ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Forbidden Love (Complete Set) by  jam

เริ่มโดย liverman, กันยายน 27, 2015, 11:03:40 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

liverman

เหมือนเดิมครับ ผมเอามาจากรวมเรื่องเสียวเห็นว่ามันได้ฟิลลิ่งดี เลยเอามารีโพสให้อ่านกัน  ผู้ประพันธ์ก็ไม่ทราบเหมือนเดิม 5555
หักมุมนิสสสส


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่ออ่านเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบในเรื่องแนวนี้ ชื่อตัวละครถูกสมมติขึ้นทั้งสิ้นมิได้มีตัวตนอยู่จริง กรุณาอย่า(ห้าม)นำไปโพสต์ต่อข้างนอก อันนี้ไม่ได้หวงแต่เพราะผมไม่อยากให้ผู้ที่ไม่ได้มีความชื่นชอบตรงกันขุดโคตรผู้แต่งนั่นก็คือผมขึ้นมาด่า และผมหวังว่าจะใช้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้ต้องการให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแต่อย่างใด ขอบคุณครับ...jam

( ขออนุญาตแทรกนิด แว่น ไปดึงข้อความท่อนนี้จากต้น ฉบับตัว คุณ jam มา ถึงที่มาที่ไปของเรื่องนะคะ
แว่น pm แจ้งท่านเรื่องผลงานแล้ว..รอตอบอยู่..
)

จนมาถึงเรื่องที่ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของผม "Forbidden Love" ได้แนวการวางโครงเรื่องมาจากหนังจีน 2 คน 2 คม คือเอาฉากกลางมานำเสนอก่อน แล้วค่อยกลับไปหาต้นต่อ และจบลงที่บทสรุป เรื่องยาว 4 ตอน เรื่องนี้ใช้เวลาเขียน เกือบ 7 เดือนครับ ออกตอนแรกกลางปี 47 และจบตอน ต้นปี 48

Forbidden Love – I
August 29 2004 at 9:40 AM jam   (เข้าสู่ระบบ jam_jam)

Forbidden Love – I กาลครั้งหนึ่ง


"นี่คุณ... มีจดหมายอยู่ในตู้อีกซองหนิ ทำไมไม่หยิบเข้าบ้าน" ไกรศักดิ์ ชายวัย 42 พูดขึ้นเมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน บ้านซึ่งแสนจะอบอุ่นภายใต้บรรยายกาศการรับประทานอาหารมื้อค่ำของวันศุกร์
"เมื่อเย็น ๆ ชั้นก็หยิบมาหมดแล้วนะคะคุณ" แม่บ้านแสนสวยภรรยาคุณไกรศักดิ์ รับซองจดหมายพลางตอบด้วยสีหน้าสงสัย เพราะเธอแน่ใจว่าสำรวจจนถี่ถ้วนกับตู้จดหมายเล็ก ๆ แล้ว มันมีแต่เพียงบิลค่าโทรศัพท์เท่านั้น เธอชื่อ วัชรี อายุ 37 ห่างจากสามีถึง 5 ปี วัชรีเป็นคนหุ่นดี เธอไม่ปล่อยให้ทรวดทรงองเอวหย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา ถ้าไม่มีใครบอกก็คงไม่รู้ว่าเธอให้กำเนิดบุตรแล้วถึง 3 คน
"ของผมรึเปล่าครับแม่" เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น แม้จะเรียนถึงมหาวิทยาลัยปี 2 แล้ว วีรพงษ์ ลูกชายคนโตก็ยังไม่วายออกอาการอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็ก ๆ
"ไม่ใช่ของวีหรอกจ๊ะ... เค้าจ่าหน้าซองถึงเจ้าบ้าน เอ... ไม่มีชื่อผู้ส่ง" วัชรีพลิกซองจดหมายดูให้แน่ใจ
"มาค่าหนูอ่านให้" เด็กสาววัย 18 อ่อนกว่าพี่ชาย 1 ปี หน้าตาเธอคมขำ ผิวพรรณขาวปานหยวก ชายมากมายในสถาบันต่างหมายปอง แต่เธอก็ยังไม่มีข่าวคบใครให้เสียชื่อเสียงดาวคณะ เธอชื่อไพริน เป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน และเป็นความภูมิใจของผู้เป็นพ่อ แม่ ที่ให้กำเนิดธิดาที่งดงาม เธอรับซองจดหมายเกาะมันออกอ่านอย่างฉะฉาน
"เรียนเจ้าบ้าน ทางบริษัทได้มีนโยบายโปรโมทการท่องเที่ยว โดยจัดแคมเปน พักผ่อนหย่อนใจฟรี หาดส่วนตัวอันสวยงาม ทรายขาวละเอียด พร้อมที่พัก อาหาร เครื่องดื่ม และคนรับใช้ เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน พร้อมแพคเกจเงินสด 1 แสนบาท ผู้โชคดีบริษัทได้สุ่มจากหมายเลขบัตรประชาชน ตรวจสอบได้ที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ประจำวันศุกร์ที่ 13"
"นี่ไงพ่อ... มีจริง ๆ ด้วย" นัทพงษ์ ลูกชายคนสุดท้องวัย 11 ขวบ วิ่งไปหยิบหนังสือพิมพ์มาให้คุณแม่ วัชรีรู้สึกงง เนื่องจากเธอเป็นแม่บ้าน ทั้งวันอยู่กับบ้าน หนังสือพิมพ์เธอก็อ่าน แต่แปลกใจที่ไม่ได้เห็นคอลัมน์นี้ทั้ง ๆ ที่อยู่ด้านหน้าหนังสือพิมพ์ วัชรีคุ่นคิด หรือว่าเธอไม่ทันมอง
"ว่ายังไงต่อลูก" ไกรศักดิ์บอกให้ลูกสาวอ่านต่อ
"กำหนดการคือ วันเสาร์ที่ 14 ที่ตั้งอยู่ตามแผนที่ ที่แนบมาให้... นี่ค่ะแผนที่"
"ก็ไม่ไกลมากนะ" ไกรศักดิ์รับแผนที่มาดูแล้วบ่นพึมพำ
"คุณค่ะ อย่าไปเลย ชั้นว่ามันแปลก ๆ อยู่นะ" วัชรีปรามสามีด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เมื่อรู้สึกว่าสามีเริ่มอยากรับข้อเสนอที่ได้ฟัง
"ไปสิค่ะพ่อ วันเสาร์อาทิตย์ รินไม่มีเรียน"
"ผมไปด้วยนะพี่ริน" นัทพงษ์เขย่าแขนอ้อนพี่สาว ไพรินจะรักน้องคนนี้มากเนื่องจากยังเด็ก เวลานอนก็นอนห้องเดียวกัน ถึงขนาดนัทพงษ์อยากได้อะไร ถ้าไม่เกินกำลัง พี่สาวก็จะหามาให้ตลอด
"อย่างนี้ผมก็อดไปสิพ่อ พรุ่งนี้ผมมีพรีเซนเตชั่น" วีรพงษ์ตัดพ้อด้วยความเสียดาย
"เค้าคงไม่หลอกมั๊ง ออกหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เราไปกัน ถ้าไม่เป็นอย่างที่บอกไว้ก็กลับทันที... ดีไม๊"
"ดี..." 2 พี่น้องเอ่ยปากพร้อมกันด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยว แต่ขณะเดียวกันอีกฟากหนึ่งของโต๊ะอาหาร วัชรีผู้เป็นแม่ยังออกอาการกังวลอยู่
"ส่วนวีพ่อจะซื้อของมาฝาก" ทั้งครอบครัวทานอาหารมื้อค่ำคุยกันอย่างมีความสุข


< -------- >


"กรี๊ดดดดด!!!" บนเตียงนอนนุ่ม ๆ วัชรีสะดุ้งเฮือก ลุกขึ้นนั่งเหงื่อกาฬแตก ผมเผ้ายุ่งเหยิง
"เป็นอะไรรี คุณเป็นอะไร" ไกรศักดิ์ตื่นขึ้นจากเสียงกรีดร้องของภรรยา เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แต่ก็ยังไม่ทิ้งอาการงัวเงีย
"คุณพ่อ... คุณพ่อมาบอกชั้น... บอกว่าอย่าไป อย่าพาลูกรินไป"
"โถ่รี... มันก็แค่ความฝัน พ่อคุณเสียไปตั้งนานแล้วนะ ยังคิดถึงท่านอยู่อีกเหรอ... หัวค่ำกินมากไปรึเปล่า"
"ไม่นะค่ะ มันเหมือนจริงมาก คุณพ่อดึงแขนลูกรินไว้บอกว่าอย่าไป... อย่าไป"
"นอนเถอะรี ฝันร้ายกลายเป็นดี คุณไม่เคยได้ยินเหรอ พรุ่งนี้ผมต้องขับรถแต่เช้านะ... นอนเถอะ" ไกรศักดิ์พลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้ภรรยา วัชรีค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนก่ายหน้าผากพยายามข่มตานอนไม่คิดถึงเรื่องในฝันแต่กว่าจะหลับก็ใช้เวลาจนเกือบรุ่ง


< -------- >


"โอ้โห!... สวยจังเลยคะพ่อ" ไพรินก้าวเท้าลงจากรถ เธออุทานกับสิ่งที่เห็นเมื่อได้มาถึง บ้านไม้ชั้นเดียวสีขาวหลังขนาดพอเหมาะริมชายหาด หน้าบ้านเป็นชานล้อมรั้วมีโต๊ะเล็ก ๆ เหมาะสำหรับนั่งจิบกาแฟในยามเช้า ตัวบ้านประดับประดาไปด้วยผ้าบาง ๆ สีขาวห้อยระย้าปลิวไสว มองลงไปที่ริมหาดมีซุ้มดอกไม้สีสวยสดพร้อมด้วยเตียงผ้าใบ 1 คู่ ที่นี้ดูราวกับสวรรค์ก็ไม่ปาน
"บ้านอุ่นรัก" ไกรศักดิ์พูดขึ้นเมื่อมองเห็นป้ายข้างประตูทางเข้าบ้าน เค้าพินิจมอง มันเป็นป้ายที่ทำขึ้นเอง ดูแล้วอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เค้าเอื้อมมือจะจับลูกบิดประตู พลันมันก็เปิดออกก่อนที่มือของเค้าจะแตะ
"สวัสดีครับ คุณคงเป็นคุณไกรศักดิ์ บ้านอุ่นรักยินดีต้อนรับครับ ผมอานนท์ คนรับใช้ของคุณ... เชิญครับ" เสียงทักทายจากชายวัยกลางคนหน้าตาดีถึงขั้นหล่อซึ่งยืนอยู่ภายใน
"เห็นไม๊ผมบอกแล้วว่าไม่มีอะไร" ไกรศักดิ์พูดกับภรรยา
"ชั้นคงคิดมากไปเองมั๊งคะ" วัชรีตอบแต่สีหน้ายังไม่คลายความกังวลลงเท่าไหร่ อานนท์พาเดินแนะนำห้องต่าง ๆ ภายในตัวบ้านด้วยท่าทางนอบน้อม
"นั่นอะไรครับลุง" นัทพงษ์แหงนมองกลางห้องนั่งเล่น บนขื่อมีผ้าห้อยอยู่ 2 ผืน ผืนหนึ่งสั้นปลายหลุดลุ่ยเหมือนฉีกขาด อีกผืนหนึ่งยาวกว่าปลายเรียบคล้ายโดนตัด
"เจ้าของบ้านคงเคยใช้แขวนอะไรมั๊งครับ" อานนท์ตอบผ่าน ๆ เหมือนไม่รู้
"อย่าไปยุ่งของเค้าเลยนัท เรามาอยู่แค่คืนเดียว" ไพรินซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ พูดพลางลูบศีรษะน้องชาย
"เชิญตามสบายครับ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วผมขอตัวเตรียมอาหารก่อน" อานนท์พามาถึงห้องนอนแล้วเดินจากไป ทุกคนขนของเข้าห้อง ไกรศักดิ์นอนกับภรรยา และไพรินนอนกับน้องชาย เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทุกคนต่างพร้อมที่ห้องอาหาร
"โห... น่ากินจังเลยครับ" นัทพงษ์ปรี่เข้าไปนั่งคว้าน่องไก่กินอย่างเอร็ดอร่อย โต๊ะอาหารเป็นแบบกะทัดรัดไม่ใหญ่โต แต่รายการอาหารที่อยู่บนโต๊ะล้วนแล้วแต่สวยงามน่าทาน ทุกคนยิ้มแย้มพูดคุยและรับประทานอาหาร
"ผมไปเล่นน้ำนะครับ"
"พี่ไปด้วย" 2 พี่น้องพออิ่มได้ที่ก็ออกอาการซน วิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลงเล่นน้ำทันที ไม่นานไกรศักดิ์และภรรยาเดินตามไปห่าง ๆ ทั้งคู่นั่งเอนผ่อนคลายบนเตียงผ้าใบภายใต้ซุ้มดอกไม้ โต๊ะตัวเล็ก ๆ ที่ขั้นอยู่ระหว่างกลางมีขวดแชมเปนแช่ในถังน้ำแข็งตั้งอยู่
"พระเจ้า... ผมไม่เคยรู้สึกสบายอย่างนี้มาก่อนเลย" ไกรศักดิ์บอกกับวัชรีพลางจิบแชมเปน มองไปยังลูก ๆ ที่เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ไพรินอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวหลวม ๆ เมื่อเปียกน้ำจึงลู่รัดร่างอวบถึงแม้จะมีบราเซียสีขาวห่อหุ้มอยู่ แต่ปลายยอดของปทุมถันขนาด 34 มันดันออกมาจนเห็นเป็นเม็ด ด้วยความที่เสื้อตัวใหญ่อยู่แล้วและเป็นหาดส่วนตัวจึงไม่ต้องอายใคร ท่อนล่างของเธอจึงมีเพียงชั้นในสีขาวปิดบังเนินสงวนไว้เท่านั้น ทำให้มองเห็นสัดส่วนเธอได้ชัดเจน เอวคอดกิ่วรับกับอกอวบอิ่มและสะโพกผายได้รูป ใบหน้าใส ๆ เส้นผมเปียกน้ำสะบัดไปมายิ่งดูเซ็กส์ซี่ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าทุกอิริยาบทของเด็กสาวกำลังถูกจับจ้องจากชายวัยกลางคน อานนท์ยืนแง้มผ้าม่านอยู่ภายในบ้าน เค้ามองชื่นชมความงดงามของเด็กสาว แววตามีประกายเอ็นดูราวกับว่าไพรินเป็นลูกสาวของตัวเอง


< -------- >


เวลาล่วงเลยไปถึง 3 ทุม ทุกคนเริ่มอ่อนเพลียจากการดื่มด่ำความสุขที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นอาการเลิศรส เครื่องดื่มชั้นดี และความสนุกสนาน
"อานนท์ วันนี้คงแค่นี้ล่ะไม่รบกวนแล้ว พวกผมจะเข้านอนแล้ว" ภายในห้องนั่งเล่นไกรศักดิ์พูดกับอานนท์แสดงอาการขอบคุณ
"ครับ ส่วนเรื่องเงินรางวัลผมจะเตรียมไว้ให้พรุ่งนี้เช้า หลับฝันดีนะครับ" อานนท์พูดจบแล้วโค้งคำนับแต่แววตาดูมีเลศนัยบางอย่าง ต่างคนเข้าห้องนอน ไกรศักดิ์ใส่กางเกงแพรสีเขียวตัวเดียวนอนกับวัชรีที่อยู่ในชุดนอนยาวสายเดี่ยวเนื้อผ้าเงาลื่น ในส่วนของไพริน เธอใส่เสื้อกล้ามพอดีตัวเต้าอวบเบียดอัดเป็นลูก เธอไม่ชอบใส่บราเซียนอนเพราะรู้สึกอึดอัด ท่อนล่างสวมเพียงชั้นในสีขาวตัวจิ๋วบาง ๆ เท่านั้น นัทพงษ์น้องชายใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นชั้นในไม่ใส่ ทั้งคู่นอนด้วยกันแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ


< -------- >


เวลาผ่านไปทุกคนหลับสนิทภายใต้ชายคาบ้านอุ่นรัก กระทั่งถึงตี 3 ทุกอย่างล้วนสงบนิ่ง มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องและเสียงเกรียวคลื่นกระทบฝั่ง พลันก็มีเสียงแผ่วเบาเล็ดลอดออกมา
"อืมมม" ไพรินครางกระเส่าในลำคอ เธอเสียววาบที่ยอดถัน เมื่อมือเด็กชายวัย 11 ปี ลูบไล้ไปตามเต้าอวบของพี่สาวซึ่งนอนตะแคงกอดเค้าอยู่ในอ้อมแขน นัทพงษ์ซุกใบหน้าเข้ากับอกอวบดอมดมความหอม เธอหลับตาพริ้มแอ่นอกรับการซุกไซ้ร์ของน้องชาย ปลายยอดหดแข็งดันเสื้อกล้ามออกมาเป็นเม็ด เด็กน้อยวัย 11 ปี แลบลิ้นออกแตะวนเข้ากับยอดบัวนอกเสื้อของพี่สาว มือน้อย ๆ ค่อย ๆ บีบเคล้นเต้าเต่งจนไพรินเสียวซ่าน
"อืมมมมม" ไพรินงุนงงกับสิ่งที่เกิด แต่ยังคงบิดกายเล็กน้อยด้วยความสยิว นัทพงษ์ละมือจากเต้าอวบไล้ลงผ่านสีข้างสอดผ่านเสื้อกล้ามเข้าไปช้า ๆ ไพรินรู้สึกวูบวาบเหมือนไฟซ๊อตเมื่อถูกมือชายสัมผัสเนื้อแท้ เธอซ่านเสียวไปทั้งร่างเมื่อปลายยอดปทุมเริ่มฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำลายและความอุ่นจากปากน้องชายซึ่งกำลังโลมเลียเธออยู่ นัทพงษ์ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนแขนที่สอดเข้าไปทำให้เสื้อร่นขึ้น เค้าค่อย ๆ จับพี่สาวพลิกตัวนอนหงาย ไพรินเองก็ไม่มีอาการแข็งขืนแม้แต่น้อย เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์ นัทพงษ์ก้มลงจูบที่หน้าท้องแบนราบ ไพรินแขม่วเกร็งท้องทันทีด้วยความสยิว เด็กน้อยลากลิ้นฉ่ำช้า ๆ พลางจับชายเสื้อเลิกขึ้น
"โอววว์" ไพรินแอ่นกายครางกระเส่า ทันทีที่เสื้อถูกเลิกขึ้นพ้นผ่านจนชายเสื้อเกี่ยวสะกิดยอดเต้าอวบเต่ง ผิวขาวไม่มีแม้รอยตำหนิกระทบแสงจันทร์ส่งให้ยิ่งนวลเนียน ยอดถันตั้งเป็นเม็ดชูชันสีชมพูอ่อนท้าให้โลมเลีย ไพรินสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจ เมื่อนัทพงษ์ก้มหน้าลงใกล้เต้าอวบของเธอ ปลายลิ้นถูกแลบออก จะงอยฉ่ำไปด้วยน้ำลายแตะเข้ากับยอดถันเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ วนไล้ไปมารอบ ๆ ไพรินเสียวซ่านเธอรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่องหลืบของเธอ มันเริ่มบีบตัวขมิบขับน้ำเมือกใส ๆ ออกมา
"อู้ยยยย... ซี๊ดส์" นัทพงษ์ดูดที่ปลายยอดพร้อมใช้ฟันหน้าขบเบา ๆ มือทั้ง 2 ข้างเคล้าคลึงเต้าไปพร้อม ๆ กัน บัดนี้น้ำรักของไพรินถูกขับออกมาจนแฉะชั้นในตัวจิ๋ว ความรู้สึกซ่านสยิวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนถาโถมเข้ามา แต่ในส่วนลึกแล้วเธอก็รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยในการกระทำของน้องชายวัยเพียง 11 ปี ที่นอนด้วยกันมาตลอด แต่ในความสงสัยนั้นเธอกลับปล่อยมันไปตามความรู้สึกสุขสบายกับรสสัมผัสที่ได้รับ ถ้าเธอลืมตาซักหน่อยเธอจะเห็นว่าการกระทำของน้องชายเธอทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่หลับตาทั้งสิ้น นัทพงษ์ไม่เป็นตัวของตัวเอง เค้าใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วโป้งบี้คลึงที่ยอดถันเบา ๆ
"ซี๊ดดดส์... นัท" ไพรินเลื่อนมือทั้ง 2 มาจับศีรษะน้องชายลูบไล้ระบายความเสียว แต่ทางนัทพงษ์นั้นกลับไร้ความรู้สึก เค้าค่อย ๆ ลดใบหน้าลงช้า ๆ ปลายลิ้นฉ่ำเลียไล้ลงผ่านผิวเนียนงาม
"อย่า... นัท... อย่า" ไพรินรู้ทันทีว่าน้องชายกำลังจะทำสิ่งใด เธอรั้งศีรษะน้องชายหมายจะให้เค้าหยุดการกระทำ แต่กลับต้องชะงักมือเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียว เมื่อปลายลิ้นลากผ่านท้องน้อยบริเวณขอบชั้นในตัวจิ๋ว
"อูยยยยว์... นัท... ขึ้นมา... อย่า... ซี๊ดดดดส์" ไพรินพยายามรั้งศีรษะเค้าขึ้นมา แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงจะสู้กับเด็กน้อย เธอบิดกายเพื่อหลบหลีกปลายลิ้นที่กำลังจะเลื่อนลงมาถึงหว่างขาเธอ
"โอ้วววว์... นัท... ซี๊ดดดดส์... พอ... แล้ว... อย่านัท" ไพรินทั้งเสียวทั้งอาย เมื่อนัทพงษ์เลียลิ้นเข้ากับร่องสวรรค์อันฉ่ำแฉะของเธอถึงแม้จะเป็นเพียงภายนอก เธอคิดไปว่านัทพงษ์คงจะยิ้มเยาะเธอที่มีอารมณ์กับน้องชายจนหลังน้ำเสียวออกมาให้แฉะชั้นใน แต่ไม่เลยนัทพงษ์ทำไปโดยไร้สติ


< -------- >


อีกด้านหนึ่งของบ้าน วัชรีซึ่งรู้สึกไม่ดีกับการมาครั้งนี้อยู่แล้วเธอจึงค่อนข้างกระสับกระส่ายนอนหลับไม่สบายเท่าที่ควร
"จะไปไหนค่ะคุณ" วัชรีพูดทักขึ้น เธอรู้สึกตัวทันทีเมื่อสามีซึ่งนอนเคียงข้างดึงตัวขึ้นนั่ง เค้าเดินเปิดประตูห้องออกไปโดยไม่ตอบอะไร วัชรีเองคิดว่าไกรศักดิ์ออกไปเพื่อเข้าห้องน้ำจึงไม่ได้คิดอะไร เธอลดเปลือกตาลงเพื่อหลับต่อหวังให้ผ่านค่ำคืนนี้ไปโดยเร็ว


