ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ซีรีย์น้องนิดกับพี่เก่ง(คำสารภาพของน้องนิด) ep.13-14

เริ่มโดย suckzeed, ตุลาคม 23, 2015, 12:29:25 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

ep.13
"พี่คะๆ.."

น้องนิดเรียกผมอยุ่สองครั้ง ผมถึงขานตอบพร้อมเงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมอง แล้วใจก็หล่นวูบ เมื่อเห็นท่านั่งใหม่ของ
นางแมวจอมยั่วของผม น้องนิดถลกกระโปรงทรงเอไปค้างเติ่งที่เอวคอด แล้วนั่งขัดสมาธิ หอยอูมๆของเธอกดแนบกับ
โซฟาหนังเทียมของผม ส่วนด้านบนเธอก็ปลดกระดุมนักศึกษาออกมาสองสามเม็ด เผยให้เห็นบราสีชมพูที่ปิดทรงอกกลม
อวบใหญ่ของเธอได้เพียงแค่ครึ่งเต้า ขอบบรานั้นปิดบังหัวนมเล็กๆสีแดงของน้องนิดแบบหมิ่นเหม่ เธอส่งยิ้มยวนยั่วมาให้
ผม พร้อมพูดเสียงหวานๆว่า

"บอกอีกทีสิคะ...ว่านิดยังเป็นเด็กเป็น..เล็ก.." เธอลากเสียงเน้นคำว่าเล็ก แล้วเอามือสองข้างโอบเต้านวลยกร่อนส่ายยั่วผม
ไปมาแล้วหัวเราะคิกๆ เมื่อเห็นหน้าผมแดงกร่ำ หื่นๆสยิวๆ ผมปิดแฟ้มงานตรงหน้าแล้วลุกเดินไปหาเธอ ก่อนที่จะถึงตัวนั้น
น้องนิดก็สั่งห้ามให้ผมหยุด แล้วชี้ไปที่เก้าอี้ตัวที่พี่สมเคยนั่งอยู่ก่อนนี้สักครู่ สั่งผมเสียงเข้มว่า

"หยุด....นั่งตรงนั้น เอามือไขว้หลัง แล้วห้ามใช้มือแตะต้องตัวนิด..."

พอผมทำตามน้องนิดก็ลุกขึ้นยืน แต่เนื่องจากกระโปรงทรงเอนั้นมันพอดีกับตัว พอเธอลุกขึ้นมันจึงยังค้างอยู่ที่เอวคอด ผม
กลืนน้ำลายเหนียวลงคอจ้องเขม็งที่โหนกเนินของน้องนิด มันอวบอูมดันชั้นในสีชมพูขึ้นมาเป็นรูปสามเหลี่ยมเต็มหว่างขา
ความบางของเนื้อผ้า ทำให้เห็นขนอ่อนสีดำๆรางๆ น้องนิดหันไปกดล็อคประตูออฟฟิต แล้วจัดการเปิดเพลงตื๊ดๆๆๆจาก
โทรศัพท์ไอโฟนของเธอ แล้วเต้นส่ายสะโพกโยกยั่วเข้ากับจังหวะตื๊ดๆๆๆของเพลงที่ดังออกมาจากลำโพงไอโฟน  

เธอเต้นมาจนใกล้ผมเพียงแค่เอื้อมมือก็สามารถคว้าร่างของเธอมากอดได้ แต่เธอสั่งห้ามไม่ให้ผมขยับ น้องนิดยังคงเต้นต่อ
ไปจนก้าวขาขึ้นมายืนคล่อมขาผมไว้ เธอย่อตัวลงจนอกอวบอิ่มคุ่นั้นลอยส่ายอยู่ตรงหน้าตรงปากผม เธอแกล้งส่ายอกอวบ
เฉียดปากผม พร้อมยิ้มยั่วเมื่อเห็นผมพยายามอ้าปากไล่งับนมของเธอ อย่าแปลกใจเลยครับว่าทำไมน้องนิดถึงก๋ากั่นทำได้
แบบนี้ ถ้าติดตามงานอ่านมาจากต้นคงพอจะทราบได้ว่า ผมกับน้องนิดนั้นก่อนที่จะมีวันนี้ ผมสองคนผ่านการ sex phone
กันมาแล้วเกือบสองปี ผมสอนให้เธอทดลองค้นหาความสุขจากเซ็กส์ มาแล้วหลายรูปแบบ ซึ่งการเต้นยั่วแบบนี้ก็เป็นหนึ่ง
ในการคุยของผมกับน้องนิด

