ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ก้อย season 2 ep 17 By ukisa

เริ่มโดย godgod610, สิงหาคม 02, 2011, 10:44:29 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

godgod610

ผมกับก้อยออกจากโรงแรมในตอนเช้า ถึงก้อยจะเดินกอดแขนผมออกมาที่รถแท๊กซี่ แต่เราก็ยังแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลยตั้งแต่เมื่อคืน ก้อยทำแบบนี้ผมยิ่งอึดอัดมากกว่าเดิม เหมือนเธอกำลังจะทำแบบนี้กับผมเป็นการสั่งลาครั้งสุดท้าย เรากลับไปถึงโรงแรมที่กินซ่า

เอริกะอยู่ในห้องกับแนนดูเหมือนเมื่อคืนเธอจะค้างที่นี่ ก้อยขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบ ผมเองก็เปลี่ยนชุดเพราะยังใส่ชุดเดิมที่ใส่เมื่อวานอยู่ ผมมองหน้าเอริกะเธอทำหน้าตาเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่รู้เธอจะรู้สึกยังไงบ้างที่ต้องมาอยู่ระหว่างผมกับแฟนแบบนี้

ก้อยเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรา 4 คนก็ลงไปทานอาหารเช้าด้วยกัน ก้อยเอาใจผมด้วยการเป็นคนไปตักอาหารมาให้ผมทาน (เราทานอาหารบุฟเฟ่มือเช้าที่โรงแรม) ผมรู้สึกดีใจนะที่ก้อยเอาใจผม แต่อีกใจก็กำลังกลัวกับอาการขาดๆ เกินๆ ของเธอ ทานอาหารเสร็จเรากลับขึ้นไปบนห้อง แนนบอกว่าวันนี้เอริกะจะพาพวกเราไปช๊อปปิ้งซื้อของฝาก ผมเลยถือโอกาสฝากแนนซื้อของฝากให้ผมซัก 20 ชิ้น ผมจะได้เอากลับไปฝากน้องๆ ที่บริษัทฯ และน้องจูนและคนอื่นๆ ด้วย

"ทำไมถึงซื้อเยอะหละ ลูกน้องมีไม่ถึง 10 คนไม่ใช่หรอ" แนนสงสัยผม
"คนแผนกอื่นก็มี พี่นุ่นพี่ผึ้งอีก"
"ก็ยังไม่ถึง 15 คน" แนน
"เอาน่า เผื่อๆ ไว้ อ้อแล้วก็หาอะไรให้โอเน่ซังเราซักชิ้นนะ"
"รู้แล้วหละน่า ว่าแต่จะซื้ออะไรให้ดีน้า ซื้อของญี่ปุ่นให้คนญี่ปุ่นเนี่ย" แนน
"อะไรก็ได้ที่พี่เค้าพกติดตัวได้ สายคล้องโทรศัพท์ก็ได้"
"อืมก็ได้" แนน
"แล้วเราจะให้พี่เค้าพาไปซื้ออะไรวันนี้อย่าบอกนะว่าคิทตี้"
"ใช่ซิ มาญี่ปุ่นก็ต้องคิทตี้เท่านั้น" แนนหัวเราะ
"ก็ดีซื้อที่เดียวจะได้ไม่ต้องเดินกันเหนื่อย"

หลังจากนั่งพักกันประมาณ 20 นาที แนนก็เซ้าซี้ให้รีบไปซื้อของ พวกเราก็เลยต้องออกจากห้องแล้วพาแนนไปซื้อของตามที่เธอเซ้าซี้

เอริกะพาพวกเราไปที่ร้าน Kitty land ที่ฮาราจูกุ แนนตื่นเต้นมาเธอลากแขนก้อยกับเอริกะเข้าไปดูโน้นดูนี่ไปทั่ว ในร้านมีแต่ชาวต่างชาติเต็มไปหมด สงสัยคงเป็นที่ที่คนนิยมมาซื้อของที่ละรึกกัน ผมเดินดูอะไรไปเรื่อยเปื้อย สาวๆ ดูของซื้อของกันจนเกือบเที่ยง ผมเลยชวนไปทานข้าวเที่ยงกันก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้อต่อ แต่แนนงอแง้เลยต้องปล่อยให้ซื้อแนนซื้อของจนครบก่อนแล้วพวกเราจึงทานข้าวกัน เอริกะพาพวกเราไปทานบะหมี่ซึ่งคนแน่นมากด หลังจากทานเสร็จเอริกะก็พาพวกเราไปดูของตามร้านดังๆ ในฮาราจูกุ ก้อยกับแนนซื้อเสื้อผ้ากันคนละสองสามชุด เราเดินเที่ยวกันจนเย็นเอริกะก็บอกว่าเย็นนี้ซาโตชิกับยุ้ยจะมาเลี้ยงข้าวพวกผมเพราะวันงานแทบจะไม่ได้คุยกันเลย

หลังจากเดินกันจนเหนื่อยเอริกะก็พาพวกเรากลับไปโรงแรมเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนเอริกะก็ขอตัวกลับก่อน ซึ่งผมก็เห็นดีด้วยเพราะว่าถ้าเธอไปกับพวกผมเธอต้องไปทนหิวยืนดูพวกผมทานข้าวผมสงสารเธอ หกโมงครึ่งก็มีรถมารับพวกเราและพาไปยังภัทรคารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง พอเข้าไปในภัทรคารพนักงานก็พาเราไปยังห้องรับรองส่วนตัวหรูหร่าห้องหนึ่ง ด้านในซาโตชิกับยุ้ยมารออยู่แล้ว

"สวัสดีครับ ยูกิซัง วันนี้ไปช๊อปสนุก ไหมครับ" ซาโตชิ
"สนุกค่ะ" ก้อย
"สนุกมากค่ะ แนนซื้อของมาเยอะแยะเลย" แนน
"ผมขอแนะนำอีกครั้งแล้วกันนะครับซาโตชิ เพราะวันงานคุณยุ่งๆ อาจจะยังจำชื่อแฟนผมไม่ได้ คนนี้ ก้อย ส่วนคนนี้ แนน แล้วนี่ซาโตชิ เพื่อนผม แล้วนี่ภรรยาเค้าชื่อยุ้ยเป็นคนไทย"

ทั้งหมดทักทายกันตามมารยาท จากนั้นอาหารก็มาเสริฟ จากนั้นพวกเราก็คุยกัน

"อืม หนึ่งคน สองคน แล้วอีกคนไม่มาด้วย หรอครับ ยูกิซัง" ซาโตชิ
"เจนเค้าอยู่ออสเตเรียครับ ก็อยากชวนอยู่แต่กลัวเปลื่องเงินซาโตชิ แค่นี้ก็เสียเงินไปเยอะแล้ว"
"จะเกรงใจทำไมค่ะพี่บี ยุ้ยเป็นคนบอกให้ซาโตชิออกค่าใช้จ่ายให้ ลองไม่ยอมดูซิ" ยุ้ย
"จ้า กลัว แล้ว ครับ" ซาโตชิ
พวกเราหัวเราะพร้อมๆ กัน
"ผมเลยอดเห็นหน้าเจนเลยนะครับ ก้อยก็สวย แนนก็สวย เจนคงสวยมากเหมือนกันนะครับ" ซาโตชิ
"ดูนี่ก็ได้ค่ะ แนนมีรูป" แนนหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดรูปเจนที่เธอเซฟไว้ให้ซาโตชิดู
ผมคิดในใจแนนมีรูปเจนด้วย ผมเองเป็นแฟนเจนจังไม่มีรูปเธอเก็บเลย
"อืม สวยเหมือนคุณก้อย กับคุณแนนเลย น่าอิจฉายูกิซังนะครับ มีแฟนสวยตั้งสามคน" ซาโตชิ
"อิจฉาได้นะคุมะจัง แต่ถ้าคิดจะทำตาม ยุ้ยเอาตายแน่" ยุ้ย 
(คุมะ = หมี)
"ผมไม่กล้าหรอกครับ" โซโตชิ

