ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เกมร้ายพ่ายสวาท ภาค 2 ตอนที่ 4 : daona

เริ่มโดย nken, พฤศจิกายน 07, 2015, 07:37:58 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nken

เกมร้ายพ่ายสวาท ภาค 2
...daona
ตอนที่ 4

ณ.สตูดิโอคณะสถาปัตยกรรม

แตงโมงัวเงียตื่นขึ้นมา เห็นญาญ่ายังทำงานอยู่ก็อุทานออกมา
"ญาญ่า นี่ตัวเองยังไม่นอนอีกหรือ"
ญาญ่ายิ้มแห้งๆ
"นอนได้ไง อีตาเบ็นยังไม่มาเลย"
"นี่แหละ ผลของการหวังพึ่งคนอื่นน่ะ"
"นี่ อย่าซ้ำเติมเพื่อนได้มั้ย" ญาญ่าตาเขียวใส่เพื่อน
แตงโมหัวเราะ
"ตาลืมจะไม่ขึ้นอยู่แล้ว ยังมาค้อนใส่เขา"
"อยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ไม่มีอารมณ์จะตอบโต้"
"แหม ล้อเล่นน่า ทำใจน้อยไปได้" แตงโมลูบหัวเพื่อน "ไปนอนเหอะนะ เดี๋ยวคืนนี้ทำไม่ไหว"
"อีกนิดนึงน่ะ เขียนรูปตัดแผ่นนี้เสร็จก็จะนอนแล้ว ตัวเองไปอาบน้ำแปรงฟันเหอะ" พูดแล้วก็ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน "ตาเบ็นนะตาเบ็น เจอกันเมื่อไหร่ชั้นเอาแกตายแน่"
แตงโมหัวเราะ แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรต่อ เสียงเด็กหนุ่มก็ดังแทรกเข้ามา
"หวัดดีครับ พี่ญาญ่า คิดถึงผมทั้งคืนเลยเหรอ"
ญาญ่าได้ยินเสียงก็ดีใจจนแทบกระโดดขึ้นมา แต่สาวน้อยทำฟอร์มนิ่งต่อว่าเจ้าของเสียงนั้น
" ไหนบอกว่าจะมาเมื่อคืน ทำไมเพิ่งจะโผล่มาตอนนี้"
เบ็นวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ แล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างพี่รหัสคนสวยของเขา
"ขอโทษจริงๆครับพี่ญาญ่า เมื่อคืนผมปวดหัวมาก มาไม่ไหวจริงๆ"
"มาไม่ไหวทำไมไม่โทรมา" ญาญ่าต่อว่าเขา
