ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Oh! My Angel นางฟ้าอลเวง C.7 ภาค1 The Missing Shoe By DRACULolitA

เริ่มโดย matable2016, สิงหาคม 13, 2015, 01:33:59 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

matable2016

Oh!My Angel นางฟ้าอลเวง
Episode I : The Missing Shoe
Chapter VII : "ผลข้างเคียง"
By DRACULolitA


"ไหนพี่เบิร์ดบอกว่าจะพาเบลไปโรงเรียนไงคะ"  นางฟ้าเบลพยายามทวงสัญญาจากพี่ชายคนใหม่ของเธอ  
"ก็พี่บอกแล้วไงว่าไม่ได้ๆ  ตอนนี้ใครๆก็เห็นน้องเบลได้ทุกคนแล้ว  รอพี่อยู่ที่บ้านดีกว่านะครับ"  เบิร์ดยืนยันหนักแน่น  ขืนปล่อยให้นางฟ้าเบลออกไปนอกบ้านคงได้มีปัญหาอื่นๆตามมาไม่รู้จักหยุดแน่ๆ  
"เบิร์ดสัญญากับน้องแล้วไม่ใช่เหรอลูก  ไม่เห็นเป็นไรเลย  พาน้องไปซักวันนะลูก"  แม่ของเบิร์ดไปเข้าข้างลูกสาวซะแล้ว  

     เบิร์ดอดสงสัยไม่ได้ว่านอกจากทำให้แม่ของเขาคิดว่านางฟ้าเบลเป็นลูกสาวอีกคนแล้ว  นางฟ้าตัวน้อยใส่ความทรงจำอะไรเพิ่มเข้าไปอีก  แต่พอจะหันไปถามนางฟ้าเบลก็เธอทำหน้าหงิกงอใส่  เบิร์ดต้องรีบยุติการเจรจาครั้งนี้โดยเร็วไม่งั้นไปโรงเรียนสายแน่ๆ  

"เอาน่า...น้องเบลครับ  อยู่บ้านช่วยคุณแม่ขายของนะ  ถ้าวันนี้น้องเบลเป็นเด็กดี  เดี๋ยวเย็นนี้พี่เบิร์ดกลับมาเล่นด้วย  โอเคมั๊ย?"  เบิร์ดพูดพลางลูบหัวน้องสาวคนโปรดอย่างเอ็นดู  
"จริงๆนะคะ"  น้ำเสียงนางฟ้าเบลยังไม่คลายความเสียดายที่อดไปโรงเรียน  
"แน่นอนที่สุดครับ"  เบิร์ดยืนยันคำพูดด้วยการก้มลงหอมแก้มนางฟ้าตัวน้อยหนึ่งฟอดแล้วรีบลาแม่ออกจากบ้านไป  โดยไม่ปล่อยให้นางฟ้าเบลได้ถามอะไรต่อเพราะมัวแต่ยิ้มที่โดนพี่ชายสุดที่รักหอมแก้มเข้าให้
  
         บ้านของเบิร์ดห่างจากโรงเรียนเกือบ 10 กิโล แต่ยังโชคดีที่หน้าปากซอยบ้านติดกับถนนใหญ่และมีรถเมล์วิ่งหลายสาย  นั่งรถเพียงต่อเดียวก็สามารถไปถึงหน้าโรงเรียนของเขาได้  หากโชคดีรถไม่ติด  แม้ออกจากบ้านเจ็ดโมงครึ่งอย่างเช่นวันนี้ก็คงถึงโรงเรียนทันเวลา  เบิร์ดยืนรอรถเมล์ไปพลางคิดถึงเรื่องที่บ้านไปพลางจนกระทั่งรถเมล์มา  เบิร์ดเดินทางไปโรงเรียนโดยหอบความกังวลใจติดตัวไปด้วย

   เบิร์ดเรียนโรงเรียนชายล้วนที่เปิดตั้งแต่ระดับชั้นป.1ถึงม.6 เขาเรียนที่นี่มาตั้งแต่ป.1เลยทีเดียว  ทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนเขารู้หมด  ทันทีที่เบิร์ดลงจากรถเมล์แทนที่จะไปที่หน้าประตูโรงเรียน  เขากลับวิ่งไปอีกทางซึ่งเป็นทางลัดที่เขาเตรียมไว้ใช้เข้าโรงเรียนในสถานการณ์ที่มาสายเช่นนี้  

