ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

With No Remorse Chapter 12

เริ่มโดย zaaaar65, พฤศจิกายน 19, 2015, 03:49:44 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

zaaaar65

 
[/color][/font][/size]การุณย์เปิดเปลือกตาขึ้นพร้อมกับความรู้สึกถึงแสงแดดที่ส่องเข้ามาจนแสบเคืองภาพที่ปรากฏแก่สายตาคือเพดานสีอ่อน ขาวสะอาดรอบกายอากาศเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ รอบข้างมีแต่ความเงียบสงัดภาพที่เห็นทำเอาเขามึนงงไป ชั่วขณะ สมองที่ยังมึนงงด้วยฤทธิ์ของยาหรืออะไรก็ตามการุณย์ เหลือบมองร่างกายที่พันด้วยผ้าซับเลือดผืนหนาพร้อมกับ ความเจ็บหนึบ ๆที่ไหล่ขวาและท่อนสะโพกสายตากวาดมองไล่ไปตามเพดานและผนังห้องจนตระหนักได้ว่าตนเองนอน อยู่บนเตียงคนไข้พร้อมกับที่ความทรงจำครั้งสุดท้ายวาบขึ้นมาเขาบังคับรถเก๋งแล่นราบเรียบไปตามทางสายเปลี่ยวที่ มืดมิดแสงไฟจากรถคันที่ตามมายามสาดไฟสูงขอทางแล้วแซงขึ้น เสียงดังข้างตัวเสียงโลหะกระทบตัวรถและเศษกระจก ที่ปลิวกระจายปฏิกิริยาของตนที่ทำงานอัตโนมัติโดยหักหัวรถหลบ ห้ามล้ออย่างมั่นคงขณะที่ตัวรถเซลงข้างทางเสียงกรีดระงมด้วยความตกใจของผู้หญิงสองคนที่กล่าวได้ว่ามีความสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาในปัจจุบันการุณย์พลิกศีรษะ มองซ้ายขวาไปทั่วห้องกะทัดรัดแล้วพบว่าตนเองนอนอยู่เพียงเดียวดายความตระหนักรู้ด้วยสติมั่นคงบอกตนเองว่า เกิดอะไรขึ้น เขาเหลือบสายตาไปจนพบสิ่งที่ต้องการความเจ็บร้าวไปทั้งร่างเสียดแทงขึ้นมายามที่เขาพยายามยืดแขนขึ้นไปที่ปุ่มกดเรียกพยาบาลอึดใจถัดมาประตูห้องก็เปิดผางเข้ามาพร้อมกับพยาบาลสองคนกรูเข้ามาตามติดด้วยบุรุษในเครื่องแบบอีกคนหนึ่งที่ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหูพลางกรอกเสียงลงไป อึดใจถัดมาการุณย์นอนนิ่งมองไปมองมาพร้อมกับตอบคำถามในขณะที่พยาบาลทั้งสองสาละวนตรวจอาการทั่วไปนายแพทย์ในชุดเสื้อคลุมสีขาวเดินพรวด ๆ เข้ามาแล้วทำงานของตนความสับสนในห้องทำเอาสมองที่มึนงงของเขา หมุนติ้วจนต้องปิดเปลือกตาลงอีกครั้งเสียงการทำงานของหมอและพยาบาลยังคงดังเข้ามากระทบโสตขณะที่บางคนเดินเข้าออกห้องเป็นระยะ มือข้างหนึ่งวางลงบนท่อนแขนขวาพร้อมกับเสียงทุ้มต่ำ

"ไอ้ต้น เป็นไงบ้างวะเพื่อน" การุณย์เปิดเปลือกตารับภาพของเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่อยู่ในเครื่องแบบแห่งกองทัพบกยืนอยู่ข้างเตียง

"กระดูกแข็งนะมึง แดกลูกอาก้าเข้าไปสองเม็ดเอามึงไม่อยู่จริง ๆ"

