ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

อาจาง ย้อนเวลา ตอนที่ 11

เริ่มโดย nonstopper, สิงหาคม 11, 2015, 12:58:04 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nonstopper

       ก่อนอื่นเลยขอเปลี่ยนชื่อ หลินหนิง เป็นหลินชิงนะครับ คือมันไปซ้ำกับ เยี่ยหลิน
 แล้วมันสับสนกับคนเขียนมากมาย


    อา จางตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามือ ภายนอกยังคงหนาวยะเยือกตามปกติทำให้ทุกคนแทบไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงนอน แสนอบอุ่นแต่สำหรับอาจางเรื่องแค่นี้ถือเป็นปกติสำหรับเขารสสัมผัสเหมือนคืน วานยังคงจดจำได้เป็นอย่างดีความรู้สึกที่ถูกโอบรัดทั่วมังกรยังคงติดตรึงแทบ อยากจะกลับไปยังห้องของชุยเหนียงเพื่อเสพสมอีกสักรอบก่อนจะขึ้นเขาไปยัง ตำหนักเทพโอสถ

    แต่ อาจางต้องรีบลบความคิดนั้นทิ้งไปก่อนเพราะหากชักช้าเสียเวลามากเกินไปเขาคง ขึ้นเขาไม่ทันจนทำเอา หลินชิง นึกดูแคลนเขาได้ อาจางรีบลุกขึ้นจากเตียง ออกไปชำระล้างร่างกายให้สะอาดเสียก่อนเพราะเมื่อคืนหลังกลับมาจากห้องของชุ ยเหนียงอาจางก็เข้านอนทันทีไม่ได้ล้างเนื้อล้างตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อไคล แต่อย่างใดเพราะกลัวจะเป็นที่ผิดสังเกต

    อา จางแต่งตัวเรียบร้อยก็รีบไปทานเข้าเช้าในตึกหลัก  ซึ่งรองแม่บ้านได้เตรียม เอาไว้ก่อนแล้วตามที่อาจางสั่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนอาจางรีบทานก่อนจะออก จากบ้านไปพร้อมทหารติดตามจำนวนหนึ่งซึ่งทหารหญิงกลุ่มนี้ไม่ได้แต่งกายในชุด เครื่องแบบเพียงสวมชุดแบบหญิงสาวชาวชาวยุทธทั่วไปเดินปะปนไปกับชาวบ้านไม่ ให้เป็นจุดเด่นโดยอยู่ในระยะที่สามารถเข้ามาคุ้มครองอาจางได้อย่างทันท่วงที

    เดิน ทางมาถึงตีนเขาหมื่นโสม อาจางก็เห็นลูกศิษย์นับร้อยยืนเรียงรายอยู่ก่อนแล้ว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกแต่ละคนแต่งกายด้วยชุดสีแดงอ่อนคลุมยาวถึงเท้าสวมหมวกสีแดงเช่นกัน กับอีกกลุ่มสวมชุดลักษณะเดียวกันเพียงแต่เป็นสีเหลือง คนกลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่าเกือบ 5 เท่า นอกจากสีแล้วที่แตกต่างกันอีกอย่างคือตัวอักษรหัวไหล่ซ้าย ซึ่งแตกต่างกันกลุ่มเสื้อแดงปักไว้ด้วยตัวอักษร จุง(กลาง) ส่วนอีกกลุ่มปักไว้ด้วยตัวอักษรปี่(ต่ำ)

    อา จางเห็นแล้วก็รีบเข้าไปมองหากล่มของตัวเองบ้างที่จริงอาจางต้องแต่งกายด้วย เสื้อผ้าแบบลูกศิษย์เหล่านี้แต่เป็นสีขาวและปักอักษรเกา(สูง) ไว้แต่ว่าเป็นที่รู้ๆกันว่าแต่ละปีแทบจะไม่มีคนเข้ามาอยู่ในกลุ่มเกาได้เลย ทำให้ตำหนักเทพโอสถไม่ได้เตรียมชุดเหล่านี้เอาไว้จำหน่าย ต่างจากชุดของกลุ่ม จุง และปี่ ที่มีเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว อาจางต้องรออีก 2 วันชุดถึงจะตัดเสร็จ

     อาจางมองหาอยู่นานก็ไม่พบศิษย์คนไหนแต่งกายชุดขาวสักคนแต่พอเหลือบไปเห็น หลินชิง ยืนอยู่ด้านหน้าพื้นที่ว่างแถบหนึ่ง อาจางก็รีบเข้าไปหา

    หลิน ชิงยังคงแต่งกายชุดขาวทั้งตัวเช่นเดิม เสื้อผ้ายังคงหลวมโผลกเช่นเดิมจนอาจางไม่สามารถเห็นสัดส่วนของนางได้ แต่เพียงใบหน้างามที่จ้องมองเขาอยู่ก็เพียงพอให้อาจางเคลิบเคลิ้มงมงายแล้ว

     "หืมมาตั้งแต่เช้ามืดเลยหรือนี่ ก็ดีมีความตั้งใจดีไม่ต้องรอกลุ่มอื่นหรอกเจ้าวิ่งขึ้นเขาพร้อมข้าก่อนได้ เลยกลุ่มของข้าไม่มีใครแล้วหากเจ้าถูกข้าทิ้งห่างจนไม่เห็นหลังข้าจะให้เจ้า วิ่งขึ้นเขาใหม่อีกรอบ" หลิงชิงกล่าวจบไม่รอให้อาจางได้กล่าวอะไรก็หันหน้า วิ่งขึ้นเขาไปก่อนแล้ว

    อา จางเห็นหลินชิงวิ่งนำไปก่อนแล้วได้แต่รีบวิ่งตามไปยิ่งได้ยินว่าหากตามไม่ ทันต้องวิ่งขึ้นเขาอีกรอบทำเอาอาจางได้แต่เร่งฝีเท้าออกมาเต็มที่

