ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

น้องผิง ตอนที่ 6 - สับรางข้างห้อง

เริ่มโดย assasin008, พฤษภาคม 25, 2015, 01:18:02 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

 น้องผิง ตอนที่ 6 - สับรางข้างห้อง
....................................................
Assasin008 25/05/2015[/b]

   ผมเดินจูงมือมิ้งผ่านหน้าประตูห้อง 734 แล้วแอบยิ้ม เพราะตอนนี้ข้างในนั้นมีเชอรี่รออยู่ และช่างบังเอิญเหลือเชื่อที่กุญแจในมือของผมนั้นเป็นของห้อง 733 ที่อยู่ติดกันพอดี แล้วก็ยิ่งบังเอิญหนักเข้าไปอีก เมื่อผมเปิดประตูเข้าไปแล้วพบว่า ห้อง 733 กับ 734 เป็นห้องคู่ หรือก็คือมีประตูด้านในสามารถเปิดถึงกันได้ หากทั้งสองห้องเปิดประตูกั้นกางทั้งสองบานพร้อมกัน

   แน่นอนว่าผมยังไม่กล้าชวนสองสาวมาเล่นแซนด์วิชกัน เพราะว่ามิ้งจะออกแนวกุลสตรีขี้อาย ยังต้องอบรมบ่มนิสัยด้านมืดกันอีกสักระยะถึงจะค่อยใช้งานได้ ส่วนเชอรี่ถึงจะดูเปรี้ยว ๆ แต่ว่ารายนั้นหวงเนื้อหวงตัวอยากเด่นกว่ามิ้งจนไม่ถูกหน้ากัน จะให้ชวนมาใช้ผัวร่วมกันก็คงกะไรอยู่

   ที่ผมกำลังสนใจตอนนี้ก็คือ การมีประตูแบบนี้ มันทำให้เสียงจากห้องหนึ่งไปถึงอีกห้องหนึ่งได้ง่าย หรือก็คือยิ่งผมทำให้มิ้งร้องเสียงดังเท่าไหร่ เชอรี่ที่อยู่ห่างออกไปแค่บานประตูกั้นก็จะยิ่งได้ยินเสียงดังขึ้นเท่านั้น

   "ที่รักคะ ... เมื่อกี้เสี่ยอ้วนขอมิ้งแต่งงาน"

   พอประตูห้องปิดลง มิ้งคุณแม่ยังสาวก็มองผมยิ้ม ๆ แล้วพูดเรื่องน่าตกใจจนผมอึ้งไปพักใหญ่ เพราะปรับสมองจากเรื่องเสียว ๆ ไม่ทัน

   "หา!!! เสี่ยอ้วนขอมิ้งแต่งงาน? เสี่ยอ้วนเนี่ยนะ?"

   พอหัวสมองเริ่มได้คิด ผมก็ทำตาโตมองมิ้งเหมือนไม่อยากจะเชื่อ เพราะเท่าที่รู้เสี่ยอ้วนยังไม่แต่งงาน เขาประกาศชัดว่าจะไม่แต่งงาน เพราะอยากหาความสุขไปเรื่อย ๆ ฟันสาวไปวัน ๆ ตอนนี้ผมก็เลยไม่ค่อยเชื่อว่าเสี่ยอ้วนจะพูดจริง เสี่ยน่าจะแค่อยากหลอกมิ้งมากกว่า

   "ค่ะ ตอนที่เดินตื๊อไปเข้าห้องน้ำ เสี่ยอ้วนเขาขอมิ้งแต่งงาน บอกว่ามิ้งเป็นรักแรกพบ เห็นแล้วเขานึกถึงรักแรกสมัยเด็กที่ไม่สมหวัง"

   "หนอย ไอ้เสี่ยอ้วน เผลอแวบเดียว มาตีท้ายครัวซะได้ เดี๋ยวเจอเมื่อไหร่จะเฉ่งซะให้ยับ"

