ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Airflyline

ราคะซ่อนเร้นของผมกับเมีย ตอนที่ 6

เริ่มโดย Airflyline, สิงหาคม 23, 2024, 12:23:46 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Airflyline

ติดตามอ่านเรื่องเต็มได้ที่นี่นะค้า ขอบคุณมากนะคะ

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6ODoiMTA0MDgzNjQiO3M6NzoiYm9va19pZCI7czo2OiIzMDIxMDAiO30

https://pintobook.com/ebooks/66596639b3313af998ca07bf


หรืออ่านเป็นตอน ๆ ได้ที่

https://www.tunwalai.com/story/789347

https://fictionlog.co/b/663b5a52bf41d2001caf8824

https://www.readawrite.com/a/7da316c72b8ad420af236450d5f79f6e

...............................

หลังจบงาน มุกมีอาการปวดขาและหลังจนต้องไปหาหมอ เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออักเสบ อันเป็นผลมาจากการยืน เดิน หรือขยับเขยื้อนร่างกายเยอะเกินไปบนรองเท้าส้นสูงติดต่อกันหลายวัน หมอแนะนำให้เธอพักผ่อนและนอนเยอะ ๆ

"เดี๋ยวจะมีแคสงานพริตตี้อีกนะ" เธอบอก พร้อมกับเปรยว่าได้รับการติดต่อจากหลายเอเจนซี่ด้วย

"พักผ่อนก่อนเถอะ หายดีแล้วค่อยว่ากัน" ผมบอก

แต่หารู้ไม่ว่า งานพริตตี้แบบนี้ถ้าอยู่ในช่วงกอบโกยก็ต้องโหมทำไปเลย หากเว้นวรรคไปแม้เพียงแปปเดียวจะทำให้งานหดหายเพราะวงการพริตตี้แข่งขันกันสูงมาก โดยเฉพาะกับพริตตี้หน้าใหม่อย่างมุก เมื่อเธอปฏิเสธงานแคสติ้งของเอเจนซี่ ทำให้ไม่มีใครอยากจะติดต่อมาหาเธออีก

เวลาผ่านไปราว 3 สัปดาห์หลังจากเสร็จสิ้นงานแสดงรถยนต์ประจำปี มุกไม่มีงานพริตตี้อีกเลยหลังจากเธอปฏิเสธงานช่วงก่อนหน้านี้ไปเพราะต้องการพักผ่อน ซึ่งทำให้เธอเองก็เครียดด้วยที่ผมต้องออกไปหาเงินเข้าบ้านคนเดียว

"มุกคนเดียวพี่เลี้ยงได้" ผมบอกเธออย่างนั้นในช่วงก่อนนอนคืนหนึ่ง

"อืม..." เธองึมงำอะไรก็ไม่รู้

"มีอะไรเหรอ" ผมถาม

"หรือมุกจะลองติดต่อไปหาพี่ ๆ ในนามบัตรดู"

เมียคนสวยเปรยอย่างนั้น ผมมองหน้าเธอเพราะนึกว่าหูฝาด แต่มุกก็พูดเหมือนเดิมว่าจะลองติดต่อไปหาพี่ ๆ ที่เคยให้นามบัตรมา

"พี่ไม่ให้มุกทำงานแบบนั้นหรอก" ผมพูด

"ทำไมล่ะ มันก็ไม่ต่างจากงานพริตตี้หรอกนะ" มุกบอก

"ต่างสิ งานพริตตี้นำเสนอสินค้า แต่งานเด็กเอ็นพวกนั้นต้องนำเสนอตัวเองนะ" ผมเอ่ย มุกหัวเราะ

"มุกไม่เสนอตัวให้ใครที่ไหนหรอก...แค่งานเอ็นเตอร์เทนลูกค้านะคะ" เธอว่าอย่างนั้น

ผมนึกถึงไอ้เฮงขึ้นมาทันใด บทสนนทนาวันนั้นที่ว่าผมมีเด็กจะฝากไปทำงานด้วย มันบอกว่าให้พามาได้เลย เดี๋ยวจัดให้มีรายได้พิเศษ ผมไตร่ตรองครุ่นคิด โชคดีหน่อยที่ไอ้เฮงไม่รู้ว่าเมียผมเป็นใคร หากผมจะฝากมุกไปทำงานจริงก็คงทำได้ เพราะถ้ามันรู้ว่ามุกเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย มันก็คงจะกระอักกระอ่วนเกินไปหน่อย