ในที่สุดเบิร์ดเข้าไปรวมกลุ่มเข้าแถวกับเพื่อนๆได้  โดยไม่โดนครูที่ดักรออยู่หน้าประตูโรงเรียนจดชื่อคนมาสาย  

"สายอีกแล้วนะมึง"  เพื่อนร่วมชั้นแซวเบิร์ดทั้งๆที่เห็นพฤติกรรมนี้เป็นประจำจนชินตา  
"พอดีมีเรื่องยุ่งๆที่บ้านน่ะ" เบิร์ดให้เหตุผล  
"มึงก็พูดงี้ตลอดแหละ  มัวแต่ไปดักรอเด็กข้างบ้านมึงอีกล่ะสิ...ไอ้ห่า" เสียงเพื่อนสนิทของเบิร์ดคนอื่นๆหัวเราะสมทบกับความคิดเห็นนั้น  
"ไม่ใช่เว้ย...คราวนี้เรื่องที่บ้านจริงๆ"  เบิร์ดทำสีหน้าเคร่งเครียดแทนที่จะยิ้มอายๆอย่างทุกทีทำให้เพื่อนๆเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องที่บ้านจริงๆ  เมื่อเห็นว่าแซวเบิร์ดไม่สนุกแล้วเพื่อนๆของเขาก็เปลี่ยนประเด็นไปคุยเรื่องอื่นแทน  จนกระทั่งเข้าแถวร้องเพลงชาติเสร็จแล้วก็ขึ้นห้องเรียนไป

   เวลาเที่ยงวัน  เบิร์ดและผองเพื่อนลงมารับประทานอาหารกลางวันกัน  

"เฮ้ย! ไอ้ศักดิ์  ทำไมวันนี้มึงไม่ซื้อลูกบอลมาฟะ...แล้วเที่ยงนี้จะเล่นบอลได้ไง"  เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มบ่นขึ้นมากลางวง  
"อ้าว...ก็วันนี้อาจารย์เค้าจะใช้สนามทำพิธีอะไรซักอย่างไม่ใช่เหรอ  แล้วกูก็บอกไอ้กายแล้วว่าวันนี้เล่นบอลไม่ได้  มันไม่ได้บอกมึงเหรอ?"  ศักดิ์แก้ตัวพร้อมให้เหตุผล  
"เฮ้ย! ก็มึงเพิ่งบอกกูเมื่อวานตอนเย็น  แล้วกูจะไปบอกใครได้วะ  ไอ้ห่า" กายอธิบายไปพลางกินข้าวคำสุดท้ายไปพลาง  
"เออๆ  ไม่เป็นไร  แม่งแค่ลูกบอลลูกเดียว จะต่อยกันเลยรึไงฟ่ะ" ปอนด์เห็นท่าไม่ดีรีบยุติความขัดแย้ง
"อืม...แล้วเที่ยงนี้จะทำอะไรดีวะ  เล่นบอลก็ไม่ได้ซะแล้ว"  ทั้งกลุ่มนั่งนิ่งเงียบ 
 
"เล่นปาอัดมั๊ย...กูมีลูกปิงปอง"  กายเสนอความคิดหลังจากดูดโค๊กจนหมดแก้วไปแล้ว  
"ไอ้ห่า...มีกันอยู่ 4 คน  คงจะปากันโดนหรอกนะมึง"  ศักดิ์แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย  
"มึงเล่นแล้วแพ้ต้องขึ้นแท่นประจำล่ะสิ...เลยไม่อยากเล่น" ปอนด์จอมรู้ทันแซวศักดิ์  ทั้งสามคนยังคงคิดถึงสิ่งที่จะทำก่อนเรียนคาบบ่ายกันต่อไปจนเกือบจะลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง  
"เฮ้ย!...ไอ้เบิร์ด  มึงเอาแต่นั่งนิ่งเงียบอยู่ได้  ช่วยกันคิดมั่งสิวะ" ศักดิ์สะกิดเบิร์ดด้วยไหล่  
"หะ..หา  อะไรนะ  กูไม่ทันฟัง" เพื่อนทั้ง 3 มองหน้ากันเลิกลั่ก  เสียงทั้งสามคนคุยกันดังจนถัดไปอีก3โต๊ะก็ได้ยินแต่เบิร์ดกลับไม่สนใจฟัง  กายมองหน้าเบิร์ดพร้อมกับคิดอะไรบางอย่างอยู่  
"กูรู้แล้ว...เที่ยงนี้เราจะทำอะไรดี"  กายลุกขึ้นยืนประกาศต่อหน้าเพื่อนอีก 3 คน...

