ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

มาชมสถานที่ที่ไม่ต้อนรับคนดี สถานที่ที่คนดีมาได้แต่อยู่...ไม่ได้(ภาค1)

เริ่มโดย tumhilow, กุมภาพันธ์ 04, 2013, 10:43:56 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

tumhilow

ก่อนอื่น ขอให้เครดิตก่อนเลยนะครับ

CHON_PINTA
www.taklong.com

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีพี่ ๆ ชาวตากล้องทุกท่านครับ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยจะได้เข้ามาโพส ภาพที่นี้เลย ก็เพราะมัวแต่ ใช้กระบวนการคิดมากกว่าการถ่าย อย่างที่เคยได้บอกไปเมื่อกระทู้ ส่งท้ายปี....เอาเป็นว่าเข้าเรื่อง สำหรับกระทู้ ของทริปนี้กันเลยดีกว่าครับ  
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 56 ที่ผ่านมานี้เองผมก้ได้มีโอกาศเข้าไปเที่ยวชม ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ กำลังจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็น คุ้มหลวงเวียงแก้ว ในอีกไม่ช้านี้....ซึ่งผมเองคิดว่า มีแค่ไม่กี่คนนะครับที่จะได้เข้าไปสัมผัสกับ ชีวิตในเรือนจำ....แต่ใครที่เคยผ่านมาแล้วก็คงจะรู้ดี แต่ใครที่ไม่เคย...กระทู้นี้ อาจจะเป็นประโยชน์แด่ ทุก ๆ ท่าน เพื่อที่จะเอาไปบอกเล่าให้ลูก ให้หลาน รับฟังว่า ที่แห่งนี้....อย่าได้ปราถนาที่จะเข้าไปใช้ชีวิตเลย...



ประวัติ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่
ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ตั้งขึ้นตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 2/2542 ลงวันที่ 4 มกราคม 2542 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ ราชทัณฑ์ 2479 ให้กำหนดพื้นที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ และเรือนจำพิเศษเชียงใหม่ เดิมเป็นทัณฑสถาน และได้แยก การบริหารงานออกจากเรือนจำกลางเชียงใหม่เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม 2544
สถานที่ ที่ตั้งทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เคยเป็นส่วนหนึ่งของ อาณาจักรล้านนาไทยในอดีต เรียกว่า เวียงแก้ว เคยเป็นพระราชวังของพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระยามังราย ซึ่งพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ของอาณาจักรล้านนา ตั้งแต่ได้สร้างเมืองเชียงใหม่ปี พ.ศ. 1839 และต่อมาปี พ.ศ.2445 พระราชวังเวียงแก้วได้ถูกรื้อถอนให้เป็นศูนย์ราชการ มีศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และรวมที่ตั้งของเรือนจำอยู่ด้วย  ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ คือ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่



ผมเองเก็บภาพบรรยากาศมาแบบ แทบจะทุกมุมเลยก็ว่าได้  รูปที่จะนำมาโพสมีจำนวน 121 รูป ดังนั้น จะขอแบ่งโพสนะครับ จะไม่ขออธิบายยาม แต่จะให้ภาพเล่าเรื่องของมันเอง    อาจจะมีบ้างที่ สอดแทรง รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปด้วยนะครับ
ภาพนี้เป็น การบวงสรวง ทำพิธีกรรมทางศาสนา เนื่องจาก ที่ผ่านมา ผู้ต้องขังที่เสียชีวิตในที่แห่งนี้ ไม่ได้ผ่านพิธีกรรม ได ๆ เลย  .



เดินเข้าไป ด้านหน้า .ก็จะเจอ  ฝ่ายปกครองและรักษาการณ์



ตรงเข้าไป - เลี้ยวซ้ายก็จะเจอ ห้องเก็บชุดผู้ต้องขัง  



ที่นี้จะมีการแจกน้ำร้อนสำหรับ ชงกาแฟ เพียง 1 แก้วต่อผู้ต้องขัง 1 คนเท่านั้นครับ



ตรงเข้าไปก็จะเจอ เรือนเพ็ญ  ซึ่งเป็นที่คุมขัง อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็น คดีเด็ดขาด  



จากจุดเดิม มองไปทางขวาก็จะเจอ ศูนย์การเรียนนารีรัตน์ - ชั้นล่างเป็นห้องสมุด



กำแพง เป็นสิ่งที่ห้ามผู้ต้องขังเข้าใกล้ ช่วงกลาง จะขึงลวดหีบเพลงเอาไว้ ส่วนด้านบนสุดจะมีสายไฟฟ้าแรงสูง จำนวน 5 เส้น ขึงไว้ป้องกันการหลบหนีอีก 1 ชั้น



ที่นี้มีห้องน้ำอยู่ประมาณ 95 ห้อง ฟังดูแล้วอาจจะดูเหมือนว่า ห้องน้ำห้องท่า คงจะสะดวก สะบายน่าดู .สะดวกแค่ไหน ชมภาพได้เลยครับ .


ห้องส้วม จะถูกสร้างขึ้น อย่าง เปิดเผย    ตรวจสอบได้ง่าย สูงแค่ไหน กว้างแค่ไหน  .ตามภาพเลยครับ


นี้คือ จุดที่ผู้ต้องขัง มีใว้สำหรับ ชำระล้างร่างการ หรือ ที่อาบน้ำ นั่นเองครับ .


อีกมุมครับ



ทางขึ้น เรือนเพ็ญ - คุมขังคดีเด็ดขาด .