และผมรู้ด้วยว่าอย่างไอ้เฮง มันพร้อมช่วยเหลือเพื่อนเสมอ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องผู้หญิงด้วยแล้ว มันจะให้ความช่วยเหลือแบบเกินร้อยเลยทีเดียว

"เดี๋ยวพี่จะลองหาถามเพื่อนพี่ก่อนแล้วกัน" ผมเปรยบอกเมีย

ไม่กี่วันต่อมา ผมหยิบนามบัตรไอ้เฮงขึ้นมาดู มันเขียนชื่อจริงกับนามสกุลจริง พร้อมตำแหน่ง "กรรมการผู้จัดการ" ร้านเหล้าไฮโซแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในซอยหรูบนถนนสุขุมวิท ผมลองโทรหามัน ถามไถ่ว่าสุขสบายดี ก่อนจะถามมันว่าวันนี้จะเข้าที่ร้านหรือเปล่า ว่าจะแวะไปหน่อย มันบอกกูอยู่ตั้งแต่หัวค่ำ เข้ามาได้เลยเพื่อน

หลังเลิกงาน ผมเข้าไปที่ร้านมัน ลานจอดรถเต็มไปด้วยรถหรูราคาแพง มีรถซูเปอร์คาร์อิตาเลียนจอดอยู่ด้วย เมื่อเข้าไปภายใน สัมผัสแรกคือบรรยากาศภายในร้านที่ดูไฮโซอย่างมาก แสงไฟมืดสลัว โซฟาหนังบุนุ่มสีน้ำตาลเข้มหลายตัวถูกจัดวางอย่างดีในพื้นที่กว้างขวาง การตกแต่งเน้นความโมเดิร์น

แม้จะเป็นช่วงหัวค่ำ แต่ก็เริ่มมีลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว นักเที่ยวแต่ละคนท่าทางมีสตางค์เต็มกระเป๋ากันทั้งนั้น

"เฮ้ย ว่าไง มานานยังวะ" ไอ้เฮงทัก พร้อมกับเรียกพนักงานเสิร์ฟมาสั่งเครื่องดื่ม

ไม่นานก็มีสาวสวยนำเหล้าราคาแพง พร้อมมิกเซอร์มาวางที่โต๊ะ เธอชงเหล้าอย่างคล่องแคล้ว ยิ้มหวานแล้วยื่นแก้วมาให้ผมถือไว้ ผมเอ่ยขอบคุณครับแล้วคิดถึงมุกขึ้นมา นี่ถ้าเธอมาทำงานที่นี่ก็จะต้องชงเหล้าแบบนี้เหมือนกันใช่มั้ยเนี่ย

ชนหน่อยเว้ย ไอ้เฮงพูด ผมยิ้มพร้อมชนแก้วเหล้า พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย อีกแปปเดียวไอ้เฮงก็ทำไม้ทำมืออะไรไม่รู้ ส่งสัญญาณให้พนักงานเสิร์ฟ แล้วผมก็ได้รู้ว่ามันกำลังทำอะไร เพราะสาวสวย 7-8 คน พาเหรดกันเดินมายืนต่อหน้า ทุกคนหุ่นดี แถมผิวยังขาวดังหยวกจนเกือบแสบตากันเลยทีเดียว น่าจะเป็นสเปกที่ไอ้เฮงกำหนดไว้สำหรับสาว ๆ ที่จะทำงานที่นี่

"สนใจคนไหนบอกกูนะโว้ย...เดี๋ยวเรียกให้" ไอ้เฮงบอก พร้อมยิ้มแบบผู้ร้าย เสียงเพลงแจ๊สดังมาจากลำโพง

"อืม เอาไว้ก่อนก็ได้" ผมพูด "วันนี้มีเรื่องจะมาคุยนิดหน่อย"

