ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_jingjang

The witch ตอนที่ 11 หญิงสาว

เริ่มโดย jingjang, พฤศจิกายน 16, 2015, 05:13:31 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

jingjang

                    The witch ตอนที่ 11 หญิงสาว

          ในอพาทเม้นท์ ของมาเรีย ในกรุงลอนดอน  
     หญิงสาว-ชายหนุ่ม กำลังขยับเป็นจังหวะแห่งความสุข 
 
     " อ๊าาา.า..... ฉันมีความสุขมากเลยจอห์น อ๊าาา..า แรงอีก ...ลึกอีก .....อ๊าาาาา ....กรี้ดดด..ด " ตัวหญิงสาวกระตุก เกร็ง มือจิกไปบนผ้าปูเตียงที่ยับยู่ยี่  

     อันหมายถึงความสุขที่ถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง จากหลายๆครั้ง ซึ่งชายหนุ่มก็ยังไม่มีทีท่าาว่าจะหยุดการขยับของท่อนเอ็น ปับ ปับบ ปับบ..  ปับบบ..บ.. ปับบ..  ในท่า ด๊อกกี้  ปับ.ปับ ปับ..ปับ  
     " อ๊าา.า....อืมม.ม.. อ๊าาา.า.." มือขยำไปที่ทรวงอกของหญิงสาว  ซึ่งขณะนี้เต็มไปด้วยรอยแดงจากการดูดและบนใบหน้าก็มีรอยแดงจากฝ่ามือ ที่มุมปากก็มีรอยเลือดที่ผสมไปด้วย น้ำลาย น้ำตา และ น้ำเสียว ที่บางส่วนก็เริ่มแห้งเป็นคราบแล้ว  ....
[align=center][/align]
........
...
         สนามบินดอนเมือง  
     บนเครื่องบินส่วนตัว ที่กำลังขออนุญาต การบิน ขอขึ้นบิน
 
     " เจมส์ ฉันกำลังขึ้นเครื่องบินไปหาคุณกับจอห์นที่ลอนดอนนะ ฉันมีบางอย่างต้องคุยกับพวกคุณ " ดร.คิม ที่ขณะนี้ขยับ ตัวท่อนบนได้แล้วนั่งอยู่บนรถเข็นแบบพิเศษ คุยโทรศัพท์กับเจมส์[post]
[align=center][/align][/post]
    " โดยปกติ คำสาป สามารถแก้ไขได้โดย 2 วิธี คือ1 ทำตามเงื่อนไขที่สาป 2 ฆ่าคนที่สาปทิ้งซะ ซึ่งจากที่จอห์นเคยเล่า ราชินีแม่มดที่สาปจอห์นได้ใช้ชีวิตตัวเองในการสาปจอห์น ซึ่งมันเป็นคำสาปที่ทรงพลังมาก จอห์นเลยพยายามหาคัมภีร์เวทย์เพื่อแก้คำสาป แต่ถ้าสิ่งที่เรารู้มามันผิดละ อย่างที่บอกคำสาปจะมีผลก็ต่อเมื่อผู้ที่ทำการสาปใช้ความแค้นของตัวเองเป็นพลังในการสาป เพราะฉะนั้นผู้สาปก็ต้องมีชีวิตอยู่เท่านั้น คำสาปถึงจะเป็นผล.. การใช้ชีวิตตัวเองในการสาป ไม่เคยมีตำราเล่มไหนบัญญัติไว้ เพราะเมื่อชีวิตสิ้นสุด ความแค้นต่างๆก็สิ้นสุดตาม ความตายคือการสิ้นสุดของทุกสิ่ง คนเป็นเท่านั้นที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการสาป และถูกสาป เพราะฉะนั้น การที่จอห์นยังสามารถดำรงความเป็นอมตะมาจนถึงตอนนี้ได้ บางที ราชินีแม่มดอาจจะยังมีชีวิตอยู่..."  ดร.คิม  บอกไปยังปลายสาย ก่อนที่จะได้ยินเสียง  เปรี้ยง!!!.....
 
      รืนนนนนน....  ........เปรี้ยงงงง.ง..ง!!! เครื่องบินยังไม่สามารถขึ้นได้ค่ะเนื่องจากมีพายุฟ้าคะนองกะทันหัน หญิงสาวแอร์ประจำเครื่องบินส่วนตัวเดินมาบอก ดร.คิม ที่ขณะนี้มองออกไปผ่านกระจกเครื่องบิน

มองเห็นท้องฟ้าที่มืดครึ้มดำทมึน และมีสายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้าที่มืดหม่น ซึ่งเมื่อสักครู่ก่อน ดร. คิม จะขึ้นมาบนเครื่อง ท้องฟ้ายังปลอดโปร่งอยู่เลย  เปรี้ยงงงงง..ง!!!!!สายฟ้า ฟาดลงมาอย่างรุนแรง ลงมาบนรันเวย์ ห่างจากตัวเครื่องบินไปประมาณ 5 เมตร ก่อนจะเกิดประกายไฟแล็บ แปร็บปร๊า บนพื้นคอนกรีต และเกิดหลุมลึก  

ครืนนนนนนน..แปร๊บบ..บ........เสียงบนท้องฟ้าดังอย่างกับมีคนมารัวกลอง หนักๆๆ บนก้อนเมฆ เริ่มเกิดสายฟ้า แปร๊บร๊า..