"ก็มันปวดหัวจริงๆครับ ลุกไม่ไหวเลย ผมนอนยาว พอตื่นมาก็รีบมาหาพี่เลยนะ"
"ป่วยการเมืองน่ะซิ ปล่อยให้พี่ทำงานคนเดียว คอยดู ถ้าถึงงานเธอพี่จะไม่ช่วยเลย"
"นี่" แตงโมพูดแทรก"แต่เราเชื่อว่าเบ็นมันป่วยจริงๆนะ หน้ายังซีดๆอยู่เลย"
"เห็นมั้ยล่ะ พี่แตงโมยังรู้เลย" เบ็นหันมาหาแตงโม "ขอบคุณนะครับพี่โมที่ช่วยพูด ขอให้ได้แฟนรวยๆหล่อๆเหมือนผมนะ"
แตงโมหัวเราะคิก "อย่างเธอนี่เรียกว่าหล่อได้หรือ" เด็กสาวพูด "พี่น้องคู่นี้ขี้โม้พอๆกันเลย"
ญาญ่ากับเบ็นหัวเราะพร้อมกัน
"ญาญ่าน่ะสวยจริง" ญาญ่าคุย "แต่นายเบ็นน่ะหล่อปลอม"
"อ้าว พี่ญาญ่า พูดอย่างนี้หมดกำลังใจจะทำงานเลย"
"อย่าพูดมาก เอาแบบนี่ไป แล้วขึ้นโมเดลตามนี้" ญาญ่าชี้ไปที่ม้วนกระดาษที่เธอดร๊าฟเสร็จแล้ว
"ให้ผมทำโมเดลหรือ" เบ็นถามงงๆ เดินไปหยิบแบบมากางดู
"ใช่ พี่มอบอำนาจให้เธอทำโมเดลคนเดียวเลย เธอมีเวลาทำถึงวันศุกร์ก่อน 9 โมง"
"วันศุกร์" เบ็นอุทาน "ให้ผมทำคนเดียวเหรอ"
"ถูกต้อง เพราะพี่ยังต้องทำแบบอีกหลายแผ่น แล้วยังต้องทำตีฟอีก"
"แล้วผมจะได้นอนมั้ยเนี่ย" เบ็นคราง
"ช่วยไม่ได้ อยากมาช้าเอง รีบทำได้แล้วเดี๋ยวไม่ทัน พี่ขอนอนก่อนนะ เมื่อคืนยังไม่ได้นอนเลย" ญาญ่าตอบหน้าตาเฉย
เบ็นอ้าปากค้าง "พี่จะนอน?"
แตงโมตบไหล่ของเบ็น
"ยินดีด้วยนะเบ็น ที่ได้ญาญ่าเป็นพี่รหัส" แตงโมหยอกล้อเด็กหนุ่ม
เบ็นฝืนยิ้มให้แตงโม
"ไม่เป็นไรครับพี่โม เป็นพี่น้องกันแล้วก็ต้องช่วยกัน"
"เห็นมั้ยล่ะโม  ญาญ่าบอกแล้วว่าเบ็นดีใจที่ได้เป็นน้องรหัสเรา" ญาญ่าพูดแล้วล้มตัวลงนอนที่ข้างโต๊ะทำงาน เด็กสาวแทบจะหลับปุ๋ยไปในทันที
แตงโมหน้า หยิบผ้าเช็ดตัวเดินอออกไปจากสตูดีโอ ส่วนเบ็นเริ่มต้นทำโมเดลให้พี่รหัสสุดสวยของเขา

