ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

With No Remorse Copy Chapter 10

เริ่มโดย zaaaar65, พฤศจิกายน 19, 2015, 03:47:55 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

zaaaar65


With No Remorse Chapter 10

ในห้องมืด ๆ นั้นปราศจากเครื่องทำความเย็นแต่ผู้ที่นั่งอยู่ในห้องดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความอบอ้าวของอากาศที่ปราศจากเครื่องทำความเย็นแต่อย่างใด ยามนี้ใบหน้าของทุกคนจับอยู่ที่จอภาพบนผนังด้านหนึ่งบนนั้นเป็นภาพเขียนลายเส้น แผนผังของสถานที่หนึ่งบางครั้งก็สลับภาพถ่ายขึ้นมาบนจอตามจังหวะที่ผู้พูดจัดการอยู่ใบหน้าของทุกคนคร่ำเคร่ง จับจ้องที่จอภาพนั้นศรัณย์จบคำบรรยายของตนแล้วบังคับให้เครื่องฉายภาพนั้นหยุดอยู่ที่แผนผังลายเส้น

"ในรัศมีประมาณ 1 กิโลรอบที่หมายมีการวางยามเป็นระยะห่างต่อจุดประมาณหนึ่งร้อย ตามจุดที่หมายสีแดง กำลังยามอยู่ในระหว่างสามสิบถึงห้าสิบ ทั้งหมดติดอาวุธ ปลย.เอ็ม.16 เอเค 47 หรือเอ็ช.เค 33 มี เอ็ม.79 ไม่ทราบจำนวนแน่นอนโรงเรือนของยามและพวกติดอาวุธอยู่บริเวณที่หมายด้วยเส้นแดงคู่ ไม่พบเห็นเสาวิทยุเห็นแต่โทรศัพท์มือถือกับไอค่อม มีถนนดินออกไปทางตะวันตกตามแนวเส้นประหนึ่งทางยานพาหนะที่เห็นมีรถกระบะเลขทะเบียน.... เป็นรถขนเสบียงส่วนที่ขนของไม่พบระหว่างที่สังเกตการณ์ครับ"

"ถ้าจะให้กวาดเลยล่ะศรัณย์" การุณย์เอ่ยถาม

"ผมประมาณการณ์ว่าถ้าใช้กำลังปกติจะเข้าถึงที่หมายในห้าถึงเจ็ดวันแต่จะเสี่ยงเปิดเผยตัวเองถ้าใช้ชุดรบพิเศษน่าจะ อยู่ที่สามถึงสี่วันผมว่าน่าจะให้ชุดรบพิเศษแทรกซึมเข้าไปแน่นอนกว่าครับผมจะนำทางไปเข้าที่รวมพลบริเวณนี้ แล้ว นำเข้าจุดเข้าตีเป็นสองจุดชุดแรกกวาดที่พักสองหลัง ชุดที่สองกวาดโรงงาน" ศรัณย์พูดพลางใช้ปากกาเลเซอร์ชี้เป็นจุดแสงสีแดงไล่ไปบนจอภาพ

"ผมจะวางตัวอยู่บริเวณนี้ให้พี่ชาติชายวางจุดนี้ จะคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตี กวาด แล้วออกน่าจะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที"

"ไหวไหมวุฒิ" นายพันเอกหันไปถามหัวหน้าชุดรบพิเศษ"

"ได้ครับสวยเลยครับ" นายร้อยเอกตอบเรียบ ๆ

"งั้นตกลง แยกกันไปเตรียมได้เลยใครมีอะไรเพิ่มเติม"

"ผลที่ต้องการล่ะครับผู้การ" ชาติชายเอ่ยถามสีหน้าสงบนิ่ง

"ที่หมายมันก้ำกึ่งแนวชายแดนครับ"

