ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Koy 2nd Generation ep 12 By Ukisa

เริ่มโดย icejet, กรกฎาคม 11, 2013, 07:39:31 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

icejet

 Koy 2nd Generation ep 12
                "ไฮ ว่าไงจ๊ะน้องชาย คิดถึงพี่สาวหรอ"
                "เออ ครับ"
                "น่ารักจัง นอนไม่หลับหรอ หรือว่าอยากดูดนมพี่สาวก่อนนอน"
                ผมอึ้งเจอโบวี่เป็นฝ่ายพูดทะลึงใส่
                "เงียบทำไมจ๊ะ นึกถึงนมพี่สาวหรอ อยากกินหรือเปล่าหละ ถ้าอยากกินก็มาหาซิ อุ้ยแต่พรุ่งนี้ไม่ได้นะ ต้องเป็นวันอื่น"
                "วันอื่นก็ได้ครับ"
                "โทรมาดึกเลยมีอะไรหรือเปล่า"
                "ผมอยากจะถามเรื่อง อืม เอมมี่ครับ"
                "นี่ยูหลงรักเอมมี่หรอ โนๆๆๆๆ ถ้าไม่อยากอกหัก อย่ายุ่งกับชีดีกว่านะ"
                "ทำไมหละครับ"
                "ชีไม่รักใครหรอก ชีแค่สนุกไปวันๆ เท่านั้น ตั้งแต่ไอคบชีมา ไอไม่เคยเห็นชีคบใครเกิน 7 วัน"
                "โห"
                "ถ้ายูอยากดูดนม มาหาไอก็ได้นะ อย่าไปยุ่งกับชีเลย"
                "ไม่ใช่หรอก ผมแค่สงสัยเห็นหลังจากออกจากห้อง เอมมี่เค้าดูแปลกๆ ไป"
                "นั่นแหละ ชีสมใจกับยูแล้ว ชีก็เบื่อยู"
                "เออ แล้วโบวี่กับเอมมี่อืม คือ"
                โบวี่หัวเราะเหมือนจะรู้ว่าผมจะถามอะไร "เอ็กเบ็กเชอร์รี่ยู คนอื่นไอก็ไม่ง่ายแบบนี้หรอกนะ ไอเห็นยูแล้วอยากกอดอยากหอม แต่บอยเกิร์ลกอดกันหอมกันมันก็สป๊าค"
                "เออแล้วเอมมี่หละครับ"
                "ชีอยากได้ยูแค่นั้นแหละ พอยูเสร็จชีแล้ว ชีก็เบื่อ"
                "งั้นหรอ"
                "ยูแซดหรอ"
                "เปล่าครับ อืมแปลว่าเอมมี่เค้ามีใหม่ไปเรื่อยๆ หรอ"
                "ชี บอยอีทเทอร์"
                พอฟังคำนี้ผมก็เริ่มมีความหวังที่จะช่วยไอ้เจ
                "เออ งั้นถ้ามีคนเค้าสนใจแล้วเอมมี่ยังไม่เคยได้ เอมมี่จะสนใจไหม"
                "วอท ยูจะแนะนำเพื่อนให้เอมมี่หรอ"
                "เออคือได้ไหม คือเค้าชอบเอมมี่"
                "อืม ก็ อืมอีฟชีไลท์ชีโอเค ฮูหละ"
                "เจ เพื่อนผมคนที่ตีกลอง"
                "อ้อ อืมม คิววัน บางทีชีอาจจะชอบ ไอถามชีให้รอแป๊บ"
                ผมลุ้นแทนเพื่อนครับ โบวี่เงียบไป 5 นาทีแล้วก็กลับมาพูดต่อ
                "อืม ชียังไม่รับปาก แต่ชีถามว่า เพื่อนยูเก่งแบบยูหรือเปล่า"
                "อืม มันยังซิง มันไม่เคยครับ"
                "เวอร์จิน" โบวี่หัวเราะลั่น
                "เวอร์จิน??" เสียงเอมมี่ดังเข้ามาให้โทรด้วย
                ทั้งคู่หัวเราะชอบใจที่ได้รู้ว่าเจมันยังซิง
                "ข่าวดี เอมมี่ตกลงจะเป็นครูสอนเพื่อนเธอให้ แต่มันไม่ง่ายเหมือนเธอนะ เพราะเค้าไม่น่ารักเท่าเธอ"
                "แล้วจะให้เพื่อนผมทำยังไง เอมมี่ถึงจะยอมหละครับ"
                "ยูต้องพาไอกับชีไปเที่ยว"
                "ไปเที่ยวหรอ"
                "เยส ไปเที่ยวแล้วค่อยเยส" โบวี่หัวเราะชอบใจ
                "แล้วจะให้พวกผมพาไปไหน"
                "อืม เอาภูเขาดีไหม ไอร้อน อยากไปที่ที่อากาศเย็นๆ ไปยอดดอยกางเต็นท์กัน ถ้าโอเค ชีก็โอเค"
                "โอเคครับ"
                "กู๊ตตตต ยูไปคิดมาแล้วกันว่าจะไปไหนแล้วโทรมาบอกไอ หรือยูจะมาบอกไอที่ห้องก็ได้ ไออยากกอดอยู่อีก"
                "ได้ครับ"

