ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ไม่ได้ตั้งใจจะให้น้องเ-็ดเลย สาบานได้ค่ะ ep 1

เริ่มโดย suckzeed, ตุลาคม 13, 2015, 07:58:50 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

ชื่อเกศค่ะ..ตอนนี้อายุ29ย่าง30แล้ว มีบ้านอยู่ย่านชานเมือง ปลูกอาศัยอยู่ในที่ดินมรดกที่คุณตาคุณยายมอบให้กับคุณลุง
โดยกำชับไว้ว่าให้แม่พุดคุณแม่ของเกศปลุกบ้านอาศัยอยู่ด้วย ห้ามขายให้กับคนอื่น ซึ่งมันก็เลยทำให้บ้านของเรา ต้อง
ปลูกอยู่ใกล้ๆกับบ้านของลุงชาญ ซึ่งลุงเขาก็มีครอบครัวแล้วเช่นกัน มีลูกชายคนเดียวคือนายต้น อายุน้อยกว่าเกศสักสาม
สี่ปี ทั้งๆที่ตามศักดิ์แล้ว นายต้นน่าจะเป็นพี่ของเกศ แต่เผอิญว่าเกศเกิดก่อนเลยบังคับให้นายต้นเรียกเกศว่าพี่เกศเสียแทน

เกศเรียนจบด้านบริหารมาจากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางเสาธง ซึ่งสอนแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ทำให้มีเพื่อน
ต่างชาติบ้าง คนไทยบ้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพวกลูกเศรษฐี ซึ่งบางคนก็ดีตั้งใจเรียน คุ้มกับค่าเทอมค่าหน่วยกิจแพงๆของมหาวิทยาลัย แต่บางคนก็นิสัยเสีย ผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ มีบางคน เอ้อ...ความจริงน่าจะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ที่เรียน
มากว่า7ปีแล้วก็ยังไม่จบ เมื่อเรียนจบก็ถูกจองตัวไปทำงานทันที่ ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ไม่ขอบอกชื่อนะคะ ทั้งนี้เป็นเพราะ
ผลการเรียนค่อนข้างดี ภาษาอังกฤษก็อยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม งานของเกศเลยไม่ต้องอยู่ตามสาขาต่างๆ อยู่ที่สำนักงานใหญ่
คอยจัดการบริหาร จัดตารางสัมมนาต่างๆ ฝึกอบรมอะไรแบบนั้นแหละค่ะ

เกศเป็นคนรุปร่างสูงเพรียว มีทรวดทรง ซึ่งบอกตามตรงว่าไม่เคยชอบเลยกับรุปร่างของตนเอง เพราะมันดูเอ็กซ์ ๆอย่างไร
ไม่รู้ โดยเฉพาะทรวงอกที่ใหญ่มากถึง35คัพซี ทั้งๆที่เกศเป็นคนร่างบางๆ แต่ดันมามีหน้าอกอวบใหญ่ สะเอวก็ดันคอดกิ่ว
รับกับโค้งสะโพกอวบใหญ่ผายงอน จนเกศต้องไปขุดกรุหาเสื้อผ้าเก่าๆของคุณยายคูณย่ามาสวมใส่ จำพวกกระโปรงยาวๆ
กรอมเท้า เสื้อตัวหลวมๆ เพื่อปิดบังอำพรางรูปร่างของตนเอง น้อยครั้งตั้งแต่เรียนจบมาได้งานทำ ที่เกศจะโดนบังคับให้
ใส่กระโปรงทรงเอสั้นๆเพื่อไปทำงาน ถ้าวันไหนจำเป็นต้องสวมใส่แบบนี้ เกศมักจะไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนเอง ดีแต่ว่ายังได้
เสื้อสูทตัวใหญ่ๆ ยาวๆ สวมทับเพื่อปิดบังหน้าอกภูเขาไฟของตนเองไว้ได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วเกศจะใส่กางเกงผ้าฝ้ายเนื้อ
นิ่มๆแบบที่ผู้ชายชอบใส่กันเวลาไปทำงาน

มาถึงเรื่องส่วนตัวสักนิดที่อยากจะบอก คือเห็นว่าเกศรูปร่างสุดเอ็ซ์ขนาดนี้ จริงๆแล้วเกศยังไม่เคยมีความรัก หรือแฟนสักคน
เดียว มีเพียงเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งที่เกศเคยหลงไว้วางใจในสมัยเรียน คิดว่าเขาเป็นเพื่อนแท้จริงๆ แต่ที่ไหนได้ พอวันที่เรา
ทั้งสองต่างจบการศึกษา ไอ้เพื่อนเลวคนนั้นของเกศดันออกอุบายพาไปเลี้ยงฉลอง แล้วหวังจะมอมเหล้า แล้วคิดจะพร่า
พรมจรรย์ของเกศที่เกศหวงแหน (ไม่รุ้จะหวงเพื่อใคร) แต่ไม่สำเร็จ เพราะเกศไม่เล่นด้วย จนต้องพากลับมาส่งบ้าน แล้วเกศ
ก็อาละวาดแผลงฤทธิ์จนเข้าหน้ากันไม่ติดอีกเลย ทั้งๆที่ที่ภายใต้วงหน้าเย็นๆดูแข็งๆของเกศนั้น ไม่เคยมีใครเข้าถึงจนพอ
จะรุ้ว่าเกศนั้นเป็นสาวไฟแรงสูงคนหนึ่ง เกศมีอารมณ์อ่อนไหวง่ายเพียงแค่อ่านนิยายแนวอีโรติคของฝรั่ง น้ำตาจากน้องสาว
ก็พรั่งพรุออกมาเยิ้มหว่างขาเสียแล้ว (อันนี้เป็นความลับนะคะห้ามบอกใคร)