< -------- >


"ซี๊ดดดดดส์... นัท" ไพรินซึ่งพยายามแข็งขืนในเมื่อครู่ บัดนี้เริ่มปล่อยกายไปตามความเสียวที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต ต้นขาขาว ๆ เริ่มแบะออกเปิดทางให้น้องชายใช้ปลายลิ้นโลมเลียอย่างถนัดถนี่ ในใจเธอคิดเลยไปถึงการร่วมรักกับน้องชายที่กำลังจะบังเกิดในไม่ช้า ยิ่งทำให้ภายในร่องขมิบขับน้ำเหนียวออกมามากขึ้น ขณะที่ไพรินกำลังดื่มด่ำกับความสุขนั้นเอง ประตูห้องทั้ง ๆ ที่ล็อคอยู่กับถูกเปิดออกได้จากด้านนอก ไกรศักดิ์นั่นเอง เค้าก้าวเข้ามาในห้อง ห้องซึ่งลูกสาวกับลูกชายของเค้ากำลังบรรเลงเพลงสวาทกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วไกรศักดิ์ก็เป็นเหมือนกับนัทพงษ์ เค้าเดินเข้ามาในห้องนี้ทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่ นัทพงษ์เหมือนรู้เวลาก็ผละออกจากการโลมเลียร่องเสียวของพี่สาว เค้าค่อย ๆ ถอยลงจากเตียงมายืนประจันหน้ากับผู้เป็นพ่อ แล้วจู่ ๆ ก็ล้มลงนอนกับพื้นห้อง ในวินาทีนั้นเองไกรศักดิ์ก็ได้สติ เปลือกตาค่อย ๆ ลืมขึ้นเผยให้เห็นภาพเบื้องหน้า หูที่เคยอื้ออึงเริ่มรับรู้ได้ยินเสียงรอบข้าง
"ซี๊ดดดดส์... อูววว์... นัท" เสียงครางกระเส่าและภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้ไกรศักดิ์ถึงกับหายใจยาว ลูกสาวที่เค้าเลี้ยงดูมาแต่เล็กซึ่งยังคงหลับตาพริ้มนอนชันเข่าพร้อมลูบไล้เรือนร่างอันนวลเนียน มือซ้ายบีบเคล้นเต้าอวบ มือขวาสอดอยู่ภายในชั้นในตัวจิ๋วสีขาว ปลายนิ้วถูคลึงกับเม็ดละมุนเบา ๆ ภายนอกมองเห็นเป็นรอยมือขยุกขยิกไปมา ทั้งภาพและเสียงส่งให้ท่อนเอ็นของเค้าค่อย ๆ พองอย่างไม่ตั้งใจ ไม่มีความยั้งคิดแม้แต่น้อย เหมือนมีมนต์สะกดบางอย่างดลให้ไกรศักดิ์เดินเข้าหาร่างของลูกสาว เค้าค่อย ๆ ย่อตัวลงคุกเข่าข้าง ๆ นัทพงษ์ซึ่งบัดนี้หลับใหลไร้สติ
"นัท... นัทจ๋า" เสียงซึ่งฟังดูโหยหา อีกทั้งเบื้องหน้าคือหว่างขาอันหน้าค้นหาสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน พาให้ไกรศักดิ์ค่อย ๆ เลื่อนตัวคืบคลานขึ้นบนเตียงนุ่ม ๆ ใบหน้าค่อย ๆ ยื่นเข้าสู่จุดหมาย กลิ่นกายและน้ำเสียงช่างรัญจวนใจเค้ายิ่งนัก ไกรศักดิ์เลียนิ้วมือนอกชั้นในตัวน้อยอย่างหลงใหล
"อืมมมมม" ไพรินรับรู้ถึงสัมผัสจึงค่อย ๆ ถอนมือออกขึ้นเคล้นคลึงเต้าอวบอีกข้าง สะโพกผายแอ่นรับลิ้นซึ่งคิดว่าเป็นของน้อยชายอย่างลืมตัว ไกรศักดิ์ตวัดลิ้นเลียเน้นเข้ากับปุ่มกระสันต์ที่เต่งเป็นเม็ด ถึงแม้ไม่โดนเนื้อแท้แต่มันก็สร้างความเสียวให้เธอจนต้องระบายออกด้วยการเอื้อมมือลงไปลูบศีรษะเค้า แต่แล้วสัมผัสที่เปลี่ยนไป ไพรินถึงกับเบิ่งตาโพลงพร้อมผงกศีรษะขึ้นมอง
"ว้าย... พ่อ" เพียงได้เห็นแม้จะไม่ชัดนักในความมืด แต่ไพรินก็จำได้ทันที ถึงเธอจะเสียวสยิวเพียงใดแต่นี่คือพ่อบังเกิดเกล้าของเธอความละอายต่อบาปส่งให้เธอกรีดร้อง 2 มือดันศีรษะผู้เป็นพ่อให้ออกห่างจากของสงวน แต่บัดนี้ไกรศักดิ์หูอื้อตาลายไปหมด เค้าหลงในรสหอมหวานของน้ำเงี่ยนที่ถูกขมิบออกมาจนเกินจะคิดสิ่งใด
"อูยยยยยยยยว์... ซี๊ดดดส์" มือทั้ง 2 ก่อนเคยผลักไส เปลี่ยนเป็นกุมขยุ้มปอยผม ร่างนวลเนียนสะดุ้งเกร็งสะท้านขนตามตัวลุกชูชัน ไพรินเสียวจนจับขั้วหัวใจ เมื่อผู้เป็นพ่อเกร็งแซะปลายลิ้นผ่านขอบชั้นในเข้าสัมผัสกับติ่งเนื้อกลางพูหี
"ซี๊ดดดส์... อย่าค่ะ... พ่อ... อูววว์" เม็ดละมุนซึ่งถูกโลมเลียด้วยลิ้นสาก ๆ แต่ทว่ามีความหยุ่นนุ่มเต่งรับรสสัมผัสตามปฏิกิริยาของร่างกาย น้ำเงี่ยนภายในไหลชโลมลิ้นของไกรศักดิ์อย่างพร่างพรู มันช่างหอมหวานละมุนเหลือเกิน ไกรศักดิ์ดื่มด่ำกับติ่งเนื้อ กลิ่นและรสกระตุ้นลำควยภายใต้กางเกงแพรให้ค่อย ๆ แข็งขึ้นช้า ๆ ราวกับมีชีวิต ขอบขาชั้นในตัวน้อยถูกเค้าเกี่ยวรั้งเผยพูเนื้อให้จะงอยลิ้นตวัดเลียได้อย่างถนัดถนี่
"ซี๊ดดดดส์... ยะ... อย่า... ซี๊ดดดส์" สติซึ่งยังพอมีอยู่บ้างพาให้ไพรินใช้มือที่ดูเหมือนจะไม่มีเรี่ยวแรงผลักไสศีรษะของผู้เป็นพ่อ แต่มันไม่ทำให้ไกรศักดิ์รู้สึกตัวและหยุดเลียหีเธอแต่อย่างใด
"อูยยยยยว์" ไพรินสะดุ้งหน้าท้องแขม่วเกร็งกระตุก เมื่อไกรศักดิ์ผู้เป็นพ่อเกร็งเรียวลิ้น แล้วค่อย ๆ แทรกสอดเข้าในรูหีของเธอ ถึงมันจะไม่ลึกนักแต่ก็ทำให้ไพรินถึงกับผวากับความเสียว
"พะ... พอแล้ว... ซี๊ดดดส์... อย่าค่ะ... พ่อ... อูววว" ด้วยความไม่เคยมาก่อน ความซ่านสยิวเช่นนี้ส่งให้มือที่เคยผลักไสกลับเผลอลูบไล้ไปมากับศีรษะผู้เป็นพ่ออย่างนุ่มนวลทั้ง ๆ ที่ปากก็ยังพูดปราม ไกรศักดิ์กระดกลิ้นที่ยังแทรกตัวอยู่ในร่องสวาทสร้างความเสียวให้ไพรินยิ่งนัก บัดนี้ในสำนึกของเธอเริ่มเตลิดคิดไปถึงสิ่งซึ่งมากกว่าเรียวลิ้น ถ้าขณะนี้เป็นท่อนเนื้อของพ่อเธอมันจะมีความรู้สึกอย่างไร แต่อีกใจหนึ่งก็มีความเกรงกลัวต่อบาปกรรม
"หยุดเถอะ... พะ... พ่อ... ซี๊ดดดส์" ไกรศักดิ์หยุดชะงัดแต่ไม่ใช่เกิดจากการห้ามปรามของลูกสาว เค้าค่อย ๆ เลื่อนตัวขึ้นพรมจูบไล่จากท้องน้อยผ่านเนินอกอิ่มจนถึงซอกคอขาว
"ยะ... อย่า... ซี๊ดดส์" ไพรินขนลุกเรียวเมื่อถูกซุกไซร์ ร่างน้อย ๆ ถูกคร่อมโดยพ่อบังเกิดเกล้าบิดแอ่น ใบหน้างามเอนเอียง ริมฝีปากเม้มแน่นด้วยความสยิว
"พอแล้ว... พ่อขา... พอ... อึ่มมมม" ไพรินเอามือทั้ง 2 ดันสีข้างไกรศักดิ์ แต่สำหรับเค้าแล้ว มันราวกับว่าเธอเอามาแตะเบา ๆ ลูบไล้เล่นเท่านั้น มือของเค้าซึ่งว่างอยู่เริ่มสอดเข้าเคล้นคลึงเนินอกอวบ
"อึ่มมมมม" ไพรินเผลอครางแอ่นรับอย่างลืมตัว ไกรศักดิ์โหย่งตัวใช้มืออีกข้างเกี่ยวขอบกางเกงแพรของตัวเองร่นลงไปถึงหน้าขาพร้อมขยับจนมันหลุดพ้นข้อเท้าไป ส่งให้ท่อนเนื้อเป็นอิสระ เมื่อเค้าหย่อนตัวลงเบา ๆ ความสูงที่แตกต่างกอบกับความยาวของลำควยเขื่อง พาให้ปลายหัวบานทาบลงกับปากร่องหีอันฉ่ำเยิ้ม ไพรินเองเมื่อรับสัมผัสอุ่นของท่อนควย ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าเธอร้อนผ่าว รู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอในอีกไม่ช้าไม่นาน
"อย่า... ปล่อย..." ไพรินเรียกสติกลับมาพยายามผลักไสพ่อเธอให้ออกห่าง เอวท่อนล่างขยับเบี่ยงหนีลำควยอุ่น ๆ นั้น แต่มันไร้ผลกับไกรศักดิ์ เค้ายังคงระดมจูบไซร์ซอกคอ
"น้ำลูกพ่อ... พ่อรักลูกนะ... อึมมม" ไกรศักดิ์พูดเสียงกระเส่าพรางเม้มริมฝีปากเข้ากับใบหูน้อย ๆ ท่อนล่างเบียดเสือกไสหัวควยกับร่องหีฉ่ำเยิ้ม ไออุ่นจากสำเนียงและสัมผัสอันแผ่วเบาส่งให้เธอขนรุกชูชัน
"น้ำไม่รักพ่อแล้วเหรอ... น้ำ" ไกรศักดิ์โยกเอวช้า ๆ พาเอาปลายควยงัดเข้ากับติ่งเนื้อ ตามด้วยท่อนล่างครูดกับเม็ดละมุนตลอดลำ ไพรินถึงกับผวาแอ่นโคกรับอย่างลืมตัว
"ซี๊ดดดส์... อย่าค่ะ... พ่อ" เสียงห้ามอันกระเส่าราวกับครางสยิว 2 มือเกร็งบีบสีข้างด้วยความเสียว ไกรศักดิ์กระเด้าเอวบดลำเนื้อถูไถกับเม็ดละมุนอย่างต่อเนื่อง ท่อนเอ็นของเค้าเริ่มเปียกชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยนของลูกสาวที่คัดหลั่งออกมา
"น้ำ... พ่อคิดถึงลูกเหลือเกิน" ไกรศักดิ์พูดพลางจูบไล้มาที่พวงแก้ม ไพรินเองรู้สึกแปลกที่พ่อบังเกิดเกล้าเรียกเธอว่าน้ำ แต่ความสับสน และความเสียวร่องหีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิตเด็กสาว ทำให้เธอไม่สามารถคิดอะไรไปไกลได้มากมายนัก
"พ่อ... ย่ะ... อย่า" เสียงห้ามหยุดลง พลันริมฝีปากเรียวงามที่พร่ำปรามก็ถูกประกบด้วยริมฝีปากของผู้เป็นพ่อ โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ลิ้นเรียวของเค้าก็แทรกผ่านปากน้อย ๆ แตะเข้ากับลิ้นฉ่ำของเธอ จูบแรกที่หวงแหนของเด็กสาวเสียให้กับไกรศักดิ์ผู้เป็นพ่อของเธอเอง ความรู้สึกนุ่มละมุนอิ่มเอมแผ่วเบาพาให้เธอเคลิ้มเคลิ้มกับการจูบอันดูดดื่ม อีกทั้งส่วนล่างของไกรศักดิ์ยังคงบดเบียดลำควยกับรอยแตกสร้างความกระสันต์อย่างไม่ขาดสาย
"อื่มมมมมมมม" เสียงครางในลำคอกับอาการแอ่นสะท้าน เมื่อปลายถอกงัดเข้ากับติ่งเนื้อก่อนลำควยจะครูดผ่านมันไปตลอดลำ อาการแข็งขืนเมื่อครู่หายไปอย่างสิ้นเชิงแล้วในตอนนี้ เหลือเพียงเอวที่เผลอกระดกรับด้วยความเสียวและ 2 มือป่ายไปมาทั่วแผ่นหลังกำยำ บัดนี้ไพรินเริ่มเงี่ยนอยากลองกับควยท่อนนี้ของพ่อเธอเสียแล้ว 2 พ่อลูกบรรเลงเพลงรักกอดรัดประหนึ่งว่าเป็นคน ๆ เดียวกัน บนเตียงอันแสนอุ่นนุ่ม เล็บคม ๆ จิกเข้ากับแผ่นหลังเค้าเป็นระยะ ทุกครั้งที่หัวควยงัดสะกิดเม็ดละมุน
"อื่มมมม... อื่มมมม" เสียงอันเป็นสุขในลำคอ แสดงให้เห็นว่าในจิตใจของเด็กสาวตอนนี้ ไม่มีสิ่งใดต้องชั่งน้ำหนักอีก สัมผัสสวาทชวนให้คิดไปว่าถ้าดุ้นเนื้อนี้แทรกผ่านเข้าในหลืบอันคับแคบของเธอมันจะรู้สึกเช่นไร แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงการเอ่ยปากถือเป็นเรื่องน่าอับอาย อีกทั้งผู้ที่เธอกำลังมีอารมณ์ร่วมด้วยกลับเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด ฝ่ายไกรศักดิ์ก็เงี่ยนอยากเอาควยยัดรูหีลูกสาวเต็มทน แต่ด้วยประสบการณ์จึงรู้ว่าต้องทำอย่างแผ่วเบา เค้าถอยเอวอีกครั้งแต่คราวนี้ต่ำกว่าเดิมจนปลายควยจ่อเข้ากับปากรูหีแล้วจึงดันกดมันลงไปช้า ๆ
"ซี๊ดดดดส์" ไกรศักดิ์ครางด้วยความเสียว ปลายหัวซึ่งชโลมด้วยน้ำเหนียวจนฉ่ำเยิ้มมุดผ่านร่องเนื้ออุ่น ๆ ช้า ๆ เค้ารู้สึกเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกที่ลำควยกำลังจะแทรกเย็ดหีลูกสาว แต่เพียงไม่ถึงคอหยักมันกับหลุดงัดครูดเม็ดละมุน
"อู้ยยยยยยยยว์" ไพรินผวาโน้มต้นคอไกรศักดิ์ซุกเข้ากับลำคอเธอ ฝ่ายไกรศักดิ์เองก็เสียวไม่แพ้ลูกสาวเค้ายังคงกระดกเอวหวังให้ท่อนควยผ่านเข้าไปในตัวลูกสาวอีกครั้ง แต่กลับหลุดอีกเป็นครั้งที่ 2 คล้ายเป็นการกระตุ้นให้ไพรินอารมณ์เตลิดกระเจิง
"พ่อขา... ริน... ไม่ไหว... แล้ว... ซี๊ดดดส์" เหมือนเป็นคำอนุญาตไกรศักดิ์ไล้มือผ่านสีข้างเนียน นิ้วโป้งเกี่ยวเข้ากับขอบชั้นในตัวจิ๋ว เค้าโหย่งเอวค่อย ๆ รั้งมันผ่านสะโพกผายลงช้า ๆ ไม่มีสิ่งใดต้องคิดอีก อารมณ์เงี่ยนแรงปรารถนาส่งให้ไพรินยกก้นงามงอนเปิดทางให้เค้ารูดมันหลุดพ้นไปอย่างง่ายดาย ไกรศักดิ์หย่อนส่วนกลางลงอีกครั้ง บัดนี้เบื้องล่างของทั้ง 2 เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์มาขว้างกั้นให้เสียรสสัมผัสอีกต่อไป ท่อนเนื้อแข็งแทบปริทาบทับเนินหีโหนกนูนซึ่งพร้อมรับมันเข้าเป็นส่วนหนึ่งอีกครั้ง
"พ่อขอนะ" ไกรศักดิ์กระซิบข้างใบหูไพริน ทำเอาเธอขนลุกเกรียว เค้ากระดกเอวเบา ๆ พาปลายดุ้นเนื้อถูกับเม็ดละมุนเบา ๆ เหมือนถามหาคำตอบ
"ซี๊ดดดส์... ค่ะ... พ่อ"
"อูววววว์... อึ่มมมมมม" สิ้นคำว่าพ่อทั้งคู่ก็ต้องครางออกมาพร้อมกัน เมื่อหัวควยแทรกตัวผ่านปากร่องเสียวอันคับแน่น เยื่อพรหมจารีของเด็กสาวขาดลงทันที ไพรินจิกเล็บลงกับแผ่นหลังเค้า ใบหน้าเธอแหยเกคิ้วขมวดเม้มริมฝีปากแน่น
"เจ็บรึเปล่าลูกรัก... พ่อเอาออกนะ" ไม่มีคำตอบใด มีแต่เพียงอาการส่ายหน้าทั้ง ๆ ที่ตายังหลับ ไกรศักดิ์จึงค่อย ๆ ดันท่อนเนื้อให้จมลึกลงไปอีกครั้งอย่างช้า ๆ และแผ่วเบาเป็นที่สุด
"อูยยยยยว์... ซี๊ดดดส์... พ่อ" มันทั้งเจ็บทั้งเสียวอย่างบอกไม่ถูก กรงเล็บจิกแน่นนิ้วมือเกร็ง แต่ก็ไม่ทำให้ผู้เป็นพ่อเจ็บปวดแต่อย่างใด ร่องหลืบอันแคบอุ่นโอบรัดท่อนควยของเค้าพาให้เสียวไปทั้งลำ
"อึ่ม... ของลูกแน่นเหลือเกิน... ซี๊ดดดส์" ไกรศักดิ์อดครางไม่ได้กับความสมบูรณ์ของร่องหีลูกสาวคนงาม เค้าค่อย ๆ ถอนดุ้นเนื้ออกนิดหน่อย น้ำหีซึ่งถูกปิดกลั้นทาง ไหลออกตามชโลมลำควย ก่อนที่เค้าจะกดมันลงไปอีกครั้งอย่างแผ่วเบา
"อ้าาาาา... ซี๊ดดดส์" ช่างคับแน่นยิ่งนัก แม้น้ำเงี่ยนจะมากอารมณ์ปรารถนาจะรุนแรงแต่มันกลับไม่ทำให้ท่อนควยของเค้าผ่านเข้าไปโดยง่ายเลย มันสามารถเข้าไปได้เพียงครึ่งลำ ไกรศักดิ์เสียวควยเป็นที่สุดมันโอบรัดลำเนื้อของเค้าเสียเหลือเกิน ในใจคิดอยากกดมันย้ำลงไปให้หนอกชนหนอก แต่ก็กลัวลูกสาวอันเป็นที่รักต้องเจ็บปวด เค้าถอนมันออกช้า ๆ จนเกือบหลุด
"อย่าคะ... อู้ยยยยยย... ซี๊ดดดดส์... พ่อ" ความไร้เดียงสาพาให้ไพรินคิดไปว่าพ่อเธอจะเอามันออก จึงร้องห้ามพร้อมยกก้นงอนขึ้นตาม แต่กลับเป็นเวลาเดียวกับที่ไกรศักดิ์กลั้นใจกดสวนเอวส่งดุ้นเนื้อเข้าในร่องเสียว ด้วยความฉ่ำแฉะจากน้ำเมือกใส บัดนี้หนอกเนื้อของทั้งคู่บดเข้าหากัน ท่อนควยทั้งดุ้นฝังตัวอยู่ในหลืบหีแคบ ๆ ของลูกสาวแล้ว ไกรศักดิ์เงยหน้าแอ่นเอวเบียดส่วนกลางอัดเข้ากับโหนกเนินด้วยความเสียวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความอุ่นจนร้อนและคับแคบโอบรัดตลอดลำ ช่างเป็นสัมผัสสวาทสุดวิเศษเสียนี่กระไร เค้าก้มลงมองใบหน้าลูกสาวอย่างเอ็นดู แสงจันทร์สาดส่องกระทบ เธอช่างสวยงามราวกับเป็นนางฟ้าในเทพนิยาย ริมฝีปากน้อย ๆ ได้รูปดูเย้ายวน ไกรศักดิ์ค่อยบรรจงจุมพิตประทับจูบอันนุ่มนวลกับเรียวปากนั้น กอบกับค่อย ๆ ถอนลำเนื้อออกจากร่องช้า ๆ เมื่อถอยออกมาเกินครึ่งลำแล้วจึงพามันดำดิ่งลงในความคับแน่นนั้นอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"อึ่มมมมม" มันเป็นความเสียวสุดบรรยาย เพราะความนุ่มนวลนี่กระมัง ไพรินจึงไร้ซึ่งความเจ็บปวดทั้ง ๆ ที่เป็นครั้งแรกของเธอ ในทางกลับกัน กลับมีแต่ความเสียวหี ร่างของเธอสะท้านปานจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
"เจ็บรึเปล่าลูก" ไกรศักดิ์ยันศอกพยุงตัว ถอนปากจากการจูบอันดูดดื่มมองหน้าลูกสาวพลางถามด้วยเสียงกระซิบ ไพรินไม่ตอบเพียงแต่ส่ายหน้าเบา ๆ แววตามองพ่อเธอด้วยความรัก เค้าเห็นเช่นนั้นจึงค่อย ๆ กระเด้าควยสั้น ๆ เบา ๆ ต่อไป เพียงเท่านั้นไพรินก็เสียวสยิวขมิบรับท่อนเนื้อทุกครั้งที่พ่อเธอขยับ เธอเม้มปากไกรศักดิ์มองดูยิ่งมีอารมณ์
"ของลูกวิเศษเหลือเกิน...อ้า" เค้าอดชมไม่ได้ ค่อย ๆ ถอนควยออกจนเกือบหลุดอีกครั้งแล้วกดมันจนหนอกเนื้อบดเบียดกัน
"ซี๊ดดดดส์ หนูเสียวค่ะพ่อ" ไพรินผวาขึ้นกอด เธอเสียววาบไปทั้งร่าง ท้องน้อยกระตุก ร่องหีบีบรัดลำควยพ่อเธออย่างแรง เธอตะกายขึ้นสวรรค์กับการร่วมรักครั้งแรกกับชายที่เรียกได้ว่าเป็นพ่อของเธอเอง
"อ้า... พ่อก็เสียวลูก... ซี๊ดดดส์" ด้วยแรงบีบตอดนั้น ไกรศักดิ์เสียวขนาดเกือบถึงจุดสุดยอดไปเหมือนกัน เค้าช้อนร่างลูกสาวขึ้น บัดนี้ทั้ง 2 อยู่ในท่านั่ง ไพรินโอบกอดลำคอพ่อเธอ ร่องหียังคงกระตุกตอดน้ำหีไหลเยิ้มลงไปถึงพวงสวรรค์ผู้เป็นพ่อ
"อู้ยยยยย" ไพรินครางเบา ๆ อีกครั้ง เมื่อไกรศักดิ์ขมิบเกร็งให้ลำควยพองในร่องหีลูกสาวพลางจับสะโพกผายขยับเล็กน้อย เธอเองก็เข้าใจได้โดยง่ายโยกเอวรับช้า ๆ เห็นเช่นนั้นไกรศักดิ์รู้ทันทีว่ากำแพงระหว่างพ่อลูกสลายไปแล้ว เค้าถอดเสื้อกล้ามอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายของไพรินออก ร่างเปลือยของทั้งคู่กอดกันกลมเนื้อแนบเนื้อ อกอวบของเธอเบียดเข้ากับแผงอกกำยำ สร้างความซาบซ่านยิ่งนัก ลำควยซึ่งลึกไปยันปากมดลูกถูกขย่มโยกแรงขึ้น
"ซี๊ดดดส์... โอ้ววว์... เอาเลย... ลูกพ่อ" ไกรศักดิ์ทิ้งตัวลงนอนให้ลูกสาวซึ่งปล่อยอารมณ์ไปตามความเงี่ยน ละแล้วซึ่งความกระดากอายโยกหีเย็ดท่อนควยของเค้า ไพรินใช้มือทั้ง 2 ยันแผ่นอกพ่อเธอพร้อมยกตัวขย่มลำควย เต้าอวบกระเพื่อมไหวขึ้นลงสวยงามจนไกรศักดิ์ต้องเอื้อมไปบีบเคล้น
"อ้า... พ่อขา... ซี๊ดดดดส์... รินเสียว... อ้า" เธอเสียวรูหีจนไม่สามารถขย่มโยกได้ต่อไป ฟุบลงซุกใบหน้าเข้ากับซอกคอของผู้เป็นพ่อ ไกรศักดิ์จึงกอดตอบพร้อมกระดกเอวเย็ดหีลูกสาวเร็วจี๋
"โอ้.. โอ้.. โอ้.. ซี๊ดส์.. พ่อ.. ซี๊ดส์.. อะ" ด้วยการกระเด้าเร็วแรงทำให้เสียงครางของเธอติดอยู่ในลำคอ เธอเสียวจนลมหายใจแน่นจุกในอก ร่องหีขับน้ำเงี่ยนไหลริน ยิ่งทำให้เค้ากระเด้าเย็ดเร็วขึ้น
"พะ.. พ่อ.. ระ.. ริน.. ริน.. จะเสร็จ... จะ... ซี๊ดดดดส์" สวรรค์ครั้งที่ 2 ของเธอกำลังใกล้เข้ามา แต่ไกรศักดิ์ไม่ต้องการเช่นนั้น เค้ารู้ดีว่าถ้าทำให้ไพรินเกือบถึงจุดแต่ไม่ถึง ครั้งแต่ไปเธอจะถึงสวรรค์อย่างสุดยอดเป็นเท่าทวีคูณ เค้าค่อย ๆ ลดความเร็วลงให้ลำควยแทรกเข้าออกในร่องหีช้า ๆ เนิบ ๆ
"ฮื้อ... ฮื้อ... ฮื้อ" เสียงหอบหายใจยาวจากไพริน เมื่อพ่อเธอหยุดกระหน่ำควยให้วิ่งเข้าออกในร่องหี ไกรศักดิ์พลิกตัวขึ้นเป็นฝ่ายคร่อมร่างลูกสาว พร้อมจับเธอบิดให้อยู่ในท่าโก้งโค้งโดยไม่ให้ท่อนเนื้อนั้นหลุดออก
"อู้ยยยยยย" ไพรินครางกระเส่า เพราะมันเหมือนลำควยหมุนควงในรูหีของเธอ ในท่านี้ทำให้ไกรศักดิ์เห็นถึงสะโพกแน่นกลมกลึงจับได้เต็มไม้เต็มมือ
"ซี๊ดดส์... อ้า" เมื่อลองกระเด้าเอวเย็ดดู มันช่างเสียวควยจริง ๆ หน้าขาเค้ากระทบแก้มก้นดังระงมเร้าอารมณ์แห่งกาม ร่องหีก็ขมิบรัดลำเป็นอย่างดี เค้าเริ่มโยกจากช้า ๆ แล้วเร่งขึ้น
"ซี๊ดดดส์... พ่อขา... ซี๊ดดดส์" ไพรินเอื้อมมือกลับมาจับมือเค้าด้วยความเสียวรูหี มันซาบซ่านขึ้นไปถึงสันหลัง ไกรศักดิ์กดหลังเธอเบา ๆ เธอฟุบใบหน้าลงอย่างว่าง่าย ส่งให้แก้มก้นซึ่งถูกกระแทกอยู่ลอยโด่งรับการเย็ดเข้าไปอีก

< -------- >

ขณะเดียวกันนั้นเอง วัชรีภรรยาของไกรศักดิ์ซึ่งหลับได้เพียงไม่นาน สภาพของเธอบนที่นอนในตอนนี้บิดกระสับกระส่ายไปมา เหงื่อกาฬแตกชโลมกาย คิ้วขมวดสีหน้าแสดงความกลัวอย่างเห็นได้ชัด
"อย่า... อย่าทำลูกชั้น... ไม่นะ... อย่า... ไม่... กรี๊ดดดด" วัชรีพร่ำพูดซ้ำไปมาก่อนจะสะดุ้งดึงตัวลุกขึ้นนั่งกรีดร้องอย่างสุดเสียง
"เฮื้อ... เฮื้อ... เฮื้อ... เฮื้อ..." เสียงหอบหายใจยาวดังชัดเจนในความเงียบ เธอเริ่มทบทวนสิ่งที่ได้พบเจอในความฝัน ณ ชายหาดริมทะเลยามค่ำคืน ชายวัยกลางคนเนื้อตัวสกปรกผมเผ้ารุงรัง กำลังคร่อมร่างสาวน้อย มือไม้ฉีกกระชากเสื้อผ้าเธอหลุดเป็นชิ้น ๆ อย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือพาให้เธอย่างก้าวเข้าไป และแล้วใบหน้าของร่างที่ถูกคร่อมอยู่นั้นก็เผยให้เห็น ไพรินนั่นเอง ลูกสาวสุดที่รักของเธอกำลังถูกใครบางคนพยายามข่มขืน ขณะที่ใช้ความคิดอยู่นั้นพลันเธอก็นึกถึงสามี วัชรีเอียงหน้ามองข้างตัว กลับเห็นเพียงที่นอนอันว่างเปล่า ในตอนนั้นเองแว่วเสียงบางอย่างแทรกเข้ามาในความเงียบงัน เธอหรี่ตาเงี่ยหูฟัง เสียงครางกระเส่าชัดขึ้นตามลำดับ วัชรีรู้สึกแปลกใจทั้งเรื่องสามีที่หายไป ความฝัน และเสียง เธอลงจากเตียงเดินออกจากห้องอย่างช้า ๆ ในใจก็นึกกลัวอยู่ไม่น้อย เสียงครวญครางดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเธอเยื้องกายใกล้ห้องนอนของไพริน ในระยะสายตาทำให้เห็นว่าประตูห้องของลูกสาวเปิดอยู่ ความฝันเริ่มทำให้เธอหวั่นวิตก ความห่วงลูกสาวทำเอาวัชรีรีบวิ่งไปยังประตูบานนั้นอย่างไม่คิดชีวิต และแล้วสิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอถึงกลับช๊อค
"ไม่ไหวแล้ว... พ่อ... โอ้ววว... พ่อค่ะ... สะ... เสร็จแล้ว... โอ้วววววววว" ไกรศักดิ์ดึงรั้งสะโพกกลมกลึงของลูกสาวพร้อมอัดแก่นกายบดเบียด น้ำรักในลำกล้องพุ่งกระฉูดเข้าในโพรงหีอย่างรุ่นแรง
"อู้ยยยยยย..." ไพรินผวามือกำผู้ปูที่นอนแน่น ความรู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ พุ่งแรงเข้าในกายเธอส่งให้เธอถึงสวรรค์อีกครั้ง เธอบิดเกร็งเสียวสุดชีวิต ร่องหีบีบตอดลำควยของไกรศักดิ์เป็นจังหวะอย่างแรง ด้วยความเหนื่อยอ่อน ทั้ง 2 ทิ้งตัวลงนอนโดยไกรศักดิ์คร่อมอยู่บนร่างของลูกสาว เค้าพรมจูบพวงแก้มของเธอทั้งที่ท่อนเนื้อซึ่งกระตุกขับน้ำเงี่ยนเป็นระยะ ค่อย ๆ ลดขนาดลงยังคงคาอยู่ในรูหี สีหน้าของคนทั้ง 2 พ่อลูกดูผ่อนคลายอย่างมีความสุข แต่จู่ ๆ ไกรศักดิ์กลับเงยหน้าขึ้นมองวัชรีซึ่งอยู่หน้าประตู
"กรี๊ดดดดดดดด" วัชรีซึ่งยืนแข็งทื่อในสภาวะซ๊อคอยู่นั้น กลับกรีดร้องลั่นบ้าน ไกรศักดิ์และไพรินได้ยินก็สะดุ้งเฮือก เค้าและเธอผละออกจากกัน พลันสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็บังเกิดขึ้น สภาพบ้านที่ดูสวยงามกลับแปรเปลี่ยนเป็นบ้านร้างมืดทึม ขี้ฝุ่นหยากไย่เกาะอยู่โดยทั่ว อีกทั้งบนเตียงและพื้นก็มีทั้ง แมลงสาบ หนู เดินกันให้ดูน่าขยะแขยง
"หึ... หึ... ฮ่า... ฮ่า.. ฮ่า... หึ...หึ... หึ... ฮ่า... ฮ่า.. ฮ่า..." เสียงหัวเราะราวกับปีศาจจากขุมนรกดังสนั่น ตัวบ้านเหมือนจะสั่นไหวปานจะถล่ม ทุกคนต่างตกใจในสิ่งที่พบเห็น
"คุณรีบปลุกนัทแล้วพาลงไปที่รถ ผมจะไปเอากุญแจ" ไกรศักดิ์ตะโกนบอกสั่งภรรยา และรีบวิ่งกลับไปที่ห้องเก็บข้าวของอย่างเร็วลี้
"นัทตื่นสินัท ตื่น" วัชรีเขย่าตัวลูกชายอย่างแรงหวังจะให้ตื่น แต่ดูเหมือนจะไร้ผล ยิ่งนานเสียงหัวเราะก็ยิ่งทวีความดังขึ้น บานหน้าต่างปิดเปิดกระแทกสร้างความหวาดกลัวให้แก่แม่ลูกอย่างสุดขั้ว
"ไป ไป ไป เร็ว" ไกรศักดิ์ซึ่งหยิบกระเป๋าเสื้อผ้ามาได้รีบตะโกนสั่งเธอทั้ง 2
"คุณรีบพารินออกไป เดี๋ยวผมอุ้มนัทออกไปเอง ไปเร็ว"
"หึ... หึ... ฮ่า... ฮ่า.. ฮ่า... หึ...หึ... หึ... ฮ่า... ฮ่า.. ฮ่า..." เสียงหัวเราะยังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ ผงฝุ่นเริ่มล่วงลงมาเหมือนตัวบ้านใกล้ถล่มเต็มที วัชรีปรี่เข้าจูงมือลูกสาวในสภาพเปลือยเปล่านั่งคุดคู้ปิดหูหลับตาด้วยความกลัวอยู่ข้างเตียง ไกรศักดิ์แบกร่างนัทพงษ์ซึ่งยังคงสลบไสลขึ้นบ่า อีกมือลากกระเป๋าเสื้อผ้าวิ่งตามวัชรีออกมาติด ๆ ทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในสภาพเปลือยกาย ประตูทางออกเบื้องหน้าปิดอยู่ แต่ไกรศักดิ์หาได้กังวลไม่เค้ามองด้วยแววตาแข็งกร้าววิ่งแซงวัชรีใช้เท้าขวาถีบเข้ากับบานประตูอย่างแรง เพียงครั้งเดียวมันก็เปิดออก ทุกคนวิ่งไปที่รถอย่างไม่คิดชีวิต
"น้ำลูกพ่อ" เสียงสะอื้นเย็นยะเยือกดังมาจากด้านหลัง ทั้ง ๆ ที่วิ่งอยู่นั้น ไกรศักดิ์ได้หันไปมองจึงรู้ว่าเป็นอานนท์ แต่มันไม่ได้ทำให้เค้าหยุดวิ่งแต่อย่างใด ภาพอานนท์ยืนอยู่หน้าประตูบ้านร้างที่แสนน่ากลัว ผ้าสีขาวที่เคยเห็นห้อยระย้าสวยงาม กลับเปลี่ยนเป็นเศษผ้าสกปรกโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง ซุ้มดอกไม้เมื่อกลางวันครั้งเคยได้นั่งดื่มไวน์กลายเป็นเพิงเก่า ๆ เต็มไปด้วยหญ้าทะเลดูรกรุงรัง เมื่อถึงรถไกรศักดิ์ส่งนัทพงษ์ให้กับภรรยา และรีบควานหากุญแจในกระเป๋าเสื้อผ้า
"น้ำ... อย่าทิ้งพ่อไป... กลับมาอยู่กับพ่อเถอะ" อานนท์ค่อย ๆ ย่างก้าวเข้ามาหา ใบหน้าของเค้าดูเศร้าสร้อย มีคราบน้ำตาอาบแก้มอันซีดเผือก
"เร็วสิคะคุณ" วัชรีบอกเร่งด้วยใจระทึก
"เร็วแล้ว... เจอ... เจอแล้ว" รีโมทถูกกดทันที เมื่อเปิดประตูได้วัชรีรับพาลูกทั้ง 2 เข้านั่งด้านหลัง ส่วนเธอนั่งหน้า สติที่ยังดีทำให้ไกรศักดิ์สตาร์ทรถได้อย่างไม่ยากเย็น รถเคลื่อนตัวออกจากแดนนรกนั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อพ้นรัศมีเสียงหัวเราะอันหน้ากลัว ทุกคนในรถก็เริ่มตั้งสติได้มีเพียงนัทพงษ์เท่านั้นยังคงนอนเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ไกรศักดิ์เหลือบมองกระจกหลัง ก็พลันเห็นร่างเปลือยของลูกสาว สายตาทั้งคู่ประสานกันทำให้รู้ว่าขณะนี้เค้าและเธออยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ไพรินรีบยกมือขึ้นปิดบังเต้างามบีบเบียดต้นขาเข้าหากันแน่น วัชรีเห็นเข้าจึงเอื้อมล้วงเสื้อผ้าในกระเป๋าให้ลูกสาวและสามี
"เอ่อ... ผม"
"เงียบเถอะคุณ ยังไม่ต้องพูดอะไร" วัชรีพูดสวนทันที เธอไม่อยากฟังสิ่งใดทั้งสิ้นในตอนนี้ ภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่ยังติดตา แต่ที่จำไม่ลืมเลือนคือ ภาพสามีของเธอเงยหน้าขึ้นมอง ขณะนั้นเองบังเกิดสิ่งที่น่ากลัวยิ่ง ใบหน้านั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าของอานนท์ซึ่งขาวซีดน่าสยดสยอง ในความคิดแวบหนึ่ง จู่ ๆ เธอก็คว้ากระเป๋าถือหน้ารถ เร่งค้นหาอะไรบางอย่าง ๆ ขะมักเขม้น หน้าหนังสือพิมพ์ซึ่งเธอตัดเก็บไว้ถูกหยิบออกมาพิจารณา แต่แล้วกลับทำให้เธอซ๊อคอีกครั้ง ข้อความเกี่ยวกับรางวัลโปรโมชั่นการท่องเที่ยวที่ครอบครัวเธอเห็นครั้งก่อนหายไป วัชรีคุ่นคิดทบทวนสิ่งต่าง ๆ ในจิตใจ ตอนนี้เธอสับสนว่าจะโกรธสามีที่ทำในสิ่งผิดประเพณีรึไม่ หรือสิ่งที่เธอเห็นนั้น สามีเธอไม่รู้ในการกระทำของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มแรก ล้วนเป็นฝีมือของสิ่งเร้นลับที่เรียกว่าผีงั้นหรือ


Forbidden Love – II
October 17 2004 at 2:22 PM jam   Forum Owner
Forbidden Love – II ก่อนกาล

   เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่ออ่านเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบในเรื่องแนวนี้ ชื่อตัวละครถูกสมมติขึ้นทั้งสิ้นมิได้มีตัวตนอยู่จริง กรุณาอย่า(ห้าม)นำไปโพสต์ต่อข้างนอก อันนี้ไม่ได้หวงแต่เพราะผมไม่อยากให้ผู้ที่ไม่ได้มีความชื่นชอบตรงกันขุดโคตรผู้แต่งนั่นก็คือผมขึ้นมาด่า และผมหวังว่าจะใช้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้ต้องการให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแต่อย่างใด ขอบคุณครับ...jam
ถ้าจะให้กล่าวย้อนกลับไปมันดูจะนานแสนนาน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาลงจากแท็กซี่ เค้าลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินไปตามทาง กลิ่นที่คุ้นเคย ทิวทัศน์อันคุ้นตา เค้าหยุดอยู่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง ความตื่นเต้นที่จะได้พบหน้าภรรยาสาวอันเป็นที่รัก เธอจะเตรียมสิ่งใดไว้ต้อนรับการกลับมาบ้างนะ มือบิดเปิดประตูบ้านหวังเพียงรอยยิ้มและการโอบกอดแสดงความรักจากภรรยาหลังจากที่ต้องห่างบ้านห่างเมืองไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทยังประเทศอังกฤษเป็นเวลา 2 ปีเต็ม ซึ่งก่อนหน้านี้เค้าได้โทรบอกเธอก่อนแล้วถึงกำหนดการกลับประเทศ แต่ภาพเบื้องหน้าเมื่อประตูเปิดกลับไม่เป็นอย่างที่คิดแม้แต่น้อย ภรรยาเค้าจูงมือลูกน้อยวัย 2 ขวบครึ่ง ข้างตัวมีกระเป๋าใบใหญ่ไม่แพ้ของเค้าที่อยู่ในมือ
"นนท์ค่ะ แอมขอโทษ ตลอด 2 ปี ที่ผ่านมาทำให้แอมรู้ว่าแอมต้องการอะไร" เธอพูดพลางเดินเข้ามาหา จับมือเค้ายกขึ้น แหวนแต่งงานถูกหย่อนวางลงบนอุ้งมือเบาๆ เค้ารู้สึกงุนงงเป็นอย่างยิ่ง เธอเอื้อมจับมืออีกข้างของเค้ากุมมือลูกน้อย แล้วเดินจากไป เหมือนฟ้าผ่ากลางศีรษะ เค้ายืนตัวแข็งทื่อ อานนท์หนุ่มนักเรียนนอกอนาคตไกลวัยเพียง 25 ปี ยืนก้มหน้าคุ่นคิด น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินเป็นทางอาบแก้มหยดลงพื้น เค้าผิดด้วยหรือที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ เค้าผิดด้วยหรือที่ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวอันเป็นที่รัก พลันอานนท์ก็รู้สึกที่มือ เด็กน้อยเขย่าแขนเค้าเงยหน้ามองตาแป๋ว
"แม่ไปไหน" เสียงใส ๆ ถามอย่างไร้เดียงสา เด็กน้อยไม่รู้เลยว่าหญิงสาวที่เธอถามถึงกำลังทอดทิ้งเธอไปอย่างไม่มีวันกลับมา น้ำเสียงแหลมเล็กทำให้รู้ว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิง อานนท์คุกเข่าลงมองใบหน้าลูกน้อย
"ชื่ออะไรค่ะ" อานนท์ถามเสียงสั่นเครือทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว
"หนูชื่อน้ำทิพย์ค่ะ... คุณแม่ไปไหนค่ะ"
"คุณแม่ไปทำธุระค่ะ" อานนท์พูดเสียงสะอื้น เค้ายังคงทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว น้ำตาเค้ายังคงไหล
"อย่าร้องไห้สิคะ แม่บอกว่าเด็กดีต้องไม่ร้องไห้" น้ำทิพย์ใช้มือน้อย ๆ ปาดน้ำตาผู้เป็นพ่อ อานนท์รั้งร่างเธอเข้าสวมกอดน้ำตาไหลพราก เค้ารู้ทันทีว่าต่อไปนี้พ่อและลูกน้อยต้องดำเนินชีวิตโดยปราศจากแม่ผู้เป็นที่รัก แต่เค้าก็มุ่งมั่นที่จะชุบเลี้ยงเธอให้เติบใหญ่ต่อไป

< -------- >

"พ่อค่ะ... หนูสอบติดค่ะพ่อ" พอกลับถึงบ้าน น้ำทิพย์เด็กสาววัยย่างเข้า 18 ปี วิ่งเขาสวมกอดพ่อด้วยความดีใจ เมื่อเธอรู้ว่าเธอสอบติดมหาวิทยาลัยในจังหวัดหนึ่งซึ่งติดทะเล นี่เป็นความตั้งใจของเธอเพราะอยากหลีกหนีมลภาวะในเมืองหลวง อานนท์ได้แต่ยิ้มตื้นตันแสดงความดีใจกับลูกสาว ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยไปแต่เค้ายังไม่ทิ้งเค้าโครงความหล่อเหลาบนใบหน้า ทั้ง ๆ ที่สามารถหาผู้หญิงได้เป็นร้อยจากหน้าตาและฐานะที่สร้างขึ้นจากหยาดเหงื่อและ 2 มือ แต่เค้ากลับไม่สนใจสิ่งใด ในใจรู้แต่เพียงต้องเลี้ยงดูลูกสาวให้ดีที่สุด เค้าถนอมเธอยิ่งกว่าไข่ในหิน ซึ่งน้ำทิพย์เองก็รู้และไม่ทำให้พ่อเธอผิดหวัง
"พ่อรู้ว่าน้ำต้องทำได้อยู่แล้ว พ่อมีข่าวดีจะบอก"
"อะไรค่ะพ่อ" น้ำทิพย์ทำท่าอยากรู้
"พ่อขอย้ายที่ส่งงาน และชื้อบ้านริมทะเลไว้หลังนึง ก็จังหวัดที่ลูกสอบได้นั่นแหละ"
"จริงนะค่ะคุณพ่อ" น้ำทิพย์โผเข้ากอดอานนท์อีกครั้ง เค้าลูบผมเธอด้วยความอบอุ่นเอ็นดู

< -------- >

เพียงแค่ได้เห็นบ้านไม้ชั้นเดียวริมชายหาดผ่านกระจกใส ๆ หน้ารถ น้ำทิพย์ก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เข้าไปสัมผัสภายใน เธอเปิดประตูก้าวลงเหยียบพื้น สายลมพัดกระทบใบหน้า เธอมองไปยังหาดทรายขาวละเอียดดั่งแป้งหลับตาสูดกลิ่นทะเลจาง ๆ เข้าเต็มปอดรู้สึกสดชื่น น้ำทิพย์ก้าวเข้าภายในบ้านมองไปรอบ ๆ มันช่างสวยงาม
"ชอบรึเปล่า" อานนท์ถามด้วยเสียงอันนุ่มนวล
"ชอบมากค่ะพ่อ" น้ำทิพย์ตอบพลางเดินสำรวจไปทั่วบ้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องอำนวยความสะดวกถูกจัดไว้อย่างครบครัน
"น้ำ... ไป... เราไปตลาดกัน"
"ดีค่ะพอ เดี๋ยวน้ำจะทำกับข้าวให้ทาน" อานนท์ขับรถไปยังตลาดซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านเดี่ยวของเค้ามากนัก

< -------- >

ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยผู้ขายและผู้จับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก อาจเพราะเป็นสังคมต่างจังหวัด ทุกคนจึงดูเหมือนจะรู้จักกันดี
"แม่ค้านี่ขายยังไงค่ะ" น้ำทิพย์ชี้ไปที่ผักสดสีเขียว
"ไม่เคยเห็นหน้าเลยหนิหนู เพิ่งมาอยู่ใหม่เหรอ" แม่ค้าถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
"ค่ะเพิ่งเข้ามาอยู่วันนี้เอง บ้านเดี่ยวตรงชายหาดน่ะค่ะ นี่พ่อหนู"
"ยินดีต้อนรับนะ วันนี้จะซื้ออะไรลดให้เป็นพิเศษเลย" มันเป็นการต้อนรับอันอบอุ่น 2 พ่อลูกรู้สึกดีใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เอื้ออาทรเช่นนี้

