ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ศึกสองนางพญา 11-15

เริ่มโดย mimza12348, กรกฎาคม 03, 2015, 04:17:16 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mimza12348

   ศึกสองนางพญา ตอนที่ 11 ช่วยเหลือขุนทัพ

ยามบ่าย อากาศร้อนอบอ้าว ชายฉกรรจ์บุคลิกงามสง่าผู้หนึ่งจูงม้าไปผูกกับเสาไม้ข้างเหลาสุราแห่งหนึ่ง เขียนข้อความ "ขายม้า" ลงบนกระดาษ ติดอยู่บนเสาไม้ ตนเองนั่งกอดเข้าที่หน้าประตูเหลาสุราเฝ้ารอคอย

ชายฉกรรจ์ผู้นี้คำ อู๋ซันกุ้ย เป็นรองแม่ทัพใต้บังคับบัญชาของหุงเฉิงโฉว ได้รับคำสั่งให้มาขอกำลังหนุนจากเมืองหลวง แต่เนื่องจากไม่มีทรัพย์สินมาติดสินบน ทำให้หุงเฉิงโฉวซึ่งควบคุมกองกำลังทหารอยู่จึงยึดยื้อไม่ยอมให้เข้าพบ อู๋ซันกุ้ยได้แต่รอคอยจนกระทั่งข่าวกองทัพแตกพ่าย เมืองที่รักษาไว้ถูกยึด ทำให้อู๋ซันกุ้ยบันดาลโทสะฆ่าคนของเฉาฮั่วฉุนทิ้ง แล้วหลบหนีมา

คนขัดสนเงินทาง ยากที่จะเดินทางไกล อู๋ซันกุ้ยยามอับจนสิ้นหนทาง ได้แต่ขายม้าแลกเงินทองแล้ว

ขณะนั่งคอยพลันได้ยินเสียงฝีเท้าดังสิบสน ดรุณีสาวสะคราญโฉมสองนาง คุ้มกันเกี้ยงหรูหราคันหนึ่งผ่านมา
เกี้ยวหรูหราปล่อยม่านมิดชิด ใช้ชายฉกรรจ์สี่คนแบกหาม เมื่อมองลอดผ่านเกี้ยวเข้าไป เพียงเห็นภายในเกี้ยวนั่งไว้ด้วยเงาร่างอ้อนแอ้นสายหนึ่ง

ขบวนเกี้ยวพอผ่านม้าขาวตัวนั้น สตรีในเกี้ยวพลันสั่งว่า
"เสียวเชี่ยน หยุดเกี้ยว"
ดรุณีงามหน้าเกี้ยวนางหนึ่งรับคำ สั่งให้เกี้ยวหยุดลง เร่งรุดถึงข้างเกี้ยว สอบถามว่า
"องค์หญิง มีเรื่องใด"
สตรีภายในเกี้ยวกล่าวว่า
"ม้าตัวนั้นงามสง่ายิ่ง เจ้าซื้อให้กับเรา"

ที่แท้สตรีในเกี้ยวเป็นองค์หญิงรองของฉุงเจินโจวฮ่องเต้นามเจาเหยินกงจู้ ดรุณีที่หน้าเกี้ยวทั้งสองเป็นนางกำนัลคนสนิทนามเฟยจินเอ๋อและแนเสี่ยวเชี่ยนเอง
แนเสี่ยวเชี่ยนรับคำ เดินถึงข้างกายอู๋ซันกุ้ย ร้องเรียกว่า
"นี่ ท่านใช่คิดขายม้าหรือไม่"
"อู๋ซันกุ้ยเงยหน้ากวาดมองนางแวบหนึ่ง กล่าวว่า
"ม้าของเราตัวนี้ไม่ขายให้กับท่าน"
แนเสี่ยวเชียนงงงันวูบ ถามโพล่งว่า
"เพราะเหตุใด"
"ม้าตัวนี้เป็นสหายเรากำนัลให้ ตอนนี้เราอับจนสิ้นหนทางจึงคิดขายมัน มาตรว่าคิดขายก็ต้องเสาะหานายที่ดีให้"
"มิใช่ข้าพเจ้าต้องการซื้อม้า หากแต่เป็นคนในเกี้ยวต้องการซื้อม้าท่าน"
"นายหญิงของท่านเป็นใคร เราต้องการพบนางค่อยพิจารณาว่าจะขายม้าให้หรือไม่"

เจาเหยินกงจู้ภายใจเกี้ยวได้ยินคำโต้ตอบของทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน พลันกล่าวว่า
"เสียวเชี่ยน เราได้ยินคำโต้ตอบของพวกเจ้าแล้ว คนผู้นี้โง่งมน่ารักยิ่ง นำมันมาพบเราเถอะ"
แนเสี่ยวเชี่ยนกล่าวกับอู๋ซันกุ้ยว่า
"ตามข้าพเจ้ามา"

พลางหันกายไปก่อน อู๋ซันกุ้ยเพิ่งผุดลุกขึ้น พลันได้ยินเสียงร้อง "ฆ่า" ดาบสองเล่มไขว้จู่โจมมาถึง
อู๋ซันกุ้ยใจหายวาบ ยกมือผลักกระแทกสภาวะดาบเบนเบือน สายตายามกวาดมองเห็นองครักษ์ชุดแดงจำนวนหนึ่งถืออาวุธครบมือฮือโหมมาถึง ดูจากเครื่องแต่งกายแสดงว่าเป็นองครักษ์พิทักษ์ตึกสังกัดเฉาฮั่วฉุน

อู๋ซันกุ้ยฝืนใจต่อสู้รับการกลุ้มรุมจากเหล่าองครักษ์ สักครู่ก็ถูกหัวหน้าองครักษ์ถีบจนเซถลาลงกับพื้น ขณะกัดฟันลุกขึ้น หัวหน้าองครักษ์นั้นก็ชักกระบี่โถมจู่โจมเข้ามา
อู๋ซันกุ้ยอดหยากสิ้นเรี่ยวแรง ได้แต่สลับเท้าถดถอย หัวหน้าองครักษ์กวาดกระบี่ตามติดก็ฟันใส่เท้าอู๋ซันกุ้ย เป็นบาดแผลโลหิตสายหนึ่ง
อู๋ซันกุ้ยรู้สึกปวดแปลบ หัวเข่าอ่อนระทวยไม่สามารถทรงกายสืบไป ล้มฟุบลงบนพื้น

หัวหน้าองครักษ์นั้นตวัดกระบี่ขึ้น หมายปลิดชีวิตอู๋ซันกุ้ยกับมือ

ทันใด เงาร่างอ้อนแอ้นสายหนึ่ง ม้วนตีลังกาเข้ามาดุจนางแอ่นโฉบคลื่น รางไม่ทันตกพื้นก็ยื่นกระบี่ปราดออก เสียงเคร้งเมื่อต้านปะทะสภาวะดาบของหัวหน้าองครักษ์ไว้พอดี
เงาร่างอ้อนแอ้นสายนั้นตวัดกระบี่ต้านปะทะ หยิบยืมพลังปะทะ หงายร่างตีลังกา ทิ้งตัวลงที่หน้าเกี้ยว ยามนั้นค่อยเห็นชัดตาว่า นางคือ เฟยจินเอ๋อเอง

เฟยจินเอ๋อพอทิ้งตัวลงก็ยกกระบี่ตั้งท่า ขณะเดียวกันแนเสี่ยวเชี่ยนก็ชักกระบี่ออกจากฝัก ดาหน้าเข้าหาองครักษ์ชุดแดงเหล่านั้น
อย่าได้ดูแคลนพวกเนางเป็นสตรี ทั้งยังมีกำลังน้อยกว่า ยามอยู่ในวงล้อมขององครักษ์ชุดแดง ยังโลดลิ่วดุจผีเสื้อล้อบุปผา ร่ายรำกระบี่ดั่งสายฟ้าคะนองฝน คุกคามเหล่าองครักษ์ชุดแดงแตกฮือไปคนทิศคนละทาง

เฟยจินเอ๋อสืบเท้าปราด ย่อตัวกวาดกระบี่ใส่ หัวหน้าองครักษ์รีบหงายหน้าตีลังกาหลบเลียง พอยืนหยัดมั่น ต้องร้องว่า
"พวกเนางเป็นคนขององค์หญิงเจาเหยิน พวกเราไป"
ขาดคำนำเหล่าองครักษ์ชุดแดงล่าถอยจากไป

แนเสี่ยวเชี่ยนกวาดตาไปยังอู๋ซันกุ้ยที่สลบไสล ขณะไม่ทราบจัดการอย่างไร พลันเหลือบเห็นคนผู้หนึ่งแบกฟืนมัดผ่านมา ดังนั้นฉุกใจคิด ตวัดกระบี่จ่อใส่คนผู้นั้น บังคับให้มันทิ้งฟืนแบกอู๋ซันกุ้ยกลับวังหลวงไป

...................................................................................