"คุณดากับยายรจเป็นไงบ้าง" เสียงของตนเองแหบแห้งจนเขาเองก็ตกใจ

"มึงแหละหนักสุด คุณดาแต่ขาเดาะ โดนเฉี่ยว ๆ ไปเย็บแค่สี่ห้าเข็ม ก็พายายรจกลับบ้านไปตั้งแต่วันนั้น ตัวยายรจไม่โดนอะไรมากกว่าเศษกระจกนิดหน่อยกับข้อมือซ้น เบาสุดแหละกูโทรบอกแล้วให้พลขับมึงไปรับแล้ว เดี๋ยวคงมากันแหละ" การุณย์พยักหน้ารับ

"แล้วงานกูล่ะ"

"มึงไม่ต้องห่วงตอนนี้กูดูแทนมึงอยู่ นอนให้เพลิน ๆ ไปก่อน กว่าจะกลับมาทำต่อคงสักเดือนมั๊งตอนนี้รวบรวมข่าวหาตัว สั่งถล่มมึงอยู่ ส่วนไอ้โรงปั๊มยานั่น ไอ้วุฒิกับชาติชายมันถล่มราบคาบเผาทิ้งเกลี้ยงไปแล้ว"

"ผู้การพักผ่อนมาๆ นะครับ ผม แล้วเย็น ๆ ผมจะแวะมาดูอีกครั้งนะครับ" นายแพทย์ชะโงกหน้ามาบอกก่อนจะเดินออกไปจากห้องพร้อมกับพยาบาล ปล่อยให้การุณย์อยู่กับเพื่อนสองคน

"ขอบคุณครับ หมอ" การุณย์และเพื่อนมองตามหมอและพยาบาลเดินออกจากห้องไป

"กูหลับไปกี่วัน"

"ห้าสองวันแรกมึงเจียนอยู่เจียนไปเหมือนกันแหละ คุณดากับยายรจมานั่งเฝ้าทุกวันนี่เดี๋ยวคงมาแล้ว"

"แล้วงานไปถึงไหนแล้ววะเนี่ย"

"ไอ้ต้นเอ๊ยมึงพักเถอะ กูจะคอยมาบอกมึงเอง" เพื่อนบอกการุณย์แต่พอมองสบสายตาแน่วแน่ของการุณย์ก็ถอนหายใจ

"ตอนนี้กำลังหาข่าวเพิ่มตอนนี้กำลังยืนยันว่าเป็นฝีมือไอ้เสี่ยกิมเล้งหรือเปล่า"

"อืมมแล้วเด็ก ๆ เป็นไง"

"กูปล่อยพักอยู่วันนี้จะสรุปข่าวตอนทุ่มครึ่ง แล้วพรุ่งนี้กูจะมาเพ็ดทูลมึงเอง แต่มึงต้องพักเยอะๆ จะได้หายเร็ว ๆ กูขี้เกียจ ทำงานมึงอยู่หรอก"

"ขอบใจเว้ยเพื่อนยังไงมึงก็จัดการไปเลย" การุณย์บอกเพื่อนที่พยักหน้ารับพอดีกับที่ประตูห้องเปิดอ้าออก กานดาจูงมือ รจนาเดินเข้ามาประชิดเตียงชาติชายกับวรวุฒิเดินตามเข้ามาทีหลัง

"เป็นไงคะ เจ็บไหม หิวน้ำไหมคะปากแห้งเชียว" กานดามองหน้าเข้ม ๆ ด้วยความห่วงใยอย่างสุดซึ้งมือนุ่มเรียวปะป่าย ไปตามร่างกายบึกบึนที่นอนอยู่บนเตียง

"คุณอาเป็นไงบ้างคะ" เสียงรจนาดังประสานไปกับกานดามือหยิบแผ่นชาร์ตจากช่องปลายเตียงขึ้นดู

"ปกติแล้วนี่คะแต่เม็ดเลือดน้อยไปหน่อย"

