ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ฟัก อยู่แม้น

แค้นวิปริต จิตสั่งกาม (โทรจิตคุง) ตอนที่ 21

เริ่มโดย ฟัก อยู่แม้น, พฤศจิกายน 02, 2015, 10:13:17 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ฟัก อยู่แม้น





ตอนที่ 21 พายุแห่งความฟั่นเฟือง

[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]ณัฐยังคงยืนขาสั่นอยู่เช่นนั้น เขาตระหนักดีว่าความเจ็บปวดเต๋อประสบอยู่นั้นคงปางตายยิ่งกว่าวัวควายคลอดลูกไม่ออก แต่จะทำอย่างไรได้นอกจากขอคำปรึกษาจากมีน ส่วนเต๋อยังคงนอนตัวบิดงอกุมขมับทั้งที่ก็ไม่ช่วยให้อาการปวดทุเลาลงได้ สารรูปเหมือนไส้เดือนโดนน้ำร้อนราดหรือไม่ก็ตัวทากถูกโรยเกลือ[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"พี่เต๋อครับ. . .ณัฐ. . .จะเรียก. . .แท็กซี่ให้นะครับ"[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"พาพี่ไปหาหมอที!! พี่จะทนไม่ไหวแล้ว!" [/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]เสียงเมื่อครู่ดังพอที่จะได้ยินไปถึงมีนซึ่งอยู่ในสาย เธอบอกให้ณัฐเปิดลำโพงโทรศัพท์เพื่อเจรจากับมีน[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"นิกเป็นคนเดียวที่รู้วิธีแก้ไข และถ้าจะให้ฉันเดินเรื่องให้ถึงมือ เธอต้องยัดใต้โต๊ะเหมือนที่พวกข้าราชการเค้าทำกันไงละ ฉันไม่ขออะไรมาก แค่เธอไปหาพวงมาลัยสด ๆ สักพวงแล้วบรรจงไหว้ขอขมาในเรื่องทุเรศ ๆ ที่เธอทำกับฉันวันนั้นก็พอ ไม่ยากเลยใช่ไหมพ่อหนุ่มโทรจิต?"[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ใครน่ะณัฐ!" เต๋อฝืนสังขารตั้งใจฟังและเปล่งเสียงโต้ตอบ ทั้งที่พิษความเจ็บปวดยังแทรกทั่วอณูสมอง[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"พี่มีนครับ. . ." ณัฐก้มหน้ายื่นโทรศัพท์ให้ใกล้ตัวเต๋อ ดู ๆ ไปเหมือนเป็นสื่อกลางเชื่อมคนกับผีที่อยู่คนละภพให้คุยกันรู้เรื่องได้ก็ไม่ปาน[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"พี่มีน. . .อ๋อ. . .หึ หึ อยากให้ผมขอโทษเหรอ" เขาใช้มือตบขมับสองข้างเพื่อให้อาการชาเข้ามาลดพิษความเจ็บปวด[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ใช่. . .ฉันไม่มีโปรโมชั่นให้อย่างจอร์จหรือซาร่าห์นะ ตรงกันข้ามถ้าเธอตัดสินใจช้ากว่านี้ ฉันจะให้เธอกราบแทบเท้าเลยล่ะ" มีนยืนยันแน่น เธอยังฝังใจเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าบ้านวันนั้น เพียงเพราะเต๋อต้องการหยั่งเชิงพลังของเธอก็ถึงกับล่วงเกินผู้มีพลังพิเศษที่ไม่มีพิษภัย อีกประการหนึ่งในฐานะสตรีเธอยอมไม่ได้ร่างกายต้องกลายเป็นของเล่นของผู้ชายจิตใจต่ำทราม[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ฮะ ๆ ๆ ๆ พี่มีน. . .พี่รู้อะไรไหม. . .ซี๊ดดด" เต๋อกัดฟันทนเจ็บและพูดใส่โทรศัพท์เสียงชัด "ตอนนี้พี่ไม่ต่างจากผมหรือไอ้คุณธนิกเลยนะ. . . ปล่อยให้ความแค้นครอบงำ. . .จนความสะใจมีค่าอยู่เหนือชีวิตคน ฮะ ๆ ๆ"[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"นี่เธอ!!?" มีนรู้สึกเหมือนถูกน้ำคำของเต๋อกลายเป็นฝ่ามือตบเข้าเต็มหน้า[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ" น่าอัศจรรย์ที่เขาสามารถหัวเราะยียวนได้แม้ในสภาพน้ำหูน้ำตาไหล เมื่อมองผ่าน ๆ แลคล้ายสติฟั่นเฟือง[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ณัฐ! กลับมาเดี๋ยวนี้! ปล่อยเค้าไว้อย่างนั้น!" มีนแผดเสียงลั่นจนน่าเป็นห่วงอายุการใช้งานลำโพงโทรศัพท์[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"แต่. . .พี่เต๋อ. . .เค้าดูแย่จริง ๆ นะครับ" ตรงกันข้ามณัฐสนองกลับด้วยเสียงที่เบาประหนึ่งแปรผกผันกัน[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ถ้าเธอไม่ฟัง พี่จะบอกพี่นิกว่าเธอแอบพบเขามา! ไม่สิ! จะใช้ไซโคเมทรี่สอบสวนตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยล่ะ! เอาอย่างนั้นใช่ไหม!" อำนาจโทสะดลให้มีนเริ่มงัดลูกไม้เพื่อกดดัน[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]คำพูดเมื่อครู่เสมอเหมือนคมมีดที่เพียงแตะด้ายขึงตึงเบา ๆ ก็ขาดผึงทันที[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"เหรอครับ. . ." [/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"งั้น. . .