ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

แค่นิยาย ตอนที่ 17 Revenge cowgirl

เริ่มโดย CarNaGE, สิงหาคม 20, 2011, 06:58:03 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

CarNaGE

 "วิเวียน .... ค่อยๆน่ะ" นายอาร์ตค่อยๆพยุงหญิงสาวตรงหน้าให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ แต่เพราะเธอพึ่งผ่านเกมส์กามที่ดุเดือดมาไม่นานนักทำให้เมื่อลุกยืนได้ไม่เท่าไหร่ เธอก็เริ่มเซจนจวนจะล้ม ทำให้เขาต้องรีบดึงร่างเธอเข้ามากอดแนบไว้กับอก

และนั่นทำให้เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง รูปร่างของหญิงสาวอวบอิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อน เนื้อตัวของเธอก็แน่นกระชับมากขึ้น อีกทั้งตัวหญิงสาวก็ส่งกลิ่นกายประหลาด ที่พอเขาได้กลิ่นเท่านั้น ไฟราคะของเขาก็ประทุขึ้นมาอีกครั้ง

"อาร์ต ..... วิเวียนหนาว" หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาเบาๆก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มทีละเม็ด ดวงตากลมโตคู่นั้นก็สายตาแสนเย้ายวนให้เขาอย่างหวานเยิ้ม ทำให้นายอาร์ตไม่อาจจะห้ามใจไหว เขาดึงร่างเธอเข้ามากอดกระชับไว้แน่น ก่อนจะก้มลงเพื่อหวังจุมพิตลงบนริมฝีปากที่แสนหยาดเยิ้มตรงหน้า แต่ไม่ทันที่เขาจะได้จุมพิตสมใจ หญิงสาวกลับสลัดเขาออกพร้อมกับกระโดดถอยหนีออกมา

"วิเวียนบอกว่าหนาว ไม่ได้บอกว่าเงี่ยนสักหน่อย" หญิงสาวทำหน้าทะเล้นใส่ ก่อนจะเอาเสื้อเชิ้ตที่พึ่งถอดได้มาสวม

"อ้อออออ ... นี่วิเวียนหลอกเอาเสื้อจากผมเหรอ" ชายหนุ่มพูดจบก็คว้าร่างหญิงสาวตรงหน้ามากอดไว้แน่น ก่อนจะจูบไปที่ปากของเธอในทันที ซึ่งหญิงสาวก็ตอบสนองไม่ขัดขืน ยอมที่จะยืนแลกลิ้นกับเขาจนหนำใจ

"โอ๊ะ ...." แต่จูบไปได้ไม่นาน นายอาร์ตก็เผลอร้องออกมา เพราะว่าเขารู้สึกถึงพื้นที่สั่นไหว ก่อนที่จู่ๆจะมีแสงสีขาวพุ่งขึ้นโอบล้อมเขาและเธอไว้ในทุกๆด้าน เปรียบเหมือนเปลือกไข่ที่โอบล้อมเนื้อที่อยู่ด้านใน

"กอดวิเวียนไว้น่ะอาร์ต ...... กระสุนดาวหาง" ทันที่พูดจบ วิเวียนก็ร่ายเวทย์ทันที และทันทีที่ร่ายจบลำแสงที่ห่อหุ้มร่างพวกเธอไว้ ก็พาให้พวกเธอลอยขึ้นจากพื้นก่อนจะพุ่งสูงหายขึ้นไปในขอบฟ้า ที่แท้เวทย์กระสุนดาวหาง ก็เป็นเวทย์เดินทางระดับเลเวล 9 นี่เอง เวทย์นี้จะห่อหุ้มร่างผู้ร่ายเหมือนเปลือกไข่ ก่อนจะพาพุ่งเหาะไปเหมือนลูกกระสุน จุดเด่นของเวทย์บทนี้ คือจะพาผู้ร่ายเดินทางไปยังที่หมายได้รวดเร็ว ไม่แพ้เวทย์ธาตุลมเลยทีเดียว ทำให้ไม่นานนัก กระสุนลำแสงก็พาพวกเธอตกลงมายังหน้าที่หมาย

"โธ่วิเวียน ..... ถ้าจะใช้เวทย์อะไรก็บอกผมก่อนสิ" นายอาร์ตบ่นอุบ

"แหม .... แค่นี้ก็บ่นแล้ว" วิเวียนหันมาค้อนชายหนุ่ม ก่อนจะชี้ให้เขาดูประตูขนาดยักษ์แกะสลักด้วยลวดลายต่างๆสวยงาม ที่ตั้งตระง่านอย่างยิ่งใหญ่น่าเกรงขามอยู่เบื้องหน้า ประตูที่สวยงามและยิ่งใหญ่แบบนี้ เล่นเอาชายหนุ่มที่พึ่งเห็นมันครั้งแรกถึงกับตกตะลึง

"ขอต้อนรับสู่ แซงจูรี่ย์ค่ะ"

.
.
.
.
.

ในขณะที่วิเวียนและนายอาร์ตสามารถเดินทางไปถึงที่หมายที่ตั้งใจไว้ได้แล้ว แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งยังไปไม่ถึงเลย ไม่สิ ถ้าจะเรียกให้ถูกน่าจะเรียกว่า ยังไม่ออกเดินทางเลยด้วยซ้ำ เพราะเจ้าพาลาดินทั้ง 5 กำลังสนุกกับกิจกรรมเบื้องหน้า นั่นก็คือการทรมานแวมไพร์ที่พวกมันจับมาได้

"อ๊า.............." เวโรนิก้าร้องอย่างเจ็บปวด แต่เธอก็ไม่อาจจะส่งเสียงได้มากนักเนื่องจากปากของเธอโดนมัดปิดไว้แน่น สภาพของเธอในตอนนี้ไม่เหลือเค้าแวมไพร์ที่เก่งกาจเมื่อครู่อีกแล้ว เพราะไม่แค่ปากเท่านั้นที่โดนมัด มือสองข้างของเธอก็โดนมัดไขว้หลังไว้กับเสาบ้าน ตัวเธอในตอนนี้ก็โดนจับให้นั่งในท่าคุกเข่าอยู่อย่างนั้นโดยที่เธอไม่สามารถขยับเปลี่ยนท่าได้ นั่นเพราะทั่วร่างของเธอมีตะขอเล็กๆเกี่ยวอยู่ทำให้ถ้าเธอขยับแม้แต่นิดเดียว ตะขอเหล่านั้นก็จะเกี่ยวลึกเข้าเนื้อทันที การทรมานเช่นนี้นอกจากสร้างความทรมานทางกายจนร่างกายสั่นระริกด้วยความเหนื่อยล้าแล้วนั้น ยังสร้างความทรมานทางใจจากความเครียดที่เพิ่มสะสมอีกด้วย

"เหอๆๆ ไม่คิดว่าปลอกแขนของเจ้าจะมีของพวกนี้ด้วยว่ะ ว่าแต่ นี่มันอะไรว่ะ" โวลต์ แห่งสายฟ้าเอ่ยถามเจ้าพาลาดินแห่งลมที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับชูคีมเหล็กขนาดเล็กหน้าตาประหลาดๆขึ้นมา คีมประหลาดชนิดนี้มีด้วยกันเป็นคู่ และอันหนึ่งเจ้าไซโคลนพึ่งใช้หนีบเข้าไปหัวนมของเวโรนิก้า จนเป็นที่มาของเสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดของเธอนั่นเอง

"นั่นเป็นคีมทรมานรุ่นใหม่เลยน่ะเว้ย ที่พัฒนาแรงบีบขึ้นมากกว่ารุ่นก่อนหลายเท่า เรียกได้ว่าบีบตรงไหนก็เจ็บ และยิ่งถ้าบีบตรงจุดรวมของเส้นประสาทอย่างหัวนม มันก็จะเจ็บแบบนี้ไงเล่า" เจ้าไซโคลนพูดจบก็สาธิตวิธีใช้ ซึ่งวิธีการสาธิตของมันก็คือการหนีบเข้าไปที่หัวนมอีกข้างของเวโรนิก้า จนแวมไพร์สาวถึงกับร้องโหยหวน

"แล้วห่วงตรงปลายนั่นล่ะ"

"มันเอาไว้ใช้กับไอ้นี่ไงล่ะ" พูดจบเจ้าไซโคลนก็ชูลูกตุ้มขนาดเล็ก ที่ตรงปลายก็มีห่วงขนาดเล็กเช่นกัน และเมื่อโชว์เสร็จ เจ้าไซโคลนก็เอาห่วงลูกตุ้มไปเกี่ยวห่วงที่คีม และเมื่อคีมโดนถ่วงน้ำหนัก แรงหนีบก็หนักขึ้นหลายเท่า ทำเอาแวมไพร์สาวต้องร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง

"เมื่อกี้นมซ้าย คราวนี้นมขวา" ภาพของแวมไพร์สาวที่ร้องทรมานอย่างเจ็บปวดนั้นมันช่างสร้างความบันเทิงแก่เจ้าไซโคลนเป็นอย่างมาก มันจึงไม่รอช้าที่จะถ่วงตุ้มน้ำหนักอีกลูก แต่คราวนี้แวมไพร์สาวไม่กรีดร้องอีกแล้ว เพราะเธอรู้ดีว่าทำไปมันก็เปล่าประโยชน์ เธอจึงทำได้เพียงกัดผ้าปิดปากแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวดออกมา แต่ถึงแม้เธอจะพยามอดทนแค่ไหน ความเจ็บปวดที่ได้รับนั้นมันก็มากเกินทน จนตัวเธอเองทนไม่ไหวอีกแล้ว แต่ครั้นที่เธอจะกำลังเอนตัวล้มฟุบลงไป เธอก็ต้องพบความเจ็บปวดมากกว่า เพราะแค่เธอขยับตัวเล็กน้อย เจ้าตะขอก็เกี่ยวเนื้อเธอทันที

"ฮือ ๆๆ" แวมไพร์สาวแต่ได้เค้นเสียงในลำคออย่างแค้นใจ เธอมองกร้าวไปที่พาลาดินตรงหน้าอย่างเคืองแค้น แต่เธอก็ทำได้แค่นั้น เพราะลำพังแค่จะขยับตัวเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดเธอยังทำไม่ได้เลย

"ฮ่าๆๆๆ อึดๆแบบนี้สิพี่ชอบ" เจ้าไซโคลนหัวเราะร่าก่อนจะตบไปที่แก้มแวมไพร์สาวเบาๆ จนที่มันจะนึกสนุกหันมาเล่นเกมส์กับเจ้าพาลาดินสายฟ้า

"ตุ้มนี้หนักครึ่งกิโลเลยน่ะ เจ้าว่านังแวมไพร์นี่จะทนได้กี่ลูก"

"ข้าว่า 10 " โวลต์เอ่ยตอบ

"มากไปมั้ง ข้าว่าไม่ถึงหรอก" ไซโคลนเอ่ยขึ้น " ถ้าอย่างนั้นเจ้ากับข้า เรามาพนันกันหน่อยดีกว่า"

"แสนเหรียญเป็นไง .... เท่ากับหนี้ที่เจ้าติดข้าพอดี ถ้าเจ้าแพ้ ข้าก็ได้เงินไปสองเท่า แต่ถ้าเจ้าชนะก็ถือว่าล้างหนี้" โวลต์เอ่ยวางเดิมพัน

"ได้ !! แต่ข้าจะเป็นคนถ่วงเอง" เจ้าไซโคลนเอ่ยจบพร้อมกับหยิบลูกตุ้มมา 2 ลูก "เมื่อกี้ถ่วงไป 2 งั้นต่อไป 4"

ทันทีที่พูดจบ เจ้าไซโคลนก็ถ่วงลูกตุ้มทันที 2 ลูก เล่นเอาแวมไพร์สาวกัดผ้าแน่น แต่เธอก็ยังฝืนทนไม่ยอมล้มตัวไปตามความเจ็บปวด แต่ไม่ทันไร เจ้าพาลาดินก็ถ่วงน้ำหนักเข้าแทบจะทันทีอีก 2 ลูก โดนถ่วงน้ำหนักไป 6 ลูกเช่นนี้ เต้านมเวโรนี้ก้าถึงกับแดงเถือก แถมยังย้อยลงมาแทบจะถึงพื้น แต่ถึงอย่างนั้น แวมไพร์สาวก็มีอาการเพียงแค่ร้องในลำคอแทบคลั่ง แต่เธอก็ยังนั่งคุกเข่าในท่าเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะโน้มตัวลงมาเลย

"นังนี่แม่งเจ๋งว่ะ ..... ดูท่าข้าจะได้สองแสนซะแล้วมั้ง ฮ่าๆๆ" เจ้าโวลต์เอ่ยร้องอย่างชอบใจ ซึ่งกันข้ามกับคู่พนันของมันอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เจ้าไซโคลน ทำหน้าบอกบุญไม่รับเลยทีเดียว ก่อนที่มันขยับเข้าหาแวมไพร์สาว พร้อมกับหยิบลูกตุ้มที่เหลือขึ้นมา

"มึงแน่นักใช่ไหม .... งั้นมึงลองโดนหมดนี่ ดูสิ มึงยังจะแน่เหมือนเดิมหรือเปล่า" ว่าแล้วเจ้าไซโคลน ก็นำลูกตุ้มในมือทั้ง 4 ลูก แขวนถ่วงไปทีเดียวพร้อมกันหมด คีมหนีบที่เมื่อโดนถ่วงด้วยลูกตุ้มถึง 10 ลูก แรงหนีบที่เพิ่มทวีคูณก็จะส่งผลให้ความเจ็บปวดเพิ่มทวีคูณขึ้นเช่นกัน ความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นนี้ มากจนเกินที่เวโรนิก้าจะทนรับไหวได้อีกแล้ว ปากของเธอที่กัดผ้ามาโดยตลอดถึงกับหลุดหวีดร้องออกมาอย่างทรมาน

"ฮ่าๆๆๆ ข้าชนะ" แต่เสียงกรีดร้องนี้กลับสร้างความหฤหรรษ์แก่ไซโคลนไม่น้อย เพราะมันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแวมไพร์ตรงหน้าทนการทรมานไม่ไหวแล้ว

"แต่ข้าไม่คิดอย่างนั้นว่ะ" โวลต์ตอบกลับอย่างไม่ทุกข์ร้อน พร้อมกับชี้ให้ดูนางแวมไพร์ตรงหน้า จริงอยู่ที่เมื่อครู่นางแวมไพร์ตนนี้หวีดร้องดังลั่น แต่สุดท้าย แวมไพร์สาวก็ยังอยู่ในท่าคุกเข่าเช่นเดิมโดยที่ไม่ได้ขยับตัวใดๆเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ ผลของการพนันก็สรุปออกมาได้ว่าแวมไพร์สาวทนไหว และผู้แพ้ก็คือเจ้าไซโคลน

"ขอบใจว่ะ .... กลับถึงเมืองเมื่อไหร่ ข้าจะรอรับสองแสน" โวลต์เดินตบบ่าไซโคลนเบาๆ ทิ้งให้เจ้าพาลาดินแห่งลมฮึดฮัดด้วยความโกรธเกรี้ยว และความโกรธของมันก็ยิ่งทวีเข้าไปอีกเพื่อมันหันไปสบตาแวมไพร์สาว แม้เธอจะมีอาการเจ็บปวดเพียงใด้ แต่เธอก็ยังสบตามันอย่างไม่กลัวเกรง แถมยังยิ้มบางๆที่มุมปากเสียด้วย

"นี่มึงกวนตีนกูใช่ไหม !!" ไซโคลนบันดาลโทสะตวาดลั่น ก่อนจะเงื้อมือฟาดไปที่แก้มแวมไพร์สาวเต็มๆจนทำเอาเธอหน้าสะบัด

"อือๆๆๆ" เวโรนิก้าหันมาสบตามันอย่างแข็งกร้าว ก่อนที่จะส่งเสียงผ่านลำคอ เสียงที่เจ้าไซโคลนฟังไม่ออกว่าเธอพูดอะไร มันจึงกระชากผ้าปิดปากออกอย่างแรงก่อนจะตะคอกใส่อย่างรุนแรง

"เมื่อกี้มึงว่าอะ....." แต่ไม่ทันที่มันจะพูดจบ แวมไพร์สาวก็ถ่มเลือดที่มีอยู่เต็มปากเข้าใส่หน้ามันทันที !!