     ช่วงแรกๆอาจางที่อยู่ในช่วงกำลังโตเรี่ยวแรงยังดีอยู่สามารถตามติดหลิงชิง ได้ ไม่ห่างยิ่งอาจางเห็นสะโพกของหลินชิงส่ายไปมาตามจังหวะก้าวเท้ายิ่งทำให้อา จางมีแรงฮึดวิ่งได้ดีความเร็วไม่ตก แม้จะมองไม่เห็นเป็นรูปร่างเนื่องจากชุดที่หลินชิงใส่ก็ตามแต่พอวิ่งได้ เพียง 1 ใน 4 อาจางก็เริ่มหมดแรงไปทีละน้อยๆระยะห่างของอาจางกับหลินชิง ถูกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ แม้อาจางจะมีแรงฮึดจากการได้ตามมองหลินชิงอยู่ก็ตามแม้แรงใจจะเต็มร้อย แต่ด้วยร่างกายที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายของอาจางการที่สามารถตามหลินชิงมา ได้ไกลเกือบครึ่งทางนับว่าเยี่ยมมากแล้ว

     และสุดท้ายแผ่นหลังของหลินชิงก็หายไปในที่สุดอาจางตอนนี้แทบไม่มีแรงจะวิ่ง แล้วได้แต่ก้าวขาเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆปากหอบหายใจเสียงดังไม่หยุด จนกระทั่ง ศิษย์กลุ่มจุงซึ่งออกตัวตามมาทีหลังตามมาทันอาจางเห็นแล้วก็รีบกลั่นใจเค้น แรงที่มีวิ่งขึ้นเขาต่อไปอีกครั้ง
     .....
     .....
     .....
     "แฮ่กๆๆๆ ....อา......"สุดท้ายอาจางก็สามารถขึ้นมาได้ถึงตำหนักเทพโอสถในที่สุดทันที ที่อาจางก้าวขาข้ามประตูตำหนักเข้ามาได้อาจางก็ทิ้งตัวลงไปนอนอยู่ที่พื้น ทันที
    "รีบ ลุกขึ้นมาได้แล้วจะนอนอีกนานแค่ไหน" เสียงใสดังขึ้นมาหลังจากอาจางล้มตัวลงไปนอนได้ไม่ถึง 1 นาที แต่ถึงอย่างนั้นอาจางก็รีบลุกขึ้นมายืนตรงหน้าหลินชิงทันที

     "ชิตอนแรกข้าก็เห็นเจ้าวิ่งตามหลังข้ามาได้ตลอดที่ไหนได้สุดท้ายเจ้ากลับมา ถึงทีหลังกลุ่ม ปี่ เสียอีก น่าขายหน้าข้าจริงๆ มีที่ไหน ศิษย์ของข้ากลุ่มเกา ออกวิ่งมาก่อนยังมาถึงช้าที่สุด" หลินชิงยังคงว่าอาจางไม่หยุดแต่เหมือนคนอื่นจะไม่มีใครได้ยินนอกจากอาจาง เพราะรอบตัวเขาไม่มีใครสนใจหันมามองสักคนยังคงนั่งพักพูดคุยเฮฮากันตามปกติ

    อาจางสักเกตุสักพักค่อยคิดได้ว่าหลินชิงคงสามารถใช้วิชาบังคับเส้นเสียงแบบ ในหนังกำลังภายในได้ จึงทำให้มีเฉพาะเขาที่ได้ยินที่นางว่าซึ่งนางคงอาย ที่ลุกศิษย์ของเธอแพ้กลุ่มปี่ เพราะตอนนี้หน้าของหลินชิงแดงไปทั้งหน้าเพราะอารมณ์โกรธ

    "เจ้า ลงเขาไปแล้ววิ่งขึ้นมาใหม่เดี๋ยวนี้ ข้าให้เวลา 1 ชั่วยาม ( 2 ชม.) หากทำไม่ได้ข้าจะให้เจ้าวิ่งอีกสิบรอบ และหากข้าจับได้ว่าเจ้าวิ่งไปไม่ถึงตีนเขาข้าจะลงโทษเจ้าเพิ่มอีก"อาจางได้ ฟังถึงกับอ้าปากค้างแค่รอบแรกที่วิ่งขึ้นเขามาอาจางก็ใช้เวลาไปเกินครึ่ง ชั่วยามแล้วยิ่งตอนนี้เขาเหนื่อยจนแทบอยากลงไปนอนต่อ ต้องวิ่งลงไปและขึ้นเขามาอีกครั้งภายใน 1ชั่วยาม แทบเป็นไปไม่ได้

     "ไม่ต้องพูดมากข้าจับเวลาอยู่หรืออยากวิ่งอีก 10 รอบก็เรื่องของเจ้า"หลินชิง พูดจบก็เหินตัวเข้าไปด้านในไม่เปิดโอกาสให้อาจางได้พูดออกมาสักคำอาจางได้ แต่รีบวิ่งลงเขาไปใหม่อีกครั้ง
     .....
     .....
     .....
     "โอ๊ย ๆๆ เจ็บๆๆ นวดเบาๆหน่อยสิ ชุยถง " อาจางได้แต่นอนร้องครวญครางอยู่บนเตียงปล่อยให้ชุยถงประคบยาจนทั่วขา ทั้ง 2ข้างก่อนจะใช้ผ้าขาวบางคลุมทับแล้วนวดขาของเขาให้ยาซึมเข้าไปวันนี้ทั่งวัน

    อาจางพบหน้าหลินชิงอยู่ 5 รอบ คือ ตีนเขาตอนเช้าและหน้าประตูตำหนักเทพโอสถอีก 4 ครั้ง ซึ่งขึ้นมาปุ๊บก็ถูกสั่งให้ลงไปวิ่งขึ้นเขามาใหม่ สรุปวันนี้ทั้งวันนอกจากพักทานอาหารกลางวันอาจางใช้เวลาทั้งหมดไปกับการวิ่ง ขึ้นลงเขาทั้งหมด 12 รอบ  ซึ่งกว่าจะครบก็เป็นเวลาค่ำหลังพระอาทิตย์ตกไปแล้วหลินชิงเห็นอาจาง ขึ้นมาถึงก็สั่งให้กลับบ้านได้พรุ่งนี้ให้เตรียมวิ่งขึ้นเขาอีกครั้ง นางจะรอเขาที่เดิม

