ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

จิตราคะ ตอนที่ 1 - จีวร

เริ่มโดย assasin008, กันยายน 23, 2015, 09:59:22 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

คุยเรื่อยเปื่อย

นี่เป็นเรื่องที่เขียนไว้นานแล้ว และหลายคนคงจะเคยอ่านไปแล้ว แต่มีคนส่งข้อความมาให้ผมลงในนี้ด้วย ผมลองค้นหาแล้วไม่เจอ ก็เลยเอามาลงไว้ให้ตามคำขอ ใครอ่านแล้วก็ผ่านนะครับ

เรื่องนี้ยังเขียนไม่จบ (ตามเคย) แต่ก็เกือบ ๆ แล้ว คงขาดอีกประมาณสองตอน ส่วนเนื้อหาจะเกี่ยวพันกับเรื่องไหนยังไง ก็ลองชมดูและแสดงความคิดเห็นกันได้  ;D

จิตราคะ ตอนที่ 1 - จีวร
......................................

   จีวร หนุ่มน้อยนักศึกษาปีหนึ่ง คณะนิเทศน์ศาสตร์ กำลังพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะเรียกสติตนเองกลับคืนมา เพื่อรีบลงมือทำรายงานวิชาการสื่อสารซึ่งจำเป็นจะต้องส่งภายในวันพรุ่ง หากทว่าความพยายามเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ไร้ผล เพราะเขาฝืนความต้องการของตนเองได้เพียงแค่ครู่เดียว ก็ต้องแอบกลอกตาชำเลืองมองสัดส่วนอันแสนสวยงามของเพื่อนร่วมกลุ่มอีกครั้งจนได้
  
   เพื่อนสาวแสนสวยปีหนึ่งคนนี้ชื่อเมญ่า จีวรเคยเห็นเธอบ่อยครั้งบนหน้าจอทีวี เพราะเธอเป็นดาราดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการบันเทิง แม้แต่เขาเองก็แอบสมัครเป็นแฟนคลับของเธอเงียบ ๆ โดยไม่กล้าเปิดเผย กระทั่งเมื่อได้ทราบว่าเมญ่าเรียนคณะเดียวกันกับเขาในวันปฐมนิเทศ เขาถึงกับตื่นเต้นดีใจเสียยิ่งกว่าตอนที่เขารู้ว่าสอบผ่านได้ทุนเข้าเรียนมหาลัยเสียอีก

   จีวรแสร้งเงยหน้าทำท่าทำทางเอียงคอไปมาเหมือนจะผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หากทว่าสายตากลับเอาแต่จับจ้องมองความงามของเพื่อนสาวจนตาไม่กระพริบ เขามองใบหน้าอันสวยงามดั่งนางฟ้าของเธอซึ่งกำลังก้มมองเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาราคาแพงด้วยความรู้สึกลุ่มหลง แล้วไล่ไปที่ลำคอ หัวไหล่ หน้าอกอวบเต่งที่มีเสื้อเนื้อบางห่อหุ้มรัดรึงอยู่ สลับกับไล่มองลงไปที่ท่อนขาขาวเพรียว

   สุดท้ายแล้ว เขาก็ต้องขยับขาแยกออกจากกันเล็กน้อย เนื่องด้วยความเป็นชายกำลังตื่นตัวขึ้นจนปวดหนึบ เขากำลังรู้สึกหลงไหล คลั่งไคล้ อยากฟอนเฟ้นเสพสมกับร่างงามของเธอคนนี้จนหัวสมองไม่สามารถคิดถึงเรื่องอื่นได้อีก

   "อะแฮ่ม ทำงานนะจ๊ะทำงาน มัวแต่หื่นอยู่ได้ งานไม่เดินเลย"

   แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเพื่อนสาวร่วมกลุ่มที่ชื่อต่ายส่งเสียงกระแอม แล้วสะบัดเอาไม้บรรทัดพลาสติคฟาดใส่หัวไหล่ของเขาดังเผียะ

   จีวรหันไปทำหน้าเหวอมองต่าย และเมื่อเจอกับสายตาตำหนิติเตือนเหมือนรู้ทันเรื่องที่เขาคิด ก็ต้องรีบหันมามองเมญ่าซึ่งกำลังเงยหน้าขึ้นมาเนื่องจากเกรงว่าผู้หญิงที่เขาแอบรักจะรับรู้พฤติกรรมหื่นกามของเขาเข้า แต่เมื่อเห็นแววตาของเมญ่าเต็มไปด้วยความงุนงง เขาจึงค่อยแอบพ่นลมหายใจออกมาด้วยความรู้สึกโล่งใจ แล้วรีบก้มหน้าลงไปพยายามทำท่าจะขีดเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษ เพียงแต่ไม่ทราบว่าจะเขียนอะไร จึงได้แต่จรดปากกานิ่งไว้เช่นนั้น

   "มีอะไรเหรอต่าย?"

   เมญ่าหันมามองดูจีวรแวบหนึ่ง แล้วค่อยหันไปถามต่าย เขาจึงถึงกับใจหายวาบ รีบหันไปมองต่ายที่เป็นเพื่อนสนิทของเมญ่ามาตั้งแต่แรกด้วยแววตาขอความเมตตา แต่ต่ายเหมือนจะไม่สนใจ เธอหันมามองเขาแล้วทำหน้าเชิดใส่ ก่อนจะหันไปแฉเรื่องราวให้เมญ่าฟังจนหมดหมดไส้หมดพุง

   "ก็นายชื่อเกาหลีนี่ซิ เอาแต่ทำหน้าหื่นมองนมมองขาของเมย์อยู่ได้ ไม่ยอมทำการทำงาน ... ชิ ทีแรกได้ยินว่าชื่อจีวอน ไอ้เราก็แอบฝันหวานนึกว่าเป็นหนุ่มเกาหลีหล่อน่ากิน ที่ไหนได้ดันเป็นหนุ่มไทยชื่อจีวรซะนี่ ฝันค้างเลยเรา"

