ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เจาะเวลาหาฉิมพลี (ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 8 ยาเม็ดคืนวิญญาณ by uuuu

เริ่มโดย godgod610, มีนาคม 09, 2012, 01:59:47 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

godgod610




ตอนที่ 8 ยาเม็ดคืนวิญญาณ

     "พิษ  ..พิษ ถูกพิษ...."บางคนที่พอมีความรู้ทางการแพทย์ตะโกนออกมา  
ยูอันถูกพิษ อย่างไร เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้  แถมเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกพิษ

    "จะทำอย่างไร  ทำอย่างไรดี..."จางซินถงตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก อ้อมแขนยังประคองกอดยูอันไว้แน่น

    "ก้าวเดียวสะบั้นวิญญาณ..." เทียนซิมได้ซือรำพึงออกมาอย่างหนักใจ หลังได้ตรวจชีพจรของยูอัน
ชาวยุทธที่มุงดูอยู่ต่างส่ายหน้าไปตามๆกัน  ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เทียนซิมไต้ซือก็ยังมี
ความรู้ด้านการแพทย์ไม่น้อย  แต่ที่หนักใจก็เนื่องจาก พิษชนิดนี้เป็นพิษที่รุนแรงมาก
หากได้รับพิษแล้ว แค่ก้าวเท้าขยับตัวเพียงก้าวเดียว ก็จะถึงแก่ชีวิตในทันที

   "ไต้ซือ...แน่ใจว่าเป็นก้าวเดียวสะบั้นวิญญาณจริงๆ ?"จางไท่ ยังอดสงสัยไม่ได้จึงถามขึ้นมา
แล้วพูดต่อ
   "หากเป็นก้าวเดียวสะบั้นวิญญาณ  ยูอัน น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว  ทำไมถึงยังมีลมหายใจอยู่ได้"

   "อาตมา ก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกัน  แต่ดูจากสีหน้าและจังหวะการเต้นของชีพจร  เป็นก้าวเดียวสะบั้นวิญญาณ
อย่างแน่นอน.."เทียนซิมไต้ซือตอบอย่างมั่นใจ

   "ไต้ซือมีทางรักษาใช่มั้ย ?"จางซินถงเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ  ตาคู่สวยจับจ้องเทียนซิมไต้ซือ
อย่างกระวนกระวาย

   "เฮ่อ...."เทียนซิมไต้ซือถอนใจออกมาเฮือกใหญ่  นิ่งไปสักพัก แล้วพูดว่า

   "พิษชนิดนี้ไม่มียาขจัด ....โดยทั่วไป  กว่าผู้ถูกพิษจะรู้ตัว ก็เสียชีวิตไปแล้ว
จะมียาขจัดได้อย่างไร ...."

   "โอ......น่าสงสารเจ้าหนุ่มคนนี้เหลือเกิน..."จอมยุทธหลายๆคนในห้องโถงต่างเห็นใจที่ยูอันต้อง
มาถูกพิษอันรุนแรงเช่นนี้   คงเพราะไปลองดีกับสองเทวราชแท้ๆ    ยิ่งเทียนซิมไต้ซือ ยิ่งสำนึก
เสียใจเป็นที่สุด  หนุ่มคนนี้เพราะเพื่อช่วยเหลือตัวเองทำให้ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

   "แล้วนี่....จะทำอย่างไร...."จางซินถงพูดออกมาเสียงเครือๆเหมือนจะร่ำไห้  ใบหน้า
เปื้อนไปด้วยน้ำตา  อ๋องไต้อี้เดินเข้ามาโอบกอดสหายสนิทเพื่อปลอบประโลม
แต่ในใจก็ไม่เข้าใจจริงๆว่า แค่เด็กรับใช้ในสำนักคนหนึ่ง ทำไมต้องเสียอกเสียใจขนาดนี้
ด้วยความงดงามปานเทพธิดาของจางซินถง   กระทั่งพี่ชายของตน  หรือประมุขน้อยป้อมมังกรทอง
ยังลุ่มหลงงมงาย  จะมองยังไงเด็กรับใช้คนนี้ก็ไม่มีอะไรเทียบทั้งสองคนได้เลย
อ่อ  จะดูเหนือกว่าบ้างก็คงที่รูปร่าง แต่นอกจากนี้ ไม่ว่าจะหน้าตา ชาติตระกูล วรยุทธ
เทียบพี่ชายของตน หรือประมุขน้อยป้อมมังกรทองไม่ได้สักนิด

   "ถ้าไม่มียาขจัด...แปลว่ายูอันต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอนใช่มั้ยท่านไต้ซือ ?"จางไท่ถามขึ้น

เทียนซิมไต้ซือ  นิ่งไปพักใหญ่ๆ....สีหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรไม่ตก...

