ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Koy series special Erika ep.1 By ukisa

เริ่มโดย icejet, กุมภาพันธ์ 18, 2013, 03:10:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

icejet

 Koy special Erika ep 01
แล้วก็ทนรอไม่ไหวจนได้ตอนพิเศษนี้เลยเกิดขึ้นอย่างเที่เกรินเอาไว้ เรื่องนี้จะเกิดในช่วงเกือบจะท้ายของซีรี่ก้อย ซึ่งอาจจะมีบางเรื่องจะยังไม่เปิดเผยแต่จะมีกล่าวถึงภายหลังในซีรี่ปรกติ

                ในขณะที่ผมเองกำลังจะตกที่นั่งลำบาก กลับมีเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนรนขึ้นไปอีก เมื่อผมได้รับโทรศัพท์ด่วนจากญี่ปุ่น

                "ยูกิซัง ผม ขอโทษด้วย แต่เรื่องนี้ด่วนจริงๆ เอริกะจังประสพอุบัติเหตุรถคว่ำ" ซาโตชิ
                "อะไรนะ แล้วเอริกะจังเป็นยังไงบ้าง"
                "ตอนนี้เธออยู่ในห้อง icu"
                "เอริกะเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับซาโตชิ"
                "คือ ยูกิซังพอจะว่างมาดูเธอหน่อยได้ไหม แล้วผมจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง"
                "ได้ๆ ผมจะรีบบินไปให้เร็วที่สุด ผมฝากคุณเรื่องวีซ่าผมด้วยนะซาโตชิ ผมอยากไปให้เร็วที่สุด"
                "ได้พรุ่งนี้คงได้ คุณจะมาเครื่องเที่ยวไหน"
                "ถ้าได้วีซ่าพรุ่งนี้ผมก็จะจับเที่ยวที่เร็วที่สุดไปทันที"
                "ครับ ผมจะส่งเรื่องวีซ่าให้คุณเลยนะยูกิซัง แล้วเจอกันผมจะให้คนไปรอรับคุณ"
                "ขอบคุณมากนะซาโตชิ ผมฝากคุณช่วยดูแลเอริกะจังด้วย"
                "ได้ครับ"

                ผมโทรหาลินเพื่อให้ประสานงานเรื่องวีซ่าให้ผมด่วนที่สุดและทันทีที่ได้วีซ่าผมก็ให้ลินจองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียวให้ผมทันที ลินตกใจเพราะผมไม่เคยทำอะไรที่ร้อนร้นมากขนาดนี้ ผมโทรหาก้อยบอกว่าวันนี้ผมจะไปรับเธอ ครั้งที่แล้วผมเกือบจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีกถ้าพ่อของโชโกะไม่ได้ให้ลูกน้องใช้กระสุนยางยิงผมแทนกระสุนจริง

                หลังทานข้าวเย็นซึ่งผมก็ทานไม่ค่อยลงเพราะเป็นห่วงเอริกะ ผมนั่งดูโทรทัศน์เป็นเพื่อนก้อยแนนและหงส์ ผมโอบเอวก้อยกับแนนแล้วดึงพวกเธอมาชิดกับผม หงส์หันมามองผมเลยต้องจับแนนมานั่งตักแลดึงหงส์เข้ามากอดด้วย

                "พี่มีเรื่องด่วนจะต้องไปญี่ปุ่นนะ คงไปหลายวัน"
                ไม่มีใครถามเหตุผลว่าเพราะอะไร เพราะแค่พวกเธอเห็นท่าทางผมวันนี้พวกเธอก็รู้แล้วว่าผมร้อนใจมาก
                "ได้ค่ะพี่บี ระหว่างที่พี่บีไม่อยู่ก้อยจะมาค้างเพื่อดูแลน้องๆ เองค่ะ"
                "พี่บีจะกลับเมื่อไหร่ค่ะ" หงส์
                "พี่ยังไม่รู้เลย อย่างน้อยพี่คงไปอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์"
                "ฝากความคิดถึงถึงพี่สาวด้วยนะค่ะ" แนน
                ผมได้ยินแล้วถึงกับพูดอะไรไม่ออกจนสาวๆ สังเกตุเห็น
                "งั้นแนนไปจัดกระเป๋าให้ดีกว่า ปะพี่หงส์ช่วยแนนหน่อยนะ"
                แนนกับหงส์เข้าไปจัดกระเป๋าให้ผมในห้องนอน ผมเลยดึงตัวก้อยมากอดและหอมแก้มเธอ
                "อุ้ย อะไรค่ะพี่บี"
                "พี่คงไปหลายวัน พี่คงคิดถึงก้อยมาก พี่ขอกอดก้อยไว้นานๆ แบบนี้ได้ไหม พี่จะได้จำความรู้สึกอบอุ่นนี้ได้ตอนที่พี่ต้องอยู่ห่างจากก้อย"
                "พี่บีอย่าพูดเป็นลางแบบนี้ซิค่ะ พี่บีจะไปอยู่ที่นั่นนานขนาดไหนสุดท้ายพี่บีก็ต้องกลับมาหาพวกเราใช่ไหมค่ะ"
                "จ๊ะ ใช่แล้วหละไม่ว่าพี่จะต้องไปอยู่ในที่ที่แสนไกลขนาดไหน สุดท้ายพี่ก็จะต้องพยายามกลับมาหาเมียที่พี่รักอย่างแน่นอน"
                "งั้นพี่บีก็ไม่ต้องคิดมากนะค่ะ ทางนี้ก้อยจะดูแลน้องๆ ให้เอง ว่าแต่ตอนนี้เรื่องบริษัทก็ยุ่งๆ อยู่พี่บีจะไปจริงๆ หรอค่ะ"
                "พี่จำเป็นจริงๆ แล้วถ้าครั้งนี้พี่ตัดสินใจพลาดจนเหลือแต่ตัว ก้อยยังจะรักพี่หรือเปล่า"
                "รักซิค่ะ คนเราถ้าไม่ท้อแท้งอมืองอเท้า ยังไงก็ไม่มีวันอดตายหรอกค่ะ ไม่ว่าจะรวยหรือจน การที่เราได้อยู่ด้วยกันก็ถือว่าเป็นความสุขที่สุดแล้วไม่ใช่หรอค่ะ"
                "ขอบคุณนะที่ก้อยเข้าใจพี่"
                "ภรรยาก็ต้องเข้าใจสามีซิค่ะ เราไปในห้องกันเถอะค่ะ พี่บีจะต้องไปหลายวัน ไม่คิดถึงแนนกับหงส์บ้างหรอ"
                "ไปซิ" ผมรวบขาก้อยแล้วอุ้มเธอ
                "อุ้ยไม่เอา อายน้องแนน วางก้อยก่อนค่ะพี่บี"
                "ไม่ พี่จะอุ้มก้อยไปให้แนนจัดการ"
                "ว้ายไม่เอานะ"