"ตามภารกิจที่บอกไปตั้งแต่ต้นกวาดล้าง ทำลาย ไร้ปรานี เราจะไม่มีความปรานีให้คนที่มุ่งทำลายชาติ" การุณย์หันไป บอกทุกคน

"ตามความชำนาญของพวกคุณทุกคน เข้าเร็ว กวาดล้าง ทำลายถอนตัว ผมให้เวลาที่เป้าหมาย สามสิบนาที เตรียมตัวสามวันเดี๋ยวมาว่ากันในรายละเอียดต่อ" กลุ่มเจ้าหน้าที่พิเศษกวาดล้างยาเสพติดทั้งหมดใช้เวลาอยู่ในห้องมืดๆ นั้นจนกระทั่งบ่ายคล้อยจึงแยกย้ายกันออกไป เตรียมปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือของการุณย์สั่นขึ้นมาจนรู้สึกการุณย์ล้วงกระเป๋าเสื้อเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแนบหู ฉงนใจน้อย ๆด้วยโทรศัพท์หมายเลขนี้เป็นหมายเลขเฉพาะที่ใช้ในการทำงานพิเศษนี้เท่านั้น

"สวัสดีครับ"

"ต้นพี่เอง พิเชษฐ์" เสียงจากปลายสายดังขึ้น การุณย์หวนนึกถึงนายพลรุ่นพี่ที่อยู่ในกรุงเทพขึ้นมาทันที

"ครับพี่ สบายดีนะครับ"

"ที่โทรมาเมื่อตอนบ่ายอนุมัติแล้วนะ" เสียงเงียบไปพอที่การุณย์จะรับคำได้

"มีอีกเรื่อง มีคนเข้ามายุ่มย่ามแล้ว ฝ่ายเสธพี่บอกมาว่ามีคนขอรายละเอียดค่าใช้จ่ายในปฏิบัติการของเรา"

"เหรอครับใครครับ" "เลขาผู้ช่วยรัฐมนตรี... ตอนนี้พี่ไม่ให้รอให้นายกอนุมัติก่อน แต่ว่าคงมีคนระแคะระคายบ้างแล้ว การุณย์เป็นไง"

"เรียบร้อยดีครับกำลังวางแผนอยู่ครับ แต่ยังไม่ถึงตัวใหญ่ คาดว่าอีกไม่นานครับ"

"ดีแล้วยังไงก็ระวังตัวด้วยล่ะ พี่ไม่แน่ใจว่าข่าวรั่วไปแค่ไหนหรือฝ่ายโน้นจะรู้เรื่องไปแค่ไหนน่ะ แค่นี้แหละ"

"ครับพี่ สวัสดีครับ" การุณย์กดตัดการติดต่อนั่งคิดไปพลางระหว่างที่รถก็แล่นไปตามถนนในค่ายเข้าไปในส่วนลึกที่ มีบ้านอยู่ห่างๆ แล้วหักเลี้ยวเข้าจอดที่บ้านพักหลังหนึ่ง ยกโทรศัพท์อีกเครื่องขึ้นมากด

"หนูรจ ลุงเองจันทร์หน้าว่างไหมลูก .... ลุงมีงานเลี้ยงที่ลำปาง ไปกับลุงหน่อย ได้งั้นหกโมงไปรับนะ" การุณย์ปิดโทรศัพท์ใจนึกถึงกานดา ถ้าเพียงแต่เธอมาอยู่กับเขาแล้วคงไม่ต้องขอให้รจนาหลานสาวไปเป็นเพื่อนร่วมงานแต่เมื่อฉุกคิดถึงข้อความที่รุ่นพี่โทรมาเตือนทำให้การุณย์ต้องกดหมายเลขอีกครั้ง

