ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

แฝดอันตราย ep.10-11

เริ่มโดย suckzeed, พฤศจิกายน 16, 2015, 01:41:11 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

ep.10

"แล้วมีอะไรอีกมั๊ยครับป้า...เอ่อ..อย่างเช่นนายชัดเคย...มีคดีอะไรต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมั๊ยครับ..." ฉัตรชัยสอบถามเพราะอยาก
เก็บข้อมูงของน้องชายฝาแฝดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"เอ...เท่าที่ป้ารู้นะ...ป้าว่าไม่เคยมีนะคะ...ขนาดตอนที่ฉุดนางงามสงกรานต์มาเป็นเมีย...เอ่อ..ยังไม่โดนตำรวจจับเลย เพราะ
พ่อกำนันเค้าช่วยไว้ สมยอมความกะแม่ของแม่หวานเค้า...แล้วจับแต่งงานกัน ป้ายังไปร่วมงานของเค้าเลย...ส่วนเรื่องนักเลง
เกเร...ก็มีบ้างล่ะค่ะ...แต่คุณชัดไม่ใช่ประเภทตีหัวหมาด่าแม่เจ็กน่ะคะ...แต่สิบปีหลังจากที่ป้าย้ายออกมาอยู่ในอำภอ...ป้าก็
ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรจากนั้นมาค่ะ...." ป้าสมเล่าจบก็จ้องมองหน้าฉัตรชัยเขม็ง

"คุณคะ...ป้าถามอะไรสักอย่างได้มั๊ยคะ...."

"ผมว่าอย่าถามอะไรเลยดีกว่าครับป้า...ป้ารู้เรื่องน้อยที่สุดผมว่ามันจะดีกับป้าเอง...ป้าคิดว่านายชัดของป้าร้ายมั๊ยล่ะครับ.."
ฉัตรชัยปั้นหน้าเคร่ง ทำเสียงเข้มแข็ง

"ก็..ก็ร้ายสิคะ..." เสียงป้าสมตอบอ่อยๆ

"แต่ผมน่ะ...ร้ายกว่านายชัดสิบเท่า....ฉนั้นหวังว่าหลังจากนี้ป้าคงไม่เอาเรื่องที่ผมอยากรู้จักนายชัดไปบอกใคร...ใช่มั๊ยครับ..."

หลังจากฉัตรชัยพูดจบป้าสมก็ทำคอย่น เริ่มรู้สึกว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าผู้นี้คงร้ายกาจกว่านายชัดตามคำที่บอกจริงๆ จึงสั่นหัว
ด๊อกแด๊กสาบานว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟัง

"ดีมากครับ นับจากนี้ผมหวังว่าป้าคงจะไม่เคยรู้จักผมมาก่อนเลยจริงมั๊ยครับ..."

ฉัตรชัยปั้นหน้าดุ เอาจริง จนป้าสมคิดว่าเงินที่เหมาล็อตตอรี่นี่มันจะคุ้มกับชีวิตแก่ๆของตนเองแค่ไหน ทำได้เพียงพยักหน้า
หงึกๆ ตามคำที่ฉัตรชัยบอก

"คราวนี้คือข้อสุดท้ายที่ป้าจะต้องทำให้ผม...คือการไปพานายชัดมาหาผมที่นี่ โดยไม่ต้องบอกให้ใครรู้...ป้าทำได้มั๊ยครับ แต่
ผมไม่ใช้งานป้าฟรีๆหรอก ผมจะให้ป้าอีก5พันบาท..ว่าไงครับ,.."

ฉัตรชัยพูดจบก็ควักธนบัตรมานับ แต่ยังไม่ทันส่งให้ป้าสม เสียงรถกระบะก็วิ่งโครมครามเข้ามาที่ปัมน้ำมัน เสียงเครื่องยนต์กับ
ควันสีดำที่พ่นออกมาจากท่อไอเสียนั้น บ่งบอกให้รู้เลยว่ารถคันนี้ไม่น่าจะเอาออกมาวิ่งแล้ว เหมาะสำหรับการเอาไปทำที่ปลูก
พืชผักสวนครัวเสียมากกว่า แต่ป้าสมที่มองไปยังรถต้นเสียงนั้นกลับทำท่าทางโล่งอก เพราะแกไม่จำเป็นต้องลำบากทำตาม
ความต้องการสุดท้ายของฉัตรชัย เนื่องด้วยคนที่ขับรถกระบะโกโรโกโสคันนี้ก็คือนายชัด คนที่กำลังพูดถึงนั่นเอง