ไอ้เฮงพยักหน้ารับแล้วโบกมืออีกรอบ สาว ๆ ก็เดินกลับไป ก่อนจะกระจายตัวไปตามโต๊ะต่าง ๆ คอยดูแลเอ็นเตอร์เทนลูกค้า

"ว่ามาเลย มีอะไรจะคุยวะ" ไอ้เฮงถาม

"เออ ถ้ากูจะฝากเด็กมาทำงาน มึงจะว่าไงวะ" ผมพูด ไอ้เฮงยิ้ม

"ตกลงมีเด็กจริง ๆ เหรอวะ กูนึกว่าพูดเล่น...มึงพามาได้เลย แต่ขอกูดูก่อนนะว่ามีของดีขนาดไหน" ไอ้เฮงพูดแล้วยกเหล้าขึ้นจิบ ผมยิ้มให้มัน ใจเต้นโครมคราม

"มีของดีขนาดไหนแปลว่าอะไรวะ" ผมถาม ไอ้เฮงดวดเหล้าลงคอ

"ก็ไม่ใช่มาเหนียมอาย ลูกค้าจะพูดจะคุยก็ไม่ตามใจ แต่ถ้าใจถึงหน่อย กล้าได้กล้าเสียก็โอเค" มันพูด

ผมยกเหล้าขึ้นจิบด้วย รสชาติของสุราอร่อยตามระดับราคาจริง ๆ แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยมีกะจิตกะใจละเลียดเท่าไหร่

"แต่...คือ...หน้าที่ก็แค่เอ็นเตอร์เทนลูกค้าเฉย ๆ ใช่มั้ยวะ" ผมถาม

"ใช่แล้ว...บอกเด็กมึงเลย ถ้ากล้า ๆ อยากได้ตัง ก็มาเลย"

ไอ้เฮงพูดอย่างคนเชี่ยวชาญ ก่อนจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเช่นการแต่งตัว ถ้าจะมาทำ ขอให้แต่งแบบน้อง ๆ พวกนี้ มันบอกว่านโยบายของที่นี่จะให้เด็กแต่งตัวเหมือนเป็นนักเที่ยว ไม่ใช่เหมือนเด็กนักดริงก์ เพราะจะให้บรรยากาศดีกว่าสมฐานะของลูกค้า มันหันไปหันมาครู่หนึ่ง ก่อนจะกวักมือเรียกเด็กคนหนึ่งมาให้

"นี่น้องน้ำ...ดาวเด่นเลย" ไอ้เฮงพูดก่อนจะลุกขึ้น "น้องน้ำ ดูแลพี่เอกเค้าหน่อยนะจ๊ะ"

น้องน้ำยกมือไหว้อ่อนช้อยแนบบนหน้าอกผม ผมได้กลิ่นน้ำหอมที่น่าจะเป็นแบรนด์ดังลอยมาแตะจมูก วงหน้าน้องน้ำขาวผ่องเป็นยองใย ปากนิดจมูกหน่อย เธออยู่ในชุดเสื้อกล้ามเอวลอย หน้าท้องแบนราบ กางเกงขาสั้นกุด หน้าตาออกไปทางหมวยเอ็กซ์

เธอช่วยผมยกแก้วเหล้า เผลอแวบเดียว นมอวบหยุ่นของเธอมาเบียดสีที่แขนผม หน้าหวานเจี๊ยบซุกมาเกือบถึงซอกคอ ทำเอาผมต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่

"พี่เอกเป็นเพื่อนเฮียเหรอคะ" น้องน้ำถาม เสียงเธอหวานจ๋อยเลยทีเดียว เฮียที่เธอหมายถึงก็คือไอ้เฮงนั่นเอง

"อืม ครับ เพื่อนสมัยมัธยมน่ะครับ" ผมตอบอย่างสุภาพ

น้องน้ำชวนคุยพร้อมกับออเซาะอย่างต่อเนื่อง เธอบอกว่ากำลังเรียนมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เธอคุยเก่งอย่างมีจังหวะจะโคนแบบไม่ให้ลูกค้าเกิดความรำคาญ ผมนั่งคุยกับเธอไปพลางจิบเหล้าผสมโซดาไปด้วย เพลินดีเหมือนกันแฮะ ผมอยากรู้ว่ามุกจะทำแบบนี้ได้หรือเปล่า

