ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_err

Friend (เพื่อน) ตอน 2

เริ่มโดย err, พฤศจิกายน 10, 2010, 12:55:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

err

อย่างที่เคยบอกไว้ว่าพอได้ขั้นนึง มันก็จะทำให้ก้าวไปหาอีกขั้นนึงตามธรรมชาติ จากความสัมพันธ์ในระดับที่ว่าการกอดจูบเป็นเรื่องธรรมดา ทำให้ผมเริ่มคิดไปไกลกว่าความสัมพันธ์ระดับนี้ เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าทั้งกอดทั้งฟัดอย่างนั้น มันยิ่งทำให้ไอ้ข้างล่างมันอึดอัดเพราะไม่ได้ออกโรงซะที ไหนยังจะเรื่องที่ผมไม่เคยได้เห็นรูปร่างภายในของเธอเลย ได้แต่กอดรัดเค้นคลึงเธอแต่ภายนอก แต่ผมไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรได้มากกว่านั้นเพราะพ่อเธอมารับมาส่งตลอด แล้วในคณะก็อย่าหวังเลยว่าจะทำอะไรได้ แต่โชคมักจะเข้าข้างคนที่มีความมุ่งมั่นเสมอ มีอยู่วันหนึ่ง ตอนเช้าผมโทรมาคณะเพื่อขอลาป่วย ที่คณะถ้าลาป่วยต้องโทรมาบอกนะโดยเฉพาะถ้ามีเรียนวิชาที่เราลงทะเบียนเรียน คนเดียวเพราะต้องแจ้งอาจารย์พิเศษด้วย เขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาเก้อ พอวางหูได้ซักพักก็มีโทรศัพท์เข้ามา ปรากฏว่าน้ำโทรมา เสียงเธอเป็นห่วงจริงๆ ผมก็บอกว่าผมไม่เป็นอะไรมาก แค่ปวดหัวเลยไม่อยากไปเรียน น้ำบอกว่าจะมาเยี่ยมผมที่บ้าน ตอนแรกนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไร ไม่อยากให้เธอมาเพราะบ้านผมมีอยู่หลายครอบครัวในรั้วเดียวกัน ไม่อยากให้บ้านอื่นเอาไปนินทาว่ามีผู้หญิงเดินเข้าเดินออกในบ้าน เดี๋ยวถึงหูพ่อผมจะถูกด่าเปล่าๆ แต่เธอยืนยันว่าเธอจะรีบนั่งแท็กซี่มา ผมไม่รู้จะพูดยังไงก็เลยตามใจเธอ...
สมัยนั้นยังไม่มีมือถือ ผมกะเวลาแล้วออกมารอรับน้ำหน้าบ้าน ซักพักเธอก็ลงจากแท็กซี่เดินมาหาผม พอเห็นน้ำเดินเข้ามา ผมกลืนน้ำลายเลยเพราะดูดีๆแล้ว เธอก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร ตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกว่าเธอดูดีจังเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอารมณ์อย่างอื่นมันพาไปหรือเปล่า ก็พาน้ำเดินเข้าบ้านของผมซึ่งอยู่หลังในของรั้ว เข้าบ้านมาก็รินน้ำให้เธอดื่ม น้ำบอกว่าจริงๆแล้ววันนี้เธอมีเรียน