ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_cyborg0011

สมรสเจ็บรัก..แค้นรสพิศวาส copy

เริ่มโดย cyborg0011, พฤษภาคม 21, 2021, 06:26:46 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cyborg0011


สมรสเจ็บรัก..แค้นรสพิศวาส


[doraeme] Posted: Sep 3 2007, 09:37 AM


ริจะรักต้องกล้าเจ็บ 1

ดิฉันยอมรับว่า..-ชีวิตของลูกผู้หญิงจะไมมีช่วงตอนไหนเจ็บปวด เท่ากับตอนถูกคนรักดูถูก แล้วไล่ลงจากเตียง แยกทางเดินเป็นที่สุด-... แต่เพราะการสบประมาทของเขานี่แหละค่ะ ที่ทำให้ดิฉันได้พบกับความสุขสมที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ในโลกนี้ และทำใหคนที่เอ่ยปากไล่ดิฉันลงจากเตียง ต้องมางอนง้อขอคืนดีทุกวี่วัน

"พี่วิช" เป็นผู้ชายที่ดิฉันรักตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยม เขาเป็นชายในดวงใจคนเดียว จนกระทั่งความฝันได้กลายเป็นความจริง เราแต่งงานกันด้วยการเห็นชอบของครอบครัว ทั้งสองอย่าง เนื่องจากมีฐานะและความรู้ดีพอๆกันทั้งคู่ เหนือสิ่งอื่นใดคือเรารักกัน วันแต่งงานเป็นวันที่ดิฉันมีความสุขมากที่สุดในชีวต และวันแต่งงานนี่แหละ ทำให้ดิฉันพบกับความเจ็บปวดจนน้ำตาร่วงเหมือนกัน ดิฉันยังไม่เคยผ่านหรือมีประสบการณ์อื่นใดเลย นอกเหนือจากการนอนหนีบหมอนข้าง ตัวเกร็งจนกระทั่งพบกับความสุขสบายใจ นับตั้งแต่วัยแตกเนื้อสาว ร่างกายและจิตใจของดิฉันไม่มีชายใดมาแผ้วพานเลย จนกระทั่งถึงวันที่เข้าห้องหอนอนเตียงเดียวกันกับพี่วิช คนที่ดิฉันรัก คว้าดิฉันเข้าไปในอ้อมกอดทันทีที่ประตูห้องปิด

"เราเป็นผัวเมียกันแล้วนะ ต่อไปนี้บุ๋มจะหวงเนื้อหวงตัวกับพี่อีกไม่ได้ มาให้พี่จูบก่อน อยากจูบมานานเหลือเกินบุ๋มจ๋า" พี่วิชฝังจมูกลงที่แก้มทั้งสองข้าง แล้วบดปากลงมาประกบปากดิฉัน ทันทีที่ลิ้นของเขาแทรกเข้ามาในปาก ดิฉันรู้สึกเหมือนไฟฟ้าช็อต แขนขาไร้เรี่ยวแรง... นี่หรือที่เขาเรียกกันว่า-จูบ- มันมีอานุภาพมากขนาดนี้เชียวหรือ ดิฉันคำนึงในใจ ก่อนจะพบว่าความรู้สึกต่างๆของตัวเองนั้นได้ล่องลอยหายไปทีละน้อย จนกระทั่งเหลืออยู่เพียงอย่างเดียว คือความรู้สึกของธรรมชาติที่เรียกร้อง ให้ปล่อยตัวเองไปกับการกระทำของคนที่กำลังจะชื่อว่าเป็นสามีเต็มขั้น ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

ตั้งแต่คบกันมา จากมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย ดิฉันไม่เคยปล่อยตัวให้พี่วิชมากไปกว่ายอมให้เขาจูงมือข้ามถนน หรือจับมือเดินเคียงคู่กันในศูนย์การค้า เขาอ้อนวอนดิฉันสารพัด เพื่อที่จูบหรือกอดสักนิด แต่ดิฉันแข็งขืนไม่ยินยอมทุกกรณี จนเขาเคยพูดเป็นเชิงอาฆาตว่าดิฉันจะทนการตื๊อของเขาไปได้สักแค่ไหน? พี่วิชคงจะผิดหวังไม่น้อยทีเดียว เพราะดิฉันไม่เคยผ่อนปรนอะไร แม้ว่าจะถูกเขางอน และทำท่าว่าจะไม่ร่วมหอด้วย  หากดิฉันไม่ยอมให้เขามัดจำ ที่สุดก็มาถึงวันแต่งงาน ซึ่งดิฉันยอมรับว่าไม่มีเหตุผลอันควร ที่จะขัดขืนเขา เพราะตัวเองก็เรียกร้องและรอวันนี้มานานเช่นกัน

ชุดราตรีแขนสั้นสีชมพูที่พี่วิชต้องการให้ดิฉันแต่ง ถูกปลดออกไปด้วยมือของเขาเอง
"ดับไฟก่อนเถอะค่ะ บุ๋มอาย"
"อายอะไรกัน เราอยู่กันสองคน" เขาดื้อรั้นนัก แต่ดิฉันดื้อกว่า
"บุ๋มอายค่ะพี่วิช ปิดไฟก่อนนะคะ" ดิฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

พี่วิชยอมลุกจากเตียงไปปิดไฟดวงใหญ่ แต่เปิดประตูห้องน้ำและเปิดไฟข้างในไว้ให้แสงสว่างออกมาจนถึงในห้อง ไม่มืดมิดพอที่จะทำให้ดิฉันข่มความอายได้หมดสิ้น และดิฉันก็ไม่สามารถต่อล้อต่อเถียงเขาได้อีกด้วย ปากนั้นถูกปิดจนแทบหายใจไม่ออกเป็นเวลานาน เมื่อปากเป็น มือของเขาก็เริ่มดึงโน่นปลดนี่.. นอกเหนือจากยกทรงกับกางเกงในตัวบางๆแล้ว เขาก็ไม่ยอมให้มีอะไรเหลือติดตัวดิฉันอีก พี่วิชไม่ยอมปล่อยดิฉันพ้นจากอ้อมกอด เขาใช้มือเพียงข้างเดียวถอดเสื้อกางเกงตัวเองออก จนเหลือแต่เจเพรสตัวสุดท้าย เขาพลิกตัวดิฉันกลับมาให้เผชิญหน้าอย่างเดิม เพราะปากของเขาลงไปทาบอยู่บนอกที่อวบอิ่ม ดิฉันเกิดความรู้สึกเสียววาบหวิวจนแทบขาดใจ ปากของพี่วิชนี่แหละเป็นต้นเหตุ เขาใช้ลิ้นเลียรอบๆบริเวณเนินอกก่อน ตอนนั้นดิฉันขนลุกชูชัน แล้วเขาก็เม้มริมฝีปากที่หัวนม คราวนี้แหละที่ดิฉันแทบขาดใจ

แต่ก็ช่างแปลกนัก ทั้งที่รู้สึกว่าแทบขาดใจเพราะถูกทำเช่นนั้น แต่ตัวเองกลับแอ่นอกเข้าหาท้าทายให้เขายิ่งเม้มปากขบขยี้รุนแรงขึ้น...ดิฉันบอกไม่ถูกว่าเกิดความรู้สึกอะไรกันแน่ พอใจ/ไม่พอใจ/เจ็บปวด/เสียวซ่าน/วาบหวิว/หรืออับอาย แต่ไม่ว่าจะเกิดความรู้สึกใดในตอนนั้น พี่วิชก็หาหยุดยั้งการกระทำไม่...



