ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

กระบี่เย้ยยุทธจักรภาคแปลงใต้แผงหนังสือ ตอนที่ 3 อดีตแต่หนหลังธิดาเทพ-เค๊กเอี๊ยง

เริ่มโดย wattana2015, มีนาคม 07, 2017, 01:22:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้



อเมซอลลิลลี่

 ::DookDig::  ::Glad:: น่าติดตามมันจะสนุกได้อรรถรสขนาดไหนเป็นกำลังใจให้ท่านผู้แต่ง แต่งผลงานแนวนี้อีกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆน่ะครับ

perbig001

ถึงฉากย้อนอดีตจะได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง​ถึงได้มาเป็นเมียเค๊กเอี๊ยง


jetdo100

เล่งฮู้ชง เวอร์ชั่นนี้ก็จะโดนหมาคาบไปแดกหมดอีกสินะ อิ๊งอิ๊งโดนไปแล้ว ศิษย์น้องจะโดนปาดอีกไหม




sss_1234

อ้างจาก: wattana2015 เมื่อ มีนาคม 07, 2017, 01:22:44 หลังเที่ยงกระบี่เย้ยยุทธจักรภาคแปลงใต้แผงหนังสือ by wattana2015


กระบี่เย้ยยุทธจักรภาคแปลงใต้แผงหนังสือ ตอนที่ 3 อดีตแต่หนหลังธิดาเทพ-เค๊กเอี๊ยง

ความเดิม


    "ท่านพี่เล่งฮู้วันๆท่านเอาแต่แหย่น้องเล็กแบบนี้  เดี๋ยวนางก็หันไปรักคนอื่นๆหรอก พี่ชาย ฮ่าๆ"
"วางใจเถอะน่า ลู่ต้าโหย่วน้องเล็กนางรักข้คนเดียวอยู่แล้ว  ต่อให้มีหนุมรูปแค่ไหนมาจีบสองตานางก็ไม่เหลวแล"

     ระหว่างที่ทั้งสามเดินทางกลับสำนัก  ก็ได้พบกับซือซิ่วคนของสำนักฉิงเฉินที่เข้ามาลวนลามงักเล็กซัง  เล่งฮู้ชงจึงแสดงฝีมือขับไล่พวกมันไปได้ในที่สุด...



     ยิ่นอิ๋งอิ๋งซึ่งถูกฟื้นฟูความจำคืนมานั้น  นิสัยอันโหดเหี้ยมของนางก็พลอยปรากฏออกมาด้วยเป็นเงาตามตัว  เค๊กเอี๊ยงที่เคยเป็นทั้งพ่อและสามีของนางนั้นเสียใจจนสุดที่เขาจะเอ่ยบรรยายเป็นคำที่พร่ำพรรณาได้  เมื่อเด็กผู้หญิงที่เขาเคยเลี้ยงประคบประหงมดูแลอย่างดีมากับมือมาทรมาณเขาอย่างแสนสาหัสโดยมีเฮี๊ยงหมึ่งทีหรือฑูตขวาของพรรคคอยยืนดูอย่างสะใจข้างๆตัวนาง

"ท่านชอบดนตรีนี่นา  บรรเลงเพลงสุดท้ายซะเร็วเข้า หึ ข้าโชคดีกว่าท่านมากนัก ก่อนเพลงกว่างหลิงซ่านจะสูญหายได้ฟังท่านบรรเลงเพลงสุดท้ายจะเป็นไรไป อ้อ...ข้าเกือบลืม  สำหรับท่านแล้วมือทั้งสองนี้สำคํญกว่าชีวิตใช่หรือไม่"
"เฮี้ยงหมึ่งที ต้องเป็นเพราะเจ้าแน่ๆ เจ้าสั่งให้นางทำ"

