ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สงครามสวาท ตอนที่ 3 เครดิตคุณ เดินไม่ทันคุณซุ่ม

เริ่มโดย zaaaar65, พฤศจิกายน 03, 2015, 05:05:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

zaaaar65

 หลังจากได้เผด็จสวาทนิภาผู้เป็นพี่เมียไปแล้วอย่างอิ่มหนำสำราญถึงสามเกมรวดในวันที่ นงลักษณ์ได้ไปเยี่ยมญาติ และค้างอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ปรีชาก็พยายามวางแผนที่จะเผด็จสวาทนงนุชผู้เป็นน้องเมียต่อไป เพราะอย่างไรเขาก็เชื่อว่า นงนุชจะต้องมีของดีที่เหนือกว่านิภาแน่นอนเพราะนงนุชเพิ่งจะมีอายุได้เพียง 16-17  เรียกว่ากำลังอยู่ในวัยรุ่นสาวหรือสาวขบเผาะนั่นเอง เมื่อนึกถึงคุณค่าและและความดีเด่นของผู้เป็นน้องเมียเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ปรีชาเพิ่มค วามทะยานอยากมากขึ้น  มีความมานะพยายามที่ไหน ช่องทางแห่งความสำเร็จก็มีอยู่ที่นั่น คติอันนี้ยังคงเป็นความจริงและใช้ได้ผลตลอดมา ในที่สุดจากความพยายามของปรีชานี้เองโอกาสก็เปิดให้เขาในคืนวันเสาร์  ปลายสัปดาห์นั้น นิภา นงลักษณ์และมารดาของหล่อนได้เดินทางไปยังจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องในงานวันเกิดของเพื่อนชายคนหนึ่งของญาติฝ่ายสระบุรีซึ่งได้เชื้อเชิญมา และให้เกียรติประดุจเป็นเจ้าภาพร่วมของงาน ซึ่งทางฝ่ายมารดาหวังจะให้เกิดการดูตัวนิภาจากชายผู้นี้ เผื่อจะให้หล่อนแต่งงานใหม่ นงนุชไม่ได้ไปร่วมงานด้วยเพราะว่าเป็นเด็กอยู่ ไม่เหมาะแก่การเช่นนี้ และใจจริงทั้งพี่สาวและมารดาก็ไม่อยากให้ไป ด้วยเกรงว่าจะเกิดการชอบผิดตัว จึงอยู่โยงเฝ้าบ้านและดูแลสำรับกับข้าวให้ปรีชาผู้เป็นพี่เขยตามลำพัง  ปรีชาก็เหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไปคือเบื่อที่จะกินน้ำพริกอยู่ถ้วยเดียวอย่างจำเจ เขาอยากจะลองเปลี่ยนไปกินน้ำพริกถ้วยต่อ ๆ ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  นงนุชผู้เป็นน้องเมียคนนี้ คือน้ำพริกอีกถ้วยหนึ่งที่ปรีชาหมายปองไว้เงียบ ๆ นานแล้ว โดยนิภาและนงลักษณ์เองก็หาทราบระแคะระคายไม่  เหตุเพราะปรีชาฉลาดพอที่จะเดินแต้มคูในเรื่องนี้เมื่ออยู่ลับหลังนิภาและนงลักษณ์ เขาลักลอบแสดงความใจป้ำและโอบอ้อมอารีแก่น้องเมียผู้นี้อย่างเกินขอบเขตไปต่างต่างนา นา อาทิ เช่น ถนิมสร้อยของประดับตนแวววับ ให้ยืมเงินซื้อเครื่องจานเสียง ฯลฯ เขาถือว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นจะต้องเสียสละ  ความเอื้อเฟื้อโอบอ้อมอารีของปรีชาในเรื่องเงินทองนอกเหนือไปจากอาหารการกินปกติธรรม ดานี้ ทำให้นงนุชเองก็เพิ่มความเลื่อมใสใคร่หวามในตัวพี่เขยของหล่อนอยู่ไม่น้อย  เมื่อเห็นท่าทีของพี่เขยมาทำกรุ้มกริ่มเจ้าชู้กับหล่อน หล่อนก็อดจะเล่นหูเล่นตากับเขาไม่ได้เหมือนกันเพราะนงนุชก็คือเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ที่มีความหื่นกระหายในรูปรส กลิ่น เสียงและการสัมผัสเช่นเดียวกับเด็กสาวทั่ว