ผมก็จะฟ้องพี่นิกว่าพี่มีนแอบไปเจอเขามาเหมือนกัน" จู่ ๆ เส้นเสียงควบคุมการพูดของณัฐก็ไหลลื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาฉายแววต่อต้านอำนาจ[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ว่าไงนะ!?" มีนทวนเหมือนไม่เชื่อหูตนเอง ณัฐเป็นคนขลาดเกินกว่าจะต่อรองกับใครมาไหนแต่ไหน ขนาดคนเดินชนตัวเองยังเป็นฝ่ายขอโทษก่อนด้วยซ้ำ[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"เรื่องขอโทษไงครับ ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไร รู้แต่ว่าต้องเป็นพี่นิกต้องยังไม่รู้มาก่อนแน่ ๆ ถ้าพี่นิกไปด้วย ใครกล้าจะทำอะไรพี่" [/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"เดี๋ยวสิ! เดี๋ยวก่อน!" มีนอ้ำอึ้ง สภาพจิตใจของเธอไม่ต่างกับโดนนักไอคิโดบิดข้อมือจนมีดที่ถือหันกลับปักอกตัวเอง[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ผมจะอยู่ช่วยพี่เต๋อ!" ณัฐลั่นใส่โทรศัพท์แล้วกดปิดเครื่องทันที เขาเพิ่งสังเกตว่าระหว่างเถียงกับมีน เต๋อจับจ้องทุกการกระทำของเขา และยังยิ้มออกได้เสียด้วยแม้เจ็บปางตาย[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]". . .เก่งมากครับณัฐ อย่า. . . อย่าให้ใครมาข่มเหงเราได้. . ." เต๋อฝืนพูดในท่านอน "แววตาของณัฐหม่น. . .หม่นเหมือนพี่ตอนเป็นเด็ก. . .พี่ไม่อยากให้ณัฐเป็นอย่างพี่เลย. . .วัยมัธยมควรจะเป็นวัยที่แจ่มใส . .ไม่ใช่ต้องทนทุกข์ทรมาน พี่จึงไม่แปลกใจเลยเมื่อครั้งแรกที่ณัฐบอกพี่ว่าจะทำงานให้พี่. . .เพื่อแลกกับอิสระ. . .เหมือนพี่ตอนอยากย้ายโรงเรียนหนีไม่มีผิด ฮะ ๆ ๆ"[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"แต่อย่าเสียใจไปเลย. . .ความทุกข์. . .มันจะทำให้เราแกร่งขึ้น. . .แกร่งกว่าคนที่สุขบนทุกข์ของเรา. . .แต่อย่ารอคอยเฉย ๆ . . .เราต้องหัดทำให้ตัวเองแกร่งขึ้นด้วย"[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"พี่เต๋ออย่าฝืนพูดเลยครับ ผมจะเรียกรถพาไปหาหมอนะครับ" ณัฐตั้งท่าจะออกไปโบกรถหน้าร้าน แต่เต๋อขัดขึ้นมาก่อน[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"ไม่ต้องหรอก. . .พี่รู้สึกเหมือน. . .ใกล้จะไปแล้ว. . ." พิษความเจ็บปวดเข้ากดทับสติสัมปชัญญะทุกที ความรู้สึกทุกอย่างกำลังจะทุกกลืนกินจนเลือนหายไป [/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff].[/backcolor]
[backcolor=#ffffff]"พี่เคยคิดเล่น ๆ . . .ว่าพี่จะช่วยให้ณัฐใช้พลังตัวเองแบบสร้างสรรค์ได้ยังไงบ้าง. . .คิดออกตั้งหลายอย่างแน่ะ. . . ถ้าโลกหลังความตายมีจริง. . .พี่จะกลับมาบอกในฝันนะ. . .และ. . .สุดท้ายจริง ๆ . . ."[/backcolor]

". . .พี่ขอโทษ. . .ที่ทำตามสัญญาไม่ได้" เต๋อรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายเปล่งวาจาออกมา ก่อนจะฟุบลง
.
.
"ไม่นะ! ไม่!!!"
.
.
เสียงของณัฐก้องกังวานลั่น ทว่ากลับมีเพียงตนเองเท่านั้นที่ได้ยิน
.
.
.
.
.
.
.
เหตุการณ์ลำดับที่หนึ่ง
.
.
ชายชราผู้หนึ่งกำลังนั่งเหม่อมองแสงอาทิตย์อัสดงอยู่บนเตียงห้องพิเศษ เขาคิดไม่ถึงว่าเงินทองที่เก็บหอมรอมริบมาตลอดชีวิตเกินกว่าครึ่งต้องหมดไปกับการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานนับปี แต่ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือดูเหมือนว่าลูกหลานจะไม่พอใจที่เงินมรดกในอนาคตเริ่มร่อยหรอไปทุกที
.
.
.
บางครั้งนึกอยากตายไปให้พ้น ๆ คนที่อยู่ข้างหลังจะได้โล่งใจ ไม่ต้องหมั่นหิ้วกระเช้าซุปไก่ราคาแพงมาเยี่ยมแล้วตีหน้าเสแสร้ง คนแก่ผู้เจนจัดชีวิตชีวิตมีหรือแค่นี้จะดูไม่ออก
.
.
.
"คุณตาคะ เรียกหนูหรือเปล่าคะ" นางพยาบาลสาวเคาะประตูพอให้เป็นพิธีแล้วเดินเข้าหาอย่างนุ่มนวล เธอรับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยวีไอพีท่านนี้มาเนิ่นนาน จนไม่ต้องเรียกชื่อจริงหรือแทนตัวว่า "ดิฉัน" ทั้งนี้ด้วยความคุ้นเคยกันนั่นเอง
.