    เฮี้ยงหมึ่งทียิ้มเยาะอย่างสะใจ

"ข้าเคยบอกกับตัวเองว่าจะล้างความอัปยศที่เคยได้รับและส่งคืนมันให้เจ้ามากกว่าข้านับคืนเป็นสิบๆเท่า"
"ตอนนั้นข้าไว้ชีวิต ไม่ฆ่าเจ้า  เจ้าถือว่าเป็นความอัปยศงั้นรึ"
"ไว้ชีวิต เฮอะๆเจ้าแค่อยากให้ข้ารู้ว่าการมีชีวิตอยู่ต่อมันเป็นความเจ็บปวดที่ยิ่งกว่าการตาย"
"ความคิดคนถ่อย มันย่อมประเมินคนดีต่ำ"
"ใครจะเป็นคนถ่อย  หรือจะเป็นคนดีมันไม่สำคัญหรอก ข้าแค่อยากเห็นเจ้ารู้สึกเจ็บปวดยามเจ้าเห็นพิณเจ็ดสายแล้วบรรเลงไม่ได้เปรียบเหมือนขันทีเวลาเห็นหญิงงาม ได้แต่ทุรนทุรายแต่ทำสิ่งใดไม่ได้เพราะไร้สามารถ"
"ต่ำช้า"

   เค๊กเอี๊ยงพูดได้เพียงเท่านั้นก็ถูกยิ่มอิ๋งอิ๋งซ้อมจนสะบักสะบอม



ยิ่มอิ๋งอิ๋ง



   ตัดกลับมาที่สามพี่น้องเจ้าปัญหากลับมาถึงสำนักหัวซาน  ก็ถูกงักปุ๊กคุ้งผู้เป็นอาจารย์ทำโทษ

"บอกข้ามาสิ ที่แอบลงเขาไปทำงามหน้าอะไรไว้บ้าง" งักปุ๊กคุ้งสอบสวนเอาผิด
"ข้า...ข้าเปล่านะ"
"เปล่าหรือ"

   เล่งฮู้ชงมองหน้าอาจารย์อย่างกลัวๆ

"เปล่า...จริงๆ ซะเมื่อไหร่ แฮะๆ...อาจารย์ท่านนี่เก่งจัง ยังกะมีญาณวิเศษ รู้ว่าข้ามักควบคุมตนเองไม่ได้  ออกจากสำนักไปเป็นมักก่อเรื่องตลอด ฮ่าๆ"
"เพ่ย...เจ้านี่อย่ามัวแต่พูดเพ้อเจ้อ บอกมาให้หมด ไปทำเรื่องเหลวไหลอะไรกันบ้าง"
"เอ่อ..ข้าไม่ควรเล่นการพนัน แล้วก็..."

   งักเล็กซังรีบแทรกเสียก่อน

"ท่านพ่อพี่ใหญ่ ความจริงพี่ใหญ่ต้องการซี้อปิ่นหยกให้ข้าแต่เงินไม่พอ เลยไปเล่นการพนันน่ะค่ะท่านพ้อ ท่านอย่าลงโทษเขาเลยนะ"
"เจ้าพูดต่อไปซิ"
"อ้อ ข้าไปดื่มเหล้าด้วย และเอากระบี่ไปแลกกับเหล้าของขอทานมา ตอนนั้นข้าเปรี้ยวปากจนทนไม่ไหวน่ะครับอาจารย์"

งักเล็กซัง

"แล้วไงอีก ว่ามา"
"เอ๋...เรื่องเหลวไหลหมดแล้วนี่  มีแค่นี้จริงๆ อ้อแต่มีเรื่องประหลาดหลายเรื่องเลย เช่น หมู่บ้านเฉาเกิดโรคระบาดคนตายเพียบ ข้าไปร่วมขุดดินเพื่อหาเงินมา..."
"เรื่องประหลาดช่างหัวมัน ข้าสนใจแต่เรื่องของเจ้า"
"หมดแล้วนี่นา"
"เอานี่ไปอ่านเองก็แล้วกัน"

   งักปุ๊กคุ้งผู้อาจารย์ยื่นจดหมายให้เล่งฮู้ชงรับมาอ่าน ศิษย์น้องทั้งสองจึงรวมหัวเข้ามาอ่านด้วย

"จดหมายจากสำนักชิงเฉินส่งมาให้อาจารย์นี่..."
"อื้อชางไห่ นี่รู้ตัวเหมือนกันแฮะว่าตัวเองสั่งสอนศิษย์ไม่ดี เลยมีจดหมายมาขอโทษท่านพ่อ"
"ยังมีอีก ดูนี่สิพี่ใหญ่ เขาชมว่าฝีมือท่านล้ำเลิศด้วย" ลู่ต้าโหย่วให้ความเห็น
"ไม่หรอก แต่เพราะศิษย์เขาสี่หนุ่มชิงเฉินอะไรนั่นฝีมือกิ๊กก๊อกเอง"