ๆ ไป  โดยเฉพาะผัวของพี่สาวอันเป็นสิ่งหวงห้าม ก็ยิ่งเป็นสิ่งยั่วยุอารมณ์ของหล่อนให้อยากจะทดลองมากขึ้น เมื่อขิงก็รา ข่าก็แรงและต่างฝ่ายต่างก็คอยจ้องหาโอกาสอยู่แล้วทั้งสองคน  ดังนั้น ในคืนวันเสาร์นั้นเองที่พี่สาวทั้งสองและมารดาไปงานวันเกิดในต่างจังหวัดดังกล่าว  ก็เท่ากับประตูสวรรค์ได้เปิดรับปรีชาและนงนุชนั่นเอง  ประตูสวรรค์ซึ่งคนทั้งสองได้ใช้เวลารอคอย ด้วยความอึดอัดกระวนกระวายใจเป็นเวลาช้านานพอ ๆ กัน  พอยามพลบค่ำ ภายหลังอาหารเย็นซึ่งปรีชาได้ปรุงแกงเผ็ดใส่เหล้าป่าและกัญชาอย่างรุนแรง  ให้นงนุชกินอย่างถูกปากผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย  พักให้ข้าวเรียงเม็ดดี ปรีชาก็ย่องกริบตรงไปยังห้องน้องเมียทันที ขณะเดียวกันนี้  นงนุชกำลังจัดปูที่นอนของหล่อนอยู่อย่างประณีตบรรจงภายในห้อง ก่อนจะไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน หล่อนฮัมเพลงแทงโก้อยู่ในลำคอด้วยความเคลิบเคลิ้มเป็นสุขใจคลอกับจานเสียงที่บรรเลงอ ยู่ แน่ชัดว่า หล่อนเองก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า ในคืนนี้น่าจะมีเหตุการณ์สวาทเกิดขึ้นกับหล่อนบ้าง ยิ่งคิดก็ยิ่งครึ้มอกใจครึ้มใจด้วยฤทธิ์เหล้าป่าและกัญชา มันไปขยายความใคร่จนรูโยนีเต้นกระดุบๆ และก็เป็นความจริงตามที่หล่อนได้คาดคิดไว้ทุกประการ  พอเสียงเพลงแทงโก้ขาดหายไป เสียงกระแอมเบา ๆ ก็ดังขึ้นข้างหลังหล่อน หล่อนรีบหันไปดูโดยเร็ว พอมองเห็นว่าเป็นใคร หัวใจของหล่อนก็เต้นระทึกขึ้นมาทันที  นงนุชฝืนยิ้มและถามเขาด้วยเสียงสั่น ๆ  "พี่ปรีชามีอะไรจะใช้หนูหรือคะ ให้หนูอาบน้ำก่อนนะคะ" "เปล่าจ๊ะ นงนุช ไม่มีอะไรจะใช้หรอก พี่เอาขนมวุ้นมาชวนกินน่ะ ตะกี้นี้พี่ลืมว่ามันอยู่ในถังน้ำแข็ง" ปรีชาบอกและสบสายตากับน้องเมียอย่างมีความหมายพลางเดินไปทรุดกายลงย่อตัวคุกเข่าที่ข ้างตัวเธอ  เด็กสาวรีบถอยห่างจากเขาไปอย่างรู้เชิง ขณะนี้หัวใจหล่อนเต้นแรงจนแทบจะได้ยินออกมาภายนอก เพราะฤทธิ์เหล้าป่ากระตุ้นราคะ หยิบวุ้นก้อนเล็กมากินแก้ขวยเขินตามมารยาท "นุชจ๊ะ.." ปรีชาเอ่ยขึ้นอีกด้วยเสียงแผ่วถี่สั่นพร่า "คืนนี้นงลักษณ์ไปงานวันเกิดเพื่อนกว่าจะกลับมาคงจะอีกสองวัน"  "ค่ะ พี่นงเขาบอกหนูแล้ว" หล่อนคล้อยตามคำพูดของเขา "นุชจ๊ะ.." ปรีชาเอ่ยขึ้นอีก พลางถอนหายใจ "มีอะไรหรือคะ"  "พี่อยากจะถามอะไรนุชสักอย่างซึ่งเป็นความลับคับอกที่ตัวพี่เองก็ตอบไม่ได้ พี่คิดว่าบางทีนุชอาจจะตอบปัญหานี้ได้"  "ปัญหาอะไรคะ" หล่อนถามด้วยใบหน้ายิ้มพราย  "คือยังงี้จ๊ะ..นุช..คือว่า..ง่า..