จางซินถงที่สังเกตุเห็นก็เหมือนมีความหวังขึ้นมา...  เงยหน้ารอฟังคำตอบจากเทียนซิมไต้ซือ

   "อาตมา  จะพาประสกยูอันไปเส้าหลิน...พิษก้าวเดียวสะบั้นวิญญาณ ไม่มียาขจัด...แต่ทว่า
หากเป็น คัมภีร์ชะล้างไขกระดูก  น่าจะขจัดพิษในร่างออกมาได้..."

   " คัมภีร์ชะล้างไขกระดูก !!!!!"หลายคนในห้องโถงต้องเอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจ ไม่เว้นแม้แต่
ก๋วนเทียนเล้ง ประมุขน้อยป้อมมังกรทอง

   72 ยอดวิชาของเส้าหลิน ต้องนับ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นและคัมภีร์ชะล้างไขกระดูก เป็นวิชาที่ลึกล้ำที่สุด
ในอดีตเคยมีจอมยุทธในตำนานหลายท่านที่สามารถฝึกสำเร็จ กลายเป็นสุดยอดฝีมือของแต่ละยุคๆ
แต่ทว่า 2 คัมภีร์นี้ ไม่ปรากฏในยุทธจักรมาเป็นร้อยๆปีแล้ว  บ้างก็ว่าวัดเส้าหลินปกปิดเอาไว้ไม่ให้ใครทราบ
บ้างก็ว่า 2 คัมภีร์นี้หายสาบสูญไปจากเส้าหลิน  บ้างก็ว่าถูกขโมยออกไป
   แต่สรุปคือในรอบร้อยกว่าปีนี้  ไม่ปรากฏร่องรอยของคัมภีร์ทั้งสอง
และสองคัมภีร์นี้ คัมภีร์ที่สาบสูญไปนานกว่า ก็คือ คัมภีร์ชะล้างไขกระดูก  
ที่เกือบสามร้อยปีไม่มีผู้ใดฝึกสำเร็จ หรือมีใครเคยได้เห็นตัวคัมภีร์
การได้ยินเทียนซิมไต้ซือ กล่าวถึง คัมภีร์ชะล้างไขกระดูกครั้งนี้ สร้างความแตกตื่นให้ชาวยุทธเป็นอย่างมาก

   "คัมภีร์ชะล้างไขกระดูก....ไต้ซือหมายความว่า คัมภีร์ชะล้างไขกระดูก ยังอยู่ที่เส้าหลินใช่หรือไม่ ?"
ก๋วนเทียนเล้ง  อดเดินเข้ามาถามไม่ได้   เทียนซิมไต้ซือมีสีหน้าลำบากใจไม่น้อย ก่อนจะตอบว่า

   "ขออภัยที่อาตมาไม่สามารถบอกรายละเอียดได้...แต่ทว่า ถ้าประสกจางไท่
ยอมให้อาตมาพาประสกยูอันไป....อาตมาจะพยายามอย่างเต็มที่..." เทียนซิมไต้ซือขอความเห็นจากจางไท่
เนื่องจากยูอันเป็นเด็กรับใช้ในสำนัก

   ไม่ทันที่จางไท่จะตอบคำ  เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาในห้องโถง

   "คัมภีร์ชะล้างไขกระดูก  สามารถขจัดพิษก้าวเดียวสะบั้นวิญญาณได้จริงๆ
แต่ทว่า...กว่าจะเดินทางไปถึงเส้าหลิน เจ้าหนุ่มคนนี้คงตายก่อนแล้ว.."

