ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

โชคชะตา กามารมณ์ ตอนที่ 5 ความสงสัย(แก้ไขแล้ว)

เริ่มโดย pekopon66, ธันวาคม 29, 2015, 01:26:25 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

pekopon66




ส่วนขยายเนื้อเรื่อง


    วันนี้ช่วงพูดคุยกับนักเขียนจะอยู่ท้ายเรื่องนะครับ เพราะผมไม่อยากพูดอะไรกลัวเป็นการสปอย จึงขอมาพูดถึงส่วนขยายเนื้อเรื่องก่อน วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของอาเป็ด ชายที่ทุกคนคิดถึง( รึเปล่า? ) หลังจากที่โดนเอกแย่งโอกาสสำคัญในชีวิตไป อาเป็ดจะทำอะไรต่อ ลองมาอ่านกันดูนะครับ ซึ่งผมขอบอกใบ้ว่า ส่วนขยายนี้จะเป็นเหมือน Tie in เล็กๆสู่นิยายเรื่องใหม่ในอนาคตของผมด้วย :)


ย้อนหลัง]


โชคชะตา กามารมณ์ ตอนที่ 1 ความลับ - http://xonly69.com/read-xonly-tid-157502.html

โชคชะตา กามารมณ์ ตอนที่ 2 ความสับสน - http://xonly69.com/read-xonly-tid-157657.html

โชคชะตา กามารมณ์ ตอนที่ 3 ความรัก - http://xonly69.com/read-xonly-tid-157899.html

โชคชะตา กามารมณ์ ตอนที่ 4 ความเชื่อ - http://xonly69.com/read-xonly-tid-158185.html



            เรื่องย่อ


           เรื่องราวเกี่ยวกับ ดรีม สาวนักศึกษาผิวขาว ทรงโต ที่เข้ามาเรียนในตัวเมืองชื่อดังพร้อมกับคนรักของเธอ เอก ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขโดยมอบคำสัญญาให้กับพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายว่า จะไม่ท้องก่อนเรียนจบ ดั่งสวรรค์กลั่นแกล้ง สาวน้อยต้องเผชิญกับโชคชะตาที่เลวร้าย ต่ำทราม และลามก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอจะฝ่าฟันและประคับประคองชีวิตคู่รักของเธอได้อย่างตลอดรอดฝั่งรึไม่ คำสัญญาที่มีให้กับพ่อแม่จะทำตามได้รึเปล่า โปรดติดตามใน โชคชะตา กามารณ์


-----------------------------------------------------------------------------------


               บทที่ 5 - ความสงสัย



   เสียงครวญครางและเสียงเตียงโยกยังคงดังมาอย่างต่อเนื่องจากห้องด้านข้าง เอกที่เอาหูแนบฝนังฟังอยู่เริ่มมีอาการแข็งตัว เขาไม่เคยรู้สึกอย่างงี้มาก่อนเลย หัวใจของเขาเต้นแรงผิดปกติ มีอะไรกับดรีมว่าตื่นเต้นแล้ว ฟังคนอื่นมีอะไรกันยิ่งตื่นเต้นกว่า แล้วถ้าได้เห็นคนมีอะไรกันต่อหน้าจะตื่นเต้นขนาดไหน แค่คิดเอกน้อยก็แข็งตัวเต็มที่แล้ว มันแข็งเสียจนเขาปวดไปหมด

"โอ้ยย โอ้ยยย เสียวววว อื้มมมม"

   เสียงหญิงสาวที่เหมือนจะคุ้นหู แต่เอกก็ไม่มั่นใจนักว่าใช่ไหม ชายหนุ่มเริ่มจินตนาการว่าถ้าเสียงนี้เป็นดรีม แล้วเขาจะทำยังไง อารมณ์หึงหวงบวกความแปลกใหม่พวยพุ่งขึ้นมาในจิตใจของเขา บางครั้งเขาก็อยากเห็นใครบางคนมาขยำหน้าอกอันใหญ่โตและขาวนวลของดรีม และมาทำให้ผิวพรรณที่สดใสเป็นรอยจ้ำสีแดง ยิ่งคิดยิ่งทนไม่ไหว เอกถอดกางเกงตัวเองออกแล้วค่อยๆจับเอกน้อยรูดขึ้นรูดลง

"แรงอีก โอ้ยยย แรงอีกกก"

   เสียงปริศนาเรียกร้องให้คู่ขาทำรุนแรงขึ้น แต่เหมือนมันจะมีอิทธิพลต่อเอกด้วย เอกรัวมือเร็วขึ้น พร้อมจินตนาการถึงดรีมที่โดนใครไม่รู้กระทุ้งกระแทกอย่างรุนแรง เขาไม่เคยมีอารมณ์ที่รุนแรงแบบนี้มาก่อน และตอนนี้ดรีมในจินตนาการของเขาช่างมีสเน่ห์ น่าเย้ายวนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เสียงเตียงเริ่มเร่งจังหวะขึ้น

"โอ้ยยยยย จะเสร็จแล้วว โอ้ยยยยยย ไม่ไหวแล้วววว"