< -------- >

เวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือน 2 พ่อลูกใช้ชีวิตในบ้านริมหาดอย่างมีความสุข จนมาถึงวันที่ทั้งคู่จะต้องจดจำไปชั่วชีวิต ยามเย็นค่อนไปทางค่ำ รถของน้ำทิพย์ซึ่งกลับจากเรียนตามปกติเคลื่อนผ่านรัศมีบริเวณที่สามารถมองเห็นตัวบ้าน เธอลงจากรถยืนมองชื่นชมความงามที่เปลี่ยนไปของบ้าน ผ้าบางเบาสีขาวประดับตามตัวบ้านพลิ้วไหวตามสายลม โคมเทียนวางอยู่โดยรอบส่องแสงสีทองระยับ เธอมองลงไปยังชายหาดจากเดิมที่เห็นเพียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่ง บัดนี้บังเกิดมีซุ่มดอกไม้ประดับโคมเทียนสว่างไสวสวยงาม น้ำทิพย์ในชุดนักศึกษาย่างก้าวลงไปสายตาเหม่อมองด้วยความชื่นชม ภายใต้ซุ้มดอกไม้มีเตียงผ้าใบ 2 เตียงขั้นด้วยโต๊ะตัวเล็ก ๆ ระหว่างกลาง บนนั้นมีเค็กหน้าตาน่าทานปักด้วยเทียนเล่มหนึ่งซึ่งมีกระดาษแก้วบังลมไว้
"Happy Birthday to You..." ชายหนุ่มที่เธอเห็นเพียงแต่ด้านหลังแต่รู้สึกคุ้นเคยร้องเพลงวันเกิดขึ้น น้ำทิพย์ค่อย ๆ เดินอ้อมไปด้านหน้า อานนท์ยังคงร้องเพลงพลางมองหน้าลูกสาว น้ำทิพย์คุกเข่าลงกับพื้นทรายละเอียด เธอก้มหน้าหลับตา กุมมือประสานไว้กลางทรวงอกอิ่มเพื่ออธิษฐาน เมื่อเพลงจบลงเธอลืมตาช้า ๆ แล้วเป่าเทียน
"ขอบคุณค่ะพ่อ... ขอบคุณ" น้ำทิพย์เข้าสวมกอดพ่อพูดน้ำเสียงตื้นตัน
"พ่อไม่เคยลืมวันเกิดลูกของพ่อ... ไหนอธิฐานอะไร" อานนท์กระซิบถามพลางลูบไล้ไปตามเส้นผมลูกสาว น้ำทิพย์จับมือผู้เป็นพ่อไว้ เธอมองหน้าอานนท์ด้วยแววตาลึกซึ้ง ทั้งโคมเทียนและแสงจันทร์เต็มดวงสาดส่องใบหน้าทั้ง 2 ส่งให้ผิวพรรณงามยิ่งนวลเนียน มันเหมือนมีมนต์สะกดบางอย่างกระตุ้นเร้าในจิตใจ น้ำทิพย์ค่อย ๆ ยื่นหน้าหลับตาบรรจงจูบปากพ่อเธอเบา ๆ อานนท์หลับตาพริ้มเมื่อได้สัมผัสรสริมฝีปากนุ่ม ๆ การจูบครั้งนี้เป็นครั้งแรกของน้ำทิพย์เลยก็ว่าได้เธอไม่เคยทำตัวเหลวใหลและอยู่ในจารีตตลอดมา ส่วนอานนท์นั้น ก็เป็นครั้งแรกหลังจากที่ภรรยาอันเป็นที่รักทิ้งเค้าไปอย่างไร้เยื่อใย น้ำทิพย์ถอยกลับมามองหน้าเค้าอีกครั้ง อานนท์ลืมตามองพินิจใบหน้าลูกสาวซึ่งเค้าเฝ้าซุปเลี้ยงมาจนโต อาจเป็นพรหมลิขิตหรือสิ่งใดดลใจ เค้าก้มลงจูบปากลูกสาวอย่างแผ่วเบา พลางเลื่อนตัวลงจากเตียงผ้าใบคุกเข่าต่อหน้าเธอ 2 พ่อลูกบดเบียดริมฝีปากเข้าหากัน ต่างคนเริ่มลูบไล้เรือนกายของกันและกัน แม้จะมีอาภรณ์ห่มอยู่ แต่มันก็ทำให้ทั้งคู่สยิวซาบซ่านไปทั่วร่างเมื่อได้สัมผัสกับเพศตรงข้าม น้ำทิพย์รู้สึกได้จากภายในร่องสวรรค์ของเธอมันร้อนและเสียวยิบ ๆ อานนท์ใช้ปลายลิ้นฉ่ำดุนริมฝีปากอิ่มของลูกสาว เธอเอียงหน้าเผยอปากเปิดรับโดยไม่แข็งขืน เมื่อลิ้นทั้งคู่ได้สัมผัสกัน น้ำทิพย์รู้ทันทีถึงน้ำรักที่กำลังเคลื่อนผ่านร่องหลืบออกมาด้วยความเสียว ทั้ง 2 แลกน้ำลายกันอย่างดูดดื่ม มือของผู้เป็นพ่อซึ่งลูบไล้แผ่นหลังเธอค่อย ๆ เลื่อนมาด้านหน้าผ่านสีข้าง น้ำทิพย์แอ่นกายด้วยความเสียว มือของอานนท์เคล้าคลึงเข้ากับอกอวบของลูกสาว บราเซียที่เธอใส่เป็นแบบไม่มีโครง ทำให้เค้ารู้สึกได้ถึงความสมบูรณ์ไร้ที่ติของก้อนเนื้อในอุ้งมือ
"อืมมม" คลื่นเสียงครางในลำคอกระทบริมฝีปากอานนท์ ประสบการณ์ทำให้เค้ารู้ทันทีว่าลูกสาวของเค้ากำลังเคลิบเคลิ้มกับการนวดคลึงปทุมถันจากน้ำมือผู้เป็นพ่อ เค้าค่อย ๆ ปลดกระดุมออกทีละเม็ด ทีละเม็ดอย่างไม่รีบร้อน ไม่นานร่างเกือบเปลือยท่อนบนของหญิงสาวก็ถูกโลมเลียด้วยแสงจันทร์ อานนท์พรมจูบซุกไซร์ลงมาที่ซอกคอกลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ซึ่งหลงเหลืออยู่จากตอนเช้ากระตุ้นอารมณ์เค้าให้พุ่งพล่าน เลือดความเป็นชายฉีดไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างไม่เว้นแม้แก่นกายกลางลำตัวภายใต้กางเกงแพรบาง ๆ มันค่อย ๆ พองขึ้น ๆ
"อืออออ" น้ำทิพย์ยังคงครางในลำคออย่างเอียงอาย เธอรู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง เมื่อผู้เป็นพ่อดูดเบา ๆ ไล่ลงมาจากซอกคอถึงเนินอกอิ่ม เค้าซุกใบหน้าเข้ากับเต้าอวบลิ้นฉ่ำแฉะเลียไปทั่วเนิน มือลูบไล้ทั่วแผ่นหลังเปลือย อานนท์ค่อย ๆ กดหน้าแซะปลายลิ้นสอดเข้าในบราเซีย
"อูยยยย... พ่อขา" น้ำทิพย์ต้องสะท้านเมื่อปลายลิ้นฉ่ำแซะถูกยอดถันของเธอ น้ำทิพย์จับชายเสื้ออานนท์ยกขึ้น ซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกับที่ตะขอบราเซียตัวน้อยถูกปลดออก เธอถอดเสื้อเค้าออกทางศีรษะทิ้งมันกองรวมกับเสื้อนักศึกษาของเธอ อานนท์มองหน้าหญิงสาวพร้อมวางมือทั้ง 2 ที่ไหล่บนสายบราของเธอเบา ๆ น้ำทิพย์ก้มหน้าเอียงอาย มือเค้าค่อย ๆ ลูบลงผ่านต้นแขนขาวเนียน บราตัวน้อยสิ่งสุดท้ายที่ปกปิดเต้างามหลุดลงกับพื้นทรายเผยให้เห็นอกอิ่มสมบูรณ์ ปลายยอดเป็นเม็ดเล็กเต่งชูชันสีชมพู เค้าประคองร่างสาวน้อยลงนอนเหยียดยาวข้างกาย แล้วใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปตามหน้าท้องแบบราบ น้ำทิพย์หลับตาพริ้มแขม่วท้องกระตุกด้วยความเสียว อานนท์ไล้นิ้วผ่านขึ้นไปยังอกอวบ ใช้ปลายนิ้วชี้ถูวนเบา ๆ บนยอดบัว เค้าทนต่อไปไม่ไหวกับใบหน้างดงามซึ่งหลับตาด้วยความสุขสม ร่างเปลือยนวลเนียนไร้ที่ติซึ่งทอดกายอยู่เบื้องหน้า
"โอ้ววว" น้ำทิพย์ครางพร้อมแอ่นอกอวบรับสัมผัสอุ่น บัดนี้ยอดถันได้หายเข้าไปอยู่ในปากอานนท์ผู้เป็นพ่อ เค้ากระดกปลายลิ้นสะกิดปลายยอดสลับดูดเบา ๆ อย่างทะนุถนอม
"อูยยย... ซี๊ดดส์" น้ำทิพย์สยิวกายขับน้ำรักจนชุ่มฉ่ำชั้นใน เธอไม่เคยได้รับความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
"โอ้วว... ซี๊ดส์... พ่อขา... ซี๊ดส์" น้ำทิพย์เริ่มปล่อยกายไปตามใจปรารถนา เธอครางอย่างที่ใจอยากคราง แขนทั้ง 2 ข้างยกขึ้นมือขยำศีรษะผู้เป็นพ่อรั้งเข้าหาตัวแอ่นอกอวบรับรสสัมผัสอย่างลืมตัว อานนท์ยิ่งรู้สึกดีที่ได้ทำให้ลูกสาวสุดที่รักมีความสุข เค้ายังโลมเลียพลางใช้มือลูบไล้ไปยังต้นขาบริเวณเหนือเข่าเล็กน้อยอย่างแผ่วเบา ความเสียวนี้เองส่งให้ยอดถันหดรัดเป็นเม็ดชูชันสู้เรียวลิ้นอานนท์ขึ้นไปอีก ทุกสัมผัสของปลายลิ้นที่ตวัดเสียดสียอดเต่งนั้นช่างสร้างความเสียวจนขนทั่วร่างพร้อมใจกันลุกชัน
"อุ๊ย... ซี๊ดดดส์" น้ำทิพย์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือของพ่อเธอซึ่งลูบไล้ต้นขา บัดนี้เลื่อนสอดเข้าภายในกระโปรงนักศึกษาช้า ๆ น้ำทิพย์รู้สึกตื่นเต้น เมื่อมีมือชายแตะต้องใกล้ของสงวน แต่มันก็ทำให้เธอซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก อานนท์ค่อย ๆ ลูบไล้เนื้อเนียนขึ้นไปช้า ๆ และแล้วปลายนิ้วของเค้าก็ได้มาแตะขอบชั้นในตัวน้อย ความฉ่ำเยิ้มจนรู้สึกได้ ยิ่งทำให้เค้ารู้สึกว่าลูกสาวกำลังมีความสุข
"อูยยยว์... อ้า" น้ำทิพย์ผวาทันที เธอรั้งศีรษะพ่อเธอเข้ากับเนินอกเมื่ออานนท์แทรกปลายนิ้วผ่านขอบชั้นในเข้าสัมผัสกับติ่งเนื้อแห่งความเป็นหญิงของเธอ มันช่างนุ่มนวลเหนือที่จะเอ่ย อีกทั้งยังลื่นไปด้วยเมือกใส ๆ พาให้นิ้วมือลูบไล้ได้อย่างไม่เสียดทาน ยิ่งเค้าลูบคลึงถูกปุ่มเท่าไหร่น้ำในร่องก็ยิ่งพร่างพรูออกมาชโลมนิ้วเท่านั้น
"ซี๊ดดดดส์... พ่อขา... ซี๊ดดส์" เสียงกระเส่านั้นเร้ากระตุ้นแก่นกายอานนท์ มันเหมือนจุดเริ่มของความซ่านบริเวณกลางตัวแล้วแผ่ขยายไปทั่วร่าง น้ำที่ชโลมนิ้วมือเค้าจนเปียกชุ่ม ความนุ่มปานเนื้อเด็กทารกแรกเกิดส่งให้คิดไปว่าถ้าได้ใช้เรียวลิ้นเข้าตวัดพร้อมลิ้มรสความหวานจะรู้สึกเช่นไร ไวเท่าความคิดอานนท์ล่ะปากจากยอดถันช้า ๆ พร้อมค่อย ๆ ถอนมือออกจากกระโปรง เค้าคุกเข่ามองร่างสาวน้อย น้ำทิพย์สบตาอานนท์แล้วเบือนหน้าหนียกแขนขึ้นพาดปิดเต้าอวบด้วยความเอียงอาย อานนท์ค่อย ๆ วางผ่ามือลงบนหน้าท้องลูกสาวอย่างแผ่วเบา และค่อย ๆ เลื่อนไล้สัมผัสความเนียนลงสู่ขอบกระโปรง ซิปถูกรูดอย่างช้า ๆ เสียงและความรู้สึกว่ามันค่อย ๆ ไหลลงกระทบข้างสะโพกอิ่มช่างเร้าอารมณ์น้ำทิพย์ อีกไม่นานร่างเธอจะเปลือยเปล่า อานนท์จับชายกระโปรงดึงลงช้า ๆ อย่างไม่รีบร้อน ขอบกระโปรงสีดำขับค่อย ๆ ร่นลงเผยให้เห็นชั้นในสีขาวมุกทีละน้อย ทีละน้อย หัวใจเค้าเต้นแรง ดวงตาจับจ้องสิ่งที่กำลังจะปรากฏเบื้องหน้า ไม่นานกระโปรงก็ถูกถอดออกพ้นจากร่างสาวน้อย แสงจันทร์สาดส่องกระทบร่างซึ่งมีเพียงชั้นในแบบเชือกผูกด้านข้างสีขาวมุกเป็นเงาตัวน้อยปิดบังไว้ ขับกับผิวเนียน สะโพกผายกลมกลึงอีกทั้งโหนกยังนูนเบียดเนื้อผ้าเป็นเนิน ณ เวลานี้จะหานางฟ้าองค์ใดงดงามเปรียบดั่งน้ำทิพย์คงไม่มี สวยเหลือเกิน อานนท์รำพันในใจ เค้าก้มหน้าลงหาเนินอกซึ่งถูกปิดบังด้วยท่อนแขนเล็ก ๆ อีกครั้ง ริมฝีปากพรมจูบเบา ๆ บนแขนนั้น อานนท์ค่อย ๆ ไล่จูบช้า ๆ ลงมายังฐานเต้าอวบ แล้วเบียดใบหน้าให้แขนน้อย ๆ เปิดทางเบา ๆ น้ำทิพย์เองมิได้ขัดขืนใด ๆ เค้าจึงพรมจูบขึ้นไปยังยอดถันอีกครั้งได้อย่างไม่ยากเย็น
"อ้า..." น้ำทิพย์ครางพร้อมยกแขนขึ้นโอบศีรษะพ่อเธอไว้อีกครั้ง อานนท์ดูดเลียยอดถันเต่งด้วยลิ้นอันฉ่ำนุ่มพลางเคลื่อนกายเข้าแทรกกลางหว่างขาลูกสาวแบบไม่ให้สะดุดในอารมณ์
"ซี๊ดดส์... พ่อขา... ซี๊ดดดส์" น้ำทิพย์ร้องครางทุกครั้งที่อานนท์ดูเน้นสลับขบเบา ๆ ที่ปลายยอด
"พ่อ... พ่อขา... อูวววส์... พ่อ" เสียงกระเส่าเร้าอารมณ์ดังไม่ขาดสาย คล้ายกับให้เข้าจังหวะเกรียวคลื่นกระทบฝั่งดั่งดนตรีขับกล่อมพาให้เคลิบเคลิ้ม น้ำทิพย์ทั้งแอ่นอกอิ่มรับลิ้น ในบางคราวของความเสียวก็เผลอกระดกยกเอวส่งเนินโหนกให้เบียดเข้ากับหน้าท้องผู้เป็นพ่อ ธรรมชาติในตัวเธอกำลังเรียกร้องบางสิ่ง เด็กสาวรู้สึกร้อนผ่าวภายในร่องหลืบ น้ำเมือกใส ๆ ไหลบ่าออกมาจนเกินกว่าจะขมิบไว้ได้ ในส่วนลึก ๆ ของจิตใจอยากให้มีสิ่งใดทะลวงลึกเข้าไปในร่องอันคับแน่นเสียเหลือเกิน ยิ่งคิดเอวน้ำทิพย์ก็ยิ่งร่อนเบียดผู้เป็นพ่ออย่างลืมตัว อานนท์มิใช่เด็ก เค้ารู้โดยทันทีว่าการกระทำเช่นนี้หมายถึงสิ่งใด เค้าค่อย ๆ พรมจูบไล้ลงจากยอดถันผ่านมายังหน้าท้องแบนราบ ความนุ่มเนียนนั้นราวกับใช้ปากประทับเข้ากับปุยฝ้าย
"อ้า... ซี๊ดดดส์" น้ำทิพย์จับศีรษะพ่อเธอหลวม ๆ ค่อย ๆ ประคอง ทุกยามที่ริมฝีปากประทับกับเนื้อเนียน หน้าท้องเธอจะกระตุกแขม่ว มันเสียวซ่านเกินกว่าเด็กสาวจะบรรยาย ศีรษะซึ่งค่อย ๆ ลดระดับลงส่งเบื้องล่าง สร้างความระทึกแก่เธอเป็นอย่างยิ่ง อีกไม่นานใบหน้าของพ่อบังเกิดเกล้าจะพบกับสิ่งที่เธอหวงแหนที่สุดในชีวิต
"อูวววว์... อื่มมมมมม" เพียงจูบสัมผัสเบา ๆ กระทบเข้ากับขอบชั้นในตัวน้อย น้ำทิพย์ก็อดที่จะครางพร้อมแอ่นเอวรับไม่ได้ บัดนี้เบื้องหน้าของอานนท์คือเนินหีอันโหนกนูน ซึ่งมีเพียงผ้าบาง ๆ ปิดไว้เท่านั้น เค้าพินิจมันอย่างหลงใหลก่อนจะค่อย ๆ ยื่นหน้าให้เข้าหามันอีกครั้ง อานนท์หลับตาพริ้มสูดกลิ่นดอมดมความหอม เค้าใช้จมูกซุกไซร์เข้ากับร่องเสียวภายนอกชั้นในซึ่งบัดนี้ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำแห่งความกระสัน ปลายลิ้นค่อย ๆ เกร็งแลบออกสัมผัสลิ้มชิมรสอันหอมหวาน
"อูยยยยว์... พ่อขา" น้ำทิพย์รั้งศีรษะอานนท์พร้อมแอ่นเนินเบียดเข้ากับหน้าของเค้า แต่หาทำให้อานนท์อึดอัดไม่ เพราะเนินเนื้อของน้ำทิพย์ช่างโหนกนูนแม้ใบหน้าจะถูกเบียดอัด แต่เค้ากลับรู้สึกนุ่มละมุน เรียวลิ้นยังคงชอนไช ปลายจมูกโด่งเป็นสันซุกเบียดเนินหีสร้างความเสียวจนน้ำทิพย์แทบหยุดหายใจ
"พ่อขา... น้ำ... ซี๊ดดดดส์" น้ำทิพย์เริ่มหอบหายใจแรงกระดกเอวเร็วขึ้นให้ปุ่มกระสันได้เสียดสีกับจะงอยลิ้นของเค้า แต่อานนท์หาต้องการให้เธอขึ้นสวรรค์โดยเร็วไม่ ครั้งแรกของเด็กสาวควรเป็นความสุขอันล้นปรี่ เค้าค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าออกจากเนินหี ในใจน้ำทิพย์รู้สึกเสียดายแต่มันก็ทำให้เธอได้พักหายใจ อานนท์ไล้เรียวลิ้นไปยังขอบเชือกด้านข้าง ริมฝีปากเม้มเข้ากับปลายเชือกค่อย ๆ ออกแรงดึงเบา ๆ อย่างนุ่มนวล
"พ่อขา" น้ำทิพย์ผงกศีรษะดู เธอรู้ทันทีว่าอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายกำลังจะจากเธอไป แต่เธอก็ไม่ได้มีอาการขัดขืนแต่อย่างใด มีเพียงความตื่นเต้นในใจ จากด้านหนึ่งอานนท์ค่อย ๆ เคลื่อนไปสู่อีกด้านหนึ่ง ไม่นานชั้นในตัวน้อยก็กลายเป็นเพียงผ้าบาง ๆ ซึ่งวางไว้บนเนินโหนก อานนท์จับขอบชั้นในนั้นอย่างตื่นเต้น เค้าค่อย ๆ ดึงมันลงมา น้ำทิพย์รู้สึกหน้าร้อนผ่าวร่างกายของเธอเหมือนถูกแผดเผาอยู่ภายใน แต่ทว่าเป็นความร้อนรุ่มในกาม ผ้าบาง ๆ ค่อย ๆ ร่นลงช้า ๆ ไรขนอ่อน ๆ เผยให้เห็น มันประดับอยู่บนเนินโหนกขาว ปากร่องปิดสนิทเป็นพูเนื้อสีขาวอมชมพูอ่อน ๆ ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำรัก
"น้ำ... ลูกพ่อสวยเหลือเกิน" เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่เค้าจะยื่นใบหน้าเข้าหาร่องหีงาม ๆ นั้น
"ซี๊ดดดดส์" ความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เมื่อมีปลายลิ้นสาก ๆ แต่นุ่มสัมผัสเข้ากับติ่งเนื้อซึ่งหลบอยู่ในกลีบกุหลาบ ความเสียวของเธอแล่นจากจุดกระสันแผ่ไปทั่วทั้งร่าง น้ำภายในร่องถูกขมิบขับตามจังหวะการโลมเลียของผู้เป็นพ่อ อานนท์เองก็ดูดดื่มอย่างไม่รังเกียจ ทั้งยังรู้สึกว่าน้ำของเด็กสาวนั้นหอมหวานดั่งน้ำผึ้งก็ไม่ปาน
"พ่อขา... น้ำเสียว... ซี๊ดดดส์... พ่อ" ไม่มีสิ่งใดที่น้ำทิพย์จะระบายออกได้ในเวลานี้ นอกจากเสียงครางแห่งความสุข ในร่องหีเธอปั่นป่วนมันทั้งขมิบทั้งคัน หน้าท้องกระตุกเป็นบางครั้งอย่างไม่ตั้งใจ อาการเช่นนี้เป็นความเสียวอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน อานนท์ไล้ลิ้นตวัดติ่งที่หลบซ่อนอยู่ในพูเนื้ออย่างชำนาญ มันช่างนุ่มละมุนหาใดเปรียบ ในใจคิดอยากจะห่อลิ้นแยงเข้าในร่อง แต่... อีกใจนึงสิ่งที่ควรจะแทรกเข้าไปเป็นอย่างแรกไม่น่าจะเป็นลิ้น
"พ่อขา... น้ำ... น้ำ" น้ำทิพย์เสียวจนต้องจิกกำเม็ดทรายละเอียด เธอกำลังถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง แต่อานนท์กลับไม่เร่ง หากแต่ค่อย ๆ ลดความเร็วในการสัมผัสติ่งเนื้อลง พลางเลื่อนตัวบรรจงพรมจูบขึ้นถึงใบหน้างาม ๆ ทั้ง 2 จ้องตากันอย่างลึกซึ้งภายใต้แสงจันทร์ บัดนี้แก่นกายของเค้ากำลังเบียดเข้ากับปากร่อนเสียวอันฉ่ำแฉะ
"ลูก... เสียใจรึป่าว" อานนท์ยันข้อศอกมองหน้าลูกสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล น้ำทิพย์ไม่ตอบแต่ส่ายหน้าเบา ๆ เห็นเช่นนั้นเค้าจึงค่อย ๆ โยกเอวให้ท่อนควยภายใต้กางเกงแพรถูไถกับเนินหีช้า ๆ
"ซี๊ดดดส์... อูววว์" ถึงเป็นเพียงภายนอกแต่สิ่งนี้ที่กำลังดุนเข้ากับร่องหีของเธอก็คือ ท่อนควยของพ่อบังเกิดเกล้า น้ำทิพย์ยกแขนขึ้นโอบหลังอานนท์ เค้าค่อย ๆ โยกขึ้นลงช้า ๆ แต่ให้จังหวะยาวขึ้น ลำควยแข็งซึ่งถูกถูไถ ไปกับร่องหี ค่อย ๆ เสือกตัวผ่านขอบกางเกงแพรทีละน้อย ทีละน้อย
"อุ้ยยยยย... พ่อขา... ซี๊ดดดส์" น้ำทิพย์ผวาครางกระเส่า เมื่อรู้สึกถึงปลายหัวควยอันร้อนผ่าวแตะเข้ากับร่องเสียวของเธอ มันเป็นเนื้อแท้หาใช่ผ้าแพรลื่น ๆ ไม่
"โอ้ววว... ลูกพ่อ... ซี๊ดดดส์" อานนท์เองก็เสียวสยิวกาย เค้ารู้ว่าบัดนี้กางเกงแพรได้ร่นลงเผยให้ลำควยออกมาสัมผัสกับเนินหีนุ่ม ๆ ของลูกสาวแล้ว
"ลูกพ่อ... น้ำ... นุ่มเหลือเกิน" อานนท์อดที่จะเก็บความรู้สึกไว้ในใจได้ เค้าถอยเอวยาวให้ปลายควยจ่อเข้ากับปากรูหี แล้วงัดขึ้นเบา ๆ หวังให้มันจมหายไปในรูหี แต่ด้วยความที่เป็นพูเนื้ออันโหนกนูนหัวควยจึงแทรกเข้าได้ยาก มันกลับไถลครูดติ่งเนื้อน้ำทิพย์ไปตลอดลำ
"ซี๊ดดดส์... อูวววว์" น้ำทิพย์จิกหลังผู้เป็นพ่อเบา ๆ อานนท์ก็เสียวแทบขาดใจนี่เป็นครั้งแรกที่ลำควยได้สัมผัสกับพูหีหลังจากที่เลิกรากับแม่ของน้ำทิพย์เป็นเวลานาน เค้าถอยเอวทำเช่นเดิม น้ำทิพย์หลับตาปี๋บีบหลังพ่อเธอแน่นเมื่อปลายควยจ่อเข้ากับทางเข้าอีกครั้ง อานนท์ดันมันเข้าช้า ๆ จนรู้สึกว่าหัวควยร้อนวาบ มันแทรกเข้าไปในพูเนื้อที่คับแน่น แล้วก็เหมือนติดกับปราการ ด้วยประสบการณ์รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่ขวางอยู่นั้นคือเยื่อพรมจารีอันเป็นสิ่งหวงแหนของหญิงสาวทุกผู้ทุกนาม อานนท์มองหน้าลูกสาวอีกครั้ง น้ำทิพย์ก็หาใช่เด็กไม่ เธอมองพ่อด้วยแววตาลึกซึ้งก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ เช่นนั้นอานนท์จึงค่อย ๆ ดันดุ้นเนื้อช้า ๆ อีกครั้ง
".........." ไม่มีเสียงร้องใด ๆ น้ำทิพย์เม้มริมฝีปากแน่น ปลายเล็บถูกจิกลงบนเนื้อของอานนท์ ความรู้สึกของเธอในตอนนี้มันเจ็บเกินกว่าจะบรรยาย
"พ่อขอโทษ... ลูกพ่อ" อานนท์รู้สึกเสียใจขึ้นมาโดยพลัน เมื่อเห็นน้ำใส ๆ ไหลรินออกมาจากหางตา น้ำทิพย์ไม่พูดสิ่งใด เธอยิ้มอย่างเป็นสุขทั้งน้ำตา แล้วค่อย ๆ รั้งตัวพ่อเธอลงมาประกบจูบ ทั้ง 2 ดูดดื่มกันพบพื้นทราย ความเสียวสยิวพาให้ความรู้สึกเจ็บปวดบรรเทาเบาบางลง ท่อนเนื้อค่อย ๆ จมหายลงไปในรูหีช้า ๆ ทีละน้อย จนหนอกเนินทั้งคู่บดเข้าหากัน
"อื่มมมมม" ช่างวิเศษอะไรเช่นนี้ ภายในนุ่มอบอุ่นโอบรัดพอดีกับลำเนื้อ ในรูหีตอดหัวควยตุ๊บ ๆ ให้เสียวแทบกลั้นน้ำรักไว้ไม่อยู่ น้ำทิพย์เองก็รู้สึกเสียวอย่างประหลาด เหมือนมีสิ่งมีชีวิตแทรกเข้ามาอยู่ในกาย มันเต้นกระตุกในร่องหีเธอ ความคันยิบยับเมื่อครู่จางหายไป แต่ถ้าท่อนควยนี้ขยับเข้าออกคงเพิ่มความสุขให้เธอได้มากว่านี้เป็นแน่ เพียงชั่ววูบแห่งความคิด อานนท์ก็ค่อย ๆ ถอนลำควยออกช้า ๆ ประมาณครึ่งลำแล้วบรรจงกดมันลงไปใหม่
"ซี๊ดดดส์... พ่อ" น้ำทิพย์เบือนหน้าจากการจูบพร้อมร้องเบา ๆ แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาจากความเจ็บแต่กลับเป็นความเสียวอย่างที่เธอคิดไว้
"น้ำไม่เจ็บแล้วค่ะพอ" ด้วยความเสียวนี้ ความกระดากอายไม่มีเหลืออีกแล้ว นี่เป็นคำเชิญให้พ่อบังเกิดเกล้า สาวควยเย็ดหีเธอได้ตามสะดวก อานนท์ถอนควยออกอีกครั้งคราวนี้ยาวเกือบสุดแล้วดันแทรกมันลงไป แต่หาเพียงแต่ลงสุดไม่ เค้ายังบดเบียดให้หนอกเนินประสานกัน ลำควยจึงเข้าลึกในรูหีเป็นอย่างมาก
"อูววว์... น้ำเสียว" ยิ่งได้ยิน ยิ่งเป็นการกระตุ้นตัณหาของอานนท์ เค้าโยกเอวเร็วขึ้นแต่ยังคงจังหวะสาวยาว ทุกครั้งที่ลำควยแทงลงไปจะประเคนความเสียวอย่างสุดขั้วให้ทั้งเค้าและเธอ
"พ่อขา... พ่อ... ซี๊ดดดส์... อูววว์... น้ำเสียว... ซี๊ดดส์" อานนท์เร่งจังหวะเร็วขึ้นส่งให้น้ำทิพย์ผู้ชิมรสรักเป็นครั้งแรกถึงกับครางเสียงหลง มันยิ่งทำให้เค้าได้ใจที่ได้เห็นลูกสาวมีความสุข เค้ายิ่งเร่งขึ้น
"โอ้ววว์... พ่อ.. พะ.. ซี๊ดส์.. น้ำ.. ซี๊ดดส์" น้ำทิพย์ละทิ้งความเจ็บปวด เธอกอดร่างพ่อไว้แน่น พร้อมกระดกเอวยกเนินหีขึ้นสู้กับลำควยที่กระหน่ำเย็ดอย่างไม่อาย ความรู้สึกที่แท่งควยแทรกครูดเข้าออกในหีเธอนั้นมันเสียวสยิวสุด ๆ
"ลูกพ่อ... อ้า... เสียวเหลือเกิน... ลูกพ่อ" ใจจริงอานนท์อยากจะให้เกมส์รักในครั้งนี้ยืดยาวแต่ความเสียวกลับเล่นตลก เค้าไม่สามารถหยุดการกระเด้าเย็ดนี้ได้ รสสัมผัสมันช่างเสียวเกินกว่าจะห้ามใจให้ลดความเร็วลง กลับกันเค้ากลับเร่งซอยเย็ดหนักหน่วงเร็วแรงกว่าเดิม
"พ่อ.. น้ำ.. ไม่ไหวแล้ว... เสียว.. สะ.. เสียว.. น้ำ" คำที่พร่ำบ่นว่าไม่ไหวแต่ท่อนล่างของน้ำทิพย์ยังคงกระดกสู้ไม่ขาดแม้ พ่อเธอจะเย็ดเร็วแรงขึ้นเพียงใด น้ำทิพย์กำลังจะขึ้นสวรรค์ หลังจากเกือบถึงเป็นครั้งที่ 3
"จะ.. จะออกแล้ว... พ่อขา... ซี๊ดส์...อูวววววว์" จุดสุดยอดครั้งแรกกับท่อนเนื้อช่างเป็นความสุขหาใดเปรียบ มันเหมือนตกจากที่สูงแล้วล่องลอยในความมืด เธอเกร็งโอบรัดผู้เป็นพ่อ ร่างกระตุกสะท้าน ร่องหีบีบตัวแน่น
"ลูก... แน่นมากเลย... ซี๊ดส์... พ่อขอนะ... น้ำ... พ่อขอ" น้ำทิพย์ยังไม่รู้ว่าพ่อเธอขออะไรก็ต้องสะดุ้งผวาอีกครั้ง น้ำเงี่ยนอุ่น ๆ พุ่งแรงเข้าในโพรงหีเธอ มันหวิว ๆ อย่างบอกไม่ถูก ดุ้นควยที่อยู่ในร่างเธอนั้นกระตุกเป็นจังหวะ มันฉีดน้ำเข้าในตัวเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะค่อย ๆ อ่อนตัวลง อานนท์ทิ้งร่างลงซบซอกคอลูกสาว ทั้งคู่หอบหายใจยาวอย่างมีความสุข

< -------- >

แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องกระทบผิว เสียงวิหกโผบินหาอาหารร้องเจื้อยแจ้ว น้ำทิพย์ซึ่งตื่นก่อนนำเสื้อมาบดบังร่างเปลือยของอานนท์ไว้จากธรรมชาติแวดล้อม สัมผัสของเนื้อผ้าทำให้อานนท์รู้สึกตัว เค้าลืมตาขึ้นช้า ๆ ใบหน้างาม ๆ ซึ่งได้พบในยามตื่น ช่างเหมือนครั้งเมื่อยังอยู่กับภรรยาในคราก่อน ขาดเพียงแต่รอยจูบที่มีให้กันเมื่อเริ่มวันใหม่เท่านั้น เค้าเหม่อมองใบหน้าลูกสาวอย่างพินิจ หวนคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน
"เข้าบ้านเถอะค่ะพ่อ" เสียงใส ๆ เหมือนปลุกให้อานนท์ตื่นจากภวังค์ เค้าเม้มริมฝีปากยั้งใจว่านี่คือลูกสาวหาใช่ภรรยาไม่ แต่จากปฏิกิริยานั้น น้ำทิพย์คงรู้
"ถ้าพ่อจับน้ำได้ เดี๋ยวน้ำให้หอมแก้ม" สิ้นเสียงน้ำทิพย์ก็ผละจากตัวพ่อเธอ วิ่งประคองผ้าซึ่งปิดเต้าอวบมุ่งเข้าบ้าน ภาพเด็กสาวเปลือยด้านหลังวิ่งด้วยความสดใสร่าเริงหันมามองเค้าเป็นระยะ ส่งให้อานนท์สลัดผ้าวิ่งตาม ทั้ง 2 ไล่จับกันราวกับเป็นคู่รัก
"เข้าบ้านแล้วถือว่าพ่อแพ้นะคะ" น้ำทิพย์ตะโกนบอก เมื่อเธอใกล้ถึงบ้านเต็มที แต่แล้วเมื่อเธอเอื้อมมือจับลูกบิด
"จับได้แล้ว" อานนท์รวบเอวคอดกิ่วได้ทันควัน ร่างสาวน้อยตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น น้ำทิพย์หันกลับมามองหน้าเค้า ยังไม่ทันได้เอ่ย สิ่งใด อานนท์ก้มลงบรรจงจุมพิตริมฝีปากลูกสาวอย่างแผ่วเบา ทั้ง 2 มองแววตากันอีกครั้ง
"พ่อเนี่ย... ขี้โกง น้ำบอกว่าให้หอมแก้ม ไม่ใช่จูบซักหน่อย" น้ำทิพย์เอียงอายพูดด้วยน้ำเสียงขวยเขิน
"ทำไม..." น้ำทิพย์มองหันกลับมามองอานนท์ด้วยความงงในคำถาม
"ทำไม ทำไมอะไรคะ" เธอถามด้วยความฉงน
"เมื่อคืนทำไม... เอ่อ ลูก" น้ำทิพย์รู้ทันทีถึงคำถาม เธอยกมือน้อย ๆ ขึ้นปิดปากผู้เป็นพ่อ
"พ่อไม่ต้องพูด น้ำเลือกเอง" ทั้ง 2 ประสานสายตากันอย่างลึกซึ่ง เหมือนพยายามมองเข้าไปภายในจิตใจของกันและกัน
"พ่ออยากรู้ไม๊ ว่าน้ำขออะไรตอนเป่าเทียน" น้ำทิพย์พูดพร้อมลดมือลงช้า ๆ อานนท์ไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าเบา ๆ
"น้ำขอให้พ่อมีความสุข น้ำจะทำทุกอย่างให้พ่อมีความสุข ตลอดมาตั้งแต่จำความได้ น้ำไม่เคยเห็นพ่อมีความสุขเลย เห็นแต่ทำงาน น้ำโตแล้ว น้ำเข้าใจว่าผู้ชายต้องปลดปล่อย ถ้าพ่อจะมีแม่ใหม่น้ำเองก็ไม่ว่า แถมจะดีใจด้วยเสียอีก ที่จะได้มีคนมาคอยดูแลพ่อ แต่พ่อกลับ"
"พ่อมีความสุข แค่พ่อได้ดูแลลูกให้เติบโต นี่แหละคือความสุขที่สุดของพ่อ" อานนท์พูดสวนด้วยน้ำเสียงนุมนวล เพียงน้ำทิพย์ได้ยินดวงตาเป็นประกายก็บังเกิดน้ำใส ๆ คลอเป้า ก่อนจะรวมตัวไหลผ่านพวงแก้มสีชมพู
"จำได้ไม๊... อย่าร้องไห้สิคะ แม่บอกว่าเด็กดีต้องไม่ร้องไห้" อานนท์ปาดน้ำตาด้วยนิ้วโป้ง พร้อมเอ่ยประโยคที่ทำให้เค้าประทับใจเมื่อแรกเห็นเธอ เด็กน้อยซึ่งปลอบเค้าให้หายจากความโศกเศร้า
"น้ำรักพ่อค่ะ" น้ำทิพย์ซบหน้าเข้ากับแผงอกกำยำ ในอ้อมกอดช่างอบอุ่นและอบอวนด้วยความรัก ดูเหมือนทั้ง 2 จะค้นพบความสุขแท้จริงในชีวิตที่ตามหามานานแล้ว