   เมญ่า หรือ เมย์ รับฟังแล้วหันมามองดูจีวรแวบหนึ่ง เขาจึงยิ่งรู้สึกใจหายวาบกว่าเดิมด้วยเกรงว่าจะโดนนางฟ้าของเขารังเกียจเข้า แต่แล้วเมย์กลับยิ้มให้ด้วยท่าทีเหมือนกับว่าไม่มีอะไรสลักสำคัญ เพียงแค่พูดตำหนิเขาเล็กน้อยเท่านั้น

   "วอน ถ้าไม่รีบตั้งสมาธิทำรายงานดี ๆ คราวหน้าเมย์จะไม่ชวนมาร่วมทีมแล้วนะ"

   "ครับ ๆ ขอโทษครับ ขอโทษจริง ๆ เดี๋ยวจะรีบทำด่วนเลย"

   จีวรแทบจะรู้สึกเหมือนได้ลดหย่อนโทษประหาร จึงรีบก้มหน้าก้มตาลงไปพยายามรีดเร้นสมาธิลงมือขีด ๆ เขียน ๆ บนสมุดอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากกำลังดีใจที่เมย์เรียกชื่อเล่นของเขาด้วยความสนิทสนม สติจึงยังไม่กลับคืนมาเท่าไหร่นัก

   "เมย์ เราไม่เข้าใจ ทำไมเธอเลือกนายวอนโดนเตะนี่มาร่วมกลุ่มเราล่ะ น่าจะเลือกคนเก่ง ๆ กว่านี้หน่อยนะ พวกเราจะได้ไม่เหนื่อย ยังไงก็มีแต่คนอยากร่วมกลุ่มกับเธอตั้งเยอะ"

   ต่ายมองดูท่าทีเงอะงะของขาแล้วส่งเสียงบ่นเหมือนกับหมีกินผึ้งออกมา จีวรจึงได้แต่แอบส่งเสียงสบถด่าทอเพื่อนสาวจอมยุ่งคนนี้อยู่ในใจ ซึ่งความจริงแล้วเขาเองก็ไม่เข้าใจนัก ว่าทำไมนางฟ้าแสนสวยอัธยาศัยดีอย่างเมย์ จึงมาเป็นเพื่อนสนิทของผู้หญิงที่แลดูฟุ้งเฟ้อวัตถุนิยมและปากเสียแบบต่ายได้

   แต่จะว่าไปเขาเองก็ยอมรับว่าต่ายเป็นคนสวยคนหนึ่ง เด็กบ้านนอกอย่างเขาก็เคยแอบมองต่ายอยู่บ้างในวันปฐมนิเทศ เพราะต่ายนั้นเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด แต่งเนื้อแต่งตัวแบบเปิดเผยยั่วเย้าอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เสื้อของเธอรัดสิ้นยิ่งกว่าใคร กระโปรงก็สั้นเต่อจนเห็นกางเกงในแพลมออกมา เพียงแต่เมื่อเขาได้เห็นเมญ่า เขาก็ไม่เคยรู้สึกว่ามีใครสวยชวนมองกว่าอีกเลยแม้แต่คนเดียว

   "ทำไมล่ะ ก็อาจารย์ให้แบ่งกลุ่มสามคน เมย์ก็เลือกมาคนนึงแค่นั้นเอง"

   "ก็น่าจะเลือกคนอื่น เอาที่หล่อ ๆ รวย ๆ หน่อย ชั้นจะได้แอบฟินบ้าง นี่ดันมาเลือกนายวอน หน้าตากลาง ๆ ฐานะยากจน เป็นเด็กวัด อาศัยสอบชิงทุนเข้ามาเรียน ดูซิขนาดคอมพิวเตอร์ทำรายงานก็ยังไม่มีใช้ เชอะ ไม่ฟินเลย"

   ต่ายหันมามองจีวรแล้วส่งเสียงสาธยายสรรพคุณของเขาจนเขาแทบกระอักตายคาที่ ซึ่งความจริงแล้วสิ่งที่ต่ายพูดมันก็ถูก เขาไม่ได้เป็นคนหล่อ หน้าตาเพียงกลาง ๆ ส่วนฐานะนั้นเรียกได้ว่ายากจน เพราะต้องอาศัยอยู่กับวัด ใช้ทุนเรียนมหาลัย ไม่ได้ดีเลิศเลออย่างเช่นชีวิตไฮโซของเมญ่า

   "ต่าย!!! เธอพูดเกินไปแล้วรู้มั้ย ขอโทษวอนเดี๋ยวนี้เลย ถึงเธอจะไม่ได้ตั้งใจดูถูกก็เถอะ เธอก็น่าจะรู้ดีที่สุดนะ ว่าคนที่เขาลำบากน่ะ เขารู้สึกยังไง"

   จีวรรีบหันไปมองดูเมญ่าแล้วทำตาค้าง เพราะทีแรกเขาเข้าใจว่าเธอจะรังเกียจเขา แต่แล้วเธอกลับทำเสียงแข็งหันไปส่งเสียงดุใส่ต่ายผู้เป็นเพื่อนสาวของเธอแทน ต่ายได้แต่ทำท่าเซ็งนิดหน่อย เธอทำท่าอิดออดไม่ยอมขอโทษ แต่เมื่อโดนเมย์จ้องหน้า เธอก็ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม หันไปขอโทษจีวรด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง

   "ขอโทษนะ ต่ายไม่ได้ตั้งใจจะดูถูก เพราะต่ายเองก็ไม่ได้รวยอะไร แค่รู้สึกหงุดหงิดที่ไม่ได้ร่วมกลุ่มกับหนุ่มหล่อรวย ๆ ชวนฝันน่ะ"