    โรงเรียนของเบิร์ดมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง  มีทั้งสนามฟุตบอล  สนามบาส  และโต๊ะปิงปองเป็นจำนวนมาก  แต่กระนั้นก็มีไม่พอต่อความต้องการของนักเรียนทุกคน  เมื่อสนามบอลของกลุ่มถูกยึดไปชั่วคราวแล้ว  กลุ่มของเบิร์ดจึงไม่เหลืออะไรทำอีก  ทั้งกลุ่มเดินหาที่นั่งจนกระทั่งได้โต๊ะหินอ่อนตัวหนึ่งมีร่มเงาพอให้นั่งคุยได้จนถึงเวลาเข้าเรียน  

"ไอ้เบิร์ด...ตกลงเรื่องที่บ้านมึงที่ว่ายุ่งๆเนี่ยะ  มันเรื่องอะไรวะ?  กูเห็นมึงนั่งเหม่อตั้งแต่อยู่ในห้องเรียนแล้ว"  กายเริ่มเปิดประเด็น  
"ก็...ไม่มีอะไรมากหรอก"  เบิร์ดตัดสินใจไม่เล่าดีกว่า  

     การจะให้คนอื่นเชื่อว่าตัวเองไปพบนางฟ้ามา  ได้เย็ดกับนางฟ้า  ได้นางฟ้ามาเป็นน้องสาว  แล้วตอนนี้ก็ช่วยนางฟ้าหาทางกลับสวรรค์อยู่   ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทแค่ไหนก็คงเชื่อได้ยาก  

"ไอ้ห่า...มึงไม่ต้องมาโกหกพวกกู  มีอะไรก็บอกมาซะดีๆ  เผื่อพวกกูช่วยได้ไง" ปอนด์ชวนเชิญเบิร์ดให้ระบายความในใจออกมา  
"อ๋อ...หรือว่าเกี่ยวกับเรื่องน้อง...อะไรของแกนะ  น้องฝนใช่มั๊ย?  เดี๋ยวนี้ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันแล้วเหรอ...555" ศักดิ์หาเรื่องแซวให้เบิร์ดกล้าพูดมากขึ้น  
"ไอ้บ้า...น้องเค้าชื่อน้ำฝนเว้ย  แล้วเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับน้องเค้าซักหน่อย"  เบิร์ดอธิบาย  
"ไอ้เหี้ย  พูดผิดนิดผิดหน่อยไม่ได้เลยนะมึง...กูถามจริงๆเหอะ  ทำไมมึงไม่มองผู้หญิงสาวๆสวยๆคนอื่นๆมั่งวะ  แถวบ้านมึงก็มีเยอะไม่ใช่เหรอ?"  กายขอเป็นฝ่ายถามบ้าง  
"ไอ้เบิร์ดมันมองการณ์ไกลเว้ย...ตอนนี้ป.6 อีก 5 ปีก็ทันใช้พอดี 555" ปอนด์แซวแทรกคำตอบเบิร์ด  ชวนให้ทั้งกลุ่มหัวเราะอย่างสนุกสนาน 
 
"ไอ้ห่า...ถ้าพวกมึงได้เห็นน้องเค้าแล้ว  พวกมึงจะเข้าใจกู  น้องเค้าน่ารักจริงๆนะว้อย"  เบิร์ดได้โอกาสรีบเปลี่ยนประเด็นคุย  แม้จะเป็นเรื่องที่ตัวเองไม่ค่อยชอบให้เพื่อนๆแซวซักเท่าไหร่  
"เหอะ...น่ารักแค่ไหนก็ ป.6 ล่ะว๊า นมเนิมยังไม่ทันขึ้นเลย  มันจะไปมีอารมณ์อะไร  มันต้องอย่างอาจารย์นิสิตห้อง 5 สิวะ  แม่ง...นมโคตรโตเลย"  ศักดิ์แสดงความคิดเห็นบ้าง  
"หน้าตาก็งั้นๆแหละว๊า" กายที่เน้นสาวหน้าตาน่ารักไว้ก่อนไม่ยอมรับ  
"ไอ้ห่า...หน้าตาดีแค่ไหนปิดไฟก็ไม่เห็นแล้ว" ศักดิ์ยืนยันความเชื่อเรื่องขนาดของไฟหน้า  