   ผมกัดฟันกรอดรู้สึกโกรธจนอยากต่อยหน้าเสี่ยอ้วนสักที แต่พอนึกได้ว่าผมก็เพิ่งจะตีท้ายครัวแย่งเชอรี่มา ก็เลยเปลี่ยนเป็นรู้สึกว่าผมกับเสี่ยก็เป็นคนแบบเดียวกัน ต่างกันก็แค่รอบนี้ผมชนะ

   "ที่รักคะ อย่าโกรธซิ มิ้งปฏิเสธไปแล้ว ไม่สนใจเสี่ยอ้วนหรอก หัวใจของมิ้งมีแต่ที่รักคนเดียว ไม่มีใครอีก"

   ตอนนี้มิ้งมองผมแล้วยิ้มวิบวับเหมือนพออกพอใจกับท่าทีของผม เธอกอดผมไว้แล้วพูดบอกรักหวานฉ่ำ ผมพอได้สติกลับมาแล้ว ก็เลยพอจะเดาใจเธอออก ผู้หญิงทุกคนอยากให้ผู้ชายแสดงอาการหึงหวงทั้งนั้น มิ้งก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้น

   "แล้วเสี่ยอ้วนบอกว่ายังไงอีก?"

   "เค้าบอกว่าถ้ามิ้งตกลง จะไปจดทะเบียนสมรสกันพรุ่งเลย เค้าจะให้เงินสินสอดสิบล้าน ให้ทอง ให้ที่ดิน ส่วนทรัพย์สินที่เค้ามีครึ่งนึงก็จะเป็นของมิ้ง ... แต่มิ้งไม่สนใจหรอก"

   มิ้งพูดเสียงเบา ๆ แล้วกอดผมแน่นกว่าเดิม เหมือนกลัวว่าผมจะโกรธ แต่ตอนนี้ผมไม่โกรธเท่าไหร่ แค่กำลังตกใจว่าอะไรดลใจให้เสี่ยอ้วนลงทุนถึงขนาดจดทะเบียนแต่งงานเป็นทางการกับผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันแวบเดียว เพราะนั่นจะหมายถึงการมีส่วนร่วมของทรัพย์สินจากภรรยาด้วย

   เสี่ยอ้วนที่ผมรู้จัก เป็นนักธุรกิจเจ้าเล่ห์ เลี้ยงผู้หญิงนับไม่ถ้วน เรื่องหื่นไม่เป็นรองใคร ผมมองยังไงก็ยังไม่เห็นว่าเสี่ยอ้วนลงทุนขนาดนี้แล้วจะได้อะไรตอบแทน จะบอกว่าเพราะรักแรกแค่นั้นก็คงน่าเหลือเชื่อเกินไป

   "นี่ อย่าเงียบซิคะที่รัก มิ้งบอกแล้วไง ว่ามิ้งจะเป็นนางบำเรอให้ที่รักคนเดียว มิ้งอาจจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แต่ว่ามิ้งจะให้ที่รักเป็นคนเดียวที่ได้หัวใจไป"

   มิ้งเห็นผมเงียบไปก็เริ่มอ้อนเบียดนมเข้าหาแล้วอ้าปากงับที่ซอกคอผม เธอคงคิดว่าผมยังโกรธอยู่ แต่ตอนนี้ผมใจเย็นลงแล้ว ยิ่งได้ยินเธอพูดเปิดใจด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผมก็ยิ่งรู้สึกหัวใจพองโต นี่ล่ะครับที่ผมบอกว่าผู้หญิงแบบมิ้งนี่ผู้ชายทั้งรักทั้งชัง

   ผมชอบที่เธอทุ่มเทสุดตัวยอมให้ผมซะหมด แต่ก็แอบรู้สึกผิดอยู่บ้าง เพราะว่าผมไม่ได้มองเธอในฐานะคนรัก แต่มองในฐานะคู่นอนไว้ระบายความใคร่มากกว่า ผมรู้สึกผิดแวบนึงแล้วหันไปโอบแขนกอดมิ้งจูบปากเธอไปหนึ่งรอบ ความรักหอมหวานแบบทุ่มเทสุดตัวของเธอทำเอาผมรู้สึกตื้นตันขึ้นมาจริงๆ

