ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

จิตราคะ ตอนที่ 5 - ไม้แข็ง

เริ่มโดย assasin008, กันยายน 23, 2015, 10:03:09 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

จิตราคะ ตอนที่ 5 - ไม้แข็ง
.........................................................
Assasin008 2014-11-21


   "จีวร อย่า ... อือ อูยย อย่า ... อะ อูยยย"

   จีวรรับฟังเสียงห้ามอันสั่นเครือของเมญ่าด้วยสมองอันขาวโพลน เมญ่าดาราสาวแสนสวยแห่งยุคที่เขาหลงไหลกำลังยืนโก้งโค้งในสภาพเกือบเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าของเขา สะโพกขาวผ่องและขาขาวเรียวลอยเด่นอวดความงามโดยไม่มีสิ่งใดปิดบัง ร่างงามกำลังสั่นสะท้านระริกบิดเกร็งด้วยความเสียวสยิวจากการขยับลากนิ้วกลางครูดเข้าครูดออกจากร่องหลืบร้อนฉ่า

   ดุ้นเอ็นขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทยของจีวรเบ่งบวมขึ้นอย่างทันทีทันใด ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากนิ้วมือช่างสุดยอดเหลือคำบรรยายจนเขารู้สึกอยากสอดแทรกดุ้นเอ็นเข้าไปในร่องของเธอเสียตั้งแต่วินาทีนี้ด้วยซ้ำ

   ข้างในนั้นเปียกชื้นอย่างแปลกประหลาด หากทว่ามันช่างอบอุ่นน่าค้นหา สัมผัสตอดรัดที่ดูดหนึบนิ้วมือราวกับเด็กน้อยที่หิวโหยกำลังทำให้เขารู้สึกคลั่ง และวิญญาณเจ้าแว่นที่สิงร่างของเขาอยู่ก็คงกำลังคลั่งเช่นเดียวกัน

   เขาก้มลงมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอด้วยความหื่นกระหาย แม้จะไม่ได้เห็นด้านหน้า หากทว่าความสวยงามของเรือนร่างจากด้านหลังก็เกินพอแล้ว ที่จะกระตุ้นเร้าให้อารมณ์ทางเพศของเขาเดือดพล่านขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอกำลังตัวกระตุกสะท้านส่งเสียงครางไปตามจังหวะของการสอดแยงนิ้วซอยยิกกับร่องหลืบกระชับแน่น

   "เมญ่า เมญ่า ... เมญ่าคนสวย โอ"

   ริมฝีปากของจีวรขยับอ้า หากทว่าสุ้มเสียงที่หลุดออกมากลับแหบแห้งน่าพรั่นพรึง น้ำเสียงนั้นทำให้จีวรตระหนักได้ถึงความจริงบางอย่าง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อ แต่ว่านี่สมควรเป็นความจริง ... เขากำลังโดนวิญญาณสิงร่าง และแย่งบังคับร่างกายของเขาไปเสียแล้ว!!!

   "นั่นนายแว่น ... อ๊อยยย ... นายโชคชัยเหรอ ... อ๊อยยย ... อูยยยย ... อย่า ... ซี้ดดสสส ... อย่านะ ... อะ ... อืมมม"

   เมื่อได้ยินเสียงอันแหบแห้ง เมญ่าก็ดูจะรับรู้ได้ว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น เธอจึงเรียกชื่อของวิญญาณนายแว่นเพื่อให้หยุดการกระทำแทนที่จะเรียกชื่อจีวร แต่สถานการณ์ในตอนนี้จะมองอย่างไรก็คงเหมือนอ้อยเข้าปากช้าง โอกาสงามที่จะได้เสพกามกับหญิงสาวแสนสวยในฝันอยู่เบื้องหน้า แล้วใครเล่าจะยอมปล่อยให้หลุดลอย

   สำหรับนายแว่นแล้วนี่ย่อมเป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานมาให้ ในขณะที่จีวรเองก็คงรู้สึกไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่เพียงแต่คงต้องเรียกว่าโอกาสผีประทานเสียมากกว่า ต่อให้เขามีความคิดขัดแย้งไม่ต้องการทำร้ายเมญ่า หากทว่านั่นก็ยังไม่รุนแรงพอที่จะหยุดความหื่นกระหายคิดสืบพันธุ์ของเพศชาย

   ร่างเลือดเนื้อของจีวรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของวิญญาณนายแว่นเริ่มรุกเร้าขึ้นอีกขั้น มันลากนิ้วที่เปียกชุ่มออกมาจากร่องหลืบ แล้วลากไปบดบี้ติ่งแตดจนเมญ่าสะดุ้งเฮือก เธอพยายามหนีบสองขาเข้าหากันเพื่อปกป้องตัวเอง แต่นั่นก็หาได้เกิดประโยชน์อันใดไม่ ปลายนิ้วยาวเรียวยังคงสามารถสอดแทงเข้าไปในร่องฉ่ำแฉะได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งคราวนี้มันยังเพิ่มนิ้วชี้เข้าไปอีกนิ้ว กลายเป็นสองนิ้วเสียด้วย

   เสียงแจ๊ะแจ๊ะดังขึ้นอย่างแผ่วเบาต่อเนื่อง ยิ่งปลายนิ้วขยับถี่เร็วเท่าไหร่ น้ำหล่อลื่นก็ยิ่งเอ่อทะลักออกมาจากปากร่องเสียวมากขึ้นเท่านั้น เวลานี้ร่างเกือบเปลือยของสาวสวยจึงเริ่มแดงเรื่อด้วยเลือดสาววัยเจริญพันธุ์กำลังวิ่งพล่านไปทั่วทุกรูขุมขน

   เสียงร้องห้ามยิ่งมาก็ยิ่งขาดหาย สองขาของเธอสั่นสะท้านระริก มือไม้หมดเรี่ยวหมดแรง มีแต่เสียงร้องครางกระสันที่เริ่มแว่วดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับของอารมณ์สวาท และตอนนี้สะโพกของเธอเริ่มเด้งโยกผสานกับจังหวะการเคลื่อนไหวของปลายนิ้วเข้าเสียแล้ว!!!

   หนุ่มอ่อนประสบการณ์อย่างจีวรรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างที่เมญ่าดูจะขัดขืนน้อยเกินไป ส่วนวิญญาณเจ้าแว่นนั้นดูจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากหัวเราะเสียงหื่นและลากปลายนิ้วเข้าออก ร่องรักที่กระชับแน่นเหมือนไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนจึงต้องรับหน้าที่ตอดตุบดูดนิ้วเพิ่มขึ้นเป็นสามนิ้ว

   "เมญ่า ... เมญ่า ... มีอารมณ์แล้วใช่มั้ย ... หึ หึ ... ฮ่า ฮ่า ..."