"คุณคะ...รถนั่นแหละค่ะของนายชัด....งั้นป้าไปบอกแกให้นะคะว่ามีคนมารอพบที่ร้านกาแฟ..." พูดจบก็เตรียมตัวขยับลุกขึ้น
แต่ต้องชะงักเมื่อฉัตรชัยสั่งให้รอ จากนั้นก็ยัดเงินจำนวนห้าพันใส่มือป้าสม แล้วบอกว่า

"ผมถือว่าผมได้พบนายชัดของป้าแล้ว แม้ว่าป้าจะไม่ได้ไปตามหา ผมก็ให้เงินป้าไว้ครับ แต่ป้าคงจำคำพูดที่ผมบอกก่อนหน้า
นี้นะครับว่า...ขอให้เป็นความลับ..."

ป้าสมพยักหน้าหงึกๆ ทั้งดีใจที่ได้เงินใช้ฟรีๆ ไหนจะขายล็อตตอรี่หมดไปแม้จะเป็นเพียงแค่วันที่13ก่อนหวยจะออกตั้งหลาย
วัน แต่ก็รุ้สึกหวั่นใจลึกๆ อยู่เช่นกันว่า แกจะลำบากที่มีส่วนรู้เรื่องราวของหนุ่มสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกันบ้างมั๊ย แต่คงยัง
ไม่สามารถคิดถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าได้มากนัก เมื่อบุรุษที่นั่งตรงข้าม บุ๊ยปากให้ป้าสมรีบไปดักนายชัดก่อนที่จะเคลื่อนรถออก
จากปั้ม

ฉัตรชัยมองตามหลังป้าสมที่เดินไปหานายชัดน้องชายฝาแฝดของตน เห็นซุบซิบๆกันพร้อมชี้มือมายังตนเอง นายชัดมอง
ตามมือของป้าสมที่ชี้ แม้จะอยุ่ห่างกันพอสมควร แต่สายตาของฝาแฝดที่ประสานกันนั้น ต่างก็ตะลึง เหมือนตนเองกำลังยืน
มองภาพตัวเองผ่านกระจกเงา ภาพหนึ่งยืนข้างรถกระบะเก่าๆ ผิวหน้ากร้านแดด อีกภาพเป็นชายหนุ่มหน้าผ่องใสมีราศี นั่ง
อยู่ที่ร้านกาแฟ ฉัตรชัยมองเห็นายชัดขึ้นรถแล้วขับมาจอดใกล้ๆร้านกาแฟ จึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหา ก่อนที่น้องชายฝาแฝด
จะเปิดประตุรถลงมา

"ชัด..นายตามพี่มา.."

สายตาสองคุ่ประสานกันในระยะใกล้ ในสายตาของแฝดผู้น้องนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกตื่นเต้นดีใจ หรือประหลาดใจแต่อย่าง
ใดแม้สักนิดที่จู่ๆ มีชายหน้าตาเหมือนกันมาบอกให้เดินตามมาที่รถ ชัดชัยค่อยๆก้าวลงจากรถกระบะของตนเองปิดประตูดังปัง
แต่ไม่ได้ล็อครถ เดินตามหลังชายหน้าเหมือนไปนั่งฝั่งด้านข้างของคนขับ

"ดูเหมือนกับว่านายไม่ตื่นเต้นดีใจ หรือประหลาดใจที่จู่ๆเราได้มาพบกัน..." ฉัตรชัยถามพร้อมกับสตาร์ทรถ

"ไม่..เรารู้มานานแล้วว่าเรามีพี่ชายฝาแฝด...เราเลยไม่ประหลาดใจ...แต่ก็ดีใจนะที่เราได้พบนาย...ว่าแต่นายจะพาเราไปไหน
กัน..."

คำตอบของน้องชาย ทำให้ฉัตรชัยพอคาดเดาได้ว่าแฝดผู้น้องนั้นรู้ตัวมานานแล้วว่ามีพี่ชายฝาแฝดอีกคน ต่างกับตนเองที่ไม่
เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน จนเมื่อเกือบเดือนที่ผ่านมาจึงรับรู้จากปากของมารดา

"ไม่ได้พาไปไหนหรอก...พี่แค่ขับรถคุยกันกับนาย..."