   "อืมมม ที่รักขา ขอมิ้งอาบน้ำก่อนนะคะ ตัวเหม็นเหงื่อเหม็นบุหรี่ ... อืมมม ... อืออ ... อ๊อยยย"

   เธอร้องห้ามเสียงสั่น เพราะโดนผมผลักเธอไปยืนพิงหลังกับประตูห้องที่เชื่อมกับห้องข้าง ๆ ดังตึง แล้วผมก็โผเข้าไปจูบไซร้ซอกคอขาว ๆ ของมิ้ง เธอพูดถูก บนตัวเธอมีกลิ่นเหงื่อจาง ๆ แล้วก็กลิ่นบุหรี่ที่ติดมาจากในเลาจ์ แต่ตัวเธอก็ยังหอมหวานน่ากินอยู่ดี

   ผมไซร้ซอกคอเธอไปเรื่อย ๆ แล้วใช้มือขยำเต้าของเธอสลับไปมาจากด้านนอกเสื้อ มิ้งเริ่มบิดตัวแอ่นคอส่งเสียงครางหนักขึ้น มือของเธอขยุ้มลงบนหลังหัวผมกดเข้าหาทรวงอก

   ผมค่อย ๆ ละเลียดจูบเลียที่คอกับเนื้อด้านบนเนินอก แล้วค่อย ๆ ปลดเสื้อของมิ้งออกไปอย่างช้า ๆ เธอเองก็ช่วยถลกเสื้อยืดของผมด้วยอีกทาง พอเสื้อกับยกทรงของเธอหลุดลุ่ยออกจากตัว ก็พอดีกับที่เธอช่วยถอดเสื้อของผมออกไปทางด้านบนสำเร็จ

   "มิ้งสวยจัง"

   ผมพูดชมพลางมองดูความขาวโพลนของร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่าของมิ้ง เธอเขินหน้าแดงพยายามเอามือมาปิดสองเต้าไซส์ใหญ่เอาไว้ แต่ผมคว้าดึงมือทั้งสองข้างของเธอออกแล้วก้มซุกหน้าลงไปที่สองเต้า จัดการดูดเลียอย่างเอร็ดอร่อย

   "ซี้ดดสสส ที่รักขา มิ้งตัวเหม็นเหงื่อนะคะ อูยยยสสส ขอมิ้งอาบน้ำก่อนนะ ... อ๊อยยย ซี้ดดสสส ที่รักคะ ... อูยยสสส อย่ากัดแรงค่ะ ... อ๊อยยย เสียว ... ซี้ดดดสสส"  

   ผมใช้ปากใช้มือเล่นกับนมของเธออย่างเมามัน แล้วก็อดคิดเปรียบเทียบกับน้องผิงลูกสาวของเธอไม่ได้ ถ้าเทียบขนาดกันตอนนี้คงใกล้เคียงกัน แต่น้องผิงยังเด็กกว่า สาวกว่าเนื้อแน่นกว่า แถมยังมีแววจะโตกว่านี้ได้อีก

   สมองคิดไปถึงน้องผิง แต่ตัวผมกำลังเล่นอยู่กับแม่ของเธอ ตอนนี้ผมขยับมือวูบเดียวกระโปรงของเธอก็หลุดลุ่ยลงไปกองบนพื้นพร้อมกับกางเกงในเป็นที่เรียบร้อย

   "อ๊อยยย เสียว ... ซี้ดดสสส ที่รักขา ... อ๊อยยย ... อย่าแกล้งมิ้งซิคะ ... ซี้ดดดสสส อูยยสสส ... ขออาบน้ำก่อนนะ"

   ผมแทรกขาเข้าไปตรงกลางทำให้สองขาเธอแยกออกจากกันนิดหน่อย แล้วตะปบมือลงไปคลึงที่โคกของมิ้ง ผมยอมรับเลยว่าโคกของแม่ลูกคู่นี้โหนกนูนน่ากระแทกกว่าใคร ผมจับทีไรเป็นต้องลูบจนเพลินมือทุกที แต่ยิ่งลูบผมก็ยิ่งคิดถึงโคกสวาทของน้องผิงขึ้นมา

