ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

แฝดอันตราย ep.8-9

เริ่มโดย suckzeed, พฤศจิกายน 12, 2015, 02:22:19 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

 :(ขอความเห็นใจกันสักหน่อยเถอะครับ กับรีพายแบบนี้)

สนุกดีครับ เสียอย่างเดียว สั้นไปหน่อยครับ

ผมรู้ว่าเรื่องที่ผมเขียนในแต่ละตอน จะสั้นๆ คุณอ่านกันเพียงแค่3นาทีก็จบตอน

แต่คุณรุ้กันบ้างมั๊ยครับว่า ไอ้3นาที่ที่คุณอ่านนี่ ผมใช้เวลาประดิษฐ์ประดอยนานแค่ไหน

แต่ละตอนสองชัวโมงกว่าๆ จะเขียนเสร็จ มาให้คุณต่อว่ามันสั้นไปหน่อย

ได้เลย ผมจัดให้คราวละสองตอนควบ แต่จะลงให้อ่าน 3 วันครั้ง ไม่ทุกวันเช่นเดิม



suckzeed.

ep.8

ฉัตรชัยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหมายเลขของคุณหมิว ขณะรอสัญญาณจากปลายสายอีกฝ่ายหนึ่งก็ถอดเสื้อผ้าออกช้าๆ
จนเหลือเพียงกางในสีขาวเพียงตัวเดียว เสียงคุณหมิวคุ่หมั้นสาวก็ดังขึ้น

"สวัสดีค่ะคุณพี่...." ในน้ำเสียงเจือปนกับเสียงหอบหายใจเล็กๆ

"สวัสดีจ๊ะที่รัก.....ทำอะไรอยู่หรือครับ ดูเหมือนพี่ได้ยินเสียงน้องหายใจแรงๆหอบๆ..." ฉัตรชัยถามไปด้วยความเป็นห่วง...

"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...พอดีหมิวกำลังจะไปอาบน้ำ แล้วได้ยินเสียงโทรศัพท์ เลยรีบวิ่งออกมาน่ะค่ะ..." เสียงหวานๆไพเราะของ
คุ่หมั้นทำให้ฉัตรชัยรู้สึกสนุกที่จะเย้าแหย่เธอเล่น โดยเฉพาะเธอบอกว่ากำลังจะอาบน้ำเช่นเดียวกับตัวเขาพอดี

"อ่ะ...จริงหรอครับ..นี่พี่ก็กำลังถอดเสื้อผ้าจะไปอาบน้ำเหมือนกัน ...เหมือนเรานัดกันไว้เลย..." ฉัตรชัยพยายามเน้นคำพูดที่
ว่ากำลังถอดเสื้อผ้า เหมือนอยากให้ฝ่ายตรงข้ามจินตนาการคำพูดของเขา

"อื้ออออ.....คุณพี่ก็..ทำไมต้องเน้นคำพูดตรงนั้นด้วยคะ..." เหมือนจะได้ผลเมื่อคุณหมิวตอบกลับมาอย่างอายๆ

"ขอโทษจ๊ะ...ก็พี่พุดไปตามความจริงว่าพี่กำลังเปลื้องเสื้อผ้าออกจนเปลือยแล้วกำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำอยู่พอดี...." ฉัตรชัย
กรอกเสียงลงไปแล้วทำตามคำพูดทุกอย่าง จนเกิดเสียงเปิดปิดประตูดังแทรกไปยังฝ่ายตรงข้าม

"พอค่ะๆ...แหม..คุณพี่ก็..พูดจนน้องมองเห็นภาพเลย...." คุณหมิวพูดกรั้วเสียงหัวเราะขำๆ เจือปนกับเสียงระคนความตื่นเต้น

"แล้วคุณพี่เอ่อ..มีธุระอะไรด่วนมั๊ยคะ...น้องจะได้อาบน้ำ.." เสียงคุณหมิวที่ฉัตรชัยได้ยินนั้นทั้งหวานทั้งกระเส่าตื่นเต้นจนรู้สึกได้

"ไม่มีธุระอะไรด่วนหรอครับ....พี่แค่คิดถึงน้อง...โดยเฉพาะคิดถึงวันที่เราไปดูเรือนหอด้วยกัน...." ฉัตรชัยเน้นคำพูดด้วยต้องการ
ให้คู่หมั้นสาวนึกภาพบนเตียงในเรือนหอ พร้อมทำเสียงกระเส่าหายใจแรงๆ

"อุ๊ยยย...คุณพี่...หมิวไม่อยากนึกถึงหรอกค่ะ...นึกถึงทีไรใจสั่นทุกที..." คำพูดนั้นแสดงว่าคุณหมิวกำลังนึกถึงอยู่จริงๆ เพราะสุ่ม
เสียงที่เธอตอบกลับมามันบ่งบอกถึงความรุ้สึกของเธอในขณะนั้นให้ฉัตรชัยรับรู้

"น้องหมิวครับ...."