มีผู้ชายอยู่คนหนึ่งเขาเกิดไปรักชอบผู้หญิงคน หนึ่ง แต่ว่าผู้ชายคนนั้นเขามีเมียแล้ว  เขาอยากจะสารภาพให้ผู้หญิงที่เขาชอบรู้ แต่ก็ไม่กล้าเพราะเกรงว่าผู้หญิงที่เขาชอบจะรังเกียจว่าเป็นคนมีเมียแล้ว นี่แหละเป็นปัญหาคับอกที่พี่อยากจะถามนุช อยากจะถามว่า  ถ้าผู้ชายคนนั้นเขาสารภาพรักให้ผู้หญิงที่เขาชอบรู้ว่าเขามีเมียแล้ว ผู้หญิงคนนั้นจะรังเกียจเขาไหม"  นงนุชนิ่งเงียบ ก้มหน้าอันแดงเรื่อลงสู่พื้น มือของหล่อนแคะเล็บไปมา  หล่อนไม่ยอมตอบคำถามของพี่เขยเพราะรู้ดีว่าคำพูดในทำนองนี้ของเขา หมายถึงใครกับใคร อาการนิ่งเฉยอย่างกระมิดกระเมี้ยนของเด็กสาวนี้เองทำให้ปรีชาวางจานขนม  แล้วรีบเคลื่อนยกตัวเข้าไปยืนประชิดตัวหล่อนทันที หล่อนรู้สึดซาบซ่านจนเริ่มคันคะเยอในรูโยนี เขากระซิบกระซาบเสียงแผ่ว ๆ "ทำไมไม่ตอบพี่ล่ะจ๊ะ..นุช ตอบซิว่าผู้หญิงเขาจะรังเกียจไหม" "ไม่ทราบนี่คะ"  เด็กสาวอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง "อะไรไม่ทราบ..ต้องทราบซี" ปรีชาตะล่อม มือของเขาเอื้อมไปจับมือหล่อนมากุม นงนุชยอมให้เขาจับโดยไม่ขัดขืน ทรวงอกของหล่อนสะท้อนสะท้านลมหายใจรวยรินอย่างเหนื่อยอ่อน  อากับกิริยาเช่นนี้ ปรีชาหรือจะโง่จนไม่รู้ว่าหล่อนกำลังมีความรู้สึกอย่างไร เขารีบกระเถิบตัวเข้าไปประชิด  และกระซิบกระซาบขึ้นว่า "ถ้ารักแล้วก็ไม่รังเกียจใช่ไหมจ๊ะ..นุช" หล่อนอึดอัด ทรวงอกทรวงอกสะท้อนสะท้านยิ่ง  เห็นแก้มทั้งสองข้างแดงปลั่ง "ไม่รังเกียจใช่ไหม..นุช"  ผู้เป็นพี่เขยเร่งเร้าพลางกระเถิบกายแนบชิดเข้าไปยิ่งขึ้น "ค่ะ" เด็กสาวหลุดออกมาด้วยเสียงเบา "ชื่นใจ พี่"  ปรีชาครางด้วยความกำหนัดยินดี รัดรวบร่างเด็กสาวเข้ามาไว้ในวงแขนพร้อมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันที "อุ๊ย..อย่าค่ะ..พี่ปรีชา..อย่า"  ระล่ำระลักออกมาได้เพียงเท่านั้นเสียงของนงนุชก็ต้องขาดหายไปเพราะริมฝีปากของหญิงสา วถูกประกบแน่น ด้วยริมฝีปากอันร้อนผ่าวของปรีชา เขาจูบอย่างตะกรุมตะกรามดุเดือดด้วยความรู้สึกอันเร่าร้อนในไฟโลกีย์ ร่างของนงนุชอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดของพี่เขย ดวงตาหรี่ปรือ  ลมหายใจรวยรินอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะนงนุชยังไม่เคยถูกเพศตรงข้ามสัมผัสและกอดจูบมาก่ อน อีกทั้งฤทธิ์เหล้าป่าและกัญชาช่วยขยายกระพือไฟราคะ จะเผยอปากห้ามปรามเขาก็ไม่สามารถจะกระทำได้เพราะปากของเขาประกบปากของหล่อนไว้แน่น และบดขยี้อย่างรุนแรงเร่าร้อนตลอดเวลา  มิใช่เพียงเท่านี้ ความรู้สึกของนงนุชยิ่งวาบหวาบโลดแล่นกระเจิดกระเจิงมากขึ้นไปอีก เป็นทวีคูณเมื่อปรากฎว่าขณะนี้มืออันซุกซนของปรีชากำลังเลื่อนเลิกเข้ามาในร่มเสื้อ เสื้อคลุมก่อนอาบน้ำ "อุ๊ย..พี่ปรีชา..อย่า" เปล่าเลย เสียงร้องของนงนุชไม่มีประโยชน์พอที่จะช่วยตัวของหล่อนได้เลยเพราะบัดนี้  มือของปรีชาตะปบลงบนเต้าอันเต่งตึงพุ่งแหลมเป็นกระเปาะ และคลึงเคล้นไปมาอย่างย่ามใจทั้งเต้าขวาและเต้าซ้าย  เด็กสาวมีอาการสยิวขึ้นสุดตัว ส่วนปากก็ครวญครางออกมาอย่างแทบจะไม่รู้สึกตัว "อูย..อย่า..ค่ะ..พี่ปรีชา..อุ๊ย..