   นายแว่นส่งเสียงหัวเราะหื่นราวกับผู้ชนะ เพราะเวลาผ่านไปแล้วเกือบสามนาที หากทว่าไม่มีท่าทีขัดขืนต่อต้านแม้แต่นิดเดียว มันจึงเริ่มคลายความระมัดระวัง ปล่อยมือที่ออกแรงกดลำคอของเมญ่าออก แล้วล้วงสอดเข้าไปบีบขยี้เต้านมอวบล้นมือจนร่างงามร้องซี้ดสะท้านเฮือก

   ร่างเนื้อของจีวรรับสัมผัสนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อได้อย่างชัดเจน เขาจึงรู้สึกราวกับฝันไป เต้าอวบที่เขาเอาไปใฝ่ฝันจินตนาการช่วยตัวเองทุกเช้าค่ำกำลังโดนบีบบิดเบี้ยวอยู่ในอุ้งมือของเขา มันช่างเนียนละมุนลื่นมือ ทั้งนุ่มนิ่มอ่อนโยน และเต่งตึงสะท้านเด้งสู้มือยิ่งกว่าความรู้สึกที่เขาเคยคิดจินตนาการเป็นร้อยเท่าพันเท่า ... เวลานี้เขาไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น นอกจากจับหน้าอกของเธอไปเช่นนี้อีกตลอดกาล

   ที่น่าแปลกก็คือตอนนี้จีวรรู้สึกเหมือนกับว่ามือขวาซึ่งกำลังขยำนมของเมญ่ากลับคืนมาอยู่ในการควบคุมของเขาอีกครั้ง เขาสามารถบังคับให้มือบีบขยำ และหนีบปลายถันของเมญ่าได้ตามต้องการ ซึ่งนั่นคงเป็นเพราะตอนนี้มือซ้ายของเขาถอดออกมาจากร่องรักของเมญ่าหันไปจับที่บั้นเอวคอดกิ่วของเธอแทน ความสนใจของวิญญาณนายแว่นกำลังพุ่งเป้าไปที่การจับเอาดุ้นเอ็นของเขากดเบียดฝ่าประตูหลังของเมญ่าเข้าไปให้ได้

   จีวรมองดูภาพดุ้นเอ็นอันเขื่องของตัวเองที่จรดจ่ออยู่กับรูก้นของเมญ่าด้วยความตื่นเต้นกระสัน หากทว่าในช่วงเวลาที่เขาและนายแว่นเผลอไผลคิดว่าเมญ่าไม่มีอาการต่อต้านแล้วนั้น เรือนร่างงามซึ่งไม่ถูกกดทับและไม่ถูกกระตุ้นจุดอ่อนก็ดีดเด้งขึ้นมาอย่างแรง ราวกับว่าเธอได้รวบรวมเรี่ยวแรงรอคอยจังหวะเช่นนี้อยู่เนิ่นนานแล้ว

   จีวรพบว่าจิตของนายแว่นกำลังจรดจ่ออยู่กับดุ้นเอ็นซึ่งกำลังจะแหวกทะลวงรูก้นของเมญ่า แขนขาของเขาจึงกลายเป็นอิสระ แต่เมื่อเห็นว่าเมญ่าพลิกร่างหมุนตัวทำท่าจะหันหน้ามาทางเขา สัญชาตญาณหื่นในร่างก็ผลักดันบังคับให้สองมือสอดลอดใต้สองแขนคว้าหมับเข้ากับสองเต้าอวบกลมแล้วบีบขยี้อย่างแรงจนเมญ่าตัวกระตุก อีกทั้งยังละเล่นหนีบหัวนมของเธอแล้วขยำขยี้อย่างเมามันตามที่เคยเห็นในหนังเอวีญี่ปุ่นเสียด้วย

   แม้จะไม่เข้าใจว่าเมญ่าจะรวบรวมเรี่ยวแรงหันหน้ามาเพื่ออะไร แต่เขาก็รู้สึกผิดเล็ก ๆ ที่เป็นคนลงมือขัดขวางการดิ้นรนของเมญ่าด้วยตัวเอง ซึ่งสำหรับเขาแล้วนั่นก็เป็นแค่ความผิดเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะหัวสมองกำลังดื่มด่ำกับความใหญ่โตอวบอิ่มทะลักล้นมือของสองเต้าจนไม่คิดสนใจสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น

   'ขอบใจ ... เมญ่า ... จะใช้ภาพมายา ... อย่ามองตา ... อย่าได้มองตา ... อย่ามองตาเมญ่า'

   คราวนี้จีวรได้ยินเสียงที่ไม่ได้ดังจากปากของเขา มันเหมือนกับเสียงสื่อสารทางจิตอะไรทำนองนั้น วิญญาณเจ้าแว่นขอบคุณเขาที่ทำให้เมญ่าใช้ภาพมายาไม่ได้ และบอกว่าห้ามมองตาเธอ ... แน่นอนว่าจีวรยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาเพียงรับทราบว่าห้ามมองตาเธอ ... แต่ว่าเขากำลังรู้สึกกระดากใจ และละอายใจที่กลายเป็นผู้ร่วมกระทำชำเราเสียแล้ว หากทว่ายังดีที่เจ้าแว่นเพียงแค่ส่งกระแสจิต ดังนั้นเมญ่าจึงน่าจะไม่รู้ว่าเมื่อครู่นี้เขาเองที่เป็นคนขัดขวางแผนการดิ้นรนที่เธออุตส่าห์อดทนรอคอยอยู่เนิ่นนาน

   เหมือนกับว่ามันต้องการแสดงคำขอบคุณ จีวรจึงสามารถควบคุมร่างกายตัวเองอย่างอิสระได้อีกครั้ง เขาโอบกอดบีบขยำสองเต้าของเมญ่าด้วยความลุ่มหลง อีกทั้งยังจูบพรมลงไปยังซอกคอขาวนวลเนียนจนร่างงามสั่นสะท้าน เขาทราบว่าตัวเองกำลังทำผิด แต่ทั้งที่ทราบอยู่แก่ใจ เขากลับไม่สามารถยับยั้งการกระทำของตัวเองได้

   "จีวร ... อืมมม ... พยายามต่อสู้ ถ้าเธอจิตใจเข้มแข็งพอ ... อ๊อยย ... อืมมม ... มะ ... มันจะควบคุมเธอไม่ได้ ..."

   เมญ่าที่เพิ่งพลาดโอกาสเอาตัวรอดไป หันมาพยายามส่งเสียงแนะนำจีวรอย่างกระท่อนกระแท่น สองมือที่กำลังบีบขยำสองเต้าด้วยการควบคุมของจีวรจึงชะงักไปแวบหนึ่ง หากทว่าช่วงเวลาเพียงพริบตาเดียวนั้น เจ้าแว่นก็เข้ามาควบคุมการเคลื่อนไหวแทนทันที

   มันส่งเสียงหัวเราะแหบแห้งหื่นกระหาย ใช้มือผลักกดลำคอของเมญ่าลงไปคว่ำกับโต๊ะหิน เธอจึงอยู่ในสภาพยืนโก้งโค้งก้นโด่งท้าทายลมฝนอีกครั้ง

   เจ้าแว่นคงไม่อยากเสี่ยงอีก มันจึงขยับร่างเข้าไปประกบที่สะโพกของเมญ่าทันที ดุ้นเอ็นสีคล้ำโดนจับไปจ่อที่รูก้นตระเตรียมขยับสะโพกกดทะลวงเข้าไปได้ในทุกวินาที หากทว่าวินาทีนั้นจีวรกลับบังเกิดความคิดต่อต้านอย่างหนึ่งขึ้นมาอย่างแรงกล้า เขายอมรับว่าเขาอยากร่วมรักกับเมญ่าใจจะขาด หากทว่าเขาอยากทำกับเธออีกทางหนึ่งมากกว่า

   "มึง ... อย่าขัดกู ... อย่า ..."