   จีวรหันไปมองต่ายด้วยความรู้สึกไม่เชื่อสายตา เพราะจากประสบการณ์เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ต่ายแสดงออกอย่างชัดเจนว่าพร้อมจะด่าทุกคนที่ขัดใจ และไม่ยอมลงให้ใคร แต่ว่าครั้งนี้เธอกลับยอมลงให้กับเขา ด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะสำนึกผิดจริงๆ

   "วอนยกโทษให้ต่ายเถอะนะ ต่ายเค้าไม่ได้อยากดูถูกอะไรหรอก เมย์รับรองได้ วอนไม่ต้องคิดมากนะ"

   "ไม่หรอกไม่มีอะไร เราไม่ได้คิดอะไร แต่เราผิดจริง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจทำงาน เราขอโทษด้วย เดี๋ยวเราจะรีบปั่นเลยนะ รอแว้บเดียว"

   เมย์เองก็หันมาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานขอโทษขอโพยให้เพื่อนรักของเธอพร้อมกัน วอนจึงรีบยกมือยกไม้ทำท่าเหมือนไม่มีอะไรด้วยความลนลาน และตอนนี้เขารู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง ที่นางฟ้าของเขาไม่ใช่ผู้หญิงประเภทเหยียดชนชั้นวรรณะ แต่แล้วเมื่อได้ยินคำถามของต่าย สติของเขาก็ชะงักอีกครั้ง เพราะนี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่เขาอยากรู้เป็นอย่างยิ่ง

   "อืม ว่าแต่ ถามจริง ๆ นะเมย์ ชั้นไม่ได้ว่าอะไร แค่สงสัยว่าทำไมเธอเลือกนายวอนนี่ล่ะ หนุ่ม ๆ อยากร่วมกลุ่มกับเธอเพียบขนาดนั้น?"  

   "เพราะว่าสีขาวหม่น"

   "อืม ... แบบนี้นี่เอง"

   เมย์ใช้นิ้วชี้ไปที่ดวงตาของเธอ แล้วตอบเสียงเรียบ ก่อนจะก้มหน้าลงไปพิมพ์รายงานในคอมพิวเตอร์ต่อ ส่วนต่ายเมื่อได้รับคำตอบก็ส่งเสียงอืมทำท่าเหมือนเข้าใจ แล้วก้มหน้าลงไปทำแบบเดียวกัน จีวรแอบสังเกตเห็นดวงตาของเมย์เปล่งประกายแปลก ๆ ในตอนนั้น แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร จึงได้แต่ก้มหน้ามองสำรวจเนื้อตัวของเขาด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าพวกเธอพูดเรื่องอะไรกัน สีอะไร เสื้อนักศึกษามือสองที่เขาหาซื้อมามีสีซีดผิดปกติอะไรหรือเปล่า

   เขาหันไปมองเมย์ด้วยความสงสัยเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่สะดวกที่จะเอ่ยปากถาม เพราะยังโดนคาดโทษเรื่องอู้งานอยู่ จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาลงไปปั่นรายงาน สลับกับแอบเงี่ยหูฟังบทสนทนาของสองสาวเสน่ห์แรงบ้างเป็นระยะ

   "นี่เมย์ ตอนนี้พี่ชายสุดหล่อของเธอไปไหนล่ะ? คิดถึงจัง"

   "พี่เค้าไปทำงานที่เชียงรายน่ะ ไปตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว อีกสองวันถึงจะกลับ"

   "แหม แหม มิน่าล่ะ สองวันนี้ถึงได้อารมณ์หงุดหงิด ที่แท้ก็เพราะไม่มีคนป้อนข้าวป้อนน้ำ จนอดอยากหิวโซนี่เอง คิก คิก ให้เพื่อนรักคนนี้ช่วยทำให้อิ่มแทนมั้ยจ๊ะ?"

   "ดูพูดเข้า ไม่เอาย่ะ"

   "ใช่ซี้ ใครจะไปสู้ฝีมือพี่ชายเธอได้ล่ะยะ ปรนเปรอจัดเลี้ยงน้องสาววันละหลายมื้อ ทั้งคาว ทั้งหวาน อิ่มเอมเปรมปรีย์กันไปเลย ชั้นล่ะอิจฉาแกจริง ๆ"

   เมย์ตอบพลางหัวเราะเล็กน้อย เธอหยิบเอาขนมขบเคี้ยวโยนใส่ต่ายคล้ายกับกำลังเขิน ต่ายเองก็ส่งเสียงหัวเราะแล้วหยิบเอาขนมชิ้นที่เมย์ขว้างมาใส่ปากเคี้ยวหยับ ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ส่วนจีวรที่กำลังก้มหน้าแอบฟังอยู่นั้นยังไม่เข้าใจนัก ว่าทำไมเมย์ถึงหิวโซ หรือว่าพี่ชายของเมย์เป็นพ่อครัวทำอาหารอร่อย พอพี่ชายไม่อยู่เมย์จึงไม่ค่อยยอมทานอาหาร

   "ว่าแต่คราวนี้พี่ชายเธอไปเรื่องอะไรอีกล่ะ?"

   "เห็นว่าเป็นจระเข้ผี หรืออะไรสักอย่างเนี่ยแหละ"

   "ฟังดูน่ากลัวเนอะ ว่าแต่อยากเจอจังเลย อยากกินแซนด์วิชเหมือนที่เคยกินกับแกอีกสักครั้ง คิก คิก"

   "ไม่ได้แล้วย่ะ พี่ชายชั้นคิวเต็มแน่นเอี๊ยดไม่เว้นวันหยุดราชการ วันไหน ชั่วโมงไหนก็ไม่ว่าง"

   "ย่ะ แค่นี้ทำหวงนะยัยเมย์ ไม่แบ่งมาให้เพื่อนฝูงบ้างเลย แต่ก็นะมีสาวสวยรอชิมฝีมือยาวเหยียดแบบนั้น คงมาไม่ถึงเราสักที"

