ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Oh! My Angel นางฟ้าอลเวง C.9 ภาค1 The Missing Shoe By DRACULolitA

เริ่มโดย matable2016, สิงหาคม 14, 2015, 02:11:58 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

matable2016

Oh!My Angel นางฟ้าอลเวง
Episode I : The Missing Shoe
Chapter IX : "เพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจ"
By DRACULolitA


         รองเท้าแตะที่เบิร์ดให้นางฟ้าเบลยืมใส่นั้นใหญ่กว่าขนาดเท้าของเธอทำให้เดินลำบากมากทีเดียว  แต่กระนั้นก็ไม่อาจดึงความสนใจของนางฟ้าเบลไปจากสภาพภายนอกบ้านยามเย็นที่เธอกำลังพิจารณาอยู่ได้เลย  ตึกแถวสี่ชั้นเรียงเป็นแนวไปจนสุดปลายถนน  แม้เป็นซอยยาวแต่ก็เป็นซอยตัน  ทำให้ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านไปผ่านมาบ่อยครั้งนัก  

เด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกับเธอออกมาจับกลุ่มเล่นหน้าบ้านทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดนักเรียน  เสียงเจี้ยวจ้าวของพวกเขาชวนให้นางฟ้าตัวน้อยมองอย่างสนใจ  เพื่อนบ้านที่คอยตอบรับการทักทายของเบิร์ด  ร้านค้าต่างๆที่มีคนมาจับจ่ายซื้อของ  ลูกสุนัขที่วิ่งไล่กัน  ฝูงนกที่กำลังบินกลับรังตัดกับท้องฟ้ายามเย็น  ภาพต่างๆที่นางฟ้าเบลไม่เคยได้เห็นมาก่อนทำเอาเธอมองด้วยความตื่นตะลึงจนลืมที่จะหารองเท้าคู่โปรดของเธอ  

"น้องเบลยังไม่เคยมาที่โลกนี่เลยเหรอครับ?"  เบิร์ดสังเกตอาการของเธอออก  
"ค่ะ...พี่ๆบอกว่าเบลยังไม่พร้อมที่จะมาที่โลก  มันอันตราย"  นางฟ้าเบลตอบโดยไม่ยอมละสายตาไปจากทิวทัศน์ที่เธอกำลังมองอยู่เลย  เบิร์ดมองเห็นแววตาของนางฟ้าเบลที่มองสิ่งรอบข้างแล้วก็อดยิ้มไม่ได้  

"นั่นอะไรคะ? / นี่อะไรคะ? / โน้นอะไรคะ?"  นางฟ้าเบลถามเบิร์ดด้วยประโยคซ้ำๆ  แต่เบิร์ดกลับไม่รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะตอบเธอเลยซักนิด  

     จนกระทั่งเดินไปจนสุดท้ายซอยแล้วก็ไม่เห็นมีวี่แววรองเท้าข้างที่หายไปเลย  ระหว่างทางที่ทั้งคู่เดินย้อนกลับมานางฟ้าเบลไม่วายถามคำถามซ้ำๆกับของบางอย่างที่เธอจำชื่อไม่ได้  เบิร์ดรู้สึกเหมือนพาชาวต่างชาติมาเยี่ยมเมืองไทยแต่ต่างกันตรงที่เขาไม่ต้องอายที่จะพูดกับเธอ  แถมยังรู้สึกเต็มใจและดีใจเสียอีกที่ได้เดินเคียงคู่กันและได้อวดใครๆว่ามีน้องสาวที่น่ารักเช่นนี้

ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ในไม่ช้าทั้งคู่ก็กลับมาถึงหน้าบ้านของเบิร์ด  น้ำฝนกำลังสอนน้องขี่จักรยานอยู่พอดี  เธอและน้องชายเปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นชุดอยู่กับบ้าน  เบิร์ดแทบจะลืมมือนุ่มๆของนางฟ้าเบลที่ตัวเองจับเอาไว้เลย  เมื่อเห็นเพื่อนบ้านสุดน่ารักในชุดอยู่บ้านแบบนี้  

