ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ซีรีย์น้องนิดกับพี่เก่ง(คำสารภาพของน้องนิด) ep.3-4

เริ่มโดย suckzeed, ตุลาคม 08, 2015, 02:55:48 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

[s:261] คุยกันก่อนค่อยไปอานเรื่องนะครับ

เรื่องทุกเรื่องที่ผมเอามาลงที่เวบนี้ เป็นเรื่องที่ผมเขียนจนจบแล้วทั้งสิ้น

ความจริงแล้ว ผมผู้เขียน ไม่อยากซ่อนข้อความเลย เห็นได้จากสี่ห้าตอนแรกที่เอามาลงโพส

แต่เพื่อนๆในเวบนี้ เป็นพวกพลังเงียบเยอะมาก ทางระบบเลยจัดการซ่อนให้ผมเอง

คราวนี้ละ พวกพลังเงียบ หรือปลิงทั้งหลายเลยต้องออกแรงรีพายตอบก่อนจึงจะอ่านเรื่องได้หมด

แต่ต่อจากนี้ไป ผมขอนะครับ สำหรับเรื่องนี้ ผมขอสัก100รีพาย โดยที่ผมจะไม่ซ่อน ให้อ่านกันแบบไม่ต้องสะดุด

ถ้ายังไม่ครบ100รีพาย ผมจะไม่เอาตอนใหม่มาลงให้อ่าน แต่ถ้าครบ แม้แค่ไม่กีชั่วโมง ตอนใหม่จะมาลงให้อ่านทันที

ฉนั้น ช่วยๆกันรีพายหน่อยนะครับ อย่าให้คุณแว่นต้องเข้ามาซ่อนข้อความอีกเลย

ทำได้มั๊ยครับ ถ้าทำได้ ก็อ่านกันเลยครับ

suckzeed..

............................................

หลังจากคืนแรกที่น้องนิดได้รับรู้ความสุขจากการเล่นรักกันจน..เสร็จ..เป็นครั้งแรกตั้งแต่เป็นสาวมา เธอก็เหมือนเด็กน้อย
ที่ติดใจในรสหวานของขนม หลังจากนั้นตลอดทุกคืนที่น้องนิดอยู่ที่หอ ผมมีหน้าที่จะต้องป้อนความสุขให้เธอ มีเวลาพัก
บ้างเพียงแค่วันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่น้องนิดต้องกลับไปอยู่บ้าน

แรก ๆ ผมก็พอรับไหว แต่พอถี่ๆขนาดนี้ ด้วยวัยในขณะนั้น50ปีพอดี ผมก็รุ้สึกว่าภาระนี้ช่างสาหัสนัก ร่างกายผมผลิตน้ำกาม
ไม่ทันครับ ระยะท้ายๆผมจึงแทบจะไม่มีน้ำกามหลั่งออกมาตอนที่เสร็จ..ซึ่งน้องนิดเธอก็ถามมาว่าผมไม่มีอารมณ์ทำกับเธอ
หรือไร เพราะไม่เห็นน้ำกามผมพุ่งเหมือนครั้งแรกๆเลย

ผมจึงต้องอธิบายให้เธอฟังว่า ผมยังมีอารมณ์กับการทำรักกับเธออยู่ ไม่เช่นนั้นอวัยวะผมจะแข็งตัวหรือ แต่ที่ไม่ค่อยมีน้ำกาม
พุ่งเหมือนแรกๆ คงเพราะอายุผมมากแล้ว ประกอบกับการทำรักมันถี่เกินไปจนร่างกายผมผลิตไม่ทัน

ผมไม่รุ้หรอกครับว่าเธอจะเข้าใจหรือเปล่า แต่ก็มีงอนๆกับผมอยุ่บ้างเช่นกัน ผมจึงต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการออกกฎเสีย
ใหม่ว่า ช่วงเวลา5วันที่น้องนิดอยุ่หอพัก ผมขอทำกับเธอแค่สองวันคือวันจันทร์กับวันศุกร์ ส่วนวันอื่นๆขอแค่คุยกันหวานๆ
สยิวๆ เพื่อสะสมความรุ้สึกเอาไว้รอวันทำรักกัน แล้วผมก็รู้นิสัยน้องนิดเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งว่า เธอเป็นเด็กที่ขี้งอนพอควร
เลยละ เพราะกว่าจะทำให้เธอยอมรับข้อเสนอของผม ผมก็ยังต้องป้อนความสุขให้เธอติดๆกันอีกหลายคืน

