ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เหตุเกิดบนดอยช่างเคียน ตอนความลับของนางมารร้าย ep.1

เริ่มโดย suckzeed, พฤศจิกายน 08, 2015, 08:40:40 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

[
ปุ๋ยหน้าใสๆแต่ใจร้ายนัก


ดิฉันชื่อปุ๋ยค่ะ..เป็นคนกรุงเทพ บ้านเกิดอยู่ย่านเยาวราช เป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อแม่ คงไม่ต้องบอกหรอกนะคะว่าคนย่าน
เยาวราชนั้น 90 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน พ่อแม่ของปุ๋ยก็เช่นกันค่ะ...ทั้งสองท่านมีบรรพบุรุษ เป็นชาวจีน
สมัยที่นั่งเรือสำเภามาก่อร่างสร้างตัวที่เมืองไทย จากเสื่อผืนหมอนใบจนต่างมีฐานะร่ำรวย อยู่ในย่านเศรษฐกิจของประเทศ
เพียงแต่พ่อแม่ของปุ๋ยไม่ได้ค้าขายทองคำหรอกนะคะ

พ่อมีฝีมือทางด้านทำอาหารจนเปิดภัตคารหรูกลางย่านเยาวราชได้เลยค่ะ..จนกระทั่งเมื่อปุ๋ยสอบเข้าเรียนได้ในมหาวิทยาลัย
ของรัฐไม่ไกลจากเยาวราชเท่าใดนัก พ่อกับแม่ก็เซ้งภัตคารอันเป็นมรดกตกทอดจากอาก๋ง ให้กับคนอื่นไป จากนั้นก็ย้ายกัน
ไปอยู่ที่อเมริกา เพียงแค่สองคน ทิ้งให้ปุ๋ยอยู่กับญาติห่างๆ ให้เรียนจบปริญญาตรีก่อนจึงค่อยย้ายตามไป ก็ไม่เข้าใจเหตุผล
ของผู้เป็นพ่อแม่เท่าใดนักหรอกค่ะ แต่เมื่อทั้งสองท่านต้องการแบบนี้ ปุ๋ยก็ขัดไม่ได้เพราะเราเป็นลูก แม้จะว้าเหว่ไปบ้างก็ตาม
แต่ชีวิตก็มีอิสระมากขึ้น ญาติๆนั้นไม่ค่อยสนใจตัวปุ๋ยเท่าใดนัก เพราะพวกเขาต่างก็มีลูกเต้าทีจะต้องดูแลเอาใจใส่

การที่ปุ๋ยได้ใช้ชีวิตอย่างมีอิสระเสรี มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ ปุ๋ยมีอิสระ อยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจที่ตนเอง
ปรารถนา อย่างเช่นพอปุ๋ยเข้าปีสอง แทนที่จะอยู่กับบ้านเก่าย่านเยาวราชของพ่อแม่ ปุ๋ยกับไปเช่าคอนโดย่านสาธรอยู่ตาม
ลำพัง เงินทองพ่อแม่ก็ส่งมาให้ใช้ไม่เคยขาดมือ แต่ส่วนข้อที่เสียนั้น ตามปุ๋ยมาสิคะ จะเล่าให้ฟัง.....

ปุ๋ยมีเพื่อนสนิท เป็นกลุ่มกันอยู่สี่คน แบบที่เรียกว่าสนิทกันมากๆๆๆๆ คนแรกเป็นผู้หญิงชื่อแนน ผิวขาวแบบคนเหนือ หน้า
ตาสะสวย สวยกว่าปุ๋ยอีกค่ะ อันนี้ยอมรับ ส่วนรูปร่างของปุ๋ยกับแนนนั้นพอๆกันสูงประมาณ160กว่าๆกันทั้งคู่ แนนนั้นอยุ่กับ
แม่เพียงสองคน เท่าที่รู้ ไม่อยากก้าวล่วงล้วงลึกรายละเอียดของเพื่อนรักมากนัก อีกสองคนเป็นผู้ชาย คนแรกชื่อทศ เป็น
คนเหนือ ผิวขาวรูปร่างบางๆ ตามแบบผุ้ชายสมัยใหม่ ผู้ชายคนนี้ตอนปีหนึ่งก็คบกันแบบเพื่อนๆดีแหละค่ะ แต่พอย่างเข้าปี
สองก็ขอปุ๋ยเป็นแฟน