น้องนิดค่อยหย่อนก้นนั่งบนขาผม เธอส่ายเนินสวยเสียดสีกับลำขาผมช้าๆ เนิบๆ อกอวบอิ่มก็ส่ายเฉียดหน้าเฉียดปากผมอยู่
ไปมา เธอก้มมองเป้ากางเกงผมเมื่อเห็นว่ามันเริ่มโป่งพองขึ้นมาเป็นลำ น้องนิดก็เอื้อมมือมาลูบไล้แผ่วๆ จนมันแข็งตัวเต็มที่
กระดกงึกๆจนเป้ากางเกงผมขยับ เธอทำเสียงครางอูยๆๆซี๊ดๆ หน้าสวยฉายแววเจ้าเล่ห์แล้วก้มมากระซิบทำเสียงกระเส่าใส่
หูผม

"อยากละซี่....โดนซะบ้าง ตอนเช้าอยากแกล้งนิด..."

แล้วเธอก็หยุดทำท่าจะลุกขึ้นยืน ผมฉวยจังหวะนั้นสอดมือไปล็อคขาพับสองข้างของน้องนิดแน่น แล้วดึงเข้าหาจนโหนก
เนินเนื้อของน้องนิดแนบกับท่อนลำแข็งตุงกางเกงของผมน้องนิดร้องว๊าย ๆ พยายามดิ้นให้หลุด ผมรั้งขาสองข้างของน้องนิด
ลอยขึ้นจากพื้นแล้วลุกขึ้นยืน น้องนิดผวาเกือบหงายหลังจึงรีบตวัดมือโอบคอผมไว้แน่น ผมยืนได้มั่นคงก็ดึงร่างของน้องให้
แนบเข้ามา กดลำแข็งตุงในกางเกงบดใส่โหนกเนินของน้องนิดที่กางอ้ากว้าง เธอร้องว๊ายๆๆๆบอกผมให้วางลง ผมเลยกด
ปากลงประกบปากกลบเสียงร้องแหลมจนเงียบสนิท ขยับเอวงัดลำตุงแข็งในกางเกงกระทุ้งงัดยึกๆใส่เนินสาว แล้วขยับเดิน
ไปวางร่างบางแต่ทรวดทรงเต็มอิ่มของเธอบนโซฟา ร่างน้องนิดอ่อนระทวย หน้าแดงซ่านบ่นอุ๊บอิ๊บเบาๆว่าผมแกล้งเธออีกแล้ว

"ไม่ได้แกล้ง..พี่เอาจริงๆ.." ผมทำเสียงดุใส่ ปั้นหน้าหื่น แล้วก้มตัวแนบตามลงไป น้องนิดดิ้นขลุกขลักภายใต้ร่างสูงใหญ่ของ
ผมที่กดทับ

"อูยยย....คนบ้ากาม...จะข่มขืนนู๋...ช่วยด้วยค่า.." น้องนิดแกล้งร้องเสียงแหลม แต่เสียงไม่ได้ดังจนออกไปนอกตู้ สองมือทำ
ทียกขึ้นผลักไสทุบตีอกแกร่งของผมเบาๆ ด้วยท่าทีกราดเกรี้ยว แต่ภายในดวงตานั้นกลับฉายแววปรารถนา ตื่นเต้น และหวาม
หวาน