   เสียงแหบแห้งดังขึ้นด้วยความขัดใจ เพราะในห้วงเวลาอันสำคัญ จีวรกลับแย่งชิงการควบคุมร่าง แล้วจับเอาดุ้นเอ็นชี้ลงด้านล่างเล็งเป้าไปยังรูสวาทของเมญ่า

   นายแว่นบังคับร่างจับเอาดุ้นเอ็นไปจ่อที่รูก้นอีกครั้ง หากทว่าจีวรกลับต่อต้านดึงออกและเล็งไปยังรูสวาท การแก่งแย่งนี้ดำเนินซ้ำไปซ้ำมาอยู่ครู่ใหญ่โดยไม่มีผู้แพ้หรือชนะ เมญ่าซึ่งไม่ได้รับรู้เหตุการณ์จึงพยายามส่งเสียงให้กำลังใจจีวร โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจีวรตั้งใจจะทำอะไร

   สุดท้ายวิญญาณนายแว่นก็ส่งเสียงคำรามอันดังลั่นออกมาจนจีวรตื่นกลัว และพริบตานั้นเองที่มันได้แย่งชิงร่างกายของจีวรไปอีกครั้งอย่างสมบูรณ์ ดุ้นเอ็นจึงถูกจัดวางจรดจ่อกับรูก้นอีกครั้ง โดยไม่มีใครต้านทานอีก

   "ไม่เป็นอะไรหรอกวอน เธอสู้ได้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว ... นายแว่นหยุดเถอะ นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย ไม่งั้นนายเจอดีแน่"

   ในห้วงวิกฤตเช่นนี้เมญ่ากลับพูดเสียงราบเรียบเหมือนกับกำลังถือไพ่เหนือกว่า นายแว่นจึงส่งเสียงหัวเราะแหบแห้งออกมาลั่นห้องอีกครั้ง มันย่อมไม่สนใจคำขู่อันใดอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่มันฝันหาอยู่เพียงแค่เอื้อม หากทว่าเมื่อมันกำลังจะกดบั้นเอวทะลวงไปให้ถึงฝั่งฝัน เมญ่าซึ่งโดนกดลำคอจนหน้าแนบกับพื้นโต๊ะก็ยกอะไรบางอย่างขึ้นมาใกล้ใบหน้าของเธอ

   จีวรและนายแว่นมองดูวัตถุนั้นด้วยความงุนงง ไม่ทราบว่าเธอถือมันเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเขาเพียงคุ้น ๆ ว่าจังหวะที่เมญ่าหมุนตัวต่อต้านนั้น เธอล้วงมือเข้าไปในช่องเก็บของใต้โต๊ะวูบหนึ่ง ทีแรกทั้งคู่ไม่ทันนึกสนใจ แต่ตอนนี้พวกเขาพบแล้วว่าวัตถุนั้นคือกระจกเงาขนาดเล็กนั่นเอง

    ภาพบนกระจกกำลังสะท้อนนัยย์ตาอันสวยงามข้างหนึ่งของเมญ่าอยู่ เธอโดนกดแนบกับพื้นจึงไม่สามารถหันมองกลับมาได้ แต่เมื่อตั้งเอียงกระจกจัดมุมให้เหมาะสมเธอก็สามารถทำได้ จีวรจับจ้องมองดูนัยย์ตาที่ทอประกายแปลกประหลาดนั้นราวกับต้องมนตร์ เขารู้สึกเหมือนกับจิตวิญญาณของตนเองถูกดูดเข้าไปอยู่ในดวงตาคู่นั้น และรู้สึกได้ว่าสติของเขาดับวูบลงไปช่วงหนึ่ง

   "วอนจ๋า ... ตื่นได้แล้ว ... รีบทำเถอะ เมย์ทนไม่ไหวแล้ว"

   สติของจีวรกลับคืนมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงหวานสดใสของเมญ่าดังขึ้น เขากระพริบตาปริบ ๆ มองไปรอบด้านด้วยความไม่เข้าใจ เขารู้สึกเหมือนมีอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับกระจกและดวงตาแต่กลับพาลนึกไม่ออก เขารู้แค่ว่าตอนนี้เขายังคงอยู่ในห้องลับกับเมญ๋าเช่นเดิม หากทว่าที่เปลี่ยนแปลงไปก็คือเมญ่ากำลังนอนหงายหลับตาพริ้มอยู่บนโต๊ะ สองขาขาวเรียวแหกอ้าถ่างออกกว้าง ยั่วเย้ารอคอยให้เขาเข้าไปเสพสม

   จีวรขยับเข้าไปใกล้ราวกับต้องมนตร์ เขาจับดุ้นเอ็นจรดจ่อที่ร่องรักซึ่งเปียกชุ่ม แล้วเสือกไสดุ้นเอ็นแทรกผ่านความคับแน่นเข้าไปทีละน้อยจนกระทั่งมิดด้าม

   จีวรส่งเสียงครางอูยให้กับความหฤหรรษ์ที่ไม่เคยได้พบพาน ในใจบังเกิดความลิงโลดที่ได้ร่วมรักกับสาวสวยในฝันจนหัวใจพองโต โดยเฉพาะเมื่อสาวสวยคนนั้นกำลังใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกร่ำร้องครวญครางเรียกชื่อเขาซ้ำไปซ้ำมา

   "อา ... อืมมม ... วอนจ๋า ... วอนจ๋า ... มันใหญ่จังเลย ... อูยยสสส ... วอนจ๋า ... เมย์รักวอน ... แต่งงานกับเมย์นะวอน ... ได้โปรด"

   เสียงครวญครางและอาการบิดเกร็งของร่างงามเป็นเหมือนเชื้อเพลิงชนิดหนึ่ง แม้จะยังไม่เคยร่วมรักกับใคร แต่สัญชาตญาณการสืบพันธุ์นั้นฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอ จีวรจึงกัดฟันกรอดดึงบั้นเอวออกมาเล็กน้อย แล้วกดเข้า ถอนออก ซ้ำไปซ้ำมาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นถี่ยิบ กระแทกจนเรือนร่างขาวโพลนดิ้นพล่านกระดอนกระเด็น
 
   "เมย์ อูยยย เมย์ ... สุดยอดเลย .. มันตอดดีอะไรขนาดนี้ ... อูยยยย ซี้ดดดสสส"

   จีวรร่ำร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านสุดระงับ เขารีดเร้นเรี่ยวแรงกระแทกเอวสุดเหยียด ขณะที่สองมือทำหน้าที่บีบขยำสองเต้าที่กำลังเด้งไปเด้งมาตามแรงกระแทก ยิ่งเวลาผ่านเขาก็ยิ่งรู้สึกคล่องตัวขึ้น สะโพกหยาบหนาเด้งเข้าเด้งออกเป็นระวิงราวกับลูกสูบ

   เมญ่าร่ำร้องครวญครางประหนึ่งจะขาดใจตาย ซึ่งจีวรเองก็รู้สึกเสียวซาบซ่านไม่แพ้กัน สองร่างที่ชุ่มเหงื่อเป็นมันปลาบขยับเป็นกอดรัดกันอย่างแนบแน่น เมญ่าจิกแขนใส่แผ่นหลังของเขาจนเจ็บแปลบเลือดซิบ หากทว่านั่นหาได้กระทบต่อการกระหน่ำเอวของเขาแต่อย่างใด

   "วอนจ๋า เมย์จะไม่ไหวแล้ว อูยสสส ... วอน ... อูยสสส ... เมย์รักวอนนะ ... วอนแตกในตัวเมย์เลย ได้โปรด อะ .. อ๊ายยย"

   สาวสวยร่ำร้องอ้อนวอนสั่นสะท้าน ก่อนจะเริ่มบิดเกร็ง เด้งสะท้านด้วยความหฤหรรษ์แห่งความสุขสุดยอด จีวรกัดฟันกรอดมองใบหน้าอันบิดเบี้ยวของเมญ่าด้วยความสาแก่ใจ เขาพยายามออกแรงหมายกระแทกซ้ำอีกสักหลายครั้ง หากทว่าแรงดูดตอดจากร่องหลืบช่างรุนแรงจนเขาถอดถอนร่างกายออกมาไม่ได้

   จีวรส่งเสียงคำรามลั่นด้วยความสุขสมตามมาติด ๆ สองมือของเขาออกแรงขยี้จนสองเต้าบิดเบี้ยว ก่อนจะสิ้นฤทธิ์ต่อแรงตอดรัด ร่างกระตุกเกร็งกระฉูดน้ำกามไหลทะลักเข้าไปในร่องหลืบของดาราสาวแสนสวยจนทะลักล้นเป็นฟองฟอดออกมาด้านนอก

   จีวรยืนเกร็งดื่มด่ำความสุขอีกพักใหญ่ก่อนจะฟุบร่างลงไปกอดแนบกับร่างอวบอัดด้วยรอยยิ้มสุขสันต์

