ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ฟัก อยู่แม้น

แค้นวิปริต จิตสั่งกาม (โทรจิตคุง) ตอนที่ 30

เริ่มโดย ฟัก อยู่แม้น, พฤศจิกายน 04, 2015, 12:41:49 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ฟัก อยู่แม้น

[backcolor=#ffffff]อ่อ ขอแสดงความเห็น หลังจากที่ ได้ข้อมูลมานาน ห้าๆๆๆๆ[/backcolor]

[backcolor=#ffffff]เอ่อเท่าที่อ่านมา เหตุและผล ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามจังหวะและครรลองของมัน[/backcolor]


[backcolor=#ffffff]เพราะว่า เต๋อเองก็ไม่ได้ไปจัดการกับใครก่อนแต่สิ่งที่คนเหล่านั้นได้รับ เป็นสิ่งที่แต่ละคนเคยกระทำกับเต๋อมาก่อน action = reaction เพราะว่าบางครั้ง การให้อภัย ไม่สามารถใช้ได้กับจิตใจของมนุษย์บางคนที่เสื่อมทราม เต๋อเองแม้จะเป็นเหมือนคนแปลกแยก แต่เต๋ออาจจะเป็น ยาชั้นดีที่อาจจะทำให้ สังคมในวันข้างหน้าดีขึ้น[/backcolor]

เรื่องต่อไปคือเรื่องของ ณัฐ กับ เอฟ ซึ่ง ส่วนตัว คิดว่า ตัวละครทั้งสอง เป็น
message ที่คนเขียนต้องการสื่อออกมา


ณัฐ เป็นตัวแทน ของเต๋อในวัยเด็ก ที่อย่างน้อยก็สมหวังในเรื่องของความรักเพราะว่า ณัฐเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึง ความเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่งของเต๋อที่ยังมีความ รัก โลภ โกรธ หลง และ อีกนัยหนึ่งคือ ณัฐ เป็นสัญลักษณ์ของความสามารถ หรือ พลังพิเศษของเต๋อ ที่จะสะท้อนว่า ถ้าในช่วงวัยเดียวกันถ้าเต๋อรู้ว่าตัวเองมีพลัง อาจจะทำให้ตัวเองไม่ต้องมาประสบพบเจอกับ เรื่องร้ายๆๆ ในอดีตก็เป็นได้


ส่วนเอฟ เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่คนแต่ง สื่อออกมาว่า ลักษณะหรือ บุคลิกของเอฟ เป็นภาพเงาของ ไม้ หรือคนที่เป็นรักแรกของเต๋อ ซึ่งการกระทำของ เอฟ ดูจะมีความชัดเจนมากกว่าการกระทำของไม้ที่ในช่วงเวลาเดียวกัน เอฟ รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร และซื่อตรงกับใจของตัวเอง แต่ ผลที่ได้รับ เป็นเหมือน cross same point เหมือนกับเต๋อ ที่ ทั้งเต๋อ และ เอฟ ต่างไม่ประสบความสมหวังกับ ความรักของตนเอง ยิ่งเต๋ออยู่ใกล้กับ เอฟมากเท่าไร ความรู้สึกของเต๋อ มีที่ต่อ ไม้ก็จะเริ่มก่อตัวเพิ่มมากขึ้น
พอถึงตอนนี้ เริ่มคิดได้อย่างหนึ่งว่าเต๋อจะมีพฤติกรรม ที่รุณแรงมากขึ้นเรื่อยๆๆๆๆ จนอาจจะร่วมมือ กับธนิกได้และ เรื่องอาจจะดำเนินไปจนอาจจะถึงขึ้นที่เต๋อใช้ความสามารถจนอาจจะลืมความเป็น มนุษย์ไปแล้ว และ ไม้อาจจะเป็น หนึ่งในจตุรเทพคนเดียวที่ไม่ได้ทำร้ายเต๋อ และอาจจะเป็น ตัวแปร หรือ ความหวังสุดท้ายที่จะช่วยเต๋อให้หลุดพ้นจากวงเวียนความแค้นนี้