แต่คงเพราะครอบครัวของเกศนั้นเลี้ยงลูกกันแบบโบราณ สมัยเก่า วันพระเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม มาตั้งแต่สมัยเด็กๆเพิ่ง
จำความได้ มันเลยซึมซับเก็บกดอารมณ์ความต้องการส่วนนั้นต่อหน้าสาธารณะชน ทำให้เกศไม่กล้าแสดงออก ทำได้แต่
เวลาอยู่คนเดียวภายในห้องที่ระบายออกมาได้ด้วยการทำมาสเตอร์เบชั่น แต่ก็เพียงแค่ถูไถสัมผัสลูบไล้ ไม่เคยมีสิ่งใดรอด
เข้าไปแม้สักครั้ง

อย่างที่เกริ่นไว้แต่แรกว่า หลังจากที่เพื่อนชายเลวๆของเกศคนนั้นเดินออกไปจากวงจรชีวิตแล้ว เกศก็ไม่เคยคบกับใคร วาง
ใจผู้ชายคนใดอีกเลย มีเพียงนายต้นญาติสนิทรุ่นน้องคนเดียวเท่านั้น ที่เกศยอมไปไหนมาไหนด้วย ความจริงแล้วจะพูด
แบบนั้นมันก็ไม่เชิงนัก เพราะส่วนใหญ่คือเกศบังคับให้นายต้นไปไหนต่อไหนกับเกศเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเหนือ จะใต้ จะภาค
ตะวันออกตะวันตก ที่เกศต้องไปเปิดครอสอบรมสัมมนาก็จะพานายต้นไปเป็นเพื่อนเสมอ พูดไปแล้วก็ขำค่ะที่นายต้นผุ้ชาย
ตัวใหญ่ๆ กลับต้องมาเดินตามหลังต้อยๆ คอยถือของถือกระเป๋าให้ตลอด เสมือนเป็นลูกไล่ของเกศ

แต่แล้วมันก็คงถึงคราวเคราะห์ของตนเองกระมังคะ ที่ทำให้เกศต้องกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ อยู่ใต้การบังคับบัญชาของนาย
ต้นจนได้ เหตุนั้นมันเกิดขึ้นมาจาก.....................


วันเสาร์และอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เกศต้องพาคณะผู้บริหารรุ่นใหม่และพนักงานไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด ซึ่งเกศก็เลือกที่จังหวัด
กาญจนบุรี เพราะเห็นว่าเพียงแค่สองวันไม่อยากไปจัดไกลนัก เมื่อจัดการจองโรงแรมที่พักพร้อมกับห้องสัมนาเรียบร้อยแล้ว
จึงเดินไปหานายต้นเพื่อบอกให้เขาขับรถไปเป็นเพื่อน เพราะครั้งนี้เกศไม่อยากร่วมคณะไปกับพรรคพวก ซึ่งโยกโย้เสีย
เวลามากเกินไป

เกศเดินไปตามหานายต้นที่บ้านของเขาแต่ก็ไม่พบ จึงเดินไปทางหลังบ้านก็พบนายต้นกำลังนั่งปลูกต้นไม้ลงกระถากที่หน้า
เรือนเพาะชำ กับคุณลุง เมื่อเกศร้องขอให้เขาช่วยขับรถไปเป็นเพื่อนด้วย เขาก็โยกโย้พยายามปฏิเสธไม่อยากไป อ้างโน่น
อ้างนี่สารพัด แต่ในที่สุดเขาก็แพ้เกศอีกตามเคย โดยเฉพาะคุณลุงเข้าข้างเกศตลอดทุกครั้ง ในที่สุดนายต้นก็จำใจต้องไป
เป็นเพื่อนไม่มีทางปฏิเสธได้อีก

พอถึงเช้าวันเสาร์เขาก็มายืนรอเกศที่หน้าบ้าน แล้วขับรถของคุณพ่อพาเกศไป ตลอดทางเกศก็เอาแต่นั่งอ่านเอกสารการ
สัมมนาทบทวนไทมมิ่ง เพื่อไม่ให้พลาด จนตนเองเผลอหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รุ้ตัว


"พี่เกศ..นอนดีๆ หวอเปิดแล้ว..."