ในช่วงสามสี่เดือนแรกของผมกับน้องนิดนั้น เราเพียงแชทเสียวกันเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่ทำรักกัน เธอจะขอให้ผมเปิดเวบแคม
ให้เธอดู แต่ตัวเธอไม่เคยเปิด หรืออาจเป็นเพราะผมยังไม่เคยขอทั้งๆที่เห็นหน้าจอ แสดงว่าเธอก็มีกล้องเช่นกัน ที่ผมยังไม่
ร้องขอให้เธอเปิดกล้องนั้น เป็นเพราะผมกลัวเธอไม่กล้าแล้วผมจะหน้าแตก นิสัยส่วนตัวของผมนั้น ถ้าทำสิ่งใดต้องสำเร็จผล  
ถ้าสิ่งใดนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่ ผมมักจะใช้เวลารอคอยได้

ช่วงที่แชทคุยกันนั้นผมสอนให้น้องนิดรุ้จักการหาความสุขกับตัวเองไปทีละขั้นๆ ไม่รีบร้อน จากเริ่มต้นเพียงให้เธอกระตุ้นคลึง
ที่ต่อมคริสตอลิส ก็เพิ่มขึ้นเป็นการลูบไล้แคมเสียว จากการลูบไล้แคมเสียวก็เพิ่มเป็นการให้เธอสอดใส่นิ้วเข้าไปในร่องรัก
เริ่มจากเพียงนิ้วเดียว จนผ่านไปหลายเดือนก็เพิ่มเป็นสองนิ้ว ซึ่งผมสังเกตุได้ว่าน้องนิดเธอจะเพิ่มอารมณ์ได้อย่างมาก ตอน
ที่ใช้สองนิ้วให้ความสุข

ผมสอนน้องนิดให้รุ้จักการเล้าโลมทำให้แฟนมีความสุขด้วยการทำรักด้วยปาก ให้เธอลองหาแตงกวามาสมมุติว่าเป้นท่อนลำ
ของผมแล้วลองอมใส่ปาก แล้วดูดเลียเหมือนเป็นแท่งไอติม สอนให้น้องนิดรุ้ว่า ช่องทางความสุขเสียวนั้นไม่ได้มีเพียงช่อง
ร่องรักเท่านั้น ผมสอนให้น้องลองทำที่ประตูหลัง จนกระทั่งเลยเถิดไปถึงทำสองช่องทางพร้อมๆกันโดยมีแตงกวาหรือไม่ก็
โรลออนเป็นผู้ช่วย

ผ่านไปอีกสามเดือนผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะลองเซ็กส์โฟนกับน้องนิด ผมจึงบอกถึงความต้องการนั้นไป ครั้งแรกเธอยังไม่
ตกลงบอกว่าเขิลผม ขอเพียงแค่คุยธรรมดาๆก่อนได้มั๊ย ไม่มีปัญหาสำหรับผมอยู่แล้วเราจึงแค่คุยกันธรรมดาๆ โดยผมก็
พยายามพูดนำทางให้น้องมีความรู้สึก ความต้องการ แล้วก็สำเร็จในอีกสี่ครั้งต่อมา

เราเริ่มเซ็กส์โฟนกัน ครั้งแรกๆ เธอยังอายไม่ค่อยกล้าพูดกล้าแสดงออกมากนัก ต้องให้ผมร้องขอนำทางอยุ่ตลอด จนผ่าน
ไปสี่ห้าครั้งเธอจึงหายเขิล พูดได้คล่อง ครางได้เต็มเสียง แม้กระทั่งเอาโทรศัพท์ไปจ่อใกล้ๆน้องหมวยของเธอให้ผมฟังเสียง
เธอใช้นิ้วทำกับตรงส่วนนั้น ผมยอมรับเลยว่าติดใจเสียงนั้นมาก มันทำให้ท่อนลำผมแข็งได้มากจนกระฉูดออกมาได้แทบจะ
ทันทีที่ได้ยินเสียงแจ๊ะๆๆๆๆถี่ยิบบวกกับเสียงครางกระเส่าตอนเธอกำลังจะเสร้จ