ไม่ทราบผ่านไปนานเท่าใด อู๋ซันกุ้ยค่อยฟื้นสติมา พอลืมตาขึ้น พบว่าตนนอนอยู่บนเตียงนุ่มนิ่มหลังม่านมุ้งแพร สร้างความตื่นตระหนกจนพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง
อู๋ซันกุ้ยก้าวลงจากเตียงพอก้มศีรษะลงค่อยพบว่าตนเองได้รับการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อย พลันได้ยินเสียงผลักประตู ดรุณีสวมชุดเหลืองกับชุดครามเดินเคียงคู่เข้ามา อู๋ซันกุ้ยโพล่งว่า
"เราจดจำท่านออก ท่านเป็นหญิงรับใช้ที่ติดต่อขอซื้อม้าจากเรา"
ดรุณีชุดครามยิ้มกล่าวว่า
"มิผิด ข้าพเจ้าเรียกว่าแนเสี่ยวเชี่ยน"
ดรุณีชุดเหลืองกล่าวเสริม
"ข้าพเจ้าเรียกว่าเฟยจินเอ๋อ"
"เราไฉนอยู่ที่นี่"
"ท่านสิ้นสติอยู่กลางถนน เป็นนายหญิงเราช่วยไว้"
"แต่เราล่วงเกินเฉาฮั่วฉุน เกรงว่าจะชักนำเภทภัยแก่นายเหนือท่าน"
"นายหญิงเรากระทั่งฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ยังกริ่งเกรงนางอยู่หลายส่วน นางเมื่อยื่นมือช่วยเหลือท่าน ท่านก็ไม่ต้องกังวลใจแล้ว"
"ไม่ทราบนายหญิงท่านเป็นใคร โปรดนำเราพบพาน อนุญาตเรากล่าวขอบคุณนาสักคำ"
เฟยจินเอ๋อหัวร่อพลางกล่าว
"ท่านต้องการพบนายหญิงเรา เกรงว่าไม่มีศักดิ์ศรีเพียงพอ"
แนเสี่ยวเชี่ยนกล่าวเสริมขึ้น
"นี่ ท่านยังไม่ได้บอกว่าชื่ออะไร"
"เราเรียกว่าอู๋ซันกุ้ย"
"ดูท่านมีบุคลิกสูงสง่า ไฉนตกต่ำจนเร่ขายม้ากลางถนน"
"กล่าวไปยืดยาวยิ่ง ทุกประการล้วนสืบเนื่องจากเฉาฮั่วฉุน"
"อย่างนั้นท่านรั้งอยู่ที่นี่เถอะ นายหญิงเราชิงชังเฉาฮั่วฉุนที่สุด จะล้างแค้นให้กับท่านเอง"
เฟยจินเอ๋อกล่าวเสริมขึ้น
"รอสักครู่พวกเราจะใช้คนยกอาหารมาให้ท่านรับประทาน นอกจากห้องนี้แล้วท่านอย่าได้วิ่งเพ่นพ่านวุ่นวาย"
กล่าวจบชักชวนกันล่าถอยออกจากห้อง พร้อมกับปิดประตูห้องลง

...................................................................................



ศึกสองนางพญา ตอนที่ 12 แผนลอบสังหาร

ฉางผิงกงจู้เบิกตัวจอหงวนโจวซื่อเสี่ยนเข้าพบในห้องหารือความลับสุดยอด โจวซื่อเสี่ยนพอเห็นเครื่องแต่งกายขององค์หญิงฉางผิงก็ลอบคร่ำครวญในใจ เพราะวันนี้องค์หญิงฉางผิงแต่งตัวด้วยชุดที่วาบหวามยิ่งกว่าคราวที่แล้วอีก นางยังคงสวมชุดแพรสีขาวบางเบา ทว่าครั้งนี้ไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างในเลย ยกเว้นกางเกงชั้นในสีขาวตัวเล็กๆ แลเห็นปทุมถันอวบอูมตูมตั้งดันชุดแพรเนื้อดี เห็นปลายยอดสีชมพูรำไร สร้างความวาบหวิวให้กับโจวซื่อเสี่ยนเป็นอย่างยิ่ง

ฉางผิงกงจู้มองหน้าเขากล่าวว่า
"หุงเฉิงโฉวยอมสวามิภักดิ์กับแมนจูแล้ว สถานการณ์ทางชายแดนเร่งร้อนคับขันท่านทราบเรื่องหรือไม่?"
โจวซื่อเสี่ยนจ้องเขม็งที่ปทุมถันอวบอูมแวบหนึ่ง ก็รีบเงยหน้ารับคำว่า
"ข้าพระองค์ทราบ การศึกที่ชายแดนกลับกลายเป็นเช่นนี้...ล้วนสืบเนื่องจากขันทีโฉดเฉาฮั่วฉุน... มันจงใจหน่วงเหนี่ยวคำสั่งทางทหาร ..เป็น..เหตุให้ทหาร..ชายแดนเสียขวัญ"

โจวซื่อเสี่ยนพูดตะกุกตะกัก เขาไม่อาจหักห้ามสายตาสำรวจเรือนร่างที่น่าหลงใหลข้างหน้าได้ กลิ่นหอมรัญจวนจากร่างขององค์หญิงฉางผิงยิ่งกระตุ้นให้อารมณ์ใคร่ของเขาร้อนแรงขึ้นมา ท่อนควยถึงกับลุกขึ้นตุงเป้ากางเกงขึ้นมาทันที

ฉางผิงกงจู้ลอบจับตาสำรวจโจวซื่อเสี่ยนอยู่ตลอดเวลา เห็นท่อนควยของเขาลุกขึ้นจนกางเกงโป่งพองอย่างชัดเจน ทราบว่าเขาเห็นส่วนสัดของตนเกิดความต้องการตามสัญชาตญานบุรุษหนุ่ม นางมีจุดมุ่งหมายอยู่ในใจจึงแสร้งทำเป็นไม่เห็น กล่าวเสียงเครียดว่า
"วันใดไม่กำจัดเฉาฮั่วฉุน บ้านเมืองยากที่จะมีความสงบสุขได้ ในพื้นที่นครหลวง มันมีหูตาเกลื่อนกลาด หากคิดฆ่ามันนอกจากลอลวงมันออกนอกเมือง"

โจวซื่อเสี่ยนจ้องมองไปที่เป้ากางเกงในอวบอิ่มสมบูรณ์จนเห็นเป็นโคกขององค์หญิงฉางผิง ต้องรู้สึกร้อนรุ่มจนแทบจะอดใจไม่ได้ต้องกล่าวว่า
"องค์หญิง ข้าพระองค์มีเรื่องขอร้อง"
"อะไรหรือ"
"องค์หญิงได้โปรด...สวม...เสื้อคลุมเถอะ... อากาศค่อนข้างเย็น...องค์หญิงไม่แข็งแรง..ข้าพระองค์เกรงว่า..องค์หญิงอาจจะไม่สบาย ทำให้เสียงานใหญ่" เขาพูดตะกุกตะกัก