     เพื่อนทั้งสามคุยสนุกจนลืมเบิร์ดอีกแล้ว  แต่คราวนี้แทนที่เบิร์ดจะคิดถึงเรื่องที่บ้าน  เขากลับคิดถึงเรื่องเด็กข้างบ้านแทน  เด็กสาวคนนี้เป็นเด็กที่เขาแอบชอบมาตั้งแต่เข้าอยู่ม.2 แล้ว  เป็นเด็กเรียบร้อย  นิสัยดี  มีน้ำใจต่อคนรอบข้าง  รอยยิ้มของเธอแทบจะทำให้เบิร์ดลืมหายใจเลยทีเดียว  

แม้บ้านของทั้งคู่จะอยู่ใกล้กันแต่ก็ต้องเรียนกันคนละโรงเรียนเพราะโรงเรียนของเบิร์ดไม่รับนักเรียนหญิง  และโรงเรียนของเด็กข้างบ้านก็ไม่มีระดับชั้นมัธยม  เบิร์ดใฝ่ฝันไว้ว่าหากเธอโตขึ้นเป็นสาวเต็มตัวแล้วจะขอเธอเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ  แต่บัดนี้เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปซะแล้ว  เบิร์ดทำทุกอย่างพังด้วยการไปร่วมรักกับนางฟ้าเบล  

จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดต่อนางฟ้าตัวน้อยอยู่เลย  หนำซ้ำก็ยังรู้สึกผิดต่อเด็กสาวข้างบ้านด้วย  ที่ไม่รู้จักห้ามใจรักษาความบริสุทธิ์ของเขาให้ดี  ในใจของเบิร์ดตอนนี้สับสนว้าวุ่นใจไปหมด  [เพี๊ยะ!]

"ไอ้เบิร์ด!" ศักดิ์ตบหัวเบิร์ดเต็มๆไป 1 ที
"ไอ้ห่า...กูเรียกตั้งนาน  ใจลอยไปถึงไหนวะมึง"  เพื่อนอีกสองคนก็มองเบิร์ดด้วยสีหน้าเหมือนเห็นเพื่อนอยู่ในอาการโคม่าใกล้ตายเต็มที  
"ตกลงมึงจะเล่าให้พวกกูฟังได้รึยัง...เรื่องของมึงน่ะ"  ปอนด์ย้ำคำถามที่เพิ่งถามไปอีกครั้ง  
"เอ่อ...เรื่องนั้นช่างมันเหอะ  คือตอนนี้มัน...  มีเรื่องอื่นที่หนักใจกว่าอีกน่ะ..."  เบิร์ดเห็นว่าเรื่องนี้พอจะปรึกษาเพื่อนๆได้  
"เรื่องอะไรล่ะฟะ?" ศักดิ์คะยั้นคะยอ  
"คือ...ถ้าพวกนายชอบใครคนนึง  แต่ดันไปได้เสียกับอีกคนนึงแล้วเนี่ยะ  พวกมึงจะทำไงวะ?"  เบิร์ดจบประโยคคำถามปล่อยให้เพื่อนๆทำสีหน้าตกใจกับคำถามของเบิร์ดระยะหนึ่ง  

"เฮ้ย! แต่ไม่ใช่กูนะเว้ย...คนที่บ้านเฟ้ย เค้ากลุ้มใจเลยมาปรึกษากู  กูก็เลยเหม่อๆอย่างนี้ไง"  เบิร์ดรีบหาข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผลได้ทันท่วงที  เพื่อนๆทั้งสามพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
"มึงจะคิดอะไรมากมายไปทำไม  เอาแม่งทั้ง 2 คนเลยหมดเรื่องหมดราว"  ศักดิ์ให้ความเห็น  
"กูว่านะเฟ้ย  มันเป็นประสบการณ์ของชีวิต  ครั้งแรกก็ถือซะว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นศึกจริง  เวลาเอากับแฟนจริงๆจะได้ทำเป็นไง"  ปอนด์ให้ความเห็นอีกอย่าง  
"ไอ้ห่า...ทำอะไรให้มันมีความรับผิดชอบหน่อยสิเฟ้ย! ทำแล้วก็ต้องรับผิดชอบ" กายคัดค้าน  นอกจากทั้งสามจะไม่ช่วยแก้ปัญหาให้เบิร์ดแล้ว  ยังเพิ่มเรื่องให้เบิร์ดกังวลมากเข้าไปอีก <เออนะ...พวกมึง  แล้วจะมาช่วยกูหาอะไรฟะ!> เบิร์ดได้แต่เก็บปัญหาของตนเอาไว้เครียดในใจต่อไปจนกระทั่งเลิกเรียน