--------------------------------------

เจนนี่แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินทางออกของปัญหาจากปากของลูกน้องตัวแสบ

"แกรู้วิธีเอาตัวรอดได้แล้วหรือ แกพูดเล่นรึเปล่า" หญิงสาวผุดลุกขึ้นยืนในทันที
"เรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้ผมไม่กล้าพูดเล่นหรอกครับคุณเจน"
หญิงสาวโผเข้ามาหาราเชน มือจับไหล่ทั้งสองข้างของราเชนอย่างลืมตัว ความดีใจที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันทำให้เธอเกือบจะจูบแก้มของลูกน้องตัวแสบเธอด้วยซ้ำ
"ทำยังไงราเชน บอกฉันมาเดี๋ยวนี้"
ราเชนยิ้มเล็กน้อย กลิ่นอันหอมกรุ่นจากตัวของเจนนี่ลอยเข้ามาจนเขารู้สึกหวานชื่น ชายหนุ่มยกมือแตะไปบนหลังมือของเจนนี่ที่เกาะอยู่บนไหล่เขาอย่างลืมตัวพร้อมกับลูบเบาๆ เจนนี่สะดุ้งรู้สึกตัว หญิงสาวหน้าแดงเดินถอยไปนั่งพิงขอบโต๊ะทำงาน
ราเชนนึกเสียดายที่เธอผละจากไปขณะที่เขากำลังดื่มด่ำกับการสนิทสนมของเธอ แต่ถึงกระนั้นกลิ่นหอมของเธอก็ยังกรุ่นอยู่อย่างไม่จางหาย
"ผมนึกอยู่แล้วว่าคุณเจนจะต้องดีใจ แต่ไม่คิดว่าจะดีใจถึงขนาดนี้"
"แกไม่รู้หรอกว่า เรื่องนี้ทำให้ฉันทุกข์ใจเค่ไหน" หญิงสาวตอบเขา "เราจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง"
"เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ"
"ต้นเหตุอะไร" เจนนี่งง
"คุณเจนจำไม่ได้รึ เรื่องนี้มันแดงออกมาก็เพราะลูกชายประธานบริษัท เอโปร มันมาเจอว่ากระจกของเราผิดเสป็ค มันเลยสั่งให้ตรวจสอบวัสดุทั้งหมดที่เราส่งไปให้มัน ในเมื่อเรื่องเกิดจากกมัน มันจึงเป็นตันเหตุ ถ้าจะแก้เราต้องแก้ที่มัน คุณเจนรู้จักมันใช่มั้ย"
"เสี่ยเช็ง" เจนนี่ตอบ
"ถูกต้อง เสี่ยเช็ง เราต้องแก้ที่มัน"
"ฉันยังไม่เข้าใจ" เจนนี่พูดอย่างมึนงง "ก็ในเมื่อเสี่ยเช็งเป็นคนสั่งตรวจสอบ แล้วเราจะไปแก้ไขที่เสี่ยเช็งได้ยังไง หรือว่า..." เจนนี่มีสีหน้าตกใจ "หรือแกจะฆ่าเขาปิดปาก"
ราเชนหัวเราะ
"ไปกันใหญ่แล้วครับคุณเจน ทำอย่างงั้นไม่ใช่การแก้ปัญหาแล้วครับ แต่มันเป็นการเพิ่มปัญหาต่างหาก จากคดีฉ้อโกงกลายเป็นคดีฆาตกรรม ผมไม่คิดโง่ๆแบบนั้นหรอกครับ"
เจนนี่หน้าแดงซ่าน
"ก็ใครจะไปรู้ล่ะ เห็นแกบอกว่าจะแก้ตันเหตุ ฉันก็นึกว่าแกจะคิดบ้าๆ ถ้าเป็นงั้นฉันก็ไม่เอาด้วยหรอก ตกลง แกคิดอะไรก็บอกมา ฉันเดาใจแกไม่ถูกแล้ว รีบบอกมาซะที ฉันร้อนใจ"
"ก็ในเมื่อมันเป็นต้นเหตุ เราก็ต้องแก้ที่มันซิครับ เราต้องขอให้มันยกเลิกการตรวจสอบเรื่องนี้"
เจนนี่ตาเขียวใส่ราเชน
"นี่หรือแผนแก เสี่ยเช็งคงจะโง่เชื่อหรอกนะ เรื่องใหญ่แบบนี้เขาต้องเอาเรื่องแน่ๆ ต่อให้ฉันไปคุกเข่าอ้อนวอนก็ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยเราหรอก"
"ถ้าเราไปอ้อนวอนเขาคงไม่ปล่อย เพราะฉะนั้นเราต้องให้อะไรมันแลกเปลี่ยน"
"เงินหรือ" เจนนี่ใจเต้นแรง "จริงซิ ถ้าเราให้เงินเขาก็อาจจะมีโอกาส แต่มันต้องมากมายมหาศาลเชียวล่ะ แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปให้เขา"
"ก็เงินที่เราโกงมาน่ะซิ ให้มันไปทั้งหมด"
"ให้หมดเลย" เจนนี่ใจหายวาบ "ให้เขาหมดเลยหรือ"
"หรือคุณเจนจะยอมติดคุกล่ะ คุณเจนจะยอมเสียคู่หมั้นมั้ย คุณเจนจะยอมเสียมั้ย เงิน กับ คุณวีรเทพ คุณเจนจะเลือกอะไร"
เจนนี่ส่ายหน้า เธอไม่ยอมติดคุกแน่ ยิ่งไม่ยอมเสียวีรเทพ แต่จะต้องเอาเงินทั้งหมดที่ได้มาให้กับเสี่ยเช็งไปทั้งหมด เธอก็เสียดายอย่างที่สุด
"คุณเจน" ราเชนเดินเข้าไปหา จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอ "ถึงขนาดนี้แล้วยังลังเลอะไรอีกหรือ นี่เป็นทางออกเดียวของเรานะ หรือคุณเจนมีวิธีอื่น เราไม่มีเวลาแล้ว"

