ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

คุณหนูแพรวพรรณ (ฉบับบนดินของแหวกกลีบสาวน้องแพรวคนสวย)

เริ่มโดย nato87, มกราคม 27, 2020, 02:10:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : ก่อนอื่นขอประชาสัมพันธ์สักนิด ว่าผมได้เปิดแอคเคาน์ทั้งในส่วนของเว็บ Fictionlog และ Tunwalai แล้ว จากลิงค์ด้านล่างนะครับ

http://www.tunwalai.com/profile/3374124/nato87?page=1

https://fictionlog.co/u/Nato87

ฉบับอีบุ๊ค

https://publisher.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=nato87&exact_keyword=1&page_no=1

ตอนนี้ผมงานที่ผมเอาลงในสองเว็บก็คือ 1.ภารโรงเฟี้ยวฯ (ยังไม่จบ) 2.ติดเกาะร้าง (จบแล้ว) 3.ปวีณา..ฉันรักเธอ (จบแล้ว) 4.คุณหนูแพรวพรรณ (ยังไม่จบ) ใครที่อยากอ่านเรื่องสาวแอมป์กับลุงชัยไตก๋งเรือ, ลุงจอมสุภาพบุรุษทนายความกับน้องปลา ฯลฯ ก็สามารถเข้าไปติดตามได้ในลิงค์ของผมที่ผมแปะไว้

ส่วนเรื่องเกมรักฯ บันทึกรัก และเรื่องเรียกข้าว่าไอ้พล (เกมรักภารซีโร่) ผมแต่งฟรี ๆ ให้ได้อ่านกันฟรี ๆ เหมือนเดิม



ทีนี้ เราจะมาพูดคุยกันเรื่องถึงเรื่อง คุณหนูแพรวพรรณ ซึ่งเป็นฉบับบนดินของ "แหวกกลีบสาวน้องแพรวคนสวย" ที่ผมได้เปลี่ยนแปลงช่วงเวลาต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เป็นประเด็น โดยเฉพาะเรื่องอายุของน้องแพรว (ฉบับใต้ดิน น้องแพรว 16, บนดิน 18 ย่าง 19) โดยฉบับบนดินจะมีการเพิ่มเรื่องราวของครอบครัวจารุศิริการกุลมากขึ้น คุณจะได้เห็นแง่มุมต่าง ๆ ของคนในครอบครัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นท่านวิทยา คุณหญิงพนิดา หมอพลอย และน้องแพรว รวมถึงลุงเกริก ว่าพวกเขาใช้ชีวิตกันยังไง

ฉากอีโรติกทั้งหลาย ทำใจก่อนนะครับว่ามันอาจจะดรอป ๆ ลงจากเวอร์ชั่นใต้ดินที่คุณเคยอ่าน แต่ก็มีข้อดีอย่างอื่นที่เพิ่มเข้ามาก็คือ จะมีฉากอีโรติกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะฉากที่บางแสน ซึ่งเป็นฉากที่คุณหนูแพรวและตาเกริกได้พรอดรักกันก่อนที่คุณหนูแพรวจะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษนั่นเอง

โดยในฉบับบนดิน จะมีความยาวทั้งหมด 10 ตอน + 1 ตอนพิเศษ โดยตอนนี้ปั่นเสร็จไปแล้ว 6 ตอนครับ


##########################

แนะตำตัวละครสำคัญใน "คุณหนูแพรวพรรณ"


แพรวพรรณ จารุศิริการกุล



เธอคือน้องสาวคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุล กำลังเรียนอยู่ในคณะบริหารธุรกิจในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ อุปนิสัยของเธอออกแนวเป็นคุณหนูที่ร่าเริงสดใส แตกต่างจากพลอยพรรณพี่สาวที่ดูเย็นชา เข้าถึงยาก และเป็นผู้ใหญ่มากกว่า แพรวพรรณเป็นเด็กสาวที่มีนิสัยสดใสร่าเริง มีงานอดิเรกคือการเล่นไวโอลีน เธอต้องทนกับชีวิตที่แสนกดดันจากความคาดหวังของพ่อและแม่ในฐานะหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของบ้านจารุศิริการกุล

เกริกฤทธิ์ สวนดอกไม้




คนสวนประจำบ้านเป็นคนเก่าคนแก่ที่รับใช้ตระกูลจารุศิริการกุลมานาน เรียกได้ว่าตาเกริกนั้นโตมาพร้อม ๆ กับท่านวิทยาเลยก็ว่าได้ หลังจากเมียรักของแกตาย สายตาที่เคยมองคุณหนูแพรวพรรณด้วยความเมตตาก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เมื่อคุณหนูเติบโตเป็นสาว จนทำให้คนสวนนึกอยากเด็ดกลีบดอกไม้ลงมาดอมดมสักครา ก่อนชีวิตนี้จะดับสิ้นลงตามอายุขัย

วิทยา จารุศิริการกุล



ท่านวิทยา จารุศิริการกุล เป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคบูรพารักษาแผ่นดิน เป็นนักการเมืองผู้กว้างขวางในจังหวัดชลบุรีและมีอิทธิพลสูงในทั้งด้านสว่างและด้านมืด อุปนิสัยเป็นคนที่จริงจังและเด็ดขาด จนบางครั้งเหมือนไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของลูกสาวทั้งสองคนอย่างพลอยพรรณและแพรวพรรณ ทั้งที่ความจริงแล้ว ท่านวิทยารักลูกสาวทั้งสองมาก แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้มากนัก เพราะเรื่องของงานและหน้าที่