< -------- >

เวลาผ่านล่วงเลยจากวันเป็นเดือน บริเวณชานหน้าบ้าน อานนท์กับเสื้อยืดสบาย ๆ และกางเกงแพรนั่งจดจ่อกับงานหน้าโน้ตบุ๊คคู่ใจอย่างเคย ความปลอดโปร่งของธรรมชาติ กอบกับอุ่นไอรักจากลูกสาว ทำให้เค้าคิดงานได้ลื่นไหลกว่าแต่ก่อนมาก
"กาแฟค่ะคุณพ่อ" น้ำทิพย์ในชุดนักศึกษาเสื้อพอดีตัวกระโปรงยาวจีบรอบดูสุภาพเรียบร้อย วางถ้วยกาแฟลงข้าง ๆ โน้ตบุ๊ค
"เรียนกี่โมงลูก" อานนท์เงยหน้าขึ้นถามโดยไม่ละมือจากแป้นพิมพ์
"น้ำบอกว่าอย่าเครียดมากไงคะ" น้ำทิพย์วิสาสะพับปิดโน้ตบุ๊คพร้อมขึ้นคร่อมนั่งตัก 2 มือโอบประสานคล้องคอผู้เป็นพ่อ
"ไว้น้ำเรียนจบ น้ำจะช่วยพ่อหาเงิน พ่อจะได้ไม่ต้องเหนื่อยอีก"
"จ๊ะลูก" อานนท์โอบเอวลูกสาวเอ่ยคำด้วยสีหน้าอิ่มเอม ในใจรู้สึกภาคภูมิกับลูกสาวคนนี้เป็นอย่างมากที่มีความกตัญญู เค้าขโมยหอมลูกสาวอย่างไม่ให้ตั้งตัวฟอดใหญ่ ดูราวกับคู่รักหยอกล้อก็ไม่ปาน ทำเอาหญิงสาวเอียงอายแก้มแดงเป็นลูกตำลึง
"พ่อเนี่ย น้ำไม่คุยด้วยแล้ว" น้ำทิพย์ทำท่าจะลุกขึ้น แต่อานนท์จับเกร็งแขนไว้ ทั้ง 2 มองหน้ากัน โดยไม่มีคำพูดใด ๆ น้ำทิพย์ค่อย ๆ ก้มลงประกบจูบริมฝีปากผู้เป็นพ่ออย่างแผ่วเบา ก่อนปฏิกิริยาตอบสนองจะส่งให้เค้าและเธอบดปากแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ไม่นานน้ำทิพย์ก็ได้รับรู้ถึงสิ่งหนึ่ง มันค่อย ๆ พองขึ้นเบียดเข้ากับเนินโหนกกลางหว่างขาเธอ เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะหลังจากครั้งแรกที่ชายหาด การร่วมรักระหว่างเธอกับพ่อจะอยู่ภายในบ้านตลอด แต่ครั้งนี้กลับเป็นบริเวณชานบ้าน อีกทั้งยังเป็นกลางวันแสก ๆ เพียงแค่คิดน้ำภายในร่องเสียวก็เริ่มเคลื่อน จนซึมแฉะบริเวณปากถ้ำ เต้าอวบภายใต้บราเซียคัดเต่งยอดถันลุกชูหดรัดเป็นเม็ดจนเธอรู้สึกได้ น้ำทิพย์ไซร์ริมฝีปากเบือนไปตามแก้มผ่านไปยังซอกคอของอานนท์ เธอเองก็เกิดอารมณ์มิใช่น้อยท่อนร่างจึงถูไถเนินโหนกเข้ากับลำควยแข็งช้า ๆ อย่างลืมตัว
"อูววว์... น้ำ... ซี๊ดดส์" อานนท์ถึงกับครางกระเส่าใบหน้าร้อนผ่าว 2 มือบีบคลึงก้นงอนงามภายนอกกระโปรง มันช่างหยุ่นนุ่มรับกับการเคล้าคลึงยิ่งนัก ฝ่ายน้ำทิพย์ด้วยอารมณ์เตลิดเริ่มบดเอวเป็นวงให้เนินหีซึ่งบัดนี้เริ่มชื้นแฉะเล็กน้อยเบียดเข้ากับลำควย ทำเอาอานนท์ต้องรวบชายกระโปรงขึ้น ใช้นิ้วเกี่ยวขอบชั้นในด้านข้างหมายจะให้ท่อนเนื้อได้แทรกเข้าในร่องเสียวจริง ๆ แต่ยังไม่ทันได้ดึงรั้ง
"อย่าคะพ่อ... เดี๋ยวเลอะ น้ำมีเรียน... มา.. เดี๋ยวน้ำทำให้" เสียงกระเส่าห้ามข้างใบหูชะงักเค้าไว้ทัน แต่ประโยคหลังก็ไม่ทำให้เค้าเสียอารมณ์หรือค้างคา น้ำทิพย์ค่อย ๆ เลื่อนไล้กายลงแทรกตัวคุกเข่าตรงหว่างขาผู้เป็นพ่อ เธอยื่นหน้าไปยังส่วนกลางลำตัว ใช้นิ้วมือเรียวเกี่ยวขอบยางยืดกางเกงแพรและชั้นในลงพร้อม ๆ กัน เธอไม่รั้งรอให้มันสัมผัสกับอากาศภายนอก
"ซี๊ดดดส์... อู้วววว" ทันทีที่ลำควยโผล่พ้นกางเกงแพร ปากก็เข้าครอบลำลึงค์ ทั้งไออุ่น และความนุ่มของเรียวลิ้น พาให้อานนท์สยิวจากแก่นกลางลำตัวแผ่ซ่านไปทั่วร่าง 2 มือเกร็งเงยหน้าซู๊ดปากหลับตาพริ้มด้วยความเสียว แต่การหลับตาของเค้าในครั้งนี้มันก่อให้เกิดสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างมหันต์ แสงบางอย่างตกกระทบไปมายังตัวบ้าน จนกระทั่งหยุดจับอยู่บริเวณร่างของเค้า การกระทำของ 2 พ่อลูกซึ่งคิดว่าอยู่ในหาดส่วนตัว บัดนี้กลับไม่เป็นส่วนตัวอย่างที่คิดเสียแล้ว ชาวประมงท้องถิ่นซึ่งส่องกล้องมองคลื่นลมและฝูงปลาเหมือนทุกวัน กลับส่องมาพบสิ่งอันไม่บังควร
"อื่มมมม" คลื่นเสียงในลำคอแผ่กระทบเข้ากับท่อนเนื้อภายในปาก น้ำทิพย์ซึ่งเป็นฝ่ายหยิบยื่นความสุขให้พ่อ บัดนี้เริ่มครางเบา ๆ เมื่ออานนท์เลื่อนฝ่ามือลงประกบเต้าอวบภายใต้ชุดนักศึกษาที่ขาวสะอาดแล้วบีบเคล้นมันเบา ๆ อย่างนุ่มนวล อีกทั้งลำควยเขื่องในปากนั้นยังกระตุกเป็นจังหวะเมื่อปลายลิ้นของเธอเลียไล้บริเวณปลายท่อ ช่างเร้าอารมณ์ให้เตลิดพาให้คิดถึงเวลามันกระตุกเต้นภายในร่องเสียวของเธอ เพียงแค่คิดกับสัมผัสที่เริ่มเร่าร้อนกับอกอิ่มของเธอ ส่งให้สิ่งที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นบังเกิดขึ้นแล้วในขณะนี้ ร่องเสียวขมิบขับน้ำเงี่ยนจนแฉะชั้นในตัวน้อย ภายในร้อนวูบวาบผ่านขึ้นมาถึงใบหู เธอยังคงใช้ปากกับส่วนกลางนั้นแต่อาการหายใจแรง และบิดหน้าขาเข้าหากัน ไม่สามารถรอดพ้นสายตาพ่อเธอไปได้ อานนท์ไร้มือขึ้นจนถึงลำคอแล้วค่อย ๆ สอดมันผ่านลงไปภายในบราเซียโดยไม่มีอาการบัดป้องใด ๆ จากน้ำทิพย์
"อื่มมมมม" เธอครางพร้อมบิดร่างด้วยความเสียวทั้ง ๆ ที่ท่อนเนื้อยังคงอยู่ในปาก ทำให้อานนท์เองก็ซ่านสยิวควยไปด้วยไม่แพ้กัน
"ซี๊ดดดส์... น้ำ... พ่อขอนะ... เดียวเปลี่ยนก็ได้" อานนท์รู้สึกเงี่ยนเต็มที่ แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับมา น้ำทิพย์ยังคงทำหน้าที่ของเธอไปอย่างไม่หยุดหย่อน เธอเริ่มห่อปากกระชับผงกศีรษะรูดขึ้นลงตลอดลำควย
"อูยยย... พ่อรู้ว่าลูกก็อยาก... อูววว์... ดูสิหัวนมน้ำสู้มือพ่อเป็นเม็ดเชียว" อานนท์ไม่พูดเปล่า เค้าใช้ง่ามนิ้วชี้กับนิ้วกลางคีบยอดถันแล้วคลึงมันเบา ๆ
"อ้า..." น้ำทิพย์ถึงกลับหยุดชะงักอ้าปากครางกระเส่า อานนท์เห็นเช่นนั้นจึงฉวยโอกาสทองถอนมือออก พร้อมช้อนร่างลูกสาวคนงาม และด้วยความรวดเร็วก่อนที่สาวน้อยจะหย่อนก้นนั่งลงกลางลำตัวพ่อ พลันชั้นในอันฉ่ำเยิ้มก็ถูกเกี่ยวรั้งไปกองอีกด้านจากด้านหลัง
"อูยยย์... ซี๊ดดดส์... อ้า" มันช่างประจวบเหมาะเสียนี่กระไร ลำควยเขื่องซึ่งตั้งเด่ถูกร่องหีเข้าครอบงำ ทั้งน้ำหนักที่ทิ้งลงมาและความไม่ตั้งตัว ทำให้ท่อนเนื้อแทรกเข้าไปทีเดียวมิดด้าม
"ซี๊ดดดดส์... อืมมม" ถึงแม้ตลอดเดือนที่ผ่านมาทั้ง 2 จะเล่นรักกันหลายครั้งแต่ดูเหมือนจะไม่ทำให้ร่องสวาทนี้เกิดความเสียหายเลย มันยังคงคับแน่นปานประหนึ่งครั้งแรกทีเดียว อานนท์เกร็งท่อนเนื้อให้กระตุกภายในร่องหีลูกสาวเป็นการหยั่งเชิง
"อุ๊ย... ซี๊ดดดส์... พ่อขา" น้ำทิพย์ซบเข้ากับซอกคอผู้เป็นพ่อส่งเสียงครางเบา ๆ ข้างใบหูพร้องขมิบรับอย่างลืมตัว
"ค่อย ๆ ลูก" อานนท์กระซิบเสียงนุ่ม พลางช้อนก้นลูกสาวเบา ๆ เหมือนไม่ได้ออกแรง น้ำทิพย์โหย่งตัวขึ้นช้า ๆ ร่องหีเธอค่อย ๆ คายลำควยอันมันเลื่อมทีละน้อยจนเกือบหลุด อานนท์รู้ถึงแรงขมิบจากปากร่องเสียวของลูกสาวโอบรัดบริเวณเกือบถึงคอหยักจึงออกแรงกดตัวเธอลงเบา ๆ ร่างของสาวน้อยค่อย ๆ หย่อนพาเอาร่องหีอุ่นโอบครอบลำควยลงไปอีกครั้งช้า ๆ อย่างว่าง่าย
"ซี๊ดดดส์... อย่างนั้นลูกพ่อ... อื่มมม" เมื่อเนินหนอกของทั้ง 2 ประกบกันเป็นสัญญาณว่าท่อนควยของเค้าหลุดหายไปในร่องหีของเธอทั้งดุ้นแล้ว น้ำทิพย์ส่ายเอวเป็นวงช้า ๆ เธอค่อย ๆ บดคลึงหนอกให้เม็ดกระสันถูไถ
"โอว์... ลูก... น้ำ" ใช่เพียงน้ำทิพย์ที่เสียวร่องจนขับน้ำออกมาอย่างพร่างพรูจนบัดนี้ไหลเยิ้มลงไปถึงพวงสวรรค์ของผู้เป็นพ่อ อานนท์เองก็เสียวเจียนขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าเช่นเดียวกัน เพราะลำควยอันยาวของเค้าทำให้ปลายหัวถูกับปากมดลูก อีกทั้งความโอบแน่นกระชับของรูหีนั้นช่างประกอบกันให้บังเกิดความเสียวสุดยอด
"น้ำ... หยุดก่อน... น้ำ...พ่อ... ซี๊ดดส์" อานนท์รู้ตัวดีว่าคงทนกันการบดคลึงและแรงตอดรัดได้อีกไม่นานจึงเอ่ยปากพร้อมรั้งสะโพกลูกสาวให้หยุดการบดเบียดนั้น แต่น้ำทิพย์หาฟังไม่ เธอเองก็เสียวเกือบถึงจุดเช่นกัน ถึงแม้จะไม่ได้ขย่มโยกก็ตาม เธอโอบกอดอานนท์แน่นทั้งยังโยกหน้า โยกหลัง โดยไม่ยกตัวขึ้น
"ซี๊ดดดส์... พ่อขา... ซี๊ดดดส์"
"น้ำ... น้ำ... โอ้ยยว์... พอก่อน..."
"อูววววววว์... ซี๊ดดดดดดส์" เสียงครางพร้อมกัน ปลายเท้าทั้งคู่งอหงิก ร่างเกร็งกระตุก ร่องหีขมิบรัดลำควยอย่างแรง น้ำทิพย์รู้สึกซ่านสบายไปทั่วร่าง
"โอววววว์" หลังจากอานนท์เกร็งเล็กน้อย น้ำทิพย์ถึงกลับครางผวาอีกครั้ง เมื่อน้ำเงี่ยนอุ่น ๆ พุ่งเข้าในตัวเธออย่างแรง เป็นละรอก 3-4 ครั้ง เค้าและเธอหอบเบา ๆ ถึงแม้จะไม่ใช่บทรักที่ขย่มกันแบบถึงพริกถึงขิงแต่มันก็ทำให้ทั้ง 2 เสียวซ่านไม่แพ้ครั้งไหน ๆ
"พ่อเนี่ย น้ำเลอะหมดเลย" น้ำทิพย์มองหน้าพ่อต่อว่าแบบงอน ๆ
"มาว่าแต่พ่อ เมื่อกี๊ใครก็ไม่รู้ โยกใหญ่เลย" อานนท์แซว
"พ่ออ้า" เธอออกอาการเขินอายทันที ส่งให้แก้มสีชมพูเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อเพิ่มความน่ารักมากขึ้นไปอีก
"ไปทำความสะอาดไป เดียวพ่อไปส่ง"
"ไม่ต้องหรอกค่า พ่อทำงานเถอะ"

< -------- >

"กลับมาแล้วค่ะ เอ๋! ทำอะไรคะพ่อ" น้ำทิพย์วางหนังสือลงถามแบบงง ๆ เบื้องหน้าคือเศษไม้ และ กระป๋องสีกับอุปกรณ์ช่างอีกหลายรายการ
"มาน้ำ มาช่วยกัน" อานนท์หันมองลูกสาวโดยในมือยังถือเลื่อยฉลุอยู่
"อะไรคะพ่อ"
"ป้ายน่ะจะ ป้ายชื่อบ้านเรา "
"อ๋อเหรอคะ ดีค่ะน้ำช่วย แต่เอ... บ้านเราจะชื่ออะไรดีล่ะคะ"
"อึ่ม... นั่นสิ"
"บ้านอุ่นรักดีไม๊คะพ่อ ชื่อมันอบอุ่นดี"
"ดีจ้า อะ ร่างแบบอักษรลงไม้เลย" อานนท์ยื่นดินสอให้น้ำทิพย์ 2 พ่อลูกช่วยกันทำป้ายอย่างสนุกสนาน หยอกล้อกันบ้าง ซับเหงื่อช่วยเหลือกันบ้างดูแล้วอบอุ่นสมกับเป็นบ้านอุ่นรักโดยแท้


< -------- >

"เย้! เสร็จแล้ว" น้ำทิพย์ชูมือประกาศก้องเหมือนเด็ก ๆ ป้ายที่ได้ถึงมันจะไม่สวยเท่ากับสั่งทำ แต่มันมีความรักแฝงอยู่ภายใน เพียงได้มองก็รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น
"ฮ่า ๆ ๆ ดูสิ" อานนท์ชี้หน้าลูกสาวพลางหัวเราะ
"พ่อหัวเราะน้ำทำไม" ยิ่งน้ำทิพย์เอามือป้ายหน้าก็ยิ่งเลอะ อานนท์ก็ยิ่งหัวเราะในความตลกของลูกสาว
"อ๋อ นี่แหนะ มาเลย เอาให้เลอะเหมือนกัน" น้ำทิพย์หยิบพู่กันหมายจะวาดหน้าอานนท์บ้าง 2 พ่อลูกเย้ากันราวกับเป็นคู่รักจนเลอะเทอะไปทั้งตัว
"พอแล้ว ๆ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวไปตลาดกัน" อานนท์พูดหัวเราะไปพร้อมล็อคมือน้ำทิพย์ไว้เบา ๆ
"ไม่! พ่อต้องให้น้ำวาดหนวดก่อน" น้ำทิพย์เอียงหน้างอน
"อะจะ อะจะ ก็ได้"

< -------- >

ตลาดยังคงคราคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาเฉกเช่นทุกวัน แต่บรรยากาศในวันนี้กลับแตกต่างจากวันวาน ความมึนตึง และอากัปกิริยาซึ่งเปลี่ยนไปทันทีเมื่อ อานนท์และน้ำทิพย์ย่างก้าวเข้าเหยียบในพื้นที่
"นี่ไง..."
"เออ ไอ้พ่อลูกคู่นี้แหละ"
"ทุเรศว่ะ ทำไปได้ไงวะ ไม่กลัวนรกจะกินกบาลเอารึไงก็ไม่รู้"
"ใช่ ๆ มีแต่หมาเท่านั้นล่ะ ชั้นว่านะ" เสียงกระซิบกระซาบกันของพ่อค้าแม่ขายดังระงมไปทั่ว เมื่อเค้าและเธอเดินผ่านหน้าร้าน ก็จะมีดวงตามองจ้องมายัง 2 พ่อลูกอย่างหยามเหยียดเหมือนเป็นตัวประหลาด น้ำทิพย์รู้สึกแปลก ๆ ปนหวาดกลัว ด้วยสัญชาติญาณทำให้เธอยก 2 มือขึ้นกอดแขนผู้เป็นพ่อเพื่อหาความปลอดภัย
"แม่ค้า เอาผักนี่หน่อยสิคะ" น้ำทิพย์ชี้ไปยังผักสีเขียวสดน่ารับประทาน
"ไม่ขาย! ไป ๆ ออกไปจากหน้าร้านชั้น เดี๋ยวเสนียดจะมาติดเอา ไป!" แม่ค้าตะโกนไล่เสียงดัง พร้อมปาเศษผักใส่เธอด้วย
"ใช่! ไปเลย ออกจากที่นี่ไปเลย ไม่มีใครขายของให้แกหรอก ไป! ออกไป!!"
"พวกเราไม่ให้ไอ้พวกวิปริตอยู่ร่วมกับพวกเรา ไป! ออกไป ย้ายออกไป" ทั้งแม่ค้า พ่อค้า ชาวบ้านร้านตลาดซึ่งจับจ่ายซื้อของต่างรุมด่า ทั้งไข่ ทั้งน้ำทิ้ง ถูกขว้าง และสาดเข้าใส่ 2 พ่อลูก ราวกับไล่หมูไล่หมา จนอานนท์ต้องโอบศีรษะลูกสาวไว้ในอ้อมอก โดยเอาตัวเองเป็นโล่กำบังจัดแจงรีบพาเธอออกจากตลาด สิ่งปฏิกูลเหลือทิ้งยังคงประดังเข้าหาร่างเค้า พลันก้อนหินขนาดย่อม ๆ ก็ปลิวกระแทกเข้ากับหางคิ้วซ้ายอย่างจัง เลือดแดงฉานไหลเป็นทาง แต่ความเจ็บปวดหาทำให้เค้าหยุดการเดินฝ่าฝูงชนที่ด่าทอและขว้างปาไม่
"ถ้าไม่ย้ายออกเราจะให้ผู้ใหญ่บ้านขับพวกแกออก" เสียงขับไล่ยังดังไล่หลัง แม้เค้าและเธอจะหลุดออกจากบริเวณตลาดแล้วก็ตาม

< -------- >

ทันทีที่กลับถึงบ้าน น้ำทิพย์จัดแจงหยิบกล่องยาเพื่อทำแผลให้อานนท์ผู้เป็นพ่ออย่างร้อนใจ โดยไม่สนว่าร่างกายของเธอในตอนนี้ก็สกปรกเปียกปอน และบอบช้ำไม่น้อยไปกว่าเค้า น้ำทิพย์ยืนด้วยเข่าตรงหน้าอานนท์ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา มือไม้หยิบลำลีอย่างลนลาน
"พ่อขอโทษ" อานนท์ยกมือขึ้นจับมือลูกสาวที่กำลังใช้สำลีเช็ดแผลบริเวณหางคิ้วพร้อมเอ่ยคำขึ้นทำลายบรรยากาศแห่งความเงียบ เค้ามองประสานสายตาแห่งความเศร้าหมอง
"น้ำต่างหากที่ต้องขอโทษพ่อ น้ำทำให้พ่อต้องอัปยศในสายตาคนอื่น" น้ำทิพย์ตอบเสียงสะอื้น เพียงเสียววินาที น้ำตาก็พลันไหลอาบแก้ม
"ลูกคนดี อย่าร้องไห้"
"เราย้ายไปอยู่ที่อื่นกันดีไม๊ค่ะพ่อ"
"โลกกว้างใหญ่ แต่ไม่มีที่สำหรับคู่รักที่เป็นพ่อลูกกันหรอก เราต้องยอมรับว่าพวกเราผิด" อานนท์อธิบายอย่างปลงในสิ่งที่ได้กระทำ
"ไม่ค่ะ พ่อไม่ผิด" น้ำทิพย์ร้องสะอื้นโผเข้ากอดอานนท์ เธอร้องไห้ฟูมฟายปานจะขาดใจ เธอรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรับไม่ได้กับการกีดกันของสังคม ในเบื้องลึกนั้นน้ำทิพย์วาดฝันจะใช้ชีวิตคู่กับอานนท์อย่างมีความสุขแต่หาใช่ในฐานะลูกไม่ เธอปรารถนาถึงการมีเจ้าตัวน้อยและได้ร่วมเลี้ยงดูให้เติบใหญ่กับเค้า ลูกของเธอจะได้รับความอบอุ่นจากทั้งพ่อและแม่อย่างที่เธอไม่เคยมีโอกาสได้รับมาก่อน
"ในเมื่อชาตินี้เรารักกันไม่ได้ น้ำขอให้ชาติหน้าและทุกชาติไปได้เกิดเป็นคู่รักกับพ่อ" น้ำทิพย์เงยหน้าขึ้นพูด ประกายของแววตาบ่งบอกถึงแรงอธิฐานอย่างตั้งมั่น อานนท์เมื่อได้ฟังก็มองลูกสายอย่างลึกซึ้ง ทั้ง 2 เหมือนมีจิตประสานกัน รู้ได้ถึงความต้องการของแต่ละฝ่าย ต่างคนต่างพยักหน้าให้กันเบา ๆ

< -------- >

ใต้แสงเทียนบนโต๊ะอาหารตัวเล็ก ๆ กับข้าวซึ่งพอจะหาได้จัดวางไว้อย่างน่าทาน อานนท์และน้ำทิพย์กับมื้อค่ำที่แปลกไปทั้ง 2 แต่งตัวเหมือนไปทานร้านอาหารหรู ๆ อานนท์ในชุดสูทสีเทาดำดูหล่อภูมิฐาน น้ำทิพย์กับชุดราตรียาวเกาะอกสีครีมออกเลื่อม เค้าและเธอรับประทานอาหารภายใต้บรรยายกาศแห่งความสุขราวกับไม่มีเรื่องใด ๆ เกิดขึ้นเมื่อยามเย็น ช้อนและส้อมถูกวางลงเป็นสัญญาณว่าทั้งคู่อิ่มเอมกับอาหารมื้อนี้แล้ว
"ลูกไม่เสียใจนะ" ไม่มีเสียงตอบใด ๆ มีเพียงการส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข เช่นนั้น อานนท์จึงยืนขึ้นเดินไปข้างน้ำทิพย์แล้วผายมือออก เธอยกมือขึ้นแตะพร้อมลุกขึ้นเป็นสัญญาณว่าเธอเต็มใจและไม่เสียใจในสิ่งที่จะกระทำในอีกชั่วไม่กี่นาที ทั้ง 2 เดินไปยังห้องนั่งเล่นซึ่งมีเทียนประดับส่องแสงระยับตาดูสวยงาม บริเวณกลางห้องอานนท์ประคองมือน้อย ๆ ของลูกสาวขึ้น ค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนแต่งงานซึ่งเป็นวงเดียวกับที่แม่ของน้ำทิพย์ส่งคืนให้เค้า มันช่างดูเหมะสมกับนิ้วเรียวยามของเธอเสียนี่กระไร
"ไม่ว่าชาตินี้" เสียงนุ่มลึกของอานนท์เอ่ยขึ้นเมื่อแหวนถูกสวมจนสุดนิ้วนางข้างซ้าย
"หรือชาติไหน ๆ" น้ำทิพย์ตอบรับด้วยความเต็มใจ
"เราจะรักกันตลอดไป" เสียงประสานเป็นสัญญาให้ตรีโลกได้เป็นพยาน ก่อนอานนท์จะก้มลงบรรจงประทับรอยจูบอย่างนุ่มนวล ทั้ง 2 ก้าวขึ้นบนเก้าอี้ที่ตระเตรียมไว้ ต่างคนต่างจัดแจงจับผ้าซึ่งมัดเป็นบ่วงคล้องเข้ากับลำคอของตน อานนท์และน้ำทิพย์มองตากันอีกครั้ง ไม่มีแม้คำพูดเอ่ยห้าม แต่กลับยื่นมือสอดประสานกันไว้ จากนี้ไปอีกไม่กี่วินาทีจะไม่มีใครพรากเค้าและเธอจากกันได้อีก เก้าอี้สิ่งยึดเหนี่ยวชีวิตชิ้นสุดท้ายถูกถีบออกพร้อม ๆ กัน ถึงจะต้องการตายเพียงใด แต่สัญชาติญาณของการสิ่งมีชีวิตก็ยังแสดงให้เห็น การดิ้นทุรนทุรานเมื่อขาดอากาศหายใจดูน่าเศร้าสะพรึงกลัวยิ่งนัก แต่เหมือนสวรรค์ไม่เห็นด้วยในสิ่งที่พ่อลูกกระทำ พลันผ้าซึ่งผูกคอน้ำทิพย์กลับขาดวิ่น ร่างน้อย ๆ ล่วงลงกระแทกพื้น เธอไอด้วยความแสบในลำคอ สูดลมหายใจเหมือนได้เกิดใหม่ แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ทำเอาเธอซ๊อค ร่างของพ่อบังเกิดเกล้ากระตุกหน้าแดงก่ำลิ้นจุกปาก
"พ่อ!!! พ่อ" เสียงกรีดร้อง พร้อมการกระทำอันไร้ซึ่งการยั้งคิด น้ำทิพย์รีบเข้าไปกอดขาอุ้มพยุงเพื่อให้ลำคอของอานนท์หลุดจากบ่วง ความลนลานตื่นตระหนกส่งให้เธอวิ่งไปยังโทรศัพท์ มีเพียงเบอร์เดียวในสมองคือ 191 เท่านั้นที่จดจำได้ในเวลานี้
"ช่วยด้วยค่ะ!!! ช่วยด้วย!!!" เสียงร้องขอความช่วยเหลือดั่งคนบ้าเสียสติ เปล่งออกทันทีเมื่อมีผู้รับสาย
"ที่ไหนครับ แจ้งสถานที่ด้วยครับ" ด้วยจิตอันสับสนวุ่นวาย น้ำทิพย์ทิ้งหูโทรศัพท์วิ่งกลับไปยังห้องนั่งเล่นอีกครั้ง และแล้วอาการยืนนิ่งตัวแข็งทื่อตาเหม่อลอยก็เกิดขึ้น เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณห้อยต่องแต่งอยู่กลางห้อง
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!" เสียงกรีดร้องลั่นบ้านดังสนั่น

< -------- >

"ไป ๆ ๆ เข้าไป" เสียงแข็งขันออกคำสั่งเมื่องัดประตูบ้านออกได้ ตำรวจซึ่งตรวจสอบหมายเลยต้นทางจึงรู้ว่ามีเหตุเกิดที่ใด ทีมค้น 2-3 คนถึงกับผงะ เมื่อเห็นภาพภายในห้องนั่งเล่น ร่างสาวน้อยผมเผ้ายุ่งเหยิงคุดคู้กอดเข่าสะอื้นอยู่มุมห้อง กับศพชายหนุ่มซึ่งห้อยอยู่ตรงกลาง
"เรียกรถพยาบาลด่วน" ทันทีที่รถพยาบาลมาถึงนางพยาบาลก็รีบเข้าไปประคองร่างสาวน้อยซึ่งอยู่ในอาการซ๊อคน้ำตาอาบแก้ม ส่วนอีกฝั่งก็ตัดผ้านำร่างของอานนท์ลงสู่พื้น น้ำทิพย์เห็นก็ปรี่เข้าโอบกอดร่างไร้วิญญาณของพ่อเธอทันที
"พ่อ... น้ำรักพ่อ เราแต่งงานกันแล้ว... พ่อ... พ่อพาน้ำไปด้วย" เสียงพูดสะอื้นฟังแทบไม่ได้ศัพท์ แต่ก็ทำให้ทั้งพยาบาลและตำรวจอึ้งไปเมื่อได้ยิน

< -------- >

"ปล่อย!!! ปล่อยหนูออกไป หนูไม่ได้บ้า ปล่อยหนู" เสียงตะโกนร้องเรียกหาอิสรภาพของเด็กสาว ซึ่งบัดนี้ถูกจับขังอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิตประสาท น้ำทิพย์ทุบประตูห้องเธอพยายามบอกใครต่อใครว่าเธอไม่ได้บ้า แต่ไม่มีใครฟัง
"อีบ้านี่อาละวาดอีกแล้ว เฮ่อ!"
"น่าเบื่อที่สุด แต่คนบ้ามันก็ต้องบอกว่ามันไม่บ้าแหละ อย่าไปถือมันเลย" พยาบาลผู้คุมพูดคุยกันตามประสา
"ว่าแต่แหวนมันสวยนะ ทำไมถอดไม่ออกก็ไม่รู้"
"ใช่! ถ้าถอดออกชั้นหยิบมาตั้งแต่แรกแล้ว คงขายได้หลายเงิน" ต่างคนต่างกระซิบกระซาบกันอย่างออกรส แต่ฝ่ายถูกกล่าวถึงนั้น ค่อย ๆ นั่งลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน เธอร้องไห้พลางเหม่อมองแหวนซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนสุดท้ายของอานนท์ พ่อผู้เป็นที่รัก

Forbidden Love – III
December 31 2004 at 10:01 AM jam   (เข้าสู่ระบบ jam_jam)
Forbidden Love – III  เฉพาะกาล

         เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่ออ่านเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบในเรื่องแนวนี้ ชื่อตัวละครถูกสมมติขึ้นทั้งสิ้นมิได้มีตัวตนอยู่จริง กรุณาอย่านำไปโพสต์ต่อข้างนอก  อันนี้ไม่ได้หวงแต่เพราะผมไม่อยากให้ผู้ที่ไม่ได้มีความชื่นชอบตรงกันขุดโคตรผู้แต่งนั่นก็คือผมขึ้นมาด่า และผมหวังว่าจะใช้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้ต้องการให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแต่อย่างใด ขอบคุณครับ...jam


           รังสีแห่งแสงอาทิตย์อันร้อนแรงแผ่อยู่เหนือศีรษะ เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาอาหาร
สิ่งที่ให้สะดุดตาวีรพงษ์เมื่อเดินประคองลูกฟุตบอลเลี้ยวเข้ารั้วบ้าน
รถซึ่งในตอนเช้าครั้งออกไปยังไม่มี กลับปรากฏ ณ ที่จอดประจำ
กลับมากันแล้วจะมีอะไรมาฝากบ้างนะ เค้าคิดในใจ

"เป็นไงบ้าง เที่ยวสนุกมั้ย" วีรพงษ์ทักขึ้นทันทีที่เปิดประตูบ้าน แต่กลับพบกับความว่างเปล่า
"พ่อครับ!... แม่!... ริน" วีรพงษ์ร้องเรียกพลางวางลูกฟุตบอลลง สายตาเค้ากวาดมองไปทั่วบ้าน
"ไปไหนหมดวะ... เฮ่อ!... ชั่งมัน... กินข้าวดีกว่า" เด็กหนุ่มกดน้ำใส่บะหมี่ถ้วย

ก่อนจะนำมันขึ้นไปทานบนห้องนอน
เค้าไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่คนในครอบครัวได้ไปเผชิญมานั้น
ไม่ได้สนุกอย่างที่คิด

ในระหว่างนั้นเอง ทุกคนซึ่งกลับมาอย่างเหนื่อยอ่อนตั้งแต่ตอนเช้า
บัดนี้ได้ชำระล้างร่างกาย ไกรศักดิ์ซึ่งต้องขับรถอ่อนเพลียกว่าใครเค้าหลับใหลในทันทีเมื่อศีรษะถึงหมอน
ไพรินเองก็เช่นกันเธอยังคงนอนโดยมีน้องชายอยู่ในอ้อมกอดเหมือนอย่างเคย
คงมีแต่เพียงวัชรีที่ยังคงกายหน้าผากคุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

< -------- >

"ไปไหนกันมาครับ ตอนกลางวันผมเข้าบ้านเห็นอยู่แต่รถ" วีรพงษ์เอ่ยถามเมื่อเดินถึงโต๊ะอาหาร
เค้ามองบรรยากาศแล้วไม่เหมือนการรับประทานอาหารมื้อเย็นอย่างที่เคย มันรู้สึกอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก
"ไหนล่ะครับ ของฝาก" วีรพงษ์ยังคงถามต่อพร้อมเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง
"เอ่อ! พวก 18 มงกุฎน่ะจะลูก"  วัชรีตอบเพื่อให้เรื่องยุติ
"เฮ่อ!!... ว่าแล้ว อะไรมันจะโชคดีขนาดนั้น แต่ก็ยังดีที่ได้ไปเที่ยวทะเล ผมสิต้องพรีเซนต์งาน น่าเบื่อจะตาย เป็นไงสนุกมั้ยริน"
วีรพงษ์หันไปถามน้องสาวแกมทักทาย
"เอ่อ... เอ่อ..." ไพรินอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันน่าอับอายในสายตาชาวโลก
"ก็เล่นน้ำจนเป็นหวัดนั่นแหละ อย่าให้น้องพูดมากเลย เดี๋ยวคอจะอักเสบ" วัชรีแก้ตัวแทนโดยพลัน

"กรี๊งงงงง!!! กรี๊งงงงง!!! กรี๊งงงงง!!!" ไกรศักดิ์เอื้อมหยิบโทรศัพท์ไร้สายขึ้นพูด
"ครับ... อ่อ... พรุ่งนี้... 2 วัน... ครับ... ครับ... สวัสดีครับ" 
"ทานข้าวเถอะ พรุ่งนี้พ่อต้องตื่นแต่เช้า รี... ผมมีสัมมนาต่างจังหวัด 2 วัน จัดเสื้อผ้าให้ผมด้วยนะ"
ไกรศักดิ์รีบปิดการสนทนาบนโต๊ะอาหารเพื่อตัดปัญหา