เมื่อโดนเข้าไปเช่นนี้ โทสะของพาลาดินแห่งลมก็พุ่งถึงขีดสุดอย่างไม่อาจระงับได้ มันปาดเลือดที่เบื้อนหน้ามันออกช้าๆ ก่อนจะกระชากคีมหนีบพร้อมลูกตุ้มที่หนีบไว้ออกอย่างรุนแรง ทำเอาแวมไพร์สาวถึงกับหวีดร้องดังลั่น ไม่พอแค่นั้น เจ้าพาลาดินแห่งลมยังเอื้อมมือไปคว้าสายตะขอที่เกี่ยวเนื้อ ก่อนจะกระชากมันออก ตะขอที่คมกริบเหล่านั้น ก็บาดร่างแวมไพร์สาวจนทั่วตัวเธอมีแต่แผล เจอเข้าไป 2 ไม้เช่นนี้ ทำเอาเวโรนิก้าถึงกับหวีดร้องจนสุดเสียง ก่อนที่เธอจะฟุบร่างลงไปอย่างหมดแรง

"เงยหน้าขึ้นมา......" เจ้าพาลาดินแห่งลมไม่หยุดแค่นั้น มันใช้มือจิกผมเธออย่างรุนแรงเพื่อบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้น ก่อนจะบีบปากของเธอแน่นเพื่อบังคับให้มันอ้าออก เพื่อที่เจ้าพาลาดินแห่งลม จะได้ยัดท่อนเอ็นขนาดยักษ์ของมันเข้าปากเธอได้ทันที

"มึงทำกูเสีย 2 แสน ..... กูจะเย็ดมึงให้ตาย" เจ้าไซโคลนตวาดลั่นก่อนจะกระหน่ำกระแทกท่อนเอ็นแทงทะลุถึงคอหอยแวมไพร์สาวอย่างบ้าคลั่ง โดยที่แวมไพร์สาวถูกมัดมือแน่นแถมสองขาก็อ่อนแรง เธอจึงไม่อาจหลบหลีกใดๆได้ ต้องอยู่เป็นที่ระบายตัณหา ให้เจ้าพาลาดินเล่นงานเธอจนกว่ามันจะหนำใจ

"โอ๊ะ....." หลังจากกระแทกท่อนเอ็นอย่างรุนแรงเป็นระยะเวลานานแล้ว โทสะของเจ้าไซโคลนก็เริ่มลดลง จึงทำให้มันได้สัมผัสรสรักตรงหน้า เพราะแวมไพร์สาวตนนี้ ไม่ได้มีท่าทีต่อต้านหรือขัดขืนใดๆเลย ตรงกันข้ามเธอกลับให้ความร่วมมืออย่างดี ริมผีปากของเธอโอบรัดท่อนเอ็นนี้ไว้อย่างนุ่มนวล แต่กลับมีแรงดูดตอดอย่างรุนแรง และไม่ว่าเจ้าไซโคลนจะกระแทกลึกแค่ไหน แต่ก็เหมือนแวมไพร์ตนนี้จะดูดรับไว้ได้หมด เล่นเอาเจ้าไซโคลนซูดปากด้วยความเสียว จนมันเริ่มกระแทกเอวช้าลง และเมื่อมันกระแทกช้าลงก็กลับเป็นแวมไพร์สาวที่ขยับต้นคอดูดกลืนอย่างรุนแรงเสียเอง

ถึงตรงนี้เจ้าพาลาดินก็ต้องยอมรับกับรสกามที่แวมไพร์สาวมอบให้ เพราะแม้ว่าท่อนเอ็นของมันจะเคยผ่านการดูดกลืนจากหญิงสาวมามากมาย แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่มันจะรู้สึกพึงพอใจเท่าการดูดของแวมไพร์สาวตนนี้เลย ตอนนี่มันหยุดกระแทกเอวเรียบร้อยแล้ว มันปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแวมไพร์สาวตรงหน้าเป็นผู้คุมเกมส์ ให้เธอดูดเลียท่อนเอ็นและพวงไข่ของมันได้ตามต้องการ

และด้วยการดูดเลียที่ชำนาญของแวมไพร์สาว แค่เวลาไม่นานนักร่างของเจ้าพาลาดินก็กระตุกทั่วร่าง น้ำเชื้อของมันไหลออกมารวมที่ปลายหัวหยัก บ่งบอกว่ามันกำลังใกล้จะเสร็จเสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าพาลาดินก็กลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมส์เองอีกครั้ง มันเร่งการกระแทกเร็วขึ้น เพื่อหวังจะปลดปล่อยน้ำเชื้อออกมาอย่างเต็ม และเพียงระยะเวลาไม่นาน ความต้องการของมันก็สำเร็จผล น้ำเชื้อจำนวนมากของมันถูกปลดปล่อย เข้าปากและไหลลงท้องของแวมไพร์สาว ซึ่งเธอก็ยินดีที่จะรับมันไว้ทั้งหมด

เพราะที่พุ่งออกมา มันไม่ใช่แค่น้ำเชื้อเท่านั้น แต่เป็นพลังมาน่าของเจ้าพาลาดินไซโคลนนี้อีกด้วย ซึ่งกว่าที่มันจะรู้ตัว กระบวนการก็เริ่มไปนานแล้ว พลังมาน่ามหาศาลของพาลาดินกำลังไหลออก และส่งผ่านไปยังแวมไพร์สาวที่โดนจับเป็นเชลยอยู่นี่เอง ถึงตอนนี้ เจ้าไซโคลนก็สิ้นเรี่ยวแรงจะขัดขืน ดูท่า พลังทั้งหมดของมันจะต้องตกเป็นของแวมไพร์สาวนามว่าเวโรนิก้าไปเสียแล้ว

แต่ก่อนที่เจ้าพาลาดินจะสิ้นใจแค่ชั่วเสี้ยววินาที เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวอยู่ด้านข้าง ก่อนจะตวัดเตะเข้าด้านข้างลำตัวของแวมไพร์สาวอย่างจัง และด้วยลูกเตะที่หนักหน่วงมหาศาล เล่นเอาแวมไพร์สาวปวดร้าวไปทั้งร่าง จนตัวเธอต้องยอมคายท่อนเอ็นออกจากปาก เรียกว่าเจ้าไซโคลนรอดตายได้อย่างฉิวเฉียด แต่นั่นก็ทำเอามันหมดแรงถึงกับทรุดตัวลงก้นจ้ำเป้า

"ระวังหน่อยสิ ถึงนังนี่จะเป็นแค่แวมไพร์ชั้นแม่ทัพ แต่มันก็ไม่ใช่แวมไพร์ธรรมดา" เงาลึกลับนั่นก็คือเบิร์นนี่เอง และทันทีที่พูดจบ เจ้าพาลาดินแห่งไฟก็เตะอัดเข้าที่หน้าท้องของเวโรนิก้าอีกครั้ง คราวนี้เล่นเอาแวมไพร์สาวนอนจุกกระอักเลือด สิ้นท่าไปโดยปริยาย

"ข้าก็เคยได้ยินเรื่องราวของนาง แวมไพร์สาวที่สามารถใช้เวทย์เลเวล 6 ได้ทั้ง 5 สาย เป็นตัวอันตรายที่ก่อวีรกรรมไปทั่ว" ไอซ์เอจที่ตามเข้ามาเดินไปยังแวมไพร์สาว ก่อนจะก้มลงลูบหัวเธอเบาๆ "แต่ที่ข้าสนใจก็คือ ถ้านางแวมไพร์ตนนี้ใช้เวทย์ได้ทั้ง 5 สาย แบบนี้พลังมาน่าของมันไม่เท่ากับ...."

"แวมไพร์ชั้นขุนพล" เบิร์นเอ่ยตอบประโยคที่ว่างเว้น "อย่างที่เจ้าคิด นังนี่มีพลังมาน่าอยู่ในระดับชั้นขุนพล แต่เพราะมันไปเลือกอัพเลเวลทั้ง 5 สาย ทำให้มันอยู่ในแค่ระดับชั้นแม่ทัพอย่างนี้นี่ไง"

"ถ้าดูดกลืนพลังมาน่าของมันมาได้ ก็เท่ากับว่าได้พลังมาน่าระดับแวมไพร์ชั้นขุนพลน่ะสิ" สโตนเฮดที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายเอ่ยขึ้น พร้อมกับหัวเราะอย่างมีเลศนัยร่วมกับพาลาดินคนอื่น ที่ต่างก็มีความคิดแบบเดียวกัน

"งั้นเรามาจัดคิวผลัดกันเย็ด ดูสิว่าในหมู่พวกเราใครจะเป็นคนได้พลังมาน่าของนางไป" ไอซ์เอจเอ่ยสรุป

"ข้า .... ขอคนแรก" ไซโคลนเอ่ยก่อนใคร

"เจ้าเงียบไปเลย" สโตนเฮดกล่าวขัด "เมื่อกี้เจ้าพ่ายมันไปแล้ว ดังนั้นเจ้าหมดสิทธิ์แล้วเว้ย"

เจ้าไซโคลนที่โดนตอกหน้าไปเช่นนี้ก็ได้แต่ฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ แต่เพราะร่างกายที่อ่อนแรงจากการโดนสูบพลังมาน่า ทำให้มันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้มากกว่านั้น จนสุดท้ายมันก็เดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์ ปล่อยให้เหล่าพาลาดินที่เหลือจัดคิวเข้าเย็ดกันเอง

"ฮ่าๆๆๆ" เจ้าสโตนเฮดหัวเราะอย่างลิงโลด ที่มันได้เย็ดเป็นคนแรก มันจึงไม่รอช้าเดินเข้าไปหาแวมไพร์สาวที่นอนอ่อนแรงตรงหน้า ก่อนที่มันจะจับเธอแยกขาออกแล้วเอามาพาดบ่า เพื่อให้เนินหีของแวมไพร์สาวอยู่ในระดับเดียวกับปากมันพอดี เมื่อมันจัดท่าได้ตรงตามที่มันต้องการแล้ว เจ้าพาลาดินก็จัดการบรรเลงเพลงลิ้นเข้าชโลมเลียใส่ร่องสวาททันที

"อืออออ" แวมไพร์สาวหน้านิ่วเล็กน้อยพร้อมกับออกแรงขัดขืนตามสัญชาติญาณ แต่เพราะสองขาของเธออ่อนล้าจากการโดนทรมานเป็นเวลานาน อีกทั้งสองมือก็โดนมัดแน่น ทำให้เธอไม่อาจต้านทานการรุกล้ำนั้นได้อีกแล้ว ร่องหีของเธอทำได้เพียงขมิบตอดลิ้นยาวสากนั้นเป็นจังหวะ ยิ่งคราใดที่เจ้าพาลาดินลากลิ้นตวัดโดนเม็ดติ่ง ความเสียวของเธอก็จะทวีคูณขึ้น จนเธอต้องเผลอร้องครางเบาๆออกมาทุกครั้ง เจ้าพาลาดินก็ยิ่งรู้แกว มันจึงจัดการเร่งตวัดลิ้นโจมตีเม็ดติ่งให้รุนแรงหนักขึ้น เจอเข้าไปเช่นนี้ แวมไพร์สาวก็ไม่อาจจะทนไหว ได้แต่ร้องออกมาอย่างสุดเสียว ก่อนที่ทั่วร่างของเธอจะกระตุกอย่างหนักพร้อมกับหลั่งน้ำรักออกมาอย่างพลั่งพรู

ทันทีที่เจ้าพาลาดินส่งแวมไพร์สาวถึงสวรรค์ มันก็ทิ้งร่างเธอลงกระแทกพื้นอย่างไม่ใยดี ก่อนที่มันจะใช้มือสาวท่อนเอ็นเบาๆเพื่อปลุกอารมณ์ แค่เพียงไม่กี่วินาที เจ้าท่อนเอ็นก็แข็งเต็มที่พร้อมใช้งาน มันจัดแจงนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ แล้วจัดแจงยัดเยียดท่อนเอ็นยักษ์นั่นเข้าร่องหีของเธอทีเดียวมิดด้าม