พนิดา จารุศิริการกุล



คุณหญิงพนิดา เป็นนักการเมืองและนักธุรกิจผู้กว้างขวางอีกคนในจังหวัดชลบุรี เธอคือแม่ของแพรวพรรณและพลอยพรรณ สมัยอดีตเธอเคยเป็นดาวคณะมหาวิทยาลัย และเคยเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินชื่อดัง ก่อนมาพบรักกับท่านวิทยานักการเมืองหนุ่มไฟแรงและได้แต่งงานกันจนมีทายาทด้วยกันสองคนคือ พลอยพรรณและแพรวพรรณ เธอเป็นผู้หญิงที่อบอุ่นและอ่อนโยน เป็นภรรยาที่ดีที่คอยสนับสนุนสามี และเป็นแม่ที่ดีของลูก ๆ แม้เธอจะไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูก ๆ เช่นเดียวกับสามีก็ตาม

พลอยพรรณ จารุศิริการกุล




แพทย์หญิงพลอยพรรณ จารุศิริการกุล คุณหมอคนสวยประจำวิทยาลัยพยาบาล เจ้าของสมญานาม 'เจ้าหญิงน้ำแข็ง' เธอมีดีกรีจบปริญญาโทด้านแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยรูปร่างหน้าตาที่งดงาม เธอเป็นสาวสูงศักดิ์ในแวดวงชั้นสูง ออกแนวลูกคุณหนูไฮโซ เป็นสาวสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยยึดติดกับจารีตประเพณีอะไรนัก ภายนอกดูเหมือนหมอพลอยเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบแสดงอารมณ์ออกมาเท่าไรนัก แต่ความจริงแล้วเธอคือผู้หญิง ที่แอบซ่อนความหวั่นไหวอยู่ภายใน เป็นคนที่รักครอบครัวและรักชื่อเสียงเกียรติยศของวงศ์ตระกูลมาก มีผู้ชายมากมายหมายปองเธอ แต่เธอกลับไม่ตกลงปลงใจกับใคร แม้กระทั่งกรวิทย์ หนุ่มรุ่นพี่ที่แอบหลงรักเธอมานานนับสิบปีก็ตาม



######################

ตอนที่ 1 : คุณหนูแพรวพรรณ

วิทยา จารุศิริการกุล คือนักการเมืองของพรรคการเมืองใหญ่ของประเทศ ที่มีฐานเสียงอยู่ที่ภาคตะวันออก โดยมีศูนย์กลางที่จังหวัดชลบุรี กล่าวได้ว่าตระกูลจารุศิริการกุล คือหนึ่งในตระกูลใหญ่และมีชื่อเสียงของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ท่านวิทยาเป็นนักการเมืองที่มีผลงานโดดเด่น เป็นคนสำคัญของพรรคการเมืองใหญ่พรรคบูรพารักษาแผ่นดิน ที่มักเป็นตัวแปรในการตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้งทุกครั้ง

สำหรับชีวิตส่วนตัว ท่านวิทยาสมรสกับ คุณหญิงพนิดา จารุศิริการกุล ไฮโซสาว นักการเมืองและนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงของภาคตะวันออก โดยทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันสองคนคือ พลอยพรรณ และ แพรวพรรณ จารุศิริการกุล ที่กล่าวได้ว่าเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของท่านวิทยาและคุณพนิดาเลยทีเดียว

น้องพลอย เกิดก่อนน้องแพรว 10 ปี แม้จะมีวัยห่างกันพอสมควร แต่สองสาวน้อยแห่งบ้านจารุศิริการกุลต่างรักใคร่กลมเกลียวกัน จนถึงเวลาที่พี่พลอยของเธอต้องย้ายไปเรียนในโรงเรียนมัธยมที่กรุงเทพ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนในชั้นอุดมศึกษาต่อไป โดยพลอยพรรณตั้งใจว่าในอนาคตข้างหน้าเธออยากจะเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอื่น และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ เป็นความคาดหวังจากท่านวิทยาและคุณหญิงพนิดาอีกด้วย


หลังจากที่พี่พลอยไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ชีวิตของน้องแพรวก็มีแต่ความน่าเบื่อ แม้จะเป็นเด็ก แต่คุณพ่อและคุณแม่ก็ไม่ได้เอาใจเธอมากนัก เหตุเพราะทั้งคู่ต้องการให้ลูก ๆ ของบ้านจารุศิริการกุลเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีเกียรติและมีอาชีพการงานที่ดี

"น่าเบื่อที่สุด!!!"เด็กน้อยแพรวพรรณบ่นกับตัวเอง ในระหว่างคาบเรียนพิเศษที่บ้าน มันเป็นวันที่น่าเบื่อไม่น้อยเลยสำหรับแพรวพรรณ ที่ต้องแยกจากพี่สาวของเธอ แม้จะเป็นการจากด้วยเหตุผลเรื่องการเรียนก็ตาม แต่แพรวพรรณคนน้องก็มักถูกคาดหวังจากท่านวิทยาเสมอว่าจะสามารถมีผลการเรียนที่ดีได้เหมือนพี่สาวของเธอ แพรวพรรณในตอนนั้นพึ่งจะเรียนชั้น ป.1 ได้ไม่นาน แต่กลับต้องมานั่งเรียนพิเศษในช่วงวันเสาร์อาทิตย์เพื่อเตรียมวางพื้นฐานในการเรียนระดับที่สูงขึ้นไปอีก