   "ผมรักเมย์ ... เมย์ แต่งงานกับผมนะ ผมไม่สนหรอกว่าเมย์จะผ่านใครมาก่อน ผมขอแค่เมย์ยอมอยู่กับผมเป็นคนสุดท้ายก็พอ"

   เขากระซิบบอกรักและขอเธอแต่งงาน แล้วจับจ้องมองดูดวงตาคู่งามรอคอยคำตอบ เมญ่ากระพริบตาดวงตาคู่สวยปริบ ๆ สองสามครั้ง ก่อนจะยิ้มหวานอย่างเอียงอาย แล้วพยักหน้าตอบรับคำขอของเขา

   จีวรรู้สึกราวกับฝันไป หัวใจของเขาพองโตจนแทบแตกระเบิด ท่ามกลางความยินดีนั้นเขาพรมจูบบนใบหน้าของเมญ่าด้วยความรักใคร่สุดระงับ ดุ้นเอ็นของเขากระตุกหงึกอยู่ในร่องรูเหมือนจะบอกว่าแค่นี้ยังไม่พอ เขาจึงเอ่ยปากขอด้วยความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ

   "เมย์ครับ ... ขอเย็ด ... เอ๊ย ขอทำอีกครั้งนะ ... ได้มั้ย"
 
   "... เมย์เป็นของวอนแล้วนี่ อยากจะทำอะไรก็ทำซิ"

   เสียงตอบอันอ่อนหวานจุดไฟราคะในใจจีวรจนลุกโชนอีกครั้ง เขาจึงหลับตากัดฟันกรอดรีดเร้นเรี่ยวแรงกระเด้าใส่เสพรับความหฤหรรษ์จากร่างงามครั้งแล้วครั้งเล่าจนหมดสิ้นเรี่ยวแรง

.......................................................................

   "ฮัดเช้ย!!!"

   จีวรส่งเสียงจามดังสนั่น ก่อนจะสั่นสยิวกายด้วยความหนาวเหน็บเนื่องจากมิได้สวมใส่เสื้อผ้าคลุมกาย จากนั้นเขาก็ได้พบว่ามีอะไร
บางอย่างแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเกินควรจนต้องหันมองซ้ายทีขวาทีด้วยความงุนงง

   เขาพบว่าเขายังคงอยู่ในห้องลับใต้ดินที่เอาไว้กักวิญญาณเช่นก่อนหน้า หากทว่าการจามเพียงแค่ครั้งเดียว กลับทำให้เมญ่าซึ่งกำลังเปลือยกายขึ้นขย่มคร่อมใส่ร่างของเขาอย่างเร่าร้อนสูญหายไปราวกับว่าเขาเพียงฝันไป

   จีวรรู้สึกราวกับเพิ่งถูกกระชากออกจากอ้อมอกอันอบอุ่นและหอมอบอวลของนางฟ้าแห่งสรวงสวรรค์ลงมายืนอยู่ในสถานที่อันหนาวเหน็บเงียบเหงาดั่งขุมนรกจนต้องบ่นพึมพำร้องหานางฟ้าเมญ่าสุดที่รักของเขา

   "โอ ... โอ ... ตูดเมญ่าสุดยอดเลย ... สวรรค์ ... โอ ... ตอดมันอะไรขนาดนี้ ... ซี้ด"

   ขณะเขากำลังมองหาดาราสาวแสนสวยซึ่งหายตัวไป เขาก็พลันได้ยินเสียงร้องครวญครางอันแหบแห้งน่าพรั่นพรึงแสนคุ้นหู และเมื่อหันมองไปตามเสียงเขาก็พบว่าที่นั่นมีดวงวิญญาณอ่อนจางของเจ้าแว่นกำลังยืนชักว่าวกระเด้าเอวยุกยิกใส่อากาศอันว่างเปล่าอย่างเมามัน

   แม้ว่าสีหน้าของเจ้าแว่นจะขาวซีด แต่จีวรก็มองเห็นใบหน้าอันหื่นกระสันได้อย่างชัดแจ้ง เพียงแต่เขากลับนึกไม่ออกว่าทำไมเจ้าแว่นถึงได้ช่วยตัวเองด้วยใบหน้าแสนสุขราวกับว่ากำลังกระเด้าอยู่กับสาวสวยสักคนก็มิปาน

   จีวรส่ายหน้าเมื่อเห็นเจ้าแว่นตัวกระตุกเกร็งส่งเสียงโหยหวนเรียกชื่อเมญ่าและกระฉูดน้ำรักพุ่งปรี๊ดออกมา เขาเบือนหน้าหันมองสำรวจไปรอบห้องพร้อมกับพยายามเรียกความทรงจำที่เหมือนจะหายไปครู่ใหญ่

   เขาจดจำได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน เขายังกำลังร่วมรักกับเมญ่าสาวสวยในฝันอยู่ เขาจำเสียงครางเปี่ยมสุข จดจำสีหน้าขมวดมุ่น และการบิดไหวของเรือนร่างอวบอัดได้อย่างไม่มีทางลืม เขาจำได้ว่าเธอรับรักเขา และหลอมรวมร่วมร่างสร้างรักกันอย่างหฤหรรษ์จนนับครั้งไม่ถ้วน

   ยิ่งครุ่นคิดก็ยิ่งงุนงง จีวรจึงก้าวเท้าเพื่อเดินสำรวจ หากทว่าก้าวแรกที่เหยียบย่างออกไปกลับเหยียบแหมะลงบนความเปียกชื้นของพื้นห้อง เขาขมวดคิ้วและยกเท้าออกไม่ทราบว่ามีคราบน้ำอะไรมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กระทั่งเมื่อมองจนแน่ใจว่าคราบสีขาวขุ่นนั่นดูเหมือนจะเป็นน้ำว่าวของใครสักคนเขาจึงเบะปาก แล้วเดินกระโดดขาเดียวไปหยิบเอากระดาษชำระบนโต๊ะมาเช็ดฝ่าเท้าด้วยความรังเกียจ

   เขาหันไปมองวิญญาณเจ้าแว่นที่กำลังเริ่มช่วยตัวเองและร้องเรียกชื่อเมญ่าอีกครั้ง แล้วค่อยหันมามองคราบน้ำกามบนพื้นเบื้องหน้าด้วยความคิดอันแปลกประหลาด เขาแอบสงสัยว่าหย่อมน้ำตรงนี้อาจจะเป็นผลงานของเขา เพียงแต่ไม่แน่ใจนักเพราะเขาก็ไม่ได้ช่วยตัวเองเสียหน่อย เมื่อครู่เขาปล่อยเข้าไปในร่องของเมญ่าทุกหยาดหยดไม่มีปล่อยทิ้งปล่อยขว้างเด็ดขาด ดังนั้นคราบน้ำกามบนพื้นนั่นไม่สมควรเป็นของเขา นอกจากว่าเขาจะฝันกลางวันไปเอง     

   "ฝันกลางวัน?"