พวกเราหัวเราะกันอีกครั้ง คืนนั้นเราคุยกันอย่างสนุกสนานซาโตชิขอโทษที่พรุ่งนี้คงไปส่งผมกลับกรุงเทพไม่ได้แต่เค้าจะให้เอริกะไปส่งแทน หลังจากทานอาหารกันเสร็จพวกเราก็ลำรากัน ซาโตชิบอกผมว่าต้องเชิญเค้าทุกงานแต่งงานที่ผมจัด แล้วถ้ามีโอกาสเค้าอาจจะไปประชุมที่กรุงเทพอีก ก่อนกลับซาโตชิกระซิบบอกผมว่าเค้าจะให้เอริกะไปกับเค้าด้วยถ้ามีโอกาสไปหาผมที่กรุงเทพฯ ผมขอบคุณซาโตชิที่รู้ใจผม

ระหว่างทางกลับแนนกับก้อยคุยกันตลอดทาง ใบหน้าก้อยดูมีความสุขมาก ถึงโรงแรมเราช่วยกันเก็บของเข้ากระเป๋า แนนแอบเอาสายห้อยโทรศัพท์ที่เป็นลูกหมาหูยาวสีขาวกับสีน้ำตาลคู่กัน (Cinnamoroll) ผมชอบมากมันน่ารักดีและก็มาเป็นคู่ด้วย เอริกะคงชอบและห้อยมันไว้ที่โทรศัพท์เธอ

"นี่แอบยิ้มอะไรเดี๋ยวฟ้องพี่ก้อยหรอก" แนน
"อย่าเชียวนะ พี่ก้อยเพิ่งหายโกรธพี่ แต่ยังไม่ยอมคุยกับพี่เลย"
"น่าเบื่อแทนพี่ก้อยนะมีแฟนเจ้าชู้" แนน
"ว่าแต่คนอื่นเราหละ เมื่อคืนชวนพี่สาวค้างด้วยรังแกพี่เค้าหรือเปล่า"
"เปล่านะ แต่พูดแล้วคอแห้งจัง อยากกินหน่มหน้มจัง" แนนหัวเราะคิกๆ
"ทะลึงนะ"

แนนวิ่งหนีไปก่อนที่ผมจะหยิกแขนเธอ สงสัยเอริกะเสร็จแนนซะแล้วแบบนี้ หลังจากจัดกระเป๋ากันเสร็จเราก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้านอนกัน แนนงอแงอีกรอบเพราะผมยังไม่พาเธอไปดูหิมะจริงๆ เลย แต่พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว ผมเลยต้องบอกว่าเอาไว้ค่อยไปดูที่ออสเตเรียกับเจนแล้วกัน ว่าแต่ออสเตเรียมันร้อน มันมีหิมะด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่มันก็ทำให้แนนเลิกงอแงไปได้ แล้วเราก็เข้านอนกัน ก้อยทำท่าจะมานอนตรงกลางเตียงเธอคงอยากให้ผมกอดอีก แต่แนนดันกระโดดมานอนตรงกลางเตียงแทนซะก่อน ทำให้ผมกับก้อยได้แต่มองหน้ากัน

"อะไรอะ นอนซิ แนนนอนกลางให้แล้วไง" แนน

ผมกับก้อยเลยต้องนอนคนละข้าง แนนหันไปกอดก้อย ผมไม่รู้จะทำไง จะปล้ำแนนกับก้อยพร้อมกันก็กลัวก้อยจะโกรธผมอีกที่ยังกล้าเอาคนอื่นต่อหน้าเธอทั้งๆ ที่เธอเพิ่งว่าผมว่าห่วงแต่เรื่องเซ็กเมื่อวาน ผมเลยต้องหันหน้ามาอีกด้านแล้วหลับตานอน

ผมกำลังจะเคลิมหลับก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกๆ เบาๆ สงสัยแนนกับก้อยยังไม่นอนคงกำลังคุยอะไรกันอยู่

"ไม่เอานะแนน" ก้อยพูดเสียงกระเซ่า
"เอานะพี่ก้อย ส่งท้ายก่อนกลับนะ" แนน
"อย่านะแนน เดี๋ยวพี่บีตื่น อุ้ยยย" ก้อย
"ตื่นก็ดีซิ แนนไม่ได้เอาแท่งส่วนตัวมาด้วย จะได้ให้พี่บีเสียบพี่ก้อยแทน" แนน
"ไม่เอาแนน พี่ไม่ไหวแล้ว" ก้อย
"แหมเมื่อกี้ยังทำท่าจะนอนข้างกันอยู่เลยแนนรู้นะ กะว่าแนนหลับคงสวีทกันอีกหละซิ" แนน
"เปล่าซะหน่อย โอ้ยยแนนไม่เอานะอย่าแหย่นิ้วซิ" ก้อย

ผมได้แต่นอนแข็งไปทั้งตัวฟังก้อยกับแนนคุยกัน ก้อยร้องอย่าๆ อยู่ซักพักก็เปลี่ยนไปส่งเสียงซูดปากเบาๆ แทน แนนคงปลุกอารมณ์ก้อยสำเร็จแล้ว ผมค่อยหันไปดูเห็นแนนกำลังก้มลงดูดหัวนมก้อยที่กำลังชูชันเต็มที่ สงสัยแนนจะหิวนมจริงๆ เมื่อคืนคงได้กินนมกล่องใหญ่เลยติดใจวันนี้เลยมากินนมรสช๊อกโกแล๊ตต่อ แนนกับก้อยไม่รู้ว่าผมหันกลับมามองพวกเธอแล้ว 

ภาพที่ผมเห็นคือก้อยกำลังอ้าขาให้แนนที่กำลังลูบมือขึ้นลงที่หว่างขาเธอ แนนเองก็โก้งโค้งทำก้นดุกดิ๊กไปมาพร้อมกับก้มลงดูดหน้าอกก้อยที่กำลังแข็งเต็มที่ ก้อยร้องครางอย่างมีความสุขที่โดนแนนลุกทั้งด้านบนด้านล่าง ซักพักแนนก็ถอดชุดนอนออก เธอไม่ได้ใช่ชั้นในเหมือนกับก้อย แนนแอ่นอกพร้อมกับโน้มตัวลงไปที่หน้าก้อย

"พี่ก้อยดูดให้แนนบ้าง" 

ก้อยกอดตัวแนนแล้วดึงเข้าหาก่อนจะงับหน้าอกแนนแล้วดูดเม้มเหมือนเด็กหิวนม แนนครางลั่นไม่กลัวว่าผมจะได้ยินเลย

"อู้ยยยย พี่ก้อย แนนเสียวค่ะ แนนแหย่เข้าไปแล้วนะพี่ก้อยจะได้เสียวบ้าง"

ก้อยได้แต่พยักหน้าเพราะนมแนนอยู่ในปากเธอ ผมเห็นแนนค่อยๆ ดันนิ้วสองนิ้วเข้าไปที่หว่างขาก้อยจนมิด ก้อยเองก็แอ่นเอวขึ้นรับจากนั้นก้อยก็เริ่มเด้งเอวสวนนิ้วแนนที่ชักเข้าออก แนนเองคงเริ่มมีอารมณ์อยากเหมือนกันเธอเริ่มขยับก้นขึ้นลงจังหวะเดียวกับก้อย จากนั้นแนนก็ยกอกออกแล้วเปลี่ยนไปแลกลิ้นกับก้อย จากนั้นแนนก็จับมือก้อยให้มาที่หว่างขาเธอบ้าง ก้อยลูบไปตามร่องสาวแนนสองสามที่ก่อนจะดันนิ้วเข้าไปจนมิด แนนสะดุ้งร้องเจ็บ

"อู้ยยย พี่ก้อยนี่ แกล้งแนนหรอ"