ปุ๋ยก็เล่นตัวอยู่สามเดือน พอเข้าเทอมสองของปีสอง ปุ๋ยก็ประกาศตัวให้เพื่อนๆรับรู้ว่าทศกับปุ๋ยนั้นเป็นแฟนกัน ส่วนเหตุ
ผลที่จำต้องประกาศตัวว่าปุ๋ยกับทศเป็นแฟนกันนั้น อีกสักครู่จะเล่าให้ฟัง ส่วนเพื่อนชายอีกคนชื่อพล เป็นคนใต้ ผิวเข้ม
หน้าเข้ม รูปหล่อเชียวละ แต่เขาไม่ได้ชอบปุ๋ย กลับไปชอบแนนเพื่อนของปุ๋ยเสียแทน แต่ดูเหมือนว่าความรักของพลน่า
จะเป็นหมัน เพราะเรียนด้วยกันจนจบ พลก็ไม่สามารถพิชิตใจของแนนได้เสียที

สาเหตุที่ทำให้ปุ๋ยจำเป็นต้องประกาศตัวเป็นแฟนกับทศให้เพื่อนๆในกลุ่มรับทราบนั้น ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ มีเพียงเรื่อง
เดียวนั่นก้คือปุ๋ยพลาดท่าเสียทีโดนทศปล้ำเย็ดจนตกเป็นของทศไปแล้วนั่นแหละ ความจริงแล้วปุ๋ยก็ไม่สามารถพูดได้เต้ม
ปากนักดอกค่ะว่าโดนทศปล้ำ เพราะทศก็ไม่ได้ออกแรงปลุกปล้ำอะไรปุ๋ยมากมาย มีเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้นที่ทศใช้กำลัง
แต่หลังจากนั้นปุ๋ยเองนั่นแหละที่สมยอม เพียงแค่ว่าผู้ชายคนที่ปุ๋ยชอบนั้น หาใช่ทศ แต่เป็นพลมากกว่ารุปร่างหน้าตาของ
พลถูกสเปคของปุ๋ยมากกว่าทศ เพียงแต่พลนั่นแหละที่ไม่เคยมองปุ๋ยในฐานะอื่นนอกจากความเป็นเพื่อน เพราะใจของเขา
มอบให้แนนเพื่อนรักของปุ๋ยไปหมดสิ้นแล้ว แม้ปุ๋ยจะไม่ค่อยพอใจแนนเพื่อนรักนักก็ตาม แต่เราก็มีกันแค่สี่คนนี้เท่านั้นที่
สนิมสนมคบหากันตั้งแต่ปีหนึ่ง ปุ๋ยเลยไม่อยากผิดใจกับเพื่อนด้วยสาเหตุนี้

  

ย้อนกลับมาเล่าให้ฟังว่าที่ปุ๋ยพลาดท่าเสียทีทศนั้น ก็เป็นช่วงปิดเทอมภาคแรกของปีสอง พวกเราวางแพลนจะไปเที่ยวพัก
ผ่อนกันที่เกาะสีชัง เช่าบังกะโลที่ปารีฮัทพักผ่อนกันสามสี่คืน พวกเราทั้งสี่คนก็นัดแนะวางแผนจองห้องพักเรียบร้อยแล้ว
แต่พอถึงใกล้วันเดินทาง ยัยแนนเป้นคนแรกที่ขอถอนตัวเนื่องจากแม่ของยัยแนนจะพาไปเกาหลี ไปดูงานพวกเครื่อง
สำอางค์อะไรนี่แหละ ก็เป็นอันว่าเหลือเพียงแค่สามคน ครั้นพอถึงวันเดินทาง ทางบ้านของพลมีปัญหา พ่อของพลโดน
ลอบยิงจากฝีมือผู้ก่อความไม่สงบที่ภาคใต้ พลเลยจำเป็นต้องรีบกลับบ้านไปดูแลพ่อ ก็เป้นอันว่าเหลือเพียงปุ๋ยกับทศ
เท่านั้นที่เดินทางกันไปเพียงสองคน

ปุ๋ยให้ทศเป็นคนขับรถสวิฟของปุ๋ยเดินทางไปจนถึงท่าเรือที่เกาะลอย อำเภอศรีราชา จากนั้นเราสองคนก็ขึ้นเรือกันที่นั่น
ตลอดการเดินทางทศก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรผิดปรกติ แม้ปุ๋ยจะพอรู้พอดูออกว่าทศนั้นไม่ได้ดิดกับปุ๋ยเพียงแค่เพื่อน แต่เมื่อปุ๋ย
ไม่สนองตอบทศก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของปุ๋ยต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง ปุ๋ยเลยวางใจ ไม่คิดว่าการเดินทางไปเที่ยวตามลำพัง
ในครั้งนั้น จะเปลี่ยนชีวิตของปุ๋ยไปได้ขนาดนี้

