ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

With No Remorse Copy Chapter 20  Cr  psycho2544

เริ่มโดย zaaaar65, พฤศจิกายน 25, 2015, 11:50:08 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

zaaaar65


ซอกลึกของชั้นสูงสุดในอาคารจอดรถกลางกรุงเทพมหานครยามสายนั่นรถยนต์ที่เข้ามาใช้บริการยังไม่มากนักลานกว้างนี้จึงยังว่างเปล่าเงียบเหงา กว่าที่ชั้นล่าง ๆ จะเต็มนั่นก็จะเข้าไปบ่ายๆ รถเบนซ์สีดำที่จอดซุกอยู่ตรง มุมอาคารอับแสงนั่นจึงเป็นเพียงไม่กี่คันที่ขึ้นมาจอดในชั้นนี้ทั้งคนขับและผู้โดยสารในเบนซ์ต่างจับตามองไป ยังลาดทางขึ้นที่อยู่ห่างออกไปบางครั้งก็สอดส่ายสายตากวาดไปทั่วบริเวณลานจอดอันว่างเปล่า

"ยังไม่มาเลยครับจวนเวลาแล้วนี่ครับ"

"ไม่เป็นไรน่าชด เดี๋ยวถ้าเลยไปสักสิบห้านาทีไม่มา เราก็ไปเปลี่ยนที่เลยก็ได้" เสี่ยกิมเล้งบอกอดีตจ่าตำรวจที่นั่ง กุมพวงมาลัยสายตาของจ่าชดจับจ้องอยู่ที่รถสปอร์ทไรเด้อร์สีดำที่ติดฟีล์มดำมืดที่แล่นขึ้นมาช้าๆ มือที่กุมพวงมาลัยเลื่อนไปจับ ด้ามปืนที่พกอยู่ตุงเอวแม้เมื่อสปอร์ทไรเด้อร์เลี้ยวไปอีกทางหนึ่งแล้วถอยเข้าจอดห่างออกไป มือมันก็ยังกุมด้ามปืนพกของมันอยู่ จนกระทั่งหญิงสาวสองคนเปิดประตูลงมายืนข้างรถดึงกระเป๋าถือใบโตออกมาคล้องไหล่นั่น มันจึงละมือจากด้ามปืนแต่สายตายังจ้องมองไปยังสองสาวนั่นเขม็ง

"ไม่มีอะไรมั๊งชด" เสี่ยใหญ่บอกเบาๆ

"นุ่งกระโปรงคับติ้วอย่างนั้นอีกคนก็กางเกงสั้นกุดนั่น หรือว่าอยากเอาไป สังเวยกามล่ะ"

"อ๋อ ครับ เสี่ย" จ่าชดหัวเราะหึ หึแล้วก็เลื่อนมือลงไปที่ด้ามปืนอีกครั้งเมื่อรถเก๋งอีกคันโผล่ขึ้นมา แต่มันก็เลี้ยวเข้าไปจอดใกล้ ๆ สปอร์ทไรเด้อร์นั่นสองหนุ่มหน้าตี๋เปิดประตูลงมาแล้วเดินไปยืนข้าง ๆ สองสาวสปอร์ทไรเดอร์ไม่ถึงอึดใจก็เดินเป็นสองคู่

"เฮ้ยเด็กสมัยนี้มันขนาดนี้เลยเหรอวะ" เสี่ยใหญ่ที่นั่งมองอยู่อุทานเมื่อคู่หนึ่งเปิดท้ายสปอร์ทไรเดอร์หายขึ้นไปอีกคู่หนึ่งเดินคลอเคลียกันมาที่รถเก๋งแล้วก็ขึ้นรถไปเช่นกัน ไม่ถึงอึดใจรถทั้งสองคนก็ขย่มไหวยวบยาบ จ่าตำรวจระบายลม ยกมือขึ้นวางบนพวงมาลัยอีกคำรบจ่าตำรวจเพิ่งจะลดข้อมือที่ยกขึ้นดูนาฬิกาลงเมื่อแคมรี่สีดำเลี้ยวขึ้นมาหยุดตรงลาดทางขึ้นแล้วเลี้ยวปราดมาถอย เข้าจอดข้างเบนซ์คนขับลดกระจกลงจ่าชัยลองตรงไปยังชายฉกรรจ์สองคนที่นั่งอยู่ในแคมรี่ ก่อนจะลดกระจก เบนซ์ลงเช่นกันคนขับแคมรี่ยื่นโทรศัพท์มือถือของตนส่งข้ามมาให้เสี่ยใหญ่ที่รับมาแนบหู

