ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ชีวิตยูเทริน์ เรื่องสั้นฮา ๆ ( แต่งเอง )

เริ่มโดย P4GE, ธันวาคม 11, 2011, 07:34:16 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

P4GE

ชีวิตยูเทิรน์
ครั้นคราวสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตของตัวผมเองยังคอยบอกและเตือนการกระทำของผมในปัจจุบันให้ดำเนินชีวิตไปในรูปแบบใดแม้อาจมีบางครั้งที่ตัวผมใช้ชีวิตแบบผิด ๆ แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเท่ากับปัญหาที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้
" ผมขอโทษครับ " เสียงของผมสั่นคลอเริ่มมีน้ำตาหลั่งออกมาเหมือนเด็กที่กำลังเสียใจ ในวินาทีที่ผมกล่าวคำพูดนี้ออกไปให้คนตรงหน้าผมได้รับรู้ บรรยากาศรอบข้างตัวผมก็เปรียบเสมือนคนที่กำลังโดนประหารชีวิตซึ่งมีเพียงเวลาสั้น ๆ ที่ได้คิดและทบทวนในสิ่งที่กระทำลงไปแม้มันจะสายไปแล้วก็ตาม
"ยังไงก็แล้วแต่ เธอต้องรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น" คนที่อยู่ตรงหน้าผมมีสักเป็นพ่อตาในอนาคต กล่าวอย่างหนักแน่นและมองผมด้วยสายตาที่ราวกับจะเอาชีวิตผมสะอย่างนั้น ผมเองได้แต่กล้มหน้าไม่กล้าสบตากับชายผู้ที่จะเป็นพ่อตาของผมในอนาคตด้วยความกลัว ในใจผมได้แต่คิดว่าถ้าวันนั้นเราไม่รนจนลืมใส่ถุงยางทุกอย่างมันคงไม่เกิดขึ้น แต่คนอย่างผมคงสำนึกได้ไม่นานอีกสักพักก็คงจะลั้ลลาเหมือนเดิมเป็นแน่
ย้อนไปในวันเวลาที่ตัวผมมีความสุขเหมือนตัวเองเป็นพระเจ้าซึ่งจะหยิบจับทำอะไรก็ทำให้ผมไม่เคยทุกข์กับสิ่งที่ผมทำไม่ว่าเรื่องที่ผมทำจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย มันแน่นอนอยู่แล้วเพราะในขณะนั้นตัวผมมีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เงิน ทอง และทรัพย์สมบัติที่ผมต้องดูแลในระดับถึงหลักร้อยล้านเลยทีเดียวแต่ขาดสิ่งหนึ่งที่ผมยังโหยหามันมาตลอดนั่นก็คือ ผู้หญิง ครั้นวัยอายุย่างเข้าเบญเพศตัวผมก็รู้สึกได้เลยว่าชีวิตนี้คงไม่ลำบากแน่นอนเพราะตัวผมเองมีพร้อมทุกอย่างแต่ชีวิตคนเรามันก็คงเป็นเหมือนน้ำขึ้นน้ำลง
"ฮาโหล คืนนิ้อย่าลืมมาหามิคกี้นะคะ" เสียงน้องมิคที่ผมจำได้ดีบอกให้ผมรู้ถึงความร้อนแรงในตัวน้องเค้าซึ่งคนอย่างผมแล้วเมื่อได้ยินเสียงแห่งความต้องการมีเหรอจะปล่อยให้มันหลุดลอยไป เวลาผ่านไปได้ไม่นานผมก็อยู่ที่ประตูหน้าห้องน้องเค้าซึ่งเป็นอพาทเม้นใหญ่โตมโหราฬกลางใจกรุงเทพมหานคร เมื่อน้องมิคเปิดประตูมารับผม