แล้วขณะที่ผมกำลังคุยกับเธอเพลิน ๆ น้องน้ำก็ลุกไปไหนไม่รู้ ทำเอาผมอารมณ์ค้างนิดหน่อย ขณะที่ผมกำลังเหลียวมองหาเธอ น้องน้ำก็เหมือนนางไม้โผล่มาจากไหนไม่รู้ กลับมานั่งข้าง ๆ เหมือนเดิม

"เค้าให้หนูไปนั่งกับแขกคนอื่น แต่หนูอยากมานั่งกับพี่เอกมากกว่า" เธอพูดเสียงอ้อน มือวางแปะแถวต้นขา ลูบคลำไปมาจนน้องชายของผมมันเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น

แค่ถูกน้องน้ำอ้อนแค่นั้น ผมก็ใจอ่อนยวบยาบแล้ว ไอ้เรามันก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญกับสถานที่อะไรแบบนี้เสียด้วย ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคนมาเที่ยวร้านแบบนี้ถึงต้องกระเป๋าหนัก เพราะอารมณ์จะพาไปให้ควักเปย์ไม่อั้น แต่คราวนี้ผมโชคดีหน่อยที่ไอ้เฮงให้ลงบิลของมัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือมันเลี้ยงทั้งหมดนั่นเอง

"น้องน้ำเคยถูกแขกชวนออกไปข้างนอกหรือเปล่า" ผมกระซิบถามข้างหู

"เคยสิ ทำไมคะ พี่เอกจะชวนหนูออกไปเหรอ" เธอถาม แววตาเป็นประกาย จริง ๆ ผมแค่จะถามข้อมูลไว้แต่เห็นหน้าเธอแล้วทำเอาอยากชวนออกไปเดี๋ยวนี้เลย

"แล้วแขกชวนออกไปทำอะไรบ้าง" ผมถามอีก น้ำหัวเราะคิก

"พี่เอกอยากพาหนูไปไหนล่ะคะ หนูไปได้หมดแหละ"

เธอตอบอย่างนั้น ปากของเธอกระซิบข้างหูแล้วหอมแก้มผมเบา ๆ ด้วย สารภาพตามตรงว่าอารมณ์หื่นอยากมันลุกโชนขึ้นมาอย่างน่าหวาดหวั่นเสียจริง นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้ใกล้ชิดผู้หญิงอื่น นอกจากมุก เมียสาวคนสวยของผมคนเดียว

อีกแปปเดียว เพลงในร้านก็เปลี่ยนจากแจ๊สอ้อยอิ่งมาเป็นบีทเร็ว เสียงเบสกระทุ้งตุบตุบตุบ น้ำกระซิบบอกว่าเดี๋ยวหนูมานะคะ แล้วเธอก็เดินขึ้นบันไดเล็ก ๆ ขึ้นไปเต้นบนขอบขั้นที่ยกสูงขึ้นมาหลังโซฟา ตอนแรกผมก็งงว่าเขาออกแบบตรงนั้นไว้ทำไม สรุปว่าก็เอาไว้ให้น้อง ๆ เต้นโชว์นั่นเอง

น้องน้ำโชว์ลวดลายพลิ้วไหว เอวของเธอคอดบาง สะโพกอวบ ท่าเต้นของเธอทำให้จินตนาการไปไกลลิบว่าเธอสามารถทำอะไรได้บ้างหากอยู่ตัวของผมบนเตียงนุ่ม ๆ กับแอร์เย็น ๆ สะโพกกลมกลึงนั้นน่าจะทำให้ผมขึ้นสวรรค์ได้สบายเลย

ผมถือโอกาสนี้กลับดีกว่า เอาเป็นว่าผมรู้แล้วว่าบรรยากาศเป็นอย่างไร แต่ไม่รู้ว่ามุกจะโอเคหรือเปล่าที่มาทำงานสถานที่แบบนี้