"อาโหล"

"เสี่ยเหรอผมเอง"

"อ้อท่านเหรอครับ สวัสดีครับ รถรับของมาถึงแล้วครับ"

"แคมรี สีดำ ทะเบียน....." เสียงอีกข้างบอกมาอย่างรู้กัน

"ถูกต้องแล้วครับขอบพระคุณท่านครับ" เสี่ยใหญ่ตอบแล้วยื่นโทรศัพท์กลับไปให้คนขับแคมรี่ก่อนพยักหน้ากับจ่าชด

"ถูกต้อง.." อดีตจ่าตำรวจกดปุ่มเปิดฝากระโปรงท้ายเบนว์แล้วลงจากรถอ้อมไปยังท้ายรถพร้อมกับคนที่นั่งมาในแคมรี่พอมัน ไปถึงท้ายรถต่างก็ยกฝากระโปรงขึ้นจนสุดท้ายเบนซ์นั่นกระเป๋าเป้สองใบที่บรรจุของจนเต็มแน่นวางอยู่เคียงกันจ่าชดยกเป้ทั้งสองใบส่งให้คนจากแคมรีที่รับไปวางลงในท้ายรถปลดสายรัดเปิดฝากระเป๋าแล้วดึงห่อพลาสติก ที่พันด้วยเทปกาวสีน้ำตาลออกมาหนึ่งห่อมันยกเป้อีกสองใบจากท้ายแคมรีส่งให้จ่าตำรวจที่รับไปวางในเบนซ์แล้วเปิดฝาเป้ออกดูเช่นกัน จ่าชดล้วงเอาม้วนธนบัตรออกมาสองปึกกรีดดูคร่าว ๆแล้วจัดการกับอีกปึกหนึ่งในขณะที่อีกฝ่ายก็ดึงมีดคัตเตอร์ออกมากรีดห่อของแงะออกจนยาเม็ดหลากสีหล่นลงในท้ายแคมรี่สี่ห้าเม็ดมันหยิบ เม็ดยาเม็ดหนึ่งขึ้นดมแล้วแตะลิ้นก่อนหันมาพยักหน้ากับจ่าชดที่พยักหน้ารับ ต่างคนต่างปิดฝากระโปรงท้ายรถแล้วเดินกลับไปขึ้นรถตนเอง

"เรียบร้อยครับเสี่ย" จ่าชดบอกเสี่ยใหญ่พร้อมกับติดเครื่องยนต์สายตามองกวาดลานจอดรถเห็นสาวสปอร์ทไรเด้อร์ ที่ขึ้นไปบนเก๋งออกมายืนเสยผมยุ่ง ๆก่อนเดินกลับไปที่รถขณะที่หนุ่มรถเก๋งก็ลงจากท้ายสปอร์ทไรเด้อร์ รูดซิปกางเกงเข้าที่ แล้วเดินกลับไปที่รถเก๋งตนเองจ่าชดดึงคันเกียร์แล้วกดคันเร่งพาเบนซ์เคลื่อนออกจากลานจอดชั่วโมงถัดมามันก็เลี้ยวเข้าทางสายเอเชีย ป้ายบอกทางอยุธยาตั้งตระหง่านอยู่กลางถนน.......................