"แหมคุณดากับหนูรจจะให้ไอ้ต้นมันตอบใครก่อนดีล่ะครับเนี่ย" เพื่อนของการุณย์ส่งเสียงกระเซ้า ทำเอาสองสาวต่างวัยหน้าเหรอแล้วแก้มก็ขับเลือดซ่านขึ้นมาจาง ๆ การุณย์นอนยิ้มกริ่มมองกานดาสลับกับรจนาด้วยความตื้นตัน

"อีกสองสามวันคงกลับได้แล้วครับ" การุณย์พูดเรื่อย ๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

"ตาย นี่ไม่ได้เป็นไข้นะคะ จะกลับได้ไงแล้วหมอที่ไหน..." กานดารัวคำพูดก่อนจะหยุดเมื่อเห็นการุณย์นอนยิ้มกริ่ม

"แหม ยังจะมาหยอกอีกนี่ถ้าไม่ได้เจ็บแบบอยู่อย่างนี้จะตีให้"

"เฮ้ย พวกเรา" เพื่อนของการุณย์หันไปมองสองหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหลัง"ออกไปให้เขาตีกันก่อยเว้ยเฮ้ย หนูรจด้วย ไปกับอาดีกว่าเดี๋ยวสักพักค่อยขึ้นมาดูไอ้ต้นมัน"

"แต่คุณอาคะ" รจนาส่งเสียงประท้วง

"เออน่า มาเหอะ วุฒิ ชาย ไปลงไปกินกาแฟกันสักครึ่งชั่วโมง ไป" นายพันเอกเดินนำหน้าหนุ่มสาวทั้งสามออกไปจากห้อง พลันที่เสียงประตูลั่นปิดสนิทลงการุณย์ก็ดึงมือกานดาขึ้นมาจูบเบา ๆ

"ผมเป็นห่วงคุณดามาก เจ็บมากไหมครับ"

"ไม่หรอกคะดาโดนแค่เฉี่ยว ๆ อีกสองวันจะมาตัดไหมแล้ว" เธอพูดพลางดึงไหล่เสื้อตัวหลวมให้เขาเห็นผ้าก๊อซที่ปิดแผลตรงต้นแขน

"คุณแหละที่โดนหนักกว่าเพื่อน"

"คุณดากับยายรจไม่เป็นไรผมก็ดีใจแล้วครับ" กานดาขยับประชิดเตียงแล้วก้มลงประทับเรียวปากอ่อนนุ่มลงกับริมฝีปากของการุณย์ความอบอุ่นแผ่ซ่านขึ้นมาพร้อมกับความโล่งใจของทั้งสองคนที่บุคคลอันเป็นที่รักปลอดภัยเมื่อเธอถอนริมฝีปากออกไปการุณย์จึงเห็นหยาดน้ำหล่อรื้นดวงตา คู่งามนั้น...........................

"คืนนี้ดิฉันเข้าเวรพอดี จะได้เฝ้าคุณอาด้วยให้คุณอากานดาพักก็ได้" รจนาพูดพลางวางกระเป๋าถือลงบนโต๊ะแล้วเปิดตู้เย็นรินน้ำใส่แก้วยื่นส่งให้ชาติชาย

"ก็แม่เขาอยากเฝ้าด้วยก็ตามใจเขาเถอะครับ คุณรจจะได้ไม่ต้องห่วงด้วย" ชาติชายรับแก้วน้ำมาดื่ม

"งั้นเดี๋ยวดิฉันอาบน้ำก่อนจะได้เตรียมตัวไปเข้าเวร" เธอพูดแล้วขยับหันตัวแต่ชะงักเมื่อมือแข็งแรงเอื้อมมาแตะแขนเบาๆ

"คุณรจยังไม่ให้คำตอบผมเลย"