ผมเริ่มสอนบทสนทนากับการนึกภาพให้น้องนิดเพิ่มขึ้น โดยสอนให้น้องรุ้ว่าความรักไม่ได้จบแค่บนเตียง ใช้ระเบียงบ้างก็ได้
แต่การที่ให้น้องไปยืนเซ็กส์โฟนกับผมที่ระเบียงหอพัก มันคงไม่สดวก และปลอดภัยผมเลยเพียงแค่บอกให้น้องไปนั่งใกล้ๆ
หน้าต่างเวลาทำก็มองออกไปนอกห้องมองผุ้คนเดินผ่านไปผ่านมา ซึ่งดูเหมือนน้องนิดจะมีอารมณ์ชอบ Out door อยู่พอ
สมควรเลยละ ซึ่งเรื่องนี้ผมพิสูจน์ของจริงมาแล้วในภายหลังว่าผมเข้าใจได้ถูกต้อง

ผมอยากรู้ว่าน้องนิดนั้นมีอารมณ์รักในรูปใดได้บ้างลองมาหลายเรื่องแล้วดั่งที่กล่าวไป ผมก็เลยลองให้น้องเขาสมมุติถึง
บุคคลที่สาม เริ่มจากการสมมุติว่าในขณะที่เรากำลังทำรักกันนั้น มีบุคคลที่สามมาเห็นแล้วแอบมอง ดูเหมือนน้องจะชอบ
เพราะเสียงตอบรับที่ออกมา น้องนิดมีอารมณ์เพิ่มมากขึ้น ตื่นเต้นขึ้น แต่พอผมสมมุติให้น้องนึกว่าบุคคลที่สามนั้นขอเข้ามา
แจมร่วมสนุก มาจับนมมาดูดนมหรืออะไรแบบนั้น น้องกลับไม่ชอบแล้วรุ้สึกจะพาลให้หมดอารมณ์ไปเลย

ผมจึงต้องบิ้วอามรณ์ให้น้องนิดใหม่อยู่เรื่อยๆ บางครั้งน้องก็เล่นด้วย เพื่อให้เสร้จๆ แต่ท้ายสุดมักมาสารภาพว่าไม่ชอบแต่ที่
เล่นด้วยเพราะเห็นว่าผมชอบ เลยทำเพื่อตามใจผมเท่านั้น ผมจำได้ว่าเคยพูดกับน้องนิดหลายครั้งในเรื่องนี้ว่า มันแค่การ
สมมุติ ถ้าเป็นจริงผมสาบานเลยว่าจะไม่ยอมให้ใครมาทำรักกับน้องแน่ เพราะผมหวงของผม ซึ่งผมสังเกตุจากน้ำเสียงของ
น้องนิดว่าเหมือนไม่มั่นใจ แต่จะยอมเชื่อคำพูดของผมไปก่อน อีกเรื่องหนึ่งคือน้องนิดเห็นว่าผมชอบสมมุติโน่นนี่ไปเรื่อยๆ
เธอได้บอกผมก่อนล่วงหน้าเลยว่าห้ามสมมุติเรื่องพี่ๆน้องๆ พ่อแม่ลูกเด็ดขาด เพราะเธอรับไม่ได้

จนกระทั่งช่วงปิดเทอมปีสองผมพิจารณาแล้วว่าน่าจะถึงเวลาที่ผมกับน้องนิดควรจะได้นัดเจอกัน ผมจึงโทรไปชวนน้องนิด
ทานข้าวกลางวันกัน น้องนิดใช้เวลาตัดสินใจอยุ่สองวันก็ตอบรับ จำได้ว่าก่อนที่ผมจะไปตามนัดนั้น ผมได้ถามใจตนเอง
ก่อนว่าถ้าสมมุติว่าน้องนิดไม่ได้หน้าตาตามแบบรูปในดิสที่หมวยๆน่ารักๆ เธออาจอวบขาว หรืออ้วนดำเป็นตุ่ม ผมจะรับได้
มั๊ย เธออาจไม่ได้อายุวัยนักศึกษา อาจสูงอายุวัยทำงาน ผมจะรับได้มั๊ย คำตอบคือผมรับได้ ผมรักเธอด้วยใจที่เป็นเธอฉนั้น
เรื่องนี้ไม่เกี่ยว เมื่อผมสำรวจใจตนเองแล้ว ผมก็ไปตามนัดที่ร้านแม็ค ในเซ็นทรัล ฝั่งธน...