   พอนึกถึงน้องผิง ความรู้สึกค้างคาที่ได้ซอยแต่ไม่ได้แตกในก็ประทุออกมา ผมจัดการจับยกขามิ้งขึ้นมาให้อยู่ในท่าลิงอุ้มแตง เหมือนที่ผมเพิ่งทำกับน้องผิงก่อนมาที่นี่ แล้วผลักดันจนหลังมิ้งกระแทกกับประตูข้างห้องดังตึง

   อารมณ์ดิบทำให้ผมเดินหน้าสอดใส่เข้าไปแบบไม่เล้าโลมให้เสียเวลา มิ้งที่เพิ่งผ่านงานมาไม่มากยังเครื่องฟิตเปรี๊ยะอยู่ก็ถึงกับหลับตาปี๋จิกเล็บใส่หลังของผมอย่างแรง สักพักเธอก็ตัวกระตุกทำหน้าสุดเสียว เพราะพอผมใส่เข้าไปจนสุดก็เริ่มเดินเครื่องกระแทกใส่เธอแบบสุดตัวทันที

   ผมบดจูบปากเธอไว้ เธอก็กอดผมแน่นจูบตอบ ส่วนด้านล่างผมโหมกระแทกใส่เธอดังปั้กปั้กเสียงชัดแจ๋ว แถมแรงกระแทกยังทำเอาประตูไม้ที่คั่นห้องสองห้องไว้สั่นสะเทือนดังตึงตึงไปด้วย จังหวะนี้ผมยอมรับเลยว่ากำลังหื่นเต็มที่ มองเห็นมิ้งกลายเป็นน้องผิงคนสวยไปเสียแล้ว

   ผมยิ่งกระเด้าก็ยิ่งมัน ร่องของมิ้งยังสดใหม่อร่อยไม่แพ้สาววัยรุ่นสักเท่าไหร่ แต่ยังไม่เด็ดดวงเท่ารูของน้องผิง ผมเสียวปรี๊ดพอควรแต่ยังขัดใจเพราะอยากเสียวกว่านี้ ก็เลยพยายามกดแรงกว่าเดิม ให้มันเข้าไปลึก ๆ แล้วเน้นเข้าออกเร็ว ๆ เป็นการทดแทน

   เจอรสเสียวแบบดิบ ๆ เถื่อน ๆ แบบนี้ คุณแม่ยังสาวอ่อนประสบการณ์ก็โดนส่งถึงสวรรค์อย่างรวดเร็ว เธอกอดผมแน่นแล้วตอดหนึบใส่ควยผมระรัว ส่วนผมเองก็อัดอั้นมาจากน้องผิงจนทนไม่ไหวต้องน้ำแตกกระฉูดใส่มิ้งไปพร้อม ๆ กัน

   "รักมิ้งนะ"

   ผมกอดเธอแช่ลำควยซึมซับแรงตอดไว้พักนึง แล้วก็ปล่อยปากออกมาบอกรักเสียงหวานตามธรรมเนียม มิ้งเงยหน้าขึ้นมองผมตาหวานฉ่ำแล้วบอกรักออดอ้อนผมเสียงหวานแหวว

   "มิ้งรักพี่กายค่ะ รักที่สุดในโลกเลย พี่กายอย่าทิ้งมิ้งนะ มิ้งยอมทำตามทุกอย่าง ให้ทำอะไรก็ได้ ขอแค่อย่าเบื่อมิ้ง แล้วทิ้งมิ้งไป"

   ผมฟังน้ำเสียงเธอแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเต็มฝืน ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ว่าเธอหลงรักผมจริง ๆ แบบหัวปักหัวปำเสียด้วย และเธอก็เหมือนจะรู้ตัวว่าเรื่องนี้อาจจะไม่มีจุดจบที่ดี ตอนนี้ความในใจของเธอจึงค่อย ๆ พรั่งพรูออกมา

   "ถ้าเป็นเด็กดีใครจะทิ้งมิ้งล่ะ"

   ผมพูดเชิงปลอบใจไปก่อน เพราะยังไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน ว่าวันหนึ่งจะเบื่อมิ้งหรือเปล่า เรื่องแบบนี้ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์