"เรื่องอะไรคะ" คิ้วเรียวโก่งยกขึ้น

"เรื่องที่ผมขอความกรุณาให้คุณรจมาเป็นภรรยาผมไงล่ะครับ" คำพูดตรง ๆ ขับแก้มนวลแดงระเรื่อ

"....." ริมฝีปากเม้มจนเหลือเพียงเส้นบางๆ

"ผมล่วงเกินคุณรจไปแล้ว ผมต้องขอโทษแต่มันไม่ไช่เรื่องที่ผมไม่ได้ตั้งใจ"

"งั้นคุณก็ ตั้งใจรังแกรจ"

"ตั้งใจครับ แต่ไม่ได้รังแกผมนึกถึงน้องผมเปียมาตลอด"

"งั้นก็ไปหาคนผมเปียซีคะ" เธอตอบแล้วหันตัวเดินตรงไปที่บันไดชาติชายเดินตามไปติด ๆ แต่พอถึงเชิงบันได้รจนา ก็หยุดกึกหันขวับกลับมาชาติชายจึงชนเข้าไปเต็มที่ ชาติชายยกแขนขึ้นรวบร่างเล็ก ๆ บาง ๆนั้นไว้ยามที่เสียหลักเซไป

"ว้าย.." รจนาร้องเมื่อโดนร่างบึกบึนปะทะเข้าเต็มที่จนเสียหลักพอทรงตัวได้ก็หยิกหมับเข้าที่แขน

"นี่จะรังแกกันอีกละ"

"เปล่านี่ครับผมแค่ชนเท่านั้นเอง"

"แล้วกอดทำไม" สายตาคมวาวจ้องเขม็ง

"ก็คุณรจจะล้ม ผมก็กอดจะได้ไม่ล้ม" ชาติชายขยับแขนจะคลายกอด

"แล้วจะไม่กอดแล้ว" หางเสียงยกสูงเป็นคำถาม

"ผมอยากกอดคุณรจไปจนแก่ตายแหละครับ" จบคำจมูกเล็ก ๆ นวล ๆ นั้นก็ย่นขึ้นมา

"งั้นอย่าปล่อยนะ กอดไป" แขนเรียว ๆ นั้นยกขึ้นโอบรอบเอวพร้อมกับเสียงทอดหายใจชาติชายกระชับอ้อมแขนรัดร่างเล็ก ๆนั้นเข้าเต็มอ้อมกอดก้มลงจรดจมูกลงกับไรผมที่หน้าผากเกลี้ยงเกลาสูดความหอมของเส้นผมและกลิ่นกาย เมื่อใบหน้าคมงามเงยขึ้นรับริมฝีปากของเขาจึงลดลงประทับลงกับเรียวปากอิ่มอวบอย่างบรรจงรจนาถอนหายใจแผ่วยาวอุ่นซ่านไปทั่วร่างเบียดตัวเข้ากับอกอุ่นพร้อมกับกระชับแขนเรียวโอบกอดริมฝีปากอิ่มบดรับ ริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างตั้งใจยามเมื่อปลายลิ้นของเขาสอดผ่านเข้ามากระทบปลายลิ้นของเธอนั้นความรู้สึกที่พุ่งขึ้นเหมือนดังโดนกระแสไฟช๊อตเอาจนหวามสั่นไปทั่วร่างปลายลิ้นนั้นดั่งจะสูบเอาเรี่ยวแรงประดามีออกไปจากตัวเธอจน ขาเปลี้ยอ่อนยวบอกหนาแน่นแข็งแรงเบียดเอาเต้านวลของเธอจนแนบแน่นเจือความอบอุ่นแห่งร่างบุรุษที่เธอรู้ดีว่าจะพึ่งพิงได้ทุกเมื่อ

"ว้าย.." รจนาหวีดสั้นๆ เมื่อร่างบางอวบโดนชาติชายช้อนอุ้มปลิวขึ้นติดอ้อมแขนแล้วพาเดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้องของเธอ บานประตูเปิดออกแล้วเขาก็อุ้มเธอเข้าไปวางลงบนเตียงอย่างทนุถนอม