"ขา..."
คุณหมิวตอบกลับมาด้วยเสียงหวานพร้อมขยับขาก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำช้าๆ ปลดผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่แขวนไว้ที่ราว
แสตนเลส แล้วยืนจ้องมองรูปร่างของตนเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่

"ตอนนี้พี่ยังได้กลิ่นแก้มนวลของน้องอยู่เลยนะครับ..."ฉัตรชัยยั่วเย้าต่อ พร้อมรอยยิ้มในขณะที่เป้ากางเกงในเริ่มโป่งพองขึ้น
มาทีละน้อยๆ

"พอเถอะค่ะคุณพี่....หยุดเย้าแหย่หมิวเถอะค่ะ...เพราะตอนนี้หมิวรุ้สึกยังไงไม่รู้..." เสียงตอบจากคุณหมิวกระเส่าเบาหวิว

"น้องจะวางสายแล้วนะคะ..."

"อย่าเพิ่งสิจ๊ะ....พี่คิดถึงน้องหมิวม๊ากมาก...มากจนตอนนี้ตัวพี่ลุมร้อนไปหมดแล้ว...อยากให้น้องมีตาทิพย์จัง จะได้รู้ว่าตัวพี่
ลุ่มร้อนขนาดไหน..."ฉัตรชัยทำเสียงกระซิบกระซาบแผ่วๆเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกให้ฟังตรงข้ามรับรุ้ถึงความรุ้สึก

"ไม่เอาหรอกค่ะ...ขืนมีตาทิพย์ ก็ได้เห็นคุณพี่โป๊น่ะสิคะ.."เสียงกระซิบแผ่วเหมือนกำลังสนุกที่ได้รับรู้ว่าคู่หมั้นหนุ่มของเธอ มี
ความรุ้สึกอย่างใดอยู่

"อ่ะ...ไหนบอกว่าไม่มีตาทิพย์.... ไงคะ..แล้วรู้ได้ไงว่าพี่ลุ่มร้อนจนตัวแข็ง..."พูดไปก็ก้มมองเป้ากางเกงในของตัวเองไป สิ่งที่
อยู่ข้างในก็ตุงโป่งออกมาเป็นลำ

"อุ๊ย..คุณพี่...ทะลึ่งจัง....หมิวยังไม่ได้พูดสักคำว่าตัวคุณพี่แข็ง...."

"ยังไม่ได้พูดหรอจ๊ะ...งั้นพี่บอกเองก็ได้ว่าตอนนี้ตัวพี่ลุ่มร้อนจนแข็งไปหมดเลย..." ฉัตรชัยยั่วเย้าต่อ เน้นคำว่าแข็งด้วยเสียง
กระเส่าชวนให้เกิดจินตนาการ

"ค่า...รับทราบเจ้าค่ะ...ว่าคุณพี่ตัวแข็ง...พอแค่นี้นะคะ...อย่าพูดอีกเลย..ใจหมิวหวิวๆๆจนจะเป็นลมแล้ว.."  

 คุณหมิวสารภาพมาเสียงอ่อยๆ พยายามหลับตาไม่อยากให้เกิดภาพในจินตนาการ รู้สึกว่าตนเองกำลังเสียวสยิวขึ้นมาตรง
ส่วนลี้ลับโหนกนูนที่เธอกำลังจ้องมองอยู่ด้วยความภาคภูมิใจ

"อย่าเพิ่งเป็นลมสิคะ...ถ้าน้องหมิวเป็นลมไปตอนนี้..ใครจะช่วยผายปอดให้ล่ะคะ...แล้วถ้ามีใครขึ้นมาเจอ พี่ฉัตรหวงนะคะ
ว่าคนนั้นจะมาเจอน้องหมิวของพี่กำลังโป๊..."

ฉัตรชัยพูดไป เหมือนดั่งว่าตนเองมีตาทิพย์เสียจริงๆ เพราะว่าคู่หมั้นสาวนั้นกำลังโป๊จนร่างขาวผ่องเปลือยไร้อาภรณ์ปกปิด
แม้สักชิ้นเดียว

"เยิ้ว...พี่อ่ะ....รู้ได้ไงคะว่าหมิวกำลังโป๊...."

เสียงหญิงสาวพูดอายๆหัวเราะขำๆ กับคำพูดของคุ่หมั้นหนุ่ม เหมือนมีตาทิพย์ว่าขณะนั้นเธอกำลังโป๊จริงๆ ตลอดร่างสุงระหง
ของเธอหาได้มีอาภรณ์ปกปิดแม้สักเพียงชิ้นเดียว

"เอ้า...น้องหมิวไม่รู้หรือคะว่าพี่ฉัตรมีตาทิพย์จริงๆ...ตอนนี้พี่กำลังจ้องมองเรือนร่างสวยงามของน้องที่เปลือยขาวผ่องไปทั้ง
ตัว...พี่เห็น...ทรวงอกของน้องขาวผ่องอวบเต่งเต้างอนสวย พี่มองต่ำลงมาเห็นเนินหน้าท้องของน้องแบนราบเอวเล็กคอด
กิ่ว รับกับสะโพกกลมกลึง ก้นน้องหมิวอวบงอนแล้ว..แล้วพี่ยังมองเห็นส่วนนั้นของน้องอวบขาวนวล พี่เห็นมือของน้องกำลัง
ยกไปปิดต้องของสงวนบดบังสายตาของพี่..."