ซี๊ด" ฉับพลันที่สิ้นเสียงร้องอย่างลืมตัวของนงนุช เสื้อคลุมของหล่อนก็ถูกคลี่ออกโดยเร็ว  พรืดเดียวร่างงามสมวัยแรกสาวก็เปิดออกสู่สายตาของพี่เขยผู้หื่นกระหาย  หล่อนร้องว๊ายออกมาด้วยความอายและตกใจระคนกันรีบเอามือปิดกุมที่ระหว่างขาทันที แต่ปิดอยู่ได้เพียงอึดใจเดียวมือของหล่อนก็ถูกง้างออกด้วยความหื่นกระหายในกามราคะขอ งผู้เป็นพี่เขย เพราะเหตุที่นงนุชไม่ได้นุ่งกางเกงในด้วยกำลังจะไปอาบน้ำ เมื่อมือถูกง้างออก ของดีของหล่อนก็ปรากฎออกมาล่อตาพี่เขย  ดวงตาของปรีชาลุกวาวขึ้นมาทันทีเมื่อมองเห็นโคกโยนีอันขาวกระเปาะมีขนอุยหรอมแหรม เพราะความเป็นเด็กสาวในวัยรุ่นและยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่  ดวงตาของปรีชาเพิ่มอาการแวววาวยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจความเย้ายวนยั่วกระสันต์ของโคกโ ยนีอลึ่งฉึ่ง ที่กำลังกระดุบยุบยับล่อหน้าล่อตาอยู่ในขณะนี้  ในที่สุดเขาก็หมดความเข้มแข็งที่จะจ้องมองต่อไป เขารีบแขม่วท้องโดยเร็ว เพียงเบา ๆ เท่านั้นกางเกงแพรที่เขาขมวดไว้หลวม ๆ ก็หลุดพรืด  เขาเขี่ยมันกระเด็นไปทางปลายเท้าอย่างรวดเร็ว ฉับพลันทันใดเหมือนคนตายอดตายอยากมาเป็นเวลานาน  พี่เขยทรยศ รีบเบียดร่างเข้าไปในหว่างขาขาวของน้องเมียทันที ท่อนลึงค์อันแข็งโด่หัวบานใหญ่ของเขากระดกหงึก ๆ ด้วยความกำหนัดอันแรงกล้า  รีบจับขาอวบอัดทั้งสองข้างของเด็กสาวแยกออกจากกันจนแคมโยนีเผยออ้าแดงแจ๋มองเห็นติ่ง เด่แพลมโผล่ ออกมาอย่างยั่วตายั่วใจ สุดที่ปรีชาจะทนมองต่อไปได้ บ้วนน้ำลายคลายวุ้นในปากของตนมาขยำชโลมกลีบแคม จนชุ่มโชกดูลื่นพอควร แล้วรีบจับลำลึงค์จ่อปากรูอย่างตะกรุมตะกราม  พอได้ระดับตรงโดยไม่ผิดพลาดก็ออกแรงทิ่มหัวกระจังพรวดเข้าไปในช่องสังวาสบริสุทธิ์โด ยความกำหนัดอันท่วมท้น  ความใหญ่ของหัวหอกเบียดแคมปริแยกออกจนเนื้อแคมที่ตึงเต่งย่นยู่ตึงเปรี๊ยะแทบจะฉีก ความเจ็บปวดและแสบแคบของโยนีที่ไม่เคยถูกท่อนลึงค์ของเพศตรงข้ามชำแรกมาก่อนทำให้นงน ุชสะดุ้งสุดตัว สูดปากร้องครวญคราง  "อูย..เจ็บ ..พี่ปรีชา..อย่าค่ะ..พี่ปรีชาจะทำอะไรหนูหรือคะพี่..อูยยย...ซี๊ด..เจ็บจัง"  ร้องพลางก็กระเถิบตัวเลื่อนหนีสูงขึ้นไป  ทว่าปรีชากระเถิบทาบตามติดอย่างไม่ลดละ  เขาโน้มหน้าลงไปจูบปากเด็กสาวอีกครั้งหนึ่งก่อนจะพูดว่า "พี่รักนุชจ๊ะ..พี่จะส่งความสุขให้นุช นุชทนสักครู่นะ เดี๋ยวเราก็จะมีความสุขร่วมกัน"  เขาพูดแล้วก็เริ่มโยงโย่โยงหยกคุกเข่าตั้งท่าใหม่ให้มั่นคง  ยกตัวให้นงนุชเปลี่ยนมานอนตามยาวของเตียงและให้ขาทั้งสองข้างยกเขย่งอยู่  พร้อมๆกับการสอดหมอนเข้าไปใต้สะโพกของหล่อนอย่างรวดเร็ว ปรีชาคุกเข่านั่งส้น จับขาข้างหนึ่งเด็กสาวมาเข้ารักแร้ของตนเอง หนีบจับไว้มั่นคง และให้ขาเรียวงามอีกข้างแหกกว้างออกไปอีกจนแคมโยนีอ้าผงาบอย่างเต็มที่ แล้วจึงเริ่มจ่อดันลึงค์เข้าไปที่ปากช่องสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง พอได้ระดับในครั้งนี้เขาก็เริ่มดันให้ท่อนลึงค์ คากลีบเนื้อน้อย หวังใจจะชำแรกเยื่อบุกั้นชั้นนอกผ่านเข้าไปชั้นใน  มือของเขาก็ไม่หยุดยั้งต่อการไปบีบและเคล้นคลึงเต้าอันเพิ่งตั้งเต้า ทั้งสองเต้าสลับไปมา