< -------- >

"ติ๊ก.. ติ๊ก.. ติ๊ก.." ในความมืด เสียงนาฬิกาภายในห้องอันเงียบสงัด
มันยังคงเดินอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแม้ใครจะหลับใหล
"รี..." "รี......." ไกรศักดิ์ซึ่งนอนก่ายหน้าผากเอ่ยเรียกภรรยาซ้ำอีกครั้ง
"คะ" เสียงตอบผ่านมาในความมืดนั้น
"คุณยังไม่หลับเหรอ" ไกรศักดิ์พูดเสียงราบเรียบ ดูเหมือนเค้าจะมีความในใจที่อยากจะบอกกับเธอ
"ยังค่ะ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย คุณน่ะนอนได้แล้วพรุ่งนี้ต้องสัมมนา หนิ"

"รี..." ไกรศักดิ์ขยับพลิกตัวโอบเอวภรรยาไว้หลวม ๆ วัชรีเอียงหน้ามองเค้าในความมืด เงาลาง ๆ ยังพอให้สังเกตได้
สัมผัสของลมหายใจให้รู้สึกได้ว่าหน้าของเค้าอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงคืบ
"ผมขอโทษ ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ผม..."
"ค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเหนือธรรมชาติ ชั้นไม่ตำหนิคุณหรอก" วัชรีพูดสวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"รี... ขอบคุณ คุณช่างดีกับผมเหลือเกิน" สิ้นคำไกรศักดิ์ก็แสดงความรักและขอบคุณ

โดยยื่นหน้าเข้าประกบจูบบนหน้าผากของภรรยาอย่างแผ่วเบา
มันแฝงไปด้วยความอบอุ่นและจริงใจ กลิ่นหอมจากปอยผม
ความนุ่มนวลของผิวเนียนภายใต้เนื้อผ้าลื่นบางเบาซึ่งฝ่ามือเค้าสัมผัสอยู่
มันส่งให้เค้าค่อย ๆ คลึงฝ่ามือเข้ากับเอววัชรีเบา ๆ
"อื่มม... ศักดิ์คะ" ด้วยความที่ห่างหายจากการร่วมรักกับสามีเนื่องจากมีรอบเดือน
เพียงแค่ถูกลูบคลำเล็กน้อยก็ทำให้เธอเคลิบเคลิ้มไปได้
ไกรศักดิ์ไล้มือขึ้นประคองเต้าอวบคลึงเบา ๆ มันนุ่มนวลแต่ไม่หย่อนยาน
ไม่กี่อึดใจยอดถันเม็ดน้อยก็ค่อย ๆ เต่งดันสู้ฝ่ามือเค้า
แต่พลันก็มีมือมาจับมือของเค้าไว้
"อย่าค่ะศักดิ์" วัชรีนั่นเอง
"ทำไมล่ะ ยังไม่หมดเหรอ" ไกรศักดิ์เอ่ยถามเสียงกระซิบ
"หมดแล้ว แต่ไว้กลับมาก่อนก็ได้ พรุ่งนี้คุณต้องตื่นแต่เช้านะคะ"
"จ่ะ ก็ได้ ผมรักคุณนะ" ไกรศักดิ์บรรจงจุมพิตลงบนริมฝีปากภรรยา
ก่อนจะพลิกตัวนอนหงายและหลับไปในความมืด

< -------- >

10.00 น. โดยประมาณ หลังจากวัชรี ส่งสามีในยามเช้าและทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อย
ไม่ว่าจะเป็นล้างจาน ซักผ้า แต่ในทุกอิริยาบถนั้นสมองเธอเฝ้าคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
มันยังคงคาใจเธอเรื่อยมา ถ้าไม่ได้คลี่ปมให้กระจ่างเธอคงต้องติดอยู่กับวังวนความคิดนี้ตลอดไปเป็นแน่
เธอเดินก้มหน้าขึ้นบันใดคิดประติประต่อเรื่องราว
ภาพต่าง ๆ ข้อมูลทั้งหลายถูกถ่ายทอดออกมาผสมผสานกันไม่หยุดหย่อน

"อุ้ย! โทษจะวี" วัชรีสะดุ้งขอโทษลูกชายเมื่อเดินเหม่อเลยห้องตัวเองไปชนเข้ากับวีรพงษ์บริเวณหน้าห้องเค้า
"ครับ... ผมไปเรียนก่อนนะครับแม่" วีรพงษ์ดึงประตูกลับหมายจะปิดประตู
ในขณะนั้นเอง พลันสายวัชรีก็เหลือบเห็นคอมพิวเตอร์ ไม่น่าโง่เลยเรา เธอคิดในใจ
"เอ่อ... วี ไม่ต้องล๊อค แม่ขอใช้คอมหน่อย"
"เอาสิครับ" วีรพงษ์ทำหน้างง ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เค้าตอบรับพร้อมยักไหล่ แล้วเดินลับลงบันใดไป
วัชรีเดินเข้าในห้องลูกชาย นี่เป็นครั้งแรกหลังจากไม่ได้เข้ามาภายในห้องนี้หลายปีนับตั้งแต่ลูกชายเธอโตเป็นหนุ่ม
วัชรีค่อย ๆ หย่อนตัวลงบนเก้าอี้จัดแจงเปิดคอมพิวเตอร์อย่างชำนาญ
สำหรับผู้มีการศึกษาระดับปริญญาอย่างเธอมันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย google เป็นเวปแรกที่เธอเข้า
แต่เธอก็นิ่งไปพักใหญ่ วัชรีนึกถึงคำที่จะค้นหา เธอเริ่มประมวลเรื่องทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่ต้นจนจบ
และแล้ว คำแรกที่เธอค้นหา คือ อานนท์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมันมากเกินกว่าจะอ่านได้หมด
หัวข้อนั้นแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง ขายของบ้าง ตอบกระทู้บ้าง

"น้ำ... อย่าทิ้งพ่อไป... กลับมาอยู่กับพ่อเถอะ"  คำ ๆ นี่ยังติดอยู่ในหูวัชรี
อีกทั้งการกระทำของสามีกับลูกสาวตัวเอง เธอจึงเริ่มจำกัดวงของการค้นหาให้แคบลง
"I n c e s t" วัชรีกระดากมิใช่น้อย แต่ก็พิมพ์มันลงไป รายการที่ถูกค้นหาเจอนั้นมีนับล้าน
"ไม่ไหว ไม่เจอแน่" วัชรีบ่นเบา ๆ กับตัวเอง เธอเปลี่ยนคำ และค้นหาไปเรื่อย ๆ เกือบครึ่งชั่วโมง

จนกระทั่งมาเจอกับเวปเรื่องเล่าประสบการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในครอบครัว
วัชรีอ่านผ่าน ๆ ด้วยความที่เธอเป็นนักอ่านไม่นานเรื่องราวต่าง ๆ ก็ได้ผ่านสายตาเธอไปทั้งหมด
"พวกนี้โรคจิตชัด ๆ" เธอเปลี่ยนคำค้นหา แต่ก็ได้แต่เพียงเรื่องเล่าประสบการณ์
และ เวปเกี่ยวกับการอธิบายพฤติกรรมผิดปกติของบุคคลที่ชอบมีความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว

"เฮ่อ!..." เสียงถอนหายใจยาว วัชรีเริ่มรู้สึกเหนื่อยอ่อน และล้า
สายตา เธอกวาดสายตาไปรอบห้องพร้อมเงยหน้าบิดลำคอไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยล้า
ก่อนจะจรดปลายนิ้วเรียวยาวลงบนแป้นคีย์บอร์ดอีกครั้ง
เธอคิดถึงคำที่จะค้นหาเพื่อไขข้อข้องใจนั้นต่อ
แต่ความล้าของดวงตาส่งให้เธอมองไปยังเตียงข้าง ๆ
"ไม่ไหว งีบหน่อยดีกว่า" วัชรีปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์
และพาตัวเองลงนอนบนเตียงหลังใหญ่แล้วผล็อยหลับไป

< -------- >

"โถ่... แล้วบอกว่าจะใช้คอม" วีรพงษ์ซึ่งกลับจากมหาวิทยาลัยเอ่ยขึ้น
เมื่อเปิดประตูแล้วพบร่างของวัชรีนอนหลับใหลอยู่บนเตียงนอนของเค้า
"แม่ครับ แม่" วีรพงษ์วางเป้พร้อมเขย่าแขนวัชรีเบา ๆ
"อืมม... กี่โมงแล้วลูก" วัชรีหรี่ตาลุกขึ้นนั่ง
"5 โมงกว่าแล้วครับ"
"เหรอ ปิดคอมให้แม่ด้วย เดี๋ยวแม่จะลงไปทำกับข้าว"

วัชรีพูดพลางลุกเดินออกจากห้องไป วีรพงษ์นั่งลงบนเก้าอี้
เปิดหน้าจอเลื่อนเมาส์หมายจะชัดดาวน์ แต่ในใจก็อดสงสัยไม่ได้
เพราะไม่เคยเห็นแม่ใช้คอมเลย
"เอ... ไหนดูซิ ทำอะไร" วีรพงษ์คลิ๊กดู History เพียงเท่านั้น
มันกลับทำให้เค้านั่งจ้องจอคอมด้วยสายตานิ่งตัวแข็ง
เค้าลากเมาส์ไปคลิ๊กช้า ๆ ด้วยใจระทึก
ข้อความที่ได้อ่านทำให้เค้าหน้าแดง ในกายร้อนผ่าว
หนังสือโป๊วีรพงษ์เองก็ได้ศึกษามามาก อีกทั้งก็ยังมีประสบการณ์มาหลายครั้งกับแฟนสาว
แต่เรื่องราวของการมีเพศสัมพันธ์ในครอบครัวนี่นับเป็นครั้งแรกที่ได้อ่าน

{
"หมิง..อูยย..หมิง ทำไมทำหยั่งงี้กับแม่...อูยยยย" ผมไม่ตอบยังคงตั้งหน้าตั้งตาเลียเม็ดละมุนต่อ
และตอนนี้รู้สึกว่ามันจะพองสู้ลิ้นผม สองมือที่เคยดันหัวผมออก ตอนนี้กลับลูบไล้หัวผมอยู่
แม่ผมเริ่มแอ่นโคกสู้ลิ้นผม ตอนนี้ผมยัง 2 จิต 2 ใจว่าจะละจากเนินตรงนี้ดีหรือไม่
ถ้าหยุด แม่ผมจะยังเล่นกับผมอยู่รึเปล่า ผมหยั่งเชิงใช้มืออีกข้างลูบขึ้นไปบีบนมเธอ
ผมก็ต้องตะลึง เพราะมันยังแข็งอยู่ไม่เหมือนคนที่มีลูกมาแล้ว มันแข็งกว่าแฟนคนที่ผมเคยเอาเสียอีก
ตอนนี้เธอครางเป็นระยะ ผมบีบสักพัก ก็เลื่อนมือไปที่หน้าเธอ ใช้นิ้วชี้ไล้รอบที่ริมฝีปากของเธอ
ก่อนจะใส่เข้าไปในปาก เธอเอามือจับมือผมแล้วดูดเลียนิ้วผม ตอนนี้ผมมั่นใจได้แล้วครับ
ว่าอารมณ์ของแม่ผมถึงขั้นลืมแม่ลืมลูกแล้ว ผมจึงเอานิ้วออกจากปากเธอ
แล้วละลิ้นจากเนิน เลื่อนตัวขึ้นไปถึงหน้าอก ถึงแม้หัวนมไม่เป็นสีชมพูอย่างที่ผมจินตนาการไว้
แต่ก็ไม่น่าผิดหวังเท่าไหร่ มันเป็นมีน้ำตาลอ่อน ๆ ปานนมเล็กประมาณเหรียญห้าเองหัวนมชูชัน
ผมก้มลงดูดมัน
}

           ข้อความที่ได้อ่านกระตุ้นเร้าอารมณ์วีรพงษ์ยิ่งนัก ดุ้นเนื้อในกางเกงเริ่มพองแข็งจนปวด
เค้าเหลือบไปมองที่ประตู แล้วรีบเดินไปล็อคทันทีที่เห็นว่ามันยังไม่ได้ล็อค
เค้ารีบกลับมานั่งลงหน้าจออีกครั้ง และอ่านตัวหนังสือด้วยความจดจ่อ
มือเริ่มสัมผัสเข้ากับเป้ากางเกงตัวเองช้า ๆ วีรพงษ์ลูบมันไปพลาง อ่านไปพลาง
จนเค้าทนไม่ไหว ซิปถูกรูดลง ลำควยเขื่องขนาดประมาณ 6-7 นิ้วถูกงัดออกมา
เค้าบรรจงรูดหนังหุ้มตัวมันเบา ๆ เปลือกตาค่อย ๆ หลับลงนึกมโนภาพตามเรื่องที่อ่าน

แต่แล้วภาพแม่ของเค้าซึ่งนอนหลับใหลอยู่บนเตียงเมื่อครู่ก็แทรกเข้ามาในสมอง
"อือออ... ซี๊ดดดส์... อือออ" แทนที่วีรพงษ์จะรีบลืมตาขึ้นเพื่อสลัดความคิดสกปรกทิ้งไป
เค้ากลับจินตนาการต่อจนเลยเถิด
"ฮือออ... ฮือออ... กูคิดอะไรวะ" เสียงเบา ๆ ลอดจากไรฟัน แต่มือยังคงเร่งชักท่อนเอ็นไม่ขาดจังหวะ

"ก๊อก ๆ ๆ" วีรพงษ์สะดุ้งเฮือกเบิ่งตาโพลง รีบจัดแจงยัดเก็บท่อนควยที่ค่อย ๆ หดตัวลงอย่างกะทันหันด้วยความตกใจ
"พี่วีกินข้าว!!!!" เสียงไพรินน้องสาวเค้านั่นเอง
"เฮ่อ!! ดีนะ ไม่ลืมล๊อคประตู" วีรพงษ์ถอนหายใจยาว
"เออ! รู้แล้วเดี๋ยวลงไป"

< -------- >

              บรรยากาศบนโต๊ะอาหารยามเย็นในวันนี้สำหรับวีรพงษ์นั้นมันไม่เหมือนทุกวัน
เค้าทานไปแต่สายตาที่มองไปยังแม่ของเค้ากลับเป็นสายตาที่ต่างไปจากเดิม
จากเคยมองหรือพูดคุยอย่างสนิทใจ บัดนี้วีรพงษ์กลับต้องแอบมองด้วยสายตาอกุศล
วัชรีเองไม่รู้เลยว่าเนินอกอิ่มถูกแทะโลมโดยลูกชายตลอดระยะเวลาทานอาหาร
เค้าแอบมองมันครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่เป็นอันตักกับข้าว
ท่อนเอ็นในกางเกงแข็งจนเบียดกางเกงนักศึกษานูนออกมา
ดีที่ยังไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามิฉะนั้นแล้วมันคงชี้เด่ให้ใครต่อใครเห็นยามลุกเดินเป็นแน่
วีรพงษ์คิดในใจเพราะเค้าจะไม่ใส่กางเกงในเวลาอยู่กับบ้าน

< -------- >

          ภายในห้องของหนุ่มโสด วีรพงษ์ถอดเสื้อผ้าหมายจะอาบน้ำชำระร่างกาย
กางเกงในถูกถอดออก คราบน้ำเหนียวจากปลายหัวถอกยังติดเป็นรอย
ดุ้นเนื้อซึ่งบัดนี้หดตัวลงแล้วถูกประคองขึ้นดู ส่วนหัวยังคงเยิ้มด้วยน้ำใส ๆ
เค้ากำมันหลวม ๆ แล้วค่อย ๆ ถอกเบา ๆ เปลือกตาค่อย ๆ หลับลงช้า ๆ
พร้อมเงยหน้า ภาพเต้าอวบของแม่ลอยเด่นเข้ามาในความคิด ท่อนเอ็นเริ่มแข็งจนกำได้ลำบาก
"ซูดส์... อ้า" วีรพงษ์เร่งชักลำควยเร็วขึ้น ในสมองมีแต่ภาพแม่คนสวย ภายใต้เสื้อผ้าอกอิ่มนั้นจะงามขนาดไหน ปลายยอดนั้นจะน่าดูดโลมเลียเพียงใด
"ซี๊ดดดส์... แม่ครับ... แม่" มือซ้ายซึ่งว่างอยู่นั้นเริ่มกำแน่น มือขวาเร่งซอยชัก ปากก็พร่ำถึงผู้เป็นแม่ไม่ขาด 
"แม่ครับแม่... แม่ครับ ซี๊ดดดส์... ซี๊ดดดส์.. แม่"
"อูยยยว์... ซี๊ดดดดส์" น้ำในถุงถูกขับเคลื่อนผ่านท่อพุ่งออกจากปลายควย พร้อมอาการเกร็งกระตุกหน้าท้องเป็นระยะ นิ้วเท้าจิกลงพื้นด้วยความเสียวซ่าน

แสงสว่างค่อย ๆ ส่องเข้ามาเมื่อเค้าลืมตา
"พุงแรงซิบหาย" วีรพงษ์บ่นกับตัวเองเมื่อเห็นคราบน้ำกามห่างออกไปเป็นเมตร
เมื่อความเงี่ยนจางหายสติสัมปชัญญะก็แทรกกลับเข้ามา
ขณะนั่งลงเช็ดคราบแห่งความเสียว
ความรู้สึกผิดที่นำเอาเรือนร่างของแม่ผู้ให้กำเนิดมาสำเร็จความใคร่ทำเอาเค้าสลด
ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูเพื่อออกไปอาบน้ำ


< -------- >

"หึ... หึ... ฮ่า... ฮ่า.. ฮ่า... หึ...หึ... หึ... ฮ่า... ฮ่า.. ฮ่า..."
"น้ำลูกพ่อ"
"หึ... หึ... ฮ่า... ฮ่า.. ฮ่า... หึ...หึ... หึ... ฮ่า... ฮ่า.. ฮ่า..."
"น้ำ... อย่าทิ้งพ่อไป... กลับมาอยู่กับพ่อเถอะ"

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!" ในความมืดของราตรี วัชรีกรีดร้องสุดเสียงสะดุ้งตื่นจากความฝัน
เสียงอันน่าสะพรึงกลัวกับใบหน้าซีดเซียวของอานนท์ยังคงตามมาหลอกหลอน
เธอหอบหายใจแรงเหงื่อกาฬแตกเป็นเม็ดราวกับเพิ่งอาบน้ำ

"เป็นอะไรครับแม่!!!" ประตูห้องถูกเปิดออกโดยวิสาสะ พร้อมร่างของวีรพงษ์ปรี่เข้ามาร้องถามด้วยความเป็นห่วง
"แม่... แม่ฝันร้ายน่ะจะ อ้าวแม่ลืมล็อคประตูเหรอเนี่ย แย่จังลืมไปซะสนิทว่าพ่อเค้าไปสัมมนา"
"แม่จะให้ผมนอนเป็นเพื่อนรึป่าวครับ" วีรพงษ์พูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรแม้แต่น้อย
"ก็ได้จะ แม่รู้สึกไม่ค่อยดีเลย"

             เมื่อได้รับอนุญาต วีรพงษ์ก็ปิดประตูแล้วพาตัวเองแทรกเข้าภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่
สำหรับอากาศเย็นยะเยือกอย่างห้องนี้ผ้าห่มนวมช่างให้ไออุ่นได้ดียิ่งนัก
"แม่ฝันอะไรเหรอครับ" วีรพงษ์เอ่ยถาม
"ไม่มีอะไรหรอกจ้า นอนเถอะ" วัชรีตัดบทเพราะไม่อยากให้ลูกชายต้องมารับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ราตรีผ่านไปเข้าสู่ทิวาใหม่

วีรพงษ์ซึ่งรู้สึกตัวก่อนค่อย ๆ ลืมตา ทันใดนั้นเองคำก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอันนุ่มนวล
เค้าตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่า บัดนี้เต้าอวบที่ได้จินตนาการถึงกำลังอยู่ในอุ้งมือ
ความนุ่มของเนื้อภายใต้ชุดคลุมนอนผ้าแพรส่งให้รู้ว่าภายในนั้นไม่มีบราเซียขวางกลั้น
ในสมองวีรพงษ์รู้สึกปั่นป่วนไปหมด ใจหนึ่งก็คิดจะเอามืออก แต่อีกใจหนึ่งกลับต้องการจะลองบีบเคล้นมันดู

แต่ยังไม่ทันได้ประมวลใด ๆ
"อื่อ..." เสียงในลำคอวัชรีดังขึ้นพร้อมกับลืมตา วีรพงษ์สะดุ้งเล็กน้อยแต่แกล้งหลับต่อ
หัวใจเค้าเต้นแรงเพราะมือยังคงคาอยู่ที่เต้าอวบนั้น
และแล้วเค้าก็รู้สึกได้ถึงมือนุ่มเนียนมาจับยังมือเค้าแล้วยกมันออกอย่างช้า ๆ
พร้อมแรงสั่นของการเคลื่อนตัวลงจากเตียงของแม่
"ลูกคนนี้ ทำเหมือนเด็ก ๆ ไม่ยอมโตซะที" วัชรีพูดพร้อมกับขยับผ้าห่มให้สูงขึ้น
เพื่อบดบังความหนาวให้ลูกชาย เธอเดินออกจากห้องไปโดยไม่ปลุก
เสียงงับประตูเป็นสัญญาณให้วีรพงษ์ลืมตาขึ้น
"แม่ครับ" วีรพงษ์บ่นกับตัวเองเบา ๆ

< -------- >

ประมาณ 11.00 น. วีรพงษ์เดินออกจากห้องด้วยชุดนักศึกษาเพื่อไปเรียนในยามบ่าย
"ไม่ต้องล็อคนะวี แม่จะใช้คอม" วัชรีตะโกนจากชั้นล่างเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องของลูกชาย
ทันทีที่ได้ยินวีรพงษ์ก็คิดอกุศลขึ้นอีก แม่จะอ่านเวปโป๊อีกแล้วหรือ
เค้าคิดไปไกล สัมผัสนุ่มในอุ้งมือเริ่มแล่นเข้ามาสมทบเหมือนฝ่ายต่ำที่กำลังระดมพล
เค้าสลัดความคิดอุบาทว์ด้วยการสะบัดหน้าก่อนจะเดินออกจากบ้านไปด้วยท่าทางปกติ

< -------- >

"สอบถามซาตาน" ภายในห้องวีรพงษ์ วัชรีพึมพำกับตัวเองหน้าจอคอมพิวเตอร์
เธอหาข้อมูลมานาน อินเตอร์เน็ตอาจมิใช่ฐานข้อมูลที่สามารถตอบคำถามคาใจเธอได้
จนเธอต้องแบนวิธีที่จะค้นพบในสิ่งที่ต้องการรู้

เวปที่เธอเปิดขึ้นมานั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับไสยศาสตร์ มนต์ดำ ทั้งแบบพื้นฐานและแบบสุดขั้ว
อาทิเช่น ผีถ้วยแก้ว การปอกผลแอปเปิ้ลหน้ากระจก แม้กระทั้งการบูชายันต์
แต่หัวข้อที่ทำให้วัชรีสะดุดตา คือ สอบถามซาตาน เธอกวาดสายตาอ่านรายละเอียดคร่าว ๆ
ใจความนั้นทำให้เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะนั่งนิ่งครู่ใหญ่
และแล้วเธอก็ตัดสินใจคลิกเมาส์กดคำสั่งปริ้นมันออกมา

< -------- >

             เวลาผ่านไปดั่งเช่นทุกวัน จวบจนราตรีมาเยือนอีกครั้ง
ภายในห้องนอนอันเย็นฉ่ำ แสงสีส้มจากไฟประดับผนังส่องดูนวลตา
วัชรีในชุดคลุมยาวพาร่างซึ่งเพิ่งชำระล้างเหงื่อไคลจนสะอาดขึ้นมานั่งกลางเตียงนอน
คืนนี้เป็นอีกคืนที่เธอต้องนอนโดยไม่มีสามีอันเป็นที่รักเคียงข้าง

เธอหยิบกระดาษที่ได้ปริ๊นไว้เมื่อกลางวันมาอ่าน
"สอบถามซาตาน หลายเรื่องราวที่คุณคิดว่าไม่มีคำตอบ แม้แต่จากปากของพระผู้เป็นเจ้า แต่ซาตานตอบคุณได้... มันจะได้จริง ๆ เหรอ" วัชรีหยุดพูดกับตัวเองก่อนจะอ่านมันต่อ
"อย่างที่รู้ ๆ กัน ซาตานเป็นเจ้าแห่งปีศาจแห่งนรกอเวจี เป็นผู้เคียดแค้นชิงชังพระผู้เป็นเจ้า ซาตานสามารถมอบอำนาจ หรือดลบันดาลในสิ่งที่ต้องการได้ เพียงแต่คุณมอบ (ขาย) วิญญาณให้แก่ซาตาน แต่วิธีที่จะนำเสนอนี้เป็นเพียงการติดต่อสื่อสารเพื่อสอบถาม ไขข้อข้องใจเท่านั้น จึงไม่ใช่การตกลงมอบ (ขาย) วิญญาณแต่อย่างใด คุณพร้อมรึยังกับคำถามที่กำลังจะได้รับคำตอบในไม่ช้า"

วัชรีหันไปมองอุปกรณ์ที่ตระเตรียมไว้
"สิ่งที่ต้องใช้ประกอบพิธีมีดังนี้ เชือก หรือ สิ่งที่สามารถใช้พันธนาการ เทียนไขซึ่งเคยใช้จุดบูชาพระแล้วเล่มเล็ก ไม้ขีดไฟ (ห้ามใช้ไฟแช๊ก)"
วัชรีอ่านไปพรางหยิบอุปกรณ์ขึ้นดูไปพลาง
"ซาตานเป็นผู้กระหายในราคะและตัณหา สิ่งที่จะนำมาแลกคำตอบในครั้งนี้ คือ เรือนร่างของคุณ คุณจะรู้สึกเหมือนถูกร่วมรักจากซาตาน (แค่เหมือนเท่านั้น) เมื่อเสร็จพิธีกรรมคำตอบที่คุณค้นหามานาน ไม่ว่าจะเรื่องคู่ครอง การงาน หรือสิ่งเร้นลับที่มิอาจหาคำตอบได้ จะปรากฏให้รู้ในมโนภาพจากโสดประสาทของคุณเองอย่างน่าอัศจรรย์"

วัชรีถอนหายใจยาว ประโยคที่ว่าถูกร่วมรักจากซาตาน ทำเอาเธอมีทีท่าลังเลเล็กน้อยทั้ง ๆ ที่เตรียมอุปกรณ์ไว้อย่างครบครัน
"แค่เหมือนเท่านั้นน่ะรี ถ้าเธออยากรู้ เธอไม่มีทางเลือกแล้ว" วัชรีเป่าลมออกปากระบายความเครียดพลางบ่นกับตัวเอง
"ขั้นตอนของพิธี คือ ชำระล้างร่างกายให้สะอาด ภายในห้องต้องดับไฟให้มืดสนิท (ทำเวลากลางคืน) จุดเทียนที่เตรียมไว้ด้วยไม้ขีดไฟไว้บริเวณใกล้ ๆ หัวเตียง(หรือหัวเตียง ห้ามต่ำกว่าเอว) พันธนาการร่างเปลือยเปล่าของคุณทั้งแขนขาไว้กับมุมเตียงนอนทั้ง 4 ด้าน (เหมือนขึงพรืด ถ้าเป็นเตียงหลังใหญ่จะดี) หลับตาแล้วว่าตามคาถาที่ให้ไว้ด้านล่างนี้ 3 จบ (พูดออกเสียง) หลังจากนั้นอธิษฐานในใจถึงสิ่งที่คุณต้องการรู้ รอจนเทียนดับเอง คุณจะมีความรู้สึกเหมือนถูกร่วมรักจากซาตาน ข้อควรระวัง เมื่อเริ่มท่องคาถาห้ามลืมตาเด็ดขาดจนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีกรรม (ควรจำบทสวดให้แม่นยำ) ... ฮู่..."

วัชรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอหันมองดูอุปกรณ์อีกครั้ง แล้วเธอก็เอะใจ
"พันธนาการทั้ง 4 เท้า 2 เรามัดเอง มือ 2 จะมัดยังไง เต็มที่ก็ได้แค่ข้างเดียว" ในใจวัชรีคิดถึงความเป็นไปได้
แสดงว่าพิธีกรรมนี้คงต้องมีคนช่วย แต่เธอไม่ต้องการให้ใครรับรู้ในสิ่งที่เธอทำแม้แต่สามี
และแล้วเธอก็หุนหันลุกไปเปิดลิ้นชักหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
"อันนี้คงช่วยได้" วัชรีหยิบกุญแจมือขึ้นมาดู จริง ๆ แล้วมันไม่เชิงเป็นกุญแจมือเพราะมีขนาดเล็ก
จะว่าไปมันเป็นกุญแจล็อคนิ้วมากกว่า เธอยึดมันมาจากลูกชายคนเล็กซึ่งซื้อมาเล่นจนล็อคนิ้วตัวเองร้องไห้งอแง
วัชรีจัดแจงวัดขนาดเชือก ตัดมันและผูกเข้ากับขาเตียงทั้ง 4 ด้าน
โดยเชือกที่มุมขวาบนทำเป็นห่วงให้ที่ล็อคนิ้วคล้องล็อคได้
วัชรีหยิบกระดาษขึ้นมองอีกครั้ง เธอจดจำบทที่ต้องท่องจนขึ้นใจ

เทียนถูกจุดขึ้นวางไว้บนหัวเตียง เธอเดินไปปิดไฟอย่างช้า ๆ
ทันทีที่เธอหันกลับไปมองยังเตียงเมื่อไฟดับลง บรรยากาศมันดูจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เชือกทั้ง 4 เส้นพาดวางบนเตียงราวกับพิธีบูชายันต์
แสงจากเปลวเทียนซึ่งไหวไปมาส่งให้ดูยิ่งลึกลับ เธอค่อย ๆ จับเชือกผูกเอวของชุดคลุมแล้วดึงมันออกช้า ๆ

ไม่นานชุดคลุมยาวก็หลุดจากร่างขาวโพลนลงกองอยู่ที่ข้อเท้า เธอเดินไปยังเตียง
ในสมองไม่มีสิ่งใดที่ต้องคิดต้องชั่งใจอีกต่อไป ร่างเปลือยเปล่าคืบคลานเข้าไปยังกลางเตียงช้า ๆ
เชือกบริเวณด้านล่างถูกผูกเข้ากับข้อเท้าอย่างไม่รีบร้อน และการที่เธอจะผูกข้อเท้ากับเชือกอีกข้างนั้น
เธอต้องแยกขาออกเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค์สำหรับผู้หญิง

วัชรีหยิบที่ล็อคนิ้วล็อคเข้ากับนิ้วโป้งขวาของตัวเองก่อนจะจัดแจงเอี้ยวตัวผูกเชือกเข้ากับข้อมือซ้ายของเธอ
และก็มาถึงพันธนาการสุดท้าย วัชรีเอื้อมเกี่ยวคล้องที่ล็อคอีกข้างกับห่วงที่ทำไว้ ทันทีที่เธอบีบมันให้ลงล็อค

"เฮ่ย!... แล้วใครจะปลดล็อค" วัชรีสะดุ้ง เธอลืมนึกถึงข้อนี้ไปเสียสนิท
เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการแต่ก็ไร้ผล
ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บโดยเฉพาะที่ล็อคนิ้วซึ่งเป็นเหล็ก 
"ชั่งมัน... ไว้แก้ที่หลัง" ถึงวัชรีจะกังวน แต่สิ่งที่เธออยากรู้มันมีอำนาจเหนือกว่า
เธอคลายจากอาการเกร็งเมื่อครู่ ค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ พร้อมตั้งสติ
วัชรีเปล่งวาจาเป็นบดสวด 3 จบ เมื่อสิ้นเสียง เธอก็ตั้งจิตอธิฐานถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
สิ่งที่ได้เห็นที่บ้านอุ่นรัก เธอถามหาคำตอบว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
และจุดประสงค์ใดที่อานนท์ต้องทำเช่นนั้น วัชรีคิดซ้ำไปซ้ำมาภายในใจของเธอ

< -------- >

"ฮัลโหล" ภายในห้องมืดมิด วีรพงษ์คว้าโทรศัพท์กดรับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
"เฮ่ย! อยู่ไหนแล้ววะวิทย์ กูรอนานแล้วนะโว้ย"
"วิทย์ไหน... โทรผิดแล้วครับ"
"อ้าว... โทษครับ"
"อะไรวะ คนจะนอน" วีรพงษ์กดวางสายด้วยความหงุดหงิดพร้อมดูนาฬิกาบนจอโทรศัพท์
"4 ทุ่มกว่า... อือออออ... ไปเยี่ยวดีกว่า" วีรพงษ์บิดขี้เกียจแล้วลุกออกจากห้องไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ชั้นล่าง

ในความมืดนั้นเค้าเดินผ่านห้องแม่ไปโดยไม่ได้คิดอะไร หลังจากทำธุระเรียบร้อย
ขณะที่วีรพงษ์เดินขึ้นบันไดนั้นเอง สายตาเค้าซึ่งอยู่ระดับเดียวกับพื้นห้องก็ได้เห็นแสงระยับลอดออกมาจากใต้ประตูห้องแม่
เค้าลดความเร็วในการเดินลงจนหยุดอยู่หน้าประตูห้อง ในความฉงนมือซึ่งถูกเงื้อขึ้นจะเคาะกลับซะงักลง
ความรู้สึกถึงความนุ่มละมุนของอกอิ่ม เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวแวบเข้ามาในสมอง
หัวใจเค้าเต้นแรงขึ้นมาทันที โดยไม่ทันได้ชั่งใจ วีรพงษ์ลดมือลงจับลูกบิด
ในใจคิดว่าแม่จะลืมล็อคเหมือนเมื่อวานอีกหรือไม่ เค้าค่อย ๆ บิดลูกบิดช้า ๆ
วีรพงษ์กลั้นหายใจเมื่อลูกบิดสามารถหมุนได้ ภาพที่ค่อย ๆ เผยให้เห็นทำเอาใจเค้าสั่นสะท้าน
ร่างเปลือยเปล่าของแม่บังเกิดเกล้า นอนแหกขาถูกพันธนาการด้วยเชือก
เนื้อเนียนถูกโลมเลียด้วยแสงเทียน เต้าอวบขนาดพอดี กระเพื่อมขึ้นลงช้า ๆ สลับกับหน้าท้องอันแบนราบ
ส่วนกลางนั้นปกคลุมด้วยเส้นไหมสีดำบาง ๆ เนินเนื้อโหนกนูนเป็นหลังเต่า
วีรพงษ์กลืนน้ำลายลงคอ ขาสั่น ๆ ของเค้าค่อย ๆ ก้าวเข้าไปยังห้องอันเย็นฉ่ำ
แต่ทว่าเหงื่อกาฬเค้ากลับแตกเป็นเม็ด วีรพงษ์หันกลับปิดประตูช้า ๆ ด้วยความบรรจงให้เบาที่สุด
และแล้ว เทียนซึ่งถูกจุดไว้ก็มอดดับลง ด้วยความตกใจที่แสงทองหายไปอย่างกะทันหัน

เค้าเอี้ยวตัวกลับมือซึ่งจับลูกบิดพลันปล่อยอย่างลืมตัว พอให้บังเกิดเสียงให้ได้ยินในความเงียบ
ซึ่งวัชรีเองก็ได้ยินเช่นกัน จริงรึนี่ มันมีจริงรึนี่ เธอคิดในใจครั้นจะลืมตาก็ดูก็เกรงจะเสียพิธี
ชั้นต้องเสียตัวจริงหรือ ใจเธอเริ่มเต้นแรง มันเป็นความรู้สึกที่สุดจะบรรยายที่ต้องรอคอยสัมผัสที่มิอาจรู้ได้
ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองตอนไหน อย่างไร หรืออาจเป็นเพียงหูแว่วไปเท่านั้น ความคิดเธอปั่นป่วนไปต่าง ๆ นานา