"จะรังแกกันอีกล่ะ" ริมฝีปากโดนปิดด้วยปากชาติชายอีกคำรบจนเธอหวิวกายสั่น

"ไม่รังแกหรอก เดี๋ยวไม่มีแรงเข้าเวร" ร่างแข็งแรงผละออกแต่มือเรียวนุ่มของเธอก็คว้าข้อมือเขาไว้

"จะไปหรือคะ" ใบหน้าคมสันหันกลับมามอง

"ก็เดี๋ยวจะว่าผมรังแกอีกนะ หนูเปีย" ชาติชายเอ่ยเรียกด้วยนามที่เคยเรียกยามเป็นเด็กสายตาคมกริบคู่นั้นส่งแวว กระเง้ากระงอดปนกับอ้อนวอน

"ก็ อย่ารังแกซิ นะคะ" เสียงใสปนแววอ้อนจนชาติชายหันกลับมาลดตัวลงคู้เข่าที่ข้างเตียงก้มลงประทับจูบ

"ได้ครับ ไม่รังแกหรอก" ปลายลิ้นชอนเข้ามาพันกับลิ้นเธออีกคำรบรจนายกแขนขึ้นโอบรอบคอดึงเข้าหาตัวจูบตอบ ยามนั้นกระดุมเสื้อเชิ้ตขยับไหวไม่ถึงอึดใจมือแข็งแรงอุ่นผะผ่าวก็เลื่อนไหลผ่านอกเสื้อที่แบะอ้าเข้ามาประทับลงบนเนินอกอวบอุ้มมือแข็งแรงกดแนบลงบนยอดอกความอุ่นแทรกผ่านเสื้อชั้นในเข้ามาจนเธอร้อนซ่านไปทั้งอกแล้วมือ แข็งแรงนั้นก็ค่อยประคองร่างเธอขึ้นแขนเรียวขยับยกให้เขาดึงเสื้อออกไปจากตัว อากาศอบอุ่นผ่านมากระทบร่าง ก่อนที่เสื้อชั้นในขาวสะอาดจะหลุดออกไปปลดปล่อยเต้าถันอวบครัดเคร่งออกมาจากเครื่องกำบัง ร่างบอบบางค่อย ๆเอนลงนอนแล้วอุ้งมือหนาก็กดลงมาบนยอดจะงอยถันจนมันลุกชันชูรจนาหลับตาลงเมื่อลมร้อนจากชาติชายเป่าลง กับยอดเต้าอีกข้าง