ริจะรักต้องกล้าเจ็บ 2


พี่วิชเหมือนคนบ้าคลั่ง เขาพยายามปลดยกทรง แต่มันไม่หลุดติดมือง่ายๆ เขาจึงกระชากจนดิฉันต้องเอื้อมมือไปช่วยเขาปลดขอ ส่วนกางเกงตัวบางๆนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับพี่วิชแม้แต่น้อย พอกางเกงในหลุดเขาก็ทับทั้งตัวลงมา เวลานั้นดิฉันรู้สึกเหมือนถูกเหล็กร้อนๆตอกลงไปในช่องว่างระหว่างขาทั้งสองข้าง มันทั้งร้อนและรุนแรงจนดิฉันปวดปล๊าบไปทั้งตัว "พี่วิชขา บุ๋มเจ็บ เอาออกเถอะค่ะ เอาออกเร็วๆ" ดิฉันจำได้ว่าร้องเสียงดังบอกเขาไปอย่างนั้น แต่สามีของดิฉันหาฟังเข้าใจไม่ เขาดึงเหล็กเผาไฟแท่งนั้นออกจากตัวดิฉันก็จริง แต่ไม่ได้ดึงออกไปหมด ดึงไปแค่ครึ่งเดียวก็กระแทกกลับเข้ามาใหม่

พี่วิชทำด้วยวิธีการใด ดิฉันไม่เข้าใจ รู้สึกแต่เพียงร่างกายของตัวเองถูกเขายัดเยียดแท่งเหล็กร้อนๆแท่งนั้นเข้ามาจนเจ็บระบมปวดร้าว แล้วที่สุดก็เกิดอาการชาหนึบไปตั้งแต่สะโพกยันปลายขา ความรู้สึกเสียวซ่านซู่ซ่าแต่เดิมหดหายไปหมดสิ้น "บุ๋มจ๋ามีความสุขไหมจ๊ะ? พี่มีความสุขเหลือเกินบุ๋มที่รักของพี่"ดิฉันไม่เข้าใจคำพูดของพี่วิชเลย เขาถามว่าดิฉันมีความสุขไหม? ตัวเองก็พร่ำบอกว่าเต็มไปด้วยความสุข ซึ่งความจริงแล้วดิฉันหาได้รู้สึกเป็นสุขแม้สักนิดเดียว ความรู้สึกในยามนั้นคือ ความเจ็บปวด ชาด้านต่างหาก ไม่ใช่ความสุขอย่างที่เขาถามหา

พี่วิชช่างมีเรี่ยวแรงมากมายเหลือเกิน เขาสามารถที่จะตอกเหล็กเผาไฟแท่งนั้นเข้าไปในร่างกายของดิฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นร้อยเป็นพันครั้งติดต่อกัน โดยไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย จนกระทั่งเขาร้องครางออกมาพร้อมกับกรอกเสียงเครือข้างๆหูว่า "บุ๋มจ๋า พี่มีความสุขแล้ว ที่รัก บุ๋ม..พี่เป็นสุขเหลือเกิน..บุ๋มจ๋า" ดิฉันยังไม่รู้ว่าอะไรคือความสุข แต่คล้ายกับว่าในช่องขาตัวเองนั้น ได้ถูกอะไรร้อนๆพ่นเข้าไปสองสามครั้ง แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่ง ร่างของพี่วิชทับแน่นอยู่บนตัว ก้มหน้ากับซอกคอลมหายใจแรงเป่ารดข้างหู

พี่วิชนอนทับดิฉันเกือบห้านาที จึงพลิกตัวขึ้น แล้วเขาประคองดิฉันที่กำลังงงงวยกับความรู้สึกของตัวเองไปยังห้องน้ำ "พี่จะล้างให้บุ๋มนะ พี่อยากดูว่าบุ๋มเลือดออกเยอะไหม?" "เลือดออก..!?!?!?..." ดิฉันอุทานด้วยความตกใจ ก้มมองร่องขาตัวเองด้วยใจหายวาบ เพราะเห็นหยาดน้ำสีแดงเรื่อคล้ายเลือดไหลออกมาจริงๆ ความตกใจทำให้ดิฉันผลักพี่วิชไปห่าง แล้วรีบพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำปิดล็อคประตู พลางสำรวจตัวเอง ดิฉันมีเลือดสีจางๆไหลออกมาจากร่องขาตัวเองจริงๆ แต่พอตั้งสติได้ ดิฉันก็หายตกใจ และภูมิใจตัวเองที่ยังมีพรหมจารีย์เหลือให้กับชายที่เป็นสามี

พี่วิชภูมิใจมากกว่าดิฉันเสียอีก เขาเฝ้ารออยู่หน้าห้องน้ำ พอดิฉันกระโจมอกออกมา เขาก็ประคองไปที่เตียง  พยายามจะเปิดดูรอยเลือดที่ไหลออกมาให้ชัดตา แต่ดิฉันไม่ยินยอมเด็ดขาด ดิฉันอายที่จะเปิดอ้าซ่าให้เขาดู แม้ว่าเขาจะเป็นสามีก็ตาม ดิฉันไล่พี่วิชเข้าห้องน้ำ พอเขาออกมา ดิฉันก็สวมชุดนอนรัดกุม และไม่ยอมให้เขาแตะต้องล่วงเกินมากไปกว่านอนกอดจนถึงเช้า


ริจะรักต้องกล้าเจ็บ 3


ความสุขเมื่อคืนเป็นอย่างไร? ดิฉันจดจำไม่ได้ เพราะรู้สึกแต่ความเจ็บปวดที่เหลือ กับความภาคภูมิใจของตัวเอง และดิฉันเจ็บปวดต่อไปอีกสองวัน จึงสามารถที่จะรองรับการกระทำของพี่วิช การเป็นผัวเมียของเราผ่านไปอย่างราบรื่น และมีความสุขตามปรารถนา พี่วิชต้องการที่จะร่วมรักกับดิฉันทุกวัน แต่ดิฉันกลับไม่ค่อยจะยินยอมเขาตลอดเวลา