                ระหว่างนั้นก็มีเสียงเคาะประตู ผมคิดว่าเป็นแม่ๆ ก็เลยรีบวางสายกลัวจะโดนถามว่าคุยกับใครอยู่ ผมลุกขึ้นไปเปิดประตู ไม่ใช่แม่ๆ แต่เป็นครีม

                "อ้าวครีมยังไม่นอนอีกหรอ แล้วแม่ๆ ไปไหนกัน"
                "นอนแล้วหละ แต่ครีมยังนอนไม่หลับเลยว่าจะมาขอยืมไอพอทไปฟังเพลงหน่อยได้ไหม"
                "อ้อได้ ซิ เขามาก่อนซิ"
                ผมไปหยิบไอพอทที่วางอยู่บนโต๊ะ
                "แล้วครีมจะชอบหรอ เราฟังแต่เพลงร๊อคๆ นะ"
                "ได้ แล้วมีเพลง แกล้งด้วยหรือเปล่า"
                "อ้อมี เอางี้แล้วกันเราจะทำลิสให้ใหม่แล้วกัน เอาแต่เพลงเบาๆ ครีมจะได้ฟังได้"
                ครีมยิ้ม "ขอบคุณนะ"
                "ไม่เป็นไรหรอก"

                ผมทำลิสเพลงให้ครีมเสร็จก็ส่งให้เธอ ครีมทำหน้าแปลกๆ แต่ผมเห็นว่าดึกแล้วและผมก็เริ่มง่วงก็เลยบอกให้ครีมกับไปนอนกับแม่ๆ ผมไปยืนที่หน้าประตูดูครีมเดินกลับไปห้องแม่แนน จากนั้นผมก็กลับเข้ามาในห้องแล้วรีบโทรบอกข่าวดีไอ้เจ และใช้มันให้หาที่เที่ยวเพราะผมไม่ชอบเที่ยวเลยไม่สันทัดในการหาที่เที่ยวซักเท่าไหร่

                จากนั้นผมก็นอน ตอนเช้าแม่แนนมาปลุกผมแต่เช้าบอกว่าให้ช่วยพาครีมไปซื้อของ แต่เมื่อคืนผมนอนดึกผมเลยไม่อยากลุก แม่แนนเลยดึงผ้าห่มจนผมกลิ้งตกเตียง

                "โอ้ยแม่ทำอะไรครับเนี่ย"
                "ตื่นซะทีอาบน้ำแต่งตัวจะได้ไปซื้อของกับหนูครีม"
                "โอ้ยยย แม่พาไปก็ได้นี่ครับ"
                "ก็ถ้าชั้นว่างพาไปชั้นมาใช้แกหรอไอ้ตัวเล็ก"
                "อ้าวแล้วแม่ก้อยกับแม่เจนหละครับ"
                "วันนี้ไม่มีใครว่างหรอกมีแต่แกหละ"
"ไม่เอาผมจะนอน" ผมดึงผ้าห่มกลับมากอด
"เดี๋ยวเถอะไอ้ตัวเล็กตื่นนะ" แม่แนนยื้อผ้าห่มกลับ
"แม่ ผมง่วง"
ผมไม่ทันเห็นว่าครีมเดินเข้ามาในห้องผมตั้งแต่เมื่อไหร่
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่แนน ให้บีน้อยนอนเถอะ ครีมไปเองก็ได้" ครีมทำหน้าเศร้าๆ แล้วเดินกลับออกไป
"เป็นไงทำน้องเค้าเสียใจแล้ว"
"อะไรหละครับแม่ เดี๋ยวไปซื้อตอนบ่ายๆ ก็ได้ ตอนนี้ขอผมนอนก่อน"
"ไอ้บีน้อยดื่อนักนะ" แม่แนนหยิบไม้บรรทัดแล้วตีผม
"โอ้ยยย แม่ผมเจ็บนะ"
"เจ็บแหละดีเผื่อสมองจะจำอะไรได้บ้าง"
"จำอะไรหละครับ"
"วันนี้วันอะไร"
"วันเสาร์"
แม่แนนตีผมอีกหลายเฟียะ
"โอ้ยยย โอ้ยยยย ก็ผมไม่รู้นี่ วันอะไรหละครับ"
"วันเกิดหนูครีมไง"
ผมค่อยนึกขึ้นได้
"เออ ใช่"
"จำได้แล้วใช่ไหม ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย เร็วๆ ด้วยถ้าช้านะ เดี๋ยวโดนอีก"
"ครับๆ ผมไปอาบน้ำแล้ว"

ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาที่ชั้นล่าง คุณพ่อคุณแม่ครีมนั่งรอผมอยู่ที่โต๊ะกินข้าว

"มาซะทีนึกว่าต้องถือไม้เรียวขึ้นไปตีอีกรอบ" แม่แนน
"อ้าวแนนตีลูกทำไม" แม่ก้อย
"เจ็บหรือเปล่าลูก" แม่เจน
"ไม่เจ็บหรอก แค่ไม้บรรทัดพลาสติก คราวหน้าต้องหาไม่เรียวไว้ซักอันเวลาดื่อจะได้ตีให้หายดื่อ" แม่แนน
"นี่ เธอจะตีลูกอีกทำไม ลูกโตเป็นหนุ่มแล้วนะ ใครมาเห็นเข้าลูกโดนตีแบบนี้ก็อายเค้าแย่ซิ" คุณพ่อ
"ก็มันดื่อ ดื่อเหมือนพ่อมันอะ" แม่แนน
"แนน ไม่เอานะ หนูครีมตกใจหมดแล้ว" แม่ก้อย
"ครีมกับบีน้อยทานข้าวเถอะจะได้ออกไปเที่ยวกัน" แม่เจน