ฉัตรชัยตอบเรื่อยๆ อยากดีใจที่เจอกับน้องชายฝาแฝด แต่จากสายตาที่มองสบกัน ทำให้ฉัตรชัยกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรบาง
อย่างมาขวางกั้นความดีใจนั้นเอาไว้

"แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่..." ชัดชายถามพี่ชายฝาแฝด ทำให้ฉัตรชัยต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องชายฟังตั้งแต่เริ่ม
ต้นที่ปั้มแห่งนี้จนจบ

"พะ..พ่อ..เรายังอยู่มั๊ย..." แม้ฉัตรชัยจะไม่อยากเรียกคนๆนั้นว่าพ่อ แต่ก็จำใจเรียก

"ไม่รู้...เราไม่ได้เจอพ่อตั้งเกือบ30ปีแล้ว..." ชัดชายตอบเสียงเรียบไม่แสดงความรุ้สึกอย่างใด

"พ่อ..เป็นคนบอกนายใช่มั๊ยว่า นายมีพี่ชายฝาแฝดอยู่..."

"อืมมมม...แล้วแม่ล่ะ..เป็นไงบ้าง..." คุยกันมาตั้งนาน ชัดชายเพิ่งจะเอ่ยปากถามเรื่องมารดา

"ก็สบายดี...แม่อยากพบนายมาก...นายพอมีเวลาว่างไปหาแม่กับพี่มั๊ย..."ชัดชายนิ่งเงียบไปสักครุ่

"จะให้ไปเมื่อไหร่...."

"วันนี้ก็ได้ถ้านายว่าง...."

"ก็ดี....เราอยากพบแม่เหมือนกัน แต่เราต้องกลับไปบอกเมียก่อน..." น้ำเสียงของชัดชายไม่ได้บ่งบอกเลยว่าจะรุ้สึกแบบนั้น

"ไปรับลูกเมียนายเลยก็ได้นะ...แม่คงอยากเจอทั้งสองคน..." ฉัตรชัยบอกไปตามความรู้สึกของตนเองว่ามารดาคงอยากเจอ
ลูกสะใภ้คนเล็กกับหลาน

"อย่าเลย..ยุ่งยากเปล่าๆ...นายขับรถไปตามทางนี้แหละ...เดี๋ยวเราบอกทางไปบ้านเราให้ เราไปบอกเมียเราก่อนว่าจะไปธุระ.."

ตลอดเวลาที่ผ่านมาครู่ใหญ่แล้วฉัตรชัยก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแม้แต่สักนิดว่าน้องชายฝาแฝดของตนเองนั้นไม่เคยเรียกตน
ว่าพี่แม้แต่คำเดียว จากนั้นฉัตรชัยก็ซักถามถึงครอบครัวความเป็นอยู่ของน้องชายฝาแฝด ทำให้รู้เรื่องว่าตนเองมีหลานสาว
อยู่อีกคน

"หยุดตรงนี้ละ..."

ชัดชายสั่งให้พี่ชายฝาแฝดหยุดรถรอตรงศาลารถประจำทาง แล้วก็เปิดประตูรถลงไปนั่งรถเครื่องรับจ้าง เข้าไปตามถนนราด
ยางเส้นเล็กๆ ผ่านเข้าไปยังหมู่บ้านที่มองเห็นหลังคาเรียงรายลิบๆ จนหายไปกว่าครึ่งชั่วโมง ชัดชายก็กลับมาขึ้นรถ แล้วบอก
ว่าไปกันได้ละ

ฉัตรชัยจึงขับรถกลับบ้านไปหามารดาของตนเองทันที ก่อนจะถึงบ้านฉัตรชัยโทรศัพท์เข้าไปบอกให้มารดาทราบก่อนว่ากำลัง
พานายชัดลูกแฝดอีกคนไปหา แล้วก็ได้ยินเสียงมารดาพูดออกมาด้วยความดีใจทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะสลับกัน เหมือนยังตั้งสติ
ไม่ได้ จนรถผ่านประตุรั้วเข้ามา เขาก็เห็นมามารดามายืนดักรออยู่หน้าบ้านแล้วด้วยความดีใจ

"ลูกชัดของแม่ โฮๆๆๆ..."

