ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เดชคัมภีร์นางฟ้า 12 ตอนกระบี่กลับหลัง กังปังกลับใจ (จบ season 1)

เริ่มโดย cobra, มีนาคม 22, 2017, 09:35:00 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

รู้สึกอย่างไรกับตอนนี้

ชอบมาก
31 (73.8%)
ชอบ
9 (21.4%)
ปานกลาง
1 (2.4%)
ไม่ค่อยชอบ
1 (2.4%)
ไม่ชอบเลย
0 (0%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 42

cobra


        "นี้เป็นยานอนหลับชนิดแรงเจ้าเอาใส่อาหารและน้ำให้ทุกคนกิน จะได้ไม่ต้องมีการต่อสู้กันให้ใครต้องบาดเจ็บล้มตาย เสร็จแล้วค่อยออกมาหาข้าที่นี้ตอนสองยาม เอาละเราคุยกันนานคงไม่เหมาะเดี๋ยวมีคนพบเห็นและสงสัยได้ เจ้ากลับไปได้แล้ว"

          หม่าหยงเอาแต่พูดฝ่ายเดียวไม่เปิดโอกาสให้กังปังได้พูดบ้าง

          "ดูท่าเจ้ากรอบเหลือเกิน เอาติดตัวไว้ใข้"

           พูดแล้วหม่าหยงก็ยัดทองสองก้อนใส่มือกังปัง แล้วหม่าหยงก็หันหลังจะจากไป แต่กลับหันหน้ามาถามกังปังอีกครา

           "เจ้ายังอยากจะข่มขืนฟู่หงส์อีกหรือไม่ คงไม่แล้วมั่ง ตอนนี้นางอ้วนเป็นหมูโสโครกอย่างนั้น เจ้าคงไม่มีอารมณ์ หรือว่าอยากลองของแปลกก็ตามใจนะแล้วคืนนี้ค่อยเจอกัน"

           ข่มขืนฟู่หงส์หรือ

          "ท่านพ่อช่วย...อุ้บ ด้วย" ฟู่หงส์ร้องแต่ก็โดนกังปังเอามือปิดปากนางจึงพยายามดิ้นรนสุดกำลัง

           กังปังได้ยินเสียงฟู่หงส์ร้องในหัว มโนภาพเกิดขึ้นมาเองโดยไม่รู้ตัว

          "อย่าร้อง นางแพศยา เที่ยวออกไปให้คนอื่นเย็ดมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งยังทำเป็นดีดสดิ้งอีก"

           "อย่า..อย่านะกังปัง ข้าเป็นม่วยม่วย(น้องสาว)เจ้านะ "

           "ไม่ใช่น้องแท้ๆสักหน่อย ถึงเป็นน้องจริงๆวันนี้ข้าก็จะเย็ดเจ้า ทีคนอื่นเจ้ายังแรดไปให้เขาเย็ดได้ ข้าก็จะเย็ดมั่ง"
            กังปังพูดด้วยความโกรธหน้าแดงก่ำกระชากเสื้อผ้าของฟู่หงส์จนขาดวิ่นไปหมด เหลือแต่เอี้ยมสีแดง
           "หยุด....เดี๋ยวนี้นะ"
            กังปังสดุ้งมองเห็นขอทานสองคนตรงหน้า
            "นี้เจ้าไม่มีตาหรือเสียสติหรือไง ถึงเดินเหม่อลอยมาเหยียบกะลาขอทานข้า"

             กังปังเดินคิดเหม่อลอยไม่รู้ว่าเดินมาเหยียบเอากะลาขอทานตั้งแต่เมื่อไร

            "ข้า..ขอโทษพวกท่านจริงๆ"
            "เอาละ ๆ เจ้าไปได้แล้ว เดินดีๆหน่อย"

            ขอทานสองคนโบกมือไล่กังปังแล้วหันมาคุยกันต่อ
            "แล้วไง คนร้ายที่บุกไปง่อไบ๊เมื่อเดือนก่อนป่านนี้ยังไม่รู้ว่าใครอีกหรือ"
             กังปังได้ยินจึงชงักแอบยืนฟังขอทานทั้งสองคุยกัน
            "ใช่พรรคกระยาจกเราถูกเข้าไปพัวพันด้วยเพราะคนร้ายใช้วิชาสิบแปดฝ่ามือสยบมังกร แถมเก่งมากด้วย"
            "อืม..แล้วมันขึ้นไปทำอะไรบนเขาง่อไบ๊"
            "ข้าก็ไม่รู้แน่ขัดเพราะคนยิ่งพูดยิ่งมั่ว บ้างก็ว่าไปขโมยศพปรมาจารย์อึ้งย้ง บ้างก็ว่าคนร้ายไปทำลายศพ แล้วขโมยคัมภีร์อะไรไปสักอย่าง ตอนนี้ถึงให้พรรคกระยาจกเราช่วยกันหาเบาะแสคนร้าย"

            กังปังฟังถึงตรงนี้ก็เห็นขอทานหันมามองตน จึงต้องเดินหนีไป นึกในใจ
           "นี้ข่าวข้ามาถึงนี้แล้วหรือ ขนาดข้ามาไกลถึงเพียงนี้แล้วข่าวยังมาถึง จริงซิขอทานมันมีอยู่ทั่วประเทศ คิดหาข่าวอะไรใช้ขอทานเป็นดีที่สุด"

           ร้านหลิงหงส์เป็นร้านมีชื่อเสียงที่สุดของซินเกียงในตอนนี้ หากใครอยากได้เสื้อผ้าสวยๆที่ไม่ซ้ำแบบใครต้องมาที่ร้านนี้ ทั้งคนสวมใส่ก้รู้สึกภูมิใจที่ได้อวดใครต่อใครว่าตนมีเสื้อผ้าของร้านหลิงหงส์ใส่ กลายเป็นว่าคนมีเงินและฐานะต้องใส่เสื้อผ้าของร้านหลิงหงส์
           หากใครไม่มีเสื้อผ้าของร้านหลิงหงส์คือคนกระจอกไปซะงั้น เมื่อเป็นอย่างนี้กิจการของร้านหลิงหงส์จึงดีวันดีคืนตัดเย็บเสื้อผ้าให้ไม่ทัน แม้จะเพิ่มจำนวนช่างเข้ามาก็ไม่พอ จนมีความคิดว่าจะต้องขยายสาขาออกไปอีก

           เจียงปิงกับฟู่หลิงกำลังช่วยกันสั่งการช่างและต้อนรับลูกค้าไปในตัวอย่างขมักขเม้น เจียงปิงเห็นกังปังมากำลังเดินผ่านไปเหมือนคนกำลังครุ่นคิดจิตใจเลื่อนลอยอย่างไรขอบกล จึงให้คนไปเรียกเข้ามาในร้าน จัดหาน้ำท่าให้กังปังนั่งพักด้านใน