ก่อนที่จะขึ้นเตียงพี่วิชจะเข้ามากอดพะเน้าพะนอดิฉัน ซึ่งตอนแรกยอมรับว่าเกิดอารมณ์คล้อยตามความต้องการเขาแล้ว ครั้นขึ้นไปอยู่บนเตียง ดิฉันหาได้มีแต่เพียงความต้องการเพียงอย่างเดียวไม่ ความเจ็บปวดนั้นยังค้างคาอยู่ในใจ ดิฉันมีความรู้สึกกลัว เขาจะทำเอาแรงๆเช่นวันแรกทุกครั้ง เมื่อเขาสัมผัสร่างกายที่ไม่มีเสื้อผ้าห่อหุ้ม แต่เพราะว่าเราเป็นผัวเมีย เป็นสามีภรรยาก็ต้องมีการกระทำเช่นนี้ ดิฉันจึงค่อยๆปรับตัวเอง และทำความเข้าใจ จนกระทั่งความรู้สึกเจ็บปวดที่คั่งค้างในใจนั้นค่อยลดทอนและหายไป

หนึ่งปีผ่านไป ดิฉันรู้จักความสุขมากๆ จากการกระทำของพี่วิช อยากจะตอบสนองเขา อยากจะทำในสิ่งที่เขาเรียกร้อง แต่ดิฉันทำไม่เป็น! ดิฉันไม่กล้าบอกให้พี่วิชรู้ว่าดิฉันทำไม่เป็น และไม่กล้าที่จะเอ่ยปากให้พี่วิชสอนวิธีการตามที่เขาต้องการ พี่วิชมีความต้องการกับดิฉันคืนละครั้งหรือสองครั้ง และดิฉันเองก็ไม่ได้ต่างไปจากเขาเท่าใดนัก เพียงแต่ดิฉันไม่กล้าแสดงออกไม่กล้าพูดให้เขารู้ เกือบจะหมดปีที่สองของการอยู่ร่วมกัน พี่วิชชอบเอาเรื่องหมอนวดมาพูดให้ฟัง พี่วิชเล่าว่าหมอนวดเป็นผู้หญิงที่เก่ง มีความสามารถแม้กระทั่งอมของผู้ชายได้

ดิฉันรู้ว่าพี่วิชต้องการให้ดิฉันเก่งอย่างหมอนวด แต่พี่วิชไม่น่าจะเอาดิฉันไปเปรียบกับหมอนวด ดิฉันทั้งเจ็บปวดทั้งเสียใจ เขาไม่เกรงใจดิฉันเลย คำพูดต่างๆของเขาทำลายความรู้สึกของดิฉันอย่างรุนแรง เขามีดิฉันเป็นเมีย แต่เขายังไปเที่ยวไปหาหมอนวด ซ้ำยังเอามาเยาะเย้ยดิฉันให้เจ็บใจอีก พี่วิชชอบโอ่อวดตัวเองต่อหน้าคนอื่นเสมอว่า หมอนวดหลายคนหลงใหลเขา ดิฉันเคยได้ยินเพื่อนเตือนเขาว่า
"ระวังหน่อยวี พูดแบบนี้เมียได้ยินหูขาดแน่"
"บุ๋มไม่ทำอะไรผมหรอก" เขาย้อนเพื่อน "เพราะบุ๋มรู้ว่าผมชอบไม่ชอบอะไร เราอยู่กันด้วยความเข้าใจ"

ใช่..เราสองคนอยู่กันด้วยความเข้าใจ แต่เป็นความเข้าใจข้างเดียวของพี่วิช... ในขณะที่ดิฉันไม่เข้าใจและไม่รู้เรื่องเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนของพีวีทุกคนชมว่าดิฉันเป็นหญิงใจพระ เป็นศรีภรรยา ไม่ดุด่าว่าสามีที่หนีไปเที่ยวกับหญิงอื่น แต่ดิฉันอยู่กับพี่วิชด้วยความรักและความอดทนของตัวเอง แต่ยิ่งนานวัน พี่วิชยิ่งก้าวร้าวต่อดิฉัน ทำให้ดิฉันต้องแอบนอนร้องไห้ด้วยความเสียใจ เขาไม่เคยตบตีทำร้ายดิฉัน แต่คำพูดของเขาทำร้ายหัวใจของดิฉันยับเยิน

"ร่อนบ้างซิบุ๋ม รู้จักร่อนบ้างไหม? นอนเป็นท่อนไม้อยู่นั่นแหละ ตั้งสามปีแล้วนะ ยังไม่เป็นอะไรอีก"
ดิฉันไม่รู้ว่าร่อนคืออะไร? จึงเอ่ยปากถาม จึงถูกเขาย้อนกลับมาว่า
"เซ่อ!! แค่ร่อนไม่เป็น อีกหน่อยก็นอนกอดหมอนข้างอยู่คนเดียวที่บ้านนี่แหละ..."



ริจะรักต้องกล้าเจ็บ 4


ความต้องการทางเพศของพี่วิชรุนแรงมากยิ่งขึ้นทุกวัน แล้วคืนหนึ่ง เขาดื่มมามากพอสมควร พอขึ้นเตียงพี่วิชก็ดึงศีรษะดิฉันไปที่แท่งเหล็กของเขา "ดูดให้พี่หน่อยสิบุ๋ม หมอนวดมันดูดให้ไม่มันเลย บุ๋มดูดให้พี่หน่อย ถ้าบุ๋มดูดเก่ง อีกหน่อยพี่จะไม่ไปหาหมอนวด" ดิฉันตะลึง ไม่คิดว่าเค้าจะขอให้ดิฉันทำแบบนี้ "เรื่องอะไร? บุ๋มไม่ใช่หมอนวดนะพี่วิช" "ไม่ใช่หมอนวดก็ต้องรู้จักดูด เดี๋ยวนี้เมียที่ดูดของผัวไม่เป็นน่ะ เป็นม่ายหมดแล้วรู้ไหม? ดูดเร็วๆเข้ากำลังอยาก" "ไม่ดูด ไม่ทำ" ดิฉันเสียงกร้าว เมื่อเขาดูถูกดิฉันขนาดนี้ ดิฉันจึงหมดความเกรงใจและเกรงกลัวพี่วิชทันที

"ผัวใช้ให้ดูดก็ต้องดูด อย่าทำเล่นตัว ถ้าไม่ทำให้พี่ อีกหน่อยพี่ไปมีเมียน้อย อย่ามาบ่นนะ"
"เชิญเลย จะไปกกอีกะหรี่ตัวไหน..ก็เชิญ ไม่ต้องมายุ่งกับบุ๋มอีก"
"ทำเสียงดี เดี๋ยวเลิกเสียเลย บุ๋มเป็นแบบนี้ เลิกกับพี่แล้วหาผัวใหม่ได้หรอก ถึงจะสวย แต่ทำอะไรไม่เป็น ก็ต้องเป็นม่ายไปจนตาย"
"ไม่ต้องมาพูดมาก อยากไปไหนก็เชิญไป... ไป๊..ไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับบุ๋มอีก"
การโต้เถียงรุนแรงขึ้น แล้วพี่วิชก็ถือเอาความร่ำรวย และการเป็นใหญ่ตบหน้าดิฉัน ไล่ดิฉันลงจากเตียง เท่านั้นเองการเป็นผัวเมียของเราก็ขาดจากกัน