   จีวรสะดุ้งขึ้นมาหนึ่งครั้งเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขามองไปยังเศษผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยบนพื้นซึ่งสมควรจะเป็นเสื้อผ้าของเมญ่าที่เขาฉีกกระชากเพราะโดนนายแว่นควบคุม จากนั้นหันไปมองกระจกบานเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะหินอ่อนและนึกเชื่อมโยงไปถึงอะไรบางอย่าง

   เขาจำได้ว่าตอนที่เขาโดนเจ้าแว่นควบคุมร่างและกำลังจะข่มขืนเมญ่า ตอนนั้นเหมือนว่าเจ้าแว่นจะเตือนเรื่องห้ามมองตาเมญ่า ให้ระวังภาพมายาอะไรสักอย่าง จากนั้นเมญ่าก็ยกกระจกบานนั้นสะท้อนภาพดวงตาของเธอ แล้วเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป ... แต่เขากลับไม่คิดสนใจมากนัก เพราะอะไรเล่าจะสำคัญไปกว่าการร่วมรักกับเมญ่า

   "ไม่สมเหตุสมผล"

   จีวรส่งเสียงพึมพำบอกตัวเอง เหตุใดเขาจึงสามารถร่วมรักกับเมญ่าได้ตามใจปรารถนาโดยไม่มีผีเจ้าแว่นก่อกวน และที่สำคัญเมญ่าก็ดูจะมีใจให้กับเขามากเกินไป มากราวกับว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นเพียงสิ่งที่เขาเฝ้าฝันหา

   "อ้าว วอนตื่นจากฝันหวานแล้วเหรอ ... ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนเถอะ"

   ขณะครุ่นคิด ประตูห้องลับก็เปิดออกพร้อมกับร่างอ้อนแอ้นของเมญ่า เธอกลับมาอีกครั้งด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ยั่วเย้าไม่แพ้ตัวก่อนหน้า ราวกับว่าชุดนอนของเธอมีแต่แบบเซ็กส์ซี่เท่านั้น หน้าตาทรงผมของเธอดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อยเหมือนกับเพิ่งผ่านการอาบน้ำทำความสะอาดมา แต่ไม่ว่าจะสวมใส่ชุดไหนก็ตาม ร่องนมและทรวงอกอวบที่ดันเสื้อออกมาเป็นก้อนกลมดิกก็ยังคงสามารถสะกดสายตาจีวรจนรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาได้เช่นเคย

   จีวรเหม่อมองดูนางฟ้าในฝันของตัวเองอยู่เนิ่นนาน กว่าจะรู้ตัวว่ากำลังยืนเปลือยกายอวดความเป็นชายอยู่ก็ตอนที่เมญ่าหน้าแดงแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เขาจึงสะดุ้งโหยงรีบหันรีหันขวางไปหยิบเอาเสื้อผ้าของตัวเองที่หล่นกองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่

   "เฮ้อ ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว นายแว่นก็ยังไม่พอใจอีกเหรอ ... ว่าแต่วอนตื่นขึ้นมานานหรือยังจ๊ะ"

    เมญ่าหันไปมองทางเจ้าแว่นที่ยังคงรูดถอกมือสาวว่าวครางเสียงหื่นไม่หยุด แล้วส่งเสียงถามจีวอนด้วยคำถามที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด เพราะเขาจำได้ว่าเขาไม่ได้นอนหลับเสียหน่อย เขาร่วมรักกับอยู่กับเมญ่าตลอดเวลาด้วยซ้ำ แต่ว่าทำไมเธอถึงถามเขาด้วยท่าทีห่างเหินต่างกับความเร่าร้อนตอนร่วมรักกับเขาเมื่อครู่ราวฟ้ากับเหว

   "ตื่นเหรอ ... เอ่อ เราไม่ได้หลับซะหน่อย ... เอ๊ะ หรือว่าเราหลับ ก็อาจจะใช่นะ .... เราเพิ่งตื่นเมื่อกี้นี่แหละ ว่าแต่เมย์ล่ะ ออกไปตั้งแต่ตอนไหน ไม่เห็นรู้เรื่องเลย แถมยังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วอีกต่างหาก ก็เมื่อกี้พวกเรายัง ..."

   จีวรสวมเสื้อแล้วดึงลงจนอยู่ในสภาพเรียบร้อย ก่อนจะหันไปถามด้วยน้ำเสียงสับสนงุนงง หากทว่าเมญ่ายังไม่ตอบคำ เธอเพียงเดินไปเก็บเอากระจกบานเล็กแล้วยัดใส่เข้าไปในชั้นวางของใต้โต๊ะ แล้วเดินไปหยิบเอากระดาษชำระ ก้มตัวลงไปเช็ดคราบน้ำขาวข้นที่หยดแหมะบนพื้น

   เห็นแบบนี้เจ้าของคราบน้ำก็สะดุ้งโหยงกระอักกระอ่วนทำตัวไม่ถูก ภาพขาวนวลเนียนของร่องนมกระตุ้นเร้าจนเขาอยากจะก้มลงไปโอบกอดเธอแล้วจูบปากเธอสักฟอด แต่ความไม่แน่ใจและความละอายทำให้เขาได้แต่มองดูเมญ่าเช็ดจนสะอาดโดยไม่กล้าขยับตัว

   "วอนอาจจะสับสนสักหน่อย เพราะอยู่ในภาพมายาตั้งเกือบชั่วโมง ... แต่ว่าสิ่งที่วอนเห็น สิ่งที่วอนสัมผัส สิ่งที่วอนรับรู้ในช่วงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ... ทุกอย่างไม่ใช่ของจริง ... ทุกอย่างเป็นแค่ภาพมายาจ้ะ"

     เมญ่าหันมาตอบด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะแฝงคำขอโทษไปในตัว จีวรจึงรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกลางหัว ถึงแม้จะสงสัยอยู่ก่อนหน้าแล้วจากท่าทางของเจ้าผีแว่น หากทว่าสัมผัสแสนสุขราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์นั้นจะอย่างไรก็เหมือนสิ่งหลอกลวง ดังนั้นเมื่อต้องรับทราบว่าการที่เมญ่าบอกรักเขาเป็นเพียงมายาความฝันตื่นหนึ่ง หัวใจของเขาก็รู้สึกเหมือนถูกมีดกรีดเป็นแผลเหวอะหวะขึ้นมา

   "ขอโทษนะ ที่ทำให้วอนโดนภาพมายาไปด้วย แต่ตอนนั้นเราก็หวุดหวิดจวนตัวจนเกือบแย่เหมือนกัน ยังดีที่วอนพยายามฝืนคำสั่งนายแว่น เราเลยได้โอกาสแอบหยิบกระจกขึ้นมาได้ ขอบใจวอนมากเลยนะ ที่ไม่ฉวยโอกาสตอนนั้น ทั้งที่วอนเองก็ต้องการจะแย่"

   เมย์เดินมาบีบกุมมือของจีวรด้วยท่าทีสำนึกบุญคุณยิ่ง จีวรที่รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจอยู่แล้วจึงยิ่งรู้สึกละอายใจเข้าไปอีก เพราะว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นเขาไม่ได้พยายามฝืนคำสั่งนายแว่น เพียงแต่เขาไม่อยากร่วมรักกับเธอทางประตูหลัง จึงพยายามเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ข้างหน้าแทน แต่เมย์กลับเข้าใจว่าเขาพยายามฝืนใจและช่วยเธอไว้

   "เพราะแบบนี้ เมย์ก็เลยขอแสดงความขอบคุณด้วยการให้วอนเห็นฝันดี ๆ หวังว่าวอนจะชอบนะ ... เพราะเมย์คงทำให้วอนได้แค่นี้จริง ๆ"

   ดาราสาวพูดพลางถลาเข้ามาโอบกอดเขาไว้อย่างหลวม ๆ แล้วพูดทิ้งท้ายด้วยประโยคแฝงความหมายลึกซึ้ง นั่นคล้ายกับว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการ เพียงแต่เธอไม่สามารถตอบสนองได้ เธอจึงทำได้แค่เพียงให้เขาได้สมหวังในภาพมายาแทน

   จีวรรับรู้ได้ถึงความนุ่มนิ่มอีกครั้ง หากทว่านั่นให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากในห้วงมายา อ้อมกอดของเธอไม่ได้เต็มไปด้วยไฟปรารถนาเช่นในนั้น ไม่ร้อนแรงวาบหวามเช่นในนั้น มันเป็นเพียงแค่อ้อมกอดสุดแสนธรรมดาที่แสดงความเป็นมิตรเท่านั้น สองมือของเขาจึงแข็งทื่อไม่อาจฝืนกอดเธอตอบ

   "ภาพมายานั่น ... เมย์ทำได้ยังไง ... เอ่อ ... หมายถึง ... มันเป็นภาพที่เราอยากเห็นเหรอ?"