           "กังปังเจ้าเป็นไร ไม่สบายหรือเปล่า" เจียงปิงถามพร้อมยกมือแตะแถวรูจมูก
           "ไม่เป็นอะไร ทำไมหรือ"
           "กังปังเจ้ามีเลือดกำเดาไหลนะ"

           กังปังจึงยกนิ้วขึ้นเช็คที่ปลายจมูก ก้มลงมองดูที่นิ้วตน
           พลันเหมือนรอบตัวกังปังกลับหมุนเปลี่ยนแปรไปไม่หยุด ข้าวของทุกอย่างรวมถึงเจียงปิงและคนอื่น เหมือนเคลื่อนหายไปวูบวับๆ
           จนกลายมาหยุดบนความว่างเปล่า กังปังกลับมายืนอยที่ี่บ้านในสมัยก่อนได้อย่างไรไม่รู้


           "กังปัง เกือบครบสิบห้าครั้งแล้ว ตอนนี้ได้เจ็ดแล้วนะ ข้าคอยนับเอาใจช่วยอยู่"

           เสียงฟู่หงส์ในร่างดรุณีน้อย ส่งเสียงเจื้อยแจ่วร้องบอกกังปังอย่างเริงร่า

           กังปังมองดูตนเองก็พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในสมัยตนอายุ 16 ปีเช่นกัน มีถังน้ำสองใบใส่หาบที่กังปังวางพักเหนื่อยอยู่ข้างกาย

           "จริงซิ ข้าต้องหาบน้ำใส่ตุ่มให้ได้สิบห้ารอบตามที่ต้องทำให้ดู"

            กังปังจึงเอาหาบใส่บ่าแล้วเดินแบกไปไม่ทันไร ก็หกล้ม กลิ่งระเนระนาด น้ำหกกระเด็นเปียกปอนเสื้อผ้าไปหมด
          เสียงฟู่หงส์หัวเราะคิกคัก กระโดดตบมืออย่างชอบใจ เป็นอีกครั้งที่กังปังโดนฟู่หงส์แกล้งในลักษณะนี้

   ..................................................

           กังปังเจ้าต้องวิดพื้นให้ได้ร้อยทีนะถึงเป็นจอมยุทธ

          กังปังข้าตัดเสื้อให้เจ้าลองใส่ดูสิเจ้าต้องเท่ห๋แน่ ข้าออกแบบให้เจ้าโดยเฉพาะนะ

          "ดูเจ้านั่นซิ แต่งตัวประหลาดจัง มันจะไปเล่นตลกอะไรที่ไหนหรือ ข้าละขำกลิ้งเลย ฮ่า ฮ่า ๆ"
        ----------------------------------------------

           กังปังๆ ดูข้าสวยไหม

          "วันนี้เจ้าสวยจนข้าตลึงเลย ม่วยเล็ก"

          ฟู่หงส์ยิ้มเอียงอาย "งั้นเดี๋ยวเราไปเดินเล่นด้วยกันนะ"

           กังปังฟังแล้วรู้สึกใจพองโตไม่น้อยที่วันนี้จะได้ออกไปเดินเล่นกับฟู่หงส์ตามลำพัง

          "กังปัง เจ้าไปรอข้าที่ตรงนี้นะ ข้าต้องไปทำธุระส่วนตัวหน่อย"

          ฟู่หงส์หายไปนานทีเดียวจนกังปังร้อนใจ แล้วฟู่หงส์ก็กลับมายิ้มอย่างเริงร่า

          "เรากลับบ้านกันเถอะนะ"
          "เอ๊ะ แต่เรายังไม่ได้ไปไหนกันเลย"
          "กลับเถอะแล้ววันพรุ่งนี้ ค่อยมากันใหม่"

           กังปังงุนงง แต่ก็พาฟู่หงส์กลับ วันพรุ่งนี้ และวันต่อๆมาเมื่อมีโอกาสฟู่หงส์ก็มักให้กังปังพามานอกบ้านในลักษณะนี้

           จนกังปังแปลกใจ

          "ฟู่หงส์ข้าเห็นเจ้าชอบไปที่ร้านตัดเสื่อนั้นประจำ ไปทำอะไรเหรอ วันหลังข้าเข้าไปด้วยได้ไหม"

          ฟู่หงส์หน้าเหรอ แต่แกล้งกลบเกลื่อน
          "เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นคนชอบตัดเสื้อผ้า ข้าเลยให้เขาสอนเรื่องการเย็บผ้านะ"
          "อ๋อ งั้นเหรอ ให้ข้าไปดุไม่ได้เหรอ "
          " ไม่ได้หรอกเพราะมันเป็นความลับเขาไม่อยากให้ใครมาขโมยวิชาไป"

          แล้วอยู่ๆฟู่หงส์ก็หอมแก้มกังปังไปทีหนึ่ง กังปังตลึงด้วยคิดไม่ถึงว่านางคงมีใจชอบตนแล้ว
         ------------------------------------------------------

         "กังปัง เจ้ามานั่งอะไรตรงนี้ ไปกับข้าดีกว่า" เสียงหม่าหยงเรียกกังปัง
         "ไม่ได้หรอก เดี๋ยวข้ากลับไปรับฟู่หงส์ไม่ทัน"
         "แล้วนางอยู่ไหนละ"
         "นางกำลังให้เขาสอนเรื่องการเย็บผ้าอยู่"
         "ฮ่า ฮ้า...เจ้านี้ซื่อจริง แน่ใจหรือว่านางไปให้เขาสอนเรื่องการเย็บผ้า"
         "พี่หม่าพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร"
         "กังปังน้องเรา ข้าจะบอกให้เอาบุญ ม่วยม่วยเจ้ามาให้เขาสอนการเย็ดผ้ามากกว่า"
         กังปังหน้าชา
         "พี่หม่าพูดอย่างนี้ไม่ดีนะ "
         "กังปังเจ้าเคยเข้าไปในร้านบ้างไหม เคยเห็นไหมข้างในร้านเป๋นยังไง เย็บผ้าจะยากเย็นอะไร ต้องมาบ่อยๆ"

          กังปังคิดตาม
         "นั้นสิ ฟู่หงส์ก็มาเรียนเย็บผ้าตั้งสองเดือนได้แล้วมั่ง"
         "ข้าบอกเจ้าจะได้ตาสว่าง ไม่โดนใครหลอกแล้วมาเยาะเย้ยเอาทีหลัง"
         "ข้ารู้จักคนในร้านซุบซิบกัน ว่าคุณชายของมันเสน่หฺแรงจนลูกสาวคนเล็กตระกูลฟู่ ต้องมาให้เย็ดบ่อยๆ
          นางให้เจ้าพาออกจากบ้านมาทุกครั้ง ก็เพื่อให้พานางมาให้เขาเย็ดทุกครั้งนั้นแหละ"
          กังปังแทบสิ้นสตินึกไม่ถึงว่าม่วยเล้กที่ใสซื่อบริสุทธิ์ที่มันหลงรักจะเป็นคนอย่างนี้ไปได้

