ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หนูธิชากับอาจารย์จอมซึน10 [แก้ไขเนื่อเรื่อง]

เริ่มโดย pheeraphan4438, ตุลาคม 18, 2015, 02:08:15 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

pheeraphan4438

ภายในห้องนอนส่วนตัวซึ่งอบอวลไปด้วยความหวานแว๋วจากการตกแต่งโดยเจ้าของ สายลมค่อยๆพัดโชยจนผ้าม่านเริ่มปลิวไสว เนื่องจากหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้ เพื่อคอยรับแสงจากดวงดาวบนท้องฟ้าให้สาดส่องเข้ามา ในยามที่เงียบสงบของค่ำคืน

...ทั้งที่บรรยากาศเงียบสงัดและเย็นสบายขนาดนี้ แต่หากว่ากลับยังมีเสียงของความเร่าร้อนจากฟูกหนาที่อยู่บนเตียงมีราคา อย่างไม่มีทีท่าว่ามันจะสงบลง...เสียงเอี๊ยดอ๊าดแฝงออกมาจากความเงียบงัน เมื่อฟูกหนาถูกผลกระทบจากแรงสั่นไหว อีกทั้งผ้าที่ปูอยู่นั้นก็ถูกยับยู่ จนแทบจะไม่เหลือความราบเรียบจากเค้าเดิมเลยสักนิด

และนั่นก็เป็นเพราะว่าบทร่วมรักอันร้อนร่านของสองหนุ่มสาว ที่กำลังนอนกอดก่ายฟัดกันนัวเนียอยู่บนเตียงนุ่ม ไม่มีทีท่าว่าทั้งคู่จะสนใจต่อความไม่เป็นระเบียบของสิ่งรอบข้าง ซึ่งเต็มไปด้วยการกระจัดจายของเสื้อผ้า ทั้งของชายและหญิง แม้กระทั่งมือถือหรือของมีค่าต่างๆเช่นกระเป๋าตังก็ถูกทิ้งไว้ประปรายตามพื้นห้องอย่างไร้ความใยดี

ชายหนุ่มผู้โชคดี ซึ่งเป็นเจ้าของร่างแกร่ง กำลังนอนกอดก่ายร่วมรักกับหญิงสาวแสนสวยร่างบาง ซึ่งเป็นเจ้าของห้อง โดยทั้งคู่อยู่ในท่าที่นอนตะแคงเบียดเสียด หันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ชายหนุ่มซึ่งอยู่ด้านหลังนั้น พยามใช้แผงหน้าอกหนาของตัวเอง แนบชิดเข้ากับแผ่นหลังที่เรียบเนียนให้มากที่สุด คล้ายกับกำลังจะแสดงให้สาวสวยได้เห็นว่า เค้านั้นคือผู้ครอบครองที่ยิ่งใหญ่เพียงใด

อีกทั้งมือที่หนาก็พยามลูบไล้ไปตามเนื้อกายที่ละเอียดของสาวสวยอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ใบหน้าก็พยามซุกไซร้โลมเลียไปตามซอกคอขาวและสูดเอากลิ่นจากแผ่นหลังที่เรียบเนียนนั่นอย่างหิวกระหาย พร้อมกันนั้นบั้นเอวที่แนบชิดก็ขยับเด้าแบบเนิบนาบ โดยที่สะโพกกลมเองก็ร่อนรับไปตามจังหวะอย่างร้อนร่าน เพื่อเพิ่มความสะดวก ให้กับสิ่งที่กำลังสอดใส่เข้ามา

"อ๊าา...แรงๆเลยได้ไหมคะอาจารย์กิต ธิชาต้องการมากกว่านี้"

ธิชาเรียกร้องให้ชายหนุ่มทำตามสิ่งที่ร้องขอ แม้ว่าความร้อนแรงของเค้า จะทำให้เธอสัมผัสถึงหนทางที่จะนำพาไปจนถึงจุดมุ่งหมายปลายทางได้ก็ตามที แต่ทว่ามันกลับเชื่องช้าและดูเนิ่นนานราวกับการเดินทางของหอยทากยังไงยังงั้น

และเมื่อไม่มีการตอบรับ สาวสวยธิชาจึงบิดหันใบหน้าเผยอริมฝีปากเพื่อเสนอรสจูบของตัวเองให้กับชายหนุ่มที่กำลังสนุกอยู่กับเรือนร่างของเธอจากด้านหลัง ซึ่งชายหนุ่มเองก็สนองรอยจูบที่ดูดดื่มให้เธอด้วยการประทับริมฝีปากของเค้าเข้ามาทันที โดยที่เธอไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งมือหนาที่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอเมื่อครู่ ก็เลื่อนขึ้นมาบีบขยำตรงทรวงเต้าข้างหนึ่งอย่างกับรู้ล่วงหน้าว่าเธอต้องการอะไร

ธิชารู้สึกได้ถึงความรู้สึกเงี่ยนร่านของตัวเองที่เริ่มพรั่งพรูและเดือดพล่านขึ้นเรื่อยๆอย่างที่เธอไม่อาจจะหักห้ามมันเอาไว้ได้ และตอนนี้ความรู้สึกที่ไม่มีทางหยุดได้นั้น  ก็กำลังเรียกร้องให้เธอทำตามสิ่งที่เบื้องลึกภายในจิตใจกำลังปราถนา โดยใช้ชายหนุ่มคนนี้เป็นเครื่องมือในการปลดเปลื้องได้ตามใจชอบ

สาวสวยละตัวออกจากการกอดรัดที่ดูเหมือนจะแน่นหนาอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่มีการถูกปลุกบังคับ เหมือนกับว่าชายหนุ่มนั้นรู้ว่าเธอต้องการจะทำอะไร

แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ที่จะต้องละทิ้งสิ่งที่กำลังเติมเต็มให้กับตัวเองอยู่ในตอนนี้ แต่เพื่อสิ่งที่ถวิลหาแล้ว ธิชาจึงตัดสินใจถอดถอนเอาเรือนร่างที่งดงามของตัวเองออกจากท่อนเอ็นที่กำลังตีตราด้วยการเสียบแทงอยู่ในร่องหลืบตรงช่วงล่าง ก่อนที่เธอจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นมาอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอนด้วยอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า ผลพวงมาจากความร้อนแรงที่เธอได้รับมาจากชายหนุ่มนั่นเอง

สาวสวยรู้สึกได้ว่า ดวงตาของชายหนุ่มคู่ขากำลังกวาดสายตา จ้องมองมายังเรือนร่างขาวเนียนของเธอจนแทบจะไม่กระพริบ เธอจึงส่งสายตาที่หยาดเยิ้มของตัวเองจ้องกลับไปเพื่อเป็นการเอาคืน และพร้อมกันนั้นก็พยามใช้มือเพรียวบางผลักร่างล่ำๆให้นอนแผ่หราด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของสตรีเพศที่ธรรมชาติให้มา แม้ว่ามันจะดูเหมือนยากเย็นนัก แต่ชายหนุ่มนั้นก็รู้ใจเธอเป็นอย่างดี เค้าผลิกขยับร่างหนาของตัวเองให้นอนหงายแผ่หราตามความต้องการของเธอทันที

ทั้งที่จะหักห้ามใจก็สามารถทำได้ไม่ยากนัก แต่หากทว่าอาวุธประจำกายของเพศผู้อย่างท่อนเอ็นที่กำลังตั้งโด่รอรับชะตากรรมอยู่ท่ามกลางสายตาของสาวสวยกลับกำลังชักใยความรู้สึกนึกคิดของเจ้าหล่อนให้ลอยเตลิด เธอแอบขบฟันเล็กน้อยด้วยความรู้สึกหมั่นเขี้ยว แววตาที่สวยหวานหยดย้อยก็จ้องไปตรงส่วนของลำแกร่งที่มีเส้นเอ็นปุดขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความพิศวาส ซึ่งดูแล้วมันช่างให้ความรู้สึกที่น่าลูบไล้เกินกว่าจะต้านเอาไว้ได้ไหว อีกทั้งตรงปลายหัวบานที่กำลังมันปลาบเพราะความกำหนัด ก็น่าใช้ปากเข้าไปดูดดุนให้หมดสิ้นถึงความน่าหลงใหลของมันซะตอนนี้เลย

และหากว่าความร้อนรุ่มตรงช่วงล่างของร่องหลืบไม่รุนแรงแล้วละก็ สาวสวยอย่างเธอก็คงจะทำในสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดไปเมื่อครู่แล้ว แต่เพราะความต้องการที่จะปลดเปลื้องและการมุ่งหน้าเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่าจุดสุดยอด เธอจึงเลือกที่จะทำในสิ่งที่เธอถนัดและเชี่ยวชาญที่สุดในเรื่องบนเตียงมากกว่าที่จะมาทำเรื่องกระจุกกระจิกแบบนั้น

ธิชาพยุงร่างของตัวเองขึ้นคร่อมร่างของชายหนุ่มที่นอนแผ่หรารออยู่แล้ว สาวสวยใช้มือข้างหนึ่งจับดุ้นตั้งจ่อให้ตรงกับรอยแยกด้วยความชำนาญ ก่อนที่เธอจะค่อยๆกดเรือนร่างของตัวเองเข้าทาบทับอย่างร้อนร่าน

สาวสวยรู้สึกได้ถึงการแหวกว่ายผ่ารอยกลีบแยกของท่อนเอ็นกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในร่างกาย ก่อนที่เธอจะกัดฟันกดน้ำหนักตัวให้ร่องหลืบของตัวเองอ้าอูมพรวดเดียว จนท่อนเอ็นลำใหญ่เมื่อครู่นั้นจมหายไปในทีเดียวมิดลำ ซึ่งลักษณะการร่วมรักแบบนี้ สามารถสยบชายคนรักของเธอได้ทุกครั้งที่เธอเป็นฝ่ายรุก และสำหรับผุ้ชายคนนี้ก็คงจะเหมือนกัน

สาวสวยหยุดนิ่งการกระทำเมื่อได้รับความรู้สึกที่เข้ามาเติมเต็มให้กับตัวเองอีกครั้ง เธอจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่กำลังเคลิบเคลิ้ม ซึ่งชายหนุ่มเองก็จ้องตอบกลับมาด้วยแววตาที่กำลังบ่งบอกให้เธอรับรู้ว่า เค้านั้นพร้อมที่จะถูกบดขยี้จนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว และเธอเองก็ไม่อยากรีรออีกต่อไปเหมือนกัน

สะโพกกลมของสาวสวยร่อนไปมาช้าๆแบบเนิบนาบอยู่บนร่างหนาเพื่อเป็นการหยั่งเชิง ก่อนที่เธอจะค่อยๆเพิ่มความเร่าร้อนในการกระทำให้มากขึ้นเมื่อถูกมือหนาทั้งสองข้างของชายหนุ่มเกาะกุมตรงขอบเอวบางจนแน่น และไม่เพียงเท่านั้น เค้ายังพยามขยับร่างหนาที่ถูกคร่อมอยู่ด้วยการโยกกระเด้าอยู่เบื้องล่างด้วยความชำนาญ จนเธอเองก็จำเป็นสวนกลับด้วยการขย่มเด้งที่แรงขึ้นเป็นการตอบโต้ชายชู้เพื่อแสดงให้เห็นว่า เธอเองก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เนื่องจากอยู่ในท่าร่วมรักที่เธอเป็นฝ่ายรุกและเป็นท่าที่ชำนาญที่สุดแบบนี้