   "ค่ะ มิ้งจะเชื่อฟังที่รักทุกอย่างเลย"

   พอผมตอบแบบนี้ มิ้งก็ยิ้มดีใจแล้วตอบรับเสียงหวาน เธอซบหน้าลงบนไหล่ผมแล้วกอดกับผมนิ่งอยู่ในท่าลิงอุ้มแตงอีกพักใหญ่ ผมยืนแบกน้ำหนักเธอจนเริ่มเหนื่อย ก็เลยค่อย ๆ ปล่อยให้เธอยืนเซไปมาด้วยขาตัวเอง

   "ต่ออีกยกเลยมั้ย หรือมิ้งอยากอาบน้ำก่อน?"

   "ขอมิ้งอาบน้ำก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวค่อยออกมาบริการที่รักให้สุดฝีมือเลย"

   ผมถามแบบเปิดทางให้เธอเลือก มิ้งคุณแม่ยังสาวก็เลยขอตัวเข้าห้องน้ำ เธอคงจะไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดเอี่ยมรอผมลงลิ้นให้ และผมก็ชอบอยู่หรอก ยิ่งสะอาดก็ยิ่งลงลิ้นได้อร่อยกว่าเดิม แต่ตอนนี้ผมเพิ่งนึกอะไรตื่นเต้นขึ้นมาได้

   'บังเอิญจัง พี่อยู่ห้องข้าง ๆ นี่เอง ห้อง 733 ลองเปิดประตูข้างห้องดูซิ ตอนนี้มิ้งอยู่ในห้องน้ำ'

   ผมรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดทันทีที่มิ้งคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าไปในห้องน้ำ พอส่งข้อความได้สักพัก ผมก็หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาพันรอบเอวไม่ให้ล่อนจ้อน แล้วค่อย ๆ บิดกลอนประตูฝั่งผมเปิดออกเงียบ ๆ ทีแรกประตูฝั่งห้องเชอรี่ยังไม่เปิด ผมเลยทำท่าจะส่งข้อความไปบอกเธออีกรอบ แต่พิมพ์ข้อความยังไม่ทันเสร็จเรียบร้อย ลูกบิดประตูฝั่งห้องของเชอรี่ก็เริ่มมีเสียงบิดเบา ๆ แล้วประตูก็แง้มเปิดออกนิดหน่อย มีเชอรี่โผล่หน้าออกมาจากร่องประตูด้วยท่าทางลังเล

   ผมฟังเสียงฝักบัวดังซู่ซ่าจากในห้องน้ำแล้วเดินข้ามเข้าไปในห้องของเชอรี่ เพราะแน่ใจว่าคงมีเวลาอีกสักพักกว่าที่คนพิถีพิถันอย่างมิ้งจะล้างเนื้อล้างตัวเสร็จ ตอนนี้ผมกำลังตื่นเต้นที่จะได้เสพรักแบบแอบ ๆ กับสาวเปรี้ยวอย่างเชอรี่โดยที่มีสาวหวานอย่างมิ้งอยู่ในห้องน้ำ

   "ร้ายนะคะ ทำซะพี่มิ้งครางเสียงดังขนาดนั้น นี่กะจะควบสองเลยเหรอ บอกก่อนนะหนูไม่ยอมขึ้นเตียงเดียวกันกับพี่มิ้งเด็ดขาด"

   เชอรี่ในชุดนักศึกษารัดติ้วมองผมแล้วส่งเสียงหัวเราะคิกคักเบา ๆ เธอทำหน้าเขินน้อย ๆ ตอนก้มลงไปมองกระบองยักษ์ของผมที่ดันผ้าขนหนูออกมาเป็นลำใหญ่

   [post]เธอถอยหลังไปเรื่อย ๆ เพราะผมเดินเข้าหา จนเธอถอยสุดทางหลังชนกับผนังห้องน้ำในห้องของเธอ ผมถึงค่อยขยับเข้าไปประกบติดใช้ลำตัวเบียดใส่นมเต้าที่ใหญ่ไม่น้อยของเชอรี่ หน้าอกเธอเล็กกว่ามิ้งสักหน่อย แต่อาจจะได้เปรียบเรื่องความสาวสดหนั่นแน่น และที่สำคัญเธอใส่ชุดนักศึกษาที่ผมต้องมีคะแนนพิเศษให้เสมอ