"โอ๊ยยยยยยยย" แวมไพร์สาวร้องครางเบาๆ แม้ร่องหีของเธอจะมีน้ำรักเอ่อล้นจนเป็นน้ำหล่อลื่นได้อย่างดี แต่ด้วยความที่ท่อนเอ็นตรงหน้ามีขนาดใหญ่เกินไป ก็เล่นเอาเธอรู้สึกคับแน่นไปหมด และไม่ทันที่เธอจะหายดี เจ้าพาลาดินตรงหน้าก็จัดแจงตะบันควยเข้าใส่อย่างทารุน และทุกครั้งที่มันแทงควยเข้ามา ท่อนควยของมันจะกระแทกเข้าที่มดลูกของเธออย่างจัง เล่นเอาเธอจุกเสียดทรมานจนแทบคลั่ง จนเธอต้องเปล่งเสียงครางดังขึ้น เพื่อระบายมันออกมา

หลังจากที่โดนกระหน่ำแทงอยู่นาน ร่องหีของเธอก็เริ่มปรับสภาพได้ จนตอนนี้ตัวเธอเริ่มทรมานน้อยลง เหลือไว้เพียงความเสียวที่เริ่มเพิ่มขึ้น และเพราะไฟราคะของเธอถูกจุดจนขึ้นสวรรค์ไปแล้วหนึ่งครั้ง มาคราวนี้เธอจึงเงี่ยนง่ายขึ้นกว่าเดิม ยิ่งเธอโดนกระแทกอย่างรุนแรงเท่าไหร่ ความเงี่ยนของเธอก็ทวีคูณขึ้นอีกเท่านั้น จนตอนนี้น้ำรักในกายของเธอเริ่มไหลเวียนอย่างปั่นป่วน ก่อนที่จะแตกทะลักทันทีที่ร่องหีของเธอกระตุกอย่างรุนแรง

แต่เจ้าพาลาดินกลับทำหน้านิ่วอย่างไม่พอใจ มันส่งแวมไพร์สาวขึ้นสวรรค์ติดๆกันถึงสองครั้ง แต่กระนั้นมันก็ยังไม่อาจจะดูดกลืนพลังมาน่าของเธอได้สักที เจ้าพาลาดินกัดฟันแน่น ก่อนจะเร่งกระแทกควยเย็ดเข้าไปอีกยก โดยที่ไม่ยอมปล่อยให้แวมไพร์สาวได้มีโอกาสพัก แถมเพราะโทสะ ทำให้การเย็ดยกนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง ดูไปดูมา นี่ไม่ใช่การเย็ดเพื่อหวังดูดพลังมาน่า แต่การกระแทกเพื่อให้แวมไพร์สาวได้ตายคาควยมากกว่า

"เฮ้ย !! เบาๆหน่อยสิว่ะ" เหล่าคนพาลาดินคนอื่นพากันร้องห้าม เพราะบ้านหลังนี้ มันก็แค่บ้านไม้ธรรมดา แถมเริ่มจะรับแรงกระแทกไม่ไหวแล้ว

แต่เจ้าสโตนเฮดกลับไม่สนใจ มันยังหน้ามืดกระหน่ำแทงอย่างบ้าคลั่งต่อไป ตอนนี้มันไม่สนใจอะไรแล้ว ถ้ามันดูดกลืนพลังมาน่าเธอไม่ได้ มันก็จะเย็ดเธอให้ตายคาควยซะตรงนี้ ในขณะที่แวมไพร์สาวก็โดนกระแทกเย็ดอัดกับเสาบ้านจนดัง ปั๊ก ! ปั๊ก ! จนตัวเธอแทบแหลกเป็นเสี่ยงๆ แต่กระนั้นเธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอแอบใช้การขมิบตอดร่องหีกระตุ้นท่อนควยเป็นการตอบโต้เจ้าพาลาดินตรงหน้ากลับไปโดยไม่ให้มันรู้ตัว ซึ่งก็ได้ผล หลังจากที่กระแทกกันอยู่ไม่นาน ท่อนควยของเจ้าพาลาดินก็เริ่มออกอาการกระตุกบ้าง และก็หลั่งน้ำกามออกมาในที่สุด

เจ้าสโตนเฮดสบถอย่างหัวเสีย ที่มันเผลอหลั่งน้ำกามออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว ทำให้รอบนี้ของมันต้องสิ้นสุดลง แต่กระนั้นมันก็ยังขอกระแทกให้แวมไพร์สาวอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะชักควยออกมา ส่วนเวโรนิก้าก็ได้แต่หอบหายใจอย่างหมดแรง แม้เธอจะยังรักษาสติไม่ให้เสียพลังมาน่าไปได้ แต่การเย็ดเมื่อครู่ก็เกือบจะทำให้เธอต้องตายคาควยซะแล้ว

แต่ไม่ทันที่เธอจะทันได้คิดอะไรต่อ เธอก็รู้สึกได้ว่าเชือกที่มัดมือเธอกับเสาโดนตัดออก พร้อมกับมีมือที่แข็งแรงฉุดร่างเธอขึ้น ก่อนจะเหวี่ยงเธอไปอัดกับโต๊ะกินข้าวอย่างแรง จนตัวเธออยู่ในสภาพลำตัวท่อนบนนอนราบไปกับโต๊ะ ลำตัวท่อนล่างยืนตั้งฉากกับพื้น ท่านี้ทำให้สะโพกของเธอโก่งงอน ราวกับจะเชื้อเชิญให้เอาท่อนควยเข้ามาเสียบโดยไว

ไอซ์เอจ ที่ได้คิวเป็นคนที่สองจึงไม่รอช้า นำท่อนควยที่ตั้งตระหง่านพร้อมใช้งานอยู่แล้วกดเสียบเข้าไปทันที แวมไพร์สาวหน้านิ่วขึ้นมาอีกครั้ง เพราะท่อนควยของเหล่าพาลาดินนั้นมีขนาดใหญ่โตไม่น้อย แม้ก่อนหน้าเธอจะโดนท่อนควยของสโตนเฮดเบิกร่องมาแล้ว แต่การปรับสภาพหีรับก็ไม่สามารถทำได้เสร็จในทันที

แต่เจ้าไอซ์เอจกลับมีสไตล์ที่แตกต่างจากสโตนเฮดอย่างสิ้นเชิง เพราะมันไม่เร่งรีบกระแทกในทันที มันกลับแช่ท่อนควยไว้อย่างงั้นเพื่อรอให้ร่องหีของแวมไพร์สาวตรงหน้าปรับสภาพได้เสียก่อน เพื่อที่แวมไพร์สาว จะได้อิ่มเอมไปกับรสรักที่มันบันดาลให้อย่างเต็มที่ และเมื่อถึงตอนนั้น พลังมาน่าของเธอก็จะตกเป็นของมันในที่สุด

"อืมมมมมม" เวโรนิก้าครางเบาๆพร้อมๆกับที่เจ้าไอซ์เอจเริ่มขยับเอว สเต็บเอวของเข้าไอซ์เอจนั้นเริ่มขึ้นจากช้าไปเร็ว พร้อมๆกับการใช้มือกระตุ้นจุดกระสันตามร่างกายของเวโรนิก้า ไม่นานนักเสียงครางของแวมไพร์สาวก็ดังขึ้นเรื่อยๆ สะโพกของเธอก็แอ่นหนักขึ้น เล็บของเธอก็จิกข่วนจนพื้นโต๊ะเป็นรอยเต็มไปหมด และยิ่งเมื่อหัวนมคู่สวยของเธอโดนบีบขยี้ไปมา อารมณ์ของหญิงสาวก็พรุ่งพรวดจนกู่ไม่กลับ แค่เพียงไม่นานนัก น้ำรักเธอที่คั่งค้างในกายก็ไหลทะลักออกมา ดูท่าการขึ้นสวรรค์ครั้งนี้จะเป็นสัญญาณบอกว่าตัวเธอตกบ่วงกามที่เจ้าพาลาดินคนนี้วางไว้เสียแล้ว

และเพลงกามของเจ้าพาลาดินก็ยังดำเนินต่อไป มันจัดแจงพลิกร่างแวมไพร์สาวให้กลับมาอยู่ในท่านอนหงาย ก่อนที่จะแหวกขาของเธอออกแล้วเข้ากระเด้าอย่างรุนแรงอีกครั้ง พร้อมกันนั้นมันก็เอื้อมมือไปบีบเค้นทรวงอกของแวมไพร์สาวอย่างดุเดือด ราวกับจะให้มันแหลกเหลวไปกับมือ ไม่แค่นั้นมันยังก้มลงไปดูดสลับไปสลับมาทั้งสองด้านเพื่อปลุกเร้าอามรณ์ของแวมไพร์สาวให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งก็ได้ผล เวโรนิก้าที่มัวเมาไปกลับรสกามจนถึงขั้นแอ่นอกแอ่นหีตอบสนองพาลาดินแห่งน้ำอย่างถึงใจ

"เสร็จกูล่ะนังร่าน" เจ้าไอซ์เอจเอ่ยร้องอย่างย่ามใจ ตอนนี้แวมไพร์ตรงหน้าตกเป็นทาสสวาทอย่างเบ็ดเสร็จ ไม่เหลือสติที่จะรักษาพลังมาน่าไว้อีกแล้ว ตรงนี้ขอแค่มันส่งเธอถึงสวรรค์อีกครั้ง พลังมาน่าทั้งหมดของเธอก็จะเป็นของมันในทันที มันจึงเร่งจังหวะกระเด้าเข้าไปอีก จนเสียงเนื้อกระทบกันดัง พรับๆ ดังลั่นไปหมด จนจังหวะสุดท้าย มันก็ส่งแวมไพร์สาวขึ้นสวรรค์สมใจ

แต่แล้วจังหวะนั้นเอง เจ้าไอซ์เอจที่น่าจะกุมชัยชนะในสังเวียนการเย็ดครั้งนี้ก็พลันน้ำแตกเช่นกัน น้ำเงี่ยนทั้งหมดของมันไหลทะลักเข้าโพรงหีอย่างไม่อาจปิดกัน นั่นเป็นเพราะมันประมาทเกินไป เพราะจังหวะที่มันกระเด้าใส่แวมไพร์สาว เธอก็กระดกหีสวนในจังหวะที่สัมพันธ์กัน ตรงนี้มันค่อยๆสร้างความสุขสมแก่เจ้าพาลาดินโดยที่มันไม่รู้ตัว ซึ่งกว่ามันจะรู้มันก็น้ำแตกไปพร้อมกับเธอแล้ว ทำให้ในรอบนี้มันไม่อาจจะดูดพลังมาน่าเธอได้เช่นกัน

เจ้าไอซ์เอจต้องยอมถอนท่อนเอ็นออกมาอย่างหัวเสีย โดยมีโวลต์เข้ามาต่อคิว แต่เจ้าพาลาดินสายฟ้ากลับไม่ยัดท่อนควยเข้าร่างเธอในทันที มันลากเธอให้ยืนขึ้นก่อนจะเหวี่ยงหน้าเธออัดกำแพง จากนั้นมันก็เข้ามาจับล็อกแขนของเธออย่างแน่นหนา ก่อนจะนำแท่งควยที่แข็งชูชันเต็มที่ เสียบใส่เข้าร่างแวมไพร์สาวในทันที

"โอ๊ยยยยยยยยย" แวมไพร์สาวกระตุกร่างอย่างรุนแรง ก่อนจะร้องดังกว่าทุกครั้ง นั่นก็เพราะจุดที่เจ้าพาลาดินเสียบเข้าไปไม่ใช่โพรงหีแต่เป็นประตูหลัง แม้เธอจะผ่านการเย็ดจากทางประตูหลังมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ไม่ว่ายังไง ความรู้สึกเจ็บแสบนั้นก็ยังมีทุกครั้งไม่เคยหายไป แวมไพร์สาวพยามดิ้นรนตามสัญชาติญาณ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ทำให้เธอหลุดพ้นไปได้ ถึงตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงก้มหน้ากัดฟัน เพื่อต่อสู้กับความทรมานที่กำลังเจอแค่นั้นเอง

 แต่ผ่านไปไม่นานหนัก ความเจ็บปวดทรมานของแวมไพร์ก็เริ่มเบาบางลง กลายเป็นความเสียวที่เข้ามาทดแทน ตอนนี้เธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมไปกับการเย็ดตูดไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้แค่เวลาผ่านไปอีกเล็กน้อย เธอก็กระตุกร่างอย่างแรง น้ำรักของเธอแตกซ่าน ไหลทะลักเต็มหน้าขาก่อนจะไหลนองลงมาเต็มพื้น จนตัวเธอสิ้นเรี่ยวแรง ขาสองข้างที่ยังไม่หายจากการทรมานจึงไม่อาจจะพยุงร่างของเธอได้อีกต่อไป

แต่เจ้าโวลต์ก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย มันยังมุ่งมั่นอัดควยเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงที่หนักหน่วงเท่าเดิมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้แวมไพร์สาวที่พอแข้งขาอ่อนแรงจนต้องย่อตัวลงมา ก็ต้องโดนมันกระแทกจนกลับไปยืนอีกครั้ง ทำให้คราวนี้ แม้เธอจะบรรเทาความทรมานจากการโดนเย็ดตูด แต่ก็ต้องไปทรมานกับความปวดร้าวที่ขาสองข้างแทน แต่ความทรมานเช่นนี้ กลับเป็นตัวเร้าอารมณ์อย่างดี เพราะใช้เวลาไม่นานนัก เวโรนิก้า ก็เสร็จสมไปอีกครั้งจนได้

ซึ่งการที่เธอเสร็จติดๆกันสองครั้งเช่นนี้ ถ้าปล่อยไว้ต่อไปเธอคงต้องตายแน่ๆ แวมไพร์สาวจึงตอบโต้ด้วยการยืนกางขาออกเล็กน้อย เพื่อให้เจ้าพาลาดินสามารถเย็ดเธอได้ถนัดมากขึ้น และพอครั้งใดที่มันกระแทกท่อนควยเข้ามา เธอก็จะจัดการขมิบตูดรัดเพื่อตอบโต้ทันที ซึ่งแรงขมิบรัดของเธอนั้นก็รุนแรงเอาการ ถ้าใครโดนเข้าไปก็จะต้องเสียวควยไปทั้งแท่ง เจ้าพาลาดินสายฟ้าก็เช่นกัน มันโดนความเสียวจู่โจมจนต้องกันฟันกรอด แต่กระนั้นมันก็ยังกระแทกท่อนควยใส่อย่างไม่ยอมแพ้