   จีวรลอบชำเลืองมองดูสองสาวด้วยความสนใจ เขาไม่เข้าใจนักว่าพวกเธอกำลังพูดเรื่องอะไรกัน รู้แต่ว่าเมย์มีพี่ชาย และเขาไปทำงานอะไรสักอย่าง แต่ไม่เข้าใจว่าจระเข้ผีที่พูดถึงคืออะไร หรือว่าพี่ชายของเมย์เป็นนักข่าวตามรอยผีวิญญาณหรืออะไรสักอย่าง ทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมต่ายและเมย์จึงทำสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขนัก

   พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จีวรจึงพยายามสลัดเรื่องราวพวกนี้ทิ้ง แล้วตั้งอกตั้งใจขยับมือเขียนเนื้อหารายงานในส่วนของเขาลงบนกระดาษ กระทั่งเมื่อฟ้าใกล้มืดเขาจึงค่อยยิ้มอย่างพออกพอใจต่อผลงานของตนเอง แล้วค่อยยื่นกระดาษแผ่นนั้นไปให้เมย์

   "วอนเขียนดีมากเลย เอาแบบนี้แหละ เดี๋ยวเมย์เอามาพิมพ์เข้าคอม รวมกับของเมย์แล้วส่งอาจารย์ให้ ขอบใจนะจ๊ะ"

   เมย์ก้มหน้าลงอ่านแวบหนึ่ง ก็ยิ้มยินดี พร้อมกับกล่าวชม ริมฝีปากของจีวรจึงฉีกยิ้มกว้างแทบถึงใบหูด้วยความปลาบปลื้ม สำหรับเขาแล้วคำชื่นชมยอมรับของผู้หญิงที่แอบชอบนั้นเทียบได้กับสมบัติล้ำค่าสักชิ้นเสียอีก

   "ฮึ ก็ยังดี ที่มีข้อดีอยู่บ้าง ถ้าไม่ตั้งใจทำงาน แล้วยังฝีมือห่วย แม่จะเฉดหัวออกจากกลุ่มซะเลย"

   ต่ายกลับยังคงตามกัดเขาไม่ปล่อย เธอพูดดูแคลนเขาขณะเชิดหน้ามองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แต่จีวรหาได้รู้สึกทุกข์ร้อนอันใดกับถ้อยคำของต่าย เพราะเขาให้ความสำคัญก็แต่เพียงเมญ่าเท่านั้น และเมื่อเมย์หันไปตักเตือนต่ายจีวรก็แอบยิ้มด้วยหัวใจอันพองโตอยู่ลึก ๆในใจ

   "ต่ายจ๊ะ แล้วเมื่อไหร่ส่วนของเธอจะเสร็จล่ะ?'

   ต่ายส่งเสียงฮึหันมามองหน้าคาดโทษจีวร จากนั้นจึงค่อยก้มหน้าลงไปพิมพ์ส่วนงานของตัวเองก๊อกแก๊ก ส่วนเมย์นั้นยิ้มน้อย ๆ แล้วก็ก้มหน้าลงไปพิมพ์งานเช่นกัน จีวรจึงลอบรู้สึกภูมิใจเมื่อหันมองซ้ายมองขวา แล้วเห็นสายตาเปี่ยมอารมณ์อิจฉาของนักศึกษาชายกลุ่มอื่นซึ่งกำลังมองมา จากนั้นจึงเริ่มหันไปแอบมองนางฟ้าของเขาอีกครั้ง

   จีวรทำหน้านิ่งแอบสูดกลิ่นหอมหวานของน้ำหอมที่เมย์ใช้ด้วยความรู้สึกวาบหวาม ผิวพรรณที่ขาดผุดผ่องเปล่งปลั่งของเธออยู่ใกล้เพียงแค่นี้ ใบหน้าที่สวยประหนึ่งนางฟ้าอยู่ใกล้เพียงแค่โน้มใบหน้าเข้าไปหา ทรวงอกอวบอิ่มคัพใหญ่ก็อยู่ใกล้ยั่วเย้าเสียจนอยากเอื้อมมือไปแตะสัมผัสเสพความนุ่มนิ่ม
  
   ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อเหลือบแลลอดผ่านร่องกระดุมเสื้อนักศึกษาที่เผยอเปิดอ้าออกจนเห็นยกทรงแบบครึ่งเต้า ที่รัดรั้งความขาวละลานตาของสองเต้าจนแนบชิดติดกันเป็นร่องอันแนบแน่น จินตนาการของหนุ่มเวอร์จิ้นจึงพุ่งทะยานไปไกลลิบจนฉุดไม่อยู่ เขากำลังนึกฝันว่าหากได้ซุกใบหน้าลงไปฟอนเฟ้นสองเต้าคู่นั้น เขาจะมีความสุขถึงเพียงไหน

   จินตนาการวาบหวิวที่กำลังพลุ่งพล่านอย่างน่าแปลกประหลาด ทำให้จีวรอดไม่ได้ต้องแอบล้วงมือลงมาลูบเป้ากางเกงที่มีท่อนเอ็นกำลังพองตัวเป่งอย่างแผ่วเบา เขาจับจ้องมองเมญ่าจนตาไม่กระพริบ ในขณะที่สมองกำลังทำงานสร้างสรรค์จินตนาการเรื่องเซ็กส์อย่างเมามันส์ และที่น่าแปลกก็คือท่วงท่าทั้งหลายนั้นกลับเป็นท่วงท่าที่เขาไม่รู้จักมาก่อนเสียด้วยซ้ำ มันเหมือนกับว่ามีความคิดของใครหลายคนสืบทอดมาอยู่ในมโนสติของเขา