คุณนายแจ่มจรัสถลาวิ่งออกมายืนข้างประตุรถ พอนายชัดเปิดลงมา ก็โผเข้ากอดแน่นทั้งร้องไห้ทั้งดีใจ ทั้งกอดทั้งจูบลูกชาย
ฝาแฝดผู้น้อง ที่พลัดพรากจากไปตั้งแต่ยังแบเบาะ ข้างฝ่ายชัดชายนั้นกลับยืนนิ่งปล่อยให้มารดากอดจูบไม่ได้ตอบโต้ ยังคง
ยืนนิ่งทิ้งมือสองข้างแนบลำตัว ไม่ได้กอดผุ้เป็นมารดาตอบโต้ แต่ก็ไม่เบี่ยงกายถอยหนี ฉัตรชัยมองภาพตรงหน้า ไม่ได้เห็น
ถึงความผิดปรกติ เพราะมัวแต่ดีใจแทนผู้เป็นมารดาที่ได้พบน้องชายอีกครั้ง

จากนั้นทั้งสามคนก็พากันเดินเข้าไปยังห้องรับแขก มารดาของฉัตรชัยจูงลูกชายแฝดคนเล็กไปนั่งข้างตนเองตรงข้ามกับ
ลุกชายอีกคน สองแขนของนางกอดรัดร่างบุตรชายคนเล็กไม่ห่างเหมือนกับกลัวว่าเขาจะพลัดพรากจากไปอีกครั้ง แล้วสอบ
ถามเรื่องราวของน้องชาย นายชัดชายก็ตอบคำถามไปทีละคำตามที่มารดาถามมา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ฉัตรชัยรับรู้มา
ก่อนหน้านี้แล้ว

"ลูก...พาครอบครัวมาอยู่กับแม่นะลุกนะ..." ท้ายสุดคุณนายแจ่มจรัสก้ร้องขอให้บุตรชายแฝดคนเล็กพาลูกและเมียมาอยุ่กับ
นางที่บ้าน ใบหน้าที่ดีใจปลื้มปิติของนางกลับเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำตอบจากลูกชาย

"อย่าดีกว่าแม่....ผมเคยชินเสียแล้วกับชีวิตบ้านนอก ไม่อยากมาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพหรอกครับ"..

นายชัดชายตอบเรียบๆ หน้านิ่งสนิทจนแฝดผู้พี่ไม่กล้าคาดเดาว่าตอบมาด้วยอารมณ์แบบไหน จะน้อยใจผุ้เป็นมารดา หรือว่า
ไม่ชอบจริงๆ

"ทำไมล่ะลูก....บ้านของเราออกใหญ่โต...อีกไม่ถึงเดือนพี่เค้าก็แต่งงานไปอยู่บ้านใหม่แล้ว ลูกมาอยู่กับแม่เถอะนะลูก..." แม้
จะพูดยังไง ลงทุนอ้อนวอนอย่างไร นายชัดชายก็ยืนกรานคำพูดเดิม

"เอางี้นะแม่..ผมขอถามแม่แค่คำเดียวได้มั๊ยว่า....ทำไมแม่เลือกนายฉัตร...วันนั้นทำไมแม่ไม่เลือกผม..."

น้ำเสียงของชัดชายเข้มเครียด ใบหน้าแสดงความรู้สึกปวดร้าวออกมาชัดเจน จนคุณนายแจ่มจรัสงุนงง ไม่เข้าใจว่าลูกชาย
แฝดคนเล็กถามมาแบบนี้ เพราะเข้าใจอะไรผิดอย่างไร

"เปล่านะลูก...แม่ได้เลือกพี่เค้า...ที่จริงแม่ไม่ได้มีโอกาสเลือกลูกคนไหนเลย..พ่อของลูกเค้าคว้าเอาตัวลูกไปเอง.."

คุณนายแจ่มจรัสพยายามอธิบายให้ลูกชายฟัง แต่ชัดชายกลับทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในคำพูดนั้น ด้วยยังจำคำของบิดาที่
พร่ำบอกกรอกหูมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ว่า ตาของตนเองกีดกันความรักของพ่อกับแม่ แล้วไล่ให้พ่อออกจากบ้านเนื่องจาก
พ่อเป็นคนจน จากนั้นพ่อก็พยายามขอลูกสองคนมาเลี้ยงเอง แต่แม่ไม่ยอมให้ทั้งหมด แม่เลือกแฝดคนเล็กให้พ่อ ตนเอง
เอาแฝดคนโตไว้เลี้ยงเอง.... แม้มารดาจะพยายามอธิบายอย่างไร นายชัดชายก็หาได้เชื่อถือยังคงจำคำพูดกรอกหูของคน
เป็นพ่อไว้ไม่ลืมเลือน

ep.11

[post]"ผมก็ไม่รุ้ว่าพ่อหรือแม่ใครกันแน่ที่พูดปด......" ชัดชายพูดยังไม่ทัจบคำก็ถูกพี่ชายฝาแฝดตำหนิว่าห้ามพูดกับแม่แบบนั้น