หญิงสาวรู้ว่าราเชนพูดถูก ไม่มีหนทางอื่น เธอต้องตัดใจแล้ว ยอมเสียมันไป แล้วกลับไปเริ่มต้นอนาคตใหม่
"ต่อให้เรายอมจ่ายเงินให้ทั้งหมด แล้วเสี่ยเช็งเขาจะยอมหรือ" เจนนี่พูดเสียงสั่น "เขาจะรับเงินเราไปทำไม ถ้าเขาฟ้องเราเขายังจะได้เงินจากค่าปรับมากกว่าเงินที่เราจะให้เขาตั้งหลายเท่า เงินเข้าบริษัทของพ่อเค้าอีกไม่นานก็ต้องเป็นของเขา แล้วเขาจะรับเงินใต้โต๊ะเราทำไม"
"โธ่ คุณเจน ลองคิดถึงตัวคุณเจนเองซิ เงินที่เราโกงมา จริงๆก็เป็นเงินของคุณวีรเทพ คุณเจนแต่งงานกับคุณวีรเทพ ในทีสุดเงินก็ต้องเป็นของคุณเจนอยู่แล้ว แต่คุณเจนยังโกงทำไม ที่คุณเจนโกงเพราะมันเป็นเงินสดๆได้เลยไม่ต้องรอไงเล่า"
เจนนี่หน้าชา คำพูดของราเชนเหมือนกับด่าเธอตรงๆ
"ขอโทษที่ผมต้องเปรียบเทียบแบบนี้คุณเจนจะได้เชื่อมั่นว่ามันเป็นไปได้ คุณเจนคิดตามนะ ถ้าเสี่ยเช็งมันฟ้อง ถึงชนะเงินก็ต้องเข้าบริษัทแล้วมันได้อะไร กว่าจะได้ก็ต้องรอให้เตี่ยมันตายก่อนละมั๊ง แต่ถ้าเราเสนอให้เงินปิดปากมัน ถึงจะน้อยกว่าที่มันฟ้อง แต่ก็ได้เลย แถมเข้ากระเป๋าตัวเองเต็มๆ อยู่ดีๆได้ลาภลอยอย่างนี้คุณเจนว่ามันจะเอามั้ย"
เจนนี่ใจเต้นแรง
"มันก็เป็นไปได้มาก" เจนนี่ยอมรับ "แต่ถ้าเขาไม่เอาล่ะ ถ้าเขาไม่ใช่คนแบบที่เราคิด"
"ผมว่ามันเอา ผมฟันธง คุณเจนยังไม่รู้นิสัยมันอีกอย่าง"
"นิสัยอะไร"
"มันบ้าผู้หญิง" ราเชนยื่นหน้าไปใกล้เธอ "เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือคุณเจนด้วย คุณเจนสวยขนาดนี้ ถ้ายอมเปลืองตัวอ้อนมันหน่อย เรื่องนี้ต้องสำเร็จแน่นอน ผมเอาหัวเป็นประกัน"
"เปลืองตัว" เจนนี่ใจหายวาบ "ฉันต้องเปลืองตัวยังไง"
"ผมไม่รู้" ราเชนซ่อนยิ้มในใบหน้า "ผมถึงบอกขึ้นอยู่กับฝีมือคุณเจน คุณเจนจะต่อรองได้แค่ไหนผมไม่อาจจะรู้ได้หรอกครับ แต่ผมบอกได้ว่าถ้าคุณเจนยอมเปลืองตัวเรื่องนี้จบ ผมบอกแล้วว่ามันบ้าหม้อ เรื่องนี้จะจบหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณเจนคนเดียว คุณเจนเข้าใจใช่มั้ย"

เจนนี่พยักหน้า
"คุณเจน สวย เก่ง ฉลาด ผมมองคุณเจนเป็นแบบนี้มาตลอด " ราเชนให้กำลังใจเจนนี่ "ผมเชื่อว่าคุณเจนจะต้องทำเรื่องน้ให้จบได้อย่างสวยงาม ผมเชื่อมั่นในตัวคุณเจน คุณเจนต้องเชื่อมั่นตัวเองนะครับ"
"ขอบใจ" เจนนี่ตัดสินใจยอมรับความคิดของราเชน "แล้วเราจะไปหาเสี่ยเช็งเมื่อไหร่"
"พรุ่งนี้เลย"
"พรุ่งนี้" เจนนี่อุทาน
"เรื่องนี้ยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะไม่รู้ว่าถ้าปล่อยไปจะมีคนรู้เรื่องอีกเท่าไหร่ เดี๋ยวมันจะบานปลายจนแก้ไม่ได้ แค่มีคุณธันย่าโผล่มาคนเดียวยังทำเอาปั่นป่วนไปหมด"
"แกไม่ให้ฉันตั้งตัวเลยหรือ" เจนนี่อุทธรณ์

ราเชนรู้ว่าเจนนี่กำลังสับสน ตอนนี้เธอตัดสินใจแล้วหากปล่อยให้เธอมีเวลาคิดเธออาจเปลี่ยนใจ จึงรีบรุกต่อ
"ผมบอกแล้วว่าเราต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด คุณเจนต้องคิดว่า การได้แต่งงานกับคุณวีรเทพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เรื่องอื่นถ้าต้องเสียก็ต้องเสีย คุณเจนเข้าใจมั้ย"
เจนนี่พยักหน้า
"แต่พรุ่งนี้เค้าจะรับนัดเรารึเปล่า"
"ผมจะบอกให้ตามตรง เรื่องนี้ผมเคยคุยกับเสี่ยเช็งมาก่อนแล้วครับ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมโทรไปคอนเฟิร์มอีกที ตกลงคุณเจนยอมไปพบเขาพรุ่งนี้ใช่มั้ย"