   "ก็ไม่ได้บอกให้ขึ้นเตียงเดียวกันนี่นา แค่ใช้ผัวคนเดียวกันเฉย ๆ"

   ผมขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิมจนจมูกเราชนกัน ผมพูดหยอกเธอแล้วขยับเตรียมจะจูบปากเชอรี่ แต่ว่าเธอยกมือขึ้นกันปากของผมเอาไว้

   "เดี๋ยวค่ะ ... จะทำอะไรก็ได้ แต่ว่าต้องตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนว่าพี่จะลงทุนกับหนูเท่าไหร่ ลงทุนยังไง"

   "ก็ลองเสนอมาซิ"

   ผมไม่ฝืนดันปากเข้าไปจูบ เพราะไม่นิยมบังคับใคร แต่ก็แอบเอารัดเอาเปรียบเธอด้วยการสอดท่อนขาแทรกเข้าไปหว่างกลางขาของเธอแล้วขยับเบียดกับส่วนนั้นของเธอเบา ๆ

   เชอรี่ขมวดคิ้วหน้าแดงซ่านทำท่าจะส่งเสียงครางออกมา แต่ก็ปิดปากเก็บเสียงไว้ เธอมองผมเหมือนกำลังครุ่นคิดพยายามคิดคำนวณเรื่องผลประโยชน์ จะว่าไปนี่ก็เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าเธอเสนอน้อยเกินกว่าที่ผมอยากจ่ายเธอก็จะเสียประโยชน์

   "พี่บอกมาก่อนว่าพี่ให้พี่มิ้งเท่าไหร่"

   "อ้าว แล้วเกี่ยวอะไรกับมิ้งล่ะ? พี่กับมิ้งไม่ได้คบกันด้วยผลประโยชน์นะ"

   "ค่ะ ไม่ได้คบกันด้วยผลประโยชน์ก็ได้ค่ะ หนูถามแค่ว่าพี่ให้พี่มิ้งยังไง ให้เท่าไหร่?"

   "ถ้าพี่บอกว่าไม่ได้ให้เลยล่ะ?"

   "ก็แสดงว่าพี่โกหก เราก็ไม่ต้องตกลงกันแล้ว หนูไม่เอาอะไรมาก ขอแค่ได้เยอะกว่าพี่มิ้งก็พอ เพราะหนูสาวกว่า สวยกว่า"

   เธอตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ พลางพยายามออกแรงผลักผมออก เหมือนจะสื่อว่าเธอไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือที่ผมอยากจะทำอะไรก็ได้ง่าย ๆ

   "ทำไมถึงคิดว่าเชอรี่ควรจะได้เยอะกว่ามิ้งล่ะ? เงื่อนไขก็ไม่เหมือนกันนะ ของมิ้งน่ะพี่สามารถเรียกเจอได้ทุกวันไม่มีวันหยุด ไม่มีนับจำนวนครั้ง แถมมิ้งเค้ายังทำได้ทุกเรื่อง ทุกท่า ทุกสถานที่ ถ่ายคลิปก็ยังได้ แล้วเชอรี่จะทำได้แบบนี้หรือเปล่า"

   ผมแอบยิ้มขำเล็ก ๆ เพราะเธอตอบตามที่ผมคิดเป๊ะ เชอรี่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการเอาชนะมิ้งในทุกทาง ไม่ว่าจะเรื่องของผลประโยชน์ หรือเรื่องไหนก็ตาม ผมยังรู้สึกเลยว่าหนึ่งในเหตุผลที่เชอรี่ยื่นข้อเสนอให้ผม ก็เป็นเพราะเธออยากแย่งผมไปจากมิ้ง