.
"หนูเอาซุปไก่นี่ไปกินที่บ้านสิ ฉันไม่กิน"
.
.
.
"อีกแล้วเหรอคะคุณตา. . .รังนกที่ให้มาคราวก่อนยังทานไม่หมดเลยค่ะ. . .แค่หนูเคยรับของก็ผิดจรรยาบรรณแล้ว อย่าให้หนูรู้สึกผิดซ้ำซ้อนเลยค่ะ"
.
.
.
"ก็เพราะฉันคะยั้นคะยอให้หนูเองนี่นา. . .หนูไม่ผิดซะหน่อย. . .เอาไปเถอะ. . .แบ่งให้คนที่บ้านกินก็ได้" ชายชรายิ้มให้อย่างเอ็นดูประหนึ่งลูกหลาน
.
.
.
"แต่มันไม่เหมาะสมนะคะ คุณตาทำแบบนี้หนูลำบากใจนะคะ" น้ำเสียงของเธอบ่งบอกความอึดอัดใจ
.
.
.
"เชื่อฉันอีกสักครั้ง. . .เอาไปกินเถอะ. . .ฉันไม่ชอบกลิ่นมันเหม็นคาว. . .แค่ครั้งสุดท้าย. . .ครั้งสุดท้ายจริง ๆ นะหนู" ชายชราพยายามเอื้อมมือสั่นสะริกเพื่อหยิบกระเช้าซุปไก่บนโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง
.
.
.
เมื่อเอื้อมมือแตะถึงตัวก็ล้มลงเกือบตกจากเตียง ส่วนกระเช้าซุปหล่นตกพื้น
.
.
"คุณตา!!?" พยาบาลสาวรุดเข้าประคองทันที

"เอากระเช้านี้ไปอีกเที่ยวเดียว ฉันขอแค่ครั้งนี้ก็ได้" ชายชราขอร้องออดแอด ช่างสงสารยิ่งนัก
.
.
"ก็ได้ค่ะ หนูรับไว้ก็ได้ แต่ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายจริง ๆ นะคะ คุณตาห้ามทำอย่างนี้อีกนะคะ ไม่งั้นหนูจะไม่ยอมคุยเป็นเพื่อนอีก" เธออยากตามใจชายชราขี้เหงาเท่าที่เขาต้องการก็จริง แต่ด้วยหน้าที่และหัวโขนที่สวมอยู่ คงไม่เหมาะนักที่จะรับของเยี่ยมผู้ป่วยมากินใช้อยู่เนือง ๆ
.
.
.
เธอก้มลงเก็บกระเช้าซุปไก่ หารู้ไม่ว่าชายชราได้ซ่อนสำเนาพินัยกรรมแสดงเจตจำนงยกทรัพย์สินเป็นเงินให้เธอถึงแปดหลักพร้อมจดหมายรับรองสิทธิ์ที่เขียนด้วยลายมือตนเอง โดยซ่อนอยู่ใต้ฐานตั้งขวดซุปทรงขั้นบันได สำหรับเป็นทุนการศึกษาต่อต่างประเทศตามที่เธอเคยเล่าความฝันว่า แค่ทำหน้าที่พยาบาลยังไม่เพียงพอ เธออยากไปศึกษารับเอาวิทยาการจากอารยประเทศแล้วกลับมาเผยแพร่ในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัย เธอบอกว่าลำพังตัวเธอทั้งชีวิตอาจดูแลคนได้แค่หลักร้อย แต่หากเธอเป็นผู้สร้างพยาบาลจะมีคนแบบเธอไม่รู้อีกกี่ร้อยกี่พันคน และจะช่วยคนอีกได้ไม่รู้เท่าไหร่ ชายชราถึงกับน้ำตาซึมเมื่อได้ยินความฝันอันเปี่ยมอุดมการณ์ นอกจากนี้พยาบาลสาวยังดูแลปรนนิบัติเขาเปี่ยมด้วยเมตตา หลายครั้งที่ต้องเหนื่อยเกินกว่าหน้าที่ เธอก็ไม่เคยแสดงอาการไม่พอใจหรือปริปากบ่น บางทีชายชรานึกอยากให้เธอคนนี้เป็นลูกแท้ ๆ เธอทำหน้าที่ได้ดีกว่าลูกในสายเลือดเสียด้วยซ้ำ
.
.
.
และหลังจากที่เธอรับมันไป เขาจะฆ่าตัวตายเพื่อมิให้เป็นภาระกับลูกหลานไปมากกว่านี้ นอกจากมรดกที่ให้โดยเสน่หากับพยาบาลสาวแล้ว ส่วนที่เหลือจะมอบให้ลูกหลาน และมูลนิธิการกุศลอีกจำนวนหนึ่ง
.
.
.
.
.
.
เสี้ยววูบความคิด. . . . จู่ ๆ ชายชราก็นึกเปลี่ยนใจ
.
.
"หนู ๆ. . ."
.
.
.
ชายชราอ้าฝ่านิ้วทั้งห้าตะปบเข้าที่แก้มก้นพยาบาลสาวที่กำลังก้มเก็บซุปดังป๊าป!! "เป็นเมียน้อยฉันเถอะ!"
.
.
"ว๊าย!!?" เธอหันขวับปิดป้องแก้มก้นที่เพิ่งถูกสัมผัสเมื่อกี้ยังกับกลัวว่าเนื้อจะหลุดติดมือไป
.
