ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เทพมารสะท้านทรวง ตอนที่ 1 - อี่เทียนฟง

เริ่มโดย assasin008, มีนาคม 12, 2015, 11:04:32 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

คุยเรื่อยเปื่อย

เรื่องแนวกำลังภายในจีนแบบสยิวกิ้วเรื่องนี้ผมเขียนไว้นานมากแล้วและไม่ได้เขียนต่อ
จึงขอบอกกล่าวกันก่อนว่าผมไม่รับประกันความค้างคา เพราะงานนี้อยู่ในสถานะดอง

อ่านแล้วมีความเห็นอย่างไรก็แนะนำกันบ้างนะครับ งานเขียนแนวกำลังภายในเรื่องแรก อาจจะ
อ่านแล้วขัดหูอะไรบ้าง ก็คงต้องขอความเห็นของผู้อ่านมาช่วยปรับปรุงครับ :)


เทพมารสะท้านทรวง ตอนที่ 1 - อี่เทียนฟง
.....................................................................................
Assasin008

เกล็ดหิมะร่วงหล่นโปรยปรายจากผืนฟ้ายามราตรีลงมาทับถมปิดผืนดินจนเห็นเพียงสีขาวโพลน
สะท้อนกับแสงของโคมไฟลมคลั่งตายดวงเล็ก ดรุณีน้อยใบหน้าจิ้มลิ้มสดใสในอาภรณ์เริดหรูสี

ชมพูพริ้งพริ้วกายกระโดดข้ามกำแพงสูงด้วยวิชาตัวเบาฝ่าพายุหิมะเข้ามาอย่างเงียบงัน ก่อนหยุด
พักยืนหอบพ่นลมหายใจเป็นละอองสีขาวที่หน้าประตูห้องเก็บฟืนอันสกปรกมืดมิดด้วยท่าทีลังเล
เด็กสาวหันมองซ้ายมองขวาก่อนยกฝ่ามือที่ขาวผ่องไม่แพ้เกล็ดหิมะขึ้นมาเคาะประตูห้องเก็บฟืน
สามครั้ง

เด็กสาวแสนสวยวับสิบห้าสิบหกใช้ปลายนิ้วจัดแจงเส้นผมที่ดำขลับดุจแพรไหมให้เข้าที่เข้าทาง
ขณะยืนรอคอยซึ่งเพียงมินานนักเสียงแอ๊ดก็ดังขึ้นพร้อมกับบานประตูเก่าผุใกล้หักสลายที่เปิดอ้า
ออก

"อี่เกอเกอ (พี่ชายแซ่อี่) ท่านหลับนอนแล้วหรือไม่ เมื่อกลางวันท่านโดนประมุขลงโทษมิให้รับ
ประทานอาหารสองวัน เม่ยเม่ย (น้องสาว) จึงแอบนำหม่านโถวมาให้ท่านรับประทาน"

"ข้าพเจ้าหิวโหยแทบแย่แล้ว นางปีศาจเฒ่าผู้นั้นโหดร้ายยิ่ง ข้าพเจ้าเพียงแอบดูศิษย์พี่ฝึกวิชา
ครู่เดียวก็โดนลงโทษให้ผู้อื่นอดข้าวอดน้ำนานเช่นนี้ ท่านรีบเข้ามาเถิด เฮ่าเม่ยเม่ย (น้องสาวอัน
แสนประเสริฐ)"

เด็กชายวัยใกล้เคียงกันปรากฎกายขึ้นในสภาพใบหน้ามอมแมมเปรอะเปื้อน หากใบหน้าและแววตา
กลับอุดมไปด้วยความหล่อเหลา องอาจ และฉลาดหลักแหลมยิ่ง เด็กสาวแสนสวยแต่งกายเริดหรู
ก้มหน้าเอียงอายด้วยใบหน้าอันแดงซ่านต่อคำชมเชย จากนั้นก็เดินตามเด็กชายเข้าไปในห้องเก็บ
ฟืนที่สกปรกมืดทึบ และแล้วเสียงแอ๊ดก็ดังขึ้นอีกคราเมื่อบานประตูผุพังโดนปิดลง

เด็กสาวทรุดตัวลงนั่งบนกองฟืนที่ดูจะสกปรกน้อยที่สุด ก่อนส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข
ขณะมองดูเด็กชายคว้าหม่านโถวยัดเข้าปากด้วยกิริยาอันมูมมามหิวโหย แม้จะยังมิเติบใหญ่เป็นสาว
เต็มวัย กระนั้นใบหน้าและทรวดทรงองค์เอวของเด็กสาวที่สะท้อนกับแสงไฟนั้นก็กล่าวได้ว่างดงาม
ทรงเสน่ห์มิแพ้สตรีเต็มวัยสักเท่าใดนัก