          กังปังจึงแอบเข้าไปดูพบเห็นฟู่หงส์ที่กำลังลงมาจากด้านบนกลับยืนกอดจูบกับผู้ชายคนหนึ่งบนบันได
         กังปังใจหายวาบแอบออกมานอกร้าน เห็นฟู่หงส์โบกมือเรืงร่ามายังตนให้พากลับบ้าน กังปังหน้าบูดบึ้งไม่พูดจา จนฟู่หงส์ผิดสังเกตุสอบถามว่าวันนี้กังปังเป็นอะไร
         พอถึงบ้านกังปังจึงกระชากแขนฟู่หงส์เข้ามาในห้องนอน
         "เจ้าทำไมทำตัวแบบนี้ละฟู่หงส์"
         "ข้าทำอะไร"
         "ก็ในร้านเสื้อผ้านั้น"
         "ก็ข้าไปเรียนเย็บเสื้อผ้า ไม่เห็นมีอะไรนี้" ฟู่หงส์ตีหน้าตายเถึยงคอแข็ง
         "เจ้าไปเรียนเย็บผ้า หรือไปให้เขาเย็ดกันแน่"

         "เพี้ยะ"

         "เจ้าพูดอะไร ดูถูกข้าเกินไป เจ้าเห็นกับตาหรือไปฟังใครมา"
         "ถึงแม้ข้าไม่เห็นตอนเจ้าเย็ดกับใคร แต่ก็เห็นเจ้ากอดจูบกับผู้ชายในร้าน"

         ฟู่หงส์ใจหายวาบ แต่ยังเถียงไม่เลิก

        "ก็แต่กอดจูบ ก็ข้ารักกันก็มีบ้างเป็นธรรมดา"
        "เจ้านี้ช่างเป็นหญิงแพศยา ร้อยเล่ห์มารยา แถมเป็นผู้ร้ายปากแข็งอีก เสียแรงที่ข้าหลงรักเจ้ามาโดยตลอด"
        "ปล่อยข้านะ ...ข้าไม่ได้รักเจ้านี้ เจ้าก็น่าจะรู้

         กังปังบันดาลโทสะเหลือทนทั้งรักทั้งเจ็บใจฟู่หงส? เลยจับฟู่หงส์ผลักลงบนเตียงนัยตาแดงก่ำเป็นที่น่าหวาดกลัว
         ฟู่หงส์พยายามขัดขีนแต่โดนกังปังโถมตัวเข้าใส่ เอามือกดนางไว้กับที่นอน ระดมจูบนางอย่างบ้าคลั่ง
         ฟู่หงส์เห็นท่าไม่ดีแล้วพยายามดิ้นหนีแต่สู้แรงกังปังไม่ได้


          "ท่านพ่อช่วย...อุ้บ ด้วย" ฟู่หงส์ร้องแต่ก็โดนกังปังเอามือปิดปากนางจึงพยายามดิ้นรนสุดกำลัง
          "อย่าร้อง นางแพศยา เที่ยวออกไปให้คนอื่นเย็ดมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งยังทำเป็นดีดสดิ้งอีก"
          "อย่า..อย่านะกังปัง ข้าเป็นม่วยม่วย(น้องสาว)เจ้านะ "
          "ไม่ใช่น้องแท้ๆสักหน่อย ถึงเป็นน้องจริงๆวันนี้ข้าก็จะเย็ดเจ้า ทีคนอื่นเจ้ายังแรดไปให้เขาเย็ดได้ ข้าก็จะเย็ดเจ้ามั่ง"
          กังปังพูดด้วยความโกรธหน้าแดงก่ำกระชากเสื้อผ้าของฟู่หงส์จนขาดวิ่นไปหมด เหลือแต่เอี้ยมสีแดง

          "หยุดนะ กังปัง "

           กังปังชงัก ฟู่หงส์ได้โอกาสจึงลุกหนีไปหาทางบิดาและมารดาที่เข้ามา

          "ท่านพ่อ ท่านแม่ กังปังมันข่มขื่นข้า ฮือ ๆ "
          "กังปังทำไมเจ้าเลวชาติอย่างนี้ มาทำเรื่องบัดสีในบ้าน"
          กังปังกำลังเลือดขึ้นหน้า
         "ทำเรื่องบัดสีในบ้าน หากทำนอกบ้านไม่นับว่าเป็นเรื่องบัดสีใช่ไหม"

         "บังอาจ เพียะ"

         ฟู่เซิ่งก็โมโหเป็นเข่นกันลงมือตบหน้ากังปังอย่างแรง จนเลือดกลบปาก

         "ค่อยพูดค่อยจากัน ไหนขอแม่ดูหน่อยสิเป็นยังไง"
         นางฟู่หนี่เอ๋อลงมือตรวจร่างกายบุตรสาว
         "เอ๊ะ นี้เจ้าเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วหรือ"
          นางฟู่หนี่เอ๋อพูดอย่างตกใจ
         "จะไม่ให้เสียความบริสุทธิ์ได้ไง ไปให้เขาเย็ดบ่อยๆอย่างนั้น"กังปังคิดในใจ

         "ก็เพราะเป็นมันข่มขืนข้า...ฮือ..ฮือ.."
          ฟู่เซิ่งฟังแล้วยิ่งเดือดดาลนึกไม่ถึงว่าในบ้านจะเกิดเรื่องบัดสีเช่นนี้

         "เจ้ามันระยำข่มขืนแม้น้องสาวตัวเอง ข้าไม่ให้อภัยแน่ "
         ฟู่เซิ่งคว้าไม้ท่อนหนึ่งขึ้นมากะฟาดกังปังให้ตายคามือ เป็นนางฟู่หนี่เอ๋อรีบคว้าแย่งไม้ขัดขวางเอาไว้

         "ท่านพี่อย่าทำอย่างนั้น "
         ขณะนั้นเจียงปิงกับฟู่หลิงก็เข้ามาถึง
        "เจียงปิงรีบพากังปังไปก่อน ท่านพ่อจะตีกังปังให้ตาย"
        กังปังสุดเจ็บใจไม่อาจจะอธิบายใดได้ ด้วยเห็นกันเต็มตาว่ามันจะข่มขืนฟู่หงส์จริง จึงรีบวิ่งเตลิดหนีออกไปจากบ้าน
        -------------------------------------------