   แวบแรกเขาเห็นภาพของนักศึกษาชายโต๊ะใกล้เคียงกำลังโยกเอวกระเด้าดุ้นเอ็นกับโพรงปากจิ้มลิ้มของเมย์อย่างเมามันส์ จากนั้นเขาก็เห็นภาพของภารโรงที่ยืนอยู่ไกลออกไปกำลังฉีกกระชากเสื้อนักศึกษาของเมย์แล้วกระทำการปลุกปล้ำขืนใจ ตามด้วยภาพนักศึกษาชายอีกคนที่จับเมย์มัดอยู่บนเก้าอี้รูปร่างแปลกประหลาด แล้วกระทำชำเราเธออย่างหื่นกระหาย จากนั้นภาพแห่งจินตนาการหื่นกามทั้งหลายก็เทประดังเข้ามาจนจีวรหัวหมุนติ้ว

   กระทั่งสุดท้ายเขาไม่ทราบว่านี่เป็นภาพของใคร เพียงทราบว่าเขากำลังโถมทับอยู่บนร่างบางนั้น ปลดเปลื้องเสื้อผ้าจนเธอเปลือยเปล่า เขาจูบปากแลกลิ้นกับเมญ่าอย่างเร่าร้อน เธอเปิดอ้าสองขาตอบสนองอย่างร้อนแรงในขณะที่เขาเริ่มดันดุ้นเอ็นแทรกเข้าไปในร่าง เธอร่ำร้องครวญครางกระเส่าเมื่อเขาเริ่มโยกตัวกระแทกเข้าใส่

   เธอร่ำร้องเรียกชื่อเขาในขณะที่เขาบอกรัก และเมื่อถึงห้วงสุดท้ายแห่งความหฤหรรษ์เมญ่าก็หวีดร้องกอดร่างของเขาจนแน่นในขณะที่เขากำลังปลดปล่อยน้ำรักเข้าใส่ร่างของเธออย่างมากมายมหาศาล

   ร่างของจีวรกระตุกน้อย ๆ เมื่อจินตนาการดำเนินไปถึงจุดสุดท้าย เขากัดฟันกรอด แอบเผลอบีบขยำนวดคลึงเป้ากางเกงของตัวเองแรงขึ้น เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ากำลังใกล้จะเสร็จคามือตัวเองเต็มที หากทว่าวินาทีนั้นเสียงหัวเราะคิกของต่ายที่ดังขึ้นก็ทำให้เขาสะดุ้งโหยง จินตนาการสุดเสียวหายวับไปในฉับพลัน

   เมื่อหันไปมองเขาจึงค่อยพบว่าต่ายกำลังมองเขาอยู่ด้วยรอยยิ้มอันน่าหวาดระแวง แต่ที่ทำให้เขาใจหายวาบกว่าเดิมก็คือ ในมือของเธอถือโทรศัพท์ชี้ไปที่เป้ากางเกงของเขา ทำท่าทำทางเหมือนได้ถ่ายคลิปตอนที่เขาแอบช่วยตัวเองเอาไว้แล้ว

   "มีอะไรเหรอจ๊ะต่าย?"

   เมย์เหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะของต่ายเช่นกัน เธอจึงเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอแล้วหันไปถามต่าย จีวรจึงรีบหันไปมองต่ายด้วยแววตาขอความเมตตาสุดชีวิต

   "อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ต่ายแค่แอบดูคลิปนักศึกษาชายช่วยตัวเองขณะแอบมองดาวมหาลัยอยู่น่ะ คิก คิก"

   "ยัยต่าย นี่เธอแอบอู้อีกแล้วเหรอ? รีบทำส่วนของเธอเลยย่ะ คลิปอะไรนั่นเอาไว้ค่อยไปดูที่บ้าน"

   "แหม ก็นิดหน่อยน่ะ เมย์อยากดูมั้ย?"

   ต่ายพูดพลางหันมามองดูจีวรด้วยดวงตาอันเป็นประกาย จีวรจึงได้แต่เบิกตาโตอ้าปากค้างไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เพราะหากปล่อยให้เมย์ได้เห็นคลิปนั้น เธอคงมองเขาเป็นตัวโรคจิตจนไม่อยากเข้าใกล้อย่างแน่นอน

   "ไม่เอา ต่ายรีบทำงานเลย เมย์อยากรีบทำให้เสร็จจะได้กลับบ้านซะที"

   "จ้า จ้า ทำก็ทำ"

   "อื้ม รีบทำให้เสร็จล่ะ ... เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ทำไมสีเปลี่ยนไปแล้วล่ะ?"

   เมย์พูดกับต่ายแล้วหันหน้ามามองจีวรแวบหนึ่ง แต่ขณะที่เธอกำลังจะก้มหน้าลงไปพิมพ์งานอีกครั้ง เธอกลับชะงักหันมาเบิกดวงตากลมโตมองดูเขาด้วยแววตาแปลกประหลาดใจสุดระงับ จีวรไม่ทราบว่าเมย์กำลังพูดเรื่องอะไร แต่เขาเหมือนเป็นคนร้ายที่มีคดีติดตัว จึงได้แต่นั่งหน้าซีดกลัวว่านางในฝันจะแอบสังเกตเห็นว่าเขากระทำเรื่องหมกมุ่น ผ่านไปครู่ใหญ่ต่ายที่หันมองเมย์สลับกับมองจีวรก็หันไปถามเมย์ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

   "อะไรแปลกไปเหรอเมย์?"

   "... อืมม ... สีเปลี่ยนเป็นดำขึ้นน่ะ"

   "... อ่อ คิก คิก ก็คงอย่างงั้นแหละ พอนายวอนกำลังคิดเรื่องหื่น ๆ อยู่นี่นะ ท่าทางจะอัดอั้นเต็มฝืนแล้วด้วย คิก คิก"

   "เรื่องอะไรเหรอ?"