     ก่อนจะผ่าลงมายังเครื่องบินส่วนตัวที่กำลังรอคำอนุญาตขึ้นบินอยู่ของ ดร.คิม  จนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงขึ้น ตูมมมม.มมม.มม..ม!!!! เศษซากปลิ้วว่อนไปทั่วบริเวณลานบิน ในอาคารผู้โดยสาร ที่บรรดาผู้โดยสารที่กำลังรอขึ้นเครื่องพากันแตกตื่น พร้อมทั้งมีเสียงกรีดร้อง ที่เห็นเครื่องบินระเบิดต่อหน้าต่อตา  

ชายแก่หลังค่อมคนหนึ่งถือไม้เท้า ซึ่งด้านหลังมีสาวสวย 2 คนในชุดกี้เพ้ายืนอยู่ ค่อยๆแสยะยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไปช้าๆ  เพื่อไปยังลานจอดรถที่คนขับพร้อมรถลีมูซีนรออยู่ เหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลย.....

     " ดร.คิม....   ดร.คิม .." ไม่มีเสียงตอบกลับจากปลายสาย เจมส์รู้สึกร้อนใจมากเพราะไม่สามารถติดต่อจอห์น ได้เลยตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากออกจากบาร์เหล้า  

     ส่วนดร.คิม ก็เงียบหลังจากได้ยินเสียงฟ้าผ่าที่ดังมาก ก่อนปลายสายจะเงียบไป ซะเฉยๆๆ  

" มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี้ย เด๋วก็ติดต่อจอห์นไม่ได้ ทีนี้สายจากดร. คิมก็หลุดอีก มันเป็นวันอะไรกันเนี้ย " ชายชราสบถกับตัวเอง ก่อนจะกดอินเตอร์คอมเรียกเลขาให้พยายามติดต่อ ดร.คิมให้ได้ ส่วนเขาจะไม่อยู่ออฟฟิศเพราะมีธุระต้องรีบไปสะสาง ก่อนจะลุกขึ้นคว้าสูทแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป
..........
..............
........................
            ในถ้ำแม่มดขาว แห่งป่าเชอร์วู๊ด

      " มีอา..เจ้าเป็นอะไรไหม " เสียงที่คุ้นเคยเรียกสติให้มีอากลับมาจากความโศกเศร้าที่ได้สังหารแทนย่ากับมือตนเอง
      " แม่เฒ่า...." มีอาเห็นหญิงชราที่เป็นทั้งอาจารย์ และคนที่เลี้ยงดูก็โผเข้ากอด สะอื้นร้องไห้
      " เราต้องรีบไปกันแล้ว.. ข้าแอบเข้ามาโดยไม่ให้พวกมันจับได้ ข้าไม่รู้ว่าต้นไม้อารักษ์จะสามารถถ่วงเวลาได้นานแค่ไหน " หญิงชรากล่าวพลางพยายามดึงตัวมีอาให้ลุกขึ้น[post]
[align=center][/post]
     " แต่แทนย่า ...." มีอากล่าวพลางสะอื้น
     " มันสายไปแล้ว สำหรับเด็กน้อย เราต้องรีบไปแล้วมีอา " หญิงชราเร่งแม่มดสาวให้เร็วขึ้น
     " แล้วท่านอัศวินละ " มีอากล่าวขึ้นเมื่อเห็นดูรันนอนเปลือยที่พื้นไม่สามารถขยับได้
     " คนของเขาจะมาช่วยเขาเอง หลังจากที่ข้าพาพวกเด็กๆๆไปส่งที่หมู่บ้าน ข้าได้เจอกองกำลังอัศวินเป็นกองทัพ..ข้าได้บอกแก่พวกเขาว่า เด็กเหล่านี้ท่านอัศวินเป็นคนช่วยและให้ข้าพาหนีมา โดยเขาจะถ่วงเวลาให้ และเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนตัวข้าหลังจากได้บอกเสร็จก็รีบเร่งมาเพื่อพาเจ้าหนีก่อนที่กองทัพจะมาถึง " หญิงชราอธิบายแก่มีอา 
     
      " เราต้องรีบแล้ว " หญิงชรากระชากดึงตัวมีอาหนีออกไปยังทางออก ทิ้งอัศวินร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ในถ้าเพียงลำพัง พร้อมทั้งซากร่างของสาวน้อย แทนย่า

( มีอา..แทนย่า.. ข้าขอโทษ...  ข้าขอโทษ..ที่ช่วยแทนย่าไม่ได้ ช่วยเจ้าไม่ได้ หากข้ามีพลังมากกว่านี้ .........)อัศวินหนุ่มที่ไม่สามารถขยับตัวได้ ได้แต่คิดอยู่ในใจ ถึงแม้จะพยายามตะโกนเพื่อให้มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปาก ก็ทำได้แค่เป็นเสียงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆเท่านั้น

      "..แฮก!! แฮกกก.ก..ก .." เสียงกระหืดกระหอบของราชินีวิ่งเข้ามาในถ้ำ ขาทั้ง 8 ของนางเหลือแค่ 1 ข้าง ที่เหลืออยู่ในสภาพที่ถูกกระชากออกไป
      " เจ้ามนุษย์ เป็นเพราะพวกเจ้า ..เป็นเพราะเจ้าความฝันข้า ....... ความต้องการอัญเชิญนายแห่งข้า ........เจ้าทำลายมัน...." ราชินีคว้าคอของดูรันขึ้นมาพูดพลางกระอักเลือดสีเขียวออกมาจากปากของนาง