ดวงตาขององค์หญิงฉางผิงฉายประกายวาวครุ่นคิดในใจ
"จอหงวนผู้นี่ช่างมีคุณธรรมน่าเลื่อมใสนัก เห็นได้ชัดว่าเกิดอารมณ์ความต้องการในตัวเรา แต่สามารถข่มใจไว้ได้ เขาตั้งใจจะบอกให้เราสวมเสื้อผ้าแต่กลัวเราอับอาย กลับสรรหาคำแสดงความเป็นห่วงเราแทน คนผู้นี้เลิศทั้งปัญญา ความกล้าหาญ ไม่มัวเมาในลาภยศ ซ้ำยังสามารถข่มกลั้นราคะในตัวเองได้ นับว่าเป็นวิญญูชนที่แท้จริง ไต้เหม็งได้คนเช่นนี้มาช่วยเหลือนับว่าเป็นวาสนาของพระบิดานัก"

องค์หญิงฉางผิงครุ่นคิดอย่างชื่นชม นางจงใจแต่งกายยั่วยวนโจวซื่อเสี่ยนถึงสองครั้ง เพราะต้องการทดสอบว่าโจวซื่อเสี่ยนจะผ่านด่านราคะได้หรือไม่ ครั้นพบว่าเขาไม่หวั่นไหวต่อเรือนร่างสตรี ทำให้ไว้ใจจอหงวนผู้นี้ได้อย่างเต็มที่ คิดแล้วจึงกล่าวอย่างเฉื่อยชา

"ท่านโจวมีคุณธรรมน่าเลื่อมใสนัก ตอนนี้บ้านเมืองเผชิญวิกฤต ขันทีโฉดครองเมือง เราไหนเลยห่วงใยสุขภาพของตนเอง ท่านโจวเป็นวิญญูชน มีบุคลิกเลิศล้ำ เราท่านอยู่กันสองต่อสอง ท่านโจวยังอ่อนน้อมสำรวมตนนับว่าหาได้ยากยิ่ง พระบิดาได้ท่านมาใช้งาน นับว่าเป็นบุญของไต้เหม็งเราแล้ว"
โจวซื่อเสี่ยนใจหายวาบเหงื่อหลั่งไหลพรั่งพรู ลอบตำหนิตนเองในใจ
"โจวซื่อเสี่ยนเอย เสียทีที่เจ้าร่ำเรียนเป็นถึงจอหงวน องค์หญิงไว้ใจเจ้ายกย่องให้เป็นวิญญูชน แต่เจ้ากลับคิดบัดสีต่อนาง ช่างน่าอายนัก"
คุณธรรมของเขาพอบังเกิด ลำควยทีแข็งชันอยู่ก็ค่อยๆอ่อนตัวลงจนเป็นปกติ องค์หญิงฉางผิงสังกตุเห็นต้องลอบชื่นชมในใจ

โจวซื่อเสี่ยนพอสงบใจได้ปัญญาพลันบังเกิด กล่าวอย่างฉาดฉานว่า
"องค์หญิงชักนำจั่วหวินหลิงซึ่งเป็นยอดฝีมือในสังกัดมันไปแล้ว ขอเพียงพวกเราล่อลวงมันออกจากนครหลวง ข้าพระองค์ขออาสาลอบสังหารมันเอง"
"แต่เฉาฮั่วฉุนฝึกปรือวิชาลมปราณกร้าวแกร่งบริสุทธิ์ มีร่างคงกระพันชาตรี ดาบกระบี่ทั่วไปยากระคายเคืองได้"
"เป็นวิชาพลังทารกบริสุทธิ์"
ฉางผิงกงจู้ผงกศีรษะรับ โจวซื่อเสี่ยนกล่าวต่อ
"แต่ผู้ที่ฝึกวิชาพลังทารกบริสุทธิ์ บนร่างจะมีจุดมรณะแห่งหนึ่ง"
"น่าเสียดายที่พวกเราไม่รู้" ฉางผิงกงจู้กล่าอย่างครุ่นคิด "เรานึกได้วิธีหนึ่ง แต่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากคนสองคน คนหนึ่งพูดจาหว่านล้อมให้เฉาฮั่วฉุนออกจากนครหลวง คนที่สองรับหน้าที่ระเบิดสังหารมัน แต่ผู้ที่จุดสายชนวนต้องตกตายพร้อมกับมัน"
โจวซื่อเสี่ยนอาสาว่า
"องค์หญิง ข้าพระองค์ขอรับหน้าที่นี้ ประกันว่าจะไม่เป็นที่ผิดหวังของท่าน"
ฉางผิงกงจู้จับจ้องมองอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งกล่าวว่า
"ท่านโจวจงรักภักดีต่อบ้านเมืองจริงๆ"

...................................................................................

ภายในห้องเขตอุทยานอบเชย เฟยจินเอ๋อหยิบฉวยกระบี่วิเศษพร้อมฝักเล่มหนึ่งเดินเข้ามาให้แนเสี่ยวเชี่ยนเปิดกล่องแพรใบหนึ่ง จัดวางกระบี่ลงในกล่อง
พลันบังเกิดสุ้มเสียงหนึ่งร้องชมเชยว่า
"กระบี่ที่ดี"
ในเสียงร้อง อู๋ซันกุ้ยเดินกระโผลกกะเผลกออกมา
แนเสี่ยวเชี่ยนลืมตากลมกว้างร้องว่า
"เราเรียกท่านอย่าได้ออกมาวิ่งเพ่นพ่าน"
อู๋ซันกุ้ยกล่าวว่า
"ครั้งนี้เราคิดล่ำลาพวกท่าน"
"เท้าของท่านทุเลาแล้วหรือ"
"ขอบคุณที่ท่านกังวลใจ นับว่าทุเลาเจ็ดแปดส่วนแล้ว เราต้องการพบนายหญิงท่าน เพื่อขอบคุณนางที่ช่วยชีวิต"
"เฮอะ นายหญิงเราหาใชอนุญาตให้แมวสุนัขทั่วไปพบพานได้"
"พวกท่านอย่าได้ดูแคลนเรา เราอู๋ซันกุ้ยรั้งตำแหน่งเสนาธิการชั้นที่หกในสังกัดแม่ทัพหุงเฉิงโฉว"
เฟยจินเอ๋อยิ้มออกมา กล่าวว่า
"พี่เสี่ยวเชี่ยน เสนาธิการชั้นที่หกใหญ่โตใช่หรือไม่"
แนเสี่ยวเชี่ยนรับคำอย่างยิ้มแย้ม ย่อกายคารวะ
"น้อมพบแม่ทัพอู๋"
เฟยจินเอ๋อกล่าวว่า
"ตกลง นายหญิงเราชมดอกไม้ที่อุทยานหลวง ท่านตามเรามา"
อู๋วันกุ้ยเดินตามหลังแนเสี่ยวเชี่ยนทั้งสอง พอผ่านเก๋งพักร้อนแห่งหนึ่ง เห็นเด็กหนุ่มแต่งกายหรูเลิศ สวมมงกุฎจำลองผู้หนึ่ง ถูกสายรัดผ้าผืนหนึ่งมัดติดกับเสาไม่ภายในเก๋ง

อู๋ซันกุ้ยชมดูจนงงงันวูบ วกกายขึ้นเก๋งพักร้อนถามว่า
"เด็กน้อย เจ้าไฉนผูกมัดอยู่ที่นี่"
เด็กหนุ่มนั้นดิ้นรนพลางร้องว่า
"ปล่อยข้าพเจ้า รีบปล่อยข้าพเจ้า"
แนเสี่ยวเชี่ยนพลันเหลียวหน้ามาร้องว่า
"นี่ ท่านไฉนไม่เดินต่อ ท่านมิใช่ต้องการพบนายหญิงเราหรอกหรือ"
"มันที่แท้เป็นใคร"
"เอาเถะ บอกต่อท่าน มันเป็นน้องชายนายหญิงเรา"
"อย่างนั้นไฉนมัดมันไว้ที่นี่"
"มันเหยียบย่ำต้นกล้วยไม้ที่นายหญิงเรารักทีสุดจนแหลกเละ ถอนขนของนกแก้ววชิระตัวหนึ่งไปจนหมดสิ้น นายหญิงเราจึงลงโทษมัน โดยมัดมันไว้ที่นี่"
เด็กหนุ่มนั้นร้องสอดขึ้น
"พวกเจ้าหากไม่ปล่อยเรา เรากราบทูลต่อพระบิดา ถลกหนังพวกเจ้าออกมา"
อู๋ซันกุ้ยทวนคำ "พระบิดา" ซักถามแนเสี่ยวเชียนทั้งสองว่า
"มันที่แท้เป็นใคร"
แนเสี่ยวเชี่ยนอับจนปัญญา ได้แต่กล่าวว่า
"มันเป็นราชโอรสของฮ่องเต้"
อู๋ซันกุ้ยสะท้านด้วยความตระหนก
"มันคือไทจือ(รัชทายาท) อย่างนั้นนายหญิงท่านคือ"
"นายหญิงเราคือองค์หญิงเจาเหยิน"
เฟยจินเอ๋อกล่าวเสริมขึ้น
"ซึ่งความจริง องค์หญิงเราไม่ทราบดีต่อท่านปานใด เมื่อวานเฉาฮั่วฉุนส่งคนมาทวงถามท่านองค์หญิงเพราะเพื่อช่วยท่าน ถึงกับฆ่าคนของเฉาฮั่วฉุน"
"องค์หญิงดีต่อเราปานนี้ เราต้องขอพบนางแน่นอน"
แนเสี่ยวเชี่ยนกล่าวว่า
"ท่านหากต้องการพบนาง ก็สงบใจรั้งอยู่ที่นี่อักสักระยะเวลาหนึ่งเถอะ"


