ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_darky

สโนว์ไวท์กับคนแคระ..ควยใหญ่..ทั้งเจ็ด  2

เริ่มโดย darky, พฤษภาคม 17, 2011, 01:05:09 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

darky

รุ่ง เช้าวันต่อมา...เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ตื่นจากบรรทมก็พบว่า พระองค์นั้นอยู่ท่ามกลางป่าใหญ่ ไร้ผู้คน... ต้นไม้ทุกต้นดูทะมึนทึนทึกราวกับอสูรกาย เสียงกู่ร้องของสัตว์ป่าดังระงมเซ่งแซ่อยู่รอบตัวเหมือนจะขับไล่ไสส่ง พระองค์..แต่ด้วยแรงใจที่สู้ชีวิต เจ้าหญิงผู้เลอโฉมกลั้นใจมุ่งหน้าออกเดินทาง ด้วยหวังว่า คงจะมีสักที่หนึ่งที่เธอสามารถพักผิงพึ่งอาศัยได้...จนกระทั่งบ่ายคล้อย พระองค์ก็ทรงพบกับกระท่อมหลังเล็กๆ กลางป่าหลังหนึ่ง
บ้านหลังนั้นดู เหมือนบ้านร้าง ไม่มีวี่แววว่ามีคนอาศัยอยู่ ..เมื่อเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทรงถือวิสาสะเข้าไปในบ้านหลังนั้น พระองค์ก็พบว่า มีร่องรอยการอาศัยอยู่ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในบ้านหลังนั้นดูสกปรกเกินจะบรรยาย และขนาดก็เล็กเกินไปสำหรับพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ..เหมือนกับว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านตุ๊กตา เป็นบ้านของเด็กตัวเล็กๆ มากกว่า
"โอ้...ช่างน่ารักจริงๆ...เจ้าของบ้าน หลังนี้คงจะเป็นเด็กน้อยที่ซุกซนแน่ๆ เชียว...พวกเขาคงขาดคนดูแล..ดูซิ..มีทั้งฝุ่น ทั้งหยากไย่ใยแมงมุมเกาะเต็มไปหมด..แถมจานชามก็ไม่ยอมล้าง"
เจ้าหญิงจึง ทรงทำความสะอาดบ้านเรือน และทำอาหารเอาไว้ เผื่อว่าเจ้าของกระท่อมจะเห็นใจและให้พระองค์พักด้วย...ตกเย็น เจ้าของบ้านหลังนี้ก็ยังไม่กลับมา...เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทรงรู้สึกเหน็ด เหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน พระองค์จึงขึ้นไปสำรวจยังชั้นบน ที่นั่นพระองค์ทรงพบเตียงเล็กๆ เจ็ดเตียงมีชื่อสลักไว้
"ลัสตี้ กรัทโทนี่ อวาไลซี่ สลอธตี้ ราทตี้ เอ็นวี่ และวานิตี้...โอ้..ใครกันนะที่ตั้งชื่ออันแสนประหลาดนี้ให้กับพวกเขา" เจ้าหญิงสโนว์ไวท์อุทานออกมาด้วยความแปลกใจ ด้วยชื่อที่สลักบนเตียงนอนแต่ละเตียงนั้นเป็นชื่อเรียกของบาปเจ็ดประการ อันได้แค่ ราคะ ตะกละ โลภ เกียจคร้าน โทสะ ริษยา และยโส
แต่เจ้าหญิงทรง เหน็ดเหนื่อยเกินไป จึงไม่ได้ใส่พระทัย ..พระองค์นำเตียงเล็กๆ ทั้งเจ็ดเตียงมาต่อกัน แล้วล้มตัวนอน และหลับสนิทไปด้วยความอ่อนเพลีย