   "ก็ไม่เชิงหรอก ถ้าเราสามารถทำให้มองเห็นภาพที่อยากเห็นได้ เราคงทำให้นายแว่นนั่นไปเกิดได้แล้ว แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะไม่รู้
ว่านายแว่นต้องการอะไรแบบไหน สิ่งที่เราทำได้คือการถ่ายทอดภาพจินตนาการของตัวเองเข้าไปในจิตของคนอื่น เช่นถ้าเมย์อยากให้
ใครคิดว่ากำลังกินขนมอยู่ เมย์ก็ต้องสร้างภาพในหัวตัวเองก่อน ว่าคนนั้นกำลังกินขนม วอนเข้าใจมั้ย"

   สาวสวยอธิบายเรื่องยุ่งยากด้วยถ้อยคำแสนธรรมดา เหมือนกับว่านั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ซึ่งแน่ล่ะว่าวอนที่เป็นแค่ธรรมดาย่อมเข้าใจ
ได้เพียงไม่ถึงครึ่ง แต่อย่างน้อยก็พอจะจับอะไรได้บ้าง

   "... เมย์ก็เลยทำให้เจ้าแว่นนั่นเห็นภาพตอนที่กำลัง ... เอ่อ ... ทำกับเมย์ทางประตูหลัง?"     

   "ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้นายแว่นนั่นกำลังข่มขืนเมย์ในภาพมายา นายนั่นถึงได้แสดงสีหน้ามีความสุขไม่ยอมเลิกอยู่นั่นไงล่ะ กว่าจะทำใจสร้างภาพมายาแบบนี้ได้ก็ฝืนใจน่าดูเชียวล่ะ ตอนที่เราต้องนึกภาพว่า โดนนายแว่นนั่นข่มขืนทางประตูหลังน่ะ"

   เมญ่าพูดพลางมองไปทางเจ้าแว่นแล้วทำท่าเบ้ปาก เหมือนเพิ่งทำเรื่องที่ไม่อยากทำไปหมาด ๆ

   "แล้วภาพที่เราเห็นล่ะ ... เมย์ก็ต้องจินตนาการแบบนั้นในหัวด้วยใช่มั้ย?"

   "... ค่ะ ... เราคิดว่าวอนน่าจะอยากเห็นภาพแบบนั้นนะ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าวอนจะชอบหรือเปล่า ถ้าวอนชอบเราจะทำให้อีกก็ได้นะ"

   เธอตอบด้วยรอยยิ้มที่เห็นได้ชัดว่าหวังดี แต่คนฟังกลับรู้สึกกระอักกระอ่วนจนตอบไม่ถูก เพราะเขาเกือบจะเผลอพยักหน้าให้เธอนำเขาเข้าสู่ภาพมายาอีกครั้งเสียแล้ว เรียกได้ว่าเพียงแค่นึกถึงเรือนร่างอวบอัดสุดเซ็กซี่ของเมญ่าดิ้นพล่านอยู่ในอ้อมกอด อารมณ์ของเขาก็ตื่นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนแข็งปั๋งอีกครั้ง

   'ถ้าปล้ำเธอตอนนี้ เธอจะขัดขืนมั้ยเมญ่า'

   จีวรคิดในใจตามความเร่าร้อนของอารมณ์ ยิ่งเขามองเรือนร่างอวบเต่งของเธอนานเท่าไหร่ อารมณ์ของเขาก็ยิ่งยากจะควบคุมได้ เขาอยากสัมผัสทรวงอกเต่งตึงนั้นจริง ๆ อีกสักครั้ง เขาอยากร่วมรักสอดผสานเข้าไปซึมซับความหฤหรรษ์ในร่องรักของเธอจริง ๆ สักครา

   ความคิดนั้นทำให้แววตาของเขาแสดงความกลัดมันออกมา สองมือขยับยกขึ้นหมายจะโผเข้าไปรวบกอดร่างบาง แล้วกอดจูบฟอนเฟ้นให้หนำใจ และแน่นอนว่าเขาจะหลับตาไว้เพื่อไม่ให้เธอใช้ภาพมายาอีก ขอเพียงแค่ให้เขาได้สมหวังสักครั้ง ต่อให้เมญ่าจะโกรธเกลียดเขาก็ยินยอม

   พอความคิดหื่นกามบังเกิด ร่างกายก็เริ่มปฏิบัติตามโดยที่เมญ่าไม่ทันสังเกตเห็นเพราะมัวแต่เก็บข้าวของบนพื้น แต่ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างปกปักษ์คุ้มครองเธอเอาไว้ พอจีวรเริ่มขยับตัว เขาก็รู้สึกหนาววูบไปถึงขั้วกระดูก และรู้สึกเหมือนกับว่ามีสายตาที่เกรี้ยวกราดคู่
หนึ่งจ้องมองมาราวกับจะฆ่าฟันเขาได้ทันทีหากคิดทำอะไรเกินเลย

   จีวรหันมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนหวาดกลัว ความหนาวเหน็บหวาดกลัวยังคงอยู่ แต่เขากลับไม่เห็นใครอื่นอยู่ในห้องเล็ก ๆ นี้
อีก เขาจึงไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขาคิดไปเอง หรือมีอะไรบางอย่างอยู่จริง ๆ

   "อา อูวววว ... สวรรค์ ... เหนื่อย ... แต่มันสุดยอดอะไรแบบนี้ อูยยย เมญ่า ... โอย หมดแรง"

   ขณะที่จีวรกำลังหวาดผวา เจ้าผีแว่นก็ส่งเสียงครวญครางหัวเราะร่วน แล้วทรุดตัวลงนั่งกองกับพื้นทำท่าหอบเหนื่อยสุดชีวิต ตอนนี้จีวรจึงค่อยรับทราบว่าผีก็เหนื่อยเป็น แต่ที่แปลกประหลาดไปก็คือร่างโปร่งแสงของเจ้าแว่นเริ่มอ่อนจางลงกว่าเดิมมากจนแทบมองไม่เห็นตัวตนของมันแล้ว

   "ร่างวิญญาณถ้าใช้พลังวิญญาณมาก ก็จะเป็นแบบนี้แหละ"

   เมญ่าหันมาอธิบายเรื่องที่จีวรสงสัยเหมือนกับจะรู้ว่าเขากำลังสงสัยเรื่องอะไร และตอนนี้เจ้าผีแว่นก็หันมามองทางจีวรและเมญ่าแล้วแสดงสีหน้าประหลาดพิกล เหมือนกับกำลังงุนงงแยกไม่ออกระหว่างภาพจริงและภาพมายา 

   "พอใจแล้วใช่มั้ยนายแว่น งั้นก็ยอมไปสู่สุคติ แล้วเกิดใหม่เถอะ เดี๋ยวเมย์จะช่วยกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญไปให้ โอเคมั้ย"

   เมญ่าเดินเข้าไปใกล้วิญญาณนายแว่นพร้อมกับคำพูดอ่อนหวานเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ถือโกรธเรื่องราวที่แล้วมาแต่อย่างใด ซึ่งหากมองในมุมจีวรแล้ว เมย์อุตส่าห์ยอมทำให้ขนาดนี้ แล้วยังจะใจดีทำบุญให้อีก เจ้าแว่นน่าจะสมควรปลดบ่วงได้แล้ว หากทว่าเรื่องราวดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น

   "หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ... เกิดใหม่ ... เรื่องอะไร ... ไม่เอา ... กูไม่เอา ... กูจะกระเด้าตูดเมญ่าอีก ... กูจะเอาอีก"