ในเรื่องของ อ้น คิดว่า เต๋อเองไมได้ทำเกินกว่าเหตุ แต่เป็นเพราะว่า อ้นก็แส่หาเรื่องให้กับตนเอง เหมือนกับคนบางคนที่แม้ว่า จะได้รับการให้อภัยไปครั้งหนึ่งแต่ไม่ได้แก้ไข หรือหยุดสิ่งที่ทำ ทำให้ได้รับผลแบบนั้น
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ คนแต่งนะครับ


โทรจิตคุง









[table=100%][tr][td=1,1,100%]ตอนที่ 30
.
.
ลูกหนี้รายต่อไปคือแฝดเกริกก้อง อดีตองค์รักษ์ซ้ายขวาของจตุรเทพดอกจิก หนี้ที่เคยก่อกับเต๋อคือรังแกก่อกวนชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่เป็นระยะ เช่นขัดขา นำรองเท้าไปทิ้งถังขยะ แอบเอาแมลงสาบใส่กล่องดินสอ และอีกสารพัดคดี ส่วนลูกพี่พวกมันเคยจับเต๋อแก้ผ้าเอาด้ามไม้กวาดสวนทวารจนเป็นแผลเลือดออก และเป็นสาเหตุที่เต๋อตัดสินใจกระโดดตึกจบชีวิต เกริกคนพี่เป็นนักเรียนนายร้อย ส่วนก้องคนน้องเข้าศึกษาหลักสูตรนายเรือ
.
.
หน้าร้านนมบรรยากาศอบอุ่น นายเกริก ว่าที่รั้วของชาติเกี้ยวขอความรักหญิงสาว
.
.
"พี่อยากสนิทกับแยมกว่านี้น่ะ" เกริกพูดพลางเขี่ยลูกเชอร์รี่ประดับครีมโซดาเข้าปาก ก้มหน้าเขินอาย
.
.
"ทุกวันนี้ยังสนิทไม่พอรึไง เจอหน้ากันไม่เบื่อเหรอพี่" หญิงสาวรู้ดีว่าฝ่ายชายหมายถึงอะไร เธออยากให้กล้าเป็นฝ่ายขอเริ่มความสัมพันธ์ฉันคู่รักแฟนตรงไปตรงมา
.
.
"ไม่เบื่อเลยแยม ยังมีอีกหลายอย่างที่พี่อยากทำกับแยม ก่อนจะไม่มีโอกาส" เกริกเคี้ยวลูกเชอร์รี่แก้มตุ่ย
.
.
"พูดอะไรแบบนั้นพี่เกริก ยังกับจะรีบจากกันไปไหนหยั่งงั้นแหละ"
.
.
"พี่อยากเอาลิ้นคว้านทั่วร่องหีแยม เอาให้แยมครางเรียกพี่ผัว ๆ ๆ " เกริกแลบลิ้นยาวเฟื้อยให้ดูก้านเชอร์รี่ที่เขาใช้ลิ้นพันเป็นห่วงขณะเคี้ยวเมื่อครู่ สองตากลอกขึ้นลงราวกิ้งก่าคามีเลี่ยน
.
.
". . .อะไรน่ะพี่เกริก!" หญิงสาวยั้วะเมื่อได้ยินคำเกี้ยวแสนกักขฬะ เธอลุกขึ้นดีดตัวหนีทันที
.
.
"ไปไหนล่ะ!!! มาให้พี่เอาลิ้นแยงหีก่อน!!!" เกริกจับแขนหญิงสาวรั้งไว้ ทว่าเธอกลับเอานมร้อนสาดหน้าแถมตบเข้าให้อีกเปรี้ยงก่อนเดินฉับ ๆ ออกไป ทิ้งให้เกริกยืนเอ๋อท่ามกลางสายตาคนในร้านที่จ้องมองอย่างรังเกียจ
.
.
"สำหรับที่นายเคยล้อผมกับไม้. . .ตลกไม่ออกสินะครับเกริก. . . แต่นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น" เต๋อซึ่งนั่งละเลียดชาอยู่โต๊ะด้านในสุดลดหนังสือพิมพ์ลง
.
.
))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
เวลาต่อมา ณ หอพักโรงเรียนนายเรือ ก้องเพิ่งกลับจากซ้อมรักบี้กับเพื่อนพี่น้องร่วมสถาบัน