   เธอคนนั้นร้องจนแทบจะขาดใจ เช่นเดียวกับเอก เขาแทบขาดอากาศหายใจแล้ว ความตื่นเต้นและความเสียวซ่านมันพุ่งกระจายออกมาจากอาวุธลับของเขาอย่างต่อเนื่อง มันทะลักออกมาอย่างกับท่อประปาแตก นี้เป็นครั้งแรกเลยที่เอกช่วยตัวเองแล้วเสร็จเร็วขนาดนี้ น้ำรักของเขากระจายไปทั่วพื้น เสียงจากห้องด้านข้างก็เงียบไปเหมือนกัน สงสัยจะเสร็จกิจพร้อมกับเอก สติของชายหนุ่มค่อยๆกลับมา พอตั้งสติได้ เอกใช้กำลังที่เหลืออยู่ใส่กางเกงแล้วเขยิบไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบบนพื้น

   ใช้เวลาสมควรกว่าจะเช็ดเสร็จ เพราะอาการบาดเจ็บตรงข้อเท้าบวกกับเอกกลัวจะเปื้อนน้ำอสุจิตนเอง พอเช็ดเสร็จ เอกก็พาตัวเองขึ้นมานอนบนเตียง เขานึกถึงเรื่องราวในจินตนาการอีกครั้ง มันจะเป็นไปได้ไหมที่เขาจะได้เห็นดรีมมีอะไรกับคนอื่น พอคิดแล้วมันก็รู้สึกหนักอยู่ในอก ความหึงหวงมันมีมากกว่าความเสียวซ่านอยู่แล้ว ในขณะที่เอกคิดวกไปวนมาอยู่นั้น ประตูห้องก็ค่อยๆถูกไข

   เอกยันตัวขึ้นมานั่งหันไปมอง ประตูค่อยๆเปิดออก เอกเผลอจ้องมองประตูอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เจ้าตัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องการเห็นอะไรโผล่ออกมาจากประตูกันแน่ พอประตูเปิดอ้าออกสิ่งที่เขาเห็นจากความมืดก็คือ ดรีม แฟนสาวของเขานั้นเอง เธอยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่มือข้างนึงถือถุงพลาสติกร้านสะดวกซื้อ ชุดนักศึกษาของดรีมดูมีรอยยับแปลกๆและผมของเธอฟูไม่เป็นระเบียบจนเห็นได้ชัดแม้มองในความมืด ถ้าไม่คุ้นเคยกันมานาน เอกคงคิดว่าเป็นผีไปแล้วแน่ๆ

"ยังไม่นอนอีกหรอ" น้ำเสียงที่แหบแห้ง ดังออกมาจากปากของสาวน้อย
"อ....อืม" เอกชักจะกลัวคนที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
"คะ เค้าปวดฉี่หน่ะ" เอกหาข้ออ้างไปเรื่อย
"ให้เค้าพาเข้านะ" สาวดรีมอาสาด้วยน้ำเสียงผิดปกติ

   เอกพยักหน้า สาวดรีมปิดประตูแต่ไม่เปิดไฟ แสงไฟจากด้านนอกพอจะส่องมาให้เห็นภายในห้องบ้าง แต่ไม่ชัดนัก เอกแปลกใจทำไมดรีมถึงไม่เปิดไฟกันนะ สาวน้อยค่อยๆเดินมาอย่างช้าๆ เดินวนปลายเตียงมาหาฝั่งที่เอกนั่งอยู่ เอกมองเธอไม่ละสายตา แปลกมาก คนที่กำลังเดินมาหาเขาไม่เหมือนกับดรีมที่เขารู้จัก ทั้งท่าเดิน ทั้งน้ำเสียง เอกเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวตอนที่มือของดรีมมาสัมผัสที่แขน โชคดีที่มือของเธอยังอุ่นอยู่ อุ่นจนรู้สึกร้อน

   เอกพยายามยืน สาวดรีมมาพยุงแขน เอกได้โอกาสมองสำรวจแฟนสาวระยะประชิด เอกพยายามเพ่ง เขามองเห็นหน้าของดรีม หน้าเธอดูไม่ร่าเริงเหมือนปกติ ความสวยยังอยู่ครบแต่ดูเหนื่อยล้า อาลัยตายอยากและสาวน้อยเหมือนจะหลบตาเขาด้วย เอกได้กลิ่นอะไรบางอย่างออกมาจากศรีษะของสาวดรีม มันเหมือนจะหอมแต่ก็ไม่เชิง ดรีมมาส่งเอกที่หน้าห้องน้ำแล้วหันหลังเดินไป เอกจำใจต้องเปิดประตูและพยุงตัวเองเข้าห้องน้ำด้วยขาข้างเดียว

   ชายหนุ่มปิดประตูแล้วยืนพิงเงี่ยหูฟัง เสียงดังบางอย่างดังกุกกักอยู่ในห้อง เอกอยากจะแง้มประตูดูซะเหลือเกินแต่ดรีมต้องจับได้อย่างแน่นอน เอกตัดสินใจทำเป็นกดชักโครก เอกยืนรอซักพักนึกว่าดรีมจะมาเปิดประตูรับเขา แต่ไม่เลย ทุกอย่างเงียบสนิท เอกต้องเขย่งกระต่ายขาเดียวมาเปิดประตู ภาพแรกที่เห็นคือ สาวดรีมนอนหันหลังให้เขาอยู่บนเตียงในชุดนักศึกษา