ธิชารู้สึกทึ่งเล็กน้อยกับเรี่ยวแรงที่มีมากมายมหาศาลของชายหนุ่ม ทั้งๆที่เค้ากำลังเป็นฝ่ายถูกเธอกระทำอยู่แท้ๆ แต่ยังกลับพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะสมสู่ด้วยการขยับซอยบั้นเอวยิกๆ แม้ว่ามันจะดูเหมือนไม่ถนัดนัก แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งมือหนาของเค้านั้นก็ลูบไล้ไปมาตามเรือนร่างของเธอจนแทบจะทั่วทุกตารางนิ้วที่เอื้อมไปถึงเลยก็ว่าได้

"อื้มมม...ธิชาเสียวจังเลยค่ะอาจารย์กิต ตรงนั้นมันแน่นไปหมดเลย อ๊าาา..."

ธิชาครางกระเส่าพูดระบายความในใจออกมาด้วยความเสียวซ่าน แต่กลับไม่มีเสียงคำพูดใดๆของชายหนุ่มตอบกลับมา จะมีก็เพียงแต่เสียงครางเป็นห้วงๆของเค้าที่ผสานกันเข้ากับลมหายใจอันหนักหน่วงอยู่ภายในห้องอันเงียบสงบ

ร่างขาวโพลนขยับโยกไปมาอยู่บนร่างหนาอย่างร้อนร่านด้วยความกระสันต์ สะโพกกลมก็ยักย้ายเด้งส่ายไปมาอย่างเย้ายวน ใบหน้าสวยหวานเริ่มบิดเบี้ยวเพราะความเสียวซ่าน แต่หากยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามอยู่ไม่มีเสื่อมคลาย และทุกท่วงท่าที่เธอกำลังกระทำอยู่นั้น ก็กำลังมอบความรู้สึกที่บอกไม่ถูกและยากที่จะหาสิ่งใดมาทดแทนให้กับตัวเองได้

"ไม่ไหวแล้ววว....ธิชาจะเสร็จแล้วว อ๊าาา"

ธิชาเด้งสะโพกขย่มตอไปมาอย่างแรงเพื่อรีบตักตวงเอาความสุขจากท่อนเอ็นของชายหนุ่มให้มากที่สุดเมื่อเธอรู้สึกได้ว่า เธอกำลังใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้ว และนั่นก็เพื่อต้องการรีดพิษให้กับชายหนุ่มด้วยเหมือนกัน

ใบหน้าที่งดงามดั่งนางฟ้าของธิชาแหงนเริดหลับตาพริ้ม เธอปล่อยตัวไปใจทั้งหมดให้ไหลไปตามอารมณ์และความรู้สึกกระสันต์ร่าน เสียงหวานใสที่ครวญครางเริ่มเล็ดลอดออกมาปะปนกับเสียงลมหายใจฝืดฟาดในเกมรัก อีกทั้งร่างงามก็เริ่มกระตุกเกร็งและบิดไหวไปมาจนเจ้าของร่างแทบจะสำลักในความรู้สึกเสียวซ่านที่ได้รับ และความรู้สึกสุดท้ายที่เธอปราถนามาตลอดจากการสมสู่ครั้งนี้ นั่นก็คือความรู้สึกเมื่อได้ถึงจุดสุดยอดนั่นเอง

"ขอบคุณนะคะ อาจารย์กิต ธิชาเสียวสุดๆไปเลย"

หลังจากที่สาวสวยสร็จสม เธอจึงค่อยๆปรือตาขึ้นมามองใบหน้าของเจ้าของร่างหนาด้วยแววตาที่หยาดเยิ้มและยั่วยวน ซึ่งใบหน้าที่หล่อเหลานั่นก็ยิ้มกระหยิ่มตอบกลับมาด้วยแววตาที่หื่นกระหายด้วยเช่นกัน สายตาของทั้งสองจ้องประสานกันจนแทบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียว คล้ายกับว่าทั้งสองหนุ่มสาวนั้นยังไม่อิ่มเอมจากการเสพสม และต้องการที่จะร่วมรักกันต่ออีกครั้งหนึ่ง

และก็เป็นสาวสวยที่ไม่รอช้า เธอค่อยๆโน้มใบหน้าเผยอริมฝีปากบางเข้าหาชายหนุ่มด้วยความเย้ายวนเพื่อเสนอรอยจูบให้กับเค้าอีกครั้ง ส่วนชายหนุ่มเองก็ไม่น้อยหน้า เค้ายื่นใบหน้าที่คมคำเข้าหาเธอในทันทีอย่างรู้ใจ

การจูบครั้งนี้คงจะเป็นไปอย่างดูดดื่ม และการร่วมรักครั้งที่สองก็คงจะเร่าร้อนยิ่งกว่าเก่าเป็นทวีคูน เพียงแต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นชู้รักของเธอกลับค่อยๆมลายหายไป อีกทั้งร่างกำยำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมัดกล้ามก็เริ่มค่อยๆจางหายไปจากสายตา ความร้อนแรงในเกมรักเมื่อครู่ดับวูบหายไปอย่างไร้ร่องรอย และท้ายที่สุด ทั้งใบหน้าและร่างหนาของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะร่วมรักกันไปหมาดๆ ก็ได้กลับกลายเป็นหมอนข้างที่เธอใช้นอนกอดอยุ่ทุกวี่ทุกวันนั่นเอง