แต่ไม่ว่าแวมไพร์สาวจะตอบโต้เช่นไร ผลสุดท้าย คนที่ได้รับความเสียวกระสันมากกว่าก็คือตัวเธอเอง เพราะหลังจากเย็ดสู้กันไปพักใหญ่ๆ เธอกลับเป็นฝ่ายที่เสร็จสมไปเสียก่อน นี่เป็นการเสร็จครั้งที่สามไปเสียแล้ว น้ำเงี่ยนของเธอไหลทะลักจนพื้นเปียกนอง แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะแพ้ เพราะตอนนี้เธอจับหลักท่อนควยเจ้าพาลาดินได้แล้ว เพราะแทนที่เธอจะขมิบรัดตอนที่มันแทงควยเข้ามาจนสุด เธอก็เปลี่ยนเป็นขมิบก่อนตั้งแต่ตอนที่หยักมุดเข้ามา วิธีนี้จะเป็นการส่งความเสียวเข้าไปที่หัวหยักโดยตรง

ซึ่งวิธีนี้ได้ผลเป็นอย่างดี เจ้าพาลาดินเสียวซ่านจนหูอื้อไปหมด และยิ่งมันเสียวมันก็ยิ่งแทง ยิ่งมันแทงก็ยิ่งเข้าทางของเธอ จนสุดท้ายมันก็ทนความเสียวไม่ไหวอีกต่อไป น้ำเงี่ยนของมันไหลทะลักออกมาจนหมด ท่วมตั้งแต่รูตูดจนไหลเยิ้มออกมาอาบควยที่ด้านนอก เรียกได้ว่าเวโรนิก้าสามารถเอาชนะเกมส์เย็ดได้เพียงเส้นยาแดงผ่าแปด ก่อนที่เธอจะทรุดกายลงกับพื้น ในทันทีที่เจ้าโวลต์ถอนควยออกมา

แต่เธอก็นั่งพักได้ไม่กี่วินาที แวมไพร์สาวต้องหวีดร้องลั่นอย่างเจ็บปวด เพราะเจ้าพาลาดินคนสุดท้ายมันจิกผมของเธออย่างแรง ก่อนจะลากเธอไปกับพื้น ก่อนจะเหวี่ยงอย่างแรงลงไปกอง เจ้าพาลาดินคนนี้ เป็นคนที่มีความแค้นต่อเธออย่างมากที่สุด ดังนั้นการกระทำของมันจึงป่าเถื่อนโหดร้าย ยิ่งกว่าพาลาดินคนอื่นหลายเท่า เจ้าพาลาดินผู้นี้ยังเดินอ้อมไปบนศีรษะของแวมไพร์สาว ก่อนจะถมน้ำลายรดอย่างสะใจ ก่อนที่มันจะเตะอัดเข้าร่างเธออย่างแรงให้เธอกลับมานอนหงาย เธอให้หันมาเผชิญกับมัน

"เบิร์น...." เวโรนิก้าเอ่ยเรียกชื่อมันอย่างเจ็บแค้น ก่อนที่เธอจะเบิกตาโพลงอย่างตกใจ เมื่อได้เห็นท่อนควยของมันอย่างถนัดตา ท่อนควย ที่บวมบูดแข็งปลั๊กราวกับท่อนไม้ ไม่แค่นั้น รอบๆท่อนควยยังฝังมุกตะปุ่มตะป่ำอยู่อีกถึง 6 เม็ด แม้ว่าแวมไพร์สาวผู้นี้ จะมีประสบการณ์พบเจอกับท่อนควยมานับร้อยนับพัน แต่ท่อนควยดุ้นนี้ ก็จัดเป็นท่อนควยที่น่าเกลียดน่ากลัวท่อนหนึ่ง น่ากลัวจนถึงขนาดเธอรู้สึกขยาดไม่กล้าโดนเย็ดเลยทีเดียว

"อย่านะ !!" แวมไพร์สาวเอ่ยร้องพร้อมกับพยามถอยหนี แต่เจ้าพาลาดินก็จับปั่นเอวเธอไว้แน่น ก่อนจะแทงควยพรวดเข้าไป

"โอ๊ยยยยยย เจ็บบบบ เอามันออกไป" เวโรนิก้าร้องลั่นพร้อมกับใช้มือดันหน้าอกเจ้าพาลาดินตรงหน้า แต่จากการที่เธอโดนเย็ดจนเสร็จมาต่อเนื่อง ทำให้เธอไม่มีแรงเหลือพอที่จะขัดขืน เจ้าพาลาดินจึงยิ้มเหี้ยมก่อนจะแทงควยเข้าไปอย่างแรงขึ้นอีก ท่อนควยที่คับใหญ่แถมฝั่งมุกโดยรอบ เมื่อโดนยัดเข้าไปอย่างแรง ทำให้เม็ดมุกเหล่านั้นขูดไปกับเนื้อในโพรงหี ตรงนี้ทำให้แวมไพร์สาวรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วโพรงหี แต่ขณะเดียวกันก็เสียวซ่าน จนมีความสุขอย่างประหลาดอย่างบอกไม่ถูก และนั่นมันก็มากพอจนทำให้เธอกระตุกร่างอย่างแรง เสร็จสมไปในทันที

"แค่นี้ก็เสร็จแล้วเหรออีกระหรี่" เจ้าพาลาดินเอ่ยเหยียดหยาม ก่อนที่มันจะตั้งสมาธิเพื่อทำอะไรบางอย่าง พริบตานั้นเหล่าเม็ดมุกที่ฝังตัวอยู่ ก็พลันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ร้อนที่เหมือนดั่งโดนจี้ด้วยบุหรี่ในโพรงหี ซึ่งเป็นจุดที่บอบบางและไวต่อความเจ็บปวดที่สุดในร่าง เมื่อเป็นเช่นนี้ แวมไพร์สาวจึงดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง สองมือทั้งผลักไสทั้งทุบตีเจ้าพาลาดินตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

เจ้าพาลาดินยิ้มอย่างสะใจต่อสภาพแวมไพร์สาวตรงหน้า มันกดแขนสองข้างของเธอไว้แน่นเหนือหัว ก่อนที่มันจะตั้งหน้าซอยควยเข้าออกอย่างหนัก และนั่นยิ่งท

Peachanun Paetwong


sunshine9

...มาต่อส่วนที่ขาดครับ...


เจ้าพาลาดินยิ้มอย่างสะใจต่อสภาพแวมไพร์สาวตรงหน้า มันกดแขนสองข้างของเธอไว้แน่นเหนือหัว ก่อนที่มันจะตั้งหน้าซอยควยเข้าออกอย่างหนัก และนั่นยิ่งทำให้แวมไพร์สาวทรมานอย่างหนักเข้าไปอีก ความรู้สึกของเธอตอนนี้ไม่ต่างกับมีก้อนหินร้อนๆกำลังกลิ้งเกลือกไปมาในร่าง กาย ความเจ็บปวดทรมานที่ถาโถมคราวนี้ มันหนักเกินว่าตัวเธอจะรับไหว จนสุดท้ายเธอก็ต้องหลั่งน้ำตาเป็นสาย เพื่อระบายความเจ็บปวดนั้นออกมา

แต่เพราะตัวเธอชื่นชอบรสรักแบบซาดิดส์เช่นนี้อยู่แล้ว ยิ่งเจอการกระทำที่ทารุนแค่ไหน ตัวเธอก็ยิ่งเสร็จสมง่ายดายแค่นั้น ทำให้ทุกครั้งที่โดนซอย ความเสียวกระสันของเธอก็จะยิ่งสูงขึ้น จนในที่สุดตัวเธอก็เสร็จสมไปติดๆถึง 2 ครั้ง และทันทีที่เธอเสร็จ เจ้าพาลาดินก็ก้มลงมากระซิบเธอข้างหู

"มึงยอมแพ้ดีกว่านังแพศยา" พร้อมกับกันนั้นเจ้าเบิร์นก็บีบหน้าเวโรนิก้าให้หันมาสบตา "เพราะถ้ามึงไม่ตายคราวนี้ มึงจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว เพราะกูจะลากมึงไปเจอนรกที่คุกอินเฟอร์โน !!"

คุกอินเฟอร์โน !! ประวัติของคุกแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเหล่าวอร์ริเออร์เมื่อนานมาแล้ว ที่จริงการเรียกว่าคุกอาจจะฟังดูไพเราะเกินไปด้วยซ้ำ เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่วิกลจริตที่บ้าคลั่ง ภายในนั้นมีแต่การทรมานที่โหดร้าย เป็นนรกที่อำมหิตกว่านรกภูมิของจริงเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงแม้เครื่องมือลงทัณฑ์จะโหดร้ายแค่ไหน แต่กลับยังไม่มีใครต้องเสียชีวิตเพราะเครื่องมือเหล่านั้นเลย เพราะว่านักโทษคนไหนที่ได้รับการทรมานจนใกล้ถึงแก่ความตาย นักโทษเหล่านั้นจะถูกส่งไปรักษาโดยแพทย์ฝีมือดี ให้มีชีวิตรอดกลับมารับการทรมานชั่วกัปชั่วกัลป์

เกียรติศัพท์ขนาดนี้ แน่นอนว่าเวโรนิก้าเองก็ต้องเคยรู้จัก แล้วเช่นนี้เธอควรทำเช่นไร เธอควรยอมตายให้พวกมันดูดพลังมาน่า หรือจะยอมฝืนทนเพื่อไปเจอนรกที่นั่น แต่ไม่ว่าทางไหนปลายทางที่รอเธออยู่ก็ไม่มีแสงสว่างสำหรับเธอเลย แวมไพร์สาวครุ่นคิดไปมาพร้อมกับความเหนื่อยล้าที่ค่อยๆเข้ามาเกาะกุม ดวงตาสองข้างของเธอก็ค่อยๆปิดลงช้าๆ 'นั่นสินะ ยอมตายซะตอนนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีแล้ว'

.
.

แต่เธอจะตายไม่ได้ !!

.
.

เวโรนิก้ากัดกระพุ้งแก้มอย่างแรงเพื่อเรียกสติกลับมา จนเลือดไหลกลบปาก ก่อนจะพ่นก้อนเลือดเหล่านั้นเข้าใส่เจ้าพาลาดินตรงหน้า ซึ่งมันก็ตอบโต้เธอโดยการฟาดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าเธอไม่ยั้ง ก่อนจะหันไปซอยท่อนเอวเข้าออกอย่างหนักราวกับจะให้เธอตายคาควย ซึ่งเธอก็ไม่ยอมแพ้ ทั้งแอ่นหีขมิบรัดอย่างเต็มที่ จนในที่สุดเจ้าพาลาดินก็ต้องยอมแพ้ระเบิดน้ำกามออกมา

แต่เกมส์กามก็ยังไม่จบ เพราะทั้งหมดเป็นแค่การเย็ดแค่รอบแรก !! ทันทีที่เจ้าเบิร์นถอนควยออก เจ้าสโตนเฮดที่ได้พักพื้นร่างกายอย่างเต็มอิ่มก็เข้ามาเย็ดเธอเป็นรอบที่สอง ในขณะที่เหล่าพาลาดินคนอื่นก็ต่างพักฟื้นเก็บแรง เพื่อรอเวลามาเย็ดเธอต่อเช่นกัน เกมส์กามระหว่างพาลาดิน 4 คน กับแวมไพร์สาวที่ไม่มีโอกาสได้พักเลยแม้แต่วินาทีเดียว จะจบลงเช่นไรนั้น ดูท่าคงยังไม่ได้คำตอบเป็นแน่

.
.
.
.
.

ดึกแล้ว .... แต่นายอาร์ตเองก็ยังไม่อาจข่มตาหลับได้ เขาจึงต้องลุกออกไปที่ชานระเบียงเพื่อชมท้องฟ้ายามค่ำคืน นาฬิกาบนข้อมือของเขาบ่งบอกเวลาเที่ยงคืนพอดี ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าห้วงเวลาบนโลกกับที่นี่จะเลื่อมล้ำกันเท่าใด แต่ดูจากท้องฟ้าที่มืดสนิท ท่าทางห้วงเวลาคงไม่เลื่อมกันหนัก แต่ถึงท้องฟ้าจะมืดมิดเพียงใด พระจันทร์ดวงโตก็ยังสาดแสงให้ความสว่างไสวให้กับเมืองทั้งเมืองอยู่เสมอ จะว่าไปที่โลกกับ wonderland นี้ก็แทบไม่มีอะไรจะแตกต่างกันเลย

แถมศิลปกรรมของที่นี่ ดูไปแล้วก็ช่างคล้ายศิลปะแบบโกธิคในยุคกลางของโลกไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน หรือแม้แต่เสื้อผ้าการแต่งกายของผู้คน อย่างห้องที่รับรองเขาก็เช่นกัน ของตกแต่งภายใน เครื่องใช้ รวมไปถึงเตียงนอน ก็ยังแผงศิลปะโกธิคนี้อยู่เช่นกัน จะว่าไปศิลปะแบบนี้ก็เหมาะไม่น้อย กับโลกแห่งเวทย์มนต์เช่นนี้ แต่ไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรต่อ ห้องรับรองของเขาก็มีคนเปิดประตูเข้ามา

"นึกว่าหลับไปแล้วซะอีก" วิเวียนยิ้มหวานก่อนจะปิดประตูลง "อาร์ตแต่งตัวแบบนี้ก็หล่อดีน่ะเนี่ย"

ชายหนุ่มยิ้มรับอารมณ์ขันของหญิงสาว สภาพของเขาในตอนนี้ไม่น่าจะใช้คำว่าแต่งตัวได้เลย เพราะตัวเขานั้นอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าผืนยาวที่พันรอบเอวพอปิดของสงวน แถมใช่จะแน่นหนา เพราะแค่กระตุกเบาๆก็หลุดไปกองได้แล้ว วัฒนธรรมของที่นี่ก็แปลกดี เพราะเวลานอนผู้คนจะแทบไม่ใส่อะไรเลย แถมพร้อมจะสลัดผ้าเพื่อเย็ดตลอดเวลาอีกต่างหาก