ตาชำเลืองดูใบหน้าอิ่มของเด็กสาวที่ขณะนี้กำลังขมวดคิ้วย่นด้วยความแสบปนเสียวที่ปาก แคม ทรวงอกสะท้อนสะท้านทั้งเจ็บปวดและเสียวซ่านระคนกัน ปากอิ่มยุ้ยแดงสดและเปียกชื้นกำลังเผยอ เพื่อจะเปล่งเสียงครางออกมา ปรีชามองเห็นเช่นนั้นอดใจอยู่ไม่ได้ก็บดขยี้ปากลงบนกลีบปากของหล่อนอีกครั้ง ปากประกบปาก มือก็คลึงเคล้นหัวนมยิบๆ ส่วนก้นก็ขยับไปขยับมาอยู่ไม่ขาดระยะ เด็กสาวถูกโจมตีอย่างดุเดือดทุก ๆ จุดและทุกทางเช่นนี้ ไฟราคะก็ค่อย ๆ ร้อนระอุขึ้นมาทีละน้อย ทีละน้อย "อูย..พี่ปรีชาขา..อย่าแรงค่ะ..หนูเจ็บ..อูยยย...ซี๊ด..เบา ๆ หน่อยค่ะ..อูย" เด็กสาวครวญครางเสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ เพราะเหตุที่ปากของเขายังบดขยี้ปากนงนุชไว้แนบสนิท เมื่อเด็กสาวเผยอปากครวญครางออกมา  เขาก็ถือโอกาสตอนนี้ทะลวงลิ้นเข้าไปในปากดุนดันกับลิ้นของนงนุชทำให้ร่างของเด็กสาวส ะท้านเฮือก พร้อมกับแอ่นกระดองโยนีลอยขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกตัว มันทำให้ลึงค์ซึ่งฝังคาอยู่ในรูซอกซอนล้ำลึกเข้าไปอีก พร้อม ๆ กันเจ้าของลึงค์ก็กระแทกท่อนเอ็นไปอย่างหนักหน่วง  รูซึ่งปริ่มเยิ้มไปด้วยน้ำคาวเมือกวุ้นน้ำลายเขมือบทั้งหัวและลำตัวเข้าไปอย่างเต็มป ากเต็มคำ ความใหญ่ของท่อนลึงค์ทำให้แคมแบะปลิ้นผงาบอย่างน่าสยดสยอง  และจากการกระแทกอย่างบ้าระห่ำของปรีชาในครั้งนี้เอง ทำให้เด็กสาวต้องหวีดผวาขึ้นสุดตัว "โอ๊ย...พี่ปรีชาขา..เจ็บ..ทนไม่ไหวแล้ว" นงนุชร่ำร้องขอความเมตตา แต่ปรีชายังกดคาลึงค์จมมิดแนบสนิทโดยไม่ยอมถอน  เขารู้ดีว่าขณะนี้เยื่อพรหมจารีของเด็กสาวได้ขาดสะบั้นลงแล้วอย่างไม่มีชิ้นดี  ถ้าหากจะโหมตะบึงตะบันหรือดันมันเข้าไปอีกก็จะสร้างความปวดระบมให้แก่เด็กสาวมากขึ้น เป็นทวีคูณ ด้วยเหตุนี้เขาจึงฉลาดพอที่จะกดลึงค์แช่ไว้เฉย ๆ เริ่มทำการเล้าโลมด้วยการจูบปากกอดตัว และเคล้นคลำเต้านมทั้งสองของหล่อนเป็นการปลุกกระสันต์ของเด็กสาวให้โชติช่วงขึ้นทีละ น้อย ทีละน้อย และก็ดูเหมือนจะได้ผลสมความตั้งใจของเขา เพราะในเวลาไม่ช้าไม่นานนัก  นงนุชเริ่มยักย้ายส่ายสะโพกและแอ่นโคกของหล่อนให้ลอยขึ้นมาเบียดบดกับเนื้อท้องของเข าอย่างลืมตนอีกครั้ง เมื่อเป็นเช่นนี้ไฉนเลยปรีชาจะไม่รู้เท่าทัน เขาบดตัวโต้กลับอยู่พักหนึ่ง  เริ่มถอนลึงค์ออกมาอย่างเนิบนาบด้วยอาการเชื่องช้า  ชักออกมายาวจนมันเกือบจะหลุดพ้นปากแคมแดงอยู่แล้วเขาก็กดมันเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้มันเข้าไปจนมิดสนิทติดอยู่เพียงแค่โคนลึงค์ นงนุชผวาร่างสั่นสยิวขึ้นมาทั้งตัว  "อูย..พี่ปรีชาขา..หนูทนไม่ไหวค่ะ..มันแสบและเสียวเหลือเกิน...อูย..