    อา จางกลับลงมาตีนเขาก็ได้แต่ทิ้งร่างรอทหารหญิงที่รอเขาอยู่ที่ตีนเขากลับบ้าน ไปนำรถม้ากลับมารับเขากลับก่อนจะถูกชุยถงที่รออยู่ก่อนแล้วพามารักษา
    อา จางตอนนี้แทบไม่อยากขยับขาไปไหนอีกแล้วได้แต่นั่งราบปล่อยให้ชุยถงนวดแต่โดย ดีแม้แต่อาหารเย็นยังต้องให้สาวใช้ยกเข้ามาให้ในห้อง
 
   ขนาดช่วงเวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งชุยถงคอยช่วยปรนนิบัติอาจางยังไม่มีแรงตอบโต้ชุยถงเลยได้แต่ปล่อยให้ชุ ยถงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวจนทั่วก่อนจะกลับไปนอนพักเอาแรงเตรียมพร้อมวิ่งขึ้น เขาในวันรุ่งขึ้น
     .....
     .....
     .....
     "ดูท่าทางคุณหนูคงจะต้องวิ่งขึ้นเขาอีกหลายวันแน่ๆรีบสั่งให้คนไปซื้อยามา เตรียมเอาไว้ให้คุณหนู เอาไว้ก่อนเลย เลือกยาชั้นดีที่สุดไม่ต้องสนใจราคา" ชุยถง ซึ่งพึ่งออกมาจากห้องของอาจางรีบสั่งรองแม้บ้านทันทีก่อนที่รองแม่บ้านจะรับ คำออกไปสั่งงาน
   "อาการคุณหนูเป็นอย่างไรบ้าง" ชุยเหนียงที่พึ่งเห็นชุยถงสั่งงานเสร็จแล้วรีบเข้ามาถามอาการอาจาง
    "คุณ หนูไม่เป็นอะไรมากเพียงแต่คุณหนูไม่เคยฝึกฝนร่างกายมาก่อน พอต้องใช้แรงมากๆทำให้ร่างกายทนไม่ไหว ข้าพึ่งจะประคบยาเสลดมังกรไปให้ คาดว่าพรุ่งนี้เช้าคงจะหายดี"
    "ถึง กับต้องใช่เสลดมังกรเลยหรือ" ชุยเหนียงถึงกับออกอาการตกใจเมื่อได้ยินชื่อตัว ยาที่ชุยถงใช้เสลดมังกรนับเป็นยาวิเศษ ที่หาได้ยากยิ่ง เป็นสมุนไพรที่จะเกิดเป็นช่อเล็กๆตามป่าดิบชื้นใบเรียวเล็กโดยใน 1 ต้นจะมีเพียง 5 ใบเท่านั้น

    โดยคุณสมบัติคือเมื่อนำไปให้ความร้อนอ่อนๆใบของมันจะคายน้ำออกมา ซึ่งน้ำที่คายออกมาจากใบนั้นมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นร่างกายให้ฟื้นฟูได้เป็น อย่างดีหากมีบาดแผลถูกฟันไม่ลึกมากจนเกินไป ได้ยาเสลดมังกรไปประคบเพียงไม่ถึง 1 อาทิตบาดแผลก็หายสนิทเหมือนเดิม ด้วยการกระตุ้นร่ายการให้ฟืนฟูตัวเองอย่างสุดยอดจึงนับเป็นของวิเศษหายาก เพียง ต้นเดียวก็มีราคาหลาย ร้อยตำลึงแล้ว  
     "ฮึต่อให้คุณหนูมีบาดแผลเท่ายุงกัดข้าก็จะใช้ยาที่ดีที่สุดอยู่ดี"ชุยถงกล่าวจบก็หันหน้าเดินไปอีกทาง
    "เดี๋ยวก่อนสิเจ้าเป็นอะไรไป"ชุยเหนียงรีบคว้าแขนชุยถงเอาไว้ก่อนที่ชุยถงจะเดินออกไป
     "ท่านขัดคำสั่งของฮูหยินเพียงวันแรกท่านก็ปล่อยให้คุณหนูเข้าห้องของท่านแล้ว"
    "อะไร กันเรื่องนี้เองหรอกรึ เรื่องนี้จะโทษข้าก็ไม่ได้ คุณหนูเป็นคนผสมยานอนหลับพร้อมป้อนให้ข้าเองกับมือทำให้ข้าไม่สามารถขัดขืน ได้ไม่อย่างนั้นคุณหนูคงรู้เรื่องของข้าพอดีเจ้าเองก็เถอะอยู่กับคุณหนู ตั้งแต่เด็ก เจ้าคง...."
     "เพ้อเจ้อข้าไม่เคยมีอะไรกับคุณหนู" ชุยถง เถียงออกมา ก่อนคิดได้ว่าตัวเองหลุดปากออกไป
     "อ้อ.... ที่แท้ น้องสาวที่น่ารักของข้าก็คงเกิดหึงหวงขึ้นมาสินะ ใช้ข้าช่วยไหมละปล่อยให้คุณหนูผสมยานอนหลับให้เจ้ากินสักครั้ง 2 ครั้ง"ชุยเหนียงตอนนี้เข้าไปกอดชุยถงจากด้านหลังกล่าวยั่วเย้าใส่รูหูจนชุยถงต้องสะบัดหน้าหนี
     "ท่าน....."ชุยถงยังไม่ทันได้ว่าอะไร ชุยเหนียงก็ ปล่อยชุยถงหนีไปไกลแล้วพร้อมส่งเสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วให้ได้ยิน ปล่อยชุยถงขยี้เท้าอยู่ที่เดิมคนเดียว
     .....
     .....
     .....
     อา จางยังคงใช้เวลาอีกหลายวันไปกับการวิ่งขึ้นเขาตั้งแต่เช้ามืดยันค่ำพอกลับมา ถึงบ้านก็แทบจะล้มตัวลงไปนอนเดี๋ยวนั้น ปล่อยให้ชุยถงคอยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อให้ พอตื่นมาก็หายดีเช่นเดิมออกไปวิ่งต่อจนอาจางทึ่งในสรรพคุณของเสลดมังกรจึง ไม่แปลกใจเลยที่มันไม่มีหลงเหลือจนถึงยุคปัจจุบัน