ฉัตรชัยพร่ำเพ้อเคลิบเคลิ้มไปตามความรู้สึก แต่ข้างฝ่ายคุณหมิวคุ่หมั้นสาวกลับหน้าแดงระรื่อเขินอายจนต้องเอามือยกไป
ปิดของสงวนตามที่คู่หมั้นบอกจริงๆ

"คุณพี่ขา...หยุดพูดเถอะค่ะ...คำพูดของคุณพี่..ทำ..ทำให้หมิวใจสั่นไปหมดแล้ว..." เสียงหวานสั่นกระเส่าบ่งบอกถึงความ
รู้สึกเสียวสยิวกับคำพูดเล้าโลมของคนรัก

"พี่ฉัตรขอได้มั๊ยครับ..." เสียงฉัตรชัยสั่นกระเส่า รู้สึกอึดอัดเบื่องล่างที่ดุนดันกางเกงในจนโป่งออกมาเป็นลำยาว

[post]"ขออะไรคะ..." เสียงตอบโต้ของคู่หมั้นสาวก็สั่นกระเส่าไม่แพ้กัน

"พี่เอามือไปจับมือน้องหมิวออกจากตรงนั้นนะคะ...พี่ขอมองของสงวนให้เต็มตา ให้ชื่นใจสักครั้ง...."

ฉัตรชัยพูดพร้อมกับดึงกางเกงในสีขาวของตนเองรูดออกมาตามลำขาแกร่ง ด้านฝ่ายคู่หมั้นสาวก็ค่อยเอามือ ที่เกาะกุมปิด
เนินสาวออกช้าๆ เหมือนทำตามคำขอ

"โอ๊วววว...ช่างสวยเหลือเกิน...ส่วนนั้นของที่รักสวยจนใจพี่ฉัตรเต้นโครมๆแล้วรู้มั๊ย"

เสียงฉัตรชัยเริ่มกระเส่าหนักขึ้น เมื่อฝ่ามือยาวใหญ่ของเขารูดท่อนลำยาวช้าๆ ฝ่ายคุณหมิวก็เอียงอายหน้าแดง เมื่อสายตา
ที่มองผ่านกระจก แลเห็นเนินสาวของตนเองชัดๆเต็มตา ว่ามันโหนกเนินขึ้นมาเป็นเนินหลังเต่าขนาดใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือ
เล็กๆของตนเองทีเดียว

"พี่คะ....หยุดได้มั๊ย...คะ..พี่ทำให้ใจน้องสั่นหวิว จนน้องกลัว.."

"กลัวเรื่องอะไรคะที่รัก...."

"กลัวว่า...พี่ชายจะนึกว่าน้องเป็นคนไม่ดี"

เสียงเบาหวิวของมล.ลาวัลย์ ที่ถูกเลี้ยงเติบโตมาจากวงผู้ดีสารภาพเอียงอาย มือที่จับกุมปกปิดเนินสาวเน้นน้ำหนักนิ้วไป
ด้วยความรุ้สึกเคลิบเคลิ้มไม่รู้ตัว แม้เพียงรสสัมผัสเล็กๆจากปลายนิ้วตนเอง ก็ทำให้หญิงสาวขนลุกเกลียว โดยเฉพาะตรง
หัวนมสีแดงเม็ดเล็กๆ ถึงกับตั้งแข็งอย่างเห็นได้ชัด

"โถ.....อย่าคิดแบบนั้นเลยที่รัก...ในสายตาของพี่ฉัตร ไม่เคยแม้สักครั้งที่จะมองที่รักเช่นนั้น..น้องหมิวก็ทราบดีว่าพี่รักน้อง
มากแค่ไหนปานใด" ฉัตรชัยกระซิบเสียงกระเส่าปลอบโยนคนรักไม่ให้คิดมากกังวลในเรื่องไม่เป็นเรื่อง

"พี่ขา....ที่เรากำลังพูดกันนี้..เขาเรียกว่าsex phone..ใช่มั๊ยคะ..เอ่อ...มันไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่หรือคะ" คู่หมั้นสาวถามมา
เพราะอยากรู้ และกริ่งเกรงว่าสิ่งที่กำลังทำกันอยู่นั้นไม่สมควรทำสำหรับความเป็นกุลสตรีของหล่อน

"คงจะใช่แหละครับ....แต่เราสองคนรักกัน...พูดกันแบนี้ พี่ฉัตรไม่คิดว่าจะเสียหายจนน้องต้องกังวลเลยนะคะ..."