"อึมมมมม" เธอครางยาวในลำคอเมื่อความร้อนสายหนึ่งพุ่งจากปลายลิ้นและริมฝีปากกระทบเข้ากับยอดจะงอยถันร่างบอบบางของเธอยกขึ้นแอ่นอกส่งยอดเต้าเข้าสูริมฝีปากของชาติชายที่พลิกปลายลิ้นตวัดแผ่วจนเม็ดเนื้อตั้งชันความอบอุ่นเสียวซ่านแล่นปราดมาจากยอดอกแผ่ไปจนทั่วลำตัวยามที่เขาดูดเม้มติ่งจะงอยถันยามที่ลิ้นนุ่มพลิกหัวนมเธอพลิ้วนั่นส่งความรู้สึกซ่านเสียวพุ่งปราดลงไปจนซ่านทั่วทั้งเนินเนื้อเบื้องล่างอึดใจถัดมาชาติชายก็วนสลับอมเม้มจะงอยถัน ทั้งสองเต้าสลับไปมาอย่างประนีตแผ่วเบาแวบหนึ่งของความคิดนั้นรจนานึกฉงนขึ้นมาว่าเหตุใดกระดุมกางเกงยีนส์ที่เธอสวมใส่จึงได้พ่ายแพ้แก่นิ้วแข็งแรงของชาติชายได้ง่ายนักแต่สะโพกอวบกลมกลึงก็ยกขึ้นยามที่ชาติชายขยับดึง เจ้ากางเกงตัวนั้นออกไปทางปลายขาอุ้งมือแข็งแรงวางประกบลงบนเนื้อโคกนูนตรงกลางหน้าขาเธอจนเธอเสียววาบวับแลตระหนักในบัดดลนั้นเองว่า ช่องหลืบถ้ำสวรรค์ของเธอบีบรัดขมิบตัวด้วยความร้อนผะผ่าวระคนเสียวซ่านจนขับหลั่งน้ำใสลื่นออกมาจนเปียกชุ่มเรียวปากของเขานั้นไต่วนผละออกจากถันอวบลงไปตรงหน้าท้องแบนราบด้วยผิวผ่องนิ้วมือแข็งแรงแทงผ่านขอบกางเกงชั้นในตัวบางลงไปวนนิ้วไต่ระอยู่ที่ร่องประกบของกลีบเนินไสตัวแผ่วเบาไปมา เกลี่ยหยาดน้ำเมือกใสลื่นไปตลอดร่องกลีบที่ประกบกันรจนาบิดตัวด้วยความเสียวซ่านไปทั้งร่าง ริมฝีปากอิ่มห่อตัวเป่าลมพรั่งพรูเมื่อมือแข็งแรงข้างนั้นดันขอบกางเกงตัวน้อยลงไปเบื้องล่างมันจะหลุดลงไปอยู่ที่ใดนั้นเธอไม่ได้สนใจ มันอีกเมื่อท้องน้อยสัมผัสลมหายใจร้อน ๆของชาติชายที่ลดใบหน้าลงหามัน ท่อนขาเรียวแข็งขืนขัดขวางมือแข็งแรงคู่นั้นอยู่เพียงไม่ถึงอึดใจก่อนที่จะพ่ายแพ้แก่แรงที่ดันมันแยกออกจากกันแล้วเรียวปากนั้นก็ประกบลงมากับเนินเนื้อปลายลิ้นนุ่มแยงแหย่เข้ามาตามรอยแยกจนปะทะติ่งเม็ดโขดเนื้อที่ตั้งชันร้อนผ่าว

"อื๋ยยยยยย..ซซซซ" ริมฝีปากนวลอิ่มคางไม่เป็นส่ำยามที่ติ่งเม็ดกระสันโดนรุกด้วยปลายลิ้น เธอบิดตัวไปมายกมือขึ้นกุมศีรษะของชาติชายกึ่งดึงกึ่งดันสะเปะสะปะสะโพกอวบกลมขยับยกยักย้ายไปมาด้วยอารมณ์ที่ตื่นเพริด อึดใจถัดมาเธอก็ปรือตาขึ้นมองยามที่ร่างแข็งแรงนั้นผละออก ร่างแข็งแรงยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงสองมือดึงเสื้อยืดออกพ้นศีรษะเผยอกกว้างแข็งแรงออกสู่สายตา แล้วก็ขยับยันกางเกงลงไหลลื่นไปกองที่ปลายเท้าก่อนขยับยกเท้าให้มันหลุดเลื่อนออกไปพลันที่สองมือดันขอบขากางเกงชั้นใน ขาวสะออดพ้นแนวสะโพกลงล่างท่อนเอ็นเนื้อลำลึงค์ขนาดกำลังงามก็เด้งผึงออกมาจากผ้าที่เก็บงำมันลำเนื้อแข็งเขม็ง ตั้งผงาดง้ำขึนกลางดงขนหนาทึบลำเอ็นพาดพันด้วยเกลียวเส้นเลือดสีคล้ำจนน่าสยดสยอง ลำเอ็นยาวไปจนบานออกที่ปลายเงี่ยงสีแดงเข้มเรียบมันวาวแผ่ออกแล้วหลุบลงไปที่ปลายหัวหยาดน้ำใสเม็ดน้อยปริ่มอยู่ที่ปากร่องรูปลายลึงค์ รจนาเสียววาบเมื่อร่างนั้นลดลงก้มหัวลงมาที่หน้าเนินขาที่อ้าออกรับลมหายใจอุ่นที่เป่าลงปะทะกลีบแคมจนอุ่นซ่านร่างแข็งแรงบึกบึนพลิกขึ้นแทรกตัวลงกลางท่อนขาเรียวนุ่มที่แบะอ้าเปิดทางให้สองแขนแข็งแรงช้อนท่อนขาเรียวนุ่ม ยกขึ้นดันจนมันยกเข่านวลมาจรดลำตัวความรู้สึกบอกตนเองว่าบัดนี้โคกเนินคูหาสวรรค์เปิดอ้าออกท้าทายสายตาของชายหนุ่มที่ค่อย ๆ ลดใบหน้าลงจรดกลีบเนื้อที่ฉ่ำชุ่มไปด้วยหยาดน้ำเมือกใส