        "อย่าเสียใจไปเลย โลกเป็นอย่างนี้แหละ มาดื่มเหล้าย้อมใจกัน เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปคลายเครียด เจ้ายังไม่เตยไปแล้วจะติดใจ"
        เป็นหม่าหยงที่เป็นสหายรุ่นพี่ปลอบใจ กังปังจึงได้มาอยู่กับหม่าหยงและแนะนำให้รู้จักกับบรรดามิจฉาชีพ
        ในที่นี้กังปังจึงได้รู้จักเปียกน่ำเฮาะซึ่งต่อมาได้กลายเป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องกังปัง
        "กังปังเราเอาแต่ย่องเบาได้เงินมานิดเดียวเองก็หมด ไม่พอให้เจ้าเที่ยวซ่องด้วยซ่ำ"
         กังปังตอนนี้กลับเริ่มเป็นคนที่ติดกามารมณ์(คิดเซ็กสฺ) กังปังเกิดมีความคิดว่าในเมื่อทุกคนเห็นตนเป็นคนร้ายก็จะร้ายให้สมใจ
         ผู้หญิงบนโลกล้วนหลอกลวงเจ้าเล่ห์ใช้ความสวยบริสุทธิ์เป็นเครื่องมือหลอกลวงให้ผู้ชายหลงใหลดังนั้นจึงคิดตอบแทนหญิงเหล่านั้นบ้าง ประกอบกับปังเสพติดในกามอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว

        "ตอนนี้ข้าได้ข่าวว่าตระกูลฟู่มีสินค้ามีค่าต้องไปส่ง หากเราได้สินค้ามาก็จะทำให้สบายไปอีกนาน"
         หม่าหยงถามกังปัง
         "เจ้าเคยอยู่กับตระกูลฟู่รู้เส้นทางและวิธีการดีว่าทางตระกูลมีขั้นตอนยังไง หากเจ้าร่วมมือด้วยก็ดีนะ แต่ขึ้นอยู่กับเจ้าจะเอาด้วยหรือไม่ แต่ข้าถึงไม่มีเจ้าก็จำเป็นต้องทำนะ"
         กังปังยิ้ม
        "ข้าเอาด้วยแน่ เพราะต้องการแกล้งให้ตระกูลฟู่ต้องเจ็บใจเหมือนกัน แต่ขออย่าทำร้ายคนให้ต้องบาดเจ็บล้มตายแล้วกัน แค่ชิงสินค้ามาก็พอ"
          --------------------------------------------

        "เอ๊ะ นั้นคนที่กำลังเอาสินค้าข้าไป เป็นเจ้ากังปังนี้ พวกเจ้าอย่าทำร้ายโจรคนนั้น"
        เสียงฟู่เซิ่งตะโกนเปิดโอกาสให้หม่าหยงเข้ามาสกัดคนที่ทำร้ายกังปังได้ทัน ทำให้กังปังควบม้านำของหนีไปได้
        โดยหม่าหยงที่มีฝีมือสูงตรงเข้าต่อสู้กับฟู่เซิ่งและโจรคนอื่นที่ต่อสู้กับคนคุ้มกันสิ่งของ หม่าหยงมีฝีมือดีเอาชนะฟู่เซิ่งได้ และไม่ได้ทำร้ายใครบาดเจ็บตามที่สัญญากับกังปัง เมื่อเห็นว่าปล้นแย่งชิงของได้แล้วจึงล่าถอยไป
       --------------------------------------------
       "ไชโย เราได้สินค้าเที่ยวนี้มาได้สบายกันไปอีกนาน แต่เห็นท่าเราจะอยู่ที่นี้ไม่ได้แล้วนะ กังปังเจ้าก็ควรหนีไปที่อื่นด้วยเพราะไม่ปลอดภัยแล้ว"
       กังปังเห็นดีด้วยจึงติดตามหม่าหยงไปกลายเป็นคนร้ายมิจฉาชัพตั้งแต่นั้น

"เพราะการปล้นครั้งนั้น ทำให้บิดาต้องท้อแท้ใจมาก และต้องจ่ายค่าสินค้าจนต้องขายทรัพย์สินสมบัติทั้งหมดจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องประสบความลำบากทุกข์ยากกัน "

        ตอนท้ายกังปังได้ยินเหมือนเสียงเจียงปิงที่พูดขึ้นมา

        "คืนนี้ข้าจะปล้นร้านหลิงหงส์ มาพบกับข้าที่นี้ตอนสองยาม"

        ปล้นร้านหลิงหงส์ ตอนสองยาม

        กังปังลืมตาตื่นขึ้นอย่างตกใจ พบตัวเองนอนอยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อไร นี้เวลาอะไรแล้ว
        กังปังรีบโผลงจากหน้าต่างรีบวิ่งไปยังจุดนัดพบทันที เห็นหม่าหยงพาลูกน้องออกมาอีก 7 – 8 คน
       "เป็นไง เรียบร้อยแล้วใช่ไหม" หม่าหยงร้องถามทันท๊เมื่อเจอหน้ากัน กังปังส่ายหน้าช้าๆ
       "เพราะอะไรกัน ตระกูลฟู่พบพิรุธ  ทำให้เจ้าถูกจับได้หรือ งั้นข้ามีแผนสอง"
       "ไม่ใช่ทั้งนั้นพี่หม่า ข้าขอให้ท่านยกเลิกแผนการทั้งหมด และอย่าคิดร้ายกับตระกูลฟู่อีกต่อไปเลย"
       "เพราะอะไรงั้นหรือ" หม่าหยงแปลกใจกับคำพูดกังปัง
       "เพราะข้ารู้สึกที่ผ่านมาข้าทำกรรมกับตระกูลฟู่ไว้มาก จึงสำนึกผิดและอยากกลับตัวใหม่"
       "ฮ่า ฮ่า ๆ กังปังเจ้าเป็นอะไรของเจ้า เจ้าต้องสำนึกอันใด เจ้าเองอยากกลับมาแก้แค้นฟู่หงส์จะตายที่หลอกลวงเจ้าจนเสียใจไม่ใช่หรือ"
       "ข้าไม่คิดโกรธเคืองใดๆทั้งสิ้นแล้ว ข้าคนไม่ดีเอง เลือกทำในสิ่งไม่ถูกต้องเอง"
       "เฮ้ย งั้นเจ้าโทษข้าหรือที่ทำให้เจ้าเป็นคนไม่ดี"
        "เปล่าเลย ข้าไม่โทษท่าน ไม่โทษบิดา หรือแม้จะกระทั่งฟู่หงส์ ที่ข้าเป็นเช่นนี้เพราะตัวข้าเลือกที่จะเป็นเองต่างหาก
        แม้นางจะทำให้ข้าโกรธแค้น ข้าก็สามารถเลือกที่จะทำเช่นไร หรือเลือกทำอะไรในวันข้างหน้าด้วยตัวเองได้เช่นกัน"
       "แล้วต่อไปเจ้าคิดว่าจะเลือกกลับตัวเป็นคนดีได้งั้นหรือ เจ้าเดินทางผิดมาตลอดสร้างความเจ็บแค้นไว้ให้ผู้อื่นเช่นกัน
        คนเหล่านั้นจะยอมให้เจ้าเลิกง่ายๆหรือ คงตามเอาคืนเจ้าเช่นกัน เจ้ามีแต่ฝ่ายอธรรมเป็นเพื่อนเท่านั้น ตอนนี้คิดไปยืนข้างฝ่ายดีก็จะเป็นศัตรูกับฝ่ายคนเลว
        จะยิ่งหนักไปใหญ่เพราะสุดท้ายเจ้าจะกลายเป็นศัตรูกับทั้งฝ่ายดีกับฝ่ายไม่ดีเหลือแต่ลำพังเจ้าจะทำเช่นไร"

