ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ชุ้ง

ลับลวงพราง ตอนที่ 7.2: ชู้รักลับในที่ทำงาน – ซูเหยากับเงามืดของอดีต ตอนจบ

เริ่มโดย ชุ้ง, มีนาคม 20, 2025, 10:42:48 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชุ้ง

ตอนที่ 7.2: ชู้รักลับในที่ทำงาน – ซูเหยากับเงามืดของอดีต

ซูเหยาค่อยๆ เดินไปตามทางที่มืดมิด รู้สึกถึงความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในตัวเธอ แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองได้ ความสงสัยและความเจ็บปวดที่เธอแบกรับมาตลอดปีครึ่ง กลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง แม้กระทั่งการถามคำถามที่เจ็บปวดที่สุด—คำถามเกี่ยวกับชู้ที่สามีของเธอเคยมีในที่ทำงาน.

หลังจากที่ลูกสาวหายตัวไป ซูเหยาได้ค้นพบข้อมูลบางอย่างที่ทำให้เธอเริ่มสงสัยว่ามีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกันระหว่างการหายตัวไปของลูกสาวกับความสัมพันธ์ที่ไม่เปิดเผยระหว่างสามีเธอกับผู้หญิงในที่ทำงาน เธอไม่สามารถมองข้ามความรู้สึกนั้นได้—ความรู้สึกที่บอกว่าอาจจะมีบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเงามืดของการหายตัวไป.

ซูเหยารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นแค่ชู้ธรรมดา แต่เป็นคนที่มีความสำคัญในชีวิตของสามีเธอ แม้จะไม่เคยมีการพูดถึงความสัมพันธ์นั้นอย่างชัดเจน แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเขามีความรู้สึกบางอย่างที่ลึกซึ้งต่อผู้หญิงคนนั้น. และเมื่อซูเหยาเริ่มสืบค้นเรื่องราวของชู้ในที่ทำงาน เธอพบว่า ผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไปเหมือนกับลูกสาวของเธออย่างน่าประหลาด.

คำถามเริ่มสั่นสะเทือนจิตใจของซูเหยา "ชู้ไปไหน? ทำไมถึงหายตัวไปพร้อมกับลูกสาวของฉัน? มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันหรือไม่?"

เธอเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังถูกเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง ซูเหยารู้สึกว่าการหายตัวไปของชู้คนนี้อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ—มันอาจจะมีการวางแผนบางอย่างซ่อนอยู่.

ซูเหยาตัดสินใจหาคำตอบให้กับคำถามนี้ และเธอเลือกที่จะไปที่บริษัทที่สามีเธอทำงานอยู่ โดยหวังว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ที่ไม่เพียงแต่เคยทำงานอยู่ในแผนกเดียวกับสามีเธอ แต่ยังเคยมีบทบาทในชีวิตของเขาอย่างมาก.

เมื่อเธอไปถึงที่ทำงานของสามี เธอก็พบว่าไม่มีใครรู้จักหรือเห็นชู้คนนั้นอีกต่อไป พนักงานในแผนกต่างๆ ต่างบอกว่าเธอได้ลาออกไปเมื่อหลายเดือนก่อน และไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน. ทุกคนดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงคำถามเกี่ยวกับเธอ แม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานของสามีเธอที่เคยสนิทกับเขา ก็ไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้.

ซูเหยาเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ปกติ เมื่อไม่มีใครสามารถบอกเธอได้แม้แต่นิดเดียวเกี่ยวกับการหายตัวไปของชู้คนนั้น เธอกลับมารู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างการหายตัวไปของลูกสาวและผู้หญิงคนนั้นที่หายไปเช่นกัน. ซูเหยาเริ่มสงสัยว่ามันอาจจะไม่ใช่แค่การหายตัวไปทั่วไป แต่เป็นการหายตัวไปที่เกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่างที่เธอยังไม่เข้าใจ.

เธอไม่สามารถปล่อยให้ความสงสัยเหล่านี้ไปได้ง่ายๆ ด้วยความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้นในใจ ซูเหยาเริ่มเดินหน้าตามหาคำตอบที่ซ่อนอยู่ หลังจากพยายามหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง ซูเหยาก็ได้พบร่องรอยหนึ่ง—ผู้หญิงคนนั้นเคยไปพักที่บ้านพักตากอากาศที่อยู่ห่างไกลจากเมือง แต่หลังจากนั้นไม่มีใครเห็นเธออีกเลย.

ซูเหยาจึงตัดสินใจเดินทางไปที่บ้านพักตากอากาศแห่งนั้น หวังว่าจะได้คำตอบที่เธอกำลังตามหา เมื่อไปถึงที่นั่น เธอพบว่ามีร่องรอยบางอย่างที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของชู้คนนั้นที่เคยพักอยู่ที่นี่ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปไหนและทำไมถึงหายตัวไป.

ซูเหยารู้สึกถึงความขมขื่นที่เจือปนกับความโกรธ เธอไม่สามารถปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านี้มาควบคุมชีวิตของเธอได้ แต่การหายตัวไปของชู้คนนี้ทำให้เธอมั่นใจขึ้นว่าอะไรบางอย่างไม่ปกติและมันอาจจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกสาว.

คำถามที่วนเวียนในใจของซูเหยากลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า "ชู้ไปไหน? ทำไมทุกอย่างมันถึงเชื่อมโยงกันเช่นนี้? จะมีอะไรที่ซ่อนอยู่ในเงามืดของเหตุการณ์นี้หรือไม่?"

ซูเหยาตัดสินใจที่จะไม่ยอมแพ้และสู้ต่อไปเพื่อหาความจริง แม้ว่ามันจะต้องเจออุปสรรคมากมาย แต่เธอรู้ว่าเธอจะไม่หยุดจนกว่าจะได้คำตอบที่เธอต้องการ.

ซูเหยายืนอยู่หน้าบ้านพักตากอากาศที่เธอเพิ่งเดินทางมาถึง สายลมเย็นพัดผ่านใบหน้าของเธอ แต่เธอไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวเหน็บนั้นเลย หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความกังวลและความสงสัยที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด ความเงียบสงบของสถานที่แห่งนี้กลับทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอย่างประหลาด

เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ใช้มือผลักประตูที่ดูเหมือนจะถูกทิ้งร้างมานานให้เปิดออก เสียงบานพับที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ภายในบ้านมีฝุ่นเกาะหนาแน่น เฟอร์นิเจอร์ถูกคลุมด้วยผ้าขาวราวกับไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ซูเหยาต้องชะงักคือ แก้วกาแฟที่ยังมีคราบกาแฟแห้งกรังและรอยลิปสติกจางๆ อยู่บนขอบแก้ว

'มีคนอยู่ที่นี่เมื่อไม่นานมานี้...' เธอคิดในใจ

ซูเหยาเดินสำรวจไปรอบๆ จนไปหยุดที่โต๊ะทำงานเก่าตัวหนึ่ง เธอเปิดลิ้นชักออก และสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับกองเอกสารเก่าหลายแผ่นที่ถูกยัดไว้อย่างลวกๆ เธอหยิบมันขึ้นมาดู และพบว่ามันเป็นใบสมัครงานของผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อของเธอคือ 'หลิวเมิ่งฉี'

ซูเหยาจำชื่อนี้ได้ดี นี่คือผู้หญิงที่เป็นชู้กับสามีของเธอ ผู้หญิงที่หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมกับลูกสาวของเธอ

หัวใจของซูเหยาเต้นแรงขึ้น เธอไล่สายตาไปตามเอกสารอย่างรวดเร็ว และพบกับสิ่งที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจ—จดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ

'ฉันต้องไปแล้ว พวกเขารู้แล้วว่าฉันอยู่ที่ไหน ถ้าคุณได้รับจดหมายนี้ แปลว่าฉันอาจจะไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป'

ซูเหยากำจดหมายแน่นในมือ ใครกันคือ 'พวกเขา' และทำไมหลิวเมิ่งฉีถึงต้องหนี? หรือว่าเธอไม่ได้หนี แต่ถูกพาตัวไป?

เธอหายใจเข้าลึกๆ พยายามควบคุมความตื่นตระหนกที่ก่อตัวขึ้นในอก ขณะที่กำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังขึ้นจากข้างหลังของเธอ

ซูเหยาหันขวับไปตามเสียง ทว่าภายในห้องกลับว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น แต่เธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้จินตนาการไปเอง

'มีใครบางคนกำลังจับตาดูฉันอยู่'

เธอเริ่มรู้สึกได้ว่าความจริงที่เธอกำลังตามหา อาจจะอันตรายมากกว่าที่เธอคาดคิด เธอไม่รู้ว่าเธอเข้าใกล้คำตอบมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เธอแน่ใจคือ เธอจะไม่หยุดค้นหาความจริง ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม...

ซูเหยายืนตัวแข็งทื่อ สายตาของเธอไล่ไปทั่วห้องเพื่อหาต้นตอของเสียงฝีเท้าที่ได้ยินเมื่อครู่ แต่ภายในห้องยังคงว่างเปล่า มีเพียงความเงียบที่ปกคลุมอยู่รอบตัว

เธอหายใจเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะหันกลับมามองจดหมายในมืออีกครั้ง คำพูดของหลิวเมิ่งฉีสะท้อนก้องอยู่ในหัวของเธอ 'พวกเขารู้แล้วว่าฉันอยู่ที่ไหน...' พวกเขาที่ว่าคือใครกันแน่? และทำไมเธอถึงต้องหนี?