ผมยึดข้อมือสองข้างของน้องนิดที่ทุบตีผมขึ้นสูงแล้วดึงรวบขึ้นไปบนหัว ไม่ได้ออกแรงยึดน้องนิดก็ไม่ขยับดิ้น มือที่เหลืออีก
ข้างจึงสอดล้วงไปทื่เนินเสียว ผมจับคลึงบีบเล่นทำท่าขึงขัง แต่ไม่ได้ออกแรงให้น้องเจ็บตัว น้องนิดทำท่าดีดดิ้นขัดขืนส่าย
เอวบิดเนินเนื้อหนีมือผม แล้วพร่ำร้องอย่าทำนู๋ๆๆ แต่เสียงกลับไม่เหมือนสาวที่ตกใจกลัว มันกลับเป็นเสียงยวนยั่วให้โจรบ้า
กามหื่นกระหายเสียมากกว่า

ผมขยับตัวถอยออกห่างแล้วรูดซิบกางเกงพรืด ปลดตะขอออกแล้วถลกกางเกงค้างคาอยู่ที่ก้น อย่างรวดเร็ว ก่อนจับเอื้อมมือ
จับขอบชั้นในของน้องนิดเบี่ยงออกด้านข้าง จนแลเห็นปากทางรักของน้องนิดที่ฉ่ำเยิ้มเต็มไปด้วยเมือกลื่น

ผมจรดปลายลำทวนล็อคเป้าหมายแล้วแอ่นเอวทิ่มพรวดลงไปแรงๆ จนหัวบานหยักจมหายเข้าไปมิดเงี่ยง น้องนิดร้องว๊ายๆ
อูยๆ แล้วก็ซี๊ดๆเมื่อผมขยับเอวเด้าสั้นๆ หัวแดงมันวาบฉาบลื่นด้วยเมือกที่ขังเอ่ออยู่ในร่องเสียว
 
"คนบ้ากาม..." น้องนิดกัดฟันพูดเสียงกระเส่าแหบ ดวงตาฉายแววหวามหวาน มือสองข้างที่ผมไม่ได้ยึดไว้แล้ว เอื้อมมาจิก
เล็บแหลมใส่แผ่นหลังผมเบาๆ สะโพกสวยเริ่มส่ายเด้งรับเมื่อผมกระทั้นเอวขึ้นๆลงๆ

"ยั่วดีนัก...จะเอาให้ปลิ้นเลย..." ผมทำเสียงดุขู่

"คนบ้ากาม...รังแกผู้หญิง...ช่วยด้วยค่า...ผุ้ชายบ้ากามข่มขืนนู๋...ซี๊ดดด.."

น้องนิดตอบโต้เสียงระริก แล้วครางซี๊ดยาวๆเมื่อผมกดลำยาวเข้าไปจนสุด แล้วถอนออกแล้วส่งเข้า ในจังหวะที่เริ่มจากช้าๆ
เนิบๆ ก่อน

"มีแรงแค่นี้เองหรือนายบ้ากาม..."

พอพูดจบก็ฉวยโอกาสอ้าปากงับปลายคางผม ฟันคมซี่เล็กๆ แม้ไม่ออกแรงขบแต่ก็ทำให้ผมเจ็บจี๊ดจนสะดุ้ง ผมจึงเพิ่มแรงกด
เพิ่มจังหวะการกระทั้น เสียงประทะของโหนกโคนลำกับโหนกเนื้อแน่นของน้องนิดดังป๊าปๆๆๆถี่ยิบ น้องนิดก็ยิ่งเด้งเนินสวย
ส่ายรับสอดคล้องกับจังหวะที่ผมกดกระทั้น เสียงครางซี๊ดๆเสียวๆของเราสองคนดังกระหึ่มลั่นตู้คอนเทรนเนอร์ติดแอร์ เหงื่อ
กาฬไหลหลั่งจนแผ่นหลังผมเปียกชุ่ม ส่วนน้องนิดก็มีเม้ดเหงื่อเล็กๆเกราะพราวตามสันจมูกโด่งสวยกับหน้าผากโหนกนูน ผ่าน
ไปไม่นานเราสองต่างก็เสร้จสมในเวลาที่ไล่ๆกันด้วยความสุขเสียวบวกตื่นเต้น