"ถ้าอยากมีผัว บุ๋มหาอีกกี่คนก็ได้" ดิฉันพูดปากสั่น น้ำตาคลอ เค้าตบดิฉันจนเจ็บก็จริง แต่หัวใจของดิฉันปวดร้าวกว่านัก
"น่าขำว่ะ อย่างบุ๋มน่ะหรือหาผัวอีกกี่คนก็ได้ อกก็ไม่มี สะโพกก็นิดเดียว ร่อนไม่เป็น ดูดไม่เป็น ผู้ชายที่ไหนจะคว้าแม่ม่ายซื่อบื้อแบบนี้ไปเป็นเมีย มีแต่คนโง่หรือพวกกรรมกรเท่านั้นแหละ ที่หวังรวย อยากล่อสาวสวยลูกผู้ดีบ้าง แต่ไม่นานก็โดนทิ้งเหมือนกัน"
พี่วิชด่าว่าดิฉันด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบอีกมากมาย

วันรุ่งขึ้นดิฉันจึงหอบเสื้อผ้าออกมาจากบ้าน แต่ดิฉันไม่กล้ากลับไปที่บ้านพ่อแม่ เพราะกลัวท่านไม่สบายใจ ดิฉันไม่อยากให้เรื่องของดิฉันทำให้ท่านต้องเสียใจไปด้วย ดิฉันจึงไปขออาศัยกับเพื่อนหญิงที่สนิทกันคนหนึ่ง
"อย่าถามอะไรเลยนะพรรณ ขอบุ๋มพักสองสามคืน พอได้ที่อยู่ใหม่ ก็จะไม่รบกวนอีก"
"ไม่รบกวนอะไรเลยคุณบุ๋ม พรรณอยากให้คุณบุ๋มมาเป็นเพื่อนตลอดไปเสียอีก เรื่องอะไรจะไปง้อมัน ผู้ชายพรรณนั้น"

"พรรณ"เป็นลูกคนใช้ในบ้านของดิฉันค่ะ แต่พ่อกับแม่ของดิฉันเอ็นดู เห็นเป็นเด็กฉลาด หน้าตาดี ขยันขันแข็ง ควรจะมีอนาคตที่ดี จึงช่วยส่งเสียให้เรียนจนจบ เธอจึงย้ายออกมาเช่าบ้านอยู่ตามลำพัง ส่วนพ่อแม่ของเธอก็กลับไปอยู่บ้านที่ต่างจัดหวัด โดยพรรณส่งเงินไปให้ตลอด
เนื่องจากดิฉันกับพรรณโตมาด้วยกัน เราจึงสนิทกันมาก พรรณอ่อนกว่าดิฉันหนึ่งปี เธอยังเป็นสาวที่มีหนุ่มมารุมจีบกันมากมาย ดิฉันเคยถามว่าเมื่อไหร่เธอจะตกลงปลงใจกับคนหนึ่งคนใดเสียที เธอก็บอกว่า
"เรื่องอะไรจะมีให้โง่ อยู่แบบนี้แหละสบายดี อยากได้อะไรก็ได้ ดูซิพรรณยังขาดอะไรอีก"

จริงอย่างที่พรรณคุย ห้องเช่าในอพาร์ทเม้นท์หรูหราแห่งนั้น มีทุกอย่างพร้อมพรั่ง เงินเดือนของพรรณแค่หมื่นเดียวเท่านั้น เธอไม่น่าจะมีเครื่องบำรุงความสุขมากมายขนาดนี้เลย ตอนออกจากบ้าน เธอก็มีเงินที่แม่ดิฉันให้ติดตัวมาไม่มากนัก รูปร่างของพรรณอวบอัดกว่าดิฉัน แต่หน้าตาของเธอเป็นรองดิฉันมาก แต่พรรณก็อยู่คนเดียวอย่างมีความสุข เราสองคนมีนิสัยเหมือนๆกัน คือไม่ชอบซักไซ้เรื่องส่วนตัวของกันและกัน ดังนั้นแม้จะอยู่ร่วมกันเป็นเวลานานกว่าหกเดือน ดิฉันก็ยังไม่รู้ว่าพรรณมีรายได้พิเศษจากอะไร? เพราะเธอเปรยว่าจะหารถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่สักคัน

"พรรณเอาเงินที่ไหนมาซื้อ?" ดิฉันหลุดปากออกไป
"มีแล้วกันน่า มีคนอยากซื้อให้ พรรณก็จะรับไว้ ตอนนี้กำลังตกลงค่าเสียหายกันอยู่ ว่าแต่บุ๋มเถอะ เลิกคิดถึงผัวหรือยัง?" ตอนนี้พรรณไม่ได้เรียกดิฉันว่าคุณบุ๋มแล้ว เพระดิฉันบอกเธอว่าเราเป็นเพื่อนกันอยู่ด้วยกัน อย่าเรียกว่าคุณอีก เราจึงสนิทกันมากขึ้น จนเธอกล้าว่ากล้าสอนดิฉัน
"เลิกคิดถึงผัวแล้ว ก็ควรจะออกเที่ยวมีนัดกับคนอื่น" พรรณพูด "ทำให้ตัวเองมีความสุข ความสบายใจบ้าง ไม่ใช่เก็บตัวแต่ในห้องอย่างนี้ ระยะนี้พรรณก็ไม่ค่อยมีเวลาพาบุ๋มไปไหน"



ริจะรักต้องกล้าเจ็บ 5


คืนหนึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ดิฉันกลับบ้านดึก ไขกุญแจประตูห้องเข้าไป ก็ต้องรีบปิดเพราะในห้องพรรณเพื่อนที่แสนดีกำลังนั่งอยู่บนตักของชายคนหนึ่ง ปากเธอประกบกับปากของเขา แต่มือของพรรณล้วงเข้าไปในเป้ากางเกงของชายคนนั้น... ดิฉันออกไปนั่งดื่มน้ำหวานในห้องอาหารของอพาร์ทเม้นท์เกือบชั่วโมง พรรณจึงเดินออกมาจากลิฟท์พร้อมด้วยชายคนนั้น เธอเดินไปส่งเขาจนถึงรถเก๋งคันโต แล้วจึงย้อนกลับมาในห้องอาหาร "เอาเบียร์ขึ้นไปดื่มในห้องกันสักสองขวดดีกว่าบุ๋ม" ดิฉันหิ้วเบียร์ พรรณหิ้วอาหารเบาๆสองอย่าง พอเข้าห้องเธอก็เอ่ยโดยไม่ต้องถาม