   "เมย์ไม่รู้ตัวล่ะซิ เมื่อกี้นายวอนน่ะ แอบมองลอดร่องกระดุมดูนมของเมย์ แล้วแอบเอามือขยำเป้ากางเกงตัวเองด้วยนา คิก คิก"

   พอฟังคำพูดของเมย์ ต่ายก็ระเบิดเสียงหัวเราะคิกคัก ทั้งยังพูดเปิดเผยอารมณ์ของจีวรออกมา จนเขาแทบอยากมุดหน้าแทรกลงไปในผืนแผ่นดินเพื่อหลบลี้หนีหน้าจากสายตาของนางฟ้าที่เขาแอบหลงรัก เมื่อโดนเปิดเผยความจริงขนาดนี้ออกไป หากเมย์ไม่มองเขาเป็นคนโรคจิตก็คงแปลกแล้ว

   บรรยากาศกลายเป็นเงียบกริบกะทันหัน เมย์มองดูต่ายแล้วหันมามองดูจีวรเหมือนจะถามว่าจริงหรือเปล่า ซึ่งเขาอาจจะตอบโกหกไม่ยอมรับไปก็ได้ แต่เขาย่อมไม่ใช่คนเช่นนั้น ถึงเขาจะไม่กล้าอวดอ้างว่าตัวเองเป็นคนดี แต่อย่างน้อยเขาก็ยังยึดถือปฏิบัติศีลห้าตามที่หลวงตาพร่ำสอนไว้โดยไม่เคยขาดพร่อง ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงไม่มุสาพูดโกหกเอาตัวรอด และก้มหน้ายอมรับความผิดของตัวเองแต่โดยดี

   "ขอโทษนะเมย์ ..."

   จีวรก้มหน้าเอ่ยปากขอโทษเสียงเศร้า เขาไม่กล้ามองสบตากับเมย์เนื่องจากไม่อยากเห็นแววตารังเกียจจากดวงตาสวยกลมโตคู่นั้น หากทว่าปฏิริยาของเมย์กลับแปลกประหลาดจนเขางุนงง อยู่ดี ๆ เธอก็ขยับเข้ามาใกล้ ยื่นสองมือมาประคองจับแก้มของเขาทั้งสองข้างดันขึ้นแล้วมองสบตากับเขาด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใย ไม่มีความรู้สึกเหมือนไม่พอใจแต่อย่างใด

   "ไม่ใช่หรอก เรื่องนี้ธรรมดา ... แต่นี่มันเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป จากสีขาวหม่นเป็นสีเทาขมุกขมัวแบบนี้ มีอะไรบางอย่างแปลก ๆ ... วอนอย่าขยับนะ นั่งนิ่ง ๆ"
  
   เขาถึงกับต้องปากอ้าตาค้างอีกครั้ง เขาไม่ทราบว่าเธอพูดเรื่องสีอะไร รู้แต่ว่าเธอดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับความผิดที่เขาทำจริง ๆ อีกทั้งยังมองเขาด้วยแววตาห่วงใยอย่างไม่น่าเชื่อ และนั่นก็ทำให้หัวสมองของเขากลายเป็นสว่างวาบขึ้นมา เขาไม่ทราบว่าความรู้สึกกลัดมันที่เปี่ยมล้นอยู่เมื่อครู่เหือดหายไปที่ไหนจนหมด ตอนนี้เขามีแต่ความรู้สึกสุขสงบเมื่อได้จ้องมองใบหน้าของเธอเช่นนี้

   "... อืมม ... แปลกจัง ... หรือว่าตาฝาด กลายเป็นสีขาวหม่นอีกแล้ว?"

   เมย์ทำสีหน้าแปลกประหลาด เธอส่งเสียงอืม ขณะจับประคองพลิกหน้าของจีวรขยับไปมาเหมือนกับพยายามค้นหาอะไร แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบเห็น เธอจึงปล่อยมือออกจากใบหน้าของจีวร โดยที่เขารู้สึกเสียดายไม่อยากพรากจากความนุ่มนิ่มของเธออยู่บ้าง  
  
   "เธอคงดูผิดไปมั้งจ๊ะเมย์ นี่มันเริ่มมืดแล้วด้วย"

   "อืม คงงั้นมั้ง ... ช่างเถอะ อ๊ะ ... โทรศัพท์ ... สวัสดีค่ะ ... อ๋อ ค่ะ บริษัทบำบัดผีค่ะ ... แต่วันนี้คุณเอกไม่อยู่ค่ะ จะให้นัดก่อนมั้ยคะ?"

   ต่ายที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องสีหันมามองจีวรแล้วพยายามเสนอความเห็น และนั่นก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โทรศัพท์มือถือของเมย์ดังขึ้นพอดี เธอจึงขยับลุกขึ้นเดินหายไปในตัวอาคาร ด้วยถ้อยคำอันน่าสงสัยว่าบริษัทบำบัดผีคืออะไร แต่จีวรไม่ได้มีเวลาคิดมากนัก เพราะกำลังนั่งอยู่กับต่ายเพียงสองต่อสองด้วยบรรยากาศอันแสนกระอักกระอ่วนใจ ต่ายทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนพิมพ์งานไปเรื่อยเปื่อย จีวรจึงต้องเป็นฝ่ายยกมือไหว้ขอโทษขอโพยขอโอกาสเอง

   "ต่ายครับ ... คือ ... ขอร้องล่ะนะ อย่าเอาคลิปนั่นให้เมย์ดูได้มั้ย ถือว่าทำบุญทำทานปล่อยนกปล่อยปลาเถอะ"

   "ทำไมถึงไม่ควรเอาให้ดูล่ะ? ไหน ๆ เมย์ก็บอกว่าเรื่องธรรมดาแล้วนี่นา คิก คิก"

   "คือ ... เอ่อ ... เราสาบาน ว่าจะไม่ทำอีก ... เมื่อกี้มันอารมณ์พาไปยังไงก็ไม่รู้ มันเป็นของมันเอง มองเมย์แล้วสมองเบลอไปหมด รู้ตัวอีกทีก็เผลอทำแบบนั้นไปเลย เราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนนะสาบานได้ ไม่ได้โรคจิตแน่นอน"

   จีวรพยายามแก้ตัวด้วยความกระวนกระวาย แต่ต่ายยังทำคงทำหน้านิ่ง เธอหันมามองดูจีวรตัั้งแต่หัวจรดปลายเท้าด้วยแววตาแปลก ๆ อีกครั้ง และจีวรรู้สึกเหมือนว่าเธอใช้เวลามองดูตรงเป้ากางเกงของเขานานกว่าที่อื่น

   "เอาเถอะ ยังไงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนแอบมองเมย์แล้วช่วยตัวเองซะหน่อย สวยน่ารักเซ็กส์ซี่แบบนี้ก็แย่เหมือนกันนะ มีแต่คนเห็นแล้วหื่น

   "เมย์เจอแบบนี้หลายครั้งแล้วเหรอ?"