จากนั้นแนนก็ประกบปากกับก้อยเธอพร้อมทั้งชักนิ้วเข้าออกจากร่องก้อยอย่างเร็ว ก้อยเองก็ทำกับแนนแบบเดียวกัน ทั้งคู่ครางอืม อืม เหมือนกำลังเสียวสุด ผมเห็นน้ำรักทั้งคู่เอ่อออกมา พวกเธอคงพร้อมกับของจริงที่ผมจะดันมันเข้าไปแทนนิ้วแล้ว ผมรีบถอดกางเกงและเสื้อออก จากนั้นผมก็เข้าไปที่หว่างขาก้อย แนนเห็นเธอรีบดึงนิ้วออกทันที ผมรีบเสียบเอ็นเข้าไปแทนจนมิดด้าม ก้อยตัวกระตุกสะท้านกับความเสียวที่ได้รับ ผมเริ่มซอยเอว ก้อยผละปากจากแนนแล้วเริ่มร้องคราง แนนหันมาจูบปากผมแทน เธอแลกลิ้นกับผมไม่หยุด 

ผมเอื่อมมือไปขย้ำนหน้าอกคู่น้อยของแนน แนนบิดตัวเร่าๆ เพราะโดนผมขย้ำบนและก้อยใช้นิ้วแทงด้านล่างอยู่ ผมขย้ำหน้าอกแนนจนหน่ำใจผมก็เปลี่ยนเอามือข้างนึงไปบี้บแตดก้อยที่กำลังแข็งเต็มที่ ก้อยซูดปากลั่นพร้อมกับเด้งเอวสวนเอ็นผมอย่างแรง แนนจับมืออีกข้างของผมให้บี้แตดให้เธอบ้าง ผมบี้แตดแนนเล่นอย่างสนุกมือ แนนเด้งตัวไปมาปากก็ประกบกับผมแน่น แล้วก้อยก็ร้องโอ้ยยยยย แอ่นเอวกระตุก ผมหยุดให้ร่องสาวก้อยตอดจนเสร็จผมก็ดึงท่อนเอ็นออกดังผัวะก่อนจะจับแนนโก้งโค้งแล้วเสียบเอ็นเข้าไปมิดด้าน ขนอ่อนแนนลุกซู่ไปทั้งตัวตอนที่ปลายหัวบานผมกระทบมดลูกเธอ 

ผมจับเอวแนนไว้แล้วสาวเอวดัง ตับ ตับ ตับ แนนครางเสียงดังจนก้อยเข้ามาจูบปากเธอ ผมอัดเอ็นเข้าออกร่องสาวแนนจนก้นเธอกระเพื่อม ร่องสาวแนนตอดรัดอย่างแรงตลอดเวลาทำเอาผมเกือบน้ำแตกไปหลายครั้ง ผมเร่งจังหวะอันเอ็นใส่ พับ พับ พับ แล้วแนนก็ร้องกรี๊ดตัวกระตุก ผมหยุดกระแทกเธอปล่อยให้แนนบิดเอวไปมาตอบสนองความสุขที่ได้รับ 

จากนั้นแนนก็คลานไปด้านหน้าจนท่อนเอนผมหลุดจากร่องเธอ ก้อยรีบลุกขึ้นมาจับเอ็นผมแล้วอมมันเข้าไปมิดด้าม ผมเสียวซ่านจนต้องจับหัวเธอให้อมเบาลง พอแนนหายเสียวเธอก็คลานมาข้างๆ ก้อยแล้วแย่งก้อยอมของผม บ้าง แนนแย่งงับท่อนเอ็นผมตอนที่ก้อยกำลังใช้ปากรูดเอ็นผมขึ้น แล้วทั้งคู่ก็แบ่งกัน ก้อยดูดเลียหัวบานผม ส่วนแนนก็ลากลิ้นไปตามลำแท่งของผม ผมเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก ทำเอาผมทนไม่ไหวปล่อยมันกระฉูดใส่หน้าพวกเธอจนเลอะทั้งคู่ แนนกับก้อยหันมาเลียน้ำกามผมที่อยู่บนหน้าของกันและกันจนหมด แล้วกลับมาช่วยกันดูดเอ็นผมอีกครั้ง ผมเสียวจนแทบขาดใจตอนที่ก้อยกำเอ็นผมแน่นแล้วดูดรูฉี่ผม แนนหัวเราะชอบใจที่เห็นผมทำหน้าเสียว

เอ็นผมแข็งขึ้นอีกครั้ง ก้อยหยุดอมแล้วกลับตัวไปโก้งโค้งหันก้นมาหาผม แนนจับเอ็นผมไปจ่อที่รูก้นก้อยที่กำลังขมิบเข้าออก ก้อยหันมาส่ายหน้า

"ไม่เอาก้นนะ แนน" ก้อย

แต่มันสายเกินไป ผมดันเอ็นพรวดเข้าไปครึ่งลำ ก้อยร้องลั่น รูก้นก้อยบีบรัดแน่นจนผมดันเข้าไปต่อไม่ได้ แนนเข้ามาประกบด้านหลังผม เธอล้วงมาที่ไข่ผมแล้วคลึงเล่น ผมงี้เสียววูบไปหมด มันทำให้เอ็นผมยิ่งแข็งจนปวมเป่งเต็มที่ ผมทนความเสียวไม่ไหวเลยจับเอวก้อยแน่นแล้วดันเอ็นอีกครึ่งท่อนเข้าไปจนมิด ก้อยร้องอ้าลั่น จากนั้นผมก็เริ่มกระแทกเอวใส่รูก้นก้อย ก้อยครางซีดซาดสะบัดหัวไปมาไม่หยุด แนนขย้ำไข่ผมเร็วขึ้นเหมือนเร่งจังหวะ อีกมือนึงก็กำลังแยงนิ้วเข้าไปในร่องสาวก้อย 

แนนเอาหัวนมที่กำลังแข็งถูกับแผ่นหลังผมแล้วคลึ่งไปมาพร้อมกับซูดปาก มือนึงก็ขย้ำไข่ผมอีกมือก็แยงร่องสาวก้อยไปด้วย เราสามคนแข่งกันครางซีดซาดไม่หยุด แล้วผมก็เสียวจนทนไม่ไหวผมกระเด้าเอวรั่วใส่ก้อย ก้อยกำผ้าปูที่นอนแน่นอ้าปากค้างก่อนที่ผมจะอัดน้ำกามเข้าไปเต็มรูก้นเธอ ก้อยบิดตัวไปมารูก้นบีบรัดแน่น ก้อยถึงพร้อมๆ กันทั้งสองรู ผมรู้สึกได้ว่าแนนดันนิ้วกึกๆ ตามจังหวะที่ก้อยเกร็งตัว ผมเลยอัดเอ็นตามบ้าง ผมกับแนนสนุกกับการทำให้ก้อยครวนครางสุดเสียงก่อนจะฟุบลงไปนอนหายใจระรัว

ผมนอนทับตัวก้อยไว้โดนที่เอ็นยังคารูก้นเธอ แนนเข้ามากอดผมด้านหลังเธอลูบไข่ผมเล่นเบาทำเอามันเริ่มค่อยๆตื่นตัวขึ้นมา ก้อยครางเบาๆ ตอนที่เอ็นผมเริ่มตื่นอีกครั้ง แนนลูบไข่ผมจนเอ็นผมเข็งเต็มที่อีกครั้ง รูก้นก้อยก็เริ่มตอดรัดเบาๆ ผมเลยสาวเอวอีกครั้งด้วยท่านี้ ครั้งนี้มันลื่นขึ้นเพราะมีน้ำกามผมช่วย ผมเร่งกระเด้าเอวใส่ก้นก้อยจนเตียงเด้ง ส่วนก้อยไม่ต้องพูดถึงเธอคงเสียวแทบขาดใจ ก้อยซุกหน้ากับหมอนแน่นมือจิกผ้าปูที่นอนจนเกือบขาด ผมเร่งกระเด้าสุดตัวแล้วผมก็เสร็จอีกครั้ง ก้อยเงยหน้าขึ้นร้องลั่นสุดเสียง ผมเองก็แอ่นตัวอัดเอ็นเข้าไปสุดลำเหมือนกัน

แนนยังเล่นไข่ผมไม่เลิกทำเอาเอ็นผมมันไม่ยอมหดตัวลงเลย ก้อยดิ้นไปมาเธอคงเริ่มรู้สึกแน่นก้นอีก 