    อา จางเริ่มมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆช่วงแรกๆอาจางพยายามจนสามารถวิ่งขึ้นมาได้ พร้อมกลุ่มปี่ กลุ่มจุงและมาถึงก่อนได้ในที่สุดตามลำดับ แต่ยังคงไม่ผ่านเกณฑ์ของหลินชิงอยู่ดีแต่ดูเหมือนหลินชิงจะพอใจอาจางขึ้นมา บ้างเพราะหลังอาจางสามารถวิ่งขึ้นเขามาได้ก่อนเป็นคนแรกถัดจากนาง อาจางก็ถูกสั่งให้ลงไปวิ่งขึ้นมาอีกรอบก่อนที่นางจะให้อาจางตามไปเรียนวิชา แพทย์เป็นครั้งแรก

    วิชา แพทย์ขั้นแรกที่นางสอนนั้นนับเป็นความรู้พื้นฐานทั่วไปอาจางที่เคยเป็นหมอมา ก่อนสามารถเรียนรุ้ได้อย่างรวดเร็วและยังทำได้ดีกว่าหลินชิงด้วยในบางหัวข้อ จนหลินชิง ยังแปลกใจกับวิธีการที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซึ่งนางพึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกกจนเข้ามาสอบถามอาจางไม่หยุด

    การ ที่หลินชิงจะพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกนับว่าไม่แปลกเพราะวิชาแพทย์ถูกพัฒนามา เรื่อยตลอดระยะเวลานับพันปีอาจางที่มาจากอนาคตย่อมสามารถรักษาได้ดีกว่าเป็น ธรรมดาสำหรับกรณีปกติทั่วๆไปยกเว้นแต่วิชาบางอย่างที่ไม่มีให้เห็นใน ปัจจุบันเท่านั้น

    อา จางเองก็รู้สึกดีที่สามารถทำให้หลินชิงสนใจตัวเองขึ้นมาบ้างได้สำเร็จหลัง จากที่หลายวันที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเกิน 10 ประโยคยิ่งช่วงเวลาที่หลินชิงเข้ามาสอบถามวิธีการรักษาของอาจางจนใบหน้า เข้ามาใกล้จนแทบจะชนกับหน้าของเขาอยู่รอมร่อจนอาจางสามารถได้กลิ่นกายสาวของ เธอได้อย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก

     กลิ่นกายของหลินชิงนั้นดูจะให้ความรู้สึกสดชื่นของกลิ่มสมุนไพรที่ติดตัวของ นางอยู่ตลอดเวลาทำเอาอาจางสติหลุดไปบ้างเช่นกันถ้าไม่ใช่หลินชิงรบเร้าถามอา จางไม่หยุดอาจางคงเผลอก้มหน้าลงไปซุกไซ้ซอกคอขาวของหลินชิงให้เต็มปอดไปแล้ว

    เวลา แห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมออาจางง่วงอยู่ในตำหนักแพทย์อยู่นานหลายชั่ว ยามจนมืดค่ำกับหลินชิงโดยที่อาจางมัวแต่สนใจหลินชิง หลินชิงเองก็มัวแต่สนใจความรู้ใหม่ๆจากอาจางขนาดอาหารกลางวันยังลืมพักไปทาน จนเมื่อได้ยินเสียงเคาะเกราะบอกเวลาเย็นแล้วนั้นแหละทั่งคู่ถึงได้รู้ตัว
     .....
     .....
     .....
    วันนี้ อาจางกลับมาบ้านได้ด้วยตัวเองไม่ได้นั่งรถม้าที่เตรียมเอาไว้อยู่ก่อนแล้วชุ ยถงที่รีบออกมาต้อนรับพร้อมชุยเหนียงและคนอื่นๆในมือต่างถือยาเตรียมประคบอา จางกันคนละมือ 2 มือ  จนอาจางยังต้องยิ้มขำเพราะเมื่อวานนี้เขายังต้องปล่อยให้พวกนางเข้า มารุมประคบยาตั้งแต่ไม่ทันก้าวขาเข้าไปในบ้านด้วยซ้ำ

     วันนี้อาจางทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยจนพุงกางเพราะหลายวันมานี้เขาแทบจะจับ ช้อนไม่ไหวได้แต่ปล่อยให้ชุยถงตักข้าวต้มให้เขาทานพอสามารถกลับมากินอาหาร ได้ปกติ จึงรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้อร่อยกว่าปกติมากนักอาจางปล่อยให้คนใช้เข้ามาเก็บ โต๊ะจนเรียบร้อยตัวเองนั่งจิบน้ำชาหลังอาหารอย่างสบายอารมณ์

    อา จางนั่งจิบชาจนหมดถ้วยปล่อยร่ายกายพักผ่อนแต่สายตาตอนนี้อาจางจับจ้องไปยัง ชุยถงและชุยเหนียงที่ยืนนิ่งด้านข้างรอรับคำสั่งของเขาหากเป็นบ้านหลัก ตระกูลจางแล้วอาจางคงไม่สามารถใช้สายตาเช่นนี้ได้เพราะมีฮูหยินจางนั่งอยู่ ด้วยกันกับเขาแต่ตอนนี้ ในบ้านหลังนี้ อาจางนับได้ว่ามีศักดิ์ใหญ่ที่สุดในบ้านคำพูดของเขาสามารถสั่งได้ทุกคนใน บ้านหลังนี้ให้ปฏิบัติตาม

    อา จางจ้องมองสัดส่วนนอกร่มผ้าของชุยถงและชุยเหนียงอย่างละเอียด  เทียบกันแล้ว ชุยถงดูจะเตี้ยกว่าชุยเหนียงอยู่ 1 ช่วงหัวศีรษะ ทั่งคู่ต่างมีเสน่ห์ต่างกันออกไป ชุยถงนั้นดูเอวบางร่างน้อยกว่ามากปทุมถันขนาดพอดีมือที่อาจางเคยสัมผัสจนทั่ว ยังคงติดตรึงในใจของเขาอยู่ทุกเมื่อท่าทีทีปฏิเสธแต่พร้อมตอบสนองความต้องการของเขาได้ทุกเมื่อ ทำเอาอาจางแทบทานทนที่จะเข้าไปรังแกไม่ได้ชุยเหนียง นั้นเล่า กับปทุมถันขนาดใหญ่ที่สามารถกุมได้เพียงครึ่งเต้าเต็มไม้เต็มมือไหนจะ ทีท่าที่เหมือนกับสาวร่านสวาทเพียงถูกจุดไฟติดก็พร้อมจะปรนนิบัติเขาได้ อย่างเต็มที่ไหนจะช่อดอกไม้สุดวิเศษที่เหมือนจะสามารถดูดรัดมังกรให้ขาดใจ ตายภายในนั้นได้ทุกเมื่อนั้นอีก