.
.
"ข้างหลังยังสวยขนาดนี้แม่เจ้าประคุณเอ้ย จุ๊ ๆ ๆ อยากรู้ว่าข้างหน้าจะโหนกนูนแค่ไหน" แววตาชายชราผู้น่าสงสารกลับกลายเป็นหมาป่าผู้หอบกระหายเลือด แลบลิ้นตวัดเลียอากาศไปมาเหมือนต้องการซ้อมก่อนเลียบางสิ่งบางอย่าง
.
.
.
"ทำแบบนี้ได้ไงคะ!!?" พยาบาลสาวเอ็ดเสียงสั่น น้ำตาปริ่มขอบ เธอทั้งโกรธ อายและผิดหวังในตัวชายชรา
.
.
.
"มานี่อีหนู!!! เดี๋ยวป๋าจะมอบทุนการศึกษาให้!!!" อยู่ดี ๆ ชายชราที่น่าจะอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงก็กลับลุกเหินเดินเหาะคล่องแคล่ว ซ้ำเส้นเลือดตามกล้ามเนื้อยังปูดโปนดุจอัดฉีดด้วยพลังช้างสาร เป้ากางเกงคนไข้โป่งพองขึ้นชี้หน้าพยาบาลสาว เธอแทบไม่อยากคิดว่าสิ่งที่อยู่ข้างในจะมีสภาพเป็นอย่างไร
.
.
แล้วชายชราก็โผตะครุบพยาบาลสาวทันที พยาบาลสาวยื่นมือหมายกดออดฉุกเฉิน แต่ชายชรากดแขนให้เบนไปอีกทาง
.
.
.
"ช่วยด้วย!!กรี๊ดดดดดดด !!ช่วยด้วย!!" นางพยาบาลกรีดร้องลั่น
.
.
"อย่าร้องสิจ๊ะหนูจ๋า แหะ ๆ ๆ ป๋าออกจะใจดี กลัวทำไมกันจ๊ะ" ชายชราพยายามสอดมือเข้าไปในเครื่องแบบขาวพิสุทธิ์ของเธอ มือที่ตะเกียกตะกายหาเครื่องทุนแรงคว้าหูกระเช้าซุปไก่ได้พอดิบพอดี
.
.
"นี่แน่ะไอ้โรคจิต!!" เธอฟาดทั้งกระเช้าอัดใส่ศีรษะตาแก่มือปลาหมึกโดยไม่สนใจสถานภาพว่าเป็นคนไข้ ชายชราเสียหลักล้มลง พยาบาลได้ทีวิ่งหนีออกจากห้องอย่างไม่รอช้า
.
.
.
"เดี๋ยวสิจ๊ะหนูจ๋า รอป๋าด้วย!" ชายชราตั้งท่าจกมือเหมือนผีปอบแล้ววิ่งตามติดออกไป
.
.
.
.
.
"ผมจะเดินไม่ได้ตลอดไปใช่มั๊ย" เด็กชายอายุราวสิบกว่าขวบนั่งอยู่บนรถเข็นเงยหน้าพูดกับผู้เป็นแม่ ดวงหน้าเศร้าสร้อย
.
.
"ไม่หรอกจ้ะ แม่สัญญาว่าน้องบอยต้องกลับมาเดินได้ แต่น้องบอยต้องมาให้พี่ ๆ เค้าทำกายภาพบำบัดเป็นประจำ ห้ามดื้อนะคะลูก เดินได้แน่ ๆ" คุณแม่พูดให้กำลังใจ เธอสังเกตว่ามีพยาบาลนางหนึ่งวิ่งฉิวผ่านไป แต่ก็ไม่ได้เอะใจนึกผิดปกติ ก็แค่อาจถูกคนไข้เรียกด่วน
.
.
"จริงนะฮะ"
.
.
"จริงสิจ๊ะ แม่สัญญา" คุณแม่เข้าโผกอดลูกชายและบีบกลั้นน้ำตาไว้ วัยนี้ลูกของเธอควรจะได้ซุกซนโลดโผนตามประสาเด็กผู้ชาย เธอสงสารลูกจับใจที่ต้องประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ กระนั้นก็ไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ลูกเห็นเพราะเธอเท่านั้นคือที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของลูก
.
.
"คุณแม่รักลูกบอยนะคะ เข้มแข็งไว้นะลูก"
.
พูดได้แค่นั้นทั้งสองก็รู้สึกเหมือนโลกเอียงฉาก
.
.
"เกะกะ! เอาไอ้นี่มายืมหน่อยซิ! เมื่อยตีนโว้ย!!" ชายชราถีบแม่พร้อมเด็กคนไข้กระเด็นลงจากรถเข็น เด็กชายร้องไห้จ้า ส่วนผู้เป็นแม่กระเด็นหงายกระโปรงหวอออกนอนแผ่ไม่เป็นท่า
.
.
"ฮี่ ๆ ๆ ๆ เสร็จป๋าแน่อีหนู!!!" ชายชรานั่งเข้าที่บนรถเข็นและปั่นด้วยกำลังแขนเหลือเชื่อ เขานั่งปั่นล้อรถเข็นไล่กวดนางพยาบาลสาว ไม่นานนักเหยื่อก็ถึงคราวจนมุม เป็นมุมอับบริเวณทางหนีไฟซึ่งไม่ค่อยมีคนผ่าน
.
.
.
ยังเคราะห์ดีที่เธอเหลือบเห็นกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นพอดี
.
.