.
.
"แม่งเอ๊ย สิวขึ้นอีกแล้ว" ก้องส่องกระจกพินิจเรือนหน้าอาบเหงื่อ จัดว่าเป็นนักเรียนทหารรุ่นใหม่ตามสมัยนิยมที่ต้องห่วงหล่อนิด ๆ
.
.
"ก้อง ๆ มาช่วยพี่ดูนี่หน่อย" สองนายเรือรุ่นพี่ซ้อมที่ซ้อมรักบี้ด้วยกันกวักมือเรียกเกริกเข้าไปดูความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นในห้องส้วม
.
.
"ครับพี่" ก้องเดินไหล่ผายไปดูให้ตามคำขอแข็งขัน แต่เมื่อมองทั่วห้องส้วมแล้วก็ไม่ปรากฏสิ่งผิดปกติดังกล่างอ้าง
.
.
"ไม่เห็นมีอะไรเลยครับ" ก้องหันไปตอบกับสองนายเรือรุ่นพี่ ทั้งคู่ส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ย ล็อคห้องน้ำปิดขังไว้ให้อยู่กันตามลำพัง
.
.
"พี่ไผ่? พี่ปอง? ทำอะไรน่ะครับ" ก้องสีหน้าไม่สู้ดีเมื่อเห็นรุ่นพี่ทั้งสองถอดกางเกงรักบี้สั้นจู๋ออกพร้อมกางเกงใน
.
.
"เฮ้ย! อย่าพี่!" รุ่นพี่คนหนึ่งจับไผ่ล็อคตัวไว้แล้วนำกางเกงในเน่า ๆ มัดปากแน่นหนา จากนั้นจึงจับกดให้นอนลงกับพื้นห้องส้วม
.
.
"อื๊อ ๆ ๆ!" ก้องดีดดิ้น รุ่นพี่อีกคนตั้งท่านั่งยอง ๆ คร่อมหน้าก้อง แยกขาออกจนเห็นรูตูดสีน้ำตาลชัดเจน ขนตูดชื้นแฉะหลังซ้อมรักบี้ส่งกลิ่นไม่พิสมัย รุ่นพี่จอมพิเรนทร์นั่งทับหน้าก้อง ส่งกลิ่นคาวอับหมักหมมรอบรูตูดอัดประทับหน้ารุ่นน้อง. . .แม้มีภูมิคุ้มกันกลิ่นอับเหงื่อชายอกสามศอกด้วยกันอยู่บ้างเพราะเติบโตมาในโรงเรียนทหารแต่ก็ไม่ใช่เอาความเหม็นสาบมาประเคนจ่อหน้ากันแบบนี้ ก้องพยายามไม่รับเอากลิ่นมรณะสูดเข้าปอด
.
.
"จะกลั้นหายใจเหรอ นี่แน่ะมึง" พูดจบรุ่นพี่ตูดบึ้มก็ระบายลมอัดใส่หน้าดังปู้ด กลิ่นชะอมผสมเครื่องแกงทำเอาก้องถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ
.
.
"เอาน้ำปลาราดในกระเป๋าคนอื่นถือเป็นความคิดสร้างสรรค์ไม่ซ้ำใคร แต่ยังไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของจินตนาการผมหรอก" เต๋อซึ่งซ่อนตัวอยู่ส้วมห้องข้าง ๆ เปิดประตูออกมารับตัวเหยื่อ
.
.
))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
เกริกและก้องถูกลักพาตัวมายังเซฟเฮ้าส์ เต๋อสะกดจิตระดับกลืนกินสติจนสิ้นความเป็นตัวเอง เริ่มแรกเขาสั่งให้พูดทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับจตุรเทพโพแดงและดอกจิก แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์อย่างใด เกริกก้องขาดการติดต่อกับเมฆ จตุรเทพดอกจิกหลังจบ ม.3 รวมถึงน้ำหวานเช่นกัน ทั้งสองให้การว่าเพิ่งพบกับน้ำหวานในคืนงานเลี้ยงนั่นเอง ดูเหมือนสองพี่น้องจะหมายตาตรงกัน ทั้งคู่พูดกับเต๋อพร้อมเพรียงกันว่า "สวยน่าเย็ด"