"วุฒิ พี่การุณย์นะ พี่พิเชษฐ์โทรมาว่าสงสัยข้อมูลจะเริ่มรั่ว... ใช่... อืมมม บอกพวกเราให้ระวังตัวกันด้วยยังวางแผนกันอยู่ เหรือเนี่ย งั้นฝากบอกชาติชายด้วย .... นั่นแหละ โอเค" วรวุฒิตัดการติดต่อแล้วหันมาทางหมู่นักรบที่หยุดถกแผนกันเพื่อให้วรวุฒิพูดโทรศัพท์

"ผุ้การแจ้งข่าว สงสัยเรื่องของพวกเราจะเริ่มรั่วแล้ว" วรวุฒิบอกเรียบ ๆ

"พวกเราต้องเพิ่มความระมัดระวังด้วยอย่าให้ แผนรั่ว ในที่นี้มีแต่คนที่เราไว้ใจได้ถ้าข่าวรั่วหมายถึงพวกเราอยู่ในอันตรายหมด ทุกคนเข้าใจ" หน่วยรบพิเศษที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของวรวุฒิทั้งสิบกว่าคนรับคำส่วนชาติชายกับศรัณย์เพียงยกนิ้วหัวแม่มือชูขึ้น

"พวกมึงนี่พูดกันน้อยจังว่ะ ไอ้ชาย" วรวุฒิหันไปแซวเพื่อน

"เออ ขอโทษ ขอโทษทุกคนด้วยแล้วกันนะ แต่กูว่าพวกเรานี่ ไม่ต้องพูดกันมากหรอก ว้า เออ วุฒิ" ชาติชายหันไปยิ้ม กับเพื่อนทหารแล้วหันกลับมา "มีอะไร"

"วุฒินายช่วยจัดชุดคุ้มกันให้ผู้การด้วยดีกว่า แกอยู่ที่เปิดน่ะ" ชาติชายบอก

วรวุฒิขมวดคิ้ว "จริงของนายว่ะ"

วรวุฒิรับคำแล้วหันไปทางลูกน้องคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ "ให้สิงห์จัดชุดคุ้มกันตามที่ผู้กองชาติชายบอกนะ เอาสักสามคนคุ้มกันทางลับ 24 ชั่วโมงเลย"

ลูกน้องของวรวุฒิรับคำ "เฮ้ยมาถกกันต่อ.."

เจ้าชัยมือขวาเสี่ยยานรกวันนี้แต่งตัวภูมิฐานนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารขนาดย่อมข้างโต๊ะใหญ่ที่เจ้านายของมันนั่งอยู่มันนั่ง กินอาหารไปสายตาก็จับจ้องโต๊ะที่เจ้านายมันนั่งอยู่ไปพลาง บางครั้งก็สลับไปมองพนักงานที่ลำเลียงอาหารเข้ามายังห้องที่เสี่ยใหญ่เหมาเอาไว้ถึงจะเป็นห้องที่เข้าได้เฉพาะคนที่ได้รับเชิญซึ่งก็มีแต่ครอบครับเจ้านายมันและครอบครัวของผู้ช่วยรัฐมนตรีก็ตาม แต่มันก็คอบจับจ้องคนที่เข้าออกตลอดเวลาฝ่ายนายมันประกอบด้วยเสี่ยเล้ง เมีย และเจ้าก้องลูกชายรวมสามคนส่วนฝ่ายผู้ช่วยนั่นก็เท่ากันคือตัวผู้ช่วยผู้มีหน้าฉากอันงดงามภรรยาและลูกสาวคนสวยที่ยามนี้แต่งตัว เหมือนจะไปเที่ยวอยู่ครามครันมันมองเด็กสาวด้วยสายตาหื่นกระหายที่พยายามเก็บงำ ด้วยเสื้อสายเดี่ยวตัวคับไม่อาจเก็บงำเต้าที่ผุดผ่องไปได้อีกทั้งกางเกงขาสั้นที่นุ่งอยู่นั้นเปิดเผยเรียวขาขาวผ่องทั้งท่อนเรือนร่างอวบอิ่มน่าจะเอาท่อนเอ็น ของมันทะลวงยิ่งนักมันมองดูก็เห็นว่าเจ้านายโฉดเล็กของมันก็มองสาวน้อยไม่วางตาในหัวคงคิดหาทางทะลวงถ้ำลูกสาว ผู้ช่วยรัฐมนตรีอยู่เป็นระวิงอย่างแน่นอน