เมื่อเราสองคนนั่งเรือข้ามฟากจนจนถึงเกาะสีชังแล้ว ก็จ้างรถเครื่องให้ไปส่งที่ปารีฮัท เราวาดภาพก่อนออกเดินทางว่าน่า
จะสวยงาม เพราะดูจากภาพยนต์ที่ณเดชน์และญาญาแสดงนั้นมันสวยงามมาก แต่พอไปถึงจึงรู้ว่าพวกเราโดนภาพมายา
จากละครหลอกเสียแล้ว บรรยากาศรอบๆที่พักนั้นมันไม่มีอะไรเลย ทั้งร้อนทั้งแล้ง ทะเลก็ไม่มีชายหาดให้ลงเดินเล่น มี
เพียงหน้าผาสูงให้กระโดดน้ำเล่นเท่านั้น ยังดีหน่อยที่มีสระว่ายน้ำเล็กๆ การตกแต่งภายในห้องพักก็งั้นๆ แต่ในเมื่อพวก
เรามาถึงแล้วนี่คะ จะให้ทำอย่างไรได้ แม้จะรู้สึกว่าเสียดายเงินที่จองห้องพักตั้งสองห้องก็ตาม

แล้วไอ้ความที่เสียดายเงินนี่แหละทำให้ปุ๋ยตัดสินใจผิดพลาดเมื่อเข้าไปติดต่อพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วบอกขอคืน
ห้องพักไปหนึ่งห้อง ซึ่งปรกติไม่น่าจะทำได้ แต่ปรากฏว่าครั้งนี้พนักงานหรือผู้จัดการสถานที่นั่นแหละค่ะที่ยินยอมให้พวกเรา
คืนห้องพักได้ ซึ่งปุ๋ยยังจำได้เลยว่าครั้งนั้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เราไม่ต้องสูญเสียเงินไปอีกหมื่นกว่าบาทสำหรับห้องพัก
สามคืน สรุปก็เป็นอันว่าปุ๋ยกัยทศพักอยู่ห้องเดียวกัน เป็นห้องเตียงคู่ อย่างที่บอกแต่แรกแล้วว่าปุ๋ยนั้นวางใจทศแม้จะรุ้ว่า
ทศคิดอย่างไรกับตนเอง แต่ความที่เราเป็นเพื่อนกันมาปีกว่าแล้วจึงไม่คิดระแวงเลยว่าทศจะคิดไม่ดีกับปุ๋ย

หลังจากเราสองคนเก็บข้าวของสัมภาระที่นำติดตัวมาเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว ทศก็ชวนปุ๋ยไปเล่นน้ำทะเล แต่ปุ๋ยเห็นว่า
แดดมันยังแรงกลัวผิวจะคล้ำแดดเลยบอกับทศไปว่าให้เย็นๆกว่านี้ก่อน ทศก็ไม่ได้ว่ากระไรจึงคงนั่งเล่นนอนเล่นคุยกันอยุ่
ภายในห้องพัก แม้ปากจะพูดจาพูดคุยกับทศแต่จิตใจของปุ๋ยนั้นกลับคิดไปถึงชายอีกคนหนึ่ง พร้อมนึกเสียดายถ้าพลมา
ด้วยกันโดยที่ไม่มียัยแนนมาด้วย ไม่แน่เหมือนกันว่าพลอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ เพราะรูปร่างหน้าตาของปุ๋ยนั้นก็หาได้ด้อยกว่า
ยัยแนนแม้สักนิด ไม่แน่ว่าเมื่อพลเห็นปุ๋ยในชุดว่ายน้ำแสนเซ็กซี่ พลอาจจะเปลี่ยนใจกลับมาชอบปุ๋ยก็ได้ นั่นแหละค่ะที่จำ
ได้ว่าปุ๋ยคิดถึงพลแค่ไหนในระหว่างที่กำลังพูดเล่นคุยเล่นกับทศในบังกะโลปาลีฮัทที่เกาะสีชัง

"ป่ะเล่นน้ำกันเถอะปุ๋ย...เย็นแล้ว.." ทศเร่งรัดชักชวนปุ๋ยไปเล่นน้ำหลังจากที่เวลาผ่านไปจนถึง5โมงเย็นแล้ว

"อืมมมกะได้..ขอเปลี่ยนชุดก่อน..."