        กังปังฟังที่หม่าหยงพูดก็มีเหตุผล

        "ข้าก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน เพราะคนเมื่อทำผิดก็จะผิดถลำลีกลงไปเรื่อยๆ แต่หากไม่รู้จักกลับตัวเริ่มต้นใหม่ไหนเลยจะกลับตัวได้สักที "
        "เจ้าพูดจาช่างตลกน่าขบขันไม่เหมือนเป็นคำพูดออกมาจากปากเจ้าเลย หรือว่ามีวิญญาณปีศาจใดมาเข้าสิงเจ้ากันแน่"
        "ตื่นได้แล้วกังปัง แต่เด็กเจ้าก็ชอบเพ้อฝันว่าตัวเองจะเป็นจอมยุทธทรงคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ เอาแต่เรียกตัวเองว่าเป็นกงจื้อ ทั้งๆที่ไม่มีใครแต่งตั้งเจ้า วีรบุรุษผู้กล้าเขาเริ่มกันตั้งแต่เริ่มเข้าวัยรุ่น ก่อร่างสร้างชื่อจนมีชื่อเสียงแล้วก็ใช้ฃีวิตตั้งแต่กลางคนอย่างสงบจนสิ้นอายุไขให้คนรุ่นหลังดำเนินรอยตามต่อไป"

        "แต่เจ้าตอนนี้อายุปาเข้าไปตั้งบสามสิบเท่าไร้แล้ว ถึงหน้าเจ้าจะดูอ่อนเยาว์แต่เจ้าโกหกตัวเองไม่ได้ เจ้าไม่ใข่เด็กแล้วมันสายไปแล้วที่เจ้าจะมาท่องยุทธจักรสร้างชื่อเอาตอนแก่"
        กังปังฟังคำพูดของหม่าหยงที่จริงทุกประการ หม่าหยงเป็นลูกพี่ที่กังปังนับถือการดำเนินชีวิตที่ผ่านมาล้วนได้มาจากทัศนะของหม่าหยงทั้งสิ้น
        หม่าหยงเห็นกังปังเริ่มคิดคล้อยตาม
       "เจ้าอย่าเสียเวลาไปคิดที่จะผดุงคุณธรรมเพ้อฝันอะไรเลย มันมีแต่คนหลอกลวงเจ้าเล่ห์ทั้งนั้น มีแต่เจ้าต้องมีเล่ห์เหลี่ยม ร้ายให้พอตัวเท่านั้นจึงมีชีวิตรอดดั่งที่เจ้าก็ได้ประจักษ เรื่องนี้เจ้าไม่มีทางเป็นพระเอกได้หรอก กลับมาเป็นผู้ร้ายอย่างเดิมเชื่อข้าสิ"

         กังปังนิ่งเงียบคล้ายในใจโต้แย้งกันอย่างรุนแรง

"ท่านแม่ต่อไปข้าโตขึ้นจะต้องเป็นจอมยุทธที่ทรงคุณธรรม

จะใช้เพลงกระบี่ขจัดภัย ขจัดภัยของบู๊ลิ้มให้หมดไป ข้าขอสัญญา"

         "แม่เชื่อว่าลูกแม่ต่อไปต้องเป็นจอมยุทธที่ยิ่งใหญ่ได้แน่ แม่จะรอวันนั้น"


          กังปังนึกถึงคำพูดตอนเด็กที่เตยพูดกับมารดาบุญธรรม ฟู่หนี่เอ๋อ ขึ้นมาได้

          "ข้าตัดสินใจแล้ว"

           หม่าหยงรอฟังคำตอบของกังปัง

          "แม้การเริ่มต้นของข้าจะช้า แต่ก็ดีกว่าที่จะไม่คิดเริ่ม แม้เวลาและโอกาสของข้าจะเหลือน้อยนิดเพียงใด ก็จะขอใช้เวลาและโอกาสอันน้อยเพื่อเริ่มใหม่ ท่านแม่ข้าเคยสอนไว้
          คนเราไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็ต้องลุกขี้นมาให้ได้
          แม้ผิดพลาดล้มไปก็ต้องลุกขึ้นต่อสู้ใหม่แก้ไขสิ่งผิดให้เป็นถูกสักที


หากไม่คิดแก้ตัวเมื่อยังมีโอกาส ก็จะไม่มีโอกาสให้แก้ตัวอีกแล้ว"

         "เอาละข้ายอมแล้วว่าเจ้าถูกปีศาจเข้าสิงจริงๆ ถึงคิดเช่นนี้แล้วเจ้าจะทำไงต่อ"

         "ขอเพียงท่านยอมเลิกละเว้นร้าน์หลิงหงส์และสัญญาว่าจะไม่กลับมาระรานอีกข้าก็ไม่บอกใครและจะปล่อยท่านไป"
        "ปล่อยข้าหรือ เจ้านึกว่าเป็นจอมยุทธกังปังไปแล้วจริงๆหรือ เจ้ายังละเมออยู่หรือเปล่า"
         หม่าหยงพูดปนรู้สึกขบขัน เพราะตัวเองเป็นลูกพี่กังปังไม่เคยเห็นว่ากังปังจะมีวรยุทธใดเป็นแค่กระบี่งูๆปลาๆเท่านั้น

         กังปังไม่พูดต่อ  ตรงไปหักกิ่งไม้มาได้อันหนึ่งริดใบทิ้งมาถือในมือ เดินไปยืนบนแท่นไม้ที่สร้างให้คนเป็นที่นั่งพักผ่อน ประกบนิ้วชี้กับนิ้วกลางยื่นไปข้างหน้า ยกข่อศอกขวาดันไปข้างหลัง
        "อะไรกันเพลงกระบี่ขจัดภัยตระกูลฟู่หรือ เจ้ายังมีแก่ใจเล่นเป็นเด็กๆอีก"
        "เทอดฟ้าคำนับดินอะไรของเจ้ามันกระจอก บิดาเจ้ายังสู้ข้าไม่ได้เลยต้องอับอายปิดสำนักไป"
        กังปังไม่อาจทนให้ใครมาระรานดูถูกตระกูลฟู่อีกต่อไป จึงคิดใช้เพลงกระบี่นี้สยบศัตรู
        "ข้ามัวมาเสียเวลากับคนสติไม่ดีทำไมกันนะ ข้าน่าจะไปทำการปล้นร้านหลิงหงส์จะได้กลับไปตั้งนานแล้ว"
         เอาพวกเจ้าจัดการมันซะ จริงๆข้ารักเจ้าเหมือนน้องไม่คิดว่าเราต้องมาจบกันเพราะแบบนี้
         ชายชุดดำสามคนถือกระบี่ตรงเข้าไปหา

         "เดี๋ยวหยุดก่อน"

          ชายทั้งสามชงัก

         "มีอะไรเจ้าเปลี่ยนใจหรือไง"
         "เปล่าให้ข้าพูดก่อน"
         "เหล่าร้ายต้องสยบเมื่อพบกงจื้อกังปัง ระวังกระบี่ขจัดภัยของเราให้ดี"

         ทั้งหมดถึงกับหัวเราะก๊ากส์ พร้อมกัน ดูท่าว่ากังปังมันคงสติไม่ดีจริงๆ
         ยามหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ยังมีแก่ใจมาพูดล้อเล่นอีก
        "กระบวนท่าแรก เทอดฟ้าคำนับดิน ยากส์..."