"ก็ถ้านายมาเป็นเรา มาลำบากแบบเรา นายจะคิดบ้างมั๊ยว่า ทำไมแม่ถึงเลือกนาย ไม่เลือกเรา...เพราะนายอยู่อย่างสบายมี
เงินมีบ้านหรูหราน่าอยู่ มีการศึกษา มีรถหลายล้านขับ แต่เราล่ะ มีอะไร...เราไม่เคยมีอะไรสักอย่าง ฉนั้นนายอย่ามาพูดดีกว่า"
ชัดชายหันมาพูดเสียงกร้าวใส่แฝดคนพี่..

"ผมกลับนะแม่...."

หลังจากทุ่มเถียงกับฉัตรชัยจบ ก็รีบบอกลาคุณนายแจ่มจรัส พร้อมลุกขึ้นยืน จนนางต้องถลากอดรัดร่างลูกชายแฝดคนเล็ก
ไว้แน่น พร้อมร้องไห้ฟูมฟาย...

"อย่าไปลูก...โฮๆๆ อย่าทิ้งแม่ไปอีกเลยลูกจ๋า....โฮๆๆๆๆๆ  พ่อฉัตรช่วยพูดกับน้องให้แม่ด้วย....โฮๆๆๆๆ.."

แม้คุณนายแจ่มจรัสจะฉุดยึดร่างบุตรชายคนเล็กไว้แน่นปานใด แต่เขากลับลุกขึ้นยืนแล้วย่างก้าวลากร่างบอบบางของ
มารดาไปตามทาง จนฉัตรชัยต้องเข้าไปยึดแขนน้องชายแน่น พร้อมถามกลับไป

"นายต้องการอย่างไร..บอกมาสิ พี่จะทำทุกอย่างให้นาย..ขอเพียงนายอย่าทำแบบนี้กับแม่..." สิ้นคำพูดของฉัตรชัย ทำให้
แฝดผู้น้องชะงักหันหน้ากลับมายิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำว่า.....
 
"เราไม่ใช่ขอทาน....เก็บข้าวของเงินทองของนายไว้เถอะ...แม่ผมกลับล่ะ...." ชัดชายพูดจบก็พยามแกะมือของมารดาที่
กอดยึดไว้

"ลูกจ๋า.....อย่าไปเลยลูก...แม่เฝ้ารอลูกมากว่า30ปี แล้วลูกจะทิ้งแม่ไปอย่างนี้ได้ยังไง....โฮๆๆๆๆ....ฉัตรช่วยแม่ด้วย..."

ขาดคำร่างคุณนายแจ่มจรัสก็ทรุดฮวบอย่างอ่อนแรง ใบหน้าขาวซีด เหมือนกำลังจะเป็นลม ฉัตรชัยถลาไปประคองร่างมารดา
ขณะที่ชัดชายกับยืนมองนิ่งเฉย เหมือนคนไร้หัวใจ แต่ก็ยังไม่ได้ขยับเดินไปไหน ผ่านไปสักครู่มารดาของฝาแฝดค่อยมีสติ
ถลาไปกอดบุตรชายคนเล็กอีกครั้ง

"อย่าทิ้งแม่ไปเลยนะลุกจ๋า....ข้าวของเงินทองในส่วนของลูก แม่เตรียมไว้แล้ว...พาลูกเมียมาอยุ่กับแม่นี่บ้านหลังนี้นะลูกนะ
แม่จะยกให้หนูทั้งหมดคนเดียวเลย..."

ชัดชายยังคงนิ่งเงียบเหมือนไม่ยินดีที่มารดาออกปากจะยกเรือนหลังใหญ่นี้ให้...ส่วนฉัตรชัยนั้นไม่ได้มีความคิดริษยาน้องชาย
ฝาแฝดแม้แต่น้อย ทั้งที่ตนควรมีส่วนในสมบัติของมารดากึ่งหนึ่ง..

"ชัด...พี่ขอสักครั้งเถอะ...ถ้านายยังคิดว่าพี่กับแม่ยังชดเชยให้นายไม่พอ เราจะยกที่ดินที่แม่ให้พี่กับนายก็ยังได้ หรือถ้ายังไม่
พอใจอีก รถเราไงนายเลือกเอาไปคันหนึ่ง คันไหนก็ได้ เรายกให้...."