แต่เธอเป็นห่วงผมมากกว่าก็เลยขออาจารย์กลับก่อน นี่ที่บ้านเธอไม่รู้นะว่าน้ำออกมาข้างนอก ไม่ได้อยู่ในคณะ ขืนรู้เธอก็แย่เหมือนกัน น้ำถามว่าไม่สบาย เป็นอะไรมากหรือเปล่า ผมอยากจะบอกเพื่อนๆว่าตั้งแต่เห็นเธอเดินเข้ามาผมก็หายไข้แล้วล่ะ ในหัวมีแต่ความคิดแย่ๆเต็มไปหมด แต่ก็บอกเธอว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ตั้งใจว่าตอนบ่ายจะกลับไปเรียน แต่ถ้าน้ำมาอย่างนี้ผมไม่กลับไปเรียนดีกว่า น้ำก็งงว่าเพราะอะไร ผมบอกว่านั่งคุยอย่างนี้ดีกว่า อยู่ที่คณะไม่ค่อยได้คุยกันเองเลย ผมว่าน้ำคงจะรู้แกวว่าผมคิดอะไรอยู่ เธอนั่งหน้าแดง ค้อน ไม่พูดอะไรอีก ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร นั่งเงียบกันซักพัก ผมก็ตัดสินใจย้ายมานั่งโซฟาตัวเดียวกับเธอ น้ำนั่งเงียบ ผมลังเลนิดนึงก่อนจะจับตัวเธอหันหน้ามาแล้วจูบเธอเบาๆที่หน้าผาก เลื่อนวนเวียนทั่วใบหน้าก่อนจะประกบปากกับเธอ น้ำสะดุ้งนิดนึง พอปลายลิ้นของเราแตะถูกกัน ผมเสียววาบไปทั้งตัว ฉกปลายลิ้นเข้าไปในปากควานหาความหอมหวานจนทั่ว น้ำกอดผมแน่น มือผมลูบไล้หลังเธอเบาๆจนทั่ว แล้วค่อยๆขยับมือมาทางด้านหน้าจนสัมผัสทรวงอกแน่นกระชับทั้งสองข้าง ผมลูบไล้สองเต้าภายนอกเสื้อและบีบเคล้นแต่เพียงแผ่วเบา ถอนริมฝีปากออกจากปากของเธอแล้วเลื่อนลงมาซุกไซ้ปลายคางก่อนจะลงมาวนเวียน บริเวณลำคอ เสียงน้ำถอนหายใจเบาๆ กลิ่นแป้งที่ผมชอบเตะจมูก ผมอยากจะบ้าตาย มือที่เค้นคลึงอยู่บนทรวงอกค่อยๆเริ่มความหนักหน่วงขึ้น ก่อนจะค่อยๆดึงชายเสื้อเธอออกจากกระโปรงและปลดกระดุมเสื้อเธอออกทีละเม็ด ซึ่งมันก็ยังยากเย็นเหมือนเดิม แต่ผมไม่รีบร้อนอะไร มีเวลาเหลือเฟือ จนกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออกจากรังดุม ผมค่อยๆคลี่เสื้อของเธอออกก็ต้องถอนหายใจบ้างเพราะยังเหลือเสื้อทับสี ครีมอยู่อีกชั้น ผมก้มลงไปบนเนินหน้าอกขาวผ่อง ใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสไปทั่ว น้ำโอบศีรษะผม เงยหน้า หลับตาพริ้ม ผมซุกไซ้เนินหน้าอกจนพอใจแล้วจึงค่อยๆดึงเสื้อทับของเธอออกจากศีรษะ เธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อถอดเสื้อทับเธอออกแล้ว จึงเหลือเพียงชั้นในสีครีมอยู่เพียงชิ้นเดียว ถึงตอนนี้ผมต้องตัดสินใจแล้วว่าจะถอดเสื้อผ้าเธอให้หมดที่โซฟาหรือพาเธอไป