         กังปังกระโดดตัวลอยจากแท่นไม้ ชายชุดดำรู้แล้วว่ากังปังต้องมาแบบนี้เพราะเห็นกังปังเล่นเมื่อตอนกลางวันจึงยกกระบี่ขึ้นตั้งรับ
         มิคาดว่ากิ่งไม้ในมือกังปังรอดผ่านกระบี่ของพวกตนมาได้เช่นไร กังปังถึงแทงกิ่งไม้มาที่หน้าอกพวกตนทีเดียวสามคนรวด
         ต่างล้มลงไปนอนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ ดีที่กังปังเพียงแค่คิดออมมือสั่งสอนเท่านั้น พวกที่เหลือล้วนงุนงงยังไม่หายดี ก็ถูกกิ่งไม้ของกังปังที่พลิกกระบวนท่าไปฟ้นถูกใบหน้าและร่างกายล้มลงจนหมดสิ้น
         เหลือเพียงหม่าหยงที่ยินตลึงอยู่คนเดียว

        "เฮ้ย เจ้าทำได้ไง"

        "เป็นอีกครั้งที่ยุทธภพกลับคืนสู่ความสงบ ด้วยฝีมือจอมยุทธกังปัง"

         กังปังยังพูดล้อเล่นตลก แต่คราวนี่หม่าหยงไม่ขำแล้ว

        "ดูเหมือนฝีมือเจ้าจะก้าวหน้าขึ้นมาก แต่ดูกระบวนท่าหลังๆกลับไม่ใช่เพลงกระบี่ขจัดภัยเท่าไร"
        "พี่หม่าคงเห็นแล้วว่าหากเข้าไปปล้นคงไม่สำเร็จ จงพาพวกกลับไปดีกว่าและให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่มาระรานร้านหลิงหงส์อีกตลอดไป สัญญาซิ "
        หม่าหยงเห็นแล้วว่าคงสู้กังปังไม่ได้ มองสบตากับกังปังอยู่ครู่หนึ่ง ปากจึงขยับเขยื้อนขึ้น
        "ก็ได้..ข้า...สัญญา"
        "ข้าเชื่อในคำพูดพี่หม่าที่รักษาสัญญาเสมอมา เราเลิกกันแค่นี้เถอะ"

         ว่าแล้วกังปังก็หันหลังกลับ แต่เห็นกระบี่เล่มหนึ่งตกที่พื้นจึงก้มลงหมายเก็บกระบี่ส่งคืน
        (มีคำกล่าวว่าเวลาเปลี่ยนใจคนเปลี่ยน จริงๆแล้วใจคนก็เปลี่ยนได้ทุกเวลา เพียงแต่จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหรือเลวลงเท่านั้น)

        หม่าหยงที่เป็นโจรยึดมั่นในคุณธรรมคำพูดข้างต้นก็อาจเป็นตัวอย่างหนึ่งเช่นกัน
        ขณะที่กังปังก้มลงเก็บกระบี่อย่างไม่ทันระวัง หม่าหยงแอบชักกระบี่ออกมาอย่างเงียบงัน ในจังหวะนั้นหม่าหยงเห็นเป็นโอกาสงามที่ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้
        จึงตรงเอากระบี่ตรงเข้าแทงกังปังจากด้านหลัง

         "สวบ"

         เสียงกระบี่แทงเข้าไปในเนื้อคน กังปังรู้สึกเจ็บปวดที่ใจอย่างสุดแสน

         "ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้ละ ข้าอุตส่าห์ไม่อยากสังหารท่าน เพียงท่านหยุดได้ก่อนไม่เข้ามา หรือหันหลังจากไป เราก็จากกันด้วยดีแล้ว"
         
         กังปังพูดด้วยความเจ๋บปวดไม่อยากจะหันหน้ามาดูหม่าหยงเลย แต่เมื่อหันมาพบ
         หม่าหยงถึงกับปากอ้าตาค้าง ไม่มีคำตอบคล้ายไม่อยากเชื่อว่าจะมีกระบี่เล่มใดที่ออกมาจากด้านหลังกังปังพุ่งเสียบเข้ากลางอกทะลุไปข้างหลังมันได้ หม่าหยงขาดใจตายไปแล้วจึงไม่มีคำตอบให้กังปัง
         พวกลูกน้องที่เหลือต่างมองไม่ทันเช่นกันว่ากังปังใช้วิฃาฝีมือใดจึงปลิดชีพหม่าหยงได้

         ตอนนี้ต่างเกิดความหวาดหวั่นพรั่นพรึงกังปังราวกับมัจจุราช มีบางคนเริ่มคุกเข่าร้องขอชีวิต พวกที่เหลือจึงทำตาม

         กังปังจึงสั่งให้พวกมันเอาศพหม่าหยงไปกลบฝั้ง หากใครคิดกลับมาระรานร้านหลิงหงส์หรือตระกูลฟู่จะทำการสังหารให้หมดทุกคน