และเขามองกลับไปที่หญิงสาว ก็พบว่าตอนนี้เธออยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีขาว กับกระโปรงสั้นลายลูกไม้ที่บานสะพรั่ง รับกับรองเท้าบูทยาวสีขาวล้วน ส่วนมือของเธอก็สวมถุงมือยาวถึงข้อศอก แต่ที่โดดเด่นก็คือเนื้อผ้า ที่มันช่างบางเบาซะเหลือเกิน จนแทบจะเห็นเรือนร่างที่ซ่อนไว้ข้างใน นี่น่ะเหรอชุดพรีสสาว ช่างแตกต่างจากที่เขาเคยจินตนาการไว้ซะอีก ที่เขาจินตนาการว่าน่าจะเหมือนชุดแม่ชีในโบสถ์ แต่พอเอาเข้าจริงดูแล้วเหมือนชุดเจ้าสาวมากกว่า

"ไปรายงานผลมาเป็นยังไงบ้าง" ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น เพราะการที่หญิงสาวอยู่ในชุดพรีสเต็มตัวเช่นนี้ ก็เพราะเธอต้องเข้าพบกับผู้นำทั้ง 3 ของเหล่าพรีส เพื่อแจ้งข้อมูลที่ได้มาจากความทรงจำของแวมไพร์ลินคอร์น

"เรียบร้อย" วิเวียนส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะเงียบไป เงียบไปนานจนผิดสังเกตเช่นนี้ ชายหนุ่มจึงไม่ถามอะไรเธอต่อ เขาทำเพียงเดิมเข้าไปโอบเธอจากด้านหลังเพื่อหวังว่าอ้อมกอดของเขา จะทำให้เธอผ่อนคลายลง

"วิเวียนว่าเรื่องนี้วิเวียนควรบอกอาร์ต" หญิงสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะพลิกกายมาสบตาเขา "เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอาร์ตโดยตรง"

"เกี่ยวกับผมเหรอ ?" ชายหนุ่มเอ่ยทวนอย่างแปลกใจ ก่อนที่จะนั่งลงเพื่อรับฟังเรื่องราวจากเธอ เรื่องของอาลูคาร์ด

ที่มาของเรื่องราวทั้งหมดนั้น ต้องเกริ่นย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของเหล่าแวมไพร์ แวมไพร์ในปัจจุบันนั้นประกอบไปด้วย 3 เผ่าใหญ่ด้วยกัน เผ่าแรกเป็นแวมไพร์ตอนเหนือที่อาศัยอยู่ในหุบเขาที่หนาวเหน็บทั้งปี เผ่านอร์ทตราเซีย เผ่าที่สองเป็นเผ่าที่อาศัยในที่ราบตอนกลาง เผ่ามิดแลนด์แห่งเลอเซอโร่ และเผ่าสุดท้ายเป็นเผ่าที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะทางใต้ เผ่าเซาท์เอน

ทั้ง 3 เผ่านี้แม้ว่าเผ่ามิดแลนด์จะเป็นเผ่าสืบเชื้อสายตรงมาจากบริวารแห่งอาลูคา ร์ด แต่ก็กลับเป็นเผ่าที่อ่อนแอที่สุด อาจจะเนื่องด้วยเผ่านี้มีวิทยาการด้านเวทย์มนต์ด้อยกว่าอีกสองเผ่าที่เหลือ หรือไหนจะแวมไพร์ชั้นราชาที่มีเพียง 2 ตนอันได้แก่เลอเซอโร่และบุตรชาย ทำให้ผู้นำอย่างเลอเซอโร่ร้อนรนเป็นอย่างมาก เพราะตัวมันเองก็เริ่มมีอายุใกล้ครบ 300 ปี ซึ่งเป็นอายุขัยโดยเฉลี่ยของเหล่าแวมไพร์

แต่แล้วก็เหมือนฟ้าเข้าข้าง เพราะอยู่มาวันหนึ่งคนของเลอเซอโร่ก็พบแท่นหินโบราณที่จารึกคัมภีร์ประหลาด คัมภีร์ที่ว่าถึงวิชาธาตุที่ 8 ที่อยู่นอกเหนือจากสาระบบโลกธาตุ ธาตุที่ 8 ที่ไม่ใช่ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า ความมืด และแสงสว่าง ธาตุที่ 8 ที่เป็นธาตุต้องห้ามและถูกลบหายไปจากประวัติศาสตร์ ธาตุที่ 8 ธาตุวิญญาณ

ธาตุวิญญาณนี้แม้ไม่มีทั้งเวทย์โจมตีหรือป้องกัน แต่ก็กลับมีเวทย์มนต์ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า นั่นก็คือเวทย์คืนชีพ ที่สามารถชุบชีวิตผู้ที่ตายไปแล้วให้กลับมาได้ทุกคน เมื่อรู้เช่นนั้น เลอเซอโร่ก็เรียกระดมพลเหล่าแวมไพร์นักปราชญ์ที่มีในเผ่าทุกคนเข้ามาศึกษา และตรวจสอบ จนเมื่อแน่ใจแล้วว่าแผ่นศิลานี้เป็นของจริง เลอเซอโร่ก็สังการให้ดำเนินตามที่จารึกไว้ทันที โดยมีจุดมุ่งหมายก็คือคืนชีพ จักรพรรดิ์แวมไพร์ อาลูคาร์ด

แต่แล้วในขั้นตอนสุดท้ายของการคืนชีพ เลอเซอโร่ก็กลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครเข้าใจ แม้แต่แวมไพร์คนสนิทอย่างลินคอร์นก็ตาม เพราะในขั้นตอนสุดท้าย จะต้องใช้ร่างของหญิงสาวรองรับในการคืนชีพ ซึ่งเหล่าแวมไพร์ก็คัดเลือกแวมไพร์สาวที่เหมาะสมเอาไว้แล้ว แต่เลอเซอโร่กลับมีคำสั่งให้ใช้หญิงสาวชาวมนุษย์แทน สิ่งนี้ไม่มีใครเข้าใจเลอเซอโร่ได้เลย เพราะการที่อาลูคาร์ดจะคืนชีพขึ้นมาเป็นเผ่าไหน มันขึ้นอยู่กับครรภ์ของมารดา ถ้าใช้มารดาเป็นมนุษย์ อาลูคาร์ดมิต้องถือกำเนิดมาเป็นมนุษย์อย่างนั้นเหรอ แต่เมื่อมันเป็นคำสั่งของราชาแวมไพร์ จึงไม่มีใครขัดได้ และเพราะต้องไปลักพาตัวหญิงสาวชาวมนุษย์มานี่เอง ทำให้ข่าวรั่วไหล จนสุดท้ายการคืนชีพของอาลูคาร์ดจึงโดนยับยั้ง ในที่สุด

"สรุปแล้ว .... ผมก็คืออาลูคาร์คจริงๆใช่ไหม" นายอาร์ตเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะก้มหน้าลง ที่จริงจากการที่เขาพบร่างของคนแปลกหน้าในห้วงจิตใต้สำนึก เขาก็พอเดาได้แล้ว ว่านั่นคืออาลูคาร์ด และเขาก็คงเป็นร่างอวตารของจอมปีศาจนั้นจริงๆ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เขาไม่อาจจะยอมรับได้ และภาวนาให้มันอย่าได้เกิดขึ้นจริง

"อาร์ตยังไม่ได้เป็นอาร์ลูคาร์ดหรอก" วิเวียนบีบมือชายหนุ่มเบาๆ

"เวทย์คืนชีพจะประกอบด้วย 2 บท นั่นก็คือปลุกชีพกับปลุกวิญญาณ ที่เจ้าพวกแวมไพร์ทำมันแค่การปลุกชีพเท่านั้น ตราบใดที่มันยังไม่ได้ตัวอาร์ตไปทำพิธีในบทที่เหลือ อาร์ตก็ยังเป็นอาร์ตอยู่เสมอ"

"ดังนั้นอาร์ตอยู่ที่นี่น่ะ ...... ที่นี่คือเมืองแซงจูรี่ย์ เป็นเมืองแห่งพรีส ที่นี่จะไม่มีแวมไพร์ตนไหนเล็ดลอดเข้ามาได้ ถ้าอยู่ด้วยกันที่นี่ อาร์ตจะปลอดภัย"

"อาร์ตอยู่ที่นี่กับวิเวียนตลอดไปน่ะ" วิเวียนพูดจบก็ชุดร่างชายหนุ่มลุกขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะล้มลงบนเตียงนอน ก่อนที่เขาจะกระซิบตอบเธอเบาๆ

"จ๊ะ"

.
.
.

เหนือขึ้นที่โบสถ์คาดินัลล์

ณ. ห้องโถงขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นห้องประชุมเมื่อครู่ ระหว่างผู้นำสูงสุดของเหล่าพรีสกับพรีสสาวแห่งแสงสว่าง แม้ตอนนี้การประชุมจะสิ้นสุดลงและวิเวียนได้กลับไปแล้ว แต่ผู้นำที่เหลือทั้ง 3 อันได้แก่ รองฝ่ายขวาที่ดูแลเรื่องกิจการภายในและความมั่นคง โบน รองฝ่ายซ้ายที่ดูแลเรื่องภารกิจภาคสนามและสงคราม แองเจล่า สังฆราชสูงสุดผู้เป็นผู้นำสูงสุดแห่งเหล่าพรีส สาธุคุณรอส กำลังถกเถียงเรื่องข้อเสนอของวิเวียนอย่างเคร่งเครียด

เนื่องจากโบนที่เป็นอาจารย์ที่ฝึกฝนวิเวียนมาตั้งแต่เด็กจึงมีความเชื่อมั่น และไว้ใจในการตัดสินใจของนาง อีกทั้งเหตุผลที่นางยกมาเรื่องพรีสต้องปกป้องมนุษย์ก็เป็นสิ่งที่เขาเคยสอน ดังนั้นเขาจึงสนับสนุนความคิดนี้เต็มที่ ต่างจากแองเจล่าที่ไม่ไว้ใจและหวาดระแวงในตัวร่างอวตารของอาลูคาร์ด หวาดกลัวว่านายอาร์ตจะกลายเป็นระเบิดเวลาเข้าสักวัน ทำให้ข้อเสนอนี้ไม่อาจหาทางจบลงได้

"พอที !!" สาธุคุณรอสตวาดลั่นก่อนจะพาดฝ่ามือลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง

"ข้าเห็นด้วยกับแองเจล่า เจ้านั่นถ้าเก็บมันไว้ก็จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์เข้าสักวัน" เมื่อมติออกมาเป็น 2 ต่อ 1 เช่นนี้ ความเห็นของโบนก็ไม่มีผลเสียแล้ว

"แองเจล่า งานนี้ข้าขอมอบให้เจ้า สังหารมันให้เงียบและเร็วที่สุด" พรีสสูงสุดเอ่ยสั่งก่อนจะเดินจากไป

.
.

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครรู้

.
.

เพราะผู้นำสูงสุดของเหล่าพรีสนั้นไม่ได้กลับห้องพัก เขากลับไปสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ที่เป็นคุกลับไว้ใช้คุมขังแวมไพร์จำนวนหนึ่ง และเพราะเป็นคุกลับจึงไม่มีพัศดีคนใดคอยคุ้มกัน และทันที่สาธุคุณรอสเข้าไปถึง เสียงร้องระงมก็ดังโหยหวนขึ้น พร้อมกับกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง แต่ไม่นานนักเสียงร้องระงมนั้นก็เงียบลง เผยให้เห็นภายในที่มีสาธุคุณรอสยืนอยู่ตรงกลาง ในขณะที่รอบด้านมีแต่ซากศพเต็มไปหมด

"วิเวียนนนนนนน" สาธุคุณรอสเอ่ยร้องเสียงเหี้ยมโหด "ข้าฟูมฟักเจ้ามากับมือ แต่เจ้ากลับมีใจให้ชายอื่น"

"วิเวียนนนนนนน"
.
.
.
.
.

ย้อนขึ้นไปหลายชั่วโมงก่อนหน้านั้น

"คุกลับ !! ในแชงจูรี่ย์มีคุกลับด้วยเหรอว่ะ" สโตนเฮดเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหู "พวกพรีสมันสร้างไว้ทำไมว่ะ เอาไว้เก็บแวมไพร์ตัวเป้งๆเอาไว้สอบสวนเหรอ"

"ถุยยยยยย พวกพรีสเนี่ยน่ะ" โวลต์สบถอย่างขบขัน "คุกแห่งนี้น่ะ จริงๆสร้างขึ้นไว้ขังแวมไพร์ระดับล่าง หรือไม่ก็แวมไพร์ที่ถูกตัดเอ็นมือเอ็นเท้า ไว้ให้พวกพรีสคนใหญ่คนโตเอาไว้ฆ่าเล่นเพื่อความบันเทิง"

"ที่ชื่อว่าคุกลับเนี่ย ก็เพราะพวกพรีสมันคงอายถ้าใครรู้ว่ามันเก็บแวมไพร์อ่อนๆมาฆ่าเล่นยังไงล่ะ นี่เป็นความลับระดับสุดยอดที่แม้แต่พรีสข้างในยังมีไม่กี่คนที่รู้เลยน่ะ"

"ฮ่าๆๆๆ เป็นคราสที่อ่อนแอเสียจริงๆ" สโตนเฮดหัวเราะชอบใจก่อนจะเอ่ยถาม "นี่ก็แปลว่าพวกเจ้าทำภารกิจลับของท่านแลนด์ซาร์ตเสร็จสิ้นแล้วงั้นสิ"

ในโลกของ wonderland นั้น แม้พรีสและวอร์ริเออร์จะถือกำเนิดด้วยเหตุผลเดียวกัน นั่นคือต่อกรกับเหล่าแวมไพร์ แต่ระหว่าง 2 คราสนี้ ก็ยังเป็นพันธมิตรที่ไม่เหนียวแน่นนัก ทั้ง 2 คราสยังมีช่องว่างเล็กๆระหว่างกันอยู่ ซึ่งนานวันเข้า ช่องว่างนี้ก็ขยายใหญ่จนเป็นความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน จนมาถึงปัจจุบันความไม่ไว้ใจนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง กลับเพิ่มขึ้นจนผู้นำสูงสุดของเหล่าวอร์ริเออร์อย่างนายพลแลนด์ซาร์ ตถึงกัลป์ออกภารกิจลับภารกิจหนึ่งซึ่งไม่มีใครกล้าสั่งมาก่อนในประวัติ ศาสตร์

นั่นก็คือให้หาข่าวข้อมูลแผนผังของเมืองแซงจูรี่ย์ !!