.
.
เต๋อสั่งให้แฝดเกริกก้องเล่นเสียวแบบซาดิสต์กันเอง เพื่อชดเชยในอดีตที่ตัวเขาเคยเป็นสิ่งบันเทิงให้พี่น้องคู่นี้เป็นเวลานาน ขอเป็นฝ่ายเอนหลังพิงโซฟาแสนนุ่มพร้อมจิบไวน์ขณะรับชม
.
.
ทั้งก้องและเกริกเข้าไปเตรียมตัว โดยเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงในหนังสีดำ เลือกหยิบอุปกรณ์ส่วนตัวจากห้องคนละฝั่ง เมื่อพร้อมแล้วจึงเปิดประตูแต่ละฝั่งเพื่อให้ประจัญหน้ากันราวกับสนามต่อสู้โคลอสเซี่ยม โดยมีเต๋อนั่งละเลียดเมรัยสีทับทิมเว้นระยะห่างไว้ให้กลาดิเอเตอร์หนุ่มทั้งส่งได้ต่อสู้อย่างเต็มที่
.
.
ก้องเปิดเกมโดยหมุนแส้เหนือหัวสามสี่รอบเพื่อสะสมพลังงานก่อนจะฟาดลงกลางอกพี่ชาย
.
.
"โอ๊ย!" เกริกร้อง หน้าอกเป็นรอยแดงยาว เขาโต้คืนด้วยเชือก โดยบุกเข้าระยะประชิดแล้วรัดจากด้านหลัง ก้องถูกผลักให้ล้มลงเตียงเหล็กและใช้เชือกมัดแขนขาขึงพืดตรึงกับเสาเตียงทั้งสี่ด้าน
.
.
"อย่า. . .ไอ้เกริก" ก้องครวญแต่เกริกไม่สนใจ เขาอยากรู้ว่าการได้เย็ดตัวเองอีกคนนั้นมันจะให้ความรู้สึกเช่นไร เขากระชากกางเกงในหนังของก้องออก เพ่งพินิจพิจารณาควยที่ค่อย ๆ พองตัว เทียบกับของตัวเอง ขนาดเท่ากันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ผมเกรียนเพราะเรียนทหารเหมือนกัน ส่วนสูง น้ำหนักไล่เลี่ยกัน เขารู้สึกเหมือนมีกำลังจะเย็ดตัวเองผ่านกระจก เขากลับตัวก้มลงดูดควยให้แฝดน้อง และจ่อควยตัวเองใส่ปากก้องเช่นกัน ฝดพี่น้องดูดควยแก่กันและกันอย่างเป็นสุข เป็นความสุขที่ยากบรรยาย ราวกลับได้หล่อหลอมกลับเป็นอสุจิตัวเดียว ก่อนไซโกตแบ่งตัวพรากทั้งคู่ออกจากกันเมื่อครั้งอยู่ในครรภ์มารดา
.
.
เกริกตาพริ้มมองดวงหน้าก้อง รำลึกถึงสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นตั้งแต่ขั้นปฏิสนธิ น้องชายเขาก็รอเวลานี้นานแล้ว เวลาที่จะได้กลับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้ง เกริกก้มลงจูบแฝดน้องดูดดื่มทว่าก็แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลทะนุถนอม ท่อนล่างค่อย ๆ รุกล้ำเข้าไปภายในตัวก้อง แฝดผู้น้องซึ่งถูกตรึงร่างแยกแขนขาออกไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากกัดฟันทนความเจ็บปวดที่บุกเข้ามาเฉียบพลัน เขาอดทนเนื่องจากต้องการกลับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเกริก หนทางมีแต่ต้องพิสูจน์ผ่านบทรักแนบแน่นนี้เท่านั้น เกริกจับเอวก้องแล้วโยกเข้าออกเป็นจังหวะ บั้นเด้าตีปั่บ ๆ ๆ