ครั้นพระ อาทิตย์ตกดิน..เจ้าของกระท่อมร่างเล็กทั้งเจ็ดคนก็กลับมา แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ เหมือนที่เจ้าหญิงสโนว์ไวท์คาดคิดเอาไว้ แต่พวกเขาคือคนแคระทั้งเจ็ด พวกเขาเพิ่งกลับมาจากการทำเหมืองในหุบเขาใกล้ๆ นี้เอง...เมื่อมาถึงบ้าน คนแคระทั้งเจ็ดก็ตกใจที่เห็นบ้านช่องสะอาดตา ข้าวของเครื่องใช้ที่เคยวางระเกะระกะก็ถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบ อีกทั้งบนโต๊ะก็มีอาหารที่ปรุงเสร็จวางทิ้งเอาไว้...
"ต้องมีคนเข้า มา...เอ่อ...เข้ามาอยู่ในบ้านของพวกเราอย่างแน่นอน...เอ่อ...พวกเรา...ช่วย กันหาเถอะ" คนแคระหนวดเคราเฟิ้มที่ดูเหมือนเป็นผู้นำพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก
"ใช่..พวกเราช่วยกันตามหาเถอะ" คนแคระอีกคนหนึ่งแสดงอาการฉุนเฉียว กล่าวเสริมขึ้น
คน แคระทั้งเจ็ดต่างพากันออกตามหาคนแปลกหน้าที่เข้ามาทำความสะอาดและจัดเตรียม อาหารไว้ เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องนอน พวกเขาก็พบกับหญิงสาวแสนสวย ร่างอรชร นอนหลับอยู่บนเตียงของพวกเขา ..คนแคระทั้งเจ็ดต่างพากันรุมห้อมล้อมเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ซึ่งนอนหลับอุตุอยู่ บนเตียงของพวกเขาเอาไว้ พวกเขาหันหน้ามองซึ่งกันและกัน ต่างซุบซิบพูดจากันว่า เธอเป็นใครกันหนอ? ทำไมถึงสวยงามชวนมองอย่างนี้?

เจ้า หญิงสโนว์ไวท์รู้สึกตัวตื่นขึ้นจากเสียงคุยซุบซิบ ครั้นเห็นเหล่าบรรดาคนแคระเจ็ดตนรุมล้อมเธออยู่ เธอก็ตกใจมาก ด้วยแววตาของคนแคระแต่ละตนนั้นดูหื่นไม่ผิดจากแววตาของมอนตี้ไม่มีผิด
"ไม่ ต้องกลัวสาวน้อย...เอ่อ.. พวกเรา...เอ่อ...ไม่ทำอะไรเธอหรอก...เอ่อ...ว่าแต่เธอเถอะ เป็นใครมาจากไหน?" หัวหน้าคนแคระ พูดปลอบใจหญิงสาวตรงหน้าไม่ให้ตกใจกลัว
"ใช่ ...เธอเป็นใคร? มาจากไหน? มาที่นี่ได้ยังไง?.." คนแคระที่มีหน้าตาขึงขัง ราวกับโกรธใครมาเป็นร้อยปี กล่าวซักถามเจ้าหญิงราวกับเธอเป็นนักโทษ
"ฉันคือ เจ้าหญิงสโนว์ไวท์"
"เธอ คือเจ้าหญิง ??" เหล่าบรรดาคนแคระต่างทำเสียงเอ็ดตะโร พวกเขาทั้งเจ็ดตนไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จะมีเจ้าหญิงเสด็จมาถึงบ้านของพวกเขา แถมยังนอนบนเตียงของพวกเขาอีกด้วย
"ใช่แล้วจ๊ะ...ฉันคือเจ้าหญิงสโน ว์ไวท์ ฉันถูกพระนางแอนนา พระมารดาเลี้ยงของฉันสั่งให้คนตามฆ่า โชคดีที่ฉันหนีได้ทัน... ตอนนี้ฉันไม่มีที่พึ่งที่ไหน ขอให้ฉันได้อาศัยอยู่ด้วยคนนะจ๊ะ"