   ทุกคนต่างหันไปมองเจ้าของเสียง เห็นผู้พูดเป็นชายอายุประมาณ 50-60 ปี
มีบางคนที่พอจะคุ้นๆหน้า  ชายแปลกหน้าคนนี้  รวมถึงเทียนซิมไต้ซือด้วย

   "ประสก....หรือว่า  ประสก แซ่ต้วน..?"เทียนซิมไต้ซือถามขึ้นด้วยความตื่นเต้นไม่น้อย

   "ฮ่าๆๆ ไม่พบกันนานแล้วไต้ซือ  ข้าพเจ้าต้วนอู่คัง "ชายแปลกหน้าตอบออกมาอย่างยิ้มแย้ม

   "แพทย์ปีศาจ  ต้วนอู่คัง !!!" หลายคนถึงกลับอดอุทานออกมาไม่ได้  ที่แท้ชายท่าทางใจดีคนนี้
คือแพทย์ปีศาจในสามประหลาดชังโลกนั่นเอง  เสียงร่ำลือที่ว่า แพทย์ปีศาจสามารถชุบชีวิตคน
ให้ฟื้นคืนมาได้ ทุกๆคนต่างเคยได้ยินมา  เพียงแต่ว่าสิบปีมานี้
ไม่มีผู้ใดได้ข่าวของสามประหลาดชังโลกสักนิด  อย่าว่าแต่น้องสาม คุณชายสู่สม ม่อหยงชิ้ว
ยังเป็นเป้าหมายที่หลายสำนักต้องการจับตัว

   "เป็นประสกต้วนจริงๆด้วย  ประสกยูอัน  มีทางรอดแล้ว..อามิตพุทธ.."เทียนซิมไต้ซือถึงกับ
ขอบคุณพระพุทธองค์ออกมา  
  "ผู้มีอาวุโส ....ผู้มีอาวุโส  ช่วยเค้าได้หรือไม่ ?"จางซินถงเอ่ยถามแพทย์ปีศาจด้วยความหวัง
เค้า คงมีทางรอดแล้วเมื่อแพทย์ปีศาจมาที่นี่

   แพทย์ปีศาจเดินเข้าไปหาเทียนซิมไต้ซือก่อนจะยื่นยาเม็ดใหญ่ให้ แล้วพูดว่า
  "ไต้ซือกลืนยานี้ลงไป แล้วเดินพลังโดยด่วน  มิฉะนั้นปล่อยไว้ อาจต้องเสียพลังการฝึกปรือถึงสิบปี"
เทียนซิมไต้ซือ  รับยาไปแล้วกลืนเข้าไปอย่างไม่ลังเล  เพียงตัวยากระทบลิ้น กลิ่นหอมซาบซ่าน
ก็ฟุ้งไปทั่วปาก ตัวยาละลายเป็นน้ำเย็นเฉียบไหลลงลำคอไปในทันที..

  "นี่มัน  ยาเม็ดคืนวิญญาณ ..."เทียนซิมไต้ซือที่มีความรู้ทางการแพทย์ไม่น้อย ต้องอุทานด้วยความติ้นตัน
ยาเม็ดคืนวิญญาณ  เป็นของวิเศษอย่างหนึ่งของยุทธจักร  สร้างจากบัวหิมะพันปีและดีตะพาบทะเลพันปี
มีคุณสมบัติรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการบอบช้ำภายใน  และขจัดพิษได้เกือบร้อยชนิด
แต่ทว่า ไม่เคยมีใครได้ยินข่าวว่า  มีใครผลิตตัวยาเช่นนี้ได้อีก เนื่องจากทั้งบัวหิมะพันปีและตะพาบทะเลพันปี
เป็นสิ่งที่เคยได้ยินแต่ในตำนานเรื่องเล่าเท่านั้น  แต่เมื่อแพทย์ปีศาจมียาวิเศษเช่นนี้ หลายๆคนก็พยักหน้างึกๆ
ต่างคิดๆกันว่า ถ้าจะมีคนปรุงยาวิเศษตัวนี้ได้  ก็ต้องเป็นแพทย์ปีศาจนี่และ

  เทียนซิมไต้ซือรีบนั่งผนึกลมปราณทันทีที่รู้ว่า ได้กินยาวิเศษเข้าไป อาการบาดเจ็บที่ต้องพักรักษาตัวเป็นเดือนๆ
อาจจะหายภายใน 3-4 วันก็เป็นได้