"นายคำรพเขามายื่นข้อเสนอให้บ้านเราหลังหนึ่ง รถเก๋งอีกคัน เงินสดอีกเดือนละสองหมื่น เราคิดว่าตกลง บุ๋มคิดอย่างไร?" พรรณไม่ได้อธิบายมากไปกว่านั้น แต่ดิฉันรู้ทันทีว่านายคำรพต้องการพรรณไปเป็นเมียเก็บหรือนางบำเรอ มันไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะนายคำรพคนนี้แหละที่พรรณแนะนำให้ดิฉันรู้จักในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ขณะนั้นนายคำรพมาพร้อมกับเด็กสาววัยขบเผาะซึ่งสวยกว่าเธอมาก
"แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นล่ะ"
"นายคำรพทิ้งแล้ว เขาต้องการเราคนเดียว สวยอย่างเดียว ทำอะไรไม่ได้หรอก มันต้องมีฝีมือด้วย"
"ฝีมือ??..." ดิฉันคราง ดื่มเบียร์รวดเดียวด้วยความขมขื่น เพราะมันจี้โดนแผลใจของดิฉันที่พี่วิชฝากไว้ พรรณมองดิฉันอย่างสงสาร แล้วเดินไปเปิดเครื่องเล่นดีวีดี
"พรรณรู้แล้วว่าบุ๋มเลิกกับผัวเพราะอะไร? พรรณคิดว่าบุ๋มจะต้องเรียนรู้เรื่องนี้บ้างนะ อีกหน่อยจะมีผู้ชายมาคุกเข่าให้บุ๋มเลือก ขอให้บุ๋มขยันฝึก และกล้าทำก็แล้วกัน พรรณเป็นหมดทุกอย่าง กล้าทำทุกอย่างและทำได้ดีกว่าคนอื่นด้วย"

ดีวีดีแผ่นนั้น คือหนังแสดงการร่วมเพศของผู้หญิงต่างประเทศคนหนึ่งกับผู้ชายสองคน เธอเอาของผู้ชายทั้งสองไปอมดูดทีละคน ผู้หญิงคนนั้นเก่งมาก สามารถอมของผู้ชายที่ยาวเกือบคืบได้หมดอัน ต่อจากนั้นเธอก็นอนให้ผู้ชายคนหนึ่งร่วมรัก ส่วนอีกคนหนึ่งเธอเอาของเขามาดูดไปด้วย พรรณเปิดดีวีดีต่อไปจนกระทั่งจบการแสดงของคนทั้งสองจึงปิด
"บุ๋มต้องทำให้ตัวเองเก่งเหมือนผู้หญิงคนนั้น แล้วผู้ชายจะมาสยบเธอเอง พรรณเรียนจากดีวีดีเรื่องนี้แหละ"

พรรณอยู่กับดิฉันอีกหนึ่งเดือน แล้วเธอก็ย้ายไป แต่เธอย้ำนักย้ำหนาว่าให้ดิฉันกล้าหน้าด้านที่จะทำอะไรให้กับผู้ชาย ดิฉันต้องนอนอยู่คนเดียว ด้วยความเหงาและปวดร้าว ทำไมภรรยาต้องยอมทำให้สามีขนาดนี้ด้วย  ดิฉันคิดว่าการที่ผู้หญิงต้องไปอมของผู้ชายนั้นเป็นเรื่องสกปรก ลามกและเป็นการสูญเสียศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงอย่างรุนแรง ภรรยาควรได้รับความรัก การให้เกียรติจากสามีบ้างในระดับหนึ่งไม่ใช่หรือ? แต่การยอมบำเรอสวาทให้ถึงขนาดนี้ มันเหมือนโสเภณีไม่มีผิด ดิฉันคิดไปร้องไห้ไป โกรธพี่วิชที่คิดเอาแต่ได้ ดิฉันไม่สามารถทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้เลย

ดิฉันไม่ยอมทำตามคำแนะนำของพรรณ แต่พรรณแวะมาหาดิฉันในยามว่างบ่อยๆ เธอพร่ำบอกและกระตุ้นดิฉันด้วยวาจาอยู่เสมอ "มีผัวมาแล้วนะบุ๋ม จะมาอายอะไรอีก สมัยนี้ผู้หญิงเค้าไม่ถือเรื่องแบบนี้กันแล้ว อยู่ด้วยกัน ก็ต้องให้ความสุขกันให้เต็มที่ ชีวิตรักจะได้สมบูรณ์นะบุ๋ม บุ๋มรักคุณวิชใช่ไหม? รักก็ต้องทำให้เขามางอนง้อเรา ต้องเอาชนะเขาให้ได้ ถ้าบุ๋มทำได้ คราวนี้แหละเราก็เล่นตัวเสียให้เข็ด" เธอกระตุ้นจนดิฉันเกิดทิษฐิมานะ ต้องการเอาชนะพี่วิชขึ้นมาจริงๆ
"เดี๋ยวพรรณจะหาเป้ามาให้บุ๋มทดลอง"
"บุ๋มไม่ขายตัวนะพรรณ ยังไงบุ๋มก็ทำไม่ได้"

"พรรณไม่ได้แนะนำให้บุ๋มขายตัว พรรณจะให้แฟนเก่าของพรรณมาฝึกให้บุ๋ม เขาหล่อมากเลยนะ แล้วก็นุ่มนวลใจเย็น รับรองว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับไม่มีใครรู้เด็ดขาด บุ๋มเชื่อพรรณนะ พรรณอยากให้บุ๋มมีความสุข"
เธอพูดอย่างจริงใจ ทำให้ดิฉันไม่อาจปฎิเสธความหวังดีของเธอได้....



ริจะรักต้องกล้าเจ็บ 6


คืนนั้น พรรณมอมเหล้าดิฉันจนกล้าที่จะลอง แล้วเธอก็พาแฟนของเธอมาหาดิฉัน...เขาชื่อ"ต้อม" เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่ง เขายืนเปลือยเปล่าทั้งตัว โดยมีดิฉันคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา อวัยวะของเขาจ่ออยู่ตรงหน้า ดิฉันมองอย่างงงๆ เป็นครั้งแรกที่ดิฉันเห็นมันใกล้ชิดขนาดนี้ มันใหญ่กว่าของพี่วิชมากทีเดียว ดิฉันได้แต่มองอยู่เป็นเวลานาน หน้าดิฉันร้อนผ่าว ความกล้าดูจะเลือนหายไป ดิฉันจะทำได้จริงๆหรือ? ของพี่วิชดิฉันยังรังเกียจที่จะทำเลย แล้วนี่ดิฉันต้องมาทำให้ชายแปลกหน้าหรือ? ดิฉันนั่งอย่างเซ่อซ่าด้วยความสับสน