"โอ้ยย!!!!! นี่หนูต้องอ่านหนังสือเลข ป.3 อีกนานไหมคะ!!!" เด็กน้อยปิดหนังสือประท้วงอาจารย์สอนพิเศษที่ท่านวิทยาจ้างมาสอนถึงบ้าน "หนูอยากวิ่งเล่นแบบเด็กคนอื่นบ้าง!!!"

แพรวพรรณหันไปทาง น้องกิ่งและพี่แก้ว เด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเธอที่วิ่งเล่นในสนามหญ้านอกบ้าน ในขณะที่ตัวเธอต้องมานั่งติวหนังสือแทนที่จะได้ไปวิ่งเล่นกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่เป็นลูกของตาเกริก เกริกฤทธิ์ คนสวนประจำบ้านกับป้าจวงที่เป็นคนรับใช้ ทั้งคู่รับใช้บ้านจารุศิริการกุลมาตั้งแต่สมัยยังหนุ่มยังสาว โดยพ่อของท่านวิทยาได้ฝากฝังให้ท่านวิทยาในตอนนั้นปกครองและดูแลคนใช้และลูกน้องบริวารภายในบ้านให้ดี เพื่อให้คนเหล่านี้ช่วยดูแลและเป็นหูเป็นตาให้

"ไม่ได้นะคะน้องแพรว!!! น้องแพรวต้องตั้งใจเรียนนะคะ ไม่งั้นครูจะฟ้องคุณพ่อให้ลงโทษน้องแพรวนะ!!" อาจารย์สาวใหญ่ใส่แว่นหนาเตอะคนนั้นขู่ ก่อนหน้านั้นท่านวิทยาก็ได้มาสั่งกำชับให้อาจารย์สามารถดุและตักเตือนน้องแพรวได้ หากน้องแพรวไม่เชื่อฟัง ซึ่งมันก็ได้ผลดีทีเดียว เมื่อน้องแพรวก้มหน้าก้มตาทำแบบฝึกหัดที่ได้รับมอบหมายต่อไป

สำหรับน้องแพรวแล้ว มันเป็นวันที่น่าเบื่อหน่าย เพราะวันเสาร์และอาทิตย์ แทนที่เธอจะได้วิ่งเล่นเหมือนลูกหลานของคนสวนและคนใช้ภายในบ้าน แต่เธอกลับต้องมานั่งเรียนพิเศษตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยง แล้วก็เรียนต่ออีกทีบ่ายโมงจนถึงบ่ายสามโมง ส่วนเวลาที่เหลือเธอก็ได้พักผ่อน ตารางเรียนพิเศษของเธอเป็นแบบนี้ทุกเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ก็พิเศษตรงช่วงบ่าย ก็จะมีครูสอนดนตรีไวโอลีนมาที่บ้าน เพื่อสอนน้องแพรวเล่นดนตรี

มันเป็นกิจกรรมที่น้องแพรวชอบมากที่สุด เธอเล่นไวโอลีนได้อย่างคล่องแคล่ว พออาจารย์สอนดนตรีกลับไป สาวน้อยแห่งบ้านจารุศิริการกุลก็มักหยิบไวโอลินไปสีเล่นริมระเบียงบ้านชั้นสองอย่างมีความสุข

แพรวพรรณบรรเลงบทเพลงคลาสสิคที่คุณครูสอนพิเศษบนระเบียงชั้นสอง ระหว่างที่เล่น ลูกหลานของคนใช้ภายในบ้านก็วิ่งออกมาจากบ้านพักคนใช้ของตระกูลจารุศิริการกุล

"คุณหนูแพรว เรียนพิเศษเสร็จแล้ว มาเล่นกับพวกเราเถอะ!!" น้องกิ่งและพี่แก้ว โบกมือเรียกแพรวพรรณที่ยืนเล่นไวโอลีนตรงชั้นสองให้มาวิ่งเล่นด้วยกัน พอแพรวพรรณเห็นน้องกิ่งและพี่แก้วก็ยิ้มร่า ก่อนเดินกลับเข้าห้องเอาไวโอลินไปเก็บและลงมาชั้นล่างเพื่อวิ่งเล่นกับน้องกิ่งและพี่แก้ว

"รอด้วย น้องกิ่ง พี่แก้ว!!!" คุณหนูแพรวยิ้มร่า ขณะกำลังวิ่งเล่นกับสองสาวร่วมรุ่นอย่างมีความสุข แม้จะต่างชั้นวรรณะ เป็นลูกเจ้านายและลูกคนสวน แต่ความใส่ซื่อของเด็ก ที่เพียงแค่ต้องการหาเพื่อนวิ่งเล่นสนุก จึงไม่ได้ทำให้คุณหนูแพรวพรรณรู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยแม้แต่น้อย