ที่ห้องนอนดี เพราะเชื่อว่าถ้าถอดเสื้อผ้าออกจนหมดคงได้เอาแน่ๆ เสี่ยงเกินไปที่จะเอาที่โซฟาเพราะในรั้วก็ยังมีคนอื่นอยู่อีก เดี๋ยวมีใครพรวดพราดเข้ามาก็ซวยเท่านั้น คิดแล้วก็เลยกระซิบเบาๆที่ข้างหูน้ำว่าไปที่ห้องผมนะ กลัวเหมือนกันว่าเธอจะปฏิเสธ แต่เห็นเธอหน้าแดง ไม่พูดอะไร ผมถือว่าเธอตกลง ตอนแรกตั้งใจจะอุ้มเข้าไป แต่คำนวณดูแล้วคงจะไม่ไหว จึงเปลี่ยนเป็นดึงมือเธอเข้าไปในห้อง
พอปิดประตูห้อง ผมเปิดแอร์ก่อนจะหันมากอดเธอไว้แน่น เธอซบหน้าอยู่ที่อกผม อยากจะกอดเธอไว้อย่างนี้นานๆ แต่ไอ้นั่นของผมมันบอกว่าต่อได้แล้ว ผมค่อยๆจูบไซ้เธออีกครั้งจนทั่ว เอื้อมมือไปปลดตะขอกระโปรงและรูดลงไปกองที่พื้น ทั้งร่างของเธอมีเพียงซับในสีครีมปกปิดข้างบนและข้างล่าง น้ำยืนนิ่งไม่กระดุกกระดิก คงไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง ผมค่อยๆดึงตัวเธอลงไปนอนบนที่นอน และตามเข้าไปใช้ปากและมือเฟ้นความหอมหวานทั่วร่างของเธอ ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปปลดซับในทั้งสองชิ้นออก ร่างที่เปลือยต่อหน้าผมงามกว่าที่คิดจริงๆ ที่ผ่านมาสมัยเรียนมัธยม ถ้าไม่นับเรื่องการไปเที่ยวซ่องนะ ผมเคยผ่านแต่เด็กพาณิชย์ที่เพื่อนผมแนะนำให้ ซึ่งบอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยชอบหรอกเพราะพวกนั้นมันดูมืออาชีพเกินไป และก็ผ่านมาหลายมือแล้วด้วยกว่าจะมาถึงผม ต่างจากร่างที่นอนอยู่ตรงหน้าผมขณะนี้ สองเต้าที่อยากเห็นมานานชูชันอยู่ต่อหน้า หัวนมเธอค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับขนาดเต้า แต่มันแข็งขึ้นมาจนเห็นเป็นเม็ดอย่างงดงาม ส่วนข้างล่างของเธอ เป็นอย่างที่นึกไว้ เนินเนื้อด้านล่างมีขนสีดำละเอียดปกคลุมบางๆ เห็นสีผิวขาวผ่องอยู่รำไร น้ำหลับตา นอนหน้าแดงเอามือมาบังสองเต้าและเนินเนื้อข้างล่าง สองขาหนีบไว้จนแน่น ผมรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกและลงไปนอนข้างๆเธอ ค่อยๆดึงมือเธอออกจากร่าง ร่างของเธอนุ่มนิ่มไปหมดตามประสาคนกินดีอยู่ดี แต่สองเต้าที่ผมซบหน้าลงไปหากลับแน่นตึงเหมือนติดสปริง ผมเม้มปากกับเม็ดปลายยอดเต้าสลับไปมา น้ำได้แต่ครางในลำคอ นอนบิดไปบิดมา มือของผมที่เค้นคลึงสองเต้าค่อยๆลูบไล้ลงไปด้านล่าง ร่างของน้ำเกร็งเป็นระยะๆ จนเมื่อมือผมสัมผัสเส้นไหมนุ่มมือ น้ำแอ่นก้นกระตุกรับมือผมที่คลึงไปมาอยู่บนเนินเนื้อนั้น ผมค่อยๆไล้ริมฝีปากลงไปช้าๆจนถึงเนินเนื้อที่มีไหมดำคลุมอยู่ แล้วก็แทบคลั่งเพราะน้ำดันใช้แป้งอย่างที่เธอทาตัว มาทาบริเวณเนินเนื้อนั้น ก็บอกแล้วว่าผมแพ้กลิ่นแป้งเด็ก คราวนี้เลยไม่ต้องไปไหน ใบหน้าผมซบวนเวียนอยู่แถวๆเนินเนื้อจนทั่ว ก่อนจะค่อยๆเลื่อนต่ำลงไปอีกจนถึงรอยแยกกลางลำตัว น้ำเด้งเอวขึ้นมาทั้งตัวเมื่อผมใช้ปลายลิ้นตวัดเขี่ยขึ้นลงตามรอยแยกนั้น ผมนึกว่าเธอจะห้าม แต่กลายเป็นว่าเธอกดศีรษะผมลงไปกลางรอยแยกจนผมแทบหายใจไม่ออก ปลายลิ้นผมแทรกเข้าไปในรอยแยก เธอยิ่งดิ้นแรงขึ้นไปอีก หยาดน้ำภายในของเธอเอ่อซึมออกมา ผมแตะปลายลิ้นเข้ากับติ่งเนื้อด้านบนของร่อง คราวนี้เธอดิ้นพล่าน ผมบรรจงสะบัดปลายลิ้นเข้าที่เดิมอย่างรวดเร็ว น้ำร้องครวญคราง แต่ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก ก้มหน้าก้มตาใช้ปลายลิ้นเลียในร่องจนเมื่อยลิ้นไปหมด หยาดน้ำของเธอเอ่อล้นออกมาจนแฉะ ซักพักร่างของเธอแอ่นเกร็งขึ้นมาก่อนจะทิ้งตัวกลับลงไปนอนตามเดิม เธอคงถึงจุดสุดยอดไปแล้ว
ผมเห็นว่าน่าจะถึงเวลาได้แล้ว ก็ลุกขึ้นมานั่งอยู่กลางหว่างขาของเธอ น้ำยังคงหอบหายใจสะอื้นกับรสสัมผัสที่ปลายลิ้นผมมอบให้ ผมค่อยๆจับต้นขาของเธอแยกออกจากกัน ถึงตอนนี้น้ำลืมตาขึ้นมา ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เธอไม่ได้ว่าอะไร พูดเบาๆเพียงแค่ว่าอย่าให้เธอเจ็บนะ ผมเชื่อแล้วว่าเธอคงได้ยินได้ฟังมามาก แต่ไม่เคยได้สัมผัสของจริงมาก่อน พอเห็นว่าจัดที่ทางเรียบร้อยแล้ว ผมค่อยๆจับท่อนเนื้อจ่อร่องรักของเธอและดันเบาๆ น้ำสะดุ้ง ผมพูดเบาๆว่าอย่าเกร็ง ก่อนจะค่อยๆดันท่อนเนื้อเข้าไปในร่องช้าๆ นึกว่าเธอจะแหกปากร้อง แต่เธอกลับหลับตา เม้มปากแน่น ผมยังคงดันท่อนเนื้อเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ขนาดร่างของเธอหลั่งหยาดน้ำออกมาขนาดนั้นมันยังทั้งแน่นทั้งฝืด ผมดันเข้าไปได้ประมาณครึ่งนึงน้ำคงทนไม่ได้ ร้องบอกให้ผมหยุดก่อน ผมเงยหน้ามอง เห็นน้ำตาเธอไหลพราก แต่เธอไม่ร้องให้ได้ยินซักแอะเลย ผมเลยหยุดนิ่งไว้และก้มลงไปใช้ริมฝีปากเม้มหัวนม ปลายลิ้นเกลี่ยเบาๆเพื่อให้เธอเปลี่ยนอารมณ์ ซักพักเธอแอ่นอกให้ผมดูดดื่ม ครางในลำคอเบาๆ คงคลายจากอาการเจ็บแล้ว