ผมเห็นครีมทำหน้าเศร้าแล้วก็รู้สึกสงสาร พอทานข้าวเสร็จผมก็ลุกขึ้นแล้วชวนครีมไปเดินซื้อของที่ห้างด้วยกัน

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ครีมไปเองก็ได้"
สงสัยครีมจะน้อยใจผม ผมเลยจับมือถือแล้วดึงให้ลุกขึ้น
"มาเถอะนะ เร็วลุกขึ้นๆ"

ผมดึงให้ครีมลุกขึ้นแล้วจูงมือเธอไปที่รถ แม่ๆ ก็มาแอบมองที่หน้าต่าง ผมเปิดประตูให้ครีมขึ้นรถ จากนั้นผมก็ขึ้นรถฝั่งคนขับและขับออกจากบ้าน แม่แนนส่ง sms มาบอกรายการที่ผมต้องทำวันนี้

1.พาครีมเดินเล่น
2.เลี้ยงข้าวเที่ยงครีม
3.พาครีมดูหนัง
4.ไปเอาของขวัญที่ร้านที่แม่แนนซื้อไว้ให้แต่อย่าให้ครีมรู้
5.พาครีมไปทานข้าวเย็น แม่แนนจองร้านให้แล้ว

"ใครส่งข้อความาหรอ บีน้อยยุ่งครีมไปเองก็ได้นะ"
"เปล่าหรอก ไอ้เจหนะมันส่งลิสเพลงใหม่มาให้ซ้อม"
"หรอ"
"อืมเพลงที่เลือกให้ฟังเมื่อคืนชอบไหม"
"ชอบ" ครีมยิ้ม

ไปถึงห้างผมก็เดินจูงมือครีมไปซื้อของ ผมเคยชินเพราะตั้งแต่เด็กๆ เวลาเราไปไหนด้วยกันแม่ๆ ก็จะให้ผมจับมือครีมไว้เพื่อไม่ให้หลง จากนั้นพอใกล้เที่ยงเราก็ไปทานข้าวกัน จากนั้นผมก็แอบดูลิสของแม่แนน

"ดูหนังกันไหม"
ครีมทำหน้างงๆ
"ไม่อยากดูหรอ เราลืมไปว่าครีมไม่ค่อยชอบดูหนัง"
ครีมส่ายหน้า "ครีมอยากดู แล้วจะดูเรื่องอะไรหรอ"
"บีก็ไม่รู้ เราไปดูรอบหนังกันก่อนแล้วกัน เรื่องไหนฉายก่อนก็เอาเรื่องนั้นดีไหม"
"ก็ได้"

ไปถึงเราก็เลือกหนังที่กำลังจะฉาย แต่ที่นั่งเต็มหมดเหลือแค่เก้าอี้แบบคู่รัก แต่ถ้าจะรอหนังรอบต่อไปก็อีกนานเราเลยตกลงที่จะนั่งเก้าอี้แบบคู่รัก ผมไม่ได้คิดอะไรมากก็แค่นั่งข้างกัน แต่พอเอาเข้าจริงเก้าอี้มันเหมือนปุ้มตรงกลางทำให้เวลานั่งตัวผมกลับครีมไหลมาชิดกัน ครีมทำหน้าเขินๆ แต่ผมก็ยังไม่คิดอะไร

ดูหนังไปพักเดียวผมก็รู้ตัวว่าหลงเข้ามาดูหนังผี ซึ่งผมเป็นคนกลัวผีมากๆ ครีมเองก็กลัวไม่แพ้ผม พอผีออกทีเรากอดกันกลม แรกๆ ก็กลัวผี แต่กอดไปกอดมาผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวครีมหอมมาก พอคิดแบบนั้นของผมมันเริ่มแข็งซิครับ แล้วผมก็เริ่มรู้สึกถึงหน้าอกเต่งๆ ที่เข้ามาดันแขนดันอกผมทุกครั้งที่ครีมโผมากอด

ผมเริ่มไม่คิดเรื่องผีแต่คิดเรื่องอื่นขึ้นมาแล้วซิครับ หลังจากผมขึ้นห้องโบวี่ผมรู้สึกตัวว่าเริ่มเปลี่ยนไป ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีความต้องการมากขึ้น และพอมีความต้องการผมก็เริ่มฝืนมันไม่ได้ ตอนนี้ผมเริ่มอยากจะกอดอยากจะหอมครีมขึ้นมาแล้วซิครับ ไอ้หนูผมมันก็เริ่มแข็ง

ครีมซุกหน้ามาที่อกผมเพราะกลัวผีให้หนัง คราวนี้ผมเริ่มทนไม่ไหว ผมอยากจะกอดเธอจนใจจะขาดแล้ว แต่ไม่ ถ้าผมทำแบบนั้นผมก็ไม่ต่างจากคุณพ่อหนะซิ พอคิดแบบนี้ความต้องการของผมมันก็หายไป ผมนั่งนับเวลารอให้หนังจบ ไม่รู้ว่าผมจะทนได้อีกนานแค่ไหน