ep.4

เมื่อผมไปถึงร้านแม็คโดนัลก่อนเวลานัดเล็กน้อย รีบมองสำรวจรอบร้าน ยังมีลูกค้ามาใช้บริการไม่มากนักแต่ส่วนใหญ่นั่งกัน
เป็นกลุ่มๆ น้องนิดคงไม่ได้นั่งอยู่ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นพวกนี้แน่ มีคนนั่งเดี่ยวๆอยู่เพียงสองที่ ที่แรกเป็นผู้ชาย ส่วนอีกที่หนึ่งเห็น
ต้นคอด้านหลังรู้เพียงแค่เป็นผู้หญิงผมยาว คนนี้จะใช่น้องนิดมั๊ยหนอตอนนั้นผมจำได้ว่าใจเต้นตึ๊กตั๊ก แทบจะกระดอนออก
มานอกอก

จึงค่อยๆเดินเลี่ยงเฉียดๆไปด้านข้างของผู้หญิงคนนั้นหวังจะแอบมองหน้าเธอก่อนว่าหน้าตาเป็นอย่างไร สิ่งแรกที่ผมมองเห็น
คือลำแขนอวบๆสั้นๆของน้องผู้หญิงคนนั้น มันบ่งบอกให้รู้ได้เลยว่าน้องผู้หญิงคนนี้รุปร่างอวบขั้นสุดท้ายแน่ๆ

ผมตัดสินใจไล่สายตาขึ้นไปมองหน้า ก็เจอใบหน้ารูปทรงกลมแก้มยุ้ย ทาปากสีชมพูเข้มที่ดูแล้วขัดกันอย่างมากมายกับใบ
หน้าของหล่อน น้องคนนี้กำลังอ้าปากงับแม็คเต็มปากเต็มคำพอดี ผมทำใจล่วงหน้าไว้แล้วว่า ถ้าเป็นน้องนิดผมก็จะเข้าไป
คุย แต่เพื่อความแน่ใจ ผมจึงกดหมายเลขโทรไปหาน้องนิด แล้วรอลุ้นว่าน้องผู้หญิงคนนี้จะรับสายหรือไม่ โชคดีครับพอต่อ
สายติด ผมกลับไม่ได้ยินสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ไอโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าของน้องคนนั้น  แต่เสียงโทรศัพท์เรียก
เข้ามันกลับมาดังอยู่เบื้องหลังของผมเสียแทน

ผมค่อยๆหมุนตัวกลับหันไปเผชิญหน้า ยังจำได้ถึงความรู้สึกในครั้งนั้นได้อย่างชัดเจนเหมือนกับเหตุการณ์เพิ่งผ่านไปเมื่อ
วันวาน ผมรู้สึกใบหน้าชาเห่อร้อนวูบ ๆ วาบ ๆ ทั้งๆที่อุณหภูมิในร้านแม็คนั้นเย็นกำลังพอดี ทันทีที่ผมหันไปเสียงเล็กๆหวานๆ
ของหญิงสาวเบื้องหน้าก็ดังสวนขึ้นมาถามว่า พี่เก่งใช่มั๊ย ผมไม่ได้ตอบหรอกครับว่าใช่ จำได้ว่าผมพูดออกไปเหมือนละเมอว่า
...น้องนิด...สวยเหลือเกิน ผมรู้สึกดั่งที่พูดออกไปจริงๆ

หญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าผมนั้น เธอสวยมาก สวยแบบหมวยๆ ใบหน้าขาวผ่องรูปไข่นั้นแดงระเรื่อ เมื่อได้ยินคำพูดชมจาก
ผม แต่งแต้มเครื่องสำอางค์บางๆ ทาปากสีชมพูอ่อนๆ ทรงผมยาวสลวยสีโค๊ก สวมเดรสยาวคลุมเข่าสีนำตาลเข้ม รูปร่างน้อง
นิดสูงโปร่งเวลายืนเกือบจะสูงเท่าผม