"เกอเกอ ท่านมิกลัวติดคอหรือไร รับประทานน้ำชาก่อนดีหรือไม่"

เด็กสาวแต่งกายสูงศักดิ์ยกกาน้ำแล้วรินน้ำชาให้กับเด็กชายท่าทางมอมแมมราวกับว่าเป็นสาวใช้
ส่วนเด็กชายนั้นก็รับถ้วยชาที่มีควันหอมฉุยขึ้นมาดื่มกินอึกอักด้วยท่าทางราวกับว่าเป็นเจ้านายของ
เด็กสาวก็มิปาน

"หม่านโถวฝีมือเม่ยเม่ยเอร็ดอร่อยยิ่ง ข้าพเจ้ารับประทานเท่าไหร่ก็มิเคยอิ่มหนำ"

เด็กชายพูดจายกยอพลางใช้ปากอ้างับเศษหม่านโถวที่ติดอยู่ตามง่ามนิ้วมือด้วยท่าทีมูมมาม หาก
เด็กสาวก็ยิ้มเขินบิดตัวไปมาจนแก้มแทบปริ

"เกอเกอ ท่านเป็นผีตายอดตายอยากหรือไร รับประทานหม่านโถวไปตั้งสี่ลูกแล้วยังมิรู้จักอิ่มหนำ"

"กล่าวได้ถูกต้องแล้ว ข้าพเจ้าเป็นผีตายอดตายอยากที่หิวโหยยิ่ง หิวโหยเสียจนมองเห็นเม่ยเม่ย
เป็นหม่านโถวลูกใหญ่ที่น่ารับประทานเข้าเสียแล้ว"

เด็กชายเมื่อก้มหน้าก้มตาดื่มกินจนอิ่มหนำแล้ว จึงค่อยเงยหน้าขึ้นมามองสนทนากับเด็กสาวแสนสวย
หากแววตาที่จ้องมองมานั้นก็ทำเอาเด็กสาวบังเกิดความเอียงอายร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง เพราะสายตา
ของเด็กชายนั้นกำลังจับจ้องมองใบหน้าสลับกับทรวงอกอวบของตนไปมาอย่างมีความหมาย

"ท่านนอกจากจะเป็นผีตายอดตายอยากแล้ว ก็ยังเป็นผีราคะอีกหรือไร ไฉนจึงจ้องมองผู้อื่นด้วยสายตา
อุกอาจเช่นนี้กัน"

"เม่ยเม่ย กล่าวปรักปรำเกอเกออีกแล้ว ข้าพเจ้าเพียงแค่จ้องมองหม่านโถวขาวอวบน่ากินสองลูกเท่านั้น
เอง ไฉนจึงกล่าวหาว่าข้าพเจ้าเป็นผีราคะกันเล่า"

เด็กชายกล่าวด้วยน้ำเสียงขบขัน หากสายตานั้นกลับจับจ้องมองทรวงอกที่อวบใหญ่เกินวัยของเด็กสาว
ด้วยดวงตาอันวิบวับต่อไป

"ท่าน ท่าน ... ฮึ ข้าพเจ้า ... ข้าพเจ้าจะไม่พูดคุยกับผีราคะเช่นท่านแล้ว"

เด็กสาวสะบัดหน้าหลบอย่างแง่งอน หากยังคงนั่งแอ่นอกนิ่งอยู่ในท่วงท่าเดิม มิได้คิดหลบหลีกหรือจัด
หาสิ่งของใดมาบดบังทรวงอกมิให้โดนเด็กชายจ้องมองแม้แต่น้อย

"เม่ยเม่ย แสนสวยของข้าพเจ้า อย่าได้แง่งอนแล้ว ข้าพเจ้ามิอาจไม่จ้องมองท่าน เพราะท่านนั้นทั้งสวย
งามทั้งยังมีจิตใจดีงามราวกับนางฟ้า ข้าพเจ้าจึงหลงไหลไม่อาจไถ่ถอนสายตาจากเรือนร่างของท่านได้"

เด็กชายพูดจาหวานซึ้งจนเด็กสาวแสนสวยวางมือวางไม้ไม่ถูกได้แต่บิดตัวไปมาพร้อมกับขยี้เท้ากับท่อน
ไม้ฟืนบนพื้นอย่างขวยเขิน โดนหยอกล้อเพียงนี้ลมหายใจของเด็กสาวก็ยิ่งมายิ่งหนักหน่วงจนทรวงอก
อวบสั่นกระเพื่อมหนักกว่าเดิม และมิต้องบอกก็รู้ได้ว่าเด็กสาวผู้นี้กำลังอยู่ในห้วงอารมณ์เช่นไร

"เกอเกอ ท่านคิดเพียงแต่จะจ้องมองผู้อื่นหรือไร ... ข้าพเจ้า ... ข้าพเจ้า ... ทำตัวมิถูกแล้ว ..."