"ถ้าคุณบุ๋มไม่พร้อม ก็ยังไม่ต้องทำก็ได้ครับ" เขาพูดเสียงนุ่ม ดิฉันเงยหน้ามองเขา เห็นแววตาของเขาแสดงความสงสารหรือสมเพช..ดิฉันไม่แน่ใจนัก แต่มันกระตุ้นให้ดิฉันเกิดความต้องการที่จะเอาชนะขึ้นมา ดิฉันไม่ต้องการโดนใครดูถูกอีกต่อไปแล้ว... ดิฉันเอื้อมมือไปไขว่คว้าอวัยวะประจำตัวของเขามาไว้ในกำมือ ลูบคลำมันก่อน มือของดิฉันสั่นไปเล็กน้อย พยายามตะแคงตัวลงไปจนกระทั่งสามารถที่จะทำอะไรพิเศษๆได้บ้าง ท่าทางของดิฉันคงจะประดักประเดิกน่าดู เขาจึงหัวเราะขึ้นมา

"นี่ถ้าพรรณไม่บอกผมก่อน ผมคงนึกว่าคุณบุ๋มยังไม่ได้แต่งงานแน่ๆ" ดิฉันหน้าแดงด้วยความอายในความไม่ประสีประสาของตัวเอง แม้จะมีกลิ่นคาวปนออกมาบ้าง แต่มันก็มองดูสะอาดจนน่าที่จะอมมันไว้ได้ ดิฉันจึงค่อยๆแลบลิ้นออกมาแตะปลายอวัยวะของต้อม "ดีครับ ค่อยๆเลีย... อย่างนั้น... อืมมม... เอาละ อมเข้าไปได้เลย" แม้จะอาย แต่ดิฉันก็พยายามที่จะกลืนมันเข้าไป ดิฉันอาศัยภาพที่เคยเห็นจากดีวีดี สามารถกลืนของเขาเข้าไปได้ประมาณครึ่งอัน ต้อมพอใจการกระทำของดิฉันมาก เขาให้ดิฉันใช้ลิ้นต่อไปจนความเสียวซ่านไหลขึ้นสมอง ดิฉันแข็งใจกลืนของเขาจนมากกว่าครึ่งอัน ก็เกิดมีอาการจะสำลัก

"พอแล้วครับคนสวยของผม แค่นี้ผมก็สุดซึ้งในน้ำใจของคุณอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แล้ว ผมจะช่วยให้คุณมีความสุข จนกว่าคุณจะพอเพียง โดยไม่ไปไหนตลอดคืนเชียวครับ" ต้อมค่อยๆสอนดิฉันไปทีละนิด เขาสุภาพและนุ่มนวลมาก เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้ระบายความรู้สึกที่เก็บกดอัดหัวใจ เพราะถูกพี่วิชกดขี่มาเป็นเวลานาน เขาปรนเปรอดิฉันเป็นอย่างดี นี่เป็นครั้งแรกด้วยเหมือนกัน ที่ดิฉันถูกผู้ชายจูบไปทั่วทั้งตัว ดิฉันปล่อยใจนอนหลับตาตามสบาย ปล่อยให้เขานวดไปตามต้นขาจนถึงปลายเท้า แล้วเขาก็จูบอมนิ้วเท้าของดิฉัน แล้วไซ้เรื่อยกลับมาช้าๆ ดิฉันรู้สึกสบายและวาบหวิว จนเมื่อเขาใช้จมูกถูไถไปบนเนินเนื้อที่อูมอิ่มดิฉันถึงกับผวา แยกปลายเท้าทั้งสองข้างออกจากัน..

"หอมมากครับคุณบุ๋ม หอมมาก...สวยมาก...อา...ตรงนี้ของคุณบุ๋มสวยกว่าของทุกคน" เขาชมตรงนั้นของดิฉัน จนดิฉันหน้าแดง เสียวซ่านจนตัวอ่อนระทวย เขาจูบดิฉันตรงร่องขา เหมือนดังที่ดิฉันได้เห็นผู้ชายในดีวีดีทำกับผู้หญิง ดิฉันใช้สองมือขยุ้มผมของเขา ระหว่างที่เขาใช้ลิ้นแทรกเข้ามาในร่องลึกของดิฉัน ปลายลิ้นที่ซุกซนตวัดไซ้อย่างช่ำชอง จนดิฉันตัวสั่นระริก ลิ้นของเขาทำให้ดิฉันขนลุกซู่ซ่าไปทั้งตัวจนต้องแอ่นสะโพกเข้าหาริมฝีปากเขาอย่างลืมอาย

"อูยยย ต้อม..ต้อมจ๊ะ...บุ๋ม..เสีย ว ว อาส์" ดิฉันเผลอครางออกมาด้วยความรู้สึกปั่นป่วน ทั้งแอ่นทั้งกดศีรษะเขา ทั้งแยกขากว้างเพื่อให้ลิ้นของเขาสอดเข้ามาได้เต็มที่ "คุณบุ๋มครับ" เขาเงยหน้าขึ้นมา "โคกของคุณบุ๋มหอมน่ากินขนาดนี้ ผมขอลิ้มรสหวานให้เต็มที่นะครับ" โดยที่ไม่รอคำตอบ เขาฝังจมูกลงมาถูไถกับติ่งเนื้อของดิฉัน ปลายลิ้นก็ตวัดขึ้นๆลงไปตามร่องเนื้อ ดิฉันต้องจิกที่นอนเด้งสะโพกขึ้นรับการรุกรานด้วยลิ้นของเขา

"อูยยย เสียว เสียวเหลือเกิน ต้อมจ๋า อูยยยยย บุ๋มใจจะขาดอยู่แล้ว" ดิฉันร้องครวญคาง ถ่างขาอ้าซ่า ร่องหลืบขมิบหลั่งน้ำรักออกมาจนชุ่มโชกไปหมด เขาก็ตวัดลิ้นดูดกลืนอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้ร่องเสียวของดิฉันต้องขมิบตอดยิบๆด้วยความเสียวกระสันอย่างไม่เคยเป็น... ดิฉันไม่คิดเลยว่าการใช้ลิ้นจะทำให้มีอารมณ์มากมายขนาดนี้ ดิฉันพบกับความสุขสมใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนจริงๆ... ทั้งๆที่ดิฉันต่อต้านการกระทำแบบนี้มาตลอด แต่ต้อมทำให้ความคิดของดิฉันเปลี่ยนไป ลิ้นของเขาสอดแทรกไปตรงไหน ก็ทำให้ดิฉันปั่นป่วนแทบขาดใจ ในที่สุด...ดิฉันก็ไปถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรก !!!