"อุ้ย!! บ้าจริง ทำไมเราทำเรื่องแบบนี้ได้นะ แถมผู้ชายคนนั้นยังไม่ใช่อาจารย์พีอีก เรานี่มันแย่ที่สุดเลย"

ธิชากล่าวโทษตัวเองด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา หลังจากที่เธอเพิ่งช่วยตัวเองด้วยการขย่มหมอนข้างไปหมาดๆจนเสร็จสม อีกทั้งผู้ชายที่เธอเพิ่งจะจินตนาการถึงนั้นไม่ใช่ผุ้ชายที่เธอรักเสียด้วย

แม้ว่าคำพูดจะรู้สึกผิด แต่ลักษณะท่าทางของสาวสวยธิชากลับไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกผิดจริงๆเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรไปกับจินตนาการเมื่อครู่มากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องที่เธอเคยทำอยู่บ่อยๆครั้งว่าได้ร่วมรักกับชายอื่น  แต่นั้นก็ไม่ใช่ว่าเธอจะนำมันไปใช้ในชีวิตจริง เพราะมันก็เป็นแค่เพียงภาพเพื่อดับอารมณ์ที่เธอสร้างขึ้นมาเท่านั้น และก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

สาวสวยสะบัดศรีษะเบาๆจนผมเผ้าปลิวไสวเล็กน้อยเพื่อสลัดตัวออกจากความคิดของตัวเอง ก่อนที่เธอจะหอบเอาร่างบางในชุดนักศึกษาเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายด้วยความเหนื่อยอ่อน หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เธอจึงกลับมานอนหลับพักผ่อนบนเตียงนุ่ม โดยที่ไม่รู้เลยว่า ผู้ชายที่เธอรักนักรักหนานั้น กำลังมีอะไรกับพี่สาวของตัวเองจนถึงขั้นสอดใส่และเสร็จข้างในไปแล้วหลายยก

...................................................................................................

ณ บ้านหลังหนึ่ง ในเวลาเดียวกัน

"ชั้นรักเธอ ธิชา ชั้นรักเธอ อาาา จะแตกแล้ววว ซี๊ดดดสสส"

เจนจัด นักศึกษาหนุ่มสุดแสนจะธรรมดากำลังมีความสุขอยู่ในโลกส่วนตัวของเค้าอยู่ภายในห้อง และนี่ก็คือสิ่งที่หนุ่มโสดและซิงอย่างเค้าทำเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่ทุกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าของธิชาสาวสวยคนนั้น เธอเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ในมหาลัยเดียวกัน และเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด ตั้งแต่เค้าเกิดมาจนอายุได้19ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนจะงดงามและสมบูรณ์เพอร์เฟ็คเท่านี้มาก่อนเลยแม้แต่สักคนเดียว

ชายหนุ่มนั่งสาวรูดท่อนเอ็นของตัวเองยิกๆ ส่วนภายในหัวตอนนี้ ก็พลางคิดไปว่ากำลังคล่อมกระเด้าอยู่บนร่างงามเปลือยปล่าวของนางฟ้าสุดสวยอย่างธิชาที่กำลังลังกระเด้งกระดอนไปมาอยู่ภายใต้ร่างของตัวเค้าอย่างเมามัน แม้ว่าจะไม่เคยเห็นของจริง แต่บ่อยครั้งที่เค้ามักจะเหลือบไปเห็นขาอ่อน หรือแม้แต่ร่องอกแบบวับๆแวมๆในเวลาเพื่อนสาวคนสวยไม่ทันระวังตัว และนั้นก็ทำให้เค้ามั่นใจว่า ภายใต้ชุดนักศึกษาที่เธอสวมใส่นั้น จะต้องสวยเซ็กซี่สุดๆอย่างแน่นอน

เค้าแอบรักเธอตั้งแต่แรกที่พบเห็น แต่ก็คงทำได้เพียงแค่แอบรักเท่านั้น และไม่มีทางที่คนสวยระดับเธอ จะลดตัวลงมาช่วยเติมเต็มให้กับความรักที่ไร้ซึ่งความเป็นไปได้ของผู้ชายธรรมดาๆอย่างเค้า ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม ความรักของเจนจัดก็ไม่ได้ไร้ค่าไปซะทีเดียว เนื่องจากบางครั้งสาวสวยก็มักจะชอบส่งรอยยิ้มมาให้เค้าเวลาที่ได้พบหน้ากัน ซึ่งแน่นอนว่ารอยยิ้มที่เธอส่งมอบมาให้นั้น เป็นแค่รอยยิ้มทีเพื่อนมีให้กันเท่านั้น แต่สำหรับเค้า เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เพียงพอที่จะเก็บนำไปฝันว่าเค้าได้เป็นแฟนกับเธอ และถ้าเค้าได้เป็นแฟนกับเธอจริงๆแล้วละก็ สาบานเลยว่า เค้าคนนี้ จะไม่มีทางนอกใจเธอเด็ดขาด

"เจนจัด หลับรึยังลูก?...ว้ายย!!"