อีกฟากหนึ่งวีรพงษ์ซึ่งยืนตัวแข็งอยู่นั้น ไม่นานนัยน์ตาก็ปรับสภาพ
ภาพหญิงสาวผู้ให้กำเนิดนอนเปลือยกายเริ่มชัดเจนขึ้นตามลำดับ
ในสมองเค้าขัดแย้งกันเกินจะอธิบาย ร่างเปลือยของแม่ กับศีลธรรมจรรยา
แต่ แม่เปิดเวปโป๊ อ่านเรื่อง Incest แม่ผูกมัดตัวเอง แม่ไม่ได้ล็อคห้อง
แม่ต้องการอะไร ความคิดฝ่ายต่ำพยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อเอาชนะ
มือของเค้าเย็นเฉียบจนรู้สึกเหมือนมันชา แม่ แม่สวยเหลือเกิน ความคิดสุดท้ายสยบทุกสิ่ง

วีรพงษ์ค่อย ๆ ก้าวเท้าสืบไปยังปลายเตียงหลังใหญ่นั้น ดวงตาจ้องพินิจเรือนร่าง
"สวยเหลือเกิน" แม้ในความมืด วีรพงษ์ก็อดไม่ได้ที่จะหลุดปากส่งเสียงแหบแห้งเบา ๆ
ชมความงดงามของแม่ตัวเอง เสียงนั้นทำให้วัชรีขนลุกชัน เมื่อรู้ว่าตำแหน่งของสิ่งเร้นรับนั้นอยู่ปลายเตียง
เสียงแหบที่ไม่คุ้นเคยยิ่งพาให้เชื่อว่าสิ่งเร้นรับที่เธอกำลังเผชิญอยู่นั้นคือ ซาตาน

พลันเธอก็รู้สึกว่าเบาะยุบลงบริเวณหว่างขา จากความกลัวเริ่มกลายเป็นความตื่นเต้น
แล้วเธอก็ตกใจจากสัมผัสแรกจากซาตาน วีรพงษ์เท้าฝ่ามือลงบนเบาะพร้อมก้มลงจุมพิตเบา ๆ
ที่หลังเท้าด้วยความนุ่มนวล เค้าพรมจูบเบา ๆ ไล่ระดับขึ้นมายังหัวเข่าแล้วเลียด้วยปลายลิ้นสาก ๆ
ทั้งไออุ่นทั้งสัมผัสแผ่วเบาทำเอาวัชรีซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก
เธอผวาเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากนั้นเคลื่อนขึ้นมายังต้นขาด้านใน
เพราะอีกไม่นานมันคงเคลื่อนขึ้นมาถึงตรงนั้นเป็นแน่

เธอชั่งใจว่าจะลืมตาดีหรือไม่
"ซู๊ดดส์..."เสียงเล็ดจากปากเรียวเบา ๆ เปลือกตาที่เคยคิดว่าจะลืมกลับยิ่งปิดสนิทด้วยคิ้วที่ขมวดอันบังเกิดจากความเสียว
เมื่อวีรพงษ์ฉกปลายลิ้นเข้ากับร่องกลางลำตัว ขาที่แยกออกจนสุดหล้าส่งให้เค้าใช้ลิ้นได้อย่างถนัดถนี่
น้ำเงี่ยนภายในร่องหลืบไหลซึมออกมาทันที ทั้งรสชาติอันหอมหวานและกลิ่นหอมจาง ๆ
พาให้เค้าเพลินกับการใช้ลิ้นละเลงเนินหีนี้ยิ่งนัก

วีรพงษ์หลับตาโลมเลียร่องหีแม่พลางเบือนหน้ากรวกเกลื้อไปมาราวกับคนมูมมาม
จนน้ำเหนียวที่กำลังพร่างพรูเปรอะปากและแก้ม แต่มันกลับทำให้วีรพงษ์ยิ่งเกิดอารมณ์เคลิบเคลิ้ม
"นี่เรากำลังถูไถใบหน้าตัวเองกับหีแม่บังเกิดเกล้าอยู่หรือเนี่ย เหมือนฝันเหลือเกิน" วีรพงษ์บ่นเบา ๆ กับตัวเอง
แต่หารู้ไม่ในความเงียบนั้นแม้เพียงเสียงเบา ๆ ก็สามารถได้ยินได้

ซึ่งวัชรีเองก็ได้ยินเช่นกัน เธอตกใจกับใจความที่ได้ยิน เบิ่งตาโพลงพร้อมผงกศีรษะมอง
แม้ในความมืดแต่ด้วยเธอหลับตาเป็นเวลานานสายตาจึงปรับเข้าที่อยู่แล้ว
"ว้าย!!! วี... ทำอะไรแม่น่ะ" วัชรีแทบช๊อค จากเรียวลิ้นและสัมผัสอันซ่านเสียวซึ่งเคยคิดว่าซานตานเป็นผู้มอบให้
แต่กลับกลายเป็นลูกในไส้ของตนเอง ถึงเธอจะซ่านสยิวเพียงใดแต่มันก็หาใช่สิ่งที่บุคคลธรรมดาจะทำกัน
"หยุดนะวี! แม่บอกให้หยุด!" วัชรีร้องห้าม ขาทั้ง 2 ข้างพยายามออกแรงหนีบเข้าหากัน แต่ก็ไร้ผล

ยิ่งเธอดิ้นบั้นท้ายก็จะยิ่งขยับส่งให้เนินหีเสียดสีกับเรียวลิ้นลูกชายมากขึ้น
ทางวีรพงษ์ในตอนนี้ไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้ว เสียงที่ตะโกนห้ามปรามเสมือนเป็นเพียงลมปากที่เข้าหูซ้ายผ่านออกหูขวา
ความเงี่ยนเข้าครอบงำเกินกว่าจะให้เด็กหนุ่มถอนตัวเสียแล้ว
ยิ่งเธอดิ้นเท่าไร วีรพงษ์ก็ยิ่งเกิดอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น เค้าสอดแขนทั้ง 2 รอดใต้ต้นขาพร้อมบิดแขนเข้าล็อค
นิ้วมือทั้ง 2 ข้างเอื้อมแบะแคมหีให้ยิ่งถ่างออก ลิ้นซึ่งเกร็งจนแข็งถูกแยงเข้าในรูหีช้า ๆ

"ซี๊ดดดดส์... อูววว์... วี... ปล่อยแม่เถอะ... ซี๊ดดดส์" วัชรีขนลุกเรียวเธอเผลอขมิบร่องหีบีบรัดลิ้นลูกชายอย่างลืมตัว
ความรู้สึกมันต่างจากดุ้นควยที่เคยโดนสามีเอาเข้าอยู่บ่อย ๆ
มันสากแต่ทว่านุ่มนวลเข้าไม่ลึกแต่ทว่าสัมผัสกับเม็ดเสียวได้ดียิ่งนัก
วีรพงษ์แยงลิ้นสลับดูดเม็ดละมุนซึ่งเต่งสู้จะรู้สึกได้ 
"ว่ะ.. วี... หยุดเถอะ... วี... ซี๊ดดดส์" มันสุดจะกลั้นไว้ได้ต่อไป น้ำเสียวที่ขมิบกลั้นไว้ค่อย ๆ ไหลออกมา
วัชรีเริ่มแอ่นโคกเนินรับการกระทำของลูกชาย ความเสียวและตัณหาในกายมนุษย์เริ่มเล่นตลกกับ 2 แม่ลูก
"วี... ซี๊ดดดดดส์... วี... พอเถอะ... แม่... ซี๊ดดส์... อูววว์" เสียงร้องขอปนครางของวัชรีดังไม่ขาดสาย
แต่เธอหารู้ไม่ว่ามันยิ่งกระตุ้นอารมณ์เพศของวีรพงษ์

บัดนี้ควยในกางเกงบอลตัวหลวมแข็งเป็นลำด้วยเลือดแห่งความเงี่ยนที่ไหลบ่ามาคั่งไว้
เด็กหนุ่มรู้ตัวดีว่าตนพร้อมแค่ไหน เค้าค่อย ๆ ถอนแขนออกแล้วพรมจูบเลื่อนขึ้นไปผ่านหน้าท้อง
"วี... หยุด... ยะ... อย่า... โอ้วว์" วัชรีแขม่วเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียว
วีรพงษ์ค่อย ๆ ลากเรียวลิ้นฉ่ำขึ้นผ่านเนื้อเนียน
ทันทีที่ยอดประทุมถูกสะกิดด้วยเรียวลิ้นฉ่ำ มันก็เต่งรับเป็นเม็ดพร้อมด้วยเสียงคราง
"ซี๊ดดดส์... หยุดเถอะ... วี... นี่แม่นะวี"
เสียงปรามทั้งหลายไม่ทำให้วีรพงษ์หยุดการกระทำแต่อย่างใด
เค้ากลับอ้าปาก ความอุ่นค่อย ๆ ครอบลงกับยอดถัน วีรพงษ์ทั้งดูดทั้งขบปลายยอดในปากราวกับมันเป็นเจลลี่
ลิ้นของเค้ากระดกได้อย่างชำนาญยิ่ง
"อ้า... วี... อื่มมมมมม" เป็นครั้งแรกที่วัชรีครางโดยไม่ห้ามปราม หนำซ้ำยังแอ่นอกรับการดูดเลียนั้นอย่างลืมตัว
มือทั้ง 2 ของเธอกำแน่นริมฝีปากเรียวงามเม้มเข้าหากัน 

"แม่สวยจังครับ" วีรพงษ์ละจากยอดเต้าอวบค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นทาบ
เสียงกระเส่าพร่ำชมอยู่ข้างใบหู คำพูดนั้นทำให้วัชรีเสียวซ่านไปทั้งตัว
เพราะบัดนี้ลูกชายกำลังคร่อมร่างเธอพร้อมกับไซซอกคอสร้างความกระสัน
"แม่หอมไปหมดทั้งตัวเลย... สวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่ผมเคยรู้จัก" วีรพงษ์พูดพลางโลมเลียใบหูจนวัชรีขนลุก
มือหยาบ ๆ ของเค้าค่อย ๆ ลูบไล้สีข้างรอดผ่านระหว่างตัวเค้าและเธอลงมายังเนินโหนก
นิ้วกลางและนิ้วนางเริ่มถูกเข้ากับร่องเสียวที่บัดนี้ฉ่ำเยิ้มได้ที่ มันทั้งลื่นทั้งร้อน

"แม่เงี่ยนแล้ว... วีรู้... แม่กำลังมีอารมณ์กับผม"
"ไม่... วี... อย่า... นี่แม่นะ... วี... ซี๊ดดดส์.. อูยยยว์" ยิ่งวัชรีปฏิเสธ
วีรพงษ์ก็ยิ่งกระดิกนิ้วบี้เม็ดละมุนพร้อมแยงลิ้นฉ่ำสอดเข้าในรูหู
มือซ้ายอีกข้างยกขึ้นเคล้าเต้าอวบสร้างความเสียวให้แม่บังเกิดเกล้าอารมณ์เตลิด 
"ซี๊ดดดส์... ซี๊ดดส์... อ้า.อูววว์" เมื่อไม่มีเสียงห้าม วีรพงษ์ค่อย ๆ เลื่อนมือขวาขึ้นเล็กน้อยจนพ้นจากเนินโหนก
พร้อมใช้นิ้วโป้งเกี่ยวขอบกางเกงบอลลง เพียงเท่านั้นลำควยก็โผล่พ้นออกมาสู่โลกภายนอก
มันถูกจับให้ส่วนหัวถูไถเข้ากับปากร่องอันเยิ้มเหนียวนั้น
"วี... ไม่นะวี... นี่แม่... อย่าวี" วัชรีรู้ทันทีว่าสิ่งที่สัมผัสกับปากร่องเสียวเธอนั้นมันไม่ใช่นิ้วอีกแล้ว
หากแต่เป็นส่วนหัวบานของลำควยอุ่น ๆ
"อูยยยยยว์" มันทั้งเสียวทั้งจุก ลำควยที่แข็งราวกับแท่งไม้ถูกดันแทรกผ่านร่องเนื้อเข้าในคราเดียวจนสุด
หนอกเนินเบียดเข้าหากันแสดงให้รู้ว่าดุ้นเอ็นถูกกลืนเข้าไปจนหมด

เสียงครางของทั้งคู่ดังประสาน วีรพงษ์เกร็งกอดแม่ไว้แน่นมันช่างอบอุ่นและนุ่มนวลภายในตอดรัดหัวควยเป็นจังหวะ
ซึ่งควยเค้าเองก็กระตุกงึก ๆ ในร่องหีนั้นโดยไม่ได้บังคับเช่นกัน 
"เข้าไปแล้ว... แม่... ผมเสียว... อ้า" วีรพงษ์พร่ำกระซิบ และคงแช่ค้างดุ้นเนื้อไว้อย่างนั้น
"วี... เอาออกเถอะ... แม่เป็นแม่นะวี... โอ้ววว์" เสียงห้ามปรามบังเกิดอีกครั้ง
วีรพงษ์จึงสาวท่อนควยเข้าออกสั้น ๆ 1 ครั้ง พร้อมบดเบียดหนอกควยกับเม็ดเสียวจนวัชรีครางกระเส่าร่องหีขมิบรัดลำควย 
"มันเป็นไปแล้วครับแม่... ของแม่ยังเหมือนสาว ๆ มันขมิบรับของผมด้วย... แม่ก็อยากใช่มั้ยครับ... ผมรู้"
วีรพงษ์พูดพลางใช้มือขยับกางเกงให้พ้นจากตัว
"ป่าว... แม่ป่าวนะ... ซี๊ดดดส์" ทั้ง ๆ ที่กำลังถอดกางเกงอยู่ วีรพงษ์กระเด้าเอวเย็ดสวนคำปฏิเสธ
โดยครั้งนี้สาวยาว ตลอดลำครูดปากร่องเข้าออกสร้างความเสียวกระสันจนวัชรีอดครางไม่ได้
ในใจเธอเริ่มคิดว่าจะทนกับมันได้อีกนานแค่ไหน ถ้าถูกสาวควยเย็ดยาว ๆ ซ้ำ ๆ เธอจะทนได้อีกซักเท่าไหร่

เหมือนวีรพงษ์จะรู้ความคิดแม่ตัวเอง เมื่อถอดกางเกงออกได้
เค้าสอดแขนทั้ง 2 ลอดใต้แขนของแม่ขึ้นมาประคองศีรษะพลางขยับท่อนล่างช้า ๆ ยาว ๆ
"........... ซี๊ดดดส์.... วี... พอเถอะ... วี... ซี๊ดดดดส์... อูววว์" วัชรีพยายามเงียบแต่เมื่อวีรพงษ์สาวควยเย็ดยาว ๆ 3 – 4 ครั้ง
เธอก็ต้องครางออกมา มันเกินกว่าจะสะกดกลั้นไว้ได้
"วีพอ... หยุ.. อื้อ..อื้อ" เสียงห้ามสิ้นหายไปกับปากที่ประกบลง วีรพงษ์ตัดสินใจประกบจูบแม่บังเกิดเกล้า
เค้าพยายามแทรกลิ้นเข้าไปตามสัญชาติญาณ แต่วัชรีเองก็เม้มปากทันทีเช่นกัน
แต่ก็หาทำให้เค้าลดละหรือหมดอารมณ์ วีรพงษ์ยังคงกระเด้าพาลำควยครูดเข้าออกในร่องเป็นจังหวะแล้วค่อย ๆ เพิ่มความเร็วขึ้น
"อื้อ.. อือ.. อือออ" ปากอิ่มค่อย ๆ เผยอออกวีรพงษ์เองก็ไม่ปล่อยโอกาส เค้าแทรกลิ้นเข้าทันควันเหมือนข้าศึกที่กรูเข้าประตูเมือง
มือซึ่งสอดเข้าประคองศีรษะรั้งใบหน้าแม่เข้าหา ทั้ง 2 เริ่มแลกน้ำลายกันอย่างดูดดื่ม ปากของแม่ช่างนุ่มเหลือเกินกลิ่นก็หอม
ลิ้นที่สัมผัสหากันนั้นก็ช่างอ่อนนุ่มและร้อนแรงวีรพงษ์คิดในใจ
"ซี๊ดดดส์... อ้า" วัชรีเบือนหน้าซู๊ดปากระบายความซ่าน ในร่องซึ่งถูกลำควยลูกชายแทงเข้าออกมันเสียวขมิบรัดเป็นจังหวะโดยบังคับไม่ได้ มันทั้งเสียวทั้งแน่น
ด้วยท่าที่ต้องฉีกขาออกขนาดนี้ส่งให้ลำควยแทงเข้าไปลึกจนเสียวสุดขั้ว
มือซึ่งอยากโอบกอดเพื่อระบายอารมณ์กลับทำได้แต่เพียงเก็งกำแน่น
ความกระสันเหมือนจะรุมเร้าจนไม่มีทางประทุออก
"วี... อ้า... วี.. แม่... ซี๊ดดดดส์" วัชรีใกล้ถึงสวรรค์ มันเป็นหนทางเดียวที่เธอจะปลอกปล่อยความเงี่ยนในอารมณ์ คือ การกระดกก้นรับการกระหน่ำเย็ดที่เริ่มเร็วขึ้นของลูกชาย
"โอ้ว... ซี๊ดดส์... แม่ครับ... ซี๊ดดดดส์... อ้า" ยิ่งวัชรีกระดกรับเท่าไหร่ความเงี่ยนของวีรพงษ์ก็ยิ่งทวีคูณ อิริยาบถของวัชรีมันไม่ต่างอะไรกับได้เย็ดผู้หญิงร่านคนหนึ่ง อารมณ์ของเค้าในตอนนี้กระเจิง เสียงครางของทั้ง 2 ดังลั่น
"ซี๊ดดดดส์... อ้า... ว่ะ.. วี.. แม่... ซี๊ดดดส์... แม่"
"แม่ครับ ผมจะ... ซี๊ดดดส์... แม่ครับ" วีรพงษ์ลดมือทั้ง 2 ลงเข้าบีบเคล้นเต้าอวบอย่างแรง พร้อมเร่งกระเด้าเย็ดโดยไม่สนใจว่าจะเข้าจังหวะกับแม่หรือไม่อีกต่อไป "โอ้... วี.. "วี... วี... โอ้ววววววว์" วัชรีเกร็งไปทั้งร่าง จุดสุดยอดจากลูกชายช่างเสียวซาบซ่านต่างไปจากทุกครั้ง แต่วีรพงษ์ยังคงกระหน่ำซอย มันยิ่งทำให้เธอเสียวไม่หยุด "แม่...ผมจะเสร็จ... ซี๊ดดดส์.. จะเสร็จแล้ว" วีรพงษ์แบบอวบอวบแน่น และเหมือนวัชรีนึกขึ้นได้
"อย่า!!... วีอย่าปล่อยข้างใน.. ยะ... ซี๊ดดดดดดดดส์... อูวววว์" เสียงห้ามจบลงด้วยอาการผวากับเสียงครางแห่งความเสียว
เธอรู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ ฉีดเข้าภายในร่าง มันลึกจนขนลุกไปทั้วตัว

"ฮื่อ... ฮื่อ... ฮื่อ..." วีรพงษ์ซบหน้าลงกับซอกคอด้วยความอ่อนแรง
โดยยังมีท่อนควยซึ่งกระตุกเป็นระยะคารูอยู่ เวลาผ่านไปร่วมนาที
ไม่มีเสียงใดในความมืดนอกจากเสียงลมหายใน
วีรพงษ์เมื่อสำเร็จความใคร่ สติก็กลับมา
เค้าไม่กล้าแม้กระทั้งขยับตัว นี่กูทำอะไรลงไป เค้าคิด
"วี" เสียงเย็นเยือกซึ่งดังข้างหู
พาให้เค้าสะดุ้งรีบผละออกจากร่างนั้นลงยืนกับพื้นด้วยความละอาย

"แม่... ผม... ผมขอโทษ" 
"หยิบกุญแจอันเล็ก ๆ ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งให้แม่หน่อย" วีรพงษ์รีบทำตาม
เค้าเดินรี่ไปเปิดไฟหน้ากระจก ดึงลิ้นชักออกหามันอย่างลนลาน เมื่อหาเจอก็หันหลังกลับ
แต่ภาพเบื้องหน้าทำให้เค้าชะงัก แสงไฟส่องให้เห็นสาวงามนอนเปลือยกายต่อหน้า
หน้าอกอวบอิ่มยอดถันเต่งเป็นเม็ด ปากร่องเสียวมีคราบน้ำเยิ้ม
"ไขให้แม่หน่อย"
"ค่ะ.. ค่ะ.. ครับ" วีรพงษ์สะดุ้งตื่นจากภวังค์ เค้าเดินพาร่างเปลือยเข้าไปใกล้
เมื่อยิ่งใกล้ดุ้นควยซึ่งหดก็เริ่มมีอาการเหมือนจะขยายตัวขึ้นมาอีก
ซึ่งวีรพงษ์เองก็ไม่สามารถบังคับมันได้ เมื่อเค้าไขกุญแจมือก็ได้สัมผัสกับเนื้อเนียน
ลำควยเค้าค่อย ๆ กระตุกแข็งขึ้นเป็นจังหวะ

วัชรีเมื่อได้เห็นถึงกับหน้าแดง ขนาดมันไม่ต่างจากของไกรศักดิ์ผู้พ่อเลย
ทันทีที่มือขวาเป็นอิสระเธอรีบเอี้ยวตัวแก้เชือกที่ข้อมือซ้ายทันที
เธอรู้ดีว่าลูกชายกำลังมีอารมณ์ เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง
เธอดึงตัวขึ้นนั่ง เชือกผูกข้อเท้าทั้ง 2 ถูกแก้ออกอย่างรวดเร็ว
ภาพที่เห็นเต้าอวบทรงงามที่ทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วง
พาให้ลำควยวีรพงษ์กระตุกงึก แล้ววัชรีก็ต้องตกใจสุดขีดอีกครั้ง

"แม่ครับ... แม่" วีรพงษ์โถมตัวเข้าโอบกอดร่างเปลือยของแม่พร้อมซุกไซใบหน้าเข้ากับเต้าอวบ
"ไม่นะวี... อย่า" วีรพงษ์ไม่ฟังเสียงปรามแต่อย่างใด เค้าพยายามใช้น้ำหนักตัวที่มากกว่าโน้มร่างวัชรีให้นอนหงาย
ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ทันทีที่หลังเธอติดเบาะ วีรพงษ์ก็ใช้ปากประกบดูดยอดถัน
มือซ้ายจับข้อมือแม่บังเกิดเกล้าล็อคชูเหนือศีรษะ มือขวาฟ้อนเฟ้นเต้าอวบอย่างหืนกระหาย

"อย่า... วี... หยุดนะ... นี่.. นี่... นี่แม่นะวี" มือซ้ายที่เหลือเป็นอิสระอีกข้างพยายามผลักไสใบหน้าลูกชาย
ให้ห่างจากเต้างามของเธอทั้ง ๆ เมื่อยังเด็กเธอก็ให้เค้าดูดมันด้วยความเต็มใจ
"วี... ยะ.. อย่า" วัชรีซึ่งยังครองสติได้ เมื่อรู้ว่าลูกชายหน้ามืดเต็มทีจึงออกแรงผลักหน้าวีรพงษ์แรงขึ้นพร้อมเบี่ยงตัวไปมา
เธอดิ้นจนสุดแรง ในที่สุดก็บิดตัวจนร่างเปลือยของเธอนอนคว่ำหน้าหลุดจากโลมเลีย
แต่มันกลับไม่ทำให้วีรพงษ์ละความพยายามเลย หากกลับเป็นการกระตุ้นความเงี่ยนให้มากขึ้น
เมื่อก้นงอนนุ่มหงายขึ้นแทนที่และเบียดเข้ากับแก่นกายซึ่งแข็งและร้อนผ่าวราวแท่งเหล็กที่ถูกตีใหม่ ๆ

"แม่ครับ... แม่" วีรพงษ์ยังคงดอมดมต้นคอด้านหลังของแม่ เค้าชอนไชเรียวลิ้นแทะเล็มไปถึงใบหูอย่างนุ่มนวล
"อย่าวี... ยะ.. อย่า.. ลูก" เนื่องจากตอนนี้เธอนอนคว่ำ 2 แขนกอดอกบังเต้าไว้ อีกทั้งร่างของลูกชายยังคร่อมตัวเธออยู่
วัชรีจึงไม่สามารถกระทำสิ่งใดได้มากไปกว่าใช้วาจาห้ามปราม
"หอมจังครับแม่... ซี๊ดดดส์" วีรพงษ์พรมจูบไปเรื่อย ๆ พร้อมด้วยท่อนล่างที่เริ่มขยับเอาดุ้นเอ็นถูไถกับง่ามก้นของแม่
เค้าสอดมือขวาเข้ากลางลำตัววัชรีอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เม็ดเสียวของเธอก็ถูกสะกิดด้วยปลายนิ้วลูกชายเสียแล้ว

"ว้าย! วี... ซี๊ดดดส์" วัชรีเลื่อนมือตามลงมา แต่ก็ทำได้แค่เพียงจับมือวีรพงษ์ไว้อีกทอดเท่านั้น
"แม่ครับ... ก้นแม่นุ่มเหลือเกิน... อ้า" วีรพงษ์ครางกระเส่าเบียดลำควยกับง่ามก้นแม่ เค้าเริ่มรู้สึกชุ่มที่ปลายนิ้ว
มันอาจเกิดจากน้ำของเค้าที่ค้างอยู่ภายในหรือ อาจเป็นน้ำแห่งความกระสันของแม่ที่เริ่มอดใจไว้ไม่ไหว
แต่มันก็ไม่ทำให้เค้าลังเลแต่อย่างใด ลำควยนั้นยังคงดุนง่ามก้นนุ่ม ๆ มันช่างเป็นสัมผัสอันแปลกใหม่กับท่อนเอ็นลำนี้เหลือเกิน

"วี... วี... พอเถอะวี... ซี๊ดดดส์" วัชรีพูดพร้อมอาการเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียวเป็นระยะ
มือซึ่งจับมือลูกชายบีบเป็นจังหวะเดียวกับอาการเกร็ง
เมื่อโดนปลุกเร้ามากขึ้นร่างกายก็เริ่มตอบสนอง
เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำที่เริ่มไหลชโลมนิ้วลูกชายนั้นคือน้ำแห่งความเงี่ยนของเธอเอง

"แม่ครับ... น้ำแม่ออกแล้วครับ... ซี๊ดดดส์... อ้า... แม่เสียวมั้ยครับ" วีรพงษ์พร่ำเสียงกระเส่าข้างหูวัชรี
เค้ารู้ว่าแม่เริ่มมีอารมณ์ร่วมแล้ว ถึงไม่มากก็น้อย
"โอ๊ย!... ซี๊ดดดส์... อึ่มมมมม" วีรพงษ์หักข้อนิ้วค่อย ๆ แยงเข้าในรูหีแม่ช้า ๆ เสียงร้องเบา ๆ
แต่ตามด้วยเสียงครางกระเส่าแห่งความสุขเล็ดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

"วี.. พอเถอะวี... ซี๊ดดดส์" วัชรีรู้ดีว่าเมื่อครู่เผลอครางอย่างสุขสม
เธอยังคงพูดปรามเพื่อหวังว่าจะหลุดจากการกระทำของลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย
"อูววว์... อ้า" วีรพงษ์ไม่ฟัง เค้าแหย่ลิ้นฉ่ำเข้าในรูหู พร้อม ๆ กับกระดิกนิ้วเข้าออกในร่องหีแม่ช้า ๆ
จนวัชรีครางดังขึ้น ใบหน้าเอียงขนลุกเกรียวจากเรียวลิ้น เธอซาบซ่านไปทั้งตัว
ก้นเธอเริ่มกระดกรับนิ้วอย่างเป็นจังหวะซึ่งก็เท่ากับว่ามันเบียดลำควยเขื่องเป็นการเชื้อเชิญ

ความเงี่ยนพาให้ลืมทุกสิ่ง เธอเริ่มคิดในแง่ที่ว่า ให้มันพ้น ๆ ไปเมื่อลูกชายสุขสมอารมณ์หมาย เกมส์ในครั้งนี้ก็จบ
ไม่มีเหตุผลที่ต้องมาดิ้นรนทั้งที่รู้ว่าพละกำลังของเธอไม่สามารถดิ้นหลุดจากลูกชายที่บัดนี้หน้ามืดลืมตัวไปได้
จิตฝ่ายต่ำพยายามปรุงแต่งเหตุผลให้เธอไขว้เขว
"แม่... ก้นแม่นุ่มจัง... ซี๊ดดดส์... แม่... แม่ครับ" วีรพงษ์ถอนมือออกจากเนินนูนช้า ๆ

แล้วเปลี่ยนมาจับมือของวัชรีแทน เค้าประคองมันลงไปยังพูเนื้อ
เกร็งนิ้วกดให้นิ้วของแม่แตะเข้ากับปุ่มกระสันแล้วคลึงเบา ๆ
"ซี๊ดดส์... วี... วีจะทำอะไร... ซี๊ดดดส์"
"แม่ครับ.. แม่ช่วยตัวเองสิครับแม่ แม่ถูมันสิครับแม่" วีรพงษ์ขยี้นิ้ววัชรีให้ทำตาม
"ซี๊ดดส์... โอ้วว์" วัชรีเริ่มปล่อยใจทำตามอย่างว่าง่าย เธอเริ่มบี้เม็ดเสียวตัวเอง

วีรพงษ์เห็นเช่นนั้นจึงถอนมือออก เค้ายังคงพรมจูบซอกคอแต่มือที่ถอนออกมานั้น
บัดนี้ประคองลำควยเขื่องเหมือนจะทำการใหญ่ เค้าเริ่มกดมันคงกับหว่างขาของแม่
"อ้า... วี" เมื่อรู้สึกได้ถึงหัวบานที่เขี่ยบริเวณปากร่องจากด้านหลัง วัชรีก็ร้อนวูบไปทั้งร่าง
ควยของลูกชายกำลังจะเข้าไปกระเด้าเย็ดรูหีเธออีกครั้งหรือ
ความรู้สึกผิดชอบในคราแรกหายไปโดยสิ้นเชิง
เธอค่อย ๆ ยกก้นให้ลูกชายจับหัวถอกถูไถได้อย่างถนัดถนี่
วีรพงษ์จับปลายหัวเขี่ยบริเวณปากร่องจนฉ่ำเยิ้มไปหมดแต่ไม่ยอมเอาเข้า

"ซี๊ดดส์... วี... วีลูกแม่" กลับกลายเป็นวัชรีที่ถวิลหามัน เธอยกก้นอยู่หลายครั้งเพื่อให้พอดีกับระดับลำควยที่จะแทรกเข้าไป
แต่กลับไม่มีวี่แววที่ลูกชายจะดันมันเข้าแต่อย่างใด ภายในร่องหลืบตอนนี้มันร้อนวูบวาบไปหมด
น้ำหีเริ่มไหลบ่าเป็นสัญญาณว่ามันพร้อมรับลำควยอย่างเต็มที่แล้ว

วีรพงษ์ก็หาแตกต่างกันไม่ เค้าร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ส่วนหัวของลำควยนั้นบานแทบปริ
รู้สึกถึงน้ำใส ๆ อุ่น ๆ ปริ่มออกมาไม่ขาด
"วี... อย่าทรมานแม่อีกเลย... วี" ในที่สุดก็เป็นฝ่ายวัชรีที่เริ่มก่อน เธอโหย่งก้นขึ้น
สอดมือเข้าจับลำควยลูกชายดึงเข้าหาร่องหีตังเอง
ทันทีที่มันจ่อปากรูวีรพงษ์เองก็สุดทน
เค้าแทงสวนเข้าไปอย่างไม่กลัวเจ็บ

"อูวววว์... ซี๊ดดดดส์" เสียงครางประสานกันระงม
วีรพงษ์ทิ้งน้ำหนักตัวลงให้แม่นอนราบพร้อมกระเด้าให้ท่อนเนื้อแทรกเข้าออกในร่องหีช้า ๆ
"ซี๊ดดส์... ลูกแม่... ซี๊ดส์" วัชรีเอื้อมมือกลับมาบีบขาลูกชายเพื่อระบายความเสียว
วีรพงษ์ในท่านี้ถึงแม้ลำเนื้อจะเข้าไม่ลึกแต่ก็เสียวไม่น้อย ทุกดอกที่แทงลงไปร่องหีทั้งดูดทั้งขมิบรับ
ก้นนุ่ม ๆ นั้นเกร็งเป็นจังหวะ แต่ถ้าได้กระแทกให้สุดโคนคงจะมันส์ควยมากกว่านี้เป็นแน่
ไวเท่าความคิดเค้ายันตัวขึ้นใช้ 2 มือจับสะโพกยกเบา ๆ วัชรีผู้เป็นแม่ค่อย ๆ ดึงเข่าเข้าหาตัวเปลี่ยนเป็นท่าโก้งโค้งอย่างรู้กัน

"โอ้ววววว" วัชรีครางระงม เมื่อลูกชายจับแก้มก้นเธอแบะออกพร้อมถอนลำควยจนเกือบสุด
แล้วแทงมันลงไปใหม่ช้า ๆ จนมิดด้าม มันแทรกเข้าไปลึกจนชนกับมากมดลูกของเธอ
แต่ละครั้งที่แทรกเข้าออกนั้นสร้างความเสียวรูหีอย่างสุดยอด
"ของแม่ดีจัง... ซี๊ดดดส์... รูหีแม่รัดควยผมจังครับ... อ้า" ทั้ง ๆ ที่แบะแก้มก้นออกแต่รูสวรรค์กลับไม่คลายความฟิตเลย
หนำซ้ำยังทั้งตอดทั้งดูดทำเอาวีรพงษ์สะท้านหัวควยเป็นระยะ เค้าเริ่มกระหน่ำกระแทกเย็ดเร็วขึ้น

"โอ้ว.. วี... วะ.. วี.. ซี๊ดส์.. ล่ะ... ลูกแม่.. ซี๊ดดส์" ด้วยแรงกระแทกนั้นส่งให้สียงครางของวัชรีนั้นฟังไม่ได้ศัพท์
แต่ทว่าฟังแรกกระตุ้นอารมณ์เงี่ยนยิ่ง
"ไม่ไหวแล้ววี... ซี๊ดดส์... แม่... แม่" วีรพงษ์จับใจความได้ว่าแม่บังเกิดเกล้ากำลังจะขึ้นสวรรค์
แต่แทนที่เค้าจะเร่งให้เสร็จไปพร้อมกัน เค้ากลับก้มโอบเอวแม่คนสวยแล้วดึงเธอขึ้น
ขาที่คุกเข้าค่อย ๆ เหยียดสอดผ่านหว่างขาเธอกลายเป็นท่านั่งโดยไม่ยอมให้ท่อนควยหลุดจากร่องให้เสียวอารมณ์
เค้าเอนตัวลงนอนเป็นการวัดใจว่าแม่ต้องการเสพสมกับลำควยเค้าเพียงใด

วัชรีซึ่งบัดนี้ไร้ซึ่งพันธนาการใด ๆ นั่งคร่อมแก่นกลางลำตัวลูกชายอยู่ เธอก้มลงจับหน้าขาวีรพงษ์แล้ว
โหย่งตัวเย็ดต่อโดยไม่ต้องลังเลสิ่งใด ความกระสันที่จะถึงจุดสุดยอดส่งให้เธอไม่สนใจในสายเลือดอีกต่อไป
"อ้า..." ภาพเบื้องหน้าช่างเร้าอารมณ์วีรพงษ์ยิ่งนัก หญิงงามเมื่อครู่ที่พยายามดิ้นหนีกลับกลายเป็นนั่งขย่มเย็ดควยของเค้าอย่างเมามันส์
เค้าเสียวควยเป็นอย่างมากความฟิตที่บีบรัดรูดขึ้นลงตลอดลำควย