                คืนนี้ผมกับสามสาวปล้ำกันทั้งคืน ถึงผมจะเศร้าเรื่องเอริกะจัง แต่ผมก็จะเอามาทำให้ผมไม่ได้ปั้มเมียๆ ผมก่อนที่จะต้องไปญี่ปุ่นหลายวันไม่ได้

                วันรุ่งขึ้นพอผมได้ตั๋วเครื่องบินผมก็โทรบอกลา ก้อย แนน หงส์ รวมถึงโทรบอกเจนด้วย และยังมีคนอื่นที่ผมต้องแจ้งก่อนจะไปญี่ปุ่น

                "เห้ยบี ตอนนี้สถานการณ์ที่นี่ก็ยังไม่ดีมึงจะไปแบบนี้ไม่กลัวว่ากลับมาบริษัทจะโดนฮุบไปแล้วหรอวะ"
                "ผมขอโทษจริงๆ นะครับคุณพ่อ แต่เรื่องที่ผมจะไปมันสำคัญกว่ามาก"
                "มึงนี่เห็นผู้หญิงสำคัญกว่าเรื่องบริษัทเลยหรอวะบี กูดูคนผิดไปจริงๆ หรอวะเนี่ย"
                "ไม่ใช่แค่ผู้หญิงนะครับ แต่ชีวิตของผู้หญิงคนนึงซึ่งถ้าผมไม่ไปแล้วเกิดเธอเป็นอะไรไป เงินเป็นพันล้านหมื่นล้านก็เอาเธอกลับมาให้ผมไม่ได้"
                "ถ้ากูไม่ยอมให้มึงไปหละ กูจะสั่งอายัดตั๋วมึง"
                "คุณพ่อ ถ้าคุณพ่อายัดตั๋วผมผมก็จะซื้อใหม่ด้วยเงินตัวเอง"
                "ไอ้บี มึงนี่ ถ้างั้นกูจะสั่งคนไปจับตัวมึงเดี๋ยวนี้ ดูซิมึงจะหนีไปญี่ปุ่นได้ไหม"
                คุณอำนาจไม่ยอมให้ผมไปจริงๆ ผมเลยต้องยอมบอกอีกเรื่องที่ผมคิดไว้และกะจะไม่บอกใคร
                "มึงแน่ใจนะ ไม่ใช้มาโกหกกูเพื่อจะไปหาแฟนญี่ปุ่นของมึงนะ"
                "ผมแน่ใจครับคุณพ่อ"
                "แต่กูว่ามันคนละเรื่องกับสถานะการณ์ตอนนี้เลยนะ"
                "คุณพ่อเชื่อผมเถอะครับ ผมเองก็มีสายอยู่ในฝั่งโน้นเหมือนกัน รับรองว่ามันคิดแบบนี้จริงๆ"
                "ก็ได้ งั้นกูจะยอมให้มึงไป แต่กลับมาแล้วมึงต้องมาสานต่อเรื่องนี้ให้จบนะ"
                "ได้ครับคุณพ่อผมสัญญาพอผมกลับมาแล้วเรื่องนี้จะจบอย่างเร็วที่สุด และนายวิบูรณ์จะต้องสิ้นชื่อ"
                "บี กูเคยเตือนมึงหลายครั้งแล้วนะเรื่องนี้"
                "แต่คนอย่างนายวิบูรณ์ ถ้าผมปล่อยไปอีก มันก็จะกลับมาแว้งกัดผมอีก มันทำกับผมไว้เยอะครับคุณพ่อ ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่ผมนอนตาไม่หลับจริงๆ ครับ"
                "เค้าทำมึง มึงทำเค้า มันก็วนเวียนอยู่แบบนี้นะ แล้วเมื่อไหร่มันจะจบวะบี"
                "คือถ้าเป็นคนอื่นผมก็คงยอมปล่อยไปได้นะครับคุณพ่อ แต่คนๆ นี้ผมยอมปล่อยให้มันรอดไปอีกครั้งไม่ได้แล้ว"
                "เฮอ ก็ตามใจมึงแต่เชื่อเถอะนะ ซักวันกรรมก็ต้องตามทันมัน มึงไม่ต้องทำตัวเป็นกรรมของมันหรอก"
                "แค่นี้นะครับคุณพ่อ"