"คุณหนูแพรว เดี๋ยวตานี้คุณหนูแพรวเป็นฝ่ายไล่วิ้งพวกเราบ้างนะ!!"     "ก็ได้!!!" แพรวพรรณพยักหน้า ก่อนวิ่งไล่ตามพี่กิ่งและพี่แก้วบนสนามหญ้า จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝังขึ้น

"โอ้ย!!!" น้องแพรวเผลอวิ่งหกล้มตรงสนามหญ้าริมถนนทางเข้าบ้าน เป็นจังหวะพอดีที่รถยนต์ของท่านวิทยากำลังแล่นเข้ามาภายในบ้าน พอเห็นว่าลูกสาวคนเล็กหกล้ม ท่านวิทยาก็รีบเปิดประตูออกมาเพื่อตรวจดูอาการของน้องแพรว

"น้องแพรว!!! นี่มันอะไรกัน!!!" ท่านวิทยาในชุดสูทผูกเน็คไทรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งเข้ามาดูอาการลูกสาวคนเล็ก "เป็นอะไรมากไหมน้องแพรว?"

"ฮือ...คุณพ่อ...หนูเจ็บ...." น้องแพรวปล่อยโฮออกมา "ฮือ...แง!!!!"

"ตายแล้ว...เจ็บมากไหมลูก?" ท่านวิทยาเห็นหัวเข่าของน้องแพรวถลอกจนมีเลือดซึมออกมา "นี่!!!! ที่หลังอย่ามาชวนน้องแพรวเล่นแบบนี้อีกนะ!!ไป!!!"

"มันเกิดอะไรขึ้นครับคุณวิทยา?" ตาเกริก คนสวนประจำบ้านที่พึ่งเสร็จธุระจากการตัดหญ้าด้านหลังบ้านจารุศิริการกุล ทิ้งเครื่องตัดหญ้ากองบนพื้นแล้วรีบวิ่งมาดูอาการของคุณหนูแพรวพรรณ "มันเกิดอะไรขึ้นครับคุณวิทยา?"

"ถามลูกสาวแกซิไอ้เกริก!!! ทั้งคู่เลย!!!" วิทยามองน้องกิ่งและน้องแก้วด้วยความโกรธ

"ไปแกล้งน้องทำไม ห๊า!!!" ตาเกริกเอ็ดลูกสาวทั้งสองที่ยืนนิ่งด้วยความตกใจ

"หนูเปล่านะพ่อ..." น้องกิ่งและน้องแก้วปฏิเสธ "คุณแพรวเค้าวิ่งล้มเอง..."

"เพี้ยะ!!!" เสียงตบตูดสองสาวดังขึ้นจากผู้เป็นพ่อ เพื่อเป็นการลงโทษที่ทำให้คุณหนูคนเล็กของบ้านต้องเจ็บตัว

"ไม่ต้องมาโกหก!!!" ตาเกริกทำเสียงดุ "ไปแกล้งคุณแพรวทำไม!!!"

"ลุงเกริก...อย่าตีน้องกิ่ง...อย่าตีพี่แก้ว....หนูล้มเอง....ฮือ..." น้องแพรวรีบห้ามตาเกริกคนสวนประจำบ้าน แม้จะยังร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ "หนูผิดเอง"

"เอาละ พอแล้วตาเกริก แล้วก็แล้วกันไป พาลูกแกทั้งสองคนกลับไปก่อน เดี๋ยวชั้นจะพาน้องแพรวไปหาหมอ"

"กลับห้องไปเลยนะ ไป!!! ที่หลังอย่าชวนคุณหนูเล่นอะไรแบบนี้นะ!!" ตาเกริกจูงมือลูกสาวทั้งสองคนกลับไปที่ห้อง โดยไม่ลืมหยิบเครื่องตัดหญ้าไปด้วย "ที่หลังอย่าทำแบบนี้อีกนะทั้งคู่เลย คุณแพรวเค้าเป็นลูกสาวเจ้านายเรา จะไปเล่นกับคุณแพรวแบบนั้นไม่ได้...เราต้องเจียมตัวเอาไว้"

นั่นคือสิ่งที่น้องแพรวได้ยิน ก่อนถูกคุณพ่อวิทยาพากลับไปนั่งรถ แล้วสั่งให้คนขับรถเลี้ยวกลับออกไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อทำความสะอาดแผลถลกที่หัวเข่าของลูกสาว ทั้งหมดก็เพราะความเป็นพ่อ ที่ไม่อยากเห็นลูกเจ็บตัว

"ไม่เป็นไรแล้วนะคนดีของพ่อ"ท่านวิทยาอุ้มลูกสาวขึ้นมานั่งบนตักแล้วลูบหลัง "เดี๋ยวพ่อพาไปหาหมอแล้วนะ ยังเจ็บอยู่ไหม?"

"เจ็บ...ฮือ...หนูเจ็บ" แพรวพรรณยังร้องไหว้ขี้มูกโป่ง จนท่านวิทยาต้องหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อมาเช็ดทำความสะอาดให้

"ไม่ร้องนะจ๊ะคนดีของพ่อ"ท่านวิทยายิ้ม "เดี๋ยวถ้าไปหาหมอแล้ว พ่อพาไปกินไอศรีมเอาไหม?"