เกศได้ยินเสียงนายต้องร้องบอกดังๆ จนสะดุ้งตื่น รีบเหลือบตามองช่วงขา เห็นชายกระโปรงพรีทผ้าพริ้วๆเปิดถลกเลิกขึ้น
มาจนเห็นท่อนขาอ่อนเรียวยาวขาวผ่อง อีกทั้งหัวเข่าทั้งสองข้างยังอ้ากางกว้าง คงเป็นเพราะความเคยชินที่เกศชอบใส่
างเกงแบบผู้ชายไปทำงาน เวลานั่งจึงไม่ค่อยระมัดระวัง จึงรีบหุบขาแล้วตะคลุบดึงชายกระโปรงลงมาปิด หันหน้าไปมอง
หน้านายต้นด้วยความโมโห และอายๆ

"หว๋อเหว๋อ..อะไร..." เกศส่งเสียงเขียวตวาด แก้เขิน เพราะอายจนหน้าแดงกล่ำ  ยิ่งมองเห็นนายต้นทำหน้าล้อๆขำๆก็ยิ่งอาย
ยิ่งโมโห

"มะกี้นอนหลับจนผมเห็นหวอแล้วยังไม่รู้ตัวอีก..รู้งี้ไม่ปลุกดีกว่า...ทำคุณบูชาโทษชะงั้น..." เสียงนายต้นบ่นเบาๆ แต่ ซ่อน
หน้าแอบยิ้มเยาะๆ นึกว่าเกศคงไม่เห็น

"เห็นอะไร แค่ไหน..บอกมาเดี๋ยวนี้นะนายต้น..." เกศส่งเสียงเขียวๆตวาดดังลั่นรถ หน้าก็ยิ่งแดงกล่ำขึ้นด้วยความอาย มันทั้ง
อายทั้งโกรธ ไม่รู้ว่านายต้นเห็นอะไรแค่ไหนบ้าง

"โหยย...อย่าให้พูดเลย..เห็นหมดแหละ...ทั้งขาวทั้งอวบ..เอื๊อก..." นายต้นพูดพร้อมทำเสียงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก จนเกศดิ้น
เร่าๆ ยื่นมือเข้าทุบตีต้นแขนนายต้นพัลวัลด้วยความอับอายจนหน้าแดงเป็นลุกตำลึงสุก

"ไอ้บ้าต้น..ลามกนักนะแก...ขับรถไปเลย ไม่ต้องหันหน้ามามองอีกเลยนะ...เดี๋ยวกลับบ้านก่อนจะฟ้องคุณลุง"

เกศต้องยกเอาคุณลุงขึ้นมาขู่ เขาจึงสงบเสียง ทำหน้าเหมือนปรกติ ขับรถไปโดยไม่กล้าหันมามองหน้าอีกเลย จนกระทั่งถึง
โรงแรมที่พักและจัดสัมมนา เกศรีบเปิดประตูลงไปจากรถ ไม่อยากนั่งอยู่ใกล้คนท่าทางกวนประสาท รีบจ้ำอ้าวเข้าไปติดต่อ
พนักพนักงานประชาสัมพันธ์ แจ้งเรื่องที่จัดจองห้องพัก ทั้งของเกศและหมู่คณะ

"สองห้องนี้ของคุณเกศรินทร์กับเพื่อนนะคะ...เป็นห้องคอนเน็ดติดกัน ส่วนที่เหลือเดี๋ยวหนูจะจัดการให้ค่ะ..." พนักงานตอบ
ด้วยรอยยิ้มแจ่มใสนอบน้อม ทำให้อารมณ์กรุ่นๆของเกศบรรเทาเบาบางลง

"ขอตัวสักครุ่นะคะ..เดี๋ยวค่อยพาเกศไปดูห้องสัมมนา..." เกศร้องบอกพนักงานประชาสัมพันธ์คนสวย แล้วเดินถือกุญแจห้อง
พักออกมาด้านนอก เห็นนายต้นกำลังยืนเพลินๆชื่นชมธรรมชาติข้างๆบ่อปลา

"เอ้านี่กุญแจห้องของต้นกับพี่..ต้นจัดการเอากระเป๋าพี่ไปเก็บด้วยนะ..พี่ขอไปตรวจดูความเรียบร้อยที่ห้องจัดสัมมนาก่อน..."

เกศพูดเสียงแข็งๆเย็นๆ เหมือนร้องสั่งลูกน้อง พร้อมโยนกุญแจใส่มือนายต้นที่ยื่นมารับ แล้วรีบเดินผละกลับเข้าไปในโรงแรม
อีกครั้ง หันกลับมามองเห็นนายต้นเดินหอตกขึ้นรถขับไปจอดใต้ถุนห้องพัก แล้วสะใจจัง