ป่วยการที่ปุ๋ยจะไปนั่งคิดถึงผู้ชายคนอื่น ในเมื่อเขาก็หาได้สนใจปุ๋ยเลยสักนิด ให้ความสัมพันธ์กับปุ๋ยได้แค่ในฐานะเพื่อน
ปุ๋ยจึงพยายามสลัดภาพของพลออกไปจากหัว ในเมื่อจะมาพักผ่อนก็ขอสนุกกับสถานที่นี้ให้เต็มที่ ปุ๋ยจึงตอบตกลงกับทศ
ทันที พร้อมหอบชุดว่ายน้ำเดินเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

เมื่อปุ๋ยเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดทูพีชสีแดงสด มันช่วยขับผิวของปุ๋ยให้ดูขาวกระจ่างยิ่งขึ้น เนื้อตัวของปุ๋ยนั้นก็เกลี้ยง
เกลาอยู่แล้ว อกอวบถูกชุดว่ายน้ำท่อนบนดันขึ้นมาเป็นก้อนกลมขาวผ่อง ส่วนท่อนล่าง เนื้อผ้าบิกินี่บางๆยืดๆ ดันให้เนิน
สาวของปุ๋ยอวบอูมขึ้นมาเป็นรูปสามเหลี่ยมเด่นชัด มีเรียวร่องผ่าตรงกลางเบียดชิดแนบสนิท ปู่ยเห็นทศมองชุดว่ายน้ำทูพีช
ของปุ๋ยด้วยสายตาตกตะลึง จึงรู้สึกตัวรีบเดินไปหยิบผ้าคลุมมานุงห่มปิดบังรูปร่างช่วงล่างให้พ้นสายตาของเขา

"รูปร่างปุ๋ยสวยมากเลยครับ..เวลาใส่ชุดแบบนี้.." แม้จะไม่รุ้ว่าทศชื่นชมจริงๆ หรืออะไรก็ตาม แต่เมื่อมีผู้ชายกล่าวชมเช่นนี้
ปุ๋ยก็อดภาคภูมิใจไม่ได้

"จริงหรอ...อิอิ...หุ่นแบบนี้ทศว่าปุ๋ยเป็นนางแบบได้ป่ะ.." มันเป็นความใฝ่ฝันของปุ๋ยเลยละกับอาชีพนางแบบ ปุ๋ยเลยลอง
สอบถามความคิดเห้นจากทศ

"อืมมมมม..ไม่รู้สินะ.." ปุ๋ยคิดว่าทศจะรีบตอบเพื่อเอาใจ แต่เขากลับทำท่าครุ่นคิด พร้อมเดินเข้ามามองรอบๆตัวปุ๋ย

"นางแบบต้องถ่ายรุปขึ้นอ่ะ..ถึงจะสวย..."

"งั้นทศช่วยถ่ายรูปให้ปุ๋ยหน่อยสินะ..นร๊า.. " ปุ๋ยอยากเห็นเหมือนกันว่าเวลาใส่ชุดว่ายน้ำแบบนี้แล้วถ่ายรูปออกมา ปุ๋ยจะสวย
ขนาดไหน

"อืมมมก็ได้..แต่ตอนนี้เราไปเล่นน้ำกันก่อนนะ..ทศอยากเล่นน้ำทะเลเต็มทนแล้ว..."

[post]หลังจากปุ๋ยทำเสียงอ้อนแค่ครั้งเดียว ทศก็ยินยอมทำตามที่ปุ๋ยต้องการ แต่ยังมีข้อแม้ว่าขอเล่นน้ำทะเลเสียก่อน จากนั้นก็ดึง
มือลากปุ๋ยออกมาจากห้องพัก พากันเดินไปที่ทะเล แต่อย่างที่ปุ๋ยบอกไว้ว่าสถานที่ตั้งของปารีฮัทนั้นไม่มีชายหาด เป็น
บังกะโลที่ตั้งอยู่บนหน้าผาหินที่ไม่สูงมากนัก การที่จะเล่นน้ำทะเล มีวิธีเดียวคือต้องกระโดดลงไปจากหน้าผาเท่านั้น ซึ่งปุ๋ย
ไม่มีทางทำได้อยุ่แล้วเพราะกลัวความสูง

เมื่อไปถึงหน้าผา เม่อปุ๋ยไม่ยอมกระโดดลงไปเล่นน้ำเพราะกลัวความสูง ทศก็เลยไม่เล่นทั้งๆที่ปุ๋ยรู้ดีว่าตัวเขานั้นอยากเล่น
น้ำทะเลเป็นอย่างมาก ทศยอมอยู่เป็นเพื่อปุ๋ยเดินเลาะทางเดินแคบๆไปยังสระว่ายน้ำที่ตั้งอยุ่บนเนินสูง แต่พอไปถึงเราสอง
ก็แห้วอีกครั้ง ทั้งๆที่เป็นวันะรรดากลางสัปดาห์ แต่ปรากฎว่ามีคนอื่นใช้สระว่ายน้ำอยู่แล้วค่อนข้างแน่น ทั้งๆที่เป็นสระว่ายน้ำ
เล็กๆ ทั้งฝรั่งทั้งจีนทั้งญี่ปุ่น ไม่เห้นมีคนไทยสักคนนอกจากเราสองคนเท่านั้น เมื่อสระว่ายน้ำแน่น ทศก็เลยชวนปุ๋ยถ่ายรุป
กันเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ปุ๋ยก็ยืนโพสท่าต่างๆหลายท่าให้ทศลั่นชัตเตอร์เสียงดังกริ๊กๆหมดไปหลายสิบรูป

"ปุ๋ยถอดผ้าหลุดออกได้ป่ะ..จะได้เห็นรุปร่างของปุ๋ยได้เต็มที่.."