"จริงเหรอคะพ่อ!!??"พอได้ยินแบบนั้น ก็ทำเอาสาวน้อยแห่งบ้านจารุศิริการกุลตาลุกวาว ลืมอาการเจ็บไปในบัดดล

"แน่นอน!!! พ่อตั้งใจว่าจะให้รางวัลหนู ที่หนูเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน"ท่านวิทยายิ้มก่อนหอมแก้มลูกสาวที่ยังเลอะไปด้วยคราบน้ำมูกโดยไม่รังเกียจ "อย่าร้องนะเจ้าหญิงของพ่อ เดี๋ยวพ่อพาไปหาหมอแล้วเราไปกินไอศรีมกันนะ"

"หนูรักพ่อที่สุดเลยค่ะ!!!" พอได้ยินแบบนั้น ก็ทำเอาสาวน้อยยิ้มแฉ่งจนลืมความเจ็บปวดจากบาดแผลถลอกไป แม้จะเป็นพ่อที่เข้มงวด แต่ท่านวิทยาเองก็รักลูกสาวทั้งสองคนอย่างน้องพลอยและน้องแพรวมากกว่าที่ใครหลายคนคิด



พลอยพรรณคนพี่สอบเข้าโรงเรียนมัธยมศึกษาที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพได้ ท่านวิทยาเลยตบรางวัลด้วยการพาไปเที่ยวญี่ปุ่นตามที่เคยสัญญาเอาไว้ พร้อมกับสั่งสอนลูกสาวให้ตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองและเพื่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล นั่นแหละคือคำสั่งสอนของท่านวิทยาที่มีต่อลูกสาวทั้งสองคน

############

หลังจากนั้นเป็นต้นมา น้องกิ่งและพี่แก้วก็มีท่าทีเหินห่างจากคุณหนูแพรวพรรณ ทุกครั้งที่คุณหนูแพรวพรรณมาชวนทั้งคู่เล่นด้วยกัน ทั้งสองสาวก็รีบวิ่งหนี จนทำให้คุณหนูแพรวอดน้อยใจไม่ได้ หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ถูกส่งไปอยู่กับญาติฝ่ายแม่ที่ต่างจังหวัด บ้างก็ว่าเป็นเพราะตาเกริกและป้าจวงเกรงใจท่านวิทยา เพราะเด็กทั้งสองคนซนมาก และไม่อยากให้ไปวุ่นวายกับคุณหนูแพรวพรรณอีกด้วย แต่ก็ไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงอยู่ดี

พอไม่มีเพื่อน ก็เลยยิ่งทำให้น้องแพรวรู้สึกเหงา สิ่งที่ช่วยคลายเหงาของสาวน้อยอย่างน้องแพรวก็คือการได้คุยโทรศัพท์กับพี่พลอย ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมชื่อดังใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่พี่พลอยก็คุยได้ไม่นาน เพราะต้องใช้เวลาในการทบทวนหนังสือและตำราเรียนเพื่อเตรียมสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์

ทีนี้พอมีเวลาว่าง น้องแพรวก็มักเดินเล่นไปทั่วบ้าน โดยเฉพาะตรงสวนดอกไม้ ที่ตาเกริกเป็นผู้รับผิดชอบ น้องแพรวรู้สึกสดชื่นเสมอเวลาได้ใช้เวลาอยู่ที่ตรงนี้โดยเฉพาะเวลาที่ตาเกริกกำลังง่วนอยู่กับการรดน้ำพรวดนดิน มันยิ่งทำให้น้องแพรวรู้สึกสนุกจนอยากเข้าไปร่วมด้วย

คุณหนูแพรวพรรณยืนมองลุงเกริกในชุดเสื้อเชิ้ตตัดอ้อยลายแดงสลับดำขณะกำลังรดน้ำพรวนดินตรงสวนหลังบ้าน เด็กสาวยืนมองตาเกริกใต้ต้นไม้ใหญ่ที่คอยให้ร่มเงาอยู่ไม่ไกลนัก

"คุณหนู คุณหนูจะมาที่นี่ไม่ได้นะครับ มันร้อน ในนี้มีแต่แมลงทั้งนั้น เดี๋ยวคุณหนูก็โดนกัดหรอก" เสียงตาเกริกร้องห้ามขณะที่คุณหนูแพรวพรรณกำลังยืนมองมันรดน้ำพรวนดินต้นไม้อยู่

"ก็หนูไม่รู้จะไปไหนอ่ะ..." น้องแพรวตอบไปตามภาษาเด็ก "น้องกิ่งกับพี่แก้วก็ไม่อยู่แล้ว หนูไม่รู้จะเล่นกับใคร"

"ลุงเล่นกับคุณหนูไม่ได้หรอกครับ กลับเข้าบ้านไปเถอะ เดี๋ยวใครมาเห็น ลุงจะโดนตำหนิได้นะครับ" ตาเกริกขอร้องกึ่งบังคับ จนน้องแพรวทำหน้ามุ่ยเดินกลับเข้าห้องไปตามเดิม

หลังจากนั้นทุกเสาร์อาทิตย์ พอมีเวลาว่างหลังจากเรียนพิเศษเสร็จ คุณหนูแพรวพรรณก็มักเล่นไวโอลินตรงริมระเบียง แล้วตาเกริกที่ทำธุระตรงสวนดอกไม้เสร็จก็มักเดินผ่านตรงนั้นอยู่เป็นประจำ หนุ่มใหญ่เหลือบมองคุณหนูคนสวยด้วยความเอ็นดูและชื่นชมในความสามารถด้านดนตรี ส่วนคุณหนูแพรวก็ยิ้มหวานให้