"ไอ้นุชวันนี้ขับไงวะกระตุกชอบกล" สาวน้อยกางเกงขากุดในสปอร์ทไรเดอร์หันไปบ่นเพื่อน ก่อนกลับไปจับตามองแคมรีที่อยู่ข้างหน้า

"ก็ขามันสั่นอยู่นี่หว่าหมวดเชษฐ์เล่นเย็ดจริงเลย น้ำแกเต็มเป้าอยู่เนี่ย" สาวกระโปรงสั้นบอกเพื่อนขณะที่สาวพวงมาลัยพารถเลี้ยวตามเป้าหมาย

"เฮ้ยแป๊บเดียวเนี่ยนะ บอกแล้วไม่เชื่อว่าให้นุ่งกางเกง เป็นไงล่ะแก"

"ไม่ทันตั้งตัวซี พอปิดฝากระบะแกเล่นประกบดูดเลยเผลออีกทีโดนเข้าไปแล้ว"

"เออขับไปดี ๆ โว้ย แล้วจะมีแรงไหมเนี่ย" เพื่อนสาวส่ายหัว

"ได้น่าแต่แหม นี่ยังกลวง ๆ เจ็บ ๆ อยู่เลย หมวดเชษฐ์นี่ใหญ่ฉิบ แกเอ๊ย"

"ไอ้บ้า ยังมีหน้ามาบอกอีก เวร เพื่อนชั้น" สปอร์ทไรเดอร์หักหัวเบนเข้าจอดข้างทางเมื่อแคมรีชะลอเข้าจอดหน้าบ้านหลังย่อมรถเก๋งสองหนุ่มแล่นเลยแคมรี แล้วจอดอีกฝั่งของถนนสองสาวลงจากรถพร้อมกระเป๋าก้าวเดินตรงไปยังหน้าบ้านที่แคมรีกำลังถอยเข้าจอดสองหนุ่มลงจากรถเก๋งเดินมายังทางเดียวกัน เบื้องหลังสปอร์ทไรเดอร์นั้นกระบะสองตอนอีกสองคันเข้าจอด ต่อท้ายชายในชุดดำลงจากรถพร้อมปืนพกออกโตเมติกในมือกรูกันเดินเลียบแนวรั้วตรงไปยังบ้านที่แคมรีเข้าจอด

"หยุดนี่ ปปส. อย่าขัดขืน" ชายหนุ่มคนหนึ่งจากรถเก๋งปราดเข้าถึงหน้าบ้านที่แคมรีถอยเข้าจอดปืนในมือเล็งตรง ไปที่ชายหน้ากร้านที่กำลังจะลากประตูบ้านปิด ปัง.. ปัง. ปัง..เสียงปืนดังออกจากตัวบ้าน ชายหนุ่มซวนร่างล้มฟุบ ปัง ปัง ปัง ปัง..สองสาวชักมือออกจากกระเป๋าใบเขื่องปล่อยให้มันตกลงสู่พื้นถนนคอนกรีตร้อนผ่าวสะบัดมือยกปืนพกกระบอก เขื่องขึ้น สาวขาสั้นสาดกระสุนสวนเข้าไปในบ้านที่มองเห็นผ้าม่านสั่นไหวสาวกระโปรงสั้นสาดกระสุดในมือเป็นชุดพุ่งเข้าหน้าอกไอ้คนที่กำลังจะปิดประตูเมื่อเห็นมันกระตุกมือดึงปืนออกมาจากด้านหลังมันหงายท้องลงไป นอนแผ่พร้อม ๆกับเพื่อนคนขับรถที่กำลังจะลั่นไกใส่สองสาวเมื่อหนุ่มอีกคนจากรถเก๋งที่ปราดตามมาติดๆ กระดิก ไกปืนปล่อยกระสุนเจาะกบาลมันเปิดอ้าตำรวจปราบปรามยาเสพติดในชุดดำที่มาจากกระบะพุ่งเข้าปากทางเข้าบ้านสาดกระสุนสวนเข้าไปในบ้านเมื่อยังเห็นว่าคนในบ้านยังยิงออกมาเป็นชุด ๆ ยามนี้กระสุนปลิวว่อนออกมาจากบ้านหลังนั้นสองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่ม ที่ตามแคมรีออกมาจากที่จอดรถนั่นพุ่งตัวลงกับพื้นสาวกระโปรงสั้นคลานไปที่ร่างของชายหนุ่มคนที่โดนกระสุน เข้าไปเลือดไหลซึมจากบาดแผลบริเวณหัวไหล่และสีข้าง