ฉัตรชัยพูดปลุกปลอบใจสาวคนรักไม่ให้คิดมากังวล เมื่อเห็นคนรักเงียบเสียงตอบโต้ มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วแว่วเข้ามา
ให้ได้ยิน ฉัตรชัยก็พอรู้ว่าบัดนี้จิตใจของสาวคนรักกำลังหวั่นไหวกับความรู้สึกเสียวสยิวจากคำพูดของตนเอง มือใหญ่ที่รูด
เล่นลำยาวจึงเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิด จนเสียวซ่านเผลอตัวครางเสียวด้วยความสุขไปให้ฝ่ายตรงข้ามได้ยิน

"พี่ขา...หมิวได้ยินเสียงพี่คราง...เอ่อ...พี่ทำอะไรอยุ่คะ..."

แม้ไม่รู้ว่าคุ่รักหนุ่มทำอะไรอยู่ แต่เสียงครางแผ่วที่ตัวเองได้ยินนั้น ก็ทำให้ใจสาวหวั่นหวิวจนยืนบิดเกร็งหนีบมือที่จุบกุมเนิน
สาวอย่างไม่รู้สึกตัว

"เอ่อ...พี่...พี่จับความแข้งแกร่งของพี่อยู่น่ะครับ..." ได้ยินเสียงสาวคนรักถามมาเช่นนั้น ฉัตรชัยก็พยายามสรรหาคำพูดอ้อมๆ
ที่ไม่ดูเถื่อนดิบ บอกออกไป

"น้องหมิวขา....พี่ฉัตรกำลังรูดเล่นกับความแข็งแกร่งอยู่นะคะ...แล้วน้องหมิวรู้สึกอย่างไรคะที่ได้รู้ ได้ยินเสียงพี่ฉัตรคราง
แบบนั้น"

"พี่ขา....หมิวบอกไม่ถูกค่ะ...รู้แต่ว่าเสียงพี่ ทำให้หมิวใจสั่น ทำให้หมิวเอ่อ...หวิวๆตรงนั้น..."  

เสียงคุณหมิวสารภาพอ่อยๆ มือน้อยๆที่จับกุมเนินสาว สอดยื่นเข้าไปซุกใต้หว่างขาทั้งฝามือแล้วยืนหนีบขาแน่น ความเสียว
ซ่านแผ่กระจายลามโลมจนรู้สึกเหมือนตนเองกำลังล่อยลอยอยู่บนปุยเมฆ

"น้องหมิวขา....พี่...พี่...ซี๊ดดดดด..."ฉัตรชัยจงใจเน้นเสียงครางบ่งบอกความรุ้สึกให้คู่หมั้นสาวรับรู้

"ค่ะพี่....อูยยยยหมิวเสียว....เสียวมากเลยค่ะ...อูยยยยย"

คู่หมั้นสาวตอบโต้คำพูดออกมาด้วยจิตใจเคลิบเคลิ้ม ตาหลับปี๋จินตนาการไปถึงเรือนร่างแข้งแกร่งของชายหนุ่ม มือที่ซุกอยุ่
ใต้หว่างขาเริ่มขยับช้าๆ เน้นๆไปที่เนินสาวจนรุ้สึกถึงความแฉะชื้นที่ไหลทะลักออกมา

"น้อหมิวขา..พี่..พี่ฉัตรรัก...อยากทำรักกับน้องใจจะขาด..." พูดพร้อมกับสาวมือหนักๆ แรงๆ จนเกิดเสียงดังตั๊บๆๆถี่ๆ

"โอ๊ยยยย...พี่คะ...ช่วย...ช่วยน้องด้วย...อูยยยยยเสียว...ใจน้องจะขาดแล้ว..พี่ช่วยน้องด้วย"

ทั้งสองหนุ่มสาวต่างปล่อยอารมณ์ความรู้สึกออกมากันอย่างเต็มที่ ต่างก็ครางเสียวซี๊ดๆๆอูยๆๆออกมากันอย่างไม่เคอะเขิน
เนื่องจากความรู้สึกปรงปรารถนาที่โหมกระพือจนหมดมาดของกุลสตรีและสุภาพบุรุษ จนที่สุดของที่สุดต่างก็ได้รับความ
สุขสมกันจนล้นออกมาเป็นหยาดน้ำกระจัดกระจายเต้มห้องน้ำของทั้งคู่

ep.9

หลังจากคืนที่มล.ลาวัลย์ได้ค้นพบความสุขจากการกระทำของคู่หมั้นหนุ่ม มันก็เหมือนเขาได้ใช้ฆ้อนทำลายกำแพงความ
รู้สึกของคุณหมิวจนพังทะลาย เซ็กส์หาได้น่ากลัวหรือเป็นเรื่องบัดสีตามที่พ่อแม่ ปู่ย่าตายยายของเธอเคยสอนเคยสั่งตั้ง
แต่เธอยังเป็นเด็กน้อย จนมันฝังรากลึกเข้าไปในสมอง จนเธอคิดว่ามันคงลามก คงน่ากลัว จนไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะ
ใช้มือจับต้องของสงวน นอกเสียจากจับเพื่อล้างทำความสอาดเท่านั้น เธอค้นพบว่าถ้าจับมันเล่นไปนานๆ มันก็สร้างความ
เสียวซ่าน จนเธอพบความสุขได้อย่างประหลาด เฉกเช่นในคืนวันนั้น