เจนนี่พยักหน้า เธอตัดสินใจที่จะเสี่ยง ราเชนพูดถูก การได้แต่งงานกับวีรเทพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เรื่องอื่นถ้าต้องเสียก็ต้องเสีย!

--------------------------------------

ที่ห้องพักของเม่น
"ไอ้เม่น งานถนัดของแกมาแล้วโว๊ย" ไอ้ป๊อกเอ่ยกับเพื่อนหลังจากที่ผลักประตูเดินเข้ามา
"เจ้านายให้ทำอะไรวะ"
"อุ้ม" ไอ้ป๊อกยิ่มร่า "งานนี้เป็นผู้หญิงสวยซะด้วย"
"ใคร"
"บอกไปแล้วมึงจะรู้จักเหรอ แต่กูบอกได้คำเดียวว่าแจ่ม! ดูรูปซะก่อน ว่างามขนาดไหน" ไอ้ป๊อกพูดพร้อมกับหยิบรูปออกจากกระเป๋าส่งให้เพื่อน

เม่นหยิบรูปออกมาดู แล้วมันก็ตะลึง
"นายให้อุ้มอีนี่หรือ" มันอุทาน
"มึงรู้จักรึไง"
"ก็ที่กูเล่าให้ฟังไง อีคุณนายหน้าสวยที่ขับเบ็นซ์กวนตีนแล้วมีเรื่องกับกูน่ะ"
"อีนี่เหรอ"
"เออ"
ไอ้ป๊อกหัวเราะ
"งั้นก็เหมาะเลยซิวะ มึงได้แก้แค้นแล้วก็ได้เงินใช้ด้วย"
เม่นตาเป็นประกาย
"ได้เงินใช้น่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ได้แก้แค้นนี้ซิมันสะใจ อีเหี้ยแม่งเช่งพ่อแม่กู"
ไอ้ป๊อกหัวเราะ
"งานนี้แม่งสนุกแน่ว่ะ แต่อย่าเพิ่งทำอะไรมันนะโว๊ย ต้องขออนุญาตนายก่อน ไม่รู้ว่านายสั่งอุ้มอีนี่ทำไม ขืนทำสุ่มสี่สุ้มห้างานนายเสีย คนซวยจะเป็นเราแทน"
"เออ กูรู้น่า มันขื่ออะไรวะ"
"ธัญญเรศ นายสั่งให้อุ้มพรุ่งนี้" ไอ้ป๊อกตอบแล้วอธิบายแผนการอุ้มให้ไอ้เม่นฟัง

--------------------------------------

ห้าโมงเช้าวันถัดมา ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

ราเชนตาเป็นประกายวับเมื่อเห้นธัญญเรศเดินเข้ามาในร้านอาหาร หญิงสาวสวมชุดเดรสแขนกุดสีเลือดหมูเข้ม เนื้อผ้าซาตินเป็นมันวาววับขับผิวขาวของเธอให้ดูเปล่งปลั่งงดงามเป็นพิเศษ กระโปรงสั้นเหนือเข่าทำให้เห็นช่วงขาเพรียวยาวขาวน่ามอง ราเชนเห็นผู้ชายในร้านหันไปมองเธอกันเป็นตาเดียว

ราเชนเคยเห็นธัญญเรศมาหลายครั้งแล้ว เขารู้สึกว่าเธอสวยแต่ไม่เคยรู้สึกว่าเธอสวยถึงขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเขาเคยดูเธออยู่แต่ไกลๆ หรือเป็นเพราะชุดของเธอวันนี้ที่ทำให้ดูงดงามเป็นพิเศษ ชุดเดรสไม่ได้โป๊อะไรมาก แต่ตัดเข้ารูปเธอเหลือเกิน โดยเฉพาะที่ทรวงอกนั้นเน้นให้เห็นถึงความอวบใหญ่กลมกลึงอย่างชัดเจน เวลายามเธอเคลื่อนไหวหรือเดินแลเห็นเต้าทั้งคู่สั่นกระเพื่อมน่ามอง ราเชนนึกเสียดาย นี่ถ้าเสื้อเธอคว้านเป็นตัววีให้ลึกอวดเนินอกร่องอกหน่อยหนุ่มๆคงหัวใจวายกันเป็น ธัญญเรศสวยบาดใจ ขนาดอายุสามสิบกว่าแล้วยังสวยไม่สร่าง นี่ถ้าเธออายุเท่าเจนนี่เจ้านายของเขา เจนนี่อาจจะกินเธอไม่ลงเหมือนกัน