"หมวดๆ พี่เชษฐ์ เป็นไง เฮ้ย ตอบซี" สาวกระโปรงสั้นวางปืนลงกับพื้นจับตัวชายหนุ่มเขย่า น้ำตาไหลเป็นทาง

"ไอ้บ้าเจ็บ อย่าเขย่าซีวะ" เสียงดังลอดออกมาจากปากแทบไม่ได้ยินด้วยเสียงปืนดังระงมทำเอาชาวบ้านแตกตื่น

"อย่าตายนะไม่ยอมด้วย" สายตาจ้องมองหน้าชายหนุ่มที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บแผลยกหลังมือเช็ดน้ำตา

"ไม่ตายหรอกโว้ยไอ้นุช แต่เจ็บ หยุดเขย่าได้แล้ว แล้วไปช่วยพวกนั้นเร็ว" มือข้างหนึ่งจับแขนสาวปปส. ดัน ออกจากตัว

"เออดี โดนซะมั่ง อย่าไปไหนนะเดี๋ยวมา" เธอบอกแล้วคว้าปืนขึ้นมาถือ

"ก็โดนยิงอยู่นี่มันจะแถกไปไหนได้วะเฮ้ย" ชายหนุ่มตอบกลั๊วหัวเราะ หญิงสาวจึงหันกลับไปที่วงต่อสู้ หางตาเห็น หน้าต่างชั้นบนสะบัดวูบๆ ก็ยกปืนขึ้นเล็ง วายร้ายคนหนึ่งโผล่ออกมาพร้อมปืนลูกซองกระบอกยาว ปัง ปัง ปังปัง ปัง ปืนในมือพ่นกระสุนออกไปจนลูกเลื่อนค้างเพราะกระสุนหมดสายตาเธอยังมองเขม็งไปที่บานหน้าต่างที่ไอ้เจ้าวายร้ายผลุบหายไปด้วยยังไม่อาจนิ่งนอนใจว่ามันจะหมดฤทธิ์หรือยังมือล้วงลงไปในอกเสื้อดึงเอาซองลูกปืนเต็มปรี่ออกมาพร้อมกับมือที่ถือปืนกดปุ่มปลดซองกระสุนว่างเปล่าหล่นลงกับพื้นตบซองกระสุนใหม่เข้าแทนที่แล้วปลดล๊อกลูกเลื่อนปล่อยให้มันกระแทกกลับเข้าที่ดันกระสุนนัดใหม่เข้ารังเพลิง

"เพ็ญระวังซ้าย" เธอตะโกนลั่นถนนเมื่อเห็นวายร้ายอีกคนโผล่ออกมาจากข้างตัวบ้านในมุมอับที่เพื่อนสาวมองไม่เห็น สาวกางเกงขากุดไม่ได้หันไปมองด้วยซ้ำเมื่อทิ้งร่างหงายกลิ้งม้วนออกมากระสุนที่ไอ้เจ้าวายร้ายปล่อยออกมาจึงหลุดจากเป้าไปโดนแคมรีที่จอดอยู่จนกระจกแตกกระจาย ปัง ปัง ปัง นัดแรกที่สาวปปส. ปล่อยออกไปขึ้นสูงจนกระทบขอบปูนแตก แต่อีกสองนัดเข้าเป้าเหมาะเหม็งวายร้ายนั่น ตัวหมุนลงไปกอง