เหล่าบรรดาคนแคระเมื่อได้ฟังคำ บอกเล่าของเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ ก็ทำสีหน้าอ่อนลง และต่างก็รู้สึกสงสารเจ้าหญิงเป็นอันมาก อีกทั้งพวกเขาก็รู้สึกชื่นชอบในความสวยใสของเจ้าหญิง เหมือนกับพวกผู้เฒ่าหัวงูทั้งหลายที่หมายจะเคี้ยวหญ้าอ่อน...เหล่าคนแคระ ทั้งเจ็ดวิ่งปราดไปที่มุมห้อง จับกลุ่มล้อมเป็นวง สุมหัวปรึกษาหารือกันถึงคำขอของพระองค์ ส่งเสียงดังซุบๆ ซิบๆ ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ บางครั้งก็ชะโงกหน้าขึ้นมา เหลียวหันมามองเจ้าหญิงสโนว์ไวท์เป็นระยะๆ ..จนในที่สุด เหล่าคนแคระทั้งเจ็ดตนก็ได้ข้อสรุป พวกเขาวิ่งกลับมาห้อมล้อมเจ้าหญิงเอาไว้เช่นเดิม
"พวกเราทั้งเจ็ดคนได้ คุยกันแล้ว... เจ้าหญิง...เอ่อ...จะอยู่กับพวกเราก็ได้ ...เอ่อ...แต่พวกเราทั้งเจ็ดคนมีข้อแม้...." หัวหน้าคนแคระที่มักพูดติดอ่างเป็นประจำ บอกข้อสรุปของพวกเขาให้เจ้าหญิงฟัง
"ว่ามาเลยจ๊ะ ฉันยินดีรับฟัง" เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ตอบรับ
"ข้อที่หนี่ ง เจ้าหญิงจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของพวกเราทุกคน ห้ามขัดขืน ห้ามโต้แย้ง" คนแคระตัวเตี้ยที่สุด แต่มีจมูกโตที่สุด กล่าวนำขึ้นมาก่อน
"ข้อที่สอง เจ้าหญิงจะต้องทำงานบ้าน และทำอาหารให้พวกเรากิน" คนแคระหุ่นอ้วนท้วนที่มีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา บอกข้อแม้ข้อที่สอง
"ข้อสุดท้าย เป็นข้อที่สำคัญที่สุด... ทุกๆ คืน เจ้าหญิงจะต้องจูบพวกเราทั้งเจ็ดคนก่อนเข้านอน" คนแคระที่ทั้งผอมทั้งสูง แจ้งข้อแม้ข้อสุดท้ายออกมา
"โอ้..." เจ้าหญิงสโนว์ไวท์อุทานออกมาอย่างตกพระทัย พระองค์ไม่คาดคิดเลยว่า ข้อแม้ข้อสุดท้ายของเหล่าคนแคระก็คือ พวกเขาต้องการให้พระองค์จุมพิตพวกเขาก่อนเข้านอนทุกคืน ราวกับเด็กตัวเล็กๆ ที่ต้องการความอบอุ่น..สองข้อแม้แรก ถึงพวกเขาไม่ขอ เจ้าหญิงก็คิดว่าพระองค์ก็จะทำให้อยู่แล้ว เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของพวกเขา แต่ข้อแม้ข้อที่สามนั่นซิ เป็นปัญหา..พระองค์รู้สึกกระดากใจยังไงพิกลที่จะต้องจุมพิตพวกเขาก่อนนอน เพราะพวกเขาหาใช่เด็กตัวเล็กๆ ไม่ ดูหน้าตาของแต่ละคนนั้นก็สูงวัย แถมยังไว้หนวดไว้เครารุงรังอีกต่างหาก
"ถ้าเจ้าหญิงลำบากใจ ทำไม่ได้.. ก็ไม่เป็นไร... เพียงแต่..." คนแคระคนเดิมที่บอกข้อแม้ที่สามกล่าวอย่างช้าๆ เขาพูดค้างไว้เพียงแค่นั้น..เหมือนจะบอกกลายๆ ว่า ถ้าเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ไม่ยอมทำตามที่พวกเขาขอ พวกเขาก็จะไม่ยอมให้พระองค์พำนักพักพิงอยู่ที่นี่...
"ได้จ๊ะ...ฉันตกลงจ๊ะ..." เจ้าหญิงสโนว์ไวท์รีบตอบตกลง ด้วยเกรงว่าจะถูกพวกคนแคระขับไล่...
"ฉันยินดีที่จะจุมพิตพวกเธอทุกคนก่อนนอน" เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ยืนยันเสียงหนักแน่น...

เจ้า หญิงสโนว์ไวท์ทรงวางพระทัยในตัวเหล่าคนแคระทั้งเจ็ด ด้วยเห็นว่าพวกเขาเหล่านั้นดูน่ารัก ไม่มีพิษมีภัย นิสัยก็ออกจะซุกซนเหมือนเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่พระองค์หารู้ไม่ว่า พวกคนแคระทั้งเจ็ดตนนี้ ถึงจะตัวเล็กก็เล็กเพียงแต่ตัวเท่านั้น แต่อย่างอื่นไม่ได้เล็กตามตัวไปด้วย
เหล่าบรรดาคนแคระทั้งเจ็ดตนยิ้ม อย่างดีใจ ร้องรำทำเพลง เต้นรำไปรอบๆ ตัวเจ้าหญิงสโนว์ไวท์อย่างสนุกสนาน แต่ถ้าสังเกตสายตาของพวกเขาที่จ้องมองเจ้าหญิงผู้เลอโฉมให้ดีจะเห็นได้ว่า มันฉายแววลิงโลด ดีใจ ไม่แตกต่างไปจากแววตาของมอนตี้นายพรานจอมหื่นแม้แต่น้อย ...โอ้..นี่เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทรงหนีเสือปะจระเข้เสียแล้วหรือนี่...