   เจ้าแว่นส่งเสียงหัวเราะหื่นกามกว่าเดิม เหมือนกับว่าการได้ลิ้มรสชาติแสนหวานจากในภาพมายานั้นยิ่งทำให้ถลำลึกลงไปในบ่วงมากกว่าเดิม อีกทั้งมันยังไม่หัวเราะเปล่า ร่างวิญญาณที่ใกล้หมดพลังงานจนแทบโปร่งใสนั้นโผพุ่งฉวัดเฉวียนผ่านร่างของเมญ่าไปมาด้วยใบหน้าหื่นกามเต็มพิกัดเสียอีกต่างหาก

   เมญ่าที่คาดหวังว่าเรื่องราวจะจบลงได้แต่ขมวดคิ้วหน้าเสียด้วยความผิดหวัง จีวรจึงรู้สึกได้ถึงความโกรธที่พุ่งปรี๊ดขึ้นมาในอก เขาสาบานว่าหากเขาแตะวิญญาณได้ เขาจะตะบันหน้ามันให้สุดแรงสักหมัด

   ผัวะ!!! เสียงทึบหนักดังขึ้นจนจีวรและเมญ่าสะดุ้งโหยง เวลานี้ใบหน้าของเจ้าผีแว่นยุบลงไปแถบหนึ่ง เพราะมีกำปั้นข้างหนึ่งโผล่วูบออกมาจากกลางอากาศว่างเปล่าแล้วกระแทกใส่ใบหน้าของผีแว่นอย่างจัง

   ร่างวิญญาณอ่อนจางของเจ้าแว่นลอยคว้างไปกระแทกกับผนังห้อง แล้วส่งเสียงโหยหวนเจ็บปวดอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นมันก็ส่งเสียงร้องคำรามและหันมามองดูกำปั้นข้างนั้นด้วยแววตาอาฆาต แต่เมื่อร่างของเจ้าของกำปั้นเริ่มโผล่ออกมาจนเห็นได้ทั้งตัว เจ้าผีแว่นที่กำลังดุเหมือนหมาบ้า ก็อ้าปากค้างถอยกรูดไปชนกำแพงราวกับกบน้อยที่โดนพญาอสรพิษจ้องตา

   "พี่เอก!!! มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? นึกว่าวันนี้จะกลับดึกซะอีก"

   เมญ่าส่งเสียงอุทานพร้อมกับโผเข้าไปกอดด้านหลังของชายหนุ่มปริศนาด้วยท่าทีออดอ้อนเหมือนลูกแมวน้อย จีวรจึงได้แต่เหม่อมองดูบุรุษปริศนาที่โผล่พรวดออกมาจากกลางอากาศเหมือนภูตผีวิญญาณด้วยดวงตาอันเบิกค้าง

   เขาคนนั้นสูงใหญ่กว่าจีวรอยู่สักหน่อย ใบหน้าถือได้ว่าหล่อคมจนสาวหลง ไหล่กว้างให้ความรู้สึกบึกบึนแข็งแรง ท่อนแขนและขามีกล้ามเนื้อสมส่วนไม่เทอะทะ โดยรวมแล้วจีวรบอกได้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะต้องดึงดูดผู้หญิงได้ไม่แพ้ผู้ชายในโลกคนไหนแน่ ๆ

   "เข้ามาพร้อมเมย์นั่นแหละ แต่แอบร่ายมนตร์พรางตัวไว้ เห็นใส่ชุดนอนเดินมาห้องกักผีตอนดึก ๆ ก็เลยแอบสงสัยว่าเมียแอบมาหาชู้ที่ไหนหรือเปล่า"

   ชายคนนั้นตอบเสียงขุ่นและเน้นคำว่าเมียและคำว่ากิ๊กดังกว่าคำอื่นเป็นพิเศษ อีกทั้งยังกราดตามองมาทางจีวรจนจีวรหนาววูบ ตอนนี้เขาจึงแน่ใจแล้วว่านี่เป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่เขาคิดจะทำมิดีมิร้ายกับเมญ่า แต่เขาก็ยังรู้สึกทำใจรับเรื่องราวอันแสนมหัศจรรย์ไม่ได้อยู่ดี ไหนจะภาพมายาของเมญ่า ไหนจะการล่องหนหายตัว หรือว่าการต่อยเจ้าผีแว่น

   "พี่เอกอ่ะ ชู้อะไรที่ไหนล่ะ นี่เพื่อนเมย์ที่มหาลัยค่ะ เขาชื่อจีวร เมย์เห็นเค้ามีพลังพิเศษอะไรบางอย่าง ก็เลยลองชวนมาที่บ้านแค่นั้นเองค่ะ แล้วเขาก็มีจริง ๆ เขาสามารถอ่านความต้องการในใจคนได้ โดยเฉพาะเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ พวกเราไม่ได้มีอะไรเลยจริง ๆ นะ เมย์สาบานได้"

   เมญ่ายิ้มหวานเหมือนจะพออกพอใจต่อท่าทีหึงหวง เธอขยับร่างอวบอัดมาโอบกอดชายชื่อเอกจากด้านหน้าอีกทั้งยังแสดงอาการออดอ้อนอย่างออกนอกหน้า เช่นพรมจูบลงไปบนใบหน้า จูบปาก และกอดเบียดเข้าหา จีวรที่โดนพูดตัดความสัมพันธ์อย่างไม่ใยดี จึงรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งอยู่วงนอกจนยากจะทานทน

   คนรักของเมญ่าดูจะพอใจกับท่าทีออดอ้อนเหมือนแมวน้อยนั้น สีหน้าจึงผ่อนคลายดูดีขึ้นมาไม่น้อย แต่ก็ยังไม่วายมองมาทางจีวร แล้วแสดงความเป็นเจ้าของเมญ่าด้วยการขยำสะโพกก้น แล้วบดจูบใส่อย่างหนักหน่วงจนเธอครวญครางตัวอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอด

   "เอาเถอะ ถือว่าไม่มีอะไรก็แล้วกัน แต่เมย์ก็ต้องระวังหน่อยนะ ผู้ชายแบบไหนถ้าได้อยู่ใกล้เมย์ ก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น ... ว่าแต่เจ้าผีแว่นนั่น เมย์จะเอายังไงต่อ?"

   พูดพลางกราดตามองไปทางเจ้าผีแว่น จนเจ้าแว่นตัวสั่นเทิ้ม เมญ่าหันมองตามชายคนรักไปทางผีแว่นแล้วส่ายหน้า ทำสีหน้าเหมือนจะยอมแพ้

   "เมย์ยอมแพ้ค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ เมย์อุตส่าห์พยายามฝืนใจทำให้เขาเห็นภาพที่เขาหวัง กะว่าจะได้หลุดบ่วงไปเกิดใหม่ แต่ตอนนี้เมย์ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว"

   "ไม่ต้องโทษตัวเองหรอก เมย์ทำดีที่สุดแล้ว เพียงแต่ใช้ไม้อ่อนมากไปหน่อย ผีบางตัวอาจต้องใช้ไม้แข็งฟาดบ้าง จะได้ตื่น พี่ผิดเองที่อยากเห็นเมย์จัดการด้วยตัวเองสักครั้ง ... แต่เอาเป็นว่าไอ้ตัวนี้ให้พี่จัดการก็แล้วกันนะ"

   คนรักของเมย์พูดปลอบใจแล้วจัดการจูบปากของเธออีกรอบ ก่อนจะหันหน้ามองมาจนจีวรสะดุ้งโหยง

   "มีความสามารถมองเห็นภายในจิตคนอื่นได้งั้นเหรอ? แล้วเห็นอะไรบ้างลองเล่ามาให้ละเอียดซิ"

   จีวรกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่แล้วค่อยอธิบายรายละเอียด เพราะรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้น เขาแอบรู้สึกโล่งใจอยู่บ้างที่คนรักของเมญ่าเพิ่งมา จึงไม่ได้เห็นตอนที่ร่างกายของเขากำลังแยงนิ้วเข้าไปในร่องรักของเมญ่า ไม่งั้นล่ะก็เขามีหวังโดนจับถ่วงทะเลพร้อมเจ้าแว่นอย่างแน่นอน