"เม่ยเม่ย ท่านมิให้ข้าพเจ้าจ้องมอง แล้วจักให้ข้าพเจ้าทำเช่นไรเล่า"

"เกอเกอ ท่านอย่าได้กลั่นแกล้งข้าพเจ้าแล้ว ... ท่านอยากทำสิ่งใดกับผู้อื่นก็จงเร่งรีบกระทำเข้าเถิด"

"เช่นนั้น ข้าพเจ้าขอรับประทานหม่านโถวของเม่ยเม่ยได้หรือไม่"

"ท่านอยากรับประทานเท่าไร ก็จงรีบรับประทานเถิด ข้าพเจ้ายินยอมมอบให้หมดทุกสิ่งแล้ว ... เพียงแต่
ผู้อื่นขอดับไฟก่อนได้หรือไม่"

"มิดับไฟได้หรือไม่ ... ข้าพเจ้าต้องการจ้องมองชื่นชมหม่านโถวอันแสนงดงามของท่าน"

"ท่านกลั่นแกล้งผู้อื่นอีกแล้ว ... ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ..."

เด็กสาวกล่าวอย่างลังเลแง่งอน หากกระนั้นสุดท้ายแล้วก็ปรากฎเสียงดังสวบสาบของเสื้อผ้าอาภรณ์
ราคาแพงที่ร่วงหล่นลงไปบนกองฟืน และเมื่อผ้าชั้นในชิ้นสุดท้ายหลุดผลอยร่วงหล่นลงไป เด็กชาย
ก็ถึงกับหอยหายใจแรง เหม่อมองเรือนร่างเปลือยเปล่าอันแสนงดงามของเด็กสาวด้วยใบหน้าอันร้อน
ผ่าววูบวาบ
 
แก่นกายกลางลำตัวเป่งพองกระดกหงึกราวกับท่อนไม้ฟืนอันแข็งแกร่งแท่งหนึ่ง ดวงตาของเด็กหนุ่ม
คล้ายจะโดนสัดส่วนโค้งเว้าอันแสนงดงามของเด็กสาวอ่อนวัยดึงดูดไปเสียจนหมดสิ้น เรือนร่างของ
หล่อนขาวผ่องดุจเกร็ดหิมะ หากปทุมถันและเครื่องเคราอันสวยสดงดงามนั้นก็กอปรไปด้วยแรงกระตุ้น
อันร้อนแรงดุจเตาพระเพลิงที่ลุกโชจน์ช่วงชัชวาลย์ก็มิปาน

"เกอเกอ ท่านจ้องมองผู้อื่นเพียงพอแล้วหรือไม่ ผู้อื่นขัดเขินยิ่งแล้ว"

"หม่านโถวของเม่ยเม่ยสวยงามยิ่ง ข้าพเจ้ายิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหิวกระหายแทบขาดใจ"

"เช่นนั้นท่านก็จงเร่งรับประทานเสียเถิด ข้าพเจ้าแทบมิอาจทานทนไหวแล้ว"

เด็กสาวกล่าวพลางหนีบสองขาเข้าหากันแน่น การเปลือยกายล่อนจ้อนต่อหน้าเด็กชายเช่นนี้ทำเอา
ร่างกายของเด็กสาวยิ่งร้อนวูบปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิมจนตรงกลางหว่างขาเปียกชื้นชุ่มฉ่ำคันยุบยิบแทบ
อดรนทนไม่ไหว

"เม่ยเม่ย ท่านช่วยป้อนหมั่นโถวให้ข้าพเจ้าได้หรือไม่ ข้าพเจ้าอยากรับประทานท่านยิ่ง"

สิ้นคำขอของเด็กชาย เด็กสาวก็เดินเข้าหาเด็กชายราวกับโดนมนต์สะกด เสียงครางอาดังแผ่ว เมื่อร่าง
ขาวเปลือยขอเด็กสาวสวมกอดกับร่างแข็งแกร่งกำยำของชายหนุ่ม เด็กสาวโอบกอดสองแขนรัดรั้งรอบ
ศรีษะของเด็กชายพร้อมกับแอ่นอกอวบเสนอบดเบียดเข้าหาใบหน้าของเด็กชาย