อารมณ์ผมก็แถบระเบิดใส่น้องมิคเพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมนั้นคือหญิงสาววัยยี่สิบสามใส่บิกินี่ออกมาเปิดประตูพร้อมทำหน้าตาเย้ายวนเหมือนจะปลุกให้ผมถล่มความเป็นหญิงสาวเค้าสะตรงนั้นไม่ทันไรผมกับน้องมิคกี้ก็อยู่ในสภาพใส่ชุดวันเกิดด้วยกันทั้งครู่ ยามราตรีนี้ในกรุงเทพมหานครคงไม่ทำให้ผู้ชายอย่างผมเหงาเพราะในตอนนี้ผมได้อยู่กับสิ่งที่ผมต้องการนั่นก็คือผู้หญิงแม้มันจะเป็นแค่ชั่วข้ามคืนแต่ก็ทำให้ผมลืมเรื่องเครียด ๆ ที่ผ่านมาในแต่ละวันได้
"ตื่นได้แล้วค่ะ สายแล้วนะเดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะคะ" เสียงของน้องมิคปลุกผมในขณะที่ผมนอนใส่ชุดวันเกิดอยู่บนแท่นพิธีที่ผมร่วมรบกลับน้องมิคมาทั้งคืน เมื่อผมลืมตาขึ้นมาสิ่งที่อยู่ในหัวผมก็เริ่มทำงานทันทีนั่นคืองานบริหารระดับร้อยล้านที่ผมต้องดูแล ในวันทำงานจันทร์ถึงศุกร์ไม่มีวันไหนที่ผมไม่เครียดกับงานเพราะผมเองก็เป็นเสาหลักของคนในครอบครัว รวมถึงต้องดูแลปากท้องของคนในบริษัทนับร้อย ๆ ชีวิต
"พี่นพค่ะ ตอนบ่ายโมงมีประชุมบอรด์บริหารน่ะค่ะ" เสียงของเลขาแสนสวยที่ผมเลือกมากับมือตัวเองเดินมาตรงโต๊ะที่ทำงานพร้อมกับกาแฟร้อน ๆ ที่เลขาสาวสวยคนนี้ชงมาให้ผมทุกวันในตอนเช้า
"โอเค เอ่อเดี๋ยวทิพไปข้างนอกกับผมหน่อยนะ" เสียงผมที่พูดกับเลขาแฝงด้วยเลศนัยซึ่งตัวผมรู้ดีว่าอีกไม่นานเลขาสาวสวยของผมต้องกลายมาเป็นคอเล็คชั่นของตัวผมเองแน่ ๆ และแล้วเวลาผ่านไปได้ห้าเดือนก็มีโทรศัพท์นิรนามโทรเข้ามาหาผมซึ่งเสียงในโทรศัพท์นั้นทำเอาผมสะดุ้งเพราะเสียงนั้นเป็นเสียงที่ผมจำได้ดีนั่นคือเสียงน้องมิคกี้คนงามของผม ในขณะที่ผมรับโทรศัพท์เลขาสาวสวยก็กำลังทำหน้าที่เมียที่ดีอยู่บนร่างกายผมซึ่งผมก็ได้แต่พูดกับน้องมิคด้วยเสียงนิ่ม ๆ ว่า ครับ ได้ครับ ตามนั้นนะครับ แล้วก็กดวางไปในที่สุด "ใครโทรมาหรอค่ะ พี่นพ" อ๋อ คุณบรรหารนะโทรมาเรื่องที่บริษัท ชีวิตของผมมันชั่งมีความสุขสะจนหาที่ทุกข์ไม่ได้ทั้งเงิน ทั้งผู้หญิงผมก็มีพร้อมแต่ในวันเวลาที่มันผ่านมาห้าเดือนก่อน ก่อนที่ผมกับทิพจะตกลงเป็นทองแผ่นเดียวกันผมก็ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเพียงแต่ดวงใจของผมคงไม่มีโอกาศได้รับรู้ในสิ่งที่ผมทำลงไปทั้งหมด บ่ายวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่ผมกับเมียสุดที่รักจะบรรเลงเพลงรักกันไม่หยุดย่อนก็มีโทรศัพท์เบอร์เดิมโทรเข้ามาหาผมแต่น้ำเสียงที่อยู่ในโทรศัพท์ไม่ใช่เสียงของน้องมิคคนเดิมแต่เป็นเสียงผู้ชายฟังดูน่ากลัว "ลูกฉันท้อง นายต้องรับผิดชอบ" เพียงประโยคสั้น ๆ ก็ทำให้ผมหมดอารมณ์กับเมียสุดที่รัก พร้อมกับต้องโกหกว่ามีเรื่องด่วนที่บริษัทต้องรีบไป เมื่อผมได้หนีเมียออกมานอกบ้านผมรีบกดโทรกลับไปหาผู้ชายคนเมื่อกี้ที่โทรมาหาผม เวลาผ่านไปได้สักสองวันผมก็มาอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีอยู่ในบ้านของน้องมิคกี้ที่ผมเคยร่วมรบกันเมื่อห้าเดือนก่อนแต่คราวนี้ผมอยู่ในสภาพที่เหมือนผ้าพับไว้จิตใจของผมในตอนนั้นกลัวมากอย่างบอกไม่ถูกเพราะต้องแต่ผมเกิดมายังไม่เคยมีเรื่องทุกข์ได้ถึงขนาดนี้นั่นคือน้องมิคกี้ท้อง "วันนั้นพี่ลืมใส่ถุงยาง" คำพูดสั้น ๆ แค่นี้ก็ทำให้ผมรู้ตัวดีว่าเด็กที่อยู่ในท้องของมิคกี้เป็นลูกผมแน่นอนและเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นผมก็เป็นผู้ชายพอที่จะรับผิดชอบซึ่งผมก็รับปากจะมาขอน้องมิคกี้ในที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมขับรถเข้าบ้านมาด้วยใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นในชีวิตผม แต่ผมก็แถบจะไม่เชื่อกับสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้านั่นก็คือเมียผมสุดที่รักกำลังทำสงครามกับผู้ชายที่ไหนไม่รู้ ในเวลานั้นผมทั้งทรุดนั่งลงกับพื้น พิงเสาน้ำตาอาบแก้มได้แต่คิดว่าคงเป็นเวณกรรมที่ผมเคยทำกับผู้หญิงคนอื่นมา "ไอ้อิฐต้องแต่เองตัดมา สนุกขึ้นเยอะเลยวะ" ผมไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ผมได้ยิน เมียผมเป็นกระเทยหรอเนี่ยผมแถบจะช็อคเมื่อรู้ว่าห้าเดือนที่ผ่านมาทองแผ่นเดียวกับผมเป็นเพศชายที่เคยมีอวัยวะเพศมาก่อนแต่แค่นั้นคงไม่พอที่ผมจะเป็นทุกข์ได้กับมีเรื่องที่น่าทุกข์ใจกว่านั้นคือผมต้องแต่งงาน แต่ในใจผมตอนนี้ก็คิดไปว่าก็ดีเหมือนกันจะได้เลิกกับทิพง่าย ๆ และไปเลี้ยงลูกอยู่กับน้องมิคกี้
ล่วงเลยเวลาได้สักสองเดือนผมก็เลิกลากับทิพน้องกระเทยที่ผมใช้ชีวิตอยู่ด้วยก่อนที่ผมจะไปใช้ชีวิตกับน้องมิคกี้ วันที่สดใสก็มาถึงผมขนย้ายข้าวของรวมทั้งเอกสารงานต่าง ๆ ของผมไปไว้ในรถเตรียมตัวจะย้ายรังรักไปหารังรักใหม่ที่ดีกว่าเดิม "เอ่อพี่นพค่ะเอกสารล่วงนะค่ะ" น้องมิคกี้วิ่งหยิบเอกสารใบสีขาวมาให้ผม "ขอบคุณครับ" ผมกล่าวขอบคุณพร้อมดูเอกสารที่อยู่ในมือทันใดนั้น"ออกไปจากบ้านผมเดี๋ยวนี้" ผมทั้งด่าทั้งไล่น้องมิคกี้สุดสวยออกไปจากบ้านราวกับน้องเค้าไม่ใช่คน เพราะไอ้กระดาษแผ่นนั้นมันเป็นกระดาษที่ทำให้ผมรู้คำตอบที่ไม่ต้องไปมีครอบครัวนั่นคือ ผมเป็นหมัน