   "อืม นายอย่ารู้มากเลย ... ว่าแต่มีอารมณ์ขนาดนี้ไม่ให้แฟนทำให้ล่ะ มีแฟนหรือยัง?"

   "ยัง ... ยังไม่มีครับ ไม่เคยมี"

   "ยังไม่มี? อย่าบอกนะว่านายยังบริสุทธ์ผุดผ่องไม่เคยอึ๊บสาวมาก่อน?"

   ต่ายทำหน้าเหลือเชื่อมองดูจีวรอีกครั้ง จนผู้ชายอย่างเขาต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาด้วยความเขิน ทั้งที่ยังไม่เข้าใจว่าการไม่เคยผ่านเรื่องนี้มาก่อนทำไมจึงเป็นเรื่องแปลกประหลาดนัก

   ทั้งสองฝ่ายพากันนิ่งเงียบไปอีกครั้ง ต่ายทำท่าเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่จีวรนั้นกำลังสับสนวุ่นวายไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรต่อไป ได้แต่นั่งเงียบรอคอยจนกระทั่งต่ายเป็นฝ่ายเปิดการสนทนาอีกครั้ง

   "สรุปว่านายยังจิ้นอยู่? น่าเสียดายอุตส่าห์มีของดีอยู่กับตัว ดูเหมือนจะใหญ่ใช้ได้เลยนะเนี่ย"

   "เอ่อ ..."

   "เอาล่ะ พูดกันแบบตรงไปตรงมาเลยนะ ชั้นจะไม่เอาคลิปของนายให้ใครดูก็ได้ แต่มีข้อแม้"

   "ข้อแม้?"

   "นายต้องเป็นข้าทาสของชั้น ทำทุกอย่างที่ชั้นบอก เป็นเวลาหนึ่งเดือน นับตั้งแต่วินาทีนี้่เป็นต้นไป โอเคมั้ย?"

   เมื่อได้ยินข้อเสนอจีวรก็หันไปมองต่ายด้วยท่าทางเหมือนไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เคยคิดว่าต่ายเป็นหญิงสาวนิสัยอ่อนหวาน แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะมีความคิดออกนอกกรอบอะไรขนาดนี้

   "จะยอมมั้ย ถ้าไม่ยอมชั้นจะส่งคลิปให้เมย์ดูเดี๋ยวนี้แหละ"

   "เดี๋ยว ๆ โอเค ๆ ยอม ๆ เรายอมทำตามที่ต่ายสั่งก็ได้ แต่ว่าต้องห้ามสั่งเรื่องผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรม"

   "แน่นอน ชั้นไม่สั่งเรื่องอะไรไร้สาระพวกนั้นหรอก สรุปว่าตกลงใช่มั้ย?"

   "ได้ ตกลง"

   "โอเค งั้นคำสั่งแรก ช่วยพิมพ์รายงานให้ชั้นหน่อย รีบทำให้เสร็จก่อนเมย์เดินออกมานะ ... อ้อ คำสั่งที่สอง นั่งนิ่ง ๆ ซักพักนะ คิก คิก"

   ต่ายพูดจบก็ยกคอมพิวเตอร์เครื่องสีขาวมาวางที่หน้าจีวร เธอยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นขยับมานั่งบนเก้าอี้หินอ่อนตัวเดียวกับเขาจนไหล่ชนไหล่ เขามองเธอเล็กน้อยด้วยความงุนงงว่าเธอต้องการทำอะไร แต่สงสัยได้เพียงครู่เดียวก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อต่ายทำหน้านิ่งแล้วล้วงมือลงไปขยำที่เป้ากางเกงของเขาจนเต็มมือ

   "อูยยย ... ต่าย ... ทะ ทำอะไรน่ะ"

   "นั่งนิ่ง ๆ ซิ แบบนี้ไม่ชอบหรือไง? ... อืมมม ยาวใหญ่กว่ามาตรฐานสักหน่อย แต่ยังสู้พี่เอกไม่ได้แฮะ'

    "ต่าย เดี๋ยวก่อน อูยยสสส ต่าย ... อะ .. อูยยย หยุดก่อน ... อูยยสสส ... ต่าย ... อูยยยสสสส ต่าย ..."

   จีวรส่งเสียงครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านและหวั่นเกรง เขาไม่ทราบว่าต่ายพูดถึงใคร ใครคือพี่เอกของเธอ แต่เขากำลังมองไปรอบ ๆ ด้วยเกรงว่าจะมีคนอื่นหันมาเห็น และเมื่อพบว่าตอนนี้ฟ้ามืดจนเห็นรอบข้างไม่ชัดมาก ทั้งยังมีโต๊ะหินอ่อนบังอยู่อีกชั้น จึงเริ่มผ่อนคลายและแสดงท่าทีแข็งขืนน้อยลง เนื่องด้วยเขากำลังรู้สึกดี ดีอย่างยิ่งจนไม่อยากให้เธอหยุดมือ และตอนนี้เองที่เขาได้ค้นพบว่าการมีผู้หญิงทำให้นั้นมันเสียวกว่าทำเองนับร้อยนับพันเท่าเลยทีเดียว

   "อูยสสส ต่าย ... อูยยสสส หยุดก่อน จะไม่ไหวแล้ว ... อูยยยสส"