"ก้อยไม่ไหวแล้วเอาแนนบ้างเถอะค่ะ" ก้อย

ก้อยบอกแบบนี้ผมก็เลยดึงเอ็นออกจากรูก้นก้อย พอก้อยเป็นอิสระได้เธอก็รีบพลิกตัวหนี เธอคงกลัวแนนจะทำให้ผมเอาเธออีก  ผมจับแนนมานอนแผ่ตรงหน้าผม แนนหัวเราะที่แกล้งผมกับก้อยได้ ผมเลยกะเอาคืนบ้าง ผมทำเป็นจะดันเอ็นเข้าร่องสาวแนนแต่ดันมันต่ำลงมาเข้ารูก้นเธอแทน แนนร้องอู้ลั่น ก้อยหันมาหัวเราะแนนบ้าง ผมตั้งหน้าตั้งตากระเด้าเอวใส่แนนเหมือนที่ทำกับก้อย แนนได้แต่แหง่นหน้าร้องคราง ทำเอาก้อยหัวเราะไม่หยุด เนื่องจากผมถึงไปแล้วสองครั้ง ครั้งนี้เลยนานมาก ผมรู้สึกว่าแนนเสร็จไปหลายครั้งก่อนผมจะสุดอีกรอบ แนนแอ่นตัวเร่าๆ ตอนที่ผมอัดน้ำกามเข้ารูก้นเธอ ก้อยเข้ามากอดแนนแล้วพวกเธอก็แลกลิ้นกัน ผมอัดน้ำกามจนหมดตัวก่อนจะหมดแรงนอนลงข้าง สองสาวช่วยกันดูดเลียเอ็นผมจนสะอาด

จากนั้นผมก็นอนโดยมีสาวกอดคนละข้าง แนนชวนก้อยแกล้งผมด้วยการจับเอ็นผมที่หมดแล้วรูดเล่น แล้วมันก็ได้เรื่อง คืนนั้นผมกดเธอทั้งคู่ไปอีกหลายครั้งจนหมดแรง

ตอนเช้าเอริกะมารับพวกผมเพื่อพาไปสนามบินตั้งแต่ 6 โมงเช้า ผมสังเกตเห็นว่าตาของเอริกะดูช้ำๆ เมื่อคืนเธออาจจะนอนไม่หลับหรือไม่ก็ร้องไห้มาทั้งคืน ผมอยากเข้าไปกอดเธอเพื่อปลอบแต่ก็ทำไม่ได้ เอริกะพาพวกเราไปที่สนามบิน ระหว่างนั้นผมพยายามหาโอกาสคุยกับเอริกะแต่ก็ไม่มีจังหวะเลย จนกระทั้งพวกผมขึ้นตั๋วและฝากกระเป๋าเสร็จ พวกเราเข้ามายังส่วนผู้โดยสารขาออก เอริกะมีบัตรผ่านจึงตามพวกเราเข้ามาด้วย

"พี่ก้อย แนนอยากซื้อซ๊อคโกแลต" แนน
"เอาไว้ค่อยซื้อตอนถึงสุวรรณภูมิก็ได้นี่แนน ราคาไม่ต่างกันหรอก" ก้อย
"ไม่เอาแนนจะซื้อตอนนี้ แนนจะเอาไปกินบนเครื่อง" แนน
"อืมก็ได้จ๊ะ ปะพี่พาไปซื้อนะ" ก้อย
"พี่บีรอแป๊บนะ เดี๋ยวแนนมา" แนน

แล้วแนนก็พูดกับผมเบาๆ ไม่ให้ก้อยได้ยินว่า มีอะไรอยากพูดก็รีบๆ พูดซะก่อนจะหมดเวลา ผมรู้ทันทีว่าแนนกำลังดึงก้อยไปที่อื่นเพื่อให้ผมได้บอกลาเอริกะ

เอริกะลุกขึ้นจะเดินตามแนนกับก้อยไปแต่แนนห้ามไว้เธอจึงได้แต่ยืนมองแนนที่กำลังพาก้อยเดินไปยังร้านปลอดภาษี ผมลุกขึ้นหันไปหาเอริกะ ทันทีที่ไม่มีคนอื่นเอริกะก็เริ่มมีน้ำใสๆ ไหลออกจากตาทั้งสองข้าง ผมเข้าไปกอดเธอไว้

"ไม่เอาไม่ร้องไห้นะ"
"ค่ะ" เอริกะตอบทั้งๆ ยังสะอืออยู่
"ผมมีขอจะให้เอริกะ เอาผูกไว้กับโทรศัพท์นะ เอาไว้ดูเวลาคิดถึงผม"
ผมหยิบสายคล้องโทรศัพท์ Cinnamoroll ที่แนนเลือกมาให้ส่งให้เอริกะ เธอรับไว้แล้วก้มหน้าร้องไห้

"ก่อนที่ผมจะกลับไปประเทศของผม ผมมีอะไรอยากจะบอกเอริกะจังซักอย่าง แต่เอริกะจังต้องหยุดร้องไห้ก่อนนะ"
เอริกะหยุดร้องไห้แล้วเงยหน้ามองผม ผมจับไหล่เธอไว้
"มันอาจจะเป็นคำพูดชุยๆ ของผู้ชายหลายใจคนนึง แต่ผมก็รู้สึกกับเอริกะจังแบบนี้จริงๆ"
"อะนะตะ โนะโคะโตะ งะซึคิเดส เอริกะจัง"
เอริกะร้องไห้โฮพร้อมกับกอดผม
"เอริกะก็รักยูกิซังค่ะ" เอริกะ

พอเอริกะจังร้องไห้โฮแบบนี้ผมเองก็เริ่มน้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน ผมลูบหัวเธอเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ

"ขอโทษนะเอริกะจัง ที่ผมทำให้เรื่องระหว่างเรามันจบดีกว่านี้ไม่ได้ แต่ผมสัญญานะว่าวันนึงผมจะกลับมาที่นี่อีก และคนแรกที่ผมจะไปหาก็คือคุณ"
"สัญญานะค่ะ" เอริกะ
"ผมสัญญา"

เรายืนกอดกันโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง จนกระทั้งได้ยินเสียงแนนแววมาแต่ไกล ผมกับเอริกะก็แยกจากกัน เอริกะรีบเช็ดน้ำตา เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วใส่สายคล้องที่ผมซื้อให้ทันที 

"มาแล้วนี่ของโอเน่ซังนะ" แนนยื่นกล่องช๊อคโกแล็ตให้เอริกะ
"ขอบคุณค่ะ" เอริกะ

แล้วก็ถึงเวลาที่ผมต้องไปขึ้นเครื่อง แนนเข้าไปกอดเอริกะแล้วพูดอะไรกันไม่รู้สองคนก่อนที่จะปล่อยเอริกะ พวกเราเดินเข้าไปยังเทอร์มินอลเพื่อขึ้นรถที่จะพาไปขึ้นเครื่อง ผมมองเอริกะอีกครั้ง เธอมองตอบมาที่ผม แนนโบกมือลาเอริกะ ก้อยเองก็ยิ้มให้เอริกะ ผมรู้สึกใจหายที่ต้องกลับไปเมืองไทยโดยที่ต้องทิ้งให้เอริกะต้องอยู่คนเดียวที่นี่

ผมมองเอริกะจนลับตา ในใจได้แต่นึกขอโทษที่ทำให้เธอรักผมแต่กลับดูแลเธอไม่ได้ 

แล้วผมก็กลับมาถึงกรุงเทพฯ ก้อยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิด ทันทีที่เครื่องติดก็มีเสียงข้อความดังขึ้นหลายครั้ง ก้อยมีสีหน้าไม่ปรกติเธอขอตัวแยกกลับไปคนเดียว พอเธอเดินจากไปผมก็เห็นเธอรีบกดโทรทันที ผมได้แต่ยืนมอง นี่หละที่ผมกลัว มันกำลังจะเกิดขึ้นอย่างที่ผมคิดจริงๆ การที่ก้อยกลับมาดีกับผมที่ญี่ปุ่นมันคือการที่เราจะมีความสุขด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย

ผมกับแนนขึ้นแท๊กซี่กลับคนโด แนนไม่ถามอะไรผมเธอคงรู้ว่าผมกำลังกลุ้มใจทั้งเรื่องเอริกะและเรื่องก้อย ไปถึงคอนโดแนนก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนหลับไป เธอคงเหนื่อยจากการเดินทาง ระหว่างนั้นจูนโทรมาหาผมพอดีผมรับสายแต่เธอนิ่งเงียบ

"เป็นอะไรหรือเปล่าครับน้องจูนทำไมไม่พูดหละ"
"พี่บีไม่อยากเจอจูนแล้วหรือเปล่าค่ะ" จูน
"ทำไมพูดแบบนั้นหละครับ"
"ก็จูนโทรหาพี่ไม่ได้เลยทั้งอาทิตย์" จูน
"อ้อพี่ขอโทษนะ พี่ไปทำงานต่างประเทศมานี่มีของฝากจูนด้วยนะ"
"งั้นหรือค่ะ จูนนึกว่าพี่ไม่อยากรับสายจูนแล้ว จูนขอโทษนะค่ะที่ถามแบบนั้นออกไป" จูน
"ไม่เป็นไรหรอก พี่มีขอฝากจูนด้วยนะ"
"จริงหรอค่ะ พี่ว่างมาหาจูนไหมค่ะ" จูน
"อืม ได้ซิ" ผมคิดว่าแนนคงเหนื่อยจนไม่สนใจว่าผมจะไปไหน
"แต่ว่าคงได้แค่เจอนะค่ะ เพราะวันนี้พ่อแม่จูนมาหาพี่คงอยู่ที่ห้องไม่ได้" จูน
"ไม่เป็นไรจ๊ะ แค่เจอจูนพี่ก็ดีใจแล้ว"
"ค่ะงั้นเดี๋ยวเราเจอกันที่มหาลัยจูนนะค่ะ" จูน
"ได้ครับ"

ผมวางสายแล้วเข้าไปปลุกแนนถามว่าของฝากที่ผมฝากให้ซื้ออยู่ไหน จากนั้นผมก็บอกเธอว่าผมจะไปธุระแล้วจะซื้อข้าวเย็นเข้ามาเองแนนไม่ต้องตื่นไปซื้อที่ตลาด แนนเข้าใจหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะเธอดูงัวเงียมาก พอผมเจอถุงใส่ของฝากผมก็แกะดูส่วนใหญ่เป็นเครื่องเขียนแบบครบชุดแต่รูปแบบแตกต่างกัน ผมเลือกมาอันนึงแล้วก็ออกจากห้องเพื่อไปหาจูนที่มหาลัย

ผมไปรับจูนแล้วพาเธอไปส่งที่ห้องจูนชอบของฝากที่ผมให้เธอมาก 

"พี่บีไปญี่ปุ่นมาหรอค่ะ" จูน
"ใช่จ๊ะ"
"แหมเสียดายจัง จูนน่าจะรู้ก่อน จูนจะได้ฝากซื้อของด้วย" จูน
"ขอโทษทีนะพี่ยุ่งๆ เลยไม่ได้บอก"

ผมไปส่งจูนที่หอจากนั้นผมก็ไปที่ห้างเพื่อซื้อกับข้าวกลับบ้าน พอซื้อของเสร็จผมก็ยังเดินเล่นต่อเพราะยังมีเวลาอีกนานกว่าจะ 6 โมงเย็น แล้วผมก็เห็นภาพบาดตาบาดใจ

ก้อยกำลังเดินควงแขนกับผู้ชายคนนึง ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันเกินว่าเพื่อน ผมรู้สึกว่าหัวใจผมกำลังแตกสลาย หน้าผมชาไปหมด มือไรเรียวแรง ขาก้าวไม่ออกได้แต่ยืนนิ่งดูทั้งคู่ที่กำลังจะเดินผ่านหน้าผม  ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเดินผ่านหน้าผมก้อยบังเอิญหันมาเห็นผมพอดีเธอทำหน้าเจือนๆ ก่อนจะรีบดึงแขนผู้ชายคนนั้นเดินไปทางอื่น ผู้ชายคนนั้นเลยไม่เห็นว่าผมกำลังจ้องเขาอยู่

ผมมองดูทั้งคู่เดินหายไป แล้วก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ หูผมอือจนไม่ได้ยินเสียงรอบข้างตาผมก็เบรอจนมองอะไรไม่ชัด แต่ภาพในหัวผมกลับมีแต่ก้อยที่กำลังเดินควงแขนกับผู้ชายอื่นด้วยใบหน้าที่มีความสุข กว่าผมจะรู้สึกตัวผมก็ไม่รู้ว่าผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่ ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไง ผมไม่รู้ว่าผมควรจะโทรหาก้อยเพื่อถามว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครดีไหม แต่มันจะยิ่งทำให้เรื่องนี้เลวร้ายขึ้นหรือเปล่า หรือผมจะรีบวิ่งตามไปเพื่อก้อยกับผู้ชายคนนั้นยังอยู่ แล้วผมจะต่อยหน้ามันซักเปรี้ยงที่มาแย่งแฟนผม ระหว่างที่ผมคิดเท้าผมก็พาตัวผมมาถึงรถที่จอดรถ

ผมตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ผมจะลองคุยกับก้อยดีๆ อีกครั้งเพื่อถามเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เพราะวันนี้ผมคงมีแต่อารมณ์โกรธและควบคุมตัวเองไม่อยู่ถ้าถูกก้อยพูดไม่ดีใส่เหมือนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมขึ้นรถแล้วขับกลับไปที่คอนโด แนนตื่นมาดู TV รอผมอยู่แล้ว ผมวางของแล้วเข้าไปนั่งข้างๆ แนนแล้วโอบไหล่เธอไว้

"มีอะไรหรือเปล่าค่ะพี่บี ทำไมทำหน้าแบบนั้นหละ" แนน
"เปล่าไม่มีอะไร อืมม แนนถ้าสมมุติว่าต่อไปครอบครัวเราเหลือแค่ 3 คน แนนจะยังอยู่กับพี่ไหม"
"ทำไมหละค่ะ" แนน
"ไม่ทำไมหรอกพี่แค่อยากรู้" 
"ถ้าใครเค้าไม่อยากอยู่กับเรา เราก็บ่อยเค้าไปเถอะค่ะ" แนน
"อย่างนั้นหรอ"
"ค่ะ รับโอเน่ซังมาแทนก็ได้นี่ ถ้าคนขาดหนะ" แนน
"ไม่ได้หรอก"
"ทำไมหละพี่บีไม่ได้ชอบโอเน่ซังหรอ" แนน
"ชอบซิ แต่คงทำแบบนั้นไม่ได้"
"แนนไม่เข้าใจ" แนน
"พี่สงสารเจน เจนคงรู้สึกแย่ถ้าเจอว่าพี่เปลี่ยนคนที่จะมาอยู่กับเราไปเรื่อยๆ"
"นั้นซินะค่ะ" แนน

คืนนี้ผมไม่ได้ทำอะไรกับแนนเพราะบอกตรงๆ ว่าไม่มีอารมณ์จริงๆ แนนเองก็ทำตัวเรียบร้อยไม่งอแงใส่ผมเหมือนปรกติ ผมแทบจะนอนไม่หลับเลยทั้งคืน เอาแต่คิดว่าพรุ่งนี้มันจะเป็นยังไง ก้อยจะรับโทรศัพท์ผมไหม หรือเธออาจจะไม่ยอมคุยกับผมอีกเลยก็ได้ ผมได้แต่รอว่าเมื่อไหร่มันจะเช้า แล้วเหมือนไหร่ผมจะรู้คำตอบในสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่นี้

เสียงนาฬิกาปลุกตอน 6 โมงเช้าผมรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว จากนั้นก็กลับมาถามแนนที่ยังไม่ยอมตื่นว่าเธอต้องไปเรียนหรือเปล่า