"ไม่อาบน้ำก่อนนอนซักหน่อยหรอ" เอกถามด้วยความเป็นห่วงปนสงสัย
"ไม่เป็นไร เค้าง่วงแล้ว"

   เสียงดรีมที่แหบแห้งดังมาและเงียบหายไป เอกค่อยๆพาตัวเองมาถึงเตียง เขาหันไปมองแฟนสาวอีกครั้งแล้วนอนลงโดยเอกนอนหันหลังให้เธอ เอกพยายามข่มตานอน ปัดความสงสัยในหัวทิ้ง แต่ปัดเท่าไหร่มันก็ไม่ไป ตาของเอกยังคงแข็ง เขาไม่รู้สึกง่วงเลยซักนิด แม้จะนับแกะไปแล้วหลายร้อยตัว ความเงียบยิ่งทำให้เขาคิดมาก เขาอยากจะถามดรีมตรงๆแต่ก็ไม่กล้า แถมเขาไม่มั่นใจด้วยว่าถ้าถามไปดรีมจะตอบความจริงรึเปล่า

   เอกนอนเกร็งพยายามให้ตัวเองนิ่งที่สุด ในชีวิตนี้ไม่เคยนอนเกร็งขนาดนี้มาก่อน เวลาผ่านไปซักพักเอกก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง เสียงสะอื้นเบาๆจากด้านหลังของเขา ดรีมเริ่มขยับตัวนอนท่าคุดคู้เอามือกุมท้อง เอกรู้สึกได้ว่ามีการขยับแต่ไม่กล้าหันไปมอง เขารู้สึกลังเลบวกเจ็บปวด อยากจะเข้าไปปลอบแฟน แต่ไม่รู้ว่าจะปลอบเรื่องอะไรยังไง ในใจลึกๆของเอกเองก็ไม่อยากจะรู้คำตอบซะด้วย เขากลัวที่จะเสียใจ

   เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เอกยังคงนอนตาแข็ง ส่วนแฟนสาวของเขาดูท่าจะหลับไปแล้วเพราะได้ยินเสียงกรนเบาๆออกมา เอกจึงค่อยๆนั่งแล้วหันไปมองแฟนสาว ดรีมยังนอนคุดคู้อยู่ท่าเดิม เอกมองไปรอบๆห้อง ก็พบว่าสายตาเริ่มปรับเข้ากับความมืดแล้ว เอกหันไปมองดรีมอีกครั้ง คราวนี้เขาเห็นแฟนสาวชัดขึ้น ดูจากภายนอกไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วอะไรกันนะที่ทำให้ดรีมดูผิดปกติไป

   เอกควานมือไปตรงหัวเตียงเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือของตน แต่มือของเขาเผลอไปโดนกล่องถุงยาง เอกสะดุ้งแล้วหยิบกล่องเจ้ากรรมมาดู มองไปซักพักเอกก็เริ่มรู้สึกประหลาด ถ้าเขาจำไม่ผิด เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาซื้อถุงยางกล่องใหม่มา แล้วใช้กับดรีมไปอันหนึ่ง หลังจากดรีมสารภาพว่าโดนพี่ต้น ผู้จัดการวงดนตรีลวนลาม ดังนั้นมันจะต้องเหลืออีก 2 อันอยู่ในกล่องสิ

   แต่ในมือของเอกตอนนี้เป็นกล่องถุงยางใหม่ ไม่ได้แกะห่อพลาสติกเลยด้วยซ้ำ เอกเริ่มสับสน หรือว่าเขาจำผิดกันนะ ชายหนุ่มนั่งคิดซักพักพร้อมหันไปมองแฟนสาว ภาพจินตนาการในหัวมันพรุบขึ้นมาอีกครั้ง เอกรีบสลัดความคิดไม่ดีทิ้งไป พร้อมคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายจำผิดเอง คราวที่แล้วน่าจะเป็นชิ้นสุดท้ายแล้วอันนี้ดรีมคงซื้อมาให้ใหม่ คิดได้อย่างนั้นเอกจึงนำกล่องถุงยางกลับไปวางที่เดิมแบบเงียบๆ

   ชายหนุ่มกดมือถือจนแสงไฟจากหน้าจอสว่างขึ้นมา เอกค่อยๆเอามือถือไปจ่อที่แขนของดรีม เพื่อดูว่าเธอเป็นอะไรรึเปล่า ดูจนทั่วแล้วก็หาไม่เจอ เอกจึงเลื่อนมือถือลงมาช่วงล่าง โชคดีของเอกที่ดรีมนอนตะแคงข้างแล้วกระโปรงทรง A มันเริกขึ้นจนเห็นแก้มก้นอันนวลขาวนิดๆ แต่เดี๋ยวนะ เอกสะดุ้ง มือของเขาที่ถือโทรศัพท์มือถือสั่นไปหมด ถ้ามองดีๆแล้วนี้ดรีมไม่ได้ใส่กางเกงในนี้

   ดรีมถอดกางเกงในตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือจะเป็นตอนเขาเข้าห้องน้ำ แล้วถ้าดรีมไม่ได้ถอดในห้องนี้ล่ะ ยิ่งคิดเอกยิ่งรู้สึกใจหาย มือของเขาเกร็งโดยไม่รู้ตัว เอกสลัดความคิดอีกครั้ง เขาต้องเชื่อมั่นในตัวแฟนของเขาสิ เหมือนกับที่เธอเชื่อในคำพูดของเขามาโดยตลอด แต่ความร้อนใจยังไม่หายไป เอกจึงฉายมือถือไปรอบๆเตียงเผื่อจะเจอกางเกงในของแฟนสาว แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง

"เตง ทำไรอยู่" เอกสะดุ้งหันหลังไป เป็นสาวดรีมที่ค่อยๆชันตัวขึ้นมา ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูเหนื่อยล้า ลืมตาแทบไม่ขึ้น
"ท...โทษที เค้าเล่นมือถืออยู่หน่ะ นอนไม่ค่อยหลับปวดขา"
"กินยาไหม"
"มะ...ไม่อะ พอไหว"

เอกถึงกับติดอ่างเลยทีเดียว ด้านสาวดรีมก็หงายลงไปนอนต่อ เอกค่อยๆถอนหายใจออกมา เกือบไปแล้ว พอเห็นใบหน้าของแฟนสาว เอกก็ใจอ่อน เขาควรเลิกที่จะสงสัยแฟนได้แล้ว เอกเถิบไปวางมือถือที่เดิมแล้วล้มตัวลงนอน ด้วยความเหนื่อยล้าและเจ็บปวดสะสมมาทั้งวัน เอกก็หลับได้ในที่สุด ชายหนุ่มหลับสนิทไม่ฝันถึงสิ่งใดจนรุ่งเช้า เอกตื่นขึ้นเพราะเสียงโทรศัพท์ดังที่หัวเตียง ขณะนั้นเวลา 8.00 น. หนุ่มเอกหันไปเห็นสาวดรีมยังนอนอยู่จึงรีบรับโทรศัพท์

"เฮ้ย ไอ้เอก วันนี้มึงหยุดเรียนป่าววะ"
"คงไม่หว่ะ วันนี้เห็นว่ามีนัดสอบเก็บคะแนนหนิ กูจะหยุดได้ไง"
"ก็ถ้ามึงไม่ไหว พวกกูจะมาขออาจารย์เลื่อนให้มึงไง"
"โห ใจหว่ะเพื่อน ขอบใจมาก แต่ไม่เป็นไรกูไหว"
"งั้นเดี๋ยวกูไปรับ"
"เออๆ ดีๆ เดี๋ยวกูอาบน้ำแล้วเดี๋ยวลงไปรอข้างล่าง"

   พอวางโทรศัพท์ เอกก็หันไปมองแฟนสาวที่ยังนอนหลับสนิทอยู่ ชายหนุ่มตัดสินใจไม่รบกวนแฟนสาว พยายามพาตัวเองไปอาบน้ำอย่างทุลักทุเล พอเสร็จแล้วเอกก็เดินเขย่งขาเดียวมาปลุกดรีมเพื่อที่จะได้ไปมหาลัยด้วยกัน เอกเขย่าตัวดรีมอยู่สองสามที ในที่สุดสาวน้อยก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา

"เตง อาบน้ำไปมหาลัยด้วยกันไหม"
"เค้าไม่ค่อยสบายอะ วันนี้ว่าจะหยุด เตงไปเถอะ"

   ดรีมพูดออกมาอย่างเบาๆ เอกใช้หลังมือแนบหน้าผากแฟนสาวจึงได้พบว่ามันอุ่นๆ เอกยิ้มแล้วลูบหัวดรีมอย่างเอ็นดู ด้านสาวน้อยยิ้มให้แล้วผล็อยหลับไป เอกโทรศัพท์หาเพื่อนอีกครั้ง โดยคราวนี้ได้วานให้เพื่อนซื้อโจ๊กหน้าปากซอยมาฝากก่อนเข้ามารับด้วย เพื่อที่จะมาให้สาวดรีม ด้านเพื่อนชายก็ตกลง รอไม่นานเพื่อนของเอกก็ขึ้นมาถึงห้อง เอกเขย่งไปเปิดประตูรับ

"โจ๊กที่คุณชายอยากรับประทานมาเสิร์ฟแล้วครับ"
"มึงไม่ต้องมาแซวกูเลย ไอ้เมฆ กูไม่ได้อยากกิน นู้น เมียกูป่วยอยู่" เอกชี้ส่งไปในห้อง

   เมฆ เพื่อนสนิทที่เอกเจอในสนามบอล ทั้งสองพูดคุยและเล่นบอลกันได้เข้าขากัน จนสนิทกันที่สุด เมฆเป็นคนรูปร่างผอม สูงกว่าเอกเล็กน้อย แต่มีกล้ามไขมันน้อย ออกแนวตูน บอดี้แสลม หน้าตาของเขาหล่อแบบหนุ่มใต้ หน้าคมดุ จมูกโต ผิวสีดำแดง เป็นคนใต้โดยกำเนิดจึงมีสำเนียงทองแดงติดมานิดๆ ถึงแม้เมฆกับเอกจะรู้จักกันมาซักพักแล้ว แต่เมฆก็ไม่เคยเจอดรีมเสียที เพราะเวลาเอกไปเล่นบอล ดรีมจะไม่ได้ตามไปดูด้วย และนี้เป็นครั้งแรกที่เมฆได้เจอกับดรีม