"เล่นไวโอลีนเก่งขึ้นเยอะเลยนะครับ" ตาเกริกทักทายคุณหนูแพรวพรรณที่เล่นไวโอลีนอยู่บนระเบียงชั้นสอง

"ค่ะ แต่แพรวว่าแพรวต้องฝึกอีกเยอะ" สาวน้อยกล่าวด้วยความถ่อมตัว

"คุณหนูเล่นเก่งแล้วล่ะครับ"คนสวนยืนยันคำเดิม จนคุณหนูแพรวพรรณยิ้มหวานด้วยความดีใจ

รอยยิ้มที่แสนบริสุทธิ์ของคุณหนูแพรวพรรณ ทำให้จิตใจของตาเกริกชุ่มชื่นอย่างประหลาด แต่มันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก บางครั้งเวลามันเข้าครัวไปหาข้าวกินกับป้าจวงเมียของมัน ก็มักเจอน้องแพรวมาอ้อนป้าจวงเพื่อขอให้ทำของกินอร่อย ๆ ให้กินบ้าง

"เดี๋ยวอาทิตย์หน้าป้าจวงทำขนมบัวลอยของโปรดของคุณหนูนะคะ" ป้าจวงลูบผมเด็กสาวด้วยความเอ็นดู

"เย้!!! ดีใจจัง ป้าจวงใจดีที่สุดในโลกเลย!!" น้องแพรวยิ้มร่าอย่างมีความสุข สำหรับเธอแล้ว ป้าจวงเป็นแม่ครัวที่ทำอาหารคาวหวานได้อร่อยที่สุด แถมยังใจดีกับเธอมาก ๆ อีกด้วย

ตาเกริกที่เดินเข้ามาในครัวเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำมาดื่มดับกระหายก็มองเมียมันกับคุณหนูแพรวด้วยรอยยิ้ม ในใจลึก ๆ ก็คิดว่ามันอยากมีลูกสาวที่น่ารักและเพรียบพร้อมเป็นกุลสตรีแบบคุณหนูแพรวพรรณบ้างเหลือเกิน เพราะนั่งกิ่งกับนั่งแก้วมันเด็กกะโปโลที่ดีแต่วิ่งซนไปเรื่อย

############

12 ปีผ่านไป ตอนนี้คุณหนูแพรวพรรณเติบโตเป็นสาวแล้ว แพรวพรรณมีหน้าตาที่น่ารักสดใสสมวัย โดยเฉพาะนัยน์ตาคู่นั้นที่ดูซุกซนและขี้เล่น แพรวพรรณดูเป็นกันเองและเข้าถึงได้ง่าย แตกต่างจากพี่สาวของเธออย่างพลอยพรรณที่ดูสงบนิ่งและเย็นชาราวกับเจ้าหญิงน้ำแข็งตามสมญานามที่เธอได้รับเสียมากกว่า

ในห้วงเวลานั้นเกิดเรื่องเศร้าภายในบ้านจารุศิริการกุล เมื่อป้าจวงเสียชีวิตจากภาวะไตวายเฉียบพลันจากโรคเบาหวาน หลังจากพยายามรักษาอยู่นานนับปี ด้วยความช่วยเหลือด้านการเงินจากท่านวิทยาและคุณหญิงพนิดาที่เมตตาไอ้เกริกคนสวนและครอบครัวเป็นอย่างมาก ในฐานะคนเก่าคนแก่ที่รับใช้ดูใจกันมานานหลายสิบปี

ในงานศพของป้าจวง หมอพลอย พี่สาวของแพรวพรรณได้ขับกลับมาจากกรุงเทพเพื่อมาร่วมงานศพของป้าจวงที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ภายในงานทุกคนแต่งสีดำเพื่อไว้อาลัยผู้ตาย หลังจากหมอพลอยจอดรถตรงหน้าลานวัด หญิงสาวในชุดสีดำก็เดินเข้ามาภายในศาลา ที่ครอบครัวของเธอ ญาติผู้ตายและแขกผู้มีเกียรตินั่งอยู่

"พี่พลอย!!! ทางนี้ค่ะ!!" แพรวพรรณในชุดดำรีบวิ่งออกมาจากศาลาเพื่อมาหาพี่สาวคนสวย

"ไงเจ้าตัวเล็ก..." พลอยพรรณโอบกอดน้องสาวคนสวย "โตขึ้นแล้วนะเรา อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะไปอยู่กับพี่ที่กรุงเทพแล้วซิ ดีใจจัง"

"แพรวก็ดีใจ ที่ได้อยู่กับพี่พลอยสักที หนูเบื่อบ้านจะแย่อยู่แล้ว เบื่อพ่อเบื่อแม่ที่สุด!!!"แพรวพรรณทำหน้ามุ่ย "คุณพ่อกับคุณแม่ทำแต่งาน ใจดำ ไม่มีใครมีเวลาให้แพรวเลย"

"พวกท่านทำเพื่อแพรวนะ..." พลอยพรรณลูบศีรษะน้องสาวด้วยความเอ็นดู เพราะรู้ดีว่าแพรวพรรณต้องเจอกับอะไร "มาเถอะ รีบเข้าไปในงานกัน"