มันเป็นเสื้อสายเดี่ยวพื้นขาวมีลายรูปหัวใจสีชมพูอันเล็กๆรอบตัว  กับกางเกงขาสั้นสุดๆสีเดียวกับหัวใจบนเสื้อของเธอ  แสงแดดอ่อนๆยามเย็นที่สาดมากระทบกับน้ำฝน  ส่งผลให้ผิวขาวๆแบบคนจีนของเธอเปล่งประกาย  จนเบิร์ดอดคิดไม่ได้ว่าน้ำฝนอาจเป็นนางฟ้าอีกคนที่พลัดตกลงมาจากสวรรค์ก็เป็นได้  

"พี่เบิร์ด...ดูซี่ นี่เฟลมขี่จักรยานได้แล้ว..." สิ้นเสียงเจ้าหนูป.2 ที่พยายามขี่จักรยานมาหาเบิร์ดที่กำลังเหม่อลอยอยู่ก็ชนกับเบิร์ดทันที  
"ตายแล้วเฟลม..พี่บอกแล้วไงว่าให้ดูทางน่ะ" น้ำฝนบ่นเสียงดังพลางวิ่งเข้าไปดูอาการทั้งน้องชายทั้งเพื่อนบ้าน  นางฟ้าเบลก็เข้าไปดูเช่นเดียวกัน  
"เป็นอะไรมากรึเปล่าเฟลม?  เป็นอะไรมั๊ยคะพี่เบิร์ด?"  เฟลมได้แต่ร้องโอดครวญเพราะเจ็บแผล  

    ส่วนเบิร์ดได้แต่ยังตะลึงกับความงามของน้ำฝนที่พุ่งเข้ามาหาเขาโดยไม่สนใจแผลถลอกบนตัวของเขาเลย  กลิ่นกายหอมๆในตัวของน้ำฝนลอยมากระทบจมูกของเบิร์ด  แทบจะทำให้เขาลืมความเจ็บปวดทั้งหมดได้ในทันที  

"เดี๋ยวเบลจัดการเองค่ะ...{ ...ข้าแต่เทพแห่งสายชล  เบลินเดลข้ารับ...อุ๊บ!}"  เบิร์ดตกใจตื่นจากภวังค์ปิดปากน้องสาวตัวดีแทบไม่ทัน  

     คราวนี้เขาพยายามเลือกวิธีที่ไม่ทำร้ายจิตใจนางฟ้าตัวน้อย  เบิร์ดพานางฟ้าเบลออกมาห่างจากน้ำฝนและเฟลม  

"น้องเบลจ๊ะ  พี่คิดว่าน้องเบลไม่ควรใช้คาถาอะไรนั่นพร่ำเพรื่อนะ  โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่นๆแบบนี้น่ะ"  เบิร์ดพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้  
"ทำไมล่ะคะ?  ก็พี่เบิร์ดถูกชนหกล้มเลือดออกขนาดนี้  หนูก็ต้องช่วยสิคะ"  นางฟ้าตัวน้อยให้เหตุผล  
"เอ่อ...มันก็จริงอ่ะนะ  แต่พี่ว่าถ้าใครเห็นว่าน้องเบลใช้เวทย์มนต์คาถาได้ล่ะก็..." เบิร์ดพูดทิ้งช่วงเพื่อหาคำอธิบายที่หนักแน่นพอให้นางฟ้าตัวน้อยเชื่อฟังเขา  