เกศมัวแต่พุ่งความสนใจในการตรวจตราความเรียบร้อยของห้องสัมมานา ทั้งเรื่องไมค์ ทั้งเรื่องสไลด์ที่จะต้องใช้ จอโปร
เจ็คเตอร์ ตลดจนความเรียบร้อยในส่วนอื่นๆ จนสักครู่ใหญ่รถทัวร์ที่นำชาวคณะ พนักงานและผุ้บริหารระดับต้นของธนาคาร
เดินทางมาถึง เกศก็เดินไปช่วยจัดแจงเรื่องห้องพักทั้งหมดจนเรียบร้อย แล้วนัดเวลาทานอาหารกลางวันกันก่อนที่ทาง
โรงแรมจัดไว้ให้ ส่วนภาคบ่ายก็จะเริ่มต้นการสัมมนากัน มัวแต่ยุ่งกับงานเพลิน ๆ จนลืมนายต้นไปเสียสนิท จนเวลาล่วงเข้า
เที่ยงกว่าแล้ว พวกที่มาสัมมนาต่างทยอยลงมาทานข้าวกลางวันกัน จนหมด เหลือเพียงนายต้นคนเดียวที่เกศยังไม่เห็นหน้า
ทั้งๆที่เลยเวลาทานอาหารกางวันไปแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง

เกศโทรศัพท์ขึ้นมาหาได้ยินเสียงดังตุ๊ดๆๆเหมือนแบ็ตหมด หรือติดสายอยุ่เครื่องไม่ว่าง ก็เลยรอสักพัก คณะผุ้ที่มาสัมมนา
ต่างทยอยเข้ามาในห้อง แต่ก็ยังโทรหานายต้นไม่ติด เลยลุกขึ้นเดินไปตามที่ห้อง ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ห้องใดกันแน่ ระหว่าง215
กับ216 เกศเลยไล่เคาะประตุเสียทั้งสองห้อง พร้อมร้องเรียกเสียงดังๆ

"นายต้น..ทำอะไรอยู่..." เกศร้องเรียกทั้งสองห้อง แล้วรอสักพัก นายต้นก็เดินมาเปิดประตุที่ห้องหมายเลข215ด้วยหน้าตา
ที่งัวเงีย ผมเผ้ายุ่งเหยิง

"มีไรเจ๊......กำลังนอนเพลินๆ..." นายต้นเปิดประตุค้างไว้ พูดเสร็จก็เดินกลับไปล้มตัวลงนอนอีกครั้ง อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

"นี่มันกี่โมงแล้วแก..ตื่นได้แล้ว ลงไปทานข้าวก่อน...แล้วโทรมาทำไมไม่รับสาย..." เกศตวาดแว๊ด ทั้งโมโหทั้งฉุนที่โทรติด
ต่อไม่ได้ ต้องเดินมาตามตัว ทั้งเหนื่อยทั้งเสียเวลา แต่นายต้นกลับเดินลงไปนอนคว่ำหน้ากับหมอนเหมือนไม่ใส่ใจในคำ
พูดของเกศ

"นี่แกลุกได้แล้ว...เลยเวลาอาหารกลางวันแล้วนะ..เดี๋ยวทางโรงแรมเขาเก็บไป แล้วแกจะกินที่ไหน บอกเสียก่อนนะว่าชั้น
ไม่เลี้ยงข้าวแกนะนายต้น..." เกศก็พูดไปแบบนั้นเองแหละ ถ้าทางโรงแรมเก็บอาหารที่จัดแบบบุฟเฟ่ไปแล้วจริงๆ ยังไงเสีย
เกศก็คงต้องยอมจ่ายเงินให้ญาติตนเองทานแน่ ไม่ปล่อยให้อดตามปากที่บ่นออกไปอย่างแน่นอน

"ลุกๆๆๆได้แล้ว..พูดให้ฟังกันบ้างสิแก..ไม่ใช่เด็กแล้วนะ..." เกศพูดพร้อมเดินไปคว้าขอบกางเกงยีนส์ของนายต้นดึงตัวเขา
ให้พลิกนอนหงาย แต่รูปร่างของนายต้นสูงใหญ่ตัวโตๆ นั้นทำให้เกศไม่สามารถทำได้ง่ายนักตามลำพัง

"เออๆๆ..ลุกก็ได้ นี่ไงลุกแล้ว..."

นายต้นพูดอย่างหัวเสีย ทั้งๆที่เขาไม่เคยพูดแบบนี้กับเกศมาก่อนเลย แต่แทนที่จะลุกขึ้นตามที่ปากพูด นายต้นดันทะลึ่ง
แอ่นเอวยกขึ้นให้เกศดูเป้ากางเกงตุงๆ พร้อมกับปากร้องบอกนี่ไงลุกแล้ว กำลังลุกอยู่ แล้วหัวเราะฮึๆฮ่าๆ ชอบใจที่แกล้ง
เกศได้ จึงโดนทึบโดนตีไปเสียหลายฉาด จึงค่อยลุกขึ้นยืนเดินตามเกศออกมาจากห้อง ก่อนจะแยกกันที่หน้าห้องอาหาร
ที่พนักงานเด็กเสริฟ กำลังจะลำเลียงอาหารไปเก็บพอดี

ส่วนเกศก็เดินตรงไปเข้าห้องสัมมนา ซึ่งเป็นงานของตนเองเริ่มตั้งแต่บ่ายโมงตรง จนไปถึงเวลาพักเบรคทานกาแฟแก้ง่วง
นอนในช่วงบ่ายสาม แล้วก็ว่าไปยาวๆจนถึง5โมงเย็นกว่าๆ การสัมมนาวันแรกจึงเสร็จสิ้นลงไป