พอหนังจบผมก็ค่อยโล่งใจ แต่ผมไม่กล้าจับมือครีมแล้ว ผมกลัวผมจะรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาอีก แต่พอลุกขึ้นครีมก็จับมือผมทันที ผมจะห้ามก็กลัวครีมจะเข้าใจผิดว่าผมรังเกียจเธอ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกมันเปลี่ยนไปการสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวมันไม่เหมือนสมัยเด็กๆ

ผมเริ่มรู้สึกว่าครีมสวย ซึ่งที่จริงเธอก็สวยมากแต่ชอบทำผมทรงเรียบๆ และใส่แว่นหนาๆ หุ่นเธอก็อวบอึ้ม ถึงจะใส่ชุดแซกกระโปรงยาวเสื้อเชิ๊ตแขนยาวแต่ก็ยังน่าดู ผมต้องรีบสั่นหัวเพื่อเอาความคิดชั่วๆ ออกไปจากหัว ครีมเป็นน้องผมถึงจะไม่ใช่พ่อแม่เดียวกัน แต่กับโบวี่เธอก็อยากเป็นพี่สาวผมแต่เราก็

"ไม่ได้ๆ" ผมเผลอพูดออกมา
"อะไรหรอบีน้อย"
"เปล่าไม่มีอะไร ครีมอยากเข้าห้องน้ำไหม"
"อืม"

ผมพาครีมไปเข้าห้องน้ำระหว่างครีมเข้าห้องน้ำผมก็รีบวิ่งไปร้านที่แม่แนนบอกให้ไปเอาของที่ซื้อไว้ วิ่งไปถึงหน้าร้านแต่ไม่กล้าเข้าไปเพราะมันเป็นร้านเพชรที่หรูมาก คนด้านในร้านเห็นผมยืนอยู่ต่างจ้องมองกันเป็นตาเดียว สงสัยคิดว่าผมจะมาปล้นหรือเปล่านะ

"คุณหนูบีน้อยหรือเปล่าค่ะ"
พนังงานสาวสวยคนนึงเดินออกมาทักผม
"เออครับใช่ครับ"
เธอยิ้ม "เชิญค่ะ"
เธอเชิญผมเข้าไปด้านใน ผมแต่งตัวแค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบ มันเลยกลายเป็นที่สนใจของบรรดาลูกค้าไฮโซที่อยู่ด้านใน
"นี่ค่ะสร้อยที่คุณแนนสั่งไว้ ตรวจสอบดูก่อนนะค่ะ ถ้าเรียบร้อยดิฉันจะห่อของขวัญให้"
"เออครับ"
ผมหยิบสายสร้อยขึ้นมาดู สายน่าจะทำจากทองคำขาว จี้เป็นทับทิมสีแดงรูปหัวใจล้อมด้วยเพชร ขนาดซักครึ่งเซ็นได้ คนในร้านจ้องมองมาที่สร้อยพร้อมกับซุบซิบกันผมเลยรีบวางกลับไปในกล่องกำมะหยี่
"เรียบร้อยครับ"
"ค่ะรอซักครู่นะค่ะ"
"เออเท่าไหร่ครับ"
"หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วนค่ะ"

ผมได้ยินราคาแล้วแทบเป็นลม ทั้งตัวผมมีเงินไม่ถึง 2 พันด้วยซ้ำ ทำไมแม่แนนถึงให้ผมมารับของแพงขนาดนี้เนี่ย ผมจะทำไงดีถึงผมจะมีเงินในธนาคารที่คุณพ่อคุณแม่โอนเงินเข้าให้ทุกเดือนจนมากกว่าแสนห้าแล้วก็เถอะ แต่ถ้าผมเดินไปกดเงินสดมาจ่ายคงอายคนในร้ายแย่

ผมหยิบกระเป๋าตังแล้วหยิบบัตรเครดิตที่คุณพ่อเคยให้ไว้ คุณพ่อบอกว่าวงเงินในบัตรซื้อรถคันละเป็นล้านได้สบายๆ แต่ผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวันใช้มันเด็ดขาด ถ้าผมใช้มันเมื่อไหร่ก็แปลว่าผมแพ้อำนาจเงินของคุณพ่อหนะซิ พนักงานห่อของขวัญเสร็จแล้วใส่ถุงหรูเดินมายืนให้ผม

"ได้แล้วค่ะ"
"เออ เดี๋ยวผมมาเอาได้ไหมครับ พอดีเงินผมไม่พอ เดี๋ยวผมไปเบิกมาให้"
ลูกค้าในร้านได้ยินพากันซุบซิบนินทา ผมรู้สึกอายจนหน้าชา
"คุณแม่คุณหนูบีน้อยจ่ายเงินไว้แล้วหละค่ะ แค่คุณหนูเซ็นต์รับของก็พอค่ะ"

ผมรีบเซ็นต์รับของและรีบออกจากร้านก่อนที่จะมีใครสงสัยว่าผมเป็นใครทำ ทำไมถึงมารับของราคาแพงแบบนี้ได้ ผมเดินกลับไปหน้าห้องน้ำ ผมก็เห็นครีมยืนหน้าเสียอยู่ ผมรีบเข้าไปหา

"ขอโทษ พอดีแม่แนนฝากให้เอาของให้"
"ไม่เป็นไร"
แต่ครีมก็ยังทำหน้าเศร้าสงสัยคิดว่าผมลืมเธอเหมือนตอนสมัยเด็กๆ แน่ๆ เลย ตอนเด็กๆ ผมเลยลืมครีมไว้หน้าห้องน้ำแบบนี้ ดีนะที่เธอไม่ยอมเดินไปไหนกลับมาหน้าห้องน้ำก็เลยเจอ แต่พอเธอเจอแม่ๆ ผมเธอร้องไห้ทำเอาวันนั้นผมโดนแม่แนนตีไปหลายทีจนไม่กล้าทิ้งครีมไว้คนเดียวเวลาไปเที่ยวอีก

"ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว ไม่ได้ทิ้งนะ พอดีคิดว่าไปแป๊บเดียวคงกลับมาทัน เอางี่บีเลี้ยงไอติมครีมเป็นการขอโทษนะ"
ครีมพยักหน้าผมก็จับมือเธอมาร้านไอติม
"ทานอะไรดี"
ครีมดูเมนู
"เออ อะไรที่เค้าบอกว่าไอติมหลายๆ ก้อนในถ้วยเดียว"
"อ้อ เอิร์ธเควกส์ แต่ครีมจะกินไหวหรอ มันเยอะนะ"
"เห็นเพื่อนเค้าคุยกันก็เลยอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง"
"ก็ได้ เดี๋ยวบีช่วยกินแล้วกัน"

ผมก็ให้ครีมเลือกว่าจะเอาไอติมรสอะไรบ้าง ผมเข้าใจเพราะหลังจากเราสองคนโตแม่ๆ ก็ค่อยได้พาพวกเราไปเที่ยวด้วยกันอีก น้าหงส์เองก็ดูจะยุ่งๆ ไม่ค่อยมีเวลาพาครีมไปไหน ครีมเลยกลายมาเป็นน้องสาวผม คุณพ่อคณแม่จะช่วยกันดูแลครีมเหมือนลูกสาวคนนึง

ครีมตักไอติมชิมพร้อมกับทำหน้าเบ้
"ทำไมหละ ไม่อร่อยหรอ"
"เปรี้ยวอะ"
"ก็ดูเลือกแต่ละสีซิ เปรี้ยวๆ ทั้งนั้น เอางี้ครีมกินพวกธรรมดาช๊อคโกแล็ต วนิลา สตอเบอรี่ ไปแล้วกัน พวกสีประหลาดๆ เดี๋ยวบีช่วยกินเอง"
"อืม"
ผมตัดมะนาวเชอเบสใส่ปากแล้วต้องหน้าเบ้เหมือนครีม ครีมเห็นแล้วก็หัวเราะผม
"ไม่ต้องมาหัวเราะเลย ไอติมไรเนี่ย ไม่เอาแล้วแบบนี้ต้องแบ่งกันกินแล้ว"
ผมตักไอติมแล้วป้อนครีม ครีมไม่ยอมกินพยายามหันหน้าหนี แต่ผมก็ป้อนเธอจนได้ครีมทำหน้าเบ้เพราะมันเปรี้ยว ไปๆ มาๆ เราเลยผลัดกันป้อนไอติมให้กันโดยไม่รู้ตัว พอกินไอติมเสร็จเราเดินย่อยอีกแป๊บนึงแม่แนนก็ส่งข้อความมาบอกให้ไปร้านอาหารที่จ้องไว้ได้แล้ว

ผมเลยพาครีมไปที่รถแล้วก็ขับไปยังร้านอาหารที่แม่แนนบอก พอไปถึงผมก็ต้องตกใจอีกรอบ เพราะมันเป็นร้านอาหารหรูที่มีแต่คนแต่งตัวดีๆ เข้าไป ครีมยังแต่งตัวพอจะเข้าไปได้แต่ผมเนี่ยซิ แค่เดินไปหน้าประตูเขาจะไล่ออกมาหรือเปล่าก็ไม่รู้

"ขอโทษนะครับ ร้านนี้รับแต่ลูกค้าแต่งกายสุภาพเท่านั้น" บริกรที่หน้าร้านบอกผมและมองผมด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจนักกับชุดที่ผมแต่ง
"เออแต่ผมจองไว้แล้วนะครับ"
"คุณผู้หญิงเข้าได้ แต่คุณผู้ชายต้องติดหูกระต่ายด้วยนะครับ"
"หูกระต่าย"
"ครับ ช่วยแต่งตัวให้เหมาะสมด้วยครับ"

ผมจะมีทักซิโดอยู่ในรถได้ยังไงหละ ผมไม่รู้ทำไงเลยบอกชื่อแม่แนนไปแต่ปรากฎว่าไม่มีชื่อจองชื่อนี้ ผมเริ่มกระอักกระอ่วนใจ ถ้าแม่แนนไม่ได้เป็นคนจองก็ต้องเป็นคุณพ่อ ว่าแล้วเชียวคุณพ่อคงตั้งใจทำให้ผมขายหน้า และคงคิดจะสั่งสอนผมว่าการแต่งตัวผมมันไม่เอาไหนจนเข้าสังคมกับใครเค้าไม่ได้