...................................................................................



ศึกสองนางพญา ตอนที่ 13 รัชทายาทที่รัก

เฟยจินเอ๋อพาอู๋ซันกุ้ยกลับที่พัก แนเสี่ยวเชี่ยนอ้อยอิ่งอยู่บริเวณนั้นครู่หนึ่ง หันไปชำเลืองมองไทจือ แล้วหันหลังกลับ ไทจือพลันร้องเรียกว่า
"เสี่ยวเชี่ยน เจ้าเข้ามานี่"
แนเสี่ยวเชี่ยนเดินเข้าไปตามเสียงเรียกพลางกล่าว
"องค์ชายมีพระประสงค์อะไร"
"เจ้าปล่อยข้า"
"ไม่ได้หรอก หากองค์หญิงเจาเหยินรู้ต้องกริ้วข้าแน่ๆ"
พูดจบทำท่าจะหันกลับ ไทจือพลันเปลี่ยนเสียงน้ำเสียงอ่อนหวานว่า
"พี่เสี่ยวเชี่ยน ปล่อยข้าเถอะ ข้ายืนมาเกือบชั่วยามแล้วเมื่อยเหลือเกิน"
แนเสี่ยวเชี่ยนได้ยินไทจือเรียกตนว่าพี่เสี่ยวเชี่ยนด้วยน้ำเสียงออดอ้อน พลันรู้สึกวาบหวิวแปลกประหลาดต้องหันมาปลอบโยนไทจืออีกครั้ง
"องค์ชายอดทนอีกชั่วครู่ คาดว่าองค์หญิงต้องมาปล่อยท่านในไม่ช้า"
"แต่ข้าจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว พี่เสี่ยวเชี่ยนคนงาม น้ำใจงามช่วยปล่อยข้าด้วยเถิด"
ไทจือเฝ้าออดอ้อนเสียงอ่อนหวาน แนเสี่ยวเชี่ยนใจอ่อนไม่สามารถหักใจฟังได้ ต้องแก้มัดปล่อยไทจือเป็นอิสระ เขาถูกผูกมัดเป็นเวลานานรู้สึกปวดเมื่อย แนเสี่ยวเชี่ยนต้องช่วยประคองกลับเข้าวัง เหล่าทหารองครักษ์พอเห็นแนเสี่ยวเชี่ยนประคองไทจือก็ลอบหัวร่อในใจ ทราบดีว่าองค์ชายคงก่อกวนเรื่องเหลวไหล จึงถูกลงโทษถึงกับต้องให้คนสนิทขององค์หญิงประคองกลับมา

ครั้นพอส่งถึงห้อง แนเสี่ยวเสี่ยนย่อกายคำนับ ทำท่าว่าจะกลับ ไทจือพลันร้องเรียกว่า
"เดี๋ยวก่อนพี่เสี่ยวเชี่ยน ข้าเหนียวตัวเหลือเกิน ท่านช่วยข้าอาบน้ำเถอะ"
แนเสี่ยวเชี่ยนหน้าแดง นางเคยแต่ปรนนิบัติองค์หญิงเจาเหยินอาบน้ำ ไม่เคยปรนนิบัติเจ้าชายอาบน้ำมาก่อน รู้สึกอับอายต้องกล่าวว่า
"ข้าไม่ถนัด องค์ชายให้นางกำนัลคนอื่นเถอะ"
"โธ่ พี่เสี่ยวเชี่ยน ข้าอยากให้ท่านอาบให้ข้านี่ หรือท่านรังเกียจข้า"
"เปล่า องค์ชายอย่าเข้าใจผิด" แนเสี่ยวเชี่ยนรีบปฎิเสธ
"ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้"
ไม่รอให้แนเสี่ยวเชี่ยนปฎิเสธ รีบสั่งนางกำนัลหน้าห้องให้เรียกบ่าวไพร่ยกถังอาบน้ำเข้ามา
แนเสี่ยวเชี่ยนอับจนปัญญา ต้องช่วยไทจือปลดเปลื้องเสื้อผ้า อย่าเห็นว่าแนเสี่ยวเชี่ยนอายุเกือบยี่สิบปีแล้ว แต่นางเติบโตในวัง รับใช้คลุกคลีกับองค์หญิงเจาเหยินกับเฟยจินเอ๋อมาตลอด ไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายมาก่อน ไทจือแม้อ่อนวัยกว่านาง แต่ก็เป็นเด็กหนุ่มงามสง่า นางอับอายจนหน้าแดงฉาน
ขณะถอดเสื้อผ้าองค์ชายก็เบือนหน้าหนี ไม่กล้ามองเรือนร่างของเขา โดยเฉพาะที่สัดส่วนความเป็นชายนั้น