   เอกรับถุงโจ๊กแล้วหันหลังเดินกะเผลกไปที่มุมเก็บจานในห้อง จัดแจงเตรียมอาหารเช้าให้แฟนสาว เมฆที่เดินเข้ามาในห้องเหลือบไปเห็นใครบางคนนอนหันข้างอยู่บนเตียง ใบหน้าสาวสวยคนนี้เวลาหลับตาก็ยังดูสวยงาม ชุดนักศึกษาที่ยับยู่ยี่ตอนนั้นยิ่งทำให้รัดจนเห็นขอบบรา ดูด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในมันใหญ่โตแค่ไหน พอเลื่อนสายตาลงมาก็พบกระโปรงทรง A ที่เริกขึ้นสูงจนเกือบเห็นแก้มก้น ต้องบอกเลยว่าสาวคนนี้ถูกสเปคเมฆยิ่งนัก ไม่ติดว่าเป็นแฟนเพื่อนจะกระโจนปล้ำเสียเดี๋ยวนี้เลย เมฆหันไปมองเอกแล้วคิดในใจ

'ร้ายไม่เบาเลยเว้ยเพื่อนกู เมื่อคืนจัดกันคาชุดนักศึกษาเลยหรอวะ'

   แต่พอนึกว่าสาวสวยที่นอนอยู่บนเตียงไม่ใส่กางเกงในอยู่ตอนนี้ เมฆก็นึกพิเรนอะไรได้บางอย่าง ก่อนจะทำเมฆหันไปมองเอกเพื่อความมั่นใจ แล้วเมฆก็ก้มลงมองระหว่างขาของดรีม! อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นก็จะได้เห็นอุโมงค์สวรรค์แล้ว เจ้ากรรมขาทั้งสองข้างของดรีมทับกันปิดสนิทจนมองไม่เห็นอะไร เมฆรีบยืนตรงทันทีเมื่อเอกทำท่ากำลังจะหันกลับมา เมฆยืนเนียนมองนู้นมองนี้ ในขณะที่เอกเดินมาปลุกแฟนสาว ดรีมค่อยๆตื่นขึ้นแล้วเอกก็พยุงแฟนสาวให้ขึ้นมานั่ง จนดรีมสังเกตเห็นใครอีกคนที่อยู่ในห้อง
"พอดีเค้าเดินไม่ไหวอะ เลยฝากมันไปซื้อโจ๊กที่เตงชอบกินมาให้กิน" เอกพูดขัดขึ้นมา
"อ้อ ลืมบอกไป นี่เมฆเพื่อนเค้าที่เคยเล่าให้ฟัง เมฆ นี่ดรีมแฟนกู

   ทั้งสองพยักหน้าและยิ้มทักทายกันอย่างเคอะๆเขินๆ เมฆไม่ใช่สเป็คของดรีมแต่ดรีมสิ พอตื่นขึ้นมายิ่งถูกใจเมฆเข้าไปใหญ่ ไหนจะรอยยิ้มที่ดูอ่อนหวานถึงจะไม่สดใสเท่าไหร่ก็ตาม เนื่องจากสาวดรีมดูป่วยๆ ความสดใสสวยงามจึงไม่พลิบานเต็มที่ แต่แค่นี้ก็โดนใจพี่บ่าวชาวใต้อย่างเมฆไปเต็มๆ จนเมฆมีความคิดอุบาทว์อยากจะแย่งแฟนเพื่อนกันเลยทีเดียว

   หลังจากดรีมกินโจ๊กเสร็จ เธอยังคงรู้สึกไม่มีแรง จึงขอนอนอีกรอบ เอกตกลงและชวนเมฆออกจากห้องเพื่อที่จะได้ไปมหาลัย ด้านเมฆเสียดายนิดๆ แต่เขาตั้งมั่นในใจไว้โดยไม่บอกใครแล้วว่า เขาจะมาห้องเอกบ่อยๆ เพราะแค่เพียงได้มองหน้าดรีม เมฆก็รู้สึกสดชื่นแล้ว หรือนี่จะเป็นรักแรกพบกันนะ เมฆไม่ค่อยเข้าใจ แต่รักแรกพบกับเมียเพื่อนมันก็รู้สึกกระไรอยู่ เมฆจึงทำลืมๆความรู้สึกนั้นไป

   เมฆพาเอกมาสอบได้ในที่สุด ในช่วงสอบเอกทำได้บ้างไม่ได้บ้างตามสไตล์จนหมดเวลา เพื่อนๆชวนกันไปเล่นบอล แต่วันนี้เอกนอกจากขาจะเจ็บแล้ว เขายังคิดถึงคนที่อยู่ที่ห้องด้วย เอกจึงขอตัวกลับก่อน พวกเพื่อนชายทั้งหลายจึงช่วยกันส่งเอกขึ้นแท็กซี่ จนในที่สุดเอกก็กลับมาถึงหอพักของตน ชายหนุ่มใช้เวลาพอสมควรกว่าจะขึ้นบันไดแต่ละขั้นได้ อยู่ดีๆก็มีใครบางคนมาพยุงเขาจากด้านหลัง เป็นหนุ่มหน้าตี๋ ส่วนสูงคาดคะเนด้วยสายตา 180 กว่าๆ กล้ามบึ้กจนเขาอิจฉา

