล้วเลื่อนขึ้นไปกระซิบชิดริมหูอีกครั้ง "แม่ครับ...ผมรักแม่นะ" เสียงของเขาแหบพร่าปนความต้องการที่ลึกซึ้ง มันไม่ใช่คำว่ารักแบบลูกชายอีกต่อไป แต่เป็นคำว่ารักที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของผู้ชายคนหนึ่ง
หมอกิ่งตัวชาวาบกับคำกระซิบนั้น คำว่า "รัก" ของก้านในตอนนี้มันมีความหมายที่แตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง หัวใจของเธอเต้นรัวระทึกจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ที่รินรดอยู่ข้างหู และริมฝีปากอุ่นๆ ที่จูบซับอยู่บนผิวเนื้อของเธอ หมอกิ่งหลับตาลงแน่น พยายามจะปัดเป่าความรู้สึกผิดบาปที่แล่นเข้ามาในความคิด แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองต่อสัมผัสของลูกชายอย่างห้ามไม่ได้ เธอรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งพล่านไปทั่วร่าง และความปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของจิตใจ เธอไม่อยากเชื่อว่าตัวเองกำลังรู้สึกแบบนี้กับลูกชายแท้ๆ ของตัวเอง
ในความมืดสลัวของห้องนั่งเล่น มีเพียงเสียงหนังที่ยังคงดำเนินไป และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างแม่ลูกที่กำลังเผชิญหน้ากับความปรารถนาที่ซ่อนเร้นมานานแสนนาน เปลวไฟแห่งความหิวโหยเริ่มลุกโชนขึ้นอย่างช้าๆ กำลังจะแผดเผาเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความเป็นแม่ลูกให้มลายหายไปในไม่ช้า