         สำหรับกังปังแล้วเหมือนโลกนี้เต็มไปด้วยคำว่า "ถ้าหากว่า"
         กังปังเชื่อว่าหม่าหยงคงเตรียมการปล้นร้านหลิงหงส์ไว้หลายวันแล้ว คงไม่ใข่เพราะบังเอิญเจอกังปังในวันนี้จึงคิดในทันที
         ถ้าหากว่า ไม่เจอกังปังหรือกังปังไม่ได้กลับมาในวันนี้หม่าหยงอาจทำการปล้นร้านหลิงหงส์ได้สำเร็จ แต่เพราะพบกังปังจึงคิดว่าให้กังปังวางยานอนหลับคนในบ้าน เพื่อเวลาทำการจะได้ไม่ต้องมีการต่อสู้ให้ใครบาดเจ็บล้มตาย เพียงแค่ต้องการเอาทรัพย์สมบัติเท่านั้น
         กังปังได้ขอให้หม่าหยงละเว้นอย่าปล้นร้านหลิงหงส์ หม่าหยงน่าจะเห็นแก่คุณธรรมน้ำมิตรเลิกไป แต่ดูเหมือนที่หม่าหยงไม่ยอมและเหมือนว่าจะต้องทำการในวันนี้ให้ได้ เป็นเพราะหม่าหยงมีความจำเป็นใดที่จะรอช้าไปอีกไม่ได้จึงไม่ยอมเลิกลา
         ถ้าหากว่า หม่าหยงได้เล่าให้ฟังสักนิดบางทีกังปังอาจช่วยแก้ปัญหาได้ หรือหากต้องให้กังปังต้องไปทำผิดโดยการไปปล้นใครที่อื่นด้วยเพราะเหตุจำเป็นของหม่าหยงใหญ่หลวงจำเป็นต้องใช้เงินในวันพรุ่งนี้ เช่น ลูกอาจป่วยหนัก เจ้าหนี้เร่งรัดหากไม่ได้เงินจะฆ่าคนในครอบครัวหม่าหยงตายทั้งครอบครัว เช่นนี้กังปังคงต้องโดดเข้าไปร่วมทำผิดเพื่อคุณธรรมน้ำมิตรเช่นกัน
         หรือถ้าหากว่ากังปังได้เอะใจถามสาเหตุหม่าหยงสักนิดว่าทำไมไม่ยอมเลิกลา ก็จะดีแต่กังปังก็ไม่ได้ถามมาคิดได้เมื่อตอนได้สังหารหม่าหยงไปแล้ว
         กังปังสบัดดาบไปช้างหลังจริงๆก็ไม่ได้มีเจตนาฆ่าหม่าหยงคิดว่า ถ้าหากว่าหม่าหยงคิดเปลี่ยนใจกลางคันที่จะไม่ทำร้ายกังปังก็อาจเห็นกระบี่นี้อาจโดนแค่บาดเจ็บ
         หม่าหยงถ้าหากว่ายังยึดมั่นในคำสัญญาเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ ยอมหันหลังกลับก็จะไม่ต้องเสียชีวิต
         หม่าหยงที่ยึดมั่นในสัจจะตัวเองมาตลอด กลับมาทำผิดสัจจะของตัวเองแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแต่กลับทำให้ตัวเองต้องเสียชีวิต
         น่าเศร้าที่เวลาทุกคนประสบปัญหาความเดือดร้อน แล้วมักตัดสินอะไรที่ผิดแต่มานึกได้ในภายหลังที่ทำไปแล้วต้องเสียใจ
         ทุกคนล้วนมีเรื่องเดือดร้อนและอ้างความจำเป็นต้องทำทั้งนั้น ดังนั้นคนดีหรือเลวอาจต้องพิสูจน์กันว่าในยามที่ประสบกับความเดือดร้อน จะยังคงเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกหรือผิดมากกว่ากัน
         ตอนนี้ทุกคนไปกันหมดสิ้นแล้ว เหลือแต่เพียงกังปังที่ยังคงนั่งอยู่นิ่งอยู่ที่ลานดินนั้นโดยไม่ขยับไปไหน
         จนมีคนหนึ่งเดินเข้ามาหากังปัง
         "เรากลับบ้านกันเถอะกังปัง"
         "พี่เจียง ตอนนี้ข้าจำทุกสิ่งได้หมดแล้ว ข้าเป็นคนพาโจรไปปล้นสินค้า จนทำให้ทุกคนแทบบ้านแตกสาแหรกขาด ประสบกับความทุกข์ยาก แม่บุญธรรมต้องล้มป่วยแล้วตายไปเพราะข้าใช่หรือไม่"
         "ไม่ใช่หรอกเจ้าจากไปสามปีแล้วนางจึงล้มป่วยลงตอนนั้นฐานะที่บ้านก็เริ่มดีขึ้นแล้ว จึงพอมีเงินรักษาแล้วแต่มารดาก็ต้องเสียชีวิตด้วยโรคภัย เป็นเพราะอายุขัยของนางสวรรค์คงกำหนดให้มีเพียงเท่านี้อย่าคิดมากเลย"
         "ข้าละอายใจไม่กล้ากลับบ้านแล้วข้ารู้แล้วว่าทำไมข้าถึงลืมเรื่องเหล่านี้ เป็นเพราะข้าไม่อยากจำมันเองตอนที่สมองข้าเกิดอุบัติเหตุมันจึงทำให้ข้าลืม"
         "อืม...มันคงเป็นกลไกตามธรรมชาติตามเจ้าวิเคราะห์  แต่เมื่อเจ้าจำได้และยอมรับความจริงเรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดไปและแก้ไขมันนับเป็นเรื่องประเสริฐมากแล้ว"
         "ตอนนี้ทุกคนคงรอเจ้าอยู่ เรื่องเมื่อสักครู่ทุกคนได้รับทราบแล้ว และเข้าใจแล้วว่าเจ้ากลับมาคราวนี้ไม่ใช่เพราะความโกรธแค้น แต่มาช่วยปกป้องพวกเราไว้ด้วย"
         "เอ..พวกท่านรู้ด้วยหรือ"
         "เจ้าหมดสติไปนานทีเดียว แล้วอยู่ๆก็หายไปเราทุกคนเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าจะเป็นอะไรจึงตามหา ข้าสันนิฐานว่าเจ้าคงมาทีนี้เพราะเห็นเจ้าผูกพันกับที่ตรงนี้ พวกเรามาถึงเห็นเจ้าทุ่มเถึยงกับหม่าหยงจึงแอบฟัง และเห็นเจ้าสังหารหม่าหยงตายเพื่อช่วยปกป้องร้านหลิงหงส์เอาไว้"
          "อา..พวกท่านเห็นหมดแล้ว"
          "อืม..บิดามีเรื่องที่ต้องการคุยกับเจ้าหลายเรื่อง รวมถึงอาการของเจ้าด้วย"
          "อาการของข้า เป็นอะไรเหรอ.."
          "ตอนเจ้าหมดสติบิดาได้เชิญหมอมารักษา ..ไว้เข้าไปในบ้านค่อยคุยกันดีกว่า "
          ----------------------------------------------------
           จบ season 1
           คอยพบกับ season 2 เร็วๆนี้
           ขอคุยท้ายเรื่องในตอนนี้สักหน่อย
           ผู้เขียนได้คุยกับผู้อ่านกำลังภายใน(ที่ไม่ใช่นิยายเสียว) ถามว่าเหตุใดจึงชอบนวนิยายจีน
           ส่วนใหญ่ตอบว่าเพราะมีการแฝงข้อคิดและตีแผ่จิตใจของผู้คนออกมาได้ดี และมีคำคมปรัชญาด้วยคำสั้นๆแต่แฝงความหมายลึกซึ้ง เช่น หนึ่งร้อยคนรักไม่เท่าหนึ่งคนภักดี หนึ่งร้อยคำหวานที่มีไม่เท่าหนึ่งคำที่จริงใจ(เสียวเล้งนี้ง)
          จึงกลับมามองนิยายตนเองก็เห็ยว่าขาดตรงนี้เลยคิดจะแทรกตรงนี้เหมือนกัน แต่เนื่องจากมันเป็นนิยายเสียวก็เกรงว่าผู้อ่านอาจไม่ต้องการเน้นเรื่องเสียวดีกว่า ก็ขอผสมกันไปแล้วกันอยากให้เป็นนิยายเสียวแต่คงมีเนิ้อหาความสนุกเป็นกำลังภายในให้มากที่สุด ตอนไหนชอบไม่ชอบก็คละกันไป
          สำหรับตอนอดีตกังปัง ทีแรกตั้งใจจะปูเป็นแนวทางนิดเดียวว่าอะไรที่ทำให้กังปังกลับใจ เพราะอยู่ๆคนเลวกลายเป็นคนดีปุ้บปั้บเลยจะดูไร้เหตุผลเกินไป ในตามความคิดผู้เขียน เลยอาจมีดราม่าเข้ามาบ้าง
          ฃอบไม่ชอบอย่าไรแสดงความคิดเห็นได้
          อ่านหลายๆคอมเม้นท์ มีผู้อ่านหลายท่านต้องการให้เขียนเรื่อง น้องศรีธนญชัย เพิ่มอีกนิด แล้วจะต่อให้ครับ เขียนทีเดียว 2 เรื่อง 2 อารมณ์ปรับอารมณ์ตัวเองไม่ถูกเช่นกัน