เมื่อเสร็จถึงเวลาเลิกสัมมนาในช่วงวันแรก คณะผู้เข้าร่วมต่างทยอยเดินออกจากห้องแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย
แต่เกศไม่สามารถพักได้ เพราะตนเองต้องจัดเตรียมเอกสารข้อมูล แผ่นสไลด์ไว้สำหรับการสัมมนาต่อในวันรุ่งขึ้น จนเวลา
ล่วงไปถึงเกือบทุ่มอย่างไม่รู้สึกตัว


"พี่เกศคะ..ยังไม่เสร็จงานอีกหรือคะนี่...ไปพักทานข้าวกันก่อนเถอะค่ะ มืดแล้ว.." เสียงทักแหลมๆดังขึ้นทางเบื้องหลัง เกศ
ไม่จำเป้นต้องหันไปมองก็จำได้ดีว่าเป็นเสียงของยัยวันผู้ช่วยของเกศที่พาสามีมาด้วย
 
"อีกแปบก็เสร้จแล้วละจ๊ะ...วันไปทานข้าวก่อนเถอะ...." เกศเอี้ยวหันหน้าไปร้องตอบ แต่ยัยวันกลับเดินตรงเข้ามาหา

"ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ..เดี่ยวทานเสร็จแล้ววันจะมาช่วยทำงานให้เสร็จ..." ยัยวันพูดพร้อมกับคว้าข้อมือฉุดจนเกศต้องลุก
ขึ้นยืนตาม

"ไปทานกับเราเถอะครับคุณเกศ..พอทานเสร็จเดี๋ยวให้วันมาช่วยทำงานต่อ..." สามีของวันพูดยืนยันอีกคน จนเกศต้องทิ้ง
งานที่ทำไว้ใกล้เสร็จแล้ว เดินไปพร้อมกับสามีภรรยาคู่นั้นไปนั่งทานอาหารตามที่เขาทั้งสองชักชวน

ในระหว่างที่กำลังทานอาหารอยู่นั้น นายต้นก็โทรเข้ามาหา สอบถามว่าเกศจะกลับห้องตอนไหน ซึ่งแม้จะดูเป็นห่วงใย แต่
ก็แปลกๆ ปรกตินายต้นไม่เคยทำเช่นนี้
 
"คงดึกแหละแก..มีไรป่าว...จะเอาอะไรมั๊ย..."
 
"ไม่มีไรหรอกแค่จะบอกว่า ผมฝากกุญแจห้องไว้ที่ฟรอนท์นะ..แค่นี้ละ.."

นายต้นพูดจบก็รีบวางสาย แต่เกศพอได้ยินเสียงเพลงแว่วๆดังลอดเข้ามาทางสาย สันนิษฐานว่านายต้นคงออกไปเที่ยว
เป็นแน่ แม้จะรู้สึกเป็นห่วง แต่นายต้นก็โตแล้ว รู้จักรับผิดชอบตนเองแล้ว คงไม่โดนฆ่าหมกเมืองกาญจน์เป็นแน่ เกศจึง
เลิกใส่ใจ ก้มหน้าทานข้าว พูดคุยล้อเล่นอย่างเป็นกันเองกับยัยวันและสามี จนเพลินลืมเรื่องเวลากว่าจะเดินออกมาจาก
ห้องอาหารก็สามทุ่มกว่าแล้ว ดีที่ได้ยัยวันมาช่วยงานตามที่เธอรับปาก แต่กว่าจะแล้วเสร็จเรียร้อย มองนาฬิกาข้อมือก็เห็น
ว่าจวนจะสี่ทุ่มอยู่แล้ว เกศกับยัยวันและสามีจึงพากันเดินกลับห้องพัก ซึ่งยัยวันนั้นพักอยู่ที่ชั้นสาม

เมื่อเกศกลับมาถึงห้อง เห็นแสงไฟลอดออกมาจากขอบประตุด้านล่างของห้องนายต้น ไม่รุ้เหมือนกันว่าเขาอยู่ภายในห้อง
หรือเปล่า จึงรีบไขกุญแจเปิดห้องตนเองเข้าไป อันดับแรกคือรีบเปลื้องเสื้อผ้าเพื่อจะอาบน้ำ เพราะทำงานมาทั้งวัน จน
เหงื่อไหลเหนียวเหนอะหนะเนื้อตัว ละอองสายน้ำเย็นฉ่ำที่สาดไหลเป็นละอองออกจากฝักบัว อาบต้องร่างเปลือยเปล่า
ของเกศจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง

เกศอาบน้ำอย่างเชื่องช้า ฟอกสบูหอมที่จัดเตรียมมาจากบ้านอย่างอ้อยอิ่ง ฟองสบุ่เนื้อละเอียดช่างนุ่มนวลยามลูบไล้ไปทั่ว
ร่าง โดยเฉพาะตรงทรวงอกอวบใหญ่สองเต้าตั้งเต่ง เกศลูบไล้มือผ่านยอดอกเบาๆ แล้วก็เสียวุบ รู้สึกซาบซ่านเสียวสยิว
ขึ้นมาอย่างประหลาด ทั้งๆที่ไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่นใดเลยนอกจากเรื่องงาน