.
.
"เกริกรักก้องไหม" แฝดผู้น้องถาม ขณะหลับตาพริ้มรับแรงกระแทก
.
.
"รักสิ เพราะเราเป็นคนคนเดียวกัน" เกริกโน้มตัวลงดูดคอก้องจนแดงเป็นจ้ำ ก่อนจะยัดลำควยเข้าไปเพื่อผสานร่างกลมกลืนเป็นชีวิตเดียวกัน เต๋อนั่งชมทั้งคู่ประกอบกามกิจจนกระทั่งเสร็จสมอารมณ์หมาย เขายังไม่ปล่อยให้สองคนนี้กลับไป กักขังไว้โดยให้เปลือยกายและคลานสี่ขาตลอดเวลาที่อยู่ในเซฟเฮ้าส์ คอยนำอาหารและน้ำใส่ชามอาหารให้คลานกินเยี่ยงสุนัข นอกจากนี้ยังสั่งให้ใช้อุปกรณ์ทรมานต่าง ๆ นานาเล่นเสียวกันเอง อาทิใช้ไม้หนีบหนีบหัวนมและพวงไข่ซอกหลืบต่าง ๆ ใช้เชือกมัดห้อยต่องแต่งลอยเหนือพื้นแล้วจับเย็ด เอาแส้ฟาดหลัง เยี่ยวใส่ปากแลกกันกิน
.
.
)))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
วันรุ่งขึ้น ณัฐแปลกใจที่เห็นเต๋อมีคนประกบซ้ายขวาดั่งบอดี้การ์ดส่วนตัว
.
.
"ทีฝ่ายตรงข้ามยังมีสุนัขภักดีขนาบข้าง พี่ก็อยากมีเป็นของตัวเองบ้างก็เท่านั้น" เต๋อพูดพลางปรายตายังแฝดเกริกก้องในชุดดำสวมแว่นกันแดด เขาจะเก็บสองคนนี้ไว้เป็นหมากตัวสำคัญจนกว่าจะได้พบกับน้ำหวาน
.
.
))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
ตกดึก เจ๊นนท์แอบลอบเข้าบ้านเต๋อซึ่งไม่มีคนอยู่แล้ว เธอต้องการวัตถุดิบอันเป็นเงื่อนไขให้มีนสามารถใช้พลังต้องห้ามได้ โชคไม่ดีเล็กน้อยที่แม่บ้านบัวซึ่งทำความสะอาดไว้ตั้งแต่กลางวันลืมของไว้ในบ้านจึงกลับมาเอา ทั้งสองจ๊ะเอ๋กันเข้าโดยบังเอิญ
.
.
"ว๊าย! อย่าข่มขืนฉันเลย ฉันแก่แล้ว!" แม่บ้านบัวร้องขณะเห็นเจ๊นนท์ในชุดโม่งปิดปากไว้ เธอใช้สันมือทุบท้ายทอยจนแม่บ้านบัวสลบ
.
.
"ชะนีป้าคะ อย่ากลัวในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สิคะ" พูดจบเธอก็หิ้วร่างแม่บ้านบัววางหลบมุม จากนั้นจึงหาของสำคัญต่อกระทั่งค้นพบ ลบหลักฐานในที่เกิดเหตุและย่องเบาจากไปเงียบเชียบ
.
.
))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
เมื่อกลับมา เจ๊นนท์จัดปาร์ตี้แสดงความยินดีที่ภารกิจลุล่วง เธอเกณฑ์เพื่อนกะเทยมาจัดแฟชั่นโชว์ในบ้านอีกรอบหนึ่ง ขณะที่มีนซึ่งได้วัตถุดิบสำหรับใช้พลังต้องห้ามหมกตัวครุ่นคิดอยู่ในห้องตามลำพัง เธอกำลังชั่งใจว่าการใช้พลังต้องห้ามนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดแน่แล้วหรือ
.
.