ผมจึงค่อยๆดันท่อนเนื้อต่อ เธอเกร็งท่อนล่างเป็นระยะๆ ผมกัดฟันดันท่อนเนื้อเข้าไปจนสุด ท้องน้อยของผมกับของเธอแนบสนิทกัน น้ำยังคงนอนน้ำตาท่วมอยู่อย่างนั้น ผมให้เธอพักอยู่ในท่านั้นซักพักก่อนจะเริ่มซอยท่อนเนื้อเข้าออกในร่องรักของ เธอช้าๆ สังเกตดูสีหน้าเธอยังไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่ คงยังเจ็บอยู่ แต่ผมไม่ไหวแล้ว มันอัดอั้นมาตั้งแต่ครั้งที่ได้จูบเธอครั้งแรก พอรู้สึกว่าท่อนเนื้อของผมขยับตัวในร่องของเธอได้คล่องขึ้น ผมก็จัดแจงเร่งความเร็วทันที ร่องรักของน้ำตึงกระชับ ผมเสียวไปหมดทั้งตัว ตั้งใจจะยืดเวลาให้นานๆแต่ท่อนเนื้อมันไม่ยอมเชื่อ กลับเร่งกระแทกเข้าใส่ร่างเธอถี่ยิบ สุดจะกลั้น ผมอัดร่างเข้ากับร่างของเธออีกครั้งก่อนจะประกบร่างติดแน่นกับตัวเธอ ฉีดน้ำรักเข้าใส่ร่องรักเธอ ทั้งเธอและผมกระตุกตามจังหวะที่น้ำรักฉีดเข้าไป น้ำกอดผมแน่น จนเมื่อรู้สึกว่าปลดปล่อยออกไปหมดแล้ว ผมค้างอยู่ในท่านั้นซักพักก่อนจะค่อยๆถอนตัวออกจากร่างของเธอและพลิกตัวล้ม ลงนอนข้างๆน้ำ
เมื่อทุกอย่างเสร็จลงเรียบร้อย น้ำนอนอยู่บนเตียงโดยที่ผมนอนกอดเธออยู่ ที่นอนตรงแถวๆก้นของเราเปียกแฉะไปหมดแต่เราก็นอนทับมันทั้งอย่างนั้น ผมคิดว่าเธอคงจะตีโพยตีพาย แต่เธอกลับนอนนิ่ง ผมค่อนข้างหงุดหงิดตัวเองเพราะเชื่อว่าน้ำคงไม่ถึงจุดสุดยอดแน่ๆ ต่างคนต่างนิ่งซักพักน้ำหันมาถามผมว่านี่คือที่เรียกว่ามีอะไรกันใช่หรือ เปล่า ผมก็ตอบว่าใช่ ผมถามเธอว่าน้ำเคยมีอะไรกับใครหรือเปล่า เธอบอกว่าแค่คิดยังไม่กล้าคิดเลย เพราะที่บ้านเธอไม่เคยปล่อยให้เธอออกไปไหนมาไหนคนเดียว ผมถามว่าทำไมถึงยอมมีอะไรกับผม เธอตอบง่ายๆว่าเธออยากตามใจผมเพราะรู้ว่าผมคงอยากได้อย่างนี้ ผมพูดอะไรไม่ออก...
เพื่อนๆเคยเป็นอย่างผมหรือเปล่า ว่าความรู้สึกผิดมักจะมาช้ากว่าเหตุการณ์เสมอ ผมเป็นอย่างนั้นจริงๆ พอมีอะไรกับเธอแล้ว ผมก็รู้สึกผิด แล้วยิ่งรู้สึกแย่กว่านั้นอีกเพราะลืมใส่ถุงยาง และสมัยนั้นผมก็ยังไม่รู้จักโพสตินอร์ จะไปรู้จักได้ยังไงเพราะที่ผ่านมาผมใช้ถุงยางมาตลอด ชิบหายแล้ว จะท้องหรือเปล่าวะ ตั้งใจว่าจะถามเธอเหมือนกันว่าเมนส์มาช่วงไหน แต่ไม่กล้าถามเพราะถ้ามันอยู่ในช่วงไข่สุก คราวนี้แทนที่ผมจะทุกข์คนเดียว กลายเป็นว่าเธอต้องร่วมทุกข์กับผมด้วย...