และคำสั่งนี้ก็ถูกส่งต่อให้เหล่าพาลาดินเป็นผู้รับไปปฏิบัติ ในขึ้นตอนของภารกิจนั้นได้แบ่งแยกการหาข่าวออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน

ไอซ์เอจสืบหาแผนผังเมืองชั้นนอก โวลต์สืบหาแผนผังเมืองชั้นใน ไซโคลนสืบหาระบบรักษาความปลอดภัยทั้งเมือง สโตนเฮดสืบหากำหนดการเคลื่อนย้ายกำลังพลในเมืองล่วงหน้า 5 ปี และเบิร์นสืบหาแผนผังโบสถ์คาดินัลล์ จากข้อมูลที่ได้รับมอบหมาย สโตนเฮดเป็นคนที่ดำเนินการเสร็จและส่งมอบข้อมูลเป็นคนแรก เนื่องจากภารกิจที่ได้นั้นไม่ได้อยากเย็นเกินไปนัก ในขณะที่เหลือก็ดำเนินการเสร็จแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ทันได้ส่งมอบข้อมูลก็ได้รับภารกิจเร่งด่วนให้มาล่านายอาร์ตที่โลก เสียก่อน

"แด่ความสำเร็จของพวกเราเว้ย" เจ้าสโตนเฮดร้องลั่นก่อนจะกระดกไวน์องุ่นที่ชาวบ้านในเมืองนี้หมักไว้ พร้อมกับกินอาหารที่ยึดมาจากชาวบ้านอย่างมูมมาม

"อย่าพึ่งดีใจไป ภารกิจของเรายังไม่จบ" แต่กินไปได้ไม่กี่คำสโตนเฮดก็โดนเบิร์นเบรกหัวทิ่ม

"เมื่อครู่ข้าได้ติดต่อไปหาท่านแลนด์ซาร์ต แล้วก็ได้รู้ว่า ตอนนี้เจ้าร่างอวตารของอาลูคาร์คตกอยู่ในมือของพรีส ภารกิจสังหารมันของพวกเรายังไม่จบ อีกทั้งภารกิจส่งมอบข้อมูลเมืองแซงจูรี่ย์ก็ยังไม่เรียบร้อย นี่เป็นภารกิจหลัก 2 ภารกิจที่เราต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว"

"แล้วนังนั่นล่ะ ฆ่ามันซะเลยดีไหม เก็บมันไว้ก็ถ่วงภารกิจเราเปล่าๆ" ไอซ์เอจเอ่ยถามพร้อมพร้อมกับส่งสายตาไปยังเป้าหมาย

เบื้องหน้าของมันก็คือแวมไพร์สาวเวโรนิก้า ที่พึ่งผ่านการโดนเวียนเทียนอย่างหนักจากพาลาดินถึง 4 คน จนตอนนี้ร่างกายของเธอเหนื่อยล้าจนไม่มีแม้แต่แรงจะหายใจ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังโชคดีอยู่ ตรงที่ได้พักหายใจบ้างสักทีหลังจากที่ต้องกรำศึก เย็ดมาราธอนไม่ได้หยุดอยู่นานหลายสิบชั่วโมง แต่ถึงจะได้พักแต่เธอก็อยุ่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก สองมือของเธอโดนมัดแน่นก่อนจะนำไปแขวนห้อยไว้กับคานของบ้าน สภาพแบบนี้ ไม่ต่างกับเนื้อสดที่ถูกแขวนโตงเตงรอการไปชำแหละอย่างไรอย่างนั้น

"ไม่ !! ข้าจะเอามันไปทรมานที่คุกอินเฟอโน !!" พาลาดินแห่งไฟ เบิร์น ยังยืนยันคำเดิม

"เอาละ ข้าจะแบ่งทีมภารกิจใหม่ ... ก่อนอื่นพวกเจ้า 3 คนรับนี่ไป" เบิร์นพูดจบก็ส่งไอเท็มลักษณะคล้ายแผ่น CD ให้ ไอซ์เอจ โวลต์ และไซโคลน "นั่นคือแผ่นคัดลอกความจำ พวกเจ้าคัดลอกความจำเรื่องภารกิจเมืองแซงจูรี่ย์แล้วส่งมาให้ข้า ภารกิจส่งมอบข้อมูลข้าจะทำเอง"

"ภารกิจที่ 2 ไซโคลน ในฐานะที่เจ้าเป็นคนหาข่าวเรื่องข้อมูลระบบรักษาความปลอดภัย เจ้าจงอาศัยสิ่งที่เจ้ารู้แผงตัวเข้าไปในเมืองแซงจูรี่ย์ แล้วลอบสังหารเจ้าร่างอวตารนั่นซะ ภารกิจนี้เป็นภารกิจเร่งด่วน เดี้ยวเจ้าออกเดินทางภายในคืนนี้เลย"

"ภารกิจสุดท้าย พวกเจ้า 3 คนที่เหลือ จงนำร่างนังกระหรี่นั่นไปที่คุกอินเฟอโนซะ เมื่อข้าเสร็จภารกิจแรกแล้วข้าจะตามไปสมทบทีหลัง"

เมื่อแบ่งทีมเสร็จแล้วเจ้าเบิร์นก็นั่งกินอาหารอย่างสบายอารมณ์ โดยไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดของเหล่าพาลาดินที่เหลือตรงหน้า โดยเฉพาะพาลาดิน 3 คนที่ต้องนำตัวเวโรนิก้าไปคุกอินเฟอโนนั้นต่างก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะพวกมันมองว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเบิร์น แต่เจ้าพาลาดินแห่งไฟกับใช้อำนาจหน้าที่สั่งงานตามอำเภอใจ แต่ด้วยตำแหน่งที่ด้อยกว่า ทำให้พวกมันต้องทำตามอย่างไม่อาจจะขัดได้

แต่คนที่น่าจะขัดเคืองที่สุดน่าจะเป็นไซโคลน เพราะมันเป็นคนเดียวที่ยังไม่ได้เย็ดเวโรนิก้า และคงไม่มีโอกาสอีกแล้วเพราะมันโดนส่งการให้เร่งออกเดินทางภายในคืนนี้ แต่กระนั้นมันก็แอบยิ้มที่มุมปาก เพราะมันได้แอบดำเนินแผนการบางอย่างเงียบๆเอาไว้แล้ว

เพราะหลังจากนั้นไม่นานนัก เหล่าพาลาดินคนอื่นก็ต่างพากันหลับใหลไม่ได้สติ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะฤทธิ์ยา 'น้ำตานิทรา' ที่มันแอบวางในอาหารนั่นเอง ยานี้มีสรรพคุณไร้สีไร้กลิ่น แต่ออกฤทธิ์ช้าทำให้ต้องทิ้งเวลาไปครู่ใหญ่กว่าเป้าหมายจะหลับ แต่เมื่อหลับแล้ว กว่าจะตื่นก็คงเป็นตอนสายของอีกวัน นั่นหมายความว่า มันในตอนนี้มีเวลาเย็ดนังแวมไพร์นั่นทั้งคืน

เจ้าไซโคลนหัวเราะขึ้นอย่างสะใจ ตอนนี้ถึงเวลาเอาคืนของมันบ้างแล้วหลังจากที่แล้วมา มันมักจะโดนพาลาดินคนอื่นข่มอยู่เสมอ มันจึงย่างสามขุมเข้าไปหาแวมไพร์สาวที่ถูกแขวนห้อยอยู่กลางอากาศ พวกพาลาดินเหล่านั้นคงแค้นใจพิลึก เพราะทั้งที่มันแย่งดูพลังมาน่านางแวมไพร์ตนนี้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่สุดท้ายคนที่จะได้พลังมาน่าไปก็คือพาลาดินไซโคลนผู้นี้นี่เอง

เจ้าพาลาดินเอื้อมมือไปสัมผัสร่างแวมไพร์สาวตรงหน้าเพื่อตรวจสภาพว่านางแวม ไพร์เละเทะเพียงใด  แต่มันก็ต้องแปลกใจเมื่อมันพบว่า เต้านมคู่สวยของเธอยังเต่งตรึงชูชันอยู่เหมือนเดิม ทั้งที่พึ่งผ่านการบีบเค้นฟอนฟัดมาอย่างหนัก โพรงหีที่น่าจะหลวมโพรกเต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนเหนอะหนะ กลับยังแน่นกระชับดูดตอดเช่นเดิม แถมภายในก็ไม่มีน้ำเงี่ยนคั่งค้างให้น่ารำคาญใจ มีแต่เพียงน้ำรักหอมหวานเท่านั้น ทำให้เจ้าพาลาดินเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะสิ่งที่เดียวมันกังวลสำหรับแผนเอาคืนนี้ก็คือนางแวมไพร์จะมีสภาพเละเทะ จนมันเย็ดไม่ลงนี่แหละ

เจ้าไซโคลนปลดร่างแวมไพร์สาวจะพันธนาการ ก่อนจะวางร่างบนฟูกนอนที่มันเตรียมไว้ ก่อนที่มันจะเริ่มปฏิบัติการเย็ดทันที เจ้าไซโคลนมันงัดท่อนเอ็นแข็งปั๋งพร้อมใช้งานออกมาจ่อโพรงหีแวมไพร์สาว ก่อนที่จะยัดเข้าไปทีเดียวมิดด้าม แวมไพร์สาวที่อยู่ในสภาพสะลืมสะลือกระตุกร่างเบาๆรับกับสิ่งแปลกปลอมที่แหวก เข้ามาในร่างกาย และเมื่อทุกอย่างเจ้าพาลาดินก็เริ่มโยกเอวเย็ดทันที

"อือออออ" เสียงครางเบาๆในลำคอของแวมไพร์สาว เร่งเร้าอารมณ์ของเจ้าพาลาดินไม่น้อย มันจึงเริ่มเร่งจังหวะการเย็ดให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น สองมือของมันฟอนเฟ้นเต้างามคู่สวยราวกับจะให้มันแหลกคามือ ส่วนหัวจุกที่ชูชันนั้น มันก็ใช้ปากขบกัดช่วยอีกแรง เล่นเอาแวมไพร์สาวที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับถึงกลับดิ้นพล่านไปมา ร่องหีที่ถูกลุกล้ำก็ขมิบรัดอย่างรุนแรงตอบสนองไปโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเจอการตอบสนองจากแวมไพร์สาวเช่นนี้ ก็เล่นเอาเจ้าพาลาดินต้องซี๊ดปากด้วยความเสียวเช่นกัน มันจึงเร่งจังหวะเย็ดกระแทกอย่างหนักเพื่อระบายความเสียวเช่นนั้นออกมา ทำให้ไม่นานนักการเย็ดครั้งนี้ก็เข้าใกล้จังหวะสุดท้าย เจ้าพาลาดินกอดร่างบางๆของแวมไพร์สาวไว้แน่นก่อนที่จะระเบิดความอัดแน่นที่ อยู่ในลำควยออกมา เจ้าพาลาดินยิ้มร่าอย่างสมใจ เพราะในความคิดของมันนั้น มันจะเร่งรีบไปทำไมในเมื่อมีเวลาเย็ดทั้งคืน มันขอระเบิดน้ำกามให้เต็มคราบก่อน แล้วจึงค่อยดูดพลังมาน่านังแวมไพร์ก็ไม่สาย

.
.

แต่ในขณะนั้นเอง

.
.

ชั่วขณะที่มันกำลังแช่ควยสบายอารมณ์ ร่างของมันก็โดนพลิกหงายอย่างแรงจนหลังกระแทกพื้น ทำเอามันจุกเสียดไปไม่น้อย จนกลายเป็นเปิดช่องว่างให้สองมือสองขาของมันโดนกดกับพื้นแน่น .... เป็นเวโรนิก้านี่เอง ที่แท้เธอแกล้งทำเป็นสะลืมสะลือเพื่อรอจังหวะที่เจ้าพาลาดินเผลอ ก่อนจะพลิกร่างมันให้นอนหงายก่อนที่เธอจะขึ้นค่อม กดแขนกดขาของมันไว้แน่นเพื่อที่จะได้เป็นฝ่ายคุมเกมส์เสียเอง

"แก.....นังแวมมม" แต่ไม่ทันที่เจ้าพาลาดินจะพูดอะไรต่อ แวมไพร์สาวก็ก้มลงมาก่อนที่จะจูบปากมันไว้ เพียงเท่านี้มันก็ไม่อาจจะส่งเสียงใดๆได้อีกแล้ว แต่เจ้าพาลาดินไม่ยอมแพ้ มันรวบแรงทั้งหมดที่เพื่อหวังจะใช้แรงกายสะลัดหลุดให้ได้ แต่สภาพของมันในตอนนี้เหมือนหนูตะเภาที่อยู่ในกรงเล็บเหยี่ยว ที่ไม่อาจจะดิ้นหลุดได้อีกแล้ว แถมเวโรนิก้ายังขยับสะโพกไปมา เพื่อขย่มใส่ท่อนควยอีกด้วย

จุมพิตแสนเร่าร้อนที่สามารถปลุกอารมณ์เจ้าพาลาดินจนกระเจิง ลีลาการขย่มควยที่ดุเด็ดเผ็ดมันจนเจ้าพาลาดินเสียววาบไปทั้งแท่งลำควย ทั้งสองสิ่งนี้เป็นตัวตัดทอนพละกำลัง จนตอนนี้เจ้าพาลาดินไม่มีแรงขัดขืนแวมไพร์สาวได้อีกแล้ว ตอนนี้มันรู้แล้วล่ะว่าทำไมเจ้าพาลาดินคนอื่นถึงใช้วิธีเวียนเทียน และมันรู้แล้วล่ะว่าตัวมันเองโง่เง่าแค่ไหน ที่ประมาทมาเย็ดนางแวมไพร์ตนนี้เพียงลำพัง สติของมันตอนนี้เริ่มลางเลือน เคลิบเคลิ้มไปกับรสสวาท ก่อนที่วาระสุดท้ายของมันจะมาถึง เพื่อน้ำเงี่ยนของมันระเบิดออกเต็มโพรงหี

"อาหหหห์" แวมไพร์สาวร้องครางอย่างสุขสม ก่อนที่มดลูกของเธอจะดูดซับน้ำเงี่ยนเหล่านั้นอย่างหื่นกระหาย ไม่นานนักสิ่งที่เธอต้องการก็ออกมาทันที พลังมาน่าที่ทั้งหมดในชีวิตของพาลาดินหนุ่มถูกปลดปล่อยออก ไหลวนรวมเข้ากับน้ำเงี่ยนที่แตกซ่าน จากร่างหนุ่มแน่นไหลเข้าสู่แวมไพร์สาว เล่นเอาเธอกระตุกเล็กๆรับพลังอย่างเสียวซ่าน ไม่นานนักการถ่ายเทพลังก็เสร็จสิ้น แวมไพร์สาวรู้สึกเอ่อล้นถึงพลังที่เพิ่มพูน ตรงกันข้ามกับผู้แพ้ที่โดนสูบพลังจนร่างกายแห้งเหือดเป็นศพตายซาก

.
.