หลังจากการถ่ายรูปไปแล้วหลายสิบรูปโดยที่ช่วงล่างของปุ๋ยยังมีผ้าคลุมสีสวยปิดบังเรือนร่างอยู่ ทศก็ร้องบอกให้ปุ๋ยปลด
ผ้าคลุมที่นุ่งอยู่ออก ปุ๋ยลังเลอยู่เพียงครู่ เมื่อแลเห็นว่าไม่มีคนไทยเลยสักคนในบริเวณสระว่ายน้ำนั้น ล้วนแต่เป็นต่างชาติ
ที่บางคนใส่บิกินี่โป๊กว่าของปุ๋ยด้วยซ้ำ มันจึงทำให้ปุ๋ยใจกล้าพอที่จะทำตามที่ทศบอก เมื่อปุ๋ยค่อยๆเปลื้องผ้าคลุมหลุดจาก
ร่างท่อนล่าง ทศจ้องมองเรือนร่างโดยเฉพาะตรงเนินโหนกกลางลำตัวของปุ๋ยอย่างตะลึงลาน จนลืมลั่นชัตเตอร์เก็บภาพ
จนปุ๋ยต้องร้องเตือน ทศจึงทำหน้าที่ตากล้องต่อไปจนเก็บภาพได้อีกหลายสิบรูป

จนกระทั่งสระว่ายน้ำเริ่มซาลง ชาวต่างชาติทยอยขึ้นไปจนเหลือเพียงหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่สองคู่ ดูเหมือนน่าจะเป็นคู่รักกัน
เพราะจากลักษณะการเล่นน้ำนั้น ถึงเนื้อถึงตัวกันตลอดเกินกว่าการเป้นเพื่อน ทศจึงชวนปุ๋ยลงเล่นน้ำบ้าง

"อืมมมมมก็ได้..." ปุ๋ยตอบตกลงอย่างง่ายๆเพราะเห็นว่าตลอดทั้งวันนั้นทศทำตัวดีมาตลอด จึงอยากทำตามใจเขาบ้าง ทศ
รีบถอดกางเกงขาสามส่วนที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบใส่เดินเล่นออกมาทันทีต่อหน้าต่อตาปุ๋ย ข้างในกางเกงขาสามส่วนนั้น หา
ได้มีกางเกงว่ายน้ำ กลับเป็นกางเกงบ็อกเซอร์สีน้ำเงินลายๆเพียงแค่ตัวเดียว ปุ๋ยก็ไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงว่าด้านในกางเกง
บ็อกเซอร์ที่ทศจะลงเล่นน้ำนั้นน่าจะมีกางเกงชั้นในเซฟไว้อีกตัวหนึ่ง แต่ที่ไหนได้ พอทศพาปุ๋ยเดินไปล้างตัวด้วยน้ำสอาด
ก่อนจะลงสระ กางเกงบ็อกเซอร์พอเปียกน้ำ เนื้อผ้ามันก็ดูเหมือนจะเริ่มบางจนลู่ราบไปกับร่างกาย ทศยืนหันหน้าประจันกับ
ปุ๋ยในระยะห่างไม่ถึงครึ่งเมตร ปุ๋ยถึงกับหน้าแดงเมื่อแลเห็นว่าเนื้อผ้ามันลู่ราบไปกับร่างของทศ จนแลเห็นอวัยวะส่วนนั้น
ของทศทอดเป็นลำยาว

พอปุ๋ยเห็นดังนั้นก็รีบหมุนร่างหันกลับหลังทันที แต่ทว่าซอกห้องอาบน้ำล้างตัวของที่ปารีฮัทนั้นหาได้กว้างใหญ่เลยสักนิด
อีกทั้งทศก็ยังยืนอยู่ใกล้ๆตัวปุ๋ย ครั้นพอปุ๋ยกลับหลังหันเร็ว ก็เซนิดหน่อย แต่ที่ไม่ได้นิดหน่อยนั้นกลับเป็นว่า เมื่อปุ๋ยเซเสีย
หลัก ส่วนก้นอวบงอนของปุ๋ยนั้นดันไปโดนตรงนั้นของทศเข้าพอดี เหมือนผีแกล้ง ปุ๋ยได้ยินเสียงทศร้องอุ๊บเบาๆ พร้อมกับ
รู้สึกได้เลยว่า อวัยวะส่วนนั้นของทศ มันโดนร่องก้นของปุ๋ยได้พอดี

"ทศ..ทุเรศจัง ถอยออกไปหน่อย.."