                ผมรีบตัดบทเพราะหลังๆ คุณอำนาจเริ่มสนใจเข้าวัดฟังธรรมะและเอามาบ่นใส่ผมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ส่วนเรื่องผู้หญิงท่านเลิกไปเลยเหมือนไม่ใช่คนเดิมอาจจะเพราะแนนกับฟางไปบ้านท่านบ่อยๆ ตอนนี้เท่าเลยไม่เหงาที่มีลูกสาวกับลูกสะใภ้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเกือบทุกวัน  แต่ท่านก็ยังคงเลี้ยงดูส้มอยู่เหมือนเดิม แต่ผลักภาระด้านกามรมณ์ของส้มมาให้ผมแทน

                ผมโบมือลาลินขณะเดินเข้าไปยังส่วนผู้โดยสารด้านใน ผมแทบจะรอให้เครื่องขึ้นไม่ไหว ผมอยากจะไปให้ถึงห้องที่เอริกะนอนรักษาตัวอยู่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

                มันช่างเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากสำหรับผม พอลงจากสนามบินได้ผมก็รีบไปรับกระเป๋าแล้ววิ่งออกไปยังด้านนอกสนามบินทันที คนของซาโตชิมารอรับผมเพื่อจะพาผมไปส่งที่โรงแรม แต่ผมไม่ยอมผมจะไปหาเอริกะก่อน จนคนขับรถต้องโทรหาซาโตชิเพื่อให้คุยกับผม

                "เอาหละครับ ผมจะให้เค้าไปส่งยูกิซังที่โรงพยาบาล แล้วผมจะรีบตามไป"

                พอไปถึงโรงพยาบาลผมก็รีบไปหาเอริกะจังทันที แต่ภาพที่ผมเห็นก็ทำเอาผมหมดแรงที่จะทรงตัวยืนอยู่ได้ ผมนั่งทรุดลงที่ปลายเตียงของเอริกะ เอริกะตอนนี้เหมือนกำลังหลับอยู่มีเครื่องช่วยหายใจเพื่อพยุงชีวิตของเธอไว้ เธอมีบาดแผลหลายแห่งคงเกิดจากอุบัติเหตุรถคว่ำ ไม่ต้องมีใครบอกผมก็แน่ใจว่าเอริกะหลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปแล้ว

                พอเริ่มรู้สึกโกรธคนที่ทำให้เอริกะเป็นแบบนี้ผมก็มีแรงยืนแล้วเริ่มโวยวายใส่หมอและพยาบาลที่พยายามห้ามผมไม่ให้เข้าไปรบกวนเอริกะ ซาโตชิมาพอดีทำให้พวกหมอและพยาบาลยอมปล่อยผม

                "นี่มันเกิดอะไรขึ้น ซาโตชิ ทำไม เอริกะถึงเป็นแบบนี้"
                "ใจเย็นๆ ยูกิซัง คือเอริกะขับรถมอเตอร์ไซด์ไปชานเมืองแล้วเกิดโดนพวกแก๊งค์คิดจะแย่งรถมอเตอร์ไซด์ของเธอแต่เอริกะไม่ยอม จึงเกินการไล่ล่ากันขึ้น แล้วเอริกะก็พลาดล้มจนมีคนแจ้งให้ตำรวจเธอถึงได้ถูกส่งมารักษาที่นี่"
                "พวกที่ทำมันเป็นใคร"
                "ตำรวจยังสืบไม่ได้"
                "เดี๋ยวซิ นายเป็นถึงหัวหน้าใหญ่ยากูซ่าในเขตโตเกียว แค่แก๊งค์ที่มาทำร้ายลูกน้องนายหาตัวไม่ได้เลยหรอ"
                "ใจเย็นๆ ยูกิซัง แก๊งค์มอเตอร์ไซด์ในย่านโตเกียวมีหลายสิบแก๊งค์ แต่ละแก๊งค์ก็มียากูซ่าคุ้มครอง ถึงผมจะใหญ่สุดแต่การไปค้นหาตัวคนร้ายโดยไม่มีหลักฐานมันจะทำให้เกิดความแตกแยกได้นะ คุณคงไม่อยากเห็นคนหลายพันต้องไล่ฆ่ากันตามถนนโดยไม่มีสาเหตุนะยูกิซัง"