     " ข้าจะฆ่าเจ้า ก็ง่ายเกินไปในการปลิดชีพมนุษย์ อย่างเจ้า  แค๊ก.. แค๊กก..ก เจ้าตายแต่ร่างกาย จิตวิญญาณเจ้าก็กลับเป็นเทวทูตฺเช่นเดิม ....ไม่!! มันต้องไม่ง่ายแบบนั้น ข้าไม่ยอมม....ม เจ้าจะต้องทรมานน..น.....แค๊กก.ก .. กว่านี้ ...กว่านี้อีกกก..ก ข้าจะไม่ให้เจ้าได้กลับสวรรค์ ข้าจะทำให้เจ้าแปดเปื้อน 5555  แค๊กกก..ก..แค๊กก " ราชินีร่ายคำสาบที่แลกด้วยชีวิตของตนเอง เป็นผนึกสีดำลายแมงมุมกลางแผ่นหลังของชายหนุ่ม....

     " เจ้าจะทนทุกข์ทรมาน แต่เจ้าจะไม่ตาย .....ไม่มีสิ่งใดฆ่าเจ้าได้ แต่สามารถทำอันตรายเจ้าได้ ..เจ้าจะบาดเจ็บ เจ็บป่วยเหมือนมนุษย์แต่เจ้าจะไม่ตาย วิญญาณของเจ้าจะไม่ได้รับการปลดปล่อย เจ้าจะไม่สามารถกลับไปสู่ในที่ที่เจ้าจากมาได้ เจ้าต้องเป็นมนุษย์ 5555 ค๊ก " ราชินีพูดจบก็ล้มลงร่างแตกสลายกลายเป็นแมงมุมตัวเล็ก ก่อนจะมอดไหม้ไป
     " อ๊ากก.กก.ก...ก....." ดูรันร้องออกมาก่อนที่แผ่นหลังตรงรอยประทับคำสาบรูปแมงมุม เริ่มเปล่งแสงสีแดง ก็เกิดควันไอร้อนนขึ้น

     ก่อนจะสงบกลายเป็นสีดำพร้อมทั้งความเจ็บปวดที่กำลังประทุขึ้นจากพิษของแมงมุม

     " เขาอยู่ทางนี้.. ครับท่านบิชอฟ..  เขาอยู่ทางนี้ " ทหารที่เข้ามาสำรวจถ้ำ มองเห็นร่างของชายหนุ่มเพียงผู้เดียว อยู่ในห้องโถง ในสภาพเปลือยเปล่า
     " เขาเป็นอย่างไรบ้าง " บิชอฟสอบถามทหารที่รีบเข้าไปดูอาการ
     " ยังมีชีวิตอยู่ขอรับ แต่บาดเจ็บหนักมาก " ทหารรายงานอาการของดูรัน
     " รีบพาเขาไปรักษาซะ " บิชอฟออกคำสั่ง  

     " แล้วมีใครคนอื่นอีกไหม ทหารที่ตามเขามาละ เจอไหม " บิชอฟสอบถามทหารที่สำรวจ ภายในถ้ำ
     " ไม่มีใครอื่นอีกเลยขอรับท่านบิชอฟ เราเจอแต่ท่านอัศวินดูรันผู้เดียวในถ้ำ " ทหารรายงาน แก่บิชอฟ
     " งั้น จุดไฟเผาซะ.. เราจะให้สิ่งชั่วร้ายเหล่านี้หลงเหลืออยู่ไม่ได้ " บิชอฟออกคำสั่ง
     " ขอรับ ท่านบิชอฟ.." เหล่าทหารรับคำสั่งพากันจุดคบเพลิง แล้วโยนเข้าไปในถ้ำ เผาทุกสิ่งทุกอย่างในถ้ำ
.................................
...................
..........
     " มีอา.. มีอา มีอา.." ชายหนุ่ม จอห์นละเมอพูดออกมาก่อนผวาตื่นขึ้นบนเตียง โดยที่ข้างๆมีหญิงสาว เปลือยกายนอน อยู่ข้างๆ [post]
[align=center][/align][/post]
     " จอห์นค่ะ.. มีอาคือใครค่ะ.. ทำไมคุณเอาแต่เรียกชื่อเธอ " มาเรียถามจอห์นขณะที่ตัวเองค่อยๆลุกขึ้น จากเตียง
     " เธอคือคนที่ผมติดหนี้ เธอเป็นอย่างมาก " จอห์นพูดก่อนที่จะ รู้สึกตัวว่าทำไมตนเองถึงอยู่ในสภาพนี้กับหญิงสาว
     " มาเรียผมขอโทษ.. เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นเลย " จอห์นพยายามพูดว่าตัวเองเสียใจแค่ไหนแต่มาเรียโผเข้ามาจูบปากจอห์นเสียก่อน
     " คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษค่ะจอห์น ฉันรู้สึกดีและมีความสุขในสิ่งที่คุณทำ เพราะฉะนั้น คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น "
      หญิงสาวกอดไปที่คอของชายหนุ่ม
 
    " และอีกอย่างถ้าจะมีใครสักคนที่เป็นคนผิด คนคนนั้นก็คือฉัน.." หญิงสาวพูดขณะที่ตัวเองลุกออกจากเตียงและเดินไปที่หน้าต่าง
     " คุณหมายความว่ายังครับ.."