หญิงสาวผู้เป็นแม่ เปิดประเข้ามาโดยไม่มีการบอกกล่าว เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้ามาจะเอ๋กับสิ่งที่เจ้าลูกชายกำลังทำอยู่ภายในห้อง

"อะเจ้ย!!..ค-คุณแม่ ทำไมไม่เคาะประตูก่อนละคร๊าบบTT"

เจนจัดตกใจสุดขีดเมื่อความลับที่ถูกเก็บไว้มาเนิ่นนานโดยตลอดของชายโสดอย่างเค้า ซึ่งตอนนี้มันได้กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามาถรถเรียกว่าความลับอีกต่อไป และแม้ว่าคนที่เข้ามาล้วงความลับได้นั้นจะเป็นแม่ของตัวเอง แต่ถ้าเลือกได้ ชายโสดอย่างเค้าขอยอมถูกฆ่าตายเสียดีกว่า ที่จะต้องมาตกอยู่ในสภาพและสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้

"จบสิ้นแล้วสินะ เส้นทางลูกผู้ชายของเรา มันจบลงสิ้นแล้ว อะฮึ่ย"

เจนจัดกำหมัดแน่นพร้อมกับพยายามบีบน้ำตาของตัวเองให้ออกมาทุกหยาดหยด แม้ว่าจะไม่มีน้ำตาออกมาสักหยด แต่ชายหนุ่มก็ยังคงพยายามที่จะคาดคั้นมันให้ออกมาต่อไป ความรู้สึกที่ความลับต้องมาเล็ดลอดออกไปเช่นนี้มันช่างน่าอดสูยิ่งนัก เจนจัดนึกไม่ออกเลยจริงๆว่าต่อจากนี้ เค้าจะใช้ชีวิตอย่างไรดี สมองของเค้ากำลังว่างปล่าวและขาวโพลน เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับหนทางที่มีแต่กำแพงขวางกั้นและไร้ซึ่งทางออก และมันเป็นไปไม่ได้เลย ที่คนอย่างเค้าจะฝ่าฟันความรู้สึกที่น่าอับอายเช่นนี้ออกไปได้สำเร็จ

"จบสิ้นอะไรกันละจ๊ะเจนจัด นี่มันก็ดึกแล้วนะลูก พรุ่งนี้มีเรียนตั้งแต่เช้าไม่ใช่หรอ เพราะงั้นก็รีบๆนอนได้แล้ว อย่าให้แม่ต้องมาเตือนอีกเป็นครั้งที่สองนะ"

หญิงสาวผู้เป็นแม่กล่าวกับลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ดุเล็กน้อย เธอเองก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่า จะได้มาเห็นลูกชายของตัวเองในสภาพเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้น นั่นมันก็เป็นแค่เพียงเรื่องธรรมชาติของพวกเด็กผู้ชาย ซึ่งลูกของเธอเองก็โตเป็นหนุ่มพอที่จะทำอะไรแบบนี้ได้แล้ว แต่ทว่าสายตาของผุ้เป็นแม่อย่างเธอ ก็ยังคงมองว่าเจ้าลูกชายนั้นเป็นเด็กอยู่ดี และเพื่อเป็นการรักษาความรู้สึกของลูกชาย ต่อไปเธอจะต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้

"ครับแม่ ผมจะนอนเดียวนี้แหละครับ"

เจนจัดตื่นขึ้นจากความคิดฟุ้งซ่าน เค้ายอมรับฟังคำสั่งของแม่และทำตามที่เธอสั่งแต่โดยดี ถึงแม้ว่าท่าทางของแม่ตัวเองจะดูไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเหตุการณ์เมื่อครู่มากนัก แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เค้าคลายความมรู้สึกที่กำลังอับอายอยู่ภายในจิตใจได้เลยสักนิด เค้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับแม่ของตัวเอง เค้าไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง และเค้าก้ไม่รู้เลยว่า ถ้าธิชาคนนั้นมาเห็นเค้าในสภาพนี้ เธอจะรู้สึกยังไง

ชายหนุ่มจัดแจงกางเกงของตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่เค้าจะขึ้นไปบนเตียงนอนห่มผ้าพร้อมกับข่มตาหลับ โดยมีหญิงสาวผู้เป็นแม่คอยปิดไฟให้จนมืดดับลง

...................................................................................................

หลายวันต่อมานับตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น เจนจัดและแม่ของเค้าก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เพียงแต่ภายหลังมานี้ เจนจัดมักจะระมัดระวังมากขึ้นเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอย เค้าล็อคประตูห้องทุกครั้ง เวลาที่กำลังช่วยตัวเองหรือแม้แต่เวลาที่กำลังอ่านหนังสือเรียน ซึ่งผู้เป็นแม่เองก็เข้าใจลูกชายดีเหมือนกัน เธอไม่ได้ยุ่มย่ามกับเจนจัดเหมือนแต่ก่อนมากนัก แต่นั้นก็ไม่ใช่ว่าเธอจะละเลยลูกชายไปซะทีเดียว เธอใช้คติที่ว่าอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ซึ่งแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้เป็นแม่อย่างเธอ แต่เพื่อความรู้สึกของลูกชายที่โตเป็นหนุ่มแล้ว เธอเองก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวเหมือนกัน

"ผมไปก่อนนะครับแม่"

เจนจัดกล่าวกับผู้เป็นแม่ด้วยความรีบเร่ง เค้ากำลังจะไปเรียนสายหากว่าไม่รีบออกจากบ้านไปตอนนี้ และนี่ก็ไม่เหลือเวลาที่จะให้ทานอาหารเช้าอีกแล้ว หลังจากที่แต่งตัวเสร็จเค้าจึงตรงไปยังโต๊ะอาหารพร้อมกับคว้าขนมปังชิ้นหนึ่งที่แม่เตรียมให้มาคาบไว้ในปาก หลังจากนั้นจึงรีบตรงดิ่งออกจากประตูบ้านทันที ก่อนที่จะรีบวิ่งเพื่อทำเวลา

"ไปดีมาดีนะเจนจัดลูกแม่ ฮิฮิ"

หญิงสาวผู้เป็นแม่มองลูกชายของตัวเองด้วยรอยยิ้มและความรัก ในใจของเธอก็อดภูมิใจในตัวเองไม่ได้ ที่เลี้ยงเค้ามาจนเติบใหญ่ถึงเพียงนี้ และเธอจะภูมิใจมากกว่า ถ้าเจนจัดประสบความสำเร็จในชีวิต และมีหลานให้เธออุ้มสักคนหนึ่งเมื่อถึงเวลาที่เค้าพร้อม

.........................................................................................................

แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เสียงหายใจที่เหนื่อยหอบของเจนจัดดังขึ้นอย่างถี่ยิบ หลังจากที่เค้าสามารถวิ่งเข้ามาในเขตรั้วมหาวิทยาลัยได้ทัน ในเวลาที่กระชั้นชิด และอีกไม่กี่นาที ก็จะได้เวลาคาบเรียนแรกแล้ว

ร่างของเจนจัดเริ่มผ่อนความเร็วในการวิ่งลง เค้ายกแขนข้างหนึ่งที่สวมนาฬิกาเพื่อดูเวลา ซึ่งยังเหลืออีกตั้ง15นาที ที่จะเริ่มเรียนในคาบแรก และเวลาแค่นี้ก็เหลือเฟือพอที่จะให้ตัวเค้านั้นหยุดพักหายใจให้หายเหนื่อยไปได้สักพัก

"ไงเจนจัด ตื่นสายอีกแล้วละซิมึง ประจำเลยนะ ฮ่าๆๆ"

เมื่อเสียงของผู้ชายที่คุ้นหูเอ่ยขานเรียกนามของตัวเอง ทำให้เจนจัดต้องรีบหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงนั่นตามสัญชาติญาณ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้หันไป เจนจัดก็พอจะเดาออกได้ว่า ผู้ชายเจ้าของเสียงนั่นก็คือ พงพัฒน์ เพื่อนของเค้าอย่างไม่ต้องสงสัย
เจนจัดมองดูพงพัฒน์เพื่อนหนุ่มจอมเพี้ยนที่กำลังเดินมากับแพรวแฟนสาวด้วยความสนิทสนม จนเจนจัดนั้นอดที่จะอิจฉาพงพัฒน์ไม่ได้ ที่ได้สาวสวยขนาดนี้มาควงคู่ ความสวยของแพรวนักศึกษาสาวรุ่นพี่นั้น เรียกได้ว่าถ้าจะมอบบทนางเอกหนังให้เธอสักเรื่อง ก็คงยากที่จะมีใครปฏิเสธ หากแต่ว่าหญิงสาวที่งดงามยิ่งกว่าไม่เดินมาด้วยแล้วละก็ สาวสวยรุ่นพี่คนนี้ก็คงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดนับตั้งแต่ที่เค้าได้ก้าวเข้ามาในมหาวิทยาลัยในเช้านี้แล้ว

และหญิงสาวที่เดินมาด้วยอีกคนกับพงพัฒน์ นั่นก็คือธิชานางฟ้าสุดสวย เจ้าของความงดงามที่บดบังและลบล้างความสวยหวานของหญิงสาวรุ่นพี่จนแทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในสายตา ซึ่งแน่นอนว่าเหล่านักศึกษาชายวัยกลัดมันคนอื่นๆที่ยืนอยู่รอบๆบริเวณตอนนี้ ต่างก็พากันจ้องมองในความสวยหวานที่ยากจะเอื้อมถึงของธิชาจนแทบจะเป็นตาเดียว ซึ่งจะมีก็แต่เจ้าพงพัฒน์จอมเพี้ยนคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ได้ตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของความงดงามที่อยู่ไกล้ๆ

เจนจัดไม่ได้สนใจในความเพี้ยนของพงพัฒน์เลยแม้แต่น้อย เพราะนอกเสียจากความรู้สึกที่กำลังตกตะลึงอยู่กับความความสวยหวานของธิชาเพื่อนสาวแล้ว เจนจัดยังจะต้องมาคิดอีกว่า ในเวลานี้เค้าควรจะทำตัวยังไงดีนะ เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอคนนี้ เธอคนที่เค้าแอบรักมาโดยตลอด

และพริบตาที่เวลาผ่านไปไม่นานนัก ความคิดดีๆก็ผุดขึ้นมาในหัวของเจนจัด ใช่แล้ว เค้าควรทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด เค้าไม่ควรทำให้เธอจับได้ว่า เค้านั้นกำลังแอบชอบเธออยู่ และนี้ก็คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วละสำหรับช่วงเวลาแบบนี้

"อา หวัดดีพงพัฒน์ พอดีเมื่อคืนชั้นอ่านหนังสือจนดึกนะ ฮ่ะๆๆ"

เจนจัดกล่าวทักทายตอบกลับเพื่อนหนุ่มจอมเพี้ยนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่เมื่อเค้าแอบเหลือบสายตาไปมองเพื่อนสาวที่อยู่ข้างๆ เค้ากลับต้องรีบหลบสายตาทันทีเมื่อรู้ตัวว่าเธอกำลังจ้องมองมาที่เค้าอยู่ สายตาที่น่าหลงไหลนั่นกำลังทำให้หัวใจที่อยู่ตรงอกข้างซ้ายของเค้าเต้นสั่นระรัวจนแทบจะไม่เป็นจังหวะ และเค้าก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะหันหน้ากลับไปสบตากับเธออีกครั้ง

"นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาแล้วนะ ธิชาว่าพวกเรารีบๆไปกันจะดีกว่า นายเองก็มาด้วยกันสิ นายเจนจัด"