                จริงของซาโตชิถ้าซาโตชิไปไล่หาโดยไม่มีหลักฐาน พวกแก๊งค์ที่กำลังไม่พอใจแก๊งค์ซาโตชิอยู่ก็จะหาเรื่อง แล้วอาจจะกลายเป็นสงครามแก๊งค์ฆ่าฟันกันโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งถ้าเอริกะพูดได้เธอคงไม่เห็นด้วยเหมือนกัน

                "แล้ว ZII หละ คุณเก็บรักษามันไว้ให้เอริกะแล้วใช่ไหม"
                "เออคือ มันไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ"
                "หมายความว่ายังไงซาโตชิ มันไม่ได้อยู่ แปลว่ามันโดนขโมยไปได้งั้นหรอ"
                "ขอโทษด้วย ผมรู้ว่ามันสำคัญสำหรับเอริกะจัง แต่ผมไม่รู้จะหามันคืนเธอได้ยังไง"
              
                ผมรู้ว่ารถมอเตอร์ไซด์คันนี้สำคัญสำหรับเอริกะมาก ยังไงผมต้องหาทางเอาคืนมาให้เธอให้ได้ ถ้าซาโตชิมีตำแหน่งค้ำคออยู่ คนต่างชาติที่ไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยากูซ่าอย่างผมคงจะไม่มีปัญหา

                "ซาโตชิ คุณช่วยหาของให้ผมซักสองสามอย่างได้ไหมครับ"
                "ได้ซิยูกิซังแต่คุณจะเอาอะไร แล้วเอาไปทำไม"
                "ผมจะใช้มันตามหา ZII คือให้เอริกะจัง บางทีถ้าเธอได้สัมผัสกับมันอีกครั้งเธออาจจะฟื้นก็ได้"
                "แต่ยูกิซัง ครั้งนี้มันไม่ใช่กระสุนยางเหมือนคราวโชโกะแล้วนะ ถ้าคุณพลาดหมายถึงคุณจะไม่ได้เห็นหน้าเอริกะจัง หรือกลับไปหาแฟนคุณที่ประเทศไทยแล้วนะ"
                ผมหยุดคิดแต่ถึงยังไงก็ไม่มีใครห้ามผมได้แล้ว ผมเองก็เตรียมใจไว้แล้วตั้งแต่บอกลากับทุกๆ คนที่ผมรักก่อนจะมาที่นี่
                "ผมตัดสินใจแล้ว คุณช่วยหามอเตอร์ไซดค์ให้ผมซักคันกับล่ามให้ผมซักคน"
                "คุณแน่ใจนะ ครั้งนี้ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้นะ เพราะถ้าผมเข้าไปยุ่งจะมีชีวิตคนอีกหลายร้อยต้องบาดเจ็บล้มตายเพราะเรื่องนี้"
                "ผมแน่ใจ คุณหาของให้ผมตอนนี้เลยได้ไหมครับซาโตชิ"
                "ใจเย็นๆ ยูกิซัง นี่ผมต้องบอกให้คุณใจเย็นเป็นครั้งที่สามแล้วนะ คุณกลายเป็นคนใจร้อนไปตั้งแต่เมื่อไหร่"
                "ก็อยากรีบเอา ZII มาคืนให้เอริกะ เธอจะได้ฟื้น"
                "ผมเข้าใจแต่ผมขอเป็นพรุ่งนี้เช้าได้ไหม คืนนี้ผมอยากให้คุณพักผ่อนก่อน อืมคืนนี้ผมจะส่งคนไปหาคุณคนนึง เผื่อคุณจะใจเย็นลงบ้าง"
                "ผมไม่มีอารมณ์นะ เอริกะยังเป็นอยู่แบบนี้ผมคงไม่อยากมีอะไรกับใคร"
                "แต่เธออยากพบคุณนะยูกิซัง คุณแน่ใจหรอว่าอยากทำให้เธอผิดหวัง"
                "ใครหรอซาโตชิ"
                "ฮานะจังไงครับ และบางทีเธออาจจะช่วยคุณได้นะ ฮานะจังรู้จักโตเกียวดีนะ เธอรู้จักคนไปทั่ว บางทีเธออาจจะช่วยเรื่องข้อมูลแก๊งค์ซิ่งได้"
                "ก็ได้ครับ งั้นผมจะขออยู่ในห้องนี้อีกซักพักก่อนที่จะกลับไปโรงแรม"
                "ตามสบายครับผมจะให้คนของผมรออยู่นอกห้องนะครับ แล้วพรุ่งนี้เจอกันครับยูกิซัง"
                "ครับซาโตชิ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน"

                พอซาโตขิออกไปผมก็ลากเก้าอี้มานั่งที่ด้านข้างเตียงของเอริกะ ผมจับมือเธอขึ้นมากุ้มไว้ มันยังอุ่นอยู่เลย เธอยังไม่ได้จากผมไปไหน แต่ทำไมเธอถึงไม่ยอมตื่นขึ้นมาคุยกับผมหละ ผมอยากได้ยินว่าเธอคิดถึงผมมากแค่ไหน แล้วผมก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ก้มลงซุกหน้าที่มือของเอริกะ แล้วน้ำใสๆ มันก็ไหลออกจากสองตาผม

                "คุณต้องฟื้นนะเอริกะ ผมจะเอาของสำคัญมาคืนให้คุณให้ได้"