     ชายหนุ่มรู้สึกแปลกๆขึ้นในลำคอ เหมือนมีอะไรไต่ไปมาอยู่ในคอของตนเอง ก่อนที่จะมีแมงมุมตัวเล็กค่อยๆทะลักออกมาจากปากของตัวเองหลายตัว และที่เริ่มคลานขึ้นมาจากพื้น ขึ้นมาบนเตียงอีกหลายร้อยตัว จนเห็นแต่เงาสีดำ ค่อยๆเคลื่อนเข้ามายังร่างของจอห์น แมงมุมทั้งหมดเริ่มชักใยไปยังร่างของชายหนุ่ม มัดร่างชายหนุ่มไว้ ซึ่งชายหนุ่มพยายามดิ้นรน แต่ไม่สามารถหลุดออกจากใยได้

ร่างเปลือกนอกของหญิงสาวค่อยๆหลุดออกมาเป็นแมงมุม ตัวเล็กเผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกของแมงมุม[post]
[align=center][/align][/post]
     " ฉันบอกแล้วถ้าจะมีใครผิดและขอโทษ คนคนนั้นควรเป็นฉัน 5555555 "  เสียงหัวเราะกังวานใสของสาวน้อย ดังไปทั่วห้อง

     จอห์นที่อยู่ในสภาพใยแมงมุมพันเต็มตัว ก่อนที่ใยแมงมุมจะ ปิดดวงตาทั้งหมด ภาพที่เห็นเป็นภาพสุดท้ายคือ ใบหน้าของหญิงสาว
     " แทนย่า " ...........
     " เข้ามาได้แล้ว.. เอาตัวเขาลงไปที่ใต้ดิน เพื่อเริ่มขั้นตอนต่อไป " หญิงสาวออกคำสั่ง ให้ชายร่างยักษ์กว่า 2 เมตร เดินเข้ามาแบกจอห์นที่ถูกใยแมงมุมพันทั้งตัวในสภาพเหมือนดักแด้ แล้วเดินออกจากห้องไป ....
.................................
...................
..........
     " ครับ ผมรู้ครับ ว่าเธอไม่อยากเจอจอห์น แต่คราวนี้มันถึงเวลาจำเป็นจริงๆแล้วครับ เรามาถึงทางตันจริงๆ คนที่จะช่วยเขาได้ก็มีแต่เธอเท่านั้น " เจมส์ พยายามโน้มน้าวปลายสายให้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
     " คุณก็รู้นี่เจมส์ ตัวตนของเธอเป็นความลับ แม้แต่พวกระดับสูง เป็นความประสงค์ของเธอเอง ที่ไม่อยากให้ใครบางคนรับรู้การมีอยู่ของเธอ แม้แต่คุณ.. ถ้าคุณ ไม่ได้รับคำสั่งเป็นคู่หูของจอห์น คุณก็ไม่ได้รับรู้การมีอยู่ของเธอหรอก " เสียงชราของชายแก่
     " แต่...เอาเป็นว่าผมจะลองพูดกับเธอให้แล้วกัน แต่ผมไม่รับปากนะ " ชายแก่พูดกับเจมส์
     " ผมรู้ครับ ท่านสาธุคุณ ทราบแล้วครับ ผมจะรอฟังข่าวดีนะครับ " เจมส์วางสายโทรศัพท์ ด้วยสีหน้ามีกังวล....
..........
.....................
.........
          นครรัฐวาติกัน( อังกฤษ: State of the Vatican City; อิตาลี: Stato della Città del Vaticano )
     เป็นนครรัฐที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ซึ่งเป็นนครรัฐที่มีทั้งพื้นที่และประชากรที่น้อยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ศูนย์กลางคือ มหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งออกแบบโดย มีเกลันเจโล

การปกครองเป็นแบบอำนาจเบ็ดเสร็จ อำนาจตกอยู่ที่พระสันตะปาปาเพียงพระองค์เดียว จะหมดวาระก็ต่อเมื่อสิ้นพระชนม์ องค์ปัจจุบันคือ สมเด็จ พระสันตะปาปาฟรานซิส  เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556

         ประวัติศาสตร์
     เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1929 นครรัฐวาติกันและอิตาลีได้ลงนามสนธิสัญญายอมรับสถานะของนครรัฐวาติกันเป็นรัฐเอกราชมีอำนาจอธิปไตยของตนเอง ตั้งแต่ ค.ศ. 1960 นครรัฐวาติกันได้รับการจารึกให้เป็นดินแดนที่จะต้องได้รับการปกป้องรักษาไว้เป็นพิเศษในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งทางอาวุธ ( International Register of Cultural Works under Special Protection in Case of Armed Conflict ) เนื่องจากเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมของโลก มีหอสมุดอันเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ( the Apostolic Library of the Vatican )

ต่อมา ในศตวรรษที่ 15 ได้มีการจัดตั้งหอจดหมายเหตุนครรัฐวาติกัน (Secret Archive of the Vatican) พิพิธภัณฑ์วาติกัน มหาวิหารนักบุญเปโตร และมีสำนักพิมพ์ของตนชื่อ the Vatican Polyglot Press ซึ่งเป็นที่จัดพิมพ์ผลงานภาษาต่างๆ รวมทั้งออกหนังสือพิมพ์รายวัน Observatore Romano ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ ค.ศ. 1861 และตั้งแต่ ค.ศ. 1931