ฝ่ามือนุ่มนิ่มเลอะฟองสบูของเกศลูบผ่านยอดอกอีกครั้ง พร้อมเผลอร้องซี๊ดออกมาเบาๆ เมื่อปลายนิ้วสะดุดเม้ดหัวนมสีแดง
เข้ม ที่ตั้งตัวแข็งขึ้นมาตอนไหนก็ไม่รุ้ ความรุ้สึกซ่านเสียว วูบวาบ จนเกศต้องย้ำปลายนิ้วกดคลึงเม็ดหัวนมเล่นเบาๆ หวัง
จะให้มันยุบยวบหายแข็งตัว แต่กลับคิดผิดเมื่อเน้นย้ำกดจนมันยุบยวบลงไปในเนื้อเต้า ความเสียวซ่านสยิวกลับทวีแรงขึ้น
มาอย่างอัตโนมัติ จนเกศต้องห่อไหล่ ครางอูยออกมาเบาๆ

คงเพราะเกศเครียดเรื่องงานมาทั้งวัน พอจัดการงานพรุ่งนี้สำเร็จลุล่วงก็รุ้สึกผ่อนคลาย จึงมีอารมณ์ความรุ้สึก เกศไม่ปล่อย
ให้อารมณ์ความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นผ่านเลยไปให้อารมณ์คั่งค้าง เมื่อจัดการเน้นย้ำปลายนิ้วบีบคลึงเต้าอวบใหญ่แรงๆ อีก
หลายครั้ง เสียงครางซี๊ดๆเพราะความเสียวซ่านก็ถูกระบายออกมาจากเรียวปากบางๆ มือที่ว่างอีกข้างเลื้อยลูบต่ำลงไต่ไป
ตามสีข้างจนถึงเอวคอดกิ่วและสะโพกอวบผายหนั่นหนา เกศฉกมือวูบเข้าไปตรงกลางลำตัว กรีดปลายนิ้วผ่านเรียวสาว
สัมผัสความฉ่ำเยิ้มที่ไหลทะลักออกมาฉ่ำปากร่องสวาท ขยับนิ้วถูไถเม็ดสวาทที่แข็งตัวตั้งเด่นอยู่เหนือเรียวสาว เน้นย้ำถี่ๆ
พร้อมระบายเสียงอัดอั้นออกมาดังอูยๆซี๊ดๆ แต่ดีที่ได้เสียงละอองน้ำจากฝักบัวช่วยกลบไว้

เกศทำเช่นนั้นซ้ำๆถี่ๆอีกสี่ห้าครั้ง ความรุ้สึกเสียววูบเหมือนตกจากที่สุง ก็บังเกิด ระบายเสียงแห่งความเสียวสยิวดังซี๊ดยาวๆ
แล้วตัวเกร็งแน่น ร่องสวาทกระตุกยึกๆยวบๆ ตอดปลายนิ้วที่กดไว้แน่นหนือร่องรัก ไม่กล้าพอที่จะจุ่มนิ้วแยงแทงเข้าไป
เพียงแค่นี้เกศก็สำเร็จเสร็จกิจได้อย่างรวดเร็ว และมีความสุข ระบายยิ้มอายๆออกมาจากริมฝีปาก แล้วรีบชำระล้างฟอกด้วย
สบูหอมจนแน่ใจว่าสะอาดหมดจด ก่อนล้างตัวด้วยละอองสายน้ำอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จสิ้น เดินตัวปลิวด้วยรอยยิ้มออกมาจาก
ห้องน้ำที่มืดสลัว เพราะความรีบร้อนจนลืมเปิดไฟ

แสงไฟจากห้องนายต้นแยงลอดออกมาจากขอบวงกบ พร้อมเสียงหัวเราะคิกๆเบาๆแผ่วๆดังลอดเข้ามาในหู เหมือนคล้าย
เป็นเสียงผู้หญิง เกศเดินลิ่วไปที่บานประตูนั้น พร้อมออกแรงผลักดันมันแรงๆ จนร่างตนเองถลำเข้าไปในห้องของนายต้น
สายตามองปราดจับภาพหญิงชายที่กำลังนอนกอดคลุกเค้ากันอยู่บนเตียง

"นายต้นแกทำอะไรนี่..."

[post]เกศแผดเสียงดังลั่น ด้วยความโมโห จนร่างทั้งสองผงะผละออกจากกัน ด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของฝ่ายหญิง กับร่างเปลือย
เปล่ามีเพียงกางเกงชั้นในตุงๆเป็นก้อนกลมๆ ของนายต้นเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่อยู่บนเรือนร่างของเขา

"เฮ้ยพี่เกศ...ว๊ายย".. ทั้งสองเสียงดังขึ้นพร้อมๆกันทั้งจากนายต้น และผู้หญิงคนนั้น ที่ผุดลุกขึ้นยืนข้างเตียงใบหน้าซีดเผือด
ยืนตัวสั่นๆ ก้มหน้าไม่กล้ามองสบดวงตาเขียวปั๊ดด้วยความโกรธของเกศ