เย็นนั้นผมทิ้งรถผมไว้ที่ไซด์งาน กลับมาคอนโดพร้อมกันด้วยรถของน้องนิด พอตอนเช้าเราก็ออกไปพร้อมกัน น้องนิดไปเรียน
ส่วนผมเข้าไซด์งาน พอตอนเย็นเลิกงานเธอก็ขับรถมารับผม กลับบ้านพร้อมกัน ตลอดเจ็ดวันเจ็ดคืนที่น้องนิดอยู่กับผมที่คอน
โดในแบบผัวเมีย เราสองคนต่างสานฝัน ทำตามจินตนาการที่เราsex phone กันในรุปแบบต่างๆ ทั้งout door ที่ระเบียงห้องผม
ทั้งประตูหน้าประตูหลัง แทบจะทุกๆเรื่องที่เราสองต่างจินตนาการ

ถูกถ่ายทอดออกมาให้เป็นความจริงทั้งหมดทั้งสิ้น เหลือเพียงเรื่องเดียวคือบุคคลที่สามที่ผมเคยรับปากกับน้องว่า มันจะอยุ่แค่
ในโลกจินตนาการเท่านั้น เพราะผมไม่มีทางยอมให้ใครมาทำแบบนั้นกับเมียผมได้ ซึ่งน้องนิดก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่า เธอไม่มี
ทางยอมทำกับใครหน้าไหนทั้งสิ้น เพราะร่างกายเธอชีวิตเธอมอบให้กับชายคนรักของเธอคือผมคนเดียวเท่านั้น

หลังจากครบ7วันน้องนิดก็กลับไปอยู่ที่คอนโดของเธอตามปรกติ เรายังคงติดต่อผ่านช่องทางmsnกันอยู่เกือบทุกคืน ส่วนการ
นัดเจอกันนั้นก็แล้วแต่ความสดวกเหมาะสมของเราทั้งสองคน จนเวลาผ่านไปอีกหลายเดือนงานผมเริ่มหนักขึ้นเพื่อการสร้าง
ฐานะให้ทัดเทียมกับน้องนิด ส่วนน้องนิดเข้าปีสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วก็ยิ่งต้องคร่ำเคร่งกับการศึกษาให้จบตามกำหนด
เวลา จนมีวันหนึ่งที่น้องนิดโทรมาปรึกษาผม ด้วยน้ำเสียงที่ดูซีเรียส

ep.14

[post]ครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงซีเรียสๆของน้องนิด บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา แล้วเธอก็เงียบไปพักหนึ่ง ใจผมก็เตลิดคิดถึงแต่เรื่องร้ายๆ
ว่าใครหนอมาบังอาจทำอะไรกับเมียกรูหรือเปล่า แต่พอซักถามให้น้องนิดค่อยลำดับความเล่าเรื่อง ผมก็เบาใจลง เพราะมันเป็น
เรื่องของพ่อเธอที่จะขายที่ดินที่จังหวัดนนท์ ให้กับเจ้าของหมู่บ้านที่ซื้อที่ดินผืนใหญ่ของญาติๆเธอไปแล้ว

พ่อเธออยากขายเนื่องจากจะเอาเงินไปลงทุนทำร้านอาหารที่อเมริกาตามญาติพี่น้องที่ไปก่อนหน้านี้ ผมลองสอบถามว่าน้องนิด
กังวลเสียดายที่ดินยังงั้นหรือ แต่คำตอบของเธอถึงกับทำให้ผมอึ้ง เมื่อเธอร่ายยาวออกมาเป็นชุด