"ขอบคุณคุณหนูพลอยมากนะครับที่มางานในวันนี้" ตาเกริกพนมมือไหว้หมอพลอยเป็นการใหญ่ "ขอบคุณที่เมตตาลุงและครอบครัว บุญคุณของท่านวิทยาและคุณหญิงพนิดา รวมถึงหมอพลอย ลุงจะไม่มีวันลืมเลย"

"ไม่เป็นไรค่ะลุงเกริก..." พลอยพรรณพนมมือไหว้กลับ "ลุงก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ของพลอยเหมือนกัน ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ ยังไงพลอยก็เสียใจด้วยนะคะที่ป้าจวงจากไป"

แพรวพรรณยืนกอดพี่สาวมองลุงเกริกตาแป๋ว ทั้งคู่พูดคุยกันในส่วนของธุระทางบ้าน พอถึงเวลาเหมาะสม หมอพลอยก็พาน้องแพรวไปต้อนรับแขกเหล่านั้นแทนพ่อกับแม่ ที่จะเดินทางตามมาในภายหลัง

"สวัสดีค่ะ" ลูกสาวของบ้านจารุศิริการกุลทั้งพี่และน้องยืนพนมมือต้อนรับแขกที่เดินทางมางานศพป้าจวง ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวบ้านภายในชุมชน แล้วก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ ข้าราชการและนักการเมืองที่รู้จักกับท่านวิทยาแวะมาด้วย

"ขอบคุณที่มานะคะ"แพรวพรรณกล่าวทักทายข้าราชการระดับสูงประจำจังหวัดที่ให้เกียรติเดินทางมางานศพของป้าจวงด้วย
"โตเป็นสาวแล้วนะเนี่ย หมอพลอย น้องแพรว!!"ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีวัยกลายคนยิ้มหวานให้สองสาวแห่งบ้านจารุศิริการกุล "กลับมาชลบุรีนานหรือยังคุณหมอ?"

"ก็พึ่งกลับมาได้สักพักนี่แหละค่ะท่านผู้ว่าฯ" พลอยพรรณตอบ

"ไม่คิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเราเหรอหมอ?" ผู้ว่าฯ เอ่ยปากถาม "ชลบุรีบ้านเราต้องการคนเก่งแบบหมอนะ หรือว่าติดใจชีวิตแสงสีในกรุงจนไม่อยากกลับแล้ว"

"ก็อยากทำงานที่กรุงเทพสักพักค่ะ"พลอยพรรณตอบ "แต่ถ้ามีโอกาสที่ดีทางนี้ ก็อยากจะกลับมาทำงานที่บ้านเหมือนกัน แต่ว่าเจ้าตัวเล็กน้องสาวของหนูยังเรียนไม่จบ ก็เลยคิดว่าต้องอยู่กรุงเทพไปสักระยะก่อน"

หมอพลอยลูบแผ่นหลังของน้องสาวด้วยความเอ็นดู ส่วนผู้ว่าราชการที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่กพยักหน้าเพราะเข้าใจในสิ่งที่หมอพลอยต้องการสื่อ

"โอเค งั้นลุงไม่รบกวนแล้วล่ะนะ"ผู้ว่าฯ ตอบ ก่อนเดินเข้าไปภายในศาลาที่จัดงานศพของป้าจวง

############

ในช่วงอาหารเย็น หมอพลอยก็พาน้องสาวมาหาอะไรกินก่อนที่คณะสงฆ์จะมาสวดอภิธรรมศพ น้องแพรวเอ่ยปากถามพี่สาวถึงชีวิตในกรุงเทพว่าเป็นอย่างไรด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากเธอเคยมีโอกาสได้ไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพในช่วงปิดเทอม เลยติดใจในแสงสีและความเจริญของเมืองหลวง จนเบื่อหน่ายชีวิตซ้ำซากจำเจในชลบุรีเต็มทน


"พี่คุยกับคุณพ่อและคุณแม่แล้ว ว่าไม่แน่อาจจะให้แพรวมาอยู่กับพี่ที่คอนโด" พลอยพรรณตอบ "พี่ยังไงก็ได้ ก็ดีเหมือนกัน จะได้มีเพื่อนอยู่ด้วยกัน บางครั้งพี่ก็เหงาเหมือนกันเวลาอยู่คนเดียวเหมือนกัน"

"หนูก็อยากอยู่กับพี่พลอยค่ะ..." น้องแพรวสารภาพ "อยากไปเร็ว ๆ หนูเบื่อบ้าน เบื่อชลบุรีจะตายอยู่แล้ว บ้านนอก!!!"