"เธอกลับไปเดี๋ยวนี้นะ..." เกศหันไปตวาดเสียงดังใส่แม่ผู้หญิงรูปร่างบางๆสูงๆคนนั้น ซึ่งเธอก็ลนลานจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
แล้วผลุนผลันเดินไปที่ประตูเตรียมจะเปิดเพื่อก้าวหนีออกไป

"พี่เกศไม่มีสิทธิ์ไล่หมออุ้มนะครับ..." นายต้นขยับลุกขึ้นลงมายืนข้างเตียง แล้วร้องบอกเสียงดังๆเข้มๆ จนเกศต้องตวัดหาง
ตาไปมอง ร่างเกือบเปลือยที่ยืนท้าทายอยู่ข้างเตียงอย่างไม่สะทกสท้าน

"ทำไมชั้นจะไม่มีสิทธิ์...แกมากับชั้นนะนายต้น..ส่วนเธอกลับไปได้แล้ว.."

เกศหันไปตวาดใส่นายต้น ตอนนั้นไม่รุ้ตนเองทำแบบนั้นไปได้อย่างไร มันไม่ใช่เพราะความรู้สึกหึงหวงแบบชู้สาวเป็นแน่
ขอยืนยัน ท้ายประโยคเกศหันไปส่งเสียงขับไล่แม่ผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง คราวนี้เธอก็ไม่รีรอแล้ว รีบเปิดประตุแล้วแทรกร่าง
หนีออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้นายต้นอยู่เพียงลำพังกับเกศในห้องสองต่อสอง

"พี่ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับผมนะ..ผมโตแล้ว..."

นายต้นยังยืนเถียงฉอดๆ อ้างคำเดิมว่าเกศไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเขา ซึ่งคำพูดนี้มันยิ่งทำให้เกศโมโหจนขาดสติ
สาวเท้าก้าวตรงไปหาจนได้ระยะฝ่ามือ ที่เกศเงื้อขึ้นสูง เพี๊ยะ..
.
"นี่แน่ะไม่มีสิทธิ์..แกมากับชั้นนะนายต้น.." เกศฟาดฝ่ามือไปที่แก้มของนายต้นเต็มแรงจนหน้าเขาหัน รอยฝ่ามือห้านิ้วแดงๆ
ปรากฎขึ้นที่แก้มข้างขวาของนายต้นทันที สร้างความงุนงงให้นายต้นจนยืนอึ้ง

"มันเกี่ยวอะไรด้วยวะ แค่มากับแก..." นายต้นหันกลับมาเถียงฉอดๆ หลังจากที่หายมึนงง และเป็นครั้งแรกที่เกศได้ยินเต็ม
สองหูที่นายต้นใช้คำว่าแก เรียกเกศแทนคำว่าพี่ เกศเลยยิ่งโมโห หน้าแดงกล่ำ เงื้อฝ่ามือขึ้นสูงฟาดลงไปที่ซีกแก้มข้างเดิม
อีกครั้ง เพี๊ยะ....

แต่คราวนี้ดูเหมือนนายต้นจะระวังตัว เขาเอียงแก้มหลบทำให้ฝ่ามือของเกศกระทบซีกแก้มเพียงเฉี่ยวๆ ทิ้งรอยเล็บยาวๆ เป็น
รอยขีดตรงซีกแก้มทันที

"ว๊าย..กะ..."

เกศไม่ทันระวังตัว พอเหวี่ยงมือฟาดตบไปไม่โดนเป้าจังๆ ตนเองก็ถลำเสียหลัก นายต้องดึงตัวเกศเข้ามากอดรัด ก้มหน้า
พรวดลงมาแนบปากบดขยี้ริมฝีปากของเกศแรงๆ จนรุ้สึกเจ็บ ร้องอึกอักดิ้นทุบตีหลังไหล่ จนผ้าเช็ดตัวที่นุ่งกระโจมอกทำท่า
จะคลายปมออก ต้องรีบเอามือดึงกลับมาจับปมผ้าไว้แน่น ในขณะที่นายต้นก็ผงะหน้าที่มีรอยแดงๆออกห่าง เพื่อสูดลมหายใจ
เข้าปอด

"ไอ้ต้นแก..ตาย.."

เกศร้องตวาดขึ้นด้วยความโมโหจนเหมือนขาดสติ ที่โดนนายต้นรังแกจูบปาก เงื้อฝ่ามือขึ้นตวัดซีกแก้มอีกข้างอย่างถนัดถี่
จนเกิดเสียงดังเพลี๊ยะ....คราวนี้นายต้นกลับไม่หลบ ยืนเกร็งหน้าเกร็งตัวปล่อยให้ฝ่ามือฟาดถูกซีกแก้มเต็มๆ จากนั้นเขาก็ดึง
ตัวเกศเข้าไปหาอีกครั้ง แล้วกอดรักแน่นก่อนจะก้มหน้าลงมาแนบปากประกบจูบบดขยี้แรงๆหนักหน่วง เป็นการตอบโต้ จน
เกศเจ็บระบมที่ริมฝีปากพยามดิ้นหนีออกมาจากอ้อมกอดอีกครั้ง แต่นายต้นไม่ยอมปล่อยกลับรัดตัวแน่นขึ้น จนปมผ้ากระโจม
อกที่ขมวดไว้คลี่หลุดลงมา เผยให้เห็นยอดมณีเม็ดๆเล็กๆแดงๆสองข้าง

"ไอ้ต้น...วันนี้แกตายแน่..."