หลังจากคืนนั้น ต่อมาอีกสองสามคืนติดๆกันที่คุ่หมั้นหนุ่มมารับเธอกลับบ้าน ก่อนจะถึงหน้าบ้านของคุณหมิวจะต้องผ่านที่ดิน
รกร้างว่างเปล่า มีไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกครึ้ม ฉัตรชัยมักจอดรถชิดขอบทาง แล้วพร่ำสอนให้เธอรุ้จักความเสียวซ่าน จนกว่าคุณ
หมิวจะกลับเข้าบ้านก็เมื่อเธอรู้สึกว่าตรงส่วนนั้นของเธอฉ่ำชื้นแฉะได้ด้วยเมือกแห่งความเสียวซ่าน เช่นนี้ทุกครั้งไป
...........................................................
พอถึงวันศุกร์ที่13 เป็นวันที่ฉัตรชัยตั้งใจจะไปค้นหาคุ่แฝดของตนอีกครั้ง จึงแต่งตัวลงมาจากห้องแต่เช้า เขาพบว่ามารดา
นั่งรออยุ่ที่ห้องรับแขก คุณแจ่มจรัสรีบเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของฝาแฝดคนโตเดินลงบรรไดมา

"วันนี้ลูกฉัตรจะออกไปตามหาน้องใช่มั๊ยจ๊ะ...." หญิงชรารีบร้องสอบถาม ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง หวังว่าเย็นนี้ตนน่าจะ
ได้รับข่าวดีจากบุตรชายคนโต

"ครับแม่...เลยกะว่าจะไปแต่เช้า..." ฉัตรชัยตอบยิ้มๆ เหมือนให้กำลังใจกับมารดา เขามองจากดวงตาของผู้เป็นแม่ก็รู้ว่า แม่
ฝากความหวังทั้งหมดอยุ่ที่ตัวเขา

"ทานอาหารเช้าก่อนมั๊ยลูก...แม่ทำข้าวต้มหมูทรงเครื่องไว้ให้แล้วจ๊ะ...."

"ไม่ดีกว่าครับแม่..ผมขอกาแฟแก้วเดียวพอ..." มารดารีบร้องบอกให้สาวรับใช้วัยกลางคนไปจัดการให้กับบุตรชายทันที

"เอ่อแม่ครับ...ผมมีเรื่องสงสัยบางอย่างน่ะครับ...แม่พอจะบอกได้มั๊ยครับว่า ..ทำไมคนนั้นเขาถึงได้เอาน้องไปล่ะครับ.."

ฉัตรชัยรอให้สาวรับใช้กลับเข้าไปที่ครัวแล้วจึงสอบถามมารดา ขณะที่กำลังจิบกาแฟช้าๆ แต่มารดาพอได้ยินคำถามกลับ
อึกอักๆ เหมือนไม่อยากตอบ

"เอ่อ..คือ...ว่า...แม่ไม่อยากพูดเลยลูก...เพราะถึงเขาจะไม่ใช่คนดี....แต่เขาก็เป็นผู้ให้กำเนิดนะลูก...เพราะถ้าแม่พูดไปแล้ว
ลูกของแม่คงเกลียดเขามากกว่านี้อย่างแน่นอน..."

"บอกเถอะครับแม่....ถึงอย่างไรผมก็ไม่นับคนที่ทำร้าย..."

ฉัตรชัยเผลอหลุดปากออกมา แล้วรีบหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เมือมองเห็นใบหน้าของมารดาซีดเผือด เธอคงอยากลืมเรื่องที่เคย
โดนอดีตสามีทำร้ายร่างกาย แต่พอโดนลูกชายพูด เหมือนไปสะกิดโดนแผลที่ตกสะเก็ดไปแล้วให้มีเลือดไหลซิปๆออกมา
อีกครั้ง

"ขอโทษครับแม่...ผมไม่นับเขาคนนั้นเป็นพ่ออยู่แล้ว...." ฉัตรชัยพูดเบาๆ เสียงเข้มเครียด