"ช่วยด้วย! ตรงนี้มีคนโรคจิต!" เธอโบกมือให้กล้องวงจรปิด เหมือนคนติดดาดฟ้าตึกไฟลุกลามที่กำลังโบกมือเรียกเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเป็นความหวังเพียงหนึ่ง
.
.
"ฮี่ ๆ ๆ หนูจ๋ายอมป๋าซะดี ๆ" ชายชราตั้งท่าผีปอบจอมจกขึ้นทีละมือ
.
.
และพุ่งเข้าปล้ำพยาบาลสาวทันที
.
.
"กรี๊ดดดดดด!!" เธอกรี๊ดได้อีกอึดใจก็ถูกตั้นท้องจนร้องไม่ออก ตาเฒ่าจอมหื่นรูดกางเกงในของเธอปลดออกจากเรียวขา
.
.
เธอถูกถลกกระโปรงเย็ดต่อหน้ากล้องวงจรปิด
.
.
.
.
อีกด้านหนึ่ง
.
.
กลุ่มเจ้าหน้าที่เฝ้าจอภาพจากล้องวงจรปิดกำลังสาวท่อนลำชักว่าวพร้อมดูหนังสดผ่านจอ
.
.
รอยบาปที่เธอถูกข่มขืนมีค่าหาเกินกว่านั้นจริง ๆ





เหตุการณ์ลำดับที่สอง
.
.
.
ในห้องตรวจภายใน สูตินารีแพทย์หนุ่มกำลังตรวจช่องคลอดสตรีรุ่นราวคราวแม่ คนไข้มีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่กระบวนการทั้งหมดกินเวลาไม่นานกว่าที่คิด
.
.
คนไข้ค่อย ๆ ลงจากขาหยั่งหลังตรวจเสร็จ ในใจเธอรู้สึกขยะแขยงตัวเองที่ต้องถูกถ่างช่องคลอดโดยหมอหนุ่มรุ่นลูกจนหลวมโพรกชั่วขณะ กระนั้นไม่ยอมทำก็ไม่ได้เนื่องจากมีอาการคันเรื้อรังผิดปกติบริเวณช่องคลอด
.
.
.
"เรียบร้อยดีไหมคุณ" สามีถามหลังภรรยาเดินโผล่ออกจากม่านพร้อมพยาบาลผู้ช่วย
.
.
"ค่ะ หมอยังเด็กอยู่เลย แต่ให้เกียรติดีมาก ไม่ติดใจอะไร"
.
.
"อืม. . .ผมก็อยากให้หมอผู้หญิงตรวจนะ แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา ของแบบนี้เลือกมากเอาแต่ใจได้ที่ไหน"
.
.
"เดี๋ยวรอคุณหมอกันก่อนเถอะค่ะ" เธอหันไปพร้อมสามี นายแพทย์ผู้ตรวจยังคงอยู่หลังม่าน อาจจะวุ่นอยู่กับการเก็บเครื่องมือต่าง ๆ ให้เรียบร้อย
.
.
.
หลังม่านทึบอีกฟากฝั่ง แพทย์หนุ่มกำลังพินิจคีมปากเป็ดที่ใช้ถ่างช่องคลอดคนไข้อย่างครุ่นคิด
.
.
"น้าคนนั้น อายุก็ไม่สาวแล้วนะ. . .หุ่นยังดีอยู่เลย สวยซะด้วย สวยกว่าแม่เราอีก" เขาคิด
.
.
.
ยิ่งมองคีมปากเป็ดใช้แล้ว. . .ยิ่งเกิดความฟุ่งซ่าน . . .
.
.
"แอบเลียนิดนึงจะเป็นไรไหมนะ" จิตสำนึกถามกับตัวเอง
.
.
"ไม่เป็นไรน่า" ว่าแล้วคุณหมอสูติก็ค่อย ๆ เผยอปลายลิ้นสัมผัสปากเป็ด เขารู้สึกได้ถึงเมือกลื่นที่ติดค้างปลายคีม มันทั้งเค็มทั้งคาว แต่ก็เร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
.
.
"อร่อย. . .สะเด็ด. . .เหลือเกิน" แพทย์หนุ่มบรรจงเลียคีมปากเป็ดชิมน้ำอมฤตที่คนไข้ทิ้งให้จนเกลี้ยง ทว่าลิ้มลองจนติดใจแล้วก็ไม่ต่างจากสารเสพติด เขากระหายอยากได้เพิ่ม. . .
.
.
แพทย์หนุ่มรูดม่านออก ตีหน้าเคร่งขรึม
.
.
.
"ขอโทษนะครับ" ทันทีที่เขาเอ่ยปาก สองสามีภรรยาก็พร้อมตั้งใจฟังทันที
.
.
"รบกวนคุณผู้หญิงขึ้นขาหยั่งอีกรอบนะครับ เมื่อกี้หมอเกือบมองข้ามอะไรไปนิดนึง อยากเช็คซ้ำเพื่อความแน่ใจ"
.
.
ทั้งสามีภรรยามองหน้ากันอย่างงง ๆ กระนั้นก็ตกปากรับคำไป ด้วยเชื่อฝังหัวว่าไม่มีใครรู้เรื่องสุขภาพดีไปกว่าแพทย์ปริญญา แพทย์หนุ่มเชิญผู้รับการตรวจกลับไปในห้องม่านกั้นอีกครั้ง ฝ่ายสามีเอะใจว่าทำไมต้องรูดม่านแรงขนาดนั้นด้วย เหมือนจะรีบร้อนไปไหน
.
.
.