ซี๊ด" เสียงของนงนุชสั่นกระเส่าพร้อมกับสูดปากออกมาดัง ๆ แอ่นสะโพกขึ้นมาอย่างลืมตัวอีกครั้ง  โยนีเริ่มขมิบดูดตอดรัดกระชับลึงค์ไว้เสียจนแน่นเปรี๊ยะ แน่ละ หล่อนรู้เห็นกระสันต์สุขแล้ว เขาทิ้งตัว บดเอว แยงลึงค์ควานไปมาจนทั่วรูสวาทของเด็กสาวจนโพรงโยนีร้อนผะผ่าว  และพร้อมกันก็ขมิบปล่อยน้ำเมือกให้ไหลรินมา ปากก็ครวญครางสูดซี๊ดอยู่ตลอดเวลา บัดนี้ ความเจ็บความแสบโยนีของนงนุชก็ได้อันตรธานหายไปสิ้นแล้ว  คงมีแต่ความเสียวซ่านดวงใจในรสสังวาสอย่างสุดที่จะกล่าวได้  ปรีชาเองก็ต้องกัดฟันกรอด เขาทั้งเสียว ทั้งเงี่ยน ทั้งคับ จนสุดจะทนทานได้จึงกระชากลำลึงค์ออกจากโคกโยนี พอจะพ้นจากกาบแคมนางน้อยอันแดงเรื่อก็กดกลับเข้าไปอย่างเนิบนาบจนลำลึงค์เข้ามิดสนิท ติดโคนหนอกดังเดิม นงนุชผวาสุดตัว หล่อนรีบตวัดแขนขึ้นไปคล้องคอเขา ขาทั้งสองก็เกี่ยวตะหวัดรัดไปรอบเอวของพี่เขยใจชั่วแน่น  ปรีชาเพิ่มอาการซอยกระเด้าอีกเล็กน้อย เพราะเขากลัวโยนีใหม่ๆของนงนุชจะพินาศด้วยน้ำมือของเขา เพื่อให้ถึงสุดยอดแห่งความสุข เขาก็เกร็งตัวยกตูดขึ้นปานกลางและกระเด้าลงไปทั้ง ๆ  ที่น้องเมียยังกอดเขาและขาก็ยังเกี่ยวตะหวัดรัดอยู่ เขาโยกท่อนเนื้อเข้าออกเรื่อยๆราวกับลูกสูบเครื่องยนต์เรือแต๊กท่าช้าง ขึ้นช้าลงช้า ทว่ามิดแล้วมิดอีก  ในที่สุด อวสานแห่งการสังวาสในเกมแรกของคนทั้งสองก็มาถึง เมื่อปรีชาผงกหัวหอกให้สูงขึ้นจนแทบหลุดลำก่อนทิ่มทะลวงเข้าไปเป็นครั้งสุดท้ายจนหมด มิดถึงโคน  หนอกต่อหนอกประกบกันแนบสนิท  น้ำกามที่อัดแน่นอยู่ในกระบอกลึงค์มาเป็นเวลานานก็พุ่งกระฉูดเข้าหามดลูกของเด็กสาว ราวกับน้ำจากหัวสูบดับเพลิง  นงนุชสั่นสะท้านไปหมดสรรพางค์กาย หล่อนสูดปากซี๊ดซ๊าดและครวญครางออกมาอย่างหมดอาย  "อูย..พี่ปรีชา..เสียวจังเลยค่ะ..ซี๊ด" สิ้นเสียงร้อง ร่างกายของนงนุชก็มีอาการเกร็งและสั่นกระตุก ขมิบโยนีหลั่งน้ำเงี่ยนให้แตกซ่าออกมาราดหัวถอกของเขาจนชุ่มโชกเนืองนองไปถึงที่นอน  ทั้งสองต่างกอดจูบเกี่ยวกระหวัดรัดกันแนบแน่น ปล่อยให้น้ำคาวกามหลั่งไหลออกมาอย่างหมดไส้หมดพุง เปล่าหรอก มันมิใช่แต่เพียงครั้งเดียวแล้วเลิกลากันไปก็หาไม่ เพียงครู่ใหญ่ ๆ ที่น้ำเมือกในครั้งแรกของปรีชาได้หลั่งไหลออกไปจนหยาดสุดท้ายแล้ว  เขาก็ชักลึงค์ออกจากรูของเด็กสาว พอหลุดพ้นปากรู น้ำรักน้ำใคร่ที่ขังอยู่ในรูก็ทะลักตามออกมาอีกมากมาย นงนุชผงกหัวขึ้นมองดูอากัปกิริยาและความเคลื่อนไหวของพี่เขย  ครั้นแล้วดวงตาทั้งสองของเด็กสาวก็ต้องเบิกกว้างอย่างตลึงพรึงเพริดเมื่อสายตาได้ประ สบกับองคชาติของพี่เขย เข้าอย่างเต็มตา เป็นครั้งแรกในชีวิตของนงนุชที่ได้เห็นดุ้นนี้ของเพศตรงข้ามในระยะประชิด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้แก่เด็กสาวสักเพียงใด  องคชาติของปรีชาเปียกมะล่อกมะแล่กไปด้วยน้ำเมือก หัวอันบานใหญ่ราวกับดอกเห็ดเป็นมันแผลบและขณะนี้มันยังลุกโด่แข็งปั๋งอย่างไม่ยอมอ่อ นเหี่ยวลงไปเลย  โคนลึงค์ยุบยับไปด้วยเส้นขนเพชรและอัณฑะใหญ่สองใบที่แกว่งไกวอย่างน่าเกรงขาม "อุ๊ย ตายแล้ว" นงนุชได้อุทานในลำคอด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของหล่อนเบิกกว้างขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อหล่อนได้เห็นของลับของเขาถนัดตา