"พูดจาอะไรระวังปากหน่อยแพรว!!" พลอยพรรณทำเสียงดุใส่น้องสาว ที่พูดจาไม่สุภาพ จนแขกภายในงานหันมามองกันเป็นแถว "เสียงดังไม่มีมารยาท เดี๋ยวเถอะแพรว เดี๋ยวเราต้องคุยกันหน่อยแล้ว"

"ค่ะ..." แพรวพรรณทำหน้าจ๋อย เมื่อถูกพี่สาวดุ โดยปกติแล้ว พี่สาวของเธอมักสงบนิ่ง เฉยชาเหมือนคนไม่มีความรู้สึก จนใครต่อใครเรียกว่าเจ้าหญิงน้ำแข็ง แต่สำหรับน้องแพรวแล้ว พี่พลอยเป็นพี่สาวที่มีมุมอ่อนโยน ใจดี และเด็ดขาดในตัวเอง เหมือนที่ได้เตือนเธอเรื่องคำพูดไปก่อนหน้านี้

หลังจากงานศพป้าจวงในวันนั้น หมอพลอยก็ขับรถพาน้องแพรวกลับไปค้างที่บ้านหนึ่งคืน สำหรับหมอพลอยแล้ว เธอเองก็ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนักที่อยู่ภายในบ้านแห่งนี้ เพราะก่อนหน้านั้น เธอเองก็ต้องพบกับการเลี้ยงดูที่แสนเข้มงวดของพ่อกับแม่ไม่ต่างจากที่น้องแพรวเจอ เพียงแต่เธอสามารถรับมือกับมันได้ดี เธอมีผลการเรียนดีมาตั้งแต่ยังเด็ก จนสามารถสอบติดโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดังในกรุงเทพได้ ท่านวิทยาและคุณหญิงพนิดาจึงมีความภาคภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้มากและคาดหวังว่าน้องแพรว ลูกสาวคนเล็กจะมีผลการเรียนที่ดีไม่ต่างจากพี่สาวด้วยเช่นกัน

ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนผมทั้งบนดินและใต้ดินครับ
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

freedom-more

ดูจากไซส์นี่เหมือนพี่สาวมากกว่านะครับท่านนาโต้ ฮาๆ ว่าแต่อันนี้นี่คือเวอร์ใต้ดินใช่ไหมครับ??

Nato87: ฉบับบนดินครับ


Phoowadol

น้องแพรว สาวน้อย คนนี้ ดูจากรูป ที่ท่าน นำเสนอ มานี่ ดูแล้วเป็นสาวมั่นคนนึงเลยนะครับ ออกไปทางน่ารักมากกว่าสวย....แต่ความเซ็กซี่ไม่เป็นรองพี่สาวเลยครับ  ขอชื่นชมในการ คัดสรรค์ นางแบบที่มารับบทนี้  ของท่าน จริงๆ เลือกมาได้ ลงตัวมากครับ
    ส่วน เรื่องเนื้อหา ฉากเด็ด  ก็ต้องแบบท่านว่าแหละครับ บนดิน มีข้อจำกัด 18+ มากไม่ได้  แต่เขื่อมือท่าน  ว่าจะต้องถ่ายทอดอารมณ์ผ่านตัวหนังสือ ให้คนอ่านได้  อิน ฟิน เสียว ไม่แพ้ใต้ดิน แน่นอน  อยู่แล้วครับ ::Confident::   ::Confident::

ผู้เฒ่าเซราะกราว

ทั้งคุณแม่และสองสาวน่ารักมากจริงๆ ดูเซ็กส์ซี่พอๆกัน เหมือนกับลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น น้องแพรวพรรณน่ารักขนาดนี้ตาเกริกถึงได้ห้ามใจไม่ได้ ชักอยากอ่านใต้ดินแล้วว่าน้องแพรวพรรณจะแซ่บขนาดไหน....อิอิ

chanky2007

สวยทั้้งครอบครัวเลย
ถ้าเป็นใต้ดิน คงรอเทครัว
แต่บนดินจะยังไงกันต่อ น่าสนใจเช่นกันครับ

สำนวนดีเช่นเดิม จะบนดินหรือใต้ดินก็ติดตามอ่านครับ ขอบคุณครับ
คิดว่าดี ก็ทำไป

swss2511


Bebe Ronnada

อ่านแค่ตอนแรกก็น่าติดตามต่อแล้วครับ อยากอ่านตอนต่อไปไวๆ ครับ ขอบคุณมากครับ

yourbuddy

น้องเล็ก ห่างกับพี่เป็น 10 ปี โดนสปอยมาตั้งแต่เด็กแน่ๆ

makecloud

ถ้าจะให้เทียบ (คนชอบ) ชอบใต้ดิน ใต้ดินก็อาจวืดหวามากกว่าอ่านได้ไม่ติดกัน ชอบบนดิน จินตนาการก็ดีขึ้นบทก็ดีขึ้นความกว้างของจักรวาลก็มากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่คนชอบ แต่ผมชอบใต้ดินนะ แต่ไม่ได้ไม่ชอบบนดิน เพราะตามไปอ่านอยู่เหมือนกัน

zebrazaa

เป็นกำลังใจให้ครับ  ไม่ว่าจะใต้ดิน บนดินขอให้มีคนติดตามตลอดและเยอะขึ้นเรื่อยๆ

tetete

ถ้าแบบไม่เคยอ่านใต้ดินมาก่อน ไม่รู้จักเรื่องนี้มาก่อน จะแบบอ่านแล้วงงๆว่านิยายจะไปทางไหนอ่ะครับ แต่ถ้าอ่านใต้ดินมาก่อนก็จะได้อีกอารมณ์นึง

archi ongtong


ppherbalife

ถ้าออกแนวใต้ดินสักหน่อยละก้อ สุดยอดเลยท่าน ออกมาไวๆนะคับแนวใต้ดิน