"เออ เสี่ย อาหารอร่อยดีนะผมน่าจะมาบ่อย ๆ หน่อย" ชายผู้ดำรงตำแหน่งสูงในบ้านเมืองเอ่ยขึ้น

"ร้านนี้ผมมาประจำครับ ถ้าท่านมานี่ก็ร้านนี้เลยใกล้ที่พักท่านด้วยสะดวกมากครับ" เสี่ยเล้งเอ่ยตอบด้วยอย่างพินอบพิเทา

"กินอิ่มแล้ว ยังไม่ได้คุยงานกันเลยนะ เดี๋ยวไปคุยกันที่ไหนดีเงียบ ๆ หน่อย"

"ผมเตรียมไว้แล้วครับเชิญครับท่าน" เสี่ยใหญ่ลุกขึ้นยืนน้อมตัว

"พ่อ ในไปเที่ยวนะ" สาวน้อยเอ่ยขึ้นมาอย่างเบื่อๆ ท่าทางกระเง้ากระงอด

"ไปไหนล่ะลูก" ผู้ช่วยหันมาถามลูกสาว

"ฝนไปเต้นที่ผับข้างล่างนี่แหละ แม่ไปกับฝนป่าว" สาวน้อยบอกแล้วหันไปถามมารดา

"ไปก็ได้ลูก คุณไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวดิฉันไปกับลูกเอง"

"เดี๋ยวผมไปดูแลอำนวยความสะดวกให้ครับท่าน" เจ้าก้องเสนอตัว สองแม่ลูกหันมามอง

"ครับท่าน ดีเหมือนกันครับให้เจ้าก้องไปดูแล อำนวยความสะดวกให้คุณหญิงกับคุณหนูได้เลยครับ ท่านจะได้ไม่ต้องห่วง" ทั้ง ๆที่รู้ว่าเมียผู้ช่วยนั่นยังไม่ได้รับตราตั้งแต่ก็หยอดเรียกคุณหญิงเอาใจ

"งั้นก็โอเคคุณนายแม่เลี้ยงไปกับสาว ๆ ไหมครับ" ผู้ช่วยหันมาถามเมียเสี่ยเล้ง

"อ๋อ เดี๋ยวพัชเขาขึ้นไปคุยด้วยน่ะครับ"

เสี่ยเล้งรีบตอบทำเอาเมียอ้าปากค้างเลิกคิ้ว เมื่อเห็นสามีตัวเองขยิบตากิมลั้ง ที่เปลี่ยนชื่อเป็นพัชราภาจึงทำแย้มยิ้ม เออออไปด้วยห้องสวีทใหญ่ของโรงแรมระดับห้าดาวนั้นกว้างขวางสะดวกสบายเสี่ยเล้งเดินนำเมียและผู้ช่วยรัฐมนตรีเข้ามาในห้องโบกมือไล่ลูกน้องพร้อมกับกำชับไม่ให้มีใครรบกวน พอเข้ามาในห้อง ผู้ช่วยรัฐมนตรีจอมโฉดก็เดินไปนั่งที่ชุดรับแขกเมียเสี่ยใหญ่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำฝ่ายเสี่ยใหญ่ก็เดินไปยังตู้เครื่องดื่มหยิบแก้วมาผสมเหล้าบาง ๆ สามแก้วแต่จังหวะที่ ตัวบังอยู่นั้นเสี่ยจอมโฉดแอบหยิบยาเม็ดเล็กจิ๋วจากกระเป๋าเสื้อหย่อนใส่แก้วเหล้าแก้วหนึ่งยกขึ้นแกว่งให้ยาละลายแล้วหยิบอีกสองแก้วเดินไปยังชุดรับแขก