หน้าต่างที่นี้ แน่นหนาแค่ไหน  ตามภาพเลยครับ เชิญใช้มือ 2 ข้าง งัดได้ตามใจชอบ



บริเวณ ระเบียงด้านหน้า ( ชั้นบน ) ของเรือนเพ็ญ ครับ



ห้องน้ำ ด้านในครับ



ภาพจากมุมสูง ครับ



เต้นท์ ด้านล่างที่เห็น มีไว้สำหรับ จัดพิธีกรรมทางศาสนา ที่ทางเหนือเขาเรียกว่า สูจน์ถอน ให้แก่ดวงวิญญาณ ของผุ้ต้องขังที่เคยเสียชีวิตในที่แห่งนี้ครับ



แดนกิจกรรม .



น้ำดื่ม กรองแล้ว  .ก้อย่างที่เห็นครับ ที่นี้มีเครื่องสำหรับกรองน้ำสะอาดเพียง 1 เครื่องเท่านั้นครับ .



ห้องสมุด .ที่นี้ก็มีแหล่งความรู้ครับ  



ตรงข้ามกับห้องสมุดจะเป็น โรงงานฝึกวิชาชีพ .



ตรงเข้าไปอีก แล้วเลี้ยวขวา ด้านมุมสุดของเรือนจำ ก็จะเป็น ส่วนของ สูทกรรม ครับ



อีมมุมหนึ่งของโรงครัวครับ



อีกมุมครับ



อีกมุมครับด้านหลังโรงครัว



นี้คือ เตาที่ใช้สำหรับ ทำอาหารให้ผุ้ต้องขัง



ชั้นเก็บของในโรงครัว



ออกจากโรงครัวแล้วเดินย้อนมาทางด้านหน้า



ด้านขวา คือ เรือนบัวบาน สำหรับผู้ต้องขังแม่และเด็ก .



ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามกับเรือนบัวบาน ก็จะเป็น โรงงานฝึกวิชาชีพเย็บผ้า



ด้านใน ครับ



ในนี้  จะมี พระบรมฉายาลักษณ์ ติดอยู่ ทุกมุมเลยครับ



ย้อนกลับมา ทางด้านหลังเรือน บัวบาน จะเป็น โรงอาหารครับ



ด้านในค่อนข้างเบียดเสียดยัดเยียด พูดง่าย ๆ แคบ นั่นเองครับ



อีกมุมครับ



อีกมุมครับ



เดินวกกลับมาที่จุดศูนย์กลางของเรือนจำ แล้วมองมาทางด้านหน้า ซึ่งเป็นทางเข้า .



ต่อไปก็จะพาไปชม .เรือนนอน ผู้ต้องขังอีกชื่อว่า เรือนแก้ว - ชั้นล่างสำหรับ โรงงานพัสดุและเงินทุนผลประโยชน์ - ชั้นบนคดีเด็ดขาดโทษสูง อันนี้รวมถึงนักโทษที่ต้องโทษประหารชีวิตด้วย .



ประตูทางเข้า .



อ่านดูครับ ว่าในนี้เขาเขียนอะไรเอาไว้บ้าง



อ่านดู .



อีกใบ



ด้านใน ชั้นล่างของเรือนแก้ว .ครับ



มองกลับไปทางด้านหลัง .บอกตรง ๆ ครับว่า เหม็นกลิ่น ฉี่นูมาก ๆ เลย  .


ติด ๆ กันกับเรือนแก้วจะเป็น เรือนคำ  ชั้นล่างเป็นสถานที่ฝึกวิชาชีพศิลปะประดิษฐ์ ชั้นบน ระหว่างพิจารณษคดีและวัยสาว



ชั้นล่างของเรือนแก้ว



.อีกมุม



ด้านล่างของเรือนแก้ว และเรือนคำ จะเป็น ตู้ ล๊อกเกอร์เก็บของ ของผู้ต้องขังครับ .ซึ่งมีสภาพอย่างที่เห็น .



ซ้ายบ้าง - ขวาบ้าง



ด้านในของ ล๊อกเกอร์ครับ



อีกมุม



จัดไป



มุมกด



บันได ขึ้นชั้นบนของเรือนแก้วครับ




ที่นี้ เข้มงวดทุกย่างก้าวครับ






ข้างบนนี้ ห้องเล็ก สำหรับ นักโทษคดีเด็ดขาด





ห้องรวม-ห้องใหญ่ เป็น ที่นอน 2 ชั้นครับ





ห้องน้ำภายในห้องนอนครับ



อีกมุมครับ






อีกมุมครับ





ห้องน้ำในห้องนอน .





เดินลงมาชั้นล่างครับ ขึ้นไปในส่วนของ เรือนคำ ที่อยู่ติดกันกับเรือนแก้ว





มุมด้านบนของเรือนคำ











นี้คือห้องขังของนักโทษคดีเด็ดขาด หรือ นักโทษประหารนั่นแหละครับ .อยากกินอะไรได้กิน ก่อนตาย .





ด้านล่างของเรือนคำ ครับ .


ขออนุญาติ ปิดท้ายภาคแรก ก่อนนะครับ .พักยกแป๊บนึง  มีอะไรสงสัย ถามได้ครับ  เดี๋ยวจะกลับมาตอบ เท่าที่รู้นะครับ .อิอิ
รอติดตาม ภาค 2 อีกสักครู่ครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


มี 2 ภาค นะครับ เดี๋ยวมาลง ภาค 2



ใครอยากเข้าก็เชิญนะครับ ผมคน 1 ละไม่ขอไปอยู่ที่นั้น