"แนนมีเรียนบ่าย ขอนอนก่อนนะ" แนน

ผมบอกเธอว่ามีข้าวอยู่ในไมโครเวฟถ้าหิวก็อุ่นเอา จากนั้นผมก็หยิบถุงของฝากแล้วรีบไปที่ออฟฟิต ผมไปถึงตั้งแต่ยังไม่มีใครมาทำงาน ผมนั่งลงที่เก้าอี้แล้วเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาวางบนโต๊ะ ผมกดให้มันโชว์เบอร์ก้อยขึ้นมาแล้วผมก็กดออก จากนั้นผมก็กดให้เบอร์ก้อยขึ้นมาใหม่แล้วผมก็กอดออกอีก ผมทำแบบนี้อยู่จนมเสียงเคาะประตู

"กลับมาแล้วหรอค่ะพี่บี" หงส์
"อืมมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วหละ เป็นไงบ้างมีเรื่องอะไรด่วนไหม"
"ไม่มีค่ะ" หงส์
"อืมมานี่ซิ" ผมหยิบถุงของฝากขึ้นมาวางบนโต๊ะ
"ฝากเอาไปแจกให้หน่อย หงส์ดูก่อนแล้วกันนะว่าชอบอันไหนแล้วเก็บไว้ก่อน จากนั้นค่อยเอาไปแจก อ้อบอกยั้ยแคทด้วยว่าได้ชิ้นเดียวนะ ที่เหลือต้องเอามาคืนพี่" 
"ค่ะขอบคุณค่ะ" หงส์เข้ามาหยิบถุงที่โต๊ะผมแล้วออกจากห้องไป

ผมก็เริ่มทำเหมือนเดิมกดเบอร์ก้อยแล้วก็กดปิด แล้วก็ทำซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้นจน 11 โมงเช้า แล้วผมก็ตัดสินใจกดโทรออกแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูสัญญาติดแต่เหมือนเหมือนโดนกดวางสาย ผมกดโทรไปอีกครั้งก็ยังเหมือนเดิม ผมวางโทรศัพท์ในใจก็ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าก้อยคงกำลังยุ่งเลยวางสายผม แต่อยู่ๆ น้ำตามันก็คลอออกมาเอง ยิ่งนึกถึงภาพที่เห็นมือวานทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจ ยิ่งนึกถึงภาพที่ทั้งคู่สนิทสนมกันทำเอาผมจินตนาการไปไกลจนมีสมาธิจะทำอะไรต่อ แล้วผมก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมีเสียงเคาะประตู แคทเปิดประตูเข้ามาแล้วรีบมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามผม

"พี่บี" แคท
"อะไรของแกแคท มีอะไรด่วน"
"ก็ไม่ด่วนหรอก" แคท
"ไม่มีอะไรด่วนแล้วแกวิ่งเข้ามาทำไมเนี่ย"
"ก็คือ แคทอยากได้มากกว่า 1 อัน" แคท
"แกจะเอาอะไรมากกว่า 1 อัน" ผมลืมไปซะสนิทว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของฝาก
"ก็ของฝากอะ ก็มันมีสมุดกับเครื่องเขียนแคทอยากได้ครบชุด" แคท
"แค่เนี่ย แค่เนี่ยแกวิ่งเข้ามาหาฉันเหมือนกับเกิดเรื่องใหญ่โตงั้นแหละ"
"ก็แหมมันอยากได้นี่" แคท
"คนอื่นได้อันเดียวแกจะเอาสองอัน คนอื่นเค้าก็ว่าพี่รักลูกน้องไม่เท่ากันซิ"
"มันก็มีเป็นชุดๆ อยู่ครบแหละพี่ แค่พวกหนูเอาไปแล้วมันก็จะเหลือน้อยกว่าเดิมก็แค่นั้น" แคท
"พวกแก หมายถึงใครบ้างหละเนี่ย"
"ก็จอย หมวย แล้วก็น้องแป้งน้องพลอย" แคท
"พี่ฝากแนนซื้อแค่ 20 ชิ้นเองไม่ใช่หรอให้พวกแกคนละสองแล้วฉันจะเอาที่ไหนไปแจกคนอื่นหละ"
"โหยพี่มีเกินค่ะ พวกหนูเอาไปแล้วพี่ยังเหลือแจกอีกเยอะ" แคท
"อ้าวสรุปแนนซื้อกี่อันเนี่ย"
"ก็ประมาณ 35 ชิ้นค่ะ ดูจากใบเสร็จที่อยู่ในถุง แต่มันหายไป 2 อันมีอยู่แค่ 33 ชิ้น" แคท
"อ้าวไอ้ตัวเล็กนี่สั่งให้ซื้อแค่ 20 ดันซื้อมาซะ 35 เลย"
"งั้นพวกหนูเอาเป็นชุดนะ" แคท
"แกลองไปถามหงส์กับนกด้วยไป ถ้ามันพอก็ให้เท่าๆ กัน ผู้ชายไม่เป็นมั้ง บอลกับรุชคงไม่เอา"
"ค่ะพี่บี" แคท

แคทพูดจบก็รีบวิ่งออกไปจากห้อง แคททำเอาผมลืมเรื่องก้อยไปช่วงนึง ต้องขอบคุณมันเหมือนกันเมื่อกี่ถ้าแคทไม่เข้ามาขัดจังหวะผมอาจจะร้องไห้ออกมาแล้วก็ได้ ผมมองนาฬิกา เป็นเวลาเที่ยงพอดี ผมคิดว่าตอนนี้ก้อยน่าจะว่างรับสายผมแล้ว ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเธออีกครั้ง ผมรอลุ้นอย่างใจจดใจจ่อว่าก้อยจะรับโทรศัพท์ผมหรือเปล่าแล้วสัญญานก็ต่อติดผมรีบพูดทันที

"ก้อยนี่พี่บีนะก้อยว่างไหมพี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย"
เสียงเงียบไปซักพักก็มีเสียงชายวัยรุ่นตอบกลับมา
"มึงเลิกโทรมาหาพี่สาวกูได้แล้ว" ???
"คุณเป็นใครเนี่ย" ผมตกใจที่เป็นเสียงผู้ชายรับ
"กูชื่อกุ้งเป็นน้องพี่ก้อย มึงเลิกโทรมากวนพี่สาวกูได้แล้ว เค้ามีความสุขดีแล้ว" กุ้ง
"พี่ว่าน้องให้พี่ก้อยคุยกับพี่เองดีกว่านะ"
"มึงยังหลอกพี่สาวกูไม่พออีกหรอ ถ้ามึงไม่หยุดตามตื้อพี่สาวกูรับรองมึงได้เจ็บตัวแน่" กุ้ง
"พี่ไม่ได้ตามตื้อพี่สาวกุ้งนะ แต่พี่เป็นแฟนกับก้อย ให้ก้อยคุยกับพี่ดีกว่า พี่ว่ากุ้งเข้าใจอะไรผิดไปแล้วหละ"
"กูขอบอกมึงเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับพี่สาวกูมึงไม่ตายดีแน่" กุ้ง
"ให้พี่ก้อยคุยกับพี่ดีกว่านะ เรื่องของผู้ใหญ่กุ้งไม่เข้าใจหรอก บอกพี่ก้อยด้วยว่าถ้าไม่รับสาย วันนี้พี่จะไปหาที่บริษัทฯ"
"พี่สาวกูไม่เห็นหน้าไม่อยากคุยกับมึงแล้ว" กุ้งพูดจบก็วางสายทันที

ผมพยายามกดโทรศัพท์ไปหาอีกแต่ก็โดนตัดสายทิ้งตลอด ผมเลยรีบโทรไปที่บริษัทฯ ก้อยแทนหวังว่าจะได้พูดกับเธอ แต่ปรากฏว่าวันนี้ก้อยไม่ได้ไปทำงาน ผมไม่รู้ว่าควรทำไงดี ผมเลยคิดว่าจะไปหาเธอที่บ้านแทน แต่หงส์เข้ามาบอกว่าตอนบ่ายผมต้องเข้าประชุมกับคุณไพศาล ผมไม่อยากเข้าไปประชุมผมอยากไปหาก้อยมากกว่าแต่หน้าที่มันก็ค้ำคอทำให้ผมต้องเปลี่ยนใจไว้ไปหาเธอตอนประชุมเสร็จแทน