"เสี่ยเอาเมียมาแล้วจะคุยกันได้เหรอ ไว้ใจได้แน่เหรอ"

"เรื่องงานท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับผมจัดการเรียบร้อยแน่นอน ของล๊อตใหม่กำลังเร่งทำครับ ส่งทันแน่นอน ครับท่าน" เสี่ยใหญ่ตอบอย่างพินอบพิเทา

"ตอนนี้ผมก็ได้ข่าวไอ้พวกนั้นแล้วครับ" ชายฝ่ายตรงข้ามหูผึ่ง

"ใครล่ะ"

"ตอนนี้ได้ความว่าเป็นพวกทหารตำรวจน่ะอยู่วงนอก หัวมันดูเหมือนจะเป็นนายพันเอก อยู่ที่เชียงใหม่นี่แหละครับคนของผมสะกดรอยมันอยู่ คิดว่าใช่ครับ เดี๋ยวได้โอกาสผมจะเก็บมันเลย" เสี่ยใหญ่นั่งลงทำท่าทางสบาย ๆ

"อย่าให้เอิกเกริกล่ะ อ้อไหนว่าจะจัดคนมารับรองผมไงเสี่ย ไม่เห็นมีเลย" หนุ่มใหญ่เอ่ยถามต่อไป

"รับรองว่าไม่เอิกเกริกครับผม" เสี่ยใหญ่แย้มแฝงแววเจ้าเล่ห์ "ผมเห็นท่านมองกิมลั้งเมียผมอยู่ตั้งแต่ครั้งที่แล้วแล้วนี่ครับ"

"...""ท่านอยากลองเมียผมไหมล่ะครับท่าน" เสี่ยใหญ่พูดยิ้มๆ

"เฮ้ย เสี่ย ได้ไง" หนุ่มใหญ่ร้องเสียงหลง

"เดี๋ยวเมียเสี่ยได้โกรธกันตาย"

"รับรองครับ" เสี่ยใหญ่หยุดเมื่อกิมลั้งเดินนวยนาดออกมาจากห้องน้ำ

"คุณผมชงเหล้าให้คุณบนโต๊ะนั่นแหละ เอามานั่งจิบ คุยกันที่นี่ดีกว่า" เสี่ยใหญ่กวักมือ

สาวใหญ่หยิบแก้วเหล้ามาจิบแล้วมานั่งข้าง ๆ สามีพยายามหุบขาเก็บชายกระโปรงไว้อย่างสุดความสามารถเพราะเก้าอี้รับแขกตัวนั้นมันตั้งประจันกับผู้ช่วยรัฐมนตรีพอดีส่วนกระโปรงที่เธอนุ่งมาวันนี้มันก็เป้นกระโปรงตัวสั้นแค่เข่า ยามนั่งมันจึงเป็นช่องให้สายตาสอดส่องเข้ามาข้างในได้ดูท่าทางผู้ช่วยรัฐมนตรีเองก็คงจะรู้เหมือนกันเพราะเห็นจ้องเขม็งมายังอกเสื้อคอเหลี่ยมกว้าง ๆ ที่เนินออกเธอดันออกมาเป็นพูบ้างสลับลงไปที่หัวเข่าขาวเนียนที่พ้นชายกระโปรงบ้าง สลับไประหว่าง ที่คุยกันไปเรื่อยๆ เธอก็นั่งฟังไปเรื่อย ๆ บางครั้งก็ร่วมวงบ้างต่างคนต่างคุยไปก็จิบเหล้าไปจนหมดแล้วเธอก็รับหน้าที่ ไปชงเหล้ามาบริการระหว่างนั้นรู้สึกร้อน ๆยังนึกว่าเป็นเพราะฤทธิ์เหล้าก็เดินไปปรับเครื่องปรับอากาศจนเย็นฉ่ำแล้วกลับมานั่งคุยต่อหนุ่มใหญ่ผู้ช่วยรัฐมนตรีคุยกับเสี่ยเล้งไปตาก็จับจ้องมองสาวใหญ่เมียเสี่ยไปไม่วางตาเริ่มสังเกตเห็นใบหน้านวลเริ่มแดง ระเรื่อท่านั่งของสาวใหญ่ก็กระสับกระส่ายไม่เป็นสุข พอเธอเดินไปชงเหล้าก็หันมาหาเสี่ยใหญ่