ริจะรักต้องกล้าเจ็บ 7


ต้อมเป็นผู้ชายช่างพูดประจบเอาใจเก่งยิ่งนัก และเขาก็มีความสามารถที่จะสอดแทรกอาวุธที่แข็งแกร่ง ไม่ผิดไปจากเหล็กของเขา เข้ามาในร่างกายดิฉันโดยไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่นิดเดียว ระหว่างเดินเครื่องเข้าถ้ำ มือของเขาก็ขยำนมของฉันไปด้วย ดิฉันอดไม่ได้ที่จะโน้มคอเขาเข้ามาประกบปากดูดลิ้นกันให้ซาบซึ้ง ปากที่เปื้อนคราบเมือกและอวลกลิ่นคาวๆ มันกระตุ้นให้อารมณ์เร่าร้อนขึ้นมาได้อย่างประหลาด ดิฉันครวญครางไม่หยุด และเมื่อปรือตามองก็เห็นเขามองหน้าดิฉันตลอด ดิฉันรู้ว่าตัวเองคงหน้าตาเหยเกแบบผู้หญิงในดีวีดีไปแล้ว แต่ไม่สามารถกลั้นอารมณ์เอาไว้ได้ มันทั้งเสียวทั้งอาย เขาเห็นดิฉันแอบดูก็ยิ้มพลางสาวยาวและซอยกระเด้าถี่ขึ้น

ต้อมจับดิฉันพลิกหลายท่ามากกว่าในดีวีดีที่ดิฉันได้ศึกษาเสียอีก ปากเขาก็พร่ำชมแล้วก็สอนดิฉันไปด้วย เขาช่างแข็งแรงและอดทนเหลือเกิน ดิฉันเสียวซ่านจนถึงจุดสุดยอดอีกสองครั้ง แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ เขาปล่อยให้ดิฉันพักอยู่ชั่วครู่แล้วก็บอกว่า "ผมเหนื่อยแล้ว คุณบุ๋มทำให้ผมบ้างนะครับ" "จะให้บุ๋มทำยังไงคะ?" ดิฉันถามอายๆ เขาพลิกร่างลงนอนหงายกลางเตียง "ขึ้นมาคร่อมผมซิ" ดิฉันอุทาน "ทำให้ผมนะครับ...ที่รักของผม" เขาพูดเสียงหวาน ดิฉันไม่อาจปฎิเสธได้เลย พยักหน้าแบบอายๆ "ก็ได้ค่ะ" ดิฉันลุกขึ้นนั่ง เลื่อนตัวขึ้นคร่อมเขาไว้อย่างทุลักทุเล เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันจะขึ้นไปขี่อยู่บนตรงนั้นของผู้ชาย !!!

เขายิ้มอย่างประหลาด "คุณบุ๋มน่ารักจริงๆนะครับ เวลาอายยิ่งน่ารัก ผมโชคดีเหลือเกิน" เขาพึมพำ ดิฉันหลบตา แล้วเขาก็ทำท่อนลำของเขากระดิกไปมาอย่างทะลึ่ง ดิฉันต้องทุบเขาแรงๆ "อยู่นิ่งๆซิ" ดิฉันดุจนเขาหัวเราะออกมา แต่ไม่ยอมหยุดกระดุกกระดิกตรงนั้น ดิฉันจึงจับท่อนลำมันไว้บีบเบาๆ จนเขาร้องออกมา แล้วดิฉันก็พยายามจับลำตั้งมั่นแล้วบรรจงหย่อนบั้นท้ายลง ปล่อยให้ท่อนหัวมันค่อยๆมุดเข้ามาช้าๆ "อูยยยยส เห็นมันเข้าไปในรูคุณบุ๋มแล้ว เสียวจังเลย นั่งลงมาให้มิดเลยครับ" ดิฉันกดตัวลงไปช้าๆ จนในที่สุดมันก็หายเข้ามาจนหมดลำ ดิฉันหวิวสั่นด้วยความรู้สึกประหลาด รู้สึกว่าปากมดลูกมันแตะกับส่วนหัวของมันเข้าให้แล้ว

"เอาเลย แม่โคบาลสาวคนเก่ง ควบให้สุดแรงเลย" เขาท้าทาย ...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร? คำพูดของเขาทำให้ดิฉันชักรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา อาจจะเพราะความรู้สึกที่จะได้เป็นผู้นำเป็นครั้งแรก ถึงเวลาที่ดิฉันจะได้แสดงให้ผู้ชายได้ประจักษ์ในฝีมือแล้ว บุ๋มผู้ไร้เดียงสา..กำลังจะเป็นบุ๋มผู้ช่ำชองในเกมรัก ดิฉันไม่รีรออะไรอีกต่อไป เริ่มเลื่อนตัวขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะปล่อยร่างลงมาจนท่อนเนื้อมุดเข้ามาสุดลำอีกครั้ง.. ดิฉันพาเขาย่างเหยาะเป็นการวอร์มอัพ จนอารมณ์กระสันพุ่งพล่านขึ้นมา คราวนี้ทั้งขย่มทั้งโยกซ้ายโยกขวา พาเขาห้อตะบึงจนเขาสูดปากร้องออกมาไม่เป็นภาษา


ริจะรักต้องกล้าเจ็บ 8


"โอย อูยยย บุ๋มจ๋า เก่งจังเลยที่รัก ผมจะตายอยู่แล้ว อูยยยย" ดิฉันเห็นเขาเสียวซ่านเพียงใด ก็ยิ่งโหมขย่มหนักขึ้นเพียงนั้น "อูยยย ซี๊ดดดด เสียวเหลือเกิน ที่รัก..คุณเก่งเหลือเกิน โอยยยย" เขาร้องครวญครางผสานกับเสียงเนื้อเสียงน้ำเสียดสีดังเฉาะแฉะตามจังหวะการขย่มของดิฉัน ดิฉันยิ้มอย่างเริงร่า เมื่อต้อมแสดงอาการกระสันสุดขีด เขาไขว่คว้าเอาทรวงอกของดิฉันที่กำลังเด้งขึ้นลงตามจังหวะการควบตะบึงไป ขยำอย่างเมามัน แล้วเขาก็ดีดร่างขึ้นมากอดดิฉันไว้ ทำให้เราอยู่ในท่านั่งหันหน้าเข้าหากัน สองมือเขาเลื่อนลงมาเกาะอยู่ที่สะโพกของดิฉัน แล้วรั้งเข้ามาขณะกระแทกท่อนลำเข้าใส่ดิฉันอย่างสุดแรง

ดิฉันไม่ยอมให้เขาทำอยู่ข้างเดียว แต่เด้งโต้อย่างเร่าร้อนเมามัน ชนิดยอมตายไม่ยอมแพ้ แล้วดิฉันก็ต้องสะดุ้งนิดๆเมื่อเขากระแทกครั้งสุดท้ายอย่างสุดแรง ท่อนลำของเขากระแทกปากมดลูก จนรู้สึกสะท้านสะเทือน แล้วเราต่างก็ตัวเกร็งผวาพากันถึงจุดสุดยอด ดิฉันผวากอดรัดเขาแน่น ขณะที่กล้ามเนื้อสั่นระริกรับรู้ถึงความร้อนของกระแสธารที่ไหลเข้ามาในร่างดิฉันอย่างรุนแรง... เขาพาดิฉันมาถึงจุดที่ดิฉันไม่เคยมาก่อน มันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ เขานอนกอดดิฉันขณะที่ดิฉันนอนน้ำตาซึม นึกขอบคุณเขาที่ทำให้ดิฉันได้พบกับเส้นทางแห่งความสุข ที่ดิฉันหลบหนีมาตลอดชีวิต