ปุ๋ยไม่กล้าหันกลับมามองได้แต่ร่ำร้องขอให้ทศถอยตัวเองออกไปห่างๆ ก็ดีอยู่บ้างที่ทศทำตาม แต่ดูเหมือนมันช่างเชื่องช้า
ยิ่งนัก กว่าที่ทศจะถอยตัวห่างออกไป ปุ๋ยรุ้สึกว่ามันเนิ่นนานเกือบ30วินาทีด้วยซ้ำ

"อ่า...ทศขอโทษ..ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ..ปุ๋ยเซมาชนตัวเราเองนะ..." ปุ๋ยร่ำร้องขอโทษพร้อมยิ้มหน้าระรื่นที่มองเห็นว่าปุ๋ยหน้าแดง
ด้วยความอาย

"ทศบ้า..ทำอะไรน่าเกลียดจัง..ทุเรศมากเลยรุ้มั๊ยนี่.."

 ปุ๋ยฉุนโกรธทศอยุ่เหมือนกัน แต่ไม่ได้โกรธที่โดนส่วนนั้นชนก้นอวบ นั่นเป็นเพราะปุ๋ยซุมซ่ามเซไปเอง แต่ปุ๋ยโกรธที่ทำ
ไมส่วนนั้นของทศถึงได้แข็งตัวต่างหาก ซึ่งนั่นย่อมแปลว่าทศกำลังมีอารมณ์ ตายแล้วนี่แปลว่าทศมองรุปร่างของปุ๋ยในชุด
ว่ายน้ำแล้วมีอารมณ์กระนั้นหรือ แม้ปุ๋ยจะไม่พอใจก็ตามที่เพื่อนชายดันมาหื่นลามกใส่แบบนี้ แต่ครั้นมานึกดูอีกทีว่าเพียงแค่
รูปร่างในชุดว่ายน้ำเท่านี้ ยังทำให้ผู้ชายคนหนึ่งมองจนถึงกับมีอารมณ์เชียวรึ ซึ่งนั่นย่อมแปลว่ารุปร่างของตนเองชวนมอง
ชวนให้ใครเห็นแล้วมีความต้องการน่ะสิ นึกดูแล้วก็อดซ่อนยิ้มโดยมิให้ทศแลเห็นได้ ไม่เช่นนั้นทศคงดีใจที่ปุ๋ยไม่ได้โกรธ

"แล้วนี่ทศจะเดินไปสระได้ไง..บ้าชะมัดเลย.." ปุ๋ยทำเสียงดุใส่ เบนสายตาขึ้นมองท้องฟ้า ไม่อยากก้มต่ำเกรงว่าสายตาจะ
ไปเจอะเจอกับภาพอุจจาดตาของทศ

"เรื่องปรกติน่าปุ๋ย...ผุ้ชายทุกคนถ้าได้เห็นรุปร่างของปุ๋ยในชุดว่ายน้ำแบบนี้ ก็ย่อมเป็นแบบทศแหละ...ป่ะ..ไปสระกันเถอะ..
เสียเวลา"

ทศพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปรกติ หรือว่าจะจริงตามที่ทศบอกปุ๋ยชักไม่แน่ใจ แต่เมื่อทศพูดจบก็คว้าข้อมือของปุ๋ยกึ่งจูงกึ่งลาก
ไปจนถึงขอบสระน้ำ ซึ่งขณะนั้นคู่หนู่มสาวชาวญี่ปุ่นกำลังเดินขึ้นจากสระไปหนึ่งคุ่ สวนกันพอดีที่ริมสระ จากสายตาหนุ่ม
ต่างชาติที่มองมายังปุ๋ยถึงกับทำให้ปุ๋ยแทบก้าวขาไม่ออก เพราะองศาของสายตานั้นมันกำลังจับจ้องเนินสาวของปุ๋ยแบบ
เปิดเผยไม่แอบซ่อนแม้สักนิดสลับกับการมองหน้าอกอวบขาวของปุ๋ยที่ล้นออกมาจากบราสีแดงตัวเล็กๆ  ส่วนหญิงสาวนาง
นั้นก็จับตามองกึ่งกลางลำตัวของทศแบบเปิดเผย เมื่อเห็นว่าจังหวะก้าวเดินของทศนั้น ทำให้อวัยวะส่วนนั้นแกว่งโยนตัว
ไปมา นางนั้นถึงกับปิดปากหัวเราะขำๆ ทำตาวาวๆ ซึ่งมันยิ่งทำให้ปุ๋ยทั้งใจเต้นแรงขึ้น ทั้งอายหน้าแดงหนักขึ้น จนแทบ
อยากวิ่งกลับห้องพัก