นครรัฐวาติกันได้จัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียง ถ่ายทอดเสียงภาษาต่างๆ ถึง 30 ภาษา ปัจจุบัน นครรัฐวาติกันมีสถานีวิทยุกระจายเสียง 3 สถานี สถานีโทรทัศน์ 1 สถานี
[align=center][/align]
          ตามสนธิสัญญาแห่ง  " ลาเตรัน "
     นครรัฐวาติกัน มีอาณาเขตประกอบด้วยวังวาติกันวังกัสเตลกันดอลโฟ ( Castelgandolfo ) อันเป็นที่ประทับร้อนอยู่นอกชาน กรุงโรมไปทางทิศใต้ มหาวิทยาลัยเกรโกเรียน ( Gregorian University ) และโบสถ์ 13 แห่งในกรุงโรม

เฉพาะวังวาติกันมีเนื้อที่ 150 ไร่ หรือ 2/5 ตารางกิโลเมตรซึ่งรวม มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ พิพิธภัณฑ์วาติกันหอสมุดวาติกัน และที่ประทับขององค์สันตะปาปาด้วยภายในบริเวณ ดังกล่าวยังมีอุทยานวาติกันอันงดงาม มีสถานีวิทยุของวาติกันมีที่ทำการไปรษณีย์วาติกัน สถานีรถไฟวาติกัน ธนาคารวาติกัน และร้านค้าของวาติกัน ซึ่งปลอดภาษีทุกชนิด

แม้นครรัฐวาติกันจะมีการติดต่อทางการทูตกับประเทศต่างๆทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย แต่ในนครรัฐวาติกันหามีที่ตั้งสถาน ทูตไม่เพราะทูตประจำวาติกัน มักจะได้แก่ทูตประจำประเทศหนึ่งในยุโรป

ทูตประจำนครรัฐวาติกัน จึงมีที่พำนักอยู่นอกเขตวาติกัน ทั้งสิ้น ศาสนจักรวาติกัน มีรายได้หลักจากการสนับสนุนทางการเงินของ องค์กรคริสต์ศาสนานิกายโรมันแคธอลิคทั่วโลก เงินรายได้นี้เรียกว่า" Peter s Pence " นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการลงทุนต่างๆ ภายใต้การบริหารของหน่วยงาน The Patrimony of the Holy See ค่าธรรมเนียมการเข้าชม พิพิธภัณฑ์รายได้จากการจำหน่าย หนังสือสิ่งพิมพ์ ดวงตราไปรษณียากร ของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว

คนเชื้อชาติวาติกันไม่มีในโลกมีแต่พลเมือง สัญชาติวาติกันเป็นอย่างมาก นครรัฐวาติกันมีพลเมืองประมาณ 900 คน ประมาณ 200 คนเป็นสตรี และมีคนทำงานในนครวาติกัน 1,300 คน พลเมืองอันประกอบด้วยองค์สันตะปาปา คาร์ดินัลผู้ปกครองนครรัฐวาติกัน เจ้าหน้าที่ประจำวาติกัน และทหารสวิสมีหอกโบราณเป็นอาวุธประดับเกียรติ ซึ่งเป็นองครักษ์ของสันตะปาปาประมาณ 100 คน

ทหารสวิส มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1506 การแต่งกายของทหารสวิส มีเครื่องแบบที่ออกแบบโดย "มีเกลันเจโล" ทุกคนเป็นชาวสวิส และเป็นคาทอลิกที่ดี


     " ท่านสาธุคุณ.. ฉันว่าฉันได้แจ้งความประสงค์ของฉันให้ท่านได้ทราบแล้วนะค่ะ ว่าฉันไม่อยากเจอกับใครทั้งนั้น " หญิงสาว ในเครื่องแต่งกายของแม่ชี นั่งภาวนาอยู่หน้า พระคริสต์
     " ผมรู้ครับ.. และท่านพระสันตะปาปา ก็ย้ำแล้วว่า ให้เราเคารพการตัดสินใจของท่านแม่ชีนะครับ แต่ผู้มาติดต่อเขาบอกว่าให้บอกท่านแม่ชีว่า ดูรันต้องการความช่วยเหลือ " 

     คงเป็นเรื่องแปลกตาสำหรับผู้พบเห็นที่เข้ามายังโบสถ์แห่งนี้เป็นแน่เพราะน้อยครั้งนักที่จะเห็นพระระดับ พระคาร์ดินัล กำลังยืนน้อมนอบต่อแม่ชีธรรมดาที่กำลังคุกเข่าสวดภาวนาอยู่[post]
[align=center][/align][/post]
แต่เมื่อหญิงสาวแม่ชีได้ยิน ชื่อของบุคคลที่ซึ่งคุ้นเคยในอดีต ทำให้แม่ชีลุกขึ้น แล้วรีบเดินตามพระคาร์ดินัลไปในทันที
...................
......
.........
         ปี คศ.1860 กรุงโรม ประเทศอิตาลี
     ในค่ำคืน ที่มืดสนิท มีเพียงแสงไฟจาก คบเพลิงตามท้องถนนที่ทำจากอิฐ  กลุ่ม คน 1 กลุ่ม ที่กำลังวิ่งหนีการตามล่าจากกลุ่มคนอีกกลุ่ม