"พี่เก่งคะ....อย่ามองแบบนี้สิ นิดเขิลนะ"เสียงน้องนิดกระซิบอุ๊บอิ๊บๆเบาๆ พอให้ผมได้ยินแค่คนเดียว ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวหรอก
ครับว่า ตนเองมองน้องนิดด้วยสายตาแบบใด แต่ก็คงไม่ต่างกับสายตาของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ยืนจ้องมองลูกอมแสนหวานรส
อร่อยที่บรรจุอยู่ในโหลแก้ว มองด้วยความอยากกิน มองด้วยความหลงไหลในรสชาติของมัน หรืออาจจะมองจนอดอ้าปากน้ำ
ลายสอก็เป็นไปได้

"ไปร้านอื่นกัน...." ผมจำได้ว่าพูดแบบนั้นไปจริงๆ พร้อมฉวยข้อมือดึงน้องนิดเดินลิ่วออกไปจากร้าน เนื่องด้วยเริ่มรู้สึกตัวแล้ว
ว่ากำลังมีสายตาของคนในร้านแม็คหลายสิบคู่ที่กำลังจ้องมองมายังผมกับน้องนิดด้วยความอยากรู้ว่า ไอ้ชายหนุ่มเหลือน้อย
คนนี้กับสาวน้อยแสนสวย มานัดบอดเจอกันในร้านแม็คหรืออย่างไร

ระหว่างที่ผมเดินจูงมือน้องนิดออกมาจากร้านแม็คเราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันเลย น้องนิดเดินตามต้อยๆ เหมือนเด็กโดน
ผู้ใหญ่จูงมือ ครั้งแรกผมกะจะแวะเข้าร้านสเต็ค แต่พอดูแล้วบรรยากาศพลุกพล่านเกินไป ผมจึงพาน้องนิดเดินต่อไปก็เจอ
ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งไม่ใช่ร้านที่มีชื่อดังอะไรนักเหมือนฟูจิ หรือโออิชิ ยาโยอิ  ผู้ที่มาใช้บริการร้านนี้จึงค่อนข้างน้อย
ภายในจัดสถานที่บรรยากาศคล้ายร้านอาหารที่ญี่ปุ่น ซึ่งผมเคยไปเที่ยวมาแล้วครั้งหนึ่ง

พอเราสองคนเดินตามพนักงานสาวไปยังที่นั่งเรียบร้อยแล้ว เป็นที่นั่งส่วนตัว มีกระจกล้อมรอบสามด้านที่นั่งเป็นหลุมลึกลง
ไปต้องนั่งกันกับพื้นที่มีเบาะเตี้ยๆรองก้น พอพนักงานรับออร์เดอร์จากไปแล้ว น้องนิดจึงกระซิบถามว่า มะกี้ที่ออกมาจากร้าน
แม็ค ผมอายคนหรอ ถึงได้รีบร้อนเดินออกมา

"เปล่าหรอก..พี่ไม่ได้อาย พี่กลัวว่าน้องจะอายมากกว่าที่มานัดบอดกับคนแก่อย่างพี่"

"ใครว่าพี่เก่งแก่คะ หนุ่มใหญ่ดูสมารท์จะตาย....ตอนเดินเดินมาที่ร้าน นิดเห็นผู้หญิงมองพี่เก่งตั้งหลายคนเลยนะคะ" น้องนิด
พูดพร้อมจ้องตผมใสแจ๋ว

"อืมมม..พี่ก็เห็นผู้ชายมองพี่เหมือนกัน..มองพี่แล้วก็มองน้องแล้วก็หันกลับมามองพี่แล้วคงคิดอิจฉาพี่ว่าไอ้แก่คนนี้ทำบุญมา
ด้วยอะไรนะ ถึงมีสาวสวยงามสง่าเดินควงได้ ฮ่าๆๆๆ"

ผมหยอดคำหวานไปอีกหลายดอก จนน้องนิดอายเขิล พร้อมตัดพ้อว่าผมป้อนลูกยอให้ทานจนอิ่มสงสัยจะทานอาหารไม่ลง
แน่ แล้วบทสนทนาก็ถูกขัดจังหวะโดยสาวเสริฟอาหาร