          เวลาเย็นหลังเลิกเรียนแล้ว  เบิร์ดรีบเดินบึ่งตรงไปยังป้ายรถเมล์  

"มึงจะรีบกลับทำไมวะ...ไอ้เบิร์ด  ไม่อยู่เตะบอลด้วยกันก่อนล่ะ?" ปอนด์พยายามตื้อเพื่อนให้อยู่ต่อ  
"กูบอกแล้วไง  พอดีมีธุระต้องรีบกลับไปทำที่บ้าน"  เบิร์ดอธิบายสั้นๆ  เขาสัญญากับนางฟ้าเบลแล้วว่าจะไปช่วยหารองเท้าให้เธอ  

     นอกจากนั้นการปล่อยให้นางฟ้าที่ไม่คุ้ยเคยกับโลกมนุษย์ต้องอยู่ตามลำพังก็ทำให้เบิร์ดอดเป็นห่วงไม่ได้  เขาต้องรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  เบิร์ดเดินจ้ำอ้าวขึ้นรถเมล์โดยไม่สนเสียงเพื่อนๆที่ตะโกนไล่หลังมา

     พอลงจากรถเมล์ได้เบิร์ดก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งจากหน้าปากซอยตรงเข้าบ้านทันที  

"พี่เบิร์ด!"  เสียงใสๆของนางฟ้าเบลร้องเรียกตั้งแต่เบิร์ดยังไม่เข้าบ้านเลยทีเดียว  
"วันนี้เป็นเด็กดีรึเปล่า?"  เบิร์ดถามนางฟ้าเบลขณะถอดรองเท้าและถุงเท้าของตัวเองออก  
"ค่ะ...วันนี้เบลช่วยคุณแม่ขายของด้วย  ลูกค้าเยอะแยะเลยค่ะ....."  นางฟ้าเบลเล่าเหตุการณ์ต่างๆตลอดทั้งวันให้เบิร์ดฟังอย่างตื่นเต้น  ทำให้เบิร์ดอดยิ้มไม่ได้กับท่าทีของนางฟ้าผู้ไร้เดียงสา  

"อ๊ะ!ลูกค้ามาอีกแล้ว...ซื้ออะไรดีคะ?"  นางฟ้าเบลรีบปรี่เข้าไปทักทายลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน  ดูท่าทางเธอจะสนุกกับงานใหม่ของเธอไม่น้อย  
"มีเชือกฟางขายมั๊ยครับ?"  คำถามลูกค้าหนุ่มทำให้นางฟ้าเบลมองซ้ายมองขวาหลายรอบก่อนจะหันมายิ้มแหยะๆให้เบิร์ด  
"เชือกฟางอยู่บนชั้นด้านซ้ายนั่นน่ะ  มา...เดี๋ยวพี่หยิบเอง"  เบิร์ดลุกขึ้นทำท่าจะไปช่วย  
"ไม่เป็นไรค่ะพี่เบิร์ดเดี๋ยวเบลจัดการเอง"  นางฟ้าเบลรีบปฏิเสธเพราะอยากจะโชว์พี่เบิร์ดของเธอว่าวันนี้เธอช่วยคุณแม่ทำอะไรมาบ้าง  

     นางฟ้าตัวน้อยคว้าเก้าอี้เพื่อปีนขึ้นไปหยิบเชือกฟางตามตำแหน่งที่เบิร์ดชี้  ถึงกระนั้นเธอก็ยังต้องเขย่งขาขึ้นเพื่อหยิบเชือกฟางจากบนชั้นนั้นออกมา  ในตอนนั้นเอง...แม้เบิร์ดจะเป็นห่วงกลัวว่านางฟ้าเบลจะพลัดตกลงมาซักเท่าไหร่  แต่เขามีเรื่องให้ต้องห่วงมากกว่านั้น  เบิร์ดเพิ่งระลึกได้ว่าเมื่อเช้าเขาให้นางฟ้าเบลสวมแค่เสื้อยืดตัวเดียวเท่านั้น  