                ผมนั่งอยู่ในโรงบาลหลายชั่วโมงจนเกือบมืดผมถึงได้ออกมาให้คนขับรถพาไปยังโรงแรม ที่ผมยอมเจอฮานะจังไม่ใช่เพราะอยากจะมีอะไรกับเธออีกแต่เพราะผมรู้ว่าเธอคงคิดถึงผม และผมคงได้แค่คุยกับเธอเท่านั้น คงไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

                พอเข้าไปในห้องในโรงแรมผมก็นอนแผ่บนเตียงเอาแต่คิดถึงใบหน้าของเอริกะที่ดูเหมือนหลับสนิท ผมเอาแต่กลัวว่าถ้าผมเอา ZII คืนมาให้เธอได้แล้ว แต่เอริกะก็ยังไม่ฟื้นผมจะทำยังไงดี

                ประมาณทุ่มกว่าผมก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ผมค่อยๆ ลุกขึ้นไปเปิด นี่ถ้าเอริกะจังไม่เป็นแบบนี้ ผมคงดีใจมากๆ ที่ได้เจอฮานะจังอีก

                "สวัสดีค่ะ" ฮานะจังทักผมด้วยภาษาอังกฤษถึงจะไม่ชัดนักแต่ผมก็ฟังออก
                "สวัสดีครับ ฮานะจัง คุณพูดอังกฤษได้ด้วยหรือ"
                "ก็เพิ่งหัดได้ไม่นานค่ะ ก็อยากเอาไว้คุยกับยูกิจัง จะได้คุยกันเข้าใจ"
              
                ฮานะจังแต่งตัวตามสไตร์สาวญี่ปุ่นใส่กระโปรงสั้นถุงเท้ายาว ดูน่ารักนากอดมาก แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ที่จะทำแบบนั้น ผมเลยถามเรื่องแก๊งค์ซิ่งซึ่งซาโตชิบอกว่าเธออาจจะช่วยผมได้เรื่องข้อมูลพวกนี้

                "ได้ค่ะ แต่ฮานะจังหิวแล้ว ยูกิจังกินข้าวเป็นเพื่อนฮานะจังได้หรือเปล่าค่ะ"
                "ได้ซิ ฮานะจังจะทานที่ร้านในโรงแรมไหม จะได้ไม่ต้องไปไหนไกล"
                "ไปข้างนอกกันดีกว่า มาญี่ปุ่นทั้งทีจะไม่ออกไปดูโตเกียวตอนกลางคืนบ้างหรือค่ะ"
                "ผมไม่อยากไปนะ ขอโทษที"
                "อ้าวทำไมหละค่ะ แต่ที่ฮานะจังจะพายูกิจังไปดู รวมถึงแหล่งที่พวกแก๊งค์อยู่กันด้วยนะค่ะ"
                "งั้นหรอ อืมงั้นไปก็ได้"

                ฮานะจังพาขับรถสกูตเตอร์สีชมพูพาผมไปเที่ยวย่านรบปงงิซึ่งมีแต่ร้านเหล้า แต่ก็ดีผมกำลังอยากจะเมาเหมือนกัน ที่เอริกะเป็นแบบนี้ส่วนนึงคงเป็นเพราะผมแน่นๆ เท่าที่ฟังดูเหมือนเอริกะกำลังจะไปบ่อน้ำพุร้อนที่เคยไปกับผมแต่ดันไปเจอพวกแก๊งค์เข้าซะก่อน

                "คัมปาย ยูกิจัง"
              
                ผมชนแก้วกับฮานะจังแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้ามีความสุขอะไร แต่ฮานะจังหนะซิ ถึงผมจะเอาแต่ทำหน้าเศร้าเธอกลับไม่บ่นหรือต่อว่าผมซักคำ มีแต่พยายามจะทำให้ผมยิ้มให้ได้ พอกินสาเกเข้าไปสามขวดผมก็เริ่มมึนนิดๆ และพอจะลืมเรื่องเอริกะได้บ้าง นั่นทำให้ผมเริ่มสงสารสาวน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม เธอช่างใจดีเอาใจผมทุกอย่าง นั้นไม่ใช่เพราะเงินอีกแล้ว ครั้งนี้เธออยากเจอผมเอง ซาโตชิไม่ได้เสียเงินจ่ายเธอซักเยน

                แล้วผมก็ใจอ่อนเริ่มยิ้มให้กับฮานะจัง ฮานะจังดูดีใจมากที่ผมเริ่มคุยเล่นกันเธอบ้างไม่ได้เอาแต่ทำหน้าหงิกอย่างเดียว ผมกินสาเกไปหลายขวดจนเริ่มเมา มีหนุ่มผมยาวแต่งตัวเซ่อๆ คนนึงเดินเข้ามาคุยกับฮานะจังเหมือนกับว่าจะรู้จักกัน ผมฟังที่ทั้งคู่คุยกันไม่ออก แล้วซักพักก็มีหนุ่มอีกคนนึงท่าทางเหมือนพวกโอตากุ (หน้าตาเป็นไงลองหาดูใน google เองนะครับ)