"อ๊ะ อืยยซซ" รจนาเปล่งเสียงสะดุดเมื่อโขดเม็ดเนื้อเสียวโดนปลายลิ้นนุ่มกดบี้ลงจนความเสียวพลุ่งวาบสองมือเรียว นุ่มนวลเอื้อมลงไปแตะที่ไหล่หนาแน่นก่อนจะขยำกำเกร็งเมื่อปลายลิ้นของชายหนุ่มลากกลาดลงไปยังปากถ้ำแล้วแหย่แยงกระดกแผ่วที่ปากรถ้ำส่งความเสียวซ่านพุ่งขึ้นจนเสียวไปจรดหนังศีรษะสะโพกกลม ๆ ยกยักยันกลีบแคมบด เข้ากับริมฝีปากลมร้อนอุ่นจากจมูกเป่าลงบนติ่งเนื้อจนซ่านวาบ ๆ มือแข็งแรงข้างหนึ่งก็ยืดขึ้นมากำกุมเต้าถันนวลเนียนกดคลึงปลายจะงอยถันด้วยอุ้งมือหยาบอกแน่นหนั่นยกขึ้นยันถันบดเข้ากับอุ้มมือพร้อมกับที่มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นประกบลงกดมันแนบกับถันที่ตั้งรับ

"อื๊อยยยซซซซซซซ" รจนาครางด้วยเสียงสูงจนขาดหายเมื่อปลายลิ้นกวาดไปทั่วปากถ้ำเนื้อนุ่มแล้วกวาดวนไปรอบๆ จนเธอรู้สึกเหมือนเนินเนื้อจะเบ่งพองจนแทบระเบิดมันเลียแผ่วพลิ้ววนเวียนอยู่ที่ปากถ้ำ และเล็มกลีบแคมเนื้อชิ้นน้อยที่เหมือนปีกเล็ก ๆ สองข้างดูดดึงด้วยริมฝีปากพร้อมกับขยับเลียแผ่วมันขยับขึ้นมีที่ติ่งเม็ดเนื้อไวความเสียวดูดดุน ด้วยปลายลิ้นส่งความเสียวจนเธอต้องกระดกสะโพกดันเนินโคกเนื้อเป็นจังหวะอย่างไม่อาจจะควบคุมมันได้ปากถ้ำเนื้อ ร้อนผ่าวด้วยเพลิงราคะ แฉะฉ่ำด้วยน้ำเมือกปนน้ำลายของชายหนุ่มที่ใช้ปลายลิ้นแซะแคะปากถ้ำแล้วลากขึ้นลงไป ตามแนวกลีบเนื้อและแล้วเธอก็ถึงกับดิ้นพราด ๆ ด้วยความเสียวจนสุดตัวเมื่อปลายลิ้นนั้นลากลงไปจนผ่านปากถ้ำแตะลงที่หนังรอยต่อระหว่างถ้ำเนื้อกับช่องทางด้านหลังแล้วกระดกแตะปากร่องช่องทางที่ไม่เคยมีใครโดนมาก่อนยามนั้นเหมือนความเสียวมันระเบิดพล่านไปจนทั่วตัว ร่างบาง ๆกระเด้งกระดกสะโพกดันขึ้นลงถี่ยิบ สองมือเรียมขยุ้ม ศีรษะของชายหนุ่มกดขยี้ลงกับเนินเนื้อที่ส่ายวนไปมาอย่างสุดกลั้นร่างบางแอ่นหยัดเกร็งเหยียดจนสั่นระริกอยู่ชั่วอึดใจ ความรับรู้ดับวูบไปจนมืดสนิทความรู้สึกค่อย ๆ กลับคืนมานั้นบ่งบอกว่าชาติชายขึ้นมานอนกอดเธอเอาไว้แนบชิดร่างแข็งแรงเบียดร่างของเธอจนอบอุ่น อย่างบอกไม่ถูก ลมหายใจของตนเองยังหอบกระเส่าหยาดเหงื่อที่ผุดพราวขึ้นมาทั่วตัวทำให้เย็นระรื่นยามที่ลมโชยมาเป่า