คำกระซิบ "ผมรักแม่นะ" ของก้านยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของหมอกิ่ง มันไม่ใช่คำบอกรักที่เธอเคยได้ยินจากลูกชายคนนี้ แต่มันเป็นถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่ซ่อนเร้น ความรู้สึกผิดบาปยังคงกัดกินในใจ แต่ในวินาทีนั้น ร่างกายของเธอกลับตอบสนองต่อสัมผัสของก้านอย่างไม่อาจควบคุมได้ แรงกดดันจากสิ่งที่แข็งขืนอยู่ด้านหลัง ความร้อนที่แผ่ซ่านเข้ามาจากทุกอณูของร่างกายก้าน และกลิ่นกายหอมละมุนของลูกชายที่ทำให้เธอเวียนหัวมึนงง มันช่างน่าอันตราย แต่ก็เย้ายวนอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ฉันกำลังทำอะไรอยู่? นี่มันผิด! ผิดมหันต์! เสียงหนึ่งในใจกรีดร้องบอก แต่เสียงอีกเสียงหนึ่งที่ดังกว่ากลับกระซิบตอบว่า ไม่...ฉันเหงาเหลือเกิน...ฉันต้องการสัมผัส...ต้องการความรัก...และเขาก็อยู่ตรงนี้...ลูกชายของฉัน...ผู้ชายคนเดียวที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอมา... หมอกิ่งสับสนไปหมด เธอหลับตาลงแน่น พยายามรวบรวมสติ แต่ลมหายใจร้อนๆ ที่รินรดอยู่ข้างใบหู และจูบอุ่นๆ ที่ซับลงบนซอกคอ ก็ทำให้สติของเธอขาดผึง ความปรารถนาที่ถูกเก็บกดมานานกว่าสามปีหลังการจากไปของสามี ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงราวกับเขื่อนที่พังทลาย เธอโหยหาความอบอุ่น โหยหาสัมผัสของผู้ชาย และในตอนนี้ ลูกชายของเธอกำลังมอบมันให้เธออย่างเต็มเปี่ยม หมอกิ่งรู้ดีว่านี่คือไฟที่กำลังจะเผาผลาญทุกอย่าง แต่ในห้วงแห่งความปรารถนา เธอกลับไม่คิดที่จะถอยหนีเลยแม้แต่น้อย
มือของหมอกิ่งที่เคยกุมหมอนแน่น ค่อยๆ คลายออกช้าๆ แล้วยกขึ้นโอบรอบแขนแกร่งของก้านที่โอบกอดเธออยู่ ราวกับจะรั้งเขาเข้ามาให้ใกล้กว่าเดิมอีก ก้านรับรู้ได้ถึงการตอบสนองของแม่ เขายิ้มอย่างพึงพอใจในความมืด ก้านก้มลงจูบซับที่ต้นคอของแม่ซ้ำๆ อย่างเร่าร้อน สูดดมกลิ่นหอมหวานจากผิวเนื้อที่นุ่มเนียนของเธออย่างกระหาย มือที่โอบเอวแม่ไว้ค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปอีก บีบเคล้นสะโพกกลมกลึงของเธอเบาๆ อย่างเป็นเจ้าของ ทำให้สิ่งที่แข็งขืนของเขายิ่งเบียดเสียดกับบั้นท้ายของแม่จนแน่นขึ้นไปอีก หมอกิ่งสะท้านไปทั้งร่าง เธอรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งพล่านจากด้านหลัง ความรู้สึกวาบหวามที่แล่นไปทั่วช่องท้องจนขาของเธออ่อนเปลี้ยไปหมด
"แม่ครับ...ผมอยากจูบแม่" ก้านกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหมอกิ่ง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจเก็บงำได้อีกต่อไป หมอกิ่งไม่ตอบ เธอเพียงแค่หันหน้าไปหาเขาช้าๆ ในความมืด ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ดวงตาคู่สวยฉายแววสับสน ปรารถนา และยอมจำนน ก้านไม่รอช้า เขาก้มลงบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มของแม่ทันที การจูบครั้งนี้ไม่ใช่จูบที่อ่อนโยนแบบลูกชายอีกต่อไป แต่มันคือจูบที่ร้อนแรง ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยความหิวโหยของผู้ชายที่ต้องการครอบครองผู้หญิงที่เขารัก
ริมฝีปากของก้านบดเบียดกับริมฝีปากของแม่ดูดกลืนความหอมหวานทั้งหมด หมอกิ่งหลับตาลงแน่น ตอบรับจูบของลูกชายอย่างไม่มีทางเลือก มือของเธอยกขึ้นโอบรอบคอของก้าน รั้งเขาเข้ามาใกล้จนแนบชิดยิ่งกว่าเดิม เปลวไฟแห่งความปรารถนาที่เคยซ่อนเร้นมานาน ตอนนี้มันได้โหมกระหน่ำขึ้นแล้วในตัวของทั้งคู่
ลิ้นของก้านแทรกซอนเข้าไปในโพรงปากของแม่อย่างร้อนรุ่ม สำรวจความอ่อนนุ่มและรสหวานล้ำราวกับกำลังลิ้มรสสิ่งมีค่าที่สุดในโลก หมอกิ่งครางในลำคอแผ่วเบา ตอบรับการรุกรานของลูกชายอย่างไม่ประสา เธอสัมผัสได้ถึงความร้อนจากลิ้นของก้านที่พันเกี่ยวกับลิ้นของเธอ แรงดูดดึงจากริมฝีปากที่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม และกลิ่นอายของความเป็นชายที่หอมยั่วยวนจนเธอแทบจะหมดสิ้นเรี่ยวแรง
ในขณะที่ริมฝีปากกำลังบดเบียดกันอย่างเร่าร้อน มือของก้านก็ไม่หยุดนิ่ง เขาลูบไล้ขึ้นลงไปตามแผ่นหลังของแม่ ก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบางของเธอ สัมผัสกับผิวเนื้อนุ่มนิ่มที่ยังคงเนียนละเอียด หมอกิ่งสะท้านเฮือกเมื่อปลายนิ้วของก้านสัมผัสกับผิวของเธอ ความเย็นจากปลายนิ้วที่ตัดกับความร้อนระอุของร่างกายทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั้งร่าง มือของก้านลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเธออย่างเชื่องช้า ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปบีบเคล้นบั้นท้ายกลมกลึงของแม่เบาๆ แล้วออกแรงบีบกระชับอย่างเป็นเจ้าของ
เสียงครางต่ำๆ เล็ดลอดออกมาจากลำคอของหมอกิ่ง เธอไม่สามารถควบคุมเสียงของตัวเองได้อีกต่อไป ทุกสัมผัสของก้านมันทำให้ร่างกายของเธออ่อนระทวยลงไปเรื่อยๆ ความคิดที่จะต่อต้านหรือผลักไสลูกชายออกไปมลายหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงความปรารถนาที่ร้อนแรงและไร้เหตุผล เธอจมดิ่งลงไปในวังวนแห่งความรู้สึกที่ไม่อาจต้านทานได้
ในห้องนั่งเล่นที่มืดสลัว มีเพียงเสียงจูบที่ดูดดื่ม เสียงครางแผ่วเบา และลมหายใจหอบกระชั้นของคนทั้งคู่ที่ดังคลอไปกับเสียงหนังที่ยังคงฉายอยู่ ความสัมพันธ์ที่เคยบริสุทธิ์ของแม่ลูก ได้ถูกเปลวเพลิงแห่งความปรารถนาแผดเผาจนมอดไหม้ไปแล้ว และไม่มีทางที่พวกเขาจะย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป



dick1050

ความต้องการลึกๆในใจของทั้ง 2  การเรียกร้องจากธรรมชาติ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปเอง
Make love Not War

1819

เราจะลุ้นไปด้วยกัน กับการกระทำ2แม่ลูก เพื่อฉีกม่านประเพณี
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

NEOONE_14

ภาษาสวยมาดลยครับ เป็นการอ่านที่จินตนาการไ,ไกลมาก