สาวสวยธิชาพูดกับเพื่อนด้วยความร้อนรน ลักษณะท่าทางของเธออาจจะทำให้หลายคนนั้นคิดว่า เธอนั้นเป็นคนที่เย่อหยิ่ง แต่ถ้าพอได้รู้จักเธอจริงๆแล้ว จะรู้ว่า นั่นเป็นแค่เพียงเปลือกภายนอกของเธอเท่านั้น ซึ่งเจนจัดนั้นก็รู้ดี เวลานี้เค้ารู้สึกประทับใจและหลงไหลในตัวเพื่อนสาวคนนี้ยิ่งขึ้นไปอีกหลายขั้น เมื่อเธอไม่ลืมที่จะเอ่ยปากชักชวนให้เค้าร่วมกลุ่มไปด้วย

"งั้นพี่ก็ขอตัวก่อนนะจ๊ะน้องธิชา พี่ไปละนะพงพัฒน์ ตั้งใจเรียนด้วยละ"

เมื่อถึงเวลา สาวแพรวจึงขอแยกตัวออกจากกลุ่ม มีเพียงแค่พงพัฒน์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่สัมผัสได้ถึงอาการเศร้าหมองของแฟนสาว ซึ่งเค้าเองก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่านั่นเป็นเพราะอะไร แต่ถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยให้สาวแพรวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วละก็ เค้าคนนี้ก็พร้อมที่จะทำเพื่อเธอทุกอย่าง

"คร๊าบพี่แพรว จุ๊บๆ"

"แล้วเจอกันนะคะ พี่แพรว"

"......"

..................................................................................

เป็นครั้งแรกที่เจนจัดได้มีโอกาสเดินเคียงข้างกับธิชา แม้ว่าจะไม่ได้เดินไปด้วยกันแบบเคียงคู่ แต่เค้าก็พยายามคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยที่พงพัฒน์เดินไปเป็นเพื่อนอีกคน เพราะภายในจิตใจของเจนจัดตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเขอะเขินจนแทบจะเอ่อล้นออกมา ชายหนุ่มยังเดาไม่ออกเลยว่าถ้าอยู่กับหญิงสาวด้วยกันสองต่อสอง ตนเองจะแสดงอาการออกมาเช่นไร

เจนจัดรู้สึกว่ากลุ่มของเค้ากำลังถูกจับจ้องด้วยสายตาที่เค้าไม่เคยได้สัมผัส สายตาของเหล่านักศึกษาชายที่มีแต่ความอิจฉาริษยาจ้องมองมาจนชายหนุ่มแทบจะขนลุก เค้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ซึ่งจะมีก็แต่พงพัฒน์ที่ไม่ได้รู้สึกรู้สา เค้าอยากจะรู้เลยจริงๆว่า จิตใจขอเพื่อนหนุ่มของเค้าทำด้วยอะไร ทำไมถึงทนต่อแรงกดดันแบบนี้ได้แบบไม่สะทกสะท้าน

ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกโล่งอกเมื่อเดินฝ่าความรู้สึกที่ทำให้เค้ากดดันแบบสุดกู่ได้สำเร็จ แต่ถ้าสิ่งที่เค้าเพิ่งผ่านมาได้นั้น เป็นที่เรียกว่าบททดสอบสู่หนทางเพื่อให้ไปถึงดวงใจของธิชาแล้วละก็ ต่อให้มีอะไรที่ยากเย็นไปกว่านี้ เค้าก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน

ภายในห้องมีอาจารย์ประจำวิชานั่งรอเหล่านักศึกษาอยู่ด้านใน ซึ่งอาจารย์หนุ่มท่านนี้เพิ่งเข้ามาสอนในที่แห่งนี้ไม่นาน อาจารย์หนุ่มผู้เป็นเจ้าของสายตาที่เย็นชา ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มจากบนใบหน้าที่หล่อเหลานั่น ไม่มีแม้แต่ท่าทางที่จะดูว่าเค้าเป็นมิตร และก็ไม่อาจที่จะหยั่งถึงความคิดบนใบหน้าจริงจังนั้นได้เลย ชายผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาจารย์หนุ่มที่หล่ออันดับต้นๆของมหาลัยคนนี้ แต่กลับยังไม่มีแฟนทั้งที่อายุอานามก็ปาไปแล้ว27ปี และนั้นก็ทำให้เจนจัดพอจะเดาออกและเชื่อว่าอาจารย์รพี หรืออาจารย์พีท่านนี้จะต้องเป็นเกย์ ไม่ก็ตุ๊ดแต๋วอย่างแน่นอน

เมื่อสองหนุ่มหนึ่งสาวยาวย่างก้าวไปภายในห้อง เจนจัดรับรู้ได้ทันทีเลยว่าสายตาของพวกผู้ชายนั้น ต่างพากันมองมาที่ธิชาเป็นตาเดียวกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่สาวสวยอย่างเธอจะถูกจ้องมองแบบนั้น จะมีก็เพียงแต่พงพัฒน์กับอาจารย์พีเท่านั้นที่ไม่แสดงอาการใดๆออกมา

"พวกเธอสามคน น่าจะมาให้เร็วกว่านี้นะ... เอาละไปนั่งโต๊ะได้แล้ว"

อาจารย์หนุ่มกล่าวติเตียนด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่กลับแสดงให้เห็นถึงความจริงจังจากใบหน้านั่นในทันที เมื่อนักศึกษาทั้งสามคนหันไปมอง ก่อนจะรีบไปนั่งโต๊ะตามที่อาจารย์บอกด้วยอาการเร่งรีบ

................................................................................................................