ไทจือก้าวลงไปในอ่างน้ำ แนเสี่ยวเชี่ยนก็ลอบระบายลมหายใจโล่งอก ร่างกายไทจือแม้เปลือยเปล่าแต่อยู่ในน้ำก็มองเห็นส่วนสำคัญเพียงเลือนราง
ไทจือเอนหลังพิงผนังไม้ด้านหนึ่งในถังหลัยตาพริ้มสบายใจ แนเสี่ยวเชี่ยนก็เดินอ้อมไปด้านหลัง ช่วยเช็ดถูไปตามเรือนร่างของเขา มืออ่อนนุ่มของแนเสี่ยวเชี่ยนยามลูบคลำไปตามเนื้อตัวของยิ่งทำให้ไทจือรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก แนเสี่ยวเชี่ยนลูบไล้ขัดถูไปถึงแผ่นอกของเขาก็ลูบคลำผ่านหัวนมไปเบาๆ ไทจือพลันกล่าวว่า
"พี่เสี่ยวเชี่ยนท่านขัดถูอย่างนี้ไม่ถนัดนัก มิสู้เปลืองผ้าลงมาอาบน้ำกับข้าเถอะ"
แนเสี่ยวเชี่ยนอุทานดังอา รีบปฎิเสธ
" ไม่ได้หรอกองค์ชาย"
"ทำไมล่ะพี่เสี่ยวเชี่ยน" องค์ชายถามด้วยความสงสัย
แนเสี่ยวเชี่ยนหน้าแดง อีกอักชั่วครู๋จึงกล่าว
"องค์ชายเป็นผู้ชาย ส่วนข้าเป็นผู้หญิง อาบน้ำด้วยกันไม่ได้"
"เอ๊ะ ผู้ชายกับผู้หญิงอาบน้ำด้วยกันไม่ได้หรือ"
"ไม่ได้เด็ดขาด"
"แล้วทำไม เสด็จพ่อจึงอาบน้ำกับพระสนมเป็นประจำ"
แนเสี่ยวเชี่ยนเป็นดรุณีพรหมจรรย์ ได้ยินไทจือพูดด้วยความซื่อ ยิ่งอับอายจนหน้าแดงฉาน ร้องเพ้ยบอกว่า
"บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ซิ"
"ประหลาดแท้" องค์ชายพีมพำ
แนเสี่ยวเชี่ยนต้องถามด้วยความสงสัย
"ประหลาดอันใด"
"ทำไมพี่เสี่ยวเชี่ยนต้องหน้าแดงด้วย"
แนเสี่ยวเชี่ยนจ้องมองไทจือด้วยความสงสัย ไทจือไม่ไร้เดียงสาจริงๆหรือแกล้งหยอกล้อนางกันแน่
ไทจือพลันกล่าวขึ้นอีกครั้ง
"ท่านหลอกลวงข้า บัดนี้ข้าขอสั่งให้ท่านเปลื้องเสื้อผ้าแล้วลงมาอาบน้ำกับข้าเดี๋ยวนี้"
"ท่าน..."
"ข้าเป็นรัชทายาท ท่านกล้าขัดคำสั่งข้าหรือ"
แนเสี่ยวเชี่ยนบังเกิดความคับแค้นใจ ต้องร้องไห้โฮออกมาทันที ไทจือกลับเป็นฝ่ายตกใจร้องว่า
"พี่เสี่ยวเชี่ยน ข้าให้ท่านอาบน้ำ ทำไมต้องร้องไห้"
"ท่านรังแกข้า"
"ข้ารังแกท่านที่ใด"
"ท่านบังคับให้ข้า..เปลื้อง..เปลื้อง..ผ้าอาบน้ำกับท่าน...ไม่เรียกรังแกแล้วจะเรียกอะไร เสียทีที่ข้าอุตส่าห์ช่วยแก้มัดพาท่านมาส่งถึงที่นี่"
ไทจือกล่าวอย่างน้อยใจ
"พี่เสี่ยวเชี่ยนไม่ต้องร้องไห้แล้ว ข้ารู้แล้วว่าท่านรังเกียจข้า เมื่อท่านไม่ประสงค์จะอาบน้ำกับข้า ก็แล้วแต่ท่านเถอะ"
แนเสี่ยวเชี่ยนเห็นไทจือยอมอ่อนข้อให้กับนาง ก็ดีใจ แต่เห็นสำเนียงของไทจือแฝงไว้ด้วยความน้อยใจต้องถามว่า
"องค์ชาย... ท่านโกรธข้าหรือ"
"หามิได้ แต่ข้าเสียใจที่ท่านรังเกียจข้า"
แนเสี่ยวเชี่ยนเห็นสีหน้าไทจือน้อยใจจริงๆ ซ้ำไม่มีลักษณะของการเอาเปรียบนางต้องฉุกใจคิด
"""ไทจือ คงไม่รู้เรื่องบุรุษสตรีจริงๆ เขายังเป็นเพียงเด็กหนุ่มบริสุทธิ์ เราต้องถือสาอันใด อย่าว่าแต่หากเขาใช้คำสั่งบังคับให้เราเป็นนางบำเรอเราไหนหลีกเลี่ยงได้"
คิดแล้วก็กล่าวกับไทจือเสียงนุ่มนวล

...................................................................................



ศึกสองนางพญา ตอนที่ 14 ครั้งแรกมิรู้ลืม
โดย...แมวคำราม

"ตกลง ท่านหันไปก่อน"
ไทจือมีสีหน้าดีใจ อุทานว่า
"ท่านหมายความว่า..."
แนเสี่ยวเชี่ยนดุเบาๆ
"ท่านหันไป มิเช่นนั้นข้าจะไม่อาบน้ำด้วย"
"ตกลง พี่เสี่ยวเชี่ยน" ไทจือรับคำรีบหันหลังให้ทันที

แนเสี่ยวเชี่ยนหน้าแดงซ่าน มือเรียวงามเลื่อนไปเปลื้องเสื้อออก ปลดสายเอี๊ยม เผยให้เห็นปทุมถันที่เต่งตึงชูชันสั่นกระเพื่อมนิด ๆ ปลายยอดเป็นสีชมพูระเรื่อตั้งอยู่บนฐานขนาดอวบอิ่มสมตัว จากนั้นก็ปลดสายรัดเอวเปลื้องกระโปรงออกจนเปลือยเปล่า นางรีบก้าวเข้าไปในอ่างอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าไทจือจะหันมาเห็นส่วนสำคัญของนาง
ไทจือได้ยินเสียง รู้สึกน้ำกระเพื่อมก็รู้ว่านางกำนัลรูปงามลงมาอยู่ด้านหลังของตนแล้ว จึงรีบหันมาหาทันที
"อุ๊ย องค์ชาย" แนเสี่ยวเชี่ยนใจหายวาบอุทานพลางรีบหันหลังให้ทันที

ไทจือกวาดตามองไปทั่ว ไล่ตั้งแต่ลำคอ ไหล่ แผ่นหลังที่ขาวผ่องนวลเนียน รู้สึกถึงความเสียวกระสันต์ที่แผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์ มังกรน้อยลุกขึ้นเหยียดเกร็งในทันที
"พี่เสี่ยวเชี่ยน สวยเหลือเกิน"เขาพึมพำพลางก้มหน้าสูดดมความหอมกรุ่นที่เรือนผม
"หันหน้ามาเถอะพี่เสี่ยวเชี่ยน" เขากระซิบ
"ไม่" แนเสี่ยวเชี่ยนตอบ
ไทจือหัวเราะเบาๆ ไล้จมูกไปที่ใบหู ลำคอ มือก็เริ่มความเปะปะไปตามเนื้อนวลที่อยู่ตรงหน้า
แนเสี่ยวเชี่ยนพยายามเอามือมาปิดป้อง แต่ช้าไป ไทจือลูบคลึงไปทุกๆส่วน สอดมือเรียวเล็กไปใต้รักแร้ อุ้งมือกุมอยู่ที่ปทุมถันเต่งตึง ก่อนจะไต่นิ้วขึ้นมาบี้จะงอยสีชมพูอยู่ไปมา
"องค์ชาย..อย่า" แนเสี่ยวเชี่ยนร้องห้ามด้วยความอาย
"พี่เสี่ยวเชี่ยนอย่าห้ามเลย ข้ายังไม่เคยสัมผัสผู้หญิงมาก่อนเลย ขอข้าสำรวจเรือนเรือนร่างของท่านด้วยเถอะ" ไทจือกระซิบที่ริมหูของนางเสียงนุ่มนวล