                ผมรู้สึกสงสัยเลยถามฮานะจังว่ามีเรื่องอะไรกัน ฮานะจังบอกว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนของเธอ ชื่อ โชริว (หนุ่มเซ่อ) กับ มุระตะ (หนุ่มแว่นโอตากุ) พาสาวมาเลี้ยงแบบนัดบอร์ด แต่ว่าโชริวทำกระเป๋าตังหาย ส่วนมุระตะก็มีเงินไม่พอจ่ายค่าอาหาร และพวกเขาไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าสาวๆ ที่พามา

                ผมเลยบอกฮานะจังว่าให้รวมบิลกับโต๊ะผม เวลาออกจากร้านก็ให้สาวๆ ออกไปก่อนแล้วค่อยตามออกไป สาวๆ จะได้ไม่รู้ว่าไม่ได้จ่ายเงินเลี้ยง สองหนุ่มขอบคุณผมพร้อมกับบอกว่าอยากจะตอบแทน แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะให้สองคนนี้ตอบแทนผมยังไงผมเลยบอกว่าให้ติดค้างกันไว้ก่อน

                ไม่ใช่เพราะว่าผมรวยแล้วเลยทำเป็นอวดเที่ยวออกเงินให้คนอื่น แต่ที่ผมให้ก็เพราะเข้าใจว่าวัฒนธรรมการนัดเดทแบบนี้มันก็เหมือนผู้ชายพาสาวมาเลี้ยงเพื่อที่ถ้าถูกใจกันจะได้สานต่อกันได้ แต่ถ้าเริ่มมาถึงก็ไม่มีเงินจ่ายก็ขายหน้าแย่ แล้วแบบนี้สาวไหนจะเอา

                โชริวกับมุระตะให้สาวๆ ออกไปรอนอกร้านตามที่ผมบอกทั้งสองคนหันมาโค้งให้ผมก่อนจะตามสาวๆ ออกไป ผมยักหน้ารับ ตอนนี้ผมเริ่มเมาได้ที่แล้ว เริ่มรู้สึกว่าอาหารอร่อย เหล้าก็อร่อย ถึงจะยังไม่ลืมเรื่องเอริกะแต่ก็เชื่อมั่นว่าเธอจะต้องลืมตาขึ้นมาแน่ๆ ถ้าได้สัมผัสกับพวงกุญแจของเจ้า ZII ที่เธอห่วงแหน

                ผมกินสาเกจนเมา ขากลับผมกอดเอวฮานะจังพร้อมกับเอาหน้าซบลงที่ไหล่เธอเพราะผมเริ่มจะลืมตาไม่ขึ้น ผมไม่รู้ว่าผมกลับมาถึงห้องได้ยังไงแต่มารู้ตัวอีกที่ก็นอนอยู่บนเตียงแล้ว พร้อมกับความรู้สึกเสียวๆ ที่ปลายเอ็น ผมหรี่ตาดู เห็นฮานะจังกำลังก้มหน้าผงกหัวใช้ปากรูดเอ็นให้ผมอยู่

                ผมบอกให้ฮานะจังหยุดเพราะผมไม่มีอารมณ์จะทำให้เธอ แต่ฮานะจังก็ยังยืนยันที่จะใช้ปากทำรักให้ผม ถึงผมจะไม่อยากจะรื้อฟื้นความหลังกับเธอก็ตาม ผมมองดูฮานะจังก็รู้สึกสงสาร ขนาดผมไม่คิดจะช่วยเธอตอบ แต่ฮานะจังก็ยังยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ถ้าเป็นสาวอื่นคงงอนผมแล้วไม่ยอมใช้ปากทำรักให้ผมต่อแน่ๆ

                แล้วผมก็ใจอ่อน ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วลูบหัวฮานะจัง เธอมองเงยหน้ามองผม ตาเธอหวานเยิ้มเป็นประกาย จากนั้นฮานะจังก็เร่งใช้ปากรูดเอ็นผมเร็วขึ้น ผมเสียวจนแทบจะสร่างเมาเลยทีเดียว ผมต้องรีบจับหน้าฮานะจังไว้แล้วดึงให้เธอเงยขึ้นจนท่อนเอ็นผมหลุดจากปากเธอ ผมลุกขึ้นนั่งแล้วจับฮานะจังนั่งทับตักผม

                ผมจับแก้มฮานะจังไว้แล้วประกบปากจูบเธอ ฮานะจังหลับตาพริ้มลิ้นเล็กๆ ของเธอพัวพันกับลิ้นผม ฮานะจังเลื่อนมือที่จับแขนผมลงมาที่ท่อนเอ็นผมแล้วรูดขึ้นลงช้าๆ มือนิ่มๆ ของฮานะจังที่สัมผัสท่อนเอ็นที่กำลังแข็งเต็มที่ทำให้ผมเสียวสยิวจนต้องเอื่อมมือไปขย้ำก้นน้อยๆ ของฮานะจังไปด้วย

                ฮานะจังครางอืม อืม ในลำคอ แก้มสองข้างเธอเริ่มแดง ฮานะจังเริ่มขยับก้นขึ้นลงช้าๆ ผมเลยดันก้นฮานะจังให้ร่องสาวเธอแนบกับลำท่อนเอ็นผม จากนั้นผมก็ขยับเอวให้ส่วนลำท่อนเอ็นของผมครูดไปตามร่องและกลีบสาวของฮานะจัง ฮานะจังรีบปล่อยมือจากท่อนเอ็นผมแล้วจิกเข้าที่ท่อนแขนผมแทน