   "อืม ... ความสามารถน่าสนใจนี่นา อ่านสิ่งที่คนอื่นต้องการได้ แถมยังมีความสามารถของคนทรง ... หายาก น่าสนใจ ... อืม เรื่องนี้เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ขอส่งเจ้าแว่นไปเกิดใหม่ก่อน"

   คนรักของเมญ่าพยักหน้าพลางแสดงสีหน้าครุ่นคิด แต่จีวรกลับไม่เข้าใจนักว่าความสามารถแปลก ๆ นี่มันจะมีประโยชน์อะไรตรงไหน นอกจากแส่หาเรื่องให้ตัวเองหมกมุ่น และที่สำคัญท่าทางและคำพูดสบาย ๆ เหมือนมั่นใจมากว่าจะสามารถส่งเจ้าแว่นจอมดื้อไปเกิดใหม่ได้นั่นก็น่าสงสัยไม่ใช่น้อย

   "ไม่ ... กูไม่ไปเกิดใหม่ ... มึงจะขังกูอีกก็ได้ แต่กูไม่ยอมไปเกิดใหม่ จนกว่ากูจะได้สมหวังจริง ๆ สักครั้ง"

   เป็นดังคาด เจ้าผีแว่นแม้จะสั่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่วายออกตัวปฏิเสธไม่ยอมไปเกิดใหม่ จนกว่าจะได้จัดหนักเมญ่าสักครั้ง

   "ตามใจแก เอาเป็นว่าถ้าอยากไปเกิดใหม่เมื่อไหร่ก็รีบบอกล่ะกัน แต่อย่าช้ามากนะ เพราะถ้าสายเกินไปแล้วแกนั่นแหละที่จะเสียใจ หึ หึ แล้วก็จำไว้ล่ะ ใครมันบังอาจมายุ่งกับเมญ่า พวกมันไม่ได้ตายดีแน่"

   คนรักของเมญ่ายิ้มเจ้าเล่ห์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากทว่าอะไรบางอย่าที่ซุกซ่อนอยู่ในคำพูดนั้นกลับทำให้เจ้าแว่นและจีวรรู้สึกหนาววูบแปลก ๆ คงมีก็แต่เมญ่าที่ยิ่งรับฟังคำพูดแสดงความหึงหวงก็ยิ่งฉีกยิ้มโอบกอดร่างของคนรักแน่นขึ้น

   "โอม ... นะโม ..."

   คนรักของเมญ่าพนมมือท่องคาถาอะไรบางอย่างที่จีวรฟังไม่เข้าใจ แต่ถึงจะฟังไม่เข้าใจ จีวรกลับรู้สึกและสัมผัสได้ว่าบรรยากาศบางอย่างแปรเปลี่ยนไป รู้สึกเหมือนมีกระแสของอะไรสักอย่างที่สัมผัสไม่ได้แล่นพล่านไปทั่วบริเวณ

   ถัดจากนั้นก็ปรากฏแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นรอบตัวของเจ้าผีแว่น และเมื่อแสงนั้นหายไปร่างวิญญาณอ่อนจางก็เข้มขึ้นจนแลดูคล้ายกับร่างเปลือยของชายผอมบางเป็นที่มีเลือดเนื้อคนหนึ่ง

   "ร่างเนื้อ ... สัมผัสคนเป็นได้ ... คืนร่างเนื้อให้กู ... หรือว่าจะช่วยให้กูได้สมหวัง"

   เจ้าแว่นก้มมองดูร่างตัวเองอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดูสะโพกของเมญ่าด้วยสายตาวาววับ แต่ดูเหมือนว่ามันจะคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป เพราะจะอย่างไรจีวรก็ไม่เชื่อว่าเจ้าแว่นจะได้สมหวัง

   เป็นไปดั่งคาด คนรักของเมญ่าหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง เขาแสดงความเป็นเจ้าของเมญ่าอีกครั้งด้วยการล้วงมือสอดเข้าไปในกางเกงแล้วขยำก้นของเมญ่าจนเธอร้องครางต่อหน้าเจ้าผีแว่นที่อยู่ในสภาพร่างคนเป็น จากนั้นก็ขยับมืออีกข้างหยิบฉวยเอาหลอดแก้วที่มีกลุ่มควันของวิญญาณอยู่ภายในขึ้นมาเปิดออก

   ทุกคนในห้องพากันมองกลุ่มควันที่กำลังก่อตัวขึ้นด้วยความสงสัย กลุ่มควันนั้นใช้เวลาไม่นานนักก็ก่อตัวเป็นรูปร่างของเพศชายผิวสีดำแดง รูปร่างสูงใหญ่บึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเหมือนคนเล่นกล้าม หากทว่าแววตาที่กวาดมองดูไปรอบห้องนั้นดูจะไม่ค่อยเป็นชายเต็มร้อยนัก โดยเฉพาะเวลาที่มองดูจีวรและคนรักของเมญ่า

   เมื่อได้เห็นว่าวิญญาณอีกดวงที่เพิ่งถูกปลดปล่อยมีลักษณะเช่นไร จีวรก็ตัวสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บมากกว่าครั้งใด เพราะเขาเผลอคาดเดาเรื่องราวในรูปแบบหนึ่งขึ้นมา และหากว่าคนรักของเมญ่าตั้งใจทำแบบนั้นจริง เขาอาจจะรู้สึกสงสารเจ้าแว่นขึ้นมาบ้างก็ได้

   "ขอแนะนำให้รู้จักนะ ... วิญญาณดวงนี้ชื่อประเทือง มีความนิยมแบบเดียวกับเจ้าแว่นนั่นแหละ เพียงแต่ต่างกันสักหน่อยที่เจ้าแว่นชอบผู้หญิง แต่ประเทืองเขาชอบผู้ชายเหมือนกัน ... ประเทืองเล่นสนุกกับเจ้าผีแว่นตามสบายนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลงมาดูใหม่"

   คนรักของเมญ่าพูดพลางอุ้มเมญ่าขึ้นแล้วเดินออกไปทางประตู จีวรซึ่งพอจะคาดเดาเรื่องราวได้อยู่บ้างถึงกับรีบวิ่งแจ้นตามออกไปโดยเร็ว ขณะปิดประตูห้องลับจีวรชำเลืองมองเห็นแววตาวิบวับเป็นประกายของประเทืองหุ่นล่ำบึ้ก ขณะที่แววตาของเจ้าแว่นเริ่มทอประกายหวาดกลัวเหมือนเพิ่งจะคาดเดาเรื่องราวได้ขึ้นมาบ้าง

   จีวรทำใจมองภาพเหตุการณ์ต่อจากนี้ไม่ไหว จึงรีบปิดประตูดังโครม แล้ววิ่งแจ้นตามแผ่นหลังคนรักของเมญ่าออกไปด้านนอก เขารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงร่ำร้องโหยหวนว่ายอมไปเกิดใหม่แล้วของเจ้าแว่นแว่วดังออกมา แต่นาทีนี้เขาไม่สนใจจะรับฟังอีกแล้ว เพราะกำลังกลัวว่าหากเขายังใกล้ชิดกับเมญ่า สักวันหนึ่งเขาก็อาจจะโดนไม้แข็งแบบนี้เข้าด้วยสักครั้งเหมือนกัน

....................................................

( เพิ่มเติมเนื้อหา 29/11/2559 )
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

medsay

 ::Dizzy::เหมือนเนื้อหาจะขาดๆหายๆไปนะครับท่านแอส  ขอบคุณมากๆนะครับ

pinmonkey

น้องเมย์ทำบุญกับวิญญาณดีจริง ๆ ครับ ขอบคุณมากครับ

่jub2520

ดีมาก ๆ  ยอมรับในความสนุกจากการอ่าน

armfine

โดนละเจ้าแว่น...ตะกี้ยังฟินอยู่เลย ^^