ผมนั่งอยู่ที่โทรทำงานไม่ได้ออกไปกินข้าวเหมือนทุกครั้งเพราะผมรู้สึกไม่อยากกินไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น รู้สึกแค่ว่าอยากได้ยินเสียงก้อยหรือได้เห็นหน้าเธอซักหน่อยก็ยังดี ผมลองกดโทรศัพท์ไปอีกแค่คราวนี้เธอเปิดเครื่องไปแล้ว ช่วงบ่ายผมขึ้นไปประชุมตามที่หงส์แจ้งไว้ 

ผมแทบไม่ฟังเรื่องที่ผู้บริหารพูดกันในที่ประชุมเลยจนเลิกประชุม พี่คมเข้ามาตบไหล่ผมก่อนจะแซวว่า

"เป็นอะไรวะ ทำหน้าเหมือนเมียทิ้งงั้นแหละ" พี่คม
ผมจ้องพี่คมเขม็ง
"อ้าวๆ มึงจะหาเรื่องกูหรือเนี่ยแซวแค่นี้" พี่คม
"เปล่าครับพี่" ผมพยายมปรับอารมณ์
"แล้วเป็นอะไรวะ" พี่คม
"ก็เป็นอย่างที่พี่พูดนั่นแหละ"
"อะไรวะ โดนเมียทิ้งจริงๆ หรอ" พี่คม
"ยังไม่แน่ใจ แต่เค้ามีคนอื่นแล้วแน่ๆ"
"ใจเย็นๆ บี แกเองก็ใช่ว่าจะมีเมียคนเดียวนี่หว่า ถ้าเค้ารับไม่ได้แกจะไปบังคับเค้าได้ยังไงวะ" พี่คม
"แต่เค้าเคยรับได้นะพี่"
"เออ คนเรามันเปลี่ยนกันได้โว้ย มึงจะมาบังคับให้เค้าเหมือนเดิมไปตลอดไม่ได้หรอก" พี่คม
"แต่ผมไม่อยากให้เค้าเปลี่ยนใจนี่พี่"
"เฮ้ยบี มึงอย่าลืมซิว่ามึงมีเมียอีกสองคนต้องดูแลนะ ถ้ามึงมาทำตัวซังกะตายแบบนี้ อี