"ดอกไม้ไฟแสงจันทรา"

.
.

เวโรนิก้าร่ายเวทย์ไฟขึ้นมาบทหนึ่งใส่ร่างที่แห้งเหือดของพาลาดินตรงหน้า เมื่อโดนเวทย์นี้เข้าไปร่างที่เหือดแห้งนั้นก็ลุกไหม้และดับลงอย่างรวดเร็ว จนไม่เหลือแม้แต่ควัน ที่จริงเวทย์นี้ไม่ได้มีพลังในการโจมตีอะไรนักแต่ลักษณะเด่นที่ลุกไหม้และ ดับลงได้ทันทีจึงเหมาะอย่างยิ่งที่พวกแวมไพร์จะใช้เพื่อกลบเกลื่อนหลักฐาน แต่สิ่งที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้น นั่นก็คือเวทย์นี้เป็นเวทย์ที่อยู่ในระดับเลเวล 7 !! นั่นหมายความว่า เวโรนิก้าก้าวข้ามขอบเขตของแวมไพร์ชั้นแม่ทัพ ไปสู้แวมไพร์ชั้นขุนพลเสียแล้ว

"พลังมาน่าของพาลาดินสามารถเติมเต็มให้ตัวข้าได้งั้นเหรอ ดีล่ะ" เวโรนิก้ายิ้มเหี้ยมก่อนจะหันไปมองเหล่าพาลาดินที่เหลือ ตอนนี้พวกมันโดนยานอนหลับเข้าไปทำให้ถ้าเธอจะสังหาร ก็ง่ายดังพลิกฝ่ามือ แต่ตัวเธอกลับมีความคิดที่ดีกว่านั้น !!

.
.
.

"เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!"

สโตนเฮดร้องลั่นก่อนจะลุกพรวดขึ้นมาทันที ใบหน้าของมันตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อที่แตกผล่าน แสงแดดที่ส่องเข้ามาบ่งบอกเวลาว่านี่เข้าสู่ตอนเช้าแล้ว 'ตอนเช้า' มันนั่งทบทวนอะไรบางอย่าง เพราะถ้านี่ตอนเช้าไม่เท่ากับว่านี่มันหลับไปทั้งคืนหรอกเหรอ "แย่แล้ว" มันร้องลั่นก่อนจะหันขวับไปทันที

ร่างของแวมไพร์สาวเวโรนิก้า !! ......... ก็ยังถูกจับห้อยอยู่เช่นเดิม สภาพรอบตัวมันก็ยังเหมือนเดิมอยุ่ทุกอย่าง สิ่งที่ผิดก็มีเพียงสมาชิกที่หายไป 1 คน

"เมื่อคืนไซโคลนมันวางยาพวกเรารึ" ไอซ์เอจเอ่ยเสียงเข้มอย่างไม่พอใจ

"นี่มันคงรู้ตัวเลยหนีไปก่อนพวกเราตื่นแล้ว" โวลต์เอ่ยขึ้น

"ไอ้เด็กบ้า ..... ถ้าเจอหน้าข้าจะซัดมันแน่" สโตนเฮดเอ่ยร้องอย่างกราดเกรี้ยว

"เรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลัง ถึงยังไงเราก็ต้องดำเนินการตามกำหนดการเดิม" เบิร์นพูดมาพร้อมกับเก็บแผ่น CD ที่วางไว้ "งั้นเราแยกกันตรงนี้ ข้าจะนำข้อมูลเมืองแซงจูรี่ย์ไปให้ท่านแลนด์ซาร์ต ส่วนพวกเจ้าก็คุมตัวนังกระหรี่นี่ไปที่คุกอินเฟอโนดีๆล่ะ"

หลังจากพูดจบ เจ้าพาลาดินแห่งไฟก็เป็นคนที่สองที่แยกตัวออกไป โดยทิ้งเสียงค่อนขอดของสโตนเฮดไว้ข้างหลัง "ถ้าอยากพาไปคุกทำไมไม่พาไปเองว่ะ ทางไปคุกอินเฟอโนใช่ว่าจะสบายน่ะเว้ย"

"ช่างเถอะน่า" โวลต์เอ่ยปราม ก่อนจะหันไปมองร่างของแวมไพร์สาวพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ "เราเอาเวลามาทำอะไรดีๆกันดีกว่า"

"ข้ามีข้อเสนอ" ไอซ์เอจกล่าวเสริม "เรามี 3 คน ก็แยกกันคนละรูเป็นไง"

ข้อเสนอของไอซ์เอจเป็นที่ชอบใจของพาลาดินที่เหลือ พวกมันทั้งหมดเดินเข้าไปหาแวมไพร์สาวที่โดนมัดแขวนอยู่ ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงและมีเสียงครางสวาทดังขึ้นมาแทนที่

.
.
.

"พวกเจ้าจะทนไปถึงเมื่อไหร่ว่ะ !!" ชายผมแดงที่ท่าทางเหมือนแกนนำตะโกนดังลั่น "พวกมันฆ่าท่านนายบ้านแล้วยังยึดเสบียงที่เราสะสมไว้หน้าหนาวไปอีก แล้วแบบนี้พวกเจ้าจะทนไปถึงไหนว่ะ แต่สำหรับข้า ข้าไม่ทนแล้วเว้ย !!"

"เจ้าใจเย็นๆหน่อยสิว่ะ" ชายผมสีทองร้องขัด "พวกนั้นมันพวกพาลาดินน่ะเว้ย พวกมันมีอาวุธแล้วก็เวทย์มนต์ พวกเราเป็นแค่ชาวบ้านจะไปสู้มันได้ยังไงว่ะ"

"ข้าไม่กลัวเว้ยยยยยย !!" ชายผมแดงไม่ยอมแพ้ "ถึงพวกมันจะมีเวทย์มนต์ แต่พวกเรามีเยอะกว่า ถ้าเรารีบเข้าไปจัดการมัน ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเราจะแพ้"

"พวกเจ้าจะไปกับข้าหม๊ายยยยยยยยย" ชายผมแดงประกาศก้อง ซึ่งก็ได้ผล เหล่าคนหนุ่มในเมืองนี้ต่างอยู่ในอารมณ์โกรธแค้น ต่างก็หยิบฉวยทุกสิ่งที่จะใช้เป็นอาวุธได้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อไปสังหารผู้ที่มารุกรานพวกเขา โดยไม่สนว่าคนเหล่านั้น จะเป็นพาลาดินหรือแวมไพร์

เมื่อรวมคนพร้อมอาวุธครบมือเรียบร้อยแล้ว คนหนุ่มเหล่านั้นก็มุ่งหน้าไปยังบ้านพักหลังใหญ่ บ้านที่เคยเป็นบ้านพักของนายอำเภอที่นี่ บ้านที่ตอนนี้เป็นแหล่งหลับนอนของพวกที่มารุกราน โดยที่การบุกจู่โจมครั้งนี้ปราศจากแผนการใดๆ พวกเขาตกลงกันแค่เพียงว่าจะบุกเข้าไปในบ้านให้เร็วที่สุด เมื่อไปถึงก็จะฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า ไม่กี่อึดใจพวกเขาก็มาถึงที่หมาย ก่อนจะวิ่งเต็มกำลังเพื่อบุกเข้าไปในตัวบ้านทันที

แต่ไม่ทันที่จะถึงตัวบ้าน พวกเขาเหล่านั้นก็แข้งขาอ่อนล้มคว่ำไปทันที ไม่พอแค่นั้น ท่อนควยของพวกเขาก็ต่างฟองโต ไม่นานนักน้ำเงี่ยนก็แตกกระเซ็น สุดท้าย คนที่ตั้งใจจะมาต่อสู้กลับต้องมาน้ำแตกนอนหมดแรงสิ้นสติอยู่บนพื้น

จะมีก็แต่เพียงชายผมแดงที่น้ำแตกกับเขาเช่นกัน เพียงแต่ว่าเขายังเป็นคนเดียวที่ยังพอรักษาสติอยู่ได้ เขาจึงเป็นคนเดียวที่พบสาเหตุน้ำแตกของคนทั้งหมด นั่นก็คือเพราะคนเหล่านั้นได้สัมผัสกับไอสีเขียวเข้มแปลกประหลาดที่ปกคลุมไป ทั่วพื้น ไอคล้ายๆกันนี้เขาก็เคยเห็นมาบ้าง มันคือไอมาน่าของพวกผู้ที่มีพลังเวทย์ แต่ต่างกันก็คือเขาไม่เคยเห็นไอมาน่าของใครจะสีเข้มและกระจายเป็นวงกว้างได้ ขนาดนี้มาก่อน

แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไรต่อ ประตูบ้านก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นต้นตอของพลังมาน่าเหล่านี้ ต้นตอที่มาจากร่างเปลือยเปล่าสุดเซ็กซี่ของหญิงสาวผมสีดำขลับ หญิงสาวที่พึ่งผ่านการอัพเลเวลขึ้นไปอีกขั้น จนกลายเป็นแวมไพร์ชั้นขุนพลที่สง่างามแต่ก็แผงไว้ด้วยความน่ากลัว จนแม้แต่เจ้าชายผมแดงยังต้องแตกตื่นหวาดหวั่น มีเหงื่อกาฬผลุดขึ้นเต็มหน้า

แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร หญิงสาวผู้นั้นก็ชิงถามขึ้นมาก่อนแล้ว

"เจ้าพาลาดินนั่น ไปทางไหน"

.
.
.
.
.

"ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

ห่างออกจากตัวเมืองไปไม่ไกลนัก ในป่าใหญ่แห่งหนึ่งมีเงา 2 สาย ไล่ล่ากันไปตามทาง ทั้ง 2 ต่างก็ซัดลูกไฟเวทย์ที่มีอานุภาพไม่แพ้กันเข้าใส่อีกฝ่าย จนเกิดเสียงระเบิดดังลั่นไปหมด แมกไม้แถบนั้นต่างก็ลุกท่วมด้วยเปลวเพลิง ก่อนที่เพลิงจะขยายวง จนกลายเป็นไฟป่าขนาดใหญ่

"ดีแต่ลอบกัด ออกมาซิว่ะ" เงาสายหนึ่งเป็นของพาลาดินแห่งไฟ เบิร์น

"ร้องตะโกนเป็นตุ๊ดเลยเหรอเนี่ย" แต่เงาอีกสายนี่สิ กลับเป็นของแวมไพร์สาวที่เคยโดนจับเป็นเชลย "แต่จะว่าไปก็เหมาะดีน่ะ เพราะพ่อของเจ้าก็ร้องเป็นตุ๊ดแบบนี้นี่แหละ"

"เวโรนิก้า !!!!" เบิร์นตวาดลั่นอย่างเดือดดาดสุดขีดก่อนจะซัดลุกไฟที่มีอานุภาพรุนแรงระดับเลเวล 9 เข้าใส่ทันที

"โล่พิทักษ์ธาตุไฟ เลเวล 9" แต่แวมไพร์สาวกลับไม่ตื่นตกใจใดๆเลย เธอร่ายเวทย์ป้องขึ้นมากำบังทันที เวทย์ธาตุเดียวกันเลเวลเดียวกันนั้น สามารถหักล้างซึ่งกันและกันได้พอดิบพอดี

"เลเวล 9 งั้นแปลว่าไอ้พวกสวะเหล่านั้น"

"อย่าไปเรียกพวกนั้นว่า สวะ สิไอ้หนู" เวโรนิก้ากล่าวเย้ยหยัน "เพราะอีกเดี้ยวเจ้าก็ต้องตายด้วยมือข้าเหมือนพวกมันอยู่แล้ว"

"อย่ามากปากดีน่ะเวโรนิก้า" เบิร์นตวาดลั่น "คิดว่าใช้เวทย์เลเวล 9 ได้ก็จะสู้ข้าได้งั้นเหรอ คิดผิดแล้วเว้ยยยยยยย"

"ดินแดนเพลิงพระกาฬ .... รวมศูนย์" เจ้าพาลาดินร่ายเวทย์ประจำตัว ทั่วร่างของมันลุกท่วมไปด้วยไฟ ก่อนที่จะระเบิดออก กลายเป็นลูกไฟขนาดย่อมลอยอยู่ในมือ

"ลูกแก้วกลืนตะวัน" แต่แวมไพร์สาวก็ไม่หวั่นเกรง เธอร่ายเวทย์ขึ้นมาหนึ่งบทเพื่อรับมือเช่นกัน พลังธาตุไฟในอากาศปริมาณมหาศาลถูกดึงดูดเข้าร่างเธอ ก่อนที่จะควบแน่นจนกลายเป็นลูกแก้วทรงกลม ที่ส่องประกายแสงสีแดงเจิดจ้าลอยเด่นอยู่บนสองมือของเธอ

"ทำอะไรว่ะนังโง่ เวทย์ของข้ามีพลังทำลายสูงสุดในหมู่เวทย์เลเวล 9 แล้วคิดเหรอว่าเวทย์กระจอกๆนั่นจะช่วยเจ้าได้"

"งั้นเหรอ ..... งั้นก็ลองซัดมันใส่ข้าดูสิ"

"ว่าไงน่ะ" เจ้าพาลาดินร้องลั่นอย่างเกรี้ยวกราด "ท้าทายข้าเหรอ เจ้ากล้าท้าทายข้าเหรอ !! ได้ ถ้าเจ้าอยากลงนรกนักข้าก็จะสงเคราะห์ให้ ตายไปซะ อีกระหรี่ !!"