"แม่... ซี๊ดดดส์... แม่ครับแม่... ซี๊ดดส์" วีรพงษ์รู้ตัวว่าใกล้จะเสร็จเต็มทน กับร่องหีอันอุ่นโอบนุ่มภายใน
น้ำเงี่ยนเค้าเริ่มเคลื่อนจากถุงเก็บขึ้นมาจนรู้สึกได้ แต่ถึงกระนั้นเค้าก็ยังไม่อยากให้มันจบลง
2 มือถูกส่งลงไปจับกดรั้งสะโพกผายให้หยุด
"ฮื่อ... ฮื่อ" เสียงหอบหายใจดังเข้ามาแทนที่เสียงเนื้อกระทบเนื้อ
วีรพงษ์เกร็งมือจับแม่บิดตัวเบา ๆ วัรชีก็บิดตาม เธอยกขาข้ามลำตัวลูกชายกลับมา เป็นว่าทั้ง 2 เผชิญหน้ากัน
"แม่... แม่สวยจังครับ" วีรพงษ์พูดพลางดึงแขนแม่ให้โน้มลงมา
ประกบอิ้มของแม่บังเกิดเกล้าจูบลงกับลูกโดยไม่ต้องมีใครสั่ง
ท่อนล่างนั้นเริ่มขยับอีกครั้งช้า ๆ
"อืมม... อืมมม... อืมม" เสียงครางในลำคอกับความเสียว วัชรีทั้งกระเด้าทั้งบดเป็นวงทำเอาลูกชายกอดเธอไว้แน่น
ความเสียวที่ไม่สามารถกระกดไว้ได้อีกต่อไป วีรพงษ์เบือนหน้าจากการจุมพิตอย่างเร่าร้อน
"ไม่ไหว.. แม่ครับ.. ผม... ซี๊ดดส์... ผมจะออกแล้ว... แม่ครับ" วีรพงษ์กดเอววัชรีไว้แน่น
"ไม่นะวี!... อย่าปล่อยข้างใน... วี" วัชรีตกใจในคำพูดของลูกชาย จึงรีบห้ามพร้อมจะยกตัวออก แต่มันช้าไป
"ซี๊ดดดส์... อู้วววว์" วัชรีผวาก้มกอดลูกชายเมื่อรู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ พุ่งเข้าในร่องหี ทั้งดุ้นควยยังกระตุกแรง
ทำเอาเธอถึงจุดสุดยอดตามไปอย่างไม่น่าเชื่อ ร่องหีขมิบรับน้ำเงี่ยนทุกหยาดหยดที่พุ่งเข้าไปเป็นระรอก
"ฮือ... ฮือ... ฮือ... ฮือ... ฮือ..." ทุกอย่างเงียบงัน มีเพียงเสียงหอบหายใจของ 2 แม่ลูก"

< -------- >

              เวลาผ่านไป ในห้องแห่งความเงียบนั้น มีเพียงแสงจากโต๊ะเครื่องแป้งส่องสว่างเล็กน้อย
วีรพงษ์ซึ่งยังลืมตาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นโดยในอ้อมแขนมีแม่บังเกิดเกล้า
นอนซบแผงอกหลับใหลภายใต้ผ้าห่มอุ่น ด้วยความเมื่อล้า
             เค้าจึงขยับตัวเล็กน้อย ซึ่งมันก็เพียงพอจะทำให้วัชรีลืมตาเงยหน้าขึ้นมอง
ความสุขที่ได้รับทำให้เธอไม่ผวาลุกหนีหรือโดยวายแต่อย่างใด
ชายที่เธอกำลังซบเอาไออุ่นหาใช่ชายชู้ที่ไหน
หากแต่เป็นลูกในอุทรที่เธอชุบเลี้ยงมาจนเติบใหญ่

วีรพงษ์ลูบปอยผมดำขลับอย่างทะนุถนอม
"ผมขอโทษครับ"
".........." ไม่มีคำตอบใด ๆ จากวัชรี เธอซบหน้าลงกับแผงอกเค้าตามเดิม
"แม่ไม่ตอบ แสดงว่าแม่โกรธผม"
"แม่ไม่ได้โกรธวีหรอก แม่โกรธตัวเอง แม่โกรธตัวเองที่เผลอใจไปกับลูก"
"แม่ครับ... ผม" วีรพงษ์พูดเสียงอ่อย
"ผมขอโทษ ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้มากกว่านี้ผม..."
"ช่างเถอะจ้า ถึงยังไงมันก็เกิดไปแล้ว เอาเป็นว่าเปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นตั้งใจเรียนให้แม่ชื่นใจดีกว่า" วัชรีเงยหน้าขึ้นพูด
"ครับแม่ ผมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน" แววตาอันมุ่งมันและคำพูดอันหนักแน่นของลูกผู้ชาย ทำเอาวัชรีภูมิใจ
และคลายความรู้สึกผิดไปได้เหมือนกัน วีรพงษ์ก้มจุมพิตหน้าผากแม่เบา ๆ ด้วยความรัก
วัชรีหลับตาพริ้มก่อนจะซบหน้าลงนอน

"อ่อ... แม่ครับตามผมมา" วีรพงษ์ลุกจากเตียงเดินออกนอกห้องไป
วัชรีงงเล็กน้อยแต่ก็ลุกหยิบชุดคลุมใส่นอนสีม่วงเข้มผ้าลื่นเป็นเงา แล้วเดินตามออกไป
เธอมองซ้ายมองขวาว่าลูกชายไปไหน ก็พบกับประตูห้องวีรพงษ์เปิดอยู่เธอจึงเดินตามเข้าไป
ภาพที่เห็นคือลูกชายสุดที่รักกำลังค้นหาบางอย่างในกระเป๋าสตางค์

"เจอแล้วครับ" วีรพงษ์ยื่นยาเม็ดสีขาวให้แม่
"เชี่ยวจริงนะเรา" วัชรีรับมันแล้วเดินไปนั่งลงที่เตียง ขวดน้ำเปล่าซึ่งอยู่บนหัวเตียงถูกหยิบมาเปิดฝาออก
"ไม่หรอกครับ ธรรมดาผมจะใช้ถุงยาง แต่บางทีมันรุนแรงไปหน่อยอะครับ ขาดเลย" วีรพงษ์พูดหน้าทะเล้น
"ยังไงก็อย่ามั่วแล้วกันโรคมันเยอะ" วัชรีพูดพร้อมกับหย่อนเม็ดยาลงคอแล้วดื่มน้ำตาม

"ผมไม่ได้มั่วนะครับแม่ ผมทำกับแฟนผมคนเดียว เอ่อ... ไม่ใช่สิ แฟนผม 2 คน" วีรพงษ์ถือโอกาสเข้าโอบกอดพร้อมหอมแก้มแม่
"แนะ... ลูกคนนี้หนิ แล้วไม่คิดจะใส่เสื้อผ้าหรือไง น่าไม่อาย" วัชรีตีแขนลูกชายเบา ๆ 
"แหะ ๆ ลืมไปเลย"

ขณะที่หยิบกางเกงมาใส่นั้น สายตาก็พลันมองไปที่คอมพิวเตอร์
"ใช่... แม่กำลังค้นหาอะไรเหรอครับ มาเดี๋ยวผมช่วย" วีรพงษ์พูดพลางเปิดคอมพิวเตอร์
"เอ่อ... เอ่อ..." วัชรีทำท่าอ้ำอึ้ง เธอคุ่นคิดถึงภาพสามีกำลังเสพสมกับลูกสาวตัวเอง
มันช่างน่าละอาย แต่แล้วเธอกลับชะงัก เพราะเมื่อครู่เธอเองก็เป็นฝ่ายผิดต่อสามีเช่นกัน
"มีอะไรเหรอครับแม่ เหม่อเชียว"
"อ่อ... ปะ..ป่าวจ่ะ... เฮ่อ! ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มา แม่จะเล่าให้พัง" วัชรีเริ่มเล่า
โดยมีลูกชายนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ซึ่งห่างไปไม่ถึงวา

< -------- >

              แม่คนสวยนั่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยไม่ปิดบังตั้งแต่ต้น
กระทั่งถึงวิธีเรียกซาตานจนทำให้เธอต้องมาตกเป็นของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง แต่... ไม่อยากจะเชื่อนี่มันเรื่องจริงเหรอครับเนี่ย"

เมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมด วีรพงษ์ถึงกับขนลุก แต่ในใจเค้าก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับรู้ว่า
พ่อของเค้ามีสัมพันธ์สวาทกับลูกสาวในไส้หรืออีกนัยหนึ่งคือน้องสาวซึ่งเกิดคลานตามกันมากับเค้า 
"แม่บอกว่าเค้าชื่ออานนท์ใช่มั้ยครับ"
"ใช่จ้า... อานนท์ ชื่อนี้แม่จำได้ขึ้นใจ แต่ข้อมูลในอินเตอร์เนต คำว่าอานนท์มีอยู่ 2 หมื่นกว่ารายการ แม่คงหาไม่เจอแน่"
"แม่ลืมอะไรไปรึป่าวครับ แม่บอกว่าอานนท์ร้องไห้แล้วเรียกหาน้ำทิพย์ไม่ใช่เหรอครับ" วีรพงษ์พูดพลางเคาะแป้นคีย์บอร์ดเพื่อป้อนข้อมูล
"ใช่... จริงด้วย แม่ลืมไปซะสนิท"

"นี่ไงครับ... เจอแล้ว... โศกนาฏกรรมความรักต้องห้าม" วัชรีรีบลุกขึ้นยืนหลังเก้าอี้ซึ่งวีรพงษ์นั่งอยู่
เธอก้มตัวลงอ่านข้อความบนหน้าจออย่างสนใจ
"หอมจังครับแม่" วีรพงษ์เบียดใบหน้าเข้ากับเต้าอวบที่โน้มลงมาหา
"อย่าเพิ่งเล่นสิวี" เสียงดุถึงแม้จะไม่แข็งแต่ก็ไม่นุ่ม
"ครับ" วีรพงษ์รับฟังพร้อมทำตามอย่างว่าง่าย

              เค้าและเธออ่านมันไปจนจบ จึงได้รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพ่อลูกอานนท์นั้นรันทดเพียงใด
"พวกเค้าน่าสงสารจังครับแม่... แล้วเราจะเป็นอย่างครอบครัวอานนท์รึป่าวครับ" เสียงซึ่งเคยหยอกล้อเมื่อครู่กลับกลายเป็นเศร้า
วัชรีเองก็รู้สึกสะเทือนใจเช่นกัน เธอนั่งลงคุกเข่าลงข้างลูกชาย
"มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครยอมรับหรอกจ้าวี ไม่มีสังคมไหนรับได้กับเรื่องแบบนี้ เราต้องยอมรับว่าเรา 2 คนก็ผิด"
วัชรีพูดไปพลางลูบศีรษะลูกชายไป
"แต่เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนไม่ใช่เหรอครับแม่ ผมมีความสุข หรือว่าแม่ไม่มีความสุขครับ"
"มีจ้า..."
"งั้นเรื่องนี้จะเป็นความลับภายในบ้าน ผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบอานนท์ขึ้นกับพวกเราเด็ดขาด" วีรพงษ์รีบตัดบท

เค้ามองแม่ด้วยสายตาเว้าวอน
"อื่มม... งั้นก็ได้" วัชรีมองหน้าลูกชาย ในโสตประสาทคิดเล็กน้อย แต่ก็ตอบตกลง
"ผมรักแม่ที่สุดในโลกเลย" วีรพงษ์หอมแก้มแล้วก้มลงสวมกอด
"เดี๋ยววี แม่รู้สึกผิดต่อพ่อของลูก เรื่องนี้ก็ให้พ่อเค้ารู้ไม่ได้นะจ๊ะ" วัชรีผละลูกชายออกเบา ๆ
"ครับแม่"
"งั้น... ลูกนอนได้แล้ว"
"ไม่เอา ผมจะนอนกับแม่ครับ" วีรพงษ์ทำท่าอ้อน
"ไม่ได้จ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อเค้าก็กลับมาแล้ว อย่าดื้อสิ" วัชรีหอมไปที่แก้มลูกชายฟอดใหญ่
ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังประตู
"ก็ได้ครับ หลับฝันดีนะครับแม่"
"จ้าลูกรัก แล้วอย่าลืมสัญญาล่ะ"
"ครับ ผมจะตั้งใจเรียน" แม่คนสวยหันหลังกลับมารับคำก่อนจะปิดประตู
ด้านวีรพงษ์นั้นยังคงมองเหม่ออมยิ้มด้วยความอิ่มเอมในใจ

Forbidden Love – IV (จบ)
January 8 2005 at 12:53 PM jam   (เข้าสู่ระบบ jam_jam)

Forbidden Love – IV ตลอดกาล (จบ)
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่ออ่านเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบในเรื่องแนวนี้ ชื่อตัวละครถูกสมมติขึ้นทั้งสิ้นมิได้มีตัวตนอยู่จริง กรุณาอย่านำไปโพสต์ต่อข้างนอก อันนี้ไม่ได้หวงแต่เพราะผมไม่อยากให้ผู้ที่ไม่ได้มีความชื่นชอบตรงกันขุดโคตรผู้แต่งนั่นก็คือผมขึ้นมาด่า และผมหวังว่าจะใช้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้ต้องการให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแต่อย่างใด ขอบคุณครับ...jam

            ทิวากรส่องแสงลอดผ่านผ้าม่าน วัชรียังคงซุกกายภายใต้ผ้าห่มอุ่น
เธอยังอ่อนเพลียจากเหตุการณ์เมื่อคืน หญิงสาวไม่วี่แววว่าจะลืมตาขึ้นแม้แต่น้อยเพราะหลังจากกลับเข้าห้องมา เธอยังต้องเก็บกวาดสิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชือก เทียนไข
และแม้กระทั้งอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อขจัดคราบน้ำรักที่ลูกชายฝากเอาไว้ในตัวเธอ

เวลาล่วงเลยไปถึง 10.30 น. สัมผัสอุ่น ๆ บริเวณแก้มก็ทำให้วัชรีลืมตาขึ้น
"กลับมาแล้วหรือค่ะ" วัชรีเอ่ยถามเมื่อพบสามีอันเป็นที่รักนั่งอยู่ด้านข้างพลางลูบไล้พวงแก้มเธอด้วยความเอ็นดู
"จ้า ผมคิดถึงคุณจัง" ไกรศักดิ์ก้มลงหอมแก้มภรรยาเบา ๆ เค้าสอดมือเข้าภายใต้ผ้าห่มอุ่น ในไม่ช้า
เต้าอวบก็ถูกประคองเคล้นเบา ๆ เค้าอดใจไว้ก่อนที่จะไปสัมมนาจนกระทั่ง 2 วันผ่านไป
ความต้องการจึงยิ่งมากเป็นเท่าทวี เมื่อได้เห็นภรรยาสุดที่รักหลับใหลดูไร้เดียงสาก็ยิ่งต้องการมากขึ้น

ไกรศักดิ์ค่อย ๆ พรมจูบเลื่อนไปยังริมฝีปากอิ่ม มันช่างนุ่มนวลและหอมหวาน
"ศักดิ์ค่ะ กี่โมงแล้ว" วัชรีเบือนหน้าหนี อันที่จริงเธอก็มีความต้องการ
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้ว เธอกลับกังวล ความรู้สึกผิดพาให้คิดไปต่าง ๆ นานา
กลัวว่าร่วมรักกับสามีแล้วเค้าจะจับได้ กลัวว่ากลิ่นของลูกชายจะติดตัวของเธอ
"จะ 11 โมงแล้วจ้ะ ทำไมเหรอ"
"คุณทานข้าวรึยัง เดี๋ยวชั้นจะลงไปทำให้"
"ยังเลย แต่ผมอยากกินคุณมากกว่า" ไกรศักดิ์พูดหวานกระเซ้าพร้อมก้มหน้าลงหมายจะจูบวัชรี
"อย่างเพิ่ง ไปอาบน้ำก่อน" วัชรีพยายามบ่ายเบี่ยงและดันตัวสามีเธอเบา ๆ
"งั้นก็ได้"
"ค่ะ ชั้นจะลงไปทำอะไรให้ทาน" หญิงสาวยันตัวขึ้นหอมแก้มสามี ก่อนจะผละจากเตียงนุ่ม ๆ

< -------- >

"ไม่มีอะไรเหลือเลยเหรอเนี่ย" เสียงบ่นกับตัวเองเมื่อเปิดตู้เย็นแล้วเห็นเพียงว่างเปล่า
วัชรีเหลียวมองนาฬิกา
"11 โมงกว่า... อื่ม" วัชรีจัดแจงขึ้นห้องแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบาย ๆ
เสื้อยืดกางเกงผ้าขาสั้นคือชุดที่เธอเลือกใส่
"ศักดิ์ค่ะ! ชั้นไปคาร์ฟูเดี๋ยวนะ" หญิงสาวกลับลงมาพร้อมกุญแจรถ เธอตะโกนบอกสามี
ซึ่งยังอยู่ในห้องน้ำแล้วเดินออกจากบ้านโดยไม่รอฟังคำตอบ
"จ้า!"

< -------- >

"สดชื่น" ชายหนุ่มเดินออกจากห้องน้ำ ด้วยสภาพผ้าขนหนูผืนเดียว
เค้าเดินไปพลางใช้ผ้าผืนเล็กอีกผืนขยี้เช็ดผมไปพลาง
ไกรศักดิ์ยังคงสะกดเก็บความต้องการไว้ การอาบน้ำในครั้งนี้จึงไม่รวมถึงการสำเร็จความใคร่แต่อย่างใด

"อ้าว! วันนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ ทำไมรองเท้ายังอยู่ล่ะ" ไกรศิกดิ์ทำสีหน้าแปลกใจเมื่อเห็นรองเท้าของลูกสาว
เค้าเดินเช็ดศีรษะขึ้นบันได แล้วหยุดลงตรงหน้าห้องไพริน
"ริน... ริน" ไกรศักดิ์ร้องเรียกพร้อม ๆ กับบิดประตูเข้าไป
ถึงในห้องจะไม่ได้เปิดแอร์แต่ไอเย็นจากเมื่อคืนยังคงสะสมให้รู้สึกสบาย
และก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ เบื้องหน้าคือเด็กสาวนอนตะแคงซ้ายหันหลังให้

ไพรินยังคงนอนอยู่บนเตียง ทั้งร่างมีอาภรณ์ปกปิดอยู่เพียงชิ้นเดียวคือผ้าขนหนู
ส่วนท่อนเอวลงไปมีผ้าห่มปิดอยู่
"กลับมาแล้วเหรอค่ะพ่อ" เสียงเอื่อยๆทักทาย ใบหน้าที่เหลียวมาดูซีดเซียวแต่ไม่มากนัก
ทำให้ไกรศิกดิ์รู้ทันทีว่าลูกสาวไม่สบาย เค้าเดินไปนั่งข้าง ๆ
ด้านขวาของเธอพร้อมเอื้อมเอาหลังมือแตะบริเวณหน้าผาก
"โห... ตัวร้อนจี๋เลย" ไกรศักดิ์ชักมือออก เค้าไม่รู้หรอกว่าอันที่จริงแล้วมันไม่ได้ร้อนขนาดนั้น
แต่ที่เค้ารู้สึกเช่นนั้นก็เพราะความเย็นจากตัวเค้าหลังอาบน้ำนั่นเอง

"แล้วทานยารึยัง" ไพรินส่ายหน้าแทนคำตอบ ผู้เป็นพ่อรีบวิ่งลงห้องครัว
นม 1 กล่องกับยาแก้ไข้ 2 เม็ดถูกนำเข้ามายังห้องอย่างรวดเร็ว
ไกรศักดิ์ใช้มือซ้ายสอดประคองร่างลูกสาวลุกขึ้นนั่งโดยใช้แผ่นอกกำยำของเค้าเป็นเสมือนที่อิงรับน้ำหนัก
"ดื่มนมหน่อยนะลูก" ริมฝีปากเรียวสีชมพูดูดนมจากหลอดด้วยแรงอันน้อยนิด
"พอแล้วค่ะพ่อ" ไพรินพูดพร้อมส่ายหน้าช้า ๆ ทั้ง ๆ ที่ดื่มไปได้นิดเดียว
"งั้นกินยาแล้วนอนพักผ่อนนะ" ไกรศักดิ์ยื่นยาให้ลูกสาว ดีที่ไพรินเป็นคนทานยาง่าย
เธอรับมันใส่ปากแล้วดื่มน้ำตาม ผู้เป็นพ่อค่อย ๆ ประคองลูกสาวให้นอนลงช้า ๆ
แต่ไกรศักดิ์ยังคงเป็นห่วงลูกสาว ความรู้สึกถึงความร้อนขนาดนี้อาจทำให้ช็อคได้

เค้ารีบจัดแจงเดินออกจากห้องลงไปยังครัวอีกครั้ง แล้วกลับเข้ามาพร้อมผ้าสะอาดกับน้ำ 1 ถังเล็ก ๆ 
"พ่อว่าลูกเช็ดตัวระบายความร้อนหน่อยดีกว่า" ยังไม่ทันได้รับคำตอบใด ๆ ด้วยความเป็นห่วง
ไกรศักดิ์รีบหยิบผ้าชุบน้ำบิดจนเกือบแห้งซับเบา ๆ บริเวณใบหน้า
ซึ่งบัดนี้เธอกลับไปนอนท่าตะแคงคุดคู้เช่นเดิมแล้ว
"ไหน... นอนดี ๆ ซิลูก" ไพรินค่อย ๆ ขยับร่างนอนหงายอย่างคนไร้เรี่ยวแรง
เธอยังคงหลับตาด้วยสภาพเหนื่อยอ่อน ไกรศักดิ์ชุบน้ำบิดผ้าอีกครั้ง
เค้าจับข้อมือขวาเธอยกขึ้นซับผ้านุ่ม ๆ กับนิ้วมือ ผ่ามือและเลื่อนลงไปยังต้นแขน
แต่ทั้งเค้าและเธอไม่รู้เลยว่าเมื่อไกรศักดิ์ยกแขนลูกสาวขึ้นกอบกับการเอี้ยวตัวเมื่อครู่ทำให้ปมผ้าขนหนูคลายออก
เค้าโน้มตัวเอื้อมคว้าข้อมือซ้ายของลูกสาวมาพาดหน้าอกอิ่มเพื่อให้สามารถเช็ดได้ง่าย

เมื่อเช็ดเสร็จไกรศักดิ์ก็ดันแขนให้กลับเข้าที่ แต่การทำเช่นนั้นมันทำให้ต้นแขนของเธอครูดกับปมผ้าขนหนู
ส่งให้ปลายพับแบะออก เมื่อไกรศักดิ์ได้เห็นก็หายใจติดขัดทันที จากที่ไม่เคยคิดเรื่องลามกกับลูกสาว
แต่ภาพเบื้องหน้าส่งให้รู้สึกวูบวาบ แก่นกายภายใต้ผ้าขนหนูค่อย ๆ พองช้า ๆ
เค้ามองหน้าลูกสาว ไพรินยังคงหลับใหล เธอคงรู้สึกสบายตัวที่ได้ระบายความร้อนออกจากร่าง
ไกรศักดิ์กวาดสายตาลงมายังหน้าอกอิ่มอีกครั้ง เต้าอวบเป็นลูก มันกระเพื่อมขึ้นลงช้า ๆ เป็นจังหวะ
ความขาวเนียนบริเวณเนินนั้นงดงามหาที่ติไม่ได้ เค้ายกมือซึ่งจับผ้าเช็ดตัววางลงบนเนินอกด้วยความประหม่า
ร่างของเค้าสั่นเทามือเท้าเย็น แต่ภายในร้อนรุ่มวูบวาบ ความที่ไม่ได้ปลดปล่อยน้ำกามมาหลายวัน
สิ่งที่อยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้ท่อนเนื้อแข็งจนปวด ภาพในสมองครั้งเมื่อได้ร่วมรักกับเด็กสาวตรงหน้าผุดเข้ามา
ความโอบรัดลำลึงค์และอบอุ่นภายในร่องหลืบนั้นยากจะลืมเลือน
ไกรศักดิ์คิดไปพลางมือค่อย ๆ เช็ดไปพลางอย่างแผ่วเบา
และเหมือนมนต์สะกดใบหน้าอ่อนหวานงดงามหลับใหลราวเจ้าหญิงนิททรา
พาให้ไกรศักดิ์ปล่อยผืนผ้าตกลงบนเตียง แต่ทว่ากลับใช้นิ้วมือลูบไล้แทน
มันช่างนุ่มเนียนไร้สิ่งสะดุด เค้าแซะปลายนิ้วเข้าใต้ขอบผ้าขนหนูช้า ๆ
แล้วค่อย ๆ เลื่อนฝ่ามือลงไป มันเดินทางผ่านร่องอกลงไปช้า ๆ

ไกรศักดิ์นั้นหัวใจแทบหยุดเต้นด้วยความระทึก
แต่เด็กสาวกลับสงบนิ่งจังหวะการหายใจยังคงที่เหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
"ฮู่..." ไกรศักดิ์ถอนหายใจยาวเมื่อบัดนี้ฝ่ามือเค้าได้กุมเอาเต้าอวบไว้เต็มอุ้ง
ยอดถันแข็งเต่งเป็นเม็ดเบียดเข้ากับฝ่ามือสร้างความรู้สึกดีอย่างยิ่งยวด
ไกรศักดิ์เริ่มออกแรงเคล้นมันเบา ๆ ด้วยอาการหายใจไม่ทั่วท้อง
เต้าอวบช่างสมบูรณ์เหลือเกิน มันแข็งเป็นไตแต่ทว่านุ่มมือ
เค้ามองหน้าลูกสาวอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังคงหลับ ในยามนี้คงไม่ต้องคิดสิ่งใดมาก
ความเงี่ยนที่สะสมและเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ณ บ้านอุ่นรัก

ไกรศักดิ์ถอนผ่ามือออก เค้าจับผ้าขนหนูแย้มออกทั้ง 2 ข้างอย่างช้า ๆ และแผ่วเบา 
"งามมาก" เสียงพูดราวกระซิบ เมื่อได้ประจักษ์ต่อสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า
ผ้าขนหนูเปิดออกเผยให้เห็นเต้าเต่งสวยสมเป็นเด็กสาวแรกรุ่น ขนาดกำลังพอเหมาะ
มันตั้งแม้ยามนอนก็ไม่แบะออกด้านข้างให้ดูเสียทรง ปานสีชมพูอ่อนดั่งกลีบกุหลาบ
ปลายยอดเป็นเม็ดเท่าปลายก้อยเต่งท้าให้โลมเลีย

ลำควยใต้ผ้าขนหนูชี้เด่ผ่านร่องผ้าขนหนูออกมาทักทายลูกสาวราวกับคุ้นเคยกันดี
ไกรศักดิ์ประกบฝ่ามือเข้ากับเต้าอวบแล้วบีบมันเบา ๆ เต้าอวบในมือนั้นก็พลันยุบตามแรง
ช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก เค้าคลึงมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างทะนุถนอม กระทั่งเริ่มได้ยินบางอย่าง
"อือ..." สายตาไกรศักดิ์กวาดมองไปยังต้นกำเนิดของเสียง
ไพรินลูกสาวของเค้านั่นเอง เธอครางอย่างลืมตัว 
"พ่อ..." และแล้วไพรินก็รู้สึกตัว ตาของเธอเหมือนจะลืมแต่ก็แค่ปรือ ๆ ซึ่งอาจเป็นอาการไข้และฤทธิ์ยาที่ทำให้เธอง่วงซึม
"พ่อทำอะไร" เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินเอยถาม
"รินลูกพ่อ นอนนิ่ง ๆ นะ" ไกรศักดิ์พูดเพียงเท่านั้น แล้วบรรจงเคล้นเต้าอวบในอุ้งมือเบา ๆ 
"อืออ..." ไพรินเริ่มเบี่ยงตัวด้วยความเสียว ถึงแม้จะตกอยู่ในภวังค์แห่งไข้
แต่สัมผัสเสียวจากผู้เป็นพ่อพาให้เธอคิดไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เธอได้เสพสมรับเอาความสุขจากพ่อบังเกิดเกล้าของตนเอง
ซึ่งมันก็เป็นความสุขสุดยอดกับผู้ชายครั้งแรกของเธอ
ตาซึ่งลืมขึ้นไม่มาก แต่ในระดับนั้นสามารถเห็นดุ้นเนื้อแข็งเด่ตั้งตระหง่านอยู่กลางลำตัวของผู้เป็นพ่อได้
มันเคยแทรกผ่านในร่องเสียวที่เธอหวงแหน และสร้างความสุขเกินบรรยายมาแล้วหนึ่งครั้ง

ยิ่งคิดก็ยิ่งเตลิด มือน้อย ๆ ของเธอค่อย ๆ ยกขึ้นวางบนตักของไกรศักดิ์
ถึงอยากจะสัมผัสมันเพียงใด แต่ความเป็นผู้หญิงก็ทำให้ไม่อาจแสดงออกได้ ไกรศักดิ์เมื่อรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของลูกน้อยก็หันไปมองหน้า
สายตาอบอุ่นมองไปยังลูกสาวสุดที่รัก เค้าถอนมือออกมากุมมือไพรินไว้
ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ ไกรศักดิ์ประคองมือน้อย ๆ ให้โอบเข้ากับดุ้นเนื้อของตน
ซึ่งเธอกับไม่ขัดขืน ไพรินกำมันหลวม ๆ อย่างอาย ๆ แต่ก็กำไว้เพียงเท่านั้น
ไกรศักดิ์จึงจับมือลูกสาวให้รูดมันช้า ๆ

"ซี๊ดดดส์..." ความอุ่นของอุ้งมือและความนุ่มนวลในการรูดหนังควยทำเอาไกรศักดิ์ซู๊ดปากครางเบา ๆ
เค้าค่อย ๆ ก้มตัวลงพาเอาใบหน้าเข้าใกล้ลูกสาว ริมฝีปากค่อย ๆ ประกบจูบประทับลงบนเรียวปากนุ่ม ๆ
เพื่อถอนพิษไข้ เค้าบดดูดริมฝีปากเธอแต่ยังไม่สอดลิ้นเข้าไป มันช่างนุ่มนวลหวานหอมราววุ้นใส
"อือ..." ลมหายใจอุ่น ๆ ของไพรินพ่นกระทบไกรศักดิ์พร้อมด้วยมือที่ถอกลำควยช้า ๆ แต่ทว่ารูดจนสุด
"ซี๊ดดดส์... ลูกพ่อ" มันยากเกินจะทนไหวกับการกลั้นเสียงครางแห่งความเสียว

ไกรศักดิ์เบือนหน้ากระซิบเรียกลูกสาวเสียงกระเส่าข้างใบหู
มือขวาซึ่งใช่ยันตัวเปลี่ยนเป็นลูบไล้หัวไหล่เนียน เหลือไว้เพียงแขนซ้ายไว้รับน้ำหนัก เค้าไม่อยากโถมทับร่างลูกน้อยซึ่งยังมีอาการไม่สบาย
ปลายนิ้วถูกไล้ลงประคองเต้าอวบอีกครั้ง แต่ครานี้มันกลับไม่ได้เคล้นคลึงอย่างเคย
แต่เปลี่ยนเป็นใช้ ปลายนิ้วโป้งและนิ้วชี้บี้เบา ๆ ตรงยอดถัน

"ซี๊ดดส์... พ่อขา" ความเสียวทำเอามือกระตุกชักลำเนื้อไม่เป็นจังหวะ
อาการบิดเบียดต้นขาเข้าหากันทำให้ไกรศักดิ์รู้ทันทีว่าลูกสาวเสียวเพียงใด
ซึ่งก็ไม่ผิดเลย ภายในร่องหลืบ ณ ตอนนี้ เธอรู้สึกได้ถึงน้ำที่กำลังซึมผ่าน
ความร้อนจากอาการไข้ยิ่งทำให้รู้ถึงการไหลของน้ำเหนียวนั้นว่ามันเยิ้มมาถึงง่ามก้น
ปากรูนั้นคันยิบจนต้องเบียดถูต้นขาเข้าหากัน

ไกรศักดิ์ค่อย ๆ ลดมือลงผ่านหน้าท้องแบบราบสอดเข้าใต้ผ้าห่ม
สัมผัสแรกเมื่อเจอเนินนูนคือเส้นไหมบาง ๆ นุ่มคล้ายผมเด็กทารก
มันไม่กระด้างเลยแม่แต่น้อย เรื่อยลงไปจนกระทั้งปลายนิ้วกลางแตะเข้ากับรอยแยก
เค้ากดนิ้วเบา ๆ แล้วเลื่อนลงช้า ๆ จนสัมผัสกับความฉ่ำเยิ้ม
"ซี๊ดดดส์... พ่อ... อื่มมม" ไกรศักดิ์ไม่สนใจเสียงนั้น เค้าค่อย ๆ เลื่อนปลายนิ้วลงไปต่อ
จนกระทั้งนิ้วกลางจมอยู่ในพูเนื้ออันอวบอูมฉ่ำเยิ้ม มันถูกคลึงเบา ๆ ให้ถูไถกับเม็ดละมุน

"อ้า... ซี๊ดดส์" ถึงมีอาการไข้ ร่างกายปวดเมื่อยเพียงใด แต่ด้วยความเสียว
ไพรินจึงบิดสะโพกรับนิ้ว คลึงเบา ๆ เพียงไม่กี่ครั้งน้ำซึ่งคั่งอยู่ภายในก็ไหลบ่าชโลมนิ้วจนเปียกชุ่ม
มือนุ่ม ๆ ของไพรินเริ่มชักดุ้นควยของพ่อเร็วขึ้น
ยิ่งไกรศักดิ์ถูไถเม็ดละมุนเร็วเธอก็ยิ่งชักเร็วตามราวกับลืมความเจ็บป่วยของตนไปชั่วขณะ
หรืออาจเกิดจากสารเอ็นโดรฟินที่หลั่งออกมาก็เป็นได้ ที่ทำให้เธอกลับสดชื่นขึ้นอีกครั้ง
ตาที่เคยปรือลืมไม่ขึ้น ณ บัดนี้ยังคงปรืออยู่แต่ว่าเกิดจากความเสียวซ่าน ริมฝีปากเม้มบ้างกัดบ้างอันเกิดจากความสยิว

"อ้า.. พ่อ... ซี๊ดส์... พ่อขา..." ไกรศักดิ์ถอยตัวลงพรมจูบไล่จากซอกคอลงมายังเนินอกอวบ
ท่อนเนื้อซึ่งต้องเขยิบตามหลุดออกจากอุ้งมือสาวน้อย ปากของเค้าประกบเข้ากับปลายยอดถันช้า ๆ
พาเอาลมปากอุ่นพ่นกระทบก่อนเรียวลิ้นจะตวัดกับปลายเต่ง
ถึงแม้เค้าและเธอจะเคยมีสัมพันธ์สวาทกันแล้วก็ตาม
แต่ในครั้งนั้นไกรศักดิ์มิได้ลิ้มรสยอดถันนี้เลยแม้แต่น้อย

ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ปากและเรียวลิ้นยลความหวานของมัน
เค้ากระดกลิ้นดูดเลียอย่างหืนกระหาย เต้าอวบดันใบหน้าปลายยอดสู้ลิ้นยิ่งนัก
ฟันถูกขบเบา ๆ เข้ากับปลายยอดเต่ง
"ซี๊ดดดส์... พ่อ" การทำงานพร้อม ๆ กันของนิ้ว และปาก
ทำเอาเด็กสาวแอ่นอกบิดเอวด้วยความสยิวซ่าน
2 มือเธอยกขึ้นประคองศีรษะผู้เป็นพ่อไว้

< -------- >

"อ้าว! หายไปไหนแล้ว" วัชรีซึ่งกลับถึงบ้านแต่ไม่พบใคร
"สงสัยหลับไปแล้ว ตกลงจะทานข้าวรึป่าว" เธอวางข้าวของบ่นกับตัวเองเบา ๆ
ก่อนจะเดินขึ้นห้องเพื่อดูสามี เธอก้าวขึ้นบันใดโดยไม่รู้ว่ามีสิ่งใดรอเธออยู่
เมื่อสายตามองได้ระดับกับพื้น

"วี..." ยังไม่ทันจะได้ถามสิ่งใด วีรพงษ์ก็หันมาใช้นิ้วชี้ปิดปากเป็นสัญญาณว่าอย่างส่งเสียง
วัชรีสงสัยเล็กน้อยที่เห็นวีรพงษ์ลูกชายคุกเข่าแอบดูบางอย่างในห้องไพริน
แต่เธอก็ไม่ขัดอะไร มันคงเป็นความรีบร้อนของไกรศักดิ์ที่ห่วงลูกสาวจึงงับประตูไม่สนิท
เธอนั่งลงตามที่ลูกชายกวักมือเรียกด้วยสายตาฉงน เธอค่อย ๆ คลานเข้าไปยังจุดที่วีรพงษ์อยู่

"แม่ดูสิ" วีรพงษ์กระซิบข้างหูวัชรีเบาที่สุดก่อนจะยันตัวขึ้นยืนด้วยเข่า
คำเชื้อเชิญให้มองเข้าไปยังห้องลูกสาวซึ่งประตูแง้มอยู่ยิ่งทำเอาวัชรีงุนงง เพราะเธอคิดว่าลูกสาวไปเรียน
"อุ้ย.." วีรพงษ์รีบเอื้อมมือขวาลงปิดปากผู้เป็นแม่ทันที ก่อนที่เธอจะอุทานอะไรออกมามากไปกว่านี้
เค้าส่ายหน้าทำตาขึงขังเหมือนบอกว่าให้ดูไปเงียบ ๆ
วัชรีพยักหน้ารับ เค้าจึงค่อย ๆ ถอนมือออก เธอตกใจมากกับสิ่งที่เห็น
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เธอต้องมารับรู้ในสิ่งนี้ สมองเธอหวนคิดไปถึงบ้านอุ่นรักทันที
หรือว่าอานนท์สิงเค้าอยู่ วัชรีตัวเย็นวาบเมื่อนึกถึงใบหน้าขาวซีดนั้น
วีรพงษ์ยังคงสอดสายตามองไปยังทั้งคู่ซึ่งบรรเลงเพลงรักกันโดยไม่สนใจความคิดของแม่