"เปล่าค่ะ...นิดไม่ได้เสียดายที่ดิน หรือบ้านหรอก เพราะมันเก่าแล้ว อีกทั้งก็ไม่ใช่บ้านโบราณที่จะต้องอนุรักษ์ไว้ แต่นิดเสียดาย
ต้นไม้ที่ปู่ย่าปลูกไว้น่ะค่ะ....พี่ลองคิดดูนะคะว่า ปัจจุบันจังหวัดนนท์จะเหลือทุเรียนพันธ์หมอนทอง ก้านยาว กบตาขำ แท้ๆอีก
สักกี่ต้น...ไหนจะมะม่วงอกร่องสวน มะม่วงยายกล่ำ มันไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ถ้าพ่อขายให้กับหมู่บ้านจัดสรร เขาก็ต้องโค่นทิ้ง..ผล
ไม้เหล่านี้ทำเงินเลี้ยงนิดมาจนโต...นิดเสียดายค่ะ...ไม่อยากให้โดนโค่นทิ้ง"

ท้ายเสียงของน้องนิดสั่นครือ ทำให้ผมมั่นใจว่าเธอรู้สึกเสียดายต้นไม้เหล่านี้อย่างแท้จริง ผมลองถามไปว่าจะให้ช่วยยังไงล่ะ
น้องนิดเลยถามว่าผมพอจะรู้จักใครๆที่อยากซื้อที่ดินมั๊ย แต่มีข้อแม้ว่าซื้อไปแล้วขอให้อนุรักษ์ต้นไม้ของเธอไว้ อย่าโค่นทิ้ง ผม
เลยถามพิกัดสถานที่ตั้งของที่ดินบ้านน้องโดยละเอียด พร้อมรับปากว่าจะหาทางช่วยเธอ ทำให้เธอดีใจน้ำเสียงดีขึ้น  ผมพูด
หยอกเย้าน้องนิดอีกสักครู่ ก็ลองโทรไปหาพรรคพวกที่กรมที่ดิน จังหวัดนนท์ อยากรุ้ราคาประเมินของที่ดินบ้านน้องนิดว่ามัน
ตารางวาละเท่าไหร่ พอได้ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว รุ่งขึ้นผมก็ขับรถโฉบไปที่นั่นทันทีโดยไม่บอกให้น้องนิดทราบ

ผมกับเพื่อนที่เป็นนักกฎหมายไปถึงบ้านน้องนิดที่จังหวัดนนทืในช่วงบ่าย จอดรถไว้ข้างทางแล้วเดินไปเยี่ยมมองตรงประตุรั้ว
เจอพ่อแม่น้องนิดอยู่ในบ้านพอดี เลยสอบถามว่าได้ข่าวที่ดินผืนนี้จะขายใช่ไหม พ่อน้องนิดรับว่าใช่ แล้วเชื้อเชิญผมเข้าไปใน
บ้านเมื่อรู้ว่าผมสนใจอยากจะซื้อ

พ่อแม่น้องนิดเป็นชาวบ้านซื่อๆ ไม่มีเล่ห์ทางการค้า มีคนมาสนใจสอบถามถึงบ้านกลับไม่โก่งขึ้นราคาที่ดินแม้สักบาท คงบอก
ราคาขายตามที่น้องนิดบอกกับผมมา ซึ่งมันก็เป็นราคาที่สุงกว่าราคาประเมินตารางวาละไม่ถึงพัน ผมตกลงซื้อไว้โดยจ่ายเงิน
มัดจำไว้ก่อน10เปอร์เซ็นต์ จากนั้นจะทำเรื่องกู้แบ็งค์โดยเอาโฉนดที่ดินผืนนั้นวางค้ำประกัน ผมมั่นใจว่าในขณะนั้นเครดิตของ
ผมกับแบ็งค์ดีมาก ไม่น่าจะเป็นปัญหา