  "ผู้มีอาวุโสต้วน....ท่านพอจะ จะ...มอบยาเม็ดคืนวิญญาณ ให้ผู้เยาว์สักเม็ดได้หรือไม่.."
จางซินถงกล่าวอ้อนวอนอย่างจริงใจ  ถึงแม้ทราบว่า ยาวิเศษ ไม่ใช่สิ่งที่จะขอกันได้ง่ายๆ
ด้วยคุณสมบัติที่วิเศษสุดของยานี้  ชาวยุทธหลายๆคนต่างก็ต้องการครอบครองกันทั้งนั้น
เพราะการอยู่ในยุทธจักรต่างก็ต้องมีโอกาสได้รับบาดเจ็บสาหัสกันอยู่แล้ว
ไหนจะต้องระวังการถูกพิษอีก  การมียาเม็ดคืนวิญญาณในครอบครอง ก็เหมือนมีอีกชีวิตสำรองไว้

   ก๋วนเทียนเล้ง ก็จับจ้องแพทย์ปีศาจอย่างไม่วางตา

   "บอกตามตรง  เราปรุงยาเม็ดคืนวิญญาณได้ทั้งหมดสิบเม็ด....น้องรองและน้องสามรับไปคนละสามเม็ด
เราเองมีสี่เม็ด  ....นั่นก็คือตอนนี้เหลือที่เราสามเม็ดเท่านั้น..."แพทย์ปีศาจตอบสีหน้ายิ้มๆ

   "ขอเพียงผู้มีอาวุโส  มอบยาให้ ผู้เยาว์จะสำนึกบุญคุณไปชั่วชีวิต...."จางซินถงกล่าวทั้งน้ำตา

   "....แม่หนูน้อย  ขอบอกตามตรง  ถึงกินยาเม็ดคืนวิญญาณ ก็ไม่อาจขจัดพิษก้าวเดียวสะบั้นวิญญาณได้หมด
ก็ได้แค่เพียงยืดอายุเจ้าหนุ่มคนนี้ ได้อีก 4-5 วันเท่านั้น...ในเมื่ออย่างไรก็ต้องตาย...จะย่ำยียาวิเศษไปทำไมกัน.."

   หลายๆคนในห้องโถงก็รู้สึกเช่นนี้ ในเมื่อกินยาวิเศษไปก็ไม่รอดอยู่ดี  สู้เก็บยาวิเศษไว้ให้คนอื่นดีกว่า
แน่นอน หลายๆคนแอบหวังว่า จะมีโอกาสได้ยาวิเศษนี้สักเม็ด

   "ขอเพียงเค้ารอดชีวิตได้ จะอีกแค่ 1 วัน หรือ  5 วัน ....ผู้เยาว์ก็ยินดี....หากผู้มีอาวุโสประทานยาให้
ผู้เยาว์จะทำตามทุกอย่างที่ผู้มีอาวุโสต้องการ..."จางซินถงเอ่ยมาด้วยความหนักแน่น

  "ซินถง!!!" จางไท่อดร้องขึ้นมาไม่ได้  หลายๆคนในห้องโถงก็เช่นกัน  
ประโยคที่ว่า จะทำตามที่ต้องการทุกอย่าง  มันน่ากลัวเกินไป  สำหรับสาวงามปานเทพธิดาเช่นนี้

  "ฮ่าๆๆ ตกลงตามนี้  " แพทย์ปีศาจง้างปากยูอันแล้วดีดเม็ดยาเข้าไปทันที  จากนั้นเข้าไปอุ้มยูอันขึ้นมา
และพูดว่า

  "ต้องการห้องพักที่เงียบสงบห้องหนึ่ง  ไม่มีผู้คนมารบกวน "

  "ซินถง พาไปที่ตึกไผ่เขียว  "จางไท่เอ่ยขึ้น จางซินถงจึงรีบเดินนำหน้า  
แพทย์ปีศาจอุ้มยูอันเดินตามเข้าไป

   จากนั้นจางไท่ก็ออกมาส่งแขกที่ยังเหลืออยู่อีกไม่มากกลับ   เทียนซิมไต้ซือและอ๋องยูซัวที่ยังบาดเจ็บ
ยังพักอยู่ที่สำนักคุ้มภัย  ส่วนก๋วนเทียนเล้งก็มาอำลาจางไท่แล้วรีบจากไป

........................................................................................................