เกศดิ้นอย่างแรงจนนายต้นคลายวงแขนปล่อยให้เกศเป็นอิสระ อันดับแรกคือรีบขมวดปมผ้าขนหนูให้แน่น แล้วโถมตีเหวี่ยง
ฝ่ามือเปะปะตบตีพัลวัล ไม่ใส่ใจเลยว่าจะตบตีโดนส่วนไหนของนายต้นบ้าง จนรู้สึกฝ่ามือเจ็บร้าวระบม เหนือยแรง หอบหาย
ใจฟืดๆ แต่ก็น่าแปลกที่นายต้นไม่ถอยหนี ปล่อยให้เกศฟาดฝ่ามือโดนจังๆไม่เลือกที่ พอเห็นเกศหอบหายใจเพราะเหน็ด
เหนื่อย เขาก็ก้าวขาเข้ามาประชิด โอบมือดึงเอวของเกศเข้าหา จนท่อนล่างแนบสนิท น้อมหน้าลงมาใกล้จนเกศต้องผงะ
หน้าเอนหนี แต่เขาก็ตามเข้ามา ตามองสบตากัน แล้วแนบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับไม่หนักหน่วงรุนแรง ไม่ได้
สร้างความเจ็บช้ำให้ริมฝีปาก แต่มันกลับสร้างความวาบหวิวซาบซ่าน

ยิ่งมือที่โอบเอวนั้นขยับไล้ลูบชึ้นมาตามแผ่นหลัง ส่วนล่างของร่างกายที่แนบประกบกันสนิทตอนแรกสนิทแน่นเฉยๆ แต่
คราวนี้กลับขยับแอ่นๆเด้งๆคลึงเบาๆช้าๆ โดน จนเกศเกิดความรู้สึกเสียวสยิวซาบซ่าน อารมณ์โกรธโมโหเมื่อสักครุ่ ไม่รู้
หายไปไหนได้อย่างรวดเร็ว

"ไอ้ต้นแก...อุ๊บบบบ"

เกศเบี่ยงปากที่โดนประกบแนบจูบออกห่าง พยายามร้องบอก นายต้นก็ฉวยจังหวะที่เกศอ้าปากอยุ่นั้น ฉกปลายลิ้นเข้ามา
วูบอย่างรวดเร็ว แล้วชอนไชเข้ามาตามไรฟันซีขาวๆ ตลอดจนกระพุ้งแก้ม มันยิ่งสร้างความรู้สึกซาบซ่านหวิววูบ หวั่นไหว
จนเกศเผลอตัวส่งปลายลิ้นเข้าตอบโต้ คราวนี้เลยโดนดูดปลายลิ้นเข้าเต็มๆ มือที่ลูบหลังไหล่ข้างนั้นของนายต้น ยิ่งลูบ
ปราดเข้ามาด้านหน้า ประทะทรวงอกคัดแข็งเต็มๆมือ แล้วขยุกขยิกปลายนิ้วจนปมผูกคลี่ขยาย ร่วงหล่นลงมาค้างที่ใต้อก
แต่หล่นลงไปต่อไม่ได้ เพราะร่างของเราทั้งสองแนบกันสนิท พอนายต้นขยับตัว ออกห่าง ผ้าเช็ดตัวสีขาวมีน้ำหนัก ก็ร่วง
หล่นลงกรอมเท้า มันรวดเร็วจนเกศคว้าไม่ทัน รีบแอ่นตัวเข้าแนบประชิดติดอก เพื่อหลบซ่อนยอดปทุมถันจากสายตาวาวๆ
ของนายต้น

"จะตบอีกมั๊ย...ถ้าตบผมก็จูบ คืนนี้ผมมีเวลาให้พี่เกศตบได้ทั้งคืน..."

นายต้นถอนปากออกจากปากบางของเกศ แล้วก้มหน้าลงมาจรดหน้าผากชนกัน ตาจ้องตา แล้วพร่ำเพ้อออกมาเบาๆ เกศ
หลบตาความรุ้สึกวาบหวิวมือไม้อ่อนจนฝ่ามือที่ตั้งใจจะยกฟาดอีกครั้งไม่สามารถทำได้ ทำได้แต่เพียงวางไว้ที่ต้นคอด้าน
หลัง แล้วดึงลงมาประกบ เผยอริมฝีปากรอคอย ริมฝีปากร้อนลุ่มของนายต้นแนบลงมาอีกครั้ง คราวนี้เกศจุบตอบด้วยอารมณ์
ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป มันทั้งต้องการ ทั้งถวิลหา[/post]

johnywalker


suriyamahajit


paradrop

หนังไทยมาแล้วตบจูบ ตบจนปากเจ่อแล่วมันจะจูบดันยังไงวะ

Kapi channel