ตำรวจ ปปส. ชุดดำสามสี่คนพุ่งออกจากข้างกำแพงโถมใส่ประตูบ้านจนมันเปิดอ้า แล้วพุ่ง ปราดหายเข้าไปในตัวบ้านอีกสองคนวิ่งค้อมตัวไปด้านหลังที่มีเสียงปืนดังมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ปปส.สาวพุ่งตัว ปราดเข้าไปช้อนไหล่เพื่อนที่กำลังทรงตัวให้ลุกขึ้นแล้วทั้งสองคนก็พุ่งตัวตามเข้าไปในบ้าน เสียงปืนเงียบลงเสียงสัญญาณฉุกเฉินของรถเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดังระงมขึ้นรถตำรวจหลายคันพุ่งเข้ามาจอด สองสาว เดินดุ่ม ๆ ออกมาจากบ้านที่มีรอยกระสุนปืนพราวตำรวจหลายนายเล็งปืนเข้าใส่เมื่อเห็นปืนในมือสองสาว จวบจนรถอีกคันที่ติดตราสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแล่นเข้ามาพร้อมกับเสียงคนนั่งที่โผล่ออกมาตะโกนบอกนั่นแหละเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นจึงลดปืนลงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังนั้นชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเริ่มออกมา จับกลุ่มดูเจ้าหน้าที่ไม่ถึงอึดใจรถนั่งข่าวก็พุ่งปราดเข้ามาเบรกหยุด

"จ่าไปกันนักข่าวไว้ อย่าให้เข้ามา ห้ามถ่ายคนของผมด้วย" ชายหนุ่มที่สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำร้องบอกตำรวจนายหนึ่งที่รับคำแล้วออกวิ่งเรียกเพื่อนตำรวจอีกสองสามคนตามไปยังรถนักข่าว

................ ชาติชายวรวุฒิ และศรัณย์ นั่งดูข่าวทลายแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดทางโทรทัศน์อย่างใจจอดจ่อการุณย์นั่งเอนตัว อยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ตรงกลาง

"เรียบร้อยไปอีกหนึ่งคราวนี้ถึงทีตีงูใหญ่แล้วซิครับ" วรวุฒิหันไปทางการุณย์ที่พยักหน้าช้า ๆ

"เหลืออีกสองเสี่ยเล้งนี่ เตรียมแล้วไม่ใช่รึ ว่าไง วุฒิ ชาย"

"ครับ พร้อมแล้วครับ" วรวุฒิตอบเรียบ ๆ

"ลงมือได้เมื่อไหร่"

"คืนนี้ครับ" ชาติชายพูดขึ้น

"ไปกันกี่คนล่ะ"

"สามครับ ผมลงมือ รัณย์เก็บคนคุ้มกัน วุฒิ ระวังหลังครับ"

"อืมมม ก็ดี เร็ว ๆ ก็ดี จะได้หมดเรื่องกันไปเรื่องหนึ่ง" การุณย์พูดเรียบๆ เหลียวกลับไปมองกานดากับสาวน้อยที่ นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร

"น้องเราชื่ออะไรนะวุฒิ"

"ก้อยครับผู้การทำไมหรือครับ"

"เฮ่ย ชื่อจริงซิ ผมจำไม่ได้"

"ปานเรขา ครับผม"

"อืมม เพราะนะ ถ้าใช้ภาษาง่าย ๆ ก็ปานวาดซีนะ ดี เวลาไปขอจะได้เรียกชื่อถูกไง"

"อ้อ เหรอครับ" วรวุฒิร้องเบา ๆ

"แล้วผู้การจะจัดงานทีเดียวสองคู่เลยหรือเปล่าครับ"

"อ้าว วุฒิจะแต่งพร้อมกันเลยรึ ไม่บอกล่ะ จะให้ไปขอใครล่ะเนี่ย" การุณย์

ชาติชายและศรัณย์หันมามองเป็นตาเดียว "อ๋อ ไม่ใช่ผมหรอกครับ ก็แต่งเจ้าชายกับยายก้อยพร้อมกับ ผู้การกับอากานดา ไงครับ"