มันเป็นท่อนลึงค์ที่หยาบกร้านและอวบอ้วนกว่าของครูชาญสามีของยุพินที่หล่อนเคยเห็นเก ือบเท่าหนึ่ง  ส่วนหัวซึ่งเกลี้ยงปราศจากหนังหุ้มบานใหญ่ราวกับสากตำข้าว มันกำลังผงกอยู่หงึก ๆ อย่างน่าพรั่นใจ  "ไปอาบน้ำกันเถอะ นงนุชยอดรัก ตามที่เธอบอกพี่ไว้เมื่อกี้" นงนุชไม่ตอบคำ ก้มหน้างุดเอียงอาย เนื่องว่าทั้งหล่อนและเขาต่างก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อนปราศจากอาภรณ์ปิดบังด้วยกันทั้งส องคน เหมือนจะทนรอคอยเวลาอันทรมานจิตใจต่อไปไม่ไหว ปรีชารีบอุ้มร่างเปลือยของนงนุชมาที่ห้องอาบน้ำ สมัยนั้นบ้านทรงปั้นหยามักแยกห้องอาบน้ำกับห้องส้วมออกต่างหาก  เพื่อสะดวกในเรื่องสูบส้วมนำมูตรคูตไปขายรดผักทำปุ๋ย ห้องอาบน้ำในบ้านนี้โอ่โถงสบาย มีโอ่งสามใบ ปรีชาละเลงเงินซ่อมแซม ตั้งแต่ทาสีน้ำมันให้ฝาไม้ปะกน ลงชันยาพื้นไม้ยาง เขาหวังใจจะใช้เป็นที่เสพสังวาสกับนงลักษณ์ ผู้เป็นภรรยา  ทว่าเจ้าหล่อนกับไม่เคยยอมเขา เพราะหล่อนเคยถูกฝืนใจเอาในห้องอาบน้ำนี้ จากสามีของนิภา  ครั้งเมื่อมันยังทรุดโทรม คราบขี้ดินขี้ไม้ที่เปื้อนตัวทำให้หล่อนรังเกียจนัก  บัดนี้วงเวียนสวาทได้หมุนมาบรรจบอีกรอบ ขอเชิญติดตาม ปรีชาอุ้มนงนุช ช้อนสะโพกของหล่อนวางไว้บนบ่าของโอ่ง ให้นั่งยองๆเอนตัว มือค้ำตัวพิงโอ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็จับเข่าของหล่อนแบะถ่างออกจากกัน  บัดนั้นเอง..สายตาของผู้เป็นพี่เขยก็แวววาวขึ้นทันที เมื่อได้เห็นโคกโยนีของน้องเมียอย่างแจ่มแจ้ง โคกโยนีอันพิลาศพิไลขาวผ่องโหนกนูนราวกับหลังเต่า ขณะนี้แคมแดงกำลังเผยออ้าออกจากกันเล็กน้อย มองเห็นติ่งเด่ปากรู และเนื้อนางภายในรู  กำลังกระดุบกระดิบอย่างมีชีวิตชีวา  เหนือโคกปกคลุมด้วยเส้นขนธรรมชาติสีดำสนิทเป็นกระจุกพองาม ปรีชาเอื้อมมือไปฟอกสบู่จนได้ฟองลื่น จึงนำหวอดฟองมาลูบคลำโคกโยนีและคว้านแคมโยนีเล่นด้วยความเสน่หาอยู่ชั่วครู่ นงนุชก็จับไหล่ของเขาบีบเพราะทนไม่ไหว ปรีชายิ้มแสยะ ประชิดกายยืนย่อเข่าเข้าไปในหว่างขาหล่อน มือซ้ายเอื้อมไปแหวกกลีบโยนีให้อ้ากว้างออก ส่วยมือข้างขวาก็หันมาคว้าจับเอาลึงค์ของตน ฟอกสบู่รูดลำจนลื่น ก่อนยัดปลายบานเข้าไปในรูโยนี พอหน้าประธานเข้าไปซบหัวอยู่ตรงปากช่อง เขาก็ดันพรืดเข้าไปทันทีเกินครึ่งลำด้วยช่องทางนั้นลื่นนัก ความใหญ่ของปลายบานดันกลีบเนื้อนางน้อยที่เพิ่งปริอ้าออกด้วยแรงสังวาสในยกก่อนให้เม ้มตัวม้วนปีก และติ่งแตดให้หลุบรู่ตามหัวกระจังเข้าไปข้างใน  เด็กสาวก็เริ่มสยิวร่างขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อท่อนลึงค์อันใหญ่อ้วนของพี่เขยกำลัง เข้าไปควานหัวชอนไชซอกซอน มดลูก และเบื้องบนมืออันสากหนาของเขาก้กำลังเคล้นเคล้าเต้าถันและบี้หัวนมทั้งสองข้างของหล ่อนอย่างรุนแรง  "อุ๊ย...พี่ปรีชา..