พรรณแวะมาหาดิฉันในหลายวันถัดมา แล้วล้อดิฉันว่าทำอะไรแฟนเก่าเธอไว้ จนเขาถามหาดิฉันกับเธอทุกวัน ว่าเมื่อไหร่จะยอมให้เขามาอีก "เดี๋ยวนี้เก่งแล้วนะคุณหนูบุ๋มของพรรณ แฟนพรรณยังติดใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ... อะไรจะปานนั้นจ๊ะ" ดิฉันไม่รู้ว่าเขาติดใจดิฉันขนาดไหน จนคืนหนึ่งพรรณโทรศัพท์มาหาแล้วบอกว่าต้อมอยากมาพบและขอเลี้ยงดิฉันสักมื้อ เขาคิดถึงดิฉันมาก จนโทรไปกวนทั้งวันทั้งคืน พรรณบอกว่าไปพบเขาเถอะ เพราะสงสารเขามาก ดิฉันเห็นแก่น้ำใจที่เขามีให้ จึงยอมออกไปพบ แล้วเขาก็อ้อนวอนขอนอนกับดิฉันเป็นครั้งสุดท้าย ดิฉันก็ยอมตกลง

ดิฉันเก่งขึ้นเพราะความกล้าครั้งแรก แต่ดิฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกับใครนอกจากผู้ชายคนนี้คนเดียว การที่เขาหลงดิฉันถึงขนาดนี้ ทำให้ดิฉันมั่นใจในความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ดิฉันได้พบกับพี่วิชในสองอาทิตย์ถัดมา เขามาดักรอดิฉันที่ทำงาน ดิฉันแกล้งถามว่าจะมาขอหย่าใช่ไหม? เขารีบปฎิเสธพร้อมกับชี้แจงว่าเขารักดิฉันคนเดียว พี่วิชอ้อนวอนขอให้กลับบ้านไปกับเขา
"ก็ไหนพี่วิชบอกบุ๋ม ว่าจะไปมีเมียน้อยไง ทำไมไม่ไปอยู่กับเมียน้อยล่ะคะ" ดิฉันย้อน
"โธ่ บุ๋ม พี่พูดไปเพราะอารมณ์น่ะ..บุ๋มยกโทษให้พี่นะ กลับบ้านเรากันเถอะจ้ะ"
เขาพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน แต่ดิฉันเคียดแค้นเขามาก จึงแกล้งบอกเขาว่า
"บุ๋มขายแล้วนะคะพี่วิช... ถ้าพี่วิชอยากให้บุ๋มไปนอนด้วย ก็ต้องจ่ายค่าตัวบุ๋ม"
"พี่จะซื้อ..เท่าไหร่ก็จะซื้อ"
"สองหมื่น" ดิฉันตั้งราคาไปโดยไม่คิดว่าเขาจะตกลง แต่เขากลับตกลงและจ่ายเงินก่อนตามที่ดิฉันเรียก

ดิฉันรับเงินจากมือพี่วิช แทบจะร้องไห้ออกมา เพราะสงสารเขา จะมีสามีที่ไหนโง่ขนาดจ่ายเงินนอนกับภรรยาตัวเองตั้งสองหมื่นเล่า แต่คิดไปๆดิฉันก็สะใจที่ทำให้เขาเข้าใจไปว่ามีภรรยาเป็นโสเภณี ดิฉันไม่สนใจหรอกว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง? เพียงแต่สะใจที่ได้ตอบแทนเขากลับไปบ้างเท่านั้น ก็พี่วิชไม่ใช่หรือที่ตบดิฉัน ไล่ดิฉัน ทำให้ดิฉันต้องนอนร้องไห้เป็นเดือนๆ ที่ดิฉันต้องยอมอดสูไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น ก็เป็นความผิดของเขาคนเดียวอย่างแน่นอนที่สุด



ริจะรักต้องกล้าเจ็บ ตอนจบ


ดิฉันเอาท่อนเนื้อของพี่วิชมาอมจนหมดอัน ทำเอาพี่วิชถึงกับครางเหมือนนกฮูกยามค่ำคืน และแค่เขานอนเฉยๆ ดิฉันก็เสนอเขาด้วยลีลาที่เรียนรู้มาจากประสบการณ์และดีวีดี เมื่อพี่วิชมีความสุข ดิฉันก็แต่งตัวออกจากโรงแรม โดยไม่ฟังเสียงเรียกจากเขา ดิฉันคิดว่าตัวเองพลาดมากที่ทำกับพี่วิชอย่างนั้น เขาจะต้องเอาดิฉันไปดูถูกกับคนอื่น แต่ทำไปแล้ว ดิฉันต้องรอรับสภาพที่เกิดขึ้น จะดิ้นรนหลบหนีไม่ได้ พี่วิชไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย ระยะนั้นดิฉันก็คงไปทำงาน แล้วกลับห้องพักไม่ได้ไปเที่ยวเตร่ที่ไหน รวมทั้งยุติการพบพานกับต้อม ดิฉันเจ็บปวดหัวใจตัวเองลึกๆ ต่อการกระทำที่ไม่สมควรของตัวเอง

สามเดือนผ่านไป เมื่อดิฉันออกมาจากที่ทำงาน ก็เจอพี่วิช เขาจูงมือดิฉันไปที่รถ พาไปกินข้าวแล้วต่อว่าทันที "ทำไมต้องโกหกพี่ว่าขายตัว" "ก็ขายจริงๆนี่ พี่วิชยังจ่ายมาสองหมื่น" "กลับบ้านเถอะบุ๋ม เรื่องที่แล้วมาอภัยให้พี่ด้วย พี่ผิดไปแล้ว" "พี่วิชมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม? บุ๋มจะได้กลับบ้าน" "พี่อยากซื้อบุ๋มไปนอนอีก" "ไม่ขาย วันนี้ไม่อยากขาย พี่บุ๋มไปหาผู้หญิงอื่นตั้งเยอะแยะ" ดิฉันลุกออกจากโต๊ะอาหาร ทิ้งพี่วิชไว้คนเดียว นับจากนั้น เขาก็เพียรพยายามตามตื๊อให้ดิฉันกลับบ้านไปคืนดี ทั้งทางโทรศัพท์และการมาดักที่หน้าที่ทำงาน เขามาตามตื๊อบ่อยๆ ทำให้ดิฉันคิดถึงสมัยที่เขาจีบดิฉันใหม่ๆ ตอนนี้ดิฉันก็เลยชักจะใจอ่อนแล้วเหมือนกันค่ะ