    อา จางสำรวจพวกเธอไปทั่งคู่ก็เหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาของอาจางที่สำรวจเรือน ร่างพวกเธออยู่แต่ด้วยฐานะและหน้าที่แล้วทั้งคู่ได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้อาจาง ใช้สายตาโลมเลียพวกเธอด้วยความจำยอม

     อาจางชมเรือนร่างพวกเธอไปจิบน้ำชาไปจนหมด ค่อยวางถ้วยชาลงก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน

     "ชุยเหนียง ไปเตรียมห้องอาบน้ำก่อนสิเดี๋ยวข้าจะไปอาบน้ำ"
    "เจ้าค่ะ"ชุยเหนียงย่อกายคารวะรับคำก่อนจะเดินออกไป
     "ชุยถง มานวดเท้าให้ข้าก่อนละกันระหว่างรอชุยเหนียงเตรียมน้ำเสร็จหลายวันนี้มานี้ เจ้านวดจนข้ารู้สึกสบายเป็นที่สุด จนข้าเริ่มติดใจซะแล้วสิ"
    "เจ้า ค่ะ"ชุยถงย่อกายคารวะรับคำก่อนจะเดินมาหาอาจางช้าๆก่อนจะลงไปนั่งที่พื้น ด้านข้างอาจางก่อนจะจับขาขวาอาจางขึ้นมาพาดบนตักของนางก่อนจะค่อยๆบีบนวด เท้าอาจางอย่างตั้งอกตั้งใจ
      "อืม... อา... ดีมากเจ้านวดได้ดีจริงๆ ชุยถง" อาจางปล่อยให้ชุยถงบีบนวดเท้าของเขาต่อไปเรื่อยๆตอนนี้ทั้งห้องมีเพียงเขา และ ชุยถง 2 คนเท่านั้น
     นับตั้งแต่ออกมาจากบ้านตระกูลจางครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้อยู่กับ ชุยถง 2 ต่อ 2 เช่นนี้อีกครั้ง ถ้าไม่นับช่วงหลายวันมานี้ที่อาจางแทบหมดแรงข้าวต้มกลับมา

    อา จางรอจนแน่ใจว่าแถวๆนี้ไม่น่าจะมีใครเขามาในห้องนี้อีกแล้วค่อยออกลายออกมา อาจางค่อยๆลุกมานั่งปลายเก้าอี้ จนสามารถมองชุยถงที่นั่งอยู่ด้านล่างได้ทั้งตัวซึ่งชุยถงเองกำลังขะมัก เขม้นกับการนวดเท้าของอาจางอยู่อย่างใจจดใจจ่อก่อนที่อาจางจะค่อยๆเลื่อนมือ ไปลูบวงหน้างามช้า จนชุยถงสะดุ้งพยายามเอียงหน้าหลบแต่ก็ทำได้แค่นั้นเพราะมืออาจางยังคงลูบคลำ แก้มเนียนใสไร้สิวฝ้าอย่างเบามือ

    ชุยถงได้แต่ปล่อยให้อาจางลูบไล้ไปเรื่อยตัวเองก็ยังคงบีบนวดขาให้อาจางต่ออา จางเห็นชุยถงไม่ปัดป้องก็ยิ่งได้ใจค่อยๆลูบลงมาตามลำคอยาวลงมาบนไหล่ของชุยถงที่ขยับขึ้นลงตามแรงมือที่บีบนวดอาจางอยู่

    อา จางบีบคลึงหัวไหล่กลมมลอยู่สักครู่ก่อนค่อยๆเลื่อนมือลงไปจับปกเสื้อของชุ ยถงจนตอนนี้เหมือนชุยถงจะทนไม่ไหวแล้วจึงละมือข้างหนึ่งขึ้นมากุมมือของอา จางที่จับปกเสื้อเอาไว้ก่อนยิ่งอาจางรู้สึกได้ถึงมือนุ่มนิ่มที่ไม่น่าเชื่อ ว่าจะเป็นมือของหญิงรับใช้ที่ทำงานอยู่ทุกวัน

    อา จางปล่อยให้มือน้อยๆกุมมือของตัวเองไว้สักพักหนึ่งจ้องมองใบหน้างามของชุยถง ที่พยายามส่งแววตาอ้อนวอนมาให้ อย่าไม่ลดละอาจางจึงส่งยิ้มไปให้จนแววตาของชุยถงเปลี่ยนมาเป็นแววตาลิ่งโลด ยินดีอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่อาจางจะแบะปกเสื้อของชุยถงออกมาจนหลุดออกมาถึง ต้นแขนของชุยถงเผยให้เห็นเอี๊ยมตัวน้อยที่ปกปิดปทุมถันคู่งามเอาไว้ให้เห็น ออกมาครึ่งหนึ่ง
 
    โดย ไม่รอช้าอาจางใช้มืออีกข้างเอื้อมไปจับปกเสื้ออีกข้างก่อนจะแบะออกไปจนหลุด ออกจากไหล่น้อยๆนั้นทำให้อาจางสามารถเห็นเรือนร่างงามท่อนบนของชุยถงได้ เต็มๆตามีเพียงเอี๊ยมตัวน้อยเหลืออยู่ชิ้นเดียวที่คอยปกปิดปทุมถันเอาไว้ อยู่

    ชุยถงพอ ถูกอาจางจับถอดเสื้อผ้าออกมากลางห้องโถงถึงกับร้องไม่ออกเพราะหากมีใครเข้า มาในห้องจะต้องเห็นตนเองในสภาพนี้ได้ชัดเจนแน่นอนพยายามรีบสวมเสื้อกลับมา เช่นเดิม แต่ดูเหมือนจะสายเกินไปอาจางเมื่อสามารถดึงเสื้อลงมือถึงข้อศอกของชุยถงก็ รีบดึงมือทั้งคู่ของชุยถงไปด้านหลังก่อนจะรีบใช้เสื้อของชุยถงเองที่ร่นลงไป กองด้านหลังจับมัดข้อมือของชุยถงไว้จนชุยถงไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้