"พวก เธอทั้งเจ็ดคนก็ได้รู้จักฉันแล้ว แต่ฉันยังไม่รู้จักพวกเธอทุกคนเลย...ไม่ทราบว่าพวกเธอจะแนะนำตัวเองให้ฉัน ได้รู้จักหรือไม่?" เจ้าหญิงสโนว์ไวท์สอบถามเหล่าคนแคระทั้งเจ็ดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
"โอ้...ต้องขอประทานอภัย ...เอ่อ...ที่พวกเรา...เอ่อ...ลืมแนะนำตัวเอง ..ข้าชื่อ วานิตี้..."
คน แคระที่มีหนวดเคราเฟิ้ม ดูอาวุโสสุด แต่ชอบพูดติดอ่าง แนะนำตัวเองเป็นคนแรกเขา ชื่อของเขา คือ 'วานิตี้' มีความหมายว่า ความยโส... คนที่สองหุ่นผอมสูง ดูอารมณ์ดี ชื่อ 'เอ็นวี่' มีความหมายว่า ความริษยา... คนที่สามหน้าตาดุ หุ่นบึกบึน แถมหัวล้านเลี่ยนเตียนโล่ง ชื่อ 'ราทตี้' มีความหมายว่า ความโกรธ.... คนที่สี่ดูซึมเซา ทำท่าง่วงตลอดเวลา ชื่อ 'สลอธตี้' มีความหมายว่า ความเกียจคร้าน... คนที่ห้ามักจามเสียงดัง ชื่อ 'อวาไลซี่' มีความหมายว่า ความโลภ... คนที่หกหุ่นอ้วนท้วน หน้าตายิ้มแย้มตลอดเวลา ชื่อ 'กรัทโทนี่' มีความหมายว่า ความตะกละ และคนสุดท้ายตัวเล็กที่สุด แต่มีจมูกโตที่สุด ชื่อ 'ลัสตี้' มีความหมายว่า ความกำหนัด
"ฉันยินดีที่ได้รู้จักพวกเธอทุกๆ คนจ๊ะ..." เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ย่อตัว ผงกศีรษะทักทายคนแคระทุกคน

หลัง จากที่แนะนำตัวเองจนครบหมดทุกคนแล้ว..พวกเขาก็ชวนเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ลงมาทาน อาหาร..เหล่าคนแคระรับประทานอาหารที่เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ได้เตรียมทำไว้ให้ แล้วอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อพวกเขารับประทานอาหารจนอิ่มหนำสำราญ เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ก็ร้องเพลงขับกล่อมที่หน้าเตาผิง พร้อมกับชักชวนพวกเขาทั้งเจ็ดให้เต้นรำ...คนแคระทั้งเจ็ดต่างพึงพอใจเป็นที่ สุด นานเท่าไหร่แล้วที่พวกเขาไม่ได้สนุกสนานเช่นนี้...

"โอ้...นี่ก็ ดึกมากแล้ว...ฉันคิดว่า วันนี้เราสนุกกันเพียงแค่นี้เถิด..." เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทรงร้องเพลง และเต้นรำจนรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ด้วยพวกคนแคระทั้งเจ็ดตนนั้นต่างผลัดกันชวนพระองค์เต้นรำ ไม่ยอมให้พระองค์ได้พัก
"ก็ดีเหมือนกัน..พวกเราก็อยากจะนอนแล้วเหมือน กัน..." คนแคระทั้งเจ็ดตนพูดออกมาพร้อมๆ กัน ..สายตาทั้งเจ็ดคู่จ้องมองไปที่เจ้าหญิงสโนว์ไวท์อย่างไม่วางตา เหมือนตั้งใจจะมองให้ทะลุเสื้อผ้าเข้าไปอย่างไงอย่างงั้น
"ถ้าอย่างนั้น..ก็ราตรีสวัสดิ์จ๊ะ"
"เจ้าหญิง...พระองค์ทรงลืมอะไรไปหรือปล่าว?..." ลัสตี้เอ่ยทัก
"อะไรหรือจ๊ะ?..." เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทำหน้างุนงง เพราะไม่ทราบว่าพระองค์นั้นลืมอะไร ตามที่คนแคระลัสตี้เอ่ยทัก
"ก็สัญญาข้อที่สามไงละ..พระองค์สัญญาว่า จะจุมพิตพวกเราก่อนนอนทุกคืน"
"โอ้...ฉัน ขอโทษด้วยจ๊ะ...ฉันลืมไปเสียสนิทเลย...เอ้า..ใครจะเป็นคนแรกจ๊ะ..." เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ตบอกตัวเองเบาๆ พระองค์ลืมสัญญาข้อนี้ไปเสียสนิท...พระองค์จึงทรุดพระวรกายนั่งบนเก้าอี้ แล้วออกปากเชิญ...