"มาให้ผมช่วยนะครับ เดี๋ยวผมพาไปส่ง" หนุ่มหน้าตี๋ถามด้วยความสงสาร
"คุณนี่หน้าตาคุ้นๆนะ" เอกทำหน้าตาสงสัย
"เราเคยเล่นบอลด้วยกันครั้งนึงไงครับ ผมยังจำได้เลยว่าคุณจี้ดแค่ไหน วิ่งไวซะผมตามไม่ทันเลย"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ว่าแต่คุณชื่อ...." เอกเกรงใจแต่เขาจำชื่อชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ
"หยวนครับ"
"อ่อ ผมเอกนะ ผมอยู่ห้อง 404 นะครับ ผมกลัวจะรบกวนคุณเปล่าๆ"
"ไม่รบกวนหรอกครับ ผมอยู่ห้อง 403"
"อ้าว จริงหรอเนี้ย บังเอิญจริง"
"ใช่ครับ บังเอิญมาก"

   หยวนหันมายิ้ม เอกนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมา เสียงปริศนาที่เกิดขึ้นจากห้องข้างๆคือ หยวนกับผู้หญิงของเขา เองสินะ เอกรู้สึกเขินยังไงชอบกล แต่หยวนไม่ทันสังเกตอะไร ทั้งคู่พากันจนมาถึงชั้น 4 หนุ่มหยวนประคองเอกมาส่งถึงหน้าห้อง แล้วเคาะประตู ทั้งสองยืนรอซักพักประตูห้องก็เปิดออก สาวดรีมที่ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นโผล่หน้ามาก็ต้องตะลึงเมื่อมีใครบางคนยืนอยู่ข้างๆแฟนหนุ่มของเธอ

   เอกมองหน้าแฟนตัวเองอย่างสงสัย ทำไมเธอต้องมองหยวนแบบนั้นด้วย ดรีมเริ่มรู้สึกตัวเธอปั้นหน้ากลับมาเป็นปกติ ส่วนหนุ่มหยวนยังคงยืนยิ้มนิ่งอยู่อย่างนั้น เอกหันไปมองหน้าหยวนแต่ไม่พบพิรุธอะไร เขาจึงหันกลับมามองแฟนตนเองอีกครั้ง ดรีมยิ้มรับ

"ขอบคุณนะคะที่พาเอกมาส่ง"
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง" หยวนยิ้มให้สาวดรีม ด้านดรีมหน้าเกร็งไปหมด เธอไม่กล้ายิ้มให้
"เตงนี้หยวนนะ เขาอยู่ข้างห้องเรานี่เอง" เอกชี้ไปห้องข้างๆ
"อ...อื้มม จริงดิ"
"ครับ มีอะไรก็มาเคาะประตูเรียกได้นะครับ ทั้งเอกและคุณ...." หยวนทำเป็นไม่รู้จักชื่อ
"...ดะ..ดรีมค่ะ" สาวดรีมยิ้มเฝื่อนๆ เธอไม่อยากจะตอบเลย
"ขอบคุณหยวนนะครับ ขอบคุณจริงๆ"

   เอกขอบคุณและพาตัวเองเข้ามาในอ้อมแขนของดรีม ด้านสาวน้อยก็พาแฟนตนเองมานั่งบนเตียงแล้วเดินกลับไปปิดประตู ก่อนปิดเธอจ้องตาหยวนอีกครั้ง แล้วหลบสายตาปิดประตูเข้ามา ดรีมเดินนิ่งๆมานั่งข้างแฟนหนุ่มบนเตียง

"เตงเป็นไงมั่ง" เอกเริ่มถามก่อน
"เค้าไม่เป็นไร น่าจะดีขึ้นแล้วละ เตงต่างหากไปมหาลัยเป็นไงมั่ง สอบได้ไหม"
"ก็เหมือนเดิม"
"ได้สอบ"

ทั้งคู่พูดพร้อมกันแล้วหัวเราะ ดรีมเอนตัวมากอดเอวและพิงไหล่ของเอก ด้านแฟนหนุ่มก็กอดตอบทั้งที่สงสัยว่าทำไมวันนี้ดรีมถึงขี้อ้อนผิดปกติ เอกลูบหัวของดรีมอยู่สองสามครั้งก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ตอนแรกนึกว่าหูฝาด แต่พอผ่านไปซักพักเริ่มชัด เอกจึงรีบปล่อยกอดแล้วเชยคางแฟนสาวของตนขึ้นมาดู ก็พบว่าสาวน้อยมีน้ำตาคลอเบ้า

"เตง เป็นอะไรป่าว" เอกจ้องเข้าไปในตาของดรีม
"เตง เค้ามีอะไรจะบอก เมื่อคืนเค้า...." ดรีมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสะอื้น เอกดึงสาวดรีมมากอดแล้วลูบหัว
"ใจเย็นๆ ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆพูด" ยิ่งเอกพูดดรีมยิ่งตัวสั่น
"เมื่อคืนเค้า....." ดรีมหลบสายตาพยายามกลั้นอารมณ์
"เมื่อคืนเค้าเกือบถูกโจรปล้น" ดรีมก้มหน้าพูด
"ฮะ!! ไหนเล่ามาสิว่ามันเป็นยังไง"