   งักปุ๊กคุ้งได้ยินทั้งสามคุยกันก็โมโหจนหน้าเขียว ตวาดเสียงดังว่าทั้งสามคน

"โง่ทั้งสามคน  แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีก อ่านผิวเผินเหมือนเขาเขียนมาขอโทษ แต่ความจริงแล้วก็คือจงใจเขียนมาฟ้องพวกเจ้าต่างหาก บอกมาเดี๋ยวนี้ เจ้าไปทำอะไรกับคนของสำนักชิงเฉิน"
"พวกเขามาลวนลามน้องเล็ก ข้าเลยต้องสั่งสอนพวกมันให้รู้สำนึกน่ะครับอาจารย์"
"ใช่ค่ะ ท่านพ่อพวกมันสี่คนลวนลามข้า"
"สำนักหัวซานกับชิงเฉินไม่เคยบาดหมาง แม้พวกเขาจะเสียมารยาทก่อนเจ้าก็ไม่ควรทำอวดเก่งไม่เข้าเรื่อง เข้าใจไหม"
"แต่พวกเขาลงมือก่อนนะครับ  พี่เล่งฮู้ช่วยข้ากับน้องเล็ก พวกมันมากกว่า พี่ใหญ่เลยจำเป็นต้องใช้กำลังนะครับ อาจารย์"
 
   งักปุ๊กคุ๊งถอนหายใจ ส่ายหน้าช้าๆ พูดต่อเบาๆ

"ถึงแม้ใช้กำลัง  ก็ไม่ควรด่าถึงอาจารย์เขานี่"
"หา ข้าด่าเขาเมื่อไหร่  ข้าจำได้ว่าไม่เคยพูดถึงอื้อชางไห่อาจารย์ของพวกเขาเลยนี่"
"ท่านพ่อ คงเป็นไอ้สี่ตัว เอ๊ย ไม่ใช่สี่หนุ่มชิงเฉินแพ้พี่ใหญ่แล้วเจ็บใจ เลยกลับใส่ไฟพวกเรากับอื้อชางไห่อาจารย์ของเขาแน่เลย"
"ถ้าอย่างนั้น เจ้าไม่ได้ด่าพวกเขาสักคำเลยหรือ"

เล่งฮู้ชง



ธิดาเทพยิ่มอิ๋งอิ๋ง

   ยิ่มอิ๋งอิ๋งกำลังเดินเล่นอยู่ในตลาด  นางพบว่ามีคนสะกดรอยตามนางอยู่จึงซ้อนกลจนจับตัวผู้สะกดรอยนางได้ ที่แท้คนที่สะกดรอยตามนางนั้นคิอผู้เฒ่าไผ่เขียวนั่นเอง

"ถ้าท่านอาตงฟางจะส่งคนตามข้าเพื่อสีบค้นหาร่องรอยของเค๊กเอี๊ยงจากข้าล่ะก็ ให้เขาส่งคนที่มีฝีมือดีกว่าท่านมาเถอะผู้เฒ่าไผ่เขียว"
"เอ่อ ธิดาเทพท่านเข้าใจผิดแล้ว หมู่นี้พรรคของเรากับพวกห้าขุนเขากระบี่มีเรื่องบาดหมางกันอยู่เรื่อยๆ ร่ำๆจะแตกหักท่านประมุขตงฟางปุป้ายเห็นท่านวันๆเอาแต่ออกข้างนอก เห็นว่าอาจจะมีอันตรายได้ เลยส่งข้ามาคุ้มครองท่านน่ะครับ"
"อ๋องั้นเหรอ ก็ดีไม่รู้ว่าท่านอาตงฟางห่วงข้าด้วย คุ้มครองก็คุ้มครองสิ ให้มันเปิดเผยหน่อย ไม่ใช่ลับๆล่อๆ"
"เอ่อ ครับๆ" ผู้เฒ่าไผ่เขียวจนมุมไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร จึงต้องทำตามที่ตัวสมอ้างด้วยความจ๋อยที่เสียท่าถูกนางย้อนกลจับได้
"เอ้า ยืนเฉยทำไม คุ้มครองเข้าสิ"...


::Hunger::




jojoji