   เขาพยายามส่งเสียงร้องห้ามเมื่อพบว่าดุ้นเอ็นของเขากำลังใกล้กระฉูดเต็มทน ต่ายส่งเสียงหัวเราะคิกคักถูกอกถูกใจคราวหนึ่ง จากนั้นเธอก็ปล่อยมือออกจากเป้ากางเกง จีวรจึงแอบพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกระคนเสียดาย

   แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้ง เพราะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ต่ายขยับเบียดร่างนุ่มนิ่มเข้ามาใกล้กว่าเดิม เธอจับท่อนแขนของเขาไปกอดแนบกับสองเต้า ขยับมือขวาปลดตะขอกางเกงแล้วล้วงมือวูบเข้าไปคว้าดุ้นเอ็นหมับแบบเนื้อต่อเนื้อ

   "ถือเป็นรางวัลที่ไม่พูดโกหกเอาตัวรอด แล้วก็ถือเป็นการต้อนรับ สำหรับข้าทาสก็แล้วกัน ถ้าเป็นเด็กดีจะมีรางวัลมากกว่านี้อีกนะ"

   ต่ายขยับใบหน้ามาพูดกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับอ้าปากงับเลียลิ้นฉกไปที่ใบหูของจีวรจนเขาขนลุกซู่ หากทว่าความเสียวนั้นยังไม่เทียบเท่าความรู้สึกของการโดนมือนุ่มนิ่มกระตุกถอกใส่ดุ้นเอ็นเป็นระวิง

   "อูยยสสส โอยยยย ต่าย ... โอยยยย อูยยสสสส ... อะ อาาาาาา"

   จีวรเสียวซ่านจนตัวงอ ด้วยไม่เคยพบเจอกับอะไรแบบนี้มาก่อน สติของเขากระเจิดกระเจิงมีแต่ความเสียว กระทั่งเมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอด เขาก็ลืมตัวคว้ากอดต่ายเข้ามาบดปากจูบอย่างรุนแรง

   ต่ายชะงักไปวูบหนึ่ง เหมือนไม่ได้คาดคิดว่าจีวรจะกล้าทำแบบนี้ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็กลับมากระตุกมือยุกยิกอีกครั้ง และหลังจากนั้นเพียงครู่เดียว จีวรก็ตัวกระตุกกอดรัดร่างของต่ายแรงขึ้น ก่อนจะระเบิดน้ำกามกระฉูดออกมาเลอะเต็มกางเกงในและอุ้งมือของเธอ

   อารมณ์อันวาบหวามราวกับได้ขึ้นสวรรค์ครั้งแรกในชีวิต ทำให้จีวรลืมเลือนทุกสิ่ง เขายังคงกอดรัดร่างของต่ายเอาไว้แน่น ทั้งยังบรรจงจูบบดปากกับเธอโดยไม่ยอมปล่อยออก เพียงแต่น่าเสียดายที่ยังไม่รู้จักลีลาจูบมากนัก การจูบครั้งนี้จึงเป็นเพียงการเอาปากไปประกบกับปากของต่ายเท่านั้น ไม่มีการแลกลิ้นดูดน้ำลายอันใดเกิดขึ้น ทั้งที่ต่ายเองก็เผยออ้าปากรอคอยการรุกรานอยู่แล้ว

   "... ปล่อยได้แล้วนายหื่น เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก ชั้นไม่ได้สั่งให้นายจูบชั้นซะหน่อย"

   เวลาผ่านไปครู่หนึ่งต่ายจึงค่อยออกแรงผลักไสร่างของจีวรออก เธอหอบหายใจหนักหน่วง ก่อนรีบหันมองซ้ายมองขวา แล้วรีบขยับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมที่เธอเคยนั่ง แล้วรีบล้วงเอากระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดฝ่ามือที่มีคราบน้ำกามเปรอะเปื้อนเต็มมือ

   จีวรนั่งเหม่อมองดูต่ายด้วยความรู้สึกอันแปลกประหลาด ใบหน้าของเธอแลดูแดงก่ำแปลกตาไป เขาเริ่มรู้สึกเหมือนได้แลเห็นความเป็นผู้หญิงสวยน่ารักของต่ายมากขึ้น ... และเริ่มสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของเธอคนนี้จนหัวใจเต้นแรง

   "ดูอะไร? ฮึ ... กะจะแกล้งทำให้เกือบเสร็จ แล้วทิ้งให้อารมณ์ค้างซะหน่อย ดันมาจูบกันได้ เลยเผลอตัวเลย ... ฮึ รีบทำงานเลยนะยะ ชั้นจะไปล้างมือ"

    ต่ายหันมาส่งเสียงต่อว่า แล้วเดินสะบัดก้นจากไป ทิ้งให้จีวรได้แต่นั่งมึนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ... นี่สรุปว่าเขาแอบนอกนอกใจเมญ่า และกลายเป็นทาสของยัยต่ายตัวแสบไปแล้วหรือนี่?
  
...........................................
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

medsay

 ::DookDig:: ฟินไปเลยนายวอน อิอิ มีสาวมาทำให้ ถึงกับยอมเป็นทาสเต็มตัวเต็มใจเลย ขอบคุณครับท่านแอส

pinmonkey

ดูดาวมหาลัยอยู่ แต่มีสาวอีกนางมาให้ถึงที่ ดีใจกับพระเอกด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

gfthebc

โอ้​ ขอ​อย่า​ให้​เป็น​น้อง​เมย์​ น้อง​สาว​พี่​เอก​ใน​รัก​ยม​เลย​นะ​ครับ​ ไม่​อยาก​ให้​สาว​ๆ​ของ​พี่​เอก​โดน​คน​อื่น​เลย​ครับ​

armfine

น่าติดตามดีนะ อ่านเรื่องไหนก็เพลินทุกเรื่องเลย

Wing13

รอสมัครสมาชิกเพื่อมาขอบคุณนานมากแล้ว ครับ ขอบคุณมากครับ