ระหว่างที่กำลังคุยแล้วให้เพื่อนร่างสัญญาการซื้อขาย ผมขออนุญาติพ่อแม่น้องนิดเดิสำรวจรอบๆบ้าน จุดแรกที่ผมมองคือห้อง
นอนของน้องนิด ผมไม่รู้หรอกว่าเป็นห้องใด แต่จากการที่เคยคุยกันโทรศัพท์เรื่องหนุ่มบ้านข้างๆมาแอบมองเธอนั้น ทำให้ผม
พอสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นห้องด้านซ้ายที่ติดกับบ้านอีกหลัง หน้าต่างสองบ้านอยู่เยื้องกันหน่อยๆ ตรงตามที่น้องนิดบอกทุก
ประการ ผมเลยมองไปยังบ้านตรงข้ามเห็นว่าปิดเงียบอยู่ เลยลองสอบถามพ่อน้องนิดว่าเป็นบ้านใคร พ่อน้องนิดก็บอกว่า

"เป็นบ้านให้นักศึกษาเช่าน่ะครับ เจ้าของบ้านตัวจริงไปเรียนที่อเมริกา เพิ่งกลับมาปีที่แล้วนี่เอง ผมได้ยินข่าวว่าพอเด็กนักศึกษา
ที่เช่าเรียนจบแกจะเอาคืนแล้วรื้อปลูกใหม่ ว่าแต่คุณซื้อที่ดินผมไปทำอะไรครับ ขอโทษที่ถาม..."

"ผมกะว่าจะทำเรือนหอนะครับพี่....." พอผมตอบไปพ่อแม่น้องนิดต่างมองหน้าอมยิ้ม คงไม่เชื่อหรอกครับว่าหนุ่มใหญ่มากอายุ
ขนาดผมยังไม่ได้แต่งงาน พอแกไม่ซักถามอะไรต่อ ผมก็ลากลับ โดยเรื่องนี้ผมเก็บไว้เป็นความลับไม่บอกน้องนิด กะจะ
เซอร์ไพร์ซเธอเมื่อถึงเวลาอันสมควร

รุ่งขึ้นอีกวันน้องนิดก็มาหาผมที่ไซด์งาน ในขณะที่ผมกำลังดูงานก่อสร้างบ้านอยุ่พอดี เธอเดินฝ่าเปลวแดดอ่อนๆยามบ่ายแก่ๆ
ตรงมาหาผมด้วยหน้าตาเธอสดใสท่าเดินสวยสง่าในชุดนักศึกษาขาวสอาด พวกคนงานก่อสร้างทั้งไทยทั้งประเทศเพื่อนบ้าน
ต่างจ้องมองเธอตาค้าง แอบซุบซิบกันทำนองอิจฉาเจ้านายที่มีสาวสวยวัยละอ่อนหุ่นเซ็กซี่เป็นเมีย น้องนิดยังเดินมาไม่ถึงตัว
ผมก็ชิงรีบเดินไปหาพร้อมพาเธอมาที่ออฟฟิตชั่วคราว เธอมาขอบคุณผมที่พาเพื่อนไปซื้อที่ดินของพ่อ...

"เห็นพ่อบอกว่ามากันสองคน..พี่ไปด้วยใช่มั๊ยคะ". ผมตอบรับว่าอืม

"พ่อบอกว่าเพื่อนพี่จะซื้อเอาไว้ทำเรือนหอ..." น้องนิดยังพูดต่อจ๋อยๆ

"คงงั้นมั้ง.....มีอะไรหรอครับ"

"ก็นิดแปลกใจว่า...เพื่อนพี่ก็น่าจะอายุประมาณพี่ ..เอ่อ..อายุขนาดนี้ยังไม่แต่งงาน ยังมีอีกหรอคะนอกจากพี่อ่ะ"

"ก็มีสิ..." ตอนนั้นผมไม่รุ้จริงว่าน้องนิดจะมาหลอกถามผมหรือเปล่า เพราะผมยังไม่อยากให้เธอรู้ว่าผมเป็นคนซื้อที่ดินผืน
นั้นเอง จึงพยายามพูดให้น้อยที่สุด

"เอ๊ะ....หรือว่าจะซื้อให้บรรดาน้อยๆ...." เธอยังไม่ยอมจบ

"ก็แล้วมันแปลกอะไรล่ะที่รัก..เขาจะซื้อให้ใครก็เป็นเรื่องของเค้า แต่เพื่อนพี่ก้รับปากกับพี่ว่าจะไม่แตะต้องต้นทุเรียนของนิด.."