"เสี่ย จะดีเหรอ นั่นเมียเสี่ยนะ"

"ไม่ต้องกังวลครับท่านเมียผมนี่แหละ เพื่อท่านโดยเฉพาะ" เสี่ยตอบพลางหัวเราะเบาๆ

ฝ่ายสาวใหญ่หารู้ตัวไม่เลยว่าเธอเองจะโดนสามีวางยาเข้าเดินไปชงเหล้าพร้อมกับสงสัยตัวเองที่เริ่มร้อนผ่าว ๆ ขึ้นมา ที่โหนกเนื้อในกระโปรงยามนั้นมันคันยุบยิบอยากจะได้ท่อนลำลึงค์สักดุ้นมาทะลวงให้หายคันใจคิดว่าเดี๋ยวกลับถึงบ้าน จะต้องลากสามีท่อนเอ็นตัน ๆ มาขย่มสักสองสามทีให้มันหายอยากอีกใจก็คิดสงสัยว่าทำไมตนเองถึงได้เกิดมีอารมณ์ ขึ้นมา

"กิมลั้ง มานั่งข้าง ๆเฮียนี่ดีกว่า ใกล้ ๆ หน่อย"

ถึงจะสงสัยเพราะตัวเองก็นั่งอยู่ข้าง ๆ สามีอยู่แล้วแต่ก็ยังขยับตัวเข้าใกล้นั่งเอนแอบด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะพลุ่งขึ้นมาสายตามองไปทางหนุ่มใหญ่ที่นั่งตรงข้ามเมื่อเห็นรอยยิ้มที่ระบายอยู่เต็มหน้าก็รู้สึกเขินอายจนต้องหลบตาลงมอง แต่แล้วสายตาก็เห็นวางตรงเป้ากางเกงนั้นมันตุงจนคับ หรือเธอจะตาฝาด จึงเขม้นมองให้ชัด ๆจึงได้แน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นคือ เป้ากางเกงที่มันตุงขึ้นมาเป็นลูก เธอรู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆ จนต้องก้มหลบมามองที่ตักสามีแล้วก็ต้องประหลาดใจเพราะ ตรงนั้นเองมันตุงขึ้นมาเป็นลำเช่นกันสาวใหญ่ตระหนักว่าเสี่ยใหญ่ผู้เป็นสามีนั้นนุ่งกางเกงบ็อกเซอร์ดังนั้นที่ตุงขึ้นมานั้น จึงเป็นลำลึงค์อ้วนตันของสามีแน่นอนหัวใจพลันเต้นระรัวด้วยความกระหายอยาก

"เฮีย อย่า.." เธอร้องเบาๆ เมื่อรู้สึกว่ามืออวบอูมของสามีแซะขอบคอเสื้อ ยกมือขึ้นจับมือสามีพยายามดึงออก