ผมนอนนิ่งคิดเรื่องพวกนี้ น้ำไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ คงคิดว่าผมกังวลเรื่องที่มีอะไรกับเธอ เธอหันมาบอกว่าอะไรๆก็ทำไปแล้ว ขอเพียงแค่อย่าทิ้งเธอก็แล้วกัน เธอไม่มีใครผมก็รู้ ผมนอนอึ้งกับคำพูดของเธอเพราะสารภาพว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้รักเธอ เพียงแค่รู้สึกดีกับเธอเท่านั้น เรื่องจะให้เป็นแฟนกับเธออย่างเป็นเรื่องเป็นราวเนี่ย มันยังไม่ได้อยู่ในความคิดผม แต่ตอนนี้เรื่องที่ผมกังวลไม่ใช่เรื่องเป็นแฟนหรือไม่เป็นแฟน แต่เป็นเรื่องท้องหรือไม่ท้องต่างหาก ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ ได้แต่หันไปยิ้มให้และให้เธอนอนซบอยู่บนอกผม หมดอารมณ์จะเบิ้ลแล้วเพราะมีเรื่องกังวลอยู่ในใจอย่างนี้ ผมไม่มีอารมณ์หรอก ผมให้น้ำนอนอยู่อย่างนั้นเพราะคิดว่าเธอคงจะยังเจ็บอยู่ ยังไม่อยากให้เธอกลับคณะในสภาพนั้น จนบ่ายโมง เธอตื่นนอนขึ้นมา เรายังนอนแก้ผ้าอยู่บนเตียง เพียงแต่ผมเอาผ้าห่มมาห่มร่างของเราเพราะแอร์ในห้องค่อนข้างเย็น เธอหน้าตาดีขึ้น ตาหายบวมจากการร้องไห้ไปบ้างแล้ว ผมบอกเธอว่าไม่ต้องกลับไปเรียนแล้วล่ะ อยู่บ้านผมนี่แหล่ะ แล้วเดี๋ยวเย็นๆค่อยกลับคณะ เธอพยักหน้ารับเพราะพ่อเธอจะมารับที่คณะตอนเย็น วันนั้นเราไม่ได้มีอะไรกันอีกเพราะผมไม่มีอารมณ์จริงๆ ก็นั่งคุยนั่งเล่นอยู่ในบ้าน น้ำก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรานั่งคุยอยู่ในบ้านจนเย็นจึงกลับคณะโดยผมแต่งตัวและกลับคณะกับเธอด้วย...
ที่จริงเหตุการณ์ต่อเนื่องยังมีอีกเยอะมากๆ สรุปว่าเธอไม่ท้องเพราะสามสี่วันผมก็คอยถามเธอว่าเมนส์มาหรือยัง จนเธอบอกว่ามาแล้ว ผมถึงโล่งใจ ในระหว่างนั้นผมไม่ได้มีอะไรกับเธอเลยเพราะต้องลุ้นว่าท้องหรือไม่ท้อง น้ำกลับมาคณะก็ไม่ได้แสดงอาการว่ามีอะไรกับผมแล้ว เพียงแต่แสดงความเป็นเจ้าของมากกว่าเดิม หลังจากที่มั่นใจว่าเธอไม่ท้องแน่ๆแล้ว จากนั้นไม่กี่วันผมก็มีอะไรกับเธออีก โดยชวนเธอกลับมาบ้านผม ไม่กล้าเข้าโรงแรมหรอกนะครับ เพราะเป็นชุดนักศึกษาแล้วผมก็ไม่มีรถด้วย มันเสี่ยงเกินไป และผมใช้ถุงยางมาตลอด เธอก็เริ่มคุ้นเคยกับเรื่องบนเตียงมากขึ้น แต่ต่อหน้าคนอื่น เราไม่เคยแสดงอาการอะไรที่บ่งบอกว่าเรามีอะไรกันแล้วเลย แต่วันนึงเราก็ต้องเลิกกัน...
ที่จริงมันไม่ใช่เรื่องพิสดารหรือเรื่องตื่นเต้นอะไรเลย ใครๆก็มีประสบการณ์อย่างนี้ทั้งนั้น เพียงแต่จะเอามาเล่าให้คนอื่นฟังหรือเปล่า เอาไว้คราวหน้าจะเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึงเลิกกับเธอ แต่บอกก่อนว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผมมีเรื่องพวกนี้บ่อยมากๆ เปลี่ยนคนไปตลอด และอยากบอกว่าน้ำมีตัวตนจริงๆนะครับ พอจบปริญญาตรี เธอไปเรียนต่อที่อังกฤษ ตอนนี้กลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย(ไม่บอกชื่อนะครับ) และถ้าผมได้ยินมาไม่ผิด ตอนนี้รู้สึกว่าเธอจะได้รศ.หรือผศ.แล้วด้วย
ไว้โอกาสหน้าจะเล่าต่อนะครับ...

pinmonkey


manunited68


forxonly8

สมัยนี้ต้องเรียกว่า FWB สินะ ::Bloody::