."ที่นิดข้องใจก็คือ...เพื่อนฝูงกันคบกันย่อมต้องมีรสนิยมคล้ายกันพี่ว่าจริงมั๊ยคะ...."

"จริงมั้ง..." พอผมตอบออกไปแบบนั้น น้องนิดก็เดินเข้ามาใกล้ทำท่ายกมือสุงระดับคอผม แล้วปั้นหน้าเหี้ยม พูดเสียงแข็ง
ขึ้นมา

"ถ้าพี่ทำแบบเพื่อน มีอีหนูแอบซ่อน นิดจะเอาตาย" พอพูดเสร้จเธอก็ลดมือลงวูบแล้วคว้าเป้ากางเกงของผมบีบเบาๆทำหน้า
เหี้ยมเกรียม

"เจ้หมวยเตือนอาตี๋เล็กไว้ก่อนน๊า...ถ้านอกใจเจ๊หมวยมะไหร่ละก็ จะหักคอตี๋เล็กจิ้มน้ำพริกกินแน่นอน"จากนั้นก็หัวเราะคิกๆ ผม
ละยอมเลยกับความน่ารักทะลึ่งทะเล้นของเธอ มักมีมุกมีคำพูดมีศัพท์แปลก ๆ มาเย้าหยอกให้ผมตื่นเพริดได้ตลอดเวลา มือที่
กำกุมพวงไข่ผมนั้นไม่ได้บีบแน่นจนผมหน้าเขียว เธอบีบๆคลึงๆให้ผมตื่นเตลิดเสียมากกว่า พอน้องนิดขู่จบก็ปล่อยมือ ผมฉวย
จังหวะเอาคืนล้วงมือไปกำบีบเนินเสียวในกระโปรงพรีสจีบรอบตัวของเธอแล้วทำหน้าหื่นๆกระซิบเธอเบาๆบ้างว่า

"แล้วหมวยเล็กไม่ให้รางวัลตี๋ใหญ่บ้างหรอจ๊ะ" ผมพูดไปขยับมือบีบคลึงเนินสาวไปจนน้องหมวยของผมเริ่มตัวอ่อน  ทันใดนั้น
ช่างสมโฟร์แมนของผมก็โผล่พรวดเข้ามาเพราะผมลืมล็อคประตู ช่างสมเห็นจังๆตาว่าผมกำลังล้วงมือจับส่วนใดของน้องนิด
เธอร้องว๊ายเมื่อช่างสมเข้ามาแบบไม่ให้สุ่มเสียง แล้วรีบเบี่ยงตัวเข้าไปหลบซุกหน้ากับแผ่นหลังกว้างของผม ช่างสมมองเรา
สองคนอมยิ้มๆ แล้วยื่นเอกสารให้ผมก่อนเดินออกไปโดยไม่พูดจา พอช่างสมออกไปจากห้องแล้วน้องนิดก้ค่อยโผล่หน้าลอด
วงแขนของผมออกไปมองแล้วหยิกแขนผมบิดอายหน้าแดงกร่ำ พร่ำอุ๊บอิ๊บว่าผมเป็นตาแก่ลามก

คืนนั้นที่คอนโดของผม น้องนิดก็ตอบแทนเรื่องที่ผมช่วยเหลือเธอ ด้วยความรักและความประทับใจจนผมแทบจะสำลักความ
สุขที่เธอมอบให้ เราสองคนเริงรักกันอย่างอ่อนหวานในช่วงเริ่มต้น ก่อนจะเร่าร้อนรุนแรงเมื่อไฟสวาทโหมกระพรือ