แนเสี่ยวเชี่ยนตัดสินใจเตรียมมอบกายให้เขาไว้แล้ว จึงปิดป้องเล็กน้อยด้วยความขวยเขินเท่านั้น ภายใต้การโลมเล้าของไทจือในที่สุดนางก็ตกอยู่ในความเคลิบเคลิ้ม ผิวกายร้อนวูบวาบไปตามสัมผัสของไทจือ รู้สึกถึงลำควยของเขาที่ถูไถไปมาอยู่ที่ร่องก้น เสียวซ่านถึงกับขมิบรูหีหลั่งน้ำเงี่ยนออกมา
แล้วในขณะที่นางกำลังลืมตัวอยู่นั้น มืออีกข้างหนึ่งของไทจือก็คว้านลงไปในช่วงหว่างขาที่บรรจุเนินเนื้อโคกหีอวบอูมมีขนนุ่มนิ่มอยู่เต็มสองแคม นางกำนัลรูปงามสะดุ้งสุดตัว
"องค์ชาย"
"อูยยย หีพี่เสี่ยวเชี่ยนนุ่มมือดีเหลือเกิน"
ไทจือกระซิบ มือยังคงลูบคลำอยู่ไปมาบนโคกเนินอย่างลุ่มหลง มิเพียงเท่านั้น นิ้วกลางของเขาก็ค่อย ๆ แหย่ลึกลงไประหว่างกลีบเนื้อทีละนิด ๆ
"องค์ชาย อย่า อย่า  อูยยยย..."แนเสี่ยวเชี่ยนร้องห้ามเบาๆ หน้าแดงก่ำหอบหายใจแรง
"รู้สึกยังไงพี่เสียวเชี่ยน รู้สึกยังไง"
ไทจือถามใจเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นอาการสั่นระริก หอบครางอย่างผิดปกติของนาง แนเสี่ยวเชี่ยนไม่สามารถตอบได้ เปลือกตาของนางปิดสนิท หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นปนวิตก นางหันหลังให้ไทจือจึงไม่เห็นควยน้อยๆของเขา
แต่สัมผัสจากท่อนเนื้อที่ถูไถไปมาที่บริเวณก้น สะโพกของนาง ก็ทำให้นางกำนัลยอดฝีมือจินตนาการถึงความน่ากลัวของมันได้
"ท่อนเนื้อใหญ่ขนาดนี้มันจะเข้าไปในร่องกลีบเล็กๆของเราได้อย่างไร หากเป็นเช่นนั้นเราคงจะเจ็บเหลือเกิน"
นางคิดด้วยความหวาดหวั่น ปนเสียวสยิวเพราะไทจือโลมเล้าหนักข้อขึ้น นิ้วของเขาที่กวาดควานสำรวจไปมาทำให้แนเสี่ยวเชี่ยนกระตุก สั่นระริก หอบคราง ยิ่งเขาคว้านหีและสำรวจหนักขึ้น นางยิ่งร้องเสียงดังหอบหายใจแรง ทำให้ไทจือน้อยเกิดความย่ามใจกับความรู้แปลกใหม่ คิดไม่ถึงว่าเพียงใช้นิ้วก็สามารถทำให้นางกำนลของพี่สาวที่เยี่ยมยุทธต้องร้องครวญครางสยบอยู่ใต้อำนาจเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
ไทจือรีบชักนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น จนแนเสี่ยวเชี่ยนครางลั่น สักพัก...เมื่อไทจือดึงมือออกมีน้ำเหนียว ๆ ติดมือออกมาด้วย
"อูวววว พี่เสี่ยวเชี่ยนน้ำเงี่ยนของท่านออกมาเต็มเลย"
"องค์ชาย อย่าพูด ข้า..อาย"
"เราไปที่เตียงกันเถอะ ข้าอยากเห็นหีสวยๆของพี่เสี่ยวเชี่ยนเหลือเกิน"
แนเสี่ยวเชี่ยนหน้าแดง แต่รู้สึกเงี่ยนไปกับคำพูดของเขา อีกทั้งนางถูกปลุกเร้าจนความกระสันต์พุ่งพล่านเต็มที่แล้ว จึงไม่ปฎิเสธ

ไทจือพานางขึ้นมาจากอ่างน้ำ นางกำนัลรูปงามนอนพาดร่างเปล่าเปลือยลงบนเตียง ไทจือกวาดตาสำรวจไปตามผิวกายขาวผ่องที่ยังเปียกน้ำเป็นมันวาว หยดน้ำเกาะพราวอยู่ทั่วร่างราวกับไข่มุก มือข้างหนึ่งของเสี่ยวเชี่ยนปิดบังปทุมถันทั้งคู่ไว้ด้วยความอาย แต่ก็ยังเห็นก้อนเนื้อขาวผ่องรำไร มือเรียวงามอีกข้างของนางวางแปะไว้ที่โคกหี ทำให้ไทจือไม่สามารถเห็นส่วนสำคัญได้ สายตาของเขากวาดไปตามเรือนขาเรียวงาม สะโพกเปลือยที่ผายได้สัดส่วน และเห็นขนหมอยรำไรจากฝ่ามือน้อยๆที่ปิดกันอยู่ ต้องใจเต้นระทึกร้อนวูบวาบไปทั้วตัว จึงเอ่ยเสียงนุ่มนวล
"เอามือออกจากหีเถอะ พี่เสี่ยวเชี่ยน"
แนเสี่ยวเชี่ยนส่ายหน้า หลบสายตาเขา ไทจือไม่แข็งขืนแต่เอ่ยปากพร่ำชมความงามก่อนจะก้มตัวลงคลุกเคล้าใบหน้าลงไปที่ปทุมถันอวบอูม
แนเสี่ยวเชี่ยนหลับตาพริ้มขณะที่ไทจือพรมจูบไซ้ไปทั่วอย่างหิวกระหาย ปากของเขาพร่ำชมไม่ขาดปาก
"อูยยย ตัวหอมจังเลย พี่เสี่ยวเชี่ยน หอม นุ่ม อืมมม..."

ไทจือไซร้จมูกขึ้นไปที่ใบหน้า สูดดมความหอมที่พวงแก้ม แลบลิ้นเลียไปที่ซอกหู กอดจูบลูบคลำไปที่วจนนางกำนัลยอดยุทธหมดเรี่ยวหมดแรง เขาประกบปากลงบนริมฝีปากนุ่มสวยได้รูป คว้านลิ้นลึกเข้าไปพัวพันอย่างเมามัน สองมือก็คลึงเคล้าปทุมถันเต่งตึงอยู่ไปมา
แล้วเลื่อนลงไปตะปบลงบนหน้าท้องที่เรียบราบ เลยไปบนเนินเนื้ออันใหญ่เกินฝ่ามือ ลูบคลำเส้นหมอยที่นุ่มนวล
แนเสี่ยวเชี่ยนนึกถึงคำพูดของเฟยจินเอ๋อที่เล่าถึงนางกำนัลแอบไปเย็ดกับทหารหนุ่มซึ่งยังฝังอยู่ในใจของนาง บัดนี้มันกำลังจะเกิดขึ้นกับนางแล้ว  เนื้อตัวของนางสั่นดังลูกนก ครางเสียงกระเส่าบิดตัวไปมาด้วยความกระสันอยาก
น้ำเงี่ยนของนางไหลเยิ้มปากรู สองมือเริ่มกอดกระหวัดรัดร่างไทจืออย่างลืมตัว
"ซี้ด...องค์ชาย...อูย...ซี้ด"
นานเท่าไหร่ นางไม่รู้ รู้แต่ว่าบัดนี้ ไทจือจับขาของนางอ้าออก เผยให้เห็นปากถ้ำหยกปิดสนิท มีน้ำหล่อลื่นเกาะอยู่เป็นเมือก
"พี่เสี่ยวเชี่ยน หีของพี่สวยเหลือเกิน"
ไทจือพูดพลางมองไปที่โคกสวรรค์ เขาไม่เคยเห็นอะไรที่งดงามแบบนี้มาก่อน บัดนี้มังกรน้อยของเขาแข็งขันเต็มที่ แม้จะไม่เคยมาก่อน แต่สัญชาตญานก็ทำให้เขาจับเงี่ยงของเขาจ่อตรงรูพอดีแล้วออกแรงดัน
"โอ๊ยยย องค์ชาย เจ็บ อย่าเพิ่ง อย่า.."
แนเสี่ยวเชี่ยนร้องพลางผงกหัวขึ้นมองหว่างขา นางจินตนาการถึงมันมาหลายครั้ง พอมาเจอของจริงเข้าถึงกับตาค้าง แม้ว่าท่อนควยขององค์ชายจะยังไม่ใหญ่เต็มที่ก็ตาม แต่เมื่อมันพยายามมุดเข้าไปในร่องหีที่ไม่เคยถูกบุกเบิกมาก่อน จึงรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง
"โอยยย...เจ็บ..องค์ชาย..เบา...เบา..."