พอเห็นธัญญเรศหันซ้ายหันขวา ราเชนก็กวักมือเรียกแล้วส่งยิ้มให้ ธัญญเรศเดินเข้ามาหาในทันที

"สวัสดีครับคุณธันย่า" ราเชนทักทายขณะที่ธัญญเรศนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม รู้สึกถึงกลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเธอลอยแตะจมูกในทันที "สั่งอะไรมาทานมั้ยครับ"
"ไม่ต้อง" ธัญญเรศตอบ "ฉันกินมาแล้ว เราคุยเรื่องสำคัญเลยดีกว่า"
"แหม คุณธันย่านี่ใจร้อนจริงๆ ทานกาแฟก่อนดีกว่าครับ ผมสั่งให้" แล้วเขาก็เรียกบริกรมาสั่ง
ระหว่างรอให้เด็กมาเสริฟกาแฟ เขาก็เอ่ยชมคู่สนทนา
"วันนี้คุณธันย่าสวยจังเลยนะครับ ชุดก็น่ารัก"
ธัญญเรศยิ้มให้เขาเล็กน้อยแต่ในใจไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มอะไร ออกจะนึกตำหนิเขาด้วยซ้ำ เธอคิดว่าเธอเป็นเพื่อนกับวีรเทพซึ่งเป็นเจ้านายเขา ส่วนราเชนเป็นเพียงพนักงานตำแหน่งเล็กๆในบริษัท เขาควรจะเคารพเธอมากกว่าที่จะมาวิจารณ์ตัวเธอกับชุดเธอ ถึงจะเป็นคำชมก็เถอะ
ราเชนสังเกตุออกว่าเธอไม่พอใจ ชายหนุ่มประเมินว่าธัญญเรศจะต้องเป็นคนถือตัวและคิดดูถูกเขาอยู่แน่ ชายหนุ่มจึงไม่พูดอะไรมาก ทว่าแอบคิดในใจว่า

"คนสวยดูถูกผม เอาเหอะ อีกไม่นานจะได้รู้ว่าราเชนมีดียังไง" ชายหนุ่มมองหน้าสวยของเธอพร้อมคิดถึงความหวานชื่นที่จะได้รับจากตัวเธอในอีกไม่ช้า

ธัญญเรศรอจนเด็กมาเสริฟกาแฟจึงพูดธุระสำคัญที่ทำให้เธอมาพบเขาที่นี่
"คุณบอกว่ารู้เรื่องทุจริตในบริษัททั้งหมดเลยใช่มั้ย"
"ครับ" ราเขนตอบยิ้มๆ
ธัญญเรศตาเป็นประกาย
"ถ้างั้นมันก็เป็นเรื่องจริง บริษัทคุณส่งของต่ำกว่าสเป็คให้เอโปรจริงๆ"
"ครับ เรื่องจริงทั้งหมด"
"ใครเป็นคนทำ" ธัญญเรศถามสิ่งที่เธอสงสัยที่สุดในทันที
"เรื่องนี้ผมก็เสี่ยงมากนะครับคุณธันย่า" ราเขนเริ่มเล่นลวดลาย "ถ้าผมบอกทุกอย่างผมจะได้อะไรตอบแทน"
ธัญญเรศขมวดคิ้วเรียวงาม นึกไม่ถึงว่าคนหน้าตาดีอย่างราเชนจะมีพฤิตกรรมเหมือนจะแบ็ลคเมล์แบบนี้
"คุณต้องการอะไรตอบแทน" ธัญญเรศถามตรงๆ
"ผมล้อเล่นน่ะครับ ผมไม่ต้องการอะไรหรอกครับ ผมแค่ไม่อยากเห็นบริษัทที่ผมรักโดนโกง เพราะถ้าบริษัทเจ๊ง ผมและเพื่อนพนักงานคนอื่นก็ต้องเดือดร้อนกันหมด"
ธัญญเรศรู้สึกผ่อนคลายขึ้น แต่ความรู้สึกลึกๆของเธอไม่ค่อยชอบราเชนเท่าไรนัก วิธีการพูดของเขาเหมือนกับคนที่มีอะไรไม่ดีซ่อนอยู่ แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
"ถ้างั้นบอกฉันได้มั้ย ว่าใครโกง" ธัญญเรศถามตรงๆ
"คุณเจนนี่"