      " เขาอยู่ทางนี้ เร็วอย่าให้รอดไปได้ " ชายลึกลับ พยายามเรียกพรรคพวกซึ่งกำลังตามล่าชายที่อยู่ในชุดนักบวช 5 คน
      " แฮกแฮก.. แฮก ท่านรีบหนีไปก่อน พวกเราจะอยู่ถ่วงเวลาให้ " 1 ใน 5 คนพูดกับนักบวชที่อยู่ในลำดับสูงกว่า  
     " แต่ถ้าพวกท่านทำยังงั้น พวกท่านจะไม่มีใครรอด " ชายในชุดนักบวชระดับสูงบอกแก่ นักบวชทั้ง4 คนที่อาสาอยู่ถ่วงเวลาให้
     " ถือเป็นเกียรติ์ยศสูงสุดที่พวกเราได้รับใช้พระองค์ ไป รีบไป.. พระองค์พวกมันมากันแล้ว.." ชายหนุ่มรีบนำคนทั้ง 3 ที่เหลือวิ่งเข้าไปขวางทางเหล่าชายฉกรรจ์ที่ถือดาบวิ่งเข้ามา

     ก่อนจะโดนชายฉกรรจ์เหล่านั้นใช้ดาบแทง ตายกันทั้งหมดอย่างง่ายดาย

     " เป็นแค่นักบวช หรือจะมาสู้นักรบอย่างเราได้ " 1 ในชายฉกรรจ์หลุดปากออกมาก่อนที่เพื่อนจะห้ามได้ทัน
     " พวกเจ้าเป็นคนของกษัตริย์วิคเตอร์ที่ 2 " ชายในชุดนักบวช พูดในขณะที่เดินถอยหลัง ด้วยความกลัว
     " ไหนๆ.. ก็จะตายกันหมดแล้ว อยากน้อยรู้ว่าโดนใครสั่งก็ดีเหมือนกัน เวลาไปเจอพระเจ้า เจ้าจะได้ตอบพระองค์ได้ว่าใครเป็นคนสังหารเจ้า เจ้านักบวช ...ใช่แล้วคนที่สั่งให้พวกเรามาสังหารเจ้า คือพระเจ้า วิคเตอร์ เอมานูเอลที่ 2 ส่วนสาเหตุเจ้าก็ต้องโทษตัวเจ้าเองนะ ที่เข้ามายุ่มย่ามกับการเมืองมากไป " ชายฉกรรจ์ย่างสามขุมพร้อมกระชับดาบในมือขึ้นมาเตรียมพร้อม  

    " ตายซะเจ้านักบวช " 1 ในชายฉกรรจ์ตะโกนขึ้นในขณะที่กำลังแทงดาบเข้าหาตัวนักบวชระดับสูงคนนั้น

     แต่อยู่ๆทุกสิ่งทุกอย่างกับเหมือนหยุดนิ่ง ชายหนุ่มที่ถือดาบกำลังจ้วงแทง ค้างอยู่กลางอากาศ เหล่าแมลงที่กำลังตอมแสงไฟ จากตะเกียงบนถนนในกรุงโรม หยุดกระพือปีกอันน้อยนิด เปลวไฟที่ไม่มีการเคลื่อนไหว

      สิ่งเดียวที่ขยับได้คือนักบวช ระดับสูงคนนั้น  

     " โอ้ พระเจ้า ปาฏิหาริย์แห่งพระองค์แน่แท้ " ชายชรารีบคุกเข่าพนมมือประสาน พลางสวดสรรเสริญ พระเจ้า
     " ไม่ใช่พระเจ้าของเจ้าหรอก " หญิงสาวในชุดผ้าคลุม ท่าทางลึกลับเดินออกมาจากในตรอก ก่อนจะเดินไปดึงตัวนักบวชให้ลุกขึ้น ออกจากวิถีของดาบในมือชายฉกรรจ์ 

     และลงมือวาดอักขระ แปลกลงบนพื้น ก่อนจะปรากฏเป็นรูปกายที่เหมือนกับนักบวชระดับสูงอย่างไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งอยู่ในท่วงท่าเดียวกับนักบวชก่อนหน้าที่เวลาจะหยุดนิ่งลง

     " สิ่งนี้คงพอถ่วงเวลาให้เจ้าได้ " หญิงสาวพูดพลางลากมือของนักบวช ที่กำลังสับสนกับภาพที่เห็นตรงหน้า เข้าไปซ่อนอยู่ในเงามืดของตรอก ก่อนจะวาดมือไปในอากาศ ในลักษณะแปลก เกิดเป็นตัวอักขระอยู่บนอากาศที่หญิงสาว ลากผ่าน พลัน บังเกิดแสงสีฟ้าขึ้นก่อนที่มีม่านน้ำเกิดขึ้นพรางตัวทั้ง 2 คนไว้ ก่อนที่เวลาจะกลับมาเดินอีกครั้ง

     ชายหนุ่มแทงดาบลงบนอกของนักบวช และที่บรรดาชายฉกรรจ์ที่เหลือจะพากันจ้วงแทงไปยังร่างนั้นนับไม่ถ้วน
 