ขณะที่ปาร์ตี้แฟชั่นโชว์กำลังดำเนินอย่างครื้นเครง เจ๊นนท์บังเอิญสังเกตรถของธนิกเข้ามาจอดเทียบ ปาร์ตี้กะเทยจึงวงแตกเป็นผีตื่นป่าช้า
.
.
"กรี๊ดดดด! รื้อเวทีเดี๋ยวนี้! ปิดไฟ ปิดเครื่องเสียงให้หมด! เอาดิสโก้บอลลงมาด้วย! หลานเจ๊มันกลับมาจากอเวจีแล้ว!" เจ๊นนท์สั่งลั่น บรรดาลูกหาบเก็บของทันท่วงทีและเข้าไปซ่อนอยู่ในห้องเจ๊นนท์
.
.
"ผมโทรคุยกับไอ้เต๋อแล้วนะครับทวด มันบอกว่าหลังล่าลูกหนี้มันเสร็จแล้วจะร่วมมือกับผม ตอนนี้ผมจะช่วยอีกแรงให้มันล้างแค้นเสร็จเร็ว ๆ จะได้เริ่มงานกันซะที" ธนิกซึ่งอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าหลังเดินทางไกลไม่มีกะจิตกะใจจะสำรวจความผิดปกติในบ้านเท่าไหร่นัก เขาหอบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นชั้นสองไปเงียบ ๆ
.
.
)))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
ตกดึกคืนนั้น เจ๊นนท์นัดพบเต๋อ กินบะหมี่เกี๊ยวข้างทางกันพลางชวนคุยเรื่องที่เต๋อคิดจะร่วมมือกับธนิก เจ๊นนท์ขนลุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเต๋อเล่าว่าแม่บ้านบัวเพิ่งโทรมาบอกว่ามีตีนแมวย่องเข้ามาในบ้าน ซึ่งเขาคิดว่าอาจเป็นฝีมือของพวกลูกหนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เจ๊นนท์ต้องการให้เต๋อคิดทบทวนให้ดีเพราะการทำงานกับธนิกมีความหมายกลาย ๆ ว่าจะต้องถูกบังคับขู่เข็ญ
.
.
"ผมทำให้เขาตายใจต่างหากครับ เป้าหมายของผมที่จริงคือข้อมูลที่ผมควรทราบในบันทึกลับต่างหาก" เต๋อตอบ เจ๊นนท์จึงถอนหายใจโล่งอกได้ครึ่งหนึ่ง เธอกล่าวว่าเธอเป็นคนช่วยรวบรวมข้อมูลธนิกเกือบทั้งหมด และเธอก็มีข้อมูลสำรองอยู่เช่นกัน ถ้าเขาต้องการเธอจะมอบให้อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับผู้มีพลังโทรจิตเท่านั้น แต่ขออย่าเปลืองตัวกับธนิกถลำลึกไปกว่านี้ ข้อมูลสำรองนั้นเธอเคยเตรียมไว้ให้เต๋อแล้ว ด้วยคิดว่าผู้มีพลังพิเศษทุกคนควรศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวกับพลังตัวเองไว้ เนื่องจากเป็นทั้งพรสวรรค์และคำสาปในเวลาเดียวกัน
.
.
ระหว่างที่พูดคุยกัน จู่ ๆ รถจักรยานยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียนก็แล่นจอด คนซ้อนท้ายชักปืนออกเล็งที่เต๋อ เจ๊นนท์พุ่งตัวเข้าขวางทันทีและรับคมกระสุนแทน ทุกอย่างเกิดขึ้นชั่วพริบตา มือสังหารบึ่งรถหนีไปเมื่อประเมินว่าผิดพลาดและไม่ควรอยู่นานกว่านี้ เต๋อไม่อาจควบคุมตัวพวกมันสองคนได้ทัน และสิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นคือคนเจ็บ ขณะที่ผู้คนรอบข้างแตกตื่น เต๋อเป็นคนเดียวที่มีสติพอที่จะติดต่อรถพยาบาล