"จ๊ะลูก....แม่เล่าให้ฟังก็ได้ว่าสาเหตุที่เขาเอาน้องไปด้วยนั้น ไม่ใช่เพราะเขารักน้องมากกว่าฉัตรหรืออย่างไรหรอก เขาตั้งใจ
คว้าเอาตัวลูกไปจะเป็นคนไหนเขาก็คงไม่ได้ใส่ใจ เป็นเพราะว่าเขาเอาไปเพื่อต้องการเอามาเป็นข้อต่อรองเพื่อจะรีดทรัพย์
จากคุณตาน่ะลูก....เพราะหลังจากคืนนั้นอีกสักเดือนนึง เขาก็โทรศัพท์มาหาแม่ บอกให้คุณตาเอาเงินไปแลกกับน้องห้า
แสนบาท แล้วจึงจะคืนน้องให้....ลูกคงแปลกใจว่าทำไมคุณตาถึงไม่แจ้งตำรวจใช่มั๊ยจ๊ะ..." มารดาของฉัตรชัยหยุดเล่าพร้อม
ใช้ปลายผ้าเช็ดน้ำซับน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาสักครู่

"แล้วคุณตาให้เงินไปมั๊ยครับ"

"มันกระทันหันน่ะลูก..คุณตาหาเงินได้สักสามแสนมั้ง ก็เอาไปให้ตามที่นัด แต่พอเค้าเห้นว่าไม่ได้ตามที่เรียกร้อง เค้าก็เลย
เอาเงินไป แต่ไม่คืนน้อง" มารดาของฉัตรชัยเล่ามาถึงตรงนี้ก็สะอื้นไห้ น้ำตาไหลพราก

"ลูกก็รู้นี่จ๊ะว่าคุณตารักษาหน้า รักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลแค่ไหน การที่มีลูกสาวท้องคาบ้านทั้งที่ยังเรียนไม่จบ ก็ทำให้
คุณตาเสียใจ เสียหน้าไปมากเท่าใดแล้ว ครั้นจะไปแจ้งตำรวจจับ คงได้มีการสืบสาวเรื่องราว ว่าเขาคนนั้นเป็นพ่อของลูก
แฝด เขาคนนั้นคืออดีตคนขับรถในบ้าน ลูกลองคิดดูสิจ๊ะว่า...คุณตาจะแบกหน้าอยู่สู้หน้าใครๆได้อีก..."

พอมารดาเล่าเรื่องจบ ก้ทำให้ความสงสัยทั้งหมดที่ฉัตรชัยครุ่นคิดมาตลอด ปราศจากหายไปทันที เขารู้อยู่ภายในใจคน
เดียวว่าเขาควรจะจัดการเรื่องของน้องฝาแฝดอย่างใด หลังจากดื่มกาแฟไปได้เพียงครึ่งแก้ว ฉัตรชัยก็ลุกขึ้นลาแม่แล้ว
ขับรถตรงไปยังปั้มน้ำมันแห่งนั้นทันที

ใช้เวลาไปเพียงชั่วโมงเศษ รถเบ็นซ์คันหรูของฉัตรชัยก็ถึงปั้มน้ำมันแห่งนั้น เขาหยุดลงตรงหัวจ่ายน้ำมัน สองสาวพนักงาน
ของปั้มก็รีบวิ่งเข้ามาหาเพราะจำได้ว่าหนุ่มใหญ่ผุ้นี้คือใคร ฉัตรชัยเตรียมหยิบกระเป๋าสตางค์มาถือไว้ในมือ พอกดปุ่มกระจก
รถเลื่อนลงจนสุด สองสาวก็ชิงกันทักทาย

"สวัสดีค่ะเสี่ย...วันนี้ป้าสมแกมาขายล็อตตอรี่แล้วค่ะ..."

รีบชิงกันบอก เพราะรุ้ว่าเธออาจได้ลาภอีกครั้งเหมือนกับคราวที่แล้วที่เสี่ยหนุ่มผู้นี้สอบถามเรื่องราวของเฮียชัด ก่อนกลับก็
แจกเงินให้เธอกันคนละห้าร้อบบาท

"ขอบใจมากจ๊ะ....เออ...ผมมีคำถามอยู่คำถามหนึ่งนะ...ใครตอบถูกจะได้รางวัล..." ฉัตรชัยค้างคำพูดไว้แล้วหยิบธนบัตรฉบับ
ละพันบาทขึ้นมา

"ผมอยากจะรุ้ว่า...นู๋สองคนเคยเห็นผมมาที่นี่บ้างมั๊ย แล้วมาสอบถามเรื่องใครรึเปล่า..."

สองสาวชะงักกับถามที่แสนแปลกพิสดาร ก็เห็นๆกันอยุ่ว่าเสี่ยหนุ่มคนนี้มาถามหาใคร...ขณะที่กำลังอำอึ่งไม่รุ้ว่าจะตอบ
อย่างไร เด็กสาวชื่อสาที่ดุจะมีไหวพริบมากกว่ากิ๊กของน้องชาย รีบตอบขึ้นมาว่า

"ไม่ค่ะ..นู่ไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อนเลยสักครั้ง...เมื่อไม่เห็นก็เลยไม่รู้เรื่องอะไรทั้งหมด..."