เด็กชายโอบกอดลูบไล้แผ่นหลังเรียบเนียนของเด็กสาวด้วยสองมืออันหยาบกระด้าง พร้อมกันนั้นก็ก้ม
หน้าก้มตาซุกไซร้ดูดกินความหอมหวานของปทุมถันเต่งแน่นของเด็กสาวอย่างหิวโหย เนื้อนิ่มโดนบด
จูบดูดทึ้งจนเด็กสาวแสนสวยแอ่นตัวผวาร้องครางสะท้านระริกลั่นห้องเก็บฟืน

เด็กชายบีบขยี้ปทุมถันด้วยลีลาปลายนิ้วอันพริ้วไหว ทุกสัมผัสคล้ายลูบไล้เปะปะ หากในความเปะปะ
เหล่านั้นกลับซุกซ่อนฝีไม้ลายมืออันน่าตื่นตระหนก ทุกสัมผัสของปลายดรรชนีกดกระตุ้นจุดสำคัญ
ปลุกเร้าอารมณ์จนเด็กสาวสติแตกกระเจิดกระเจิง ยิ่งเมื่อเด็กชายขยับเขยื้อนเคลื่อนฝ่ามือหยาบลง
ไปลูบไล้ขาอ่อนและบีบคลึงกลีบกุหลาบบาง เด็กสาวก็ถึงกับตัวกระตุกเฮือกส่งเสียงร้องซี้ดซ้าดออก
มาลั่นห้อง

ยิ่งโดนบีบสัมผัส เด็กสาวก็ยิ่งร้อนรุ่ม อ่อนระทวย เปียกชื้นชุ่มฉ่ำ และเมื่อดรรชนีของเด็กชายสอดแทรก
เข้าไปในร่าง เด็กสาวก็สะดุ้งผวาโอบกอดร่ำร้องครวญครางราวกับจะสิ้นลมหายใจ ยิ่งเด็กชายขยับฝ่ามือ
กดดรรชนีเข้าดึงออกยุกยิก เด็กสาวก็ดิ้นพล่านร่ำร้องไม่เป็นภาษา จากนั้นกระแสความร้อนวาบพุ่งพล่าน
ขยายกระจายไปทั่วร่าง ก่อนที่ปลายดรรชนีของเด็กชายจะลากพาดรุณีน้อยไปถึงสรวงสวรรค์ในเวลาไม่
ถึงชั่วกาน้ำเดือด

"โอ อี่หลาง(ชายคนรักแซ่อี่) ... โอววว ข้าพเจ้า ... ข้าพเจ้า ... โอววววววววว"

ดรุณีน้อยใบหน้าหมดจดหวีดร้องลั่นก่อนปลดปล่อยเนื้อตัวอันอ่อนระทวยกอดซุกอิงร่างแกร่งของเด็กชาย
หากอีกฝ่ายนั้นก็ผลักร่างของเด็กสาวลงไปนอนหงายอยู่บนกองฟืนแล้วลุกขึ้นถอดเปลื้องอาภรณ์เก่าขาด
วิ่นของตนออกจนหมด

 

เด็กสาวก้มมองเรือนร่างอันแข็งแกร่งของเด็กชาย ก่อนหยุดจ้องมองแก่นกายอันใหญ่โตแกร่งกร้าวของเด็ก
ชายที่กำลังแข็งตัวตระหง่านราวกับไม้ฟืนดุ้นใหญ่ กระแสอารมณ์อันร้อนวูบหลั่งไหลอบอวลไปทั่วตัว สิ่งที่
เธอรอคอยและหลงไหลกำลังกระตุกหงึกอยู่เบื้องหน้านี้เอง

"โอวววว ... โอ๊วววววววววววว ... อี่หลาง อี่หลาง .... โอวววววว"

เด็กสาวร้องครางเสียงหลง เมื่อเด็กชายพุ่งเข้าหาจับสองขาของเธออ้าถ่างแล้วใช้แก่นกายต่างกระบี่เสียบ
แทงลึกเข้าไปในร่องอันร้อนผ่าว ร่างบอบบางที่เป็นฝ่ายรับเด้งกระตุกสั่นสะท้านแทบแหลกสลาย ส่วนร่าง
กำยำที่เป็นฝ่ายรุกก็โหมกระหน่ำท่วงท่าลีลากระบี่แห่งความใคร่เข้าใส่ด้วยพละกำลังทั้งสิบส่วนที่มี