   พอผมบอกไปแบบนี้เชอรี่ก็อึ้งไปพักใหญ่ เธอคงพอรู้ล่ะว่าการผูกปิ่นโตนั้นมักจะระบุเรื่องเวลาไว้ เช่นเฉพาะเสาร์อาทิตย์ และจำนวนครั้งเช่นเรียกไปขึ้นเตียงได้เดือนละกี่ครั้ง ส่วนเรื่องถ่ายคลิปนั้นค่อนข้างจะเป็นเรื่องอันตราย เพราะอาจจะโดนเอาไปแบล็คเมล์เมื่อไหร่ก็ได้ สาว ๆ ส่วนใหญ่จึงมักจะพยายามหลีกเลี่ยง เมื่อเธอฟังว่ามิ้งยอมทุกอย่างก็ไม่แปลกที่จะอึ้ง

   "ถ่ายคลิป ถ้าไม่เห็นหน้าหนูยอมก็ได้ แต่เรื่องเวลาหนูว่างเฉพาะนอกเวลาเรียน กับบางเสาร์ อาทิตย์ บางทีก็ต้องไปออกงานพริตตี้"

   "โอเค แต่พี่มีเงื่อนไขด้วย ช่วงที่เป็นเด็กพี่ ห้ามไปยุ่งกับคนอื่นอีก ต้องเลิกกับเสี่ยอ้วน หรือคนไหนก็ตาม พี่ไม่อยากสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น"
  
   "ก็ได้ แต่พี่ก็ต้องจ่ายเยอะหน่อย ถ้าอยากผูกปิ่นโตคนเดียว"

   "เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา อยู่แล้ว เอาเป็นว่าพี่จะให้ผลประโยชน์เป็นเงิน ... ต่อเดือน ถ้าออกข้างนอกอาจซื้อของให้บ้างแล้วแต่อารมณ์ นอกจากนี้พี่จะสอนเทคนิคการลงทุนให้ สอนแบบตัว ๆ ไม่มีกั๊ก อันหลังนี่รับรองได้ว่าจะเป็นประโยชน์ระยะยาวแน่ ๆ ถ้าเชอรี่อยากเป็นสาวเก่งรวยด้วยตัวเองนะ"

   ผมลองยื่นข้อเสนอที่ถือว่าดีมากแล้วออกไป เพียงแต่ยังไม่ดีเท่าที่จ่ายให้มิ้ง เพราะมิ้งนั้นผมมองเป็นกรณีพิเศษที่ให้ด้วยความสงสาร ส่วนประเด็นเรื่องสอนลงทุนอันนี้ถึงจะดูเหมือนไม่มีคุณค่า แต่สำหรับเชอรี่ที่ในหัวมองแต่เรื่องเงินในระยะยาวนั้นก็เป็นอีกเรื่อง

   ผมมองตาของเชอรี่ที่ลุกวาวขึ้นมาแล้วก็อ่านออกทันทีว่าเธอพอใจกับข้อเสนอของผมมาก แต่ว่าเธอยังพยายามเก็บอาการไว้ ทำตัวเหมือนจะเรียกร้องให้ได้มากกว่านี้

   "ขอเพิ่มอีกครึ่งนึงค่ะ ตอนนี้หนูได้มากกว่าที่พี่เสนออีก"

   "งั้นก็ได้ พี่ให้อีกครึ่งนึง แต่พี่ไม่สอนเรื่องลงทุนนะ"

   ผมทดลองแหย่เธอดูเพื่อทดสอบสิ่งที่ผมคิด และดูเหมือนว่าผมจะคิดถูก เพราะว่าเธอนิ่งอึ้งไปแล้วทำสีหน้าปั้นยาก ก่อนจะพยายามต่อรองผมต่อ

   "พี่อ่ะ ให้หนูอีกหน่อยก็ไม่ได้ หนูรับรองว่าจะบริการให้ถึงใจเลย"

   "ไม่เอา ให้แค่นี้แหละ พี่ไม่ชอบคนพูดโกหก ราคานี้เลี้ยงพริตตี้สวย ๆ ได้สามคนด้วยซ้ำ แต่เชอรี่ยังโกหกบอกว่าได้เยอะกว่า พี่รู้จักเสี่ยอ้วนดี เค้าไม่มีปัญญาจ่ายขนาดนี้หรอกนะ โทษฐานโกหก พี่ลดข้อเสนอลงครึ่งนึง แล้วก็ไม่สอนวิธีลงทุนให้ด้วย เอาล่ะจะรับมั้ย ถ้ารับก็โอเค ถ้าไม่รับก็จบกันแค่นี้"