ความรู้สึกในยามนี้เหมือนเพิ่งจะวิ่งมาอย่างสุดฝีเท้าจนเหนื่อยหอบแต่รจนาก็รู้ดีกว่านั้นด้วยเนินโคกโยนีเนื้อยังคงผะผ่าวด้วยความเสียวที่โดนลิ้นของชาติชายเลียเร้าจนระเบิดความสุขไปครั้งหนึ่งแล้วใบหน้าคมสันเคล้าเคลียอยู่ข้างแก้มจน เธอคันยุกยิกด้วยตอหนวดแข็ง ๆเต้าข้างหนึ่งยังมีมือหยาบ ๆ นวดเคล้นคลึงแผ่วเบาสะโพกอุ่นด้วยท่อนเนื้อลำลึงค์แข็ง ที่กดแนบอยู่จนรู้สึกถึงอาการที่มันเต้นอยู่ตุบๆ เธอส่งสายตาหยาดเยิ้มไปประสานกับสายตาที่มองจ้องอย่างลุ่มหลง

"รังแกกันจัง" เธอพ้อเสียงหอบเหนื่อย

"รักต่างหากครับ" เขากระซิบแผ่วเล็มติ่งหูเบาๆ

"ไม่อยากจะเชื่อ" มือเล็กเรียวลดลงมาจับกำกุมท่อนลึงค์จนอุ่นไปทั้งมือ

"แล้วยังไงถึงจะเชื่อล่ะครับ" เขาขยับตัวให้มือเรียวนั้นกำเอ็นเนื้อรูดแผ่ว ๆได้ถนัดมือ

"นอนหงาย ซีคะ" นัยน์ตาคมคู่นั้นฉายแววออดอ้อนจนชาติชายพลิกตัวลงนอนหงายท่อนลึงค์ตั้งชันด้วยมือเล็ก ๆ ที่ เกาะกุมเต็มกำขยับมือขยำสลับรูดเบา ๆปลายหัวเบ่งบานผลุบโผล่เป็นจังหวะ ร่างบาง ๆนั้นพลิกขึ้นครึ่งนั่งจนเต้าอวบส่ายเคลื่อนไปมา แล้วหันหน้าเข้าหาร่างชายหนุ่มเรือนหน้าสวยคมก้มลงจรด ริมฝีปากลงกับปลายเอ็นแดงก่ำปลายลิ้นนุ่มแหย่ลงกดกับปากร่องเปิดปลายเอ็นส่งความเสียววาบไปทั่วลำลึงค์ ชาติชายส่งเสียงครางในลำคอเมื่อริมฝีปากเรียวบางอ้าอมปลายท่อนเอ็นบาน ๆเข้าไปอยู่ในความอุ่นชื้นแล้วล