เด็กสาตอบพร้อมกับทำหน้าซื่อใส จนฉัตรชัยยิ้มแล้วส่งธนบัตรใบละพันไปยัดใส่มือของเธอ อีกสาวหนึ่งจึงรีบตอบตาม
เพื่อน แล้วก็ได้รับลาภเช่นเดียวกัน

"ดีมากนู๋...จำคำตอบนี้ไว้นะ...ถ้าเรื่องนี้มีคนรู้มากกว่าอีกหนึ่งคน ก็คงมาจากปากของนู๋สองคน..."

ท้ายเสียงฉัตรชัยทำเสียงเข้มหน้าเข้ม เหมือนเป็นการข่มขู่ สองสาวรีบพยักหน้าพร้อมเพรียงกันแล้วพับเงินใส่กระเป๋าเดิน
เลี่ยงออกไปทันที เหตุที่ทำให้ฉัตรชัยจำเป็นต้องทำหน้าทำเสียงข่มขู่สองสาวก็เพราะไม่อยากให้มีใครไปพูดจนเรื่องนี้
กระจายออกไป

ฉัตรชัยเคลื่อนรถไปจอดใกล้ๆแผงขายล็อตตอรี่ของป้าสม พอเปิดประตุลงจากรถ ป้าสมคนขายล็อตตอรี่ก็เงยหน้าขึ้นมอง
มา เธอตาค้างเมื่อเห็นว่าคุณชัดของเธอขับรถเบ้นซ์คนโตมาทีเดียว

"อูยยยยยคุณชัด...ไปถูกหวยรวยเบอร์มาจากไหนคะนี่...มิน่าล่ะวันนั้นถึงไม่อุดหนุนหวยของป้า  เพราะรวยแล้วนี่เอง"

เหตุที่ป้าสมตกใจ เพราะครั้งนั้นเธอเห็นฉัตรชัยเดินมาจนใกล้ตัวเธอแล้วจึงไม่รุ้ว่าชายผู้ที่เธอคิดว่าเป็นนายชัดนั้นขับรถ
เบ็นซ์คันหรูมา

"ป้าครับ...ผมไม่ใช่นายชัดหรอกครับ...ผมชื่อฉัตรชัย...เด็กสองคนนั้น บอกกับผมว่าป้ารู้จักนายชัดดีใช่มั๊ยครับ...."

น้ำเสียงของฉัตรชัยดูจริงจัง จนป้าสมชักเอะใจหรือว่าเธอจำคนผิดไปจริงๆ แต่ไม่น่าจะใช่ เพราะหน้าตายังงี้มันคือนายชัด
จริงๆ เธอไม่ได้ตาฝาดไปแน่ แม้จะแก่เฒ่าแล้วก็ตามเถอะ....

"เอ่อ..นี่คุณชัด..เอ๊ยคุณฉัตรพูดจริงๆหรือคะ..ไม่ได้มาล้อป้าเล่นน๊า......."

ป้ามสมมองหน้าฉัตรชัยไล่สายตาไปจนทั่วร่าง แล้วเธอก็เชื่อคำพูดของฉัตรชัย เพราะแม้ว่าจะหน้าตาเหมือนกันก็จริง แต่
ผิวพรรณนั้นต่างกันมาก ชายผุ้ยืนตรงหน้าเธอนี้ดูขาวกว่า มีสง่าราศีกว่านายชัดคนที่เธอรุ้จักจริงๆ

"ผมไม่ได้ล้อเล่นครับป้า....ว่าแต่ป้ารุ้จักบ้านช่องของนายชัดจริงมั๊ยครับ..."

ป้าสมยังไม่ทันตอบคำถาม ก็มีหญิงกลางคนจุงเด็กเล็กๆเข้ามาเลือกล็อตตอรี่ของแกในกระบะ ป้าสมจึงหันไปสนใจขาย
ของๆเธอ แต่เลือกไปเลือกมาหญิงคนนั้นก็ไม่ซื้อจุงมือเด็กเข้าไปในร้านเซเว่นเสียแทน

"เอายังงี้ดีมั๊ยครับป้า...ผมเหมาหวยป้าหมดเลย...เพียงแค่ป้าเล่าเรื่องนายชัดให้ผมทราบ ป้าเสียเวลาเล่า แต่ก็ไม่ได้เสีย
เวลาขายหวย เราได้กันทั้งคู่ดีมั๊ยครับ..."