ข้อเสนอของฉัตรชัยแฝดผู้พี่ ทำให้แฝดผู้น้องถึงกับอึ้งยืนนิ่ง แต่ทว่าคำตอบของชัดชายกลับทำให้ทั้งมารดาและพี่ชายฝา
แฝดต่างตะลึงกับข้อเสนอพิลึกพิลั่นนั้น อย่างคาดคิดไม่ถึง

"นายเคยลำบากเหมือนเรามั๊ย...ต้องอยู่อย่างคนไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ แม้จะได้ชื่อว่าลูก
ของกำนัน แต่ความจริงมันก็แค่ลูกเลี้ยง หรือพูดง่ายๆก็คือเด็กในความอุปถัมย์...เราใช้ชีวิตอย่างลำบากยากไร้มากกว่า30ปี
ในขณะที่นายเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทอง นายมีการศึกษา มีหน้าตาในสังคม ..เพียงเพราะแม่เลือกนายแล้วผลักไสให้
เราไปอยุ่กับพ่อ....ก็ได้ถ้านายอยากชดใช้คืนให้กับเรา...ฟังเราชัดๆนะ...นายกลับเรามาสลับตัวกัน เราลำบากมาสามสิบปี
เราขอให้นายไปลำบากแบบเราสัก30วันก็พอ...น้ำหน้าอย่างนายทำได้มั๊ยล่ะ... ถ้าทำได้เราจึงจะอยู่กับแม่....."

คุณนายแจ่มจรัสมองหน้าบุตรชายฝาแฝดทั้งสองคนสลับไปมา แม้ใจจะอยากให้ลูกแฝดคนพี่ยอมทำตามที่น้องเสนอ แต่
นางก็ไม่สามารถบังคับให้เขาทำเช่นนี้ได้ เพราะเกรงกลัวว่าเรื่องในอนาคตมันจะยุ่งยากสับสน เพราะยังมีผู้คนอีกหลายชีวิต
ที่เกี่ยวพันอยู่ด้วย

"ได้...พี่ยอมทำตามที่นายต้องการ...." คำตอบของฉัตรชัยถึงกับทำให้มารดาตกตะลึงรีบร้องทัดทานว่า

"ทำแบบนี้ไม่ได้นะพ่อฉัตร..." เพราะรุ้ว่าอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนลูกชายคนโตของนางก็จะเข้าพิธีวิวาห์กับหนูหมิวแล้ว แต่ชัดชาย
ถึงกลับแอบซ่อนยิ้มดีใจไว้ภายใต้วงหน้าที่ปั้นแต่งให้จริงจัง

"ไม่เป็นไรหรอกครับแม่..." ฉัตรชัยตอบเรียบๆ ใบหน้าไม่แสดงความรุ้สึกหวั่นไหวแต่ประการใด

"แม่เป็นพยานด้วยนะ....ครับ..."

คุณนายแจ่มจรัสนิ่งเงียบ วงหน้าชราของนางเต็มไปด้วยความกังวลสับสน จ้องมองหน้าลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนสลับไป
สลับมา ใจหนึ่งก็ดีใจที่จะได้ลูกชายคนเล็กมาอยู่ด้วย แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารลุกชายคนโตที่จำต้องยอมทำแบบนี้เพื่อนาง
ทั้งๆที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

"แล้วพี่จะต้องทำอย่างไรบ้างว่ามา...." ฉัตรชัยต้องการแสดงให้น้องเห็นว่าตนเองหาได้กลัวความยากลำบกแม้แต่ประการใด

"ง่ายๆ... นายไปอยู่ที่บ้านเราแต่ไม่ใช่ไปปิคนิคพักร้อนที่บ้านนอกในฐานะของพี่ชาย...นายไปอยู่เป็นตัวของเรา...โดยต้อง
ไม่ให้ลูกเมียเรารู้...ส่วนตัวเราจะอยู่กับแม่...ไม่ต้องกลัว..เราไม่ไปยุ่งกับงานของนายหรอก...เพราะเราทำไม่เป็น แต่นายต้อง
ไปทำงานแบบที่เราทำมาตลอด...ฉนั้น เพื่อให้เรามั่นใจว่านายทำได้ลำบากเป็น นายเอาบัตรเครดิตทั้งหมดของนายมาฝาก
ไว้กับแม่ เราให้นายใช้เฉพาะเงินที่มีเหลือติดกระเป๋าในตอนนี้เท่านั้น...อ่อ...เอาบัตรประชาชนมาสลับกับเราด้วย...เผื่อเมีย
เราเห็นจะสงสัยได้...."