"คราวนี้ผมจะตรวจแบบพิเศษนะครับ" หมอหนุ่มพูดกับหญิงผู้รับการตรวจที่ขึ้นขาหยั่งพร้อมมีผ้าคลุมบังไว้
.
.
.
"ค่ะ. . ." เธอตอบเสียงอ่อย ไม่สบายใจเลยที่ต้องตรวจซ้ำอีกรอบ
.
.
.
เธอสะดุ้งเฮือก
"หมอคะ!!??"
.
.
หมอหนุ่มเอาศีรษะมุดโปงแล้วใช้ลิ้นสอดเลียหีเธออย่างดูดดื่ม
.
.
". . ." ยังไม่ทันได้ตะโกนเอะอะ จู่ ๆ หญิงผู้นี้ก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับบทเพลงบรรเลงลิ้นของแพทย์หนุ่มหน้าใสวัยคราวลูก "อาหหห์" เธอคราง
.
.
"เบา ๆ นะครับ เดี๋ยวแฟนคุณได้ยิน" หมอหนุ่มเงยหน้าขึ้นแนะนำและมุดกลับดูดหีต่อไป
.
.
.
"อูวววว โอววว" ความเสียวมีอำนาจเกินจะทน หญิงสาวส่งเสียงอย่างลืมตัว ฝ่ายสามีได้แต่เดินวนไปมา กระวนกระวายไม่รู้ว่าหลังม่านนั้นมีอะไรกันแน่ เสียงแปลก ๆ เหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นระหว่างการตรวจภายในซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในสังคมไทย
.
.
.
ทันใดนั้นผู้ช่วยพยาบาลคนเดิมก็กลับเข้ามาพอดี
"หมอคะ เรียบร้อยหรือยังคะ"
.
.
"ยัง! ยัง! อีกนิดเดียว" แพทย์หนุ่มตอบเสียงผ่านม่านกั้น "อึ๊! อูยยย" ผู้ช่วยพยาบาลรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล จึงขออนุญาตเข้าไปดูกับตาตัวเองด้วยวิธีการพูดอ้อม ๆ
.
.
"ให้ดิชั้นช่วยนะคะ" เธอพูดแล้วรูดม่านออก
.
.
"กรี๊ดดดดดดดด!!!" ภาพที่อยู่ตรงหน้าช่างบาดตาบาดใจยิ่งนัก หมอหนุ่มเอาหัวมุดโปงฝ่ายหญิง ท่าทางไม่ใช่การตรวจที่ถูกต้องตามหลักการ ฝ่ายหญิงดูจะพึงพอใจเอามาก ๆ ส่งเสียงครวญครางไม่หยุดหย่อน ฝ่ายสามีลุกขึ้นชะโงกจึงได้เห็นความจริงหลังม่านทั้งหมด
.
.
"ม. . .มึง. . ."
.
.
". . .มึงทำงี้ได้ไง!!"
.
.
ผู้เป็นสามีระดมทั้งตีนทั้งหมัดเข้าใส่หมอหนุ่มไม่ยั้ง ผู้ช่วยพยาบาลป้องปากตะโกนให้คนช่วย เกิดเสียงเอะอะโกลาหลดังลั่นแผนก
.
.
.
.
.
.
เหตุการณ์ลำดับที่สาม
.
.
.
"โหยดูสิมึง ตายคาชุดนักศึกษาเลย น่าสงสารว่ะ"
เจ้าหน้าที่ห้องเก็บศพหัวเถิกพูดกับเพื่อนหลังจากได้เห็นศพนักศึกษาชายรถมอเตอร์ไซค์คว่ำ ศีรษะกระแทกริมทางเท้าเสียชีวิตคาที่ บัดนี้ร่างนั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเหล็กเพื่อรอญาติมาดูศพ
.
.
.
"อยู่มาตั้งนานยังไม่ชินอีกเหรอ" ผู้เพื่อนร่างโย่งตอบเฉยเมย
.
.
"ไม่ใช่ ๆ กูหมายถึง. . .เสียดายชีวิตไอ้น้องคนนี้ หน้าตาดีซะด้วย ถ้าให้กูผ่าตัดหน้าแลกกับน้องคนนี้ได้คงดี เชี่ยนี่กูปาไปยี่สิบเจ็ดแล้วยังหาแฟนไม่ได้เลย เสียเงินลงอ่างตลอด"
.
.
"มึงอย่าพูดไรเกี่ยวกับคนตายนักมันไม่เหมาะกับจรรยาบรรณเว้ย ใครมาได้ยินเข้ามันไม่งาม เค้าควรตายหรือไม่ควรก็ไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์ ทำตามหน้าที่เราก็พอ"
.
.
"อีกเดี๋ยวพ่อแม่เค้าก็มาถึงแล้ว มึงอยู่เฝ้าไปก่อน กูเข้าห้องน้ำหน่อย" เจ้าหน้าที่ร่างโย่งขอตัวออกจากห้อง
.
.
.
หลังจากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่หัวเถิกได้อยู่เฝ้าศพตามลำพัง ไม่นานนัก เขาก็เริ่มรู้สึกร้อนตามเนื้อกายขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
.
.
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังแทรกซึมผ่านกะโหลก ราวกับเป็นคลื่นพลังงานที่ไม่อาจมองเห็นได้แต่รับรู้ได้จากสิ่งที่เรียกกันว่าความไหวรู้สึก เขาเลิกผ้าคลุมศพออกและล้วงผ้าเช็ดหน้าส่วนตัวเช็ดคราบเลือดตามแนวหน้าผาก แผลไม่กว้างนัก อาจเรียกได้ว่าศีรษะถูกกระแทกโดนจุดตายทีเดียวดับ ศพจึงยังคงสภาพแทบไม่ต่างจากก่อนเสียชีวิตเลย เช็ดเพียงไม่นานเรือนหน้าก็กลับใสสะอาดดั่งยามมีชีวิต
.