เด็กสาวใบหน้างดงามหวีดร้องครางลั่นห้อง สะโพกอันอวบอั๋นเด้งร่อนส่ายรับกระบี่ของเด็กชายอย่างมิรู้ตัว
ความสุขหฤหรรษ์บนแดนดินถิ่นมนุษย์ที่ยากหาสิ่งใดเทียบเทียมอยู่ที่นี้เอง ด้านเด็กชายวัยคึกคะนองก็ฮึก
เหิมเปี่ยมล้นไปด้วยความกลัดมัน สองมือระดมบีบคลึงสะกดจุดสำคัญเร่งเร้าอารมณ์ของเด็กสาวให้พุ่งทะยาน
และยิ่งร่องสวรรค์ของเด็กสาวบีบตัวตอดรัดเพียงใด เด็กชายก็ยิ่งโหมกระหน่ำบั้นเอวกระแทกเข้าใส่ระรัวเร็ว
อย่างไม่มียั้งแรงกว่าเดิม

แลดูผิวเผินคล้ายเป็นเพียงการร่วมรักธรรมดา หากแก่นกระบี่ของเด็กชายอ่อนวัยนั้นกลับแฝงไปด้วยกระบวน
ท่าอันละเอียดซับซ้อน ทุกท่วงลีลาที่กดเข้าหรือดึงออกนั้น แก่นกระบี่นั้นวิ่งแทรกครูดคราดไปกับผนังร่องเสียว
ของเด็กสาวแทบไม่ซ้ำทิศทาง บ้างแยงซ้าย บ้างแยงขวา บ้างสอดขึ้น บ้างกดลง บ้างบดควง บ้างขยี้อัดอย่าง
หนักหน่วงรุนแรง จุดอ่อนไหวไวต่อสัมผัสในร่องรูของเด็กสาวจึงโดนแก่นกระบี่ของเด็กชายกระตุ้นเร้าแทบทุก
จุดไปพร้อมกันในคราวเดียว

เพียงไม่นานเด็กสาวแสนสวยก็ส่งเสียงหวีดร้องลั่น สองแขนสองขาที่ขาวผ่องดุจเกล็ดหิมะตวัดรัดร่างของเด็ก
ชายเอาไว้ พร้อมกับกระตุกเฮือกสะท้าน เด็กสาวเดินทางไปถึงสรวงสวรรค์เป็นรอบที่สองแล้ว หากแต่เด็กชาย
ที่อยู่ในอารมณ์กลัดมันก็มิปล่อยให้เด็กสาวได้หยุดพัก

ร่างอวบอั๋นเกินวัยของเด็กสาวโดนจับพลิกนอนคว่ำหน้าคลานสี่ขาเหมือนสุนัขตัวเมียบนกองฟืนสกปรก แล้ว
เด็กชายก็ขยับตัวเข้าไปกอดประกบสอดใส่ร่องรักของเด็กสาวจากทางด้านหลัง ฮ้าาาาา เด็กสาวถึงกับร้องคราง
แหงนหน้เริ่ดหวีดร้องลั่นให้กับความคับแน่นรูปแบบใหม่ที่ยังมิเคยลิ้มลอง

ยิ่งเด็กชายออกแรงกระแทกอัดเข้ามาจากทางด้านหลัง พร้อมไปกับใช้สองมือบีบขยี้ปทุมถันอวบอิ่มของเธอไป
ด้วยกัน เด็กสาวก็ยิ่งเสียวซ่านหฤหรรษ์ยิ่งกว่าคราครั้งใดที่เคยพบเจอมา นับตั้งแต่ที่เธอได้มอบพรหมจรรย์ให้แก่
ชายหนุ่มผู้นี้เมื่อสามเดือนก่อน เธอก็อดไม่ได้ต้องมาหาเขาเสมอแทบทุกค่ำคืน และเด็กชายก็มิเคยทำให้เธอรู้สึก
ผิดหวัง เพราะทุกครั้งนั้นเด็กสาวจักได้สัมผัสแต่ความหฤหรรษ์ราวกับความฝันเช่นนี้ทุกครั้งครา

"อี่หลาง โอวววว ข้าพเจ้าแทบขาดใจแล้ว โอวววว อี่หลาง อะ โอ๊ววววว"

เด็กสาวหวีดร้องตัวกระตุกถึงสรวงสวรรค์อีกรอบเป็นครั้งที่สาม หากเด็กชายก็ยังคงอัดกระแทกบรรเลงเพลงกระบี่
เข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง ความสุขอันเหนือล้ำยากบรรยายจึงแผ่ซ่านจู่โจมเข้าใส่เด็กสาวจนแทบสลบสิ้นสติ กระนั้น
เรือนร่างอันอุดมสมบูรณ์ของเด็กสาวแสนสวยก็ยังคงตอบสนองเด้งร่อนต้านรับลีลาแสนเร้าใจของเด็กชายโดยมิ
ต้องสั่งการควบคุม เด็กสาวเพียงปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีแห่งธรรมชาติเพียงเท่านั้น

ครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า ตามมาด้วยครั้งที่หก ที่เด็กสาวถึงจุดสุดยอดแบบติด ๆ กัน เด็กสาวก็ถึงกับสลบไสลมิอาจทาน
ทนรับความหฤหรรษ์แสนหวานได้อีกต่อไป ดวงตากลมโตปิดปรือมิอาจลืมตื่น ปากยังคงส่งเสียงครางหากแต่เป็น
การละเมออยู่ในห้วงความฝัน

เด็กสาวสลบเหมือดถึงแดนสุขาวดีไปแล้วหลายครั้งหลายครา หากแต่เด็กชายเพียงเพิ่งจะใกล้ถึงจุดสุดยอดแห่ง
ห้วงอารมณ์ เอวหยาบหนาอัดกระแทกผิวกายอ่อนละมุนของเด็กสาวอย่างหนักหน่วงหลายครั้ง ก่อนจะดึงกระชาก
ออกแล้วเอื้อมมือจับเอวคอดกิ่วของเด็กสาวก่อนพลิกร่างอันอ่อนระทวยขึ้นมานอนหงาย แก่นกระบี่ที่เปียกชุ่มโดน
มือหยาบรูดถอกยิกขณะที่ส่วนหัวปลายกระบี่บดเบียดไปกับปทุมถันและใบหน้าอันใสกระจ่างของเด็กสาว

แก่นกระบี่กดพรวดเข้าไปในอุ้งปากของเด็กสาว เด็กชายกระตุกเอวหงึกอีกสี่ห้าครั้งครา จากนั้นก็ร้องคำรามก้อง
 ระเบิดเอาน้ำแห่งความใคร่หลั่งไหลเข้าไปจนเต็มปากของเด็กสาวที่สลบไสลด้วยความเหนื่อยอ่อนจนล้นปรี่ทะลัก
ออกมาตามริมฝีปากสีแดงสด หากเด็กสาวก็มิได้สำลักแต่อย่างใด เธอค่อยกลืนกินเจ้าสิ่งนั้นของเด็กชายลงคอไป
อย่างเชื่องช้าคุ้นเคย

เด็กชายที่เพิ่งร่ายรำเพลงกระบี่ใต้สะดือจนถึงจุดสุดยอด ทรุดร่างลงไปนอนซุกใบหน้ากับร่องอกของเด็กสาวพลาง
หอบหายใจสะท้านอย่างเหนื่อยอ่อน  หากมิทันได้พักเหนื่อยดีนัก ก็ต้องสะดุ้งตัวเมื่อประตูไม้เก่าผุโดนเปิดออก ร่าง
ของสาวใช้หน้าตาหมดจดหนึ่งนางก้าวเท้าเข้ามาพร้อมกับลมหนาวภายนอก

"ฮึ เจ้าเด็กน้อยแซ่อี่อันร้ายกาจ แม้แต่เฉินเหมยลี่ลูกศิษย์อันดับสี่แห่งหอบุปผาลับของท่านอาจารย์ก็ยังหลงเสน่ห์
เจ้าหรือไร เจ้าปีศาจราคะน้อยที่น่าตาย"

สาวใช้วัยยี่สิบเบิกตามองร่างอันเปลือยเปล่าของเด็กสาวอ่อนวัยด้วยความตื่นสงสัย กระนั้นเพียงครู่เดียวสายตาของ
สาวใช้หน้าตาสะสวยผู้นั้นก็หันมามองร่างเปลือยของเด็กชายด้วยแววตาเต้นระริกแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงส่วน
ที่เป็นแก่นกระบี่ของเด็กชาย

"ข้าพเจ้ากลับตกใจแทบตายแล้ว นึกว่านางปีศาจเฒ่ามาเห็นเข้า ที่แท้กลับเป็นฉู่เจี่ยแจ(พี่สาวแซ่ฉู่)แสนสวยนี่เอง"

"คิก คิก เจ้าปีศาจลามปาม อย่าได้ด่าว่าท่านเจ้าสำนักแล้ว รู้หรือไม่หากผู้อื่นมาพบเห็นเจ้าอยู่กับลูกศิษย์อันดับสี่
ของท่านอาจารย์เข้า เจ้าจักโดนลงโทษเยี่ยงไร"


"โอย เจี่ยแจท่านอย่าได้กล่าวถึงนางปีศาจเฒ่าผู้นั้นแล้ว ข้าพเจ้าหวาดผวาเต็มทีจนแก่นกายแทบหดสั้นลงแล้ว"


"คิก คิก เจ้าปีศาจราคะกล่าวได้มิอายปาก ไม่พูดก็ไม่พูด ... ว่าแต่เจ้ายังมีเรี่ยวแรงหรือไม่"

สาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มนั้นลอบมองแก่นกายที่ยังคงแข็งตระหง่านราวท่อนฟืนของเด็กชายด้วยแววตาตื่นเต้นสงสัย

"ข้าพเจ้ากลับยังคงมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ เจี่ยแจท่านอยากลงโทษข้าพเจ้าเช่นไร ก็เชิญกระทำได้เลย"

"เช่นนั้นก็ปล่อยให้เฉินเม่ยเม่ย(น้องสาวแซ่เฉิน)ได้นอนพักเหนื่อยบ้างเถิด แล้วให้พี่สาวคนนี้ปรนนิบัติท่านแทน
ก็แล้วกัน"

สาวใช้วัยยี่สิบแซ่ฉู่กล่าวพลางปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนออกจนหมดสิ้น เรือนร่างอวบอิ่มเติบโตเต็มวัยของหญิง
สาวเปิดเผยอวดอ้าอยู่เบื้องหน้าของเด็กชายจนแก่นกระบี่กระตุกหงึก

"คิก คิก อย่าได้จ้องมองเช่นนั้นแล้ว ผู้อื่นสวยงามสู้เฉินเม่ยเม่ยของท่านได้หรือไม่"

เด็กชายจ้องมองดูเรือนร่างอันอวบอัดสมบูรณ์เต็มวัยของสาวใช้แซ่ฉู่ด้วยสายตาวิบวับ ก่อนสลับหันไปมองเรือนร่าง
ขาวสล้างหมดจดของเด็กสาวแซ่เฉินที่ยังมิเติบโตเต็มวัยดีนักอย่างพินิจพิเคราะห์ สาวใช้แซ่ฉู่ผู้นี้กล่าวได้ว่าเป็นหญิง
สาวที่หน้าตาสะสวยมิใช่น้อย หากแต่เฉินเหมยลี่นั้นเล่ากลับสวยสดงดงามสะคราญยิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด มาดแม้น
ว่าเด็กสาวจะยังมิได้เติบโตเต็มวัย หากแต่เด็กชายก็กล่าวได้เต็มปากว่าเด็กสาวนั้นสวยงามกว่า และหากเติบใหญ่ขึ้น
มาเป็นสาวเต็มตัวแล้ว เด็กสาวแสนสวยผู้นี้ก็จักงดงามเป็นหญิงงามล่มเมืองได้เลยทีเดียว

"อย่าได้เปรียบเทียบแล้ว ต่างมีดีที่ไม่เหมือนกัน พี่สาวท่านมีสะโพกที่อวบแน่นเร้าใจน่าบดขยี้ยิ่งนัก"


ในใจคิดไปอย่างหนึ่ง หากเด็กชายก็หัวไวพอที่จะรู้ว่าควรตอบอย่างไรเพื่อเอาใจพี่สาวคนนี้

"เจ้ามีวาจาแทะโลมหวานเยิ้มถึงเพียงนี้ไงเล่า สตรีในค่ายสำนักจึงหลงเสน่ห์ของเจ้ามิใช่น้อย"

"พี่สาวท่านกล่าวเกินไปแล้ว ข้าพเจ้าเพียงเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงดูเป็นคนผ่าฟืนในสำนักเท่านั้นเอง
อูยยย พี่สาว .... ท่าน อาาาา ... ข้าพเจ้ารู้สึกดียิ่ง"

เด็กชายยังกล่าวมิทันจบ สาวใช้สะโพกอวบก็เดินปรี่เข้ามาทรุดนั่งอยู่เบื้องหน้า แล้วคว้าหมับเอาแก่นกระบี่ของเด็ก
ชายเข้าไปดูดจ๊วบจ๊วบในปากเสียแล้ว ลีลาฝ่ามือ ลิ้น และริมฝีปากนุ่มนิ่มทำเอาเด็กชายถึงกับตัวงอด้วยความเสียว
ไปเลยทีเดียว กล่าวได้ว่าแม้ความสวยจะเทียบเท่าเด็กสาวไม่ได้ แต่ลีลานั้นช่ำชองจนมิอาจเทียบเทียม

"อืมมม อย่าได้โศกเศร้าต่อโชคชะตาแล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนเองนั้นโชคดีมากเพียงใด อืม ... ของเจ้านั้นช่างใหญ่ยิ่ง
นัก ใหญ่โตยิ่งกว่าบุรุษคนใดที่ข้าพเจ้าเคยพบเจอมา อืมมม จ๊วบ จ๊วบบ"