และสิ่งที่ทำให้เบิร์ดนึกขึ้นมาได้ก็คือแก้มก้นขาวๆที่โผล่พ้นชายเสื้อออกมาขณะที่นางฟ้าเบลกำลังเขย่งตัวหยิบเชือกฟางนั้นเอง  เบิร์ดสังเกตุเห็นว่าลูกค้าชายหนุ่มก็มองไปที่เป้าหมายเดียวกัน  นั่นทำให้เบิร์ดรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นที่สุด  

"อันนี้ใช่มั๊ยคะ?"  นางฟ้าเบลหยิบเชือกฟางม้วนสีขาวชูให้เบิร์ดดู
"อืม...ใช่จ้ะ"  เบิร์ดค่อยคลายความกังวลใจเมื่อนางฟ้าเบลค่อยๆลงจากเก้าอี้ได้โดยไม่เปิดหวอแถมให้ลูกค้าหนุ่มไปอีก  
"นี่ค่ะ...เชือกฟาง"  นางฟ้าเบลยื่นเชือกฟางให้ลูกค้าหนุ่ม  สีหน้าของเธอยิ้มแย้มแจ่มใสโดยไม่รู้เลยว่าทำให้เบิร์ดหงุดหงิดแค่ไหน  ลูกค้าหนุ่มรับเชือกฟางไปพิจารณาอยู่ครู่ใหญ่  
"เอ่อ...มีสีเขียวไหมครับ?"  ลูกค้าเจ้าปัญหาอยากขอเปลี่ยน  
"อ๋อ...มีค่ะ  เดี๋ยวนะคะ"  นางฟ้าเบลตั้งเก้าอี้ทำท่าจะปีนอีกรอบ  
"ไม่ต้อง...น้องเบล  เดี๋ยวพี่หยิบเอง"  เบิร์ดเห็นท่าไม่ดีรีบลุกมาช่วยน้องสาวคนใหม่หยิบเชือกฟางที่ลูกค้าต้องการ  โดยไม่ปล่อยให้นางฟ้าตัวน้อยได้ทันปีนเก้าอี้  

"เอ้า!นี่ครับ..."  เบิร์ดส่งเชือกฟางสีเขียวส่งให้ลูกค้า  สายตาของเขาจ้องจะจับผิด <ไอ้บ้านี่...แค่เชือกฟางยังจะต้องเลือกสีอีก  อย่านึกว่ากูรู้ไม่ทันมึงนะ>  

     เบิร์ดออกอาการหวงน้องสาวอย่างออกนอกหน้า  ยืนคุมหน้าร้านด้วยสีหน้าจริงจังเผื่อว่าลูกค้าตัวแสบจะต้องการอะไรเป็นพิเศษอีก  ยังดีที่ลูกค้าหนุ่มจ่ายเงินแล้วก็ออกจากร้านไปทันที  ไม่งั้นเบิร์ดคงระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แน่ๆ  

"พี่เบิร์ดอ่ะ...ทำไมไปทำหน้าตาดุๆอย่างงั้นใส่ลูกค้าล่ะคะ...เดี๋ยวเค้าก็ไม่กลับมาซื้อของที่ร้านเราอีกหรอก"  นางฟ้าเบลบ่นใส่พี่ชายโดยที่ยังไม่รู้ว่าต้นเหตุก็คือตัวเธอเอง  
"ไม่มาก็ดี..ไม่เห็นจะต้องไปแคร์เลย ดูหน้ามันซิ..อย่างกับพวกหื่นกาม" ด้วยอารมณ์หงุดหงิดเบิร์ดบรรยายท่าทีของลูกค้าแรงเกินเหตุ  
"หื่นกาม?...หมายถึงอะไรเหรอคะ?"  เบิร์ดมีคำศัพท์ใหม่มาให้นางฟ้าเบลเรียนรู้อีกแล้ว  
"เอ่อ...คือ..."  เบิร์ดได้แต่อ้ำๆอึ้งๆเพราะรู้ว่าไม่ควรสอนคำศัพท์พวกนี้ให้นางฟ้าผู้ไร้เดียงสาจำอีก  
"ช่างมันเหอะ...ว่าแต่น้องเบลเถอะ  เวลาออกมาขายของคราวหลังต้องแต่งตัวให้ดีๆกว่านี้หน่อยนะ  แล้วก็ที่สำคัญ  อย่าให้ใครเห็นไอ้นั่น  เข้าใจมั๊ย?"  เบิร์ดนั่งลงอธิบายพร้อมกับชี้ประกอบ  
"ทำไมล่ะคะ?"  นางฟ้าเบลถามด้วยความสงสัยพลางยกชายเสื้อขึ้นดู 'ไอ้นั่น' ที่เบิร์ดชี้  แม้เบิร์ดจะเพิ่งห้ามนางฟ้าเบลไปหยกๆ แต่ทันทีที่นางฟ้าตัวน้อยเปิดของดีให้ดู  เบิร์ดกลับไม่ยอมเสียโอกาสจ้องมองโหนกเสียวของนางฟ้า  