ระหว่างที่ผมคิดอะไรไม่ออก ครีมก็พูดชื่อคุณพ่อออกไป บริกรได้ยินก็หน้าซีดแล้วรีบเชิญเข้าไปในร้าน

"ขอเสื้อคลุมด้วยครับ"
บริกรคงจะพูดตามปรกติ แต่พอนึกได้ว่าผมใส่เสื้อยืดก็พูดออกมาว่า "เออ ช่างมันเถอะครับ"
                บริกรพาเราไปนั่งโต๊ะที่เป็นส่วนตัวไม่มีสายตารอบๆ ข้างจ้องมองผมเหมือนตอนเดินเข้าไปในร้าน
                "เชิญตรวจดูรายการอาหารและไวน์ที่คุณท่านสั่งไว้ครับ"
                ผมก็รับมาดูแล้วก็อ่านไม่รู้เรื่องดูเหมือนมันจะเป็นภาษาฝรั่งเศส
                "ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมครับท่าน"
                ผมรู้สึกว่าคุณพ่อจงใจแกล้งผม แบบนี้ก็ต้องเอาคืนผมต้องทำไรขายหน้าๆ คุณพ่อรู้จะได้โกรธและไม่กล้าจองร้านอาหารหรูๆ ให้ผมแบบนี้อีก
                "อืม เอา เออ ที่อร่อยของร้านนี้มาเพิ่มอีกซักสองที่"
                บริกรโกรธจนหน้าแดงแต่ก็ยังสุภาพ "เลือกได้ยอดเยี่ยมมากครับ"
                บริกรหยิบเก็บเมนูแล้วเดินกลับออกไป

                "บีน้อยแกล้งเค้าทำไมสงสารเค้าออก"
                "เราไม่ได้แกล้งเค้า เราแกล้งคุณพ่อต่างหากหละ"
              
                บริกรกลับมาพร้อมกับไวน์ใส่มาในตระกร้าแล้วรินให้ผมชิม ผมก็แกล้งชิมแล้วร้อง
                "แปล๊ะ ขมจัง มีอะไรหวานๆ ไหม"
                บริกรบรรยายไวน์ที่มีอยู่ในร้านยี่สิบกว่าชนิดซึ่งผมไม่รู้จักเลย
                "เอางี่ แชมเปญดีกว่า ฉลองวันเกิดน่าจะดื่มแขมเปญมากกว่าไวน์"
                "จะรับเป็น แชมเปญ...."
                ผมรีบขัดคอก่อนที่บริกรคนเก่งจะบรรยายยี่ห้อของแชมเปนจนผมงง "เอาที่ราคาเท่าไวน์ขวดนั้นมาแล้วกัน"
                "ท่านเลือกได้เยี่ยมมากครับ"
                ผมฟังแล้วก็งง ผมเลือกส่งเดชมันบอกว่าเลือกเยี่ยม

                พอบริกรเดินกลับออกไปอาหารก็เริ่มมาเสริฟ์ ผมไม่รู้จักซักอย่าง หน้าตาแปลกประหลาดไปหมด ครีมเองก็ไม่เคยกินของแบบนี้ แถมช้อนซ้อมที่วางไว้ข้างๆ จานก็มีมากซะจนผมคิดว่าคนคนเดียวมันจะต้องใช้ช้อนใช้ซ้อมเยอะแยะขนาดนี้เลยหรอ

                ผมก็พยายามจะใช้ช้อนซ้อมให้ผิดหลักให้มากที่สุดเพี่อที่บริกรจะได้ไปรายงานให้เจ้าของร้านแล้วเจ้าของร้านจะได้ไปบอกคุณพ่อ เราทานอาหารไปพักนึงครีมก็หยุดทานสงสัยจะทานไม่เป็น ผมเองก็สนุกพอแล้วก็เลยบอกให้เก็บจาน บริกรบอกว่าจะเอาของหวานมาเสริฟ์

                แป๊บนึงไฟที่โต๊ะที่เรานั่งหรี่ลงจนเหลือแต่แสงเทียนจากเชิงเทียนที่วางอยู่กลางโต๊ะ จากนั้นก็มีบริกรสามสี่คนเดินมาพร้อมกับถือเค็กที่ปักเทียนไว้ ทั้งสี่คนร้องประสานเสียงกันเป็นเพลงแฮบปี้เบิร์ดเดย์ ผมแอบเห็นครีมน้ำตาไหล จากนั้นบริกรวางเค็กไว้ที่ด้านหน้าครีมแล้วร้องเพลงต่อจนจบจากนั้นก็ให้ครีมเป่าเค็กอธิฐาน

                "อธิฐานขออะไรหรอ"
                ครีมหน้าแดง
                "อธิฐานอะไรทำไมต้องอายด้วยหละ หรือว่าขอให้มีแฟน"
                "เปล่าๆ นะ คือเราขอให้คุณแม่ของของเรา คุณแม่และคุณพ่อของบีน้อยมีความสุข"
                "นี่วันเกิดครีมนะ ทำไมขอพรให้แต่คนอื่นหละ"
                "ก็เรายังไม่รู้ว่าจะขออะไรนี่"
                "หรออืม"