"ถ้าใครรู้เข้า  น้องเบลอาจจะไม่ได้อยู่กับพี่อีกเลยนะ" เบิร์ดเลือกคำขู่ได้โดนใจนางฟ้าเบลยิ่งนัก  เด็กสาวออกอาการร้อนรนทันที  
"ทำไมล่ะคะพี่เบิร์ด  ทำไมเบลจะอยู่กับพี่เบิร์ดไม่ได้อีกล่ะ?"  สีหน้านางฟ้าตัวน้อยดูเป็นกังวลมากทีเดียว
"ก็เพราะที่โลกมนุษย์เค้าไม่มีเวทมนต์ใช้น่ะสิครับ ใครใช้ล่ะก็...จะถูกจับเข้าคุก  ไม่ได้ออกมาพบใครๆอีกเลยนะ"  คำขู่เบิร์ดใช้ขู่เด็กในละแวกบ้านที่ดื้อไม่ยอมเชื่อฟังได้ชะงัดนัก  
"อืม...ก็ได้ค่ะ  เบลจะไม่ใช้เวทมนต์อีกก็ได้...แต่พี่เบิร์ดต้องอยู่กับเบลนะคะ"  นางฟ้าเบลกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ  เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เบิร์ดก็หันไปช่วยน้ำฝนพยุงเฟลมกลับเข้าบ้านของน้ำฝนไปทำแผล
  
    บ้านของน้ำฝนเป็นร้านขายข้าวแกง  ช่วงเวลาเย็นๆอย่างนี้มีลูกค้าพอสมควร  เมื่อเห็นว่าคุณแม่กำลังยุ่งอยู่กับร้าน  น้ำฝนจึงได้โอกาสพาทั้ง 3 คนขึ้นชั้นสองไป   ด้วยไม่อยากให้คุณแม่ต้องเป็นกังวลใจ

ลักษณะของบ้านน้ำฝนไม่ต่างจากบ้านของเบิร์ดมากนักเนื่องจากเป็นตึกชุดเดียวกัน  แต่ห้องนอนของน้ำฝนและเฟลมอยู่ชั้นที่ 2 ส่วนพ่อกับแม่ของเธอนอนที่ชั้น 3  เบิร์ดเองก็เพิ่งเคยขึ้นมาถึงชั้น 2 นี้เป็นครั้งแรก  เพราะก่อนหน้านี้ก็เพียงได้ดักเจอเธอที่หน้าบ้านหรือชวนเฟลมเล่นด้วยกันเฉยๆ ในใจเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้มีโอกาสเช่นนี้   ประตูห้องนอนเปิดออก  เบิร์ดอุ้มเฟลมที่ตอนนี้เลิกร้องไห้แล้วเข้าไปนั่งบนขอบเตียง  

"เดี๋ยวหนูไปเอายามาให้นะคะ"  น้ำฝนพูดพลางรีบวิ่งแจ้นไปหายา  ทิ้งให้ทั้งสามคนนั่งรออยู่ในห้องนอนของเธอ

     เบิร์ดได้โอกาสเหมาะ  เขามองสำรวจไปรอบๆห้องนอนของเด็กสาวที่เขาแอบชอบ  เตียงเดี่ยวขนาดพอๆกับเตียงของเบิร์ดตั้งอยู่ที่มุมห้องด้านหนึ่ง  ปลายเตียงชี้ไปทางหน้าต่างบานเกล็ดแบบเดียวกับห้องนอนของเบิร์ด  ผนังด้านขวาที่ติดกับขอบเตียงนอกจากปฏิทินและภาพครอบครัวของน้ำฝนแล้วก็ไม่มีอะไรอื่นประดับอีก  