                ผมขย้ำก้นฮานะจังแรงขึ้นแล้วดึงเอวเธอเข้าหาท่อนเอ็นผมจนชิด ฮานะจังผละปากจากผมแล้วคราง อึ้ยยยย อี้อออออ อย่างน่ารักน่าแกล้ง ฮานะจังขยับร่องสาวรูดลำท่อนเอ็นผมไม่นานผมก็รู้สึกถึงน้ำเหนียวๆ ที่ไหลออกมาชโลมลำแท่งของผม ผมจับเอวฮานะจังยกขึ้น ฮานะจังรีบจับท่อนเอ็นผมจ่อที่ร่องสาวเธอจากนั้นผมก็กดเอวฮานะจังลง

                ฮานะจังร้อง อ้ายยยยย ลั่นตอนที่ผมกดเอวเธอลงมาจนร่องสาวครอบลำท่อนผมจนถึงโคน ฮานะจังโน้มตัวเข้ามากอดผมจากนั้นก็เริ่มโยกเอวเพื่อให้ร่องสาวรูดท่อนเอ็นผม เธอกระดกก้นไปร้องครางไปโดยผมไม่ต้องทำอะไรเลย ผมต้องปล่อยมือจากก้นฮานะจังเพราะเธอกำลังกระดกก้นไม่หยุด

                ผมเลยต้องหาอะไรให้มือผมขย้ำเล่นแทนก้นฮานะจัง ผมเลื่อนมือขึ้นมาขย้ำสองเต้าน้อยๆ ของฮานะจังแทน ผมขย้ำบ้างบี้ปลายถันบ้างสลับกันทำเอาฮานะจังเร่งกระดกก้นพร้อมกับร้องครางไม่หยุด ร่องสาวฮานะจังเริ่มบีบรัดแรงขึ้นเหมือนเธอใกล้จะเสร็จแล้ว แต่ผมที่รู้สึกเสียวแต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะใกล้เสร็จเลย คงเพราะหัวบานมันชาจากฤทธิ์สาเกที่กินไปหลายขวด

                แล้วฮานะจังก็เกร็งตัวร้อง อ้า อ้า ร่องสาวเธอบีบรัดแน่น ฮานะจังกระดกก้นให้ปลายหัวบานผมกระแทกผนังมดลูกเธอสองสามทีก่อนจะหยุดให้ร่องสาวตอดท่อนเอ็นผมแรงๆ อีกหลายครั้งกว่าจะยอมสงบ ฮานะจังเสร็จแต่ผมก็ยังไปไม่ถึงไหนเลย ผมเลยจับเอวเธอยกขึ้นแล้วกดกระแทกท่อนเอ็นผมลงมา

                ตัวฮานะจังเล็กมาก และเบาด้วยทำให้ผมจับตัวเธอกระแทกเอ็นผมได้เต็มแรง ฮานะจังแหง่นหน้าร้องครางเหมือนเสียวแทบจะขาดใจ เธอร้องอะไรอีกไม่รู้เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่คงไม่ใช้บอกให้ผมหยุด เพราะตอนนี้เธอเริ่มยกเอวขึ้นเองแล้ว ฮานะจังเริ่มเอนตัวไปด้านหลัง โดยจับขอมือผมไว้ ผมชันเข่าขึ้นรับแผ่นหลังฮานะจังไม่ให้เธอล้มไปด้านหลังพร้อมทั้งเปลี่ยนเป็นคนจับข้อมือของเธอแทน

                ผมกับฮานะจังต่างคนต่างเอนตัวไปด้านหลังจนเป็นรูปตัววี เราทั้งคู่เด้งเอวขึ้นสวนกัน เนื่องจากฮานะจังเอนตัวไปด้านหลังทำให้ท่อนเอ็นผมเอียงจากแนวตั้งไปเกินสี่สิบห้าองศาจนผมเสียวกลัวมันจะหัก แต่ฮานะจังก็โยกเอวเอาร่องสาวรับท่อนเอ็นที่แทงเข้าออกของผมอย่างชำนาญ

                ผมกับฮานะจังเร่งจังหวะกระแทกเอวกันจน ฮานะจังร้องอึ้ยยยยยยยเสร็จไปอีกครั้ง คราวนี้ผมดึงตัวฮานะจังกลับมาหาแล้วกอดไว้ จากนั้นผมก็ลุกขึ้นโดยที่ยังฮานะจังยังกอดผมอยู่ ผมลงมายืนข้างเตียงแล้วเลื่อนมือลงมาจับที่สะโพกเธอไว้ ก่อนจะโยนตัวเธอขึ้นแล้วปล่อยให้น้ำหนักตัวฮานะจังทิ้งลงมากระแทกกับท่อนเอ็นผม