     " ไป พวกเราก่อนที่จะมีใครมาเห็น " ชายฉกรรจ์พากันเก็บดาบแล้วถอนตัวออกจากพื้นที่ทิ่งร่างไร้ชีวิตไว้ 5ร่าง ซึ่ง1 ในนั้นคือร่างที่หญิงสาว สร้างขึ้นจากอักขระ พอพวกกลุ่มชายฉกรรจ์พากันไปหมดแล้ว ร่างของนักบวชระดับสูงค่อยๆสลายเป็นผงธุลี

     " เจ้าเป็นใคร แล้วเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น " นักบวชระดับสูงถามหญิงสาว เพราะแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตาของตนเห็น
     " เก็บคำถามของเจ้าไว้ก่อนเถอะ เราต้องไปกันแล้ว " หญิงสาวตอบและเดินนำนักบวชระดับสูงไปอีกทางของตรอก ก่อนที่ร่างของทั้ง2 จะกลืนไปกับความมืดยามราตรี
....
........
...........
     " ไหนพวกเจ้า บอกว่าทำงานสำเร็จแล้วไง " ชายในชุดสง่างาม แสดงถึงความเป็นผู้สูงศักดิ์ สอบถามบรรดาชายในชุดนักรบ 10 คน
     "พะยะค่ะ พวกกระหม่อมทำตามรับสั่งของฝ่าบาทสำเร็จแล้วพะยะค่ะ" 1ในนักรบรีบตอบพร้อมแสดงความเคารพ
     " แต่ทหารที่ไปตรวจพื้นที่ ในตอนเช้า กลับบอกไม่มีศพของมัน " ชายในชุดสง่างามจ้องไปยังบรรดานักรบทั้ง 10
     " อืออ..คือ  แต่พวกกระหม่อม สังหารมันไปแล้วนะ พะยะค่ะ..  แทงกันนับสิบ ไม่มีทางที่ นักบวชนั้นจะรอดไปได้ " ชายในชุดนักรบ พยายามแก้ตัว
     " แต่สายของข้าบอกว่านะตอนนี้มันหลบเข้าไปอยู่ในปาปาเสตท แล้วเจ้าจะแก้ตัวว่ายัง " ชายในชุดสง่างามปรายตามองพวกนักรบอย่างเหยียดๆ
     " ไว้ชีวิตพวกกระหม่อมด้วยเถิด พวกกระหม่อมสังหารมันไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงยังมีชีวิตอยู่ได้ " นักรบทั้ง 10 พากันคุกเข่าร้องขอชีวิต
     " ข้าไม่ต้องการ คนที่กะอีแค่ทำตามคำสั่งง่ายๆยังทำพลาด เอาพวกมันไปฆ่าแล้วเสียบประจาน แล้วตั้งข้อหาสังหารนักบวชซะ " เหล่าทหารพากันมาจับกุมตัวเพื่อไปสังหารตามรับสั่ง  โดยไม่ฟังคำร้องขอชีวิตของบบรดานักรบทั้ง 10 คนนั้น
.............
........
.....
     " ขอบคุณท่านหญิงมากที่ช่วยชีวิตเราไว้ เราคือองค์สันตะปาปา ปิอุสที่ 4 ถ้ามีสิ่งใดที่เราจะตอบแทนเจ้าได้ขอเพียงเอ๋ยปาก เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อคำขอของเจ้า " ชายในชุดนักบวชระดับสูงบอกแก่หญิงสาวที่ช่วยชีวิตไว้เมื่อคืน
     " ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ข้าต้องการอีกแล้ว และถึงจะมี พระเจ้าของท่านอาจจะไม่ฟังคำขอของคนบาปเช่นข้าก็ได้ " หญิงสาวกล่าวพลางมีน้ำตาซึมออกมา
     " เหตุใดท่านจึงกล่าวเช่นนั้น.. ไม่ว่าบาปของท่านจะใหญ่หลวงแค่ไหน ขอแค่เพียงท่านสำนึกในบาปนั้นอย่างแท้จริง พระเจ้าก็ยินดีต้อนรับท่านหญิงเข้าสู่ดินแดนของพระองค์ "  นักบวชตอบ พลางส่งผ้าให้นางซับน้ำตา
     " ท่านจะฟังคำขอทุกอย่างของเราใช่หรือไม่ ท่านนักบวช " หญิงสาวถามไปยังนักบวช
     " ใช่ เราสัญญาไว้แล้ว.. เราจะทำตามสัญญา " นักบวชกล่าว
     " ถึงแม้ข้าจะคือคนที่บรรดานักบวชเช่นพวกท่านเรียกว่าแม่มด ท่านก็ยังฟังคำขอของเราใช่หรือไม่ " หญิงสาว กล่าว
     " ใช่ มันอาจจะเป็นประสงค์ของพระเจ้าก็ได้.. เมื่อเราลั่นวาจาไว้ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครเราก็จักทำตามสัญญา " นักบวชกล่าวอย่างมั่นคง
     " งั้นข้าขอที่สงบไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยว ไม่ให้ใครมารบกวน.. สถานที่ที่ข้า จะไม่ต้องพบเจอผู้ใด " หญิงสาวกล่าวต่อหน้า นักบวชระดับสูงผู้นี้ คือ พระสันตะปาปา ปิอุสที่ 4 ถึงความต้องการของตนเอง[post]
[align=center][/align][/post]
......................
............
........