ส่วนด้านซ้ายนั้นตู้เสื้อผ้า 2 ตู้วางชิดติดกัน  ถัดจากนั้นมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้งสีขาวสลับกับสีชมพูขนาดพอเหมาะกับน้ำฝน  อุปกรณ์เสริมความน่ารักของเด็กสาววางตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบแบบครบชุด  ทำให้เบิร์ดจินตนาการได้ถึงภาพของน้ำฝนที่กำลังหวีผมอยู่ที่หน้ากระจกหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ   ผมดำสนิทยาวสลวยเกือบถึงกลางหลังตัดกับสีผิวขาวๆของเธอในผ้าเช็ดตัวผืนเดียว  หยดน้ำบางส่วนที่เด็กสาวเช็ดไม่หมดค่อยๆไหลจากซอกคอเธอลงไปจนถึงเนินอกขนาดย่อมๆ  แล้วก็ซึมหายไปกับผ้าเช็ดตัวที่พาดขวางทางเอาไว้ 
    เพียงช่วงเวลาสั้นๆนั้นก็ทำให้เบิร์ดรู้สึกอิจฉาเจ้าหยดน้ำเหล่านั้นแล้ว  ที่ได้มีโอกาสโลดแล่นอยู่บนเรื่อนร่างของเด็กสาวที่เขาหมายปอง   แต่แล้วเบิร์ดก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเรื่องที่คิดเพราะเขาเหลือบไปเห็นตระกร้าผ้าที่วางตั้งอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้งนั่นเอง  ชุดนักเรียนที่น้ำฝนใช้ใส่ไปเรียนในวันนี้  อันได้แก่เสื้อนักเรียนสีขาวกับกระโปรงจีบรอบสีน้ำเงินถูกซุกรวมกันอยู่ภายในตระกร้าใบนั้น  และแล้วภาพแห่งจินตนาการอันใหม่ก็ผุดขึ้นมาในสมองของเบิร์ด  

น้ำฝนที่เพิ่งกลับถึงบ้านตรงเข้ามาในห้องแล้วบรรจงถอดเสื้อนักเรียนของเธอออก  เผยให้เห็นเสื้อสายเดี่ยวสีขาวลายหัวใจที่เขาเห็นในวันนี้  จากนั้นกระโปรงจีบรอบสีน้ำเงินก็ถูกเพื่อนบ้านเจ้าเสน่ห์ปลดให้หล่นลงมาเป็นอันดับต่อไป  กางเกงชั้นในที่เบิร์ดจินตนาการให้มันเป็นสีขาวก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา  น้ำฝนในชุดชั้นในไม่รีบร้อนที่จะแต่งตัวให้เสร็จ  เธอกลับยืนมองรูปร่างตัวเองอยู่หน้ากระจกชื่นชมความงามแบบเด็กๆของตน  

"เอ...เราแต่งตัวแบบนี้แล้วพี่เบิร์ดจะชอบมั๊ยน้าาา"  น้ำฝนในจินตนาการของเบิร์ดรำพึงถึงเขาออกมาเสียงดัง  แม้เป็นเพียงความฝันลึกๆของเขา  แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้เบิร์ดมีความสุขแล้ว
"พี่เบิร์ด!"  เสียงนางฟ้าเบลเตือนสติเขาเหมือนจะรู้ความคิดของเบิร์ด  
"หา!  เอ่อ...มีอะไรเหรอน้องเบล?"  เบิร์ดเกือบถลำลึกจินตนาการจนเกินขอบเขตซะแล้ว  
"หนูเรียกพี่เบิร์ดตั้งนานก็ไม่ยอมตอบ"  นางฟ้าเบลบ่นน้อยใจนิดๆที่ไม่ได้รับความสนใจจากเบิร์ดเหมือนอย่างที่เคย  
"อ๋อ...พอดีพี่คิดอะไรเพลินอยู่น่ะ"  

     นางฟ้าเบลหมดโอกาสได้ซักไซ้ต่อ  เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา  น้ำฝนถือกระเป๋าอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมาครบชุด  กับขันน้ำและผ้าขนหนูผืนหนึ่ง  

"มานี่เร็วเฟลม...เดี๋ยวพี่ล้างแผลให้"  น้ำฝนออกคำสั่งกับน้องชายจอมซน  

     เบิร์ดกับนางฟ้าเบลได้โอกาสมองเพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจทำแผลให้น้องชายอย่างคล่องแคล่ว  ราวกับว่ามีอุบัติเหตุแบบนี้ให้เธอต้องช่วยเหลือเป็นประจำ  จนในไม่ช้าน้ำฝนก็จัดการทุกแผลบนตัวของเฟลมจนเรียบร้อย  