ไทจือยกก้นพยายามกดเข้าไปเบา ๆ ด้วยความอ่อนประสบการณ์ อีกทั้งถ้ำหยกของแนเสี่ยวเชี่ยนยังไม่เคยถูกบุกเบิกมาก่อน ทำให้มังกรน้อยของไทจือไม่สามารถแหวกแคมเข้าไปอย่างสะดวกสบาย แนเสี่ยวเชี่ยนเป็นดรุณีพรหมจรรย์แม้จะมีอายุถึงยี่สิบปีแล้ว แต่ความรู้ในด้านนี้ยังสู้เฟยจินเอ๋อไม่ได้ด้วยซ้ำ ครั้นพบกับความเจ็บปวดครั้งแรกจึงปรือตามองไทจือด้วยความหวาดหวั่น
"องค์ชายน้อย อย่าเพิ่งดันเข้ามา"
แนเสี่ยวเชียนร้องครางวิงวอนด้วยความปวดแปลบคับที่ปากรู เอื้อมมือไปจับท่อนควยของไทจือไว้เต็มกำลัง
"...องค์ชาย...เจ็บเหลือเกิน เสี่ยวเชี่ยนตายแน่ ๆ...."
เสียงวิงวอนอย่างน่าสงสารของแนเสี่ยวเชี่ยนมิได้หยุดยั้งความกระสันต์ของไทจือแม้แต่นิด แม้ไทจือจะมีอายุเยาว์กว่าแนเสี่ยวเชี่ยนมาก แต่ก็มีความเฉลียวฉลาดของทายาทมังกร  เขาดึงมันออก หัวเป็นมันเลื่อม ไทจือเอาน้ำในร่องหีของนางกำนัลรูปงามมาลูบหัวมังกรให้ลื่น ดวงตามองไปที่รอยผ่ากลางเนินโคก กัดฟันกรอดพึมพำในลำคอ
"ข้าจะเข้าไปใหม่แล้วนะพี่เสี่ยวเชียน ถ่างขาออกไปให้กว้างซิ ..."

ถึงแม้จะเจ็บปวดในรูมากเพียงใด นางกำนัลยอดฝีมือก็ไม่ประสงค์ที่จะขัดใจกับรัชทายาท นางถ่างขาออกสุดหล้าอย่างที่ไทจือบอก ขณะเดียวกันกับรัชทายาทน้อยลุกขึ้นคร่อมทับจับควยจ่อตรงร่องผ่า เกร็งก้นกดพรวด
ท่อนควยแหวกผ่านรูอันตีบตันเข้าไปครึ่งลำ ปลายจงอยแตดยุบบุบบู้ตามลำควยเข้าไปในทันที



ศึกสองนางพญา ตอนที่ 15 ครั้งแรกมิรู้ลืม2

แนเสี่ยวเชี่ยนบิดตัวสะดุ้ง ใบหน้าเหยเก มือยันอกของไทจือเอาไว้
"อะ...โอ้ย...ข้าเจ็บ....องค์ชาย...หยุดเถอะ เสี่ยวเชี่ยนเจ็บ.........โอยยย.."
"พี่เสี่ยวเชี่ยน ทนหน่อย ข้าจะทำช้าๆ .."
ไทจือกระซิบเสียงนุ่ม เขาซุกหน้าแลบลิ้นเลียไปที่ยอดปทุมถันอันชูชันทั้งสองข้าง ดูดอมอยู่ไปมา มือก็คลึงเคล้นปลุกเร้าอารมณ์นาง จนความเจ็บเริ่มบรรเทา ความเสียวซ่านเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วเรือนร่าง ไม่ช้าแนเสี่ยวเชี่ยนก็มีสีหน้าดีขึ้นเพราะน้ำเมือกลื่นของนางมีมากจนเอ่อล้นไหลเยิ้มออกมา อีกทั้งช่องสวาทของนางก็เริ่มปรับตัวตามธรรมชาติ เพื่อรับกับขนาดของมังกรน้อยที่รุกรานเข้ามา
ไม่รอช้า ไทจือขยับก้นดันเข้าไปช้าๆ แนเสี่ยวเชี่ยนตัวเกร็งใบหน้างามบิดเบี้ยว ยกขารั้งขึ้นสูง และแบะออกเต็มที่ เพื่อให้หัวมังกรของเขามุดเข้าถ้ำหยกได้ ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกคับตึงไปหมด
...โอยยย..ทำไมมันเจ็บอย่างนี้...ถ้าเขาดันเข้ามาหมดเราต้องตายแน่ๆ...แนเสี่ยวเชี่ยนคิดด้วยความหวาดหวั่น มือตะปบจิกบนที่นอนขยุ้มไว้แน่น
"องค์ชาย หีข้าจะฉีกแล้ว โอย" นางกำนัลคราง ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บ
"จะสุดลำแล้วพี่เสี่ยวเชี่ยน ถ่างขาออกไปอีกซิ" เขากระซิบ
"อย่าเพิ่งดัน โอ...เบาๆ เบาๆนะ"
ลำควยที่แข็งเกร็งมุดเข้าไปช้าๆ จนในที่สุดก็เข้าไปมิดยันโคน บัดนี้หีอวบอูมของนางกำนัลรูปงามได้อมลำควยของรัชทายาทน้อยเข้าเต็มอัน เนื้อประกบกันแนบชิด ขนหมอยปากแคมของทั้งคู่บดขยี้กันแน่น  แนเสี่ยวเชี่ยนกัดฟันแน่นมือจิกที่นอนหายใจระทวยทรวงอกกระเพื่อมขึ้นลง รู้สึกคับตื้อแน่นเจ็บแปลบแทบขาดใจ
ไทจือรู้สึกถึงความบีบรัด นี่เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงดู เขาเห็นน้ำเมือกสีขาวผสมกับสีแดงไหลซึมออกมา แม้จะอายุเยาว์แต่ก็รู้ว่านี่เป็นเลือดพรหมจรรย์ของนาง ใจเต้นระทึก คำนึงด้วยความปลาบปลื้ม
...พี่เสี่ยวเชี่ยน เป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ มิเสียทีที่ข้าหลงรัก...

แนเสี่ยวเชี่ยนนอนกัดฟันตะแคงหน้าซบกับหมอนหลับตาพริ้ม น้ำตาไหลพรากด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ ไทจือเข้าใจถึงความเจ็บปวดของนางจึงยังไม่ได้ขยับเขยื้อน หากเหม่อมองใบหน้างามของนางด้วยความล่มหลงรัญจวน
เขาแอบรักนางกำนัลคนสนิทขององค์หญิงเจาเหยินมาเป็นเวลานานแล้ว เขาชื่นชมความเก่งกาจ คล่องแคล่ว ของนาง แม้หลายครั้งแนเสี่ยวเชี่ยนจะดูดุดัน  แต่ไทจือรู้ว่าภายใต้เปลือกที่แข็งกร้าวนั้นแฝงน้ำใจที่มากล้น ก่อนหน้านั้นเขายังเป็นเด็กจึงไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ครั้นโตขึ้นความต้องการตามสัญชาตญานของบุรุษจึงบังเกิด ไทจือเฝ้าใช้สายตาโลมไล้ ปทุมถันอวบอูม เอวคอดกิ่ว ก้นอวบงอนของนางอยู่บ่อย ๆ แล้วบัดนี้เขาได้มาอยู่บนร่างงามที่เขาใฝ่ฝันสมใจนึก ...

"พี่เสี่ยวเชี่ยน หายเจ็บหรือยัง....ข้า..กระเด้า..แล้วนะ.."
แนเสี่ยวเชี่ยนความเจ็บเริ่มบรรเทาเนื่องจากรูหีเริ่มขยายตัวรองรับขนาดของลำควยที่รุกรานเข้ามา จึงพยักหน้า
"เบาๆก่อน"
ไทจือรับคำด้วยความยินดีเริ่มชักลำควยออกช้าๆ จนเกือบสุดแล้วกดลงไปใหม่เป็นจังหวะ ท่าทางของเขาขัดเขินในครั้งแรก แต่เพียงชั่วไม่นานก็เป็นไปอย่างคล่องแคล่ว
"อูยยยย...ซี๊ด...เบาๆ" แนเสี่ยวเชี่ยนครวญครางเสียงสั่น ร่างบิดเกร็ง ร่องผ่าปลิ้นเข้าปลิ้นออกตามแรงกระแทก เม็ดแตดน้อยๆเสียดสีกับแท่งเนื้อผลุบ ๆโผล่ ๆ ไทจือก้มลงซุกหน้าคลุกเคล้าลงที่ปทุมถัน ขบ เม้ม ดูดที่ปลายยอด พร้อมกับใช้มือขยำปทุมถันทั้งคู่ ในขณะที่เอวก็กดกระแทกลำควยเข้าไปหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
"อือ อือ ซี๊ดดด" นางกำนัลรูปงามร้องครางหน้าแดงก่ำ เริ่มขยับตูดน้ำเงี่ยนพรั่งพรูออกมา ถึงตอนนี้นางเองก็เสียวกระสันต์จนต้องแอ่นอกให้เขาดูดหัวนมสีชมพู พร้อมกับขมิบหีเต็มกำลัง ก้นอวบงอนของนางเริ่มส่ายไปมา
บางทีก็แอ่นร่อนให้เขากระแทกหนอกควยบดขยี้ติ่งแตดหนักๆ มันเต็มไปด้วยความสุข รัญจวน
"ซี้ด...ดีจังเลย...อูยยยยย"
แนเสี่ยวเชี่ยนร้องคราง ความเจ็บปวดดูจะมลายไปสิ้น รูหีของนางกระชับมันไว้แน่น แล้วขมิบอย่างแรง
"อ้า...อือ...ซี๊ด..." แนเสี่ยวเชี่ยนส่งเสียงครางออกมาอย่างพอใจ สองมือตวัดรอบคอไทจือไว้แน่น ปากต่อปากลิ้นต่อลิ้นประกบกันสนิทแทบจะกลืนกินซึ่งกันและกัน เสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์
แนเสี่ยวเชี่ยนยกก้นขึ้นกระแทกหีตอบรับการกระเด้าอย่างเมามัน เสียงเนื้อปะทะกันดังพับ ๆๆๆ !
"อูยยย...เสียว...แรงๆ องค์ชาย แรงๆเลย"
"หายเจ็บแล้วใช่ไม๊"
"อูยย หายแล้ว ซี๊ดดดด"