ฉัตรชัยยอมทำตามความต้องการทุกอย่างของน้องชาย แม้การมอบประชาชนจะเกิดความเสี่ยงอย่างสูงในการยืนยันตนเอง
แต่ในขณะนั้นฉัตรชัยกลับไม่ได้นึกคิดถึงระแวงว่าน้องตนเองจะมีแผนการร้ายแต่อย่างใด เพียงเข้าใจว่าน้องคงทำเพื่ออยาก
ให้ตนเองรู้จักความยากลำบากบ้างเท่านั้นเอง

"จะปิดบังลูกเมียได้ยังไงล่ะลูก คนเคยอยู่ร่วมกันมาสิบยี่สิบปี ย่อมมองออกบ้างล่ะว่านั่นไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่สามีตนเอง" คุณนาย
แจ่มจรัสแย้งขึ้น พร้อมยื่นมือมารับเอกสารบัตรเครดิตต่างๆของบุตรชายคนโตเก็บไว้

"ไม่รู้ล่ะ นั่นต้องแล้วแต่ความสามารถของลูกชายแม่..."

ชัดชายตอบกลับมารดา แล้วทำหน้ายิ้มเหมือนสะใจที่ได้แกล้งพี่ชายฝาแฝดของตนเอง ส่วนฉัตรชัยนิ่งใช้ความคิด จ้อง
มองน้องชายตลอดร่าง แม้สองคนจะมีหน้าตาเหมือนกัน สุ่มเสียงออกโทนเสียงเดียวกันก็จริง หลอกคนห่างน่ะพอได้ แต่จะ
มาหลอกคนใกล้ชิดทั้งเมียทั้งลูกของน้องชายคงลำบาก

เพราะยังมีข้อสังเกตุอยุ่มากมายตั้งแต่ทรงผมต่างกัน ผิวหน้าและสีผิวตามร่างก็ต่างกัน แม้จะไม่มากนัก แต่ตบตาเมียของ
น้องชายไม่ได้แน่นอน มีวิธีเดียวต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามสี่อาทิตย์หรืออาจจะหนึ่งเดือน ที่จะทำการเปลี่ยนรายละเอียด
ต่างๆที่ผิดแผกต่างกันให้ดูกลมกลืน

ฉัตรชัยจึงบอกน้องชายตนเองไปตามที่คิดไว้ ซึ่งชัดชายก็เห็นตามนั้นด้วย จึงตกลงกันที่จะต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อม
เสียก่อน หลังจากนั้นฉัตรชัยก็ขับรถไปส่งน้องที่ปั้มน้ำมันแห่งนั้นอีกครั้ง แล้วนัดเจอกันในวันรุ่งขึ้นอีกที โดยให้น้องชายสร้าง
เรื่องว่าจะไปธุระต่างจังหวัดสักหนึ่งเดือน แล้วฝาแฝดทั้งสองค่อยมาเก็บตัวร่วมกัน เพื่อปรับเปลี่ยนทั้งพฤติกรรม นิสัย ทรงผม
ผิวหน้าและสีผิว โดยพึ่งวิทยาการสมัยใหม่ ฉัตรชัยยอมเสียเงินจำนวนมากเพื่อทำให้ความต้องการของน้องชายสัมฤทธิ์ผล
พร้อมทั้งเรียนรู้ถึงบุคคลรอบข้างที่อาจบังเอิญเข้ามาเกี่ยวข้อง

จนกระทั่งผ่านไปเพียงสามอาทิตย์ ที่ทั้งสองคนเก็บตัวร่วมกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ถึงวันที่พร้อมจะใช้ชีวิตสลับตัวกันตามความ
ต้องการของน้องชายแล้ว ฝาแฝดทั้งสองจึงกลับมาหามารดาด้วยเครื่องแต่งกายที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว แต่ทว่าทรงผม
ของทั้งสองคนก็ยังเป็นแบบเดิม รวมทั้งผิวหน้าผิวพรรณก็หาได้เปลี่ยนแปลงไปแม้สักนิด

"แม่ว่าเลิกความคิดแบบนี้เถอะลูก....สามสี่อาทิตย์แล้ว แมก็ยังจำได้อยู่ดีแหละว่าคนไหนลูกฉัตร คนไหนลุกชัด"