kaithai

ขั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน คนเค้ากล่าว เรื่องราวของชีวิต

แต่กังปัง  ขั่วเจ็ดที ดีหนเดียว  ยังสามารถ กลับใจได้

แบบนี้ถือว่าไม่ธรรมดา  ดราม่าคงมาต่อ ในภาคสอง ต้องติดตาม

Seraphia13

แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัว แต่ว่าจะรับฟังกันไหมอีกเรื่องหนึ่ง

cobra

cd13579

เอาตามแบบนี้ละครับ มันกลมกล่อมลงตัวแล้ว

cobra
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

err

ชอบมากครับตอนนี้  กังปังเท่  มากๆ   แบบนี้เป็นพระเอกสบายเลย

cobra

somc217

อ่านแล้วเพลินดีครับ
ผมโดยส่วนตัว ชื่นชอบแนวกำลังภายในอยู่แล้ว
รออ่านภาคถัดไปครับ
ขอบคุณมาก

cobra

bergkamp

สองตอนสุดท้ายเขียนได้ดีมากครับ

เป็นการเล่าเรื่อง และอารมณ์ งานเขียนที่มีพลังเลย อ่านแล้วอิน

cobra

biggiggog

สำหรับคอกำลังภายในอย่างผม บทเสียวเป็นแค่ส่วนประกอบ
ถ้าเนื้อเรื่องมันok ไหลเลื่อน มันก็สนุกได้
::ChuChu::
ขอบคุณมากๆครับ

cobra

wattana2015

จริงๆแล้วผมเองก็คิดเหมือนท่าน cobra นั่นแหละครับ  ที่อ่านนิยายกำลังภายในไม่ได้เน้นบทเสียวหรอกครับ  ถ้าเนื้อเรื่องดีจะไม่มีบทเสียวเลยก็ไม่ว่ากัน  ไม่งั้นเราคงไม่ติดตามนิยายของท่านกิมย้งหรอกครับ  แต่ติดว่าผมเองยังอ่อนด้อยในประสบการณ์งานเขียนแนวนี้(แนวกำลังภายใน)ก็เลยขออนุญาตดูผลงานท่านเป็นแบบอย่างส่วนหนึ่งนี่ล่ะครับ  แต่พอมันเป็นนิยายอิโรติกก็เลยพอใส่ลูกเล่นเรื่องเสียวมาทดแทนเสียมากกว่า  ขอเป็นกำลังใจให้ท่านได้แต่งในแบบที่ท่านชอบจะดีกว่าครับ  บางครั้งการแต่งเอาใจคนอ่านแต่ถ้าเราไม่ชอบไม่ถนัดไม่นานเราเองจะเบื่อและไม่มีอารมณ์ที่จะสร้างงานต่อ  อันนี้ผมว่าท่านเองก็คงทราบดีอยู่แล้วเป็นกำลังใจให้ท่านเสมออีกแรงใจหนึ่งนะครับ  รุ่นพี่  ::Fighto::

ขอบคุณครับ cobra

dwarf

ขอบคุณครับ..สุดยอดเลยสำหรับตอนนี้ที่ได้สอดแทรกสิ่งดีๆ เข้ามา  เรื่องเสียวไม่จำเป็นที่จะต้องมีบทเสียวอย่างเดียว..แฝงแนวคิดแบบนี้ ขอคารวะครับ

cobra

Nikubou

ดำเนินเรื่องแบบนี้ผมว่าดีแล้วครับ ไม่มีเรื่องเสียวไม่เป็นไร เพราะที่ติดตามอ่านมาผมรู้สึกว่าท่านผู้ประพันธ์วางพล็อตเรื่องได้อย่างสมบูรณ์มากทีเดียว
รอภาคต่ออย่างใจจดใจจ่อครับ

cobra

chon20r

ผมชอบเนื้อเรื่องที่ แต่งนะครับ ได้บรรยากาศดีอ่านเพลินสนุกดีครับ ถึงไม่มีตอนเสียวก็อ่านเพลิน เป็นกำลังใจให้ครับ

cobra

JKLTT69

 มาถูกทางแล้วครับ พล๊อตเรื่องแบบนี้ดีมากเลยครับ แปลกใหม สนุก แถมมีครบทุกรสชาติอีก(โดยเฉพาะฉาก18+ 555) สุดยอดครับ

P Eet ✦Diamond✦

An absolute favor of mine & the gang ... E..E ... Chinese period erotica .... You just can NEVER get enough of!!! Even though this particular episode the X-factor is 2 ( E..E... I apologize for the low rating of this episode ). I am sure they will be enough of it ( total ) anyhow.  Most times a story by this writer is NOT all about an erotic scene ... it's about the story in itself ... it is actually good enough for us to want to follow through to the end!

All in all ... let's just say .... Hooray for another of what looks like will be a great saga !!!

P.S.  Dearest writer ... will we mere mortal readers see this saga in an E-book ?  Love to own it in my personal collection!

Much thanks for the joy  that you bring to us (readers ) even though we don't say it enough times, but never doubt that any & all writers who took the time to share their imagination to us IS greatly APPRECIATED !!!
ขอบคุณครับ cobra

Disclaimer: The view and opinion expressed on this website are solely those of my very own. It is solely for the purpose of entertainment and has NO meaningful value of any kind. They DO NOT necessarily represent those of the majority of READERS & WRITERS of this website staff, and/or any/all contributors to this site.

ஜ۩۞۩ஜ THANK YOU ஜ۩۞۩ஜ 



❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

DIAMONDS ARE FOREVER !!!

   ..... (¯`v´¯)♥
   .......•.¸.•´
   ....¸.•´
   ... (
   ☻/
   /▌♥♥
   / \ ♥♥