"หนอยไอ้ทะลึ่ง" การุณย์หัวเราะก๊ากเต็มเสียง พาอีกสามหนุ่มหัวเราะประสานเสียงขึ้นมา

"หนุ่มๆ ขำอะไรกันคะ" เสียงกานดาดังมาจากโต๊ะกินข้าว การุณย์ทำคอย่น

"ห้ามบอกนะเว้ย" การุณย์หันมาบอกหนุ่มๆ เบา ๆ อย่างติดตลก

"โหอาต้นยังไม่ทันแต่งเลย กลัวแม่แล้วเหรอครับเนี่ย" ชาติชายแซวเรียกเสียงหัวเราะขึ้นมาอีก

"เฮ่ยของยังงี้ ต้องซ้อมไว้ก่อน" การุณย์หันมาบอก

"ว่าแต่ตัวเราเหอะชายเอ๊ย ตะกี้เห็นยายหนูเรียกคำเดียว ก็ แทบจะวิ่งไปช่วยรับของแล้วนี่หว่า"

"แฮ่ะแฮ่ะ ครับ ผมก็คิดเหมือนคุณอาแหละครับ ต้องซ้อมไว้ก่อนน่ะครับ" ชาติชายทำเสียงอ่อย

"แล้วพี่ชายเขาก็นั่งอยู่นี่ ต้องทำดี ๆ ครับ เดี๋ยวมันไม่ยกให้น่ะครับ" ชายทั้งสี่คนฮากันครืนใหญ่ประสานเสียงกันครื้นเครง

....................... ในห้องพักของโรงพยาบาล คนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยพันด้วยผ้าไปครึ่งตัวกับไหล่อีกข้างหนึ่งไหล่ข้างหนึ่งนั้นก็ มีผ้าก๊อซสีขาวพันไว้จนหนาเตอะข้างเตียงนั่นสาวกระโปรงสั้นยืนกุมมือไว้

"ก็พี่เชษฐ์นี่เล่นอะไรแผลง ๆ จะทำงานยังจะมาเอาอีก" สาวเจ้ากระเง้ากระงอด

"ก็กลัวไม่สมจริงไง" คนป่วยนอนยิ้มกริ่ม

"แล้วไงล่ะวิ่งไปขาอ่อน โดนยิงกระจุย ดีไม่โดนหำ"

"โดนก็มีคนอดซิ" คนป่วนนอนยักคิ้วอย่างทะเล้นสาวกระโปรงสั้นหยิกหมับ

"เฮ้ยโอ๊ย รังแกคนป่วยเหรอ"

"มันน่าซ้ำให้หำหดน่ะไม่ว่า"

"ไอ้นุชชักจะลามปามใหญ่ มันไม่หดหรอก มีแต่จะบานใหญ่น่ะไม่ว่า ช่วยไม่ได้อยากนุ่งกระโปรงสั้น แล้วแทนที่ จะนุ่งข้างในจะได้มิดชิดก็ไม่นุ่งนี่หว่า"

"ไอ้บ้าพี่เชษฐ์ นุ่งไปขากางเกงมันแลบก็แผนแตกซีวะ" สาวนุชค้อนขวับ

"ใครจะไปนึกว่าจับคู่กับคนบ้ากามล่ะ" ประตูห้องพักเปิดออกชายในชุดสากลเดินก้าวเข้ามาพร้อมกับนายร้อยตำรวจหนุ่มในเครื่องแบบอีกสองคน

"ไงวะเชษฐ์นึกยังไงวิ่งเอาสีข้างไปรับลูกปืน" คนในชุดสากลทักทายพลางรับไหว้ทั้งสองหนุ่มสาว

"มันใส่มาจากชั้นสองน่ะครับเลยไม่ทันระวัง ดีที่นุชเขาเห็นเลยเล่นมันทัน ไม่งั้นคงโดนซ้ำอีกแหละครับ"