ธัญญเรศตะลึง
"เป็นไปไม่ได้" หญิงสาวอุทาน "คุณพูดเล่นใช่มั้ย"
"ผมพูดจริง" ราเชนย้ำเสียงหนักแน่น
"มีหลักฐานมั้ย"
"หลักฐานอยู่นี่ครับ" ชายหนุ่มส่งซองกระดาษสีน้ำตาลให้
ธัญญเรศหยิบเอกสารในซองออกมาดู หญิงสาวอ่านเก็บทุกรายละเอียด
ราเขนจับตามองธัญญเรศตลอดเวลา
"ลายเซ็นทั้งหมดเป็นของคุณเจนนี่แน่นอนครับ" ชายหนุ่มพูด
"แต่แค่นี้ไม่พอหรอกนะ" ธัญญเรศเอ่ยอย่างครุ่นคิด "คนโกงอาจจะเป็นลูกน้องของเจนนี่ก็ได้ เป็นไปได้มั้ยว่าเธอไว้ใจลูกน้อง เลยไม่ได้ตรวจเอกสารอย่างละเอียด เธอเซ็นเพราะเชื่อใจลูกน้อง"
"ผมเป็นพยานได้ครับ ว่าเธอรู้เรื่องทั้งหมด"
ธัญญเรศส่ายหน้า
"พูดตามตรง ถ้าไม่มีหลักฐานอื่น ฉันเชื่อเจนนี่มากกว่าคุณ"
ราเชนยิ้ม
"ผมนึกแล้วว่าคุณธันย่าคงไม่เชื่อผม แต่ผมยังมีหลักฐานอื่นที่มัดตัวคุณเจนนี่จนดิ้นไม่หลุด"
"ไหน เอามาดูซิ" ธัญญเรศทวงทันที
"ผมไม่ได้เอามาครับ"
"อ้าว" ธัญญเรศมีสีหน้าไม่พอใจ
"อย่าเพิ่งโกรธผมครับ คือพูดตามตรงผมก็ไม่ไว้ใจคุณธันย่าเหมือนกันครับ ผมลองดูท่าทีคุณก่อน ผมกลัวว่าถ้าคุณเป็นพวกเดียวกับคุณเจนนี่เกิดผมแบไพ่ไปหมดผมก็ตาย แต่ตอนนี้ผมเชื่อใจคุณธันย่าแล้ว หลักฐานสำคัญผมเก็บไว้ที่อื่น พรุ่งนี้ผมจะเอามาให้คุณธันย่า"
"แน่นะ"
"แน่นอนครับ"
"งั้นตกลง" ธัญญเรศพูดสั้นๆ "ไม่ต้องห่วงนะคะคุณราเขน ถ้าเรื่องที่คุณพูดเป็นจริง วีรเทพต้องตอบแทนคุณแน่ๆ"
"ขอบคุณครับ แต่อย่างที่ผมบอกน่ะแหละ ผมทำเรื่องนี้เพื่อเพื่อนพนักงานทุกคน ไม่ได้หวังอะไรตอบแทน"
"ขอบคุณค่ะ คุณทำถูกแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ถ้าคุณพร้อมก็โทรนัดฉันอีกทีว่าจะเอาเอกสารมาให้ตอนไหน"
"ครับ" ราเชนตอบ มองดูธัญญเรศเดินออกจากร้านไป แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรสั่งการกับลูกน้อง "เฮ้ย เธอเดินออกไปแล้วนะโว๊ย"
ราเชนเรียกบริกรมาคิดเงิน แล้วก็เดินออกจากร้านอาหารนั้น เขาก็ต้องรีบเหมือนกัน เพราะเขามีนัดสำคัญกับเจนนี่ เขาต้องพาเธอไปหาเสี่ยเช็ง แผนการของเขากำลังไปได้สวย...

------------------------------------