   สาวน้อยเล่าว่า ในขณะที่เธอเดินออกไปหาซื้ออะไรกิน เธอก็ถูกชายแปลกหน้าวิ่งมากระชากกระเป๋า เธอพยายามขัดขืนแต่สู้แรงไม่ได้ เธอจึงล้มลงกับพื้นทำให้สีข้างกระแทกกับพื้นอย่างแรง แต่มือของดรีมยังคงจับกระเป๋าเอาไว้อยู่ ด้านคนร้ายก็พยายามลากถูไถ โชคดีที่มีคนเดินผ่านมา คนร้ายจึงยอมแพ้และวิ่งหนีไป แต่เธอกลัวมากจนไม่กล้าเล่าให้เอกฟังเมื่อคืน พอพูดจบดรีมก็ร้องไห้ต่อ

   เอกรับฟังแล้วก็รู้สึกสงสารแฟนสาว แต่ในใจส่วนลึกของเอกกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างมาสะกิดเบาๆ เขากำลังสงสัยในคำพูดของดรีมอย่างงั้นหรอ เอกรีบข่มความคิดนั้นทิ้งแล้วปลอบใจคนที่ตนรัก

"ไม่เป็นไรนะ อย่าคิดมาก"
"แต่เค้ากลัว กลัวเตงจะไม่รัก"
"ทำไมจะไม่รักหล่ะ"
"จริงหรอ"
"อื้อ ขนาดพี่ต้นลวนลามเตง เค้ายังไม่สนเลย อะไรเค้าก็รับได้ทั้งนั้นละ"
"เตงพูดจริงๆนะ"
"จริงสิ หยุดร้องเร็ว"
"เพื่อเตงเค้ายอมทำทุกอย่างเลยนะ ขออย่างเดียวอย่าเลิกรักเค้าเลยนะ" ดรีมพูดแล้วร้องไห้ออกมา
"พูดอะไรของเตงเนี้ย ไม่เห็นเข้าใจเลย เค้ารู้สิว่าเตงยอมทำทุกอย่างเพื่อเค้า อย่างงั้นไงเค้าถึงได้รักเตง" เอกงงในคำพูดของแฟนสาว แต่ทำเป็นเออออรู้เรื่องไปด้วย
"หยุดร้องเร็ว มาดูทีวีดีกว่ามา จะได้ไม่คิดมาก"

   เอกหันมาหยิบรีโมทกดเปิดโทรทัศน์ เอกเลื่อนช่องไปเรื่อยจนมาสะดุดที่ช่องนึงเป็นข่าว ด้วยความที่ภาพในข่าวเป็นสถานที่ที่คุ้นตาเขามาก ไม่ใช่ที่ไหนข้างซอยสะดวกอยู่ของพวกเขานั่นเอง

"วันนี้นะฮะ ทางตำรวจได้รวบตัวหมอดูลวงโลกแถวเขตรังสิต นายหมอดูคนนี้มีชื่อว่า ช้าง เขาเปิดสำนักบังหน้า และได้ล่อลวงหญิงสาวมาทำมิดีมิร้าย..."

   นักข่าวชื่อดังหน้ากลมนามว่า สรวุฒิ ก็เล่าข่าวต่อไปเรื่อยๆ เอกที่ฟังอยู่หันมามองหน้าแฟนสาวก็ตกตะลึง เพราะตอนนี้สาวดรีมมองไปที่จอทีวีแล้วอ้าปากค้างอย่างไม่รู้ตัว ดรีมนั่งตัวแข็งไปหมด น้ำตาที่ไหลยังหยุดไหลชั่วขณะ เอกเขย่าตัวแล้วเธอยังไม่รู้สึก เอกเขย่าอีกครั้งสาวดรีมสะดุ้งแล้วหันมา

"เตงเป็นไร หน้าซีดเชียว"
"ตะ...เตง มะ..ไม่มีอะไร เค้าแค่ใจคอไม่ดีอะ เพื่อนเค้าก็ไปดูดวงกับอาจารย์ช้างมา เค้ากลัวมันจะเป็นอะไร"
"เฮ้ย จริงดิ ลองโทรศัพท์ไปหามันดูไหม"
"ม...ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามันโดนล่อลวงจริง มันคงเล่าให้เค้าฟังแล้ว"

   ดรีมยิ้มออกมา แต่หน้าตาเธอดูซี้ดผิดปกติ สาวน้อยเห็นเอกจ้องหน้าก็รีบเปลี่ยนเรื่อง เธอรีบลุกขึ้นบอกจะไปหาอะไรมาทานข้างนอกซะหน่อย เอกแสดงความเป็นห่วงจะลงไปซื้อด้วย แต่ดรีมบอกไม่เป็นอะไร เกรงใจ ตอนนี้ยังสว่างอยู่ เอกจำใจตกลง สาวดรีมเดินไปหยิบกระเป๋าตังพร้อมโทรศัพท์มือถือเดินออกจากห้อง เอกมองตามด้วยความเป็นห่วง แต่เขาไม่มีกำลังพอที่จะเดินตามไป ดรีมปิดประตูมา เธอก้มหน้ายืนหน้าประตูแล้วพูดอะไรบางอย่างออกมา

"ขอโทษนะ ขอโทษที่เค้าต้องโกหก" ดรีมเริ่มสะอื้นอีก
"โกหกอะไรหรอ?"