                ทานเค็กเสร็จเราก็ออกจากร้าน ผมไม่กล้าให้ของขวัญที่แม่แนนซื้อให้ครีมในร้านอาหาร ผมรู้สึกเขินๆ เราสองคนออกจากร้านอาหารมาที่จอดรถ จากนั้นผมก็ขับรถกลับบ้านแต่ผมนึกได้ว่าต้องให้ของขวัญครีมก่อนที่จะเข้าบ้านไม่งั้นแม่แนนรู้โดนอัดแน่ๆ ผมเลยจอดรถที่ใต้ทางด่วนก่อนถึงบ้าน

                "จอดรถทำไมหรอบีน้อย"
                "ครีมบีมีอะไรจะให้"
                "อะไรหรอ"
                ผมหยิบกล่องกำมะหยี่ที่มีสร้อยอยู่ด้านในให้ครีม "สุขสันต์วันเกิดนะ"
ครีมรับไว้แล้วก็เปิดกล่องออกดู
"สวยจังเลย คงแพงมากใช่ไหม ครีมคงรับไว้ไม่ได้หรอก ขอบใจบีน้อยมากนะ"
                "ไม่หรอกน่า แค่ไม่กี่พัน อย่าคิดมากเลยมาเราใส่ให้นะ"
                ผมรีบใส่สร้อยให้ครีมเพื่อให้เธอยอมรับของขวัญ เพราะถ้าเธอไม่ยอมรับสร้อยนี้ไว้ความซวยมันก็คงตกมาที่ผมแน่ๆ
                "ครีมใส่แล้สวยมากเลยนะ"

                ครีมอายแก้มแดง เธอจ้องตาผมไม่กระพริบ อยู่ผมก็รู้สึกว่าริมฝีปากครีมน่าจูบมาก กลิ่นหอมจากร่างกายครีมที่โชยมาเตะจมูกทำเอาผมรู้สึกปั่นป่วน ผมพยายามห้ามใจแต่สุดท้ายผมก็ทนไหมไหว ผมค่อยเลื่อนหน้าเข้าไปหาครีม ครีมตกใจแต่ก็ไม่ได้ขยับหนี

                ครีมน่าจะรู้ว่าผมกำลังจะจูบเธอแต่เธอก็ไม่ได้ขยับหนี ผมหยุดริมฝีปากไว้ก่อนจะประกบกับริมฝีปากครีม สายตาครีมเหมือนสงสัยว่าทำไมผมถึงหยุด ในใจครึ่งนึงของผมบอกว่าอย่าผมไม่ได้รักครีมผมไม่ควรทำแบบนี้กับเธอ แต่อีกใจก็บอกว่าสาวสวยรอให้ผมจูบอยู่ตรงหน้าผมจะยอมเสียโอกาสนี้ไปได้ยังไง

                ในระหว่างที่ผมกำลังลังเล ครีมก็ยื่นริมฝีปากมาชนริมฝีปากผมแล้วถอนออก เธอรีบก้มหน้าอายไม่กล้ามองหน้าผมต่อ แต่ผมสิครับพอได้รับรู้ถึงรสจูบที่หอมหวนของครีมที่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากผมก็ทำห้ามใจตัวเองอีกต่อไปไม่ไหว ผมเชยค้างครีมให้เงยหน้าขึ้น

                จากนั้นผมก็ก้มลงประกบปากจูบเธอ ครีมปิดปากแน่นพร้อมกับทำตาโตเหมือนตกใจ แต่ผมหยุดไม่ได้แล้วผมพยายามดันลิ้นเข้าปากครีมจนเธอยอมเปิดปากรับ พอลิ้นผมเข้าไปในปากครีมได้ผมก็ควานลิ้นไปทั่ว ครีมตกใจผวากอดผมแน่น

                ผมปดปากจูบดูดความหวานจากในปากครีมจนเธอเริ่มหายใจแรงขึ้น ผมเองก็เริ่มอารมณ์ไอ้หนูผมเริ่มตื่นตัว ผมเริ่มดึงกระโปรงยาวของครีมขึ้นมาจนถึงหน้าขา ครีมตกใจจับมือผมไว้แต่เธอไม่มีแรงฝืน ผมค่อยเลื่อนมือไล้ขาอ่อนของเธอถึงไปจนใกล้ถึงหว่างขา

                มือผมหยุดอยู่ที่ขอบกางเกงในของครีม ผมคิดที่จะรูดมันออกเพื่อชมของรักของครีม ครีมกำมือที่จับมือผมแน่น เริ่มมีเสียงสะอื้อออกมาในลำคอ ผมตกใจลืมตาดูก็ว่ามีน้ำตาไหลอาบสองแก้มของครีม ผมรีบปล่อยมือที่กำลังจะรูดกางเกงในครีมผมกับผละปากแล้วถอยกลับออกมา