zerolord


gai

 ::Angry::  ต่อๆๆๆๆ ที่ขาดไป


ถ้ามึงมาทำตัวซังกะตายแบบนี้ อีกหน่อยเมียที่เหลือมึงก็จะทนไม่ได้ขึ้นมาอีกทีนี้มึงได้ไม่เหลือใครแน่" พี่คม "ผมคงทำใจลืมง่ายๆ แบบนั้นไม่ได้หรอกพี่" "กูก็ไม่ได้บอกให้มึงลืมทันที แต่มึงต้องไม่ทำตัวแบบนี้ กูบอกเลยว่าถ้ามึงทำตัวแบบนี้ เมียมึงเค้าก็ยิ่งอยากหนีมึงไปให้ไกลๆ ถึงมึงจะมีเมียมาเยอะกว่ากูนะ แต่กูก็แก่กว่ามึงเยอะกูขอสอนมึงหน่อยเถอะ ทุกครั้งที่มึงอกหักมึงทำแบบนี้ใช้ไหม ทำหน้าเหมือนญาติเสียเนี่ย" พี่คม "ก็คงแบบนี้แหละพี่ผมก็ไม่ได้ส่งกระจกดูหน้าตัวเอง" "แบบนี้ไง แฟนมึงถึงได้ตัดสินใจง่าย" พี่คม "ตัดสินใจง่ายยังไงพี่" "ก็ตัดสินใจทิ้งคนอย่างมึงได้ง่ายๆ ยังไงหละ เล่นทำหน้าซังกะตายแบบนี้ มึงก็แพ้ไอ้ผู้ชายคนใหม่แบบหมดรูปแล้วหละหวะ" พี่คม "แล้วผมควรทำยังไง" "มึงก็ต้องทำให้เค้ารู้สึกว่ากำลังทิ้งคนที่ดีคนนึงไปซิ" พี่คม "ผมไม่เข้าใจอะพี่" "โว้ยยย อะไรของมึงเนี่ย มึงก็ทำเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำดีกับเค้าเหมือนเดิม หน้าตามึงก็ทำให้มันดีด้วย ไม่แน่เค้าอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ ยังไงเค้าก็รักกับมึงมาก่อน" พี่คม "หยังงั้นหรอพี่" "เออซิวะ มึงไม่เชื่อกูก็ตามใจมึงกูบอกได้แค่นี้" พี่คม "ได้ครับผมจะลองดู" "เออ ไปได้แล้วไป รีบไปหาเค้าซะ" พี่คม "ครับพี่งั้นผมไปก่อนนะ" ผมรีบลงมาที่ห้องทำงานหงส์เอาของฝากที่เหลือมาคืนให้ ผมบอกหงส์ว่าวันนี้ผมจะกลับก่อนมีอะไรให้โทรหา ผมหยิบกระเป๋าแล้วรีบลงไปที่รถ แต่ก่อนที่ผมจะไปถึงที่จอดรถก็มีชายวัยรุ่นเข้ามาขวางผมไว้ "มึงใช่ไหมชื่อบี" ??? "ใช่มีอะไรหรอ" "กูกุ้งที่คุยกับมึงเมื่อตอนเที่ยง" กุ้ง "น้องก้อยหรอ ก้อยอยู่ไหน พี่อยากคุยกับก้อย" "พี่ก้อยเค้าไม่อยากเจอมึง แล้วที่กูมานี่กูก็มาเตือนมึงว่าอย่ามายุ่งกับพี่สาวกูอีก" กุ้ง "ใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม พี่ไปทำอะไรกับพี่ก้อย กุ้งถึงได้โกรธมากขนาดนี้" "อย่ามาทำเป็นพูดดีกับกู กูไม่โง่ให้มึงหลอกหรอก" กุ้ง "ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้ เราอย่าเพิ่งคุยกันดีกว่า พี่กำลังจะไปหาพี่ก้อยที่บ้าน" "ไม่ต้องไปหรอกพี่ก้อยไม่อยู่บ้าน ถึงอยู่เค้าก็ไม่ยอมเจอมึงหรอก" กุ้ง "แล้วพี่ก้อยไปไหน" "ไปกับแฟนเค้าซิ คนที่ดีกับพี่ก้อย ไม่ใช่คนที่ปอกลอกหลอกลวงพี่ก้อยแบบมึง" กุ้ง "ปอกลอกหลอกลวง พี่ว่ากุ้งเข้าใจผิดแล้วนะ พี่ก้อยบอกกุ้งว่าพี่เป็นแบบนั้หรอ" "ไม่จำเป็นต้องถามเอาเป็นว่ากูรู้ก็แล้วกัน" กุ้ง "งั้นพี่คงหมดธุระที่จะคุยกับกุ้งแล้ว เอาไว้พี่ปรับความเข้าใจกับก้อยเสร็จแล้วเราค่อยทำความรู้จักกันอีกทีแล้วกัน" "ไม่จำเป็น วันนี้กูแค่มาเตือน" กุ้งชักมีดออกมาจากกระเป๋าสะพาย "วันนี้มันเสียบเข้าไปในอย่างอื่นของมึง แต่ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งกับพี่กู ครั้งหน้ามันจะเสียบเข้าไปในท้องมึง" กุ้ง "เป็นเด็กนักศึกษาพกมีดแบบนี้มันไม่ดีนะ พี่ก้อยรู้ไหมว่ากุ้งพกมีด" "เรื่องของกู กูเตือนแล้วนะหวังว่ามึงคงไม่ต้องทำให้กูต้องเอามีดเสียบมึงจริงๆ " กุ้ง กุ้งพูดจบก็เก็บมีดแล้วเดินจากไป ผมรีบไปที่รถถึงกุ้งจะบอกว่ก้อยไม่อยู่บ้านแต่ผมก็อยากลงไปหาเธอที่บ้านดูก่อน ผมไปถึงรถกดรีโมทกำลังจะเปิดประตูก็พบว่ายางทั้ง 4 ล้อแบนติดดิน ผมก้มดูก็เห็นรอยมีดแทงเข้าที่ยางหลายรู ผมเลยรีบวิ่งออกมาที่หน้าบริษัทเพื่อจะเรียกแท๊กซี่ไปบ้านก้อย แต่พอดีมีข้อความ sms ส่งมาซะก่อน "ขอโทษด้วยที่ไม่ได้รับสายก้อยลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านค่ะ ก้อยมีเรื่องอยากจะคุยและเคลียร์กับพี่บี พรุ่งนี้เจอกัน 3 ทุ่มที่โรงหนังที่เราไปดูด้วยกันเป็นครั้งแรก หวังว่าพี่คงจำได้นะค่ะ อืมระหว่างนั้นก้อยขอให้พี่อย่าเพิ่งโทรมาหาก้อย ก้อยขอเวลาคิดทบทวนอะไรซักหน่อย แล้วเจอกันนะค่ะ" ผมอ่านข้อความจบก็บอกรถแท๊กซี่ให้ไปส่งผมที่คอนโดแทน ผมได้แต่พยายามข่มน้ำตาที่มันเอ่อล้นอยู่ข้างใน ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าก้อยจะบอกกับผมว่าเธอทำผิดไปที่มีคนอื่นและขอกลับมาคืนดีกับผม แต่ความจริงผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าก้อยจะพูดอะไรกับผม ก้อยนัดผมยังไปที่ที่เราเริ่มความสัมพันธ์ในฐานะแฟน เธอคงอยากให้ความสัมพันธ์ของเรามันจบลงที่นั้นเหมือนกัน กลับไปถึงคอนโดผมก็พยายามไม่ทำตัวเศร้าแบบที่พี่คมว่าแต่มันก็ยังเร็วเกินไปสำหรับผมที่จะทำใจได้ แนนเองคงรู้ว่าผมกำลังเศร้าเธอพยายามเอาใจผม เธอช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นและมีกำลังใจที่จะไปพบก้อยในวันพรุ่งนี้ ตอนเช้าผมก็รู้สึกดีขึ้น ผมเริ่มเข้าใจที่พี่คมพูดผมยังมีแนนมีเจนอยู่ ถ้าผมมาคิดมากจนไม่เป็นอันทำอะไรหรือคิดอะไรโง่ๆ ไป แนนกับเจนก็คงจะเสียใจ ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่ดีที่สุดของก้อย ผมก็ควรปล่อยให้เธอเลือกหนทางที่ดีที่สุดสำหรับเธอ มันก็เหมือนกับที่ผมผลักไสหงส์นั่นแหละ ถึงมันจะดูต่างกันแต่เรื่องมันก็เหมือนกัน ในที่สุดก้อยก็เจอคนที่ดีกว่าผม ผมเริ่มจะทำใจได้แต่ก็ยังแอบหวังลึกๆ ว่าเรื่องทั้งหมดมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด วันนี้ทั้งวันผมได้แต่คิดว่าผมจะต้องไปตามนัดและปลดปล่อยก้อยจากวังวนที่ผมพาเธอเข้ามา แล้วเราสองคนจะจากกันด้วยดีไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมา วันนี้เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนผมไม่ทันทั้งตัว เผลอแป๊บเดียวผมก็นั่งอยู่ที่ออฟฟิตจนเกือบสองทุ่มแล้ว ผมรีบหยิบโทรศัพท์แล้วออกจากออฟฟิตเพื่อไปตามนัด ผมไม่ได้เอารถไปเพราะเพิ่งให้ฝ่ายธุระการเรียกรถมาลากไปเปลี่ยนยาง เมื่อตอนบ่ายและคงได้รถคือวันพรุ่งนี้ ผมออกไปหน้าบริษัทเรียกรถแท๊กซี่เพื่อไปหาก้อย รถแท๊กซี่ไปถึงฝั่งตรงข้ามของโรงหนังผมดูนาฬิกาตอนนี้ใกล้จะสามทุ่มแล้ว แต่รถยังติดมากกว่าที่จะกลับรถได้คงเสียเวลาอีกเป็นสิบนาที ผมเลยลงจากรถเพื่อที่จะข้ามถนนไปเอง ผมข้ามถนนไปที่เกาะกลาง ผมเห็นก้อยยืนคอยผมอยู่ที่หน้าทางเข้าโรงหนัง ผมพยายามโบกมือให้เธอเห็นแต่ก้อยสายตาสั้นเธอคงไม่เห็นผม ผมรอจนไฟแดงก็รีบข้ามถนนไปหาก้อยมีคนข้ามถนนสวนมาด้วย ระหว่างที่ข้ามถนนผมก็โดนกระแทกเข้าอย่างแรง ผมมองไปยังหน้าของคนที่เดินมาชนผม กุ้งนั้นเอง ผมไม่สนใจแค่รู้สึกชาๆ จากการโดนกระแทกแล้วเดินต่อ แต่ผมเดินไปได้อีกแค่สองก้าวก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่หน้าท้อง ผมรีบเอามือจับมีน้ำอุ่นๆ ไหลออกมาเยอะมาก ผมก้มไปดูก็พบว่ามีเลือดออกมาจากจากท้องผม แล้วความเจ็บปวดก็ทำเอาผมทรุดลงไปนั่ง คนที่เดินไปเดินมาร้องกรี๊ดกร๊าดแต่กลับไม่มีใครเข้ามาช่วยผม ผมมองไปที่ก้อย ผมต้องเจอเธอให้ได้ ผมพยายามลุกขึ้นแล้วเดินโซเซเพื่อไปให้ถึงฟุตบาธ ตาผมเริ่มเลือนลางขึ้นเรื่อยๆ ผมมองไม่เห็นว่าก้อยยังยืนอยู่หรือเปล่า เธอเห็นไหมว่าผมกำลังเดินมาหาเธอ ตอนนี้ผมรู้แค่ผมต้องเจอก้อยวันนี้ให้ได้ ผมต้องให้เธอได้บอกลาผมแล้วเราจะจากกันด้วยดีไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมา ผมเดินไปเกือบจะถึงฟุตบาธแต่แล้วผมก็ทนฝืนต่อไปไม่ไหว ตาผมเริ่มลายจนไม่รู้ว่าทิศไหนที่ก้อยยืนอยู่ ผมได้แต่ยื่นมือขวาออกไปโดยหวังว่าจะมีมือมาจับผมตอบและมือนั้นคงเป็นมือของก้อย แล้วผมก็ค่อยๆ ทรุดลงนั่งคุกเข้า ผมฝืนต่อไปไม่ไหว ผมไม่มีแรงที่จะลุกขึ้น ผมรู้สึกว่าร่างกายเริ่มหนาวสั่น แล้วผมก็ค่อยๆ ล้มตัวลงไปทางด้านหน้า จบตอนที่ 17 มีเสียวนิดนึงก่อนเริ่มเรื่อง แต่ 18 คงไม่มีจริงๆ แล้ว กำลังคิดว่ามันน่าจะไม่จบแค่ตอนที่ 18 น่าจะยืดเยื้อไปอีกนะครับ เมื่อวานอยู่ๆ ก็มึนจนต้องนอนพักก่อนจะตื่นมาลงตอนที่ 16 และไปอาบน้ำกินข้าว ขอขอบคุณกำลังใจจากเพื่อนๆ ที่คอยติดตามผลงานตลอดมา

myfino262903

เป็นอะไรที่หน้าติดตามมากครับผู้เขียนทำให้นึกถึงผู้หญิงที่ผมรัก เลยครับ