ไทจือหัวเราะเบาๆ เริ่มซอยกระหน่ำอย่างรุนแรงและหนักหน่วง มือทั้งสองข้างเคล้าอยู่กับสองเต้าที่กระเพื่อมตามแรงโยกซอย ลมหายใจของเขาหอบกระเส่า เหงื่อโทรมทั้งร่างเนื่องจากออกแรงเคลื่อนไหวอย่างหนัก
"อูยยย หีพี่เสี่ยวเชี่ยน เย็ดมันจริงๆ อูยยยย"
"อูยยย อาาา ซี๊ดดดด"
นางกำนัลร้องคราง สูดปาก กระเด้งตูดรับแรงกระแทกของไทจืออย่างลืมตัว ไทจือครวญครางเสียงกระเส่าเร่งเครื่องกระเด้าด้วยความย่ามใจอยู่พักใหญ่จึงหยุด หายใจหอบ ถอนลำควยออก

"องค์ชาย ทำไม" แนเสี่ยวเชี่ยนถามเขาด้วยความสงสัย นางกำลังเงี่ยนเต็าที่พอเห็นเขาหยุด ก็อดถามด้วยความหงุดหงิดไม่ได้
"เปลี่ยนท่าดีกว่า พี่เสี่ยวเชี่ยน" ไทจือตอบ เขามีปฎิภาณเลิศล้ำเพียงครั้งแรกก็รู้จักพลิกแพลง ไทจือจับสะโพกผายของแนเสี่ยวเชี่ยนให้พลิกคว่ำ ดึงก้นให้สูงขึ้น งอเข่าอยู่ที่ขอบเตียงมองเห็นง่ามหว่างขาเผยออ้า น้ำเงี่ยนเปรอะเปื้อน ปากแคมสีชมพูระเรื่อช้ำผสมเลือดพรหมจรรย์สีแดงฉานซิบ ๆ
ร่างเล็กๆของเขาลงมายืนอยู่พื้นห้อง ลำควยแข็งบานร่าขึ้นกว่าเดิม มันชูชันผงกหัวหงึก ๆ เป็นมันมะเมื่อม ไทจือจับสะโพกขาวผ่องของแนเสี่ยวเชี่ยนจ่อมังกรน้อยเข้าตรงรู ออกแรงกดพรวดทีเดียวมิดด้าม! จากนั้นก็โน้มตัวทาบลงบนหลังของนาง แล้วเอื้อมมือบีบเคล้นสองเต้าอวบอิ่มอย่างมันมือ เอวก็ขยับอยู่เป็นจังหวะ

"ซี๊ด..." แนเสี่ยวเชี่ยนสูดปากด้วยความเสียวสยิว นัยน์ตาปรือ จิตใจล่องลอยไปสู่ห้วงแห่งความสุข
"ท่านี้ดีจังเลย...องค์ชาย...อูย...แรง ๆ ก็ได้ อูยย ซี๊ดดดด"

ไทจือยิ้มกริ่ม ความฮึกเหิมถูกกระตุ้นจนต้องเพิ่มความรุนแรงขึ้นตามลำดับ ลำควยที่ขยายตัวยาวใหญ่ของเขาคว้านลึกเข้าไปถึงมดลูกของแนเสี่ยวเชี่ยนอย่างถึงอกถึงใจ นางเองก็ส่ายก้นไปมายิก ๆ ตอบรับลำควยของเขาอย่างไม่กลัวจะฉีกขาด เด้งหีรับแรงกระเด้าอย่างถึงพริกถึงขิงกอปกับความคับแน่นของรูสวาทขมิบตอดลำควยของไทจือตลอดเวลาจนเขาเกือบจะกลั้นกระแสธารกามเอาไว้ไม่อยู่

"อูยยย...พี่เสี่ยวเชี่ยน หี ตอด ดี เหลือ เกิน ข้า...ข้าจะตายอยู่แล้ว...โอยยย"
"องค์ชาย...แรง ๆ หน่อย ซี้ด...อูย..เสียวหีเหลือเกิน..อูยยย...ซี๊ดดดด...." แนเสี่ยวเชี่ยนร้องอย่างลืมอาย ทั้งเด้งทั้งส่ายรับแรงโหมกระแทกของเขา ไทจือถูกเร่งเร้าก็โถมตัวกระแทกถี่ยิบ
"พี่เสี่ยวเชี่ยน  ทำไมมันเย็ดมันอย่างนี้ ...ซี๊ดดด"
"อูยย..... เอาแรงๆโอย...ซึ๊ดๆๆๆ...องค์ชาย..ท่าน...ท่านเก่งจัง...อูยยย ซี๊ด..."

ไทจือรวบรวมกำลังเป็นครั้งสุดท้ายออกแรงกระเด้าสุดฤทธิ์จนปทุมถันอวบอูมของนางกำนัลไหวสะท้าน หน้าไถลลงไปบนที่นอนอย่างสิ้นเรี่ยวแรง แต่ส่วนก้นยังผงาดรอรับท่อนโด่ตามจังหวะจะโคน
"ข้ามีความสุขเหลือเกิน โอยย  ไม่ไหว  แล้ววว.....ซี้ด..."
ไทจือร้องคำรามเสียงสั่นอย่างลืมตัว พร้อมทั้งถอนลำควยออกจนหลุดลำแล้วกระแทกมังกรน้อยเข้าไปสุดกู่เป็นครั้งสุดท้าย พ่นน้ำรักออกไปอย่างรุนแรงจนน้ำทะลักล้นออกช่องรูหี เรี่ยราดเปื้อนที่นอนเป็นหยด ๆ

ทั้งคู่กอดกระหวัดรัดร่างซึ่งกันและกันด้วยความสุขอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ไทจือกดแช่คับคารูไว้อย่างนั้นเนิ่นนาน หีของแนเสี่ยวเชี่ยนขมิบตอดลำคอยของเขาเป็นระยะ สักครู่ไทจือก็พลิกตัวหงายผลึ่งอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง ไซร้จูบข้างกกหูแล้วกระซิบกระซาบนางกำนัลสาวที่ยังหลับตาพริ้มอยู่ในภวังค์
"พี่เสี่ยวเชี่ยน เดี๋ยวมาเย็ดกันใหม่นะ ข้ามีความสุขเหลือเกิน"
แนเสี่ยวเชี่ยนไม่ตอบ แต่ส่งเสียงอืออาในลำคอ น้ำเงี่ยนไหลเป็นทางไปตามง่ามตูดและท่อนขา ดูหน้าตานางหลับพริ้มอย่างคนสุขสมอารมณ์หมาย
คืนนั้นไทจือฝึกฝนกลยุทธ ดื่มด่ำกับเรือนร่างบริสุทธิ์ของสตรีที่เขาใฝ่ฝันจนอิ่มเอม จึงยอมปล่อยให้นางกลับห้อง...