"คือ...มันไม่สุภาพน่ะ  เวลาขายของเค้าต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยๆ  ลูกค้าจะได้ชื่นชมไงครับ"  เบิร์ดนึกหาเหตุผลอธิบายไปจ้องเนินสวาทน้องสาวไป  

"แต่ถ้าอยู่ที่บ้านปกติน้องเบลจะแต่งชุดยังไงก็ได้นะ...พี่เบิร์ดไม่ได้ว่าอะไร"  ด้วยความทะเล้นเบิร์ดรีบขยายความต่อเพื่อไม่ให้ปิดกั้นโอกาสของตัวเอง  นางฟ้าเบลพยักหน้ายอมรับเหตุผลของเบิร์ด  
"แต่เบลจะเอาเสื้อผ้าดีๆที่ไหนใส่ล่ะคะ...ชุดของเบลก็มีอยู่แค่ชุดเดียวเอง"  นางฟ้าเบลทำเสียงเศร้าๆ  
"เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เบิร์ดจะพาน้องเบลไปซื้อเอง"  เบิร์ดลูบหัวน้องสาวคนโปรดด้วยความเอ็นดู  

     ใบหน้าที่สดใสของเธอย้ำเตือนเบิร์ดเสมอว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่ได้นางฟ้าตัวน้อยมาอยู่ข้างกายเขา  ฝ่ายนางฟ้าเบลสัมผัสจากพี่ชายสุดที่รักยิ่งทำให้เธอมีความสุขมากขึ้นชวนให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน  

"พี่เบิร์ด...เบลอยากเสียวแบบเมื่อคืนอีกอ่ะ  พี่เบิร์ดทำให้เบลเสียวอีกได้ไหมคะ?"  น้ำเสียงของเธอออดอ้อนซะจนใจของเบิร์ดแทบละลาย  แต่ท่อนเสียวของเบิร์ดกลับแข็งตุงดันกางเกงนักเรียนให้โป่งออกเป็นลำ  

     เบิร์ดทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากทำตามความปรารถนาของน้องสาวสุดที่รัก  เขาดึงตัวของนางฟ้าเบลเข้าหาระดมหอมทั้งแก้มทั้งซอกคอ  จนนางฟ้าตัวน้อยหัวเราะร่าดิ้นไปดิ้นมาด้วยความเสียว  

"นี่...เอาแต่เล่นกันอยู่นั่นแหละ  ลูกค้ามาแล้วไม่เห็นเหรอลูก"  แม่ของเบิร์ดเดินออกมาจากหลังร้านทำเอาเบิร์ดแทบช๊อค  มือของเขายังกำก้นของนางฟ้าเบลติดมืออยู่เลย  เบิร์ดรีบปล่อยนางฟ้าเบลทำเอาน้องสาวหน้างอด้วยความหงุดหงิดเพราะกำลังสนุกได้ที่  
"ไม่เป็นไร...เดี๋ยวแม่ขายเองลูก"  แม่ของเบิร์ดออกไปต้อนรับลูกค้า  ปล่อยให้เบิร์ดทั้งงงทั้งแปลกใจที่แม่ของเขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เบิร์ดทำกับนางฟ้าเบลเลย
"พี่เบิร์ดอ่ะ...เบลกำลังสนุกเลย  อย่าเพิ่งหยุดสิคะ"  นางฟ้าเบลออดอ้อนพี่ชายสุดที่รักของเธอต่อ  แต่ตอนนี้เบิร์ดไม่มีอารมณ์จะเล่นสนุกกับเธอแล้ว  
"เป็นไงลูก  ไปเรียนวันนี้เหนื่อยมั๊ย?"  แม่ของเบิร์ดถามหลังจากลูกค้าออกจากร้านไปแล้ว  
"ก็ปกติครับ   น้องเบล...ไม่เอาน่าพอแล้ว  ปล่อยพี่ก่อน"  เบิร์ดพยายามแกะแขนนางฟ้าเบลที่โอบคอของเขาอยู่  ด้วยไม่อยากให้แม่ของเขาเข้าใจผิด  