   ยิ่งชุยถงพยายามคลายมัดเท่าไหร่ก็ยิ่งได้แต่แอ่นปทุมทันไปมาอย่างยั่วยวนตรง หน้าอาจางเท่านั้นอาจางไม่รอช้ารีบอุ้มชุยถงขึ้นมานั่งบนตักตัวเองทันที

    "คุณ หนูได้ โปรดที่นี่กลางห้องโถง หากมีใครเข้ามาเห็นเข้ามันจะไม่ดีได้โปรดแก้มัดชุยถงก่อนเถิด"ชุยถงพยายามขอ ร้องอาจางแต่เหมือนจะสายเกินไปเสียแล้วเพราะตอนนี้อาจางที่อดอยากปากแห้งมานานเมื่อมีปทุมถันส่ายยั่วอยู่ตรงหน้า ก็รีบก้มหน้าลงไปซุกอยู่กลางปทุมถันอย่าโหยหาก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาบีบเคล้น ปทุมถันอย่างคิดถึงก่อนจะจับส่งเม็ดบัวที่เริ่มจะแข็งเป็นเม็ดขึ้นมาเข้าปาก ไปทั้งๆที่ยังมีเอี๊ยมคลุมอยู่

     พอเม็ดบัวเข้าปากอาจางก็รีบดูดเลียอย่างคิดถึงรสชาติที่ห่างหายไปนาน

    "อู้ ย.... คุณหนู หยุดก่อน อ้า....อย่างน้อยรอจนกว่ากลับไปยังห้องคุณหนูก่อน บ่าวจะปรนนิบัติให้ อู้ย ซีสสสสสสสอย่ากัด อ้า......"
    คำ ร้องขอขอชุยถงตอนนี้ไม่เข้าหูของอาจางแม้แต่น้อยอาจางยังคงขยำปทุมถันของชุ ยถงอย่างเมามัน ไม่หยุด จนชุยถงต้องพยายามกลั้นเสียงไม่ให้ดังออกมามากเกินไปจนมีใครได้ยินเข้า

   ชุยถงเองถูกอาจางขยำปทุมถันซ้ายขวาไม่หยุด เดี๋ยวก็ถูกอาจางขบกัดตามเม็ดบัวเดี๋ยวก็ถูก เลียไปทั่วจนตั้งรับไม่ทันมือที่ถูกมัดอยู่ทำให้ไม่สามารถขยับขึ้นมาปัดป้อง ได้ยิ่งทำให้ชุยถงเสียวซ่านจนได้แต่กำเสื้อตัวเองแน่น แอ่นปทุมถันให้อาจางดูดกินตามใจชอบจากที่พยายามกั้นเสียงเอาไว้แต่ความเสียว ที่รับรับยิ่งมายิ่งมากจนไม่สามารถข่มกั้นอารมณ์เอาไว้ได้อีกต่อไป

    "อ้าย..... อ้า...... อะ อะ อะ อะ " ชุยถงกรีดร้องเสียงดังแอ่นปทุมถันดันเข้าปากของอาจาง ไม่หยุด พร้อมกระตุกอยู่สักพักก่อนจะ ล้มตัวลงมาซบอยู่บนไหล่ของอาจาง
     อาจางเห็นอาการของชุยถงก็รู้แล้วว่าชุยถงถึงสวรรค์ไปแล้วเพียงแค่ถูกเขา จัดการกับปทุมถันเท่านั้นจนอาจางรู้สึกได้ถึงน้ำหวานที่เปียกกางเกงของเขาอยุ่

     อาจางค่อยยันตัวชุยถงกลับมานั่งตัวตรงเช่นเดิม ก่อนจะเลื่อนปากไปประกบกับปากจิ้มลิ้มของชุยถงที่ยังคงเปิดค้างอยู่อาจางส่ง ลิ้มเข้าไปสำรวจจนทั่วโพรงปากของชุยถงซึ่งดูชุยถงเองเมื่อเจอลิ้นอาจางเข้า ไปเกี่ยวพันลิ้นของชุยถงก็ดูจะหลบหนีไปมาทำเอาอาจางต้องกลับไปขยำปทุมถัน อีกรอบชุยถงจึงยอมปล่อยให้ลิ้นของอาจางเข้าไปพัวพันด้วยอาจางแลกลิ้นกับชุ ยถงจนน้ำลายไหลย้อยออกมาตามมุมปากอาจางถึงค่อยยอมปล่อยชุยถงออกไป แต่เหมือนชุยถงจะอ่อนแรงไปหมดเพราะเพียงอาจางปล่อยมือชุยถงก็กลับลงไปซบบน ไหล่ของอาจางอีกรอบ

    อา จางเห็นว่าควรพอก่อนได้แล้วจึงค่อยแก้มัดให้กับชุยถงก่อนจะค่อยๆจัดเสื้อผ้า ให้กลับมาอยู่สภาพเดิมแต่ดูเหมือนชุดของชุยถงจะยับยู่ยี่ไปหมดเสียแล้ว อาจางไม่สนใจมากรอจนชุยถงมีแรงลุกขึ้นไปยืนได้เอง

    "ไปชุยถง ข้าจะไปอาบน้ำ"
    อา จางรอจนชุยถงที่ขายังสั่นๆอยู่เดินนำไปก่อนค่อยเดินตามออกมาด้านนอกมีคนใช้ เดินอยู่บ้างแต่อยู่ค่อนข้างไกลพอสมควรอาจางมั่นใจว่าพวกนางคงไม่ได้ยิน เสียงของชุยถงแน่นอนจึงไม่ได้ใส่ใจนักแต่กับชุยถงแล้วเพียงเห็นคนเดินอยู่ ไกลๆก็ถึงกับอายหน้าแดงกล่ำขึ้นมาแล้ว

    ชุยถงค่อยๆเดินไปยังห้องอาบน้ำช้าๆอาจางเห็นท่าทางการเดินของชุยถงแล้วถึงกับ อยากคว้าเข้ามากอดไว้ก่อนอีกซักรอบแต่ก็ยังคงอดใจไว้รอจนกว่าจะถึงห้องอาบ น้ำ