                ฮานะจังร้องลั่นเพราะความยาวของอาวุธผมมันยาวเกินกว่าช่องทางของเธอมาก ทำแบบนี้หัวบานผมก็กระแทกผนังมดลูกเธอเต็มๆ แต่เหมือนกับว่ายิ่งฮานะจังร้อง ผมก็ยิ่งมันส์ ผมโยนตัวฮานะจังขึ้นแล้วแอ่นเอวกระแทกสวน ฮานะจังร้องเหมือนเด็กน้อยที่กำลังโดนรังแก

                ผมเล่นท่าลิงอุ้มแตงกับฮานะจังจนเริ่มเมื่อย ผมก็มองหาที่วางก้นเธอ แล้วผมก็พบ ผมเดินอุ้มฮานะจังไปที่โต๊ะวางของในห้อง จากนั้นผมก็จับเธอชันขาขึ้นบนโต๊ะแล้วแยกขาเธอออก แล้วผมก็เริ่มโหย่งเอวไปด้านหลังแล้วกระแทกท่อนเอ็นกลับเข้าไปในร่องสาวฮานะจังจนมิดด้าม

                ฮานะจังแหง่นหน้าร้องครางสะบัดหัวไปมาในขณะที่ผมกระแทกเอวถี่ยิบใส่ร่องสาวเธอ เสียงโต๊ะดังเอียดอ๊าดประสานกับเสียงหน้าขาผมกระแทกหน้าขาฮานะจัง น้ำรักฮานะจังแตกกระเซ็นจากการทะลวงของอาวุธผม ยิ่งฮานะจังร้องดังขึ้นเท่าไหร่ผมก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้นเร็วขึ้นเท่านั้น จนฮานะจังร้องอึ้ยยยยยยยย เธอจิกเล็บลงบนแขนผม ร่องสาวบีบรัดอย่างแรงจนแน่น

                แต่นั้นไม่ทำให้ผมหยุดความมันส์ในการใช้อาวุธส่วนตัวแทรกเข้าไปในร่องสาวเธอได้ ยิ่งมันแน่นขึ้นผมก็ยิ่งเสียมากขึ้น ผมจับขาฮานะจังถ่างออกอีกพร้อมกับเร่งกระแทกหนักขึ้น ฮานะจังร้องเหมือนกำลังเจ็บ เธอถ่างขาออกจนสุดและยกปลายเท้าชี้ฟ้า ผมรีบเอาท่อนแขนประคองขาฮานะจังไว้แล้วดันขึ้นอีก

                ผมดันขาฮานะจังจนร่องสาวเธอเลื่อนขึ้นมาจนได้ระดับกับท่อนเอ็นผม จนผมเริ่มกระแทกเอวได้ถนัดกว่าเดิม คราวนี้ผมก็เร่งกระแทกเพื่อที่จะได้ปลดปล่อยน้ำกามจากในลูกอันฑะใส่ร่องสาวฮานะจัง แต่ดูเหมือนแฮลกอฮอลล์ที่ผมกินเข้าไปจะให้ร่างกายผมมันตอบสนองการปล่อยน้ำช้าลง

                ไม่ว่าผมจะพยายามเร่งกระแทกเอวเท่าไหร่ ผมก็ไม่รู้สึกว่าลูกอันฑะผมมันเริ่มกลั่นน้ำกามซะที จนฮานะจังถึงอีกครั้งเธอแอ่นตัวกระตุกเนื่องจากผมไม่ปล่อยให้เธอพักเลยหลังจากเสร็จผมครั้งก่อนหน้านี้ แล้วผมก็ยังคงไม่ปล่อยให้เธอพักอีก ฮานะจังต้องทนเสียวกับท่อนเอ็นที่เข้าออกกระแทกร่องสาวเธอในขณะที่เธอกำลังเสร็จสมไปด้วย

                ฮานะจังตาเยิ้มหน้าแดงกล่ำ เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้าและลำตัว เธอค่อยๆ นอนลงบนโต๊ะ มือสองข้างจับขอบโต๊ะไว้แน่นกันแรงกระแทกจากผม ผมกระแทกต่อไม่หยุดตอนนี้ขาผมชาหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่ามันเหนื่อยหรือเมื่อย รู้แค่ทำไงก็ได้ขอให้น้ำแตกก่อนที่ผมจะหยุดกรแทก เพราะถ้าหยุดผมรู้ตัวว่าจะไม่มีแรงต่อไปอีกเป็นสิบนาทีแน่ๆ

                แล้วฮานะจังก็ร้อง อึ้ยยย อึ้ยยย พร้อมกับกัดฟัดแน่น อาการบีบรัดด้านในร่องสาวเธอบอกผมว่าเธอเสร็จอีกครั้ง ผมรีบใช้โอกาสที่ร่องสาวฮานะจังหดตัวเร่งกระแทกเพื่อเพิ่มความเสียวให้ตัวเองจนฮานะจังถึงกับกัดฟัดสะบัดหน้าไปมา มันได้ผลผมเริ่มรู้สึกว่าไข่สองข้างผมมันเริ่มทำงานแล้ว มันส่งน้ำกามอัดมาเรื่อยๆ จนใกล้เต็มลำกล่อง ผมต้องรีบทำเวลาก่

myfino262903

ผมตามมานานมากเลยครับ ตามอ่านก้อยเกื่อบทุกตอนเท่าที่หาได้ยอมรับติดหนึบเลยที่ครับ