ฉัตรชัยตัดสินใจเหมาซื้อหวยของป้าสม ด้วยไม่อยากให้มีใครมาขัดจังหวะการสนทนาอีกทั้งเขาอยากพาป้าสมไปถามเรื่อง
ราวของน้องชายในที่รโหฐานมากกว่าจะเป็นที่เปิดเผยหน้าเซเว่นแบบนี้ จับพลัดจับผลูอาจมีคนที่รู้จักน้องชายแฝดของตน
มาพบเห็นก็ได้ ยิ่งรุ้มากคนก้คงยิ่งวุ่นวาย[/post]
ครั้นป้าสมได้ยินว่าหนุ่มใหญ่ผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าคนนี้จะเหมาซื้อหวยของแก ป้าสมก็แทบไม่อยากเชื่อหูตนเอง ย้อนถามไปอีก
ครั้งเพื่อความแน่ใจ พอฉัตรชัยพยักหน้ายืนยันพร้อมควักกระเป๋าเงินดึงธนบัตรสีเทาออกมาปึกใหญ่ ป้าสมก็รีบนับจำนวน
หวยที่มีอยู่ทันที

"เอ้อ..ฉลากเลขเดียวมี80คู่ ป้าขายอยุ่คู่ละร้อย...เลขชุด10คุ่ป้าขายชุดละ1200 มี5คู่...รวมเป็นเงิน..เอ่อ..."

ป้าสมหยิบเครื่องคิดเลขมากด ๆ แต่ฉัตรชัยชิงบอกจำนวนเงินขึ้นมาเสียก่อนที่ป้าสมจะคิดเสร้จ แล้วนับเงินส่งให้แกไป
ป้าสมก็ดึงฉลากกินแบ่งของทั้งหมดยื่นส่งให้ ฉัตรชัยรับมาพร้อมกับยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงแบบไม่ใส่ใจนัก จากนั้นก็พา
ป้าสมไปนั่งที่ร้านกาแฟ...ที่เป็นเฟรนไชร์ ของปั้มน้ำมันแห่งนั้นทันที

"เอาละครับ...ป้าเล่าเรื่องนายชัดมาให้ผมรุ้ ได้แล้วใช่มั๊ยครับ..." หลังจากสั่งเครื่องดื่มกันมาคนละแก้วแล้วฉัตรชัยรีบถาม
เข้าเรื่องด้วยความอยากรู้....

"แล้วคุณเอ่อ...."

"ผมฉัตรครับ..."

"ค่ะ...คุณฉัตรอยากรู้เรื่องอะไรของนายชัดเล่าค่ะ..ถามป้ามาเลย..."

"เอ่อ....ผมอยากรู้ว่านายชัดคนนี้เป็นลุกเต้าเหล่าใคร บ้านอยู่ที่ไหน แล้วมีอะไรป้ารู้ก็เล่าๆมาทั้งหมดแหละครับ..." ฉัตรชัยก็
ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะซักไซ้เรื่องราวอันใดกับป้าสม

"ป้ากับนายชัดน่ะเคยอยู่หมู่บ้านเดียวกันค่ะ...แต่ตอนนี้ป้ามาอยู่ในตัวอำเภอแล้วนะ...ป้าเห็นนายชัดตั้งแต่ยังเด็กๆเพิ่งคลาน
ได้อยู่เลย...พ่อของนายชัดน่ะ ชื่อเดช...ป้าไม่รู้หรอกว่าเป็นใครมาจากไหน แต่จู่ๆก็หอบลูกชายมาอาศัยอยู่กับกำนันสิน..ได้
สัก10ปีมั้ง แล้วก็หายหน้าไปไหนไม่มีใครรู้ ทิ้งนายชัดไว้กับกำนันสิน แกก็ไม่มีลูก เลยรับนายชัดเป็นลูกบุญธรรม..."
ป้าสมหยุดเล่าเหมือนกำลังนึกเรื่องราวแต่หนหลัง

"แล้วนายชัดนี่เป็นคนยังไงครับป้า..."

"โอ๊ยยยยยยจุ๊ๆๆๆ...เอาเรื่องเชียวละคุณ..." ป้าสมลดเสียงเบาจนแทบจะเป็นกระซิบกระซาบ

"ยิ่งเป็นลูกของกำนันด้วยละ พ่อชัดนี่ใหญ่คับหมู่บ้านเลยนะพ่อคุณ....เกเร นักเลง เจ้าชู้ ขนาดเมียแม่หวานที่อยู่กันทุกวันนี้
ยังพาพรรคพวกไปดักฉุดมาจากเวทีประกวดนางสงกราต์เลยพ่อคุ๊ณ....." ฉัตรชัยได้ยินชื่อเสียงทางด้านไม่ดีของน้องชาย
ฝาแฝดถึงกลับกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอดังเอื๊อก...

luckman

 ::Grimace:: กะจะให้เจอกันตอนไหนเนี่ย แอบยืดเรื่อง(เพื่อจะดึงเข้าหาอะไรบางอย่างหรือเปล่า) อิอิอุอุ

dan49

เรื่องกำลังดำเนืนต่อไป อีกไม่นานคงจะได้รู้เรื่ิงนายชัดจากป้าขายลอตเตอรี่จนหมด5555555