    หน้าห้อง อาบน้ำ ชุยเหนียงยังยืนอยู่ด้านหน้าคอยคุมคนใช้ที่กำลังพัดลมเข้าไปยังเตาไฟเพื่อ อุ่นน้ำร้อนอยู่เมื่อเห็นอาจางเดินมาแล้ว ชุยเหนียงจึงค่อยไล่คนใช้เหล่านั้นกลับไป

    "คุณหนูน้ำยังต้มไม่เสร็จดี ต้องรออีกสักพัก โปรดรออีกสักครู่"
    "ไม่เป็นไรหรอกเจ้าเข้ามาช่วยข้าเปลี่ยนเสื้อก่อนแล้วกัน"
    ชุยเหนียงค่อยหันกลับไปเปิดประตูห้องอาบน้ำให้อาจางเข้าไปโดยอาจางผลักให้ชุ ยถงเดินเข้าไปด้วย ก่อนชุยเหนียงจะเดินตามเข้ามาก่อนจะปิดประตู

[post]    อา จางยืนอยู่ด้านหน้าราวแขวนผ้ายืนรอคอย 2 สาวเข้ามาช่วยเขาถอดเสื้อผ้าชุดขาวที่ปักอักษรเกาไว้ต้นแขนซ้ายซึ่งเป็นชุด ของศิษย์กลุ่มนี้ค่อยๆถูก 2สาวเข้ามาปลดออกช้าๆจนหมด ก่อนจะถูกชุยถงนำไปพาดไว้บนราว

    มังกร ที่ไม่ได้ถูกใช้งานมานานหลายวันตอนนี้ ขยายตัวออกมาเต็มที่ชี้ไปยังชุยถงกับชุยเหนียงเหมือนต้องการจะบอกว่าต้องการ จะเข้าไปในร่างพวกเธอให้สมกับที่มันต้องรอคอยมาเนิ่นนานเช่นนี้

    "พวก เจ้าก็รีบถอดเสื้อผ้าออกเสียสิ" อาจางยังคงจ้องมองพวกเธอไม่หยุดเหมือนทั้งคู่จะมีทีท่าลังเลเล็กน้อย แม้จะเคยถอดเสื้อผ้าให้อาจางเชยชมมาแล้วแต่ถึงอย่างไรพวกเธอก็ยังคงรู้สึก เขินอายอยู่ดีที่ต้องมาถอดเสื้อผ้าออกมาต่อหน้าอาจาง เช่นนี้ยิ่งมี คนอื่นนอกจากอาจางอยู่ด้วยเช่นนี้แม้ทั้งคู่รู้อยู่แก่ใจว่าต้องถอดด้วยกัน ทั้งคู่ก็ตาม

     อาจางรอคอยสักพักกว่าทั้งคู่จะค่อยๆปลดเปลื้องผ้าของตัวเองออกมาทีละชิ้นๆอา จางที่ยืนชมอยู่ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากทุกท่วงท่าของพวกนางที่ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้ามาทีละชิ้นอย่างเขินอายบิดซ้ายบิดขวาไม่ให้อาจางชมดูได้ถนัดนัก ยิ่งกระตุ้นให้อาจางอยากเห็นพวกนางปลดเสื้อผ้าให้รวดเร็วกว่านี้

    มังกร ของอาจางผงกหัวหงึกๆไม่หยุดเริ่มมีพิษไหลซึมออกมาจากปากมังกรบ้างเล็กน้อย เมื่อได้เห็นพวกนางถอดเสื้อชั้นนอกออกไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเสื้อขาวบางด้านในที่แนบลู่ไปตามเรือนร่างจนสามารถมองเห็นสัดส่วน ได้ชัดเจนยิ่งกับชุยเหนียงที่ปทุมถันใหญ่โตนั้นถึงกับแทบจะหลุดออกมานอก เสื้อขาวนั้นออกมาได้เองเพราะปกเสื้อที่พาดทับอยู่นั้นถูกดันออกด้านข้าง เพราะความใหญ่โตนั้นจนสามารถเห็นเอี๊ยมด้านในโผล่ออกได้อย่างชัดเจน

    อา จางพยายามฝืนตัวเองไม่ให้ก้าวออกไปหาพวกนางก่อนมือข้างนึงถูกเลื่อนลงไปกุม มังกรที่สั่นจนหน้ากลัวเหมือนพร้อมจะคายพิษที่อัดอั้นมานานหลายวันออกมาอยู่ รอมร่อเมือเห็นภาพตรงหน้า ยิ่งตอนที่ชุยถงกับ ชุยเหนียงค่อยๆถอดเสื้อขาวออกมาพร้อมกันช้าๆปทุมถันของทั้งคู่ค่อยๆเผยออกมาให้อาจางชมดูภายใต้เอี๊ยมตัวบางที่ปิดบังอยู่ โดยเฉพาะของชุยถงที่ยังคงเปียก น้ำลายของอาจางอยู่จนแนบติดไปกับเม็ดบัวเห็นเป็นเม็ดได้อย่างชัดเจนหน้าท้อง เรียบเนียนค่อยๆโชว์ออกมา
 
    ชุยเหนียงที่อวบอ้วนกว่าแต่กลับกระตุ้นอารมได้เป็นอย่างดีเมื่อจับคู่กับสะโพก ขนาดใหญ่ของชุยเหนียงทั้งคู่ต่างสวมกระโปรงบางเบาสีเดียวกับเอี๊ยมที่ใส่อยู่ สามารถเห็นกลีบดอกไม้ที่ปิดสนิทเห็นเป็นร่องได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะชุ ยเหนียงที่ลากยาวลงมาจนถึงกลางเป้าเหมือนทั่งคู่จะพอมีอารมณ์อยู่บ้างเพราะ ตอนนี้ กลางกระโปรงที่พวกนางสวมใส่อยู่มีรอยเปียกชื้นออกมาเล็กน้อยยกเว้นชุยถงที่ ชุ่มไปทั้งกระโปรงเพราะถูกอาจางส่งขึ้นสวรรค์ไป รอบหนึ่งแล้วตั้งแต่ในห้องโถง