เจ้าพาลาดินขว้างลูกไฟนั้นเข้าจู่โจมทันที ลูกไฟนี้ร้อนแรงยิ่งกว่าลูกไฟไหนๆ เล่นเอาเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำรอบด้านถูกแหวกเป็นสาย สมแล้วกับที่ได้ชื่อว่า เป็นราชาในหมู่เวทย์เปลวเพลิงระดับเดียวกัน แม้ว่าแวมไพร์สาว จะพึ่งเลเวลอัพ จนเธอสามารถใช้เวทย์เพลิงเลเวล 9 ได้เช่นกัน แต่ก็ยังดูไม่ออกเลยว่า เธอจะมีเวทย์ใดมารับมือเวทย์เพลิงบทนี้

ชั่วเสี้ยววินาทีที่ลูกไฟดวงนี้จะเข้าถึงเธอ แวมไพร์สาวก็ซัดลูกแก้วออกไปเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกก็คือแทนที่เธอจะซัดลูกแก้วไปข้างหน้า เธอกลับเลือกที่จะซัดขึ้นไปบนฟ้ามากกว่า !!

แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ลูกไฟอัคคีของเจ้าพาลาดินที่กำลังจะพุ่งมาเผาร่างของเธอกลับเลี้ยวหักศอก ขึ้นด้านบนเช่นกัน ราวกับว่าเจ้าลูกไฟ เปลี่ยนเป้าหมายมาไล่ตามลูกแก้วสีแดงนั่นแทน ก่อนที่เวทย์ทั้งสองจะปะทะกันบนฟ้า แล้วระเบิดออกกลายเป็นลูกไฟขนาดยักษ์ !! ไม่แค่นั้น เปลวไฟที่โหมไหม้ป่าแห่งนี้ก็พวยพุ่งขึ้นฟ้า ราวกับจะถูกดูดจากลูกไฟยักษ์ ไม่นานนักไฟที่ไหม้ก็มอดดับ เหลือเพียงลูกไฟยักษ์ที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า

"นี่มันบ้าอะไรกันว่ะ !!!" เจ้าเบิร์นร้องลั่นอย่างไม่เชื่อสายตา

"มหัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ เวทย์ของพวกวิซาร์ต" เวโรนิก้าเอ่ยขึ้นในขณะที่แหงนมองดูลูกไฟดวงนั้นอย่างพึงพอใจ "ลึกล้ำ เหนือจินตนาการ แต่ในขณะเดียวก็ซับซ้อนและเข้าใจยากยิ่งกว่าเวทย์บทไหนๆ"

"นั่นเป็นเวทย์ไฟเลเวล 9 ที่วิซาร์ตคนนึงเคยสอนข้า" แวมไพร์สาวพูดจบก่อนจะละสายตามายังเจ้าพาลาดินตรงหน้า "ตามปกติเวทย์ทั่วไปจะดูดกลืนพลังธาตุมาเป็นพลังงาน แต่ลูกแก้วนั้นไม่ใช่ ลูกแก้วนั้นจะดูดกลืนทุกอย่างที่เกี่ยวกับธาตุไฟ ทั้งธาตุไฟในอากาศ เปลวไฟของจริงในธรรมชาติ ลูกไฟเวทย์ของศัตรู .... รวมทั้ง ร่างเพลิงของเจ้าด้วย"

สิ้นคำของแวมไพร์สาว เจ้าพาลาดินก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติในร่างกาย ตัวมันสั่นเทิ้มอย่างหนักราวกับกำลังแรงมหาศาลบางอย่างดูดร่างมันอย่าง รุนแรง เล่นเจ้าพาลาดินต้องใช้เจาะลึกเข้าไปในเนื้อดินเพื่อยึดร่างมันไว้ แต่ยิ่งฝืน แรงดูดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น จนพื้นที่มันยึดไว้เริ่มปริออก และร่างของมันก็เริ่มลอยขึ้นสู่อากาศ เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานร่างของมันจะต้องถูกดูดเข้าไปในดวงไฟลุกนั้นเป็นแน่

"ย๊ากกกกกกกกก" เจ้าพาลาดินร้องดังลั่น พริบตานั้นร่างเพลิงของมันก็พลันสลายกลายเป็นเพียงร่างเนื้อธรรมดา ใช่แล้ว เพียงเท่านี้มันก็รอดพ้นจากการดูดได้อย่างง่ายดาย

"ถุยยยยยยยย !! นี่เหรอว่ะ เวทย์ของเจ้า สวะฉิ...." ไม่ทันที่เจ้าพาลาดินจะพูดจบประโยค เงาร่างของแวมไพร์สาวก็พุ่งเข้าหามันทันที ก่อนที่จะซัดหมัดลุ่นๆเข้าดั้งจมูกมันอย่างจัง เล่นเอาเจ้าพาลาดินหน้าหงาย ปลิวกะเด็นตามแรงหมัดไปไกล

"สะใจเป็นบ้า" แวมไพร์สาวเอ่ยร้องก่อนจะแลบลิ้นเลียหยดเลือดของเจ้าพาลาดินที่เปื้อนบนหมัด

"นังสารเลว" เจ้าพาลาดินร้องลั่นอย่างเดือดดาด มันปาดเลือดที่อาบเต็มจมูกแล้วพรุ่งเข้าใส่ทันที แม้มันในตอนนี้จะไม่อาจใช้เวทย์ไฟที่ถนัด แต่สำหรับพาลาดินแล้ว สิ่งที่ชำนาญที่สุดก็คือศิลปะการต่อสู้ เพลงมวยของเจ้าเบิร์นก็เช่นกัน เป็นเพลงมวยที่กระบวนท่าพลิกแพลงหลากหลาย อีกทั้งพลังทำลายก็รุนแรงชนิดที่ว่าถ้าโดนจังๆก็อาจถึงแก่ชีวิตได้ แต่กระนั้นแวมไพร์สาวก็สามารถตั้งรับได้อย่างรัดกุม ทำให้ไม่ว่าจะซัดมาจากทางไหนเธอก็ป้องกันได้หมด

และเมื่อป้องกันหมัดเหล่านั้นได้ แวมไพร์สาวก็ตอบโต้ด้วยการดักต่อยเป็นระยะ จนในครั้งสุดท้าย เธอก็ปล่อยฮุคขวาเข้าเต็มหน้า จนสามารถส่งร่างเจ้าพาลาดินลงไปกองได้อีกครั้ง แต่นั่นก็ยังไม่อาจจะสยบมันลงได้ เจ้าพาลาดินลุกขึ้นพร้อมกับโทสะที่พุ่งขึ้นสุดขีด มันพุ่งร่างปล่อยหมัดเข้าใส่แวมไพร์สาวด้วยความเร็วสูง แต่เธอก็แค่เบี่ยงตัวออกแค่เล็กน้อย ก่อนจะกระแทกเข่าเข้าชายโครงมันเต็มๆ

เข่าดอกนี้เล่นเอาเจ้าพาลาดินจุกเสียดไปทั่วร่าง จนมันเสียจังหวะท่าร่างช้าลง จุดนี้แวมไพร์สาวจึงไล่มันทันที ทั้งหมัดทั้งเท้าถูกประเคนเข้าใส่ร่างเจ้าพาลาดินไม่ยั้ง จนมันในตอนนี้กลายสภาพเป็นกระสอบทรายดีๆนี่เอง ก่อนที่จังหวะสุดท้ายแวมไพร์สาวจะหมุนตัวเตะจระเข้ฟาดหางเต็มแรง โดนเข้ากกหูมันอย่างจัง เพียงเท่านี้เจ้าพาลาดินก็สิ้นฤทธิ์ ล้มทั้งยืนลงไปกองบนพื้น

"กะ ... แก ... นัง..." แต่ไม่ทันที่เจ้าพาลาดินจะพูดจบ แวมไพร์สาวก็ยืนหันหลังค่อมหัว ก่อนจะแอ่นหีเข้าประกบปากมัน

"เก็บปากไว้เลียหีข้าดีกว่า" แวมไพร์สาวพูดจบก็โน้มกายลงก่อนจะเอาปากงับไปที่ท่อนเอ็นของเจ้าพาลาดิน ทำให้ตอนนี้ทั้งเขาและเธออยู่ในท่า 69 หมายความว่าแวมไพร์สาวคิดจะปิดศึกนี้ด้วยการเย็ดนั่นเอง

ตรงนี้ทำให้เจ้าพาลาดินยิ้มออกมาทันที ถึงแม้มันจะแพ้ในเรื่องพลังเวทย์ รวมไปถึงการต่อสู้มือเปล่า แต่ถ้าเป็นเรื่องเย็ด มันมั่นใจว่ามันไม่แพ้ใครแน่ มันแอบนึกสะใจไม่น้อยที่นังแวมไพร์นี่ประมาทเกินไป ถ้าเธอฆ่ามันไปแต่แรกทุกอย่างก็จบแล้ว 'คนที่ตายจะต้องเป็นเจ้า นังกระหรี่'

"ท่าทางเจ้าจะมั่นใจเรื่องเย็ดมากสิน่ะ ทำไมน๊า .... เพราะเจ้าเย็ดเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ" แวมไพร์สาวที่เหมือนจะอ่านความคิดมันออก หักมายิ้มเจ้าเล่ห์ "ไม่แค่เรื่องนี้น่ะ ทำไมน๊า ทั้งๆที่เจ้าเป็นคนวอร์ริเอร์ แต่กลับสามารถใช้เวทย์ไฟระดับสูงอย่าง 'ดินแดนเพลิงพระกาฬ'ได้"

"ตรงนี้ข้าต้องขอบใจความสามัคคีที่มันไม่มีเลยของพวกเจ้าน่ะ พวกพาลาดินคนอื่นน่ะ ต่างก็ไม่ชอบหน้าเจ้า อีกทั้งก็สงสัยเช่นเดียวกับข้า ทำให้พวกมันแอบสืบเรื่องเจ้ากันอย่างลับๆ จนในที่สุด พวกมันก็รู้ถึงความลับของเจ้าทั้งหมดจนได้ ทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าได้มาเพราะมุก 6 เม็ดนี้ใช่ไหม !!"

"มุกพวกนี้ไม่ใช่มุกธรรมดา แต่ที่จริงมันคือหินธาตุ !! ที่จริงแล้วแนวคิดเรื่องการฝังหินธาตุในร่างกายของพวกมนุษย์น่ะ มีศึกษากันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีผลการทดลองจริงๆจังๆ พึ่งมีเจ้านี่แหละที่ลงทุนยอมทดลองฝังหินธาตุลงในร่างกาย ซึ่งมันก็ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าใช่ไหม เจ้ามีพลังเพิ่มขึ้นหลายเท่า จนสามารถใช้เวทย์ธาตุไฟชั้นสูงได้ อีกทั้งเพราะฝังหินธาตุลงบนควย มันจึงสามารถป้องกันพลังมาน่าไม่ให้ไหลออกจากร่างของเจ้าได้"

"เจ้าจบแล้วเบิร์น" ทันทีที่แวมไพร์สาวพูดจบ เจ้าพาลาดินก็ส่งเสียงอู้อี้ออกมา จนแวมไพร์ต้องบดหีลงแน่นเข้าไปอีกจนเสียงเงียบลง จากนั้นแวมไพร์สาวก็เริ่มลงมือต่อช้าๆ เพราะถ้ามุกพวกนี้คือหินธาตุ เธอทำลายมันซะทุกอย่างก็จบ แวมไพร์สาวรวบรวมพลังอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะปล่อยพลังธาตุในอากาศใส่มุกเหล่านี้ เพราะหินธาตุนั้นแท้จริงบอบบางไม่น้อย ถ้าเจอการรบกวนของพลังธาตุจากภายนอก หินเหล่านี้ก็จะเสื่อม จากมุกหินธาตุก็จะกลายเป็นมุกฝังควยธรรมดา

"แก....." เจ้าพาลาดินร้องอย่างเจ็บแค้น แต่แวมไพร์สาวก็ไม่สนใจ เธอก้มลงดูดท่อนควยท่อนนั้นอย่างดูดดื่ม แค่พริบตาก็ปลุกท่อนควยนั้นขึ้นมาได้ และเมื่อเธอเพิ่มแรงดูดให้มากขึ้น ไม่นานนักท่อนควยท่อนนี้ก็ระเบิดน้ำแตก

แวมไพร์สาวยิ้มหวานเมื่อสามารถส่งเจ้าพาลาดินขึ้นสวรรค์ได้ มันจึงถอนหีออกจากปาก โดยการลากจากปากลงมาอก จากอกลงมาหน้าท้อง ก่อนที่จะลากจากท้องขึ้นไปจ่อที่ปลายหัวหยัก แล้วก็ทิ้งตัวให้โพรงหีกินท่อนควยแท่งนั้นจนหมด และหลังจากนั้น แวมไพร์สาวก็บรรเลงเพลงเย็ด จนเสียงครางกระเส่า ของเธอและเจ้าพาลาดินครางลั่นไปทั่วป่า

"อย่าฆ่าข้าเลย" เจ้าพาลาดินร้องอ้อนวอนอย่างหมดท่า ก่อนที่มันจะหยิบแผ่น CD แผ่นหนึ่งส่งให้ "เจ้าเอานี่ไป ในนี้มีข้อมูลของเมืองแซงจูรี่ย์ เจ้าเอาไปสิ พวกแวมไพร์อย่างเจ้าคงต้องการไม่ใช่เหรอ ขอแค่อย่าฆ่าข้าก็พอ"

"เจ้าโง่หรือเปล่า" แวมไพร์สาวหันมาตอบเย้ยหยัน "แผ่น CD นั่นจะมีความหมายอะไรกับข้า ในเมื่อข้าได้ความทรงจำทั้งหมดของพวกพาลาดินอย่างเจ้ามาหมดแล้ว"

หลังจากนั้น สิ่งที่เหลือก็มีเพียงเสียงเนื้อกระแทกกันไปมา สลับกับเสียงร้องครวญครางที่ดังระงมจากภายในป่าลึกเท่านั้น

<จบตอน>