"เบิร์ดก็...ตามใจน้องหน่อยสิลูก  เบลเค้ารอจะเล่นกับเบิร์ดทั้งวันเลยนะ"  น้ำเสียงเรียบเฉยของแม่ของเบิร์ดยิ่งทำให้เขางุนงงมากยิ่งขึ้น  ราวกับว่าการที่เขาลูบคลำเรือนร่างของน้องสาวเล่นนั้นเป็นเรื่องปกติ  
"อ่ะ...ค..ครับ"  เบิร์ดทดสอบสมมติฐานของตัวเองด้วยการค่อยๆโอบเอวของนางฟ้าเบลพลางจ้องปฏิกิริยาของแม่ของเขาอย่างกล้าๆกลัวๆ  จากโอบเอวเป็นลูบหลัง  

     จากลูบหลังเป็นจับก้นจากนอกเสื้อ  จากนอกเสื้อเป็นจับก้นโดยตรง  แต่สีหน้าของแม่ของเบิร์ดก็ยังเรียบเฉยอยู่อย่างนั้น  ใจของเบิร์ดเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะสิ่งที่เขาทำแม้จะทำกับน้องสาวของเขาแต่ก็คงไม่มีลูกบ้านไหนทำกับแบบนี้  ที่คุณแม่จะนั่งนิ่งเฉยปล่อยให้ลูกชายจับต้องของสงวนของลูกสาววัยกำลังโตโดยไม่ว่าอะไร  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นฝีมือของนางฟ้าเบลแน่ๆ ที่ทำให้แม่ของเขามีท่าทีเช่นนี้  

แต่ตอนนี้เขากำลังเริ่มสนุกที่ได้ลวนลามนางฟ้าเบลต่อหน้าต่อตาแม่ของเขา  เรื่องที่มาที่ไปคงเก็บเอาไว้ถามทีหลังจะดีกว่า  เบิร์ดจับนางฟ้าเบลพลิกตัวจนทั้งสองพี่น้องตอนนี้หันหน้าไปหาแม่ของพวกเขา  มือซ้ายของเบิร์ดลอดใต้แขนของนางฟ้าเบลขึ้นไปคว้านมนางฟ้าบีบเล่น  ส่วนมือขวาเลื่อนลงมาจับโหนกเสียวเอาไว้เต็มมือ  สายตาของเบิร์ดยังคอยสังเกตปฏิกิริยาของแม่ของเขาโดยตลอด  

"อย่างนี้ดีมั๊ยน้องเบล?"  เบิร์ดแกล้งถามนางฟ้าเบลที่จริงต้องการดูปฏิกิริยาของแม่ของเขามากกว่า  
"ดีค่ะพี่เบิร์ด...เบลเสียวจังเลย...ซื๊ดสสส"  เสียงตอบรับของนางฟ้าเบลนอกจากจะทำให้เบิร์ดมีอารมณ์มากขึ้นแล้ว  

     ยังช่วยยืนยันความจริงที่ว่าหากเขาเย็ดนางฟ้าเบลต่อหน้าต่อตาแม่ของเขาก็คงไม่ว่าอะไร  เบิร์ดเริ่มได้ใจถูไถร่องเสียวนางฟ้าเบลอย่างเอาเป็นเอาตายจนนางฟ้าเบลแข้งขาอ่อนปวกเปียกไปหมด

"ขอโทษค่ะ"  เสียงเด็กผู้หญิงตะโกนเข้ามาจากนอกร้านดันหัวใจของเบิร์ดให้ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม  เธอคือเด็กสาวข้างบ้านที่เบิร์ดแอบชอบอยู่นั่นเอง  

     เบิร์ดรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ปล่อยให้ทั้งนางฟ้าเบลและตัวเองอารมณ์ค้างอยู่อย่างนั้น  ก่อนรีบแจ้นออกไปต้อนรับโดยไม่สนสีหน้าของแม่และน้องสาว...