     เมื่อทั้งคู่ถอดเสื้อออกมาเสร็จก็ได้แต่ยืนนิ่งพยายามใช้มือทั้ง2 ข้างปิดสัดส่วนของตัวเองให้มากที่สุด แต่กับชุยเหนียงแล้วเหมือนตั้งใจจะยั่วอาจางมากขึ้นมากกว่า เพราะ มือซ้ายที่ปิดบังปทุมถันอยู่นั้นแทบไม่สามารถปิดบังอะไรได้เลยนอกจากเม็ดบัวทั้งสอง เพราะปทุมถันขนาดใหญ่นั้นล้นออกมาให้เห็นทั้งเนินอกและฐานปทุมถันที่เอี๊ยม และมือปิดคลุมไม่มิด

    "ชุยเหนียงเจ้าเคยบอกว่าท่านแม่ของข้าสั่งเอาไว้ไม่ให้ข้าลุกล้ำเข้าไปร่างกายพวกเจ้าใช่หรือไม่"
    "เรียนคุณหนู ฮูหยินได้สั่งเอาไว้เช่นนั้นจริงๆ"
    "ชุยถงแล้วเจ้าละ"
     "เรียนคุณหนูฮูหยินได้สั่งข้าเอาไว้เช่นเดียวกัน"
    "งั้นท่านแม่ข้าจะทราบได้อย่างไรว่าข้ามีอะไรกับพวกเจ้าหรือไม่อย่างไร"
    พออาจางถามจบ ชุยถงกับชุยเหนียง ก็มีทีท่าเลิกลั่กขึ้นมา  อาจางไม่รอคำตอบเพราะเห็นท่าทีเช่นนี้ก็พอจะเดาได้แล้ว

    "ชุยเหนียง ชุยถงพวกเจ้าบอกว่าพร้อมจะปฏิบัติตามที่ข้าสั่งทุกเรื่องใช่หรือไม่"
    "เป็นเช่นนั้นจริง คุณหนู" ทั้งคู่ตอบออกมาพร้อมกัน
     "ถ้าเช่นนั้นข้าขอสั่งพวกเจ้าห้ามบอกเรื่องนี้แก่ท่านแม่เพราะหากข้าไม่พูด พวกเจ้าไม่พูดท่านแม่ข้าก็ไม่ทราบเรื่อง พวกเจ้าเข้าใจใช่ไหมเอาไว้ข้าสำเร็จวิชาอย่างไรข้าก็ต้องมาขอรับรางวัลอยู่ดี ถือว่าข้ารับรางวัลล่วงหน้าก่อนแล้วกัน"อาจางยิ้มกริ่มขึ้นมายังไงวันนี้ เขาไม่ปล่อยทั้ง 2 คนไปแน่ๆโดยเฉพาะชุยถงที่รอดไปได้หลายครั้งหลายครา เพราะโอกาสไม่อำนวย

    "แต่พวกข้าไม่สามารถโป้ปดต่อฮูหยินได้" ชุยถง กับชุยเหนียงพูดขึ้นมาพร้อมกัน
    "ดี มากข้ากลับรู้สึกดีที่พวกเจ้าไม่กล้าโป้ปดท่านแม่ข้ามากกว่าที่พวกท่านจะพูด เท็จเพื่อข้าเสียอีกหากท่านแม่ถามให้เรียนไปตามตรง ข้ารับผิดชอบเองแต่หากไม่ได้ถามพวกเจ้าก็ไม่ต้องบอกให้ท่านแม่ข้ารับรู้"แต่ กว่าท่านแม่จะมาถามพวกเจ้าข้าก็คงสำเร็จขั้นแรกก่อนแล้วกระมัง อาจางยิ้มในใจ

     "มาเถิดเสียเวลามากแล้ว น้ำร้อนได้ที่แล้ว พวกเจ้ามาช่วยข้าอาบน้ำได้แล้ว"
     อาจางเดินไปนั่งเก้าอี้เตี้ยๆตัวเดิมก่อนที่ชุยเหนียงจะเดินตามเข้ามาคุก เข่าอยู่ด้านซ้ายมือก่อนตักกระบวยน้ำค่อยๆราดลงบนตัวอาจางช้าๆพร้อมลูบไล้ ร่างกายอาจางไปด้วยชุยถงค่อยตามเข้ามาคุกเข่าอยู่ด้านขวามือคอยช่วยถูร่าง กายอาจางอีกแรงหนึ่ง

    อา จางปล่อยให้มือนิ่มๆทั้ง 4 ข้างลูบไล้ไปทั่วหน้าอกกับแผ่นหลังก่อนจะถูกชุยเหนียงจับแขนซ้ายเข้าไปซุก อยู่ในร่องอกทั้งๆที่ยังมีเอี๊ยมรัดเอาไว้อยู่ก่อนจะค่อยๆขยับเลื่อนขึ้นลง ช้าๆให้ปทุมถันถูไปตามแขนของอาจางชุยถงที่พึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกถึงกับ ทำตัวไม่ถูก จนอาจางต้องเลื่อนแขนไปหา ชุยถงเองก็พยายามดูชุยเหนียงแล้วก็ค่อยๆทำตามจับแขนขวาอาจางลอดเข้าไปจาก ด้านล่างเอี๊ยมอาจางเห็นท่าทีเก้ๆกังๆจึงแกล้งเลื่อนมือไปกุมปทุมถันของชุยถงเอาไว้ก่อนจะบีบเล่น จนชุยถงสะดุ้งค่อยยอมเลื่อนมือขึ้นไปแต่โดยดี

    แต่ เพราะขนาดปทุมถันที่เล็กกว่าชุยเหนียงเกือบครึ่ง ชุยถงจำเป็นต้องใช้มือบีบปทุมถันเข้ามาหาแขนของอาจางอีกแรงอาจางรู้สึกตัว เองช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดใหม่มาในยุคสมัยนี้และโชคดียิ่งกว่าที่ได้ เกิดในฐานะมีอันจะกินเป็นลูกคนใหญ่ค

5712210008


dhfdfh

ขอบคุณมากนะครัำสำหรับบทความดีๆ

peepo2234


Supakorn Bondok


six

ตอน 11 ไปตอนที่ 12 ทำไมไม่ต่อกันครับ

Kamol

อาจางนี่คิดถึงแต่เรื่องเดียวเลย

ppherbalife


Raikiri