ส่วนในสระน้ำคงเหลืออีกเพียงหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นคู่เดียวที่หยอกล้อเล่นกันโดยไม่ใส่ใจคนรอบกายเลย แม้เพื่อนที่ขึ้นสระน้ำ
ไปก่อนจะตะโกนเป็นภาษาญี่ปุ่นพูดคุยด้วย เขาก็ไม่ใสใจที่จะตอบ ยังคงก้มหน้าก้มตาจูบฟัดซอกคอของแฟนสาว จนกระทั่ง
ได้ยินเสียงทศกระโดดลงน้ำดังตูมใหญ่นั่นแหละ ทั้งคู่จึงผละร่างออกจากกัน

ปุ๋ยค่อยเดินเลี่ยงอย่างใจลอย ไปหย่อนขานั่งลงที่ขอบสระใกล้ๆกับโต๊ะที่ทศวางกล้องถ่ายรูปไว้ แล้วก็ตกใจร้องว๊าย..ออกมา
ด้วยเสียงอันดังเมื่อทศดำน้ำโผล่ขึ้นมาระหว่างขาทั้งสองของปุ๋ย แล้วฉุดกระชากลากปุ๋ยจนตกลงไปในน้ำด้วยอีกคน

"อีบ้าทศ..ตกใจหมดเลย..." พอปุ๋ยตั้งสติได้หลังจากผุดทลึ่งขึ้นจากใต้น้ำ ก็ยื่นมือไปตีหลังไหล่ของทศด้วยความโมโห ก็จะ
ไม่ให้ปุ๋ยโมโหโกรธทศได้อย่างไรเล่า เมื่อทศดึงขาลากปุ๋ยตกลงไปในน้ำนั้น อารมตกใจมือของปุ๋ยก็ว่ายน้ำป่ายเปะปะไป
โดนร่างของทศที่อยู่ใต้น้ำ ปุ๋ยรู้สึกเลยว่ามือของปุ๋ยนั้นโดนส่วนใดของตัวทศ

ทศโดนปุ๋ยตีหลังไปสามสี่ทีก็หันกลับว่ายหนี พร้อมทำหน้ายั่วหยอก ปุ๋ยรีบว่ายน้ำตามจนทันก็โผตัวขึ้นกดไหล่ทั้สองของ
ทศหวังให้จมลงไป แต่ทศตัวใหญ่กว่าแข็งแรงกว่าปุ๋ยมาก ความที่หวังจะจับทศกดน้ำ กลับกลายเป็นปุ๋ยผวาร่างเข้าไปให้
ทศกอดฟรีๆ เสียหายขาดทุนกันเข้าไปอีก เสียงร้องเสียงหัวเราะหยอกเล่นกันของปุ๋ยและทศนั้นคงดังไปจนรบกวนคู่หนุ่ม
สาวชาวญี่ปุ่นกระมัง ทั้งสองคนจึงค่อยๆเลี่ยงออกไปยืนกอดกันอยู่ที่มุมสระด้านหนึ่ง ปล่อยให้ทศกับปุ๋ยว่ายน้ำเล่นไล่ทุบ
ไล่ตีกันตามลำพังจนเหนื่อยอ่อน ปุ๋ยจึงค่อยว่ายกลับมาที่ขอบสระที่เดิมที่หย่อนตัวลงมา โดยมีทศว่ายน้ำตามหลังมา
กระชั้นชิด

"คราวหน้าถ้าเล่นแบบนี้อีก ระวังเหอะ ปุ๋ยจะไม่คุยด้วย..."

ปุ๋ยร้องขู่ปั้นสีหน้าเอาจริงจัง เมื่อทศว่ายมาเกาะขอบสระข้างๆ แต่ดุเหมือนน้ำเสียงข่มขู่ของปุ๋ยจะไร้ผล แม้ทศจะกล่าวคำ
ขอโทษพร้อมรับปากว่าจะไม่แกล้งปุ๋ยแบบนี้อีก แต่สายตาของทศที่มองมายังปุ๋ยนั้น มันบ่งบอกได้เลยว่าทศพูดไปแบบ
นั้นเอง