"ไม่เป็นไรหรอก ท่านไม่ว่าหรอกน่า" เสียงสามีเธอกระซิบจนเธอสนเท่ห์ใจสายตากลับไปมองหนุ่มใหญ่ที่นั่งยิ้มกริ่ม อยู่ตรงหน้ายามนี้แก้วเหล้าวางอยู่บนโต๊ะ เขานั่งเอนตัวสองแขนอ้าพาดไปกับพนักเก้าอี้รับแขกสองขาถ่างกว้างจนเห็นว่า เป้ากางเกงนั้นตุงขึ้นมาเป็นก้อนจริง ๆมืออวบของสามีล้วงเข้ามาถึงหัวนมเธอแล้วบีบเบา ๆ สาวใหญ่รู้สึกเหมือนถูกไฟซ๊อตเรี่ยวแรงพ่ายแพ้แก่ฤทธิ์ยาที่เสี่ยเล้งแอบหยอดใส่ ยามนี้เธอรู้สึกได้ว่าคูหาเนื้ออิ่มของเธอมันร้อนผ่าวๆ ขมิบเม้มหลั่งหยาดเมือกออกมาจนฉ่ำแฉะ สองมือยังพยายามอย่างอ่อนล้าที่จะดึงมือของสามีออกจากเต้านมพลันอีกมือหนึ่งก็ยกขึ้นมาอ้อมลงลงไปลูบที่ซอกขาอ่อน จนเธอขนลุกเกรียว ๆ

"เฮีย.." เธอร้องแผ่วๆ แต่ร้อนรุ่ม หน้าแดงซ่านด้วยความอายชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามแต่อีกใจหนึ่งนั้นมันเตลิดจนอยากจะลุกขึ้นมาถลกเสื้อผ้าจับสามีมาขย่มลำเอ็นเสียตรงนั้นมือเสี่ยเล้งที่ลูบในซอกขาอ่อนนั้นทำเอาเธอต้องแบะขา ออกด้วยความซ่านเสียวสายตายังพยายามหลบตาหนุ่มใหญ่ที่จับจ้องแทบไม่กระพริบ ยามนี้มือข้างหนึ่งของเขาลดลงมาลูบเป้ากางเกงตุง ๆ นั่นเบา ๆ ดุจดังกำลังเพลิดเพลินอย่างยิ่ง
"เฮียย อา.." เธอครางเมื่อนิ้วมืออวบของสามีแทรกผ่านขอบกางเกงในตัวเข้ามาเขี่ยปากแคมเนื้อยามนี้ดำกฤษณาพุ่ง กดความอับอายจนสิ้นเธออ้าขาวออกกว้างเท่าที่กระโปรงตัวคับจะยอมให้อ้าขาออกไปได้มือข้างหนึ่งล้วงลงไปจับกุม ท่อนเอ็นตัน ๆ ของสามีขยำเบา ๆ เต้าอวบ ๆที่ถูกมือเคล้นอยู่นั้นส่งความเสียวจนเธออกแอ่นขึ้น หอบหายใจอย่างเร่าร้อน รุนแรงหน้าขาโคกเนื้อนวลร้อนผ่าวคันยุบยิบไปทั่วยามนั้นถ้ำเนื้อดูดขมิบนิ้วมือเสี่ยเล้งวาบวับ เสี่ยเล้งควงนิ้วควานถ้ำเมียสาวไม่หยุดจนเธอกระดกสะโพกใส่นิ้วยวบ ๆสองมือดึงรั้งชายกระโปรงให้ถกขึ้นกองที่เอว อ้าขารับนิ้วผัวที่แยงแหย่อย่างหักห้ามใจไม่ได้มืออวบขาวเคลื่อนไปยังเอวกางเกงสามีอย่างสุดกลั้นแล้วยันตัวแกะเข็มขัดและตะขอกางเกงออกล้วงควักเอาท่อนเนื้ออ้วนตันออกมาตั้งกำรูดจนหัวบานแดงผลุบโผล่อยู่ในมือเสี่ยใหญ่ดึงนิ้วออกจากโคกเมียสาวมาเกี่ยวขอบกางเกงในรูดลงไปที่ขาอ่อนแล้วตะโบมมือลงบนโคกเนื้อที่แฉะไปทั้งเนินด้วยน้ำเมือกเงี่ยนที่ไหลหลั่งออกมาแล้วเสี่ยก็พลิกตัวออกนิดหนึ่งก่อนจะดึงตัวเมียสาวมาแกะเสื้อรูดออกจากไหล่ ไม่ถึงอึดใจเสื้อชั้นในตัวหน้าก็หลุดพ้นไหล่ขาวอวบออกไปปล่อยเต้านมอวบอล่างฉ่างออกมาดีดดิ้นล้อแสงไฟและสายตาของทั้งตัวเองและของหนุ่มใหญ่ผู้ช่วยรัฐมนตรีที่บัดนี้ปลดปล่อยท่อนเอ็นออกมาตั้งชันพลางกำรูดเบาๆ สายตาจับจ้องไป ที่โคกโยนีของเมียสาวเสี่ยเล้งไม่วางตา ชุดสั้นเธอสวมอยู่บัดนี้รวบไปกองพูนที่เอวแล้วเรือนร่างอวบขาวผ่องส่องประกาย นวลล้อแสงไฟสีนวลตาภายในห้องสวีทชั้นดีจะงอยเต้าทั้งสองลุกชี้ชูชันด้วยอารมณ์ปรารถนาที่โดนเร่งเร้าขึ้นมาอย่างผิดธรรมชาติด้วยฤทธิ์ที่ไอ้ผัวตัวดีแอบหยอดใส่ร่างกายเธอนั้นยามนี้ร้อนรุ่มด้วยความปรารถนาในกามที่มาจากฤทธิ์ยา