.
"ดู ๆ ไป. . ."
.
.
". . .ไอ้น้องนี่ก็หน้าหวานดีนะ หน้าผมยังกะนักร้องไต้หวัน" เขานึกในใจ เปลือกตาหรี่ลงดุจต้องมนต์มายา "ตัวยังไม่เย็นเลย เสียดายที่ร่างนี้อีกไม่นานก็ต้องเน่าเปื่อย เฮ้อ. . . .อนิจจัง" เขาใช้ฝ่ามือสากลูบไล้ตามเรือนร่างศพ จริงอย่างที่เขาบรรยายสรรพคุณ น่าเสียดายชีวิตวัยใสของนักศึกษาหนุ่มคนนี้ หากยังมีชีวิตต่อไปอนาคตอาจรุ่งโรจน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งด้วยรูปเป็นทรัพย์
.
.
บางอย่างดลใจให้เขาคว้ามือปลดเข็มขัดและตะเข็บซิปของศพรูปหล่อ เมื่อรูดลงเล็กน้อยก็เห็นกางเกงในสีขาวสะอาดสมวัยนักศึกษา
.
.
"มะ . . .ไม่ได้!! นี่เรากำลังทำอะไรอยู่!?" เขาสะบัดมือออกด้วยความรังเกียจตัวเอง "ต่ำช้าจริง! นี่แน่ะ ๆ" เขาโขกหัวตัวเองกับผนังเบา ๆ พอให้เรียกสติได้ . .
.
.
แต่แล้วเขากลับรู้สึกว่าคลื่นพลังงานนั้นหวี่หวีดชอนไชสมองเข้าไปทุกที ๆ เหมือนกับว่าต้นศูนย์กลางพลังงานของมันแผ่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าใดนัก อานุภาพของมันทวีความเข้มข้นจนเขาอดรนทนไม่ได้. . .มันสามารถขุดถอนรากความคิดกระทั่งในระดับจิตไร้สำนึกซึ่งอยู่ลึกกว่าจิตใต้สำนึกขึ้นสู่คลื่นสมองและแปรผลเป็นพฤติกรรม
.
.
ท้ายที่สุด เขาก็ต้องพ่ายแก่อำนาจลึกลับ
.
.
"อยากลองกับผู้ชายซักครั้งมานานแล้ว . . .แต่กลัวคนรู้. . .ถ้าเป็นศพ. . .ก็จะไม่มีใครรู้" เขาเดินไปล็อคประตูห้องเก็บศพ แล้วกลับมายังร่างแน่นิ่งปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออก เผยให้เห็นหน้าอกนวลเนียนและหัวนมสีชมพู
.
.
" 'โหสิให้ด้วยนะน้อง เดี๋ยวพี่ทำบุญให้เจ็ดวัดเจ็ดวาเลย" เขาก้มลงลองเลียหัวนมศพเด็กหนุ่ม พบว่ามันอร่อยลิ้นน้อยกว่าเถาถันของอิสตรี อย่างไรก็ตามเป็นแค่การลองเพื่อให้หายสงสัย ไม่จำเป็นจะต้องผูกมัดยกระดับเป็นรสนิยมต่อไป
.
.
"ต้องรีบก่อนที่ตัวจะแข็งทื่อ" เขานึก พร้อมกันนั้นก็จับศพบนเตียงนอนคว่ำและถกกางเกงพร้อมกางเกงในลง
.
.
.
เจ้าหน้าที่หัวเถิกมองร่างไร้วิญญาณของนักศึกษาหนุ่มอีกครั้งอย่างลังเล. . .
.
.
.
.
"ช่างแม่ง จะเหี้ยก็ต้องเอาให้ถึงที่สุด!" เขาถลกกางเกงลงและขึ้นนอนทับร่างไร้วิญญาณ พยายามสอดใส่ดุ้นลำเข้าไปในกายเด็กหนุ่ม ต้องออกแรงอยู่มากโขเนื่องจากเป็นร่างไร้ชีวิตแต่ก็ไม่อาจต้านแรงปรารถนาแห่งตัณหาวิปริต
.
.
"อูย รู้สึกดีจัง" ไม่รู้จะพูดเพื่อชมเชยศพหรือปลุกอารมณ์ตัวเอง เขาเริ่มกระทำการสมสู่กับศพหรือเนโครฟิเลีย มันช่างได้อารมณ์เร้าใจเกินกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจความหฤหรรษ์ส่วนตัวของเขา ทุกครั้งที่บั้นท้ายโยกเข้าออกเขารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น ความกลัวผลกระทบที่จะตามมา ความรู้สึกเป็นผู้คุมเกมเบ็ดเสร็จ ความสุขทางเพศ ความรู้สึกลักลั่นย้อนแย้งกันเองระหว่างสันดาบดิบกับศีลธรรม ทั้งหมดผสมผสานเป็นค็อกเทลสูตรลับเฉพาะ ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถเข้าถึงรสชาติเหนือจินตนาการนี้ได้นอกจากต้องลองเองเท่านั้น.
.
.