ผมละเมียดทานช้าๆ ไม่อยากรีบทานเร็ว เพราะกลัวว่าเวลาที่พบน้องนิดจะหมดไปไว แต่แม้จะละเมียดอาหารช้าเท่าใด ก็ดู
เหมือนเวลาแห่งความสุขมันติดปีกโบยบินไปได้ไวเสียเหลือเกิน ผมขอนัดน้องนิดมาแค่ทานอาหารเท่านั้น ก็เลยไม่กล้า
ขอให้เธออยุ่ต่อ แต่เหมือนสวรรค์มีตาฟ้ามีใจให้ผม เพราะพอเราเดินออกจากร้านอาหาร น้องนิดก็เป็นฝ่ายชวนผมเดินขึ้น
ไปชั้นบนของศูนย์การค้า เธอเดินดูนั่นนี่โน่นไปเรื่อยๆ แต่ดูแล้วไม่สนใจอยากได้สิ่งใดเป็นพิเศษ ตลอดการเดินจูงมือกัน
เที่ยวนั้น ผมต้องสบสายตากับผู้คนหลากหลายที่เดินสวนแล้วมองมา บางคนก็มองแบบมีมารยาท บางคนก็มองแบบอิจฉา
แต่ก็มีบ้างที่มองด้วยสายตากึ่งดูถูกดูแคลน สายตาแบบนี้ผมมองออกเลยว่าคงคิดไม่ดีไม่งามกับตัวน้องนิดแน่ๆ

เราสองคนเดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดอันเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนต์ น้องนิดจูงผมไปดูโปรแกรมหนัง แล้วชวนผมดู เรื่อง
อะไรผมจะปฎิเสธจริงมั๊ยครับ ผมไม่สนหรอกว่าจะดูหนังเรื่องอะไร แค่ขอมีเวลาอยู่ใกล้ชิดสาวงามอีกสักสองสามชั่วโมงก็
บุญหัวแล้ว

ผมจำไม่ได้หรอกครับว่าวันนั้นดูหนังเรื่องอะไรกับน้องนิดเป็นครั้งแรก เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในโรงหนัง ผมแทบจะไม่ได้หัน
หน้าไปที่จอภาพยนต์เลย ผมหันจ้องมองซีกหน้าด้านข้างของน้องเค้าตลอดเวลา นานๆครั้งน้องเค้าก็หันหน้ามาสบสายตา
กับผม แม้ในความสลัว ผมยังมองเห็นชัดเลยว่าแววตาของน้องนิดนั้นหวานหวามปานใด ความหวานของสายตาคุ่นั้น
สามารถดึงดูดทั้งตัวและหัวใจของผมจนแทบละลาย ผมเผลอตัวยื่นหน้าเข้าไปหาใกล้ขึ้นใกล้มากจนหน้าผากเราสองคนชน
กัน น้องนิดก็ยังไม่ยอมหลบสายตาเร่าร้อนที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาของผม

ผมผละหน้าถอยออกมาแล้วค่อยๆยื่นปากไปจุ๊บเบาๆตรงหน้าผากของน้องนิด รู้สึกเลยว่าเธอสะดุ้งแต่ไม่ถอยหนี ยังคงส่ง
สายตาหวานหวามสบสายตาเร่าร้อนของผม ผมจุบที่หน้าผากเบาๆอีกครั้ง น้องนิดก็ค่อยๆหลับตาพริ้มเสียงถอนหายใจดัง
เฮือก เมื่อผมจูบต่อไปที่เปลือกตาทั้งสองข้าง สันจมูกโด่งเล็กๆได้รูป แล้วผมก็ตัดสินใจแนบริมฝีปากประกบไปที่ปากชมพู
เต็มอิ่มของน้องเค้า

ผมแนบลงไปตรงๆแล้วค้างนิ่ง ไม่ได้พยายามสอดปลายลิ้นเข้าไปในปากน้อง แนบลงไปแล้วก้มหน้าเข้าหาออกแรงกดริม
ฝีปากให้แนบแน่นขึ้นเท่านั้น น้องนิดก็เริ่มตัวสั่น ยิ่งมือเอื้อมมือไปวางบนตักของเธอ ตัวน้องก็ยิ่งสั่นหนักขึ้น หายใจเข้าออก
แรงจนรู้สึกได้ว่าอกกระเพื่อมไหว


[backcolor=#FF0000]ครบ100รีพาย ตอนต่อไปได้อ่านทันทีครับ[/backcolor]