การที่ทศว่ายน้ำมาหยุดอยู่ริมสระข้างตัวปุ๋ยนั้น มันใกล้ชิดมากจนเรียกว่าแขนของเราสองคนแทบจะสนิทชิดกันเลย ยิ่งเรา
ไม่สามารถยืนถึงพื้นก้นสระน้ำได้ ตัวของเราจึงกระเพื่อมไหวตามแรงของน้ำ แขนทั้งสองข้างจึงเสียดสีกันไปโดยปริยาย
การเล่นกันสัมผัสเนื้อตัวแขนกันแบบนี้ สำหรับปุ๋ยและเพื่อนๆในกลุ่มนั้นเป็นเรื่องปรกติธรรมดาหาใช่เรื่องที่จะคิดว่าควร
หรือไม่ควร ฉนั้นปุ๋ยจึงไม่ได้ห้ามปรามหรือผลักไสให้ทศถอยไปห่างๆ แต่ครั้งนี้กลับไม่เหมือนที่ผ่านมาเวลาเราเดินเที่ยว
เบียดเสียดแขนกันนั้นปุ๋ยไม่ได้รุ้สึกอันใดสักนิด แต่ครั้งนี้ปุ๋ยกลับรู้สึกใจเต้นแรงขนแขนบางครั้งที่เสียดสีกันกับแขนของ
ทศอยุ่นั้น ถึงกับขนลุกชี้ชันเป็นคราวๆ

"ปุ๋ย..ดูที่9นาฬิกาสิ.."

ที่ขอบสระปุ๋ยหันหน้าออกทะเลยสองแขนฟาดเกยอยู่กับขอบสระ ส่วนทศนั้นหันหลังให้ขอบสระ ยกสองแขนพาดไว้ เมื่อ
ทศกระซิบบอกให้ปุ๋ยหันไปดูทางทิศ9นาฬิกา ปุ๋ยก็ค่อยๆเอียงหน้าไปทางซ้ายมือ แล้วหันไปดูตามที่ทศบอก แล้วปุ๋ยก็รีบ
หันกลับมาแทบจะทันทีที่เห็นภาพนั้น พร้อมกับยกฝ่ามือทุบไหล่ทศดังปึ๊ก..ก็จะอะไรเล่าคะภาพที่ทศบอกให้ดูนั้นคือหนุ่ม
สาวญี่ปุ่นคู่นั้นนั่นแหละที่หันหน้ากอดกันแล้วทำท่าทางเหมือนกับคนกำลังร่วมเพศกันเลย เพราะน้ำรอบตัวของทั้งสอง
กระเพื่อมเป็นคลื่นตามแรงโยกตัวของสาวชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในอ้อมกอดของแฟนเค้า ภายใต้น้ำใสนั้นปุ๋ยไม่รู้หรอกว่าทั้งสอง
ทำอะไรกัน แต่ถาพที่เห็นอยู่เหนือน้ำนั้น มันคล้ายคนทั้งคู่กำลังร่วมเพศกันจริงๆ

ช่วงซัมเมอร์นั้นตรงกับเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นฤดูหนาว กลางวันมันจึงดูเหมือนสั้นกว่ากลางคืน แม้เพียงแค่6โมงเย็น
กว่าๆ บรรยากาศที่ปารีฮัทในขณะนั้นก็ไร้แสงของพระอาทิตย์เสียแล้ว แม้ปุ๋ยจะแลเห็นหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นได้ไม่ถนัดชัดเจน
แต่ปุ๋ยก็ไม่ไร้เดียงสาจนดูไม่ออกว่าทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่ นายทศบ้านี่คนเดียวที่กระซิบให้ปุ๋ยให้ไปเห็น มันยิ่งทำ
ให้เลือดสาวในตัวปุ๋ยสุบฉีดแรงขึ้น จนหน้าของปุ๋ยแดงกล่ำ

"ขึ้นน้ำเหอะทศ.."

หลังจากปุ๋ยทุบนายทศไปสองสามทีจนรู้สึกเจ็บมือ ปุ๋ยก็ร้องบอกทศเบาๆ แม้พยายามบังคับน้ำเสียงให้ดูปรกติ แต่มันก็ยัง
อดสั่นไหวไม่ได้ เพราะความรุ้สึกในขณะนั้นมันทั้งอาย ทั้งตื่นเต้นที่ได้เห็นภาพจริงๆของการร่วมรักของชาวญี่ปุ่นต่อหน้า
อีกทั้งรุ้สึกว่าตัวเราสองคนนั้นคงกำลังขัดขวางความสุขของชาวญี่ปุ่นทั้งคู่

"อีกแปบนะปุ๋ย.."

น้ำเสียงนายทศก็หาได้ต่างไปจากปุ๋ย มันสั่นแหบพร่าเช่นกัน เมื่อทศยังไม่ยอมขึ้นจากสระ ปุ๋ยก็เลยจำต้องอยู่เป็นเพื่อน
แต่หันหน้ามาทางด้านทศพร้อมหลับตาสนิท ได้ยินเสียงลมหายใจของทศใกล้ๆริมหู มันค่อนข้างดังทีเดียว[/post]

johnywalker



drof666