"ไหนขอพี่ดูหน้าชัด ๆ หน่อยนะ" เขาขออนุญาตศพในใจ ดึงกางเกงที่ห้อยติดขาจนหลุดจากศพเด็กหนุ่ม จากนั้นจึงพลิกหมุนร่างสู่ท่าหงาย เจ้าหน้าที่ผู้วิปลาสจับร่างที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ยกขาขึ้นกระหน่ำทวารหนัก ควบคู่กับมองใบหน้าหนุ่มอ่อนละมุนช่วยเร้าอารมณ์ให้ถึงปลายทางโดยเร็ว ไม่มีเวลามากนักก่อนที่ศพจะแข็งตัวหรือมีคนผ่านมาเห็น ขณะนี้ศพรูปหล่อเป็นต่างตุ๊กตายางไร้ปากเสียง มีหน้าที่ปรนเปรอกามารมณ์อย่างไร้เงื่อนไขใด ๆ ทั้งปวง
.
.
.
.
"อูย ไม่ไหว แล้ว!" เขาฉีดน้ำรักเข้าเต็มรูทวารร่างแน่นิ่ง และเป็นจังหวะเดียวกับที่เพื่อนเจ้าหน้าที่อีกคนไขประตูห้องเข้ามาพอดี กระนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัว เสียวลืมสติและกระแทกต่อไปด้วยความสะใจ
.
.
"ห้องนี้ครับ เชิญครับ"
.
.
แขกผู้มาดูศพทั้งสามถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีคนวิปริตเลวชาติกล้าย่ำยีร่างไร้ชีวิตไร้ทางต่อสู้ได้ถึงเพียงนี้ ซ้ำยังเป็นศพผู้ชายเสียด้วย ทุกคนมั่นใจว่าเป็นคนที่ตามหา ทรงผมผิวพรรณและหน้าตาบอกยี่ห้อ เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่าศพเด็กหนุ่มนี้มีความสำคัญต่อใครบ้าง.
.
.
"อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!" ผู้ซึ่งอนุมานได้ว่าเป็นมารดาของศพตรงหน้าร้องกรีดร้องลั่น บอกไม่ถูกว่าช็อคที่ทราบว่าเป็นศพลูกชายจริงหรือช็อคที่ได้เห็นสภาพศพ สิ้นเสียงเธอลมจับล้มลงทันที
.
"นั่นพี่ไชย ใช่พี่ไชยแน่ ๆ แกทำอะไรเค้า!! ฮือ" แฟนสาวปิดหน้าร่ำไห้
.
.
"เฮ้ย! มึงเล่นอะไรเนี่ย!" เจ้าหน้าที่อีกคนตัวคร้ามสั่น นอกจากสิ่งที่เพื่อนของเขาได้กระทำลงไปมีความผิดร้ายแรงแล้วยังขัดกับบรรทัดฐานสามัญสำนึกวิญญูชนอีกด้วย
.
.
.
"ไม่ได้เล่นนะ กูเอ็นดูน้องเขาจริง ๆ นี่ยังกะว่าจะลาบวชอุทิศส่วนกุศลให้"
.
.
.
สิ้นคำกล่าว. . .บุรุษคลับคล้ายเป็นพี่ผู้ตายก็คว้าเก้าอี้พับโลหะ แล้วระดมฟาดใส่ตัวการชนิดเอาให้ตามไปอยู่ด้วยกัน




เหตุการณ์ลำดับที่สี่. . .
.
.
ที่ห้า
.
ที่หก
.
เจ็ด แปด เก้า. . .และสิบ . . .สิบเอ็ด . . .สิบสอง สิบสาม สิบสี่ สิบห้า สิบหก. . .
.
.
เหตุวิปลาสทั้งหมดปรากฏขึ้นในโรงพยาบาลเซนต์แมตธิว ยังคงเกิดขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ ในเวลาไล่เลี่ยกัน และไม่มีทีท่าจะสงบนิ่ง จากเดิมเหตุเกิดขึ้นในแต่ละจุดแต่ละอาคารซึ่งแยกห่างจากกัน บัดนี้ความโกลาหลลุกลามทั่วโรงพยาบาลจนแม้คนที่ความรู้สึกช้าที่สุดก็ยังต้องหวั่นผวา จะให้นิ่งเฉยได้อย่างไรในเมื่อมีพยาบาลวิ่งไล่จะใช้กรรไกรแทงคนไข้ผ่านหน้า แม่บ้านกระโดดลงจากชั้นสองเพื่อหนีจากอะไรบางอย่าง มีคนตาลีตาลานดึงสลักถังดับเพลิงออกมาใช้ เกิดเสียงเอ็ดตะโรโวยวายราวกับมีสัตว์ประหลาดบุกอาคารเข้ามาพร้อมกันทุกทิศ เสียงหวอไซเรนดังอยู่ไม่ไกล คงมีคนแจ้งตำรวจแล้วเป็นแน่แท้
.
.
ณัฐซึ่งนั่งเฝ้าเต๋ออยู่หน้าห้องฉุกเฉินต้องยังต้องวิ่งไปสำรวจว่าที่ล็อบบี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ และได้เห็นภาพความยุ่งเหยิงดังกล่าว เหมือนมีเหตุจลาจล เหมือนมีผีดิบบุกเข้ามา เหมือนวันสิ้นโลก. . .
.
.
.
"คงไม่ใช่ . . ." ณัฐเหลียวหลังหันกลับไปมองห้องฉุกเฉิน เต๋อน่าจะยังนอนอยู่ในนั้นพร้อมทีมแพทย์พยาบาล. . .แต่ไม่มีเหตุผลที่เต๋อจะต้องอาละวาดทันทีหลังฟื้นไข้ ซ้ำยังจู่โจมไม่เลือกเป้าหมายกับคนในโรงพยาบาล การกระทำไร้แรงจูงใจรองรับไม่น่าจะใช่วิถีในแบบขอ