   เสียงดังขึ้นมาจากด้านข้าง ดรีมถึงกับสะดุ้ง เธอหันไปเห็นหยวนโผล่หน้ามายิ้มให้ สาวน้อยถอนหายใจเพราะตอนแรกนึกว่าเป็นเอก ดรีมรีบเช็ดน้ำตาแล้วเดินหนีหนุ่มหยวน จนชายหนุ่มต้องคว้าแขนเอาไว้

"นี่ คุยกันก่อนสิดรีม"
"ขอร้องล่ะหยวน เราเลิกคุยกันเถอะนะ เราไม่อยากรู้สึกผิดไปมากกว่านี้แล้ว"
"รู้สึกผิดอะไรดรีม เรื่องเมื่อคืนหรอ ไม่เห็นจะผิดอะไรตรงไหนเลย"
"พอเลยนะ หยวน เราขอร้อง"
"ไม่ เราชอบดรีมจริงๆนะ" หยวนดึงสาวดรีมเข้ามากอด
"อย่านะ เดี๋ยวเอกมาเห็น"
"ถ้าไม่อยากให้เห็นก็เบาๆสิ" หยวนยิ้มแล้วกอดเอวดรีมแน่นเลย
"พอเถอะหยวน"
"ไม่ เราไม่พอ"

หยวนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ดรีมสลัดมือออกมาจากอ้อมกอดได้ก็ตบเข้าเต็มหน้าของหยวน ด้านชายหนุ่มถึงกับอึ้งเลย เขาค่อยๆคลายมือที่กอดหญิงสาวออก ดรีมทำหน้าบึ้งตึงก่อนเดินจากไป ปล่อยให้หนุ่มหยวนยืนเซ็งอยู่หน้าห้อง ดรีมเดินลงมาชั้นล่าง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น สาวน้อยหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็น อาจารย์ณัฐวุฒิ โทรเข้ามา ดรีมรีบรับ

"ฮัลโหลค่ะ อาจารย์"
"ค่ะ ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ก็เจ็บอยู่นิดหน่อย" สาวดรีมยิ้ม
"จะขอโทษทำไมละคะ หนูไม่ได้ว่าอะไรซักคำ"
"ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องเมื่อคืน ถ้าไม่มีอาจารย์นี่หนูแย่เลย"
"เดี๋ยวหนูเลี้ยงข้าวอาจารย์นะ พูดจริงสิ แล้วเจอกันนะคะ"

   ดรีมยิ้มเบาๆแล้ววางมือถือ เธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็ปวดหัว เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเธอแทบไม่ตั้งตัว มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีปะปนกัน ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อย ดรีมถอนหายใจแล้วเดินออกมา ในเวลาที่เดินเธอมองซ้ายมองขวาระแวงอะไรบางอย่างตลอดเวลา จนถึงร้านอาหารตามสั่งที่อยู่กลางซอย สาวดรีมก็สั่งราดหน้าและยืนรอรับ ในขณะที่รอเธอยังคงระวังตัวแจ เหมือนคนวิตกจริตก็ว่าได้

   ในขณะที่ดรีมยืนอยู่นั้น ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากปากซอย เหมือนเสียงอะไรบางอย่างชนกัน ทุกคนในซอยหันไปมองทางเดียวกัน เช่นเดียวกับสาวดรีม แม่ครัวที่ทำราดหน้าให้สาวดรีม รีบทำอย่างเห็นได้ชัด ดรีมจ่ายเงินและรับราดหน้ามา แม่ครัวทำเสร็จแล้วก็วิ่งทิ้งร้านไป เช่นเดียวกับดรีม เธอก็วิ่งตามไปเช่นกัน เธอรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง

   เหล่าไทยมุงทั้งหลายยืนล้อมอะไรบางอย่างไว้ตรงหน้าปากซอย สาวดรีมวิ่งมาก็เห็นผู้คนเต็มไปหมด เธอพยายามแหวกเหล่าไทยมุง จนในที่สุดเธอก็ทะลุเข้ามาได้ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้เธอตะลึง มีรถยนต์คันหนึ่งดูเหมือนจะพุ่งมาจากถนนฝั่งตรงข้าม ทะลุเกาะกลางถนนมาถึงฝั่งนี้และชนเข้ากับอะไรบางอย่าง สาวน้อยหรี่ตามองอะไรบางอย่างที่อยู่ตรงหน้า มันน่ากลัวเกินจะบรรยาย

   เป็นร่างไร้วิญญาณของใครบางคน นอนบิดเบี้ยวอยู่ริมถนนมีน้ำสีแดงเจิ่งนองอยู่รอบตัว ห่างไปจากร่างของคนผู้นั้นมีมอเตอร์ไซด์คันนึงล้มคว่ำอยู่ เสียงอื้ออึงดังมาเป็นระยะ มีเพียงสาวดรีมเท่านั้นที่ยืนเงียบสนิท ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าแต่เธอก็จำเบอร์วินที่อยู่หลังเสื้อได้ ดรีมเอามือมาปิดปาก น้ำตาเธอไหลออกมาเต็มสองแก้มอย่างไม่รู้ตัว เธอไม่รู้ว่าจะรู้สึกเศร้า เสียใจ หรืออะไรดี ดรีมพูดได้เพียงสั้นๆว่า
"อโหสิกรรมนะ นายสี"

โปรดติดตามตอนต่อไป

araiwaaa


pchavee

ดรีม อาจมีความลับที่ซ่อนอยู่อีก น่าติดตาม

Pong Sak