"อืมมคราวต่อไประวังกันหน่อยซีนะ ดีมากนะนุช ตอนนี้ให้พักสักอาทิตย์นึงนะแล้วเดี๋ยวให้คนอื่นสรุปรายงาน ก็ได้ เชษฐ์ก็นอนพักไปก่อน หายแล้วค่อยว่ากันใหม่" ชายในชุดสากลบอก

"คราวนี้ได้เยอะเลยนะครับตัดกำลังมันได้พอสมควรเลย" ปปส.หนุ่มบนเตียงกล่าวกับผู้เป็นนาย

"เออว่ะข้างบนก็ถล่มโรงงานมันไปแล้ว คราวนี้ไอ้ตัวใหญ่คงดิ้นกันพล่าน ฮ่ะ ฮ่ะ" ชายผู้อาวุโสกว่าหัวเราะเบาๆ หันไปมองลูกน้องทั้งสองคน

"เออแล้วนี่จะแต่งกันเมื่อไรเนี่ย"

"คุณพ่อนะ" สาวนุชหรือวีรนุช เจ้าหน้าที่ ปปส. ค้อนขวับ

"เอ่อ.." ชายหนุ่มบนเตียงพูดไม่ออก

"เฮ่ยแต่ง ๆ กันเสียที่เถอะว้า" ผู้อาวุโสบอกพร้อมกับสบตาสองคนสลับกัน

"อยู่ด้วยกันมาตั้งปีแล้วจะได้มีหลานตา ไว้อุ้มเสียที" สองหนุ่มสาวหน้าแดง

"พ่อนะนุชยังไม่ได้อะไรสักหน่อย" "แกไม่ต้องมาโกหกพ่อหรอกน่า ทำอย่างกับพ่ออายุสัก 5 ขวบ" ผู้สูงอายุบอกลูกสาว

"ถ้าจะว่าพ่อก็ว่าไปแล้ว ทำไม จะไม่รู้ล่ะ ไม่ได้ขี่สามล้อซะเมื่อไหร่แกสองคนคิดจะปิดพ่อได้เหรอไง" สองหนุ่มสาวกลืนน้ำลาย

"งานเราน่ะมันเสี่ยงตลอดเวลาอย่างวันนี้พอเชษฐ์ยังโดนเข้าไปสอง ถ้าเรามีลูก พ่อจะได้ให้เรามาทำงานสำนักงานเสีย แต่ถ้าอยู่อย่างนี้ พ่อคงดึงแกออกจากงานสนามไม่ได้หรอก ยังไงแกก็เป็นเจ้าหน้าที่ฝีมือดีนะ" ผู้สูงวัยบอกตรงๆ

"อ้อนี่จะให้หนูขึ้นไปนั่งทำงานสำนักงานหรอกเหรอคะเนี่ย"

"ใช่แล้วพ่อดึงเชษฐ์ขึ้นไม่ได้หรอก แต่ถ้าแกท้องแล้วมีลูก พ่อก็ดึงได้อย่างน้อยที่สุดแกสองคนก็ต้องไปเสี่ยงได้ คนหนึ่ง แต่แกสองคนไปเสี่ยงอย่างนี้ พ่อก็ไม่ค่อยสบายใจหรอกแกน่ะลูกพ่อ พ่อต้องห่วงอยู่แล้ว ส่วนเชษฐ์นี่มันไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูกเพราะเป็นคนที่ลูกสาวพ่อรัก พ่อก็ต้องห่วงอีกคนอย่าให้พ่อต้องห่วงมันทั้งสองคนเลยว้า"

"แหมพ่อนี่.." สาวน้อยเดินเข้าไปสวมกอดพ่อตนเอง ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้อย่างลำบากเพราะไหล่ข้างหนึ่งนั้นพันผ้าปิดรอยแผลกระสุนปืนไว้ "ขอบพระคุณครับ ผอ ออ."

[fon