"เอ้า!เสร็จแล้ว  วันนี้ไม่ต้องไปซ้อมขี่จักรยานแล้วนะ  เข้าใจมั๊ย!"  น้ำเสียงดุแบบมีน้ำใจของน้ำฝนชวนให้เบิร์ดยิ้มเพราะไม่รู้จะมีซักกี่คนที่จะกลัวเสียงดุแบบนี้ของเธอ  
"มาค่ะพี่เบิร์ด  เดี๋ยวหนูทำแผลให้"  เสียงน้ำฝนเตือนให้เบิร์ดระลึกขึ้นได้ว่าเขากำลังจะถูกน้ำฝนทำแบบเดียวกับน้องชายของเธอ  
"เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ...น้ำฝน  แผลแค่นี้เดี๋ยวเดียวก็หาย  น้ำฝนไม่ต้องลำบากหรอก"  เบิร์ดเกิดรู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อเด็กสาวที่เขาแอบรักเข้ามาใกล้ชิดเขาถึงเพียงนี้  เบิร์ดตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวลด้วยเกรงว่าจะเป็นการไม่เหมาะสม  
"ไม่ลำบากหรอกค่ะพี่เบิร์ด  น้องเฟลมขี่จักรยานชนพี่เบิร์ด  หนูก็ต้องรับผิดชอบสิคะ"  น้ำฝนอธิบายฉะฉานเสียงดังฟังชัด  จากนั้นก็ไม่รอให้เบิร์ดได้ตอบโต้อะไรอีก  

     ผ้าขนหนูชุบน้ำจากขันบรรจงเช็ดแผลที่หัวเข่าของเบิร์ด  ความเย็นของผ้าชุบน้ำส่งกระแสความเสียวแสบเล็กๆไปทั่วร่างของเบิร์ด แต่เขาไม่ทันได้สนใจเพราะทันทีที่น้ำฝนก้มลงเช็ดแผลให้เขา  < โอ้โห...เย็ดแม่! >  เด็กสาวข้างบ้านก็เผลอโชว์ซาลาเปาในเสื้อสายเดี่ยวของเธอแถมให้เบิร์ดดูอย่างไม่ตั้งใจ  

แม้จะเป็นเนินอกที่ยังไม่ได้โตเต็มที่แต่ก็เป็นของเด็กที่เบิร์ดหลงไหล  สันดานดิบในตัวของเบิร์ดเริ่มออกอาการอีกครั้ง   < แค่ป.6ยังขนาดนี้  ถ้าโตขึ้นจะขนาดไหนนะ? >  เบิร์ดเริ่มคิดอกุศลกับเพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจ  สายตาของเขาจ้องมองทุกท่วงท่าอิริยาบถของน้ำฝนอย่างสนอกสนใจ  

"เสร็จแล้วค่ะ  พี่เบิร์ดเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่าคะ?"  บาดแผลภายนอกที่น้ำฝนเห็นถูกจัดการหมดในเวลาอันสั้น  เบิร์ดรู้สึกเสียดายยิ่งนัก หากทำแผลเสร็จเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกแต่เบิร์ดยังไม่อยากจากน้ำฝนไปไหนเลย  
"เอ่อ...รู้สึกเจ็บๆแถวๆนี้แฮะ"  เบิร์ดบ่นๆพลางเอามือลูบเอวของเขา  เมื่อยกชายเสื้อขึ้นมาก็พบรอยช้ำขนาดใหญ่ซึ่งน่าจะเกิดจากจักรยานล้มลงมาทับ  
"ตายแล้ว!...เดี๋ยวนะคะพี่เบิร์ด  แผลช้ำอย่างนี้ต้องทายาหม่อง"  น้ำฝนหันไปหยิบกระเป๋ายาคว้าเอายาหม่องออกมาอย่างชำนาญ