เสียงคุณนายแจ่มจรัสบอกชัดถึงความเหนื่อยหน่ายใจ ที่แผนการของแฝดคนน้องไร้ผล ด้วยเกรงว่าเขาจะเปลี่ยนใจกลับ
ไปบ้านนอกไม่กลับมาอยู่กับนางอีก พูดพร้อมเข้าไปกอดรัดร่างของลูกแฝดคนเล็กแน่น

"ลูกเอ๋ย...แม่ว่าล้มเลิกแผนนี้เถอะนะ...ลูกพาแม่ไปหาเมียกับลูกที่บ้าน ไปรับเค้ามาอยู่กับแม่เถอะนะจ๊ะ..." คุณนายแจ่มจรัส
เงยหน้าสบตากับลุกชายคนเล็กแล้วร้องขอ

"แม่ครับ...ถ้าแม่จะพูดกับนายชัด เขานั่งอยู่ตรงโน้นครับ นี่ผมฉัตร..."

ฉัตรชัยพูดยิ้มๆ ในความสำเร็จที่สามารถทำให้แม่จำตนเองไม่ได้ คิดว่าเป็นน้องชาย มารดาได้ยินดังนั้นถึงกับทำหน้างุนงง
ไม่เข้าใจว่านางจำลูกชายผิดคนหรือว่าสองคนกำลังแกล้งหลอกตนเองกันแน่

"ชัด.....อย่าล้อเล่นกับแม่แบบนี้สิลูก...พ่อฉัตรก็อีกคน มาหลอกแม่ได้ยังไง.." คุณนายแจ่มจรัสพูดแล้วก็มองค้อนบุตรชายอีก
คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม เพราะแน่ใจว่าคนนั้นคงเป็นฉัตรชัยแน่นอน

"สำเร็จละนายฉัตร ขนาดแม่ยังจำเราไม่ได้ แล้วคนอื่นจะจำเราได้ยังไง..."

ลูกชายที่นั่งตรงข้ามในคราบของฉัตรชัย แต่คำพูดกลับกลายเป็นชัดชายเสียแทน ยิ่งทำให้คุณนายแจ่มจรัสมารดาของฝา
แฝดทั้งสองงุนงงหนักขึ้น นางรีบตรงไปคว้าตัวบุตรชายคนโตจับเขาหันหลังพร้อมถลกเสื้อยืดขึ้นไปจนถึงกลางหลังนางรู้ว่า
กลางหลังของบุตรชายคนโตนั้นมีปานสีน้ำตาลขนาดเท่าเหรียญสิบบาทจางๆอยู่ แต่พอเสื้อของลูกชายคนที่นางเข้าใจว่า
เป็นฉัตรชัยนั้น ถลกขึ้นไปจนถึงกึ่งกลางหลัง นางกลับพบว่ามันว่างเปล่า ไม่มีปานสีน้ำตาลอยู่เลย ครั้นหันกลับมายังชัดชาย
กลับพบปานสีน้ำตาลอยุ่ที่กึ่งกลางหลังแทน

"โอ๊ยยย..ตายแล้ว....ไปทำอะไรกันมา ถึงได้สลับกันจนแม่ยังจำผิด..."

เสียงมารดาบ่งบอกให้สองฝาแฝดรู้แล้วว่าน่าจะถึงเวลาเสียทีที่จะสลับตัวกัน ตามความต้องการของฝาแฝดผู้น้อง ฉัตรชัยคิด
แต่เพียงว่า ยอมลำบากเสียสามสิบวัน เพื่อแลกกับชีวิตของน้องชายที่จะกลับมาอยู่กับแม่ ทำให้แม่มีความสุข แต่ในความคิด
ของชัดชายกลับไม่คิดเช่นนั้น แล้วจะมีใครล่ะที่คิดได้ว่าการสลับตัวตามความต้องการของแฝดชัดชาย จะเกิดความยุ่งยาก
สร้างความลำบากให้กับคนใกล้ชิดขนาดไหน เพียงใด[/post]

luckman

 ::Evil:: ชัดชายมีแผนร้ายๆอยู่แน่ ...

dan49

ร้ายกาจมากนะนายชัดชาย เจ้าคิดเจ้าแค้นมากถึงกับวางแผนร้ายกับพี่ชายตนเอง ได้เลือดทางพ่อมาเต็มเต็มเลย

Jimpongth

คู่หมั้นฉัตรชัย​จะรอดไหมน้อออ