   ผมส่ายหน้าไม่รับข้อเสนอของเธอ แล้วพูดลดราคาลงไปเกือบครึ่งจนแทงใจดำเธออีกรอบ แต่ก็ยังถือว่าสูงทีเดียวถ้าเทียบกับสาวไซด์ไลน์ทั่วไป ตอนนี้ผมเริ่มโกรธหน่อย ๆ สีหน้าของเชอรี่ก็กลายเป็นแตกตื่นลนลานที่ผมแสดงท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมให้เจรจา ผมคงเดาไม่ผิด เธอมั่วตัวเลขออกมาจริง ๆ

   "พี่อ่ะ ... หนูพูดเล่นหน่อยเดียว ทำเป็นจริงเป็นจังไปได้ ... งั้นเอาตามที่พี่บอกก็ได้ แต่หนูขอให้พี่สอนด้วย"

   เชอรี่อึกอักไปพักใหญ่ เธอหลบสายตาของผมทำท่าเหมือนยอมแพ้ แล้วเธอก็ยอมรับข้อเสนอสุดท้ายของผมที่เพิ่งยื่นไป พร้อมกันหันมามองผมใหม่ด้วยสายตาแปลกกว่าเดิม และผมก็ตีความหมายของสายตาแบบนี้ไม่ออก รู้แต่ว่ามันแตกต่างจากก่อนหน้าพอสมควร

   "งั้นก็ได้ ถือว่าตกลงนะ เริ่มจากวันนี้เลย เดี๋ยวเชอรี่ไปอาบน้ำให้เรียบร้อย แล้วใส่ชุดนักศึกษาเหมือนเดิม รอสักสองชั่วโมงแล้วโทรศัพท์ไปหาพี่ ทำเสียงให้เหมือนผู้ใหญ่หน่อย บอกว่าลูกค้ามีปัญหาด่วน พี่จะได้ออกมาจากห้องโน้นได้"

   "ยืมแผนหนูมาใช้ซะงั้น เดี๋ยวขอค่าลิขสิทธิ์ด้วยนะคะ"

   "แนวนั้นแหละ อ้อ อีกอย่างนะ ต่อไปเวลาอยู่กันสองคน อย่าเรียกพี่ แต่ให้เรียกว่าป๋า โอเคนะ?"

   "ค่ะ ป๋าขา"

   เชอรี่ทำเสียงหวานเหมือนล้อเลียน ผมเลยประกบปากลงไปจูบดูดลิ้นจนเธอตัวอ่อนระทวยไปหนึ่งรอบ ความจริงตั้งใจจะแอบ ๆ จัดการเธอตอนนี้เลย แต่ว่าเสียงน้ำจากฝักบัวหายไปแล้ว แสดงว่ามิ้งใกล้จะอาบน้ำเสร็จ ผมเลยได้แต่ปล่อยให้เชอรี่ยืนพิงผนังห้องน้ำแบบหมดเรี่ยวหมดแรง แล้วเดินไปปิดประตูเชื่อมห้องเฉพาะของฝั่งห้องผม เปิดฝั่งห้องเชอรี่เอาไว้ ตั้งใจจะให้เธอได้ยินเสียงครางสุดเสียวของมิ้งสักหน่อย

   ตอนนี้พอผมได้เวลาคิด ผมก็นึกไปถึงตอนที่ผมกำลังเอากับน้องผิง แล้วเมียผมเข้ามาในห้องแบบผูกผ้าปิดตา ตอนนั้นมันตื่นเต้นสะใจพิลึก ตอนนี้ผมก็เลยอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าผมปิดตามิ้ง แล้วเอาเธอต่อหน้าเชอรี่ จะน่าตื่นเต้นเร้าใจขนาดไหน[/post]

........................................



เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q



johnywalker

 ::GiveMe:: นักลงทุน นี่ก็ยังคงเป็นนักลงทุน ตกลงสัญญาอะไรไม่เคยยอมขาดทุน