   สองวันมานี้เทียนซิมไต้ซืออาการดีขึ้นมาจนแทบจะหายเป็นปรกติ  อ๋องยู่ซัวและน้องสาว
ก็กลับไปที่จวนเจ้าเมือง

   คงเหลือแพทย์ปีศาจ เทียนซิมไต้ซือ ที่ยังพักที่สำนักคุ้มกันภัย เพื่อดูแลยูอัน
สองวันมานี้สีหน้ายูอันดีขึ้นไม่น้อย ความหมองคล้ำบนใบหน้าลดลงบ้างแต่ก็ยังน่าเป็นห่วง
จางซินถงแทบจะมาเฝ้าดูแลเกือบทั้งวันทั้งคืน  รู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่มากก็จะครบห้าวัน
ตามที่แพทย์ปีศาจบอก

   สุดท้ายก็เข้าวันที่สาม... เหลืออีกสองวัน ยูอันก็จะถูกพิษกำเริบจนถึงแก่ชีวิต
จางซินถงนั่งมองอยู่ที่ขอบเตียง  ใบหน้างามสะคราญมีแต่คราบน้ำตา
สามวันมานี้ สาวงามร้องไห้หลายต่อหลายครั้ง จนน้ำตาไม่มีจะไหล
ข้าวปลาอาหารก็ไม่อยากจะแตะต้อง  แต่เมื่อคิดขึ้นได้ว่า ต้องมีร่างกายที่แข็งแรงไว้
เพื่อจะได้คอยดูแล เค้า  ก็เลยกล้ำกลืนทานอาหารให้ครบทุกมื้อ

   เย็นวันนี้ก็เช่นกัน  หลังจากอาหารเย็น จางซินถงก็เข้ามาในห้องพักที่ยูอันนอนรักษาตัวอยู่เช่นเคย
แต่พอเข้ามาก็พบแพทย์ปีศาจนั่งอยู่ริมเตียงก่อนแล้ว

  "ผู้อาวุโส...."จางซินถงทักแพทย์ปีศาจพร้อมคารวะน้อยๆ
  "อืมม.."แพทย์ปีศาจพยักหน้าตอบ   จางซินถงเดินเข้ามาข้างๆเตียงช้าๆ เห็นใบหน้าของยูอันที่หมองคล้ำ
น้ำตาก็ทำท่าจะไหลออกมาอีก  ท่าทีที่น่าสงสารเวทนา  ทำเอาแพทย์ปีศาจต้องนิ่งมองอยู่ครู่ใหญ่
ก่อนจะพูดว่า..

   "ที่จริง  เรานึกวิธีรักษาหนุ่มคนนี้ได้วิธีหนึ่ง...."
จางซินถงได้ยินแต่ทว่ายังยืนนิ่งเงียบ....กว่าสมองจะแปลความหมายประโยคที่แพทย์ปีศาจพูดออกมา
ก็อีกครู่หนึ่ง  ก่อนจะหันขวับมาทางแพทย์ปีศาจทันที

   "ผู้..ผู้อาวุโส..ท่าน..ท่าน...จริง  หรือไม่ ?"สาวงามแห่งลี่เจียงแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง
ต้องถามเสียงตะกุกตะกัก  

   "อืมมม....พอจะมีหนทาง...แต่ทว่า....ค่อนข้างยุ่งยากไม่น้อย....."

   "ผู้มีอาวุโส  โปรดกล่าว ไม่ว่าจะยุ่งยากลำบากแค่ไหน  ผู้เยาว์จะขอพยายามสักครั้ง"
จางซินถงกล่าวด้วยความตื่นเต้น  ขอแค่พอมีหนทาง ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องช่วยให้เค้า รอดให้ได้

    แพทย์ปีศาจค่อยๆเดินไปที่ริมหน้าต่าง  ก่อนจะพูดช้าๆว่า

   "ก่อนอื่น  ต้องย้ายหนุ่มคนนี้ ไปทำการรักษาที่อื่น  ที่นี่มีคนพลุกพล่าน ไม่สะดวกในการทำการรักษา.."
  
   "ต้องย้ายไปที่ไหนหรือท่านผู้มีอาวุโส "จางซินถงรีบถามทันที

   "ไม่ไกลจากบึงมังกรดำ  มีถ้ำลึกลับแห่งหนึ่ง  ที่เราใช้สำหรับปรุงยาต่างๆ...
เหมาะสำหรับทำการรักษาเป็นอย่างยิ่ง..."

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++