สาวใช้รูดมือยิก ๆ ขณะกล่าววาจา ก่อนก้มหน้าก้มตาลงไปดูดดมอมเลียแก่นกระบี่ของเด็กชายใหม่ด้วยท่าทีอันหิว
โหยยิ่ง ส่วนเด็กชายก็มิยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว เอื้อมมือลงมาบีบขย้ำทรวงอกอวบตูมดุจลูกท้อของ
หญิงสาวจนร่างงามกระตุก

"โชดดี! ... ข้าพเจ้ามิรู้จักพ่อแม่ เติบโตมาก็โดนใช้งานราวกับข้าทาสบริวารก็มิปาน ... อืมมม โอยยยย พี่สาว ....
โอยยยย"

"คิก คิก เจ้าไม่รู้ในความโชคดีของเจ้าหรือไร ... ข้อแรกเจ้านั้นช่างหล่อเหลายิ่ง ... จ๊วบบ จ๊วบบบ ... ข้อสองของเจ้า
นั้นช่างอวบใหญ่สมชายยิ่งนัก ... จ๊วบ จ๊วบ ... และข้อสามนั้นเจ้าไม่รู้หรือไรว่า เจ้ากำลังอยู่ในสถานที่ที่ผู้ชายทุกคน
ใฝ่ฝันหาถึงเพียงใด ... อืมม จ๊วบ จ๊วบ"


สาวใช้ดูดอมไปพลาง ก็สลับถอนปากออกมาเล่าเรื่องราวไปพลาง


"อืมมม โอยยย พี่สาว ... อืมมมมมม ... ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ... อืมมม"

"สถานที่แห่งนี้คือสำนักมารฟ้าเก้าจันทรา ที่รับแต่สตรีเป็นลูกศิษย์ลูกหา อีกทั้งลูกศิษย์แต่ละนางนั้นล้วนแล้วแต่ถูก
คัดเลือกมาแต่ที่หน้าตาผิวพรรณงดงามเท่านั้น ท่านเจ้าสำนักของพวกเรานั้นก็กล่าวได้ว่าเป็นสุดยอดหญิงงามหนึ่ง
ในสี่สุดยอดบุปผาสะคราญแห่งยุทธภพเลยทีเดียว ... ส่วนเจ้านั้นกลับเป็นบุรุษเพียงหนึ่งเดียว ที่ได้อาศัยอยู่ในสำนัก
มารฟ้าเก้าจันทราแห่งนี้ รายล้อมไปด้วยสตรีโฉมสะคราญนับพันชีวิต ... เจ้ามิคิดว่าชีวิตของเจ้านั้นน่าอิจฉาบ้างหรือไร
เจ้าเด็กน้อย อี่เทียนฟง"

กล่าวจบสาวใช้ร่านรักก็ผลักเด็กชายลงไปนอนหงายบนกองฟืน แล้วขยับตัวขึ้นไปนั่งคร่อม จับแก่นกระบี่ของเด็ก
ชายตั้งตรง แล้วหย่อนสะโพกพรวดเดียวเสียบลึกเข้าในร่างของตัวเองจนมิดด้าม จากนั้นก็โยกขย่มเข้าใส่อย่างเร่า
ร้อนรุนแรงโดยมิทันสังเกตเห็นว่าดวงตาของเด็กชายนั้นกำลังทอประกายวาววับราวกับจะบอกว่าเรื่องแค่นั้นน่ะรู้ตั้ง
นานแล้ว

ท่ามกลางหิมะโปรยปราย เสียงครวญครางของสาวใช้ร้อนสวาทและอี่เทียนฟงยังคงแว่วดังผสานต่อไปอย่างไม่มี
วี่แววว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด และมิมีใครรับรู้ว่ากำลังมีเรือนร่างสวยสะคราญร่างหนึ่งของสตรีเสื้อผ้าเนื้อบางแอบซุ่ม
มองลอดร่องรูของประตูรับชมภาพอันวาบหวามภายในห้องเก็บฟืนด้วยใบหน้าอันร้อนผะผ่าว ร่างสวยสะคราญนั้น
จับจ้องมองภาพภายในอย่างไม่ลดละไปพร้อมกับใช้สองมือนวดคลึงทรวงอกอวบใหญ่และลูบไล้ท่อนขาของตน
เอง ก่อนจะพริ้วกายหายลับกลืนเข้าไปในพายุหิมะเมื่อการเคลื่อนไหวอันดุเด็ดเผ็ดมันในห้องเก็บฟืนสงบนิ่งลง

..................................................................................................


 
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q


attosang

ขอบคุณครับเป็นอีกเรื่องที่แสดงความยอดเยี่ยมในฝีมือการแต่งของท่าน

Tayoii

ขอบคุณมาก แต่งได้อารมณ์มาก.  ตามต่อนต่อไป