          ปัจจุบัน กรุงลอนดอน

     " มันนานแค่ไหนกันแล้วนะ ที่เราไม่ได้เจอกัน " หญิงสาววัยรุ่นเดินไปมาในห้องใต้ดิน ซึ่งมีดักแด้ขนาดใหญ่ ห้อยอยู่ใจกลางห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยแมงมุม สีดำหลากหลายสายพันธุ์

     " จอห์น.. ไม่สิ ท่านอัศวินดูรัน ผู้เก่งกาจ.. ผู้ซึ่งทำลายแผนการอันยิ่งใหญ่ของราชินีแม่มดอาราคเน่ หยุดยั้งการคืนชีพของจอมมารในอดีต  555 อัศวินผู้ยิ่งใหญ่ 555 เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรที่ใหญ่ยิ่ง ที่มีเครือข่ายไปทั่วโลก 55555 " หญิงสาวพูดไปหัวเราะไป

     " แต่ใครเล่าจะรู้.. ว่าบุคคลแถวหน้าแห่งแสงสว่างผู้นี้ กำลังจะเป็นผู้หยิบยื่นหายนะมาสู่โลกใบนี้เอง 5555 " หญิงสาวหัวเราะอย่างสะใจ

     " ข้าคิดถึงค่ำคืนอันแสนหวานของเราในวันนั้นมากจริงๆนะ ท่านดูรัน " หญิงสาวยื่นหน้าไปใกล้ดักแด้ ที่อยู่ส่วนบนสุดพลางกระซิบให้ชายที่อยู่ข้างในได้ยิน
  
     ส่วนบรรยากาศภายนอก เต็มไปด้วยเมฆดำทมึนล้อมรอบไปทั่ว โดยศูนย์กลางคือตึก ที่จอห์นถูกใยแมงมุมห่อจนเป็นดักแด้ อยู่ข้างใน

...........................................................

ปล. ขอบคุณ ทุกคำขอบคุณ ที่เป็นกำลังใจให้เขียนนิยายเรื่องนี้
 ขอบคุณทุกคอมเม้นที่ติเพื่อก่อ ทั้้งหมด ขอบคุณคุณแว่น ที่ทำให้นิยายผมน่าอ่านมากขึ้น เป็น 100 เท่า เพราะได้ท่านเรียบเรียง
ปล.2 นิดหนึ่งนะ ใครพอหารูปสาวที่ผมสมมติให้เป็นแทนย่าได้ หาเผื่อผมด้วยนะ ไฟล์เก่าผมเจ๊งไปกะHHD ที่แหลกสลายใต้ล้อรถไปแล้ว มิสามารถหามาเพิ่มได้แล้ว แงแง


. ... jingjang เอนเตอร์เทนเมนท์ ใครจะติดตามตอนเดิม ตามวาล์ปไปได้ เริ่มจากบนลงล่างนะ..

The witch  บทนำ http://xonly69.com/read-xonly-tid-154019-fpage-4.html
The witch ตอนที่ 1 อดีต http://xonly69.com/read-xonly-tid-154061-fpage-3.html
The witch ตอนที่ 1 .1 http://xonly69.com/read-xonly-tid-154095-fpage-3.html
The witch ตอนที่ 1 .2 จบตอนที่ 1 http://xonly69.com/read-xonly-tid-154134-fpage-3.html
The witch ตอนที่ 2 วิญญาณ http://xonly69.com/read-xonly-tid-154371-fpage-2.html
The witch ตอนที่ 3 สงคราม http://xonly69.com/read-xonly-tid-154809.html
The witch ตอนที่ 4 ปัจจุบัน http://xonly69.com/read-xonly-tid-154873.html
The witch ตอนที่ 5 หมวดวิภา http://xonly69.com/read-xonly-tid-154971-fpage-3.html
The witch ตอนที่ 6 อมตะ http://xonly69.com/read-xonly-tid-155111-fpage-2.html
The witch ตอนที่ 7 แผนการร้าย http://xonly69.com/read-xonly-tid-155475.html
The witch ตอนที่ 8 ปาร์ตี้ http://xonly69.com/read-xonly-tid-155912-fpage-3.html
The witch ตอนที่ 9 เหยื่อ....http://xonly69.com/read-xonly-tid-156265-fpage-3.html
The witch ตอนที่ 10 ความฝันhttp://xonly69.com/read-xonly-tid-156568.html





xonly-776

ที่สงสัยคือ มีอาก็ อมตะ ไปกับเขาด้วยหรือนี่ แถมเป็น แม่ชีมด ที่มีอิทธิพลอำนาจ เหนือกว่าพระคาร์ดินาล อีกด้วย สุดยอด คอลเลคชั่นเก่าของเทพอัศวิน มากันแล้ว ทั้งแทนย่าที่มีจิตวิญญาณ ของแม่มดอย่างราชินี อาราคเน่...

เร่งเข้าเถอะ มีอา เดี๋ยวจะไม่ทัน ท่านอัศวิน น้ำออกจะหมดตัวแล้ว รีบหน่อย...

แผนการของพวกแม่มดดำนั้น ลึกล้ำนัก พวกนักบวช มักตาม ดมตูด อยู่หลายก้าวเสมอ เมื่อไร จะตามทันน้อ....

ppherbalife

ไหนว่าเทนย่าตายไปแล้ว มายังไงน้ออ