.
.
"ไม่ต้องหรอก เจ๊. . .เจ๊รอวันนี้มานานแล้ว" เจ๊นนท์พูดขณะนอนหายใจรวยริน เธอบอกที่ซ่อนข้อมูลสำรองที่เธอเก็บไว้ให้กับเต๋อ
.
.
"เจ๊. . . . .ขโมยเวลาของคนอื่น. . มามากเหลือเกิน . . . .ถึงวันนี้ . . .เจ๊จึงไม่เสียใจ. . .ที่จะใช้ชีวิตตัวเอง . . .ต่อลมหายใจ. . .ให้เธอ" เต๋อขอให้เจ๊นนท์ประคองสติกำลังกายกำลังใจไว้ก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึง
.
.
"ขอให้เธอ. . .ใช้ชีวิต. . .กับสิ่งที่เธออยากจะทำ. . .ดี. . .หรือไม่ดี. . .คนอย่างเจ๊. . .ไม่มีสิทธิ์. . .ตัดสิน . . .แต่ . . ."
.
.
"อย่าเลือกทาง. . .ที่เธอจะเสียใจภายหลัง. . ."
.
.
.
บัดนี้มหากาพย์ยาวกว่าเจ็ดร้อยปีได้ปิดฉากลง ณ ริมถนนแห่งหนึ่ง รถไฟขบวนยาวแล่นเทียบสถานีปลายทางเสียที เจ๊นนท์ไม่กล้าเผชิญและหลีกหนีมาตลอด ทว่ามันกลับไม่น่ากลัวอย่างที่เคยคิดไว้. . . เธอยิ้มพึงใจ . . .ก่อนหลับตาลงโดยสงบ ปราศจากอาการทุรนทุราย ส่วนเต๋อนั้นหนักแน่นพอที่จะไม่ปล่อยอารมณ์ให้ลื่นไหลไปกับสถานการณ์ตรงหน้า นับแต่เลือกเดินเส้นทางนี้ เขาก็ไม่คิดจะหลั่งน้ำตาให้ใครเลย
.
.
ไม่นานนัก มีโทรศัพท์ไม่ระบุหมายเลขปลายสายเข้ามา น้ำหวานนั่นเองที่เป็นฝ่ายติดต่อมา
.
.
"คงไม่โชคดีแบบนี้ทุกครั้งหรอกว่าไหม อย่าลืมว่าฉันมีสิ่งที่เธอไม่มีอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคืออิทธิพลมืด เลิกตอแยฉันซะ ไม่งั้นเธอจะเป็นฝ่ายถูกล่าซะเอง"
.
.
"หึ" เต๋อพยายามปัดเรื่องเจ๊นนท์ออกจากหัวไปชั่วครู่เพื่อต่อปากต่อคำโดยเฉพาะ
.
.
"ผมก็มีสิ่งที่โฮโมเซเปียนส์อย่างคุณไม่มีเหมือนกันครับ อย่าประเมินกันต่ำไป"
.
.
"แบบนี้สินะที่เขาเรียกใจดีสู้เสือ" น้ำหวานกระแอมหัวเราะก่อนระเบิดเสียงโพล่งขึ้นมา
.
.
.". . . มึงจะทำอะไรกูได้ไอ้เต๋อ! หัวจะหลุดแล้วยังไม่รู้ตัวอีก! ไปตายซะอีสัตว์นรก!!!"
.
.
"สัตว์นรกงั้นเหรอครับ. . .อาจใช่. . .คุณจะได้เห็นตัวเป็น ๆ เร็ว ๆ นี้ล่ะ" เต๋อนึกถึงใบหน้าของธนิกลอยขึ้นมาทันใด น้ำหวานอาจมีสุนัขยามรอตไวเลอร์คุ้มกาย แต่บัดนี้เขามีเซอร์บีรัส สุนัขยามเฝ้าประตูนรกอยู่เคียงข้าง
.
.
บัญชีนี้ธนิกต้องขอเป็นผู้พิพากษาสมทบแน่นอน
.
.
จบตอนที่ 30


[/td][/tr][/table]





แค่เธอยักคิ้ว ต้นงิ้วก็แค่ถั่วงอก


therasak

 โหดและเหี้ยมมาก  คงได้กินความแค้นเป็นของหวานอีกหลายจานแน่นายเต๋อ