 หลังจากหมดคาบเรียนแล้ว เหล่านักศึกษาต่างพากกันทยอยออก จะเหลือก็เพียงแค่อาจารย์พีผู้มีหน้าที่รับผิดชอบห้องสำหรับการศึกษาแห่งนี้ที่ยังต้องรอตรวจดูความเรียบร้อยให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เค้ากวาดสายตามองไปรอบๆห้องจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แล้ว ก่อนจะควักเอามือถือขึ้นมาเช็คข้อความที่ถูกส่งเข้ามารบกวนอยู่ตลอดเวลาในขณะที่เค้ากำลังสอน

ริสา : เย็นนี้เจอกันนะคะ สามีสุดที่รัก

อาจารย์หนุ่มถึงกับนั่งกุมขมับเมื่ออ่านข้อความในไลน์ด้วยความเคร่งเครียด และนั้นก็ไม่ใช่เพราะว่าเป็นข้อความที่ริสาส่งมา แต่เป็นเพราะว่าชายหนุ่มกำลังคิดหนักกับเรื่องที่ตัวเองพลั้งเผลอไปมีใจให้กับเธอต่างหาก

ทั้งที่มีธิชาอยู่ก่อนหน้า แต่ความรักที่มีต่อริสาก็ทัดเทียม ชายหนุ่มกำลังสับสน เมื่อเค้าคิดไม่ออกว่าธิชาจะยอมรับได้หรือไม่ ถ้าเค้าจะมีพี่สาวของเธอเป็นเมียอีกคน และถึงแม้ว่ายัยธิชายอมให้เค้ามีริสาได้จริงๆ แต่การกระทำแบบนั้น มันไม่เป็นการเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ เพราะถ้าเกิดว่าเธอไปมีคนอื่นบ้าง ซึ่งเค้าจะยอมรับมันได้หรือปล่าวก็ไม่รู้

"บ้าเอ้ยย ทำไมเราเป็นคนแบบนี้กันฟร่ะเนี้ยย"

อาจารย์หนุ่มเริ่มรู้สึกเกลียดตัวเองอย่างบอกไม่ถูก เค้าร้องโอดครวญสลัดคราบอาจารย์จอมขรึมด้วยความรู้สึกที่กำลังสับสนจนสุดขีด

"อาจารย์พีเป็นคนแบบไหนหรอคะ"

น้ำเสียงเย้าหยอกที่หวานใสของสาวสวยเอ่ยถามชายหนุ่ม หลังจากที่เธอแอบย่องเข้ามาอย่างเงียบเชียบอีกทั้งยังได้ยินเสียงที่เค้ากำลังพูดอยู่คนเดียวจนน่าสงสัย

"ธิชา ทำไมเธอเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยห๊า"

ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เมื่อหันไปพบใบหน้าของลูกศิษสาว เค้าจึงคลายความรู้สึกลง ในเวลาแบบนี้เค้าควรจะปลดปล่อยมาดอาจารย์ซึนออกไปบ้าง เพราะไม่แน่ว่ามันอาจจะทำให้ค้นพบคำตอบที่เค้ากำลังถามตัวเองอยู่ก็เป็นได้

"อาจารย์มีปัญหาอะไร ปรึกษาธิชาได้นะคะ"

"ปล่าวชั้นไม่มีอะไร แล้วถ้ามีจริงๆ เด็กอย่างเธอก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก"

"แล้วถ้าแบบนี้ละคะ จะช่วยได้หรือปล่าว ฮิฮิ"

"เย้ยย ยัยเด็กบ้า รู้รึปล่าวว่าที่นี่มันที่ไหน"

อาจารย์หนุ่มต้องรีบร้องห้ามทันที เมื่อเผลอถูกลูกศิษสาวรูดซิบกางเกงและพยายามควักเอาท่อนเอ็นของเค้าให้ออกมาสู่โลกภายนอก เค้ามองหน้าเธอด้วยใบหน้าจริงจรังแต่กลับแดงซ่าน เจ้าของใบหน้านั้นช่างน่าหลงใหลเกินกว่าใครๆ จนนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเค้าเผลอนอกใจเธอไปได้อย่างไร

"ธิชาแค่หยอกเอง อาจารย์ไม่ต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นก็ได้นิคะ"

หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่ในใจกลับไม่ได้รุ้สึกรู้สา เธอกำลังคิดอยู่ว่า วันนี้จะหาวิธีอะไรมาจัดการกับอาจารย์หนุ่มคนนี้ดี

หลังจากเหตุการณ์เมื่อครู่ผ่านไปราว5นาที ไม่มีคำพูดจากใครเล็ดลอดออกมาแม้แต่คำเดียวจนเงียบเชียบ ฝั่งผู้ชายก็คิดหาคำพูดชวนคุยไม่ออก ส่วนฝ่ายหญิงก็กำลังเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อเห็นทีท่าของอีกฝ่ายที่เหมือนว่ากำลังจะโกรธเธออยู่จริงๆ

"ธิชา ชั้นขอถามอะไรเธอสักอย่างจะได้มั้ย?..."

ชายหนุ่มทนไม่ได้จึงต้องรีบหาคำพูดอะไรอย่าง เพื่อทำลายความเงียบงัน แต่กลับกำลังรบกวนจิตใจอยู่แบบนี้

"ถามอะไรหรอคะ อาจารย์?"

สาวสวยทำสีหน้างุนงง เมื่อชายหนุ่มต้องการที่จะซักถามอะไรเธอสักอย่าง แต่รอจนแล้วจนรอดเค้าก็ยังไม่พุดคำถามออกมาสักที นี้ก็ผ่านไปประมาณ1นาทีได้แล้ว ส่วนชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เค้ากำลังจะถามออกไปนี้มันถึงเวลาแล้วหรือยัง และสุดท้ายเค้าก็เลือกที่จะพูดมันออกไป เผื่อว่ามันจะช่วยให้ภายในจิตใจที่กำลังสับสนเ

applej2k

ช่วงท้ายๆเหมือนขาดไปนิดหน่อยหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ

Tigertwo