"ซี๊ดดดส์... พ่อ... อ้า" ไกรศักดิ์ดูดเน้นเม็ดเต่งก่อนจะใช้ลิ้นตวัดทำเอาไพรินคราง
เรียวลิ้นนี้ที่เคยโลมเลียร่องสร้างความสยิวทรวงให้เธอมาแล้ว
ไม่เพียงแต่คิดมือซึ่งประคองศีรษะพ่อเธออยู่กลับค่อย ๆ ออกแรงดันลงเบื้องล่างเบา ๆ
ไกรศักดิ์นั้นรู้ถึงความประสงค์ของเด็กสาว เค้าถอนมืออกจากโคกนูนขึ้นประคองสีข้าง
พลางขยับตัวขึ้นคร่อมร่างลูกสาว เค้าพรมจูบจากยอดเต้าลงมาช้า ๆ ไม่รีบร้อน
ผ่านหน้าท้องซึ่งแขม่วรับริมฝีปากด้วยความเสียว มือซึ่งประคองศีรษะอยู่สั่นระริก
อีกไม่นานเนินนูนก็จะถูกโลมเลียด้วยลิ้นฉ่ำของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง
มือทั้ง 2 ของเค้าไล้ลงจากสีข้างลงมาแตะขอบผ้าห่ม มันถูกเลื่อนลงไปอย่างนุ่มนวล
พร้อมด้วยสัมผัสของริมฝีปากเข้ามาแทนที่

ปอยไหมบาง ๆ เริ่มเผยออกมาไกรศักดิ์ดอมดมมันอย่างไม่รังเกียจ
และแล้ว ผ้าห่มก็ร่นเลยหน้าขาขาวลงไป ต้นขาซึ่งยังแนบชิดติดกันส่งให้เนินโหนกดูโหนกนูนยิ่ง
"หอมเหลือเกิน" กลิ่นหอมและความเนียนทำเอาไกรศักดิ์เพ้อ
เค้าแนบแก้มและเบี่ยงหน้าไปมาถูไถกับพูเนื้ออย่างหลงใหล
จมูกโด่งถูกฝังลงปลายลิ้นแลบเลียกระดกแทรกเข้าในรอยแยกสะกิดเม็ดละมุนทำเอาไพรินผวา

"ซี๊ดดส์.. พ่อขา.. พ่อ... อูยยย... รินเสียว" ขาขาว ๆ เริ่มแยกออกโดยอัตโนมัติเพื่อรับสัมผัสเสียว
สิ่งที่ประจักษ์ตรงหน้า อีกทั้งเสียงคราง ทำเอาลำควยวีรพงษ์ซึ่งแอบดูอยู่แข็งชี้
เค้าหันซ้ายขวาเหมือนระแวงใครจะเห็นทั้ง ๆ ที่กว่าน้องชายซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่อยู่บ้านจะกลับก็เป็นช่วงเย็น
แต่สิ่งที่ทำลงไปนั้นก็คือสัญชาติญาณของมนุษย์ และด้วยเหตุนี้เอง
ดุ้นเนื้อภายใต้กางเกงบอลไร้ซึ่งชั้นในก็ชนเข้ากับศีรษะของวัชรีอย่างไม่ตั้งใจ
เค้าก้มลงมองหน้าแม่ซึ่งโก้งโค้งดูอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแหย ๆ
พร้อมยกมือขึ้นตะเบ๊ะเหมือนขอโทษแล้วหันกลับไปดูต่อ

"ซู๊ดดส์.. อ้า" เมื่อสวรรค์เปิดทางให้ ไกรศักดิ์จึงแทรกลิ้นตวัดสลับประกบดูดเม็ดเบา ๆ ได้อย่างง่ายดาย
มือทั้ง 2 ที่เคยประคองศีรษะผู้เป็นพ่อบัดนี้เปลี่ยนเป็นขยุ้มปอยผมแสดงออกถึงความเสียวซ่าน
ขาซึ่งแยกออกบัดนี้ค่อย ๆ ดึงเข้าหาตัวแล้วแยกชันเข่าให้เรียวลิ้นทำงานได้สะดวกขึ้น

"โอ้วว์... ซี๊ดดดส์... พ่อ... ริน.." ไพรินผวายกตัวก่อนจะทิ้งตัวลงกับเตียงช้า ๆ
เมื่อไกรศักดิ์สอดนิ้วเข้าในรูหีช้า ๆ ถึงน้ำหล่อลื่นจะพร่างพรูก็ตาม แต่มันยังทั้งคับทั้งแน่น
เค้าหมุนนิ้วซ้ายขวาช้า ๆ จนเข้าได้สุดโคนนิ้วชี้

"ซี๊ดดส์... พ่อ... รินเสียว... อู้ยยยว์" เสียงครางดังขึ้นพร้อม ๆ กับนิ้วมือที่เลื่อนออกช้า ๆ
ไพรินเผลอขมิบนิ้วด้วยความเสียว

"โอ้ววว์... ซี๊ดดส์" ไม่มีสิ่งใดนอกจากเสียงครวญครางแห่งความสยิว
ไกรศักดิ์เริ่มแยงนิ้วเข้าออกในร่องหีช้า ๆ พร้อม ๆ กับตวัดเลียเม็ดละมุนไม่ขาด
เนินนูนของเด็กสาวเริ่มกระดกรับเป็นจังหวะ มือทั้ง 2 เกร็งจับศีรษะผู้เป็นพ่อแน่น

"พ่อคะ... ซี๊ดดส์" ไพรินพยายามดึงรั้งศีรษะไกรศักดิ์ขึ้น
สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้ คือ ดุ้นควยของเค้า เธออยากให้มันแทรกเข้าไปลึก ๆ ลึกกว่านิ้วที่กำลังสร้างความกระสันให้เธอในตอนนี้
ไกรศักดิ์ถอนนิ้วมือออกช้า ๆ น้ำเงี่ยนใสยืดตามดูให้เกิดอารมณ์ เค้ายันตัวขึ้นคุกเข่า
สายตามมองร่างเปลือยของลูกสาว ช่างเหมือนนางฟ้าเสียนี่กระไร

นางฟ้าตัวน้อย ๆ เค้าดึงข้อมือลูกสาวเบา ๆ เธอยกตัวขึ้นอย่างว่าง่าย
อาการไข้เมื่อครู่ดูเหมือนจะหายไปเสียสิ้น ไกรศักดิ์ยืนขึ้นพร้อมประคองให้ลูกสาวนั่งคุกเข่า
บัดนี้ตรงหน้าของเธอคือดุ้นเนื้อภายใต้ผ้าขนหนู มันชี้เด่ประกาศศักดาท้าทาย
ไพรินเงยหน้ามองพ่อ เธอรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร มือน้อย ๆ ยกขึ้นอย่างประหม่าแตะเข้ากับปมผ้าขนหนู
เธอค่อย ๆ แกะมัน ทันทีที่ปมหลุดผ้าขนหนูอาภรณ์ชิ้นเดียวของเค้าก็กองลงกับเตียง
เหลือแต่เพียงดุ้นเนื้อเขื่องชี้เชิด แต่เมื่อคิดไปว่ามันกำลังจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอในไม่ช้า
กลับทำให้เสียวสยิวจนน้ำเงี่ยนในร่องหีไหลเยิ้มลงมายังต้นขาด้านใน

ไพรินประคองมันด้วยมือที่ปลดผ้า เธอยื่นหน้าเข้าหามันช้า ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องมาทำอะไรอย่างนี้ มืออีกข้างยกขึ้นจับสะโพกไกรศักดิ์เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว
"ซี๊ดดดส์... อูวว์... ซี๊ดดดส์" ไกรศักดิ์เกร็งมือแหงนหน้าหลับตาปี๋
มันเสียวซ่านจนเกินบรรยาย ปากอันสวยงามอบอุ่นค่อย ๆ ครอบเข้ากับดุ้นควยเค้าช้า ๆ
ถึงจะเป็นครั้งแรกแต่ไพรินไม่ใช่เด็ก เธอเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาบ้างแล้วในหมู่เพื่อนฝูง
เธอถอนปากออกแล้วยื่นหน้าเข้าไปใหม่ โดยที่พยายามให้ปากกระชับกับลำควย
เธอนึกถึงตอนที่ลำควยครูดเข้าออกในรูหี ไพรินพยายามทำให้ปากของเธอเป็นรูหีที่โอบกระชับและนุ่มนวล
เรียวลิ้นในปากเริ่มตวัดกับหัวถอกเพื่อเพิ่มความสยิว
เธอไม่รู้เลยว่าครั้งแรกของเธอกับการใช้ปากทำรักนี้สร้างความสุขให้กับผู้เป็นพ่อมากเพียงใด
ผู้หญิงบางคนที่ผ่านชายมามากมายอาจทำได้ไม่ดีเธอในครั้งแรกนี้
หรืออาจเป็นพรสวรรค์ที่พระเจ้ามอบให้ก็เป็นได้

ด้านนอกห้องนั้น จากที่วัชรีรู้สึกรังเกียจกับการที่พ่อร่วมประเวณีกับลูกสาวตัวเอง
แต่เมื่อดูไปนานเข้ากลับเกิดอารมณ์ร่วม ความเย็นเยือกในกายเมื่อครู่ปรับเปลี่ยนเป็นความร้อนรุ่ม
ยิ่งนึกไปว่าเธอกำลังเป็นผู้แอบดูก็ยิ่งพาให้ตื่นเต้นใบหน้าเธอร้อนผ่าว
แขนซึ่งยันพื้นเริ่มสั่นคล้ายจะรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว

วัชรีหันซ้ายเล็กน้อยก็พบกับแทงเนื้อชี้เด่ภายใต้กางเกง
เธอเงยหน้าขึ้นมองลูกชายซึ่งยังคงสอดส่องแอบมองอย่างไม่ละสายตา
เค้าไม่รู้เลยว่าขณะที่ดูอยู่นั้นบางครั้งลำเนื้อของเค้าจะกระตุกตามจังหวะชีพจร
วัชรีกลืนน้ำลายเบา ๆ เธอเม้มปากคล้ายอดกลั้นอะไรบางอย่าง
แล้วหันกลับไปมองยังห้องลูกสาวต่อ

"ลูกพ่อ... ซี๊ดดส์... ลูกพ่อเก่งจัง..." ไกรศักดิ์ยกมือขึ้นจับศีรษะลูกสาวเป็นหลัก
แล้วค่อย ๆ โยกเอวกระเด้าเย็ดปากน้อย ๆ ภาพที่เห็นทำเอา 2 แม่ลูกเกิดอารมณ์เงี่ยนอย่างสุด ๆ

วีรพงษ์ก้มลงมองแม่ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอหันมองเค้า
สายตาเว้าวอนของลูกชายส่งเป็นสัญญาณให้เธอตีความได้ไม่ยาก
วัชรีชั่งใจเล็กน้อย แต่ความเงี่ยนที่ส่งผ่านไปยังร่องหีให้ขมิบน้ำรักออกมา
เหมือนเป็นคำตอบ เธอจับขอบกางเกงบอลของลูกชายดึงลง
ลำควยเขื่องไม่ต่างกับของไกรศักดิ์ดีดผึงทันที วีรพงษ์มองทุกอิริยาบถแม่บังเกิดเกล้า
เค้ากลั้นใจเตรียมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

"อื่มมม..." เสียงครางเบาที่สุดที่จะกลั้นไว้ได้ เมื่อปากอุ่น ๆ ของวัชรีอมเอาหัวถอกของเค้าไว้
มันช่างเป็นความสุขที่เหนือความคาดหมาย เค้าไม่คิดเลยว่าจะได้เย็ดปากแม่ของตัวเอง
และยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นเช่นนี้ยิ่งส่งให้มันเสียวไปทั้งตัว แต่ความสุขนี้กลับแฝงไปด้วยความอัดอั้น
ความเสียวหัวถอกจนถึงไขสันหลัง ความซาบซ่านจนอยากกระโกนออกมาดัง ๆ
แต่กลับทำได้เพียงสะกดมันไว้แล้วเสพความเสียวเข้าไปโดยไม่มีทางระบายออก

ฝ่ายวัชรีก็โยกตัวดูดควยลูกชายอย่างชำนาญ ยิ่งมันพองกระตุกทุกครั้งที่ปลายลิ้นตวัดรูตรงปลายยิ่งทำให้เธอเงี่ยน
ถ้าเป็นไปได้เธออยากให้ดุ้นเนื้อซึ่งแข็งเป็นแท่งเข้าไปครูดกระตุกในรูหีเธอในตอนนี้
ยิ่งคิดน้ำเงี่ยนก็ยิ่งไหลบ่าออกมา อาการคันยิบมันแกล้งเธอให้ทรมาน

"ซี๊ดส์.. อ้า.. ซี๊ดดส์.. อ้า... โอ้ววว.. พอแล้วลูก... ซี๊ดดส์... พอแล้ว" ไกรศักดิ์เกร็งมือให้ไพรินหยุด
เพราะเค้ารู้ดีว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกไม่นานน้ำเงี่ยนที่เค้าสะสมไว้จะกระฉูดออกมา
ไพรินถอนปากออก น้ำลายยังเยิ้มเป็นสายลำควยที่เธอเห็นในครั้งนี้ยิ่งดูน่ากลัว
มันแข็งเชิด หัวแดงก่ำ เยิ้มไปด้วยน้ำลายของเธอ ไกรศักดิ์ทรุดตังลงนั่ง
เค้าโถมร่างกำยำเข้าหาลูกสาวช้า ๆ เธอก็ค่อย ๆ ประคองตัวจนนอนหงายในที่สุด
บัดนี้มันถึงเวลาแล้วเวลาที่ 2 พ่อลูกจะเสพสมกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ต้องมีสิ่งใดมาดลใจหรือสิงสู่
ครั้งนี้เกิดจากความสมัครใจของเค้าและเธอ ไกรศักดิ์คร่อมร่างลูกสาวไว้โดยตัวเองแทรกอยู่หว่างขาเธอ
เค้าก้มลงประจบจูบเธอ 2 มือของสาวน้อยลูบไล้ขึ้นโอบกอดแผ่นหลังเค้า

หัวถอกซึ่งอยู่ห่างจากรูหีไม่ถึงคืบกำลังกระตุกงึก ๆ มันรู้ดีว่าอีกไม่ช้ามันจะได้แทรกตัวเข้าไปฝังอยู่ในโพรงอันอบอุ่น
ลิ้นของเค้าและเธอตวัดสัมผัสกันช้า ๆ แต่ทว่าหนักหน่วง
มือน้อย ๆ ซึ่งลูบไล้แผ่นหลังอยู่ค่อย ๆ เลื่อนไล้ผ่านลงมายังสีข้างแล้วสอดผ่านลำตัวของเค้า

"อื่มมม" เสียงครางทั้งยังจูบกันอย่างดูดดื่มนั้นแสดงให้เห็นว่าเค้าเสียวเพียงใด
มือนุ่มที่สอดผ่านลงไปเมื่อครู่กำลังถอกควยเขื่องของเค้าเป็นการเชิญชวน
ไกรศักดิ์เองก็เงี่ยนมาแล้วจึงค่อย ๆ หย่อนเอวลง
มือซึ่งประคองชักหนังควยอยู่นั้นเหมือนเป็นตัวช่วยนำทางให้มันตรงไปสู่เป้าหมาย
เมื่อหัวถอกสัมผัสกับร่องหีอุ่น ๆ ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำรักก็ทำให้ทั้งคู่ซาบซ่านดั่งมันแทรกเข้าไปแล้วก็ไม่ปาน
"อ้า... ซี๊ดดดส์" ไพรินเบี่ยงหน้าครวญครางแอ่นอกอิ่มขึ้น
เมื่อผู้เป็นพ่อออกแรกกดหัวบานให้ชำแรกผ่านลงไปในพูเนื้อ
"ซี๊ดดส์... ลูกพ่อ" ไกรศักดิ์ครางกระเส่าแล้วค่อย ๆ กดมันลงไปอีกครั้งจนมิด
"อูววววววว์" เสียง 2 พ่อลูกครางระงม ไกรศักดิ์รู้สึกเหมือนถูกเนื้อนุ่ม ๆ โอบรับลำควยทั้งดุ้น
ภายในร้อนวูบวาบกว่าที่เคย ซึ่งอาจเป็นเพราะอาการไข้ของเธอ
ด้านไพรินเองก็คับแน่นตึงรูหีไปหมด
ท่อนควยที่แทรกตัวอยู่ภายในก็กระตุกเป็นระยะ
ทำเอาเธอเสียวสยิวขมิบรับมันตลอดเวลา

อีกด้านหนึ่ง 2 แม่ลูกเมื่อได้ยินเสียงครางก็หันมอง ทั้ง 2 หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อได้รับรู้ว่าบัดนี้
พ่อบังเกิดเกล้าได้ส่งลำเนื้อกลางตัวแทรงลงไปยังร่องสวรรค์ของลูกสาวแล้ว

ไกรศักดิ์เริ่มโยกขยับเอวช้า ๆ
"อื้อออ... พ่อขา... ซี๊ดดดส์" ลำควยครูดออกไปพร้อม ๆ กับความแน่นที่ลดลงแต่กลับแทรกเข้ามาอีก
ด้านบนของท่อนเนื้อถูไถกับเม็ดติ่งพาให้เสียวรูหี ไม่มีสิ่งใดที่ไพรินสามารถทำได้นอกจากเกร็งมือเท้า
และระบายออกทางเสียงคราง

วีรพงษ์เมื่อได้ยินก็ยิ่งเงี่ยน เค้าไม่สนใจถึงสถานการณ์อีกต่อไป
2 มือจับหน้าของแม่ซึ่งยังทำรักให้เค้าออก พร้อมพยายามบิดตัวเหมือนบอกให้วัชรีหันหลัง
วัชรีรู้ทันทีว่าลูกชายเงี่ยนอยากเย็ดเธอเต็มที ซึ่งเธอก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ก้นงอน ๆ ถูกหันมาอยู่เบื้องหน้าเค้า วัชรีหมอบแก้มลงติดพื้นส่งก้นโด่งรอรับความเสียวในไม่ช้า
วีรพงษ์ลูบไล้มัน แม้เป็นภายนอกผ้ายังนุ่มมือเช่นนี้ สะโพกผายกลมกลึงนี้ชวนให้กระแทกเย็ดเหลือเกิน

ไม่มีสิ่งใดให้คิดอีกต่อไป 2 มือเค้ารั้งขอบยางยืดลงพร้อม ๆ กับชั้นใน
เผยให้เห็นพูเนื้อฉ่ำน้ำรักปลิ้นออกมาด้านหลัง ภาพพูหีขมิบเหมือนเชิญชวนทำเอาควยเค้ากระตุกรับ
วีรพงษ์ขยับตัวเข้าหาจับปลายถอกเขี่ยปากรูเบา ๆ ให้น้ำเงี่ยนชโลม
การกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้วัชรีเสียวแทบคลั่ง เธอถึงกับส่ายก้นรับท่อนเนื้อนั้น
และแล้วเธอก็ต้องเม้มปากกลั้นใจ 2 มือกำแน่น เมื่อลำควยเขื่องของลูกชายแทรกผ่านเข้าไปช้า ๆ จนสุด

วีรพงษ์รั้งสะโพกแม่เข้าหาตัวพร้อมบดเบียดให้ท่อนเนื้อแทงเข้าไปให้ลึกเท่าที่จะลึกได้
ร่องหีแม่รัดลำควยเค้าจนน้ำแทบแตก ถ้าแช่เกร็งไว้เช่นนี้คงกระฉูดทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้กระเด้าเป็นแน่
วีรพงษ์ถอยควยออกช้า ๆ แล้วดันเข้าไปใหม่อย่างนุ่มนวล
ทั้งนี้เพราะกลัวเสียงที่เกิดจากการกระทบกันของเนื้อจะส่งให้พ่อได้ยิน
ยิ่งคิดว่ากำลังเป็นกับแม่แล้วต้องแอบพ่อซึ่งอยู่ห่างแค่ประตูกลั้นยิ่งทำให้เค้าตื่นเต้นแทบกลั้นน้ำไว้ไม่อยู่
เค้ากระเด้าเย็ดเป็นจังหวะเร็วขึ้น ๆ เร็วขึ้น แต่ไม่รุนแรง

"ซี๊ดดดส์... พ่อขา... พ่อซี๊ดดส์... ริน... ริน... เร็วค่ะพ่อ... ซี๊ดดส์" ไพรินเริ่มกระดกยกสะโพกสู้การกระแทกเย็ดของไกรศักดิ์
เธอเสียวหีจนแทบขึ้นสวรรค์ แขนทั้ง 2 โอบรัดผู้เป็นพ่อแน่น และแล้ว
"ซี๊ดส์... อู้ยยยยยยยยยยว์" เสียงครางดังลั่นเล็บจิกลงบนแผ่นหลังเอวยกแอ่นรับการกระแทก
พร้อมเกร็งกระตุกรุนแรง น้ำรักภายในพุ่งแตกกระเซ็นเป็นเม็ดเมื่อถูกกระแทกย้ำด้วยหนอกของพ่อบังเกิดเกล้า
ด้วยแรงขมิบตอดภายในนี้เองทำเอาไกรศักดิ์กลั้นไว้ไม่อยู่เช่นกัน 

"โอ้ววว... ลูกพ่อ.. โอ้ว.. โอ้ว.. โอ้วววว" ไกรศักดิ์ร้องครวญคราง
มันเป็นอาการเกือบถึงจุดสุดยอดที่เสียวกระสันอย่างไม่เคยมาก่อน
น้ำกามที่สะสมไว้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวผ่านท่อบริเวณโคนด้านล่างของพวงสวรรค์จนรู้สึกได้

ด้านวีรพงษ์ก็ทนไม่ไหวเช่นกัน ทั้งภาพและเสียงที่ได้ยินทั้งสัมผัสของร่องเนื้อที่กำลังเย็ดนั้น
มันผสมผสานให้เข้าใกล้จุดสุดยอด แล้วก็สุดทนไหว ในใจอยากร้องครางให้ดังสุดเสียงแต่ทำไม่ได้
และในขณะนั้นเองมือข้างหนึ่งซึ่งต้องการระบายความเสียวแทนเสียงคราง
กลับดันไปยังประตูที่แย้มอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ

มันเปิดออกเผยให้ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพฤติกรรมของกันและกัน
วีรพงษ์ตกในแทบช็อค เค้าผละจากร่างของแม่ยืนขึ้น
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่น้ำกามกำลังเคลื่อนตัว มันพุ่งกระฉูดเป็นสายกลางอากาศ
ด้านวัชรีเมื่อควยงัดเม็ดเสียวก่อนจะหลุดออกจากร่องหีเธอ
ก็ทำเอาสะท้านถึงจุดสุดยอดอย่างไม่น่าเชื่อตามลูกชายเช่นกัน

"โอ้วววววววววววววว์" ด้านไกรศักดิ์นั้นไม่ต้องพูดถึงน้ำซึ่งเก็บไว้นานทะลักพุ่งฉีดเข้าในโพรงหีลูกสาวอย่างแรงจนไพรินผวา
เค้ายังคงกระตุกตามด้วยน้ำที่ 2 น้ำที่ 3 พุ่งเข้าไปไม่ขาดสาย ด้วยความแรง
จนกระทบปากมดลูกความอุ่นและจังหวะกระตุกของท่อนเนื้อส่งให้เด็กสาวถึงจุดสุดยอดไปอีกครั้ง
เมื่อความเงี่ยนจางหายความเงียบก็แทรกเข้ามาแทนที่ไม่มีใครพูดสิ่งใด
ทุกคนนิ่งเหมือนปฏิมากรรมแกะสลัก

< -------- >

ณ โต๊ะอาหาร หลังจากทุกคนแยกย้ายชำระล้างคราบเหงื่อไคลและสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ แล้ว
นับจากเวลานั้นยังไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปากทั้ง 4 คน ทั้งหมดนั่งเงียบอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง
"เอ่อ... คือ" 2 เสียงพูดขึ้นพร้อมกันโดยบังเอิญ
"คุณพูดก่อน" วัชรีส่งให้ไกรศักดิ์พูด
"คุณพูดก่อนสิ" ไกรศักดิ์เองก็รู้สึกผิดแต่ไม่รู้จะพูดอะไร
คำที่คิดจะเอ่ยเมื่อครู่กลับลืมไปเสียสนิท
วัชรีนั่งเงียบไม่ตอบโต้เพราะเธอเองก็รู้สึกผิดเช่นกัน

"ผมขอโทษ" ไกรศักดิ์พูดเสียงอ่อย
"ชั้นก็ขอโทษ" เสียงวัชรีนั้นเต็มไปด้วยความสำนึกผิด
ส่วนลูกทั้ง 2 นั้นยังคงนั่งนิ่งเงียบไม่ปริปากแม้แต่น้อย
"ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว ถ้าผมทำอีกขอให้..."
"อย่าค่ะศักดิ์ ชั้นเองก็ผิด" วัชรียกมือขึ้นปิดปากสามีไม่ให้สาบาน
"คุณตามชั้นมานี่สิ ลูก ๆ ด้วย" เมื่อการเสวนาเริ่มขึ้นแล้ว

วัชรีจึงลุกขึ้นเดินไปยังชั้นบน "วีเปิดคอมดูไฟล์ที่เซฟไว้หน่อย"
"ไฟล์ไหนครับแม่" วีรพงษ์ยังคงตระหนกกลัวผู้เป็นพ่อจะเอาเรื่อง
สมองของเค้ายังสับสน ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากไพริน

"อานนท์ไง" ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ ทั้งไกรศักดิ์ และ ไพรินก็ขนลุกเย็นวาบไปทั้งตัว
เมื่อเปิดได้ ทุกคนก็ร่วมกันอ่าน ไพรินถึงกับซึมเมื่ออ่านจบ
ซึ่งอีก 3 คนก็มีอาการไม่แตกต่าง ทุกคนต่างนึกถึงซะตากรรมของครอบครัวของตน
และแน่นอน พวกเค้าไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นเดียวกับที่อ่านเกิดขึ้นกับครอบครัวเป็นแน่
"เหตุเกิดมา 5 ปีแล้วแต่วิญญาณเค้ายังคงอยู่ ศักดิ์คะ ชั้นว่าอานนท์คงต้องการให้พวกเรารู้ถึงหัวอกของเค้า รู้ถึงความรู้สึกของพวกเค้า"
"ใช่ งั้นพรุ่งนี้เราไปทำบุญให้เค้าดีมั๊ย ผมจะลางาน 1 วัน"
"ดีค่ะ"

< -------- >

รถเคลื่อนตัวกลับเข้าจอดยังที่ประจำอีกครั้ง
ไกรศักดิ์เปิดประตูบ้านเดินรี่มานั่งพักเหนื่อยยังโซฟาหน้าทีวี
หลังจากไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้อานนท์
"น้ำค่ะ" "ขอบใจจ้า" ไกรศักดิ์รับแก้วจากวัชรี เธอเดินไปนั่งข้าง ๆ เค้าพร้อมกวักมือเรียกลูกสาวให้นั่งเคียงข้าง 
"พ่อครับ... ผมขอโทษ" เด็กหนุ่มยืนตรงหน้าผู้เป็นพ่อเอ่ยคำขอโทษ หลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน
นี่เป็นคำแรกที่เปล่งออกจากปากเพื่อเสวนากับพ่อบังเกิดเกล้า
"มานี่ลูก" ไกรศักดิ์ส่งแก้วคืนวัชรีพร้อมตบเบาะให้ลูกชายนั่งข้าง ๆ 
"แม่เค้าเล่าให้พ่อฟังหมดแล้ว พ่อไม่โกรธลูกหรอก แต่อย่าลืมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนนะ" 
"ขอบคุณครับพ่อ" วีรพงษ์ได้ยินก็ยิ้มออกเข้าสวมกอดพ่อด้วยความดีใจ

แต่อีกข้างของโซฟานั้นยังมีเด็กสาวอีกคนที่ยังนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
"ริน แม่ก็ไม่โกรธลูกหรอกจ้า"
"แม่" ไพรินสวมกอดผู้เป็นแม่ด้วยน้ำตานองหน้า แต่มันก็เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ

"แล้วน้ำทิพย์จะเป็นยังไงบ้างนะ" วัชรีเอ่ยขึ้นด้วยความสงสาร พลางยกแขนขึ้นโอบสามีผู้เป็นที่รัก
ทั้ง 4 คนเข้าใจกันดี ต่างคนต่างสวมกอดซึ่งกันและกันอย่างกลมเกรียว

หันไปยังโซฟาเดี่ยวด้านข้าง
นัทพงษ์น้องคนสุดท้องซึ่งหยุดเรียนเพื่อไปทำบุญด้วย
นั่งมองตาแป๋ว แล้วหันไปกดรีโหมดทีวี
เค้ายังคงเป็นผู้เดียวที่ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น
ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้ครอบครัวนี้จะเป็นอย่างไร
พวกเค้ายังจะมีสัมพันธ์สวาทกันอีกหรือไม่
คงมีเพียงพวกเค้าเท่านั้นที่รู้

< -------- >

ภายในห้องสีขาว หญิงสาวท่าทางอิดโรยใบหน้ายังคงอาบไปด้วยน้ำตา
เธอนอนตะแคงคุดคู้อยู่บนเตียงเล็ก ๆ ดวงตาเหม่อมองผนังซึ่งตอนนี้เห็นเป็นแต่เพียงภาพลาง ๆ
สายตาพล่ามัวอันเกิดจากน้ำตาที่รินไหลออกมาเนิ่นนาน 5 ปีแล้ว
5 ปี ที่เธอทนทุกข์อยู่ในโรงพยาบาลจิตประสาทแห่งนี้
เธอเหนื่อย เหนื่อยกับการไขว่คว้า มันไม่ใช่อิสรภาพ
หากแต่เป็นความรัก ความรักที่ใคร ๆ ต่างประณามหยามเหยียด
ทุกคนต่างคิดว่าเธอบ้า เปลือกตาเธอค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ ความมืดเข้ามาแทนที่ ลมหายใจเธอแผ่วโรยระริน

ในความมืดนั้นพลันก็เกิดความสว่างเป็นจุดเล็ก ๆ และค่อย ๆ ขยายขึ้น แสงอาทิตย์ สายลมพัดผ่านแก้ม ทะเล...
ใช่ เสียงคลื่นกระทบฝั่ง ช่างเป็นสัมผัสที่คุ้นเคย 
"น้ำ" เสียงแว่วมาจาด้านหลัง เสียงที่เธอไม่เคยลืมเลือน เธอหันหลังกลับโดยพลัน
"พ่อ!" เธอวิ่งเข้าสวมกอดผู้เป็นพ่อ

ทั้ง 2 อยู่ในอ้อมแขนของกันและกันอีกครั้งภายใต้ชายคาบ้านอุ่นรัก
มันยังคงสวยงาม
"กลับมาแล้วเหรอลูก"
"ค่ะ น้ำกลับมาหาพ่อค่ะแล้ว น้ำจะไม่ไปไหนอีกแล้ว" น้ำทิพย์พูดเสียงสะอื้นน้ำตานองหน้า
อานนท์ผู้เป็นพ่อจับไหล่ มองหน้าลูกสาว
"น้ำ ร้องไห้ทำไมล่ะลูก" น้ำเสียงอันอ่อนโยนนุ่มนวลและอบอุ่น
น้ำทิพย์ตื้นตันที่ได้พบหน้าพ่อผู้เป็นที่รักอีกครั้ง เธอพูดอะไรไม่ออกได้แต่สะอื้น 
"จำได้รึเปล่า ตอนเด็ก ๆ น้ำเคยบอกกับพ่อว่าอะไร" น้ำทิพย์เงยหน้าขึ้นมอง เธอพยักหน้ารับเบา ๆ
"อย่าร้องไห้ เด็กดีต้องไม่ร้องไห้" อานนท์ใช้หลังนิ้วปาดน้ำตาให้ลูกสาว
"พ่อ!" สุดจะกลั้น น้ำทิพย์ซบใบหน้านองน้ำตากับแผงอกอานนท์
เค้ากอดเธอตอบพลางลูบผมเธออย่างเอ็นดู 5 ปีที่เธอเฝ้ารอคอยในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
วันที่เธอจะได้อยู่ในอ้อมกอดคนที่เธอรักอีกครั้ง
อานนท์พ่อผู้เป็นที่รัก

< -------- >

มือน้อย ๆ อันอ่อนแรงห้อยลงกับพื้น ลมหายใจอันแผ่วเบาบัดนี้เลือนหาย
หัวใจอันปวดร้าวที่ทนเต้นอย่างทุกข์ทรมานมาตลอดเวลา
มันคงถึงคราที่จะได้พักเสียที สังคมอันแสนสิวิลัยนี้อาจไม่ใช่ที่ ๆ เธอและเค้าจะครองคู่กัน
แต่ในดินแดนอันห่างไกลออกไปนั้น
พวกเราจะมองเห็นพวกเค้า ยามที่เราแหงนหน้ามองท้องฟ้าในยามราตรี
พวกเค้าอาจเป็นดวงดาวที่ทอแสงระยับเคียงคู่กัน
ยามที่เราเห็นผีเสื้อบินคลอเคลียอาจเป็นน้ำทิพย์กับอานนท์ก็เป็นได้
ไม่มีสิ่งใดสามารถพรากรักแท้ของเค้าทั้ง 2 ได้
แม้แต่ความตาย เธอและเค้าจะรักกันตราบชั่วนิรันดร... ตลอดกาล

The End

----------------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณที่ติดตามผลงานมาตลอด... ขอบคุณครับ jam
----------------------------------------------------------------------------------------------
เพลงประกอบพร้อมคำแปล สำหรับผู้ที่อ่านครบทั้ง 4 ตอน (เพลงญี่ปุ่นนะ)

hxxp://mpbox.x-y.net/htm/Lark.htm เลือกเพลง ark-Forbidden Lover

ถ้าไม่ได้ให้โหลดผ่านเวป

hxxp://anon.free.anonymizer.com/

Forbidden Lover
Artist : L'Arc-en-Ciel
Words : Hyde
Music : ken

Ah~ ในทะเลที่เย็นเฉียบและมืดมิด 
ท่วมท้นไปด้วยเรื่องราวในอดีต
สิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหลายก็ไหลไปดังคลื่นในทะเลนั้น

และแล้ว ม่านก็เปิดออก
การต่อสู้กับความฝันที่ลางเลือนในฐานะผู้ต่อกรได้เริ่มขึ้น

วิญญาณที่เคยสูญเสียไปครั้งหนึ่ง เมื่อนานมาแล้ว
เปียกโชกไปด้วยบาปที่ถูกลืม แต่ยังวนเวียนอยู่อย่างไม่สิ้นสุด
ความรักอันโสมมที่งอกงามมาจากบาป
สวรรค์ที่สร้างขึ้นจากเศษอิฐเศษหิน

Forbidden Lover... ความทรงจำเพียงชั่วขณะหนึ่ง
สีที่ไม่อาจทำให้ลบเลือนไปได้ แม้ฉันจะกอดเธออยู่แน่นๆ
ทำลายเสียงกระซิบของคำสาบาน
เมื่อไร้ซึ่งแสงสว่างแล้ว ความรักก็จมลงสู่โชคชะตาที่ไม่น่าปรารถนา

ถูกล้อมรอบโดยเปลวไฟที่ลุกโชน
ไขว่คว้าเศษเรือแตกเพื่อเอาชีวิตรอด
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวจ้องไปที่ท้องฟ้า
และร่ำร้องหาพระเจ้า

หัวใจของฉันนี้ โบยบินสู่ท้องฟ้า
สูงขึ้นไปจากฝันร้ายอันมืดมิดที่ยังคอยวนเวียนอยู่
ความรู้สึกต่อเธอที่ถูกเปิดเผย
ส่องสว่างราวกับว่าจะส่องไปถึงอีกโลกหนึ่ง
ถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้อยู่ที่นี่
แล้วเราจะตัดสินใจเลือกทางนี้ไหมนะ

Forbidden Lover...

busohsensen