"ยกเสื้อขึ้นซิคะ...พี่เบิร์ด"  น้ำฝนออกคำสั่งหวังเพียงจะทายาให้กับเบิร์ด  เธอไม่ทันได้นึกเลยว่าที่อยู่ตรงหน้าเธอก็คือหนุ่มข้างบ้านที่แอบชอบเธออยู่  

     เบิร์ดถกเสื้อขึ้นสูงให้น้ำฝนได้เห็นกล้ามเนื้อท้องอันกำยำจากการออกกำลังกายของเขา  เลือดในกายเบิร์ดฉีดพล่านไปทั่วร่างด้วยความตื่นเต้น  เมื่อน้ำฝนป้ายยาหม่องติดนิ้วของเธอมาสัมผัสที่บั้นเอวเขา  จากนั้นสาวน้อยน้ำใจงามก็บรรจงถูบริเวณรอยช้ำหมุนวนเป็นวงกลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า  นิ้วมือที่อ่อนนุ่มและอบอุ่นให้สัมผัสที่ชวนเคลิ้บเคลิ้ม  ความมีน้ำใจของน้ำฝนทำให้เบิร์ดรู้สึกหลงรักเด็กสาวข้างบ้านคนนี้ยิ่งขึ้นทุกทีที่เขาเห็นเธอ  

"น้ำฝนนี่ทำแผลเก่งจัง ใครได้น้ำฝนเป็นแฟนคงโชคดีน่าดูนะเนี่ยะ" เบิร์ดอดไม่ได้ที่จะพูด เขาใช้โอกาสนี้แหย่คำถามดูปฏิกิริยาน้ำฝน"พี่เบิร์ดอ่ะ..ไม่เห็นจะเกี่ยวกันซะหน่อย" น้ำฝนยิ้มแบบเขินๆที่จู่ๆก็ถูกชม เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาทายาใส่รอยพกช้ำของเบิร์ดอย่างใจเย็น 
"อ้าว...ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ  ขนาดพี่...น้ำฝนยังเป็นห่วงขนาดนี้  ถ้าเป็นแฟนน้ำฝนคงจะดูแลดียิ่งกว่านี้อีก"  รอยยิ้มแบบเขินๆของเด็กสาวทำให้เบิร์ดเริ่มกล้าที่จะแซวเธอต่อ  

"ว่าแต่น้ำฝนมีแฟนรึยังเนี่ยะ?"  เบิร์ดได้โอกาสเหมาะยิงคำถามสำคัญ  คำถามนี้น้ำฝนถึงกับต้องเหลือบตาขึ้นมามองหน้าเบิร์ดดูความตั้งใจของเขา  
" หนูเพิ่งจะป.6 เองนะคะ  จะไปมีได้ยังไงเล่า?" น้ำฝนตอบเสียงสั่นๆยังไม่ทิ้งสำเนียงอายๆ  พลางเก็บยาหม่องที่เพิ่งใช้เสร็จลงกระเป๋าไป 
"แหะๆๆ  นั่นสิเนอะ"  เบิร์ดหัวเราะตอบรับคำตอบเด็กสาวลดความอึดอัดใจให้เธอ
"แฟนคืออะไรเหรอคะพี่เบิร์ด?"  นางฟ้าเบลเกิดความสงสัยหลายเรื่อง  แต่เธอนึกอยากจะถามเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน  คำถามของเธอเรียกสติเบิร์ดให้ระลึกได้ว่าน้องสาวสุดที่รักของเขาก็อยู่ที่นั่นด้วย  
"เอ่อ...คือ  แบบว่าคนสองคนรักกันน่ะน้องเบล  เค้าเรียกว่าเป็นแฟนกัน"  เบิร์ดตอบคำถามไปตามปกติ  