ซี๊ด.." นงนุชได้ระงมเสียงร้องดังขึ้นมาอีกด้วยความเสียวสยอง  หล่อนได้บิดกายเร่า ๆ และส่ายสะโพกร่อนขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกตัว  การที่ได้แสดงออกมาอย่างเป็นใจของหล่อนเช่นนี้ ทำให้ชายหนุ่มเพิ่มความเมามันและย่ามใจยิ่งขึ้น  เขาลากลูกสูบชักลึงค์อันอ้วนต้อเข้า ๆ ออก ๆ ให้มันเสียดสีถูไถข้างผนังช่องสังวาสอย่างเร่งลื่นรวดเร็วขึ้น  ฝั่งซ้ายบ้างฝั่งขวาบ้างท่ามกลางเสียงสูดซี๊ดปากของนงนุช ส่วนมือสองก็เคล้นคลำขยำเต้านมอันตูมเต่งชูชันอย่างหนักหน่วง "เป็นยังไงบ้างจ๊ะ..น้องนุช" เขากระซิบกระซาบถามหล่อนเบา ๆ "หนูเสียวเหลือเกินค่ะพี่...ซี๊ด"  หล่อนสารภาพกับเขาตามตรงและก็สูดปากออกมาเสียงดัง  "ถ้าเสียว..พี่จะกระเด้าให้มันแรงกว่านี้อีกหน่อยนะจ๊ะ"  "ค่ะ..อูย...ซี๊ด" พอสิ้นเสียงรับคำและสูดปากของหล่อน เขาก็เร่งสตีมซอยเอวกระเด้าถี่ยิบและหนักหน่วงยิ่งขึ้น จนมองเห็นกลีบเนื้อนางทั้งสองฝั่งคลองสวาทปลิ้นเข้าปลิ้นออกอย่างน่าสยดสยอง  ทว่าม มันกลับเป็นความหฤหรรย์ของคู่สังวาส "อูย..พี่ปรีชาขา..นุชทนไม่ไหวแล้วค่ะ..อูย..ซี๊ด" "น้องงนุชรู้สึกเสียวมากหรือจ๊ะ" "ค่ะ..อูย..ซี๊ด" เด็กสาวรับคำแล้วก็ได้แอ่นโยนีมารับการกระเด้าของพี่เขยอย่างรวดเร็ว ปรีชาเร่งก้นกระเด้ายิก ๆ หนักหน่วงถี่ยิบและรุนแรงยิ่งขึ้น ราวกับเป็นการชดใช้ความอยากในยกก่อน "น้องนุชจ๋า...น้องนุช..เกือบจะได้ที่หรือยังจ๊ะ"  เขาถามนงนุชอย่างละล่ำละลัก "ค่ะ..พี่..กำลังจะสุด.....ปลายฟ้าแล้วค่ะ"  หล่อนก็ตอบเสียงขาดกระท่อนกระแท่น รูโยนีขมิบตอดและดูดลึงค์ของเขาโดยแรง  ทำให้ผู้เป็นพี่เขยรู้สึกเสียวแปลบเสียวปลาบที่ปลายเงี่ยงสุดแสน ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ปรีชารีบกระชากท่อนลึงค์ออกมายาวเฟื้อยจนเกือบจะหลุดพ้นกระดองโยนีอยู่รอมร่ออยู่แล้ ว  เขาก็ได้กลับตะบันท่อนลึงค์เข้าไปอย่างรวดเร็ว พรวดเดียวเท่านั้นก็มิดสนิทติดอยู่เพียงแค่โคนลึงค์และลูกอัณฑะ สองใบก็ฟาดกับแคมใหญ่เสียงดังแปะ  ร่างของคนทั้งสองสะดุ้งเฮือกขึ้นพร้อมกัน ต่างก็ผวาเข้ากอดกันกลมจนกระดูกกระเดี้ยวแทบจะหักแหลกไปด้วยกัน  และแล้ว..ในทันใดนั้นน้ำกามซึ่งได้ขังอยู่ในกระบอกลึงค์ของผู้เป็นพี่เขยก็พุ่งกระฉู ดไหลเข้าไป หามดลูกของเด็กสาวเต็มแรง ผู้เป็นน้องเมียก็ผวาอย่างสุดตัวอีกครั้งหนึ่ง โยนีอันใหม่กระชับของหล่อนขมิบดูดลึงค์เสียงดังจ๊วบพร้อม ๆ  กับหลั่งน้ำเสียวให้แตกพลั่กออกมาตอบโต้กับเขาจนล้นปรี่ไหลผ่านกลีบแคมน้อยใหญ่ลงไปท ี่ซอกก้นนองเนือง แต่คนทั้งสองก็หายอมผละออกจากกันง่าย ๆ ยังคงกอดรัดกันไว้กระชับแน่น ลำลึงค์และโยนีก็ยังฝังคาคาบเกี่ยวกันแนบสนิทอยู่เช่นนั้นด้วยความเอร็ดดร่อยและมันจ นสุดจะบรรยายได้ถูก นี่แหละ..เรื่องของลึงค์กับโยนี เรื่องของการสังวาสระหว่างมนุษย์ต่างเพศซึ่งมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง  ทุกซอกทุกมุมของโลก ไม่ว่าชาติใดภาษาใด ไม่เคยมีใครละเว้นได้  มันเป็นอาหารประจำชีวิตที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ทุกคน ภายในโลกนี้ เชิญเสพสังวาสกันเถิดผองเพื่อน -------------------------------------------------