สาวใหญ่ทนต่ออารมณ์ดิบต่อไปไม่ได้แล้วพลิกตัวคว่ำลงก้มหน้าอ้าอมท่อนเอ็นเนื้อของสามีเข้าไปเต็มกำ มือกำประคองให้มันตั้งลำและขยับขยำกระกอกกระแทกเสริมด้วยแรงดูดเลียจากปากอวบลิ้นนุ่มที่มุ่งหวังให้ท่อนเนื้อตันๆ นั้นหลั่งน้ำกาม ให้เธอได้ดื่มกินให้สมอยากและเมื่อท่าที่นั่งบิดตัวลงดูดเอ็นนั้นมันไม่ถนัดดังใจสาวใหญ่ก็พลิกตัวลงจากเก้าอี้คว่ำหน้าคู้เข่าลงตรงหน้าผัวตัวดีแล้วบรรเลงเพลงชิวหากับท่อนเอ็นต่อไปโดยไม่ยอมหยุดผิดถูกชั่วดีไม่ได้แวบเข้ามาในความคิด ด้วยฤทธิ์ยานั้นขับความอยากกามขึ้นจนเต็มปรี่เสี่ยใหญ่นั่งเอ้เตให้เมียสาวดูดดุนท่อนควยอวบ ๆ ของเขาอย่างเพลิดเพลินส่งยิ้มข้ามโต๊ะตัวเตี้ยไปยังผู้ช่วยรัฐมนตรีที่ นั่งตรงข้ามสายตาหื่นกามของหนุ่มใหญ่ยามนั้นจับจ้องลงที่โคกกลีบเนื้อที่พูนย้อยออกมาจากขาที่ยันกายในท่าคู้เข่าสองกลีบเนื้ออิ่มมีพงขนประดับอวบแบะออกจนเห็นกลีบในแดงฉ่ำสะท้อนแสงไฟโพรงโยนีอ้าหุบเป็นจังหวะขับหลั่งน้ำ ใส ๆ ไหลรินออกมาจากปากถ้ำย้อยไปตามกลีบเนินเนื้อจนหยาดหยดเลื่อนไหลไปตามเส้นขนก่อนจะหยุดหยดเป็นติ่งกลมที่ปลายเส้นขนพราว หนุ่มใหญ่กลืนน้ำลายเหนียว ๆลงคอเงยขึ้นสบตาเสี่ยเล้งที่กวักมือเรียกแล้วชี้ลงไปที่ท่อนล่างของเมี