"คือน้องเบลเค้าอยู่ต่างประเทศนาน  คำศัพท์ภาษาไทยบางคำยังไม่รู้น่ะน้ำฝน"  เบิร์ดรู้ดีว่านางฟ้าเบลจะต้องถามแน่ๆ  เขาเตรียมวิธีแก้ตัวได้อย่างสมเหตุสมผลทีเดียว  
"อ๋อ...งั้นหนูกับพี่เบิร์ดก็เป็นแฟนกันน่ะสิคะ?"  นางฟ้าเบลสรุปคำพูดของเบิร์ดออกมาเสียงดังฟังชัด  

     น้ำฝนได้ยินเข้าถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่  แต่เบิร์ดกลับเขินจนทำอะไรไม่ถูก ความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอนั้นเหนือกว่าความคิดของเบิร์ดหลายเท่าตัวนัก  

"ไม่ใช่หรอกครับ  เราเป็นพี่น้องกัน  เป็นแฟนกันไม่ได้หรอก"  เบิร์ดรีบอธิบายแบบสั้นๆก่อนที่นางฟ้าตัวน้อยจะเผลอหลุดปากถามอะไรออกมาอีก

"เออ...จริงสิ พรุ่งนี้น้ำฝนว่างมั๊ยครับ?"  เบิร์ดนึกเรื่องที่จะพูดขึ้นมาได้  เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันที  
"เอ๋?...มีอะไรเหรอคะ?"  น้ำฝนถามกลับด้วยความสนใจ  ทั้งๆที่ยังคาใจกับคำถามของนางฟ้าเบลไม่หาย  
"คือ...น้องเบลเค้าเพิ่งมาถึงบ้านพี่  แต่ยังไม่มีเสื้อผ้าดีๆใส่เลยน่ะ  พี่ว่าจะพาน้องเบลเค้าไปซื้อชุดสวยๆใส่ซะหน่อย"  น้ำฝนพยักหน้าตามจังหวะพูดของเบิร์ด  

"แบบว่า...ถ้าน้ำฝนไป  จะได้ช่วยเบลเลือกชุดได้ด้วยไง  คือพี่เป็นผู้ชายใช่ม้า...ก็อาจจะไม่สะดวกซักเท่าไหร่น่ะ"  

     เบิร์ดยกข้ออ้างได้ดีทีเดียว  ด้วยเหตุผลนี้เขาจะได้มีโอกาสออกไปเที่ยวพร้อมกับน้ำฝนและนางฟ้าเบลในคราวเดียว  คงจะมีความสุขไม่น้อยถ้าเขาจะได้เดินห้างโดยมีเด็กสาวน่ารักๆถึงสองคนเดินเคียงคู่ด้วย  

"ว่าไงน้ำฝน...ว่างมั๊ยครับ  พี่รบกวนเกินไปรึเปล่า?"  เบิร์ดถามด้วยใจร้อนรน  
"เอ่อ...อ๋อ  ตายจริง!คือ...หนูมีนัดกับคุณครูที่โรงเรียนน่ะค่ะ  ต้องไปช่วยงานตั้งแแต่แปดโมงเช้าเลยอ่ะ"  น้ำฝนตอบปฏิเสธ  สีหน้าของเธอก็บ่งบอกอาการเสียดายอยู่ไม่น้อย  

"แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ล่ะก็ว่างนะคะ"  น้ำฝนรีบเสนอทางเลือกให้เบิร์ดตัดสินใจ  การช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่น้ำฝนปรารถนาเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว  
"อืม...งั้นวันอาทิตย์ก็ได้ครับ  10โมงนะ โอเคมั๊ย?"  เบิร์ดทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุดแต่ในใจของเขาพองโตไปด้วยความตื่นเต้น  
"ได้ค่ะ"  น้ำฝนตอบรับคำเชิญชวนของเบิร์ดอย่างเต็มใจ  

     หลังจากนั้นทั้งสามคนก็คุยเล่นกันอีกเล็กน้อยก่อนที่เบิร์ดจะขอตัวพานางฟ้าเบลกลับบ้าน...