                ครีมร้องไห้สะอื้น ผมตกใจมาก ถ้าครีมไปบอกแม่ๆ หรือคุณพ่อผมตายแน่
                "ครีมบีขอโทษ บีไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ อย่าร้องไห้นะ"
                ครีมก็ยังสะอื้นไม่หยุด
                "เราขอโทษ เราคงกินแชมเปญกับไวน์มากไปเลยเป็นแบบนี้"
                ผมจับมือครีม "เออ คือครีมสวยมาก สวยจนบีอดใจไม่ไหวจริงๆ บีขอโทษนะ บีสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก"
                ครีมหยุดสะอื้นแล้วมองหน้าผม "บีน้อยเห็นเราสวยจริงๆ หรอ"
                "จริงซิ ถ้าเอาแว่นกับที่คาดผมออก ครีมสวยมากๆ เลย" ผมถอดแว่นตาของครีมออก
                ครีมหยุดร้องไห้ "ครีมสวยจริงๆ หรอ"
                "จริงซิ น้าหงส์ก็สวย แล้วลูกสาวน้าหงส์จะไม่สวยได้ยังไง"
                "แค่เราคงสวยสู้ฟ้าไม่ได้หรอก"
                "ไม่จริงหรอ ถ้าครีมแต่งหน้าทำผม ครีมสวยพอๆ กับฟ้านั่นแหละ"
                "บีน้อยอย่าพูดให้ครีมดีใจเลย ครีมรู้ตัวว่าครีมไม่สวย"
                "ถ้าครีมไม่สวยเราจะหน้ามือหรอ" ผมพยายามพูดตลกบรรยากาศดีขึ้น
                "ถ้าเราสวยจริง  ทำไมบีน้อยไม่เคยสนใจเราเลยหละ"
                ผมตกใจที่ครีมกำลังบอกว่าชอบผมทางอ้อม
                "คือ เออ คือเราเป็นพี่น้องกันนะ บีจะคิดแบบนั้นได้ยังไง"
                ครีมทำหน้าเหมือนผิดหวัง
                "สวยแบบครีมไม่ต้องกลัวไม่มีคนมาจีบหรอก แค่เลิกใส่แว่นแล้วปล่อยผมบ้างนะ ขนาดไอ้เจมันยังเคยพูดเลยว่าครีมสวย"
                "วันนี้ครีมยังไม่ได้อธิฐานขอพรให้ตัวเองเลย ครีมขออะไรบีน้อยอย่างนึงได้ไหม"
                "ได้ซิ ถ้าครีมสัญญาว่าจะไม่โกรธเราที่เราทำไปเมื่อกี่นะ"
                "ครีมสัญญา แต่บีน้อยก็ต้องสัญญานะว่าจะยอมทำตามที่เราขอ"
                "สัญญาซิ"
                "ช่วยแกล้งเป็นแฟนครีมได้ไหม แค่ตอนนี้ก็ได้"
                ผมตกใจมากที่ครีมขอแบบนี้ แต่ก็พยายามหาทางออก
                "วันนี้ทั้งวันเราก็เหมือนเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่หรอ ไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน"
                "งั้นบีน้อยจูบครีมอีกได้ไหม"
                "เออ ทำไมหละ มันไม่ดีหรอกนะ"
                "ไหนบีน้อยสัญญากับครีมแล้วไงว่าจะทำทุกอย่างที่ครีมขอ"
                "แต่จูบมันสำคัญนะ จะให้ใครมาจูบง่ายๆ แบบนี้ไม่ดีหรอก"
                "จูบมันคงสำคัญแค่ครั้งแรกเท่านั้นแหละ หลังจากนั้นจะเป็นใครมันก็ไม่สำคัญอีกแล้วหละ บีน้อยได้จูบแรกครีมไปแล้ว จูบอีกทีก็คงไม่เป็นไร"
                ผมก็ยังไม่กล้าเพราะกลัวจะยั้งอารมณ์ไม่ให้เลยเถิดไม่ไหว แต่ครีมก็จับมือผมแล้วเอาไปแตะที่หน้าอกด้านซ้ายของเธอ
                "ครีมอยากให้บีน้อยรับรู้ความรู้สึกจากหัวใจของครีม"

                ตอนนี้ผมไม่รู้สึกถึงหัวใจ แต่รู้สึกถึงหน้าอกอวบแน่นมากกว่าซิครับ ผมเริ่มจะหน้ามืดอีกครั้ง ผมอยากจะกำมือขย้ำอกของครีมที่ผมสัมผัสอยู่ ผมเริ่มหูอื้อตาลายจนไม่ได้ยินที่ครีมพูดแล้ว ผมทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ผมก้มลงประกบปากจูบครีม

                ครีมเผยอริมฝีปากให้ลิ้นผมเข้าไปควานในปากของเธอ ผมเริ่มกำมือขย้ำหน้าอกด้านซ้ายของครีมไปด้วย ครีมสะดุ้งกอดผมแน่น คราวนี้ผมจูบหนักหน่วงมากว่าครั้งแรกทำเอาครีมหมดแรงที่จะทรงตัวนั่ง ผมดันเธอเอนหลังพิงเบาะแล้วปรับให้มันเอนลง

                ผมข้ามไปคล่อมตัวครีมไว้แล้วเริ่มพยายามปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอออกช้าๆ ไม่ให้เธอตกใจ ผมค่อยๆ แกะกระดุ้มชุดเดรสเธอออกจนหมดแล้วดึงมันลงมาช้าๆ ครีมจับมือ

Moni Rute


Jonah MTS

ในที่สุดครีมก็เสร็จบีจนได้

Tiger3745

อ่านกี่ครั้งก็สนุก ติดตามมาตลอด

ekalos

แต่เหมือนเนื้อเรื่องขาดหหายไปเยอะเหมือนกันนะครับ