ผมยังจำได้แม่นว่าคืนนั้นน้องนิดให้บริการผมอย่างกับผมเป็นราชา แล้วเธอเป็นนางบำเรอทาสสวาท เธอจับผมอาบน้ำ ขัดตัว
แล้วนวดผมด้วยฟองสบูเลียนแบบวีดีโอหนังโป๊ที่ผมเคยเปิดดูกัน จากนั้นพาผมขึ้นเตียงผูกมือผมสองข้างโยงไว้กับเสาหัว
เตียง แล้วปีนขึ้นมาขย่มร่วมกันอย่างเร่าร้อน ลีลาบิดพริ้วส่ายเอวร่อนสไลตัวยึกๆยักๆ ไหลลื่นแทบไม่มีชงักติดขัดเลยสักครั้ง
ทำให้ผมเกือบหัวใจวายเสียให้ได้ พอผมใกล้เสร็จ เธอก็ใช้ปากทำให้ต่อจนน้ำกามของผมกระฉูดออกมาหมดสิ้นไม่มีหลงเหลือ
เก็บไว้ในสต็อคแม้แต่หยดเดียว

ชีวิตโชคชะตาไม่มีอะไรแน่นอน ช่วงระหว่างนั้นที่ผมกับน้องนิดกำลังมีความสุขหวานชื่นกันอยู่ ผ่านไปไม่ถึงเดือนก็มีข่าวร้าย
เรื่องเศร้าเกิดขึ้นกับน้องนิด หลังจากที่พ่อเธอได้รับเงินค่าที่ดินในส่วนที่ผมกู้แบ็งค์เรียบร้อยแล้ว พ่อกับแม่เธอก็บินไปอเมริกา
ดูลู่ทางที่จะหุ้นกับญาติๆในการทำร้านอาหารไทย สายการบินที่พ่อแม่เธอเดินทางไป ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ท่านทั้ง
สองตายในซากเครื่องบินลำนั้น

ผมจำได้ว่าน้องนิดร้องไห้เมื่อทราบข่าวนี้ เหมือนเสียสติ เธอร้องไห้เหมือนน้ำตาจะเป็นสายเลือด ผมเพียงได้แต่ปลอบประ
โลม แล้วเป็นธุระจัดงานศพให้ท่านทั้งสอง เสมือนหนึ่งเป็นพ่อแม่ของตนเอง ในวันเผาศพ ญาติๆของน้องนิดบินมาร่วมงาน
แต่ดูเหมือนจะเกิดความไม่เข้าใจกันบางเรื่องเกี่ยวกับเงินที่พ่อแม่น้องนิดรับปากว่าจะไปร่วมลงทุน แต่น้องนิดคงไม่อยากให้
เพราะใจของเธอไม่ต้องการไปลงทุนที่อเมริกาตั้งแต่แรกมาแล้ว ผมเสมือนยังเป็นคนนอกจึงไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว รู้เพียงว่า
ญาติทั้งหมดของเธอบินกลับอเมริกาในวันรุ่งขึ้นด้วยความขัดใจ ขนาดประกาศตัดเป็นตัดตายกับน้องนิด

ช่วงนั้นผมเลยให้น้องนิดมาอยู่ด้วย ไม่อยากให้เธออยู่ตามลำพัง คอยพูดจาปลอบประโลมให้เธอคลายทุกข์ แม้ผมจะเสียใจ
ไปกับเธอก็จริง แต่ลึกๆผมกลับแอบยินดีด้วยความเห้นแก่ตัวว่า บัดนี้อุปสรรคที่จะขัดขวางชีวิตรักของผมกับน้องนิดก็หมด
ลงแล้ว ผมเพียงรอจังหวะเหมาะๆที่จะขอเธอแต่งงาน[/post]