ซูเหยาไม่รอช้า เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วค้นหาข้อมูลของหลิวเมิ่งฉีอย่างเร่งรีบ ทว่าไม่มีข้อมูลใหม่ ๆ ปรากฏขึ้นเลย นอกจากข่าวเก่าที่ว่าหลิวเมิ่งฉีและลูกสาวของเธอหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อสามปีก่อน

แต่แล้วเสียงสัญญาณแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น มันเป็นอีเมลที่ส่งมาจากบัญชีที่ไม่รู้จัก

'ถ้าคุณต้องการรู้ความจริง มาพบฉันที่โกดังร้างท้ายเมืองคืนนี้'

ซูเหยาใจเต้นแรง เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจไปยังสถานที่นัดหมาย

เมื่อเธอมาถึงโกดังร้าง บรรยากาศเงียบสงัดจนเธอได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง ซูเหยาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปข้างใน ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากเงามืด

"เธอคือซูเหยาใช่ไหม?" เสียงแหบพร่าของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น

ซูเหยาหันไปมอง และพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นคือหลิวเมิ่งฉี เธอดูซูบผอมและอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด "เธอ... ยังมีชีวิตอยู่?" ซูเหยาถามด้วยความตกตะลึง

หลิวเมิ่งฉีพยักหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด "ฉันต้องหลบซ่อนตลอดสามปีที่ผ่านมา เพราะพวกเขาตามล่าฉัน"

"พวกเขาเป็นใคร?"

หลิวเมิ่งฉีสูดหายใจลึกก่อนจะเอ่ย "คนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ก็คือสามีของเธอเอง"

ซูเหยารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลาย สามีของเธอ... เป็นคนที่ทำให้หลิวเมิ่งฉีต้องหลบซ่อนมาตลอดอย่างนั้นหรือ? "เป็นไปไม่ได้..." เธอส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ

"เขาเป็นคนบงการให้ฉันหายตัวไป เพราะฉันรู้ความลับของเขา" หลิวเมิ่งฉีกำมือแน่น "เขาไม่ได้เป็นเพียงนักธุรกิจธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเกี่ยวข้องกับองค์กรผิดกฎหมาย ฉันเผลอไปเจอหลักฐานสำคัญที่สามารถทำลายเขาได้... นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องหนี"

ซูเหยารู้สึกเหมือนลมหายใจของเธอขาดห้วง สามีของเธอไม่ใช่แค่คนทรยศในความรัก แต่ยังเป็นอาชญากรที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกปิดความจริง

"แล้วลูกสาวของเธอ?" ซูเหยาถาม

น้ำตาเอ่อขึ้นที่ดวงตาของหลิวเมิ่งฉี "ฉันซ่อนไว้กับคนที่ไว้ใจได้ เธอปลอดภัยดี"

ซูเหยากำมือแน่น ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น "ฉันจะช่วยเธอเปิดโปงความจริงนี้"

หลิวเมิ่งฉีมองเธอด้วยความประหลาดใจ "เธอแน่ใจเหรอ? นี่อันตรายมาก"

ซูเหยาพยักหน้า "ถ้าฉันไม่ทำ ฉันก็จะไม่มีวันหลุดพ้นจากเงาของเขาเหมือนกัน"

ทั้งสองสบตากันอย่างเข้าใจ และในคืนนั้นเอง การต่อสู้เพื่อความจริงของซูเหยาได้เริ่มต้นขึ้น...




แล้วเรื่องนี้ก่อนที่สองคนนี้เลิกกันนะครับ

1819

ตบๆเกลา ให้เข้ารูป ให้เข้าเรื่อง  ไม่หลวม
แล้ว เผยสาเหตุรายละเอียด  ความเป็นมาและจุดจบ ใหม่ ดีครับ แต่ก็ยังมีส่วน หลวมๆบางๆเยอะ ในเนื้อหา   ถ้า นับจากที่ไรท์บอกว่าืต้อนจบแล้ว   พ่อของลูกซูเหยาที่เป็นชู้ไปไหน   สามีซูเหยา มีชู้เหมือนกันเหรอ   แล้ว หลังจากเลิกกัน  อีตาซุ้้้้ง( นั้นก็คือไรท์)�แต่งเรื่องให้ตัวเองไปเป็นแฟนใหม่พระเอกซะงั้น  เอาฮา หรือจริงจังเนี้ย555 มาในช่วงไทม์ไลน์จบบริบูรณ์เหรอ   คือเนื้อเรื่อง และ ไทม์ไลน์มัน โดด ไปครับ  แต่ แนวเรื่อง ดี  เป็นกำลังใจห้ไรท์ครับ ค่อยๆปรับ ตบๆ เกลาๆ  หรือร่างเนื้อเรื่อง ก่อน  ขออนุญาติ คือไรท์ แต่งสด เลย  ถึง ได้ เอาตัวซุ้งเข้ามาก่อนหน้านี้ มาเป็นพระเอกม้าขาว เข้า มา ทั้ง 2 เรื่อง เลย ลัลลวงพราง และ เธอเป็นของ เขา   
 ปล. หมั่นไส้ิอีตาซุ้้ง  แทรกมาเป็นพระเอกขี่ม้าขาว ทั้ง2เรื่อง 555ิ ิ
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า


swss2511