คนแคระทั้งเจ็ดตนเรียงแถวตามลำดับอาวุโส โดยมี วานิตี้ ผู้อาวุโสสุดอยู่ด้านหน้า ตามด้วย เอ็นวี่ , ราทตี้ , สลอธตี้ , อวาไลซี่ , กรัทโทนี่ และปิดท้ายด้วย ลัสตี้ ...เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทรงจุมพิตลงบนหน้าผากของเหล่าคนแคระทีละคน จนถึงคนสุดท้าย ลัสตี้...
ลัสตี้บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เจ้าหญิงสโนวไวท์ จุมพิตที่หน้าผาก แต่เขากลับใช้นิ้วชี้จิ้มลงบนริมฝีปากอันหยาบกร้านของตนเอง เหมือนจะบ่งบอกว่า เขาต้องการให้เจ้าหญิงจุมพิตที่ตรงนี้...เจ้าหญิงสโนว์ไวท์สั่นศีรษะปฏิเสธ พระองค์ทรงใช้นิ้วชี้จิ้มตรงแก้มของพระองค์เอง เหมือนจะบอกว่า พระองค์จะจุมพิตที่แก้มให้แทน แต่คนแคระตัวน้อยก็ส่ายหน้าไปมา และยังคงใช้นิ้วชี้จิ้มที่ริมฝีปากของตนเอง ยืนกรานให้เจ้าหญิงจุมพิตเขาที่ริมฝีปากเท่านั้น
"ก็ได้จ๊ะ..ครั้งนี้แค่ ครั้งเดียวนะ.." เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทรงกล่าวตัดบท ด้วยพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อย อยากจะเข้าบรรทมเสียโดยเร็ว...พระองค์จึงตัดใจจำยอมจุมพิตตำแหน่งตามที่ลัส ตี้ต้องการ

เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ก้มหน้าลงไปจนชิดใบหน้าของลัส ตี้...พระองค์รู้สึกได้ถึงลมหายใจอันร้อนผ่าวของเขาที่เป่ารดใส่ใบหน้า... พระองค์รู้สึกแปลกๆ อย่างไรพิกล หัวใจเต้นแรงถี่เร็ว เต้านมคัดตึงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ...เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ไม่คาดคิดเลยว่า การใกล้ชิดกับลัสตี้จะทำให้พระองค์รู้สึกตื่นเต้นถึงเพียงนี้มาก่อน ..แล้วทำไมก่อนหน้านั้น ตอนที่จับลำควยของมอนตี้ ทำไมถึงไม่รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจดังเช่นขณะนี้...เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ไม่เข้าใจ ในอาการของตนเองจริงๆ ..หรือว่าพระองค์จะเหน็ดเหนื่อยเกินไป...
เจ้าหญิง ผู้เลอโฉมเลิกใส่พระทัยในอาการซ่านเสียวที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทัน ด่วน..รีบๆ ทำให้เสร็จไวๆ ดีกว่า จะได้ขึ้นไปนอกพักเสียที...พระองค์จึงรีบจุมพิตตรงริมฝีปากของลัสตี้เบาๆ...
ใน วินาทีที่ริมฝีปากอันแดงสดของเจ้าหญิงสโนว์ไวท์สัมผัสกับริมฝีปากอันหยาบ กร้านของคนแคระลัสตี้..สติของพระองค์ก็หลุดลอย...เจ้าหญิงรู้สึกเหมือนกับ ถูกไฟฟ้าแล่นช๊อตไปทั่วร่าง สมองมึนชา สว่างขาวโพลนไปหมด..ความทรงจำครั้งสุดท้าย ที่เจ้าหญิงสโนว์ไวท์พอจะจำได้ ก็คือ พระองค์ได้กลิ่นหอมแปลกๆ จากลมหายของลัสตี้ และพระองค์ก็เผลอสูดดมมันเข้าไปจนเต็มปอด...

   กดให้ด้วย ถ้าถูกใจ